ตำรวจจับกุมแก๊งแอลจีเรีย ก่อเหตุฉกกระเป๋านักท่องเที่ยวชาวไทยในสนามบินสุวรรณภูมิ อาศัยช่วงเทศการสงกรานต์ที่ผู้คนพลุกพล่าน ได้ของกลางเพียบ ทั้งไอแพด โทรศัพท์มือถือ และบัตรเครดิต
วันนี้ (13 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.ต.ต.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว (ผบก.ทท.) พ.ต.อ.บุญรอด อังกาบ ผกก.6 บก.ทท. แถลงข่าวจับกุมแก๊งชาวต่างชาติฉกกระเป๋าสตางค์นักท่องเที่ยว ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้ผู้ต้องหาสัญชาติแอลจีเรีย จำนวน 4 ราย คือ นายลาสเบอร์ ฟาริด อายุ 41 ปี, นายเซฟฟาร์ ฟายซอลอายุ 49 ปี, นายบราได อับเดลคริม อายุ 29 ปี, นายเบนโซตรา อับเดลกาเดอร์ อายุ 55 ปี พร้อมของกลางประกอบด้วยกระเป๋าสตางค์ยี่ห้อคลิปลิงก์ 1 ใบ, เงินสด 7,000 บาท, บัตรเครดิตธนาคารต่างๆ 17 ใบ ,ไอแพด 2 เครื่อง, ซัมซุงแกแล็คซี่โน้ต 1 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ3 เครื่อง, กล้องถ่ายรูป 2 ตัว และกระเป๋าพร้อมเอกสารจำนวนหนึ่ง
พล.ต.ต.รอย อิงคไพโรจน์ ผบก.ทท.กล่าวว่า สืบทราบว่าจะมีคนร้ายแฝงตัวเข้ามาลักทรัพย์ผู้โดยสารในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งมีผู้โดยสารเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ประกอบกับได้รับแจ้งว่ามีนักท่องเที่ยวถูกขโมยทรัพย์สินสูญหายหลายราย จนกระทั่งวันที่ 12 เม.ย. 2556 เวลา 22.00 น.ซึ่งเป็นช่วงที่มีผู้โดยสารหนาแน่นมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจพบคนร้ายซึ่งมีลักษณะรูปพรรณตรงตามภาพวงจรปิด ที่บันทึกได้ขณะก่อเหตุลักทรัพย์นักท่องเที่ยวครั้งก่อน เดินปะปนอยู่กับผู้โดยสาร บริเวณด้านหน้าเคาน์เตอร์เช็กอินโลว์เอ็ม ห้องโถงผู้โดยสารขาออก เมื่อสบโอกาสคนร้ายได้เดินเข้าไปทางด้านหลังของ น.ส.พิมพ์ชนก วงศธรจรัสไชย ที่กำลังยืนรอส่งญาติเดินทางไปต่างประเทศแล้วก่อเหตุฉกกระเป๋าเอาทรัพย์สิน
พล.ต.ต.รอยกล่าวต่อว่า สำหรับพฤติการณ์นั้น นายลาสเบอร์ ฟาริด จะลงมือล้วงกระเป๋าผู้เสียหาย แล้วส่งต่อให้นายเซฟฟาร์ ฟายซอล ซึ่งยืนอยู่ติดกัน โดยมีนายบราได อับเดลคริม เป็นคนดูต้นทางและส่งสัญญาณ และในเวลาใกล้เคียงกัน คนร้ายทั้งสามยังได้ก่อเหตุล้วงกระเป๋า น.ส.ธนวรรณ ฉิ่งเล็ก ซึ่งยืนอยู่บริเวณใกล้เคียงกันอีกคน เสร็จแล้วคนร้ายทั้งสามก็ได้เดินออกไปที่ชานชาลาด้านนอก หยิบเอาเงินออกจากกระเป๋าสตางค์ที่ขโมยมาได้ใส่กระเป๋ากางเกงและทิ้งกระเป๋าสตางค์ไป จากนั้นก็เดินกลับเข้ามาในอาคารเพื่อจะก่อเหตุอีกครั้งอย่างย่ามใจ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเฝ้าดูอยู่แล้วก็ได้แสดงตัวเข้าจับกุม จากนั้นนำตัวผู้ต่องหาไปตรวจค้นห้องพักพบนายเบนโซตรา อับเดลกาเดอร์ เพื่อนร่วมแก๊งอีกรายอยู่ในห้องพัก และพบว่ามีลักษณะรูปพรรณตรงกับคนร้ายที่เคยก่อเหตุ ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้ นอกจากนี้ยังพบของกลางที่ได้จากการกระทำผิดอีกหลายรายการ จึงได้พาตัวมาสอบสวนขยายผลและนำตัวไปให้แพทย์ตรวจหาสารเสพติดพบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดำเนินคดีข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ผู้อื่นในท่าอากาศยานในเวลากลางคืน และเสพยาเสพติดให้โทษโดยผิดกฎหมาย