มายาสีมุก ตอนที่ 12
คธาเล่นเปียโน ร้องเพลงให้จินจูฟัง จินจูมีสีหน้าเศร้าๆ ค่อยๆ ดีขึ้นแล้วยิ้มออกมาได้ คธามองจินจูสบตาหวานซึ้งเล่นจนจบเพลง
“ไม่นึกเลยว่าจะมีวันที่ได้ร้องเพลงให้คุณฟังอีก คิดถึงเมื่อสมัยก่อนนะ”
จินจูยิ้มหวานรับ
“ตอนนั้นเรามีความสุขมากนะคะ แต่ถ้าตอนนี้ มีเราสามคน พ่อ แม่ ลูก จะสุขแค่ไหน คธาคะ ชั้นคิดถึงยองแอ เมื่อไหร่จะได้รู้เสียที”
คธายิ้มอ่อนโยน จับมือจินจู
“บางครั้ง เราก็ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตา ถ้าใช่ ยังไงก็ใช่ ผมเชื่อนะ ว่าสักวันเราต้องได้อยู่พร้อมหน้า สามคนแน่นอน”
จินจูจับมือคธา มองสบตาอย่างซึ้งใจ ห่างออกไปแทยอนยืนมองทั้งคู่หน้าเศร้า ซอนซาที่อยู่ด้านหลังมองแทยอนด้วยแววตาทั้งรักทั้งอิจฉา
“พี่แทยอนยังรักเขาอยู่อีกเหรอคะ ตัดใจซะเถอะ หึ ได้เจอแฟนเก่าแล้ว เขาไม่สนใจพี่หรอก”
“พูดอะไรของเธอ ชั้นไม่ได้...ช่างเถอะ”
แทยอนเดินผละออกไป ซอนซามองตามอย่างเศร้าๆ
ซอนซาเดินตามแทยอนมาดักข้างหน้า พูดเสียงสั่น น้ำตาคลอ
“เมื่อไหร่จะเลิกรักเขาซะที ชั้นรอพี่มายี่สิบกว่าปี ทั้งรักทั้งซื่อสัตย์ทำไมไม่มองกันบ้าง พี่เห็นชั้นเป็นตัวอะไร”
“เธอเป็นน้องสาวที่น่ารักของชั้น ตลอดมาและตลอดไป”
ซอนซานิ่ง น้ำตาค่อยๆ ไหล
“พี่จะไม่มีวันเปลี่ยนมารักชั้นได้เลยเหรอ พี่แทยอน”
“เธอก็รู้คำตอบอยู่แล้ว จะถามทำไมอีก”
แทยอนเดินจากไป ซอนซามองตามน้ำตาไหลอย่างเสียใจมาก พอหันไปอีกทางก็เห็นจินจูกับคธาจับมือกันเดินออกมา แววตาซอนซาเปลี่ยนเป็นแค้นเคือง มองอย่างอิจฉาและโกรธมาก
“อย่าหวังว่าจะมีความสุขได้นาน คนที่ทำให้ชั้นเจ็บ ต้องเจ็บกว่าสองเท่า”
วันต่อมา ไข่มุกแต่งตัวสวยอยู่ในห้อง มือเอื้อมหยิบสร้อยจี้มุกในกระป๋องขึ้นมาดูแล้วเอาทาบคอ กัสจังเปิดประตูเข้ามามองไข่มุก
“ต๊าย วันนี้ชุดเริ่ดสุดในสามโลก สวยจนคนสวยอย่างเจ๊ยังอิจฉา เอ๊ะนั่น ไปเอาสร้อยมาจากไหน สวยนะเนี่ย อย่างกับทองคำขาว”
“คงไม่ใช่หรอกค่ะเจ๊ อันนี้แม่ให้มา”
“อืม ก็สวยอยู่หรอก แต่จืดเกิ๊น งานนี้ต้องใส่แบบจัดเต็ม เอาให้อลังการงานสร้าง อ่ะ เจ๊เตรียมมาให้แล้ว รับรองว่าวูบวาบเข้าตา สะท้อนสู้แฟลช ถอดอันเก่าก่อนแล้วกัน”
กัสจังเปิดโชว์เครื่องเพชรหรู ไข่มุกปลดสร้อยออกแล้วเลื่อนมือไปที่กระเป๋า จินจูเปิดประตูเข้ามา ไข่มุกหย่อนสร้อยลงกระป๋องในกระเป๋าพอดี จินจูเดินเข้ามาใกล้ กัสจังเอาสร้อยทาบคอแล้วติดตะขอให้
“สร้อยเหมาะกับหนูมาก ไป เราออกไปกันได้แล้ว” ไข่มุกยิ้มรับแล้วลุกขึ้นยืน จะเดินออกไป แต่เกิดอาการเวียนหัวเซเหมือนจะหน้ามืด จินจูประคองไว้ “เป็นอะไรหรือเปล่า”
ไข่มุกฝืนยิ้ม
“ไม่เป็นไรค่ะ รีบไปกันดีกว่า”
“แน่นะ”
“ค่ะ แค่เซๆ สงสัยรีบลุกเกิน”
ไข่มุกเดินนำไปกับกัสจัง จินจูมองอย่างเป็นกังวล นึกห่วงนิดๆ
ไข่มุกถ่ายฉากคิวบู๊แบบหันหลังชนกันกับจินจู สู้กับสตั๊นท์คนอื่นๆ ไข่มุกมีท่าทางเหนื่อยๆ หอบๆ จินจูมองอย่างเป็นห่วง ไข่มุกฝืนเล่นต่อ จินจูมองตามอย่างเริ่มจับสังเกต
ทีมงานกำลังจัดไฟ จินจูกับไข่มุกถือบทซ้อมกัน จินจูทำท่าเดินไปพูดไป แล้วชะงักเมื่อหันกลับมามองเห็นไข่มุกนั่งหลับฟุบคาบท จินจูขมวดคิ้วอย่างสงสัยมาก
จินจู ซอนซา ไข่มุก กำลังเล่นแบบถ่ายจริง ไข่มุกทำท่าจะอาเจียน ยกมือขอเบรคแล้ววิ่งออกมา สวนกับคีรินทร์ที่เพิ่งเดินเข้ามา คีรินทร์มองตามไข่มุกไปอย่างเป็นห่วง สีหน้าเป็นกังวล
คีรินทร์ยืนอยู่ในห้องกับพิพัฒน์ คีรินทร์มองพิพัฒน์อย่างไม่สบอารมณ์แต่พยายามข่มไว้
“พักนี้ไข่มุกเป็นอะไร ดูไม่ค่อยสบาย ทำไมไม่บอกให้พักบ้าง แล้วนี่พาไปหาหมอหรือยัง”
พิพัฒน์ทำหน้าเซ็งๆ
“ไม่รู้ ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่”
คีรินทร์อารมณ์ขึ้นกำหมัดแน่น ทำท่าอยากชกเต็มแก่ แล้วทำท่าฟึดฟัดอย่างขัดใจ
“เป็นแฟนประสาอะไร ไม่รู้สักอย่าง ถามจริงเหอะ ไม่ใส่ใจเขาบ้างหรือไง” พิพัฒน์อึกอัก
“ก็ เอ่อ ก็เจอกันบ้าง งานเขายุ่ง ผมก็ยุ่งด้วย”
คีรินทร์ถอนใจหนัก
“นายต้องดูแลเขาให้มากกว่านี้ ถ้าทำได้ ผมขึ้นเงินเดือนให้สิบเปอร์เซ็นต์ เอาไว้ให้...แฟนคุณ ดูแลกันหน่อย ไม่งั้นผมลดขั้นแน่”
“ได้ครับ ไม่ต้องเป็นห่วง รับรองว่าดูแลอย่างดีเยี่ยม แฟนผมทั้งคนจะให้คนอื่นห่วงได้ไง”
พิพัฒน์รับสมอ้างอย่างชอบใจ คีรินทร์ลอบมองอย่างไม่วางใจ ไม่พอใจแล้วสายตาเศร้านิดๆ
คีรินทร์ในชุดนอนนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น สีหน้าเคร่งขรึม รัตนาเลื่อนรถเข็นเข้ามา
“เป็นอะไรคะพี่รินทร์ หน้าเศร้าจัง” คีรินทร์ส่ายหน้าแล้วเดินไปอุ้มรัตนามานั่งที่โซฟาด้วยกัน รัตนากอดซุกคีรินทร์ บ่นเบาๆ “คิดถึงพี่มุก เมื่อไหร่จะมาเยี่ยมก็ไม่รู้”
คีรินทร์ลูบหัวรัตนา
“เขาไม่มาหรอก มีแฟนใหม่ไปแล้ว อีกหน่อยก็ลืมเรา”
“จริงป่ะ พี่มุกบอกเหรอคะ”
“ไม่ต้องบอกก็รู้”
“รู้มาผิดเปล่าคะ หนูนาไม่เคยเห็นเขามีแฟนที่ไหนเลย มีก็แต่พี่รินทร์คนเดียว”
คีรินทร์ชะงักมือ
“เด็กอย่างเราจะไปรู้อะไร ผู้ใหญ่เขาไม่บอก ไม่ได้หมายความว่าไม่มีสักหน่อย”
รัตนาถอนใจ กอดคีรินทร์แน่น
“แต่ยังไง หนูนาก็คิดถึงพี่มุก” คีรินทร์นิ่ง
“พี่ก็ คิดถึงเหมือนกัน”
คีรินทร์กอดคอรัตนา ทั้งสองคนหน้าเศร้าด้วยความคิดถึงไข่มุกไม่แพ้กัน
ชลลดายืนอยู่กับภัททิมาในห้องนั่งเล่นบ้านคีรินทร์และทำท่าชี้นิ้วสั่งงานคนใช้
“โซฟาเลื่อนไปตรงนู้นนะยะ จะได้นั่งรับลม แล้วก็ของในตู้โชว์เอาออกมาปัดฝุ่นให้หมด”
เขมทัตเดินมากับคีรินทร์ก็หยุดดูชลลดาที่ทำท่าวุ่นวาย เขมทัตมองคีรินทร์นิ่ง
“ตกลงจะเอายังไง เรื่องลูกไก่น่ะ” คีรินทร์ยักไหล่
“ไม่เอาไงครับ”
“แล้วจะให้อยู่ไปแบบนี้เหรอ นี่ถ้าคุณนายมณีแม่แกมาเห็น มีหวังปรี๊ดบ้านแตกอีก”
“ช่างเขาเหอะครับ ใครอยากจะทำ อยากจะอยู่ยังไงก็ตามใจ ผมไม่อยากยุ่งแล้ว”
คีรินทร์หน้าเคร่ง เขมทัตมองแล้วครุ่นคิด ตบบ่าเบาๆ
“ยังรักไข่มุกอยู่ใช่มั้ย” คีรินทร์อึ้ง ตอบเบาๆ
“จะรักหรือไม่รัก ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว ผมกับเขาไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิมได้ ไปก่อนนะครับพ่อ”
คีรินทร์เดินออกไป เขมทัตมองตามอย่างเป็นกังวล ปนเป็นห่วงคีรินทร์
คืนนยั้นขณะที่คีรินทร์นอนอยู่ในห้อง ภัททิมาทำนอนกอดด้วยซบอย่างออเซาะและฮัมเพลงหงุงหงิงอย่างสบายอารมณ์ คีรินทร์นอนนิ่ง ภัททิมาทำปูไต่เขี่ยเสื้อคีรินทร์ไปพลางร้องเพลงไปพลาง
“วันนี้เป็นอะไร ไม่เห็นพูดเรื่องแต่งงาน ปกติรบเร้าไม่มีหยุด” คีรินทร์ถามอย่างแปลกใจ
“แหม ก็ลูกไก่ขี้เกียจแล้ว ไม่แต่งก็ไม่แต่ง อยู่อย่างงี้ก็ได้ ไม่เรื่องมาก ดีมั้ยคะรินทร์ขา”
คีรินทร์ทำท่าจะกอด ภัททิมาชะงักแล้วผลักคีรินทร์ออก วิ่งไปในห้องน้ำส่งเสียงอาเจียน คีรินทร์นั่งงงอยู่บนเตียง ชลลดาเคาะประตู คีรินทร์เดินไปเปิดให้ ชลลดาทำหน้าตกใจตื่นเต้น
“ลูกไก่เป็นอะไร น้าได้ยินเสียงเหมือนอาเจียนอยู่”
คีรินทร์ยังงงอยู่
“ผมก็ไม่รู้ อยู่ๆ ก็วิ่งไปห้องน้ำ กินอะไรผิดมาหรือเปล่า” ชลลดาเดินไปที่ห้องน้ำแล้วประคองภัททิมาที่ทำเป็นหน้าซีดเหมือนจะเป็นลมออกมา “เป็นอะไร ไปโรงพยาบาลมั้ย”
ชลลดามองคีรินทร์
“น้าว่า สงสัยลูกไก่จะท้อง”
คีรินทร์อึ้งไปอย่างนึกไม่ถึง สองแม่ลูกแอบสบตากันยิ้มอย่างรู้ว่าแผนสำเร็จ
วันต่อมา ชลลดานั่งประคองภัททิมาที่ดมยาดมเอนตัวทำท่าหมดแรงอยู่ มณีมองสองแม่ลูกอย่างไม่อยากเชื่อ เขมทัตกับคีรินทร์หน้าเครียด
“ชลก็ไม่ได้อยากเร่งรัด แต่ลูกไก่ท้องโตแบบนี้จะให้ทำยังไง ถ้าไม่แต่ง ลูกสาวชลจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”
“ท้องจริงหรือเปล่ายะ กลัวว่าเป็นท้องลมอยากได้สมบัติคนอื่นมากกว่า นี่ไปให้หมอตรวจมาหรือยัง”
“ยัง แต่ไปแน่ ท้องโอ้กอ้ากขนาดนี้ ประจำเดือนก็ขาดไปสองเดือนแล้ว ไม่ท้องก็ไม่รู้จะว่ายังไงค่ะ”
“โอ๊ย ก็ไม่แน่ คิดไปเองหรือเปล่าว่าท้อง”
ภัททิมาทำท่าผะอืดผะอมจะอ้วก ชลลดารีบทำลูบหลังลูบไหล่ ภัททิมาแกล้งทำท่าจะเป็นลม มณีมองอย่างอึ้งๆ
“คุณแม่ขา ลูกไก่เวียนหัว”
“ถ้าอย่างงั้นก็ต้องรีบจัดงานแต่ง ผมจะรีบจัดการหาฤกษ์ให้”
เขมทัตบอก ชลลดาโผเข้ามา ทำท่าจะกอด แต่เห็นมณีมองตาตั้ง เลยกราบที่อกเขมทัตแทน
“ขอบพระคุณพี่เขมมากนะคะ ที่กรุณาชลลดากับลูก ลูกไก่ ขอบคุณคุณลุง เอ๊ย คุณพ่อสิลูก”
ภัททิมารีบไหว้เขมทัต
“ขอบคุณคะคุณพ่อ”
มณีหันมองหน้าเขมทัต
“เอาจริงเหรอคุณ ยังไม่รู้เลยว่าท้องจริงเปล่า”
“ถึงขั้นนี้แล้ว จะโกหกไปทำไม คุณเองก็เตรียมจัดงานแล้วกัน”
มณีอึ้งไป คีรินทร์ก็อึ้งอย่างคิดหนักปนหนักใจ ชลลดากับภัททิมาแอบลอบยิ้มกันอย่างสมใจ
ขณะนั้นไข่มุกนอนซมอยู่ในห้อง จินจูกับกัสจังเดินเข้ามาสีหน้าเป็นห่วง จินจูนั่งลงข้างเตียง เอามือวางบนหน้าผาก ไข่มุกลืมตาขึ้นดู
“ท่าทางไม่ค่อยดีเลย ไปโรงพยาบาลมั้ย”
“ไม่ต้องหรอกคะ หนูกลัวหมอ ไม่ได้เป็นไรมากด้วย”
ไข่มุกพยายามจะลุกนั่ง กัสจังช่วยประคอง
“ อุ๊ย ค่อยๆ ย่ะค่อยๆ เฮ้อ เดี๋ยวเวียนหัวเดี๋ยวอาเจียน สงสัยเป็นลำไส้อักเสบ นี่ท้องเสียด้วยหรือเปล่า จะเอาเกลือแร่มั้ย เจ๊มีในห้อง”
“ไม่เป็นไรค่ะเจ๊ หนูไม่ได้ท้องเสีย”
กัสจังลูบหลังลูบไหล่
“โถ หรือว่าเครียดหักโหมงาน สู้ๆ เข้า ใกล้ปิดกล้องแล้ว ค่อยพักผ่อนนะ อุ๊ย” โทรศัพท์ดัง กัสจังรับสาย “อะไรนะ มีปัญหาเรื่องคิวตัวประกอบ เออ ได้ย่ะ ไปเดี๋ยวนี้แหละ ไม่ต้องบ่น เดี๋ยวชั้นวิ่งติดจรวดไอพ่นไปเลย” กัสจังวางโทรศัพท์ หันมาหาจินจู จินจูพยักหน้าให้ไป กัสจังจับมือไข่มุก
“เจ๊ไปดูที่กองก่อนนะ มีอะไรก็เรียกเจ๊ เรียกรถพยาบาลได้ ฝากด้วยนะฮะคุณจินจู”
มายาสีมุก ตอนที่ 12 (ต่อ)
กัสจังเดินออกไป ไข่มุกออกอาการเวียนหัว พยายามลุกขึ้นเดินไปที่กระเป๋าตัวเอง
“เดี๋ยวๆ นั่งลงก่อน จะเอาอะไร”
“หนูเวียนหัวค่ะ จะเอายาดม”
ไข่มุกเดินถึงกระเป๋าจะหยิบของ แต่มือพลาดปัดตกลงมาของกระจายเต็มพื้น จินจูรีบเข้าไปประคองพาไปนอนที่เตียง แล้วหยิบยาดมให้
“ยาดมใช่มั้ย โอเคขึ้นหรือยัง” ไข่มุกพยักหน้า
“ค่ะ หนูคิดถึงแม่จัง คุณจินจู ไม่รู้แม่เป็นไงบ้าง”
จินจูนิ่งไปอย่างเศร้านิดๆ กอดปลอบไข่มุก ไข่มุกทำท่าผะอืดผะอมจะอาเจียน แล้วดมยาดมหน้าซีดเซียว
“ไข่มุก หนูท้องใช่มั้ย” จินจูถามออกมาตรงๆ ไข่มุกนิ่งเงียบแต่สีหน้าซีดลง “คีรินทร์รู้เรื่องนี้หรือยัง”
“ยังค่ะ หนูไม่บอกเขา บอกไปเขาก็คิดว่าท้องกับคนอื่นอยู่ดี”
“ผู้ชายอะไร ไม่มีเหตุผล คอยดูนะ ชั้นจะจัดการให้หนูเอง”
“ช่างเถอะค่ะ แค่ลูกคนเดียว หนูดูแลได้”
จินจูมองไข่มุกอย่างอึ้งๆ แล้วกอดเบาๆ ซ่อนแววตาตัวเองไว้ ไข่มุกกอดจินจูอย่างคนที่ต้องหารที่พึ่ง ทั้งคู่กอดกันสักพักจินจูก็ประคองไข่มุกให้นอน
“นอนพักก่อนเถอะ เรื่องอื่นค่อยคิดกัน”
จินจูประคองไข่มุกนอนแล้วห่มผ้าให้ มองอย่างสงสาร จินจูหันไปก้มเก็บของที่หล่นบนพื้นเห็นกระป๋องเหล็กเปิดอ้า จินจูหยิบมาดู สร้อยจี้มุกร่วงลงพื้น จินจูเก็บขึ้นมาพอเห็นและรู้ว่าเป็นสร้อยที่ให้เด็กทารกไว้ก็มองสร้อยอย่างช็อคมาก
คธากำลังเล่นเปียโนและร้องเพลงหวานซึ้งอย่างไพเราะ จินจูเดินมาหยุดยืนใกล้นิ่งมองคธาอย่างมีความในใจ คธาหยุดเล่นมองจินจูอย่างสงสัย จินจูยิ้มกว้างแววตามีความสุขที่สุด ชูสร้อยพร้อมจี้มุกตรงหน้าคธา
“จำสร้อยเส้นนี้ได้มั้ยคะ”
คธารับมามอง คิดถึงความหลัง
คธาสวมสร้อยพร้อมจี้ไข่มุกให้จินจู ที่จับดูอย่างซาบซึ้ง เงยหน้าสบตาหวาน
“จินจูแปลว่าไข่มุก ขอฝากจี้มุกเส้นนี้ไว้แทนหัวใจผม ที่จะอยู่กับคุณตลอดไป”
จินจูสบตาตอบอย่างรักใคร่เขินอายนิดๆ คธาจูบที่หน้าผากจินจู แล้วดึงเข้ามากอดอย่างมีความสุขมาก
คธามองสร้อยในมือแล้วลุกเดินเข้ามาใกล้จินจู สบตานิ่ง
“ผมจำได้ทุกอย่าง ที่เกี่ยวกับคุณ”
จินจูยิ้มอย่างปลื้มใจ
“ชั้นรู้คะว่าคุณไม่มีทางลืม ชั้นให้สร้อยนี้ไว้กับยองแอตอนแกเกิด”
คธานิ่งอึ้งยกสร้อยจี้มุกขึ้นดู
“แล้วคุณไปเจอที่ไหน”
จินจูน้ำตาปริ่ม พูดเสียงสั่น
“คุณคะ สร้อยนี้เป็นของไข่มุก”
คธาอึ้ง อย่างคาดไม่ถึง
“ถ้างั้น ยองแอ”
จินจูพยักหน้าน้ำตาคลออย่างตื้นตัน
“เราตามหาลูกแทบตาย ที่แท้ยองแออยู่ใกล้เรามาตลอด คุณเชื่อแล้วใช่มั้ย เชื่อชั้นแล้วนะคะ” จินจูถามเสียงสั่น คธามองสร้อยในมืออีกครั้ง แล้วกำแน่น มือสั่นอย่างตื้นตัน เข้าไปจับมือจินจูไว้ทั้งสองข้าง
“ผมเชื่อมาเสมอ ว่าวันนึงพวกเราจะต้องได้พบลูก แล้วเราก็ได้เจอเขาจริงๆ เราสามคนพ่อแม่ลูก ได้เจอกันแล้ว”
ทั้งสองกอดกันอย่างดีใจ คธายิ้มรับน้ำตาคลออย่างดีใจมาก
คีรินทร์พาภัททิมามาตรวจที่โรงพยาบาล คีรินทร์นั่งอ่านหนังสือพิมพ์นิ่งอยู่หน้าห้องตรวจ ภัททิมารุกรี้รุกรนอยากจะกลับ แล้วก็ลุกพรวด คีรินทร์คว้าแขนหมับอย่างทันควัน ฉุดภัททิมานั่งลงที่เดิม คีรินทร์พูดเสียงห้วนๆ ไม่มองหน้าภัททิมา
“นั่งลง นิ่งๆ รอหมอเรียก”
ภัททิมาทำเสียงอ้อน
“กลับเถอะ” ภัททิมาเอามือปัดจมูกเหม็น “ลูกไก่แพ้กลิ่นยาโรงบาล”
ชลลดารีบสำทับ
“นั้นหนะซิ แม่มึนหัวไงไม่รู้ ไว้ค่อยมากันวันหลัง ไปลูกไก่”
ชลลดาจับมือภัททิมาลุกพรวดอีกครั้ง คีรินทร์ยกหนังสือพิมพ์กันไว้ไม่ให้หนี ภัททิมาหยุดแทบไม่ทัน คีรินทร์ขึ้นเสียง
“อย่าชิ่ง เธอต้องให้หมอตรวจ ว่าท้องจริง”
ภัททิมายิ้มแห้งๆ เอานิ้วเขี่ยแหย่รินทร์
“ทำไมต้องโหดด้วย ลูกไก่โอ้กอ้าก อยากกินแต่สตอเบอรี่เปรี้ยวจี๊ดจ๊าดขนาดนี้ จะไม่ท้องได้ไงคะ รินทร์ก็เห็น”
คีรินทร์มองอย่างไม่ค่อยเชื่อ เอียงคอพยายามสบตา แต่ภัททิมาเอาแต่หลบ พยาบาลเดินมาเรียก
“คุณภัททิมา เชิญห้องตรวจหมายเลข 2 คะ”
ชลลดาหันมาสบหน้าภัททิมาว่าเอาไงดี ภัททิมาทำหน้าไม่ค่อยอยากลุก คีรินทร์พยักหน้าให้ลุก ภัททิมาส่ายหน้าทำยึดเก้าอี้ไว้ สุดท้ายคีรินทร์ยกแขนให้ลุกแล้วตัวเองก็ลุกตาม ภัททิมามองตกใจ ชลลดาลากตัวไว้
“จะไปไหน คุณรินทร์ไ
“เอ้า ผมก็จะเข้าไปด้วย ได้รู้ผลพร้อมกันเลย”
ภัททิมาตกใจ ตาโต ทำส่ายมือห้าม
“ไม่ได๊ ไม่ได้ ผู้ชายเข้าได้ไง เขาตรวจภายในกัน รอที่นี่เถอะ ไม่รู้อยากให้ตรวจไรนักหนา” ภัททิมาสบตาชลลดาอีกรอบ อย่างไม่รู้จะทำไงดีต่อไป กระซิบถามชลลดา “ทำไงละแม่ คราวนี้ตายแน่ๆ”
ชลลดานิ่งคิด
“เอาน่า เจอหาหมอก็โม้ๆ ไป เดี๋ยวแม่ช่วย”
ภัททิมาหันมองคีรินทร์ที่ถมึงตาใส่ สะดุ้งรีบลากชลลดาตามพยาบาลไป
ระหว่างอยู่ในห้องตรวจ หมอวัดความดันให้ภัททิมา แล้วถาม
“ประจำเดือนคุณขาดไปตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” ภัททิมาอ้ำอึ้ง
“ก็ขาดๆ เกินๆ มาบ้างไม่มาบ้างหนะคะหมอ”
หมอขมวดคิ้ว มองรอดแว่น
“เอาให้แน่ซิคะ ล่าสุดเนี่ยขาดไปกี่เดือน”
“ท้องแรกหนะคะ ตื้นเต้นจนลืมนับ” ชลลดาช่วยแก้ตัว ภัททิมาภัททิมาหน้าเสีย
“จำไม่ได้แล้วหมอ แหม ถามเยอะจัง รีบๆ ตรวจเถอะคะ”
“ต้องตรวจให้ละเอียดนะคะ ตกลงขาดถึงสองเดือนไหม”
หมอถามย้ำภัททิมาอึกอัก คิดหาเรื่องโกหก ชลลดาก็นั่งกระอักกระอวนใจ
ขณะนั้นไข่มุกอยู่ที่ห้องตรวจอีกห้องหมอกำลังเช็คความดันให้ ไข่มุกมีสีหน้ากังวลใจ พยักหน้ารับคำถาม
“ก็ประมาณนั้น สองเดือนได้แล้วคะ”
หมอเอาเครื่องวัดความดันออก เขียนเอกสารเสร็จก็ยื่นให้ไข่มุก
“ถ้างั้นเดี๋ยวไปตรวจปัสสาวะก่อน ได้ผลยังไง ค่อยกลับมาคุยกัน”
ไข่มุกรับเอกสารตรวจ พยักหน้ารับ
“ขอบคุณค่ะ”
จินจูที่นั่งอยู่ด้วย ลุกขึ้น เห็นไข่มุกดูเป็นกังวล ก็ยิ้มปลอบใจ
“อย่ากังวล ถ้าจะใช่ก็คือใช่”
“ค่ะ”
“ไม่ต้องห่วงนะ...ลูก”
จินจูอดหลุดปากไม่ได้ แต่ไข่มุกไม่ทันได้ยิน มัวแต่กังวลเรื่องท้อง ทั้งสองเปิดประตูห้องออกไป ไข่มุกมีสีหน้าวิตกกังวลเดินออกไปจากห้อง
ภัททิมา ชลลดา เดินออกจากห้องตรวจเจอคีรินทร์ ยื่นถ้วยปัสสาวะให้ดู
“หมอเขาให้ไปตรวจฉี่”
คีรินทร์พยักหน้ารับจะเดินไป พอดีเจอกับจินจูกับไข่มุกที่ออกจากห้องตรวจอีกห้อง ทั้งคู่ต่างชะงัก ไข่มุกมองคีรินทร์และภัททิมาอย่างปวดใจ หันไปทางอื่นแล้วดึงมือจินจูจะเดินหลีกไปอีกทางอย่างไม่อยากเจอ แต่แล้วก็วิงเวียนอยากอาเจียน จินจูเข้าประคอง คีรินทร์เดินไปถามเป็นห่วง
“ทำไมหน้าซีดแบบนี้ เป็นอะไร ทำไมต้องมาหาหมอ”
ภัททิมาดึงตัวคีรินทร์กลับ
“เชอะ ดราม่าตัวแม่ เว่อร์จริงนะยะ อย่าไปสนใจเลยคะรินทร์ขา”
จินจูสายตากร้าวใส่คีรินทร์
“อาการแบบนี้คุณยังดูไม่ออกอีกเหรอ ไข่มุกเขา...”
ไข่มุกรีบจับมือห้ามจินจูไว้
“ไม่มีอะไรหรอก ชั้นไม่เป็นไร แค่มาตรวจสุขภาพประจำปี”
ไข่มุกมีสีหน้าเหนื่อยและเพลีย พะอึดพะอมอยากจะอาเจียน รีบเอามือปิดปากไว้ ชลลดาสังเกตไข่มุกอย่างนึกรู้ว่าน่าจะท้องแน่ ภัททิมารีบทำอาเจียนเสียงดังกว่า
“อ้วก...โอยไม่ไหวแล้ว” ภัททิมาจับท้อง “อุ้ยๆๆ ลูกดิ้น ดุกดิกดุกดิกเลยคะ รินทร์ จับดูซิคะ สองเดือนดิ้นแร๊งแรง”
ไข่มุกมองแล้วเบือนหน้าไปทางอื่น คีรินทร์มองภัททิมาอย่างไม่สบอารมณ์
“เว่อร์ไปแล้ว ลูก...” คีรินทร์มองไข่มุก “เอ้ย เด็กคงไม่ดิ้นตั้งแต่เดือนสองเดือนมั้ง”
ภัททิมาอาเจียนต่อ ทำเวียนหัว
“อ้วก รินทร์ขาพาไปห้องน้ำที ดีนะมีสามีคอยดูแล ไม่งั้นลูกไก่แย่แน่เลย”
ภัททิมาเดินลากคีรินทร์ที่จำใจประคอง ผ่านหน้าไข่มุก ภัททิมายิ้มเยาะ ไข่มุกมองตามอย่างช้ำใจ กลืนน้ำลายพะอึดพะอม
มายาสีมุก ตอนที่ 12 (ต่อ)
พอเข้ามาในห้องน้ำ ภัททิมามีสีหน้าวิตกไม่แพ้ชลลดา ปรึกษากันว่าเอาไงดี
“ความลับได้แตกแน่คราวนี้ คุณแม่ขา”
ชลลดาทำท่าปลอบ
“เย็นไว้ลูกไก่ ขอแม่คิดแป๊บ”
ภัททิมามองในกระจกเห็นไข่มุกเดินเข้ามาก็ยิ้มเย้ยใส่ ไข่มุกไม่อยากตอแยด้วย เดินเลยเข้าห้องน้ำไป ชลลดาเหล่มองหญิงท้องในกระจกสองคนที่ยืนคุยกัน เอียงหูฟัง
“สองเดือนแล้วคะ ท้องแรก”
“ของพี่สามเดือนกว่า ท้องสอง”
หญิงท้องสองคนเดินถือถ้วยปัสสาวะ ไปวางในตะกร้าที่เตรียมไว้ หญิงท้องเดินคุยกันออกจากห้องน้ำไป ชลลดาย่องไปที่ตะกร้าใส่ถ้วยปัสสาวะ หันซ้ายหันขวาไม่เห็นมีใคร มองเลือกถ้วยปัสสาวะ สุดท้ายก็หยิบของหญิงสาวท้องขึ้นมาแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์
“อันนี้ละ เหลืองดี โธ่ หลานชั้นอยู่นี่เอง” ชลลดาหันไปบอกภัททิมา “เอาถ้วยมาซิ”
ภัททิมาเดินมาแล้วส่งถ้วยให้งงๆ
“แม่จะทำอะไรอะ”
ชลลดาหันมายิ้มกริ่ม
“ยืมฉี่” ภัททิมาตาโต ยิ้มกิ๊กอย่างรู้แผน ชลลดาเปิดฝา ทำจมูกย่นกลั้นหายใจ “เหม็นชิปเป๋ง ฉุนจริงจิ๊ง ยี๊ เอ้า ลูกไก่เท เร็วเข้า”
ภัททิมาอึกอักลังเล ชลลดาถมึงตาใส่ ภัททิมาใช้นิ้วคีบถ้วยอย่างรังเกียจรีบเทปัสสาวะของหญิงท้องใส่ถ้วยตัวเอง
“แหวะ จะอ้วก”
“ทนเหม็นวันนี้ สบายวันหน้า”
ชลลดาปิดฝาให้ แล้ววางไว้ในตะกร้า โยนถ้วยของหญิงสาวท้องลงถังขยะอย่างรังเกียจ สองคนเดินไปล้างมือ
ไข่มุกเดินออกมาจากห้องส้วม เอาถ้วยปัสสาวะไปวางในตะกร้า แล้วเดินมาล้างมือ ภัททิมายิ้มเย้ยพูดในกระจกกับไข่มุก
“ไม่ใช่แค่ชั้นกำลังจะแต่งงานกับรินทร์นะ แต่เรามีลูกด้วยกันแล้ว หวังว่าทุกอย่างระหว่างเธอกับรินทร์คงสิ้นสุดกันที ต่อไปก็เลิกตอแยกับผัวชั้นเธอยังสาว หาผู้ชายใหม่สักคน ไม่ยากร้อก”
ไข่มุกยืนนิ่งช้ำใจ ภัททิมาหัวเราะใส่หน้าอย่างสะใจแล้วเดินออกไป ชลลดาที่รออยู่ก็มองไข่มุกด้วยหางตา ไข่มุกจะออกไป ชลลดาเรียกไว้
“เดี๋ยวก่อน ชั้นมีเรื่องอยากคุยกับเธอ”
ชลลดามองที่ท้องไข่มุก ทำแกล้งจะเข้ามาลูบ ไข่มุกชะงักเอามือกุมท้องไว้แล้วถอยห่างจากชลลดา ชลลดาแสยะยิ้ม
“เธอท้องใช่มั้ย” ไข่มุกนิ่ง “เธอคิดรีดเงินจากคีรินทร์เท่าไร”
“หนูไม่เคยคิดจะเอาเงินใคร”
“ขอให้จริงเถ้อะ เพราะถึงไงคีรินทร์ไม่มีทางเชื่อแน่ว่าเป็นลูกเขา แต่ถึงใช่คนอย่างเธอก็ไม่คู่ควรที่จะเป็นเมียเขาหรอก มีแต่ทำให้เขาอายหน้า อายคนไปทั่ว” ชลลดาเดินวนรอบตัวไข่มุก มองที่ท้อง “ชั้นเห็นใจเธอนะ แต่ลูกขอทานอย่างเธอ มาจากดงน้ำเน่า อยู่ในที่ของตัวเองเถอะ อย่ามายุ่งกับพวกเราเลย”
ไข่มุกโมโหที่โดนเหยียดหยาม
“ไม่ต้องห่วง หนูไม่คิดไปยุ่งไปวุ่นวายอะไรด้วยแน่”
“ชั้นดีใจมากที่ได้ยินแบบนี้ พูดแล้วจำใส่กะลาหัวไว้ด้วยนะยะ”
ชลลดาเดินไป สวนกับจินจูที่เดินมา
“เป็นไรมั้ย เห็นเข้ามานานเลยมาตาม” จินจูมองตามชลลดา “เขามาพูดอะไร ไม่ดีหรือเปล่า”
ไข่มุกนิ่งหน้าเศร้า
“ไม่มีอะไรคะ”
จินจูมองไข่มุกอย่างสงสาร ไข่มุกไม่อยากเล่าเพราะไม่มีประโยชน์ ได้แต่เก็บความขมขื่นไว้เงียบๆ
ภัททิมาถือใบตรวจ ระริกระรี้มาคล้องแขนคีรินทร์ที่ยืนคอยอยู่ ภัททิมาหอมแก้มคีรินทร์อย่างดีใจสุดๆ ชลลดาที่เดินตามมายิ้มเย้ยอย่างผู้ชนะ
“ดาร์ลิ่ง ดูนี่ซิ คุณหมอคอนเฟริม ชัวร์ป๊าบ ฟันธง” คีรินทร์รีบหยิบใบตรวจมาดู หน้าเหวออึ่ง ยืนนิ่งพูดไม่ออก ภัททิมายิ้มแก้มแทบปริฉกใบตรวจจากมือคีรินทร์พัดไปมาตรงหน้า“ดีใจจนอึ้งเลย โธ่ อยากได้ลูกมากสิคะ ลูกชาย หรือลูกสาวดีน้า”
ไข่มุกกับจินจูเดินผ่านมาเห็นคีรินทร์และภัททิมา ไข่มุกจะเดินเลี่ยง แต่จินจูหยุดมองอย่างเจ็บใจแทนไข่มุก
“หนูแน่ใจนะ ว่าจะไม่บอกเขาว่ากำลังจะเป็นพ่อคน”
ไข่มุกมองภัททิมาที่คล้องแขนใกล้ชิดกับคีรินทร์ ก็พูดอย่างตัดพ้อช้ำใจ
“ไม่จำเป็นหรอกคะ เขาก็กำลังจะเป็นพ่อของลูกคุณภัททิมาอยู่แล้ว”
คีรินทร์เมินภัททิมาไม่อยากรับรู้ มองไปเห็นไข่มุกท่าทางอ่อนเพลียก็เดินมาหา ภัททิมารีบตามติด
“หมอว่าไงบ้าง โอเคไหม ดูท่าทางเธอเพลียๆ นะ”
ภัททิมาเบะปากใส่ เอาใบตรวจแกว่งไปมาที่หน้าไข่มุกอย่างเย้ยมาก พูดเน้นเสียง
“ดีใจกับชั้นหน่อยซิ” ภัททิมามือลูบท้อง “สองเดือนแล้วนะ ลูกแม่”
คีรินทร์รีบคว้าใบตรวจออกจากหน้าไข่มุก ทำหน้าไม่ถูก ไข่มุกมองคีรินทร์อย่างช้ำใจมาก ภัททิมาหัวเราะหยัน“มาตรวจแผนกสูติ คงไม่ใช่ตรวจร่างกายประจำปีแน่ ของเธอกับพิพัฒน์กี่เดือนแล้วล่ะ”
จินจูมองภัททิมานิ่งอย่างโกรธแทน
“จะท้องกับใคร” จินจูปรายตามองคีรินทร์ “ก็ไม่ใช่เรื่องของเธอ”
ชลลดาโมโหแทนภัททิมา
“ไม่ใช่เรื่องพวกเราอยู่แล้ว ขออย่ามามั่วว่าท้องกับลูกเขยชั้นแล้วกัน”
คีรินทร์มองไข่มุกอย่างหมางเมิน
“ก็ดี ถ้าท้องจริงก็ดีใจด้วย”
จินจูมองคีรินทร์นิ่ง พูดเสียงเข้ม
“คุณคีรินทร์ ระวังจะต้องเสียใจที่หลัง”
คีรินทร์อึ้ง ไข่มุกรีบตัดบท
“พอเถอะคะ หนูอยากกลับโรงแรม”
จินจูมองไข่มุกอย่างเห็นใจ พาเดินไปพร้อมกัน คีรินทร์มองตามอย่างทั้งรักทั้งแค้น
มณีอ่านผลตรวจการตั้งครรภ์ของภัททิมาอย่างอึ้ง แล้วยื่นให้เขมทัตดูอย่างพูดไม่ออก ชลลดายิ้มปลื้ม
“คราวนี้ทุกคนคงแน่ใจได้แล้วนะคะ ว่าลูกไก่ท้องจริง กำลังจะมีหลานคนแรกของครอบครัว หรือคุณพี่ยังต้องการให้ตรวจอะไรอีกไหมคะ”
มณีถอนหายใจยาว มองเขมทัต
“จะเอาไงดีหละคุณ จะท้องโย้ในงานแต่งอวดแขกหรือเปล่าเนี่ย”
“งั้นก็ต้องรีบจัดงานให้เร็วที่สุด”
ชลลดายิ้มอย่างผู้ชนะ
“คราวนี้ขอจัดให้ใหญ่โต สมหน้าสมเกียรติด้วยนะคะคุณพี่ คนเขาจะได้ไม่เอาไปนินทาว่าแต่งสะใภ้ทั้งที สยามกรุ๊ปยัง ขี้เหนียว อ้อ นอกจากจะต้องเตรียมเรื่องงานแต่ง คุณพี่มณีคงต้องเตรียมหาของรับไหว้หลานแล้ว จะเอาโซ่ทองสักกี่กิโลดีคะ”
ชลลดาหัวเราะอย่างเหนือกว่า มณีค้อนให้อย่างไม่เต็มใจอยากจะฟัง
ไข่มุกกลับเข้าห้องพักด้วยสีหน้าอ่อนเพลีย เศร้าเรื่องคีรินทร์ กึ่งนั่งนอนที่เตียงในห้องพัก จินจูเอาน้ำมาให้ดื่ม
จินจูกล่าวสีหน้าเรียบอย่างเป็นห่วง
“พักผ่อนซะ ช่วงนี้ต้องดูแลตัวเองและลูกในท้องให้ดีที่สุด” ไข่มุกพยักหน้ารับ
“หลังถ่ายหนังจบ หนูอยากไปอยู่ที่เงียบๆ” ไข่มุกลูบที่ท้องยิ้มน้อยๆ “รอเจ้าตัวเล็กคลอด คิดแล้วก็อยากเห็นหน้าเขานะคะ”
จินจูชั่งใจครู่หนึ่งแล้วถาม
“ทำไมถึงไม่บอกคีรินทร์ ถึงจะเป็นคนเจ้าชู้ แต่ชั้นดูออกนะว่าเขาจริงใจกับหนู”
ไข่มุกหน้าเศร้า เสียงสั่น
“รู้ หรือไม่รู้ก็เท่านั้น เขากำลังจะแต่งงาน จะมีลูกกับคนอื่น เขาไม่ต้องการหนูกับลูกหรอก” ไข่มุกน้ำตาคลอมองจินจู “หนูไม่อยากให้เขาลำบากใจ”
“หนูถามเขารึยัง อย่าคิดไปเอง ชั้นไม่อยากให้หนูผิดพลาดเหมือนชั้น”
“ไม่เหมือนหรอกคะ คุณกับคุณอาคธาถูกคนอื่นกีดกัน แต่กับเขา หนูเป็นแค่พวกสิบแปดมงกุฎ มีแต่หลอกลวงเขา หนูตัดสินใจแล้วคะ เขาไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องเด็ก”
“ถ้างั้นไปอยู่กับชั้นที่เกาหลีมั้ย ไปคลอดลูกที่โน่นกัน ให้ชั้นได้ดูแลหนูนะ”
ไข่มุกยิ้มทั้งน้ำตาอย่างซึ้งน้ำใจ
“ขอบคุณมากคะคุณจินจู คุณดีกับหนูมาก แต่หนูทิ้งแม่วันดีไปไม่ได้หรอกคะ”
จินจูนิ่งไป มองไข่มุกอย่างสงสารเห็นใจ
วันดีนั่งเซ็งเห็นจินจูเดินมากับคธาหยุดที่หน้าห้องขัง ก็มองหาไข่มุกอย่างมีความหวังอีกครั้งแต่ไม่เจอ วันดีรีบลุกมาเกาะลูกกรงถามอย่างอยากรู้
“นังมุกไม่มาเหรอ มันหายหัวไปไหน ไม่มาช่วยแม่ หรือเธอ...” วันดีนิ่งคิด กำลูกกรงแน่น “กันมันไม่ให้มาหาชั้น ใช่มั้ย นังมุกมันลูกชั้นนะ”
จินจูมองนิ่งอย่างใช้ความคิด จินจูเอาสร้อยจี้มุกยื่นตรงหน้าวันดี
“คุณเคยเห็นสร้อยเส้นนี้มั้ย บอกชั้นมาตรงๆ”
วันดีอึ้งยื่นมือออกจากลูกกรง หวังแย่งจากมือจินจู แต่จินจูเร็วกว่าถอยแล้วรั้งสร้อยให้ห่างออก
“เอามานะ นี่มันสร้อยของนังมุก”
วันดีเอื้อมอย่างสุดมือ แต่ก็ไม่ถึงสร้อยเพราะติดลูกกรง โวยวายเขย่าลูกกรงอย่างรนราน จินจูหันมองคธาอย่างมั่นใจว่าไข่มุกคือยองแอแน่ จินจูชูสร้อยขึ้น
“สร้อยของชั้น ที่ให้ลูกสาวตอนเขาเกิด เธอบอกเองนะว่าสร้อยนี้เป็นของไข่มุก ถ้างั้นไข่มุกก็คือยองแอ ลูกสาวชั้น ใช่มั้ย”
วันดีอึ้ง ส่ายหน้ารู้ว่าโดนหลอกถาม
“หรือจะให้ศาลช่วยพิสูจน์ ถึงตอนนั้นคุณอาจเจออีกคดี ลักพาตัวลูกคนอื่น”
วันดีฟังตาเหลือก ชักกลัว
“แล้วเธอจะไม่มีวันได้เจอหน้าไข่มุกอีก”
วันดีปล่อยโฮอย่างอัดอั้น หน้าแนบลูกกรง มือสั่นเทา
“อย่านะ อย่า ชั้นก็รักเด็กคนนี้” วันดีนิ่งคิดเอามือปาดน้ำตา “แล้ว...ถ้าชั้นบอก จะได้อะไรอะ”
สีหน้าจินจูมีความหวังขึ้น
“จะได้ทุกอย่างที่ต้องการ ว่ามาเลย”
วันดียืนนิ่งคิดอย่างโลภ
จินจูเดินคุยกับคธามาถึงเคาน์เตอร์ล็อบบี้โรงปรม ผ่านซอนซาที่ยืนหันหลังให้ แต่ทั้งสองคนไม่ได้สังเกตเห็น จินจูดูเป็นกังวลและอัดอั้นมาก
“ยังไงชั้นก็ต้องบอกไข่มุก ว่าเขาคือยองแอ”
“ต้องหาวิธีที่นุ่มนวลที่สุด ไม่งั้นลูกเราช็อคแน่”
จินจูฟังอย่างสงบ พยายามข่มใจ สองคนเดินพ้นไป ซอนซาก็หันหน้ากลับมามองอย่างแปลกใจ นึกไม่ถึงว่าไข่มุกคือลูกของจินจูและคธา แล้วซอนซาก็แค่นยิ้มหยัน มีแผนร้าย
มายาสีมุก ตอนที่ 12 (ต่อ)
คีรินทร์นั่งทำงานอยู่ในห้องทำงาน เลขาเดินถือซองเอกสาร เอากำหนดการงานหมั้นมาให้
“กำหนดการงานหมั้นของคุณคีรินทร์คะ จะให้จัดเตรียมอะไรเพิ่มเติมมั้ยคะ”
คีรินทร์รับมาดู มองนิ่งคิด
“ถ้ามี แล้วจะบอก”
เลขาเดินออกไป คีรินทร์มองซองเอกสารแล้วโยนทิ้งตรงหน้าอย่างไม่อยากเห็น ไม่อยากเปิดดู
ที่กองถ่าย เด็กยกไฟ ลากกล้อง เตรียมงานกันวุ่นวาย ขณะที่ไข่มุกแต่งตัวอยู่ในห้องแต่งตัวเตรียมเข้าฉาก จินจูกับคธาเดินเข้ามา ยืนมองไข่มุกนิ่งด้วยแววตารักใคร่ ภูมิใจ ไข่มุกเห็นสองคนในกระจกก็ยิ้มให้แล้วหันมา
“คุณจินจูกับคุณอา ดีใจอะไรกันเหรอคะ หรือมีข่าวดี”
จินจูเดินเข้าไปกอดไข่มุก พูดไม่ออก คธาก็สบตา ยิ้มอ่อนโยน
“เราสองคนดีใจที่เห็นคุณ เออ...เห็นหนูมีความสุขในการทำงาน ทำให้เต็มที่นะ แต่ระวังสุขภาพด้วย”
จินจูจับไหล่ไข่มุกด้วยสายตาอาทร
“อย่าออกแรงอะไรมาก เดี๋ยวจะให้เขาปรับบทบู๊ให้เบาหน่อยไม่งั้นจะกระเทือนต่อ...” จินจูมองและลูบที่ท้องไข่มุก “หลานของชั้น”
ไข่มุกรู้สึกมีความสุข ยิ้มแย้ม
“เป็นห่วงกันแบบนี้ เล่นเอาหนูปลื้มเลยคะ”
“ไม่ใช่แค่ห่วงนะ แต่เราสองคนรักหนูมากที่สุด”
จินจูลูบผมไข่มุกอย่างเอ็นดูรักใคร่ ไข่มุกยิ้มรับอย่างงงๆ ไม่ค่อยเข้าใจ กัสจังเคาะประตูเสียงดัง แล้วเดินมาหาไข่มุก
“เอ้า เสร็จยังจ๊ะ ไข่มดมณีเด้งของเจ๊ เล่นให้จี๊ด ดังเว่อร์ไปสามโลกเลย”
“โลกเดียวก็พอ ที่เหลือยกให้เจ๊”
กัสจังทำแกล้งหยิก ลากตัวไข่มุกให้ออกไป ไข่มุกบุ้ยหน้าให้จินจูและคธามองหัวเราะกันอย่างมีความสุข
วันดีนั่งหน้ากรงขัง มือจับลูกกรง เครียด คิดไม่ตกเรื่องไข่มุก จนกระทั่งมีขาผู้หญิงใส่ส้นสูงเดินมายืนตรงหน้า วันดีทำเสียงหงุดหงิด โวยวาย
“โอ๊ยอะไรกันนักหนาก็บอกไปหมดแล้ว จะมาถามไรอีก”
วันดีเงยหน้ามองเห็นเป็นซอนซาก็อึ้ง ผิดคาด ซอนซานั่งลงสบตาวันดีอย่างเค้นความจริง
“ไข่มุกเป็นลูกของปาร์คจินจูใช่มั้ย”
วันดีถอยห่าง อย่างไม่รู้ว่าเป็นใคร
“เป็นใคร ปาร์คไหน ลูกอะไร”
ซอยซาแค่นยิ้ม กวักมือเรียกให้เข้ามาใกล้ วันดียืดตัวมองอย่างอยากรู้ ซอนซาหยิบเงินปึ้กหนาให้โผล่ที่กระเป๋า พอให้วันดีเห็น แล้วซุกเก็บ
“อยากได้ใช่ไหม จินจูให้เท่าไหร่ ชั้นให้เป็นสองเท่า”
วันดีตาโต อึ้งอย่างคาดไม่ถึง
ทีมงานเตรียมงานพร้อมถ่าย ผู้กำกับ ซ้อมบท ออกท่าทาง วางจุดยืน ให้ไข่มุกและซอนซา แทยอนยืนดูความเรียบร้อยทั้งหมด
“ก่อนที่จะตบ คุณซอนซาจะให้สัญญาณ คุณต้องคอยสังเกต จะได้หันหน้าตามจังหวะมือให้พอดี เดี๋ยวซ้อมคิวกันนะครับ”
ไข่มุกพยักหน้า ดูตั้งใจมาก ซอนซาซักซ้อมบทกับไข่มุก
“พอก้มตัว” ซอนซาจับตัวมุกให้ก้มลง “แล้วเธอเงยหน้าขึ้น ชั้นจะเงื้อมือ” ซอนซาเงื้อมือ “พอชั้นพยักหน้าคือให้เธอหันหน้าตามมือ ถ้าชั้นยังไม่พยักหน้าก็ไม่ต้องหลบ จะได้ดูสมจริง เข้าใจมั้ย”
“เข้าใจคะ”
จินจูเดินมากับคธา ไม่ห่างกันนักคีรินทร์ทำเดินเข้ามาพูดคุยกับคนกองถ่าย แต่ตาคอยหันมองไข่มุกอย่างอดอยากเห็นไม่ได้ จินจูมองไข่มุกปลื้มใจ
“ยองแอก็มีส่วนเหมือนคุณนะ อย่างน้อยก็ร้องเพลงเพราะไม่แพ้คุณ”
จินจูบอก คธายิ้มอย่างปลื้มใจ
“เขาก็เล่นหนังเก่งเหมือนแม่ ดูสิ ท่าทางแทบไม่ต่างกับคุณเลย”
คีรินทร์ได้ยินแว่วๆ เดินเข้ามา
“ใครเหมือนใครนะ คุยอะไรกันเหรอครับ”
จินจูเมินหน้าไม่ตอบยังเคืองไม่หาย คธายิ้มกลบเกลื่อนให้คีรินทร์
“เออ ไม่มีอะไรหรอกครับ คุยไปเรื่อย”
ผู้กำกับสั่งเดินกล้อง
“ทุกฝ่ายพร้อม กล้องพร้อม สี่ สาม สอง แอ๊คชั่น”
ซอนซาหัวเราะลั่น
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า...เด็กเมื่อวานซืน ทำริจะสู้ชั้น อยากเจ็บตัวก็เข้ามา”
ไข่มุกเดินลุยไปปะทะหมัดกับซอนซาสองสามหมัด ซอนซาเอามือกันไว้ได้ตลอดตามคิว ถึงคิวซอนซาปล่อยมือกลับมา ไข่มุกโค้งตัวหลบอย่างคล่องแคล้ว พอเงยหน้ามา ซอนซาไม่ยอมพยักหน้าให้ไข่มุกหลบตามที่ตกลงกันไว้ ไข่มุกก็รอ ทำหน้าเลิ่กลั่ก ซอนซาได้จังหวะ เงื้อมือตบจริง จนไข่มุกหน้าหัน
“โอ๊ย”
ไข่มุกจับหน้าอย่างเจ็บ ทุกคนตกใจ
“คัท อ้าว ทำไมเป็นงั้น ผิดคิวได้ไง”
คีรินทร์จะเข้าไปดู แต่จินจูเดินตัดหน้าเข้าไปก่อน จับมือซอนซากระชากอย่างแรงด้วยความโกรธ พูดเสียงดัง
“เธอทำอะไร แบบนี้แกล้งกันชัดๆ”
ซอนซามองสู้อย่างไม่ยอมเช่นกัน
“มันเป็นอุบัติเหตุ ทำไมต้องโกรธขนาดนี้ ทำอย่างกับเป็นแม่ไข่มุกหรือว่า เป็นแม่ลูกกันจริงๆ”
จินจูชะงัก ไข่มุกมองซอนซาแล้วมองจินจูอย่างงง จินจูมองซอนซาตาดุ พูดเสียงเข้ม
“เธอพูดอะไร”
“ก็พูดเรื่องที่...” แทยอนเดินตามมา
“พอได้แล้วซอนซา” แทยอนรีบจับจินจูให้เดินห่างมา “ใจเย็น อย่าทำอะไรออกนอกหน้าให้คนอื่นจับได้”
จินจูหันไปมองซอนซาตาแข็ง อย่างฝากไว้ก่อน ยืนนิ่งอย่างโมโหไม่หาย คีรินทร์เข้าไปดูไข่มุกอย่างลืมตัว
“เป็นไรหรือเปล่า ไหวไหม พักก่อนดีมั้ย”
คีรินทร์จับต้นแขน ไข่มุกเอามือปัด
“ชั้นไม่เป็นไร ไปดูแลภรรยาของคุณเถอะ” ไข่มุกจับแก้มตัวเองอย่างเจ็บ บอกผู้กำกับ “ขอโทษนะคะ ขออีกเทค”
ไข่มุกทำซ้อมท่าทางหลบหลีกแข็งขัน จินจูมองซอนซาอย่างแค้นแทนไข่มุก ซอนซายิ้มหยันอย่างสะใจ
ถ่ายใหม่อีกครั้ง ซอนซาปะทะหมัดกับไข่มุกสองสามที ผลัดกันรุกและรับ สุดท้ายจังหวะเดิม ซอนซาตบไข่มุกอีก ไข่มุกเอี้ยวตัวหลบอย่างรู้ทัน แล้วพลิกตัว เอาหลังกระแทกซอนซาเซถอยไปแทบล้ม
“คัท... เยี่ยมมาก เล่นได้ดีทั้งคู่เลยครับ”
ซอนซามองไข่มุกอย่างรู้ว่าเอาคืน ไข่มุกหอบเหนื่อย มองกลับซอนซาอย่างไม่ยอมเช่นกัน
ไข่มุกเดินลูบแก้มอย่างเจ็บ ออกมาพักผ่อนข้างกองถ่าย คีรินทร์เดินถือผ้าขนหนู ถึงตัวไข่มุกก็ประคบที่แก้ม ไข่มุกไม่ทันตั้งตัว ร้องอย่างเจ็บ
“โอ๊ย คนบ้าเอ้ย เบาๆ ซิ คนยิ่งเจ็บอยู่”
ไข่มุกจับผ้าขนหนูมาประคบเอง
“จะปล่อยให้เป็นนางเอกแก้มช้ำได้ไง เสียชื่อโรงแรมผมหมด คุณซอนซาจัดหนักให้ตลอด กว่าจะถ่ายเสร็จ สงสัยได้เย็บหลายเข็ม” ไข่มุกมองค้อน
“คุณก็เว่อร์ไป มันคงเป็นอุบัติเหตุ แต่ชั้นว่าคุณไป...”
คีรินทร์พูดแทรกทำเสียงล้อเลียน
“ไปดูแลภรรยาของคุณเถอะคะ ไม่ต้องย้ำเลยว่าให้ชั้นไปดูแลคนอื่น ผลักไสกันเหลือเกินนะ”
ไข่มุกเมินหน้าไปทางอื่น คีรินทร์นิ่งไปสักครู่แล้วบอกหน้าเศร้าอย่างขมขื่น น้ำเสียงจริงจัง ไม่กล้ามองหน้าไข่มุก
“ชั้นกำลังจะแต่งงานกับลูกไก่ เขาท้องสองเดือนกว่าแล้ว เด็กจะได้มีพ่อ จะหมั้นกันอาทิตย์หน้า”
ไข่มุกใจหาย นั่งนิ่ง แต่แอบเช็ดน้ำตาที่เอ่อออกมาอย่างไม่ตั้งใจ ฝืนพูดแต่เสียงสั่น
“เหรอคะ ยินดีด้วยนะคะ”
คีรินทร์มองไข่มุก ไข่มุกฝืนยิ้ม ยื่นมือให้จับ คีรินทร์มองนิ่งแล้วดึงไข่มุกเข้ามากอด
“เรื่องไม่ควรเป็นแบบนี้เลย ทำไมเธอถึงต้องมีคนอื่น ไม่งั้นป่านนี้เราก็คงกลับมาอยู่ด้วยกันได้”
ไข่มุกน้ำตาคลอในอ้อมกอดคีรนทร์ อยากจะกอดให้นานๆ แต่ก็รั้งตัวออกมา
“ชั้นพูดอะไรคุณก็ไม่เคยฟัง ถึงตอนนี้ มันสายไปแล้ว ไปอยู่กับคุณลูกไก่ กับลูกของคุณกับเธอเถอะคะ” ไข่มุกบอกเสียงสั่น
“ไข่มุก”
ไข่มุกสบตาคีรินทร์ น้ำตาหยดแล้วเดินไป คีรินทร์มองตามอย่างใจหาย รู้ว่าเขากับเธอไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิมได้อีก
จบตอนที่ 12
อ่านต่อตอนที่ 13 เวลา 17.00น.