xs
xsm
sm
md
lg

มายาสีมุก ตอนที่ 11

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


มายาสีมุก ตอนที่ 11

นุชนารถกับไข่มุกยื้อยุดกันไปมา ภัททิมาที่ตัวสั่นค่อยๆ ลุกขึ้น นุชนารถทำท่าจะเข้าไปเอาดรัมเบลทุ่ม

ไข่มุกฉวยแขนแล้วบิดข้อมือ
“โอ๊ย แก ขวางชั้นทำไม”
“คุณลูกไก่ หยิบดรัมเบลออกเร็ว”
ภัททิมาตัวสั่น ส่ายหน้า
“ชั้น ชั้น ไม่เอา ชั้นกลัว”
ภัททิมาวิ่งหนีออกไปทางด้านหน้า ไข่มุกอึ้งไป นุชนารถได้จังหวะบิดมือกลับเหวี่ยงดรัมเบลกระแทกโดนต้นแขนไข่มุก ไข่มุกปล่อยมือมากำแขนด้วยความเจ็บ
“เก่งนักใช่มั้ย” นุชนารถเอาดรัมเบลทุบใส่ขาไข่มุก ไข่มุกลงไปนั่งกับพื้นเพราะความเจ็บ นุชนารถยืนค้ำหัว มองเยาะเย้ย “แกมันโง่ เห็นมั้ย มาช่วยมันแล้วไง นังนั่งเปิดแน่บทิ้งแกไปแล้ว ฮึ ทำตัวเป็นแม่พระไปเหอะ ชั้นจะคอยหัวเราะ สมน้ำหน้าแกตอนมันแต่งกับรินทร์”
นุชนารถถีบไข่มุกเข้าที่ไหล่ซ้ำรอยเดิม แล้ววิ่งออกไป ไข่มุกได้แต่มองตาม นอนขดตัวลุกไม่ขึ้นเพราะเจ็บทั้งแขนและขา

สาวๆ ยืนอยู่ที่แผงลอยหน้าโรงแรม กัสจังยืนหน้านักข่าว
“วันนี้เราพาสาวๆ มาเที่ยวและบำเพ็ญประโยชน์ที่ตลาดแผงลอยหน้าโรงแรม ที่ได้จัดระเบียบใหม่จนเริ่ดอย่างที่เห็น เป็นการโปรโมททั้งคนทั้งที่ไปในตัวนะฮะ เดี๋ยวยังไงเชิญพี่ๆ นักข่าวถ่ายรูป ชิม ช็อป เก็บภาพน้องๆ ได้ตามสะดวกฮ่ะ”
ไข่มุกมองออกไปที่แผงวันดี วันดีทำท่าจะโบกมือให้แต่นึกได้ รีบก้มหน้าก้มตาทำเป็นยุ่ง ตำส้มตำหลบมุม
สาวๆ คนอื่นเริ่มเป็นแบบให้ถ่ายรูป ชลลดากับภัทมองหน้ากัน ยิ้มหน้าตามีแผนร้าย ภัททิมาเดินไปที่แผงวันดี
“อุ๊ย ไม่ไปกอดลูกสาวโชว์สื่อหน่อยเหรอ”
“อย่ามายุ่งกับชั้น คนกำลังทำงาน”
ชลลดายิ้มเยาะ เดินไปดึงวันดีมา
“กลัวลูกอายเหรอ ฮะฮะ หลบทำไม เป็นแม่แท้ๆ ทีหลอกลวง เอาลูกมาขัดดอกเป็นคนใช้ ไม่เห็นอาย”
“อะไรวะ หาเรื่องเหรอนังคุณนาย”
วันดีปัดมือออก ชลลดาเข้าไปจับกับภัททิมาคนละข้างแล้วจะลากวันดีออกมา
“พี่ๆ นักข่าวค้า มาถ่ายรูปกันเร็ว”
“ว้าย อะไรกัน เข้าไปห้ามเร็ว ใครก็ได้”
ไข่มุกจะเข้าไปช่วย วันดีถลึงตา
“ไม่ต้อง แค่นี้จัดให้เองได้”
วันดีเหวี่ยงภัททิมาไปชนรถเข็น แล้วถีบชลลดาใส่เตาปิ้งไก่ ชลลดาหยุดทัน หันมาเงื้อมือจะตบ ไข่มุกแทรกเข้ามา
“อย่าทำอะไรแม่ชั้น”
วันดีชะงัก ดึงเสื้อไข่มุก
“นังมุก เดี๋ยวคะแนนหดหรอก ออกไปเร็ว” ชลลดายิ้มเยาะ
“ยอมรับแล้วเหรอ หึ นึกว่าจะแกล้งทำเป็นไม่รู้จัก แอ๊บๆ เนียนๆ ลืมกำพืด ลูกแม่ค้าส้มตำ”
“ชั้นไม่เคยลืม แล้วแม่ชั้นไม่เคยทำร้ายใครเหมือนพวกจิตใจสกปรกบางคน ไม่เห็นต้องอายอะไร”
ชลลดาเดินไปหยิบสากมา
“ไม่อาย ตำโชว์นักข่าวหน่อยเป็นไง ไหนว่าลีลาสะเด็ดเจ็ดย่านน้ำ”
ไข่มุกมองไปรอบๆ ทุกคนลุ้นมาก วันดีแอบดึงเสื้อห้าม แต่ไข่มุกยิ้มปลอบใจ ไข่มุกเอื้อมไปจับสาก สบตาชลลดา
ไข่มุกตำส้มตำประกอบเพลงมันๆ มีกัสจังเต้นเชียร์สุดฤทธิ์ นักข่าวถ่ายรูปแฟลชวูบวาบ ชลลดากับภัททิมาทำหน้าเซ็ง ผิดคาดที่นักข่าวชอบ กีกี้มองเหยียดแต่ไม่ได้พูดอะไร ไข่มุกควงสากรำเข้าจังหวะเพลงแล้วโยนสากขึ้นบนฟ้า หมุนตัวกลับมารับได้พอดีแล้วตำต่อ นักข่าวถ่ายรูปส่งเสียงฮือฮา
“ไข่มดของเจ๊ สุดยอดด”
ไข่มุกหันหลังกลับมาควงสากอย่างรวดเร็ว
“ยิ้มหน่อยน้อง คนอะไรทั้งสวยทั้งเก่ง ยิ้มหวานๆ นะ”
ไข่มุกยิ้ม นักข่าวถ่ายรูปกัน ไข่มุกตักส้มตำใส่จานยื่นให้นักข่าวถ่ายรูป แสงแฟลชวูบวาบสลับเสียงชัตเตอร์

รูปไข่มุกกับส้มตำปรากฎอยู่บนหนังสือพิมพ์ กับข้อความพาดหัวว่า “ว่าที่นางเอก ยอดกตัญญู” มณีพับหนังสือพิมพ์ลงแล้ววางบนโต๊ะแรงๆ อย่างขัดใจ
“นี่ไง เมียเก่าแก ลงหน้าหนึ่งหราอย่างงี้ อายมั้ยล่ะ”
“อายตรงไหน ภาพถ่ายออกมาก็สวยดีนี่แม่”
เขมทัตหยิบมาดูกับรัตนา
“นักข่าวเขียนชมใหญ่ ว่าเป็นลูกกตัญญู แถมยังเก่ง เข้าท่านะหนูไข่มุกเนี่ย”
“พี่มุกส้วยสวย หนูนาคิดถึงจัง” มณีทำท่าจิ๊จ๊ะ
“จ้า ดีเลิศประเสริฐศรี ยังไงก็แค่แม่ค้าส้มตำ อย่าปลื้มให้เว่อร์ไปหน่อยเลย สร้างภาพขายข่าวกันมากกว่า เก๋ตายล่ะ”
“คนเราเลือกเกิดไม่ได้ไม่ใช่เหรอครับแม่”
“ย่ะ แต่ยังไงชั้นก็รับไม่ได้ ที่จะมีสะใภ้แบบนี้ ขอเหอะ มีก็ให้ดีๆ เท่าเทียมกันหน่อย ไม่ใช่ไปคว้าใครมาก็ไม่รู้”
เขมทัตส่ายหัวในความเว่อร์ของมณี
“พูดอย่างงี้ นี่แสดงว่าตกลงจะให้นายรินทร์แต่งงานกับลูกไก่สินะ”
มณีอึ้งสนิท ทำท่าคิดหนัก ไม่ค่อยอยากเท่าไหร่

ภายในห้องโถงของโรงแรมจัดเป็นเวทีสูงยกพื้น แทยอน จินจู ซอนซานั่งประจำโต๊ะกรรมการ คธายืนอยู่ไม่ไกล ชลลดา คีรินทร์ มณี เขมทัต ยืนอยู่ในกลุ่มคนดูหน้าเวที ช้อยเข็นรัตนาที่ยิ้มแป้นมาดูด้วย พิพัฒน์หลบอยู่อีกมุม กัสจังรับหน้าที่เป็นพิธีกร
“เอาล่ะฮ่ะ รอบนี้จะเป็นรอบเก็บคะแนนจริง เพื่อเฟ้นหาสุดยอดนางเอกของเรา ที่ต้องครบเครื่องทุกด้าน และเราจะแข่งขันกันสามประเภท ทั้งทักษะการแสดงบทบู๊ การเต้น และร้องเพลง โดยจะเริ่มเก็บคะแนนของประเภท ทักษะการแสดงบทบู๊ ณ บัดนี้ฮ่ะ”
สิบสาวตั้งท่าเตรียมบู๊ ไข่มุกขยับขานิดๆ อย่างรู้สึกเจ็บขึ้นมาแต่ยังตั้งท่าสวยมั่นใจ สิบสาวเริ่มท่าแรกอย่างพร้อมเพรียง กีกี้กระโดดเตะต่อยออกท่าทางได้อย่างทะมัดทะแมง จินจู ซอนซา แทยอน กดเก้าคะแนนรวด ไข่มุก กระโดดเตะต่อยได้ดีเหมือนกันแต่พอลงพื้นเซนิดๆ เหมือนเสียจังหวะขาพลิก
“เฮ้ย หนูมุกเป็นอะไรเปล่า ดูเซๆ นะ”
คีรินทร์ไม่ตอบ แต่มองอย่างเอาใจช่วย รัตนาหันไปหาช้อย พยักหน้าให้กัน ยกป้ายไปขึ้นมาเชียร์ เขียนว่า “พี่ไข่มุก สู้ๆ”
“พี่มุกสู้ๆ พี่มุกสู้ๆ”

จินจูมองมุกอย่างกังวลนิดๆ รู้ว่าผิดฟอร์มไป พอให้คะแนน ซอนซา จินจูกดแปด แทยอนกดเก้า กีกี้มองอย่างเหยียดนิดๆ ทำท่าเยาะว่าท่าแรกชนะ แองจี้กับน้องแพรว ที่บู๊อย่างเก้ๆ กังๆ แองจี้ดีแต่โพสท์เซ็กซี่ น้องแพรวก็ออกแรงแบบกลัวๆกรรมการให้คะแนน ประมาณห้าถึงหก

สาวๆ ถือดาบเตรียมพร้อมในท่าสอง ภัททิมารำดาบผิดๆ ถูกๆ แทงไปแทงมาทำดาบหล่น พิพัฒน์ขยับตัวอย่างกังวล ชลลดาเห็นพิพัฒน์ก็ชี้หน้า พิพัฒน์หน้าซีด ถอยกรูดไปซ่อนในที่ผนังด้านหลัง ภัททิมายิ้มแหย หยิบดาบขึ้นมาโยนจะรับแต่พลาดหล่นใส่หัว

“ โอ๊ย เจ็บ ฮือๆ”
ภัททิมาทำสำออย ลงจากเวทีทั้งที่ยังไม่เสร็จ แทยอน จินจู ซอนซา มองตากัน ให้ห้าคะแนนรวด บนเวทีกีกี้รำดาบคล่องแคล่ว โยนแล้วรับออกมาตั้งท่าได้สวยมั่นใจ มองไข่มุกอย่างท้าทาย กรรมการให้คะแนน ซอนซาให้เก้า แทยอนกับจินจูให้แปด
ไข่มุกขยับเท้า ทำท่าฮึดสู้ รำดาบอย่างแข็งแรงผสานอ่อนช้อยอย่างลงตัว ไข่มุกโยนดาบแล้วตีลังกากลับหลัง“ดีมากนังหนู สู้ๆ”
“สุดยอด” คีรินทร์พูดแบบทึ่งๆ
ไข่มุกตีลังกากลับมาแล้วรับดาบ โพสท์ท่าจบได้อย่างสวยงาม จนทุกคนปรบมือ ซอนซา จินจู แทยอน กดให้เก้ารวด กีกี้กับไข่มุกหันมองกันอย่างไม่มีใครยอมใคร
สิบสาวตั้งท่าสุดท้าย กีกี้ทำท่าบู๊อย่างตั้งใจ ท่าทางทะมัดทะแมง เตะขารัวคล่องแคล่ว ซอนซาแทยอนกดเก้า จินจูกดแปด
ไข่มุกกระโดดเตะรัวขาได้สูสี แต่มีเอียงวูบไปบ้าง แต่ไข่มุกก็กัดฟันบู๊ต่อ คีรินทร์มองอย่างให้กำลังใจ รัตนากับช้อยทำท่าเชียร์สุด ซอนซากดแปด แทยอนกดเก้า จินจูสบตาไข่มุกแล้วหลับตากดเลขแปด รัตนากับช้อยทำท่าเหี่ยว
คีรินทร์มองมุกอย่างนึกห่วง กัสจังขึ้นบนเวที
“แหม แค่ยกแรก เอ๊ยประเภทแรกก็กินกันไม่ลงแล้ว ขอแสดงความยินดีกับคุณกีกี้ด้วยนะฮะ”
ทุกคนตบมือให้กีกี้ กีกี้ยิ้มอย่างดีใจมาก หันไปมองไข่มุก ไข่มุกตบมือให้ยินดีจากใจจริง มีแต่ภัททิมาที่ทำท่าเหมือนไม่ค่อยเต็มใจตบ

สิบสาวบนเวทีเต้นกังนัมสไตล์ผสมกับท่าอื่นอย่างสนุกสนาน บรรยากาศข้างล่างก็ไม่แพ้กัน มณีกับช้อยออกลวดลายเต้นไม่สนใคร รัตนายกป้ายไฟชูเย้วๆ สิบสาวแต่งตัวสวยหลากสไตล์ แองจี้เซ็กซี่ กีกี้ทะมัดทะแมงเซ็กซี่เล็กๆ น้องแพรวใส่พองๆ ฟูๆ ภัททิมาใส่เซ็กซี่สูสีกับแองจี้ ไข่มุกใส่รัดรูปแบบน่ารัก เอวลอยนิดๆ เต้นกันอย่างสนุกสนาน กัสจังถือไมค์ข้างเวทีแอบเต้นด้วย
แองจี้กับน้องแพรวเต้นไปเต้นมาชนกันเองบ้างเหยียบเท้ากันบ้าง มีหันหน้ามองกัน กรรมการให้คะแนนกลางๆ
ภัททิมาเต้นแบบเซ็กซี่เล็กๆ แต่แอบมีเป๋ๆ เต้นคร่อมบ้าง ช้าบ้าง กรรมการให้คะแนนค่อนข้างน้อย กีกี้เต้นได้อย่างดีมาก ทั้งสวยทั้งเป๊ะ ซอนซากดให้สิบ แทยอนให้สิบ จินจูให้เก้า ไข่มุกเต้นแบบมั่นใจและคล่องแคล่ว มีนิ่วหน้าเพราะความเจ็บบ้างแต่ยังฝืนยิ้มสู้ คีรินทร์มองสบตาไข่มุกอย่างให้กำลังใจ
“พี่ไข่มุกสวยที่สุดเลย” รัตนาชูป้ายไฟ ชลลดาเบ้หน้า ทำเป็นเมิน
“ต้องให้ได้อย่างงี้สิ ถึงจะมันหน่อย” เขมทัตบอก
กรรมการกดคะแนน จินจูกดสิบ แทยอนกดสิบ ซอนซามองแล้วพยักหน้ากดให้สิบคะแนน ทุกคนตบมืออย่างให้กำลังใจไข่มุก ในบรรยากาศสนุกสนาน กีกี้มองไข่มุกอย่างไม่ยอมแพ้ แต่ก็ตบมือให้
“รอบร้องเพลง ชั้นไม่ยอมแพ้แน่” กีกี้กระซิบกับไข่มุก
“ชั้นก็ไม่ยอมเหมือนกัน”

กัสจังยืนอยู่บนเวที
“ตอนนี้เรามีผู้ประกวดที่มีคะแนนเท่ากัน อย่างเป็นทางการสองคน คือคุณไข่มุกและคุณกีกี้ ให้ทั้งสองคนไปเตรียมตัวแป๊บนึงก่อนนะฮะ เพราะรอบต่อไปจะตัดสินแพ้ชนะ ด้วยเสียงร้องแบบเพียวๆ อดใจรอแป๊บเดียวฮะ”
กัสจังโค้งให้คนดู คีรินทร์มองไปทางด้านหลังเวที มองแล้วยิ้มนิดๆ
ด้านหลังเวทีไข่มุกนั่งอยู่คนเดียว สีหน้าเครียดนิดๆ คีรินทร์แอบมองทางประตูแล้วเดินเข้ามานั่งข้างๆ โอบไข่มุก
“ไง คนเก่งเครียดเหรอ”
ไข่มุกบีบมือตัวเองแน่น
“ชั้นว่าไม่นะคะ แต่ทำไมมือสั่นก็ไม่รู้” คีรินทร์นั่งลงข้างๆ
“ชั้นมีวิธีช่วยแก้ได้ อยากรู้มั้ย” ไข่มุกพยักหน้า “แบมือแล้วยื่นออกมาสิ”
ไข่มุกแบมือ ค่อยๆ ยื่นมือสั่นๆ ออกไป คีรินทร์จับมือสองข้าง คีรินทร์ค่อยๆ จูบที่มือไข่มุก
“อุ๊ย คุณรินทร์”
“ได้ผลทันทีเลย เจ๋งมั้ยล่ะ”
คีรินทร์จับมือไข่มุกที่หยุดสั่นแล้ว คีรินทร์ดึงไข่มุกเข้ามากอดหอมที่หน้าผาก
“ใจเย็นแล้วใช่มั้ย จากนี้ไปก็ทำให้เต็มที่ เหมือนที่ฝึกซ้อมมา ไม่มีอะไรต้องกลัวแล้ว” ไข่มุกยิ้มนิดๆ
“ไม่รู้ทำไม ฟังคุณพูดแล้วรู้สึกเหมือนสบายใจ ยังไงไม่ถูกคะ”
“ก็ชั้นเป็นกองเชียร์เบอร์หนึ่งของเธอนี่ ถึงจะไม่ได้มีป้ายไฟแบบหนูนาก็เหอะ”
“ขอบคุณนะคะ ชั้นจะไม่ทำให้แฟนคลับคนแรกผิดหวังแน่นอน”
คีรินทร์ยิ้มหวาน กอดไข่มุก
“รอเธอเป็นซุปตาร์ก่อนเหอะ แล้วค่อยมาพูด สู้มั้ย”
ไข่มุกสบตา ยิ้มอย่างฮึดสู้
“สู้”
คีรินทร์ขยี้ผมเบาๆ อย่างเอ็นดู
“ชั้นรู้ว่าเธอทำได้”
ไข่มุกมองอย่างขอบคุณ คีรินทร์ค่อยๆ ก้มลงมาแล้วจูบหน้าผากเบาๆ ด้วยความรัก

คธาเล่นเปียโนไปโยกตัวไปอย่างสนุก กีกี้กับไข่มุกร้องแบทเทิลกันในเพลงเร็วจังหวะกลางๆ ไข่มุกกับกีกี้ร้องไปเต้นไปอย่างสนุกสนาน ด้านล่างมีรัตนาชูป้ายไฟ ช้อยกับมณีช่วยร้องช่วยเต้นแบบอินมาก สาวๆ ที่เหลืออยู่ข้างๆ เวที ภัททิมาฟังแล้วทำปากยื่นใส่
“ไม่เห็นจะเพราะเลย ชั้นยังร้องดีกว่า”
น้องแพรว แองจี้เบะปาก พูดพร้อมกัน
“เหรอออ”
จินจู แทยอน ซอนซา นั่งเคาะจังหวะตามเพลงอย่างสนุกไปด้วย คีรินทร์สบตากับไข่มุก ไข่มุกยิ้มให้นิดๆ คีรินทร์ยิ้มกลับแบบให้กำลังใจ คธาเล่นเปียโนจบลง เสียงตบมือดังทั่วห้อง กัสจังออกมาหน้าเวที
“นี่แค่เรียกน้ำย่อยนะฮะ อีกสักครู่จะให้น้องๆ ทั้งสองคน แข่งรอบตัดสินด้วยเพลงช้าที่เลือกกันมา เองแน่นอนค่ะว่ารอบนี้นักเปียโนสุดหล่อของกัส เอ๊ย ของเรา จะเป็นหนึ่งในคณะกรรมการ ด้วยฮ่า”

กัสจังทำท่าตบมือ มองไปทางคธาหยาดเยิ้ม คธายิ้มนิดๆ แล้วหลบตา

ไข่มุกนั่งทำสมาธิอยู่หลังเวที แต่สีหน้ามั่นใจขึ้น จินจูเดินเข้ามา มองไข่มุกยิ้มๆ

“หนูทำได้ดีมาก”
“เพราะคุณคธากับคุณกีกี้ด้วยค่ะ”
ไข่มุกยิ้มหวานให้ จินจูตบบ่าเบาๆ
“ไม่ใช่ เพราะตัวหนูเองต่างหาก สงสัยได้กำลังใจดีจากบางคนด้วยมั้ง เห็นยืนเชียร์ติดเวทีเลยนี่” ไข่มุกเขิน
“คุณคีรินทร์เขามาดูเพราะเป็นงานคะ”
“คงใช่หรอก เห็นท่าทางก็รู้แล้ว” จินจูสบตาไข่มุกนิ่ง “พยายามเข้านะไข่มุก อีกนิดเดียวความฝันจะอยู่ในมือแล้ว”
จินจูบีบไหล่อย่างให้กำลังใจ รัตนากดรถเข็นแล่นเข้ามา มีช้อยตามหลัง รัตนาทำท่าชูป้ายไฟ ยิ้มแย้มเต็มที่
“พี่ไข่มุกร้องเพลงเพร๊าะเพราะค่ะ สวยที่สุดด้วย ป้ายไฟสวยมั้ยคะ หนูนาให้ป้าช้อยทำให้ค่ะ”
“ป้าเอาปัญญาที่ไหนมาทำคะคุณหนู จ้างคนขับรถนู่น เออ หนูมุก วันนี้สวยสะบัดเลย มีแววจะได้ที่หนึ่งแหงๆ อย่าลืมป้านะ”
“ไม่ลืมหรอกจ้ะป้า”
“พี่รินทร์บอกว่าจองแฟนคลับคนแรกไปแล้ว งั้นหนูนาเอาคนที่สองนะคะ”
ไข่มุกหอมแก้มรัตนา ทั้งสองคนหัวเราะด้วยกัน ช้อยทำท่าเพ่งเห็นจินจูมองช็อคตาค้าง จินจูยิ้มนิดๆ แล้วโอบไข่มุกกับรัตนากอดไว้ กระซิบข้างหูไข่มุก
“รอบนี้พยายามให้เต็มที่นะ ทุกคนรอดูหนูอยู่”
ไข่มุกยิ้มให้จินจู จินจูยิ้มตอบอย่างให้กำลังใจและเชื่อในตัวไข่มุก ช้อยมองจินจูอย่างตะลึงในความสวย

พิพัฒน์เดินลับๆ ล่อ มองเข้าไปข้างในด้านหลังเวทีเหมือนจะหาใคร ชลลดาเดินเข้าไปสะกิด พิพัฒน์หันมาหน้าเหวอรีบยกมือไหว้
“คะ คุณแม่ หวัดดีครับ”
“ใครแม่ยะ นี่แกมาได้ยังไง จะมาก่อความวุ่นวายป่วนลูกสาวชั้นเหรอ”
“เปล่าครับ ผมทำงานที่โรงแรมนี้ เห็นลูกไก่เลยอยากคุยด้วย”
“ไม่ต้อง ไสหน้าไปไกลๆ เลย ถ้าแกคิดปูดเรื่องแกกับลูกไก่ ชั้นจะฆ่าแก”
พิพัฒน์ยกมือไหว้ท่วมหัว
“ไปแล้วครับ ไม่ปูด ไม่วุ่นวาย จะไปลาออกเดี่ยวนี้ล่ะครับ” พิพัฒน์ทำท่าจะออกไป
“เดี๋ยว แล้วแกมาทำงานที่นี่ได้ยังไง”
“ผมให้ไข่มุกฝากให้ แต่แม่ไม่ต้องห่วงครับ ลาออกจัดการเองได้”
ชลลดานิ่งคิด พิพัฒน์ทำท่าจะหลบไป ชลลดาคว้าคอไว้ พิพัฒน์รีบยกมือไหว้
“ไม่ต้องลาออก แกอยู่ต่ออาจจะมีประโยชน์ก็ได้”
“ประโยชน์อะไรครับ”
“ไม่รู้ นึกไม่ออก รอดูไปก่อน แต่ต้องได้ใช้แน่”
ชลลดายิ้มร้ายอย่างมีแผน พิพัฒน์มองแล้วแอบกลืนน้ำลายอย่างกลัวๆ

กีกี้รองเพลงท่อนจบ คนดูตบมือเกรียวกราว จินจูให้เก้า แทยอนให้เก้า ซอนซามองหน้าจินจูอย่างท้าทายแล้วกดคะแนนเต็มสิบ กัสจังยืนอยู่ข้างเวทีถือไมค์
“และต่อไป เป็นสาวน้อยเสียงใส ผู้มากด้วยความสามารถ คุณไข่มุกฮ่า”
คธาพรมบนเปียโน ไข่มุกในชุดสวยยิ้มหวาน ร้องเพลงช้าอย่างไพเราะและซึ้งมาก คนดูเคลิ้มกับเสียงเพลงของไข่มุกทุกคน สาวๆ ที่เข้าประกวดก็ฟังอย่างอินมาก กีกี้มองไข่มุกสายตาเป็นกังวล ไข่มุกร้องไปก็สบตาคีรินทร์ยิ้มหวานจนเพลงจบ ซอนซากดเก้าแล้วมองหน้ายักคิ้วใส่จินจู แทยอนกดเก้า จินจูมองซอนซานิ่งแล้วกดเต็มสิบ ยิ้มนิดๆ อย่างตั้งใจตอกหน้าซอนซา ซอนซาแอบถลึงตาใส่
ไข่มุกกับกีกี้ยืนคู่กันบนเวที
“ตอนนี้คะแนนของผู้เข้าแข่งขันของเราเท่ากันอยู่นะฮะ ดังนั้น เราจะมีกรรมการพิเศษที่จะเป็นผู้ตัดสิน ว่าใครจะได้เป็นสุดยอดนางเอกของเรา เชิญคุณคธาฮ่า”
คธาลุกจากเปียโน ถือช่อดอกไม้มา กีกี้มองอย่างลุ้น ไข่มุกมองอย่างไม่แน่ใจ คีรินทร์แอบสบตาให้กำลังใจจนไข่มุกยิ้มออกมาได้ คธามาหยุดหน้าไข่มุกแล้วยื่นช่อดอกไม้ให้
“ขอแสดงความยินดีด้วยครับ คุณไข่มุก”
ไข่มุกรับมาอย่างอึ้งๆ กีกี้มองช่อดอกไม้ในมืออย่างยอมรับแล้วมองหน้าไข่มุก ยิ้มให้นิดๆ
“ดีใจด้วยนะ แต่ถ้ามีคราวหน้า ชั้นไม่แพ้แน่”
คนดูยังอึ้ง นิ่งไป คีรินทร์ลุกขึ้นยืน ปรบมือเสียงดัง คนดูอื่นๆ ค่อยๆ ยืนปรบมือให้ไข่มุกอย่างยินดี รัตนายกป้ายไฟขึ้นสูง
“เย้ๆๆๆ พี่มุกชนะแล้ว”
ภัททิมากับชลลดาที่อยู่ด้างข้างทำหน้าเจ็บใจมาก
“คุณแม่ นังมุกมันได้ทั้งนางเอก ทั้งคุณรินทร์เลย ลูกไก่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน โธ่ เส้นแหงๆ ไม่งั้นหนูชนะไปแล้ว”
“ไม่เป็นไร ถึงเราจะแพ้เวทีนี้ แต่หนูต้องได้แต่งงานกับคีรินทร์แน่”
ชลลดายิ้มร้ายใส่ มองไปทางไข่มุกอย่างมีแผน ไข่มุกบนเวที มองไปรอบๆ แล้วน้ำตาค่อยๆ ไหลอย่างปลื้มใจ
สบตากับคีรินทร์ที่ยิ้มกว้าง ไข่มุกยิ้มตอบอย่างขอบคุณมาก

แทยอนอยู่ที่บนเวทีแถลงข่าว มีนักข่าวมารออยู่ข้างหน้ามากมาย
“ตอนนี้ ภาพยนตร์ร่วมทุนสร้างระหว่างไทย-เกาหลี ได้คัดเลือกนางเอกที่จะมาแสดงประกบกับ คุณ ปาร์คจินจู ซุปเปอร์สตาร์ของเราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยนางเอกหน้าใหม่ ฝ่ายไทยได้แก่ คุณไข่มุกครับ”

ไข่มุกกับจินจูในชุดฮันบก เดินออกมา นักข่าวถ่ายรูปแสงแฟลชวูบวาบ ไข่มุกกับจินจูมองสบตายิ้มให้กัน แล้วหันไปยิ้มให้กล้องอย่างอ่อนหวาน คีรินทร์มองนิ่งอย่างยิ่งหลงรัก แทยอนเดินไปหาจินจู ยื่นแขนให้เกาะ เพื่อพาเดินมาหน้าเวทีที่นักข่าวรอกันอยู่เต็ม กัสจังสะกิดคีรินทร์ คีรินทร์เดินไปหาไข่มุก ยื่นแขนให้เกาะ พาเดินมายืนเคียงข้างจินจูและแทยอน นักข่าวถ่ายภาพกันแสงแฟลชวูบวาบ คีรินทร์หันมาสบตายิ้มให้ไข่มุกอย่างอ่อนหวาน ไข่มุกเองก็สบตาตอบอย่างมีความสุขมาก ท่ามกลางความอิจฉาของสามสาว และชลลดากับภัททิมา

คธาเปิดแชมเปญ รินให้ไข่มุกและจินจู สามคนชนแก้วกัน
“ขอแสดงความยินดีกับนางเอกคนใหม่ของวงการครับ” ไข่มุกเขิน
“ขอบคุณมากค่ะคุณอา ตอนประกาศผล หนูตื่นเต้นซะหัวใจแทบวาย ดีใจที่สุดในโลก ไม่ใช่ดีใจที่ได้เป็นนางเอกนะคะ แต่ดีใจที่จะได้เล่นหนังกับซุปตาร์ในดวงใจ”
จินจูยิ้มให้อย่างปลื้มใจ
“ชั้นดีใจมากกว่าหนูอีก คนเก่งอย่างเธอ สมควรได้รับโอกาสที่ดีที่สุดแบบนี้ ดีใจด้วยนะ”
“ขอบคุณค่ะ”
จินจูกอดไข่มุก ที่ยิ้มดีใจ
คีรินทร์เดินมาหยุดหน้าห้องพักไข่มุกแล้วกดกริ่งเรียก ขณะนั้นไข่มุกเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เตรียมเก็บของ ได้ยินเสียงกริ่งก็เดินมาเปิดประตู ไข่มุกมีสีหน้าแปลกใจเมื่อเห็นคีรินทร์ยืนยิ้ม ยื่นช่อดอกไม้
“ดีใจด้วยนะ”
ไข่มุกยิ้มรับอย่างดีใจ
“สวยจัง ขอบคุณมากคะ”
“เธอทำสำเร็จแล้ว นางเอกคนใหม่”
“ที่สำเร็จได้ ก็เพราะมีคุณคอยให้กำลังใจด้วย”
“ต่อไปคง...ไม่มีไข่มุกคนเดิมอีกแล้ว”
ไข่มุกนิ่งไป สีหน้าสลดลง
“ค่ะ จะไม่มีไข่มุกคนที่หลอกลวงคุณอีกแล้ว”
คีรินทร์อึ้งทำฝืนยิ้ม
“เป็นดาราดังแล้ว เจอกันก็ทักบ้างนะ แล้วอย่าเผลอไปหลอกไอ้หนุ่มคนไหนอีกล่ะ ทำให้ผู้ชายช้ำใจ ไม่ดี รู้เปล่า” ไข่มุกพยักหน้า พยายามจะยิ้มกับคำแซวของคีรินทร์ แต่ยิ้มไม่ค่อยออก “ไปนะ” คีรินทร์ทำจะเดินไป แล้วนึกได้ หันกลับมาจุ๊บหอมแก้มไข่มุกที่ยืนนิ่งให้หอมแต่โดยดี “จุ๊บให้กำลังใจ ขอให้โชคดีกับชีวิตใหม่นะไข่มุก”
“ขอให้คุณโชคดีกับคุณลูกไก่เช่นเดียวกันคะ”
คีรินทร์มองนิ่งเหมือนคิดอะไรในใจ แล้วเดินไป ไข่มุกมองตาม น้ำตาหยด

ไข่มุกเดินมาหน้าบ้านวันดีด้วยสีหน้ายิ้มแย้มดีใจ ผ่านแคร่ที่เม่นนอนเมา เม่นเอียงคอ รี่ตามองไข่มุกที่เดินผ่านไป วันดีอยู่ในบ้านนั่งล้างถั่วฝักยาวในกะละมัง มือป้ายเหงื่ออย่างเหนื่อยล้า ไข่มุกเดินยิ้มย่องมาข้างหลัง แล้วกอดอย่างอารมณ์ดี

“แม่ ชั้นได้เป็นนางเอกแล้ว ต่อไปแม่ไม่ต้องเหนื่อยแบบนี้อีก”
วันดียิ้มตาโต หันหาไข่มุก
“ได้ที่หนึ่งเหรอ แม่เจ้าโว้ย ข้าได้เป็นคุณนายวันดี แม่นางเอกเงินล้านแล้วเหรอนี่ ไหนได้มาเท่าไร เอามาดูซิ”
ไข่มุกหยิบซองธนบัตรห้าแสนยื่นให้วันดี วันดีฉวยเปิดดู ตาค้าง ดมในซอง หลับตายิ้มพริ้ม เอาซองซบที่หน้าอก “เงินเป็นปึกๆ กลิ่นมันหอมจริ๊ง” เม่นเมาหน้าแดงก่ำ แอบมองที่มุมบ้าน ทำตาโต เช็ดน้ำลาย “ตั้งแต่เกิดมาไม่นึกว่าจะได้เห็นเงินก้อนโตขนาดนี้ โอย รวยแล้วคุณนายวันดี มีความสุขจริงเว้ย”
ไข่มุกยิ้มดีใจรีบบอกแม่
“นี่ห้าแสน อีกล้านนึงต้องเล่นหนังก่อน ถึงจะได้นะ”
“งั้นรีบไปเล่นวันนี้เลย แม่อยากกอดเงินล้าน ก้อนนี้เอาไปซ่อนก่อนเดี๋ยวไอ้แก่เมากลับมา จะเป็นเรื่อง”
วันดีกำเงินแน่น รีบลุกจะเอาเงินไปซ่อน เม่นโผล่มา แค่นยิ้มหมายมาด วันดีชะงัก รีบซ่อนเงินไว้ด้านหลัง เม่นสะอึก กระดิกนิ้ว พูดเสียงเมา
“ส่งมาซะดีดี๊ ให้ผัวรักเก็บไว้ดีฝ่า”
วันดีแผดเสียงใส่
“เก็บอะไร ไม่มีทั้งนั้น เอ็งจะเมาที่ไหนก็ไป ไปให้พ้น”
เม่นทำขึ้นเสียง เดินปรี่แต่เซไปมา เตะกะละมังล้างผักขู่ น้ำกระจาย เข้ามายื้อแย่งซองเงินจากวันดี
“หือเหรอ นังนี่ ซ่อนเงินผัว ข้าไม่ได้ตาบอดนะ เดี๋ยวปั๊ด สักฉาด”
เม่นเงื้อมือจะตบ วันดีหลบ เม่นเซไปมาอย่างเมา ไข่มุกรีบเข้าไปช่วยวันดี
“พ่อ ปล่อยแม่นะ ชั้นขอละ ตบตีกันอยู่ได้”
เม่นเหวี่ยงแขนโดนไข่มุกจนเซออกมา เม่นแย่งซองไปได้ วันดีแย่งกลับ รีบโยนซองเงินให้ไข่มุก
“ไอ้มุก เก็บไว้ให้แม่ก่อน”
ซองเงินลอยมา ไข่มุกรับไว้ เม่นหันมาทางไข่มุก เดินเซมาแย่งซองเงิน ไข่มุกหลบไปมา ชาวบ้าน 2-3 คน โวยวายเข้ามาดู เม่นโมโหขึ้นเสียง
“ข้าบอกให้เอามานี่ ให้แม่เอ็ง มีแต่หมดกับหวย”
ไข่มุกโยนซองกลับให้วันดี
“ไว้กับพ่อก็หมดกับเหล้า แม่รับไว้ซิ ชั้นเอามาให้”
ซองเงินลอยกลับมา วันดีอ้าแขนจะรับเงิน เม่นกระโจนจะเอาเงินที่ลอยในอากาศ ตะโกนลั่น“เฮ้ย เงินข้า”
วันดีเห็นเม่นพุ่งจะถึงตัว ยกเข่าสูงกันไว้ แต่เข้าหน้าท้องเม่นอย่างไม่ตั้งใจ เม่นจุก ตาเหลือก เซถลาไปเหยียบเข้ากะละมังล้างผักเต็มขา ลื่นหัวไปฟาดขอบประตูอย่างแรง หมดสติ ซองเงินหล่นมาทับที่หัวเม่น วันดีอึ้ง อ้าปากค้างอย่างตกใจ รีบวิ่งเข้าไปหยิบซองเงินเก็บ ถอยออกอย่างกลัว ไข่มุกรุดดูเม่น เขย่าตัว
“พ่อ เป็นไรไป ตื่นซิ” ไข่มุกเห็นเลือดซึมออกมาที่หัว ตกใจมือสั่น เอามือไปอังจมูกดูลมหายใจก็อึ้ง หน้าเสีย หันมาบอกวันดี “แม่ พ่อไม่หายใจ”
วันดีช็อค ชาวบ้านพากันฮือฮาอย่างตกใจ ซุบซิบกันชี้ที่วันดี
“นังวันดีฆ่าผัวตายแล้ว”

วันดีโวยวายถูกตำรวจลากตัวมาที่สถานีตำรวจ วันดียื้อถูลู่ถูกัง ไม่ยอมเข้าห้องขัง ไข่มุกที่เดินตามมาช่วยยื้อไม่ยอมให้แม่โดนจับ
“ชั้นไม่ผิดนะคุณตำรวจ จับมาทำไม มันหกล้มหัวฟาดพื้นตายเอง ชั้นไม่เกี่ยว”
ไข่มุกเสียงสั่น พยายามพูดช่วย
“แม่ไม่ได้ทำนะคะ อย่าขังแม่เลย ขอร้องล่ะคะผู้กอง”
“พึ่งแค่จ่าหนู ฆ่าคนตายมา ยังไงก็ต้องถูกควบคุมตัวไว้ก่อน ส่วนจะว่าผิดหรือไม่ผิด ศาลจะเป็นคนตัดสิน ไม่ใช่ตำรวจ”
ตำรวจรวบตัววันดีเข้าไปห้องขังแล้วล็อคกุญแจ วันดีเกาะลูกกรงร้องไห้ ยื่นมือหาไข่มุก
“ช่วยแม่ด้วยมุก ชั้นไม่ได้ฆ่าไอ้เม่น ปล่อยชั้น”
ไข่มุกยื่นซองเงินที่ถือมาให้ตำรวจ
“นี่เงินห้าแสน ขอประกันตัวแม่ได้ไหมคะ”
ตำรวจส่ายหน้า
“ยาก คดีอุฉกรรจ์ มีหลักฐาน พยานขนาดนี้ นอนสักคืนละกันพรุ่งนี้ค่อยทำเรื่อง ต้องให้ผู้ใหญ่ท่านพิจารณา”
ตำรวจเดินไป ไข่มุกร้องไห้โฮ เกาะลูกกรง จับมือวันดีที่ร้องไห้ กลัวตัวสั่น
“ไม่เอา เอ็งต้องช่วยแม่ออกไปวันนี้เลย ไม่ติดคุกนะ แม่กลัว”
“แม่ไม่ต้องห่วงนะ ยังไงมุกก็ต้องช่วยแม่ให้ได้ แม่ต้องเข็มแข็งนะจ๊ะ มุกจะหาทางเอาตัวแม่ออกมาให้ได้”
วันดีร้องไห้กับไข่มุก หน้าซบลูกกรงอย่างเศร้าและกลัว

คีรินทร์เดินมา เห็นไข่มุกเดินหน้าซีด ล้าอย่างอ่อนแรง แต่ไม่ทันสังเกต ตรงเข้าไปหาแล้วใส่ฉอดๆ
“หายไปไหนมา ทีมประกวดเขาตามหากันให้ทั่ว วุ่นวายไปหมดทั้งโรงแรมแล้ว ถือว่าดังแล้ว ทำอะไรตามใจชอบล่ะซิ ไม่แคร์คนอื่นหรือไง”
ไข่มุกเห็นภาพคีรินทร์พร่ามัว เสียงพูดก้องไปหมด เอามือกุมขมับอย่างเวียนหัวมาก พยายามสะบัดหัวเรียกสติแต่ไม่เป็นผล คีรินทร์เห็นผิดสังเกต
“ไข่มุก เธอเป็นไร ทำไมหน้าซีดแบบนี้”
ไข่มุกเอนไปมา ก้มหน้ามึนงง
“ชั้น ไม่”
คีรินทร์เห็นท่าไม่ดี รีบประคองไหล่
“เธอไปทำอะไรมา เป็นแบบนี้ได้ไง”
ไข่มุกเงยหน้าอีกทีเห็นภาพคีรินทร์เลือนพร่าสลับกับความมืด ไข่มุกทรุดตัวลงอย่างหน้ามืดจะเป็นลม คีรินทร์จับไว้อย่างตกใจ
“ไข่มุก ไข่มุก”

ไข่มุกกุมขมับ มือยันผนังหมดแรง คีรินทร์ช่วยพยุงอย่างเป็นห่วง

อ่านต่อพรุ่งนี้ เวลา 09.30น.

มายาสีมุก ตอนที่ 11 (ต่อ)

“ไข่มุก ได้ยินชั้นเรียกไหม ชั้นจินจูเอง”

“ตอนผมเจอ หน้าซีดมาก นี่ดีขึ้นหน่อยแล้วครับ”
ไข่มุกค่อยๆ ลืมตาชัดขึ้น อย่างได้สติ เห็นทุกคนมองมาอย่างเป็นห่วง จินจูที่นั่งใกล้ก็ยิ้มจับมือ คีรินทร์โล่งอก
แทยอนยืนนิ่งสายตาเป็นห่วง
“ฟื้นแล้ว ชั้นว่าพาไปโรงพยาบาลดีกว่า”
ไข่มุกที่นอนกึ่งนั่งบนเตียง พยุงลุกนั่ง
“ไม่ต้องค่ะ หนูไม่เป็นไรแล้ว” แทยอนพูดเสียงเรียบ
“คงเหนื่อยและเครียดเกินไป นอนพักสักหน่อยก็จะดีขึ้น”
คีรินทร์เข้าใกล้จับมือไข่มุกแล้วถามอย่างเป็นห่วง
“แน่ใจนะว่าไม่เป็นไรจริง มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”
ไข่มุกมองหน้าคีรินทร์ แล้วมองจินจู พอจินจูเอื้อมมาจับมือ ไข่มุกก็ปล่อยโฮ เสียงสั่น
“คุณจินจู หนูจะทำยังไงดี หนูจะทำยังไง”
คีรินทร์อึ้ง อยากพูดแต่เห็นไข่มุกดูไม่ค่อยมีสติกับตัว จินจูลูบไข่มุกปลอบโยน หันบอกคีรินทร์และแทยอน
“พวกคุณออกไปข้างนอกก่อนคะ เราสองคนคงมีเรื่องจะคุยกัน”
คีรินทร์ทำท่าลังเล เพราะห่วงไข่มุก แต่พอสบตาจินจูที่ยิ้มเข้มแข็ง เลยเดินออกไปกับแทยอน จินจูมองไข่มุกที่สะอื้นอย่างอัดอั้น จินจูยิ้มปลอบโยน
“เกิดอะไรขึ้น”
ไข่มุกมองอย่างชั่งใจ อึกอัก
“คือ หนู”
จินจูสบตาตรงอย่างเรียกสติ บีบมือแน่น พูดน้ำเสียงเข้มขึ้นอย่างตั้งใจ
“ไม่ว่าเรื่องอะไร ชั้นช่วยหนูได้นะ และจะช่วยให้ถึงที่สุดด้วย”
ไข่มุกน้ำตาร่วง มองจินจู รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก โผกอดจินจูอย่างไม่ตั้งใจ ร้องไห้โฮอย่างปลดปล่อยความทุกข์ในใจ

ชลลดานอนยิ้มสบายบนเตียง พอกครีมหน้าขาว มีแตงกวาปิดที่ตาสองข้าง ได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินเร็วตรงมาหาที่เตียง ภัททิมาเดินมาหยุดข้างเตียง หยิบแตงกวาโยนทิ้ง ชลลดาหยีตาหลบแสงไฟจ้า
“คุณแม่ขา เกิดเรื่องใหญ่แล้วคะ เขาลือกันให้แซ่ดว่าแม่นังไข่มุกฆ่าคนตาย ตอนนี้โดนขังอยู่ที่โรงพัก”
ชลลดาลืมตาโผล่ง รีบลุกขึ้น สะใจ
“นางวันดีปากตลาดน่ะหรอ ก็ดี ไหนๆ ลูกมันได้เป็นนางเอกสมใจแล้ว งั้นเดี๋ยวจัดให้สองเด้ง จะได้ดังขึ้นไปอีก”
ภัททิมามองชลลดาที่แค่นยิ้มอย่างมีแผนในใจ

หน้าสถานีตำรวจ กลุ่มนักข่าวกรูกันเข้าไปถ่าย คีรินทร์กับไข่มุกที่ถือข้าวผัดกับโอเลี้ยงมาเยี่ยมวันดี จินจูใส่แว่นดำ เดินเข้ามาในสน. เดชและคีรินทร์กันนักข่าว รีบพาเข้าไปข้างใน วันดีรีบมาเกาะลูกกรงด้วยความดีใจที่เห็นไข่มุกมองเลยไปเห็นจินจู
“แม่ มุกพาคนมาช่วยแล้ว คุณจินจู ที่เป็นดาราดังของเกาหลีไง นี่แม่วันดีของมุกค่ะคุณ”
จินจูถอดแว่นดำ วันดีเงยหน้าอย่างเสียไม่ได้ สบตากันพอดี วันดีมองตาเหลือกอย่างจำได้ จินจูเองก็มองอย่างนึกไม่ถึง รำพึงเสียงเบา
“วันดี”
จินจูนึกถึงที่เคยเจอวันดี วันดีทำท่าเลิ่กลั่กดูมีพิรุธ คธากับจินจูมองอย่างสงสัย
“อ๋อ ตอนนี้นังวันดีไม่อยู่หรอก ไปต่างจังหวัด เดือนหน้านู้นแน่ะถึงกลับ”
“เด็กผู้หญิงไปด้วยหรือเปล่า”
“ไม่เห็นมีนี่ มันอยู่คนเดียว ลูกผัวไม่มี จำคนผิดแล้ว”
จินจูมองวันดีอย่างยิ่งอึ้ง หันมาทางไข่มุก พูดอย่างนึกไม่ถึง
“คนนี้เหรอ แม่ของเธอ”
ทั้งคู่สบตากัน วันดีตกใจหันหลังให้ ตาเหลือกเพราะรู้ว่าจินจูจำตัวได้ จินจูเดินมายืนมองใกล้ๆ ไข่มุกมองเป็นห่วง
“เป็นไงบ้างแม่ หิวไหม กินข้าวก่อน มุกซื้อข้าวผัดมาให้ ทำไมแม่ไม่หันหน้ามา แม่จ๋า” วันดีที่หันหลัง ยื่นมือควานหา แล้วรับข้าวผัดกับโอเลี้ยง คอยก้มหน้าหลบจินจู ไข่มุกแปลกใจ “แม่เป็นไร”
วันดีเอามือป้องหน้าตัวเองให้พ้นสายตาจินจู ลากไข่มุกให้ห่างจากจินจู พูดอย่างเครียดมาก
“มัวไปพายายดารานี่มาทำไม อยู่ในนี้แม่จะบ้าตายแล้ว รีบช่วยออกไปสิ เงินก็มี ทำไมไม่ประกันออกไปให้ได้”
ไข่มุกกังวลเป็นห่วง
“ก็หาทางอยู่ แม่ใจเย็นก่อนนะ ทุกคนกำลังช่วยแม่อยู่จ๊ะ”
นักข่าวหลุดจากคีรินทร์และเดชที่กันไว้ วิ่งกรูมาถ่ายรูปไข่มุก จินจูกันอุตลุด คีรินทร์และเดชรีบวิ่งตามมาบอกไข่มุก
“ไม่คิดว่านักข่าวเยอะแบบนี้ คุณกับคุณจินจูหลบไปก่อนดีกว่า เดี๋ยวมามากกว่านี้ได้เป็นข่าวใหญ่แน่ ทางนี้ผมจัดการเอง”
ไข่มุกอึกอึกลังเล มองคีรินทร์
“ชั้นอยากอยู่ช่วยแม่”
คีรินทร์มองหน้าไข่มุกบอกเสียงเข้มขึ้น
“ผมอยู่นี่ทั้งคน คุณไม่ต้องห่วง มีอะไรคืบหน้าจะรีบส่งข่าว”
ไข่มุกสบตาซึ้งใจมาก จับมือคีรินทร์
“ฝากแม่ด้วยนะคะคุณรินทร์”
คีรินทร์พยักหน้ารับ หันมองเดช เดชเดินเข้ามา ไข่มุกจับมือแม่แน่นไม่อยากไป คีรินทร์จับแขนพยักหน้าให้ไข่มุกปล่อยมือจากลูกกรง เดชพาไข่มุกและจินจูฝ่าดงนักข่าวที่ถ่ายรูปแสงแฟล็ซวูบวาบไปหมด วันดียื่นมือ อ้าปากค้าง
“คุณไข่มุก ตกลงแม่คุณฆ่าพ่อคุณตายจริงเหรอครับ”
“ขอสัมภาษณ์ด้วยคะ”
เดชรีบกันนักข่าว เพื่อให้จินจูกับไข่มุกออกไป วันดีตะโกนตามหลัง
“นังมุก เอ็งจะไปไหน อย่าทิ้งแม่ นังมุก”
ไข่มุกจะร้องไห้ หันมองแม่อย่างเป็นห่วงมาก จินจูจับมือบอกให้เดินตามเดชไป

ไข่มุกหน้าเศร้าเป็นห่วงวันดี เดินกลับมาในล็อบบี้โรงแรมกับจินจูที่ดูครุ่นคิด จินจูชำเลืองมองไข่มุกแล้วนึกถึง วันที่จินจูคุยกับเพื่อนบ้านวันดี
“แล้วเมื่อก่อนเขาทำอะไร”
“จะทำอาไร้ นังขี้ขอก็ต้องเป็นขอทานน่ะสิ มันยังเอาลูกเล็กมันมาขอด้วยเลย แต่ตัวลูกน่ะหน้าตาน่ารัก ใครเห็นก็เอ็นดู วิ่งตามนังวันต็อกๆ”

จินจูมองหน้าไข่มุกอย่างครุ่นคิด ชักเฉลียวใจ ไข่มุกเห็นจินจูมองอย่างจับสังเกตก็สงสัย
“ทำไมมองหนูแปลกๆ”
จินจูสบตานิ่ง ถามน้ำเสียงจริงจัง
“หนูเล่าเรื่องหนูกับแม่ให้ชั้นฟังได้มั้ย เล่าให้ละเอียดเลยนะ”
ไข่มุกฟังอย่างแปลกใจว่าทำไมจินจูถึงนึกอยากรู้นัก แล้วนึกเหตุการณ์ย้อนหลัง ส่ายหน้าเล่าอย่างจำได้แม่นยำ
“ก็ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ ตั้งแต่จำได้ก็รู้ว่าบ้านเรายากจนมาก ตอนเด็กๆ ต้องช่วย แม่ออกเร่ขอทาน” จินจูหลับตาอย่างรู้สึกขมขื่น สงสารไข่มุกจับใจ ไข่มุกยิ้มอายๆ “สงสารหนูเหรอคะ ที่จริง มันก็ไม่ได้แย่มากหรอกคะ”
ไข่มุกหวนนึกถึงเรื่องราวของตัวเองตอนวันเด็ก ลูกเคาะฉิ่งฉาบในมือวันดีรัวเป็นจังหวะ วันดีเคาะให้จังหวะไข่มุกใส่เสื้อผ้ามอมแมม มัดจุก เต้นหมุนส่ายตัวไปมาดุกดิกน่ารัก ร้องรำตามจังหวะดนตรี
“อะจ๊ะทิงจา จ๊ะทิงจา ทิงหน่องหนอย เต้นเข้าซินังมุก” ไข่มุกเมื่อยหยุดเต้น ดูดนิ้ว วันดีเอ็ด “หยุดทำไม เต้นไปเรื่อยๆ สิ ไม่อยากได้ตังค์รึไง เอ้า จ๊ะทิงจา”
ไข่มุกเต้นดุกดิกอีก คนผ่านไปมายิ้มมองไข่มุกเอ็นดู หยิบสตางค์ให้ วันดีเอาขันยกขึ้นจากพื้นรับเศษสตางค์ ดูว่าได้เท่าไร แล้วรีบเก็บใส่กระเป๋าเสื้อ
วันดีกับไข่มุกนั่งพื้นขอทานหน้าร้านก๋วยเตี๋ยว วันดีพนมมือหลับสัปหงก ไข่มุกมองในร้านเห็นคนนั่งกินก๋วยเตี๋ยว คีบลูกชิ้นกินอย่างเอร็ดอร่อย กลืนน้ำลายอย่างหิว ไข่มุกเดินจะเข้าไปขอกิน เด็กเสิร์ฟเก็บชามก๋วยเตี๋ยวที่ลูกค้ากินอิ่มแล้ว เดินมาหน้าร้าน เห็นไข่มุกเดินเลยมาไล่ ไข่มุกวิ่งจู๊ดหนีอย่างเร็ว หันมามองหน้าเบ้
“ออกไปขอทานที่อื่น ไป ไป๊”
เด็กเสิร์ฟเดินมาเทเศษก๋วยเตี๋ยวในถังขยะข้างหน้าร้านแล้วเดินไป ไข่มุกรีบวิ่งไปคุ้ย หยิบลูกชิ้น เศษก๋วยเตี๋ยวกินอย่างหิวโหยเอร็ดอร่อย

จินจูฟังสิ่งที่ไข่มุกเล่าแล้วน้ำตาหยดอย่างนึกสงสาร ไข่มุกยังยิ้มโม้ต่ออย่างสนุก
“เส้นก๋วยเตี๋ยวเงี้ยนุ้ม นุ่ม ลูกชิ้นก็หนุบหนับ จำได้ร้านนี้อร่อยที่สุดในโลกเลย” ไข่มุกหันมองจินจู “อ้าว...คุณจินจูร้องไห้ทำไมคะ”
จินจูมองไข่มุกป้ายน้ำตาตัวเองออก
“ชั้น สงสารหนู หนูต้องลำบากเหลือเกิน”
ไข่มุกยิ้มมองจินจูอย่างอ่อนโยน
“โธ่เอ้ย หนูไม่เป็นไรหรอกคะ มันก็สนุกดี ยังไงก็ผ่านมาแล้ว ตอนนี้สบายกว่าก่อนตั้งเยอะ เดี๋ยวไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านนั้นกันไหมคะ หนูเลี้ยงเอง จะกินสักห้าชาม ให้สะใจไปเลย”
ไข่มุกยิ้มหัวเราะ จินจูมองหน้านิ่ง น้ำตาคลอ เข้าไปกอดร้องไห้ ไข่มุกงง ว่าทำไมจินจูถึงสงสารเธอขนาดนี้

คธายกกาแฟดื่ม มองจินจูอย่างเป็นห่วง
“ผมอยากให้คุณค่อยๆ คิด อย่าพึ่งปักใจเชื่อว่าหนูไข่มุก คือ...ลูกของเรา”
จินจูมองคธาอย่างมีความหวัง
“ชั้นเคยสงสัย ว่าทำไมถึงรู้สึกถูกชะตากับเด็กคนนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น ยิ่งรู้จักก็ยิ่งผูกพันธ์ แต่ตอนนี้รู้แล้วคะว่าทำไม” จินจูยิ้มดีใจ “สัญชาติญาณของแม่กับลูกไงคะ คธาชั้นแน่ใจคะ ว่าไข่มุก็คือยองแอ”
คธากุมมือจินจูอย่างห่วงใย
“ตอนนี้ขอแค่สงสัยได้มั้ย แต่อย่าพึ่งแน่ใจ ผมไม่อยากเห็นคุณผิดหวัง บางเรื่องมันก็ไม่เป็นอย่างที่เราคิด”
จินจูเอียงตัวซบคธา บอกอย่างมั่นใจ สีหน้ายิ้มแย้มมีความหวัง
“ขอบคุณคะที่เป็นห่วง แต่ชั้นแน่ใจ ว่าไข่มุกก็คือ ยองแอ ลูกสาวเราอยู่แค่เอื้อมแล้วคะคธา แล้วไม่เป็นอย่างที่เราคิด”
จินจูบอกหนักแน่นมั่นใจจนคธานึกห่วง แต่อีกใจเขาก็อดเห็นด้วยกับจินจูไม่ได้

พนักงานโรงแรมยืนอ่านหนังสือพิมพ์ที่ล็อบบี้ ลงรูปวันดีเกาะลูกกรงร้องไห้กับไข่มุก พาดหัวตัวโต “นางเอกดังร่ำไห้ แม่ฆ่าพ่อดับอนาถ”
แทยอนเดินมาที่ล็อบบี้ นักข่าวกรูกันเข้าไปถ่ายรูปสัมภาษณ์ แทยอนเดินช้าลง
“เกิดเรื่องแบบนี้แล้ว คุณไข่มุกยังจะได้แสดงหนังเรื่องใหม่ต่อไปไหมครับ”
แทยอนหยุดยืน สีหน้าขรึม
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับกับเธอ แม่ก็ส่วนแม่ ผมยังยืนยันจะเซ็นสัญญาให้คุณไข่มุกเป็นนางเอกของผมต่อไป”
แสงแฟลชวูบวาบ แทยอนเดินไปอย่างไม่สนใจนักข่าวที่พยายามสัมภาษณ์ต่อ

ที่บ้านคีรินทร์ เขมทัตนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ มณีอ่านอีกเล่ม เลื่อนหนังสือพิมพ์ให้เขมทัตอย่างไม่สบอารมณ์
“ขึ้นหน้าหนึ่งทุกเล่ม ไม่รู้จิตใจลูกจะร้ายเหมือนแม่หรือเปล่าเห็นแล้วน่ากลัวจริง เอามาอยู่ในบ้านตั้งนาน ดีนะที่มันไม่ปาดคอเอา”
เขมทัตดูหนังสือพิมพ์อีกเล่ม ถอนใจ
“คุณก็เกินไป แม่เขาก็พูดว่ามันเป็นอุบัติเหตุ ไม่ได้จงใจฆ่า ไข่มุกเองก็ดูนิสัยดี ไม่มีท่าทางอย่างคุณว่าสักหน่อย”
“ต่อให้เป็นดีแค่ไหนก็มีเชื้อ เป็นลูกฆาตกรแบบนี้ ชั้นรับไม่ได้ ถ้ารู้อย่างนี้ ให้รินทร์แต่งกับยัยภัทยังดีซะกว่า อย่างน้อยชลลดาก็ไม่เคยฆ่าใคร”
มณีทำท่ากลัว เขมทัตส่ายหน้าอย่างเพลีย อ่านหนังสือพิมพ์ต่อ

ไข่มุกเดินไปมาอยู่ในห้องอย่างกลุ้มใจ คิดวิธีช่วยวันดี เสียงคนเคาะประตูก็เดินไปเปิดเห็นคีรินทร์พาวันดีมา ไข่มุกยิ้มอย่างดีใจเข้าไปกอดวันดี
“แม่จ๋า แม่ออกมาได้ไง ตำรวจเขาปล่อยแม่แล้วใช่ไหม” ไข่มุกมองคีรินทร์ “หรือว่า...”
วันดียิ้มพะยักพะเยิบให้คีรินทร์
“ถ้าไม่ได้ผัวเอ็ง แม่ก็ไม่ได้ออกมาหร้อก พ่อรูปหล่อเนี่ย”
ไข่มุกดีใจมาก ยิ้มตาเป็นประกายให้คีรินทร์ เผลอตัวจะเข้าไปกอด คีรินทร์ก็ยิ้มอ้าแขนจะรับ แต่ไข่มุกนึกได้เบรคตัวไว้ทัน
“เอ้ย” ไข่มุกรีบเปลี่ยนเป็นไหว้ขอบคุณคีรินทร์อย่างซึ้งใจแกมเขิน คีรินทร์ยิ้มค้างรับไหว้แทบไม่ทัน “ขอบคุณมากนะคะคุณรินทร์ ขอบคุณจริงๆ ถ้าไม่ได้คุณชั้นยังนึกไม่ออกว่าจะช่วยแม่ยังไง”
คีรินทร์แก้เก้อ ทำเสยกมือลูบผม
“ยังไงก็ต้องช่วยกัน ชั้นไม่ได้แล้งน้ำใจขนาดนั้น ช่วงนี้ให้แม่อยู่กับเธอที่นี่ก่อน เพราะต้องติดต่อกับตำรวจและทนายอีกหลายครั้งกว่าเรื่องจะจบ”
ไข่มุกพยักหน้ารับ
“ได้ค่ะ” ไข่มุกดีใจคล้องแขนวันดี “แม่อยู่กับมุกที่นี่นะจ้ะ”
วันดีมองห้องไปทั่ว นั่งเตียง ลูบไปมา
“โอ้โห แม่เจ้าโว้ย แอร์ก็เย็น เตียงก็นิ่ม ไหงห้องมันสวยแบบนี้” วันดีจับมือไข่มุก “เขาจะให้แม่อยู่ตลอดไปใช่มั้ย”
คีรินทร์มองอย่างหมั่นไส้

“ที่ให้มาอยู่เพราะไข่มุกต้องเก็บตัวที่นี่ ไม่ได้ให้อยู่ตลอดชีวิต”

วันดีก็ทำเมินๆ ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง ลุกเดินไปจับม่าน จับของตามโต๊ะอย่างชอบใจ
“แม่อยู่ให้สบายเลย ห้องน้ำก็สวยนะแม่ แม่อาบน้ำก่อนได้สบายตัว”
วันดีพยักหน้าเดินเข้าไปดูห้องน้ำ คีรินทร์ทำท่าจะเดินกลับ ไข่มุกเดินมาสะกิดที่ข้างหลัง มองหน้าแล้วยิ้มหวานให้คีรินทร์ทำหน้าเรียบ
“มีไรอีก เดี๋ยวชั้นต้องไปแล้ว”
ไข่มุกก้าวเท้าเข้าไปยืนใกล้คีรินทร์ บิดมือไปมา ยิ้มมองหน้า ทำตาปริบๆ ใจหนึ่งกล้าอีกใจเขิน คีรินทร์มองแล้วถาม
“ดูทำเข้า มีไรก็ว่ามาสิ”
ไข่มุกทำกวักมือให้คีรินทร์โน้มตัวมาหา พอคีรินทร์เผลอไม่ทันตั้งตัว ไข่มุกยื่นหน้าหอมแก้มคีรินทร์จุ๊บหนึ่งอย่างเขินแล้วถอยออกมา คีรินทร์มองอย่างเหว๋อ ไข่มุกพูดเสียงเบาเขินแต่พอได้ยิน
“ให้รางวัลคะ เมื่อกี้ว่าจะกอด แต่แม่อยู่”
คีรินทร์ยิ้มจับที่แก้มตัวเอง
“อ๋อ เขินแม่ งั้นชั้นกอดเธอเอง”
คีรินทร์เข้าไปกอด เสียงวันดีลั่นจากห้องน้ำ
“มุกเอ้ย ส้วมมันกดยังไงเนี่ย มาดูให้แม่หน่อยซิ”
ไข่มุกในอ้อมกอดคีรินทร์ ยิ้มขำมองหน้ากัน

ที่ห้องอาหารในโรงแรม พนักงานเดินเอาอาหารผ่านหน้าคีรินทร์กับเขมทัตที่ยืนห่างออกมา ไปเสิร์ฟวันดีกับไข่มุกที่นั่งโต๊ะ วันดีตาโตมองอย่างตื่นเต้น
“คิดยังไงถึงพาแม่เขามาอยู่ที่นี่ ไหนว่าไม่ได้มีอะไรกันแล้ว”
คีรินทร์แก้เก้อแต่น้ำเสียงห่วงไข่มุก
“กำลังเดือดร้อน ก็ช่วยไปครับ ไข่มุกต้องเล่นหนัง มีแม่คอยอยู่ด้วยก็ดีครับ”
เขมทัตมองอย่างรู้ทัน ขมวดคิ้วถาม
“แน่ใจนะว่าคิดแค่นั้น พ่อว่ายังมีอะไรอีกนะ”
คีรินทร์ทำหน้าซื่อ ปิดความรู้สึก เขมทัตอดอมยิ้มอย่างรู้ทันไม่ได้
ไข่มุกยิ้มแย้มมีความสุข ตักกับข้าวให้วันดี วันดีกินอย่างเอร็ดอร่อยเพราะไม่เคยกินของดีอย่างนี้มาก่อนในชีวิต วันดีเคี้ยวตุ้ยเต็มปาก พูดไปด้วย
“อร่อยทุกอย่างเลย นังมุก ตักจานโน้นให้แม่อีกหน่อยซิ”
“แม่อยากได้อะไรอีก เอาข้าวผัดกับโอเลี้ยงไหม เดี๋ยวหนูสั่งให้” วันดีมองค้อน
“ไม่เอาแล้ว เอ็งนี่นะ ให้แม่ห่างตะรางบ้างเถอะ” วันดีมองกับข้าวที่ไข่มุกตักใส่จาน “เออ เอาอีกๆ เยอะๆ”
วันดีกินอย่างเอร็ดอร่อย ไข่มุกดีใจ
“แม่จ๋า ค่อยๆ กินซิ เดี๋ยวติดคอแย่”
จินจูเดินมาหยุดที่โต๊ะ มองวันดีนิ่ง สีหน้าเรียบ พูดน้ำเสียงจริงจัง
“เจอกันอีกแล้วนะคุณวันดี”
วันดีเงยหน้ามองทั้งที่ข้าวเต็มปาก วันดีช็อคตาค้าง ทำช้อนหล่น
“แม่ ไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนี้ก็ได้ แม่ได้ประกันตัวชั่วคราวคะ” ไข่มุกบอก จินจูมองวันดีอย่างเค้นความจริง
“ดีใจด้วย เห็นว่ามาอยู่ที่นี่ ดี เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
วันดีอึกอัก พูดติดขัด
“พา พา แม่กลับห้องดีกว่า ไม่ ไม่ ค่อยสบาย” ไข่มุกงง
“อ้าว เมื่อกี้ยังกินดีๆ อยู่เลย แม่เป็นไรไปจ๊ะ”
วันดีทำคิดแล้วกุมท้อง
“โอย สงสัยจุกอย่างเอ็งว่า กินเร็วไปหน่อยมั๊งโอย แน่นไปหมดเล้ย”
วันดีรี่ตามองจินจู แต่ก็ต้องรีบหลบสายตาที่มองเขม็งมา ดึงแขนไข่มุกให้ลุกเร็ว จินจูพยายามยื้อไว้
“จะรีบไปไหน อยู่คุยกันก่อนสิ”
“โอย ปวดท้อง นังมุกพาแม่ไปเร็ว ไม่ไหวแล้ว”
ไข่มุกหันหน้ามองจินจูงงๆ แล้วเดินประคองวันดีที่กุมท้องทำตัวงอ แต่เดินเร็วออกไป

ประตูลิฟต์ปิด วันดีที่ปวดท้องตัวงอก็ยืดตัวปกติ ถอนหายใจอย่างโล่ง แต่สีหน้ายังกระวนกระวาย เช็ดมุมปากอย่างอดของอร่อย
“แม่ดาราดังไรของเอ็งนั้น มาขัดลาภปากข้าจริ๊ง ของอร่อยทั้งนั้น”
ไข่มุกงงที่วันดีหายปวดท้อง
“อ้าวแม่ หายปวดแล้วเหรอ” ไข่มุกมองวันดีนิ่งคิด “ชั้นสงสัยจัง ทำไมแม่ชอบทำท่าแปลกๆ ตอนเจอคุณจินจู”
วันดีทำหงุดหงิดใส่
“เอ็งอย่างถามมาก เดี๋ยวถึงห้องเก็บของให้หมด แล้วไปจากนี่กัน”
ไข่มุกยิ่งงงและนึกสงสัย
“ได้ไงแม่ ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก กองประกวดได้เอาตาย”
วันดีขึ้นเสียงอย่างมีไม่มีเหตุผล
“ข้าไม่สนไรทั้งนั้น เอ็งทำตามที่ข้าบอก”
“แม่เป็นอะไรของแม่ ไหนบอกชอบที่นี่ไงจ๊ะ มุกจะได้แสดงหนังเป็นนางเอกแล้วนะแม่ อุตส่าห์ประกวดจนชนะ จะทิ้งได้ไง”
“ได้มาห้าแสนพอแล้ว เรากลับไปขายส้มตำกันอย่างเดิม นางเอกนางบ้าอะไรเนี่ย ไม่เอาแล้ว”
“มุกไปไม่ได้หรอกแม่” วันดีชักโมโห
“ทำไม อ๋อ พอจะเป็นดารา เลยไม่เชื่อแม่แล้วหรอ”
“ไม่ใช่ แต่มุกเซ็นสัญญาเล่นหนังแล้ว ขืนเราเบี้ยว หนีไป มีหวังโดนเขาปรับตายเลย แล้วจะไปเอาเงินที่ไหนมาให้”
วันดีอึ้งอย่างหาทางออกไม่ได้ กลัวจินจูรู้เรื่องไข่มุก

เดชส่งหนังสือปลอมลายเซ็นคีรินทร์ที่ส่งให้ฝ่ายบุคคลรับนุชนารถเข้าทำงานให้คีรินทร์ดู คีรินทร์ตกใจ
“นี่มันไม่ใช่ลายเซ็นผม เกิดเรื่องแบบนี้ได้ไง”
“มีคนปลอมลายเซ็นคุณ สั่งให้รับนุชนารถเป็นพนักงาน” คีรินทร์นิ่งคิด
“นึกแล้วไม่ผิด งานนี้ต้องมีคนในช่วยนุช หาให้ได้ว่าเป็นใคร”
“ครับ”

คีรินทร์คิดหนัก ว่าเป็นใครกันแน่

ไข่มุกเห็นคีรินทร์เดินมาก็ทำท่าอยากเข้าไปคุย แต่ก็ชะงัก อีกใจก็ไม่ค่อยกล้า รีรอแล้วตัดสินใจจะเข้าไป พอดีวัฒนาโผล่มา
“วัฒ ยุ่งอยู่ไหม ชั้นมีเรื่องคุยกับนาย”
ไข่มุกเลยชะงัก รีบหลบมุมตึก คีรินทร์เดินคุยกับวัฒนาที่ทำสีหน้าแปลกใจไม่อยากเชื่อ
“ใครกัน มันกล้าทำขนาดนั้น”
“ถ้ามีคนในทำจริงก็แสบมาก แต่คิดไป นุชอาจติดสินบนพนักงานสักคนให้ช่วย” วัฒนาทำครุ่นคิด
“ก็เป็นไปได้ แต่ไม่ต้องห่วง ชั้นจะช่วยสืบด้วย ได้เรื่องยังไงจะรีบรายงานนายทันที”
“ดี ขอบใจมากเพื่อน”
คีรินทร์ฟังอย่างพอใจ จับไหล่วัฒนาขอบใจ แล้วเดินหันหลังไป คีรินทร์หันไปมองกระจกสะท้อนทันสังเกตเห็น วัฒนาที่ยิ้มเยาะ คีรินทร์ลอบมองวัฒนาอย่างชักเอะใจ นึกสงสัย แต่เดินเลยไปเหมือนไม่มีอะไร

จินจูยื่นบทปึ้กใหญ่ให้ไข่มุก ไข่มุกรับยิ้มอย่างตื้นเต้นดีใจ พลิกดูอ่านอย่างไม่อยากเชื่อเงยหน้ามองจินจู
“นี่หนู จะได้แสดงหนังกับคุณจริงๆ เหรอคะ ขอบคุณนะคะ”
จินจูพยักหน้า ยิ้มน้อยๆ ให้ไข่มุก
“ขอบคุณทำไม มีวันนี้ได้ก็เพราะความสามารถของหนู” จินจูมองอย่างอาทร “ชะตากำหนดให้เรามาเจอกัน หนูต้องท่องบทให้ดี อีกสองวันจะได้เริ่มซ้อมบทกันแล้ว”
ไข่มุกฟังงงๆ แต่ยิ้มพยักหน้ารับ
“ได้คะ หนูจะพยายามให้เต็มที่ ไม่ทำให้คุณผิดหวัง” จินจูยิ้มพอใจ
“ช่วงนี้ได้คุยกับคุณคีรินทร์บ้างมั้ย” ไข่มุกส่ายหน้าเศร้าหน่อยๆ
“ไม่ค่อยได้เจอเลยคะ เขาคงงานยุ่งด้วยมั๊ง”
“ทำไมไม่ไปขอบคุณเขาเรื่องที่เขาช่วยแม่ล่ะ จะได้คุยกัน”
ไข่มุกนิ่ง พูดเสียงเบา
“ขอบคุณไปแล้วคะ ตอนเขามาส่งแม่ที่ห้อง”
จินจูมองอย่างรู้ความรู้สึกไข่มุก
“แล้วเรื่องอื่นล่ะ ไม่อยากคุยหรือไง เขาไม่รู้หรอกนะ ถ้าหนูไม่ยอมพูดออกไป” จินจูจับมือไข่มุก “คุยกันซะแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น”
ไข่มุกฟังแล้วยิ้มอย่างมีหวังว่าจะได้คุยเพื่อให้คีรินทร์มีความรู้สึกที่ดีขึ้นกับเธอ

คีรินทร์นั่งทำงาน ไข่มุกเคาะประตู
“เชิญครับ”
ไข่มุกแง้มประตูอย่างเขินๆ คีรินทร์เงยหน้าขึ้น แล้วก้มหน้าทำงานต่อ เหมือนไม่สนใจ ไข่มุกหน้าเจื่อน หดหน้าจะกลับออกไป
“เอ้า จะเข้ามาแล้วทำไมไม่เข้า”
ไข่มุกยิ้มเขินเดินเข้ามา ซ่อนอะไรไว้ข้างหลัง พูดติดๆ ขัดๆ อย่างเขิน
“คือชั้น อยากมา ขอบคุณอีกครั้งที่คุณช่วยแม่คะ”
“คิดมาก ชั้นแค่ช่วยประกันตัวชั่วคราวเอง เรื่องยังอีกยาว ชั้นไม่ช่วยตลอดไปหรอก ซ่อนอะไรไว้ข้างหลัง”
ไข่มุกเขินใหญ่ หน้าแดง บิดไปมา ก้มหน้าแล้วตัดสินใจยื่นดอกกุหลาบแดงให้ 1 ดอก
“แทนคำขอบคุณไงคะ ชั้นให้คุณ”
คีรินทร์มองยังไม่รับ ไข่มุกเงยหน้าแล้วยิ้มทำมือยื่นให้รับอีก คีรินทร์ก็แกล้งมองทำเฉย เลิกคิ้ว ไข่มุกหดยิ้ม
“แน่ใจแล้วเหรอ ที่ให้กุหลาบแดง ไม่ใช่มาหลอกอะไรชั้นอีกนะ”
“คราวนี้ไม่หลอก แน่ใจแล้ว”
สองคนสบตากันนิ่ง คีรินทร์เอื้อมมือจะรับ ภัททิมาปรี่เข้ามาฉวยเอาไป ทั้งคีรินทร์และไข่มุกยกมือค้าง มองอย่างอึ้ง
“จับได้คาหนามกุหลาบเลยนะยะ นังมุก เอาคืนไป” ภัททิมาโยนกุหลาบลงพื้นคล้องแขนคีรินทร์ “ต่อไปนี้อย่าหวังว่าจะหลอกรินทร์ได้อีกเพราะเขามีชั้นแล้ว คราวนี้ชั้นเตือน แต่ถ้ายังคิดมาป้วนเปี้ยนวุ่นวายกับรินทร์อีก ได้เห็นดีกันแน่”
ไข่มุกมองกุหลาบที่พื้นเศร้าใจ
“ชั้นแค่มา...”
ภัททิมาแผดเสียงใส่
“มาปั่นหัว ผัวชาวบ้านละซิ ชั้นเป็นเมียเขาแล้ว เป็นเมียตัวจริง เสียงจริง ไม่ใช่เมียหลอกๆ อย่างเธอ”
ไข่มุกหน้าเสีย คีรินทร์ก็อึ้ง ได้แต่มองไข่มุกที่เดินจากไปอย่างเศร้า

ปลายนิ้วคธาที่พริ้วบนเปียโนอย่างไพเราะซาบซึ้ง ไข่มุกยืนอยู่ข้างๆ ซ้อมร้องเพลง เปียโนบรรเลงช่วงอินโทรฯ
ไข่มุกโยกหัวไปมาน้อยๆ แล้วเคาะนิ้วเรียกจังหวะที่ขอบเปียโน คธาหันไปเห็นก็นิ่งมองอย่างแปลกใจ ไข่มุกเริ่มร้องเพลงน้ำเสียงอย่างเพราะ ไข่มุกร้องไปแล้วท้าวคางที่เปียโน คธาก็มองอีกนึกแปลกใจมากขึ้น แล้วนึกถึงอดีตภาพจินจูท้าวคางที่เปียโนมุมเดียวกับไข่มุก ร้องเพลงอย่างซาบซึ้ง คธาเล่นเปียโนอย่างมีความสุข ช่วงกลางเพลงที่เปียโนบรรเลงเดี่ยว จินจูวางนิ้วเรียกจังหวะที่ขอบเปียโน โยกหัวไปมา อิริยาบถไม่ต่างกับที่ไข่มุกทำ
คธาดีดตัวโน๊ตสุดท้ายแล้วนิ่ง มองไข่มุกนิ่งอยู่นาน จนไข่มุกแปลกใจ
“คุณอามีอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมมองจัง หรือหนูร้องเพี้ยน”
คธารู้สึกตัว ยิ้มส่ายหน้า
“ท่าทางคุณ ตอนร้องเพลง เหมือนผู้หญิงคนนึงที่ผมรู้จัก” ไข่มุกยิ้มดีใจ
“อย่าบอกนะว่าเหมือนคุณจินจู” คธาพยักหน้า
“หลายอย่างเหมือนกันมาก” ไข่มุกยิ้ม
“หนูรู้ว่าเพราะอะไร” คธาชะงัก รีบถาม
“รู้เหรอ”
“ค่ะ หนูน่ะแฟนพันธ์แท้ของคุณจินจูนะคะ ดูมาตั้งแต่เด็ก ก็คงจำท่ามาบ้าง ดีใจจังเหมือนซุปตาร์คนโปรด”
คธายังคงนิ่งมองไข่มุกอย่างพิจารณา คีรินทร์เดินเข้ามา ไข่มุกยังน้อยใจไม่หาย ทำงอนมองทางอื่น คีรินทร์แกล้งแหย่
“ร้องเพราะแบบนี้ ต้องให้รางวัลซะแล้ว ขอตัวพานักร้องคนเก่งไปพักผ่อนก่อนนะครับ”
“เชิญครับคุณคีรินทร์”
คีรินทร์จับต้นแขน ไข่มุกเอียงตัวหลบ มองค้อน คีรินทร์ทำขมวดคิ้วกวักมือให้ตาม ไข่มุกเฉย
“อย่าเลยค่ะ เดี๋ยวจะมีคนมาอ่านสิทธิ์ให้ฟังอีก”
คีรินทร์ถอนใจแรงๆ ไข่มุกเมินหน้า มองไปทางอื่น แล้วแทบร้องอย่างตกใจ เพราะโดนคีรินทร์จับแขนพาเดินไปอย่างแทบจะลาก
“โอ๊ย ปล่อยนะ”
“ไม่ปล่อย มีเรื่องคุยด้วย”

คธามองตามสองคนอย่างอดยิ้มไม่ได้

มายาสีมุก ตอนที่ 11 (ต่อ)

คีรินทร์พาไข่มุกมาที่มุมกาแฟ สารพัดขนมเค้ก คุ้กกี้ต่างๆ วางเต็มโต๊ะไปหมด พนักงานวางอีกจานจนไข่มุกมองหน้าคีรินทร์
“จะสั่งมาเลี้ยงใครเยอะแยะคะเนี่ย ชั้นกำลังคุมน้ำหนัก ห้ามอ้วน”
คีรินทร์ยิ้มทำหน้ายียวน
“ผอมเป็นไม้เสียบลูกชิ้นแบบนี้ ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ขนมนี่ก็ให้เธอแหละ คนขี้งอน ต้องกินของหวานเยอะๆ จะได้หาย”
ไข่มุกย่นจมูกใส่
“ชั้นไม่ได้งอน แต่อยู่กับคุณทีไรมีเรื่องทุกที พาชั้นมานั่งกันสองคน ภรรยาคุณไม่ว่าเหรอคะ ผ่านมาเห็นเข้ามีจัดหนักอีกรอบแน่”
“ภรรยาไหน เมียผมก็มีแต่คุณ ไม่เอ้า ไม่พูดเรื่องนี้ มากินขนมแล้วจู๋จี๋เรื่องหวานๆ กันดีกว่า จริงไหม” ไข่มุกมองค้อน หันไปทางอื่น คีรินทร์ตักขนมเค้กเข้าปาก ทำท่าอร่อยล้ำ “อื้อหือ อร่อยสุดๆ” คีรินทร์มองไข่มุกที่ยังนั่งนิ่ง “ไม่ทานเอง ผมป้อนน้า ให้รางวัลร้องเพลงเพราะไง” คีรินทร์ตัดเค้กทำป้อน “อา อ้าปากซิคนเก่ง”
ไข่มุกอดขำท่าคีรินทรไม่ได้ รับช้อนไปถือเองแล้วกินขนมอย่างอร่อย ชลลดาที่เดินมาเห็นก็แอบมอง ทำหน้าเจ้าเล่ห์ คีรินทร์กับไข่มุกกุ๊กกิ๊กหวานกันขนาดนี้ เห็นทีปล่อยไว้ไม่ได้

พิพัฒน์เดินอ่านแฟ้มเอกสารมาเรื่อยถึงมุมลับตาคน ชลลดากับภัททิมาก็โผล่มาดักหน้าไว้ พิพัฒน์เดินเกือบชน จนสะดุ้ง ไม่คิดว่าจะเจอจังๆ
“เห็นไหมคะคุณแม่ ทำงานโรงแรมที่นี่จริงๆ ด้วย”
ชลลดาจ้องเขม็ง พิพัฒน์ทำหน้าไม่ถูก หนีไปไหนไม่ได้ เลยไหว้ชลลดา ยิ้มให้ภัททิมาที่เชิดใส่ พิพัฒน์ทำคุยใส่ “ก็อยู่ฝ่ายต้อนรับ ส่วนใหญ่แขกวีไอพี” พิพัฒน์ยิ้มอ้อนภัททิมา “ว่าแต่ตัวเองเถอะ เมื่อไรจะคืนดีกันอ่ะ เขา
เชียร์ตัวเองตอนประกวดด้วยน้าตัวเองเต้นพริ้วมาก เสียดายน่าจะได้เป็นนางเอก”
ภัททิมาเม้นปากแอบดีใจ พอนึกได้เชิดใส่
“เชอะ ถ้ายังไม่เป็นป๋า อย่ามาสะเออะเชียร์ชั้นหน่อยเลย”
พิพัฒน์หน้าเจื่อน ชลลดามองอย่างมีแผน
“คนขี้เกียจ ไม่เอาไหนอย่างเรา มาทำงานแบบนี้ ไม่อึดอัดใจตายหรือไง ว่าไหม สุขไหนจะเท่า ล้วงกระเป๋าแล้วเจอตังค์ โดยไม่ต้องทำงานงกๆ แบบนี้ ทำงานแบบนี้จะได้เงินเดือนซักกี่ตังกัน” พิพัฒน์งง
“คุณแม่หมายความว่าไง”
“ชั้นมีเรื่องให้ช่วย”
พิพัฒน์มองหน้าชลลดาอย่างรู้ทัน
“ไม่บอกก็รู้ ต้องเป็นเรื่องไม่ดีสำหรับคุณคีรินทร์และไข่มุกแน่”
“ฉลาดเหมือนกันนี่” พิพัฒน์ส่ายหน้า
“ไม่เอา ไม่อยากยุ่งด้วย ผมอยู่ของผมสบายดีแล้ว”
“ไม่เห็นแก่ลูกไก่บ้างหรือไง เขาจวนจะสบายแล้ว หัดมีน้ำใจช่วยเหลือกันมั่ง”
พิพัฒน์มองชลลดาอย่างลังเล
“ถ้าผมช่วย แล้วโดนจับได้ โดนไล่ออกแน่”
ชลลดาขมึงตาใส่
“โดนไล่ออก หรือจะโดน...” ชลลดาทำนิ้วปาดคอ “เชือดทิ้ง เลือกเอาแล้วกัน”
พิพัฒน์สะดุ้ง มองชลลดาที่สีหน้าเอาจริงอย่างนึกกลัว

คธาเก็บโน้ตเพลง กำลังจะปิดฝาเปียโน จินจูเดินมาหาสีหน้าเคร่งเครียดเป็นกังวลเรื่องไข่มุก
“คิ้วขมวดอีกแล้ว”
“ชั้นพยายามจะดักคุยกับวันดีให้ได้ แต่เขาก็หนีตลอด ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องยองแอแล้วต้องหนีทำไม”
คธาสบตาตรงจินจูอย่างครุ่นคิด
“น้ำเสียง วิธีร้อง ท่าทาง เหมือนคุณทุกอย่าง ไม่น่าเชื่อ”
จินจูยิ้มอย่างดีใจ
“คราวนี้เห็นด้วยแล้วใช่มั้ยคะ ดีใจมากเลย”
“ใจเย็น ต้องคุยกับวันดีให้ชัดๆ ก่อน”
“ได้ค่ะ แต่ไม่ว่ายังไง ชั้นก็ยังแน่ใจว่าเดาไม่ผิด ลูกของเราอยู่ตรงนี้แล้วจริงๆ”
จินจูสีหน้าดูมีความหวังมากขึ้น คธามองอย่างเอาใจช่วย

คีรินทร์นั่งคุยกับเดชอยู่ในห้องทำงาน
“เรื่องคนที่ช่วยนุชนารถเข้าทำงาน หาตัวเจอรึยัง”
“ยังไม่ค่อยคืบหน้าเลยครับ เท่าที่สอบพนักงานหลายคน ก็ไม่มีใครรู้เรื่องเลย” คีรินทร์นิ่งคิด
“ขอเทปกล้องวงจรปิด ย้อนหลังสักเดือน ตั้งแต่เริ่มมีการรับสมัครประกวดนางเอก ดูให้ละเอียด ต้องได้เบาะแสอะไรมั่งน่า”
เดชพยักหน้ารับสีหน้าจริงจัง

แสงสลัวใกล้มืด พิพัฒน์แอบหลังพุ่มไม้ มองไข่มุกในชุดแอโรบิคขาสั้นออกกำลังกายที่สวน พอเสร็จก็เดินซับเหงื่อมาจะกลับห้อง เดินผ่านพุ่มไม้ พิพัฒน์ก็โผล่พรวดออกมา ไข่มุกสะดุ้งตกใจ ฟาดผ้าขนหนูเช็ดหน้าเข้าตัวพิพัฒน์ พิพัฒน์รับแล้วดึงผ้าไว้
“ว้าย”
พิพัฒน์โวยวาย
“โอ้ย ฟาดมาได้ ไข่มุก นี่ชั้นเอง”
ไข่มุกถอยมา ทำโค้งขอโทษ
“โทษทีคุณพัฒน์ ตกใจหมด โผล่มาจากที่มืดๆ หนูก็นึกว่าผี”
พิพัฒน์ลากมือไข่มุกยื้อไว้
“ผีที่ไหนเล่า นี่เธอ ขอเวลาเดี๋ยวซิ ชั้นมีเรื่องคุยด้วย”
ไข่มุกสะบัดมือ มองพิพัฒน์
“อะไรคะ”
“ชั้นอยากปรึกษาเรื่องลูกไก่” พิพัฒน์แกล้งทำสีหน้ากังวลมาก “กลุ้มใจจริงๆ มีแต่เธอที่พอคุยได้”
ไข่มุกมองพิพัฒน์อย่างครุ่นคิด พิพัฒน์จะจับมือไข่มุกอีกทีให้คุยด้วย ไข่มุกเอี่ยวตัวหลบ
ขณะนั้นคีรินทร์เดินมากับภัททิมา เหลียวไปเห็นสองคนคุยกันใกล้ชิดก็หยุดชะเง้อมองอย่างสงสัย
“เอ๊ะ นั่น ไข่มุกกับพิพัฒน์นี่ ทำไรกันมืดๆ สงสัยมีความลับ”
คีรินทร์จะเดินไปหา ภัททิมาดึงไว้
“โอ้ย คุณรินทร์อย่าเข้าไปเลย ปล่อยให้คุยกันเถอะ คงมีเรื่องต้องเคลียร์กัน”
“เคลียร์อะไร ไฟในสวนไม่ค่อยสว่างด้วย เข้าไปช่วยเคลียร์ดีกว่า”
ภัททิมาดึงตัวคีรินทร์ไว้ ทำร้องเพลง

“คนที่ไม่ใช่แฟน เคลียร์แทนกัน ไม่ได้”

คีรินทร์งง ไม่อยากเชื่อ
“ใครเป็นแฟนใคร”
“พิพัฒน์เนี่ยไงคะ แฟนไข่มุก”
ภัททิมาพยักหน้าหงึกๆ ทำชี้ให้ดู คีรินทร์ก็มองตามจึงเห็นภาพไข่มุกแบมือขอผ้าเช็ดตัวคืน
“ขอผ้าชั้นคืนเถอะ ต้องรีบไป ไว้คุยกันวันหลังนะคุณพัฒน์”
พิพัฒน์ทำลังเลแล้วยื่นคืนให้
“เดี๋ยวนี้เป็นดาราดังแล้ว คุยด้วยนิดหน่อยคงต้องขอคิว”
ไข่มุกรับผ้ามาซับเหงื่อแล้วยิ้ม
“แหม ไม่ถึงขนาดนั้น ยังไม่ได้แสดงซักฉากเลย”
คีรินทร์เห็นพิพัฒน์ยื่นผ้าให้ไข่มุกซับเหงื่อเหมือนจู๋จี๋กันมากก็หึงแทบคลั่ง กำหมัดแน่น ภัททิมาได้ทียุส่ง
“ภาพมันบาดตาไปนิ๊ด ทนหน่อยนะ เจ็บแต่จบนะรินทร์ขา คู่นี้เลิฟตะลอนกันมานานแล้ว มุกก็ฝากงานให้พัฒน์ ต๊าย คุณรินทร์ไม่รู้เลยเหรอ เอาเป็นว่าอยากรู้เชิงลึก ถามคุณแม่ลูกไก่เอาเองแล้วกัน”
คีรินทร์มองสองคนที่ยืนใกล้ชิดกันอย่างเจ็บปวด หึงมากจนแทบบ้า

พนักงานเสิร์ฟขนมและกาแฟ ชลลดายกดื่มอย่างใจเย็นแล้วมองหน้าคีรินทร์ที่นั่งร้อนรุ่มใจ ชลลดาส่ายหน้าช้าๆ พูดอย่างเห็นใจคีรินทร์
“พิพัฒน์กับไข่มุกเป็นแฟนกันมานานแล้ว ถ้าไม่เชื่อคุณตามสืบเอาเดี๋ยวจะหาว่าชั้นใส่ร้ายไข่มุกคนดีของคุณอีก”
คีรินทร์อึ้ง เสียงเหมือนเพลียๆ
“นี่ผม ต้องเจอเรื่องอะไรจากไข่มุกอีก”
ชลลลดาทำถอนใจ น้ำเสียงจริงจัง
“น้าน่ะ มองตาก็รู้ว่าคุณจริงใจกับไข่มุก แต่แม่นั่นจะมีตอบคุณมั้ย ไม่แน่ใจ และเป็นห่วงแทน แม่เนี่ยให้สี่คำ ดรา-ม่า-ตัว-แม่ เห็นหน้าติ๋มยิ้มหวานแบบนางเอก ฮึ นางร้ายจอมปลิ้นปล้อนเลยหละ”
คีรินทร์ยังไม่ปักใจเชื่อ
“ผมก็รู้จักผู้หญิงมาเยอะ แต่ไข่มุกนี่ ยอมรับเลยว่ามึน”
ชลลดาขยับใกล้มือแตะคีรินทร์
“คุณรินทร์ขา ขอพูดตรงๆ เลยนะ ลูกดิชั้นเป็นคนซื่อๆ ทำอะไรโก๊ะๆ บ้างแต่ก็น่ารัก ที่สำคัญลูกไก่รักคุณ รักอย่างจริงใจด้วย คุณตัดใจจากไข่มุกซะเถอะ คุณจะชอบผู้หญิงแสนซื่อ ที่รักคุณ หรือคนที่ชอบหลอก มีชายชู้อีกคน ทั้งที่ยังขึ้นชื่อว่าเป็นเมียคุณ ก็เลือกเอาเองแล้วกัน”
คีรินทร์อึ้ง มองหน้าชลลดาอย่างไม่แน่ใจ ว่าจะเชื่อดีมั้ย

เช้าวันรุ่งขึ้น คีรินทร์แอบตามไข่มุกทุกฝีก้าว ไข่มุกในชุดเสื้อคลุมของโรงแรม เปิดประตู พาดผ้าขนหนูที่ไหล่จะไปว่ายน้ำ เดินมายืนคอยลิฟต์ มือก็ถือบทท่องไปด้วย หลับตา ออกท่าทาง ซ้อมบท ดูความหนาของบท“หนาเตอะเลย จะท่องหมดมั้ยเนี่ย”
คีรินทร์โผล่หน้าที่มุมตึก ย่องตามมาใกล้ ไข่มุกรู้สึกเหมือนใครมองมาก็หันไป คีรินทร์รีบหลบหัวไปโขกกับกรอบรูป จับหัวอย่างเจ็บ พอดีลิฟต์มา ไข่มุกรีบเข้าไป

ที่สระว่ายน้ำ ไข่มุกว่ายน้ำมาถึงขอบสระ หยุดว่ายพักเหนื่อย มองไปขอบสระอีกด้าน เห็นผู้ชายคล้ายคีรินทร์ก็จ้องมองอย่างสงสัย คีรินทร์เห็นไข่มุกมองมา รีบหลบจนหันไปชนกับหญิงอีกคน หญิงเห็นก็ยิ้มหวาน
“หล่อจัง ตั้งใจชนใช่มั้ยคะ เอ้า คีย์การ์ดไว้เข้าห้อง”
คีรินทร์หน้าเหวอ
“เอ๊ย ไม่ใช่ครับ เข้าใจผิดแล้ว”
คีรินทร์รีบเดินหนี หญิงร้องตาม
“เดี๋ยวสิคะ คุยกันก่อน คุยเฉยๆ ก็ได้ อย่าพึ่งหนีสิ รอด้วย”
ไข่มุกที่ว่ายน้ำ ได้ยินเสียงโหวกเหวกก็หยุดหันมามอง เห็นแต่หลังคีรินทร์รีบเดินไป
“เสน่ห์แรงจนต้องวิ่งหนีหญิงเลยเหรอเนี่ย น่าหมั่นไส้”

วันเดียวกันนั้นพิพัฒน์นัดเจอกับไข่มุกที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ไข่มุกเดินถึงโต๊ะอาหารที่พิพัฒน์นั่งคอยอยู่ พิพัฒน์ยิ้ม เชิญให้นั่ง
“นั่งซิ ขอบใจนะที่มา”
คีรินทร์นั่งอยู่โต๊ะไกลออกไป ลดหนังสือที่บังหน้าลง ค่อยๆ แผลมมือถือออกมาถ่ายรูปแล้วส่ายหน้ามองอย่างเจ็บใจ
“เก็บหลักฐานไว้ก่อน เห็นจะๆ ยัยไข่มุกจอมกะล่อน”
ไข่มุกมองพิพัฒน์หน้าเรียบๆ แล้วนั่งลง
“ว่ามาซิคะ เรื่องที่คุณรู้เกี่ยวกับคุณรินทร์” พิพัฒน์สีหน้าจริงจัง
“ผมซี้กับหลายฝ่ายในโรงแรม พอรู้ว่ามีคนไม่ชอบคุณรินทร์อยู่กลุ่มหนึ่ง แต่ไม่รู้เป็นใคร” ไข่มุกนิ่งคิด“เขาจับตัวได้แล้วนี่ พวกก่อม็อบ”
“นั่นไม่ใช่ตัวจริง คิดว่าน่าจะมีเป็นขบวนการ แต่ผมคนเดียวสืบไม่ไหว คุณยังห่วงคุณรินทร์ไหม” ไข่มุกอึกอัก
“ก็ จริงๆ แล้ว เรา...”
“ฮึ งั้นก็ไม่เป็นไร ไอ้เราก็นึกว่าจะมีคนห่วงเหมือนกัน ช่างเถอะ”
“เดี๋ยวสิ ก็ต้องช่วยเขาอยู่แล้วล่ะ คุณจะเริ่มสืบยังไง”
พิพัฒน์ทำสีหน้าจริงจัง กวักมือจะกระซิบ ให้ไข่มุกเอียงหัวเข้าไปใกล้พิพัฒน์
“เดี๋ยวพูดให้ฟัง แต่ทุกอย่างต้องเป็นความลับนะ ห้ามบอกใครเด็ดขาด แม้แต่คุณคีรินทร์ ไม่งั้นเดี๋ยวเขาพูดหรือแสดงอะไรออกไป พวกนั้นไหวตัวทันแน่”
“ได้ ได้”
คีรินทร์เห็นสองคนใกล้ชิดกัน กัดฟันกรอดอย่างหึง ลุกขึ้นอย่างทนไม่ไหว
“จะเกินไปแล้ว”
“รับรอง ชั้นไม่บอกใครแน่”
ไข่มุกรับปากกับพิพัฒน์ คีรินทร์เดินเข้ามาดึงตัวไข่มุกออกมา
“มีความลับกันเยอะใช่มั้ย ไปกับชั้นเดี๋ยวนี้ ขอเคลียร์หน่อย” ไข่มุกตกใจ
“โอ๊ย เจ็บนะคุณริน ปล่อย คุณจะทำอะไรของคุณ”
“ใจเย็นครับคุณรินทร์ ค่อยพูดกันก็ได้”
“ไม่เย็นแล้วโว้ย อย่ามายุ่ง”

คีรินทร์ดึงมือไข่มุกออกไปจากร้านอย่างฉุนเฉียว พิพัฒน์ยิ้มเยาะตามหลังอย่างสะใจ

คีรินทร์พาไข่มุกกลับมาที่โรงแรมแล้ว ดึงไข่มุกเข้ามาในห้องอย่างโมโห ปล่อยไข่มุกแทบผลักจนตัวเซ ไข่มุกงง หน้าบูด หันมองอย่างไม่พอใจเช่นกัน
“คุณรินทร์ ฟังก่อนซิ ทำไมต้องรุนแรงด้วย ชั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคุณแล้วนะ ทำแบบนี้ได้ไง”
คีรินทร์เดินมาใกล้ไข่มุก
“ชั้นไม่เกี่ยว แต่ไอ้หมอนั้นมันเกี่ยวใช่มั้ย”
“คุณกำลังเข้าใจผิด ชั้นไปเจอคุณพัฒน์ก็เพราะ...”
คีรินทร์ขึ้นเสียงอย่างระเบิดออกจากใจ ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น
“เพราะเธอเป็นเมียมันไง เป็นมานานแล้วด้วย เธอหลอกแต่งกับชั้นคราวที่แล้วยังยกโทษให้ได้ มีไอ้พิพัฒน์มาก่อน ยังทำใจได้ แต่นี่เอามันมาฝากทำงานในโรงแรมชั้น แอบไปนอนกับมันตอนชั้นเผลอมากี่ครั้งแล้วล่ะ”
ไข่มุกตบหน้าคีรินทร์อย่างโมโห ร้องไห้อย่างเสียใจมาก แล้วบอกเสียงกร้าว
“คุณดูถูกชั้นมากไปแล้วนะ เมื่อไรคุณจะเลิกเข้าใจอะไรผิดๆ เลิกใจร้อนวู่วาม ไร้เหตุผล เพราะคุณเป็นแบบนี้ ถึงไม่เคยรู้เลยว่าชั้นคิดยังไงกับคุณ”
คีรินทร์บีบไหล่ไข่มุกแน่น
“ใช่สิ คนอย่างชั้นถึงได้โดนเธอหลอกแล้วหลอกอีก พอกันที ชั้นตาสว่างแล้ว และจะเลือกคนที่เขาไม่คิดหลอกชั้นเหมือนเธอ” คีรินทร์สะบัดมือจากไข่มุกจนไข่มุกเซ เดินไปที่กำแพง หันซ้ายหันขวาอย่างอัดอั้น สุดท้ายก็กำหมัดชกกำแพงอย่างแรงหลายครั้ง ”โธ่เว้ย ไอ้โง่ ไอ้งี่เง่า เว้ย”
ไข่มุกตกใจ ร้องไห้หนักขึ้น เข้าไปห้าม ดึงมือคีรินทร์ที่ชกกำแพงซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างเจ็บใจตัวเอง
“คุณรินทร์ไม่เอานะ หยุด พอได้แล้ว คุณรินทร์”
คีรินทร์กำหมัด เลือดไหล
“สะใจแล้วใช่มั้ย ได้เห็นไอ้โง่อย่างชั้นต้องเป็นบ้าเพราะเธอแบบนี้”
คีรินทร์เดินออกไปอย่างโมโห ไข่มุกยืนร้องไห้อย่างช้ำใจ

คีรินทร์เดินกลับเข้ามาในห้องทำงานหน้าเครียด เดินช้าๆ มาที่โต๊ะทำงาน กุมมือที่เจ็บเป็นแผลจากชกกำแพง
นั่งลงอย่างหมดแรง มองแผลถลก ฟกช้ำเลือดซิบอย่างเจ็บปวด นึกถึงไข่มุกทั้งรักทั้งแค้น อายเสียหน้ามาก ภัททิมาเปิดประตู โผล่หน้ามายิ้ม
“จ๊ะเอ๋ดาร์ลิ่ง รินทร์ขา ไปทานข้าวกัน” คีรินทร์มองตาเขียว หน้าบึ้งอย่างเครียด ภัททิมาหุบยิ้มแทบไม่ทัน แปลกใจจะเดินเข้ามา “เป็นไรไปคะรินทร์ หน้าเครียดเชียว เดี๋ยวจุ๊บๆ ให้”
คีรินทร์หันมามองตาแข็ง
“ออกไป”
ภัททิมาได้ยินไม่ถนัด ยังยิ้มหวาน
“อะไรนะ”
คีรินทร์หันมาตวาดเสียงดัง
“ออกไป๊”
ภัททิมาผงะ ก้าวขาค้างรีบหดกลับ
“อุ๊ย ทำไมวันนี้มาโหมดดุจัง”
ภัททิมารีบออกไปจะปิดประตูให้ ก็แอบแง้มประตู ยื่นหน้ามองอีกที คีรินทร์หันมามองตาดุ เอาเรื่อง ภัททิมารีบปิดประตูอย่างกลัว คีรินทร์กำหมัดแน่นอย่างเจ็บใจ
“ทำไมถึงยังต้องมีคนอื่น ทำไม”
คีรินทร์เครียดจัด เอามือปิดหน้า แต่พอเอามือลงถึงเห็นว่าเขาอัดอั้นจนน้ำตาคลอ รู้สึกเจ็บปวดมากกับเรื่องพิพัฒน์และไข่มุก

ไข่มุกกับซอนซายืนซ้อมบทกันที่กองถ่าย จินจูกับแทยอนมองอยู่ไม่ไกล
“นี่เธอกล้าดียังไง ถึงกลับมาที่นี่”
“ชั้นแค่จะมาพิสูจน์ความจริง ว่า...เอ่อ”
“ขออารมณ์นิดนึงครับ นางเอกต้องกลับมาพิสูจน์ความจริงเรื่องพ่อ ไม่ใช่มาขายประกัน ขออินเนอร์อีกนิด ซ้อมอีกครั้ง จะได้ถ่ายจริงซะที”
ผู้กำกับบอก ซอนซามองไข่มุกเบื่อๆ
“นี่เธอกล้าดียังไง ถึงกลับมาที่นี่”
“ชั้นแค่จะมาพิสูจน์ความจริง ว่าพ่อของชั้นไม่ใช่ฆาตกร อย่างที่คนใจชั่วกล่าวหา”
ซอนซาพุ่งตัวเข้าไปหา ทำท่าตบใส่ ไข่มุกผงะแล้วเผลอหลบวูบ ซอนซาเซไปแล้วหันกลับมามองไข่มุกตาเขม็ง
“ไม่เห็นเหรอว่าในบทต้องโดนตบ ก็สะบัดหน้าตามสิ จะหลบทำไม เหม่ออะไรอยู่ได้ตั้งแต่เช้า ชั้นไม่มีเวลาว่างมาซ้อมทั้งวันนะ”
ไข่มุกมองอึ้ง จินจูทำท่าจะเข้าไปห้าม แทยอนจับไหล่เอาไว้แล้วส่ายหน้าห้าม ไข่มุกหน้าซีด ยกมือไหว้
“หนูขอโทษค่ะ ขอโทษจริงๆ ขออีกรอบนะคะ”
“ขอโทษไปก็ไม่มีประโยชน์ ไม่มีความตั้งใจ ซ้อมไปก็เท่านั้น ไม่เป็นมืออาชีพอย่างนี้ก็อย่ามาเล่นดีกว่า”
ซอนซาโยนบทลงบนโต๊ะ แล้วเดินออกไป ไข่มุกมองตามอย่างเศร้าๆ ปนเสียใจที่ทำไม่ได้

จินจูยืนอยู่กันแทยอนอีกมุมหนึ่งของกองถ่าย
“ทำไมถึงห้ามไม่ให้ชั้นช่วยไข่มุกคะ เขาเพิ่งแสดงเรื่องแรก ก็ต้องทำผิดทำถูกบ้าง แต่ซอนซา นอกจากไม่ให้โอกาส ยังแกล้งกดดันมากขึ้นอีก”
“เรื่องธรรมดา โลกนี้มีที่ให้คนเข้มแข็งเท่านั้น รู้ตัวรึเปล่า เธอเข้าข้างไข่มุกมากเกินไปจนทุกคนสังเกตเห็นแล้ว มีอะไรเหรอจินจู ทำไมต้องปกป้องกันขนาดนี้”
จินจูนิ่งแล้วบอกอย่างไตร่ตรอง
“ชั้นคิดว่า ไข่มุก คือยองแอ”
แทยอนชะงัก
“เป็นไปได้ยังไง”
“คนที่เอายองแอไปเลี้ยง ก็คือวันดี ถึงตอนนี้ยังไม่มีหลักฐาน แต่วันดีก็ทำพิรุธหลายอย่าง เขามีความลับปิดไว้แน่ พี่แทยอน ชั้นแน่ใจนะว่าไข่มุกเป็นลูกสาวชั้น จะไม่ยอมให้ใครรังแกเขา”
จินจูหน้าเครียด แทยอนเองก็เครียดไม่แพ้กัน

คีรินทร์ยืนอยู่ ไข่มุกเดินมาหา
“ยังไงๆ ชั้นก็ต้องอธิบายให้ได้ คุณเป็นอะไร ชั้นงงไปหมดแล้”
“ยังจะมาอธิบายอะไร จะหลอกอะไรอีกฮึ ไม่อยากฟังคำโกหกแล้ว ถอยไปไกลๆ เลย”
คีรินทร์เดินเบียดจงใจกระแทกไหล่ไข่มุกจนเซ ไข่มุกทั้งโกรธทั้งโมโห เดินตามไปใกล้ๆ แล้วตะโกนใส่
“คนเจ้าอารมณ์ ขี้โมโห ไม่มีเหตุผล ไม่ฟังคนอื่น ไม่พอใจก็เอาแต่เดินหนี ผู้ชายใจร้าย”
คีรินทร์หยุดแล้วหันมา
“เออ ชั้นก็เป็นคนแบบนั้นแหละ ไม่รู้รึไง”
“นี่คุณ”
คีรินทร์พูดแทรกไม่ยอมฟัง

“กลับไปอยู่กับแฟนเธอเลยไป อุตส่าห์พาเข้ามาทำงานที่เดียวกันเลยนี่ จะมามัวยุ่งกับชั้นทำไม”

ไข่มุกนิ่งไปอย่างโมโห
“ได้ ชั้นจะไม่ยุ่งกับคุณอีก”
“เอาเลย หึ ยอมรับแล้วล่ะสิว่าไอ้หน้าจืดนั่นเป็นแฟน แอ๊บหลอกชั้นได้ตั้งนาน”
ไข่มุกมองหน้าคีรินทร์แล้วบอกอย่างประชด
“ใช่ เขาเป็นแฟนชั้น”
ไข่มุกเดินเชิดใส่คีรินทร์ เบียดไหล่กระแทกบ้างจนคีรินทร์เซ คีรินทร์มองตาขวาง ไข่มุกยกมือทำท่าจะชก แล้วสะบัดหน้างอนๆ เดินไปอีกทาง
“เดี๋ยว เธอว่าไงนะ ไข่มุก ไข่มุก”

ไข่มุกเดินหนี คีรินทร์เดินตามมา กัสจังที่อยู่ตรงนั้นพอดีเห็นไข่มุกก็รีบเดินเข้าไปหา
“กำลังหาอยู่เลย ถ้าช้ากว่านี้จะให้รปภ.วอตามแล้วนะยะ แม่นางเอกคิวทอง อุ๊ยต๊าย ไปทำอะไรมา หน้ามันหัวฟีบ ไม่ได้ๆๆ ไปโบ๊ะกันเลย งานนี้ทั้งถ่ายแบบโปรโมทโรงแรม ทั้งสัมภาษณ์คู่เอ็มดี ซีดอย่างกับศพแบบนี้ เจ๊รับไม่ได้” คีรินทร์เดินมาใกล้ กัสจังทำท่าชะงักอย่างจริตแพรวพราว กระพือขนตาใส่ “อุ๊บส์ คุณรินทร์สุดหล่อ คิดถึงกัสเหรอฮ้า ตามมาถึงนี่เลย มั๊วะๆ”
กัสจัวเผยอปากส่งจูบไปให้ คีรินทร์ชะงัก มองอย่างแหยงๆ ทำหน้าไม่ถูก รีบเดินหนีไป

วันดีเดินอยู่ในโรงแรม กำลังมองอย่างตื่นตาตื่นใจ จินจูเดินออกมาดักหน้า
“ทำไมต้องหลบหน้าชั้น คุณวันดี”
“หลบอะไร พูดไม่รู้เรื่อง วุ้ย ขวางทาง”
วันดีหันหลังจะเดินกลับ คธาเดินมายืนดักหน้าเอาไว้ วันดีหันกลับมองทั้งจินจูทั้งคธา
“วันนั้นที่เราไปหาคนชื่อวันดี แล้วเจอคุณ ทำไมไม่บอกว่าเป็นคุณแต่กลับโกหก ว่าวันดีไปต่างจังหวัดอีก”
“พูดอะไรมั่วๆ ชั้นไม่เคยพูด”
“วันนั้นผมก็อยู่ด้วย แล้วยังจำได้ด้วยว่าคุณพูดอะไรบ้าง” วันดีทำท่าคิดหาทางออก
“ชั้นเจ้าหนี้เยอะ นึกว่าจะมาทวงหนี้ ก็บอกปัดๆ ไป หลบไปได้แล้วจะกลับห้อง”
วันดีทำท่าจะเดินหนี จินจูดักไว้
“ไข่มุกไม่ใช่ลูกของคุณใช่มั้ย”
“อ๋อ นี่คิดจะตู่เอาลูกคนอื่นล่ะสิ นังมุกน่ะชั้นคลอดมาเอง จะไม่ใช่ได้ยังไง”
ไข่มุกเดินออกมาดู
“มีอะไรกันเหรอคะ เสียงดังมากเลย”
“ก็นังยัยซุปตาร์สุดที่รักของแกน่ะสิ อิโธ่ ไม่มีปัญญามีลูกเองหรือไง ถึงจะมาแย่งลูกคนจนๆ แต่หน้าตาดี ไม่น่าขี้โกงเลย”
“ไม่ใช่นะครับ”
“ไม่ใช่อะไร เข้าข้างกันน่ะสิ จะบอกหรือไงว่าเป็นพ่อนังมุกอีกคน หึ พวกโรคจิต”
วันดีดึงแขนไข่มุกออกมาแล้วเดินไปอย่างเร็ว จินจูกับคธามองตาม

วันดีลากไข่มุกมาหยุดหน้าลิฟต์แล้วกด วันดีหน้าตาเคร่งเครียดจับมือไข่มุกไม่ยอมปล่อย
“ทำไมไปว่าคุณคธาแรงๆ อย่างนั้นล่ะแม่ แล้วทำไมถึงบอกว่าคุณจินจูอยากได้หนูล่ะ แม่มีเรื่องอะไรกับเขาเหรอ”
ลิฟต์เปิด วันดีดึงมุกเข้าในลิฟต์
“ไม่รู้ เฮอะ เป็นถึงซุปตาร์ยังจะมาแย่งลูกชั้น แกอยู่ให้ห่างๆ เลยนะ สงสัยเป็นบ้า โรคจิต อยากมีลูกมาก”
“คิดมากน่าแม่ เขาแค่เอ็นดูหนู”
“เอ็นดูจะเอาแกไปน่ะสิ ไป ไปเก็บของ ไม่ต้องอยู่มันแล้ว กลับบ้านดีกว่า ไม่ต้องเป็นแล้วนางเอกอะไรเนี่ย ห้าแสนที่ได้ พอไปทำทุนแล้ว”
“แม่จ๋า แต่เงินอีกตั้งล้านนะ แถมหนังก็กำลังถ่ายทำอยู่ ถอนตัวปุบปับแบบนี้ เขาจะทำยังไง เดือดร้อนกันตาย”
“เรื่องของมันสิวะ ไม่ได้เดือดด้วยนี่”
“แต่หนูจะต้องเอาเงินไปจ้างทนาย คดีแม่จะต้องใช้เงินอีกเท่าไหร่ไม่รู้ ห้าแสนจะพอรึเปล่า”
วันดีอึ้ง จับไข่มุกมามองสบตา ไข่มุกมองอย่างงงๆ วันดีคว้าไข่มุกมากอดแล้วร้องไห้
“สัญญาได้มั้ย ว่าเอ็งจะไม่ทิ้งแม่ ไม่ว่ายังไงก็ห้ามทิ้ง อย่าเห็นคนอื่นดีกว่า”
“แม่เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม”
“สัญญาสิวะ แม่เลี้ยงเอ็งตั้งแต่เล็ก ลำบากขอทาน ตำส้มตำหาเลี้ยง ถึงไม่มีตังแต่ก็ยังส่งให้เรียนหนังสือ ตอนนี้เอ็งดีแล้ว ห้ามทิ้งกันนะนังมุก จะดูแลแม่ไปจนแก่จนตายใช่มั้ย บอกมาสิ”
“ยังไงมุกก็ไม่มีวันทิ้งแม่หรอก อย่าร้องไห้เลยนะ มุกสัญญานะแม่ เราจะไม่ทิ้งกัน”
วันดีร้องไห้โฮแล้วกอดไข่มุกแน่น ไข่มุกได้แต่กอดปลอบแบบงงๆ

แทยอน จินจู คธา นั่งปรึกษากันอยู่ในห้อง จินจูหน้าเครียด
“อย่าเพิ่งใจร้อน ทำอะไรบุ่มบ่ามไปไม่ดีแน่”
“แต่ชั้นมั่นใจว่าคิดไม่ผิด ไม่งั้นคงไม่ถูกชะตาไข่มุกขนาดนี้”
“เราต้องพิสูจน์ แต่ต้องคิดให้ดีก่อนว่าจะทำวิธีไหน ไม่งั้นถ้ามีอะไรพลาด คนที่จะเสียความรู้สึกมากที่สุด ก็คือไข่มุก”
“ถ้าจำเป็นก็ต้องพิสูจน์ แต่ชั้นมั่นใจว่าไม่พลาดแน่ พี่แทยอนคะ เราจะตรวจดีเอ็นดีไข่มุกได้ยังไง โดยที่เขาไม่รู้ตัว”
“จะผิดกฎหมายน่ะสิ ถ้าจะตรวจ เจ้าตัวต้องเต็มใจ จินจู พี่รู้ว่าเธอร้อนใจมาก แต่งานนี้ต้องใจเย็นที่สุด ใจร้อนไม่ได้เป็นอันขาด”
“เรารอมาได้ยี่สิบกว่าปีแล้ว รออีกหน่อยจะเป็นไรไป”
จินจูมองทั้งสองคนแล้วถอนใจ
“รู้มั้ย นี่เป็นครั้งแรกที่พวกคุณสองคนเห็นตรงกันเลยนะ ก็ได้ ชั้นจะใจเย็น ไม่ใจร้อนผลีผลามอีก พอใจหรือยังคะ”
จินจูมองหน้าแทยอนกับคธา คธายิ้มนิดๆ

มณีจัดเต็มทั้งเสื้อผ้าหน้าผมยืนเด่นอยู่หน้ากล้อง ขณะที่จินจูยืนข้างไข่มุก คีรินทร์ยืนอยู่อีกข้างแต่ทำหน้านิ่ง
วันดีมาเมียงๆ มองๆ ที่กองถ่าย
“อุ๊ย ปล่อยมาได้ไง ยัยแม่ค้านั่นฆ่าคนมานะ รปภ.ล่ะ รปภ.อยู่ไหน” มณีโวยวายเมื่อเห็นวันดี
“เบาๆ น่าคุณ คนตั้งเยอะ จะกลัวอะไร”
“กลัวมันจิ้มเอาน่ะสิ”
“เฉยๆ เหอะน่า”
มณีทำท่ายุกยิก แต่ก็ฉีกยิ้มหวานตอนกล้องลั่นชัตเตอร์ คีรินทร์ยืนหน้ามุ่ยห่างไข่มุก
“คุณคีรินทร์ครับ เขยิบเข้ามาชิดนางเอกหน่อย” ช่างภาพร้องบอกแต่คีรินทร์ทำยืนนิ่ง ภัททิมาเดินมาเห็นมองเข้าไปอย่างตื่นเต้น ทำท่าจะเข้าไปด้วย
“เดี๋ยวค่ะเดี๋ยว ยังไม่ครบ รอลูกไก่ด้วย”
กัสจังดึงเสื้อภัททิมาไว้
“ยู้ดดด หยุดย่ะ เขาถ่ายรูปโปรโมทหนังกับโรงแรม คนตกรอบไม่เกี่ยว อย่ายุ่ง”
ภัททิมาดิ้นฟึดฟัดแต่ถูกกัสจังจับไว้แน่น
“ขยับหน่อยครับ คุณคีรินทร์ เหลืออีกเซ็ตเดียวแล้ว”
คีรินทร์ทำท่าหงุดหงิด ขยับอย่างกระแทกกระทั้นเข้าไปหาไข่มุก จังหวะพอดีกับที่มุกหันกลับมาเลยหอมแก้มกันพอดี ช่างภาพลั่นกล้องแชะ ภัททิมาร้องกรี๊ดลั่น
“อ๊าย คุณรินทร์ไปหอมมันได้ไง ลูกไก่ไม่ยอม ไม่ยอม”
ภัททิมาดิ้นจะเข้าไปหา กัสจังรีบคว้าเอาไว้ ถลึงตาใส่ ภัททิมาทำท่าสะบัดแต่ไม่หลุด
“โอ๊ย แอ็คซิเดนท์ อย่าเว่อร์ โวยวายนักก็ไปไกลๆ กะเทยรำคาญ”

คีรินทร์กับไข่มุกมองหน้ากันอย่างอึ้งๆ ไข่มุกทำหน้ายู่ใส่คีรินทร์ถลึงตากลับแล้วทั้งคู่ก็สะบัดหน้าเชิดไปคนละทาง

มายาสีมุก ตอนที่ 11 (ต่อ)

คีรินทร์กับไข่มุกนั่งให้สัมภาษณ์นักข่าว ทั้งคู่ยิ้มให้นักข่าวแต่พอสบตากันก็ทำหน้าบึ้ง
“ขอบคุณสยามกรุ๊ปกับทางกองถ่ายด้วยนะครับ สำหรับสถานที่และคิวที่ให้สัมภาษณ์ คุณคีรินทร์มีอะไรจะฝากคุณไข่มุก ในฐานะนางเอกใหม่ในวงการบันเทิงมั้ยครับ”
คีรินทร์มองหน้าไข่มุกแค่นยิ้ม
“ยินดีด้วยที่ได้บทนางเอกสมใจ แต่อยากให้จำเอาไว้ ว่าต่อให้เป็นคนธรรมดาหรือนางเอกดังคับฟ้า สิ่งสำคัญคือต้องซื่อสัตย์ไม่หลอกลวงใคร อย่าปั้นหน้าซื่อตาใสหลอกใครอีก”
นักข่าวอึ้ง กัสจังที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ทำท่าปวดกะโหลก คีรินทร์จ้องไข่มุกแล้วยิ้มนิดๆ เหมือนจะเยาะ
“เอ่อ แล้ว คุณไข่มุก มีอะไรจะฝากมั้ยครับ”
“ขอบคุณคุณคีรินทร์และสยามกรุ๊ปมากนะคะ ที่ให้การสนับสนุนอย่างดีมาตลอด แต่ในเมื่อเป็นผู้ใหญ่ ชั้นก็ขอให้หนักแน่นมั่นคง อย่าเอาอารมณ์มาตัดสินคนอื่น มีเหตุผลให้มาก อย่าหูเบาเชื่อคนง่าย หลับหูหลับตาไม่ฟังคำอธิบายอีก”
คีรินทร์ลุกขึ้นยืน
“เธอว่าชั้นเหรอ” ไข่มุกยืนบ้าง
“ก็คุณมาว่าชั้นก่อนทำไม”
นักข่าวมองทั้งสองคนงงๆ กัสจังถอนใจเฮือก บ่นกับตัวเอง
“เดือนร้อนคนสวยอีกแล้ว กรรมของกะเทยจริ๊งงง”
“เอ่อ มีอะไรกันหรือเปล่าครับ คุณคีรินทร์ คุณไข่มุก”
กัสจังรีบเข้าไปแทรกกลาง ดึงนักข่าวไว้ ยิ้มหวานกลบเกลื่อน
“อุ๊ย ไม่มีอะไรหรอกฮ่ะ คุณน้องนักข่าวสุดแซ่บ คือ สองคนนี้เขาสนิทกัน หยอกล้อจุ๋งจิ๋งหนุงหนิงกันแบบนี้ประจำไม่มีอะไรฮ่า ไม่มี้ไม่มี”
กัสจังยิ้มหวานให้นักข่าว แต่แอบถลึงตาใส่ไข่มุก ไข่มุกจ้องคีรินทร์ สบตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร

ไข่มุกเดินหนี คีรินทร์เดินตาม คีรินทร์เดินมาถึงตัวแล้วจับข้อมือกระชากให้หันมา
“จะไปไหน แพ้แล้วหนีอีกแล้วรึไง”
“ชั้นไม่ได้แพ้ แต่ขี้เกียจยุ่งกับคนอย่างคุณ ปล่อย”
“อ๋อ เดี๋ยวนี้กิ๊กเก่าแตะไม่ได้ ใช่สิ ไม่ใช่ชู้ใหม่อย่างไอ้พิพัฒน์นี่”
“พูดไม่รู้เรื่อง ชั้นบอกให้ปล่อย”
ไข่มุกกระทืบเท้าคีรินทร์จนคีรินทร์ปล่อยมือ ไข่มุกจะเดินหนีแต่คีรินทร์ก็ยังดึงเอาไว้ จินจูเดินผ่านมาแอบมอง
“ปล่อยให้โง่นะสิ หลอกชั้นมาแล้วตั้งสองครั้ง สร้างภาพเป็นคนดี ที่ไหนได้ซ่อนไว้กี่ชู้กี่กิ๊กก็ไม่รู้ เธอน่ะเป็นผู้หญิงขี้โกหกที่สุดที่ชั้นเคยเจอมาเลย”
จินจูเดินออกมาดึงมือคีรินทร์ออก
“พอที ชั้นรู้จักไข่มุกดี เขาไม่ใช่คนที่จะทำอย่างนั้น”
“ชู้ยืนทนโท่อยู่ในโรงแรม จะว่ากล่าวหาได้ไง คุณต่างหากที่โดนหน้าซื่อๆ แบ๊วๆของไข่มุกหลอกเอา คุณก็เข้าข้างตลอด ไม่ได้ดูเลยว่าตัวตนจริงๆของผู้หญิงคนนี้ เป็นยังไง”
จินจูโมโหทำท่าจะเงื้อมือ ไข่มุกเข้าแทรกกลางตบคีรินทร์ดังลั่น คีรินทร์มองมุกอย่างตกใจคาดไม่ถึง
“ใช่ ชั้นหลอกคุณ หลอกทุกคน ชั้นมีชู้ นอกใจ”
“นี่เธอ” คีรินทร์โมโห
“หยุดพูด ฟังให้จบ ชั้นเป็นคนหลอกลวง เชื่อไม่ได้ สิบแปดมงกุฎตั้งแต่เกิด อะไรอีกที่คุณอยากให้เป็น แบบนี้สมใจคุณรึยัง”
ไข่มุกพูดจบก็เดินออกไปอย่างโมโหและน้อยใจ คีรินทร์มองตามอย่างโกรธๆ ไม่แพ้กัน

จินจูเดินตามไข่มุกเข้ามาในห้องแล้วนั่งลงข้างไข่มุกลูบหัวเบาๆ
“ทำไมหนูไม่บอกความจริง ประชดแบบนี้ไม่มีประโยชน์”
“คนขี้โมโห ปากร้าย ไม่มีเหตุผลแบบนั้น พูดไปก็ไม่เข้าใจหรอกค่ะ” จินจูถอนใจ
“เขากำลังโมโห ปล่อยไปก่อน” จินจูยิ้มให้อย่างปลอบโยน “ชั้นก็รู้ว่าหนูไม่ใช่ผู้หญิง ที่จะมีผู้ชายคนอื่นอีก”
ไข่มุกเงยหน้าสบตา
“คุณยังรู้ แต่ทำไมเขาถึงไม่รู้”
ไข่มุกบอกอย่างน้อยใจ เสียใจ จินจูโอบปลอบไข่มุก ไข่มุกกอดจินจูเอาไว้ สีหน้าเศร้ามาก

คีรินทร์นั่งโมโหอยู่ริมสระน้ำ คธาเดินเข้ามาแล้วนั่งที่เก้าอี้ใกล้ๆ
“เวลาโมโห คนเรามักชอบว่าอีกฝ่ายให้เจ็บใจ เสียใจที่สุด ทั้งที่ก็รู้ว่าสิ่งที่พูดออกมา มันแรงเกินไป แล้วบางครั้งก็ไม่ใช่สิ่งที่อยากพูดจากใจด้วยซ้ำ คุณว่ามั้ยครับ”
คีรินทร์ถอนใจอย่างยอมรับ
“ครับ ผมรู้ว่าพูดไม่ดี แถมยังพาลไปถึงคุณจินจู แต่ไข่มุกก็ผิด มีผมอยู่แล้วยังไปมีไอ้หน้าจืดพิพัฒน์ เขาทำได้ยังไง”
“คุณคิดว่าคนอย่างคุณไข่มุกจะทำอย่างนั้นจริงๆ เหรอ คิดดูให้ดีๆ”
คีรินทร์นิ่งคิด แล้วทำท่าฮึดฮัด
“ถึงตอนนี้ จะทำอะไร จะมีใครก็ช่างเขา เราไม่เกี่ยวกันแล้ว”
“ไม่แคร์สักนิดเลยเหรอ”
คีรินทร์อึ้งพูดไม่ออก ผลุนผลันลุกขึ้นเดินออกไปอย่างไม่มองหน้าคธา คธามองตามอย่างนึกขำ รู้ทันว่าคีรินทร์หึงไข่มุกมาก

เดชใช้คอมเปิดกล้องวงจรปิดให้คีรินทร์ดู เปิดคลิปสั้นๆ เห็นนุชนารถเดินเข้ามา ต่อมาเป็นอีกอัน ทวยไทยเดินออกไป ต่อมาเป็นนุชนารถยืนคุยกับผู้ชายคนนึงเห็นแต่ด้านหลัง
“ผมให้แผนกไอทีตัดคลิปมาให้ เป็นรูปจากกล้องหลายๆ ตัวครับ”
“ดี แล้วผู้ชายคนนั้นเป็นใคร”
เดชคลิกให้ดูเห็นเป็นวัฒนาเดินมา นุชนารถเดินตามมาแล้วดึงเสื้อไว้ พูดคุยกันอย่างสนิทสนม คีรินทร์อึ้งนิดๆ แล้วสีหน้าเครียดลง

ที่กองถ่าย ไข่มุกยืนในชุดเตรียมถ่าย สีหน้าตื่นเต้นนิดๆ จินจูจับมือไข่มุกเอาไว้ ยิ้มให้จางๆ
“ไม่ต้องตื่นเต้น พูดเหมือนที่ซ้อมมาก็พอ ทำได้ใช่มั้ย”
ไข่มุกพยักหน้า ยิ้มให้ วัฒนานั่งดูอยู่ สีหน้าอมยิ้มนิดๆ คีรินทร์เดินมาเห็นวัฒนาก็เบ้หน้าทำเฉยวางท่าใส่
“อ้าว มาดูเหมือนกันเหรอ”
“เออ จะมาดูนางเอกใหม่ ว่าจะเปิ่นเอ๋อแค่ไหน”
ไข่มุกยืนอยู่กับจินจูที่หน้ากล้อง กำลังเล่นอย่างเป็นธรรมชาติ
“ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง ชั้นก็จะขอยืนยันในคำตอบเดิม ว่าชั้นไม่มีทางยอมแพ้แน่”
“คัท เยี่ยมมาก”
แทยอนปรบมือให้ คธาเองก็ปรบตามด้วยคนทั้งกองถ่าย รวมไปถึงซอนซา คีรินทร์ยิ้มตามทำท่าจะปรบมือ แต่เห็นพิพัฒน์ยืนปรบอยู่ไกลๆ เลยหน้าหุบ ทำหน้าบึ้ง หันไปหาวัฒนา
“จบแล้วใช่มั้ย ไปไอ้วัฒ ชั้นมีเรื่องจะคุยด้วย”

วัฒนาเงยหน้ามองคีรินทร์ คีรินทร์ทำหน้าเฉยไม่แสดงความรู้สึก

คีรินทร์พาวัฒนามาคุยในห้องทำงานแล้วแกล้งทำสีหน้าหนักใจมาก
“นุชเขาโทรมาตอนเช้า ขู่จะฆ่าไข่มุก ชั้นไม่รู้จะทำยังไง ดีว่ะ”
วัฒนาอึ้ง สีหน้าตกใจแบบปิดไม่มิด เพราะนึกไม่ถึง คีรินทร์ลอบมองแล้วยิ้มมุมปาก
“แล้วนาย ทำอะไรบ้างแล้วหรือยัง”
“แจ้งความไปแล้ว ตอนแรกก็กะไม่เอาเรื่อง แต่นุชเล่นไม่ยอมจบ ชั้นก็คงต้องจัดการ ลากคอทุกคนที่เกี่ยวข้อง หรือช่วยเหลือ เข้าตะรางให้หมด นายคอยดูแล้วกัน”
วัฒนากลืนน้ำลายฝืดคอ ยิ้มรับแบบนึกกลัว คีรินทร์ทำหน้าขึงขังจริงจัง

เมื่อแยกจากคีรินทร์ วัฒนารีบมาหานุชนารถที่บ้านเช่า
“ชั้นไม่ได้ทำ ใครจะโง่ไปขู่ฆ่านังนั่น ถ้าจะทำ ชั้นทำนังลูกไก่ไม่ดีกว่าเหรอ”
“งั้นไอ้รินทร์เอามาจากไหน”
วัฒนาชะงัก มองไปรอบตัวอย่างระแวง นุชนารถมองตาม ทำหน้าเบื่อๆ
“มีอะไรอีกล่ะ”
“เราเสียรู้คีรินทร์แล้ว”
เดชยืนแอบอยู่ไกลๆ ในมือมีมือถือถ่ายคลิปทั้งคู่อยู่ตลอดเวลา เดชยิ้มเงียบๆ มองไปที่ทั้งคู่

แทยอนกับทีมงานกองถ่ายอยู่ในห้องอาหาร แทยอนยืนขึ้นยกแก้วให้รอบวง
“ฉลองให้การถ่ายทำ ที่เป็นไปอย่างราบรื่น วันนี้พักผ่อนให้เต็มที่”
คนในกองส่งเสียงเฮลั่น จินจูนั่งข้างไข่มุก ซอนซานั่งกินดื่มกับคนอื่นๆ คีรินทร์เดินผ่านมา กัสจังเดินเข้าไปหา
“อุ๊ย มาทานด้วยกันมั้ยฮ้า สุดหล่อของกัส มาเร้ว เดี๋ยวจัดที่นั่งให้คู่น้องไข่มดเลยนะอ้า”
“ไม่ล่ะ ผมขอตัวดีกว่า งานรออยู่”
“ว้า เสียดายจัง แต่ไม่เป็นไรฮ่ะ เจ๊ชอบผู้ชายขยัน สู้ๆ นะฮะ”
คีรินทร์หน้าเคร่ง เพราะเครียดเรื่องวัฒนา ไข่มุกมองอย่างน้อยใจ นึกว่ารังเกียจตัวเอง

อีกมุมหนึ่งวันดีนั่งซดเหล้าจนเริ่มเมา พอหมดก็โวยวาย
“บ๋อย บ๋อยไปไหนวะ เอาแบบเมื่อกี้มาอีกเด๊ะ ฮ่าๆๆ นานๆ ได้กินฟรี ต้องเอาให้เต็มคราบโว้ย รินมาเลย”
คธาเดินมาใกล้ๆ แล้วนั่งลงข้างๆ
“ผมรินให้ครับ”
วันดีชะงัก ตาเยิ้มแบบคนเมา
“ไม่ต้อง ชะช้า จะมาหลอกถามอะไรอีก อย่านะเว้ย อย่าคิดจะแย่งนักมุกไปจากชั้น”
“ใครจะไปทำล่ะครับ ผมรู้ว่าคุณรักลูกมาก ไข่มุกก็ทั้งเก่งทั้งสวย เหมือนคุณไม่มีผิด” วันดีแค่นยิ้มหยัน
“คงเก่งเหมือนพ่อแม่มันมั้ง”
คธาชะงัก แต่เก็บอาการ ถามต่อแบบสบายๆ แต่แอบเก็บข้อมูลเงียบๆ
“ยังไงนะครับ”
“เฮอะ ชั้นปั้นมันมากับมือ ถ้าไม่ได้ชั้น ป่านนี้คงเป็นเหมือนที่ไอ้เม่นพูด นอนให้มดแทะตายข้างทางไปแล้ว”
คธามองวันดีนิ่ง เพราะพูดแปลกหู วันดีสะอึกอย่างคนเมา “ไอ้มุกเป็นของใคร ที่มีวันนี้ได้ก็เพราะนังวันดีคนนี้” วันดี
ตบอกตัวเอง “ชีวิตมันต้องเป็นของชั้น มันต้องทดแทนบุญคุณตลอดไป ใครหน้าไหนก็แย่งไปไม่ได้ เข้าใจมั้ย เข้าใจแล้วก็รินมาเซ่ เพียวๆ โซดาไม่ต้อง”
คธามองวันดีอย่างเริ่มเข้าใจความจริง คธาหันไปมองไข่มุกที่นั่งข้างจินจู อย่างเริ่มมีความหวัง แต่อีกใจก็ยังกลัวผิดหวัง

วัฒนาเดินเข้ามาในห้องคีรินทร์อย่างยิ้มแย่มแจ่มใส คีรินทร์นั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะ
“นายมีอะไรกับชั้นเหรอ”
คีรินทร์ไม่พูด ผลักโน้ตบุ้กให้วัฒนาดู เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่เห็นวัฒนายืนคุยกับนุชนารถชัดเจน
“คลิปตั้งแต่ชั้นยังไม่รู้เรื่องนุช อยากอธิบายมั้ย” วัฒนายังแกล้งยิ้ม
“เฮ้ย โอเค ชั้นยอมรับ นุชนารถมาขอให้ช่วยเรื่องพาเข้าทำงาน แต่ชั้นไม่ได้ช่วยแล้วก็บอกให้เขาเลิกคิดด้วย แล้วที่ไม่บอกนาย เพราะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กๆ ไม่นึกว่าเขาจะมาก่อปัญหาขนาดนี้ ขอโทษด้วย”
คีรินทร์ยิ้มรับอย่างรู้ทัน
“อ๋อ เหรอ งั้น อันนี้ล่ะ”
คีรินทร์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดคลิป เป็นคลิปตอนที่วัฒนาไปหานุชนารถที่บ้านเช่า วัฒนาหน้าซีด อึ้งแล้วมองคีรินทร์ที่ยิ้มยั่วประสาทอยู่
“คราวนี้จะแก้ตัวยังไง หลักฐานคาตา สดๆ ร้อนๆ”
วัฒนาแค่นหัวเราะ
“คิดแล้วไม่มีผิด ก็รู้หมดแล้วนี่ จะต้องมาถามอะไรอีก”
“ชั้นดูนายผิดไป นึกว่าจะกล้ายืดอกยอมรับแบบแมนๆ ที่แท้ก็เป็นพวกปอดแหก แถน้ำขุ่นๆ” คีรินทร์หยิบโทรศัพท์มาสั่ง “เข้ามาได้”
เดชกับรปภ.สองสามคนเข้ามา วัฒนาหน้าเสีย
“เรียกรปภ.เข้ามาทำไม จะทำอะไรชั้น”
“นายมีเวลาเก็บของสามชั่วโมง ต่อไปห้ามเข้ามาในบริเวณโรงแรมอีกเด็ดขาด ไม่งั้นคราวหน้าชั้นจะให้นั่งรถตำรวจออกไป”
“นายไล่ชั้นออกไม่ได้ ชั้นทำประโยชน์ให้โรงแรมนี้ตั้งเท่าไหร่ เพลย์บอยควงผู้หญิงไปวันๆ อย่างนายมีปัญญาทำแบบชั้นหรือไง ที่โรงแรมเจริญขนาดนี้ก็เพราะชั้น”
“เพราะทีมของเราต่างหาก ใช่ นายอาจจะเก่ง แต่คนเก่งกว่าในบริษัทยังมีอีกเยอะ แถมพวกเขายังไม่เคยหักหลังใครเหมือนนาย อย่าสำคัญตัวผิดเลยไอ้วัฒ เดี๋ยวไปรับเงินที่บัญชีสามเดือน แล้วออกไปได้เลย”
“ไม่ ชั้นไม่ยอม แกไล่ชั้นออกไม่ได้ บอร์ดไม่ยอมแน่”
“บอร์ดให้อำนาจตัดสินใจอยู่ที่ชั้น แล้วชั้นก็ตัดสินใจไปแล้ว ไปเก็บของซะ”
วัฒนาโมโห เงื้อมือจะต่อยคีรินทร์ เดชกับลูกน้องมารั้งเอาไว้ วัฒนาสะบัด
“นี่ไง นายก็ดีแต่ให้คนอื่นมาช่วย ไม่มีปัญญาสู้กันตัวต่อตัว ไอ้ขี้ขลาด” คีรินทร์มองเดช
“ปล่อยเขา”
เดชกับคนอื่นๆ ปล่อยวัฒนา วัฒนาทำท่าจะชก คีรินทร์สวนชกหมัดเดียว วัฒนาล้มลงไปกอง
“ชั้นไม่ทำ ไม่ได้แปลว่าทำไม่ได้ จำเอาไว้ ออกไปได้แล้ว”

คีรินทร์ชี้ไปที่ประตูห้อง วัฒนามองหน้าอย่างคนแพ้ แต่แค้นมาก

อ่านต่อเวลา 17.00น.

วัฒนาโดนเดชลากออกมา
“ไอ้บริษัทเฮงซวย ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอกเว้ย ไว้ชั้นจะกลับมาล้างแค้นพวกแกให้หมด ปล่อย ปล่อยโว้ย” ภัททิมาที่ยืนอยู่มองอย่างงงมาก วัฒนามองตาขวาง ภัททิมายิ่งมองอย่างสนใจ “มองอะไร ยัยซิ้มโบ๊ะ”
ภัททิมากรี๊ดลั่น  
“อ๊าย ว่าใครฮึ ปากเน่ามั่กๆ”
ภัททิมาทำท่าจะเข้าไปตะกุยหน้าแต่วัฒนาโดนลากไปก่อน คีรินทร์เดินออกมา ภัททิมารีบปรับสีหน้ายิ้มหวานให้
“บอสขา คุณวัฒเป็นอะไรคะ เมาค้างเหรอ”
“เปล่า อาการของคนโดนไล่ออกจากงานน่ะ แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่”
ภัททิมาเข้ามาควงแขนคีรินทร์
“ก็มาเป็นผู้ช่วยเลขาเหมือนเดิมไงคะ ช่วยทั้งที่ทำงาน” ภัททิมาดึงเนคไทยั่ว “ทั้งที่บ้าน ออลอินวัน”
ภัททิมายิ้มยั่วใส่คีรินทร์ คีรินทร์มองเฉยๆ ไม่พูดอะไร
 
ไข่มุกซ้อมฉากบู๊ต่อท่าต่อสู้กับสตั๊นท์ชายบนคานเหล็กสูงๆ คีรินทร์เดินออกมาหาผู้กำกับที่ยืนอยู่ใกล้ๆ
“จะให้กั้นตรงสวน ทำสถานที่ถ่ายทำเมื่อไหร่ก็บอกนะครับ ผมจะได้สั่งลูกน้องไว้”
“ครับ”
ภัททิมาเดินตามมา ยืนดูไข่มุกซ้อมคิวเงียบๆ มองแล้วเบ้หน้าอย่างอิจฉามาก
“เชอะ สงสัยพวกกรรมการจะฝุ่นเขาตา ถึงได้เลือกผีกุ้งแห้งมาเป็นนางเอก”
คีรินทร์ยืนดูไข่มุกสักพัก เห็นไข่มุกทำท่าตัวเอียงไปมาก็ขมวดคิ้ว
“เขาเป็นอะไร ท่าทางแปลกๆ”
“เอ ผมก็ไม่รู้ สงสัยนอนน้อย แต่เหลือฉากเดียวเดี๋ยวเลิกกองแล้วครับ”
ไข่มุกยืนอยู่ กระพริบตาสะบัดหน้าอย่างเวียนหัว ไข่มุกเริ่มตาลาย มองทุกอย่างมัว ไข่มุกหลบคิวพลาดพลัดตกลงมา คีรินทร์ตกใจมาก รีบวิ่งเข้าไปรับไข่มุกเอาไว้ในอ้อมกอด
“ไข่มุก เป็นอะไร ได้ยินชั้นมั้ย ไข่มุก ไข่มุก”
ไข่มุกจับแขนคีรินทร์เอาไว้
“ชั้น เวียนหัว คุณริน”
“ไม่เป็นไรแล้ว ชั้นอยู่นี่”
แววตาคีรินทร์ฉายความเป็นห่วง ไข่มุกสบตาด้วยอย่างซึ้งใจนิดๆ คีรินทร์มองตอบอย่างอ่อนโยน แต่สักพักก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา คีรินทร์เอามือออกแล้วมองไข่มุกอย่างโกรธๆ
“เวียนหัว ทำอย่างกับท้อง อ๋อ หรือว่าท้องกับไอ้พิพัฒน์ ไวไฟจริงๆ นะเธอเนี่ย”
“ชั้นไม่...”
ไข่มุกเงียบไปแล้วเผลอจับท้อง คีรินทร์มองแล้วยิ่งโมโห สะบัดหน้าอย่างหัวเสียเดินออกไป ภัททิมาแอบมองทั้งคู่แล้วมองไข่มุก สีหน้าอิจฉามากเพราะรู้ว่าคีรินทร์ยังมีเยื่อใย
“ปล่อยเอาไว้ไม่ได้แล้ว”
 
ไข่มุกนั่งอยู่ในห้องกับวันดี ชลลดากับภัททิมาเดินเข้ามา ชลลดามาถึงก็ชี้หน้าด่ากราดไข่มุก
“หนอย ทำสำออยอ่อยนายรินทร์นักใช่มั้ย ชั้นเตือนแกกี่ครั้งแล้วว่าให้เลิกยุ่งกับผัวลูกชั้น เขาจะแต่งงานกันรอมร่อ ยังหน้าไม่อายออเซาะกันกลางวันแสกๆ”
วันดีท้าวเอวอย่างโมโห
“อ้าว ไหงพูดงั้นล่ะ นังมุกมันเป็นเมียมาก่อน ลูกสาวคุณนายแหละที่มาแย่ง หน้าหนาอย่างกับซีเมนต์ทั้งแม่ทั้งลูก”
“นี่ว่าชั้นเหรอ นังแก่ขอทาน ลูกแกต่างหากที่แกล้งทำผิวคิว กะอ้อนล่ะไม่ว่า เชอะ”
ชลลดาผลักไข่มุกเข้าไปใส่วันดี วันดีรับไว้แล้วดันออกอย่างโมโห กระโจนเข้าหาชลลดา
“ขอทานก็สู้คนโว้ย วันนี้จะตบให้ลืมบ้านเลขที่เลย”
วันดีตบชลลดาแล้วถีบภัททิมาล้มไปกอง ชลลดาลุกขึ้นตบแล้วจิกหัวจนวันดีร้องโอดโอย
            “ชั้นก็สู้ คราวที่แล้วถีบชั้นหน้าทิ่มเตา คราวนี้แกไม่รอดแน่”
ชลลดาจับหัววันดีจะโขกกำแพง วันดียันเอาไว้แล้วศอกเข้าที่ท้อง ภัททิมารีบมารับชลลดาประคองเอาไว้

วันดีเงื้อมือตบ ชลลดาหลบลง มือไปโดนภัททิมาแทน         
“หนอย หลบเหรอ”
“เอาซี้ ตบเลย ชั้นไม่กลัวแกหรอก”
วันดีตบอีก ชลลดาก้มหลบ วันดีตบหน้าภัททิมาที่ยืนอยู่ข้างหลังอย่างมึนๆ แทน
“โอ๊ย คุณแม่ หลบทำไมคะ ฮือๆ”
วันดีมองสองแม่ลูกยิ้มเยาะ ชลลดายืนจ้องหน้าเขม็งอย่างไม่ยอมแพ้เหมือนกัน
“ชั้นจะไปแจ้งความ เอาแกกลับเข้าคุกให้ได้”
ภัททิมาประคองตัวเองค่อยๆ ยืน วันดีถกแขนเสื้อทำเงื้อมมือจะตบ ภัททิมาหลบหลังชลลดาอย่างเร็ว
“เอาเลยโว้ย แน่จริง เรียกมาเลย ชั้นไม่กลัวหรอก โดนจับก็โดนสิวะ”
“ได้ ชั้นเอาจริงแน่ แกอย่าหวังว่าจะรอด”
ชลลดากับภัททิมารีบเดินออกไป ไข่มุกมองวันดี แล้วเดินเข้ามาหา
“แม่ไม่กลัวจริงเหรอ”
“กลัวสิวะ แต่เสียหน้ายอมไม่ได้โว้ย”
วันดีมองตามสองแม่ลูกแล้วทำท่าเยาะเย้ย ไข่มุกมองอย่างกลัวแทนนิดๆ ปนหวั่นใจ

อ่านต่อพรุ่งนี้ เวลา 09.30น.

วันดีนั่งอยู่ในสวนของโรงแรม ใบหน้าเป็นกังวลนิดๆ จินจูเดินเข้ามาหา วันดีชะงักทำท่าจะเดินหนี จินจูขวางเอาไว้
“ไข่มุกเป็นลูกชั้นใช่มั้ย”
“ไม่ใช่ ชั้นบอกกี่รอบแล้วว่านังมุกเป็นลูกชั้น”
วันดีจะเดินไป จินจูขวาง
“ชั้นไม่เชื่อ ขอร้องล่ะ คุณเองก็เคยมีลูก ถึงลูกตายไปคุณก็ยังต้องรักเขา แล้วทำไมไม่คืนลูกให้ชั้น  คืนไข่มุกให้ชั้นเถอะ”
“ประสาทเสียหรือไง อย่ามายุ่งกับนังมุก มันเป็นของชั้น”
วันดีผลักจินจู จินจูดึงเสื้อเอาไว้อย่างโมโหมา วันดีหันมาจะด่าเห็นจินจูเอาจริงก็พูดไม่ออก
“ทำไมไม่พูดความจริง อยากได้อะไร เงินใช่มั้ย เอาสิ เท่าไหร่เอาไปเลย บอกชั้นมาสิ บอกความจริงว่าไข่มุกคือลูกของใคร  พูด บอกให้พูดไง”
วันดีอึ้งตัวแข็ง จินจูเขย่าตัววันดี
“เฮ้ย ปล่อย ปล่อยสิ”
“ไม่ ชั้นไม่ยอมให้หนีไปอีกแล้ว บอกความจริงมาเดี๋ยวนี้ เขาเป็นลูกชั้นใช่มั้ย บอกสิ ใช่มั้ย”
จินจูมองอย่างคาดคั้นจนวันดีนึกกลัว ตำรวจเดินเข้ามาประกบวันดี จับที่แขนขนาบข้าง
            “เฮ้ย คุณตำรวจ มาจับชั้นทำไม”
“คุณชลลดาไปแจ้งความว่าโดนคุณทำร้ายร่างกาย และพยายามฆ่า ทางเราเลยต้องขอถอนประกัน และนำตัวไปควบคุมอย่างเดิม”
ตำรวจดึงวันดีให้เดิน วันดีช็อค
“ไม่ ไม่เอา ชั้นไม่เข้าคุก ไม่ไป ปล่อยโว้ย นังคุณนายมันปรักปรำ ชั้นไม่ไป”
วันดีดิ้นแต่ถูกลากไป วันดีพยายามจับโน่นจับขี่ ขืนตัวเต็มที่ แต่ก็ยังโดนเอาตัวไป จินจูเดินตาม
            “อย่าเพิ่ง คุณตำรวจ ให้เขาคุยกับชั้นก่อน อย่าเพิ่ง อย่าเอาไป”
จินจูสบตาวันดี วันดีไม่ยอมพูด ทำนิ่งเฉยจนตำรวจพาไป จินจูมองตามอย่างหมดอาลัยและเสียใจมาก ทรุดลงร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างคับแค้นใจ
 
ไข่มุกใส่แว่นดำใส่หมวกยืนอยู่ในร้านขายยา คนขายนั่งพัด คนอื่นๆ เลือกยา ไข่มุกมองซ้ายขวา
“เอาอาราย อาหมวย”
“เอ่อ ชั้นจะเอาเครื่อง เอ่อ ที่เอาไว้ดูเวลารอบเดือนมาไม่ตรงค่ะ”
คนขายทำหน้างง
“อารายน้า ลื้อจะเอายาว่านชักมดลูกเหรอ นู่นๆ ตรงนู้นเลย”
“ไม่ใช่ ชั้นจะเอาอันที่ เอ่อ เวลาคนจะมีลูก ที่เขาไว้ตรวจน่ะ”
“อ๋อ เครื่องทดสอบตั้งครรภ์ ให้อั๊วทายตั้งนาน อาแปะ หยิบที่ตรวจตั้งท้องให้อั๊วอัน”
คนในร้านหันมามอง ไข่มุกรีบก้มหน้าก้มตาดึงหมวกหลบหน้าอย่างอายมาก
 
เมื่อกลับมาที่ห้อง ไข่มุกถือเครื่องตรวจครรภ์ อีกมือถือกล่องแล้วอ่านข้างกล่อง
“รอประมาณหนึ่งนาที ถ้าขึ้นสีชมพูสองขีด แสดงว่าตั้ง...ครรภ์”
กัสจังเปิดประตูเข้ามา ไข่มุกตกใจรีบเอากล่องยัดใต้หมอน แต่เครื่องตรวจหลุดมือหล่นเข้าไปที่พื้น ไข่มุกทำลุกลี้ลุกลนจะเก็บ แต่กัสจังเหล่อยู่             
            “เป็นอะไร ซ่อนอะไรไว้ยะ ไหนให้เจ๊ดูซิ” กัสจังก้มลงดูแล้วอุทานเสียงดัง “ต๊าย บอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าๆ ไม่เชื่อกันเลยนังลูกสาว” ไข่มุกหน้าซีดทำท่าจะอธิบาย กัสจังลุกออกมาหยิบถุงขนมตามขึ้นมา “ห้ามไม่ฟัง กินแต่ของไม่มีประโยชน์ เดี๋ยวอ้วนใส่ชุดไม่ได้ โดนคอสตูมด่าอีก อ้าว แล้วนี่เป็นอะร้าย หน้าซีดเชียวเป็นชะนี ต้องรักษาสุขภาพ ให้สวยล้ำฉ่ำเด้งตลอดเวลานะยะ ไปๆ โบ๊ะหน้าเสร็จแล้วตามออกไปด้วยล่ะ”
กัสจังล้วงขนมออกมากินแล้วเดินออกไป ไข่มุกก้มลงควานมือหาเครื่องตรวจ เจอว่าหล่นไปอยู่ใต้เตียงผ้าบังไว้
ไข่มุกหยิบมาดูเห็นเป็นสีชมพูสองขีดก็หน้าซีดอย่างตกใจมาก

“ทำยังไงดี”

จบตอนที่ 11

อ่านต่อตอนที่ 12 พรุ่งนี้ เวลา 09.30น.
กำลังโหลดความคิดเห็น