มายาสีมุก ตอนที่ 14
จินจูนั่งดูหมายกำหนดการอยู่ที่ล็อบบี้ ซอนซาเดินเข้ามาหยุดยืน จินจูนึกว่าเป็นไข่มุกเลยพูดไม่มองหน้า
“อ่านหมายกำหนดการหรือยัง ต้องเตรียมตอบคำถามนักข่าวด้วยนะ”
“ใช่ อาจจะเป็นคำถามใหม่ที่เธอไม่เคยได้ยินมาตลอดชีวิตก็ได้”
จินจูเงยหน้าขึ้นชะงักเมื่อเห็นเป็นซอนซา
“หมายความว่าไง”
ซอนซายิ้มไม่ตอบ นั่งลงข้างจินจูพูดไม่มองหน้า
“เธอมีผู้ชายไทยคนนั้นแล้ว จะรั้งแทยอนไว้ทำไม”
“ไม่เคยรั้ง ระหว่างชั้นกับพี่แทยอน เราเหมือนเป็นพี่น้องกัน”
ซอนซาหันมองหน้าจินจูอย่างหาคำตอบ
“โกหก ถ้าเธอไม่ให้ท่า หรือให้ความหวัง แทยอนจะรอมาตั้งยี่สิบกว่าปีได้ไง อย่าลืม ความลับไม่มีในโลก ทำอะไรไว้ อย่าคิดว่าคนอื่นไม่รู้”
จินจูหลบสายตา
“พูดอะไร ไม่เข้าใจ”
ซอนซาลุกขึ้นแล้วพูดเสียงเข้ม
“ปาร์คจินจู เธอรอดูวันฉายรอบปฐมทัศน์แล้วกัน ชั้นจะทำให้เธอกับไข่มุกดังในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน รับรองว่าเป็นเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่แน่”
ซอนซาเดินไป จินจูมองอย่างสงสัยกังวลใจ
คีรินทร์เดินมากับภัททิมาที่อี๋อ๋อมาก หยุดยืนหน้าห้องจัดงานหรู พอเห็นห้องภัททิมาก็ตาโต
“ดาร์ลิ่ง ห้องนี่เลยหรอคะ ว้าว เฟอร์เฟ็กม๊ากคะ”
คีรินทร์ทำหน้าเซ็ง
“พ่อให้ใช้ห้องนี้ ผมขอตัวก่อน รีบไปทำงาน”
พอคีรินทร์หันหลังก็เจอไข่มุกเดินผ่านมา คีรินทร์จ้องมองอย่างคิดถึงแล้วเดินไปหา ภัททิมารีบเดินมาเกาะแขนรั้งไว้
“รินทร์จะไปไหน ไม่ต้องเลยนะ”
ไข่มุกหันมามอง ภัททิมายิ้มหยันใส่ ขยับนิ้วโชว์แหวนทำเหมือนไม่ตั้งใจ ที่แท้เยาะเย้ยเต็มที่ ไข่มุกจะเดินไป
“เดี๋ยว ชั้นไปดูหนังรอบปฐมทัศน์ไม่ได้”
“ที่ไปไม่ได้ เพราะวันนั้นตรงกับวันหมั้นของเราสองคน”
คีรินทร์ทำเป็นไม่ได้ยิน
“แต่จะหาโอกาสไปดูหนังของเธอนะ”
“ขอบคุณคะ ขอแสดงความยินดีล่วงหน้ากับคุณทั้งสองคนด้วย”
คีรินทร์มองไข่มุกที่น้ำตาคลอ สบตากันนิ่ง ภัททิมามองคีรินทร์ที่มองไข่มุก ทำไอกระแอมอย่างรู้ทัน รีบแทรกตรงกลาง หันบอกไข่มุก
“น้อยๆ หน่อย หูตาแบบนี้อย่ามาใช้กับคุณรินทร์ของชั้น”
ภัททิมาแยกทั้งคู่ ดึงคีรินทร์ให้เดินไป ไข่มุกก็เดินไปอีกทาง
ภัททิมาเกาะแขนคีรินทร์ที่รำคาญอย่างบอกไม่ถูก พูดเอาใจสารพัด
“รินทร์ขา เดี๋ยวไปหาของอร่อยทานกันนะ”
“ไม่หิว”
“งั้นไปช่วยเลือกชุดหมั้นลูกไก่นะ”
“เธอใส่เอง จะให้ชั้นเลือกทำไม” คีรินทร์หยุดเดินเฉยๆ ภัททิมามองงง “อยากไปไหนก็ไปเถอะ”
คีรินทร์เดินแยกไปอย่างเร็วๆ ภัททิมาตาม
“เดี๋ยวสิ รินทร์ไปไหน ลูกไก่ไปด้วย”
คีรินทร์หันกลับมา หน้าเหี้ยม ยกนิ้วห้ามบอกเสียงเข้ม
“อย่าตามมานะ” ภัททิมาหน้าเสีย
“หล่อโหดอีกแล้ว หนอย จะไปหานังไข่มุกใช่มั้ยล่ะ”
ภัททิมามองอย่างแค้นใจ คีรินทร์เดินไปเร็วๆ ภัททิมาอยากตามแต่ไม่กล้า
ไข่มุกเดินมายืนรอลิฟต์ คีรินทร์เดินมา ไข่มุกหันไปมองเป็นเชิงถาม คีรินทร์สบตาไข่มุกนิ่งแล้วดึงมากอดอย่างรักใคร่มาก ทั้งสองกอดกันนิ่งอย่างแสนจะเศร้าใจ
ภัททิมาเดินไปมาอย่างกระฟัดกระเฟียดในห้องน่ะงเล่นบ้านคีรินทร์ ขณะที่ชลลดานั่งนิ่งคิดแผนการณ์อยู่ในใจ
“รินทร์ไม่เคยแคร์หนูเลย ใจยังจุ๊กจิ๊กกับมันตลอดเวลา”
“ถ้ายิ่งรู้ว่ามีลูกกับมัน มีหวังรักรีเทิร์นแน่ เธอก็จะกลายเป็นเมียหัวเน่า นอนกอดเข่าเช็ดน้ำตา”
ภัททิมากรี๊ดลั่น
“อ๊าย มันท้องเหรอคะคุณแม่ขา”
ชลลดารีบเอามือปิดปาก ถลึงตาใส่
“แหกปากไปทำไม กลัวคนอื่นจะไม่รู้เหรอไง ไปโรงพยาบาลหาหมอสูติ ถ้าไม่ท้องจะไปทำไมเล่า”
“ถ้างั้นเราตายแน่ ยิ่งต่อไปเขารู้ว่าที่แท้หนูท้องข้าวสุก มีหวังโดนชู้ดออกจากบ้านนี้แน่นอน”
“ไม่มีทาง ทุกอย่างในบ้านนี้ สมบัติทุกชิ้นต้องเป็นของเรา แค่นังมุกจัดการไม่ยากร้อก ท้องอ่อนๆ แท้งง่ายจะตาย”
ภัททิมาฟังตาโต ไม่รู้ว่าแม่จะทำยังไง
ไข่มุกเดินเล่นอยู่ในสวนของโรงแรม มือลูบที่ท้องตัวเองแล้วยิ้ม ไข่มุกก้มดมดอกไม้อย่างสุขใจ อีกด้านชลลดาโผล่หน้าจากต้นไม้แอบมองยิ้มหยัน โยนเปลือกแตงโมไปแต่ไปไม่ถึงทางเดิน ยื่นเท้ามาเขี่ยให้ไกลไปอีกนิด แล้วรีบหลบ ไข่มุกเด็ดดอกไม้ ติดมือเดินมามัวแต่ชื่นชมความงาม
ชลลดาลุ้นเต็มที่ ไข่มุกเดินมาจะเหยียบเปลือกแตงโม แต่กัสจังโผล่ ยิ้มแป้นมาเตะเปลือกแตงโมกระเด็น
ลอยมาทางชลลดา ชลลดาหน้าเสีย ทำหลบ เปลือกแตงโมหล่น เฉียดหัวไปนิดเดียว
ชลลดาซุบซิบกับเด็กอ้วน ทำหยิบตังค์ให้ แล้วชี้ไปทางไข่มุกที่เดินมาแต่ไกล แล้วรีบหาที่หลบ แอบมองอย่างลุ้น เด็กอ้วนพยักหน้าอย่างขึงขัง ทำตีลูกบอลเล่น แกล้งวิ่งไปชนไข่มุกเซไปถึงขอบสระจะตกน้ำ จินจูโผล่มาอย่างไว คว้าตัวไว้ได้ทัน แล้วพาเดินออกไป ชลลดาทำมืออย่างชวดอีกแล้ว เดินออกมาจากที่หลบ หันกลับมาเจอเด็กอีกคน วิ่งมาชนจนตกน้ำเอง ไข่มุกได้ยินเสียงตกน้ำดังตูมจากด้านหลัง แต่ไม่สนใจ เดินไปกับจินจู
แล้วก็ถึงวันหมั้นของคีรินทร์กับภัททิมา คีรินทร์นั่งที่พื้นกับภัททิมา ตรงหน้าเขมทัต มณีและชลลดา คีรินทร์สวมแหวนให้ภัททิมา ภัททิมาก็สวมแหวนให้คีรินทร์ ช่างภาพถ่ายรูปแสงวูบวาบ ภัททิมาทำไหว้คีรินทร์อย่างนอบน้อม ฝากตัว แต่คีรินทร์มองตอบด้วยแววตาว่างเปล่าแกมขมขื่น ภัททิมายิ้มหวานซึ้ง ทำแก้มป่องรี่ตาให้คีรินทร์จุ๊บ
“จุ๊บคู่หมั้นหน่อยซิคะที่รัก” คีรินทร์มองแล้วทำนิ่งหน้าเซ็งๆ“ไม่จุ๊บใช่มั้ย งั้นลูกไก่จุ๊บเอง”
ภัททิมารวบคอคีรินทร์มาหอมแก้มฟอดใหญ่ แนบหน้าให้นักข่าวถ่ายรูป คีรินทร์ยื้อตัวออก ชลลดาปรบมือดีใจสุดๆ กีกี้ น้องแพรว แองจี้ ที่ยืนห่างออกมาทำหน้าหมั่นไส้อย่างมาก
“ดูซิ มาทีหลัง เอารินทร์ไปกินเฉยเลย”
“อิมพอสสิเบิ้ล เป็นไปไม่ได้ รินทร์จะแต่งกับยัยติงต๊องนี่ได้ไง”
กีกี้มองอย่างเจ็บใจ
“เชอะ หมั้นได้ก็ถอนได้ ไม่ว่าหน้าไหนก็เอารินทร์ไปไม่ได้ เป้าหมายต่อไปของพวกเราคือแม่นี่”
น้องแพรว กีกี้พูดพร้อมกัน
“ยัยลูกไก่”
ภัททิมาจามเสียงดัง
“ฮัดเชย”
ภัททิมาขยี้จมูกทำฟุดฟิด มองซ้ายขวาทำหน้าเหมือนถูกใครนินทา
ชลลดาเอาแต่มองกองสินสอดตาโตด้วยความโลภ หันไปเจอมณีมองตาเขม็งมาอย่างรู้ทันก็ทำลอยหน้าใส่ ทำเสแสร้งหันไปยิ้มหวานให้นักข่าวถ่ายภาพ
อ่านต่อพรุ่งนี้ เวลา 09.30น.
อีกด้านหนึ่ง ระลีมูซีนคันงามแล่นมาจอดหน้าโรงภาพยนตร์ จอดเทียบพรมแดงที่ปูยาวเป็นแนวเข้าไปด้านใน แฟนๆ กรี๊ดกร๊าดลั่น ไข่มุกและจินจูแต่งหน้าทำผมอย่างสวยงามมาก ทั้งสองสวมชุดราตรีสวยงาม ก้าวลงมาจากรถ จินจูโบกมือให้แฟนๆ และนักข่าว ไข่มุกมองไปรอบตัวอย่างตื่นเต้น เคอะเขิน เดินผิดๆ ถูกๆ ทำท่าจะสะดุดพรม จินจูอมยิ้มนิดๆ อย่างขำแกมเอ็นดู แล้วพาไข่มุกเดินเข้าไปด้านใน
นักข่าวยื่นไมค์สัมภาษณ์แทยอน จบแล้วหันไมค์ไปทางจินจู
“คุณปาร์คจินจูรู้สึกยังไงบ้างคะ ที่ได้แสดงกับนางเอกคนใหม่ของไทย”
“คุณไข่มุกเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมมากค่ะ ดิชั้นยินดีมากที่ได้ร่วมงานด้วย”
นักข่าวหันไปหาไข่มุก
“แล้วคุณไข่มุกรู้สึกยังไงคะ ที่ได้แสดงกับซุปตาร์ในดวงใจ”
“คุณปาร์คเป็นมืออาชีพมากค่ะ ดิชั้นดีใจมาก”
ซอนซาพูดแทรกทันที
“ทั้งผลักทั้งดัน อวยกันไปอวยกันมา สมกับเป็นแม่ลูกคู่ขวัญจริงๆ”
จินจูชะงัก มองซอนซาอย่างสงสัยแล้วเหลือบมองคธาที่ยืนหน้าเสีย ไข่มุกอึ้งและงงมาก นักข่าวตะลึงเบนไมค์ไปทางซอนซา แย่งกันถามเสียงเซ็งแซ่
“อะไรนะคะคุณซอนซา แม่ลูกเหรอคะ”
“อธิบายอีกนิดได้มั้ยครับ เรื่องเป็นยังไง แล้วพ่อคือใครครับ”
แทยอนเบียดเข้ามา
“คุณโฮเขาหมายถึง คุณปาร์ครักและเอ็นดูคุณไข่มุกเหมือนลูกสาว”
ซอนซายิ้มแบบเจ็บใจ คว้าไมค์นักข่าวมาพูดต่อหน้ากล้องเอง
“ไข่มุกคือลูกสาวของปาร์คจินจู ที่มาแอบคลอด แล้วทิ้งไว้ที่เมืองไทยเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว”
“ซอนซา”
“พี่ไม่ต้องมาห้ามชั้น พี่ๆ น้องๆ นักข่าวคะ สิ่งที่ชั้นพูดอาจจะดูเป็นไปไม่ได้ แต่ทั้งหมดคือเรื่องจริง ผู้หญิงคนนี้หลอกทุกคนมาตลอด”
นักข่าวฟังแล้วตกใจ แต่สีหน้าไม่เชื่อเท่าไหร่ ซอนซายิ้มแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดคลิป
“ดูนะคะ แล้วทุกคนจะได้รู้จักปาร์คจินจูดีขึ้น”
ซอนซาเปิดคลิป เป็นวันดีนั่งอยู่ในห้องขัง สีหน้าจริงจัง
“นังไข่มุกเป็นลูกของจินจูจริงๆ”
วันดีในห้องขัง นั่งชันเข่าโม้อย่างเมามัน
“นังซุปตาร์น่ะให้เงินปิดปากชั้นไว้ โฮ้ยยย ชั้นเลี้ยงมาตั้งยี่สิบกว่าปี นังแม่มันไข่แล้วทิ้งไว้ ไม่มาดูดำดูดีสักนิด พอดังเข้าหน่อยดันเอาไปประคบประหงม นึกว่าจะยอมเหรอ นังมุกถึงจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่ชั้นก็รักยิ่งกว่าแม่ดารามันแน่นอน”
“เรื่องจริงหรือเปล่า”
“โอ๊ย แน่ยิ่งกว่าแช่แป้ง สงสารก็แต่นังมุก ต้องตากหน้าขอทาน ขายส้มตำงกๆ ทั้งที่แม่มันเสวยสุขอยู่ที่เกาหลีคนอาไร้ ห่วงแต่ชื่อเสียงตัวเอง ทิ้งลูกได้ลงคอ ใจยักษ์ใจมารแท้ๆ”
ซอนซาปิดคลิปแล้วมองนักข่าว สายตาเบือนไปสบจินจูอย่างสะใจมาก ไข่มุกอึ้งอย่างตกใจมาก หันไปถามจินจู
“จริงเหรอคะ” จินจูอ้ำอึ้ง ได้แต่มองหน้าไข่มุกสลับกับคธา ทุกคนมองมาที่จินจูเป็นจุดเดียวกันสีหน้าสงสัย จินจูเม้มปากแน่น น้ำตาคลอนิดๆ “คุณเป็นแม่ของหนู จริงๆ เหรอคะ”
ไข่มุกพูดจบนักข่าวก็ดันไมค์ไปถามจินจู
“เป็นความจริงหรือเปล่าคะคุณปาร์ค”
“แล้วที่บอกทิ้งไว้ยี่สิบกว่าปี เพราะอะไรครับ”
“ตอบหน่อยครับคุณปาร์ค”
จินจูหันไปมองสบตาไข่มุกที่มองมาอย่างคาดหวังปนอยากรู้ จินจูอ้าปากจะพูดแต่ก็ไม่กล้า ทำท่าเหมือนน้ำตาจะหยด แทยอนเข้าแทรกนักข่าว หัวเราะเสียงดัง นักข่าวมองอย่างอึ้งๆ
“นี่เป็นโปรเจ็คหนังเรื่องใหม่ของทีมงานเราครับ คลิปนั่นเป็นตัวอย่างที่เราเอาออกมาโชว์สื่อ ขอโทษด้วยที่ทำให้ทุกคนตกใจ” ซอนซาทำท่าจะพูด แทยอนเอามือโอบไหล่ไว้แล้วบีบอย่างแรงจนซอนซานิ่วหน้าแต่ก็ยังฝืนยิ้ม
แทยอนสบตาซอนซาอย่างเอาเรื่อง จนซอนซานิ่งไป “เชิญพี่น้องนักข่าวเข้าโรงกันก่อนดีกว่าครับ เดี๋ยวจะได้เวลาแล้วเชิญๆ”
“ตกใจหมด นึกว่าจะเป็นข่าวใหญ่ซะแล้ว”
“เข้าใจเล่นข่าวนะครับเนี่ย โปรโมทเรื่องใหม่รอบปฐมทัศน์ สมกับเป็นเจ้าพ่อวงการบันเทิงจริงๆ”
นักข่าวมองแล้วพยักหน้ากันอย่างไม่ติดใจสงสัย ไข่มุกนิ่งมองหน้าจินจูกับคธาที่ทั้งเงียบและมีพิรุธ จินจูยิ้มฝืนๆ พยายามเก็บอาการแต่น้ำตาคลอ ไข่มุกมองอย่างอึ้งๆ ไม่อยากเชื่อ
ในโรงหนัง จินจูนั่งดูหนัง ชำเลืองมองไข่มุกที่นั่งข้างๆ ไข่มุกนั่งนิ่ง มองหนังอย่างไม่รู้เรื่องเพราะคิดถึงเรื่องที่ซอนซาและวันดีพูด ไข่มุกชำเลืองมองจินจูเห็นน้ำตาไหลออกมา ยกมือซับน้ำตาอย่างพยายามเก็บความรู้สึก แต่ก็ยังน้ำตาไหล ไข่มุกมองอย่างเจ็บปวด นึกรู้ว่าเรื่องที่ซอนซากับวันดีพูดเป็นจริง จึงกำมือแน่น จินจูเลื่อนมือสั่นๆ มาวางทับแล้วกุมเอาไว้ ไข่มุกชะงัก ดึงมือออกแล้วลุกขึ้นผลุนผลันเดินออกไป จินจูทำท่าจะลุกตาม แทยอนแตะแขนไว้ส่งสายตาปรามแล้วส่ายหน้า จินจูยอมนั่งลงแต่ท่าทางเศร้ามาก คธาที่นั่งด้านหลัง มองจินจูแล้วลุกขึ้นเดินตามไข่มุกออกไปแทน
ไข่มุกมาที่สถานีตำรวจ ทำท่าจะเดินไปที่ห้องขัง แต่ตำรวจเวรเข้ามาห้ามไว้
“หมดเวลาเยี่ยมแล้วคุณ ค่อยมาใหม่ตอนเช้า”
ไข่มุกเดินผ่านหน้าไปเหมือนไม่ได้ยิน เดินไปที่ห้องขัง วันดีนั่งหน้าเซ็ง ชันเข่าตบยุงให้วุ่น ไข่มุกเดินไปหยุดแล้วย่อตัวจับลูกกรง วันดีหันมาเห็นก็ดีใจ
“มาได้ไงวะนังมุก แหม แต่งตัวสวยเหมือนดาราจริงๆ เออ ก็เป็นจริงๆ แล้วนี่เนอะ”
“เรื่องที่แม่พูดแล้วให้คุณซอนซาถ่ายคลิป ไม่ใช่เรื่องตลก ล้อเล่นกันใช่มั้ยแม่ หนูเป็นลูกของคุณจินจู จริงๆ เหรอ”
วันดีชะงัก หน้าเจื่อน มองไข่มุกนิ่งแล้วค่อยๆ เอื้อมมือลอดลูกกรงมาจับมือไข่มุก
“ถึงยังไงชั้นก็เลี้ยงแกมาตั้งแต่เล็ก แกก็ต้องดูแล ตอบแทน เลี้ยงดูชั้นไปจนตาย อย่าทิ้งแม่นะมุก”
ไข่มุกน้ำตาไหล
“หนูเป็นลูกใครกันแน่”
วันดีนิ่งคิด พยักหน้ายอมรับ
“ใช่ จินจูเป็นแม่ของแก พอคลอดแล้ว เขาก็เอาแกมาทิ้ง ตอนนั้นแม่เองก็ไปออกลูก แต่เด็กมันตายแต่เกิด เดินมาเจอแกโดนทิ้งอยู่ข้างถนน เลยเก็บมาเลี้ยง”
ไข่มุกร้องไห้โฮ สะอึกสะอื้นกอดลูกกรงร้องไห้ วันดีหน้าเศร้าไปด้วยแต่ได้แต่ลูบหลังลูบไหล่
“ทำไม ทำไมเขาต้องทิ้งหนู”
“มันเป็นดารา คงกลัวคะแนนตกมั้ง มุก พอแม่พ้นโทษ เราก็จะได้มาอยู่ด้วยกันเหมือนเมื่อก่อน อย่าไปสนใจคนอื่นมันเลยลูก”
ไข่มุกร้องไห้อย่างสุดกลั้น คธาที่ยืนดูอยู่มองอย่างเสียใจและรู้สึกผิดมาก คธาเดินเข้ามาแตะที่ไหล่แล้วนั่งลงข้างๆ
“กลับโรงแรมเถอะ ดึกแล้ว”
ไข่มุกหันกลับมามองหน้าคธา คธาสบตาตอบอย่างอ่อนโยน สงสารลูกจับใจ ไข่มุกเบี่ยงไหล่หนี สบตานิ่งอย่างน้อยใจ แล้วเดินออกไปเงียบๆ คธามองตามด้วยสีหน้าหม่นหมอง หนักใจ
คธากับไข่มุกนั่งอยู่ด้วยกัน ไข่มุกนั่งนิ่งดวงตาแดงก่ำ คธามองอย่างสงสารและเสียใจมาก
“เรา หมายถึง พ่อกับแม่ ก็พึ่งรู้ตอนที่เห็นสร้อยจี้มุกของหนู แม่เขาจำได้ว่าเป็นของที่ให้ไว้กับลูกไปถามคุณวันดีถึงได้รู้ความจริง”
“แล้วทำไมพวกคุณไม่บอกหนู ทำไมยังปิดกันอีก”
“เราไม่รู้จะพูดยังไง เห็นลูกกำลังทุ่มเทกับงานหนังเรื่องแรก เลยไม่อยากให้เสียสมาธิ แม่เขาตั้งใจว่าหลังจากวันนี้ จะค่อยๆ หาโอกาสบอกหนู ไข่มุก เราสองคนรักลูกมากนะ”
ไข่มุกแค่นยิ้ม น้ำตาคลอ
“หนูไม่เชื่อ ถ้ารักจริง ทำไมต้องทิ้ง พวกคุณไม่อยากให้หนูเกิดมามากกว่า”
จินจูที่เดินมา ทันได้ยินพอดี
“ไม่จริง แม่อยากให้ลูกเกิดมา แม่ไม่ได้ทิ้ง ไม่เคยแม้แต่จะคิด แต่เข้าใจผิดว่าหนูตายไปเล้ว”
ไข่มุกนิ่งมอง แววตาเจ็บปวด
“ตอนนี้คุณจะพูดอะไรก็ได้ เมื่อก่อนหนูลำบากแทบตาย ต้องกินนอนข้างถนน ไม่เห็นใครสักคนมาสนใจ”
จินจูอึ้ง น้ำตาไหล พยายามเดินเข้าไปจับมือไข่มุก ไข่มุกสะบัดมือออกออก จ้องหน้าจินจูอย่างทั้งรักทั้งแค้น
“เดี๋ยวสิไข่มุก หนูเข้าใจผิดนะ เรารักลูกจริงๆ แต่...”
ไข่มุกพูดแทรกทั้งน้ำตา
“คุณจะไปรู้อะไร ยี่สิบปีมานี่คุณไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่ามีหนูเกิดมาบนโลก”
คธาอึ้งไปอย่างเสียใจ ไข่มุกก็อึ้งและรู้สึกผิด แต่ก็ยังทิฐิ ไข่มุกมองจินจูกับคธาสลับกันแล้วเดินหนีออกมา
“ยองแอ ยองแอ”
จินจูวิ่งตามไข่มุกมา แล้วคว้าตัวมากอดไว้
“ยองแอ ฟังแม่อธิบายก่อน” ไข่มุกนิ่งให้กอดแต่มือกำหมัดแน่น ท่าทางไม่ยอมรับ จินจูกอดแล้วลูบหลังลูบหัวอย่างรักมาก “ฟังแม่นะลูก แม่ได้ได้ตั้งใจทิ้งหนู ทุกอย่างเป็นเพราะ...”
“หนูไม่ฟังอะไรทั้งนั้น พวกคุณโกหกหนู ทิ้งหนู คราวนี้จะหลอกอะไรอีก”
ไข่มุกพยายามจะดันจินจูออก แต่จินจูกอดเอาไว้แน่น ไข่มุกยื้อดิ้นไปดิ้นมา สุดท้ายก็ปล่อยโฮอย่างสับสน น้อยใจ จินจูกอดลูกน้ำตาซึม ไข่มุกลงไปนั่งกับพื้น จินจูลงไปนั่งกอดไว้ด้วยความสงสารและรู้สึกผิดมาก คธาตามมายืนมองทั้งคู่อย่างเป็นห่วงมาก
“แม่รักลูกนะ ยองแอของแม่”
“คุณไม่ได้รักหนูหรอก คุณรักแต่ตัวเอง ไม่งั้นจะทิ้งหนูทำไม”
“ไม่ใช่นะ”
ไข่มุกดันจินจูออกแล้วพูดแทรก
“คงกลัวว่ามีหนูแล้วจะทำให้ชื่อเสียงเสียหาย เลยโยนทิ้งไว้ข้างถังขยะ”
“ไม่จริง”
“ถ้าไม่จริง ทำไมคืนนี้ตอนนักข่าวถามไม่ยอมรับล่ะคะ ทำไมไม่บอกความจริงให้ทุกคนรู้” จินจูอึ้งพูดไม่ออก ไข่มุกมองสบตาแล้วยิ้มหยันอย่างเจ็บปวด “สุดท้ายคุณก็เลือกชื่อเสียงอีกตามเคย เหมือนเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว”
คธาก้าวเข้ามาหาไข่มุก
“ไข่มุก ยองแอ ฟังพ่อก่อน”
“หนูชื่อไข่มุก เป็นลูกแม่วันดี ไม่ใช่ยองแอของพวกคุณ”
ไข่มุกปาดน้ำตาแล้วดันจินจูออก วิ่งออกไปอย่างโกรธและเสียใจมาก คธามองตามอย่างปวดร้าวและเสียใจ จินจูมองตามอย่างเจ็บปวด น้ำตาไหลเงียบๆ
คีรินทร์นอนหนุนหมอนกดรีโมทเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆอย่างเซ็งจัด ภัททิมาในชุดนอนกอดซบบนอกคีรินทร์ สีหน้ายิ้มแย้ม
“วันนี้ลูกไก่แฮปปี้ม้ากมาก อยากให้ถึงวันแต่งเร็วๆ จัง ชุดเจ้าสาวต้องเริ่ดสุดๆ ใครเห็นต้องอิจฉาจนตาตั้ง”
“อืม”
คีรินทร์ขยับตัวแบบรำคาญ แต่ภัททิมาขยับตามซุกต่อ
“เราไปฮันนีมูนที่ไหนดี สวิส อังกฤษ เอ๊ะ ปารีสก็ดีนะคะ จะได้ช็อปด้วย รินทร์ขา ไปไหนดี”
คีรินทร์ดันหัวภัททิมาออกจากอก
“คิดไม่ออก เหนื่อย”
“รินทร์น่ะ”
“ขอร้อง อย่ากวน ง่วง อย่าเอาหัวมาทับ อึดอัด”
ภัททิมาชะงักแล้วทำท่าสะบัดหน้ากระเง้ากระงอด เห็นคีรินทร์ไม่สนก็ออกอาการเซ็ง หันไปหนุนหมอนเอง คีรินทร์เปิดไปช่องบันเทิงมีเสียงจากทีวี
“กลายเป็นข่าวฮ็อตลือสนั่นไปทั่ววงการ กับงานเปิดตัวหนังใหม่ล่าสุดของผู้อำนวยการคิมแทยอน ที่ได้นางเอกหน้าใหม่ประกบกับซุปตาร์ชื่อดังปาร์คจินจู ว่ากันว่างานนี้มีเซอร์ไพรส์จ้า”
คีรินทร์ชะงัก จ้องดูทีวี เป็นภาพในจอตอนซอนซาเปิดคลิป วันดีในคลิปบอกว่าไข่มุกเป็นลูกจินจู จินจูอึ้ง น้ำตาคลอ ไข่มุกถามว่าจินจูเป็นแม่จริงๆ หรือเปล่า คีรินทร์มองทีวีแล้วอึ้งทำท่าครุ่นคิด
“ตอนแรกก็เกือบเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง แต่ว่าจริงๆ แล้วเป็นแค่ คลิปโปรโมทโปรเจ็คหนังเรื่องใหม่ค่ะ แหม เล่นแบบนี้ ตกใจหมด”
คีรินครุ่นคิด สังหรณ์ใจว่าจะเป็นเรื่องจริง ภัททิมามองทีวีอย่างงงๆ ปนหมั่นไส้ไข่มุก
“แหม โกหกเก๊งเก่ง สร้างเรื่องได้เป็นฉากๆ อย่างนังมุกลูกขอทานลวงโลกเหรอ จะเป็นลูกจินจูได้ อืม แต่ก็เหมาะดีนะ สะตอกับสะตอมาเจอกัน”
คีรินทร์ยังครุ่นคิด สงสัยเรื่องไข่มุกกับจินจูไม่หาย
เช้าวันรุ่งขึ้น ไข่มุกนั่งกอดเข่า เหม่อมองไปบนฟ้า กัดปากอย่างอดกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลภาพความทรงจำระหว่างไข่มุกกับจินจูย้อนกลับมา
จินจูเดินเล่นกับไข่มุกชมวิวช้าๆ จินจูเดินหน้านิ่งห่างออกไปนิดหน่อย แต่ไข่มุกยิ้มเต็มที่อย่างมีความสุข ไข่มุกมาปรับทุกข์กับจินจูแล้วขอกอด จินจูกอดไข่มุกร้องไห้เรื่องยองแอ จินจูให้ใบสมัครกับไข่มุกแล้วจับมือไข่มุกแน่น จินจูกับคธาปลอบใจมุกที่กำลังร้องไห้และจับมือให้กำลังใจ ไข่มุกหัวเราะกับความลำบากในวัยเด็ก แต่จินจูร้องไห้ เข้าไปกอดอย่างสงสารมาก จินจูห่มผ้าให้ไข่มุกอย่างอ่อนโยน
ไข่มุกเม้มปากแน่นอย่างคิดหนัก น้ำตาคลอ คีรินทร์เดินเรื่อยๆ มาเห็นไข่มุกนั่งอยู่ที่ริมสระน้ำท่าทางเหม่อลอย
“เป็นไง” คีรินทร์นั่งลงข้างไข่มุก “นึกไม่ถึงว่าเธอจะได้เป็นถึงลูกสาวซุปเปอร์สตาร์เกาหลี” ไข่มุกทำท่าจะพูด คีริทร์มองหน้า “ถึงข่าวจะออกว่าไม่ใช่ แต่ชั้นว่าเป็นเรื่องจริง”
“คุณรู้ได้ไง”
“ก็นึกสงสัยนานแล้ว ว่าทำไมคุณจินจูถึงดีกับเธอเหลือเกิน”
“เขาบอกว่า พึ่งรู้เมื่อเร็วๆ นี้เอง คุณเชื่อมั้ย”
“เชื่อ คุณจินจูไม่ใช่ผู้หญิงที่จะโกหก แล้วที่ดีกับเธอตั้งแต่ต้น ก็คงเพราะสัญชาติญาณของแม่กับลูก” คีรินทร์มองอย่างอาลัยพยายามฝืนยิ้ม ไข่มุกเม้มปากมองไปที่สระน้ำ “ยินดีด้วยที่เธอได้เจอพ่อแม่ที่แท้จริง ตอนนี้ก็เป็นทั้งนางเอกดัง มีไอ้หน้าจืดคอยดูแล แถมยังเป็นลูกปาร์คจินจูอีก ชีวิตเธออย่างกับหนัง แต่ก็ดีใจด้วยนะ”
“ไม่ใช่อย่างงั้นหรอกค่ะ ไม่ได้ง่าย สวยหรู เหมือนที่คุณพูดหรอก”
ไข่มุกมองคีรินทร์ ร้องไห้สะอึกสะอื้น คีรินทร์ยกมือค้างอย่างพยายามห้ามตัวเอง แต่สุดท้ายก็กอดแน่น ลูบเบาๆ แววตาขมขื่นนิดๆ ไข่มุกชะงัก ค่อยๆ ยกแขนขึ้นกอดตอบ
“คุณรินทร์ ชั้น ชั้นจะทำยังไงดี”
“ร้องทำไม ตอนนี้เธออาจจะตกใจ แต่ทุกอย่างที่เข้ามา มีแต่เรื่องดีๆ ทั้งนั้น ต่อไปชีวิตเธอจะมีแต่ความสุข”
คีรินทร์กอดไข่มุกเอาไว้แน่น
“เขาไม่ได้ต้องการชั้นตั้งแต่แรก ไม่งั้นเขาจะเอาชั้นไปทิ้งข้างถนนทำไม ถึงบอกว่าตาย แต่ไม่คิดจะทำศพเลยเหรอ”
“ไม่หรอก เรื่องอาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้นก็ได้”
“ไม่รู้สิคะ ทั้งแม่...วันดี ทั้ง...คุณจินจู ทำไมถึงไม่บอกความจริงแต่แรก ทำไมทุกคนต้องปิดบังชั้น หลอกลวง เห็นชั้นเป็นคนโง่”
คีรินทร์กอดไข่มุกแน่นขึ้น
“อย่าพูดอย่างนั้นสิ ไม่มีใครเห็นเธอเป็นคนโง่ ทุกคนรักและหวังดี ชั้นเองก็ด้วย”
ไข่มุกชะงักกึก พยายามกลั้นน้ำตา ดันคีรินทร์ออกห่างแล้วปาดน้ำตา มองสบตาคีรินทร์
“ขอบคุณนะคะ แต่ไม่เป็นไร คุณเอาเวลาไปสนใจผู้หญิงที่คุณกำลังจะแต่งงานแล้วเถอะ”
“เดี๋ยวสิไข่มุก ถึงจะยังไง ชั้นก็เป็นห่วงเธอนะ”
ไข่มุกมองสบตาคีรินทร์อย่างตั้งใจจะตัดใจ แววตาว่างเปล่า
“ขอบคุณค่ะ แต่อย่าลำบากเลย ถึงจะไม่เหลือใคร แต่ชั้นก็ยังมี...” ไข่มุกจับท้องตัวเอง “เราอย่ามาเกี่ยวข้องกันอีกเลย ชั้นขอล่ะค่ะ ไปอยู่กับคุณลูกไก่ของคุณเถอะ”
ไข่มุกเดินผละออกมาจากคีรินทร์
“ ไข่มุก เดี๋ยวสิ ไข่มุก”
ไข่มุกเดินออกมาไม่หันหลังกลับไป แต่แอบน้ำตาไหลเงียบๆ
อ่านต่อเวลา 17.00น.
แทยอน จินจู ซอนซาอยู่ในห้องแทยอน ซอนซานั่งหน้าเชิดอยู่ที่เก้าอี้ แทยอนทุบโต๊ะดังปังอย่างโมโห ซอนซาสะดุ้งเฮือกมองแทยอนแบบหวาดๆ
“ทำไมถึงทำแบบนี้ อยากให้หนังเจ๊งหรือไง คิดอะไรอยู่ จะพังหนังของเราใช่มั้ย”
ซอนซาเชิดหน้า ตอบแบบไม่แคร์
“ชั้นก็แค่พูดเรื่องจริง หรือพี่จะบอกว่าไม่เคยรู้เรื่องนี้”
“รู้ไม่รู้ก็ช่าง แต่เธอไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้”
“ทีจินจูเป็นนางเอกลวงโลก ท้องแล้วเอาเด็กไปโยนทิ้ง พี่ยังเข้าข้างได้ แล้วทำไมชั้นจะไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้”
“หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะซอนซา”
ซอนซาหันไปมองจินจูอย่างแค้น
“ไม่หยุด ตอนนี้ปล่อยไว้ก่อนก็ได้ รอให้หนังออกจากโรง ชั้นจะแฉอีกครั้ง เอาให้ทั้งแม่ทั้งลูกไม่มีที่ยืนในวงการอีกเลย ฮึ อีกหน่อยไข่มุกก็คงเหมือนแม่ ท้องไม่มีพ่อ” จินจูลุกขึ้นยืนแล้วเอามือยันค้ำที่คอซอนซา แววตาโกรธมาก ซอนซาช็อคอย่างคาดไม่ถึง “จะทำอะไร ว๊าย ปล่อยนะ”
“อย่าคิดแฉเป็นอันขาด ทำชั้น ชั้นไม่ว่า แต่อย่ามาแตะต้องยองแอ”
จินจูดันคอ ซอนซาสั่นนิดๆ
“ชั้น พะ พูด ความจริง เอามือออกไป”
จินจูดันแรงขึ้นจนซอนซาตาเหลือก
“อยู่ให้ห่างจากลูกชั้น ไม่งั้น ชั้นจะเอาคืนจากเธอเป็นสิบเท่า”
ซอนซามองจินจูตาเหลือก แววตากลัวมาก จินจูมองอย่างเอาจริงและดุดัน
แทยอนเดินอยู่ในโรงแรม ซอนซาโผเข้ากอดจากด้านหลัง แทยอนนิ่งสักพักแล้วดึงมือออก
“พี่คะ ชั้นขอโทษ อย่าโกรธนะ พี่แทยอน”
แทยอนนิ่ง หยิบตั๋วเครื่องบินออกมา
“ตั๋วกลับเกาหลี เครื่องออกคืนนี้ กลับไปซะซอนซา”
“ไม่ ชั้นไม่กลับ ทำไมพี่ถึงยังต้องรักจินจูด้วย เขาก็มีผู้ชายคนไทยคนนั้นแล้ว ทำไมพี่ไม่ตัดใจ หันมามองคนอื่นบ้าง” ซอนซาสะอื้น “ชั้นรักพี่ ได้ยินมั้ย ชั้นรักพี่”
“ขอบใจสำหรับความรู้สึกที่ดี แต่ถ้าความรักของเธอที่มีกับชั้นทำร้ายคนอื่นมากขนาดนี้ บางที ระหว่างเราคงไม่เหมือนเดิม”
แทยอนทำท่าจะเดินไป ซอนซาโผเข้ากอดจากด้านหลังแล้วน้ำตาไหล สะอื้นนิดๆ แต่ไม่ฟูมฟาย
“อย่าทำอย่างนี้ อย่าไล่กันเลย ชั้นอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีพี่”
แทยอนแตะที่มือเบาๆ
“กลับไปเกาหลี แล้วลืมชั้นซะ เปิดใจให้คนอื่นบ้าง เธอจะได้เจอกับคนที่ดีและรักเธอได้แน่นอน”
“ชั้นจะรักพี่ รักพี่คนเดียว”
แทยอนนิ่งแล้วแกะมือออก เดินไปโดยไม่หันหลังมาดู ซอนซามองตามด้วยแววตาตัดพ้อปนเจ็บปวด
ไข่มุกถือกระเป๋าเสื้อผ้าใบย่อม โผล่หน้ามองซ้ายขวาที่มุมตึกกลัวใครมาเจอ เมื่อเห็นว่าปลอดคนก็รีบก้มหน้าเดินเร็วๆ ให้พ้นเขตโรงแรม พอผ่านมุมตึก จู่ๆ มีมือลึกลับมาจับต้นแขน ไข่มุกชะงัก สะบัดมือ ตั้งท่าจะสู้ คีรินทร์รีบยกมือห้าม
“ชั้นเอง ไข่มุก”
ไข่มุกมอง ถอนหายใจยาวโล่งอก
“โธ่ ตกใจหมด แล้วมาโผล่ตรงนี้ได้ไงคะ ทำไมยังไม่กลับบ้านอีก”
“แล้วเธอละ ทำไมไม่อยู่ในห้องพัก” คีรินทร์มองกระเป๋า “ถือกระเป๋ามาด้วย ทำเหมือนจะหนี...เอ๊ย หรือ
จะหนีไปจริงๆ” ไข่มุกอึกอัก
“เออ...”
“ว่าแล้ว เห็นเธอท่าแปลกๆ แต่เช้าแล้ว เลยคอยตามดูว่าจะเป็นไง ได้เรื่อง...แล้วนี่จะหนีไปไหน”
ไข่มุกทำหน้าเซ็ง
“ไปไหนก็ได้ ไม่เกี่ยวกับคุณ ดึกป่านนี้คุณกลับไปเถอะ คู่หมั้นคุณเป็นห่วงแย่แล้ว”
คีรินทร์หน้าเซ็งเช่นกัน
“ก็เพราะมีคู่หมั้น ถึงยังไม่อยากกลับบ้าน”
“งั้นก็ไปหากิ๊กของคุณสิคะ มีเยอะแยะ เขาอยากเจอคุณทั้งนั้น”
“แต่ผมไม่อยากเจอพวกเขา ก็เลยมาเฝ้าคุณ เอางี้ดีกว่า เรา...หนีไปด้วยกันเลย หนีไปสักพัก ผมทั้งเบื่อทั้งรำคาญ คุณก็จะหนีอยู่แล้วนี่นาจะได้ไปเป็นเพื่อนกัน ไปๆ”
คีรินทร์ลากตัวไข่มุก ไข่มุกรั้งไว้
“เฮ้ย เดี๋ยว ไปดื้อๆ แบบนี้หรอ ปล่อย ชั้นไม่ไปกับคุณ”
“อย่าดื้อซิ ไปขึ้นรถ”
“จะไปไหนคุณรินทร์ ไม่นะ”
คีรินทร์หยุดลาก หันมาพูด
“ถ้าเธอไม่ไป ชั้นร้องตะโกนให้คนรู้เลยนะ ว่าเธอกำลังจะหนี เอาสิ เหมือนที่เธอเคยทำกับชั้น ตอนตะโกนบอกพวกคิวมอไซค์ ว่าชั้นจะข่มขืนเธอ จำได้มั้ย ทำซะชั้นโดนรุมอัดแทบตาย วันนี้แหละจะเอาคืน”
คีรินทร์มองหน้าไข่มุก ไข่มุกส่ายหน้า
“อย่าพูดเล่นน่าคุณ คนยิ่งกำลังกลุ้มใจ”
“หนีไปด้วยกัน รับรองหายกลุ้ม” ไข่มุกหน้าบึ้ง เดินหนีคีรินทร์ คีรินทร์ร้องตะโกน “ไข่มุกกำลังจะหนีครับ ไข่มุกอยู่นี่...”
ไข่มุกหน้าตื่น รีบหันกลับ เอามือปิดปากคีรินทร์
“คุณรินทร์ ทำอะไรของคุณ เดี๋ยวชั้นอดหนีกันพอดี”
“ไม่อดหรอก ไปกับชั้นนี่ไง ไปเร็ว”
คีรินทร์เข้าไปลากแขนไข่มุก ดึงมือจนไปถึงรถที่จอดไม่ไกล พอถึงรถก็ดันไข่มุกเข้าไปในรถ ไข่มุกพยายามต่อต้านแต่ไม่ได้ผล
“อย่าดื้อสิ หรืออยากโดนจับได้”
ไข่มุกถอนใจแรงๆ อย่างขัดใจ คีรินทร์ขับรถออกไปอย่างเร็ว
จินจูกับคธาเดินคุยกันมาตามทางเดิน จินจูสีหน้ากังวลนิดๆ
“ทำยังไงลูกถึงจะหายโกรธคะ ชั้นไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว”
“ค่อยๆ อธิบาย ไข่มุกยังตกใจ คุณเองก็อย่าใจร้อน ให้เวลาลูกบ้าง”
ทั้งสองคนมาหยุดหน้าห้องไข่มุก จินจูเคาะประตู
“ไข่มุก เปิดประตูด้วย ไข่มุก” จินจูชะงัก มองหน้าคธาแล้วเคาะต่อ “ไข่มุก ชั้น เออ...แม่เองนะลูก เปิดประตูเถอะ” จินจูเคาะแต่ก็เงียบ จินจูหน้าเสียหันมองคธาที่หน้าตาสงสัยไม่แพ้กัน “หรือว่าลูกเป็นอะไร”
จินจูนึกเป็นห่วงไข่มุกจึงรีบไปตามพนักงานเอากุญแจสำรองมาไขห้องไข่มุก ประตูเปิดออก จินจูรีบเดินเข้าไปในห้องมองหาไข่มุกแต่ไม่เห็น จินจูมองหน้าคธาอย่างช็อคมาก คธาเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเห็นว่าว่างเปล่า
“ขนของไปหมด”
จินจุได้ยินก็ร้องไห้น้ำตาไหลออกมาแล้วเป็นลม คธารีบเข้ามาประคองไว้
“จินจู จินจู”
“ลูกหนีเราไปแล้ว”
คธาประคองจินจูที่เป็นลมทั้งน้ำตาแล้วมองอย่างเป็นห่วงและเป็นกังวล
คีรินทร์เดินออกมาจากบ้านเช่าของไข่มุกโดยมีจินจูกับคธารออยู่
“ว่ายังไงบ้าง”
“เจ้าของบ้านเขาบอกว่าย้ายไปได้สองสามวันแล้วครับ”
“แล้วจะทำยังไงล่ะ จ้างนักสืบมั้ย”
“อย่าเพิ่งเลย เดี๋ยวจะเป็นเรื่องใหญ่ ช่วงนี้นักข่าวยิ่งจับตามองอยู่”
“ลูกชั้นทั้งคน จะใจเย็นได้ยังไงคะ”
“ลองไปถามวันดีดูมั้ย เผื่อจะรู้อะไร ยังไงๆ เขาก็อยู่ด้วยกันมานาน น่าจะพอรู้ว่าไข่มุกจะหนีไปไหน”
จินจูนิ่งพยักหน้านิดๆ
“เดี๋ยวผมไปถามเอง ยังไงก็ต้องหาให้เจอให้ได้” คีรินทร์บอก
ไข่มุกกำลังจะเดินขึ้นไปที่โรงพัก แต่วันดีกับพวกนักโทษโดนต้อนออกมาทั้งๆ ที่ใส่กุญแจมือ ไข่มุกวิ่งไปหาเกาะแขนวันดีไว้
“จะพาแม่ชั้นไปไหนคะ”
“ก็... โว้ย นังมุกช่วยแม่ด้วย เขาจะพาแม่ไปขังคุกไม่เอานะ ช่วยด้วย แม่ไม่อยากเข้าคุก”
“ไม่อยากก็ต้องไป หมดระยะฝากขังที่โรงพักแล้ว ค่อยไปเยี่ยมที่คุกต่อแล้วกัน ไปป้า อย่าชักช้า”
“นังมุก ช่วยแม่ด้วย”
ไข่มุกไหว้ตำรวจ
“ขอแป๊บเดียวนะคะคุณตำรวจ นะคะ” ตำรวจพยักหน้า ไล่ต้อนคนอื่นไป ไข่มุกกอดวันดี แล้วจับมือแน่น
“นี่จ้ะ แม่เก็บเอาไว้นะ ในนี้มีล้านห้า” ไข่มุกยื่นสมุดบัญชีให้
วันดีหยุดโวยหยิบมาดู ทำท่าจะหยิบใส่อกแล้วนึกได้ ส่งคืนให้
“จะไปอยู่ในคุกแล้ว ไอ้พวกนี้จะมีประโยชน์อะไร แกเก็บไว้เถอะแล้วก็ยื่นเรื่องขอประกันตัวด้วย ยื่นหลายๆ รอบ มันก็ต้องได้สักรอบล่ะวะ เก็บเงินนี้ไว้ช่วยแม่นะ ห้ามเอาไปใช้อย่างอื่น”
“แม่”
“ไม่ต้องพูดมาก เก็บไว้ดีๆ แล้วก็หาทนายเก่งๆ มาด้วย เข้าใจป่ะ” ตำรวจเดินมาที่วันดีแล้วจับข้อมือให้เดิน วันดีเดินตาม แต่ไม่วายหันมาหาไข่มุก “พาแม่ออกจากคุกไวๆ นะนังมุก กลัว โอ้ย คุณตำรวจไม่ต้องดึง นังมุก ไปเยี่ยมที่คุกบ่อยๆ ด้วยนะ อย่าทิ้งแม่”
ไข่มุกมองดูวันดีที่ถูกพาไปอย่างอึ้งมาก วันดีขึ้นรถ ตำรวจปิดประตูกรงขัง วันดีสบตาไข่มุกผ่านกรง ไข่มุกมองตามแววตาเศร้า
คีรินทร์กำลังจะเลี้ยวรถเข้าจอดที่โรงพักแต่สายตาคีรินทร์เห็นวันดีอยู่ในรถคุมขัง คีรินทร์หักเลี้ยวรีบจอด แล้ววิ่งมา ร้องเรียก
“วันดี แม่วันดี”
“เสียงใครแว่วๆ วะ หูฝาดเปล่าเนี่ย” คีรินทร์เอื้อมมือไปตบประตูเหล็กด้านข้าง วันดีสะดุ้ง มองเห็นเป็นคีรินทร์ก็ถอนใจ “อ้าว มีอะไรยะ”
“ไข่มุกอยู่ที่ไหน รู้มั้ยว่าเขาไปไหน”
“อ้าว ก็อยู่ที่โรงพักไง เมื่อกี๊ยังยืนส่งชั้นอยู่เลย”
คีรินทร์อึ้ง รถคุมขังแล่นไป คีรินทร์หันไปมองทางโรงพัก แล้วรีบวิ่งไป
คีรินทร์วิ่งมา มองซ้ายมองขวาอย่างเคว้งคว้าง แต่ก็ไม่เจอไข่มุก คีรินทร์ทุบรถอย่างหัวเสีย
“โธ่เว้ย”
นุชนารถเห็นข่าวหมั้นของคีรินทร์กับภัททิมาบนหน้าหนังสือพิมพ์จึงกรี๊ดลั่น วัฒนาวิ่งมาดูด้วยความตกใจ
“มีอะไร”
วัฒนาหยิบหนังสือพิมพ์ที่ถูกฉีกมาดูเห็นข่าวคีรินทร์วันหมั้นกับเศษๆ ที่ลงข่าวไข่มุกแล้วก็แค่นยิ้ม
“โมโหข่าวไหนล่ะ นางเอกคนดังหรือผัวเก่า”
“ผัวสิ หนอย ทำไมถึงเป็นมันที่ได้ทุกอย่าง คนที่นั่งตรงนั้นต้องเป็นชั้นสิ อ๊ายยยย นังลูกไก่ ลูกแร้งมาเกิดไม่ว่า”
วัฒนาหยิบเศษๆ มาดูแล้วขยำ
“อย่าโมโหน่า ปล่อยให้เริงร่ามีความสุขกันไป อีกไม่นาน ก็ถึงเวลาของเราแล้ว”
นุชนารถยังดูโมโหไม่หาย แต่วัฒนามองข่าวแต่งงานของคีรินทร์อย่างครุ่นคิด มีแผนร้าย นุชนารถดึงเศษกระดาษที่เป็นรูปภัททิมามาแล้วใช้เท้าเหยียบขยี้ติดพื้น มองรูปที่เละเทะอย่างอาฆาต
คีรินทร์ยื่นภาพไข่มุกให้เจ้าของบ้านดู เจ้าของมองๆ ทำท่านึก
“อ๋อ ใช่ๆ เคยมาเช่าที่นี่แหละ แต่ย้ายออกไปสองสามวันแล้ว”
“แล้วเขาได้บอกเปล่า ว่าจะย้ายไปไหน”
“ไม่นะ สงสัยกลับต่างจังหวัดมั้ง แต่เห็นเอารถเข็นส้มตำไปด้วยนะ”
คีรินทร์อึ้ง จับรูปแน่น มองเข้าไปที่บ้านด้วยความกังวล
ไข่มุกเดินหิ้วของพะรุงพะรังอยู่ที่ตลาดสด ไข่มุกเดินไปที่แผงขายไก่ แม่ค้ากำลังนั่งดูทีวี ไข่มุกเรียก
“เอาปีกไก่สองโล น่องสามโล”
ภาพในทีวี เป็นโฆษณาหนังที่ไข่มุกกับจินจูเล่น แม่ค้าพูดวิจารณ์ดังๆ
“แหม่ นางเอกสวยทั้งไทยทั้งเกาหลี ไม่รู้กินอะไรถึงได้สวยขนาดนี้”
แม่ค้าอีกคนพูดโต้
“กินไก่เอ็งมั้ง โน่น ลูกค้ารอแล้ว”
“อะไรนะ เอาปีกสองโล แล้วอะไรอีกนะ”
ไข่มุกยกมือปิดหน้าทำท่าจาม
“ฮัดชิ่ว น่องสามโลจ้ะ ฮ้าดชิ่ว”
แม่ค้าทำหน้าเหย แล้วก้มลงมองไข่มุก
“เอ๊ะ หน้าคุ้นๆ คนแถวนี้ป่ะเนี่ย”
“เปล่าจ้ะ ฮัดชิ่ว ฮัดชิ่ว”
แม่ค้ามองเลยไป ไม่ได้สนใจ หันไปหยิบไก่ใส่ถุง ไข่มุกยกมือปิดปากเพื่อปิดบังใบหน้า ถอนหายใจเฮือกที่แม่ค้าจำไม่ได้ว่าเธอเป็นนางเอกหนังที่เห็นในโฆษณาทางทีวี
ภัททิมา ชลลดาหัวเราะคิกคักดื่มน้ำกันอย่างสมใจ
“หมดเสี้ยนหนามซะที ตายๆ ไปซะได้ก็ดี โอ๊ย แม่ล่ะแฮปปี้สุดๆ”
“ลูกไก่ก็จะได้รินทร์มาครอบครองแต่เพียงผู้เดียว”
“แถมสมบัติพันล้านมาด้วย ลูกเขยในฝันชัดๆ”
“อุ๊ย เดี๋ยวไปดูรินทร์แว้บนะคะแม่ ถึงไม่มีนังมุก แต่พวกกิ๊กเก่ายังทำตัวเป็นปลิงเป็นตุ๊กแก เกาะไม่ยอมปล่อย เดี๋ยวมานะคะ”
ภัททิมาลุกขึ้นเดินฮัมเพลง ผ่านโต๊ะอาหาร กีกี้ แองจี้ น้องแพรวลดเมนูที่เปิดบังหน้าลง มองไปที่ภัททิมาอย่างสุดแสนจะหมั่นไส้
ภัททิมาเดินเลี้ยวออกมาจากด้านใน พวกกีกี้เดินออกมาดักหน้า ภัททิมามองหน้าแล้วทำตาขึงใส่
“อะไรยะ มาดักทำไม”
“จะสั่งสอน พวกมาทีหลังแต่ทำซ่า”
“แถมยังฉกผัวคนอื่นไปหน้าด้านๆ ด้วย”
อ่านต่อเวลา 17.00น.
ภัททิมายักไหล่ ยกนิ้วโชว์แหวน
“ของใครกันแน่ไม่ทราบ หลักฐานคานิ้ว เห็นรึยัง จะมาก่อนมาหลังไม่สำคัญเท่าเขาเลือกใคร ใคร-ได้-แต่ง-งาน” ภัททิมาพูดเน้นคำยั่ว สามสาวของขึ้น ปราดเข้าไปรุม
“แก ปากดีนักใช่มั้ย แพรว แองจี้ จับมันไว้”
น้องแพรวกับแองจี้เข้าไปจะไปจับแขนภัททิมาคนละข้าง ภัททิมาจับแขนแองจี้เหวี่ยงไปกระแทกน้องแพรวล้มไปพร้อมกัน สองสาวลงไปกองกับพื้นร้องวี้ดว้าย กีกี้ยิ่งโมโห เข้าไปเงื้อมือตบ
“โดนมาเยอะแล้วย่ะ แค่นี้ไม่ครณามือชั้นหรอก”
ภัททิมาตบก่อน กีกี้ล้มเข้าไปตรงสองสาว ภัททิมาตั้งท่าบู๊แบบฮาๆ วิ่งเข้าใส่สามสาว มือจิกผมแองจี้ที่คลานอยู่กับพื้น นั่งคร่อมหลังดึงเขย่าไปมา
“อ๊ายยย อย่า ผมช้านนน”
“ผัวชั้นใครอย่าแตะ มาทางไหน ไปทางนั้นเลย บ้าแล้วนะเว้ย”
สามสาวล้มลุกคลุกคลานวิ่งหนีไปกระเจิง ภัททิมายิ้มเยาะทำท่าปัดมือ หมุนตัวกลับมาเห็นคีรินทร์ยืนดูก็หน้าซีด
“ทำไมแรงดี ไล่ตบซะกระเจิงขนาดนี้ ปกติคนท้องต้องเพลียๆ ไม่มีแรงไม่ใช่เหรอ”
“สงสัยลูกในท้องจะเป็นผู้ชายน่ะค่ะ แหม ตัวเท่านี้หัดช่วยแม่ โอ๊ย” ภัททิมาทำท่าเวียนหัว เซลงไปซบคีรินทร์ คีรินทร์รับไว้ “รินทร์ขา ลูกไก่เพลียจัง เวียนหัวด้วย พาไปนอนหน่อยนะคะโอ๊ยๆๆๆ ลูกดิ้น รินทร์ขา ไปเถอะ”
คีรินทร์มองภัททิมาที่ทำท่าสำออยอย่างรู้ทัน สีหน้าเซ็งสุดๆ
คีรินทร์นั่งอยู่บนโซฟาห้องนั่งเล่น สีหน้าเศร้าหมอง มองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย เขมทัตกับมณีเดินเข้ามานั่งข้างๆ มณีทำเสียงจิ๊จ๊ะ ถอนหายใจอย่างขัดใจ
“ดึกแล้ว ไม่ขึ้นนอนอีกเหรอรินทร์”
“ผมยังไม่ง่วงครับ”
“อย่าบอกนะว่ายังอาลัยนังลูกขอทานอยู่ แม่ขอเลย ถึงลูกไก่จะไม่ใช่คนดีเด่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยังมีสกุลรุนช่อง ไม่เหมือน...”
“ไข่มุกไม่ได้ต่ำต้อยกว่าลูกไก่เลยนะแม่ เขาเป็นลูกสาวของปาร์คจินจูครับ”
มณีช็อคอ้าปากค้าง หันไปมองเขมทัต ซึ่งฟังอย่างแปลกใจเหมือนกัน
“อำรึเปล่า เป็นไปได้ไง แล้วนังวันดีแม่มันล่ะ”
“เรื่องจริงครับ วันดีเป็นแม่เลี้ยง”
“ไม่ขำย่ะ ทำอย่างกับนิยาย แล้วเราไปรู้มาได้ไง”
“ไข่มุกบอกผมเอง แต่จริงๆ ก็สงสัยมานานแล้ว ว่าทำไมจินจูถึงได้ดีกับเขา แล้วก็เอ็นดูมากกว่าคนอื่น”
“เป็นไปได้จริงๆ เหรอ”
คีรินทร์พยักหน้าอย่างจริงจัง มณีมองเขมทัต มองคีรินทร์สลับกันแล้วทำท่าตกใจอย่างไม่อยากจะเชื่อ มณีถอนหายใจเฮือก
“แล้วทำไมไม่บอกแต่แรก โธ่ พลาดแล้วชั้น โอ้ยยย คิดแล้วเสียดาย ลูกดาราระดับซุปตาร์เชียวนะ รินทร์นะรินทร์ ทำไมเพิ่งมาบอก”
มณีโวยวายคนเดียว คีรินทร์ยังคงนั่งนิ่ง เขมทัตลอบมองคีรินทร์อย่างเป็นห่วง
ไข่มุกเข็นรถส้มตำ ใส่มาส์กปิดมาก ใส่หมวก เข็นรถผ่านหน้าโปสเตอร์หนังที่ตัวเองเล่น ไข่มุกหยุดมองแววตาเศร้า มีรถตู้วิ่งผ่านไป ในรถมีนุชนารถกับวัฒนานั่งอยู่ แต่ทั้งคู่ไม่ได้สนใจมองมาทางไข่มุก ไข่มุกมองโปสเตอร์อย่างเศร้าใจกับโชคชะตาตัวเอง แล้วเดินเข็นรถต่อไปอย่างไม่ยอมแพ้ชีวิต
รถตู้แล่นมาจอดหน้าบ้านเช่า ซึ่งเป็นบ้านเก่าอยู่ห่างจากบ้านอื่น วัฒนากับนุชนารถลงจากรถมายืนมองไปรอบตัว ซึ่งค่อนข้างเปลี่ยว วัฒนาหันไปถามนุชนารถ
“ที่นี่ดีมั้ย”
นุชนารถยิ้มร้าย
“ดี เงียบ ไกลจากคนอื่น เหมาะเป็นที่ตายของพวกมัน”
นุชนารถกับวัฒนาสบตากัน ต่างคนต่างยิ้มร้าย สีหน้ามีเป้าหมายและเจ้าแผนการ
มณี รัตนา ชลลดา ภัททิมานั่งอยู่ในห้องรับแขก มณีปิดหนังสือพิมพ์แล้วพับเก็บ เหล่ไปมองภัททิมากับชลลดาแบบไม่สบอารมณ์นิดๆ
“เฮ้อ นี่ถ้าไม่ได้อินไซด์ข่าววงในจากริน ก็ไม่รู้ว่าไข่มุกเป็นลูกของปาร์คจินจูจริงๆ เสียดาย ไม่น่าหลวมตัว เอาปลิงตัวแม่ตัวลูกมาแทนเลย เซ้งงงเซ็ง”
“หนูนาคิดถึงพี่มุกจัง”
ชลลดาเบ้หน้า พึมพำเบาๆ
“คิดถึงจัง ยี้ นังเด็กสะตอ”
มณีทำท่าเสียดาย ยังบ่นไม่เลิก
“นี่ไม่รู้ไปอยู่ไหน ตามกลับมาตอนนี้ทันมั้ยเนี่ย คิดแล้วเสียดายจริงๆ”
ชลลดาเห็นท่าไม่ดี รีบพยักเพยิดให้ภัททิมาเข้าไปนั่งประจบ ภัททิมาเดินไปนั่งใกล้ๆ แกล้งทำเสียงอ่อนเสียงหวาน
“แหม คุณแม่ก็ พูดอย่างนี้ลูกไก่กับหลานในท้องแอบน้อยใจนะคะ”
“ชั้นก็พูดไปงั้นแหละ เปลี่ยนไม่ทันแล้วนี่ ผีมาถึงป่าช้าแล้ว” มณีทำหน้าเซ็งมองสบตารัตนา มณีทำเป็นหันซ้ายขวามองหาช้อย “นี่ช้อยหายไปไหนเนี่ย ดู๊ดู บ้านช่องสกปรก ไม่รู้จักจัดการ แขกไปใครมาอายเขาตาย”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวให้ลูกไก่จัดการ แค่งานบ้านชิลๆ แบบนี้ ลูกไก่ทำเป็นทู้กอย่าง”
ภัททิมาหันไปสบตาชลลดาหน้าเหรอ ชลลดาขยิบตา ให้ทำอย่างที่เธอบอกมณี ภัททิมาถอนใจแรงๆ อย่างสุดเซ็ง
ภัททิมากวาดบ้านเร็วๆ พอมณีเผลอก็แอบซุกขยะใต้เก้าอี้
ช้อยยืนชี้นิ้วให้ภัททิมาทอดปลา ภัททิมาทำท่าวี้ดว้ายทอดแบบเอาสองนิ้วจับตะหลิวแหยงๆ ภัททิมาทำท่าทอดปลาจะพลิกปลาแต่ น้ำมันกระเด็น ภัททิมาทิ้งตะหลิวหลบเข้าหลังช้อย ช้อยหน้าเหวอ ยกเอาฝาหม้อกันน้ำมันอย่างกล้าๆ กลัวๆ ภัททิมทำท่าแขยงกลัวน้ำมันกระเด็น มณียืนแอบมองได้แต่ส่ายหน้าเหนื่อยใจ
มณีนั่งเอนหลังอยู่บนโซฟา ภัททิมาทำท่าบีบนวดแขนนวดไหล่อย่างเอาใจ ปากขยับพูดไปเรื่อย มณีสีหน้าเคลิ้มๆ ใกล้หลับ คีรินทร์เดินเข้ามา ภัททิมารีบผละออกไปหาคีรินทร์ทิ้งมณีทันที มณีลืมตาอย่างงงๆ ทำท่ากวักมือเรียกภัททิมา ภัททิมากุมหัวทำเซซบคีรินทร์เหมือนจะเป็นลมให้คีรินทร์ประคอง มณีมองอย่างรู้ทันและหมั่นไส้ในความออดอ้อนของภัททิมา
ทุกคนนั่งประจำโต๊ะอาหาร ภัททิมานั่งติดกับมณี คอยตักกับข้าวให้มณีสลับกับคีรินทร์
“ทานกุ้งนะคะรินทร์ เดี๋ยวลูกไก่แกะเปลือกให้”
เขมทัตวางช้อน
“เรื่องงานแต่ง เตรียมงานเรียบร้อยแล้วใช่มั้ยรินทร์”
“ครับ”
ชลลดาตาวาวทำดี๊ด๊า
“ได้ฤกษ์จดทะเบียนมาวันศุกร์นี้ จดก่อนงานแต่งสองวัน วันแต่งจะได้ไม่ต้องยุ่งหลายอย่าง”
มณีมองอย่างหมั่นไส้
“น้อยๆ หน่อยย่ะ ถามเจ้าบ่าวเขาซะก่อนว่าว่างเปล่า เธอไม่ได้เป็นคนจดนะยะ จะได้คิดเองเออเอง”
“นี่คุณ...” เขมทัตมองปราม คีรินทร์วางช้อน
“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะครับ”
ชลลดาชะงักยิ้มค้าง ทุกคนตกตะลึง
“อ้าว ทำไมล่ะคะ หลวงพี่ท่านอุตส่าห์หาฤกษ์ดีมาให้”
“ผมยังไม่พร้อม”
“แล้วจะพร้อมเมื่อไหร่”
ภัททิมาทำกระแซะคีรินทร์
“รินทร์ขา แต่ตอนนี้ลูกไก่ว่าง ลูกเราได้เกิดมาถูกต้องตามกฎหมายไง”
“ยังก่อน ตอนนี้อยากโฟกัสเรื่องงาน ไว้ให้อะไรลงตัวกว่านี้ ค่อยพูดเรื่องนี้กัน”
“แหม ยังต้องห่วงอะไรอีกคะ อันที่จริง จดให้มันเสร็จเลยก็ดี จะได้ไม่มีปัญหา กะอีแค่เซ็นชื่อนิดเดียว ไม่เห็นต้องรอให้พร้อมอะไรเลย”
คีรินทร์กินข้าวเงียบๆ ไม่ตอบ ชลลดาแสร้งยิ้มหวานแต่สายตาจิกมาก ภัททิมามองอย่างเอือมๆ เซ็งคีรินทร์
จบตอนที่ 14
อ่านต่อตอนที่ 15 พรุ่งนี้เวลา 09.30น.