มายาสีมุก ตอนที่ 20
ชลลดากับภัททิมานั่งข้างเขมทัต ตีหน้าเศร้า มณีที่นั่งอยู่ใกล้รัตนาก็มองอย่างหมั่นไส้มาก
“เรื่องลูกไก่ ตกลงว่าจะเอายังไงคะ”
“ก็ไม่ทำไม ชั้นยังให้อยู่ในบ้านก็บุญโขแล้วย่ะ อยากจะเขี่ยทิ้งเต็มที”
ชลลดาร้องไห้โฮอย่างบีบน้ำตา
“แต่ว่าใครๆ ก็รู้ว่าลูกเราจะแต่งงานกัน ขืนไม่จัดงานซะที ได้โดนนินทาแน่ๆ”
“ตอนนี้ใครจะนินทาอะไรก็เชิญ ชั้นชินแล้ว เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาก็หมดเรื่อง”
ชลลดากับภัททิมาลอบสบตากันอย่างรู้ว่าเล่นกับมณีด้วยยากแล้ว คีรินทร์กับไข่มุกเดินเข้ามาในบ้าน มณีรีบลุกเข้าไปประคองไข่มุกอย่างเอาใจออกหน้าออกตา ชลลดากับภัททิมามองอย่างแค้นใจ
“อุ๊ย ค่อยๆ นั่งนะไข่มุก” มณีหันไปมองชลลดากับภัททิมา “ตัวจริงเสียงจริงมาแล้ว ลูกแร้งลูกกาหลบไป เพราะว่าวันนี้ ชั้นจะจัดปาร์ตี้ต้อนรับไข่มุกในฐานะสะใภ้คนเดียวของบ้านนี้”
มณีประกาศอย่างหักหน้าชลลดากับภัททิมา ไข่มุกหน้าเหวอ หันไปมองคีรินทร์ คีรินทร์ส่ายหัวอย่างไม่รู้เรื่องพอกัน มณีลอยหน้าส่งสายตาเยาะเย้ยสองแม่ลูกที่ตีหน้าเศร้า แต่แววตาเคืองมณีมาก ชลลดากับภัททิมาเดินกระแทกเท้าออกนอกห้อง ชลลดาแกล้งเดินเฉียดไข่มุก บังให้ภัททิมากระซิบข้างหูไข่มุก
“อย่าคิดว่าแกจะมีความสุขไปได้ตลอดนะ”
สองแม่ลูกเดินหน้าเชิด สะบัดออกไป ไข่มุกมองตามทั้งคู่อย่างหนักใจ
เย็นวันนั้นไข่มุกโชว์ตำส้มตำอยู่ในสวน คีรินทร์ช่วยปิ้งไก่บนเตา ไข่มุกออกลีลา มณี ช้อย รัตนาตบมือยิ้มปลื้มอย่างออกหน้าออกตา ชลลดากับภัททิมาได้แต่เบ้ปากอย่างหมั่นไส้ ไข่มุกถือจานส้มตำมาเสิร์ฟมณี
“มาแล้วค่ะ”
“โอ้โห น่าทานจัง”
คีรินทร์ถือจานไก่มาวาง ขยี้หัวรัตนาอย่างเอ็นดู มณีทำท่าปลื้มตักขึ้นมาชิม แอ็คท่าปิดปากอย่างตกใจเวอร์ๆ
“อะหือ แซ่บเว่อร์ หนูนี่ทำอะไรก็อร่อย น่ารัก แม่บ้านแม่เรือน”
คีรินทร์แอบทำหน้าทะเล้นใส่ไข่มุก บุ้ยใบ้ว่ามณีเว่อร์มาก ไข่มุกหัวเราะเบาๆ ภัททิมามองค้อน
“แค่ตำส้มตำเนี่ยนะ แม่บ้านแม่เรือน ชิ”
ชลลดายื่นส้อมไปตักชิม
“จะแค่ไหนกันเชียว แค่ส้มตำ หลับหูหลับตาทำก็กินได้” ชลลดาตักเข้าปาก ทำหน้าอร่อยมาก แต่รู้ตัวก็เก๊กทำวางท่าใส่ “ก็...งั้นๆ อ่ะ พอกินได้กันตาย”
มณีดึงจานมา
“งั้นก็ไม่ต้องกิน ปากไม่ถึงก็ไปตำกินเอง”
ชลลดาถือส้อมค้างอย่างขัดใจ มองมณีกับเขมทัตกินกันแล้วน้ำลายสอ คีรินทร์ป้อนส้มตำไข่มุก ภัททิมารีบสะกิดหลับตาพริ้มอ้าปากรอ ช้อยเอาไก่ย่างยัดเข้าเต็มปาก ภัททิมาจะพูดก็พูดไม่ออก ได้แต่ถลึงตาใส่ คีรินทร์แอบหัวเราะจังหวะนั้นเสียงโทรศัพท์คีรินทร์ดังขึ้น คีรินทร์กดรับ
“ ครับ” สีหน้าคีรินทร์เปลี่ยนเป็นกังวล “อย่างงั้นเหรอครับ ครับ ขอบคุณมาก”
ไข่มุกมองอย่างเป็นห่วง
“มีอะไรเหรอคะ”
“ช่างที่ศูนย์โทรมา บอกว่าสายเบรกรถมีรอยถูกตัด”
คีรินทร์บอกหน้าเครียด ไข่มุกฟังอย่างตกใจ นึกไม่ถึง ขณะนั้นมีรถแล่นผ่านมาช้าๆ กระจกเลื่อนลงเห็นเป็นวัฒนาที่ขับรถมา ใส่แว่นดำ วัฒนาถอดแว่นออก มองเข้าไปในสนามหน้าบ้านคีรินทร์ แววตาเคียดแค้นมาก
เช้าวันรุ่งขึ้น คีรินทร์ขับรถเข้ามาจอดที่โงแรมแล้วเดินลงจากรถ คนร้ายสามคนโผล่มาล้อม คีรินทร์ถอยอย่างระวังตัว
“จะทำอะไร”
คนร้ายส่งสายตากันแล้วเข้ารุมคีรินทร์ คีรินทร์ใช้กระเป๋ากันหมัดที่ต่อยมาแล้วหลบฉากเตะ พยายามต่อสู้กลับ คนร้ายเข้ารุม คีรินทร์พยายามจะต่อสู้บ้าง หลบหลีกบ้างแต่ยังเป็นรอง
วัฒนาที่ยืนหลบมุมอยู่ไกลๆ มองคนร้ายกำลังรุมคีรินทร์อย่างสะใจ คนร้ายต่อยเข้าที่ท้องคีรินทร์ คีรินทร์ทรุด จุกมาก คนร้านเงื้อมือจะฟาดต้นคอให้สลบ เดชกับลูกน้องวิ่งเข้ามาจับแขนคนร้ายบิด เดชเข้าต่อสู้กับคนร้าย คีรินทร์ค่อยๆ พยุงตัวขึ้นมองอย่างงงๆ
“พวกแกเป็นใคร” คนร้ายไม่ตอบ เดชบิดแขนหนักขึ้น “ตอบ”
คนร้ายไม่ตอบแต่ใช้กำลังสู้ต่อ พวกเดชต่อสู้กลับ คนร้ายเสียท่าแล้ววิ่งหนีไป คีรินทร์ยืนมองอย่างตะลึงแล้วมองหน้าเดชงงๆ
“คุณคีรินทร์ เป็นอะไรรึเปล่าครับ”
คีรินทร์ส่ายหน้า แววตาครุ่นคิด วัฒนาที่แอบดูอยู่ ทุบกำแพงด้วยความแค้นอย่างขัดใจ
คีรินทร์มาหาเขมทัตที่ห้องทำงาน เขมทัตบอกอย่างห่วงใย
“พ่อเป็นคนให้เดชไปคุ้มกันเราเอง”
คีรินทร์ยกมือไหว้
“ขอบคุณพ่อมากครับ ถ้าไม่ได้เดชช่วย คงแย่เหมือนกัน ใครส่งพวกมันมา” เขมทัตจ้องคีรินทร์“รินทร์ เราทำธุรกิจ ไม่รู้หรอกว่าจะไปขวางทางคนอื่นเข้าตอนไหน แล้วเรื่องที่รถโดนตัดสายเบรก พอรู้ตัวคนทำรึยัง”
“ยังครับ”
เขมทัตมองสบตาคีรินทร์
“ระวังตัวเองให้มากๆ ศัตรูที่มองไม่เห็น น่ากลัวยิ่งกว่าอะไร ทั้งหมด”
คีรินทร์ฟังแล้วก็ต้องถอนใจอย่างเคร่งเครียด
นุชนารถเดินเลือกซื้อเสื้อผ้าในห้าง กำลังเลือกเสื้อผ้า พอจับเสื้อออกจากราวมองไปตรงหน้าก็เห็นวัฒนายืนมองมา สีหน้าเรียบเฉย นุชนารถตกใจมาก
“คุณ คุณยังไม่ตาย” วัฒนายิ้มร้ายนิดๆ ที่มุมปาก มองนุชนารถแววตาเจ้าเล่ห์ นุชนารถมีสีหน้าระแวงมาก
“กลับมาทำไม จะเอาอะไรอีก”
วัฒนาไม่ตอบแต่สายตาวาวขึ้น นุชนารถมองสบตาอย่างกลัวนิดๆ
นุชนารถยืนกอดอกอยู่มุมหนึ่งของลานจอดรถ แล้วส่ายหน้า
“ชั้นไม่ยุ่งด้วยแล้ว รินทร์มีบุญคุณมาก ชีวิตชั้นดีขึ้นได้ก็เพราะเขา กลับไปซะยังไงชั้นก็ไม่มีวันทำร้ายรินทร์”
“แล้วถ้าไม่ใช่คีรินทร์”
นุชนารถอึ้ง สบตาวัฒนา
“ใคร” วัฒนายิ้มร้าย “คุณจะทำร้ายไข่มุกกับเด็กในท้องเหรอ” วัฒนายิ้มร้าย นุชนารถฟังแล้วร้อนใจแทนคีรินทร์ รีบบอก “ไม่ ชั้นไม่ทำใครทั้งนั้น”
วัฒนายิ้มเยาะ
“ช่วยผมกำจัดไข่มุก คุณก็ได้ไอ้รินไป หรืออยากเป็นเมียน้อยไปตลอดชาติก็ตามใจ เลือกเอาแล้วกัน”
วัฒนาสบตานุชนารถอย่างท้าทาย นุชนารถมองตอบ กำมือแน่นอย่างตัดสินใจไม่ถูก
ที่ห้องสอนโยคะ ไข่มุกนำสอนโยคะแบบง่ายๆ มีลูกค้าสามสี่คน ผู้หญิงคนหนึ่งทำตามแล้วหันมองไข่มุก“น้องคะ ช่วยพี่หน่อย บิดตัวไม่ค่อยไปเลย”
ไข่มุกมองยิ้มอ่อนโยนแล้วเข้ามาช่วยจับที่ตัวกับไหล่ให้ค่อยๆ บิด ผู้หญิงบิดตัวตาม ไข่มุกบิดมาอีกด้าน
“แรกๆ ร่างกายอาจจะยังไม่ยืดหยุ่นเท่าไหร่นะคะ ให้ค่อยๆ บิดช้าๆ ฝึกไปเรื่อยๆ ก็จะบิดได้มากขึ้น” มือของผู้หญิงจับตัวไข่มุก แล้วดึงรั้งไข่มุกอย่างแรงจนไข่มุกนิ่วหน้า “เดี๋ยวค่ะ ปล่อยก่อน ชั้นเจ็บ” ผู้หญิงยังคงรั้งแขนไข่มุกแล้วแกล้งบิดมากขึ้น “ปล่อย”
ผู้จัดการเดินเข้ามาหน้าตาตื่น จับตัวไข่มุก ผู้หญิงรีบหดมือออกอย่างทันที
“มีอะไรกันครับ”
“เปล่า ไม่ได้ทำอะไร”
ผู้หญิงบอก ไข่มุกจับแขนอย่างเจ็บมาก มองผู้หญิงที่นั่งทำเฉยทำท่าโยคะต่อ ผู้จัดการ จับไหล่มุกดันเบาๆ
“คุณไข่มุกออกไปพักผ่อนก่อนแล้วกัน”
ไข่มุกถอนหายใจ พยักหน้าแล้วเดินออกไป
ไข่มุกเดินเช็ดเหงื่อออกมาหน้าฟิตเนส มีผู้หญิงอีกคนวิ่งเข้ามา ไข่มุกเบี่ยงตัวหลบ แต่ผู้หญิงยังวิ่งชนอย่างแรง ไข่มุกเซหงายหลังจะล้ม โชคดีที่คีรินทร์เข้ามารับไว้ทัน ผู้หญิงชะงัก สีหน้าตกใจอย่างสำนึกผิด
“ขอโทษนะคะ ชั้นไม่เห็น พอดีว่ารีบไปเข้าห้องน้ำ”
ไข่มุกตกใจ แต่ตั้งหลักได้ก็ยิ้มให้
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“ระวังหน่อยนะครับ พื้นแถวนี้ลื่นด้วย ค่อยๆ เดินดีกว่า”
“ค่ะ ขอโทษนะคะ ขอโทษจริงๆ”
คีรินทร์ประคองไข่มุกเดินไป
“ไม่เป็นไรแน่นะ”
ไข่มุกพยักหน้ายิ้มๆ ลับหลังไข่มุก ผู้หญิงคนที่สองหันมองเข้าไปในห้องสอนโยคะ สบตากับผู้หญิงคนแรกที่คุยกับผู้จัดการ แล้วยิ้มร้ายออกมาพร้อมกัน
มายาสีมุก ตอนที่ 20 (ต่อ)
มุมหนึ่งที่ลับตาคน วัฒนามองผู้หญิงทั้งสองคนที่ แววตาผิดหวังเล็กๆ สองสาวพูดอย่างขัดใจที่ผิดแผน
“ชั้นอุตส่าห์จับนังนั่นบิด กะจะรัดคอ ผู้จัดการดันมาขวางซะได้”
“เหมือนกัน ชนเข้าเต็มๆ ยังโชคดีมีคนมารับทันอีก”
วัฒนามองนิ่ง
“ไม่เป็นไร ผมมีแผนสอง”
สายตาวัฒนาดูร้ายสีหน้ามีแผนการในใจ
เช้าวันรุ่งขึ้น มณีเดินอยู่ในตลาดสดกับไข่มุกที่ถือถุงส้ม มณีชะโงกดูป้ายราคาแล้วยกมือทาบอกอย่างตกใจ
“อุ๊ย ตรงนู้นถูกกว่าตั้งสองบาท รอนี่แป๊บนะ”
มณีเดินหายไปอีกทาง ไข่มุกยืนอยู่ตรงหน้าถนน มองดูรอบตัวอย่างเหม่อ คนร้ายโผล่ออกมาจากด้านข้าง เข้ามากระชากกระเป๋า
“ว้าย”
ไข่มุกได้สติรั้งเอาไว้ ตั้งท่าจะสู้ คนร้ายเตะเข้ามาเฉี่ยวไข่มุก พลาดไปโดนถุงส้มในมือไข่มุกหล่นลงพื้น ไข่มุกหลบแล้วรู้สึกแปลบที่ท้อง มองท้องสลับกับกระเป๋า ไข่มุกปล่อยมือ
“จะเอาก็เอาไปเลย” คนร้ายยิ้มมองกระเป๋าในมือแล้วเหวี่ยงกระเป๋าลงพื้น ก้าวเข้าหาไข่มุก ไข่มุกมีสีหน้าหวาดกลัว ถอยหนีเรื่อยๆ “จะทำอะไร กระเป๋าอยู่โน่นไง”
คนร้ายไม่ฟัง เดินเข้ามาเกือบถึงตัวไข่มุก มณีเดินกลับมาเห็นคนร้าย กรี๊ดลั่นตลาด
“อ้ายยย ช่วยด้วยๆ มีโจรฉกกระเป๋าตรงนี้จ้า ตำรวจ ช่วยด้วยๆ”
คนร้ายชะงัก มองไข่มุกสลับกับมณี ไข่มุกได้ทีหยิบส้มปาใส่ มณีช่วยหยิบปาอย่างเก้ๆ กัง ดีแต่เสียงดังเข้าใส่
“โอ๊ยๆๆๆ ยัยป้า”
“ป้างั้นเหรอ เอาไปกินอีกลูก นี่แหนะ” มณีเขวี้ยงใส่หัวใส่ตัวคนร้ายไป ตะโกนไป “ช่วยด้วย มาเร้วววว โจรอยู่นี่” คนร้ายหลบส้มที่มณีกับไข่มุกปามา พอเห็นคนทำท่าจะเข้ามาช่วยก็วิ่งหนีหายไป มณีรีบเข้ามาประคองไข่มุก“เป็นไงมั่ง มันได้อะไรไปมั่งมั้ย กระเป๋าล่ะ”
ไข่มุกมองกระเป๋าที่พื้น
“ไม่ใช่ค่ะ มันไม่ได้จะเอาเงิน แต่จะเอาชีวิตหนู”
แววตาไข่มุกดูตื่นตระหนก รู้สึกกลัวมาก มณีมีสีหน้างง
คีรินทร์ยืนต่อหน้าภัททิมากับชลลดา ภัททิมากับชลเงยหน้ามองหน้าเหวอๆ
“ฝีมือคุณสองคนใช่มั้ย”
“จะบ้าเหรอ ไหนล่ะหลักฐาน อย่ามากล่าวหาลอยๆ ชั้นไม่รู้เรื่อง”
ภัททิมายกมือปฎิเสธ
“ใช่ ไม่รู้ไม่เห็นนะคะ”
คีรินทร์จ้องหน้าภัททิมา ภัททิมาส่ายหน้าว่าไม่ใช่ ชลลดาเหลือบมองนุชนารถ
“ฝีมือนังพยาบาลโรคจิตหรือเปล่า คนเคยมีประวัติ”
นุชนารถสวนทันควัน
“อย่ามาใส่ความ ชั้นไม่เกี่ยว” ทุกคนหันมามอง มณีมองนุชนารถอย่างลังเลปนไม่แน่ใจ นุชนารถทำหน้าเศร้าอย่างน่าสงสาร “นุชไม่ได้ทำนะคะ รินทร์ เชื่อนุชนะ”
ชลลดากับภัททิมาหน้าเหวอที่เห็นนุชนารถเปลี่ยนสีหน้าได้ไวมาก คีรินทร์มองนุชนารถครู่หนึ่งแล้วพูดอย่างเชื่อใจ
“ผมเชื่อว่านุชไม่ได้ทำ”
ชลลดาทำอ้าปากจะพูด แต่สบตากับนุชนารถที่แอบส่งสายตาร้ายและโรคจิตมาให้ ก็ปากค้างอย่างพูดไม่ออก
“อ้าว ไหงงั้นล่ะคะรินทร์ แบบนี้ก็หาว่าเป็นฝีมือลูกไก่ดิ”
ไข่มุกเม้มปากแน่นอย่างกังวลใจ
“ถ้าไม่ใช่หล่อนสองคนแล้วจะใคร”
“คุณมณี ช่างเถอะค่ะ ยังไงหนูก็ไม่ได้เป็นอะไร”
มณีหันมาจับแขนไข่มุก
“โถหนู ใจดีเหลือเกิน” มณีตวัดสายตามองชลลดา “แต่กับคนแบบนี้ไม่ต้องใจดีด้วยหรอก นิสัยลูกแร้งลูกกา เลี้ยงไม่เชื่อง”
“อุ๊ย คุณแม่ขา คุณแม่มณีว่าลูกไก่เป็นลูกแร้งอีกแล้ว งั้นคุณแม่ก็ต้องเป็นอีแร้งตัวแม่สิคะ”
ชลลดาปรี๊ดแตก
“ดีแต่ด่าๆๆ คนอย่างชั้น ถ้าทำก็เชิดหน้ารับความจริงย่ะ ไม่ใช่พวกหมาลอบกัด”
ชลลดากับมณีลุกขึ้นประจันหน้ากัน เขมทัตเดินเข้ามากั้นกลาง
“เอาล่ะๆ แยกกัน ทะเลาะอะไรอายเด็กบ้าง อายุไม่ใช่น้อยๆ แล้วนะคุณ”
ชลลดารีบเข้าไปจะออเซาะเขมทัต แต่มณีสกัดขาไว้จนเกือบหน้าทิ่ม ชลลดาตั้งหลักได้ก็ยืนมองมณีอย่างแค้นๆ มณีสะบัดหน้าใส่ ชลลดาก็เชิดไม่แพ้กัน คีรินทร์มองไข่มุกที่ยืนนิ่ง ทำหน้าไม่บอกอารมณ์
“เธอกลับมาอยู่บ้านดีกว่า เกิดอะไรขึ้นมา จะได้มีคนคอยช่วย”
ไข่มุกมองภัททิมา แล้วนิ่งเฉย
“ไม่เป็นไร ชั้นคงไม่ซวยซ้ำสองหรอกมั้งคะ”
“จะดื้อไปถึงไหนฮึ”
“มาอยู่บ้านเถอะ หนูเองก็ท้อง ทำอะไรไม่ค่อยสะดวก เชื่อลุงนะ”
เขมทัตบอก ไข่มุกอึกอัก ลำบากใจ มณีพูดต่อ
“กลับมาที่นี่ใกล้หูใกล้ตา พวกชั่วๆ จะได้ไม่กล้าทำอะไร”
นุชนารถมองไข่มุกอย่างอิจฉาที่ทุกคนให้ความสำคัญ ไข่มุกคิดหนักแต่ยังไม่อยากรับปาก
ไข่มุกเดินเล่นในสวนบ้านคีรินทร์ คีรินทร์ตามมากอดจากด้านหลัง นุชนารถกำลังจะเดินออกมาจากมุมบ้าน เห็นทั้งคู่ก็ชะงักแอบดู
“เรื่องที่มีคนมาทำร้ายชั้น อย่าบอกคุณจินจูนะคะ ไม่อยากให้เขาเป็นห่วง”
คีรินทร์ทำเนียนโอบ หอมผม
“ไหนว่าไม่แคร์แม่ไง”
“ใครว่าแคร์”
คีรินทร์ทำหน้าล้อ
“ถ้าไม่แคร์ ทำไมต้องกลัวเขาเป็นห่วง” ไข่มุกมองค้อน
“ก็ แค่ไม่อยากให้เขาไม่สบายใจ”
คีรินทร์กอดแล้วหอม ทำพูดแหย่
“เฮ้อ คนปากแข็งหน้าตาเป็นอย่างงี้นี่เอง เหมือนกับเรา รักเราแท้ๆ แต่ไม่เคยพูดว่ารักสักคำ ใจร้าย” นุชนารถได้ยินก็มองทั้งคู่อย่างเจ็บปวด ไข่มุกขืนตัวหนีแต่คีรินทร์ยังกอดไว้แน่น “พูดบ้างก็ได้ อ่ะ เบาๆ กระซิบข้างหู” คีรินทร์ทำเอียงหูเข้าใกล้ ไข่มุกมองหมั่นไส้ งับหูคีรินทร์ คีรินทร์ร้องโอดโอย” โอ๊ยๆๆ หูชั้นๆ ฟันคมนักเหรอ อย่างงี้ต้องทำโทษ โทษฐานทำให้สามีเจ็บตัว”
คีรินทร์ปล้ำกอดหอม ไข่มุกดิ้นรนไปมาทุบอกบ้างผลักบ้าง นุชนารถมองอย่างทนไม่ได้แล้วก็เดินออกมา ไข่มุกมองเห็นก็ชะงัก รีบผลักคีรินทร์ออก
“คุณมณีให้มาตาม หนูนาเป็นไข้ค่ะ”
“เดี๋ยวผมรีบไปดู”
คีรินทร์ผละออกจากไข่มุกแล้วเดินไป นุชนารถทำท่าจะเดินตามแต่หันกลับมามองสบตาไข่มุกแววตาอิจฉาและหมั่นไส้มาก ไข่มุกถึงกับอึ้ง
คีรินทร์อุ้มรัตนาที่นอนซมขึ้นบนเตียง มณีกับไข่มุกมองอย่างเป็นห่วง รัตนาอ้อนอย่างไม่สบาย
“พี่มุก หนูนาปวดหัว เจ็บคอด้วย”
“ไม่สบายทีไร ต้องอ้อนอย่างนี้ทุกที ชั้นล่ะปวดหัว”
ไข่มุกเข้าไปจับมือรัตนาอย่างอ่อนโยน
“ ไม่เป็นไรนะคะ ทานยาเดี๋ยวก็หาย”
ไข่มุกพูดไม่ทันจบ นุชนารถก็กระแทกจนเซไป แล้วทำพูดเหมือนหวังดี
“อยู่ไกลๆ ดีกว่า เดี๋ยวหวัดจะติดถึงเด็กในท้อง”
คีรินทร์จับแขนไข่มุกเอาไว้
“จริงด้วย ลูกติดขึ้นมา เรื่องใหญ่นะคุณ ถอยมาๆ ให้นุชจัดการเถอะ เขาเก่ง”
มณีมองรัตนาอย่างเหนื่อยใจ
“ตั้งแต่เกิดก็สามวันดีสี่วันไข้ เป็นโน่นเป็นนี่ตลอด” มณีแตะมือนุชนารถ “นี่ถ้าไม่มีเธอ ชั้นจะทำยังไง ต่อไปก็อย่าคิดมากจนโกรธแค้นอะไรอีกเลยนะ ชั้นรับรองว่าจะดูแลเธอให้อยู่อย่างสบายที่สุด”
นุชนารถสบตาไข่มุกอย่างเป็นต่อ ยิ้มหวาน
“ค่ะ”
“ขอบใจมากนะนุช”
นุชนารถยิ้มอ่อนหวาน
“นุชทำได้ทุกอย่าง เพื่อรินทร์”
คีรินทร์ยิ้มอย่างอดปลื้มไม่ได้ นุชนารถยิ้ม ทำท่ามีความสำคัญมาก ไข่มุกนิ่งอึ้ง รู้สึกว้าเหว่ เหมือนเธอไม่มีความหมาย
มายาสีมุก ตอนที่ 20 (ต่อ)
คีรินทร์กับไข่มุกเดินกำลังจะถึงหน้าห้องนอน คีรินทร์มองไข่มุกที่ดูเงียบไปด้วยแววตากังวลและเป็นห่วง
“เธอเป็นอะไร ดูไม่ค่อยร่าเริงเลย หึงนุชใช่มั้ย” ไข่มุกค้อนให้ คีรินทร์หัวเราะชอบใจที่ไข่มุกหึง “รักชั้นมากล่ะสิ”
“ใครบอก เพียงแต่รู้สึกว่า คุณนุชนารถจะกลับตัวได้เร็วขนาดนี้เชียวเหรอ”
คีรินทร์หัวเราะ เห็นเป็นเรื่องขำ
“โธ่ ขนาดองคุลีมาลยังกลับใจได้เลย นุชคงไม่ถึงขั้นแย่ขนาดนั้นหรอก แต่ชั้นว่า เธอหาเรื่องหึงชั้นมากกว่า ใช่มั้ยล่ะ” ไข่มุกไม่ตอบ มองอย่างงอนๆ คีรินทร์รีบกอดจากด้านหลังเอาคางวางเกยไหล่ง้อเต็มที่ “หึงนะ หึงเยอะๆ ชั้นชอบ แต่จำไว้ว่ายังไงเธอกับลูกก็เป็นที่หนึ่งมาก่อนคนอื่นเสมอนะ”
“บอกว่าไม่ได้หึง”
“อาการฟ้องขนาดนี้ เชื่อตายแหละ”
ไข่มุกมองค้อน คีรินทร์หัวเราะทำท่าจะจุ๊บ ไข่มุกเบี่ยงตัวออก คีรินทร์ยิ้มกริ่มทำท่าจะคว้ามากอดอีก ไข่มุกวิ่งลอดใต้แขนขึ้นบันไดไป
“จะหนีไปไหน ชิ่งกันเหรอ”
คีรินทร์ยิ้มแล้ววิ่งไล่ตามขึ้นไป
คีรินทร์วิ่งไล่ตามจับไข่มุกไว้ทันที่หน้าห้องนอน คีรินทร์กอดไข่มุกแน่น ก้มหน้าลงทำท่าจะจูบ ภัททิมาเดินออกมา กระแอมเสียงดัง ไข่มุกผละออก ภัททิมาเดินเข้ามาหาคีรินทร์แทรกกลางเบียดไข่มุกออกเอาสะโพกกระทุ้งให้เด้งออกไปแล้วเบียดตัวเข้าหาคีรินทร์อย่างออดอ้อน
“รินทร์ขา แล้วทีนี้จะจัดคิวกันยังไง มีตั้งสามคน ไหนจะกิ๊กเก่าคุณอีกถ้าลำเอียง ลูกไก่ไม่ยอมนะ”
ไข่มุกถอนหายใจ
“ชั้นขอตัวไปนอนก่อน เชิญจัดคิวกันตามสบาย”
“คิวเคิวอะไร เดี๋ยว ไข่มุก ลูกไก่ออกไปก่อน”
ภัททิมาทำกอดแขนอ้อน
“ไม่รู้แหละ ลูกไก่เอาสี่วัน ที่เหลือจะให้ใครก็เอาไป คนเป็นเมียต้องรู้จักใจกว้าง ใช่มั้ยคะรินทร์ วันนี้คิวไข่มุกนอนห้องรินทร์ คืนพรุ่งนี้มะรืนนี้ ลูกไก่มานอนนะคะ”
คีรินทร์ทำท่าจะพูด แต่ภัททิมาเขย่งตัวหอมแก้มดังฟอดยิ้มหวานให้ คีรินทร์อึ้งไปอย่างเคลิ้มๆ นิดๆ ไข่มุกมองคีรินทร์แล้วส่ายหัว ปิดประตูใส่หน้าทั้งคู่จนคีรินทร์กับภัททิมาสะดุ้ง
ข่มุกนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง สีหน้างอนไม่หาย คีรินทร์เดินเข้ามาใกล้ กอดจากด้านหลังแล้วหอมแก้มซ้ายขวาอย่างชื่นใจ ไข่มุกทำท่าจะเบี่ยงออกผลักคีรินทร์ คีริทร์ทำเซชนโต๊ะ
“โอ๊ย”
ไข่มุกเผลอหันมามองอย่างเป็นห่วง คีรินทร์รีบกอดเอาไว้แล้วจะจุ๊บ ไข่มุกเอามือสองมือปิดปากตัวเอง คีรินทร์เห็นแล้วก็ขำ
“เล่นงี้เลย” ไข่มุกค้อนให้ คีรินทร์หอมอีก “ดีใจจัง ที่เธอกลับมาอยู่ห้องนี้อีก”
“ไม่ต้องมาพูดเลย”
คีรินทร์ทำตาหวานอ้อนใส่
“จริงๆ นะ ไม่มีเธอ ชั้นเหงามาก”
ไข่มุกยังทำงอนแต่แอบอมยิ้ม
“เหงาอะไร ชั้นไม่อยู่ คงมีคนอื่นมาอยู่เป็นเพื่อนคุณเยอะแยะ”
“ไม่ใช่โรงแรมจิ้งหรีดนะคร้าบ ห้องเนี้ย ให้คนขี้งอนคนเดียว”
“ว่าใครขี้งอน”
“ใครก็ไม่รู้ ทั้งขี้งอน ขี้หึง เป็นคุณแม่แล้ว งอนบ่อยๆ เดี๋ยวลูกออกมาหน้างอนะ” คีรินทร์บอกแล้วหอมไข่มุกอีก “เมื่อกี้พูดแรงไป ขอโทษนะครับคุณแม่” คีรินทร์ทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ อมพะนำยิ้มกริ่ม ไข่มุกฟาดเพี้ยะที่แขน คีรินทร์ยิ่งกอดแน่นขึ้น “นะ ยกโทษให้ชั้นนะ ไข่มุกจ๋า” คีรินทร์พูดอ้อน ไข่มุกชักกลั้นยิ้มไม่อยู่ คีรินทร์มองเห็นในกระจกก็ยิ้มกระหยิ่มใจ “ไปอาบน้ำนอนกันนะ อาบพร้อมกันพ่อแม่ลูก”
“คนบ้า”
ไข่มุกมองอย่างงอน แต่แววตาอ่อนลง คีรินทร์ยิ้มหวานใส่ ไข่มุกเผลอยิ้มตามออกมาอย่างห้ามไม่ไหว คีรินทร์มองไข่มุกสายตาอ่อนโยนแล้วจูบหน้าผากเบาๆ
ชลลดาเดินไปเดินมาในห้องอย่างหงุดหงิดแล้วกระแทกตัวนั่งลงบนเตียง
“ใครกันที่ทำร้ายนังมุก แล้วโยนมาให้เรารับกรรม เฮ้ย ลูกไก่ ดูหน้าแม่หน่อยสิ”
ภัททิมามองงงๆ เอียงคอดู
“ทำไมอะคะคุณแม่ ก็ย่นเท่าเดิม อุ๊ย ตีนกาเพิ่ม”
ชลลดาตวัดค้อนแล้วตีเพี๊ยะ
“หึ อยากรู้ว่าหน้าแม่ร้ายนักเหรอ ถึงคิดว่าเป็นเราทำอยู่ได้ เซ็งจิต เซ็งๆๆ”
“ก็เราทำเค้าไว้เยอะนี่คะ “
“งั้นเราต้องสืบหาให้ได้ ว่าใครมันทำ แม่ไม่ยอมเป็นแพะรับบาปเด็ดขาด”
“แล้วคุณแม่สงสัยใครคะ”
ชลลดานิ่ง สีหน้าครุ่นคิด
ไข่มุก จินจู คธานั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นบ้านคีรินทร์คธากับจินจูเอาหนังสือแม่ลูกและเสื้อผ้าเด็กมาให้
“พ่อกับแม่ไปซื้อมาเตรียมให้หลาน เวลามีอะไรจะได้ไม่ฉุกละหุก หนังสือเล่มนี้ดีนะ หนูเอาไว้อ่านนะลูก”
จินจูยิ้มแล้ววางมือแตะท้องไข่มุก“หลานดิ้นบ้างรึยัง ถ้าขาดเหลืออะไรบอกแม่นะ หนูอยากได้อะไรเพิ่มมั้ย”
ไข่มุกนิ่ง มองของบนโต๊ะสลับกันจินจู ไข่มุกจับมือจินจูบนท้องแล้วมองสบตากัน แววตาห่วงหาอาวรณ์
“หนูไม่อยากได้อะไรทั้งนั้น เงินทอง ของ หรืออะไรก็ไม่เอา” ไข่มุกจับมือแรงขึ้น จินจูโผเข้ากอด ไข่มุกนิ่งยอมให้กอดแต่ไม่กอดตอบ พยายามพูดกลั้นสะอื้น “หนูแค่อยากได้แม่กลับคืนมา”
จินจูน้ำตาร่วง กอดไข่มุกแน่น
“แม่อยู่นี่แล้ว ไข่มุก”
ไข่มุกกำมือแน่นอย่างอยากจะกอดแต่ไม่กล้ากอด จินจูกอดแน่นอย่างแสนรัก ไข่มุกสูดหายใจแล้วดันตัวจินจูออก
“ไม่ใช่ค่ะ คุณคือปาร์คจินจู ไม่ใช่แม่หนู”
“ทำไมพูดอย่างนี้ล่ะลูก”
“ปาร์คจินจูไม่ต้องการลูก แต่หนูต้องการแม่ ถ้าคุณรักชื่อเสียง รักความเป็นดาราดังของคุณ ก็ไม่ต้องสนใจหนู” ไข่มุกมองสบตาจินจูสลับกับคธา พยายามกลั้นสะอื้น พูดนิ่งๆ “ขอให้คุณอยู่กับชื่อเสียงของคุณต่อไปนะคะ คุณปาร์ค”
ไข่มุกลุกขึ้นเดินหนีออกไป จินจูนิ่งอึ้งร้องไห้เงียบๆก่ อนจะเปลี่ยนเป็นสะอื้นแรงขึ้นอย่างเจ็บปวด คธาโอบกอดปลอบใจ จูบหน้าผากปลอบประโลม สีหน้าเป็นกังวล
จินจูกับคธาเดินกันมาที่หน้าบ้าน กำลังจะเปิดรถ จินจูเช็ดน้ำตาเงียบๆ คธาหันกลับมาแตะที่มือให้กำลังใจ จินจูหลับตาน้ำตาไหล
“จินจู”
“ปาร์คจินจูเกิดมาในสลัม ไม่มีอะไรสักอย่าง แต่คิมแทยอนเป็นคนหยิบขึ้นมา ปั้นให้เป็นดาราจนทุกวันนี้ ชั้นยอมรับว่าชั้นรักตัวตนของปาร์คจินจูมาก” จินจูสะอื้นหนัก คธาดึงเข้ามากอดลูบหัวเบาๆ สีหน้าเจ็บปวดแทน “แต่ถ้าชื่อเสียงของชั้น จะทำให้เสียลูกไป คราวนี้...ชั้นจะเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่มีแลกกับลูกของชั้น” คธาอึ้ง
“คุณจะทำอะไร”
จินจูสูดลมหายใจลึก สีหน้าแน่วแน่ ปาดน้ำตาทิ้งแล้วเม้มปากแน่น
ชลลดากับภัททิมาเดินเล่นอยู่ที่สวนหน้าบ้าน ระหว่างนั้นนุชนารถเดินหันซ้ายขวาแล้วรีบเดินอย่างรีบร้อน ภัททิมาเห็นรีบสะกิดชลลดา
“นังโรคจิตมันจะรีบไปไหนไม่รู้ค่ะคุณแม่”
“อยากรู้ ก็ตามไปดูสิ”
ชลลดากับภัททิมาเดินตามด้อมๆ มองๆ อย่างอยากรู้อยากเห็น นุชนารถเดินออกนอกรั้ว มีรถแล่นเข้ามาจอดตรงหน้า สองแม่ลูกมองนุชนารถมองรถจากระยะไกล ชลลดามองอย่างสงสัยว่าจะเป็นใครแต่แล้วชลลดากับภัททิมาถึงกับช็อกตาโต ปากคอสั่นเมื่อเห็นคนที่อยู่ในรถคือวัฒนา
“ผะๆๆ ผี”
ภัททิมาทำท่าจะกรี๊ด ชลลดารีบเอามืออุดปากไว้ มองนุชนารถกับวัฒนาอย่างสนใจ
ชลลดากับภัททิมานั่งคุยกันในห้องนอน ชลลดาสีหน้าคิดหนักว่าจะเอายังไงดี
“วัฒนากลับมาทำไม จะทำอะไรอีก หรือว่าที่นังไข่เน่าโดนทำร้ายเป็นฝีมือมัน”
“เอาไงดีคะคุณแม่ แจ้งตำรวจจับเลยดีมั้ย” ชลลดาตวัดตามอง
“อย่าโง่สิคะลูก แจ้งไปใครจะเชื่อ หลักฐานไม่มีสักอย่าง”
ภัททิมากัดปาก ทำท่าคิด
“งั้นเราบอกรินทร์แทนแล้วกัน”
ชลลดามองอย่างเอือมมาก
“โอ๊ย โง่ซ้ำโง่ซ้อนจริงจิ๊ง ไม่ได้ความฉลาดแม่มาสักนี้ดด”
ภัททิมาเบะปากจะร้อง
“คุณแม่อ้ะ ด่าลูกไก่ทำไม”
“คิดนะคะลูก ใช้สมองน้อยๆ ของหนูคิด ถ้าเราปล่อยให้วัฒนากับนังนุชวางแผนจัดการไข่มุกกับลูก เสร็จแล้วเราก็ตลบหลังแจ้งความจับให้ได้คาหนังคาเขา ทีนี้นังมุกก็ไปเกิดใหม่ นังนุชก็ปิ๋วเข้าคุก คุณรินทร์ก็จะกลายเป็นของหนูคนเดียว เริ่ดมั้ยล่ะแผนแม่”
ภัททิมาอ้าปากค้างอย่างทึ่งมาก ชลลดายิ้มกริ่มเจ้าแผนการอย่างภูมิใจในแผนตัวเองมาก
“คุณแม่สุดยอดเลยค่ะ เรื่องชั่วๆ ฉลาดที่สุด”
ภัททิมาทำท่าปลื้มหัวเราะอย่างชอบใจ ชลลดาสะดุดเหมือนถูกหลอกด่า แต่ก็หัวเราะไปด้วย
มายาสีมุก ตอนที่ 20 (ต่อ)
ห้องแถลงข่าวภายในโรงแรมของคีรินทร์ จินจูกับคธานั่งที่โต๊ะแถลงข่าว มีกล้องของนักข่าวจำนวนมากกำลังถ่ายอยู่
“ที่เรียนเชิญนักข่าวทุกท่านมาวันนี้ ดิชั้นมีสองเรื่องที่จะพูด เรื่องแรก...ตอนนี้ดิชั้นกำลังคบอยู่กับคุณคธา เรามีแผนจะแต่งงานกันในปีนี้” นักข่าวฮือฮาถ่ายรูปคู่กันใหญ่ จินจูมองสบตาคธา คธายิ้มอย่างอ่อนโยนให้กำลังใจ “ส่วนอีกเรื่อง....เราสองคนมีลูกสาวที่อยู่ที่ประเทศไทย ดิชั้นคลอดเขาที่นี่ แต่มีเหตุให้เราเพิ่งได้พบกันเมื่อไม่นานมานี้”
นักข่าวอึ้ง รีบยิงคำถาม
“คุณปาร์คแอบมีลูกตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”
“ทำไมต้องปิดเป็นความลับด้วยคะ แล้วตอนนี้ลูกอยู่ที่ไหน”
“ลูกอายุเท่าไหร่แล้วคะ แล้วทำไมต้องทิ้งไว้ที่ไทยคะ”
จินจูอึ้ง พยายามฝืนยิ้ม
“ดิชั้นมีลูกตั้งแต่ตอนมาร่วมงานกับคุณคธาที่ไทย ตอนนี้ลูกโตแล้วค่ะ และขอปฏิเสธว่าไม่ได้ทิ้งลูก แต่เข้าใจผิดว่าเขาตาย ดิชั้นเลยกลับไปเกาหลี”
“เรื่องนี้ผมเอง...”
“งั้นแสดงว่าเรื่องคลิปตอนฉายหนังก็เป็นเรื่องจริงใช่มั้ยคะ”
“คิดว่าแฟนๆ จะผิดหวังมั้ยคะ ที่คุณหลอกลวงและปิดบังมาตลอด”
จินจูมองสบตาคธา สีหน้ากังวลมาก จินจูจับไมค์จะพูดแต่พูดไม่ออก อึกอักมองหน้านักข่าวที่จ่อไมค์ถาม
แทยอนเดินออกมาจากด้านข้างเวที จินจูมองอย่างงงๆ แทยอนยิ้มให้แล้วหยิบไมค์ขึ้นพูด
“เรื่องนี้ผมเป็นคนทำเอง” นักข่าวทำหน้างง แล้วเบนกล้องไปหาแทยอน แสงแฟลชรัว” ผมเป็นคนสั่งให้ปาร์คจินจูปิดเรื่องคธากับลูก พอเธอคลอดลูกสาวผมเองที่สร้างเรื่องว่าเด็กตาย แล้วสั่งให้เดินทางกลับประเทศเกาหลีทันที”
นักข่าวนิ่งอย่างอึ้งมาก จินจูดึงชายเสื้อแทยอน น้ำตาคลอ สบตาส่ายหน้าห้ามไม่ให้พูดต่อ แทยอนยิ้มอ่อนโยนแล้วพยักหน้าเบาๆ หันหน้าไปมองสู้หน้านักข่าว
“ผมหลอกคุณปาร์คว่าลูกตาย เพื่อปกป้องชื่อเสียงของเธอ ที่กำลังประสบความสำเร็จและสั่งให้คนที่รู้เรื่องราวทั้งหมดเก็บทุกอย่างเป็นความลับ ถ้าจะต้องมีใครที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ คนคนนั้นก็คือผม”
นักข่าวอึ้ง จินจูมองแทยอนแววตารู้สึกผิด แทยอนมองตอบ ยิ้มจางๆ คธาจับมือจินจู จินจูยิ้มนิดๆ อย่างเข้มแข็งแล้วหันไปตอบนักข่าว
“ดิชั้นขอให้ความเป็นปาร์คจินจูรับผิดชอบต่อความรู้สึกของแฟนคลับและทุกๆ คน ปาร์คจินจูขอลาออกจากวงการ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป” จินจูโค้งคำนับ ก้มหัวขอโทษ นักข่าวทุกคนอึ้ง แสงแฟลชถ่ายรัว จินจูเงยหน้าขึ้น “สิ่งสำคัญที่สุดของดิชั้นตอนนี้ ไม่ใช่ชื่อเสียง เงินทอง หรืออะไรทั้งนั้น แต่เป็นลูกสาวคนเดียว ดิชั้นจะยอมทำทุกอย่าง ขอแค่ให้ได้ลูกกลับคืนมา”
จินจูมองกล้องด้วยแววตามั่นคง ยิ้มออกมานิดๆ อย่างสง่างาม นักข่าวถ่ายรูปแฟลชวูบวาบ
อ่านต่อพรุ่งนี้ เวลา 09.30น.
ทุกคนในบ้านคีรินทร์นั่งดูจอทีวีที่ฉายหน้าจินจู มณีกอดรัตนาทำท่าซึ้งมาก เขมทัตดูอย่างสงบ
“โธ่ คุณจินจู ถึงขั้นต้องลาออกจากวงการเลยเหรอ”
ช้อยทำท่าปลาบปลื้มเช็ดน้ำตา ชลลดามองมณีเบะปากอย่างหมั่นไส้ กระซิบกับลูกไก่
“เว่อร์จริงๆ ยัยแก่ไดโนเสาร์หนังยาน”
ไข่มุกนั่งดูเงียบๆ น้ำตาไหลออกมา คีรินทร์เห็นเข้าก็โอบเข้ามากอด นุชนารถเห็นคีรินทร์กอดไข่มุกก็มองด้วยสายตาอิจฉามาก
จินจูเดินออกจากห้องแถลงข่าวพร้อมแทยอนกับคธาประกบข้าง ฝ่าวงล้อมนักข่าว
“คุณปาร์คครับ ลูกสาวเป็นใครครับ”
“ใช่นางเอกหน้าใหม่ที่ร่วมแสดงรึเปล่าคะ”
“คุณไข่มุกใช่มั้ยคะ แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหนคะ”
นักข่าวแย่งถามเสียงเซ็งแซ่ ให้จินจูตอบให้ได้
“ขอตัวให้คุณปาร์คพักผ่อนก่อนครับ”
จินจูเดินไปแล้วชะงัก จินจูมองออกไปไกลๆ เห็นไข่มุกเดินมากับคีรินทร์ ไข่มุกมองจินจูน้ำตาคลอ ยิ้มให้อย่างซาบซึ้ง จินจูยิ้มตอบแล้วหันไปหานักข่าว
“ใช่ค่ะ ไข่มุกเป็นลูกชั้น ลูกสาวคนเดียวของชั้น”
จินจูเดินไปหาไข่มุกแล้วกอดแนบแน่น น้ำตาคลออย่างมีความสุขทั้งคู่ นักข่าวถ่ายรูปกระหน่ำ แสงแฟลชวูบวาบ แทยอน คธา คีรินทร์ มองทั้งคู่อย่างมีความสุข
ภายในห้องพักจินจู ไข่มุกก้มลงกราบจินจูที่อก
“หนูขอโทษที่ทำให้เป็นแบบนี้ แล้วก็ขอบคุณแม่มาก ที่ยอมรับว่าหนูเป็นลูกต่อหน้านักข่าว หนูดีใจมากนะคะ”
จินจูกอดไข่มุก น้ำตาคลอ
“แม่ก็ขอบใจ ที่หนูยอมรับแม่ ยอมเรียกแม่....ว่าแม่”
“สองคนแม่ลูกกอดกันอยู่นั่นแหละ ขอพ่อกอดมั่ง”
คธาเดินเข้าไปกอดทั้งจินจูและไข่มุกเอาไว้ คีรินทร์มองครอบครัวสุขสัต์เงียบๆ ยิ้มคนเดียวอย่างซาบซึ้งแทยอนเปิดประตูเดินเข้ามา จินจูเห็นก็ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน คธาปล่อยทั้งคู่ออกแล้วกลับมานั่งกับคีรินทร์
“ขอบคุณพี่มากนะคะ”
แทยอนมีสีหน้าเศร้านิดๆ
“ชั้นต้องขอโทษเธอต่างหาก ถ้าไม่ใช่เพราะชั้น เธอสองคนแม่ลูกคงได้อยู่ด้วยกันตั้งแต่ยี่สิบปีที่แล้ว” แทยอนพูดเศร้าๆ จินจูกับไข่มุกลุกขึ้นเดินเข้าไปหา แทยอนมองไข่มุกแววตาขอโทษ “ลุงต้องขอโทษหนูด้วย ที่ทำให้ต้องลำบาก”
“แต่หนูต้องขอบคุณ ที่คุณช่วยดูแลแม่มาตลอด”
ไข่มุกไหว้กราบแทยอนที่อก แทยอนอึ้งอย่างคาดไม่ถึง สบตามองจินจู แววตาแทยอนฉายแววดีใจเจือละอายต่อความผิด
เช้าวันรุ่งขึ้นจินจูเดินออกมาหาไข่มุกที่ระเบียงห้องพัก จินจูเดินเข้าไปกอดไข่มุกอย่างมีความสุข
“แม่รอวันนี้มานานมาก ที่จะได้กอดหนูอย่างนี้” ไข่มุกกอดตอบ
“หนูก็เหมือนกันค่ะ หนูอยากให้แม่กอดหนูแน่นๆ อย่างนี้”
จินจูกับไข่มุกกอดกันแล้วยิ้มให้กันอย่างมีความสุข คธาเดินเข้ามามองสองแม่ลูกแววตาอบอุ่น
“แอบมากอดกันสองคนอีกแล้ว มา พ่อกอดมั่ง” ไข่มุกยิ้มแล้วโผเข้ากอดคธา คธากอดรวบทั้งสองคนเอาไว้ยิ้มให้กันหวานชื่น เสียงเคาะประตูดังขึ้น คธามีสีหน้างงๆ “ใครมาแต่เช้า”
คธาเดินไปเปิด จึงเห็นคีรินทร์ยืนอยู่แล้วยกมือไหว้จินจูกับคธา
“อรุณสวัสดิ์ครับ คุณพ่อตา คุณแม่ยาย”
คีรินทร์เดินเข้ามาถึงตัวไข่มุก ทำเป็นเนียนโอบเอว ไข่มุกหยิกมือแล้วทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้คีรินทร์สูดปาก มองไข่มุกยิ้มๆ อย่างขำในความแสบ
“มาทำไมแต่เช้าคะ”
“ก็มารับคุณภรรยาน่ะสิครับ ฝากตัวไว้คืนนึง คิดถึงจะตาย ขออนุญาตพาตัวกลับบ้านนะครับ คุณพ่อ คุณแม่”
จินจูมองคีรินทร์อย่างพิจารณา
“ชั้นยังอยู่กับแม่ไม่หนำใจเลย”
“อย่างงี้ชั้นก็แย่สิ ถูกเมียทิ้ง”
คีรินทร์ทำเสียงอ้อน ไข่มุกถลึงตา ซัดเพี๊ยะที่ไหล่คีรินทร์ คีรินทร์หัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี จินจูมองคีรินทร์ “จะพากลับก็ได้ ชั้นไม่ห้าม แต่เธอสองคนจะเอายังไงต่อ เด็กในท้องโตขึ้นทุกวัน”
“พ่อเห็นด้วย”
ไข่มุกนิ่งไปอย่างไม่ค่อยมั่นใจ คีรินทร์ยิ้มกว้าง
“ไม่มีปัญหาครับ ผมจะแต่งงานกับไข่มุก”
คีรินทร์ยิ้มให้ไข่มุกแล้วโอบเอาไว้ ไข่มุกยิ้มนิดๆ แต่ไม่เต็มที่เพราะยังไม่แน่ใจ จินจูกับคธามองหน้าไข่มุกแล้วสบตากันเองอย่างครุ่นคิด
มณียิ้มหน้าแป้นทำท่าหอมไข่มุกซ้ายขวาอย่างจี๋จ๋าอวดจินจู
“ไม่ต้องห่วงนะคะ ลูกสาวดาราดังทั้งที ดิชั้นจะจัดงานให้อย่างใหญ่โตสมหน้าสมตา เดี๋ยวได้ฤกษ์เมื่อไหร่จะบอกให้รู้นะคะ แหม ไข่มุกเขาน่ารัก ต้องเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดแน่”
ภัททิมาทำท่าจะโวย ชลลดาปิดปากแล้วกระซิบ
“อย่าเพิ่งโวย ฟังต่อก่อน”
“ขอบคุณคุณมณีมากนะครับ ที่เอ็นดูไข่มุก”
นุชนารถมองคีรินทร์อย่างตัดพ้อ คีรินทร์ทำนิ่งแต่ก็กระอักกระอ่วน ไข่มุกแอบมองเงียบๆ มณีทำท่าเขินมีจริตจะก้าน
“ลูกรักใคร เราก็ต้องรักด้วยสิคะ ส่วนสินสอดไม่ต้องห่วงนะคะ เครื่องเพชรเครื่องทองกี่หีบๆ ดิชั้นยกให้แทบทั้งหมด ลูกสะใภ้โรงแรมใหญ่ทั้งที น้อยกว่านี้ได้ไง”
ชลลดาได้ยินจากที่อุดปากภัททิมาอยู่ก็ตาลุกวาว ยืนขึ้นวีนลั่น
“แล้วลูกไก่ล่ะคะ จะเอาไปทิ้งไว้ไหน เคยจะแต่งมาก่อน สมบัติเครื่องเพชรไม่เคยกระเด็นสักชิ้น ชลไม่ยอมนะ”
มณีหันไปหาช้อย
“ช้อย ไปเอาไม้กวาดมาไล่สัมภเวสีแถวนี้หน่อยซิ ตัวอะไรน้า ชอบร้องกรี๊ดๆ ขอส่วนบุญ” ชลลดาทำท่ากรี๊ดลั่น มองมณีตาขวางแล้วมองภัททิมา ภัททิมาทำร้องไห้โฮ จินจูกับคธามองงงๆ มณีชะงัก มองว่าเป็นอะไร “เป็นอะไรยะ ผีเข้าเหรอ”
ชลลดาดึงมีดออกมาถือ ทุกคนตกใจตะลึง นุชนารถกอดรัตนาไว้ คีรินทร์ดันไข่มุกแอบด้านหลัง
“ฮือออ คุณแม่ไม่รักลูกไก่ เราสองคนจะตายให้ดูวันนี้เลย”
“เอาเลยย่ะ ขู่สองรอบแล้ว ชั้นไม่เชื่อหรอก” ภัททิมากับชลลดามองสบตากัน จับมีดจ่อที่แขนทำท่าจะกรีด มณีมองแล้วกรี๊ดลั่น
“เอาจริงเหรอ อย่านะ”
จบตอนที่ 20
อ่านต่อตอนที่ 21 เวลา 17.00น.