มายาสีมุก ตอนที่ 7
โทรศัพท์ดังขึ้น วัฒนาเอื้อมมือรับ
“กำลังลงจากห้องแล้ว พวกนายอยู่ตรงไหน อะไรนะ โซลทาวเวอร์”
คีรินทร์โทรศัพท์หาวัฒนาและกำลังนั่งรถมากับไข่มุกอย่างสบายใจ
“เออ เฮ้ย วัฒ ฝากดูแลสองแสบที่โรงแรมด้วยนะ ชั้นกับลูกไก่จะไปเที่ยวกันสองคน แล้วถ้าเขาจะไปไหนต่อ นายก็อย่าลืมพาไปเที่ยวล่ะ เดี๋ยวบ่นเกาหลีแตก สงสารคนอื่น”
คีรินทร์พูดจบก็วางสาย วัฒนาถือหูค้าง ทำหน้าไม่พอใจปนเบื่อหน่าย
คีรินทร์พาไข่มุกมาเที่ยวหมู่บ้านโพรวองซ์ ไข่มุกมองตึกสีสันสดใสอย่างตื่นตาตื่นใจ
“สวยจังเลยนะคะ หมู่บ้านแบบฝรั่งเศสสีหวานมากๆ ตั้งแต่เกิดมาพึ่งเคยเห็นเนี่ย น่าอยู่จริงๆ”
“พูดเล่นรึเปล่าแค่หมู่บ้านฝรั่งเศสเนี่ยนะไม่เคยไป เที่ยวซะร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ จะไม่เคยได้ยังไง อำชั้นอีกแล้ว แม่กับญาติเธอ บ้าช็อปขนาดนั้น ไม่มีทางพลาด”
สีหน้าไข่มุกสลดลง
“สักวันคุณจะเข้าใจ บางเรื่องก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด” คีรินทร์มองหน้าไข่มุก
“ไม่ใช่อย่างที่คิด แล้วเป็นไง” ไข่มุกนิ่ง “อ้าว ดราม่าแล้วไม่ตอบ งั้นมานี่เลย”
คีรินทร์ดึงไข่มุกเข้ามากอด ไข่มุกขืนตัว คีรินทร์เปลี่ยนเป็นจับมือพาเดินเข้าไปชมวิว
คีรินทร์พาไข่มุกเดินเล่นในสวนดอกไม้ ถ่ายรูปให้และเอื้อมมือจะเด็ดดอกไม้ ไข่มุกตีมือ
“อย่าเด็ดนะคะ เก็บไว้สวยๆ ดีกว่า”
“งั้นก้มหน้าไปใกล้ๆ เดี๋ยวชั้นถ่ายให้” ไข่มุกก้มลง คีรินทร์ถ่ายรูป “อื้อหือเมียผม เล่นซะดอกไม้จืดไปเลย”
“ไหน ขอดูหน่อยค่ะ” ไข่มุกชะโงกหน้ามาดูรูปในกล้อง คีรินทร์กดให้ดู ไข่มุกยิ้มนิดๆ คีรินทร์ได้ทีแอบหอม “หอมอีกแล้ว ฉวยโอกาส”
“ฉวยโอกาสกับเมีย ตำรวจไม่จับหรอก”
คีรินทร์ทำหอมอีก ไข่มุกดันออก
ทั้งสองคนเดินเล่นกันถ่ายรูปตามตึกสวยๆ ผลัดกันถ่ายหัวเราะอย่างสนุกสนาน
คีรินทร์พาไข่มุกเข้ามานั่งในร้านเบเกอรี่ในโพรวองซ์ แซนวิช ขนมปัง และเครื่องดื่ม ชาเขียวลาเต้ร้อน วางบนโต๊ะ ไข่มุกก้มลงมองแก้วที่มีมีฟองนมวาดลาย คีรินทร์แอบอมยิ้ม
“น่ากินจัง”
“กินของหนักก่อนสิ มา ชั้นป้อน” คีรินทร์ตัดแซนวิชจะป้อน ไข่มุกส่ายหน้า คีรินทร์พยักหน้าให้กิน ไข่มุกยอมอ้าปากอย่างเขินๆ “อร่อยมั้ย” คีรินทร์ทำท่าจะป้อนอีก
“ค่ะ ไม่เอาแล้ว คุณกินเถอะ ชั้นกินเองได้”
“นานๆ ทีให้ชั้นดูแลเธอบ้าง ให้ชั้นทำหน้าที่สามีที่ดีบ้างสิ ชั้นชอบเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน โดยไม่ทะเลาะอย่างนี้มากเลยรู้มั้ย”
ไข่มุกเสยกแก้วจิบ พูดเบาๆ
“ชั้นเอง ก็มีความสุขมากๆ เหมือนกันค่ะ”
ไข่มุกลดแก้วลงเห็นฟองนมเลอะปาก คีรินทร์เอาทิชชู่เช็ดให้และมองอย่างเอ็นดูและอ่อนโยน
“เธอต่างหาก ที่ทำให้ชั้นมีความสุข”
ไข่มุกก้มหน้าเขิน คีรินทร์มองยิ้มอย่างอ่อนโยน คีรินทร์กินแซนวิชซอสเลอะอยู่ริมปาก ไข่มุกหยิบทิชชู่ทำท่าจะเช็ดก็ไม่เช็ด คีรินทร์เงยหน้ามอง
“เช็ดให้ซะทีสิ อุตส่าห์อ่อยให้ซอสติดปากตั้งนาน ลังเลอยู่ได้”
“เจ้าแผนการจริงๆ นะคุณ”
คีรินทร์ยักนิ้วให้ ไข่มุกแกล้งเช็ดแรงๆ จนคีรินทร์หน้าเบี้ยว
พอตกกลางคืนร้านค้าของโพรวองซ์ถูกประดับไฟอย่างสวยงาม คีรินทร์เดินจับมือไข่มุกดูของในร้าน ไข่มุกหยิบดูคีรินทร์ทำท่าจะคว้าไปจ่ายให้
“ไม่ได้จะเอานะคะ แค่ดูเฉยๆ”
“นิดหน่อยเอง อยากได้หรือเปล่า”
ไข่มุกวางลง สอดมือเข้าไปกุมคีรินทร์ คีรินทร์อึ้ง ยิ้มหวาน ไข่มุกยิ้มให้หวานไม่แพ้กัน
“แค่ได้เดินดู กับคุณ ก็พอแล้วค่ะ”
“พูดให้ชั้นดีใจเล่นหรือเปล่า”
“จะคิดอย่างนั้นก็ตามใจนะ”
คีรินทร์อึ้ง เอนตัวลงไปหอมหน้าผากไข่มุก ไข่มุกยิ้มเขินรั้งตัวคีรินทร์ไว้แล้วหอมหน้าผากกลับ คีรินทร์เขินหน้าแดง กอดคอไข่มุก
“เธอแกล้งชั้น ทำให้ชั้นหลงเมียตัวเองเข้าไปทุกวันแล้ว”
“หรืออยากไปหลงคนอื่นคะ มีคนพร้อมให้คุณหลงเยอะแยะ”
คีรินทร์แกล้งล็อคแน่น
“ไม่เอา คนนี้ดีที่สุดแล้ว”
คีรินทร์หอมหน้าผากกับผมไข่มุกอย่างหมั่นเขี้ยว ไข่มุกดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดแต่หน้าตามีความสุข
ห้องพักในโรงแรมไฟสลัวๆ ไข่มุกนอนอยู่บนเตียงมีคีรินทร์นอนกอดเอาไว้
“ชั้นอยากอยู่อย่างนี้ตลอดไปเลย”
คีรินทร์ก้มมองไข่มุก ซึ่งไม่ตอบแต่ค่อยๆ เอามือแตะใบหน้าคีรินทร์ สบตากัน คีรินทร์ยิ้มแล้วจูบเบาๆ
“คุณทำให้วันนี้ของชั้น เป็นวันที่มีความสุขที่สุด เป็นความทรงจำที่มีค่า ชั้นจะไม่มีวันลืมเลยคะ”
“นานแค่ไหนล่ะ ที่จะไม่ลืม”
“จะไม่ลืม ตลอดชีวิต”
“ชั้นก็ด้วย ชั้น...”
คีรินทร์ทำท่าจะพูดว่ารัก แต่ไข่มุกเอานิ้วแตะริมฝีปากคีรินทร์ไว้ ทั้งคู่สบตากับ คีรินทร์พลิกตัวคร่อมไข่มุก ส่งสายตาหวานซึ้ง ไข่มุกยิ้มน้อยๆ หลับตาลง คีรินทร์ก้มตัวลงไป
เวลาผ่านไป คีรินทร์นอนกอดไข่มุกแล้วไล่พรมจูบบนไหล่ไข่มุกเบาๆ ไข่มุกย่นคอจักจี้หันกลับมาหา จมูกชนกันสบตานิ่งนาน คีรินทร์ทำท่าจะจูบแต่ไข่มุกเอามือแตะห้ามไว้
“นอนเถอะค่ะ”
คีรินทร์จูบปลายนิ้ว
“ยังไม่อยากนอนเลย ขอชื่นใจอีกทีได้มั้ย”
“พอแล้วค่ะ ชั้น...”
“ชั้นชอบเธอนะ” คีรินทร์สบตาซึ้ง “ชั้นสัญญา ว่าจะดูแลเธอ จะไม่ทำให้เธอเสียใจ จะอยู่กับเธอ ทำให้เธอมีความสุข”
ไข่มุกแตะปากคีรินทร์
“พอแล้วค่ะ ไม่ต้องสัญญาอะไร แค่มองตาคุณ ชั้นก็รู้”
“แต่มองตา ไม่เท่าการกระทำนะ”
“การกระทำต้องดูระยะยาว แต่แววตา หลอกเราไม่ได้”
คีรินทร์กับไข่มุกสบตาหวานซึ้ง คีรินทร์จูบหน้าผากเบาๆ แล้วนอนกอดไข่มุกไว้ทั้งคืน
ที่เมืองไทย จินจูนั่งอยู่ในสวนของโรงแรม มองดอกไม้อย่างเศร้าๆ คธาเดินมาจากอีกมุมนั่งลงข้างๆ จินจูสะดุ้ง พอหันไปมองก็ทำหน้านิ่งจะลุกหนี คธาจับข้อมือเอาไว้
“จินจู คุณกำลังตามหาใคร”
จินจูบิดมือออก ยิ้มเย็น
“สนใจด้วยเหรอ ว่าชั้นทำอะไร”
“เขาคงเป็นคนสำคัญมาก ขนาดที่ดาราดังอย่างคุณยอมมาอยู่เมืองไทยเป็นเดือน ใช่มั้ย”
“ใช่ คนๆ นี้สำคัญกับชั้นมาก สำคัญที่สุดในชีวิต” คธาแค่นหัวเราะ
“ยังมีคนที่สำคัญกว่ามิสเตอร์คิมอีกเหรอ”
“หรือไม่จริง ชั้นพยายามติดต่อคุณทุกทาง แต่คุณไม่เคยตอบกลับเลย คุณนั่นแหละ ที่ทำให้ทุกอย่างเป็นอย่างนี้”
“ผมต่างหากที่ต้องพูดแบบนั้น ผมน่ะเหรอไม่ตอบไป ผมต่างหากที่พยายามทำทุกอย่างที่...”
แทยอนเดินเข้ามาใกล้
“พูดต่อให้จบสิ พยายามอะไร” คธาส่ายหน้าเศร้าๆ
“สายไปแล้ว ผมจะไม่พูดอะไรเรื่องอดีตที่ไม่สำคัญอีกแล้ว”
แทยอนเดินทำยิ้มเข้ามา ตบไหล่คธาเบาๆ แต่แววตาเป็นกังวลมาก คธาแค่นยิ้ม มองหน้า
“ไง ไม่นึกว่าจะได้เจอกันอีก ยี่สิบกว่าปีแล้ว”
“ใช่ แต่เสียใจด้วย คนอย่างผมไม่ตายง่ายๆ” คธาเดินจากไป จินจูงง
“คธาหมายความว่ายังไง พี่แทยอน ทำไมถึงพูดว่า เขาไม่ตายง่ายๆ”
“อืม ก็ไม่รู้เหมือนกัน อารมณ์ศิลปินมั้ง”
แทยอนพูดเรียบๆ แต่แววตาเป็นกังวล จินจูมองตามอย่างนึกสงสัย
คีรินทร์นอนคว่ำหลับกอดหมอน ค่อยๆ ลืมตา บิดตัว มือคว้าเปะปะบนเตียง
“ขอชื่นใจยามเช้าหน่อย” คีรินทร์ค่อยๆ ลืมตา มองข้างๆ แล้วสะดุ้งพรวดลุกขึ้นนั่ง มองหารอบห้อง “ลูกไก่ เธออยู่ไหน” คีรินทร์ลุกจากเตียงเดินหา “ลูกไก่ ลูกไก่ ไปไหนแล้ว ลูกไก่”
คีรินทร์หน้าเครียด เดินหาทั้งในห้องน้ำ ระเบียง ทั่วห้องก็ไม่เจอ
ไข่มุกเดินเล่นอยู่บนสนามหญ้า เอื้อมมือไปจับกิ่งไม้ ยิ้มน้อยๆ คีรินทร์เดินเข้ามากอดจากด้านหลัง ไข่มุกเขิน อมยิ้มนิดๆ
“ปล่อยชั้นนอนคนเดียวได้ไง ใจร้ายจัง”
“ชั้นใจร้ายแบบนี้ ยังไม่ชินอีกเหรอคะ”
คีรินทร์หัวเราะ หอมข้างแก้มไข่มุก
“อยู่ไปนานๆ เดี๋ยวก็ชิน เธอรู้มั้ย เมื่อคืนชั้นมีความสุขมากๆ ดีใจมากๆ ที่ได้กอดเธอ ชั้นชอบเธอนะ ลูกไก่”
ไข่มุกหน้าเศร้าลงนิดๆ
“ถ้าไม่ใช่ลูกไก่ จะยังชอบมั้ยคะ”
“ไม่ใช่ลูกไก่แล้วลูกอะไร อ๋อ ลูกแมวเมี้ยวๆ เหรอ ลูกแมวยั่วสวาทของผมไง” ไข่มุกหันมองสบตา
“พูดจริงๆ สิคะ” คีรินทร์นิ่งคิด
“ชั้นชอบเธอที่เป็นเธอ แล้วถ้าเธอไม่ใช่ลูกไก่แล้วจะเป็นใคร จะหลอกอะไรให้ชั้นงงอีกแล้วเหรอ”
“แล้วถ้า...” ไข่มุกนิ่งไปอย่างไม่กล้าพูด
“ถ้าอะไร” ไข่มุกหลบตา
“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร”
“ไม่มีอะไรก็ดี ชีวิตชั้นเกลียดคนโกหกที่สุด ถ้าเป็นเรื่องอื่นชั้นยังให้อภัยได้ แต่ถ้ามาหลอกลวงโกหกกัน ชั้นไม่มีวันยกโทษให้แน่นอน” ไข่มุกอึ้ง ดันตัวออก
“ค่ะ”
“เมื่อกี้เธอจะบอกความลับอะไร ห้ามพูดนะว่าจะแอบมีกิ๊ก ชั้นโกรธจริงๆ แน่คราวนี้”
“ไม่...ไม่มีอะไรค่ะ”
“ไม่มีอะไรงั้นมากอดที หอมทีด้วย”
คีรินทร์กอดไข่มุกแล้วหอมเบาๆ ไข่มุกแววตาเศร้าเสียใจและเป็นกังวล
คีรินทร์ ไข่มุก ชลลดา ภัททิมานั่งกินอาหารบุฟเฟ่โรงแรม ไข่มุกกินเงียบๆ ทำท่าครุ่นคิด
“แหม เมื่อวานทิ้งน้ากับน้องหนีไปเที่ยวกันสองคน รู้มั้ยคะว่าน้าเกือบหลงทาง กลับโรงแรมไม่ถูก”
“แยกกันเที่ยวก็สนุกดีครับ” คีรินทร์มองหน้าไข่มุก “แปลกนะครับ ลูกไก่หน้าไม่คล้ายไม่คุณน้าเลย นิสัยก็คนละทิศ หรือว่าเหมือนคุณพ่อครับ”
ชลลดาหัวเราะเก้อๆ
“ก็...คงงั้นมั้ง”
“ลูกไก่เขาไม่เหมือนใครทั้งนั้นแหละค่ะ ดูก็รู้ ต่างกันซะ”
ภัททิมามองเหยียดๆ ไข่มุกเงยขึ้นมาแล้วหลบตา คีรินทร์แอบจับมือใต้โต๊ะ
“อีกหน่อยคงหน้าเหมือนผม เนื้อคู่กันต้องหน้าคล้ายกันสิ ใช่มั้ย” คีรินทร์ยิ้มหวาน ทาแยมบนขนมปังปิ้งให้ไข่มุก สายตามองอย่างอบอุ่น อ่อนโยนจนภัททิมากับชลลดารู้สึกได้ “ทานเยอะๆ นะ” คีรินทร์ก้มกระซิบ “เผื่อรินทร์น้อย หรือหนูลูกเจี๊ยบ อาจจะแอบมาอยู่ตรงนี้แล้วด้วย”
คีรินทร์แกล้งแตะท้องไข่มุก ไข่มุกประกบมือลงเบาๆ ยิ้มให้อย่างอ่อนหวาน ภัททิมากับชลลดายิ่งตาโตไปใหญ่
ภัททิมาถือแฟ้มเดินยิ้มหวานมายื่นให้คีรินทร์
“นี่ค่ะบอส คุณลุงฝากเอกสารมาให้ มุกลืมไปเลย”
“ครั้งหน้าถ้าเป็นอย่างนี้อีกไม่ได้แล้วนะ ถ้าเป็นเอกสารสำคัญจะทำยังไง ถ้าจำไม่ได้ก็เมมใส่มือถือให้เตือนไว้สิ”
ภัททิมาอึ้ง ไม่พอใจ
“ขอโทษค่ะ คุณรินทร์เวลาทำงานนี่ดุ๊ดุนะคะ แต่เวลาอยู่กับเมียใจดี ใจเย็น ลูกไก่โชคดีจัง ผ่านอะไรมาตั้งเยอะแยะ ประวัติตั้งเท่าไหร่ คุณยังยอมรับออกหน้าออกตา”
“ผ่านอะไรมา คุณหมายถึงเรื่องไหน”
“ก็ เขาเคยคบใครต่อใครมาตั้งเยอะ” คีรินทร์แทรกทันที
“งั้นเหรอ คนเราก็ต้องคบเพื่อนบ้าง เป็นธรรมดา แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องไปมีอะไรกันทั้งหมด นี่ ไข่มุก คนอย่างผม ไม่โง่ให้คนอื่นมาหลอกหรอกนะ”
“แต่...แต่ว่า”
“ถ้าว่างนักก็หัดเอาเวลาไปดื่มอาหารเสริมบ้าง ขี้ลืมอย่างนี้บ่อยๆ ระวังจะโดนปลดจากตำแหน่งผู้ช่วยเลขาไม่รู้ตัว”
คีรินทร์เดินไป ภัททิมาอึ้ง เจ็บใจจนอยากกรี๊ดก็กรี๊ดไม่ออก
คีรินทร์กลับเข้าห้องกอดไข่มุกหอมแก้มซ้ายขวา ใบหน้าไข่มุกนิ่งเหมือนไม่สบายใจ
“เป็นอะไรครับ คุณภรรยาคนสวย”
“ไม่มีไรคะ แค่คิดอะไรนิดหน่อย”
“คิดถึงชั้นล่ะสิ เมื่อคืนชั้นมีความสุขมากเลยรู้มั้ย ก่อนหน้านี้ชั้นดูเธอผิดไปจริงๆ ตอนแรกแม่บอกเธอชื่อเสียดังมาก เลยนึกว่าเชี่ยวชาญตัวแม่มาเอง ที่ไหนได้ มือใหม่หัดขับ ตัวจริงเสียงจริง”
ไข่มุกหยิกหมั่บ ค้อนใส่
“แล้วไม่คิดว่าชั้นจะแกล้งแอ๊บ หลอกคุณ เหมือนที่คุณชอบว่าชั้นเหรอ”
“โถๆๆ หนูน้อยลูกไก่ครับ ของอย่างนี้แอ๊บไปก็หลอกชั้นไม่ได้หลอก อย่าลืมสิว่าชั้นคือใคร คีรินทร์น่ะ ตัวพ่อมาเองเลยนะคร้าบ เจอมาเยอะแล้ว”
“ค่ะ คุณตัวพ่อ...ผู้เชี่ยวชาญ” ไข่มุกทำเสียงประชด
“แต่ไม่ต้องกลัวนะ เรื่องแบบนี้สอนกันได้ เดี๋ยวถ่ายทอดวิชาให้หมด”
ไข่มุกค้อนให้อย่างอดขำไม่ได้ คีรินทร์ดึงเข้ามากอดอย่างนึกรัก หอมแก้มอย่างทะนุถนอม
“ชั้นดีใจ ที่เธอไม่ได้เป็นแบบที่แม่ หรือไข่มุกพูดถึง เธอเป็นผู้หญิงมีค่า เหมาะสมอย่างที่พ่อชั้นบอกจริงๆ”
คีรินทร์หอมหน้าผากไข่มุกเบาๆ ไข่มุกซบลงที่หน้าอก ยิ้มอ่อนโยน
คีรินทร์กับไข่มุกอยู่ในชุดเกาหลีโบราณ ยืนถ่ายรูปในสตูดิโอ กล้องลั่นชัตเตอร์สลับกับคีรินทร์ไข่มุกเก๊กท่าสวยๆ ต่างๆ คีรินทร์สะกิดไข่มุก
“ยกมือขึ้นสิ ทำท่าซารางเฮนะ”
“อะไรของคุณ ซารางเฮ น่าอายจะตาย”
“น่า นะลูกไก่ เก็บไว้เราแก่ๆ มานั่งดูคงขำดี เอาไว้ให้ลูกเราดูด้วยไง”
ไข่มุกเขินค่อยๆ ยกมือขึ้นทำท่าหัวใจ กล้องถ่ายแชะ คีรินทร์ยิ้มหวานถูกใจ
“ลูกเราต้องชอบแน่ๆ ว่าไง มีสักโหลก็ดีเนอะ เอาไว้ตั้งทีมฟุตบอล”
“คุณมีเองเถอะ ตั้งสิบสองคนแน่ะ”
คีรินทร์ขำ กอดไข่มุกแน่น
“มาเกาหลีคราวนี้มีแต่โชค ทั้งเรื่องรักเรื่องงาน ผมไม่เคยนึกเลยว่าจะมีวันนี้”
ไข่มุกดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอด คีรินทร์ยิ้มหวานไม่ยอมปล่อย
ที่ห้องพักวัฒนา วัฒนานั่งอยู่บนเก้าอี้ ในมือถือโทรศัพท์กำลังเปิดคลิปตอนที่นุชนารถตบตีกับภัททิมา วัฒนากดหยุดคลิป ยิ้มร้ายแล้วเลื่อนมือไปที่ปุ่มอีเมลแล้วกดส่ง
วันรุ่งขึ้นบนจอในห้องประชุมปรารฎภาพนุชนารถตบกับภัททิมา และเข้ามาอาละวาดในห้องประชุมบอร์ด
ประธานเกาหลีปิดจอลง บอร์ดใบหน้าเครียดมากซุบซิบกันใหญ่ ล่ามพูดกับคีรินทร์
“ทางเราคงต้องขอทบทวนเรื่องการร่วมทุนอีกครั้ง ภาพลักษณ์ของผู้บริหารมีความสำคัญมาก เราไม่อยากให้มีข่าวฉาว ไม่ว่าจะเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว”
“แต่เรื่องนี้เคลียร์ไปแล้ว ผมอธิบายได้นะครับ”
“ต้องขอโทษด้วยจริงๆ บอร์ดของเราก็มีมติตกลงแล้วเหมือนกัน”
คีรินทร์หน้าตาเสียใจผิดหวังมาก วัฒนาแอบลอบยิ้มสมใจ
ไข่มุกเดินผ่านห้องประชุม เห็นคีรินทร์นั่งหน้าเครียดกับวัฒนา ไข่มุกหยุดดู
“มันเกิดเรื่องไอ้คลิปบ้าๆ นี่ได้ยัง ชั้นอยากรู้จริงๆ”
“ใจเย็นสิ รินทร์”
“เย็นไม่ไหวว่ะ พังหมดแล้ว ใครมันลอบกัดชั้นวะ”
“ก็อาจจะเป็นคนที่นาย เคยสร้างความแค้นไว้ให้”
“นุชนารถเหรอ จะกล้าทำขนาดนี้เชียวหรอ”
“ใครจะรู้” วัฒนาทำถอนใจแรงๆ “เดี๋ยวจะลองไปพูดดู แต่ไม่รู้จะได้ผลมั้ย คนเกาหลีพูดคำไหนแล้วคำนั้นซะด้วย”
วัฒนามองคีรินทร์ที่หน้าเครียดอย่างสะใจ แล้วเดินไป ไข่มุกเอื้อมมาแตะมือคีรินทร์ คีรินทร์บอกอย่างรู้สึกผิด
“งานนี้ชั้นผิดเองเต็มๆ ไม่งั้นป่านนี้เซ็นสัญญากันไปเรียบร้อยแล้ว”
“ไม่มีทางแก้เลยเหรอคะ” คีรินทร์ส่ายหน้า
“คราวนี้บอร์ดคงมีเหตุผลที่จะปลดชั้นแล้ว ให้ตายสิ ชั้นไม่รู้จะทำยังไง ไม่รู้จริงๆ”
ไข่มุกแตะไหล่คีรินทร์เบาๆ คีรินทร์ลุกเดินไปอย่างเครียดหนัก ไข่มุกได้แต่มองอย่างเห็นใจแต่ไม่รู้จะช่วยยังไง
ไข่มุกเดินมาเรื่อยๆ หน้าเครียด เดินมาถึงห้องโถงมองเห็นรูปจินจูถ่ายคู่กับประธานโรงแรม ไข่มุกยืนมองอย่างสนใจ ผู้จัดการฟิตเนสเดินเข้ามาใกล้ยืนมองด้วยกัน
“รูปนี้สวยนะครับ สั่งอัดขยายใหญ่เต็มที่เลย ประธานลีเป็นแฟนหนังของปาร์คจินจู คุณปาร์คมาที่นี่ประจำ ตัวจริงสวยกว่าในรูปอีก”
ไข่มุกมองรูปจินจูแล้วยิ้มเจ้าแผนการออกมา
ไข่มุกตัดสินใจโทรศัพท์หาจินจูที่เมืองไทย
“ไม่มีปัญหา ชั้นสนิทกับประธานลีซอนมิน เดี๋ยวจัดการให้” ไข่มุกยิ้มดีใจ
“ขอบคุณมากค่ะจินจู”
ไข่มุกวางโทรศัพท์ลง ยิ้มอย่างดีใจ มีความหวัง
ไข่มุก คีรินทร์ ชลลดา ภัททิมาและวัฒนาอยู่ที่สนามบินอินชอน ภัททิมาแต่งตัวอย่างเว่อร์เดินหอบถุงช็อปปิ้ง
ชลลดาเดินหอบไม่แพ้กัน คีรินทร์เข็นรถเข็นนิ่งๆ สีหน้าเศร้าสลด ไข่มุกมองนาฬิกาอย่างร้อนใจ
“กำลังเที่ยวสนุก ไม่น่าต้องกลับเลย ดูสิลูกไก่ ดวงลูกนี่กาลกิณีกับสามีเหมือนที่หมอดูบอกเปี๊ยบ งานก็พัง เที่ยวก็อด กลับบ้านมือเปล่า เฮ้อ”
“ใช่ ยังช็อปไม่หนำใจเลย” คีรินทร์สบตาไข่มุก
“ทุกอย่างเป็นเพราะตัวผมเอง ไม่เกี่ยวกับลูกไก่”
ไข่มุกกอดคีรินทร์ ยิ้มให้กำลังใจ
“อย่าคิดมากเลยค่ะ พรุ่งนี้คุณอาจจะมีข่าวดีก็ได้”
“ข่าวดีว่าเขาให้ลาออกเอง ไม่ไล่ออกใช่มั้ย ไป กลับก็กลับ”
“มีตัวซวยมาด้วย เซ็งจิต” ภัททิมาปรายตามองไข่มุก
คีรินทร์เข็นรถเข็นกำลังจะถึงที่เช็คอินกระเป๋า โทรศัพท์คีรินทร์ดังขึ้น คีรินทร์รับโทรศัพท์
“ครับ อะไรนะครับ ทางบอร์ดเกาหลีอยากพบผมด่วน ครับ ได้ครับ จะไปเดี๋ยวนี้ครับ”
“มีอะไรน่ะ ให้กลับไปทำไม” ชลลดารีบถาม
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ทางนั้นว่ามีข่าวดี”
ชลลดากับภัททิมายิ่งงงไปใหญ่ วัฒนางงแต่พยายามเก็บอาการ ไข่มุกมองคีรินทร์ ยิ้มอมภูมิคนเดียว
ประธานลีมินซอนจับมือคีรินทร์ ตบไหล่เบาๆ คีรินทร์ยิ้มงงๆ
“ลูกผู้ชายอย่างเรา ผิดพลาดเรื่องผู้หญิงได้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ยิ่งเป็นคนกันเอง ยิ่งไม่ควรถือสา” คีรินทร์งงมาก
“คะ ครับ”
“คราวนี้ จะถือว่าพวกเราจะไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็นคลิปนี้มาก่อน แต่ต่อไปคุณก็ระวังตัวให้ดี อย่าให้เกิดเรื่องฉาวแบบนี้อีก”
“ขอบคุณครับ ขอบคุณมาก”
คีรินทร์ยิ้มอย่างดีใจ คีรินทร์เซ็นสัญญา ไข่มุกมองอย่างดีใจปนปลื้มใจ วัฒนายิ้มเฝื่อนๆ และผิดหวัง คีรินทร์กับลีมินซอนแลกเอกสารแล้วจับมือกัน ช่างภาพถ่ายรูปแสงแฟลชวูบวาบ ไข่มุกยิ้มดีใจสบตากับคีรินทร์ที่มองมา
เมื่อกลับถึงเมืองไทย เขมทัตกอดคีรินทร์เข้ามาตบที่หลังอย่างพอใจ คีรินทร์ยิ้มกว้าง
“เก่งมาก ว่าแต่ทำอีท่าไหน ประธานลีถึงเปลี่ยนใจได้ล่ะ”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ยังงงอยู่เลยว่าทำไม”
มณีเข้ามากอด หอมซ้ายขวา
“เขาคงรู้ว่าลูกแม่เก่ง เรื่องแค่จิ๊บๆ อย่างนี้คงไม่ใส่ใจหรอก แหม ผู้ชายด้วยกัน รู้แกวกันดี กะอีแค่สาวๆ ตีกัน ไม่เห็นเกี่ยวกับธุรกิจสักนิด”
“เอ้า ชมกันใหญ่ ลูกลอยแล้วเนี่ย” มณีหันไปตีเพี้ยะ
“เอ๊ะ คุณ ลูกชั้นชั้นก็ต้องชมสิ อย่ามาขัดคอได้มั้ย”
“เออ เดี๋ยวนี้รักลูกมากกว่าพ่อแล้ว เราเตือนหาว่าขัดคอ”
เขมทัตกับคีรินทร์หัวเราะ มณีมองค้อน วัฒนาแสร้งยิ้มแต่แววตาอิจฉา
“ดีใจด้วยนะ ชั้นรู้ว่านายทำได้”
“ขอบใจ ของมันแน่อยู่แล้ว”
คีรินทร์ยิ้มอย่างพอใจมาก วัฒนามองแค้นใจแต่พยายามเก็บสีหน้า
ไข่มุกมาหาจินจูที่โรงแรม ไข่มุกไหว้ขอบคุณจินจู
“ขอบคุณมากนะคะ ที่ช่วยเรื่องคุณรินทร์”
“ไม่เป็นไร เรื่องเล็กน้อย ประธานลีกับชั้นคุยกันได้เสมอ”
“รบกวนคุณอยู่เรื่อยเลย”
จินจูลูบหัวไข่มุกเบาๆ
“เรื่องเล็กน่า ปัญหาใหญ่กว่านี้ ชั้นก็ทำให้หนูได้”
“ทำไมถึงดีกับหนูนักคะ” จินจูมองนิ่ง
“เพราะหนู ทำให้ชั้นคิดถึงคนคนนึง เชื่อว่าเขาต้องน่ารักเหมือนหนูแน่”
จินจูสบตาไข่มุกมองด้วยความเอ็นดู ไข่มุกยิ้มขอบคุณ
“พ่อจะให้เราดูแลทั้งสองที่ คงต้องบินไปบินมา พักนี้ก็เหนื่อยหน่อยจากนี้ไปก็เตรียมงานแถลงข่าว โปรโมทให้เต็มที่” เขมทัตบอกคีรินทร์
“อุ๊ย ไปเกาหลีบ่อยๆ ให้แม่ไปด้วยนะคราวที่แล้วพลาด โดนยัยชลตัดหน้า” มณีมองหน้าเขมทัต “ไม่รู้ไปอ้อนกันอีท่าไหน”
“จะไปศัลยกรรม ดูดไขมันเหรอ หรือจะทำดั้งโด่ง ปากบาง คางย้อย บอกก่อนว่าทำแล้วน่ากลัวผมไม่ให้เข้าบ้านนะ กลัวนึกว่านอนกอดผีเกาหลี”
“อย่างชั้นสวยธรรมชาติย่ะ ไม่ต้องทำก็เริ่ด”
“ธรรมชาติ ลงโทษน่ะสิ”
วัฒนาเดินเลี่ยงออกมา นุชนารถกำลังจะเดินผ่าน พอเห็นก็แอบข้างเสา
“แซวกันใหญ่เลย เรื่องโรงแรมไม่ใช่มีแค่ผมนะครับ ยัยลูกไก่ก็เตรียมเซอไพรต์ไว้ด้วยเหมือนกัน”
วัฒนาได้ฟังยิ่งแค้น จึงทุบกำแพงเสียงดัง ใบหน้าโกรธแค้นอย่างชัดเจน นุชนารถมองวัฒนายิ้มร้ายในมุมมืด
วัฒนานั่งทำงานอย่างหงุดหงิด กำลังเซ็นเอกสารอยู่ก็อารมณ์ขึ้นเขวี้ยงปากกาลงพื้น นุชนารถก้าวเข้ามาในห้องวัฒนา เธอก้มหยิบปากกาแล้วยิ้มร้ายๆ เอาปากกามาวางคืนให้บนโต๊ะ
“มาพาลลงกับของ ไม่มีประโยชน์หรอกคะ” วัฒนาเก็บสีหน้า
“คุณนุชมีอะไรกับผม”
“พอดีเห็นพวกเดียวกันแล้วอดสงสารไม่ได้ ผิดหวังมากล่ะสิ ที่คุณรินทร์ได้บทพระเอก เหลือแต่หน้าที่ตัวประกอบให้” วัฒนาแค่นยิ้ม
“คุณเองก็ด้วยนี่ เจอฤทธิ์ไอ้รินทร์เข้าไปจนเกือบตาย แผลหายหรือยังล่ะ” นุชนารถหน้าตึง
“คนอย่างชั้นไม่ยอมตายเพราะคนใจดำอย่างนั้นหรอก สักวันเขาจะต้องได้บทเรียน ที่จำไปจนตาย”
“งั้นเราก็มีศัตรูคนเดียวกันแล้วสิ”
นุชนารถสบตาวัฒนา
ที่ห้องฟิตเนสไข่มุกอยู่กับกีกี้ แองจี้ น้องแพรว สามสาวแต่งตัวสไตล์เคป็อปจัดเต็ม
“วันแถลงข่าวเราจะมีการเปิดตัวโชว์การเต้นรูปแบบใหม่ของเรา เป็นการผสมผสานการเต้นสไตล์เคป๊อป แต่ต้องขอให้ทุกคนฝึกซ้อมอย่างหนักนะคะ” แองจี้ยักไหล่
“ชัวร์ ของแค่นี้ อีซี่จะตาย”
“เธอทำได้ชั้นก็ทำได้ย่ะ”
“แพรวก็ไม่ยอมแพ้หรอก จะเต้นให้ไม่แพ้เกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีแน่ สู้ๆ”
ภัททิมายิ้มเยาะ มองสามสาวดูถูก
“จะไหวเร้อ เต้นไม่ใช่ง่ายๆ นะยะ ขืนทำกระย่องกระแย่งเก้งก้าง อายเขาตาย ถอนตัวตอนนี้ยังทันนะ ชั้นไม่อยากขายหน้าแทน”
“เธอนั่นแหละถอนไปซะ แค่หน้าก็ไม่ผ่านแล้ว”
“นี่เธอว่าชั้นเหรอ นังดาราตกกระป๋อง”
“ขอโทษทีย่ะ ชั้นงานตรึม ไม่มีตกกระป๋อง แต่เลขาแถวนี้ระวังตัวให้ดีเหอะ จะโดนเขี่ยทิ้งไม่รู้ตัว”
กีกี้กับภัททิมามองประสานสายตากันดุเดือด ไข่มุกมองนิ่งๆ ชักปวดหัว ชลลดายืนวอร์มอยู่เห็นมณีใส่ชุดจัดเต็มเดินเข้ามาก็อึ้ง
“อุ๊ย รุ่นนี้ยังจะเคป๊อปอีกเหรอ ไปเต้นบางแคป๊อปดีกว่ามั้ย”
“เก่งนักหรือไง อย่าแพ้ชั้นแล้วกัน”
“ต๊าย กล้าท้านะ ก็คอยดูแล้วกันว่าใครจะแพ้ใคร”
ชลลดากับมณีมองท้ากันและกัน ไข่มุกปรบมือเรียกความสนใจ
“งั้นโอเคค่ะ เรามาฝึกซ้อมกัน เริ่มจากวอร์มร่างกายก่อน”
มายาสีมุก ตอนที่ 7 (ต่อ)
ไข่มุกยืนอยู่กลางเวที จัดบล็อกกิ้งให้ทุกคน
“ชั้นอยู่ตรงกลางนะคะ จัดแถวเป็นรูปตัววี ถัดจากชั้นเป็นคุณกีกี้กับไข่มุก แถวสองคุณแพรวคุณแองจี้ แถวสุดท้ายคุณชล...เอ่อ คุณแม่สองคนค่ะ”
“ทำไมชั้นไม่ได้ยืนกลางยะ อย่างชั้นต้องเด่นสุดสิ” กีกี้แย้ง
“ใครจะกล้าให้ยืนกลางยะ เข้าให้อยู่แถวรองก็ดีถมแล้ว อย่างเธอต้องยืนมุมมืดเหมาะสุด เต้นผิดไม่มีคนเห็น”
“ชั้นก็จะยืนแถวหน้า ทำไมเราไม่ยืนไลน์หน้ากระดานล่ะ อย่างงี้ก็เสียเปรียบสิ” แองจี้บอก
“อย่าเยอะ ชั้นยืนหลังสุดยังไม่บ่นเลย” มณีบอก
ไข่มุกทำหน้าเหมือนอยากเอามือกุมหัว แดนเซ่อร์ชายหล่อล่ำสี่คนเดินเข้ามา สามสาวมองตาค้าง ภัททิมามองเหลียวหลัง
“สี่คนนี้จะเข้ามาตอนท้ายนะคะ ท่าจบของเราจะเป็นชั้นเต้นตีลังกาแล้วโดดเข้าที่ สี่หนุ่มจะอุ้มชั้นยกมาวางตรงหน้า ตอนนี้ให้ทุกคนแอบข้างเวทีนะคะ พร้อมนะ”
วัฒนามายืนแอบดูไกลๆ ไข่มุกตีลังกากลับหลังกระโดดลงกลางสี่หนุ่ม สาวๆ ถอยกรูด สี่หนุ่มยกตัวไข่มุกขึ้นสูงนั่งท่านางพญามาที่หน้าเวที ไข่มุกลุกขึ้นโพสท์ท่าจบ วัฒนามองอย่างมีแผน
งานแถลงข่าว ผู้ชายในชุดเกาหลีโบราณตีกลองเป็นจังหวะพร้อมเพรียง สาวๆ พนักงานในชุดฮันบกออกมาร่ายรำอย่างสวยงาม คนในงานปรบมือ นักข่าวถ่ายรูปวูบวาบ กลองรัวเร็วขึ้น สาวๆ รำอย่างสวยงาม หมุนตัวเป็นจังหวะเดียวกัน
คีรินทร์ยืนอยู่กลางโพเดียม นักข่าวถ่ายรูปเป็นระยะ วัฒนานั่งอยู่ด้านล่างปรบมือแกนๆ แววตาอิจฉา
“กลุ่มบริษัทสยามการโรงแรมของเราได้ทำการร่วมทุนกับทางลีกรุ๊ป ของประเทศเกาหลีเป็นที่เรียบร้อย ต่อไปนี้เราจะไปดำเนินการร่วมกับทางนั้น โดยผม นอกจากจะบริหารที่นี่แล้วยังจะเป็นตัวแทนไปดูแลที่สาขาโซลด้วย และวันนี้เราก็ยังมีรายการที่เชื่อว่า ทุกท่านต้องสนใจ”
คีรินทร์เว้นช่วงพูด นักข่าวฟังอย่างตื่นเต้น
ที่ห้องแต่งตัว ผู้จัดการเดินเข้ามาปรบมือลั่น สามหนุ่มที่จะเต้นกับไข่มุกลุกขึ้นกระตือรือร้น
“เอ้า หนุ่มๆ ออกไปเตรียมตัวได้แล้ว ไปๆๆ รีบหน่อย สแตนด์บายให้พร้อม เอ้า แล้วอีกคนไปไหนเนี่ย”
คนร้ายเดินเข้ามา
“เขาไม่สบายครับ ให้ผมมาแทน”
“อ้าว แล้วจะเต้นได้เหรอ”
“ไม่มีปัญหาครับ เขาบอกมาเรียบร้อยแล้ว”
“งั้นก็รีบตามออกไปเลย”
ผู้จัดการ เดินออกไป หนุ่มสามคนเดินออกไป คนร้ายแค่นยิ้มหน้าเหี้ยม
คีรินทร์ยังพูดอยู่บนโพเดียม
“ฟิตเนสของเราจะเปิดคลาสสอนเต้นในรูปแบบใหม่ โดยมีคุณภัททิมา ภรรยาผม เป็นครูฝึกสอนครับ”
ทุกคนปรบมือ วัฒนายิ้มเหี้ยมมองคีรินทร์
เพลงสุดมันประกอบแสงสีเคป๊อปดังขึ้น ชลลดากับมณีเดินเข้ามาจากข้างเวทีตัดกันไปยืนที่จุด โพสท์ท่ามองท้าสายตากัน แองจี้กับน้องแพรวเดินตัดกันเข้าประจำจุด กีกี้กับภัททิมาเดินเบียดไหล่กันที่จุดตัด
“อย่าลื่นล้มกลางเวทีล่ะ”
กีกี้แกล้งเหยียบเท้าภัททิมา ภัททิมาเจ็บแต่ทำอะไรไม่ได้ เดินเข้าจุดมองอย่างแค้นๆ กีกี้ยิ้มเยาะโพสท์ท่าสวย
ไข่มุกเดินขึ้นเวทีแล้วตีลังกาล้อเกวียนเข้ามายืนตรงจุด คนดูฮือฮาปรบมือกันใหญ่ จินจูมองอย่างชื่นชม ยิ้มนิดๆ เพลงเปลี่ยนจังหวะเร็วขึ้น เจ็ดสาวออกลีลากันสุดฤทธิ์ โดยมีไข่มุกอยู่ตรงกลาง คีรินทร์มองยิ้มๆ ชอบใจ
พอจบเพลงไข่มุกกระโดดกลับหลังใส่สามหนุ่มและคนร้าย คนร้ายรับตัวมาแล้วดึงไข่มุกโยนข้ามหัวได้านหลังพวกคนเต้นงงยืนมองตาค้าง คนดูกรี๊ดลั่น จินจูใบหน้าตกใจมาก คีรินทร์ตาค้าง
“ลูกไก่”
ไข่มุกตั้งตัวได้ใช้กำแพงฉาก ดีดตัวตีลังกากลับมายืนหมิ่นเหม่ขอบเวที จินจูกับคีรินทร์มองโล่งใจ ไข่มุกปาดเหงื่อแต่ก้าวพลาดลื่นทำท่าจะตกเวที คนดูกรี๊ดลั่นอีกรอบ จินจูแววตาร้อนรนจับขอบเวทีโดดขึ้นไปช่วย
ไข่มุกถอยหลังเซถลาจนมาสุดขอบเวที อีกก้าวเดียวจะตกเวที ไข่มุกทรงตัวไม่อยู่ สั่น เอนหน้าหลังไปมา มือก็หมุนเคว้งไปในอากาศ
“เอ๊ย”
คีรินทร์เห็นก็ตะโกนบอก
“ลูกไก่ ระวังหลัง”
คีรินทร์จะรุดตัวไปช่วย แต่พอจะก้าวเท้าเหมือนมีอะไรบางอย่าง เคลื่อนตัวแซงหน้าไปอย่างเร็วมาก พอกระพริบตาอีกที จินจูรอรับไข่มุกอยู่ข้างเวทีแล้ว ไข่มุกล้มลงมาร้องลั่น
“เฮ้ย”
ไข่มุกเสียหลักหล่นจากเวที แต่จินจูรอรับไม่ให้ตัวไข่มุกลงกระแทกพื้น จนตัวเองเซล้ม ขาไปโดนกระถางต้นไม้ข้างเวที พวกสื่อถ่ายรูปกันใหญ่ คีรินทร์รีบรุดมาประคองไข่มุก
“ลูกไก่ เจ็บตรงไหนรึเปล่า เป็นไงบ้าง กระดูกหักไหม”
“ชั้นไม่เป็นไรมากคะ คุณจินจูมารับไว้ทัน” ไข่มุกมองทางจินจูอย่างห่วง “คุณจินจู”
จินจูนั่งพับเพียบกับพื้น มือจับข้อเท้าสีหน้าเจ็บปวด แทยอนและคธารุดเข้าไปช่วย สองคนเข้าหน้ากันไม่ค่อยติด แต่ก็ต้องช่วยจินจูก่อน
“คุณเป็นไงบ้าง เจ็บตรงนี้เหรอ ไหนขอผมดู”
คธาจับข้อเท้าจินจูตรงจุดปวดพอดี
“โอ๊ย”
แทยอนเสียงเข้มห้ามไว้
“ทำอะไรของคุณ จับผิดจับถูก เส้นพลิกกระดูกหัก รับผิดชอบได้ไหม ผมว่าพาไปโรงพยาบาลดีกว่า ถอยซิ” แทยอนขยับตัวเข้าใกล้จินจู จนคธาต้องถอยออก จินจูสบตาคธาที่มองมาอย่างห่วง จินจูเมินหน้าหนี แทยอนเข้าประคอง “ค่อยๆ เดินนะ ใจเย็นๆ เกาะแขนผมไว้”
แด๊นเซอร์ที่แกล้งเหวี่ยงไข่มุกรีบเข้ามาขอโทษไข่มุก
“ผมขอโทษครับ ผิดจังหวะไปหน่อย คุณเป็นไงบ้าง”
“ไม่เป็นไรคะ มันเป็นอุบัติเหตุ พลาดกันได้” แทยอนประคองจินจูผ่านหน้าไข่มุกที่มีคีรินทร์ประคองอยู่ “คุณจินจูเป็นไงบ้างคะ” จินจูมองไข่มุก
“เจ็บที่ข้อเท้านิดหน่อย ไม่เป็นไรมาก แล้วหนูเจ็บตรงไหนรึเปล่า”
ไข่มุกส่ายหน้าปฎิเสธกำลังจะพูดต่อ แทยอนขัดจังหวะ
“รีบไปโรงพยาบาลก่อนดีกว่า”
แทยอนประคองจินจู คีรินทร์ประคองไข่มุก เดินตามออกไป ผ่านหน้าชลลดาที่แกล้งเปรยให้มณีได้ยิน
“ดวงลูกไก่ท่าจะเป็นกาลกิณีจริงๆ ดูซิ ไม่ว่างานไหน มีปัญหาตลอด”
มณีมองตามไข่มุก คล้อยตามที่ชลลดาพูด
หน้าห้องตรวจที่โรงพยาบาล ไข่มุกเดินไปเดินมากระสับกระส่าย คีรินทร์มองไข่มุก
“นั่งบ้างเถอะลูกไก่ เดินไปเดินมาเป็นชั่วโมงแล้ว”
ไข่มุกหันมองคีรินทร์ไม่พูดอะไร เดินไปชะโงกดูหน้าห้องตรวจอีกที
“ทำไมตรวจนานชะมัด” ไข่มุกยกมือไหว้ “คุณพระคุณเจ้าขา ขออย่าให้คุณจินจูเป็นอะไรเล้ย...สาธุ”
ประตูเปิดออก จินจูที่มีผ้ารัดข้อเท้าถูกแทยอนประคองพาเดินออกมา ไข่มุกรีบเข้าไปจับมือจินจู จินจูก็ยิ้มอย่างอ่อนโยน
“เท้าคุณ...”
“แค่ข้อเท้าแพลง โชคดีที่กระดูกไม่หัก”
ไข่มุกกราบที่ต้นแขนจินจู น้ำตาคลอ
“หนูขอโทษที่ทำให้คุณต้องมาเจ็บแทน ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยหนู ขอบคุณจริงๆ”
จินจูยิ้มรับอย่างอ่อนโยน
“ไม่เป็นไร เจ็บแค่นี้นับว่าเล็กน้อยมาก เห็นหนูปลอดภัย ไม่เป็นอะไร ชั้นก็ดีใจมากแล้ว”
ไข่มุกน้ำตาร่วงมองจินจูอย่างซึ้งในน้ำใจมาก จินจูกอดไข่มุก คีรินทร์ยิ้มมองทั้งคู่อดคิดไม่ได้ว่าคู่นี้รักกันมาก
คืนนั้นในห้องนอนไข่มุก คีรินทร์นั่งข้างเตียงบิดผ้าขนหนูสะเด็ดน้ำแล้วพับวางลงที่บั้นเอวไข่มุกที่นอนคว่ำบนเตียง
“ผ้าร้อนๆ ประคบเอาไว้ เดี๋ยวนวดยาอีกครั้งก็น่าจะดีขึ้น” ไข่มุกยิ้มหันมอง
“ขอบคุณมาก แค่เคล็ดนิดหน่อยเอง ไม่เห็นต้องอะไรขนาดนี้”
“มันอาจช้ำในก็ได้ กันไว้ก่อน วันนี้ขวัญเธอหายไปเยอะ เดี๋ยวเรียกกลับให้”
ไข่มุกทำยิ้มขำแซว
“จะเรียกยังไงคะ แหมได้โอกาส”
“อยากรู้ใช่ไหม แบบนี้ไง” คีรินทร์ยื่นหน้าจะหอมแก้ม
เสียงเคาะประตูดังขึ้น คีรินทร์ค้างหันไปมอง นุชนารถเดินถือชามใส่น้ำร้อนมาเปลี่ยน นุชนารถกระแทกชามเสียงดังวางข้างโต๊ะหัวเตียง
“น้ำร้อนที่สั่ง”
“วางไว้ตรงนั้น เดี๋ยวผมจัดการเอง” คีรินทร์หันกลับจะจู๋จี๋กับไข่มุกต่อ ทำประคบผ้า เห็นนุชนารถยังไม่ออกไปก็มองอีกครั้ง “ขอบคุณมากครับนุช”
นุชนารถรู้ตัว มองคีรินทร์อย่างหึงมาก น้ำเสียงสั่นอย่างน้อยใจ
“นุชไปเองได้คะ ไม่ต้องไล่ เดี๋ยวนี้คุณรินใจร้ายกับนุชมากเลยนะ รู้ตัวบ้างไหม”
คีรินทร์ถอนหายใจอย่างหน่ายใจ
“คุณก็เหมือนกัน เดี๋ยวนี้อะไรก็ไม่รู้ หงุดหงิดง่ายมาก มันน่าเบื่อรู้ไหม”
นุชนารถน้ำตาคลอมองคีรินทร์ที่คอยประคบประหงมไข่มุกอย่างแค้นเจ็บใจ แล้วเดินกระแทกส้นเท้าออกไปจากห้อง ไข่มุกหันมองตามนุชนารถแล้วมองคีรินทร์ ใบหน้าเรียบเฉย
“งอนไปโน่นแล้ว ไม่ตามไปดูหรอคะ เดี๋ยวได้เป็นเรื่องอีกหรอก”
คีรินทร์ส่ายหน้าหงุดหงิด
“เพราะเอาใจมากถึงได้เป็นเรื่อง แต่ตอนนี้เขาต้องเข้าใจว่าชั้นแต่งงานแล้ว ผู้หญิงเจ้าอารมณ์ ปล่อยให้อยู่คนเดียวซะบ้าง” ไข่มุกค้อนให้
“พอเก่าแล้วเป็นสนิท ทำเป็นว่าเขา”
“มีแซวหรอ แบบนี้ต้อง...”
คีรินทร์โผเข้ากอดไข่มุก
“อย่านะ เดี๋ยวโดนตัดแต้มหรอก”
วันดีเดินเข้ามาที่ห้องโถงโรงแรมคีรินทร์ มองไปทั่วอย่างตื่นตาในความหรูหรา รปภ.เดินตามเข้ามา
“ผมบอกแล้วว่าไม่มีคนชื่อนั้น ยังจะเข้ามาอีก ออกไปได้แล้วป้า”
“ก็มันบอกว่าทำงานในนี้ เอ็งมันอยู่แต่ข้างนอก จะไปรู้อะไร”
“บอกกันดีๆ ไม่เชื่อใช่ไหมป้า” รปภ.เสียงแข็งแล้วจับแขนวันดีจะลาก
“อย่านะ ข้ามาหาลูก กีดกันทำไมเว้ย โอยเจ้าข้าเอ๊ย ช่วยด้วย”
วันดีสะบัดแล้วเดินเร็วหนี หันรีหันขวางจนชนวัฒนาที่เดินเข้ามา
“มีเรื่องอะไรกัน เอะอะโวยวาย”
รปภ.ทำความเคารพวัฒนา
“ขอโทษครับ คือป้าคนนี้แกมาตามหา...”
“ชั้นมาหา...ล...” ไข่มุกปราดเข้าถึงตัววันดี รีบหันตัววันดีกลับอีกทาง “นัง...”
ไข่มุกเอามือปิดปากวันดี วันดีพยายามจะแกะมือออก ไข่มุกไม่ยอม ขยิบตาให้วันดีหยุด
“อ๋อป้าคนนี้ชั้นจำได้คะ รู้ว่าแกตามหาใคร เดี๋ยวพาไปเอง”
ไข่มุกหันยิ้มเจือนๆ ให้วัฒนาและรปภ. ลากวันดีหลบไป วัฒนามองอย่างสงสัย
ไข่มุกลากตัววันดีมาที่ห้องพักพนักงาน วันดีปัดมือไข่มุกที่ปิดปากอยู่ออก
“แม่มาที่นี่ทำไม”
“ถ้าไม่มีเรื่องจะมาเหรอวะ ข้าไปต่อรองกับไอ้พวกนักเลงที่ยึดรถเข็นกับครกไป พอเห็นนังวันดีเอาจริง มันก็กลัวเหมือนกันเว้ย ยอมลดค่าไถ่ของเหลือแค่หมื่นห้า แต่ต้องได้เงินวันนี้ ยังไงเอ็งเอามาให้แม่ก่อน”
วันดีแบมือ ไข่มุกมองหน้าชั่งใจแล้วหยิบเงินให้
“ดีนะ เงินเดือนชั้นพึ่งออกวันนี้” ไข่มุกยื่นเงินให้ วันดีรีบฉกเข้ากระเป๋า “ต่อไปแม่อย่ามาที่นี่อีก ชั้นเอาไปให้แม่ที่บ้านเอง”
“ทำไมจะมาไม่ได้วะ โรงแรมออกใหญ่โต ซ้วยสวย น่ามาอยู่จริงๆ ถ้าอยู่บ้านผัวเอ็งไม่ได้ ให้แม่อยู่นี่ก็แล้วกันนะ”
“จะทำอย่างนั้นได้ยังไงแม่ เดี๋ยวได้ความแตก ได้เงินแล้วแม่กลับเถอะ เดี๋ยวชั้นต้องทำงานต่อ”
“เดี๋ยวซิวะนังนี่ ไล่ข้าลูกเดียว น้ำท่าไม่มีให้กินสักแก้ว”
“รีบไปเหอะ ได้ตังแล้ว ไปซื้อกินที่อื่นสิบแก้วเลย”
ไข่มุกลากแม่ให้กลับ โดยไม่รู้ว่าวัฒนาแอบมองมาอย่างสงสัยตลอด วัฒนาหันมาสบตาลูกน้อง ซึ่งสบตาตอบอย่างรู้กัน ลูกน้องเดินตามวันดีไปห่างๆ วัฒนามองตามอย่างสงสัยว่าวันดีเป็นใครกันแน่
วันดีลงจากรถมอเตอร์ไซด์รับจ้างเพื่อจะเข้าบ้าน ลูกน้องวัฒนาเดินตามจนถึงตัว
“ป้าๆ เห็นขึ้นรถมาจากโรงแรม ป้าไปหาใครเหรอ”วันดีมองหน้า
“ถามทำไม เอ็งเกี่ยวไรด้วย”
“ก็นึกชมไง วาสนาดีมีลูกทำงานโรงแรมใหญ่โต”
“ไม่รู้โว้ย ข้ารีบ อย่ามายุ่ง”
วันดีรีบเดินหนี ลูกน้องวัฒนายังแอบตามจนเห็นวันดีเข้าไปในบ้าน เม่นสวนออกมาท่าฉุนเฉียว ด่าตามหลังวันดี
“นึกเหรอว่าข้าไม่รู้ ได้เงินมาทำไม่แบ่ง เดี๋ยวมีร่วงแน่เอ็ง”
เม่นเดินเตะปิ๊บเสียงดังโวยวาย เดินผ่านหน้าลูกน้องวัฒนาที่หลบมองมา
ลูกน้องวัฒนาพาเม่นมาเลี้ยงเหล้า บนโต๊ะเหล้าหมดไปหลายขวด เม่นกระดกหมดแก้ว แล้วยิ้มตาเยิ้มอย่างเมาให้ลูกน้องวัฒนา พูดอ้อแอ้
“เอ็งนี่ใช้ได้ เจอกันแป๊บเดียว เลี้ยงเหล้าไอ้เม่นแล้ว คนที่นังวันดีไปหาที่โรงแรม จะมีใคร๊ มันก็ลูกข้ากับนังวันดีซิวะ”
“ลูกพี่เหรอ เป็นไปได้ยังไง นั่นเมียคุณคีรินทร์ เจ้าของโรงแรมนะ”
“นั่นแระ นังคุณนายชลลดาจอมงก เอาตัวไปขัดหนี้ แล้วให้ไปแต่งกับเศรษฐีแทนลูกมัน”
“พี่แน่ใจนะ เราพูดถึงคนเดียวกัน”
“ปัดโธ่ นังวันดีมีลูกสาวคนเดียว สวยๆ ขาวๆ สูงแค่เนี่ย”
ลูกน้องวัฒนางงมาก
“คุณลูกไก่เนี่ยนะ”
เม่นยกเหล้าซดหมดแก้ว ตาปรื๋อหัวเราะร่วน
“ลูกไก่ลูกเป็ดไร๊ มันชื่อนังไข่มุก”
นุชนารถพูดโทรศัพท์กับวัฒนา อึ้งแกมดีใจน้ำเสียงจริงจัง
“คุณวัฒนาไม่ได้ล้อนุชเล่นใช่มั้ย”
“ผมตรวจสอบจนแน่ใจแล้วถึงได้บอก รู้ว่าเป็นข่าวดีสำหรับคุณนุชแน่”
นุชยิ้มอย่างหมายมาด เสียงแข็งอย่างแค้น
“ข่าวดีสำหรับเราสองคนมากกว่า”
หลังเลิกฟิตเนส ไข่มุกรินน้ำดื่มแต่พลาดมือลื่ แก้วหล่นแตกก็ก้มลงเก็บ มีขาคนเดินเข้ามาหยุด พอเงยขึ้นก็เห็นเป็นนุชนารถ ไข่มุกไม่ทันตั้งตัว นุชนารถสาดน้ำในแก้วที่ถือมาใส่หน้าไข่มุก
“โอ๊ย นี่คุณทำอะไร”
นุชนารถมองอย่างเหยียดมาก
“แค่นี้น้อยไป สำหรับแกมันต้องน้ำกรด”
ไข่มุกเริ่มโมโห ขึ้นเสียง
“ถึงคุณเกลียดชั้น ต้องให้เกียรติกันบ้างในฐานะภรรยาคุณคีรินทร์”
นุชนารถหัวเราะสุดเสียงอย่างสะใจ
“พูดไม่อายปาก ชั้นไม่เรียกตำรวจมาลากคอแกก็บุญหัวแล้ว” ไข่มุกงง
“ตำรวจ คุณพูดอะไร ชั้นไม่รู้เรื่อง”
“แกร้ายกว่าที่คิดเยอะ ทำใสซื่อ ให้คุณรินทร์หลง ถึงคราวแกใช้กรรมบ้างแล้ว” นุชนารถพูดใส่หน้า ไข่มุกไม่อยากต่อแยให้เกิดเรื่อง สบตาพูดเสียงแข็งใส่
“วันนี้ชั้นจะไม่เอาเรื่องแต่อย่าเสียมารยาทแบบนี้อีก คุณสงบสติอารมณ์ซะ เลิกหึงบ้าๆ บอๆ สักที ชั้นเลิกงานจะกลับบ้านแล้ว”
ไข่มุกเดินไป นุชนารถเสียงดังไล่หลัง
“กลับสลัมซิไม่ว่า นึกเหรอว่าจะเจอนังวันดีแม่แก...นังไข่มุก”
ไข่มุกหันกลับมามองนุชนารถ อึ้ง ก้าวขาไม่ออก นุชนารถยิ้มอย่างเหยียดหยัน สะใจมาก
ไข่มุกนั่งเครียดใจคอไม่ดีเป็นห่วงแม่ ชลลดากับภัททิมามองอย่างใจหาย
“นางนั้นเลือดเข้าตาขนาดจับแม่แกไปขู่หรอนี่ หึงคลั่งโรคจิตชะมัดหรือมันจะฆ่าแม่แกก่อนแล้วพาลมาเล่นเราคะคุณแม่”
ไข่มุกร้องไห้เสียงสั่น
“อย่าแช่งกันขนาดนั้นเลยคะคุณลูกไก่ คุณนายต้องช่วยแม่หนูนะ แม่หนูกำลังแย่”
ชลลดาหน้าเครียด
“โอ๊ย พอแล้ว คนยิ่งเครียด นี่แกร้องเพราะแม่จะตายหรือกลุ้มใจต้องจากผัวเศรษฐียะ ชั้นไม่รับรู้ด้วย แม่ใครจะตายก็ช่วยกันเอง” ไข่มุกตาค้าง
“อ้าว เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นจากคุณนายต้นคิดนะคะ” ชลลดาเอานิ้วจิ้มที่หัวไข่มุก
“แล้วใครที่มันพลาดให้นังพยาบาลโรคจิตจับได้ แกจะแก้ตัวไงก็ช่าง แต่อย่าให้เรื่องมาถึงชั้นกับลูก” ชลลดาจ้องหน้าไข่มุกเขม็ง “ไม่งั้นไม่ใช่แค่แม่แกที่ต้องตาย แต่แกก็ต้องตายด้วย”
ไข่มุกอึ้ง นึกถึงวันดี
ก่อนหน้านี้นุชนารถได้ยื่นมือถือให้ไข่มุกที่รับมาอย่างไม่สบายใจ แล้วไข่มุกก็ได้ยินเสียงวันดีร้องไห้
ฎนังมุกช่วยแม่ด้วย มันพาข้ามาที่ไหนไม่รู้ ช่วยข้าด้วย”
“แม่ แม่อยู่ที่ไหน”
นุชนารถแย่งโทรศัพท์จากมือไข่มุก
“พอแล้ว”
“จะบ้าไปถึงไหน อย่าทำอะไรนะ ปล่อยแม่ชั้นเดี๋ยวนี้ แม่ไปเกี่ยวอะไรด้วย”
“เกี่ยวที่มีลูกเป็นแก๊งต้มตุ๋นอย่างแกไง ชั้นนึกแล้วไม่ผิด ว่าแกมันดูแปลกๆ นี่ถ้ายังจับไม่ได้ มีหวังคุณรินทร์หมดตัวแน่” ไข่มุกอึ้งหน้าเสีย
“เรื่องนี้ชั้นจะรับผิดชอบเอง แต่ต้องปล่อยแม่ชั้นก่อน” นุชนารถหัวเราะสะใจ
“ยอมรับแล้วใช่ไหม ชั้นจะปล่อยหรือจะฆ่านังแก่นั่น มันก็อยู่ที่แก”
ไข่มุกมองนุชแล้วพูดเน้นคำ
“อย่าเล่นกันถึงชีวิตเลย ปล่อยแม่ชั้น แล้วชั้นจะยอมไปจากคุณคีรินทร์เอง”
“ไม่ได้ แกต้องรับสารภาพต่อหน้าทุกคน ไม่งั้นแม่แกตาย”
นุชนารถตะคอกใส่ ไข่มุกอึ้งจะร้องไห้นึกไม่ถึงว่าจะโดนเล่นแบบนี้ นุชนารถมองไข่มุกอย่างแค้นจัดที่มาหลอกลวงทุกคน
คืนนั้นระหว่างอยู่ในห้อง ไข่มุกหน้าเศร้ามากเตรียมเสื้อผ้าชุดทำงานเน็คไทคีรินทร์มาแขวนอย่างประณีต หันไปมองกระจกเห็นภาพคู่ในกรอบอย่างไม่ตั้งใจก็น้ำตาก็คลอ รีบหันไปทางอื่น ไข่มุกดึงที่นอนให้ตึงพับผ้าห่มเรียบร้อย มองช้าๆ ไปรอบห้อง เห็นบอร์ดสะสมแต้มของทั้งคู่ก็นิ่งน้ำตาร่วง คีรินทร์ในชุดนอนเปิดประตูห้องน้ำเดินติดกระดุมเสื้อออกมา ไข่มุกรีบเช็ดน้ำตา เปลี่ยนสีหน้าแสร้งยิ้ม เดินเข้าไปช่วยแต่งตัว
“ให้ชั้นช่วยนะคะ”
คีรินทร์ก็ยิ้มมองไข่มุกอย่างรักใคร่
“วันนี้เป็นอะไรเอาใจผมสารพัด น่ารักที่สุดในโลกเลย ผมเลือกไม่ผิดจริงๆ ที่ได้คุณเป็นเมีย”
ไข่มุกนิ่งมองคีรินทร์อย่างเต็มใบหน้า แล้วยิ้มทั้งน้ำตา พูดน้ำเสียงสั่นเครือ
“ชั้นก็ดีใจมากที่ได้คุณเป็นสามี เป็นช่วงที่ดีที่สุดในชีวิต ชั้นจะไม่มีวันลืมเวลาที่เราอยู่ด้วยกันเลยคะ”
คีรินทร์มองไข่มุกแบบอึ้งๆ
“คุณ พูดอะไรแปลกๆ แล้วทำไมต้องร้องไห้ด้วย”
“ไม่รู้ซิ อยู่ดีๆ น้ำตามันก็ไหลออกมาเอง” ไข่มุกปาดน้ำตาแล้วยิ้ม “วันนี้ชั้นมีอะไรพิเศษมอบให้กับคุณ หลับตาสิคะ”
“อะไรของคุณ วันนี้มาแปลกจัง มีต้องหลับตาด้วย”
ไข่มุกเขิน หัวเราะทั้งน้ำตา
“ก็ชั้นอายนี่นา”
คีรินทร์ปาดน้ำตาให้ไข่มุกแล้วบอกเสียงนุ่ม
“อะก็ได้ อยากรู้เหมือนกันว่าจะพิเศษแค่ไหน”
คีรินทร์ค่อยๆ หลับตาลง ไข่มุกจูบคีรินทร์ที่ริมฝีปากทั้งน้ำตาอย่างหวานที่สุด คีรินทร์ถึงกับอึ้ง ตาค้าง พูดอะไรไม่ออก ไข่มุกค่อยๆ ถอนจูบ สบตาคีรินทร์แล้วยิ้มให้น้ำตาร่วง สวมกอดคีรินทร์อย่างเต็มกอด
ไฟในห้องถูกปิดลง คีรินทร์ยิ้มอย่างสุขใจนอนกอดไข่มุกที่นอนตะแคงหันหลังให้ ไข่มุกนอนน้ำตาไหล เม้มปากกลั้นร้องไห้ไม่ให้คีรินทร์รู้ตลอดทั้งคืน
เช้าวันรุ่งขึ้น ช้อยเสิร์ฟข้าวต้มให้คีรินทร์ที่ยิ้มแย้มมีความสุข ตักกับข้าวให้ไข่มุกที่นั่งนิ่งครุ่นคิดอย่างหนักใจกลืนข้าวไม่ลง
“กับข้าววันนี้อร่อยมากครับป้าช้อย ทานเยอะๆ สิลูกไก่”
“ฝีมือช้อยก็อร่อยทุกวันนั่นละคะคุณ”
“อร่อยทุ๊กอย่าง จานนี้ก็ยอด จานนั้นก็เยี่ยม หนูนาชอบหมดเลย”
เขมทัตสังเกตเห็นไข่มุกที่นั่งนิ่ง สีหน้าไม่สบายใจ ไม่กินข้าวสักคำจนกับข้าวที่คีรินทร์ตักให้พูนจาน
“ไม่เห็นทานอะไรเลยลูกไก่ ไม่สบายหรือเปล่า” เขมทัตถามอย่างเป็นห่วง ไข่มุกส่ายหน้า
“เปล่าคะ คือหนู...”
ไข่มุกพูดไม่ออก จะตักข้าวเข้าปาก แต่ต้องอ้าปากค้างเมื่อเห็นนุชนาถส่งสายตาเหี้ยมกลับมา มองเลยไปทางมณีและภัททิมาก็โดนทั้งสองคนจ้องตาดุ ไข่มุกรีบหลบสายตา อึดอัดจนบอกไม่ถูก
“เมียแกท่าพิกลนะเช้านี้ เห็นนั่งเบื้อซึมกะทือตั้งแต่เช้า”
“ตักให้ตั้งเยอะแล้ว หรือต้องให้ป้อนขอรับ คุณลูกไก่”
คีรินทร์แซวไข่มุก ไข่มุกหันมองคีรินทร์ นิ่ง หลับตาแล้วรวบรวมความกล้า พูดเน้นเสียง
“ไม่ใช่ลูกไก่คะ จริงๆ แล้วชั้นชื่อไข่มุก”
ทุกคนอึ้ง มณีกำลังจะตักข้าวเข้าปากก็ยกช้อนค้าง เขมทัตกำลังจะซดกาแฟก็นิ่งอึ้ง นุชนารถยิ้มอย่างสะใจมาก ภัททิมาอึ้งหันมองหน้าชลลดาที่ตีสีหน้านิ่ง คีรินทร์ทำแก้ตัวแทน
“อ๋อ ชื่อเล่นอีกชื่อว่าไข่มุก แบบนี้ชื่อไม่ซ้ำกับญาติคุณเหรอ”
“ไม่ซ้ำคะ แต่สลับ เราสลับตัวกันเพื่อแต่งงานกับคุณ”
คีรินทร์สำลักน้ำ หันมองไข่มุก
“อะไรนะ”
“ชั้นเข้ามาอยู่ในบ้านนี้เพื่อแต่งงานกับคุณคีรินทร์แทนคุณลูกไก่”
เขมทัตงงมาก ซักไซร้สีหน้าจริงจัง
“แล้วเธอเป็นใคร นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะมาพูดเล่นกัน ถ้าเธอพูดจริงแล้วคุณชลทำไมถึงยอม”
มณีวางช้อนกระทบจานเสียงดัง มองไข่มุก ชลลดาและภัททิมาอย่างขึงขัง
“จะไม่ยอมได้ไง” มณีมองชลลดา “มันนั้นแหละตัววางแผน”
ชลลดาร้องไห้โฮ แกล้งบีบน้ำตา
“คุณพี่ขา ชลผิดไปแล้ว ชลพลาดเสียท่าเอง ไปเข้าบ่อนจนติดหนี้ ไอ้พวกแก๊งที่นั่นอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด ส่งตัวแม่นี่มาเพื่อคอยดูดเงินจากบ้านนี้”
ไข่มุกอึ้งอ้าปากค้าง ส่ายหน้า
“เอ๊ย ไม่ใช่นะ”
ชลลดารีบตัดหน้า แผดเสียง
“ไม่ใช่ตัวจริงหนะซิ ไม่ต้องแก้ตัวอะไรอีกแล้ว” ชลลดามองเขมทัตพูดเสียงอ้อน “พวกบ่อนมันขู่จะฆ่าชลกับลูก เลยต้องยอมให้สลับตัวกับหนูลูกไก่เพื่อให้นังนี่ ดูดเงินจากคุณรินทร์ได้ถนัดคะ”
เขมทัตกับมณีอึ้ง
“นี่หมายความว่า บ้านชั้นกำลังโดนรุมกินโต๊ะแบบยกแก๊งค์เหรอ นึกอยู่แล้ว เรื่องนี้มันทะแม่งตั้งแต่ต้น” มณีชี้หน้าไข่มุก “แก...นังสะตอ”
คีรินทร์ส่ายหัวอย่างไม่เชื่อ ขึ้นเสียง
“ไม่จริง เป็นไปไม่ได้ บอกผมซิลูกไก่ว่าเรื่องพวกนี้ไร้สาระ คุณ...แค่ดูหนังเกาหลีมากไป”
ไข่มุกเริ่มน้ำตาคลอ โดนบีบคั้น
“ไม่ได้ล้อเล่นคะ เรื่องสลับตัวเรื่องจริง แต่เรื่องที่...” ไข่มุกมองชลลดา ชลลดาทำตาดุใส่พูดขู่เสียงดัง
“เรื่องแดงขนาดนี้แล้ว ยอมรับซะเถอะ ชั้นเองทนไม่ไหวแล้วอึดอัดจะตายชัก” ชลลดาแกล้งร้องไห้ “คุณพี่เขมขา ชลยอมตาย ดีกว่านั่งปอกลอกพี่เขมไปชั่วชีวิต”
ภัททิมาก็แกล้งร้องโฮตามชลลดา
“หนูก็ยอมตายกับแม่ ไม่เอาแล้ว มันโหดมาก พวกเราถึงต้องหนีมาที่นี่ มันยังสั่งให้ช่วยแม่นี่ รีดไถ่เงินเอาให้ได้มากที่สุดด้วยนะคะ”
คีรินทร์มองไข่มุกอย่างคาดคั้น
“ยังไงก็ไม่เชื่อ บอกซิว่าคุณไม่ได้ ถูกส่งตัวอะไรมาจากบ่อนนั่น ลูกไก่...ไข่มุก จะชื่อบ้าอะไรก็ช่างเหอะ บอกแต่ว่าไม่จริงได้มั้ย คุณไม่ได้หลอกผม บอกสิ”
ไข่มุกร้องไห้หนักขึ้นอย่างกดดัน มณีลุกขึ้นหาเดินเข้าไปหาไข่มุก พอถึงตัวก็ตบหน้าอย่างจัง
“เลวมาก ออกไปจากบ้านชั้นเดี๋ยวนี้”
ชลลดากับภัททิมาเห็นก็สะดุ้ง นุชนารถแอบยิ้มอย่างสะใจ ไข่มุกร้องไห้วิ่งออกจากห้องไป
มายาสีมุก ตอนที่ 7 (ต่อ)
ไข่มุกนั่งร้องไห้เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า คีรินทร์เข้ามาหาสีหน้าจริงจังมาก
“นี่มันเรื่องอะไรกัน คุณอธิบายให้ผมฟังชัดๆ หน่อยซิ”
ไข่มุกส่ายหน้าพูดเสียงสั่นเครือ
“คุณก็ได้ยินไปหมดแล้ว จะมาถามอะไรอีก”
คีรินทร์ตรงไปจับข้อมือไข่มุกให้หยุดเก็บเสื้อผ้า มองหน้าอย่างคาดคั้น
“บอกผมสิว่าไม่จริง ขอร้อง ช่วยบอกอะไรก็ได้”
ไข่มุกรั้งมือออก แต่คีรินทร์จับไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
“โอเค คุณเป็นคนที่บ่อนส่งมารีดไถบ้านผม แล้วคุณมีเหตุผลอะไรมาสารภาพวันนี้”
ไข่มุกตอบน้ำเสียงสั่นเครือ
“ชั้นมีเหตุผลของชั้น ปล่อยเถอะคะชั้นต้องรีบไป”
ไข่มุกรั้งมือออกจนได้ รูดซิปปิดกระเป๋า แล้วเดินออกไปจากห้อง คีรินทร์มองตาม
“คุณจะไปแบบนี้เหรอ แล้วระหว่างเรา ไม่มีความหมายเลยเหรอไง คุณรู้สึกอะไรกับผมบ้างมั้ย มาทำดีกับผมทำไม”
ไข่มุกอึ้ง หยุดนิ่งเหมือนหมดแรงที่จะก้าวขาต่อ ยกมือมากำไว้ที่หัวใจอย่างปวดร้าวหนัก น้ำตาร่วง
“พอได้แล้วคะ คุณอย่าพูดอะไรไปมากกว่านี้เลย”
คีรินทร์ตาแดงก่ำอย่างไม่รู้ตัว ก้าวช้าไปยืนจ้องหน้าไข่มุก แล้วถามย้ำเสียงหนักแน่นอย่างต้องการคำตอบ
“บอกผมซิว่าคุณไม่รู้สึกอะไร ผมไม่สำคัญอะไรเลยสำหรับคุณใช่มั้ย เป็นแค่ไอ้โง่ ที่มีเงินให้คุณไถ”
ไข่มุกร้องไห้หนัก ไม่ตอบ ใจเหมือนจะแหลกสลายลงตรงนั้น คีรินทร์พยักหน้าช้าๆ เดินไปรื้อบอร์ดกระดาษสะสมแต้มทั้งของตัวเองและของไข่มุกลงมาจากผนังห้องทั้งหมดด้วยความโมโห คีรินทร์ ฉีกขย้ำกระดาษ เดินกลับมาหาไข่มุก แล้วปาใส่หน้า ตะโกนไล่ด้วยความโกรธอย่างสุดขีด
“ไป...จะไปไหนก็ไปให้พ้น”
ไข่มุกร้องไห้อย่างหนัก มองกระดาษที่โดนขย้ำเจ็บปวดหัวใจที่สุด แล้ววิ่งถือกระเป๋าออกไปจากห้อง
ในห้องเก่าๆ สภาพโทรม วันดีพยายามดิ้นให้หลุดจากเชือกที่มัดมือไว้กับเก้าอี้ เสียงดังโวยวาย
“บอกว่าใช้หนี้ไปหมดแล้วโว้ย จะเอาอะไรกันอีก ปล่อยข้าสิวะ”
ลูกน้องวัฒนาเดินเข้ามา แกะเชือกออก วันดีรีบลุกหลบไปยืนอีกมุมอย่างหวาดกลัว
“ดีนะดวงแกยังไม่ถึงฆาต จะไปไหนก็ไป”
วันดีมองซ้ายขวารีบวิ่งหนีไปจากห้อง ประตูห้องปิดเผยให้เห็นวัฒนาที่ยืนหน้าเหี้ยม มองวันดีวิ่งหนีออกไป
ไข่มุกหิ้วกระเป๋าข้าวของลงจากชั้นบนก็ต้องชะงักเห็นมณีทำหน้ายักษ์ นุชนารถและช้อยยืนจ้องมา
“มันจะหนีแล้วคะคุณผู้หญิง”
มณีขึ้นเสียง พยักหน้าให้ช้อย
“จัดการ”
ช้อยเข้าไปกระชากกระเป๋าเสื้อผ้ารื้อค้นจนกระจายเต็มพื้น
“เอามานี่ นังตัวดี ขโมยอะไรไปบ้าง เอามาคืนให้หมด”
“มีแต่เสื้อผ้าหนูแค่นั้น หนูไม่เอาอะไรไปหรอกคะ”
“ไม่มีใครเชื่อแกแล้ว เกลียดนักไอ้พวกปลิ้นปล้อน อย่าหวังว่าจะฉกอะไรไปจากบ้านนี้ได้แม้แต่ชิ้นเดียว”
“แจ้งตำรวจลากคอมันเข้าคุกเลยคะ เดี๋ยวนุชจับมันไว้เอง”
ชลลดาและภัททิมาที่ยืนไม่ห่างรีบเข้ามาหานุชนารถอย่างตกใจ กลัวเรื่องจะซัดทอดมาหาตัวเอง
“บอกตำรวจให้โง่หรือไง ไอ้พวกนักเลงได้แห่มาฆ่าหมดบ้าน”
“แค่พวกเรารวมกันไล่ มันก็หัวซุกหัวซุนหนีไม่ทันแล้ว”
ภัททิมาถือไม้ปัดฝุ่นทำเขี่ยไล่ ไข่มุกหลบไปหลบมา ช้อยก็ค้นกระเป๋าทุกซอกทุกมุม หันบอกมณี
“ไม่เจออะไรเลยคะคุณนาย มีแต่เสื้อผ้าเน่าๆ”
“ให้มันขนไปให้หมด อย่าทิ้งไว้เป็นเสนียดบ้านชั้น”
ไข่มุกน้ำตาคลอ เก็บเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายลงกระเป๋า เดินจะออกไปจากบ้าน ชลลดาเดินเข้าไปใกล้กระซิบบอก
“ไสหัวไปให้พ้นจากบ้านนี้ หนี้สินทุกอย่างชั้นยกให้หมด แต่อย่ากลับมาให้เห็นหน้าอีก”
ไข่มุกน้ำตาร่วงมองชลลดาที่เมินหน้าหนี หิ้วกระเป๋าเดินออกไปจากบ้านอย่างสุดช้ำใจ
คีรินทร์มองไข่มุกที่เดินออกจากบ้านไปจากชั้นบนอย่างขมขื่น ทั้งรักและแค้นมาก นุชนารถเข้ามากอด
“รินทร์ขา เรื่องก็เปิดเผยออกมาหมดแล้ว นุชดีใจมาก รินทร์จะได้กลับมาเป็นคนเดิมสักที”
คีรินทร์หงุดหงิด ยังรับไม่ได้กับเรื่องไข่มุก รั้งมือนุชนารถออก เอาแต่มองที่หน้าต่าง
“ผมอยากอยู่คนเดียว คุณออกไปก่อนเถอะ” นุชนารถสะบัดมือทิ้ง
“นี่คุณรักมันมากนักหรือไง มันมาหลอกคุณนะรินทร์ นุชอดทนมาตลอดก็เพื่อวันนี้ คุณต้องยอมรับความจริง หรือคิดว่ามันมีใจด้วย โธ่เอ๊ย”
“พอได้แล้วนุช ผมไม่อยากได้ยินเรื่องนี้อีก”
คีรินทร์เสียงเข้ม นุชนารถปั้นปึ่งใส่คีรินทร์ เดินออกไปอย่างผิดหวัง ดูออกว่าคีรินทร์รักไข่มุกให้แล้ว
ไข่มุกหน้าเศร้า ถือกระเป๋าเสื้อผ้าเข้ามาในบ้านเจอวันดีที่นั่งคิดเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ ไข่มุกเห็นก็รีบเข้าไปกอดร้องไห้
“แม่เป็นไง พวกมันทำร้ายแม่หรือป่าว เจ็บตรงไหนบ้าง”
“ยังไม่ตายโว้ย รู้ทั้งรู้ว่าข้าโดนพวกมันจับไป ทำไมเอ็งไม่ไปช่วยข้าบอกมันปากแทบฉีก ว่าใช้หนี้หมดแล้ว กว่ามันจะปล่อยข้ามาเนี่ย ว่าแล้วมันต้องโง่จับผิดตัวแน่ เวรจริงๆ” วันดีขึ้นเสียงหงุดหงิด
“ไม่ใช่พวกเจ้าหนี้แม่หรอก มันเป็น...” ไข่มุกสะอื้น “เอาไว้ชั้นค่อยเล่านะ”
“ไม่ใช่แล้วใครวะ แล้วนั่นเอ็งหอบผ้าหอบผ่อนมาทำไม” ไข่มุกร้องไห้ เอาแต่กอดวันดี “โอ๊ย...นังนี่ ไม่ต้องห่วงข้าขนาดนั้น หยุดร้องได้แล้ว”
คืนนั้นคีรินทร์นอนไม่หลับ พลิกตัวไปมา ลุกนั่งอย่างคิดไม่ตก คีรินทร์เดินไปมาในห้อง เปิดลิ้นชักหยิบรูปคู่ที่ถ่ายกันที่เกาหลีมาดูแล้วฉีกเฉพาะรูปไข่มุกออก รูปไข่มุกที่โดนฉีกหล่นที่พื้น คีรินทร์มองอย่างไร้เยื่อใย
อีกด้านหนึ่ง ห้องนอนไข่มุกบ้านวันดี ไข่มุกนั่งชันเข่ามือถือรูปคู่ที่ถ่ายด้วยกันที่เกาหลีแล้วลูบที่ใบหน้าคีรินทร์อย่างอาลัย ร้องไห้ขมขื่นใจที่ต้องจากมาไข่มุกนอนร้องไห้กอดตุ๊กตาที่คีรินทร์ซื้อให้ตอนไปเกาหลี แล้วภาพเหตุการณ์ในอดีตก็ย้อนกลับมาทั้งภาพหวานๆ ตั้งแต่เจอกันและตอนไปเกาหลีถึงโดนไล่ออกจากบ้าน ไข่มุกคลี่ดาวกระดาษที่ยับยู่ยี้ออกมาดูแล้วซุกใต้หมอนนอนร้องไห้
ที่ห้องนอนคีรินทร์ คีรินทร์มองกระดาษสะสมแต้ม ที่เกลื่อนอยู่กับพื้น หยิบมาขว้างอย่างแรง ระบายอารมณ์ แค้นมากเหลือเกิน
วันต่อมานุชนารถโยนกระเป๋าเสื้อผ้าชลลดาและภัททิมาโครมหน้าบันได ชลลดา ภัททิมาอึ้ง มณีก็แผดเสียงลั่น ชี้นิ้วไล่
“ออกไปจากบ้านชั้น นังพวกสิบแปดมงกุฎทั้งนั้น”
“สมรู้ร่วมคิดกันดีนัก ให้อยู่ต่อได้ซวยทั้งบ้านแน่”
ชลลดา ภัททิมาหน้าเสีย
“ชั้นโดนพวกนั้นจะฆ่า ถึงต้องหอบลูกหนีมาที่นี่”
“อุตส่าห์ช่วยเปิดโปง จะไล่อย่างกับหมูกับหมาแบบนี้ได้ไง”
เขมทัตเดินเข้ามา ชลลดามองทำหน้าสงสาร เขมทัตส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจกับเรื่องวุ่นวายในบ้าน ทำท่าจะเดินหนีไปไม่อยากสนใจ ชลลดาพูดตามหลัง
“เดี๋ยวซิคะพี่เขม ทำแบบนี้ไม่นึกถึงวิญญาณของพี่ยุทธเพื่อนรักพี่เลยใช่มั้ย เพราะช่วยพี่ สามีชั้นถึงต้องพิการตลอดชีวิต ลืมแล้วหรอไง”
เขมทัตอึ้ง หยุดเดินก้าวขาไม่ออก คิดถึงอดีต
ภาพในอดีต หน้าเคาน์เตอร์โรงแรมเล็กๆ เขมทัตตกใจยื่นถุงเงินให้โจรที่จ่อมีดมา พอโจรเผลอก็ปัดมือจนมีดหล่น สองคนต่อสู้กัน เขมทัตพลาดท่า โจรหยิบมีดจะเสียบเขมทัต ยงยุทธพุ่งเข้ามารับมีดแทน มีดปักคาที่ท้อง
ยงยุทธกุมมือไว้อย่างเจ็บปวด โจรรีบวิ่งหนีไป เขมทัตเข้ามาประคอง
“ยุทธ ทนหน่อยนะเพื่อน แกต้องไม่เป็นอะไร ชั้นจะพาไปโรงพยาบาล”
เขมทัตสบตาชลลดาแล้วบอกออกมาว่า
“พวกเธออยู่ที่นี่ต่อไปได้”
มณีชะงัก หน้าเครียด ชลลดายิ้มพอใจ ไหว้เขมทัตอย่างอ่อนหวาน ภัททิมาไหว้อย่างขอไปที
“ขอบคุณนะคะ ที่ไม่ลืมบุญคุณของพวกเรา” ชลลดาเชิดใส่นุชนารถกับช้อย “ขนของชั้นกับคุณลูกไก่ ขึ้นไปเก็บไว้อย่างเก่าด้วย แล้วต่อไปอย่าแส่กับของของชั้นอีก”
นุชนารถกับช้อยมองมณีที่นั่งเฉย ทั้งคู่เลยต้องหิ้วของตามชลลดากับภัททิมาที่เดินเชิดขึ้นชั้นบนไป เขมทัตหันมาทางมณีที่นั่งหงิกมาก
“ผมต้องทำ ถ้าวันนั้นยุทธไม่ช่วย วันนี้ผมคงไม่ได้มานั่งอยู่ที่นี่”
มณีฟังอย่างขมขื่น จำนนกับเหตุผล
ส่วนไข่มุกเมื่อกลับมาอยู่บ้านเธอก็มาช่วยวันดีขายส้มตำ ไข่มุกควงสากหมุมติ้ว เอาสากทุบโต๊ะ พริก กระเทียม มะนาวลอยขึ้นในอากาศ หล่นลงใส่ครกพอดี วันดีช่วยหยิบมะละกอใส่ครก เหยาะน้ำปลาเทน้ำตาลอย่างมันมือ หน้าตายิ้มแย้มลูกค้าอุดหนุนเพียบจนตักกันแทบไม่ทัน
ไข่มุกนั่งพักอย่างเหนื่อย วันดีปาดเหงื่อ นั่งนับเงินยิ้มร่า
“ได้นับเงินคล่องมือแบบนี้ค่อยหายเหนื่อยหน่อย ตั้งแต่เอ็งกลับมาของเกลี้ยงทุกวันเลยไอ้มุกเอ้ย”
ไข่มุกยิ้มเหนื่อยแต่ดีใจ
“ก็ชั้นบอกจะกลับมาช่วยแม่ตั้งหลายครั้งแล้ว แม่ก็ไม่ยอม”
วันดีนับเงินไปก็บ่นไป
“เป็นเมียเศรษฐีนั่งกินนอนกินไม่ชอบ อยากเหนื่อยแบบข้าทำไมเอ็งมาตั้งหลายวันแล้ว ผัวเอ็งไม่ตามหาเหรอวะ”
ไข่มุกนิ่ง เจ็บร้าวในใจ ทำลุกเก็บของ พูดอย่างตัดพ้อ
“ไม่ตามแล้วแม่ เขาไม่มาเสียเวลากับคนอย่างหนูหรอก”
“มีไรค่อยพูดจากันซิวะ ผัวเมียก็แบบนี้เบื่อๆ อยากๆ ดูข้ากะไอ้เม่น ตบตีกันแทบทุกวันก็ยังอยู่กันได้ แต่เอ็งมาแบบนี้ก็ดีเหมือนกันโว้ย ได้รวยเพราะขายส้มตำแน่”
วันดีหัวเราะชอบใจ นั่งนับเงินต่อ ไข่มุกหน้าเศร้ามองแม่อย่างขมขื่นใจ
ที่ฟิตเนสของโรงแรม ภัททิมาในชุดแอโรบิคสอนเต้น หลับตา ส่ายสะโพกไปมา ยกมือยกไม้ออกท่าทางอย่างเมามันส์ พอลืมตาเห็นลูกค้าที่มาเรียนเต้นยืนนิ่งมองเป็นตาเดียวก็หยุดเต้น
“ทำไมไม่เต้นตามละคะ แล้วเมื่อไรจะเต้นสวยแบบดิชั้น”
ลูกค้าอาซิ้มคนหนึ่งว่าให้
“ลื้อยึกยักแง็กๆ อยู่คนเดียว ใครจะไปตามทัน ซี้ซั้วเต้นแบบนี้ อั้วเอาตังไปเรียนแต่งหน้าดีกว่า”
ลูกค้าส่ายหน้าเดินออกจากห้องจนหมด ภัททิมาบ่นตามหลัง
“แก่จะตาย เต้นตามไม่ทันทำเป็นบ่น ไม่ได้เรื่องสักคน”
จินจูเดินเข้ามามองหาไข่มุก
“หนูลูกไก่หายไปไหน ชั้นมาหาหลายครั้งแล้วไม่เจอ”
ภัททิมายิ้มให้จินจูอย่างเอาใจ
“ถ้าสนใจเต้น เรียนกับหนูก็ได้คะ ต่อไปหนูจะสอนแทนเอง”
“ทำไมเธอต้องสอนแทนเขาด้วย”
ภัททิมายิ้มหัวเราะหยัน
“ใครๆ ก็รู้หมดแล้วว่าแม่นั้นเป็นพวกสิบแปดมงกุฎ หลอกคนเขาไปทั่ว สงสัยคุณยังไม่รู้”
จินจูอึ้งไม่เชื่อที่ภัททิมาพูด
จินจูคุยเรื่องนี่กับคธา คธาบอกอย่างไตร่ตรอง
“เท่าที่ผมรู้จัก คุณลูกไก่เป็นเด็กดี เรียบร้อย น่ารัก ไม่น่าใช่พวกหลอกลวง”
“เห็นด้วย ต้องมีเบื้องหลังอะไรแน่”
“งั้นผมจะลองสืบดู อาจได้ข่าวอะไรบ้าง”
“ได้เรื่องยังไงช่วยบอกด้วย ชั้นเป็นห่วงเขา”
“ดูคุณกับคุณลูกไก่ เข้ากันได้ดี”
“ไม่รู้ทำไม ชั้นถึงถูกชะตากับเด็กคนนี้มาก รู้สึกสนิทใจเหลือเกิน”
คธาพยักหน้ารับ
“แล้ว ธุระคุณที่นี่ถึงไหนแล้ว”
จินจูมองคธาตอบอย่างเสียไม่ได้
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก แทยอนกำลังช่วยดูอยู่ หวังว่าจะได้ข่าวดีเร็วๆ นี้ จะได้กลับเกาหลีสักที”
“คงเบื่อเมืองไทยเต็มทีแล้วซิ”
“เมืองไทยสวยงาม ผู้คนใจดี น่ารัก แต่คนไทยบางคน...”
คธาเสียงอ่อนลงอย่างนึกรู้
“จินจู”
จินจูสบตาคธา พูดเสียงเรียบ
“ไม่ควรเชื่อใจ เพราะชอบทำร้ายจิตใจคนอื่นอย่างเจ็บปวดที่สุด”
คธาอึ้งมองจินจูที่เดินจากไปอย่างเย็นชา
วัฒนาให้การต้อนรับทวยไทย กรรมการบอร์ดคนใหม่ที่เดินชมโรงแรมอย่างวางมาด ทั้งคู่มาหยุดคุยกันที่ห้องโถง
“ทางนี้เริ่มไปบริหารร่วมกับทางเกาหลีรึยัง”
“ยังครับ คงประมาณอีกสองเดือน รอเอกสารทุกอย่างให้เรียบร้อยไม่ต้องห่วงครับ คณะบริหารเราไม่ทำให้ผู้ถือหุ้นผิดหวังแน่”
“ก็ต้องเป็นแบบนั้น ลงเงินแล้ว ทุกคนก็ต้องการกำไรสูงสุด”
วัฒนายิ้มน้อมรับ มองไปเห็นเขมทัตกับคีรินทร์เดินเข้ามาหาก็แนะนำ
“ท่านประธานครับ คุณเขมทัต รองประธานฝ่ายบริหาร คุณคีรินทร์ คุณทวยไทยครับ กรรมการบอร์ดคนใหม่”
เขมทัตยิ้มจับมือกับทวยไทย
“คุณทวยไทย เศรษฐีนักสะสมหุ้นโรงแรม ที่นี่คงเข้าตาคุณหลายอย่าง ไม่งั้นคงไม่ไล่ซื้อหุ้นจนมีเป็นอันดับสามรองจากผมกับลูก”
“สะสมอะไร๊ มีแค่ 20 กว่าแห่งทั่วโลกเท่านั้น โรงแรมนี้จุดดีก็มาก จุดเสียก็เยอะ หลายอย่างยังต่ำกว่ามาตรฐานสากล”
เขมทัตยิ้มรับอย่างเสียไม่ได้
“งั้นคงต้องขอคำแนะนำด้วยนะครับ” คีรินทร์บอก ทวยไทยแสยะยิ้มมองคีรินทร์
“คุณคีรินทร์นี่หล่อสมกับเป็นเพลย์บอยระดับชาติ ได้ข่าวว่าสาวๆ แย่งตัวจนมาตบตีกันในโรงแรม ถ้าเป็นพนักงานทั่วไปคงโดนไล่ออกไปแล้ว” ทวยไทยมองเขมทัต “แต่คุณมีแบ็คแน่นบึ้กขนาดนี้ อย่าว่าแต่เรื่องผู้หญิง เรื่องงาน หลับตาบริหารก็ยังได้ จริงไหม”
ทวยไทยยิ้มหยันอย่างดูถูกความสามารถคีรินทร์ แล้วหันมองวัฒนาที่แอบยิ้มในใจ เขมทัตกับคีรินทร์ฟังหน้านิ่งเฉย
เขมทัตพาทวยไทยเข้ามานั่งโซฟาในห้องทำงาน คีรินทร์ วัฒนาตามมา
“การรวมทุนกับทางเกาหลีได้ เป็นฝีมือของคีรินทร์ คุณอาจสนุกอยู่กับการไล่ซื้อหุ้น จนลืมศึกษาว่าฝ่ายบริหารที่นี่ทำงานกันหนักขนาดไหน”
ทวยไทยยิ้มหัวเราะมองคีรินทร์
“ล้อเล่นนิดเดียว คุณพ่อออกรับแทนเลย ตอนนี้ผมได้เป็นกรรมการบอร์ดอีกคนแล้ว ก็จะคอยติดตามการทำงานของคุณคีรินทร์อย่างใกล้ชิดแน่นอน ต้องขยันหน่อยนะคุณคีรินทร์”
“แน่นอนครับ ยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะให้ตรวจสอบ”
“ดีมาก ผมชอบคนหนุ่มที่กล้าหาญแบบนี้” ทวยไทยมองเขมทัต “นับจากนี้ไป เห็นจะมีคุณเขมทัตคนเดียวที่มีหุ้นในโรงแรมนี้มากกว่าผม ใครจะไปรู้ ต่อไปคุณเขมทัตเหนื่อยขึ้นมา ผมอาจช่วยถือหุ้นใหญ่แทนคุณก็ได้ จริงไหมคุณวัฒนา”
ทวยไทยหัวเราะลั่น วัฒนาแอบยิ้มในใจ ลอบมองเขมทัตและคีรินทร์ที่นิ่งขรึมนึกไม่ถูกชะตากับทวยไทย
ที่กองถ่ายหนัง ทีมงานกำลังเตรียมงาน ไข่มุกเดินยิ้มเข้ามากอดกัสจังที่วุ่นจัดของอยู่ กัสจังเห็นไข่มุกก็ยิ้มดีใจมาก
“ต๊าย...ยัยไข่มด ชั้นคิดถึงหล่อนมาก ดูซูบไปนะยะ ตรอมใจผัวเป็นหมันหรือไง”
“หนูก็คิดถึงเจ๊จะแย่ ไม่ได้เล่นซะนาน คันไม้คันมือไปหมดแล้ว”
“เหมาะเลย เร็วเข้า ผู้กำกับยิ่งโหดอยู่ เอานี่ไป” กัสจังส่งม้วนทิชชู่ให้
“ชั้นไม่ได้ปวดฉี่ปวดอึนิ”
กัสจังมองที่หน้าอกไข่มุก
“ชั้นให้หล่อนเอาไปยัดเต้าไม่ได้เอายัดตูด เอาให้มันเด้งฉึ่งขึ้นมาหน่อย ผู้กำกับสั่งว่าเรื่องนี้นางเอกเป็นโรคปอดบวม ต้องถ่ายช่วงลำตัวเยอะ หล่อนต้องเข้าฉากแทน เดี๋ยวนมแฟ้บ นมบวมมันไม่ต่อเนื่อง เข้าใจ๋”
ไข่มุกหยิบเสื้อดูหน้าอกตัวเอง พยักหน้า
“เอาก็เอา เดี๋ยวยัดให้บวมเป็นแตงโมเลย” ไข่มุกบอกแล้วแบมือยิ้ม “งั้นขออีกม้วน”
กัสจังยื่นทิชชู่ให้อีกม้วน
“เร็วหน่อยนะยะ ห้องน้ำไกล ยัดนมหล่อนหลังฉากนั้นแหละ”
ไข่มุกเดินเข้าหลังฉาก เอากระดาษทิชชู่ยัดหน้าอก ขณะนั้นกีกี้เดินควงแขนกระหนุ๋งกระหนิงคีรินทร์เข้ามา
“รินทร์ขา รู้ไหมว่านังอดีตเมียปลอมจอมสะตอของคุณ เคยเป็นสตั้นแมนในกองถ่าย แต่ตอนนี้โดนเลิกจ้างไปแล้ว”
คีรินทร์ทำนึกออก
“ถึงว่า เก่งคิวบู๊ ที่แท้เป็นพวกตัวประกอบเล่นละครนี่เอง ผมพลาดจริงๆ”
“ลืมไปซะเถอะคะ ตอนนี้คนที่คุณต้องสนใจคือกีกี้คนเดียวเท่านั้น”
เด็กฉากสองคนเถียงกันเป็นภาษาอีสานเดินมาที่ฉากไข่มุกอยู่ด้านหลัง
“บอกให้ยกข้อยก็ยก ฉากมีหลายโพ้น ทำไมเป็นจัวซี่วะซั้น”
“ห่วย เอ็งหยิบผิดหยิบถูก ข้าบอกว่าฉากนี่ฉากนี่ เอ้า...ยกโลด...”
เด็กฉากช่วยกันเลื่อนฉากออก ขณะนั้นไข่มุกกำลังยัดทิชชู่หน้าอก ไข่มุกเงยหน้าขึ้นมาก็เจอคีรินทร์ที่หันมองพอดี ต่างคนก็ต่างอึ้ง ไข่มุกมือค้างยืดกระดาษทิชชู่ยาวติดมือ กีกี้ชี้หน้าแผดเสียงลั่น
“นังตัวดีจอมลวงโลกอยู่นี่เอง กำลังจะไปหลอกใครอีกหละ หนอย นั่นยัดนมเหรอ ดูมันสิคะรินทร์ ขนาดนมมันยังหลอกคนดูเลย มานี่ชั้นแฉแกเอง นังนมไข่ดาว”
กีกี้เข้าไปสาวทิชชู่ยาวออกมาจากหน้าอกไข่มุก ไข่มุกอึ้งทำอะไรไม่ถูก คนทั้งกองถ่ายมองเป็นตาเดียว คีรินทร์ก็มองเฉย ไข่มุกอายจนไม่รู้จะทำยังไง ทนไม่ไหวก็วิ่งหนีออกไป
กัสจังนับแบ็งค์ยี่สิบให้สี่ใบ อีกใบถือไว้ในมือ ไข่มุกหน้าเศร้ามองกัสจังอย่างเรียกความสงสาร
“เอาไปแปดสิบ หล่อนนี่จริงๆ เล้ย พอกลับมาก็เล่นซะวงแตก รอให้ข่าวฉาวเงียบก่อน ค่อยมาใหม่แล้วกัน”
ไข่มุกรีบฉกแบ็งค์ยี่สิบอีกใบที่กัสจังเม้นไว้
“ค่ารถร้อยหนึ่งไม่ใช่เหรอ เจ๊นะทำกันได้ คนยิ่งซวยๆ อยู่ ยังมาจิกอีก”
“แหมงกไปได้ เดี๋ยวนี้ข้าวแกงยายแม้นข้างกองถ่าย จานสี่สิบแล้วนะยะ หล่อนก็อย่าสร้างเรื่องเยอะนัก จะได้เรียกใช้กันบ่อยๆ”
ไข่มุกพยักหน้ารับ ยกมือไหว้แล้วเดินน้ำตาคลอไป กัสจังมองอย่างสงสาร
ไข่มุกหน้าเศร้าเดินมาจะข้ามไปป้ายรถเมล์ รถคีรินทร์แล่นมาเบรคอย่างแรงเกือบชน
“เอ้ย”
คีรินทร์มองหน้าไข่มุก โกรธจัด หัวเสีย บีบแตรไล่ยาว
“โธ่เว้ย”
ไข่มุกเดินเลี่ยงไป คีรินทร์ขับรถออกไปอย่างแรง ไข่มุกมองตามน้ำตาหยด
คืนนั้นที่หน้าห้องนอนคีรินทร์ ภัททิมาจะเปิดประตูเข้าห้องคีรินทร์ นุชนารถมาปัดมือออก ภัททิมาหันมองอย่างโกรธ
“ชั้นจะเข้าไปปลอบคุณรินทร์ แกเกี่ยวอะไรด้วย”
ภัททิมาจะเปิดประตูเข้าไปอีกครั้ง นุชนารถก็ปัดมืออีกที
“เข้าไม่ได้ คุณรินทร์ต้องการพักผ่อนไม่อยากให้ใครรบกวน”
“ถอยไปซิ คนจะเข้า ทำเป็นหมาหวงก้างไปได้ ก้างของตัวเองที่ไหน นังขี้ตู่”
“ยังไงชั้นก็ไม่ให้เข้า ชั้นต้องดูแลทุกคนในบ้านนี้ คุณไม่มีสิทธิอะไรในบ้านนี้ทั้งนั้น” นุชนารถเสียงเข้ม
“ดูแลเหรอ โธ่ เธอมันก็แค่ที่ระบายอารมณ์ของคุณรินทร์ เจียมกะลาหัวมั่ง ทำมาเสียงดัง ชั้นไม่ใช่อย่างนังไข่มุกนะยะ จะได้แหย ยอมให้ ชั้นเนี่ย คุณลูกไก่ตัวจริง เสียงจริงมาแล้ว เป็นว่าที่เมียเอกของคุณรินทร์ยะ พวกเมียก้อปปี้ ... ถอยไป”
นุชนารถผลักภัททิมาไปชิดผนัง แล้วบีบคอภัททิมาจนตาเหลือก ลิ้นแทบจุกปาก นุชนารถตาขวางใส่ เสียงเหี้ยม
“ตัวจริงตัวปลอมชั้นไม่สน แต่อย่ามายุ่งกับรินทร์ของชั้น”
ภัททิมาดิ้น เตะขานุชนารถ
“โอย...หายใจไม่ออก ปล่อยนะยัยบ้า คุณรินทร์ของแกที่ไหน”
“รินทร์เป็นของชั้นคนเดียว ผัวใครๆ ก็ห่วง ลองยุ่งชั้นเอาแกตายแน่”
นุชนารถเสียงแข็ง คีรินทร์เปิดประตูมามอง นุชนารถเห็นก็รีบปล่อยมือ ภัททิมากระแอมไอหนัก หายใจไม่ออก คีรินทร์เห็นก็ส่ายหน้าอย่างหน่ายแล้วเดินหนีไป
คีรินทร์จะเปิดประตูขึ้นรถ นุชนารถตามมากอดข้างหลัง พูดเสียงอ้อน
“จะไปไหน นุชไปด้วยคะ”
คีรินทร์แกะมือแต่นุชนารถยิ่งกอดแน่น
“อย่าเลย อยากไปขับรถเล่นคนเดียว”
“นุชเข้าใจความรู้สึกคุณดี คุณโดนมันหลอกล่อจนหลง แต่พอรู้ความจริงแล้ว ก็ถอนตัวถอนใจสิคะ จะไปเสียใจอะไรกัน”
“ขอบใจนะนุช แต่ตอนนี้ผมยังไม่อยากได้ความเห็นจากใคร ปล่อย”
คีรินทร์ดึงมือนุชนารถจนหลุด นุชนารถโมโหแผดเสียงลั่น
“พูดดีๆ คุณไม่เชื่อนุชใช่ไหม ก็ได้”
คีรินทร์จะก้าวขาขึ้นรถ มือนุชนารถที่ถือเข็มฉีดยาโผล่ออกมาแล้วปักเข้าที่ต้นแขนคีรินทร์อย่างจัง คีรินทร์หันขวับ นุชนารถดึงเข็มฉีดยาออก คีรินทร์กุมที่แขนโดนฉีดด้วยความเจ็บปวด
“โอ้ย นี่คุณทำอะไร นุช...คุณ...”
ภาพนุชนารถที่คีรินทร์เห็นค่อยๆ เบลอและจางลง ส่ายไปส่ายมาจนมืดสนิท
ห้องนั่งเล่นคอนโดคีรินทร์ นุชนารถนั่งลูบใบหน้าคีรินทร์ที่นอนบนโซฟาอย่างเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ ยิ้มมองเหมือนตัวเองได้ครอบครอง
“พักผ่อนเยอะๆ นะคะรินทร์ของนุช คุณอยากเป็นเด็กดื้อ ก็ต้องโดนแบบนี้ จะโกรธจะเกลียดนุชก็ได้ แต่ที่ทำไป ก็เพราะรักคุณมากจนยอมให้คนอื่นเอาไปไม่ได้”
นุชนารถจูบคีรินทร์ที่เริ่มสะลึมสะลือจะตื่น มองเห็นนุชนารถเบลอๆ แล้วก็หลับไปอีก นุชนารถซบไหล่คีรินทร์อย่างมีความสุข ยิ้มบ้างเศร้าบ้าง โรคจิตหน่อยๆ มือถือคีรินทร์ดัง นุชนารถหยิบดู หน้าจอเป็นรูปกีกี้ ปิดเครื่อง โยนทิ้งอย่างสะใจ
“ตามกันไปเถอะ ชาตินี้พวกแกไม่มีวันเจอผัวชั้นแน่”
นุชนารถซบไหล่คีรินทร์ ยิ้มอย่างเป็นสุข
วันต่อมาไข่มุกตำส้มตำมือเป็นระวิง ลูกค้ารุมล้อมรถเข็น วันดีก็วุ่นขายดีมากแทบไม่ได้เงยหน้ามองลูกค้า
“ตำไทยใส่ปูได้ยัง รอนานแล้วนะ”
ลูกค้าอีกคนหมั่นไส้หันไปด่า
“ชั้นมาก่อนนะยะ ปูปลาร้า 5 ถุงสั่งตั้งแต่เช้า ยืนเป็นตะคิวแล้ว”
“ได้จ้า ได้แล้ว ไม่ต้องตบตีกันนะจ๊ะ รับรองได้ทุกคน” วันดีหันมองไข่มุก “เร่งมือหน่อยสิวะไอ้มุก”
ไข่มุกยิ้ม แอ๊กท่าตำอย่างเมามันส์
“สบายแม่...เดี๋ยวเบิ้ลให้ ปูปลาร้า...แล้วก็...ตำไทยใช่ไหม”
ไข่มุกหยิบครกอีกใบมาตั้ง จับโน่นนี่ใส่ครก ถกแขนเสื้อ ควงสากหมุนติ้วทีเดียวสองมือ ตำรัวทีเดียวสองครกอย่างมันมือ ลูกค้าตบมือกันเกรียว วันดีมองยิ้มยักคิ้วให้ลูกค้าอย่างภูมิใจ
“เห็นยังลูกข้า สิบครกยังไหว”
ไข่มุกมองวันดียิ้มให้ ตำเสร็จตักใส่ถุงยื่นให้ ไม่ได้มองหน้าคนรับ ไข่มุกก้มหน้าพูด ง่วนหยิบโน่นนี่
“ได้แล้วจ้าตำไทยใส่ปู ของใครรับไปเลยคะ
เทศกิจจับแขนไข่มุกไว้ ยิ้มยียวน
“ไม่รับ แต่จะจับฮิ”
ไข่มุกชะงัก เงยหน้ามอง ตกใจ
“เฮ้ย ไม่ให้จับ หนูมีผัวแล้ว” ไข่มุกรั้งมือ เทศกิจฉุดไว้ ไข่มุกมองซ้ายขวา วันดีและลูกค้าหายกันไปหมดแล้ว
“อ้าวแม่ ทิ้งกันเฉย”
เทศกิจทำท่าจะเข็นรถไป
“ใครเร็วหนีได้ ใครช้าโดนจับฮิ”
ไข่มุกไม่รู้ทำไง ตกใจฉวยผัก พริก มะนาว เทใส่ตัวเทศกิจ เทศกิจปัดวุ่น ไข่มุกคว้ารถเข็นได้ เข็นทับขาเทศกิจ
เทศกิจเด้งจับขาร้องโอด
“โอย...ขาฮิ”
ไข่มุกเข็นรถกลับมาถาม หน้าเสีย
“โทษทีนะพี่ เจ็บมากป่าว” เทศกิจส่ายหน้า
“ไม่เยอะฮิ ไปเถอะ” ไข่มุกเข็นไปอีกที ครกที่อยู่บนรถเข็นกลิ้งลงมาใส่อีกขาของเทศกิจ เทศกิจร้องจ๊าก “โอย...ครกทับฮิ”
ไข่มุกเข็นรถหนีไปอย่างเร็ว
ไข่มุกเข็นรถหนี เจอรถติด หันกลับไปเจอเทศกิจวิ่งตามมาก็ดันรถเข็นขึ้นไหล่ทาง บนสะพานลอยๆ เตี้ย ไข่มุกมองอย่างเซ็ง
“งานนี้ เหนื่อยอีกแล้วเรา” พอเข็นมาหยุดกลางสะพานมองไปเห็นช่วงลง หันมองเทศกิจก็วิ่งเข้ามาใกล้ทุกที
“ไปก่อนนะพี่ ไม่มีตังเสียค่าปรับ”
ไข่มุกผลักรถเข็นให้ไหลลงเอง ส่วนตัวก็กระโดดตัวลอยขึ้นกระโปรงท้ายรถ วิ่งขึ้นหลังคาคันโน่นคันนี้อย่างคล่องแคล้ว แล้ววิ่งลงทันรถเข็นที่จะถึงถนนข้างล่างพอดี ไข่มุกยื่นมือไปจะคว้ารถเข็น แต่มีเทศกิจอีกคนโผล่มาอีกทางฉวยรถเข็นไปก่อน ไข่มุกหยุดแทบหัวทิ่ม หันมองหน้าเทศกิจ
“เฮ้ย มาได้ไงเนี่ย”
เทศกิจหันมายิ้ม ยักคิวให้
“นึกว่าจะรอดหรอคราวนี้ ไม่มีครั้งที่สองหรอกน้องสาว”
ไข่มุกหน้าเศร้า คราวนี้หนีไม่รอด
คีรินทร์ยังนอนอยู่บนโซฟา คีรินทร์ลืมตาขึ้นมาทุกอย่างรอบตัวดูเบลอและหมุนไปหมด คีรินทร์พยายามตั้งสติลุก แต่ยืนเซ นุชนารถเข้ามาประคอง
“ทำไมมันหมุนไปหมด ไม่มีแรงเลย นุช คุณทำอะไรกับผม”
นุชนารถยิ้มอย่างหมายมาด สบตาคีรินทร์แล้วพูดเสียงเย็น
“โธ่รินทร์ขา นุชจะทำอะไรรินทร์ ที่ทำไปเพื่อเราสองคนต่างหาก คราวนี้ เราจะได้อยู่ด้วยกัน ไม่มีมารตัวไหนมาแย่งคุณไปจากนุชได้อีกแล้ว” นุชนารถกอด คีรินทร์ผลัก แล้วก็ล้มลงไปที่โซฟาอีกครั้งอย่างไม่ได้สติ นุชนารถยิ้มเข้าไปกระซิบ “นอนเถอะคนดี นุชจะดูแลคุณเอง”
นุชนารถหยิบเข็มฉีดยาที่วางข้างโซฟา ชูขวดยาขึ้น ค่อยๆ ดูดยาเต็มหลอด หันมองคีรินทร์ยิ้มอย่างเยือกเย็น
ไข่มุกเข็นรถหน้าเศร้ากลับมาถึงหน้าบ้าน วันดีนั่งพักอย่างเหนื่อยใจ
“เซ็งจริงจิ๊ง กำลังไปได้สวย มาโดนเล่นซะอีกแล้ว”
“แถวนี้คงขายยากแล้วแม่ จับวันเว้นวันแบบนี้ ไปหาที่อื่นขายเถอะ”
วันดีหงุดหงิดหัวเสีย
“ที่อื่นมันก็มีเจ้าที่เจ้าทางแล้วทั้งนั้น เซ่อซ่าไป ได้โดนมันเอาตาย เอ็งมันโง่มีผัวรวยไม่ยอมเกาะให้แน่น ข้าว่ากลับไปง้อมันดีกว่า ผู้ชายนะ เราไปออดอ้อน ออเซาะเดี๋ยวมันก็ใจอ่อน ผัวเมียกัน พูดไม่ยากหรอก”
ไข่มุกมองวันดีอย่างขมขื่นใจ
“ถึงขนาดนี้แล้ว จะหน้าไม่อายไปพูดอะไรกับเขาอีก”
วันดีแว๊ดใส่
“แต่มันได้เอ็งไปแล้ว ก็ต้องผิดชอบซิวะ ไม่ใช่ให้มันกินฟรีแบบนี้ใจบุญไปรึเปล่ายะ”
ไข่มุกนิ่งหน้าเศร้า
มายาสีมุก ตอนที่ 7 (ต่อ)
ไข่มุกแอบอยู่นอกรั้วบ้านคีรินทร์ มองเข้าไปในบ้านไม่เห็นรถจอด
“สงสัยจะไม่อยู่” รถกีกี้แล่นเข้ามาอย่างเร็ว ไข่มุกรีบหลบแทบไม่ทัน มองตามหลังรถกีกี้ “ไม่น่ามาเล้ย”
ไข่มุกชะเง้อมองอีกรอบ ไม่เห็นช้อยที่ซ้อนมอเตอร์ไซด์กลับมาจากตลาด ช้อยมองเห็นไข่มุกตกใจ รีบปิดประตูเข้าบ้าน
ที่ห้องรับแขกบ้านคีรินทร์ กีกี้โวยอย่างหงุดหงิดกับมณี ชลลดากับภัททิมาฟังแล้วยิ้มเยาะ
“ไม่ได้กลับบ้านหรอคะ โทรเป็นสิบหน รินทร์ก็ปิดสายไม่ยอมรับ”
“แม่ก็กลุ้มใจเหมือนกัน ยังติดต่อไม่ได้”
ชลลดาที่นั่งฟังอยู่ก็ใส่กีกี้
“เขาคงเบื่อเธอมั้ง เลยปิดเครื่องขี้เกียจรับ”
“เดี๋ยวสบายใจเขาก็กลับเอง ไม่เห็นต้องวิ่งแจ้น รนรานมาถึงนี่”
เขมทัตกลับมาพอดี
“รินทร์เป็นอะไร วันนี้ไม่ไปทำงาน ติดต่อก็ไม่ได้”
“อ้าว คุณก็ติดต่อไม่ได้เหรอคะ”
เขมทัตพยักหน้า
“วันนี้มีประชุม โทรตามทั้งวันก็ไม่ได้ ปรกติลูกไม่เคยเป็นอย่างนี้”
ช้อยวิ่งหน้าตื่นเข้ามา
“คุณนายขา ช้อยเห็น...”
“คุณรินทร์กลับมาแล้วหรอ” ช้อยส่ายหน้า
“ไม่ใช่คะ ช้อยเห็นคุณ เอ๊ย นังไข่มุก มาด้อมๆ มองๆ หน้าบ้านเรา”
มณีตกใจแว๊ดลั่น
“มันกลับมาทำไมอีกเนี่ย”
“หรือว่าจะมาดูลาดเลา เป็นสายให้โจร”
ชลลดา ภัททิมา อึ้งมองหน้ากัน มณีชักเอะใจว่าเกิดอะไรขึ้นรึเปล่า แล้วเฉลียวใจ
“รู้แล้วว่าใครเอาตัวคีรินทร์ไป” มณีหันถามช้อย “มันยังอยู่หน้าบ้านใช่ไหม”
ช้อยพยักหน้ารับ มณีถอนใจแรงๆ หน้าเหี้ยมขึ้นมาทันที
ที่คอนโดคีรินทร์ นุชนารถฉีดยาเข้าเส้น คีรินทร์ขยับตัวนิดหน่อยอย่างรู้สึกเจ็บ แต่ก็ยังหลับต่อไป นุชนารถจูบที่แก้มคีรินทร์อย่างรักใคร่ แววตาขวาง โรคจิตมากขึ้น
“หลับให้สบายนะคะรินทร์ เดี๋ยวนุชมา คุณเป็นเด็กที่ดื้อและซนมาก ถ้าไม่ทำแบบนี้ กลับมาคงไม่เจอคุณแน่”
นุชนารถห่มผ้าให้คีรินทร์ ยิ้มมีความสุข
ช้อยลากตัวไข่มุกที่หน้าจ๋อยเข้ามาในห้องรับแขกแล้วผลักให้นั่งกับพื้นกลางวง มณีเดินเข้ามาหาเขมทัต ชลลดา ภัททิมา กีกี้ นั่งมองมาอย่างกดดัน มณีคาดคั้น
“นี่ถ้าไม่ลากตัวเข้ามา มีหวังได้พาโจรมาปล้นบ้านชั้นแน่ แกเอาลูกชายชั้นไปไว้ไหน บอกมาเดี๋ยวนี้นะ”
ไข่มุกอึ้งตกใจ
“คุณคีรินทร์ไม่ได้อยู่บ้านเหรอคะ”
“แกจะสะตอหน้าใสไปถึงไหน คงแค้นรินทร์ละซิที่โดนไล่ออกจากบ้าน กะกลับมาขู่เรียกเงินพวกเราใช่มั้ย”
ไข่มุกมองชลลดา
“ไล่แล้วไม่รู้จักไป ไอ้พวกนักเลงใช้ให้มาทำอะไรอีก”
มณีเริ่มร้อนใจหันมองเขมทัต
“เรื่องมันชักจะไปกันใหญ่แล้วนะคุณ แจ้งตำรวจให้ลากคอมันดีกว่า”
“ตำรวจรู้กลายเป็นเรื่องใหญ่แน่ ค่อยๆ คิด ใจเย็นก่อน” เขมทัตมองไข่มุก “ว่าแต่เธอรู้ไหมว่าคีรินทร์เขาหายไปไหน”
ไข่มุกส่ายหน้าปฎิเสธ
“ไม่คะ หนูไม่รู้เรื่องอะไรเลย คุณคีรินทร์ไม่ได้อยู่กับหนู”
“ไม่ได้อยู่กับเธอแล้วจะอยู่กับใคร”
นุชนารถเดินเข้ามาในห้องเห็นไข่มุกก็จ้องมองอย่างสงสัย มณีก็ทัก
“ญาติเธอเป็นไงบ้างละนุช หายดียัง”
“นุชต้องรีบพาเขากลับบ้านที่ต่างจังหวัดคะ จะขอลาไปวันนี้เลย”
“อ้าว แล้วใครจะดูหนูนา”
ที่ห้องรัตนา นุชนารถพับเสื้อผ้าเก็บของไปหมด รัตนามองอย่างสงสัย นุชนารถเปรยกับรัตนาเรื่องไข่มุก
“แม่นั่นหน้าด้านหน้าทนจริง ไม่รู้กลับมาทำไม”
“คุณแม่สงสัยว่าพี่รินทร์ไปอยู่กับพี่ลูกไก่ เอ๊ย พี่ไข่มุก เลยเอาตัวมาถาม” นุชนารถแอบยิ้มเยาะ “พี่นุชจะไปกี่วัน ทำไมเอาของไปหมดเลยละคะ”
นุชนารถยิ้มเยาะอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม
“ไปไม่กี่วันหรอกหนูนา หรือว่าอาจไม่กลับมาดี”
“ไปแบบนี้หนูนาก็คิดถึงแย่ซิ รีบกลับมานะ”
นุชนารถมองรัตนา พูดเน้นเสียง
“ถ้าพี่กลับ ก็จะไม่กลับมาในสภาพนี้”
รัตนางง ไม่เข้าใจที่นุชนารถพูด
ไข่มุกโดนช้อยและกีกี้ลากตัวออกมาถึงหน้าห้องน้ำรับแขก ทุกคนเดินตามมาด้วยอย่างคาดคั้น มณีฟึดฟัดใส่เขมทัต
“จับมันยัดไว้ห้องน้ำ คุณจะเอาไงแล้วค่อยบอกชั้น”
“ค่อยพูดจากันก็ได้ ขังเป็นหมาเป็นแมว”
“แล้วถ้ามันหนีทำไง นังนี่ไวยิ่งกว่าปรอท”
ช้อยดันไข่มุกให้เข้าไปในห้องน้ำ แต่ไข่มุกดิ้นไม่ยอม
“ปล่อยนะ หนูไม่รู้เรื่องคุณคีรินทร์จริงๆ”
กีกี้เห็นไข่มุกจะดิ้นหลุดรีบช่วยช้อย
“ขังให้หิวตายอยู่ในนี่ รับรองรู้แน่ว่าคีรินทร์อยู่ไหน”
ชลลดา ภัททิมา มองไข่มุกอย่างไม่คิดจะช่วย นุชนารถเดินหิ้วกระเป๋าลงมาจากข้างบน มองไข่มุกที่โดนรุมอย่างสะใจ ยิ้มเยาะหยัน เขมทัตเดินเข้าไปพูดน้ำเสียงจริงจังกับไข่มุก
“ลูกชั้นไม่เคยมีเรื่องกับใคร จะมีก็กับเธอเป็นคนแรก ถ้ารู้อะไรขอให้บอก ชั้นจะไม่เอาเรื่อง”
ไข่มุกนึกห่วงคีรินทร์ กำลังจะเอ่ยปากพูดต่อ แต่ชลลดาจับไข่มุกยัดห้องน้ำแล้วล็อคกลอน ไข่มุกทุบประตูลั่น
“ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ ปล่อย”
ชลลดายิ้มสาแก่ใจ
“เดี๋ยวชลกับลูกจะเฝ้าเองคะ จะเค้นให้รับให้ได้ ไม่รับจะเอาไฟช็อต”
ไข่มุกหูแนบประตูฟังก็ตาตั้ง อย่างเจ็บใจ กำหมัดทุบประตู
“คุณผู้หญิงนะคุณผู้หญิง ทำกันได้”
รัตนาที่แอบอยู่หลังเสา มองไข่มุกอย่างเป็นห่วง
คีรินทร์เริ่มได้สติมองไปรอบๆ ไม่เห็นใคร แต่ภาพยังเบลอและอ่อนแรงมาก คีรินทร์จะลุกแต่ล้ม จึงค่อยๆ คลานมาอย่างทุกลักทุเล ลุกเดินได้บ้าง ล้มบ้าง จนมาถึงประตู พยายามเปิดอย่างลำบาก แต่ก็เปิดจนได้ ประตูเปิดออก คีรินทร์ยิ่งดีมีกำลังใจจะหนี แต่ชะงักเมื่อเห็นขานุชนารถมายืนขวางตรงหน้า คีรินทร์เงยหน้ามองเห็นนุชนารถจ้องมาตาขวางใส่ คีรินทร์ทรุดทรงตัวไม่ไหว นุชนารถเข้ามาประคอง พูดอย่างเยือกเย็น
“รินทร์จะไปไหนคะ คิดถึงนุชจนจะออกมาตามเองเลยหรอ แรงเยอะจริงนะคุณเนี่ย สองเข็มท่าจะเอาไม่อยู่”
คีรินทร์ตาปรือ พูดออแอ้ไม่รู้เรื่อง
ชลลดาเอาเก้าอี้มาตั้งขวางประตูห้องน้ำ นั่งเฝ้าไข่มุกไว้ หาวทำท่าจะหลับ เห็นภัททิมาเดินมาก็เรียก
“หนังท้องตึงหนังตาเริ่มหย่อน มาเฝ้าแทนแม่หน่อยซิ ของีบก่อน”
ภัททิมาทำหน้าบึ้งแต่ก็มานั่งเฝ้าแทนแม่ ภัททิมานั่งไปก็หลับสัปหงก รถเข็นไฟฟ้าค่อยๆ เคลื่อนเข้ามา
รัตนาเคลื่อนรถดันเก้าอี้ที่ภัททิมานั่ง โยกตัวดันจนเก้าอี้ขยับ ขาเก้าอี้ครูดไปกับพื้น
“อึ้ย...อีกนิด”
ภัททิมาเด้งไปเด้งมา สะลืมสะลือจะตื่น รัตนาก็หยุดรถ อ้าปากค้าง ภัททิมาก็หลับอีกที ยิ้มพริ้ม ละเมอตัวงอไปงอมา
“คุณรินทร์นี่ขี้เล่นจัง จั๊กจี้นะคะ อย่าซิ”
รัตนาแอบหัวเราะ ภัททิมาสับปะโหงกอีกที รัตนาก็เคลื่อนรถดันอีกครั้งจนเก้าอี้พ้นประตูห้องน้ำ รัตนาถอนหายใจอย่างโล่งอก รีบปลดกลอนเปิดประตู ไข่มุกนั่งกับพื้นห้องน้ำ รีบลุกขึ้น เห็นรัตนายิ้มให้ก็ยิ้มตอบอย่างดีใจ
“หนูนา”
ไข่มุกหันรีหันขวางกลัวใครจะมาเห็น จับมือรัตนาอย่างซึ้งที่มาช่วยไว้
“ขอบใจหนูนามากนะคะ พี่นึกว่าจะแย่แล้ว”
รัตนามองหน้าไข่มุกลังเลแล้วก็ถาม
“พี่ก็เคยช่วยหนูนาไว้ แต่ว่ามันเป็นเรื่องจริงเหรอคะที่คุณแม่แล้วใครๆ ก็บอกว่าพี่เป็นพวกต้มตุ๋น”
ไข่มุกลูบหัวรัตนามองอย่างรักใคร่
“พี่ไม่เคยโกหกใคร แต่ที่ต้องมาอยู่บ้านนี้เพราะเลี่ยงไม่ได้ สักวันทุกคนจะรู้ความจริง” รัตนาทำหน้าเศร้า
“ใครๆ ก็ไปจากหนูนา พี่นุชก็บอกจะไม่กลับ เก็บของไปหมดแล้ว แถมพูดงงๆ ว่า ถ้ากลับจะไม่มาในสภาพนี้ ส่วนพี่รินทร์ก็หายตัวไปอีก”
ไข่มุกฟังอย่างสงสัย
“แอบไปอยู่กับสาวๆ ที่คอนโดมั้ง” ไข่มุกนึกเฉลียวใจ “เออใช่ หรืออยู่ที่คอนโด พี่ต้องรีบไปแล้ว ดูแลตัวเองดีๆ นะคะ”
“แล้วพี่จะกลับมาบ้านอีกมั้ย”
ไข่มุกกอดรัตนา พูดไม่ออก แล้วรีบหนีไป รัตนามองตามหน้าเศร้า
ไข่มุกลงรถเมล์มา มองซ้ายขวาแล้วนิ่งคิดถึงคำพูดคีรินทร์ที่เคยคุยให้เธอฟัง
“ชั้นมีคอนโดไว้สามแห่ง เพราะคิวสาวๆ เยอะจัด ที่เดียวรองรับไม่ทันไม่งั้นรถไฟชนกันแน่”
คีรินทร์หัวเราะชอบใจ ไข่มุกฟังอย่างนึกหมั่นไส้
ไข่มุกเดินมาหยุดหน้าคอนโด มองไปที่ตัวคอนโดอย่างมีความหวังว่าคีรินทร์จะอยู่ที่นี่ แต่จะเข้าก็ไม่ได้เพราะไม่มีคีย์การ์ด จึงคิดจะสวมรอยเข้าไปกับคนอื่นแต่เห็นรปภ.ขยับมองมา เลยต้องเดินออกห่าง ไม่กล้าเข้าไปด้านใน
นุชนารถออกมาจากห้อง ล็อคห้องเรียบร้อย เดินยิ้มเข้าลิฟต์ไปอย่างสบายใจ
ขณะนั้นไข่มุกดักรออยู่หน้าคอนโดคีรินทร์อีกแห่ง มองไปข้างในแล้วนั่งคอยอย่างอดทน นุชนารถออกจากลิฟต์เดินมาบริเวณล็อบบี้ แล้วเปิดประตูคอนโดออกไป แต่ไม่มีใครมาดักรอ
ไข่มุกดักอยู่ที่คอนโดอีกแห่ง มองนาฬิกาเพราะรอมานาน แต่ไม่เห็นนุชนารถ
“ไม่มีวี่แววเลย สงสัยคุณไม่ได้อยู่ที่นี่” ไข่มุกหยิบเศษกระดาษที่จดชื่อคอนโดทั้งสามแห่งขึ้นมาดูอย่างครุ่นคิด
“เหลืออีกสองแห่ง คุณต้องอยู่ซักที่ซิน่า”
ไข่มุกมีสีหน้ากังวลเป็นห่วงคีรินทร์ เดินจากไปหาคอนโดที่อื่น
ไข่มุกเดินมาหยุดที่หน้าคอนโด ด้อมๆ มองๆ ด้านนอก เห็นนุชนารถถือของกดคีการ์ดเปิดประตูเข้าไป ไข่มุกมองอย่างแปลกใจ รีบตามแต่ประตูปิด ไม่รู้จะทำยังไง พอดีมีคนออกมา ไข่มุกทำยิ้มหวานแล้วรีบเข้าไปก่อนประตูจะปิด ไข่มุกหลบที่เสาซุ่มมองเห็นนุชนารถรอลิฟต์
“ไหนว่าญาติป่วย มาอยู่ที่นี่ได้ไง หรือมาอยู่กับ...” นุชนารถขึ้นลิฟต์ไป ไข่มุกออกมาจากข้างเสา คิดไม่ตก “แปลกจัง แล้วทำไมคุณรินทร์ไม่ติดต่อกลับที่บ้าน”
ไข่มุกโผล่หน้าจากมุมตึก มองหน้าห้องคีรินทร์เห็นปิดเงียบ มองหาที่หลบเพื่อจะแอบดูเห็นมีห้องที่เก็บถังขยะ ก็เข้าไปแล้วเปิดแง้มประตูไว้ เพื่อคอยดูความเคลื่อนไหว
มณีโวยวายอย่างโมโหเมื่อรู้ว่าไข่มุกหนีไป
“ไหนบอกจะดูมันให้ดี ปล่อยหลุดไปได้ไง เรื่องแค่นี้ยังไม่มีปัญญาทำ”
ภัททิมาหน้าจ๋อย มองชลลดา
“เผลองีบไปจิ๊ดเดี๋ยว หายไปได้ไง ต้องมีใครมาช่วยมันแน่” ภัททิมามองรัตนา “หนูนา ใช่ไหม”
รัตนาส่ายหน้าหลบข้างเขมทัต
“หนูนาจะทำอย่างงั้นได้ยังไง จะไปไหนยังต้องนั่งรถเข็น”
“มันอาจปีนหน้าต่างหนีไปก็ได้ ใครจะไปรู้ นังไข่มุกมันปีนป่ายอะไรเก่งจะตาย ไม่งั้นจะเป็นตัวประกอบเล่นละครบู๊ได้เหรอ ถ้ามันกลับมาอีก คราวนี้ชลกับลูกไก่จะจัดการให้เองคะ จะเอามันให้เดี้ยงเลย”
เขมทัตส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ รัตนาแอบยิ้มดีใจช่วยไข่มุกได้
ในห้องขยะไข่มุกรอจนเคลิ้มหลับ ไข่มุกได้ยินเสียงปิดประตูก็สะดุ้งตื่น รีบแง้มประตูดูแต่เป็นห้องอื่น ไข่มุกถอนใจชักหมดหวังจะได้เบาะแส พอดีนุชนารถเปิดประตูออกมา ไข่มุกรีบมอง เห็นนุชนารถลงลิฟต์ไป ไข่มุกรีบตามไปกดลิฟต์อีกตัว
นุชนารถเดินออกมาหน้าคอนโด โดยไม่รู้ว่าไข่มุกแอบสะกดรอยตามมาห่าง นุชนารถเดินมาหยุดหน้าร้านอาหารตามสั่ง
“ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่สองกล่อง”
ไข่มุกที่นั่งเอาหนังสือพิมพ์ปิดหน้าอยู่ที่โต๊ะไม่ห่างที่นุชนารถยืน ค่อยแง้มหนังสือพิมพ์มอง
“อยู่คนเดียว ทำไมสั่งสองกล่อง หรือว่า...”
คีรินทร์ได้สติ ลุกนั่งที่โซฟาแต่ขยับตัวลำบาก สีหน้าซีด ไม่มีแรง นุชนารถนั่งปลอกผลไม้มองคีรินทร์แล้วยิ้มให้
“ตื่นแล้วเหรอคะ หิวไหม นุชซื้อก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่มาให้”
คีรินทร์มองนุชนารถตั้งสติถาม
“ทำไมผมไม่มีแรงเลย ผมเป็นอะไร คุณฉีดยาอะไรให้ผม”
“ถ้าไม่ทำแบบนี้ คงเอาคุณไว้ไม่อยู่ ก็ต้องทำให้คุณช้าลง คุณทำตามที่นุชบอกเท่านั้นพอคะ แล้วเราสองคนก็จะสบายใช้ชีวิตอย่างความสุข แต่ก่อนอื่นเราต้องจดทะเบียนกันก่อน” คีรินทร์อึ้ง
“อะไรนะ คุณทำกับผมเพราะเรื่องนี้เหรอ เราเป็นแบบเดิมก็ดีอยู่แล้วไม่เห็นต้องพาผมมาแบบนี้”
นุชนารถทิ่มมีดลงแอปเปิ้ลอย่างโมโห ปัดจานผลไม้หล่นพื้น
“ไม่ได้คะ ถ้าอยู่บ้าน คุณก็ร่อนไปทั่วอีก กว่านางนั้นจะพ้นไปได้ก็สาหัสแล้ว ต่อไปนุชจะไม่ยอมใครอีก คุณได้นุชแล้วก็ต้องดูแลให้ออกหน้า ไม่ใช่เลี้ยงนุชเป็นเมียเก็บกิ๊กเก่าไปตลอดชีวิตแบบนี้”
คีรินทร์จนแต้มจนต้องเสียงอ่อย
“พาผมกลับบ้านก่อน แล้วเราค่อยว่ากัน”
นุชนารถดึงมีดจากแอปเปิ้ล ฟันจนแอปเปิ้ลขาดสองท่อน
“อยากกลับก็ได้ แต่ก่อนกลับเราแวะจดทะเบียนกันก่อน ขืนปล่อยกลับคุณไม่ยอมจดกับนุชแน่ คนที่ไม่เคยแคร์ผู้หญิงอย่างคุณต้องเจอยาแรงแบบนี้” นุชนารถถือมีดขู่ “ตกลงจะจดหรือไม่จดคะ”
คีรินทร์พยายามจะยกมือห้ามให้ใจเย็นๆ แต่ก็ขยับตัวลำบาก
“ใจเย็นซินุช ผมอึดอัดจัง อยากออกไปสูดอากาศข้างนอก ช่วยพาไปหน่อย”
นุชนารถวางมีดยิ้มอย่างโรคจิต
“ข้างนอกมีแต่อากาศเป็นพิษ อย่าออกไปเลย เรามานอนเล่นกันดีกว่า คุณชอบนอนเล่นกับผู้หญิงไม่ใช่หรอคะรินทร์”
นุชนารถเข้าไปกอดคีรินทร์ โน้มตัวให้นอน คีรินทร์พยายามแข็งขืนแต่ก็ไม่มีแรงพอ
ไข่มุกหลบอยู่ในห้องเก็บขยะ เปิดประตูแง้มไว้ ได้ยินเสียงประตูปิดก็แอบดู เห็นนุชนารถเดินถือถุงขยะตรงมา ก็ตกใจรีบปิดประตู
“ซวยแล้วไอ้มุก”
ไข่มุกเอามืออุดจมูกอย่างเหม็น มองซ้ายขวาเห็นหน้าต่างก็ยิ้มว่ารอด นุชนารถเดินตรงมาที่ห้องขยะ เสียงรองเท้านุชนารถดังก้อง ไข่มุกปีนหน้าต่าง พอเขย่งก็เหยียบพลาด ลื่นเปลือกกล้วยล้มก้นกระแทกอย่างเจ็บ ไข่มุกรีบลุกลูบก้นสีหน้าเจ็บปวด
“อูย”
นุชนารถเปิดประตูห้องขยะเข้ามา ไข่มุกกระโดดพุ่งออกหน้าต่างอย่างเฉียดฉิว นุชนารถมองไปเหมือนเห็นอะไรแว๊บๆ มองไปทั่วไม่เห็นใคร
ขณะนั้นไข่มุกยืนเกาะกำแพงบนกันสาด กลัวจะตก นุชนารถทิ้งขยะแล้วเดินออกกลับห้องอย่างเริ่มระแวง
ไข่มุกปีนกลับเข้ามา รีบแง้มประตูมองไป จังหวะที่นุชนารถเปิดประตูก็เห็นคีรินทร์บนโซฟา ไข่มุกมองตาโต เมื่อเห็นคีรินทร์ทำท่าจะตกโซฟา ไม่ค่อยมีสติ
แทยอนเช็คเอ้าท์ที่แผนกต้อนรับโรงแรมเสร็จก็เดินมาหาจินจูที่ยืนรออยู่ แทยอนมีสีหน้าเรียบขรึม
“หนังเรื่องใหม่มีปัญหา ต้องกลับไปจัดการ”
จินจูยิ้มให้อย่างเข้าใจ
“ชั้นเข้าใจ ไปเถอะคะ เท่าที่พี่อยู่เป็นเพื่อนก็ซึ้งใจมากแล้ว” แทยอนทำท่าลังเล
“กลับพร้อมกันเถอะจินจู เธออยู่ทางนี้คนเดี๋ยวชั้นอดหวงไม่ได้ หมดงานทางโน่นเราก็มาเมืองไทยใหม่ได้อีก”
จินจูตอบสีหน้าเรียบแต่มุ่งมั่น
“อย่าห่วงเลยคะ ชั้นอยู่ได้ และตั้งใจไว้แล้ว ถ้าไม่ได้ตัวยองแอจะไม่ไปจากประเทศนี้”
แทยองมองจินจูอย่างเข้าใจแต่ก็อดห่วงไม่ได้
ไข่มุกยืนอยู่หน้าประตูห้องคีรินทร์ ครุ่นคิดว่าจะเข้าห้องได้ยังไงดี แล้วไข่มุกก็ยิ้มนึกออก ทำเลียนเสียงผู้ชาย เคาะที่ประตู
“โอย ไฟไหม้ หนีเร็ว”
นุชนารถหันมองที่ประตู รีบวิ่งมาเปิดก็ไม่เห็นมีใคร แง้มประตูไว้ แล้วเดินห่างประตูห้องมาอีกด้านดูว่าไฟไหม้ที่ไหน ไข่มุกที่แอบอยู่อีกด้าน รีบวิ่งอย่างเร็วเข้าไปในห้องเห็นคีรินทร์นั่งตาปรือดูสะลึมสะลือที่โซฟาก็ตกใจ เข้าไปใกล้
“ทำไมคุณเป็นแบบนี้ รู้สึกตัวไหมคุณรินทร์ คุณเป็นอะไร ลืมตาสิคะ คุณรินทร์”
ไข่มุกได้ยินเสียงฝีเท้านุชนารถเดินกลับมาก็ตกใจรีบวิ่งไปหลบในครัว นุชนารถเปิดประตูเข้ามาอย่างหัวเสีย
“ไอ้พวกโรคจิต ชอบทำให้ชาวบ้านเขาเดือดร้อน”
นุชนารถเดินกลับมาหาคีรินทร์ แต่ได้ยินเสียงก๊อกแก๊กในครัวก็หยุดนิ่งฟัง นุชนารถหันไปมองทางห้องครัว ขมวดคิ้วมองอย่างเอะใจ
นุชนารถค่อยๆ ย่องฝีเท้าเข้ามาในห้องครัว มองไปรอบๆ ไม่เห็นอะไรผิดปกติแต่อดระแวงไม่ได้ เดินไปที่ลิ้นชัก หยิบมีดมาถือไว้อย่างป้องกันตัว มองไปเห็นตู้บานหนึ่งเปิดแง้มไว้ก็จ้องตาลุก พูดเสียงเหี้ยมข่ม
“แกเป็นใคร ออกมาเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นชั้นเอาตายแน่”
ไม่มีเสียงตอบ นุชนารถค่อยๆ ย่องเดินเข้าไปหยุดยืนหน้าตู้อย่างชั่งใจ มือหนึ่งถือมีด อีกมือเปิดประตูตู้ผลั๊ว
เห็นแต่จานชามของใช้ในตู้ ก็มองอย่างผิดหวัง ปิดตู้แล้วมองไปทั่วห้องอีกครั้ง ค่อยเดินถอยหลังออกไปอย่างไม่วางใจ
ที่เพดาน ฝ้าอันหนึ่งค่อยๆ ขยับแง้มเปิดนิดหนึ่ง หน้าไข่มุกโผงกหัวออกมามองตามนุชนารถ ที่เดินออกไป ไข่มุกถอนหายใจอย่างโล่ง ค่อยปิดฝ้าเหมือนเดิม
กลางดึกคืนนั้น ไฟห้องครัวถูกปิดเห็นเพียงแสงพอสลัว ไข่มุกเห็นทุกอย่างเงียบก็ค่อยๆ เลื่อนฝ้าออก หย่อนตัวลงมา พอถึงพื้นก็งอตัวกับพื้นมองไปรอบๆ อย่างระวัง เดินไปที่ห้องนั่งเล่น
ไข่มุกย่องฝ่าความสลัวที่พอมองเห็นมาในห้องนั่งเล่น เห็นคีรินทร์นอนที่โซฟา พยายามปลุกให้ตื่น พอเขย่าตัวคีรินทร์ก็ลืมตามองเห็นภาพไข่มุกเบลอๆ ไข่มุกกระซิบพอคีรินทร์ได้ยิน
“คุณเป็นอะไร ไม่สบายหรือเปล่า ทำไมเขาไม่พาคุณไปหาหมอมาให้นอนแบบนี้ได้ไง ทุกคนเป็นห่วงคุณมากนะ”
คีรินทร์พอได้สติ เห็นไข่มุกเริ่มชัดขึ้นก็ลุกนั่งแต่ตัวเอนไปมา พูดเสียงออแอ้แต่ดังขึ้น
“เธอ...ลูกไก่...เอ้ย...ไข่มุก...มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
ไข่มุกทำจุ๊ปากให้เบา
“เบาๆ ซิ เดี๋ยวเขาก็ได้ยินหรอก ก็มาตามคุณนั่นแหละ”
เพราะฤทธิ์ยา คีรินทร์ไม่แน่ใจว่าละเมอหรือเรื่องจริงที่เห็นไข่มุก จึงพูดเบลอๆ โวยวาย เสียงยิ่งดังขึ้น
“เธอมันคนหลอกลวง กลับมาทำไม อย่ามายุ่งกับชั้น”
ไข่มุกมองคีรินทร์อย่างน้อยใจ เห็นไฟในห้องนอนเปิดสว่างขึ้นก็หันไปมองอย่างตกใจ นุชนารถหงุดหงิดเดินออกมาดู ไข่มุกรีบหลบข้างตู้โชว์ของ
“โวยวายอะไรอีกละคะรินทร์ แรงเยอะจริงนะคุณเนี่ย”
คีรินทร์มองตามไข่มุกว่าหายไปไหน
“ลูกไก่ ลูกไก่ หายไปไหนแล้ว”
นุชนารถหึงขึ้นมาทันที
“ตัวเองเอาไม่รอดอยู่แล้ว ยังเพ้อถึงนังนั่นอีก เดี๋ยวนุชช่วยให้หายเพ้อเอง”
นุชนารถคว้าเข็มฉีดยาที่เตรียมไว้บนโต๊ะจะฉีดเข้าเส้นคีรินทร์ ไข่มุกเห็นก็มองตาโต คีรินทร์ทำแข็งขืนแต่ก็รั้งแรงนุชนารถไม่ไหว
“โอ๊ย ปล่อย ไม่นะ ไม่เอาแล้ว นุช ผม...”
พอโดนฉีดยาคีรินทร์ห็ทำท่าจะหลับในทันที ไข่มุกที่หลบข้างตู้มองอย่างน้ำตาคลอ สงสารจับใจ คีรินทร์ล้มตัวไปกับโซฟา มือไปปัดโดนส้มในถาดที่วางอยู่บนโต๊ะหล่นกระจายเต็มพื้น ส้มลูกหนึ่งหล่นกลิ้งไปหยุดหน้าไข่มุกที่นั่งกอดเข่าหลบข้างตู้โชว์ของ ไข่มุกมองส้มตาค้างจะยื่นขาไปเขี่ยแต่ก็เปลี่ยนใจหดกลับ นุชนารถหงุดหงิดส่ายหน้า “โอ๊ยคุณรินทร์ หกหมดแล้ว”
นุชนารถตามเก็บผลไม้ตามพื้น ไล่มาอีกนิดเดียวจะถึงส้มลูกที่หยุดหน้าไข่มุก คีรินทร์พลิกตัวจนตกโซฟา นุชนารถหันกลับไปมองเห็นคีรินทร์ฟุบกับพื้นก็เดินเข้าไปประคองคีรินทร์ขึ้นนอนโซฟา
“คนที่คุณต้องเพ้อถึงคือนุช ไม่ใช่มัน สงบซะทีเถอะคะคุณรินทร์”
ไข่มุกถอนหายใจโล่งอก
จบตอนที่ 7
อ่านต่อตอนที่ 8 พรุ่งนี้ เวลา 09.30น.