มารกามเทพ ตอนที่ 4
ขณะที่เพชรเดินเข้าไปด้านในบ้าน แต่ต้องชะงักด้วยความแปลกใจ เมื่อเห็นพลอยนั่งอยู่กับทับทิมและรจนา แต่ละคนแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสวยงาม พลอยยิ้มทักทาย
“เอ้า...เพชร..มาพอดี...เร็วๆ เข้าจ้ะ อย่าให้เจ้าหน้าที่เค้าเสียเวลา”
เพชรงง)อะไรครับพี่พลอย?
“ก็...มาจดทะเบียนสมรสไงจ๊ะ…”
“แล้วพจนีย์ไปไหน” ทับทิมสงสัย
“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าน่ะค่ะ”
“อ้าว!พจนีย์ไม่อยู่ จะจดทะเบียนได้ยังไง”
พลอยบอก “รจนาจดแทนก็ได้มั้งคะ”
เจ้าหน้าที่เหวอไปทันที
รจนาแอบยิ้มแต่แอ๊บถามตกใจ “พี่พลอยจะให้รจแต่งงานกับพี่เพชร”
“ใช่...เพราะยังไง..เพชรก็ต้องแต่งงานอยู่แล้ว”
รจนายิ้มเขินก้มหน้าลงเอียงอาย แต่เพชรงงไปใหญ่ถามเสียงแข็ง
“ผมน่ะเหรอครับจะต้องแต่งงานกับรจนา”
รจนาหน้าเสีย ทับทิมบอกเสียงเข้ม
ทับทิมบอกเสียงเข้ม “แกต้องแต่ง” แล้วหันมาทางรจนา “เอ้า...หนูรจ...เซ็นชื่อเลยลูก”
“ค่ะ”
รจนารีบรับคำรวดเร็ว ทำท่าจะหยิบหนังสือจดทะเบียนมาเซ็น แต่เจ้าหน้าที่ทักท้วง
“จะดีหรือครับ เพราะที่คุยกันไว้แต่แรก เจ้าสาวของคุณเพชร คือคุณพจนีย์”
“น้องชายฉันแต่งงานกับใครก็ได้ค่ะ....เซ็นชื่อเลยรจนา”
รจนาแอบยิ้มรับคำ “ค่ะ”
รจนาหยิบปากกาทำท่าจะเซ็น แต่ต้องชะงักเมื่อพจนีย์วิ่งเข้ามา
“หยุดนะรจนา”
รจนาหน้าเสีย “พี่พจน์”
พจนีย์เดินมาไม่พอใจบอกเสียงแข็ง
“พี่มาแล้ว”
พูดจบพจนีย์ก็เซ็นชื่ออย่างรวดเร็ว รจนาหน้าแหกและเสียดายมาก แต่เพชรยืนเซ่อ งง ไม่
เข้าใจ ไปไม่ถูก พจนีย์เซ็นเสร็จก็บอกเพชรอ่อนหวาน แถมยื่นปากกาให้
“พี่เพชรขา...เซ็นชื่อได้เลยค่ะ”
“ไม่”
พลอยหยิบทะเบียนสมรสที่วางอยู่ในสมุดส่งให้เพชร บอกเสียงเข้ม
“เพชร เซ็นเลยจ้ะ....” พลอยเน้นคำ “เจ้าหน้าที่เค้ารอนานแล้ว เกรงใจ”
เพชรหันไปมองเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็สงสัยเหมือนกัน เพชรตัดบท
“ผมไม่เซ็น” เพชรเดินหนีออกไปเลย
“เพชร...เพชร” พลอยฉุนขาด
ทับทิมงง “เพชร”
พจนีย์หน้าเสีย รจนาแอบอมยิ้ม เจ้าหน้าที่บอก
“ถ้าเจ้าบ่าวยังไม่พร้อม ไว้วันหลังก็ได้นะครับ”
“พร้อมค่ะ เดี๋ยวฉันคุยกับน้องชายฉันเอง”
พลอยที่ถือสมุดแฟ้มทะเบียนสมรสเข็นรถเข็นตามเพชรไปอย่างรวดเร็ว ทับทิมบอกเจ้าหน้าที่
“รบกวนรอซักครู่นะคะ”
ทับทิมเดินตามพลอยออกไป รจนาหน้าเสียอีก คราวนี้พจนีย์แอบยิ้มสลับกับรจนา ก่อน
เดินตามพลอยเข้าไปด้านใน
พลอยเข็นรถเข็นเข้ามา เห็นเพชรยืนหันหลังให้ ทันทีที่ได้ยินเสียงรถเข็น เพชรก็หันขวับไปถามพลอยทันที
“ผมไม่เข้าใจ...ทำไมพี่พลอยจะต้องให้ผมจดทะเบียนกับพจนีย์ด้วย”
“เพื่อเด็กผู้หญิงคนนั้นจะได้เป็นเมียน้อย เมียเก็บ....หรือว่านางบำเรออย่างสมบูรณ์ไงล่ะ”
เพชรลังเลอย่างเห็นได้ชัด ทับทิมตามเข้ามาบอกเสียงเย็น
“แม่คงไม่ต้องอธิบายใช่มั้ย? เมียน้อย เมียเก็บ นางบำเรอ มันเป็นยังไง?”
เพชรยืนนิ่ง ไม่อยากทำขนาดนั้น
ด้านน้ำหนึ่งอยู่ที่บ้าน สุดแสนจะวุ่นวายใจ กดโทร.หาเพชรอีก เสียงมือถือดัง เพชรสะดุ้ง รู้ว่าเป็นน้ำหนึ่ง ทับทิมถามทันที
“เด็กนั่นใช่มั้ย”
เพชรยืนนิ่ง พลอยบอก
“เอามือถือมานี่”
เพชรลังเล กลัดกลุ้มใจ พลอยสำทับเสียงเย็น
“พี่บอกให้เอามือถือมานี่”
เพชรจำต้องยื่นมือถือให้พลอย พลอยกดเปิดสปีกเกอร์โฟนก่อนยื่นคืนเพชร เสียงน้ำหนึ่ง
ละล่ำละลักดังก้อง
“พี่เพชร...เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ”
“มีอะไรน้ำหนึ่ง”
“คุณพ่อโกหก คุณพ่อไม่ได้ให้เราแต่งงานกัน แต่คุณพ่อจะส่งน้ำหนึ่งไปอเมริกา”
ทุกคนหันขวับไปมองเพชรเป็นตาเดียว เพชรเองก็อึ้ง น้ำหนึ่งร้องไห้
“พี่เพชรรีบมาหาน้ำหนึ่งเร็วๆ นะคะ น้ำหนึ่งไม่อยากไปอเมริกา น้ำหนึ่งอยากอยู่กับพี่เพชร”
เพชรพะว้าพะวัง ลึกๆ สงสารน้ำหนึ่ง พลอยและทับทิม สีหน้าหยามหยันดูถูก พลอยจ้องหน้าเพชร พยักหน้า เพชรบอกน้ำหนึ่ง
“น้ำหนึ่งไม่ต้องกลัว....ไม่มีอะไรจะพรากเราสองคนจากกันได้ พี่จะไปรับน้ำหนึ่ง เดี๋ยวนี้”
น้ำหนึ่งวางสาย สีหน้าคลายกังวล แต่พลอยนั่งหน้าบึ้ง ทับทิมเอ่ยขึ้น ท่าทีกังวล
“หรือว่าไอ้เกรียงศักดิ์มันรู้.....ถึงจะส่งเด็กนั่นไปเมืองนอก”
“มันจะรู้หรือไม่ ไม่ใช่ธุระของเรา” พลอยมองจ้องหน้าเพชร “ธุระของเราคือ...”
เพชรพยักหน้า พลอยยื่นสมุดแฟ้มให้ ทับทิมเป็นฝ่ายสำทับ
“เซ็นซะ แล้วรีบไปรับตัวเด็กนั่นมา...น้ำหนึ่ง เพชรน้ำบุษย์ มันจะไปไหนไม่ได้...นอกจากมาเป็นเมียน้อย เมียเก็บ...เหมือนที่พ่อมันทำกับพลอย”
เพชรเซ็นชื่อในทะเบียนสมรสอย่างรวดเร็ว
พจนีย์มองภาพที่เพชรเซ็นทะเบียนสมรส สีหน้าระรื่นด้วยความดีใจ
พจนีย์เดินกลับมาในบ้านด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเบิกบาน ดีใจมากๆ ขณะบอกรจนา
“ได้เป็นเจ้าสาวของพี่เพชรแล้วรจ...พี่ได้เป็นเจ้าสาวพี่เพชรแล้ว แอร๊ย พี่ดีใจสุดๆ เลย”
รจนาแอ๊บสุดขีด “รู้ค่ะ แต่พี่พจน์ไม่น่าทำท่าคันแต่เช้าเลยนะคะ ใครเห็นเข้าน่าเกลียด”
“ก็พี่คันจริงๆ นี่...” พจนีย์ทำท่าคิด “แต่พี่เดินฝ่าดงหมามุ่ยตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”
รจนาตกใจ “หมามุ่ย อะไรคะ”
“ก็เมื่อเช้าตอนที่พี่กลับมาเปลี่ยนเสื้อ ป้าแกบอก เสื้อพี่มีแต่หมามุ่ย พี่เลยสงสัย พี่ไปติดหมามุ่ยมาได้ยังไง”
รจนาก้มหน้าอย่างมีพิรุธ พจนีย์เรียกเสียงเข้ม
“รจนา”
รจนาปากคอสั่น “เปล่านะค่ะพี่พจน์ รจเปล่า”
พจนีย์มองมาอย่างงงๆ “เปล่าอะไร”
“ก็รจไม่ได้เป็นคนเอาหมามุ่ยใส่เสื้อพี่พจน์นะคะ”
พจนีย์จ้องตาน้องเขม็ง “แต่เธออยากแต่งงานกับพี่เพชรแทนพี่”
รจนามองพจนีย์ ค้นหาว่าสายตาของพจนีย์หมายความว่าอะไร พจนีย์ถามคาดคั้นต่อ
“ใช่มั้ย? เธออยากแต่งงานกับพี่เพชรแทนพี่”
รจนารีบปฏิเสธ “เปล่าค่ะเปล่า”
“แล้วเธอจะเซ็นทะเบียนสมรสทำไม”
รจนาตีหน้าใสซื่อแอ๊บ “ก็พี่พลอยบังคับรจ”
“พี่พลอยจะบังคับรจได้ยังไง ในเมื่อที่ตกลงกัน พี่จะเป็นเจ้าสาวของพี่เพชร”
“จริงๆ นะคะ..พี่พลอยบังคับรจ”
พจนีย์นึกไปถึงตอนพลอยยื่นข้อเสนอให้พวกตนสองพี่น้อง ใครก็ได้แต่งงานกับเพชร
พจนีย์ทำท่าคิด “แปลว่า...พี่พลอยจะให้พี่เพชรแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้...” มองรจนาเชิงถาม “พี่พลอยทำทำไม”
รจนาส่ายหน้าไม่รู้
คืนนั้นพลอยหยิบทะเบียนสมรสขึ้นมา เห็นเป็นเพชรจดทะเบียนกับพจนีย์พลอยยิ้มสาสมใจ
“ไม่ว่าเธอจะมาในฐานะไหน เธอก็เป็นได้แค่เมียน้อยแค่นั้น...น้ำหนึ่ง เพชรน้ำบุศษ์”
พลอยหัวเราะกึกก้องด้วยความสะใจ
ด้านน้ำหนึ่งเดินลงมาจากบันได ใจเต้นไม่เป็นส่ำ แต่พยายามทำท่าทางทุกอย่างเป็นปกติ
เสียงเพชรดังก้อง
“ทำตัวให้เป็นปกตินะน้ำหนึ่ง อย่ามีพิรุธให้คุณพ่อจับได้ ไม่ต้องกลัว ยังไงเราต้องได้อยู่ด้วยกัน”
เพชรกำลังขับรถแทบจะบินมา มุ่งหน้ากลับมากรุงเทพฯ หน้านิ่วคิ้วขมวด
น้ำหนึ่งเดินลงมา นวลเดินเข้ามาพอดี พร้อมตาหวาน นวลบอก
“ป้ากำลังจะไปตามคุณน้ำหนึ่งอยู่พอดีค่ะ”
“มีอะไรเหรอคะป้านวล”
“คุณท่านให้หาค่ะ”
น้ำหนึ่งนิ่ง กังวล สีหน้ามีพิรุธ แต่นวลเข้าใจไปอีกทางบอกว่า
“ไม่ต้องกลัวนะคะคุณน้ำหนึ่ง ป้าเห็นท่านยิ้ม อารมณ์ดีเชียวล่ะค่ะ”
ตาหวานเข้ามาเกาะแขนน้ำหนึ่ง “ตาหวานเดาว่าคุณท่านจะให้ของขวัญแต่งงานพี่น้ำหนึ่ง
ด้วยล่ะค่ะ เพราะตาหวานเห็นคุณท่านดูโปรแกรมทัวร์ใหญ่เลย”
น้ำหนึ่งแกล้งรับมุข “ถ้าได้ไปเที่ยวจริงๆ พี่จะให้ตาหวานไปด้วย”
“พี่น้ำหนึ่งไปฮันนีมูน ขืนตาหวานตามไปด้วย ตาหวานต้องถูกพี่คนนั้นอัดก็อบปี้ติดข้างฝาแน่ๆค่ะ โทษฐานไปเป็นก้างขวางคอ”
“ดีมากตาหวาน ที่รู้ตัว...ไปค่ะคุณน้ำหนึ่ง เดี๋ยวคุณท่านจะรอ”
“ค่ะป้านวล”
น้ำหนึ่งยิ้ม แต่ตามีแต่แววกังวลชัดเจน
เกรียงศักดิ์นั่งอยู่กับดาราณีที่ห้องนั่งเล่น ในมือมีหนังสือท่องเที่ยว สองคนสายตากังวล พอเห็นน้ำหนึ่งเดินเข้ามาก็ยิ้ม เกรียงศักดิ์ตบข้างตัว
“มานี่เลยลูกน้ำหนึ่ง”
“คุณพ่อมีอะไรคะ”
“ก่อนน้ำหนึ่งจะแต่งงาน พ่อกับแม่อยากพาน้ำหนึ่งไปเที่ยว”
น้ำหนึ่งหลุดความกังวลออกมา ดาราณีเอ่ยขึ้น
“ก็ถ้าน้ำหนึ่งแต่งงานจริงๆ น้ำหนึ่งก็ต้องไปอยู่กับนายเพชร น้ำหนึ่งก็รู้ว่าพ่อกับแม่เกลียดนายนั่นเข้ากระดูกดำ คงจะไปเยี่ยมเยียนน้ำหนึ่งบ่อยๆ ไม่ได้”
เกรียงศักดิ์ผสมโรง “พ่อกับแม่เลยอยากพาลูกไปเที่ยวก่อน”
“น้ำหนึ่งไปนะลูก...กลับมาค่อยแต่งงาน”
“ก็ได้ค่ะ....น้ำหนึ่งจะไปเที่ยวกับคุณพ่อคุณแม่...ว่าแต่...เราจะไปไหนกันคะ”
“น้ำหนึ่งอยากไปไหนลูก”
“แล้วแต่คุณพ่อคุณแม่เลยค่ะ”
เกรียงศักดิ์แกล้งถามภรรยา “ว่าไงคุณอยากไปไหน”
ดาราณีแกล้งตอบ “แล้วแต่คุณกับลูกเลยค่ะ”
“งั้น...เราไปอเมริกากันนะ โอเคนะลูก”
“ค่ะ...เราจะไปเที่ยวอเมริกาด้วยกัน”
เกรียงศักดิ์กับดาราณียิ้มให้กัน น้ำหนึ่งมอง รู้ว่ารอยยิ้มนั้นหมายถึงอะไร
วันต่อมาอลิศเดินถือกระเป๋าเดินทางขนาดย่อม พลางคุยโทรศัพท์กับเพื่อนสาวลูกไล่คนเดิม
“ถูกแม่ยัยน้ำหนึ่งเหน็บมาขนาดนั้น ฉันบินไปกินโจ๊กฮ่องกงแก้เซ็งดีกว่า” นิ่งฟัง “ไม่ต้องห่วง...ยิ่งไกลยิ่งดี เวลาปล่อยข่าวว่ายัยน้ำหนึ่งหนีตามผู้ชายจะได้เนียนๆ โอเค แล้วเจอกันแก”
อลิสวางสาย เดินออกมารอแท็กซี่
น้ำหนึ่งอยู่ในห้อง เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“น้ำหนึ่ง...แม่เข้าไปได้มั้ยลูก”
“ค่ะคุณแม่”
ดาราณีเปิดประตูเข้ามา เห็นน้ำหนึ่งเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋ามากมาย
“ไปเที่ยวแค่อาทิตย์เดียวเอง ทำไมเอาเสื้อผ้าไปเยอะนักล่ะลูก”
น้ำหนึ่งอึ้งๆ รีบกลบเกลื่อน “ก็...เอาไปเผื่อเวลาถ่ายรูปนะค่ะ”
ดาราณีพูดเป็นนัย “ก็ดี...เผื่อหนูติดใจ อยากจะอยู่ที่นั่นเลย”
น้ำหนึ่งพูดเป็นนัยเหมือนกัน “ยังไง หนูก็อยากแต่งงานกับพี่เพชรค่ะ”
“น้ำหนึ่งรักเค้าขนาดนั้นเลยเหรอลูก”
น้ำหนึ่งมองมาด้วยสายตาเว้าวอน “ค่ะ...และน้ำหนึ่งคงขาดใจตายแน่ๆ...ถ้าไม่ได้อยู่กับเค้า”
“ความรักเกิดจากความผูกพัน...ถ้าไม่ได้อยู่ด้วยกัน ใกล้ชิดกัน..ซักวันอาจจะลืมกันไปเอง”
“ทำไมคุณแม่ถึงพูดอย่างนี้คะ”
“เพราะแม่ไม่อยากให้หนูยึดติด เพราะคนที่ยึดติด สุดท้ายจะเป็นคนที่ทุกข์หนักกว่าใคร? เก็บเสื้อผ้าเถอะลูก แล้วเก็บคำพูดของแม่ไปคิดทบทวนดู ระยะเวลาที่หนูอยู่ห่างจากเพชร อาจจะทำให้หนูเปลี่ยนใจ”
ดาราณีเดินออกไปปิดประตู น้ำหนึ่งมองตาม รู้ดีว่าดาราณีหมายถึงอะไร น้ำหนึ่งเดินไป
หยิบกระปุกดาวและเสื้อที่เพชรเคยให้ออกมาจากตู้ กอดแน่น
“ยังไงน้ำหนึ่งก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจจากพี่เพชร”
น้ำหนึ่งเอาของสองสิ่งใส่ลงไปในกระเป๋าเดินทางด้วย ก่อนหยิบมือถือออกมา
“พี่เพชรคะ....ออกมาได้แล้วค่ะ...น้ำหนึ่งกำลังจะเดินทางไปสุวรรณภูมิแล้วค่ะ”
เพชรอยู่ที่คอนโด และอยู่ในชุดพร้อมเดินทางฟังข้อมูลที่น้ำหนึ่งบอก
“แล้วเจอกันน้ำหนึ่ง”
เพชรพูดด้วยท่วงท่าและน้ำเสียงเหยียดหยัน ไม่เหมือนคนจะพาสาวหนีสักนิด แต่น้ำหนึ่งมืดบอดไม่ฉุกคิดในน้ำเสียงเลย
น้ำหนึ่งเดินเข้าไปยังสนามบินขาออก พร้อมกับเกรียงศักดิ์และดาราณี แต่ละคนแสดงละครด้วยสีหน้าแตกต่างกัน เกรียงศักดิ์ และดาราณีดูจะโล่งๆ เรื่องยุ่งๆ จะจบซักที
แต่น้ำหนึ่งกังวลว่าเพชรจะมาช่วยทันหรือเปล่า
เพชรกำลังมุ่งหน้าเดินมาอย่างรวดเร็ว ส่วนที่เคาน์เตอร์เช็กอิน เกรียงศักดิ์ ดาราณี และน้ำหนึ่งตรงเข้าเช็กอิน พอน้ำหนึ่งเห็นสายการบินและพบว่าจุดหมายปลายทางเป็นอังกฤษ น้ำหนึ่งก็ตกใจ
“อ้าว!เราไม่ได้ไปอเมริกาหรือคะคุณพ่อ”
“พอดี...แม่เค้าเปลี่ยนใจอยากไปอังกฤษ”
น้ำหนึ่งหน้าซีดเผือดตกใจมาก หันไปมองดาราณี “ทำไมตะกี้คุณแม่ไม่บอกน้ำหนึ่ง”
ดาราณียิ้มหวานบอกอย่างอ่อนโยน “ก็ไม่ว่าจะไปไหน เราก็ไปด้วยกันไม่ใช่เหรอลูก”
น้ำหนึ่งนิ่งอึ้ง ดวงตาไหวหวั่น และเริ่มกังวล เพราะแผนไม่เป็นอย่างที่คิด แต่จำต้องเช็กอินไปอังกฤษ
“แล้วไม่โหลดกระเป๋าล่ะน้ำหนึ่ง”
“ใบนี้...น้ำหนึ่งถือขึ้นเครื่องด้วยดีกว่าค่ะ”
น้ำหนึ่งกอดกระเป๋าเดินทางใบย่อมแน่น
ด้านอลิสเดินนวยนาดปานนางแบบ แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นเพชรเดินอยู่อีกมุม
“ไอ้หมอนั่นนี่....คนอย่างมันมาที่นี่ทำไม”
อลิสจับตามองเพชรอย่างสงสัย แต่ไม่ได้ฉุกคิดว่าการมาของเพชรเกี่ยวกับน้ำหนึ่ง
เกรียงศักดิ์เช็กอินโดยไม่ยอมใช้อภิสิทธิ์ใดๆ ในการอำนวยความสะดวก ด้วยพื้นนิสัยที่เป็นคนแสนดี น้ำหนึ่งเช็กอินเสร็จ สามคนพ่อแม่ลูกกำลังจะเดินไปสู่ด้านใน
“เดี๋ยวน้ำหนึ่งขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” น้ำหนึ่งจะไป
ดาราณีดึงมือลูกสาวไว้ “เดี๋ยวค่อยเข้าไปข้างในดีกว่าลูก...” มองเข้าไปเห็นคนรอเยอะ “คนเยอะ”
“ไปน้ำหนึ่ง” เกรียงศักดิ์บอก
ดาราณีคว้ามือน้ำหนึ่งไปต่อแถวตรงตม. น้ำหนึ่งกังวลมาก ที่ไม่สามารถติดต่อเพชรได้ ขณะเดียวกัน เพชรกำลังเช็กอินไปอเมริกา สายการบิน และเที่ยวบินเดิมที่น้ำหนึ่งบอกไว้
เกรียงศักดิ์ ดาราณี และน้ำหนึ่ง ผ่านด่านตรวจคนเข้าไปด้านใน สีหน้าของน้ำหนึ่งดูเลิ่กลั่ก ร้อนใจกังวล
“น้ำหนึ่งขอตัวนะคะ”
โดยไม่รอคำตอบน้ำหนึ่งเดินไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่ด้านหลัง อลิสเดินมาเจอสองคน
“อ้าว! คุณอา....สวัสดีค่ะ” อลิสยกมือไหว้
เกรียงศักดิ์ และดาราณี รับไหว้อลิส ทำหน้าแบบเจอกันอีกแล้วเหรอ? ดาราณีมองอลิสท่าทีไม่สบายใจ
“จะไปไหนกันคะ”
“อังกฤษ...แล้วอลิสล่ะ” ดาราณีถามกลับ
“ว่าจะบินไปทานโจ๊กที่ห้องฮ่องกงหน่อย ค่ำๆ ก็บินกลับมาแล้วล่ะคะ....เออ..แล้ว
น้ำหนึ่งล่ะคะ? ไม่ไปด้วยเหรอ?”
“ไปจ้ะ....แต่ตอนนี้ไปเข้าห้องน้ำ”
อลิสนิ่วหน้า “เอ๊ะ!”
ดาราณีฉงน “มีอะไรเหรออลิส”
“ก็ตะกี้ อลิสเห็นไอ้หมอนั่น...อุ๊ย!” รีบตบปากตัวเอง “แฟนน้ำหนึ่งตรงเคาน์เตอร์เช็คอินน่ะค่ะ”
เกรียงศักดิ์กับดาราณีหันขวับไปมองหน้ากันทันควัน ดาราณีรีบบอก
“ห้องน้ำอยู่ตรงนั้น เดี๋ยวฉันไปดูลูกเองค่ะ”
ดาราณีผละไปรวดเร็ว เกรียงศักดิ์หน้าเครียด กังวลอย่างเห็นได้ชัด แต่สีหน้าของอลิส
อยากรู้เต็มที ตามนิสัยสอดรู้สอดเห็น อลิสตาลุกวาว
“อลิสไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะคุณอา”
อลิสรีบตามดาราณีไปอย่างรวดเร็ว
น้ำหนึ่งเดินมาหลบมุมโทรศัพท์ เพชรรับสาย น้ำหนึ่งรีบบอกละล่ำละลัก
“พี่เพชรคะ...เจอกันที่ประตู 9” น้ำหนึ่งบอกจุดนัดในสนามบิน “นะคะ...คุณพ่อคุณแม่จะพาน้ำหนึ่งไปอังกฤษค่ะ”
เพชรที่จะไปประตูทางอเมริกาเหวอไปทันที
“ได้...พี่จะรีบไปเดี๋ยวนี้”
น้ำหนึ่งวางสายคิดในใจ
“ขอโทษนะคะคุณพ่อคุณแม่....น้ำหนึ่ง รักพี่เพชรค่ะ”
น้ำหนึ่งรีบลากกระเป๋าไปตามจุดที่นัดกับเพชร โดยที่ด้านหลังดาราณีวิ่งตามมาและอลิส ตามมาอีกที ดาราณีเห็นน้ำหนึ่งไปทางอื่น ก็ร้องเรียกทันที
“น้ำหนึ่ง”
น้ำหนึ่งสะดุ้งเฮือกเหลียวขวับ หันมามองเห็นดาราณีก็ตกใจ “คุณแม่”
น้ำหนึ่งชะงักไปนิด แต่ตัดสินใจ คว้ากระเป๋าเดินทางวิ่งหนีทันที ดาราณีใจหายวับ ร้องเรียกอย่างตกใจ
“น้ำหนึ่งๆๆ”
อลิสตาลุกวาว “น้ำหนึ่งจะไปไหนคะคุณอา”
ดาราณีไม่ตอบอลิส คว้ามือถือขึ้นมาโทร. อย่างร้อนใจ
“คุณคะ....รีบมาเร็วค่ะ”
เพชร วิ่งมาหาน้ำหนึ่ง ขณะที่น้ำหนึ่งวิ่งมาหาเพชร ส่วนอีกทาง เกรียงศักดิ์วิ่งมาหาดาราณีอย่างร้อนใจ
เกรียงศักดิ์กระหืดกระหอบมา “มีอะไรคุณ”
“ลูกหนี..ลูกหนีไปค่ะ”
อลิสสาระแนขึ้น “น้ำหนึ่งต้องหนีไปกับไอ้กุ๊ยนั่นแน่ค่ะคุณอา”
เกรียงศักดิ์ และดาราณีไม่สนใจฟังอลิส แต่รู้ว่าจริง เกรียงศักดิ์ได้แต่สบถ
“โธ่เอ๊ย! น้ำหนึ่ง”
เพชรกับน้ำหนึ่งวิ่งมาเจอกัน เพชรคว้ามือน้ำหนึ่ง
“ไปน้ำหนึ่ง”
เพชรคว้ามือน้ำหนึ่ง อีกมือก็คว้ากระเป๋า สองคนวิ่งหนีไปเร็วรี่
มารกามเทพ ตอนที่ 4 (ต่อ)
เกรียงศักดิ์ ดาราณี และอลิสวิ่งตามหาน้ำหนึ่ง อลิสตาไวเห็นเพชรจูงมือน้ำหนึ่งอยู่ชั้นล่าง รีบตะโกนบอกเสียงดัง
“คุณอาขา...น้ำหนึ่งกับไอ้กุ๊ยอยู่นั่นค่ะ”
เกรียงศักดิ์กับดาราณีก้มลงมองด้านล่าง ด้วยความตกใจ สองคนตะโกนลั่นพร้อมๆ กัน
“น้ำหนึ่งๆ”
เพชรกับน้ำหนึ่งเงยหน้าขึ้นมามอง รวมทั้งคนในสนามบิน สายตาทุกคนดูเหมือนว่ารู้จักร.ม.ต.เกรียงศักดิ์ และต่างมองเป็นตาเดียว เกรียงศักดิ์จำต้องพยายามสำรวมวิ่งลงบันไดเลื่อนตามไปอย่างปกติ ดาราณีกับอลิสวิ่งตามหน้าตื่น
เพชรจูงมือน้ำหนึ่งพาวิ่งออกมายังที่จอดรถ เห็นรถคันหนึ่งวิ่งมา ที่แท้เป็นภาคย์เบรกรถดังสนั่น ในขณะที่เพชรกับน้ำหนึ่งก็ชะงัก เพราะรถเกือบชน ภาคย์เห็นเพชรจับมือน้ำหนึ่งก็มองอย่างตกใจ
“น้ำหนึ่ง”
น้ำหนึ่งตกใจ แต่เพชรไม่สนใจ ลากมือน้ำหนึ่งข้ามถนนไปยังที่จอดรถ ภาคย์มองตาม
อย่างงุนงง ระหว่างนั้นเกรียงศักดิ์ ดาราณี อลิส วิ่งตามออกมา อลิสเห็นภาคย์ก็ดีใจ
“พี่ภาคย์”
“มีเรื่องอะไรกันครับคุณอา? ผมเห็นผู้ชายคนหนึ่งพาน้ำหนึ่งไป” ภาคย์รีบถาม
“ไปทางไหนภาคย์” เกรียงศักดิ์ถามอย่างร้อนใจ
“ลานจอดรถทางนั้นครับ”
เกรียงศักดิ์กะดาราณี ข้ามถนนไปทันที ภาคย์งงเต็มที หันมาถามอลิส
“นี่มันเรื่องอะไรกันอลิส”
อลิสพูดเน้นๆ ช้าๆ ชัดๆ อยากให้ภาคย์เสียใจ และรู้ว่าน้ำหนึ่งเป็นคนไม่ดี
“น้ำหนึ่งหนีตามผู้ชายค่ะพี่ภาคย์”
“น้ำหนึ่ง”
ภาคย์ตกใจแทบช็อก หน้าซีดเผือด คาดไม่ถึง
เพชรลากมือน้ำหนึ่งและกระเป๋ามายังรถ เพชรเก็บกระเป๋ารวดเร็ว ขณะที่เกรียงศักดิ์และดาราณีวิ่งตามมา สองคนตะโกนลั่น
“น้ำหนึ่ง! หยุดนะน้ำหนึ่ง น้ำหนึ่ง”
น้ำหนึ่งหันไปมองพ่อแม่ พะว้าพะวัง เพชรลากมือน้ำหนึ่ง
“ขึ้นรถเร็วน้ำหนึ่ง”
เพชรเปิดประตูรถผลักน้ำหนึ่งเข้าไปล็อกทันที เกรียงศักดิ์ตะโกน ชี้หน้าร้องลั่น
“ไอ้เพชร หยุดนะ หยุด อย่าพาลูกฉันไปไหนนะ”
ดาราณีใจจะขาดรอนๆ “น้ำหนึ่งอย่าไปนะลูก”
เพชรหันมาเหยียดยิ้ม หยามหยันอย่างไม่กลัว สะใจเผยธาตุแท้ เกรียงศักดิ์โกรธมาก กระโจนเข้ามาหา จะกระชากประตูพาน้ำหนึ่งออกมา แต่เพชรเข้ามาขวาง เกรียงศักดิ์เงื้อมือ
“เอาลูกฉันคืนมาเดี๋ยวนี้”
เกรียงศักดิ์ชกหน้าเพชรเต็มแรง น้ำหนึ่งที่อยู่ในรถร้องวี๊ด
“คุณพ่อ”
เพชรเหลียวขวับกลับมามองเกรียงศักดิ์ ยิ้มเย้ยบอกกวนๆ เบาๆ จงใจยั่ว
“จุ๊ๆๆๆ เบาๆสิครับ เสียงดังขนาดนี้ ใครๆเค้ารู้กันหมด ว่าลูกสาวหนีตามผู้ชาย ขายขี้หน้าเค้านะครับ...คุณพ่อตา”
“ไอ้เพชร”
เกรียงศักดิ์ได้แต่เงื้อมือ เพชรยิ้มไม่สนใจ เดินรี่ไปยังฝั่งคนขับ เกรียงศักดิ์กระชากประตูตะโกนลั่น
“น้ำหนึ่งลงมาเดี๋ยวนี้”
ดาราณีร้องบอก “ลงมาเดี๋ยวนี้น้ำหนึ่ง”
สองคนพยายามกระชากประตู น้ำหนึ่งยกมือไหว้ พูดผ่านกระจกออกมา
“คุณพ่อคุณแม่น้ำหนึ่งขอโทษ...น้ำหนึ่งรักพี่เพชรค่ะ”
เพชรหันมายักคิ้วหลิ่วตายั่ว ก่อนกระชากรถพุ่งออกไปอย่างเร็วและแรง สองคนได้แต่ตะโกนตามไป
“ไอ้เพชร เอาลูกสาวฉันคืนมา”
“น้ำหนึ่ง อย่าไปลูก อย่าไป!”
เกรียงศักดิ์ได้แต่เตะลมเตะแล้งไปเรื่อย อลิสกับภาคย์วิ่งตามมา อลิสมองอย่างสาแก่ใจ ตะโกนซะดังเหมือนห่วงเต็มประดา
“น้ำหนึ่งหนีตามไอ้กุ๊ยนั่นไปแล้ว ใช่มั้ยคะคุณอา”
เกรียงศักดิ์ กับดาราณีได้สติ เกรียงศักดิ์ชะงัก ด้วยความอับอาย
ทางด้านนวล และตาหวาน ต่างตกอกตกใจ ที่เห็นเกรียงศักดิ์เดินพรวดเข้ามาตะเบ็งเสียงดังลั่นก้องบ้าน ทั้งโกรธ ทั้งเสียใจ และโมโหสุดขีด
“ผมไม่เข้าใจว่าน้ำหนึ่งทำตัวอย่างนั้นได้ยังไง ไร้ค่า!ไร้ราคา”
ดาราณีแก้ตัว “ลูกอาจจะถูกล่อลวง”
เกรียงศักดิ์เดินขึ้นบันไดพลางก่นด่า “ล่อลวงที่ไหน น้ำหนึ่งเต็มใจหนีตามไอ้เพชรชัดๆ ลูกไม่รักดี” หันหน้ากลับมาทางภรรยา “คอยดู...ผมจะให้คนตามล่า....ถ้ารู้ว่าไอ้เพชรพาน้ำหนึ่งไปอยู่ไหน ผมเอามันตาย”
เกรียงศักดิ์สบถด่าขณะเดินขึ้นบันได เกรียงศักดิ์เหยียบขั้นบันไดพลาด ร่างโงนเงนก่อนจะถลาร่วงลงมา เกรียงศักดิ์ร้องลั่น
“เฮ้ย”
ร้องได้คำเดียวเกรียงศักดิ์ก็ล้มฟาดลงมาที่พื้น ร่างกระตุกๆ ก่อนจะสลบเหมือดอยู่ตรงนั้น ดาราณีกรีดร้องลั่น
“คุณ!”
นวลกะตาหวานอุทานลั่น “คุณท่าน”
ดาราณีสั่งเสียงเข้ม “เรียกรถพยาบาลเร็ว”
“ค่ะๆๆ”
นวลวิ่งไปโทรศัพท์ ดาราณีกอดร่างของเกรียงศักดิ์ร้องไห้ ตาหวานหน้าสลด นิยายรักโรแมนติกที่ฝันเพ้อ ในความเป็นจริงไม่โรแมนติกอย่างที่คิดซะแล้ว ดาราณีคร่ำครวญหัวใจสลาย
“น้ำหนึ่ง....ทำไมทำอย่างนี้น้ำหนึ่ง”
ส่วนเพชรขับรถมามุ่งหน้าสู่บ้านเชิงเขา น้ำหนึ่งนั่งหน้าตากังวล เพชรนิ่ง ไม่ได้มองหน้าน้ำหนึ่งเลย ดวงตาของเพชรกร้าว เจือไปด้วยความสาสมใจ ขณะหยิบมือถือขึ้นมาโทร.ออก
“ผมกำลังขับรถกลับบ้านนะครับแม่...เย็นๆ คงถึง”
เพชรวางสาย ไม่ได้ใส่ใจมองน้ำหนึ่งแม้สักน้อย น้ำหนึ่งมองภาพตรงหน้า สายตาเริ่มมีคำถาม เพชรดูเหมือนจะเปลี่ยนไปชั่วเวลาไม่กี่ชั่วโมง
ฟากทับทิม ที่มือถือโทรศัพท์กดปิดเสียง ถามพลอย
“ได้ยินแล้วใช่มั้ย”
พลอยบอกด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน “วันนี้...ที่รอคอย”
สีหน้าพลอยระบายยิ้มบางๆ เหมือนคนอารมณ์ดี แต่ทว่าดวงตาของพลอยแฝงไว้ด้วยความน่ากลัว
ขณะเดียวกันร่างของเกรียงศักดิ์ที่นอนอยู่บนรถเข็น ถูกนำส่งเข้าห้องฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว
ดาราณีร้องไห้ นวลหน้าซีดเผือด ทัพนักข่าวรุมถ่ายภาพเกรียงศักดิ์มากมาย
ภายในร้านอาหารสองคนนั่งทานข้าวด้วยกัน อลิสนั่งจิ้มไอแพดไปด้วย อ่านข่าวไปด้วย
ท่าทางตื่นเต้นตกใจ จนภาคย์ต้องเงยหน้ามอง
“ตายๆๆๆ น้ำหนึ่งท่าทางจะบาปหนัก ตายไปตกนรกหมกไหม้นะคะเนี่ย...” พูดแล้วมองมายังภาคย์ “หนีตามผู้ชาย...จนพ่อต้องเข้าโรงพยาบาล”
ภาคย์ตกใจ “ข่าวออกอย่างนั้นเลยเหรอ”
“เปล่าค่ะ...ข่าวออกแค่รมต.เกรียงศักดิ์ โหมงานหนักจนเป็นลมร่วงตกบันได แต่ความจริง ก็อย่างที่เรารู้กันล่ะค่ะพี่ภาคย์” อลิสพูดเย้ยหยัน “น้ำหนึ่งหนีตามผู้ชาย”
ภาคย์ไม่สบายใจ ดุอลิส
“อาจจะเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด”
อลิสแว้ดใส่ “รู้ทั้งรู้ว่าอะไรเป็นอะไร พี่ภาคย์ยังจะพูดอย่างนี้อีก ถูกสั่งจิตมารึไง สงสัยอลิสต้องพาพี่ภาคย์ไปออกรายการคนอวดผี ให้ริว จิตสัมผัสช่วย”
“งั้นพี่ก็จะพาอลิสไปโรงพยาบาล”
“ไปทำไมคะ...อลิสไม่ได้เป็นอะไร”
“ทำไมจะไม่ได้เป็น” ภาคย์มองหน้าอลิส “ไม่สังเกตบ้างรึไง อลิสมีนอโผล่ตรงกลางหน้าผาก”
อลิสทำหน้างงๆ เอามือคลำหน้าตัวเอง
“นอโผล่กลางหน้าผาก แอร๊ย..พี่ภาคย์ด่าว่าอลิสแรด”
ภาคย์แถมต่อมเผือกก็โตจะเต็มหน้า จะไปฮ่องกงแท้ๆ เจอเรื่องชาวบ้านหน่อย ลืมไปเลย ไปบำบัดตัวเองด่วนนะอลิส ไม่งั้น...ไม่มีใครคบอลิสแน่ๆ
ภาคย์ลุกพรวดเดินออกไป อลิสกรี๊ดลั่น
อลิสพี่ภาคย์...แอร้ย...พี่ภาคย์ด่าอลิส พี่ภาคย์!!
อลิสได้แต่ฮึดฮัดขัดใจ ก่อนด่า
“นังน้ำหนึ่ง เพราะแก...แกคนเดียว”
เพชรขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้าน บอกน้ำหนึ่งเสียงห้วน
“ถึงแล้วลงมา”
น้ำหนึ่งเปิดประตูรถก้าวลงมา เห็นบ้านทั้งหลังตั้งทะมึน ดูเงียบๆ เพชรเองก็ดูเงียบๆ ห่างเหินแปลกตาไป น้ำหนึ่งถามเพชร
Wไม่มีใครอยู่เหรอคะ ดูบ้านเงียบๆ”
เพชรตอบห้วนสั้น “มี แต่จะให้เค้าออกมาวิ่งเล่นกันรึไง บ้านถึงจะได้ไม่เงียบ”
น้ำหนึ่งจ๋อย “น้ำหนึ่งก็แค่ถามดู”
“รีบขนของเข้าบ้าน หน้าหนาว ที่นี่มืดเร็ว คุณหนูไฮโซอย่างเธอ อาจจะไม่คุ้นเคย”
พูดจบเพชรก็เดินลิ่วเข้าบ้าน น้ำหนึ่งมองตามไม่เข้าใจ
“พี่เพชรเป็นอะไร”
น้ำหนึ่งมองตาม เพชรไม่หันมา น้ำหนึ่งกวาดสายตามอง เห็นบริเวณรอบๆ เป็นภูเขา ทุกอย่างรอบตัวเงียบ และพระอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าลงอย่างรวดเร็ว ความมืดโรยตัวปกคลุมไปทั่วพื้นที่ น้ำหนึ่งห่อไหล่มองรอบๆ อย่างหวาดกลัว ก่อนเปิดประตูรถ ลากกระเป๋าลงมาอย่างทุลักทุเล
แต่พอหันหน้ากลับมา น้ำหนึ่งก็สะดุ้งเฮือกเมื่อเจอพลอยนั่งอยู่ เหมือนในหนังผีลึกลับ
“ห๊ะ” น้ำหนึ่งสะดุ้งตกใจ
พลอยยิ้มเยาะ “ไม่ต้องกลัวฉันหรอก เพราะเธอกับฉัน...ต้องเจอกันอีกนาน”
น้ำหนึ่งมองพลอย ไม่รู้จัก พลอยยิ้ม
“ไม่รู้จักฉันใช่มั้ย?....อีกเดี๋ยวเธอก็จะได้รู้จัก และเธอก็จะจำฉันกับเพชรไปจนวันตาย”
“คุณพูดเรื่องอะไร”
“อยากรู้...ก็เข้าไปข้างในสิ”
น้ำหนึ่งมองด้วยท่าทีงวยงง ที่เห็นพลอยยุ น้ำเสียงเร่งเร้า
“เข้าสิ...เข้าไปข้างใน”
น้ำเสียงของพลอยยั่วยุ ท้าทาย เร่งเร้า จนน้ำหนึ่งยอมเดินเข้าไปข้างใน พลอยมองตามยิ้มที่มุมปาก สายตามาดมั่นคาดการได้ ต่อไปจะมีเรื่องอะไร
น้ำหนึ่งเดินพรวดเข้าไปในบ้านด้วยความอยากรู้ แต่ต้องลดฝีเท้าลงเมื่อเห็นด้านในมืด ไฟ
ไม่ได้เปิด น้ำหนึ่งค่อยๆ เดินเข้าไปข้างใน แล้วก็สะดุ้งเฮือกเมื่อเห็นเงาตะคุ่มๆ ของชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดจูบกันอยู่ น้ำหนึ่งบอกโดยอัตโนมัติ
“ขอโทษค่ะ”
น้ำหนึ่งรีบเดินออกมาข้างนอก แต่ก็ต้องหยุดเมื่อพจนีย์พูดขึ้น
“ใครเข้ามาในบ้านเราคะพี่เพชร”
น้ำหนึ่งหันขวับกลับไปมอง พร้อมๆ กับที่เพชรเปิดไฟขึ้น น้ำหนึ่งเห็นพจนีย์ยืนสองมือโอบรอบคอเพชรออดอ้อน น้ำหนึ่งตกใจแทบช็อก
“พี่เพชร”
พจนีย์แกล้งมองหน้าเพชรสลับน้ำหนึ่งถามอย่างไร้เดียงสา
“เค้ารู้จักพี่เพชรด้วยนี่?....ใครคะ”
“คนรู้จัก” เพชรบอกเสียงเย็นชา
น้ำหนึ่งตะลึง ใจหายวับ “คนรู้จัก....เราสองคนเป็นแค่คนรู้จักกันเหรอคะพี่เพชร”
“หรือน้ำหนึ่งจะให้พี่บอกเมียพี่...ว่าน้ำหนึ่งเป็นเมียน้อย เมียเก็บพี่”
น้ำหนึ่งตะลึง อึ้ง ช็อกไปใหญ่ “เมียน้อย เมียเก็บพี่? หมายความว่ายังไงคะ?”
พจนีย์มองน้ำหนึ่งตาเขียว ไม่พอใจส่วนตัว “ฉันเป็นเมียพี่เพชร”
น้ำหนึ่งอึ้งช็อก มึนงงเหมือนถูกค้อนทุบหัว “เมีย”
“ใช่...ฉันเป็นเมียพี่เพชร” พจนีย์ใส่อินเนอร์สุดๆ
“ไม่..ไม่จริง”
“จริง....พจนีย์คือเมียของพี่” เพชรย้ำชัด
น้ำหนึ่งร้องไห้โฮ “พี่เพชร...นี่มันอะไรกันพี่เพชร”
เพชรเน้นคำอีกรอบ “พจนีย์คือเมียของพี่”
ไม่พูดเปล่า...เพชรโอบกอดพจนีย์เข้ามาแนบชิด พจนีย์หัวเราะนิดๆ อย่างมีจริต
“อีกแล้วเหรอคะ?..พี่เพชรไปหลอกผู้หญิงอีกแล้วเหรอคะว่ายังโสด”
เพชรหัวเราะ “ก็ไม่เคยหลอกนะ..แต่เค้าไม่เคยถาม”
น้ำหนึ่งร้องไห้โฮ มองไม่เชื่อ “พี่เพชร ทำไมพี่เพชรทำกับน้ำหนึ่งอย่างนี้”
น้ำหนึ่งพูดแค่นั้นก็ผละตัววิ่งออกไปด้วยความเสียใจ ช็อกสุดขีด แต่ต้องชะงัก เมื่อเจอพลอยเข็นรถเข้ามา พลอยหัวเราะเยาะดังก้อง เมื่อเห็นน้ำหนึ่งร้องไห้
“อย่างที่ฉันบอกใช่มั้ย...เธอจะต้องจำฉัน จำเพชรไปจนตาย”
น้ำหนึ่งวิ่งร้องไห้ออกไป เพชรอึ้ง รีบสะบัดมือออกจากพจนีย์อย่างรวดเร็ว
“โอ๊ยยย..พี่เพชร เหวี่ยงซะแรง พจเจ็บนะ”
เพชรไม่ได้สนใจพจนีย์สักนิด พจนีย์หน้างอ ทับทิมเดินออกมาจากห้อง มองภาพตรงหน้าอย่างสะใจ เพชรหน้าตากังวล ทับทิมพูดหยามหยัน
“เป็นเมียน้อยไม่เป็น...งั้นก็ให้มันไปเป็นเมียหลวงแล้วกัน คนงานกลัดมันแถวนี้มีเยอะออกจะตาย”
พลอยและทับทิมสะใจมาก พจนีย์เองก็ลอบยิ้มอย่างสะใจ มีแต่เพชรที่ดูกังวลมาก
ความมืดโรยตัวลงครอบคลุมทั่วพื้นที่อย่างรวดเร็ว น้ำหนึ่งวิ่งร้องไห้เสียใจมาตามทาง ภาพในสายตาน้ำหนึ่ง พร่าเลือนด้วยน้ำตากบนัยน์ตา เสียงของเพชรดังก้อง
“รจนาคือเมียของพี่ๆๆๆ” เสียงนั้นดังก้องซ้ำไปซ้ำมาในหู
น้ำหนึ่งปิดหูไม่อาจยอมรับความจริงได้ “ไม่จริง....ไม่จริง”
จากนั้นน้ำหนึ่งหลับหูหลับตาวิ่งด้วยความเจ็บปวดเสียใจ อยากจะไปจากที่ตรงนั้นให้เร็วที่สุด
วิ่งกระเซอะกระเซิงเสียขวัญไปเลย น้ำหนึ่งวิ่งสุดแรง ด้วยความไม่ชินพื้นที่ ไม่ได้มอง เท้าของน้ำหนึ่งเหยียบก้อนหิน และลื่นไถล ร่วงมาตามทางทันที
น้ำหนึ่งร้องสุดเสียงด้วยความเจ็บปวด ขณะที่ร่างกลิ้งหลุนๆ ลงมาตามทาง
ด้านเพชรหน้าตาเครียดเคร่ง กังวลอย่างเห็นได้ชัด ทับทิมหันมาเห็นก็เลยแว้ดใส่
“อย่าบอกนะว่าแกห่วงนังเด็กนั่น ตาเพชร”
“มันมืดแล้วครับแม่ อันตราย” เพชรบอก
พจนีย์แอ๊บนางเอกต่อหน้าเพชร “งั้นเดี๋ยวพจไปตามกลับมาให้นะคะ”
“ไม่ต้อง” พลอยบอกเสียงกร้าว พร้อมกับหันขวับมามองเพชร “ถ้าเพชรอยากให้เค้ากลับมา เพชรก็ไปตามเอง”
เพชรจะเดินออกไป ทับทิมร้องห้าม
“อย่านะตาเพชร”
“ให้เพชรไปเถอะค่ะแม่”
เพชรมองหน้าพลอยอย่างไม่แน่ใจ พลอยทำหน้านิ่งๆ พูดสำทับเสียงนิ่ง
“ถ้าเพชรอยากไปตามเค้าก็ไป...ไปสิ ไปตามเค้ากลับมา”
เพชรมองพลอย ด้วยความรู้สึกดีๆ คิดว่าพลอยไม่ได้ใจร้าย
“ขอบคุณครับพี่พลอย”
เพชรเดินออกไปรวดเร็ว ทับทิมส่งเสียงไม่พอใจ หงุดหงิดขัดใจ
“ทำไมแกถึงให้ตาเพชรไปยัยพลอย”
“ก็เพชรอยากไป แต่แม่ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ยิ่งเพชรแสดงออกมาว่าเป็นห่วงมากแค่ไหน นังเด็กนั่น ยิ่งต้องชดใช้ สิ่งที่มันทำ”
ทับทิมถอนหายใจโล่งอก แต่พจนีย์มองพลอยกับทับทิมท่าทีสนใจใคร่รู้ มีเรื่องอะไรกัน ในขณะเดียวกันก็มองอย่างเป็นต่อ เมื่อพลอยกับทับทิมแสดงออกให้รู้ว่าเป็นศัตรูกับน้ำหนึ่งชัดเจน พจนีย์แอบยิ้มขณะบอกพลอยกับทับทิม
“พี่พลอยกับน้าทับทิมอยากให้พจทำอะไรให้มั้ยคะ”
“ไม่มี...เธอกลับไปได้แล้ว”
“งั้นก็แปลว่า...พี่พลอยกับคุณน้า ยอมให้พี่เพชรกับผู้หญิงคนนั้น...”
“มันเป็นเรื่องครอบครัวของพี่...หน้าที่ของพจน์มีแค่...เมียจอมปลอม”
พลอยพูดพร้อมจ้องหน้าเขม็ง พจนีย์ไม่กล้าสบสายตาพลอย ได้แต่บอกอ้อมแอ้ม
“งั้นพจกลับเลยนะคะ”
พจนีย์เดินออกมา ท่าทางไม่พอใจดวงตาแฝงความเจ้าเล่ห์บางอย่าง
ส่วนเพชรเดินเร็วๆ มาตามทาง แต่เป็นคนละทางกับน้ำหนึ่ง ตะโกนเรียก
“น้ำหนึ่ง น้ำหนึ่ง”
น้ำหนึ่งที่นั่งเจ็บเท้าอยู่ท่ามกลางความมืด หันขวับ มองหาเพชร สายตามีแต่ความลังเล สับสน ไม่เข้าใจ น้ำหนึ่งนั่งนิ่งแทบไม่หายใจ
เพชรมองไม่เห็นน้ำหนึ่ง ตัดสินใจวิ่งไปอีกทาง น้ำหนึ่งมองเพชรตาละห้อย ความรู้สึกแสนจะสับสน กวาดสายตามองไปรอบๆ ท่าทางกลัวๆจะลุกก็ลุกไม่ไหว แต่ก็พยายามลุก
“โอ๊ย!”
พจนีย์เดินมา ได้ยินเสียงน้ำหนึ่งก็หันไปมอง เห็นน้ำหนึ่งนั่งก้มหน้าเอามือบีบข้อเท้าตัวเองแบบเจ็บมาก พจนีย์ยิ้มเยาะเดินมาหา ที่น้ำหนึ่งได้ยินเสียงผีเท้าของคน น้ำหนึ่งหันขวับไปมอง เห็นเป็นพจนีย์ ถูกพจนีย์เย้ย
“ผู้หญิงที่หน้าด้าน เป็นเมียน้อยคนอื่น มันก็มีสภาพแบบนี้แหละ”
พจนีย์สะบัดหน้าเดินจากไป น้ำหนึ่งร้องไห้โฮสุดแสนจะเจ็บช้ำใจ
เพชรวิ่งตามหาน้ำหนึ่ง บริเวณโดยรอบมีแต่ความมืด ป่าเขา ต้นไม้รกครึ้ม เพชรมองเป็นห่วง
“น้ำหนึ่ง..น้ำหนึ่ง”
ส่วนด้านหลัง พจนีย์วิ่งตามมา ทำท่าเป็นห่วงตะโกน
“พี่เพชรคะ พี่เพชร”
เพชรหยุดกึก เหลียวขวับไปมอง “มีอะไรพจน์”
พจนีย์ทำหน้าเจ้าเล่ห์ โกหกเนียนๆ “พจน์เห็นคนที่ชื่อน้ำหนึ่ง ไปทางนั้นน่ะค่ะ”
พจนีย์ชี้ไปทางหนึ่ง เพชรหันไปมอง เห็นเป็นทางเปลี่ยว
“เปลี่ยวจะตายไปได้ยังไง”
เพชรไปตามทางที่พจนีย์ชี้ พจนีย์แอบยิ้มตามไป
ฟากน้ำหนึ่งมองอยู่น้ำตาไหลพราก เสียใจมาก
“พี่เพชรไม่ใช่คนเดิม...อย่าไปสนใจเค้า เธอต้องช่วยตัวเองน้ำหนึ่ง”
น้ำหนึ่งพยายามจะลุกขึ้น แต่แล้วกลับล้มทรุดลงไปอีก เพราะความเจ็บปวด
“โอ๊ย”
น้ำหนึ่งนิ่วหน้าเอามือจับข้อเท้า ลุกไม่ไหว จู่ๆ มีมือใครคนหนึ่งยื่นเข้ามาตรงหน้า น้ำหนึ่ง
เงยหน้าขึ้นมอง แต่แล้วก็ต้องผวา เมื่อเห็นเป็นชายร่างกายกำยำ หน้าตาหื่นกระหายยืนอยู่ตรงหน้า น้ำหนึ่งลุกขึ้นกระถดตัวถอยหลัง แต่ก็ต้องร้องออกมาสุดเสียง เมื่อร่างปะทะเข้ากับใครคนหนึ่ง
“ว้าย!”
น้ำหนึ่งหันขวับไปมอง ก็เห็นผู้ชาย รูปร่างลักษณะแบบชายคนแรกยืนยิ้มอยู่ สายตาที่
มองน้ำหนึ่งโลมเลีย น้ำหนึ่งมองชายสองคนหน้าตาเลิ่กลั่ก หวาดกลัวสุดขีด
“อย่าทำอะไรฉันนะ อย่า”
น้ำหนึ่งจะหนีแต่ถูกชายทั้งสองคนคว้าตัวเอาไว้
“เธอหนีไม่รอดหรอก”
“มานี่” ชายอีกคนกระชากสุดแรง
น้ำหนึ่งกรี๊ดสุดเสียง “อย่า...ช่วยด้วยๆๆๆๆ”
มารกามเทพ ตอนที่ 4 (ต่อ)
เพชรที่กำลังตามหาน้ำหนึ่ง ได้ยินเสียงน้ำหนึ่งแว่วๆ
“ช่วยด้วยๆ”
เพชรชะงัก พจนีย์ที่ตามมาก็ได้ยิน กลอกตาเลิ่กลั่ก พจนีย์แกล้งเอามือกุมหน้าอกท่าทางเจ็บปวดมาก
“โอ๊ย...”
เพชรถามตามสัญชาตญาณ “เป็นอะไรพจน์”
พจนีย์กุมหน้าอกอยู่อย่างนั้น “พจ พจ พจเป็นโรจหัวใจ พจเจ็บหัวใจ โอ๊ย”
พจนีย์ทำท่าจะทรุด เพชรเข้ามาประคอง พจนีย์ได้ทีคว้าตัวเพชรไว้เนียนๆ หาที่พึ่ง หาหลักยึด ส่วนน้ำหนึ่งถูกคนร้ายลากตัวไป น้ำหนึ่งสู้สุดชีวิตทั้งที่ขาเจ็บ
“ปล่อยฉัน..ปล่อย ช่วยด้วยๆๆๆๆ
เสียงของน้ำหนึ่งดังเข้ามาขณะที่เพชรประคองพจนีย์อยู่ได้ยิน พจนีย์เองก็ได้ยิน คว้าตัวเพชรไว้แน่น ทำท่าจะเป็นจะตาย
“ช่วยพจด้วยค่ะพี่เพชร ช่วยพจด้วย”
“ช่วยด้วยๆๆๆ” น้ำหนึ่งตะโกนลั่น
เพชรหน้าตาลังเล ขณะที่เสียงน้ำหนึ่งก็ร้องอย่างตกใจหวาดกลัว และเพชรก็ตัดสินใจคว้ามือถือขึ้นมา
“แม่ครับ...พจนีย์โรคหัวใจกำเริบ แม่ช่วยให้คนงานมารับพจน์ด้วยนะครับที่ท้ายไร่”
พจนีย์หน้าเหวอไป เพชรบอก
“อดทนหน่อยนะพจ เดี๋ยวแม่พี่จะรีบพาคนมาช่วย”
เพชรผละจากรจนารวดเร็ว พจนีย์หน้าเหวอไป ผิดแผน ได้แต่ร้อง
“พี่เพชรๆๆ”
ท่าทางพจนีย์หัวเสียอย่างมาก
พลอยกับทับทิมมองหน้ากัน ทับทิมรำพึง
“โรคหัวใจกำเริบ พจนีย์เป็นโรคหัวใจตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
พลอยกับทับทิมมองหน้ากันด้วยความงุนงง ก่อนที่พลอยจะหรี่ตา
“หรือว่า....” พลอยยิ้มบางๆ อย่างรู้ทัน ก่อนหันมาบอกทับทิม “ไม่ต้องไปค่ะแม่”
“ทำไม”
พลอยยิ้มพอใจ “พลอยว่า...พจนีย์คงกำลังอินกับบทภรรยาของเพชรอยู่น่ะค่ะ...ไม่มีอะไรหรอก หรือถ้าจะมี....ก็...คงเป็นบทเริ่มต้น” พลอยตาดุขณะพูดคำต่อมา “ที่นังน้ำหนึ่ง มันจะต้องเจอ ในฐานะเมียเก็บ”
พลอยกับทับทิมยิ้มให้กัน เห็นเป็นเรื่องสนุก และสาแก่ใจ
คนร้ายลากน้ำหนึ่งเข้าป่าข้างทาง น้ำหนึ่งยื้อตัวเอาไว้
“อย่า..อย่าทำฉัน...อย่า”
คนร้ายไม่สน ลากน้ำหนึ่งเข้าไปในป่าข้างทาง พยายามกดน้ำหนึ่งลงพื้น น้ำหนึ่งกรีดร้อง
น้ำหนึ่งร้อง “อย่า”
“ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอก”
มันสองคนกดน้ำหนึ่งลงพื้นจนได้ ขณะก้มหน้าลงต่ำ เท้าของเพชรเตะเข้าชายโครงคนร้ายอย่างจัง และกระโดดถีบคนร้ายอีกหนึ่งคน และไม่รอให้คนร้ายตั้งหลักได้ทัน เพชรคว้าข้อมือหนึ่งฉุดขึ้นมาสุดแรง
“หนีเร็ว”
ไม่รอช้า เพชรลากน้ำหนึ่งออกมาอย่างรวดเร็ว โดยที่เพชรไม่รู้เลยว่าน้ำหนึ่งขาเจ็บอยู่
บริเวณเนินเขา เพชรคว้ามือน้ำหนึ่งลากมา ต้องการให้หนีไปเร็วๆ จะไม่ต้องทรมาน น้ำ
หนึ่งเจ็บร้องโอดครวญ
“โอ๊ย” น้ำหนึ่งเอามือกุมเท้า
“เป็นอะไรน้ำหนึ่ง”
น้ำหนึ่งมองหน้าเพชร เสียใจสะเทือนใจ “เป็นเมียเก็บ...เมียน้อยมังคะ”
เพชรใจอ่อนยวบ วูบหนึ่งที่สงสารเห็นใจ “น้ำหนึ่ง”
“ปล่อยน้ำหนึ่งค่ะ” น้ำหนึ่งสะบัดมือออก แต่ยังไม่หลุด เพชรยื้อมือเอาไว้ “ไม่ต้องมา
สงสารเห็นใจ เราไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว”
พจนีย์เดินเข้ามาหา ทำท่าคนป่วยเป็นโรคหัวใจ เอามือกุมหน้าอกไว้ บอกเสียงแผ่วแลดูน่าสงสาร
“ดีแล้วค่ะ เพราะฉันก็ไม่อยากใช้สามีร่วมกับใคร”
เพชรถึงจะรู้ว่าเป็นแผน แต่คาดไม่ถึง พจนีย์จะแรงถึงขนาดนี้
“พจน์”
พจนีย์ทำเนียน ไม่มองเพชร มองน้ำหนึ่ง ขณะบอก
“ดีแล้วค่ะ ที่คุณคิดจะไป เพราะถ้าอยู่ คุณคงเป็นได้เมียเก็บ”
โลกทั้งใบพังทลายสิ้น น้ำหนึ่งมองเพชรสุดแสนจะเสียใจ สะบัดมือเต็มแรงจนเสียหลักเซล้ม
“ว้าย”
น้ำหนึ่งกรีดร้องสุดเสียง พร้อมๆ กับร่างไถลลงไปยังพื้นดินที่เป็นพื้นลาดชันตรงหน้า ก่อนจะนอนแน่นิ่งไป เพชรร้องตะโกนสุดเสียง
“น้ำหนึ่ง”
เพชรรีบวิ่งลงไปประคองร่างน้ำหนึ่งขึ้นมา พจนีย์มองตาเขียวหึงเพชร ขณะที่เพชรช้อนอุ้มน้ำหนึ่งขึ้นมา สงสารห่วงใยไม่รู้ตัว
เพชรอุ้มร่างหมดสติของน้ำหนึ่งเข้ามาในบ้าน พลอยกับทับทิมมองตกใจ ทับทิมถามทันที)
“อะไรกันตาเพชร อะไร”
“น้ำหนึ่งถูกฉุด แล้วลื่นไถลตกเขาครับ”
พูดแค่นั้นเพชรก็อุ้มน้ำหนึ่งวางที่โซฟา พลอยรีบบอก
“อย่าพามานอนที่นี่”
เพชรหันไปมอง พลอยพูดต่อหน้านิ่งๆ
“เป็นเมียเก็บทั้งที...ก็ทำให้สมบทบาทหน่อยสิเพชร...”
ทุกคนมองหน้าพลอยอย่างไม่เข้าใจ เพชรงง พจนีย์ที่ตามมามองน้ำหนึ่งตาขวาง หึงหวงเพชรสุดขีด พลอยพูดต่อ
“พาเข้าไปนอนในห้อง หลังจากนั้น...พี่คงไม่ต้องบอกเพชรใช่มั้ย ว่าต้องทำยังไง”
ทับทิมยิ้มสะใจ เพชรหน้าซีด อุ้มน้ำหนึ่งเดินไป พจนีย์ยิ่งหึงหวงเข้าไปใหญ่
พลอยยิ้มบางๆ คิดในใจ
“น้ำหนึ่ง เพชรน้ำบุษย์....เธอต้องเจ็บปวดยิ่งกว่าฉัน”
ไม่นานต่อมาเพชรอุ้มน้ำหนึ่งเข้ามาในห้องตัวเอง ก่อนจะวางร่างบอบบางของน้ำหนึ่งลงบนเตียงในห้องตัวเอง เพชรแลเห็นคราบน้ำตาเต็มหน้า ตามเนื้อตามตัวของน้ำหนึ่งก็มีร่องรอยเขียวช้ำ มอมแมมสกปรก
เพชรมองสภาพเด็กสาวตรงหน้าด้วยความเวทนา ก่อนเดินไปหยิบผ้าขนหนูในตู้ เอาไปชุบน้ำ มาซับหน้าให้น้ำหนึ่งอย่างอ่อนโยน
ส่วนในห้องนั่งเล่นของบ้าน พจนีย์มองตามไปที่ห้องของเพชรท่าทางกระวนกระวายไม่สบายใจ
พลอยหันมามอง จนพจนีย์รู้สึกตัว พลอยถามเสียงนิ่ง ดวงตากร้าว ชนิดคนฟังน่าจะอาย
“พจน์บอกจะกลับบ้านนานแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมยังอยู่อีกล่ะ”
พจนีย์หน้าเสีย รีบแก้ตัว “ก็ถ้าพจน์กลับไป มันจะไม่แปลกเหรอคะ? ในเมื่อพจน์เป็นเมียพี่เพชร
แต่พจน์กลับยอมให้ผู้หญิงคนนั้นมานอนในห้องกับพี่เพชร”
พลอยหันมาจ้องหน้าพจนีย์ พจนีย์รีบเสริมแก
“ถ้าจะให้สมจริง พจน์ต้องอาละวาด กระชากหล่อนขึ้นมาตบๆๆๆ โทษฐานที่แย่งผัวของพจน์ค่ะ”
พลอยพูดในท่าทีนิ่งๆ “พี่รู้สึกว่าพจน์จะอินกับการเป็นเมียเพชรมากไปหน่อยนะ...จำใส่สมองเอาไว้พจน์คือเมียจอมปลอม”
“ค่ะ”
พจนีย์หน้าเสีย พลอยพูดต่อเหน็บลงไปอีก
“กลับได้แล้ว เดี๋ยว โรคหัวใจจะกำเริบ พี่เป็นห่วง”
พจนีย์หน้าเสียเข้าไปใหญ่ ทับทิมถือกระเป๋าของน้ำหนึ่งเข้ามา เห็นท่าทางของพจนีย์พอดี
ก็รู้ทัน
“ไม่ต้องห่วงตาเพชร...ห่วงตัวเองดีกว่า รีบบ้านเถอะ ดึกมากแล้ว”
“ค่ะ”
พจนีย์เดินหน้าจ๋อยออกไป พลอยพูดต่อ
“ต่อไป..ก็ไม่ต้องอินขนาดนี้นะ...เพราะยังไง” พลอยเน้นคำ “พจน์ก็เป็นแค่เมียจอมปลอม”
พจนีย์เดินออกไป แอบชักสีหน้าอย่างไม่พอใจ
พจนีย์เดินออกมา เดินไปบ่นไป
“ใครจะไม่อิน พี่เพชรทั้งหล่อ ทั้งล่ำ ทั้งขาว ทั้งแข็ง เอิ่ม...ท่อนแขน แข็งๆ น่ากัดชะมัด ผู้หญิงคนไหนก็ต้องทำอย่างเราทั้งนั้นแหละ แอร๊ย”
พจนีย์ทำท่าครึ้มใจ หลงเสน่ห์เพชรที่หล่อโดนใจมาก
สองคนคุยกัน ทับทิมบอกพลอยอย่างกังวล
“แค่วันแรก...แม่พจยังแสดงซะเกินบทบาท แม่ละห่วงจริงๆ ต่อไปมันจะอีรุงตุงนัง”
พลอยเยื้อนยิ้มไม่กลัวสักนิด “รจนาไม่ได้อยู่ในสายตาของพลอยเลยค่ะแม่...แต่คนที่จะต้องอีรุงตุงนัง อยู่ในห้องตะหาก”
พลอยยยิ้มหยันในสีหน้า
ฟากเพชรนั่งเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้น้ำหนึ่ง สายตาอาทร ระหว่างนั้นทับทิมเปิดประตูเข้าไปพร้อม
กระเป๋า ทับทิมมองเห็นว่าเพชรดูแลน้ำหนึ่งอย่างดี จึงถามขึ้นห้วนๆ
“ขอโทษ..ที่แม่ไม่ได้เคาะประตู อยากรู้ แกจะทำอะไรกับนังเด็กนี่”
เพชรมองหน้าแม่ก่อนหลบตา เพราะตนไม่ได้ปล้ำน้ำหนึ่งอย่างที่พลอยและทับทิมอยากให้เป็น ทับทิมมองเพชรเข้าใจ
ทับทิมถอนหายใจ “แม่รู้...ว่าเพชรไม่สบายใจ แต่เพชรก็รู้ใช่มั้ยลูก...ว่าเวลาถูกขัดใจพี่พลอยจะ
เป็นยังไง”
เพชรเงียบอีก สายตาครุ่นคิด ไม่สบายใจ ทับทิมย้ำเสียงอ่อนโยน
“พลอยเป็นพี่สาวคนเดียวของเพชร เพชรน่าจะรู้ว่าควรทำยังไงกับเด็กคนนี้ใช่มั้ยลูก”
เพชรหันมามามอง ขณะที่ทับทิมเลื่อนกระเป๋าเดินทางของน้ำหนึ่งวางไว้ให้ก่อนเดินออกไป เพชรมองน้ำหนึ่งแล้วถอนหายใจ สลับกับเหลียวมองร่างของทับทิมที่เดินพ้นประตูออกไป แล้วก็ต้องชะงัก
เมื่อมองผ่านช่องประตู เห็นพลอยนั่งบนรถเข็นมองเขม็งอยู่ สองพี่น้องสบสายตากัน ก่อนที่พลอยจะเข็นรถเข็นออกไป
เพชรเดินไปปิดประตู ถอนหายใจเฮือก ขณะเปิดกระเป๋าของน้ำหนึ่ง ตั้งใจจะเปลี่ยนเสื้อผ้า ภาพแทนสายตาเพชรเห็นเป็นเสื้อช็อปที่เคยให้น้ำหนึ่งและดาวดวงเล็กๆ ที่อยู่ในขวดแก้ว ที่ขวดเห็นลายมือน่ารักๆของน้ำหนึ่งเขียนเอาไว้ “จะเก็บดาวทุกดวงให้พี่เพชร”
เพชรมองน้ำหนึ่ง ด้วยความสงสาร
รุ่งเช้าบรรยากาศรายรอบ บ้านเชิงเขา และทั่วหุบเขา มีแต่ความสวยงาม สดใส ส่วนด้านในห้อง น้ำหนึ่งรู้สึกตัวขึ้นมา มองเห็นห้องที่ไม่คุ้นตา น้ำหนึ่งกวาดสายตามองแล้วก็ต้องสะดุ้งโหยง เมื่อเห็นตัวเองอยู่ในเสื้อผ้าชุดใหม่ น้ำหนึ่งเอามือตะปบเสื้อตัวเองรวดเร็ว ครุ่นคิดหวาดระแวง
“อย่าบอกนะว่าพี่เพชร”
น้ำหนึ่งหายใจรัว ขณะค่อยๆ เปิดผ้าห่มสำรวจร่างกายตัวเองอย่างไร้เดียงสา ท่าทีตื่นตกใจ
ทับทิมเข็นรถเข็นให้พลอยออกมายังด้านนอกบ้าน เสียงล้อรถเข็นบดกับพื้น ทำให้เพชรที่หลบมุม
มานอนอยู่ที่ซุ้มม้านั่งด้านนอกรู้สึกตัว เพชรหันไปมองพอเห็นพลอยกับทับทิมก็รีบหลบอยู่หลังต้นไม้แถวนั้น
ทับทิมเข็นรถเข็น มาตามทาง พลอยถามทับทิมอย่างกังวลใจ
“แม่ว่าป่านนี้เพชรกับเด็กนั่นเป็นยังไง”
ทับทิมนิ่งไปนิดก่อนตอบ “ถึงเพชรจะเป็นสถาพบุรุษยังไง เพชรก็เป็นผู้ชาย อีกอย่าง...เพชรคง
ไม่กล้าหักหลังแกหรอก”
เพชรหน้าเจื่อนไป รู้สึกเสียใจ สับสน พลอยมองทับทิมอย่างไม่แน่ใจ ทับทิมพูดต่อ
“ไม่ต้องกังวล ตั้งแต่เมื่อคืน แม่ยังไม่เห็นเพชรออกมาจากห้องเลย”
พลอยยิ้มบางๆ ขณะบอก
“ถ้าเป็นอย่างแม่ว่าก็ดี...ลูกของไอ้เกรียงศักดิ์ มันจะได้เป็นแค่เมียน้อยเมียเก็บ เหมือนกับพลอย”
ประโยคท้ายเสียงของพลอยฟังดูขมขื่นและเจ็บช้ำ
เพชรทั้งสงสารพลอย สงสารน้ำหนึ่ง สับสนว้าวุ่นในใจหนัก
ด้านรจนากำลังเก็บผักในสวนผักเล็กๆ หลังบ้านเพื่อนำไปขาย ขณะที่พจนีย์หน้าตาหงิกงอ
“ตกลง..พี่เพชรกับยัยน้ำหนึ่งอะไรนั่น ได้เสียเป็นเมียผัวกันแล้วแน่ๆ”
รจนาแอ๊บใส่ “ต๊าย..พี่พจน์พูดจาน่าเกลียดอีกแล้ว”
พจนีย์หงุดหงิด “นี่...เลิกทำท่าปัญญาอ่อนได้แล้วพี่รำคาญ คำไทยแท้ๆ อย่างผัวกับเมียน่าเกลียดตรงไหน”
รจนาทำท่าเหนียมอายไม่กล้าพูด “ก็มันน่าเกลียด”
“ไม่น่าเกลียด พี่มีสิทธิ์พูด เพราะพี่เป็นเมียพี่เพชร”
“ก็แค่ในนาม”
“ตอนนี้อาจจะแค่ในนาม แต่ต่อไป....พี่ได้เป็นเมียตัวจริงของพี่เพชรแน่ๆ”
พจนีย์พูดอย่างจริงจัง รจนามองเหยียดคิดในใจ... ฉันต่างหาก
เพชรจะเดินเข้าบ้าน แต่ต้องชะงักเมื่อรจนาเรียก
“พี่เพชร”
เพชรหันมองรจนาแปลกใจ “มีอะไรรจ”
“พี่เพชรอย่าทำอะไรให้พี่พจน์เข้าใจผิดนะคะ”
เพชรงง “เข้าใจผิด? รจหมายถึงอะไร”
“พี่พจน์รักพี่เพชรค่ะ ถ้าพี่เพชรมีคนอื่นอยู่แล้ว พี่เพชรควรอยู่ห่างพี่พจน์ค่ะ”
เพชรพยักหน้า ก่อนเดินเข้าบ้านท่าทีอมทุกข์ รจนาอมยิ้ม เอามือถือถ่ายคลิปของเพชรเอาไว้รจนาบอกตัวเองในใจ
“แล้วรจจะอยู่ใกล้พี่เพชรเองค่ะ”
น้ำหนึ่งอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าในชุดใหม่ทะมัดทะแมง แต่อาการเจ็บขายังอยู่ น้ำหนึ่งมอง
ตัวเองหน้ากระจกอย่างไม่แน่ใจ เพชรเปิดประตูเข้ามารวดเร็ว หนีพลอย น้ำหนึ่งสะดุ้งโหยง
“พี่เพชร” น้ำหนึ่งถอยหลังกรูด อาการหวาดกลัว
“ไม่ต้องกลัว...พี่ไม่ได้ทำอะไรน้ำหนึ่ง”
“แต่พี่เพชรก็เปลี่ยนเสื้อผ้าให้น้ำหนึ่งใช่มั้ย”
“ใช่”
น้ำหนึ่งอายมาก “พี่เพชร”
“สาบานพี่ไม่ได้มอง”
“ไม่ได้มองแล้วพี่เพชรจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้น้ำหนึ่งได้ยังไง”
เพชรไม่ได้จะกุ๊กกิ๊ก ตั้งใจทำให้สบายจริงๆ “ก็อย่างนี้ไง”
เพชรตรงเข้ามาจับน้ำหนึ่งหันหลัง แล้วหลับหูหลับตา ทำท่าจะถอดเสื้อ ตั้งใจจะสาธิตเฉยๆ แต่น้ำ
หนึ่งร้องกรี๊ด ผลักเพชรออกอย่างแรง จนหลังเพชรกระแทกฝา
“อย่ามาทำอย่างนี้กับน้ำหนึ่งนะ”
เพชรงง “ทำไม”
“น้ำหนึ่งไม่เคยคิดเป็นเมียน้อย เมียเก็บใคร ถ้าพี่เพชรอยากได้ของเล่น ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่น้ำหนึ่ง”
เพชรอึ้ง เข้าใจน้ำหนึ่งทันทีว่าหมายถึงอะไร แต่เมื่อนึกถึงพลอย น้ำเสียงเพชรก็หยามหยัน
ขณะกระชากน้ำหนึ่งเข้ามา ตะคอกถามดุดัน
“แล้วคิดว่าผู้หญิงคนอื่น อยากเป็นของเล่น เป็นเมียน้อย เมียเก็บหรือไง”
น้ำหนึ่งมองเพชรอย่างไม่เข้าใจ “ไม่มีใครอยากเป็น...นอกซะจากโดนหลอก เหมือนที่น้ำหนึ่งโดนพี่เพชรหลอก” ขณะพูดน้ำหนึ่งมองจ้องหน้าเพชร “แต่อย่าคิดนะคะ..ว่าน้ำหนึ่งจะใจง่าย...ปล่อยให้ทุกอย่างเลยตามเลย คนอย่างน้ำหนึ่ง หลอกได้แค่ครั้งเดียวค่ะ ปล่อย”
น้ำหนึ่งพยายามผลักเพชรออก แต่ด้วยความที่ขาเจ็บ ออกแรงมากๆ น้ำหนึ่งจึงเสียหลัก เจ็บเท้า
ร้องโอ๊ย เพชรสงสารตกใจเข้ามาประคอง
“น้ำหนึ่ง”
น้ำหนึ่งยังโกรธอยู่ “ปล่อย”
ที่ด้านนอกพลอยนั่งรถเข็นมา เสียงรถเข็นบดกับพื้นดังเอี๊ยดๆ เพชรได้ยินกอดร่างน้ำหนึ่งเอาไว้ น้ำหนึ่งไม่เข้าใจ ร้องกรี๊ดๆ
“ปล่อยน้ำหนึ่งนะปล่อย”
พลอยที่ผ่านหน้าห้องหันขวับมามองเงี่ยหูฟัง เพชรแสร้งหัวเราะหยาบคาย
“ชอบความรุนแรงก็ไม่บอก มะ...ถ้าชอบบบ...พี่จัดให้”
เพชรกอดน้ำหนึ่ง น้ำหนึ่งร้องกรี๊ดๆ พลอยยิ้มพอใจ ขณะที่เพชรกระซิบที่ข้างหูน้ำหนึ่ง
“อยู่เฉยๆ ไม่อย่างนั้น เธอเดือดร้อนแน่น้ำหนึ่ง”
น้ำหนึ่งมองเพชรงุนงงไม่เข้าใจ เพชรดันตัวน้ำหนึ่งออกพูดเสียงดัง กะให้พลอยได้ยิน
“แค่เนี้ยะ..ก็ระทวย แล้วเธอจะดิ้นทำไม๊..น้ำหนึ่ง”
น้ำหนึ่งยิ่งมองเพชรอย่างไม่เข้าใจ แต่พลอยที่อยู่นอกห้องยิ้ม สาแก่ใจ ก่อนพารถเข็นผ่านไป
ทางด้านดาราณีกับนวลเฝ้าเกรียงศักดิ์อยู่ในห้องพักฟื้น สองคนหน้าตากังวล ดาราณีน้ำตาคลอจับมือเกรียงศักดิ์
“น้ำหนึ่งจะรู้บ้างมั้ย ว่าพ่อเป็นถึงขนาดนี้”
“อย่าโทษคุณน้ำหนึ่งเลยค่ะคุณหญิง...คนที่ผิด คือผู้ชายคนนั้น...”
“นายเพชร” ดาราณีเค้นคำ
“นวลจะจำชื่อเค้าไว้จนวันตาย...เค้าทำลายชีวิตท่าน ชีวิตคุณน้ำหนึ่ง”
ดาราณีมองร่างสามี “อย่าเป็นไรนะคุณ คุณอย่าเป็นอะไรไปนะคะ” แล้วบีบมือเกรียงศักดิ์เบาๆ
เกรียงศักดิ์ที่นอนไม่ได้สติ ค่อยๆ กระพริบตา พึมพำออกมา
“น้ำหนึ่ง....อย่าไปลูก อย่าไป”
ดาราณีดีใจ “คุณ”
นวลก็ดีใจ “ท่าน..ท่านฟื้นแล้ว...”
“โทร.หาน้ำหนึ่งให้ฉันเร็วนวล...”
“ค่ะๆๆ”
นวลรีบกดโทรศัพท์หาน้ำหนึ่งทันที
ขณะที่พลอยเลื่อนรถออกมาตรงระเบียง มองบรรยากาศรอบๆ อย่างมีความสุข ท่าทางจิตๆหลอนๆ
“วันนี้...บรรยากาศดีจริงๆ”
เสียงโทรศัพท์ดังลั่น พลอยทำหน้าฉงนไม่คุ้นเสียง กวาดตามอง เสียงดังมาจากรถของเพชร
พลอยเลื่อนรถเข็นตรงไปเปิดประตู เห็นกระเป๋าถือของน้ำหนึ่งวางอยู่ พลอยชักสีหน้า คว้ากระเป๋าหยิบมือถือ กดรับ ทันทีที่มีคนรับ นวลที่อยู่โรงพยาบาล ด้านนอกห้องเกรียงศักดิ์ก็พูดอย่างดีใจ
“คุณน้ำหนึ่ง ป้าเองนะคะ”
พลอยทำหน้าหยามหยันจำนวลได้ พลอยพูดเสียงเย็นๆ
“รู้แล้ว...หน้าจอบอกอยู่”
นวลงงสงสัย “นั่นเบอร์ของคุณน้ำหนึ่งหรือเปล่าคะ”
“ใช่”
“คุณเป็นใคร” นวลเอะใจเสียงคุ้นๆ
“พี่สาวของเพชร...” พลอยถามห้วนๆ เนื้อเสียงกระด้าง “มีอะไร”
นวลบอกห้วนอย่างไม่พอใจ “ขอสายคุณน้ำหนึ่ง”
“น้ำหนึ่งไม่ว่าง...เข้าหอกับเพชรอยู่ตั้งแต่เมื่อคืน”
นวลหน้าร้อนผ่าว ทั้งอายและไม่พอใจ บอกพลอยเสียงห้วน
“ช่วยไปตามคุณน้ำหนึ่งมารับสายที ท่านเกรียงศักดิ์ตกบันได เจ็บหนักที่คุณน้ำหนึ่งหลงผิด หนีตามผู้ชายอย่างนายเพชร”
อได้ฟังพลอยหัวเราะนิดๆ ดวงตาเบิกกว้างอย่างดีใจ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความหยามหยัน
“ฉันเสียใจด้วยที่ท่านเกรียงศักดิ์ตกบันได เจ็บหนัก แต่คุณน้ำหนึ่งของป้า จะเสียใจรึเปล่าฉันไม่รู้ เพราะตอนนี้ดูเหมือนคุณน้ำหนึ่งกำลังมีความสุขเป็นอย่างมากที่ได้เป็น เมียเก็บสามีชาวบ้านเค้า”
นวลงุนงงและตกใจมาก “คุณหมายความว่ายังไง”
“เพชรมีเมียอยู่แล้ว” พลอยจงใจเน้นคำ “งามหน้าแน่ๆ ถ้านักข่าวรู้ว่า คุณน้ำหนึ่ง เพชรน้ำบุษย์ ลูกสาวคนเดียวของรัฐมนตรีเกรียงศักดิ์ผู้มีภาพพจน์สวยหรู เป็นได้แค่เมียน้อยเมียเก็บชาวบ้าน”
พลอยกดวางสาย ดวงหน้าเหยียดยิ้มเย้ยหยันสะใจ
มารกามเทพ ตอนที่ 4 (ต่อ)
นวลยืนกำมือแน่น เหงื่อแตกพลั่กทั้งตกใจ เสียใจ งุนงง คาดไม่ถึง ดาราณีเดินออกมาตาม
“นวล...ฉันให้มาโทรศัพท์แค่นี้ทำไมนานนัก”
นวลสะดุ้งเฮือกตกใจแก้ตัว “เอ่อ....โทรศัพท์ไม่ค่อยมีสัญญาณน่ะค่ะ”
“น้ำหนึ่งว่ายังไงบ้าง”
“นวลไม่ได้คุยกับคุณน้ำหนึ่งค่ะ” นวลลนลาน ตะกุก ตะกัก “เธอ...เธอไม่อยู่ แต่นวลบอกพี่สาวนายเพชรไปแล้ว”
“แล้วทำไมทำหน้าอย่างนั้น” ดาราณีถามรัวเร็วทั้งตกใจ และเป็นกังวล “หรือน้ำหนึ่งจะเป็นอะไร”
“เปล่าค่ะคุณน้ำหนึ่งไม่ได้เป็นอะไร”
“แล้วทำไมนวลทำหน้าอย่างนั้น”
“เอ่อ..นวล...นวลรู้สึกว่าเสียงพี่สาวของนายเพชรคุ้นๆ...เหมือน...เหมือน”
“เหมือนใคร”
“เหมือนเสียงของพลอยค่ะ”
ดาราณีหน้าซีดเผือด ไม่ได้คิดว่าเป็นพลอยจริงๆ แต่สะเทือนใจทุกครั้งที่ได้ยินชื่อนี้
ฝ่ายทับทิม ย้อนถามพลอยอย่างลิงโลด
“ไอ้เกรียงศักดิ์ มันถึงขั้นตกบันไดเลยเหรอ”
“ก็แค่เจ็บ...” พลอยบอกด้วยน้ำเสียงขมขื่น “มันน่าจะเป็นอัมพาต เหมือนพลอย” พลางเอามือทุบขาตัวเอง
ทับทิมเหยียดยิ้ม “แค่ลูกมันหนีตามผู้ชายมา มันยังเป็นขนาดนี้ ลองถ้ามันได้รู้ว่า ลูกสาวมันเป็นได้แค่เมียน้อยเมียเก็บ มันอาจจะล้มหัวกระแทกพื้นเส้นเลือดในสมองแตกตายก็ได้นะลูก”
“พลอยไม่ได้อยากให้มันตายค่ะแม่ พลอยอยากให้มันทรมาน ตายทั้งเป็นเหมือนพลอย”
นัยน์ตาพลอยวาวโรจน์ น้ำเสียงที่เปล่งออกมามีแต่ความเคียดแค้นชิงชัง
ส่วนเกรียงศักดิ์ที่ท่าทางอ่อนแรง เจ็บปวด ถามดาราณี อย่างกังวล
“น้ำหนึ่งเป็นยังไงบ้างคุณหญิง...น้ำหนึ่งจะกลับมาหาผมมั้ย”
“เอ่อ...ฉันยังไม่ได้คุยกับลูกเลยค่ะ”
เกรียงศักดิ์หันขวับมามองอย่างหวาดระแวง “คุณหญิงโกหกผม” เสียงเครือสั่น นึกเสียใจ “จริงๆแล้ว น้ำหนึ่งไม่ยอมกลับมา”
“เปล่าค่ะคุณ...ฉันยังไม่ได้คุยกับลูกจริงๆ”
“ทำไม”
ดาราณีกับนวลก้มหน้า หลบตา เกรียงศักดิ์ถามอีก
“หรือไอ้เพชรมันไม่ยอมให้ลูกกลับมา”
ฟากเพชรเดินหนี น้ำหนึ่งวิ่งตามมาถาม งุนงงสงสัยไม่เข้าใจ
“พี่เพชรปิดบังอะไรน้ำหนึ่งอยู่รึเปล่าคะ”
“ก็เรื่องที่พี่มีเมียอยู่แล้วไง”
“น้ำหนึ่งว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น”
เพชรนิ่งไปนิด ก่อนตอบ
“ใช่..มันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่...ถ้าคนรู้ว่า...ลูกสาวรัฐมนตรีเกรียงศักดิ์เป็นได้แค่เมียน้อยเมียเก็บ”
“น้ำหนึ่งไม่แคร์ค่ะ เพราะความจริง น้ำหนึ่งไม่ได้เป็น”
เพชรหัวเราะเยาะ บอกเสียงกร้าว “แล้วท่านรัฐมนตรีกับคุณหญิงแคร์มั้ย”
น้ำหนึ่งหน้าเสีย เพชรพูดต่อน้ำเสียงเย้ยหยัน
“ที่สำคัญ...น้ำหนึ่งคิดว่าคนทั้งประเทศจะเชื่อเหรอ? น้ำหนึ่งหนีตามพี่มา แต่ยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง”
น้ำหนึ่งมองเพชรสายตาเสียใจ แต่ในขณะเดียวกันก็งุนงง ไม่เข้าใจ
“แต่พี่เพชรก็รู้อยู่แก่ใจนี่คะ...ความจริง เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน”
ด้านหลังน้ำหนึ่งพลอยเข็นรถเข็นมา เพชรเห็นก็คว้าตัวน้ำหนึ่งมากอด
“ทำไมจะไม่ได้เป็น” เพชรตะเบ็งเสียงดังขึ้นกะให้พลอยได้ยิน “น้ำหนึ่งเป็นเมียพี่ เป็นของพี่...ถึงจะเป็นเมียน้อยเมียเก็บ แต่น้ำหนึ่งก็ขึ้นชื่อว่าเมียเหมือนกัน”
น้ำหนึ่งดิ้นรน ผลักไสเพชรออก
“ทำไมพี่เพชรถึงได้ย้ำนักย้ำหนาว่าน้ำหนึ่งเป็นเมียน้อย เมียเก็บ ทั้งๆ ที่…”
โดยอัตโนมัติ เพชรจับน้ำหนึ่งหันหลังก้มลงจูบปิดปากไม่ให้พูด น้ำหนึ่งตาโตตกใจ
“พี่ต้องกลับไปทำงาน...แล้วจะรีบกลับมาหาเมียรักนะจ๊ะ”
เพชรผลุนผลันขึ้นรถขับออกไป น้ำหนึ่งวิ่งตามตะโกน
“อย่าเพิ่งไปนะพี่เพชร เราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง พี่เพชร”
เพชรไม่จอดน้ำหนึ่งได้แต่มองขัดใจ พลอยเข็นรถใกล้เข้ามา น้ำหนึ่งได้ยินเสียงล้อรถเข็น หันขวับไปมอง พลอยยิ้มเย้ย
“อาไร้...เป็นเมียเค้าแค่คืนเดียว...ถึงกลับวิ่งตามเลยหรือจ้ะน้ำหนึ่ง”
“น้ำหนึ่งไม่ได้เป็นเมียพี่เพชร”
พลอยหัวเราะเย้ยหยัน “ไม่ได้เป็น...โถๆๆๆ อยู่กันสองคนกับพี่ ไม่ต้องแอ๊บก็ได้น้ำหนึ่ง...เธออยู่
กับนายเพชรทั้งคืน มันจะไปเหลืออะไร”
“พี่เพชรไม่ได้ทำอะไรน้ำหนึ่งจริงๆ ค่ะพี่พลอย”
พลอยจ้องหน้าน้ำหนึ่ง เริ่มรู้สึกว่าน้ำหนึ่งพูดจริง ถามย้ำ
“เธอพูดจริงเหรอ”
“ค่ะ...พี่เพชรไม่ได้ทำอะไรน้ำหนึ่งแม้แต่นิดเดียว...”
พลอยตาวาววับ คำพูดของน้ำหนึ่งจริงจัง จนรู้สึกเชื่อ ขณะที่น้ำหนึ่งพูดต่อ
“แล้วน้ำหนึ่งก็ไม่เข้าใจ ทำไมพี่เพชรจะต้องย้ำแต่คำว่าเมียน้อยเมียเก็บ ทั้งๆ น้ำหนึ่งกับพี่
เพชรไม่ได้เป็นอะไรกัน”
พลอยมองน้ำหนึ่ง ดวงตาเหลือกลาน โกรธ เสียใจ และขัดใจ ที่เพชรไม่ทำตามคำสั่ง บอกเสียงกร้าว
“เป็น...ยังไงเธอก็ต้องเป็นเมียน้อยเมียเก็บของเพชร เพราะเธอมีหน้าที่ชดใช้ ได้ยินมั้ยน้ำหนึ่ง เธอมีหน้าที่ต้องชดใช้”
พลอยกรีดเสียงร้องดังขึ้น ที่ถูกขัดใจ มือของพลอยเกร็งหงิกงอ เพราะเครียดแล้วชัก ร่างทั้งร่างสั่นเทิ้ม
น้ำหนึ่งตกใจมาก “พี่พลอย” ถลาเข้าไปหา
พลอยตาค้าง โกรธเพชร “อย่าเข้ามาใกล้ฉัน คนอย่างเธอมีหน้าที่ต้องชดใช้เพียงอย่างเดียวน้ำ
หนึ่ง ได้ยินมั้ย เธอต้องชดใช้...ชดใช้”
พลอยกรีดร้องจับตัวน้ำหนึ่งเขย่า อาละวาด อย่างขาดสติ น้ำหนึ่งเจ็บดิ้นรน
“ปล่อยค่ะพี่พลอยปล่อย”
พลอยไม่ปล่อย แถมเขย่าตัวน้ำหนึ่งแรงขึ้น ขณะเดียวกันมือไม้ของพลอยกเกร็งหงิกงอ สั่นกระตุก
ไปทั้งตัว พลอยชัก น้ำหนึ่งตกใจ
“พี่พลอยๆๆ”
ร่างของพลอยร่วงลงมาจากรถเข็น ทับทิมได้ยินเสียงร้องโวยวายวิ่งออกมา พอเห็นก็ตกใจ
“พลอยๆๆๆๆ”
ทับทิมวิ่งมาหาพลอยอย่างรวดเร็ว
ขณะที่น้ำหนึ่งยืนเนื้อตัวสั่น ตกใจ ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ งุนงง สับสน ในสิ่งที่กำลังเผชิญว่าคืออะไร?
ขณะที่ตาหวานทำความสะอาดบ้านอยู่คนเดียว กวาดสายตามองไปรอบๆ
“เกิดมาไม่เคยต้องอยู่คนเดียว น่ากลัวชะมัดเลย”
ตาหวานมองรอบๆก่อนจะหันมา แล้วก็ต้องสะดุ้งโหยงหลับหูหลับตาร้องกรี๊ด เอาไม้ขนไก่
ฟาดๆๆๆ เมื่ออลิสยืนอยู่
“แอร๊ยยยยผี”
อลิสทั้งหลบทั้งด่า “แอร๊ยย...เดี๋ยวตบหัวหลุด ผีที่ไหนจะสวยขนาดนี้”
ตาหวานจำเสียงได้ “คุณอลิส”
“ใช่...ฉันเองอลิส ผู้หญิงที่สวยที่สุด งามเลิศในปฐพี”
“ตาหวานไม่ได้เป็นกระจก มาบอกทำไมคะ”
“นังตาหวาน”
“อีกอย่าง....จะเข้าบ้านคนอื่น ทำไมไม่รู้จักให้สุ้มให้เสียง คุณอลิสไม่มีมารยาท”
“ต๊ายยยๆๆ” อลิสเอานิ้วจิ้มหน้าผาก “นังตาหวาน เดี๋ยวฉันตบตาหลุด มันจะมากเกินไปแล้ว
นะยะ ทำตัวยังกับเป็นเจ้าของบ้าน”
ตาหวานเชิดหน้าขึ้นท่าทางกวนๆ บอกแบบกะยั่ว แต่ลืมตัว “ก็ระหว่างที่คุณท่านอยู่โรงพยาบาล
ตาหวานถูกแต่งตั้งให้รักษาการณ์คฤหาสน์หลังนี้น่ะสิคะ”
อลิสตาโตตกใจ “ห๊ะ”
ตาหวานหัวเราะชอบใจ “ฮั่นแน่ะๆ ตกใจ คาดไม่ถึงล่ะสิคะ...แหงล่ะ..รักษาการณ์กับเจ้าของบ้าน
มันก็ครือๆ กัน”
อลิสจิ้มหน้าผากอีกจนตาหวานหงายเงิบ “ฉันไม่สนใจหรอกว่าแกจะรักษาการณ์ หรือเป็นขี้ข้า
ในบ้าน ตกลง...ที่น้ำหนึ่งหนีตามผู้ชาย..คุณอาต้องเข้าโรงพยาบาลเลยเหรอ”
ตาหวานรู้สึกตัว ว่าเผลอหลุดปากบอกอลิส รีบเอามือตบปากตัวเอง
“อุ๊ปส์”
อลิสมองแบบหมั่นไส้ “มะ..ฉันช่วยตบ”
พูดจบอลิสก็ตบปากตาหวานดังเพี๊ยะหมั่นไส้เต็มแก่ ตาหวานร้องลั่นเจ็บ วิ่งหนี อลิสยิ้มพอใจ
ตาวาว
อลิสเดินนวยนาดไปยังรถของตัวเองที่จอดอยู่หน้าบ้าน ขณะโทรศัพท์บอกนักข่าว
“พี่ตุ้มขา..อลิสมีข่าวจะบอก.. ..น้ำหนึ่ง ลูกสาวของท่านเกรียงศักดิ์ทำตัวเป็นสก๊อยหนีตาม
ผู้ชาย จนท่านเกรียงศักดิ์นอนแบ่บอยู่โพงพยาบาล เป็นหรือตายก็ไม่รู้ พี่ตุ้มลงพาดหัวตัวใหญ่ๆ เลยนะคะ” อลิสฟังปลายสายแล้วหัวเราะ “โอ๊ย...มีเรื่องสำคัญอลิสก็นึกถึงพี่ตุ้มเพียงคนเดียวล่ะค่ะ แค่นี้นะคะ”
อลิสวางสายแล้วกดโทร.ใหม่ “พี่จ๋าเหรอค้า...อลิสมีข่าวจะบอก...น้ำหนึ่ง ลูกสาวของท่านเกรียงศักดิ์ทำตัวเป็นสก๊อยหนีตามผู้ชาย...”
เห็นอลิสเปิดประตูขึ้นรถขับออกไป แต่ยังได้ยินเสียงอลิสหัวเราะแว่วมา
“โอ๊ย...มีเรื่องสำคัญอลิสก็นึกถึงพี่ตุ้มเพียงคนเดียวเท่านั้นล่ะค่ะ”
อลิสหัวเราะเริงร่าขณะขับรถออกไป
พลอยนอนอยู่บนเตียงแล้ว มีทับทิมนวดตามเนื้อตามตัวให้ เป็นห่วง
“พี่พลอยเป็นอะไรคะ”
ทับทิมมองอย่างหมั่นไส้ “ชัก...เธอไม่รู้จักคนชักรึไง”
น้ำหนึ่งก้มหน้า..กลัวสายตาของทับทิม ที่มองมาอย่างเกลียดชัง บอกเสียงอ่อย
“ทราบค่ะ ที่แต่ถาม น้ำหนึ่งหมายถึง...พี่พลอยเป็นโรคอะไรรึเปล่าคะ ถึงได้มีอาการแบบนี้”
ทับทิมตวัดเสียงใส่ “ประสาทไง!”
“ประสาท”
น้ำหนึ่งเบิกตากว้างมองทับทิม สายตาไม่เข้าใจ คำว่าประสาทหมายถึงทับทิมด่าตัวเองหรือ
พลอยเป็นจริงๆ ทับทิมมองหน้าน้ำหนึ่ง ยิ่งเห็นหน้าตาที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสายิ่งหมั่นไส้
“แถวนี้ไม่มีผู้ชาย..เธอไม่ต้องมาแอ๊บ” ทับทิมหมั่นไส้มาก ทำท่าเหมือนจะเข้ามาขย้ำ
น้ำหนึ่งก้มหน้า ทำตัวไม่ถูก ได้แต่บอกอ่อนน้อม “น้ำหนึ่งไม่ทราบจริงๆ ค่ะ”
“แล้วเธอคิดว่า..ผู้หญิงที่หน้าตาสะสวย อนาคตไกล แต่แล้ววันหนึ่งต้องกลายมาเป็นอัมพาต พิกลพิการ นอนแบ่บแต่อยู่บนเตียงแบบนี้ จะมีความสุขรึไง? เป็นใคร ก็ต้องประสาท”
ทับทิมมองน้ำหนึ่งเกลียดชัง น้ำหนึ่งบอกด้วยความเสียใจ
“น้ำหนึ่งเสียใจด้วยค่ะ”
“ฉันเองก็เสียใจ...แต่เสียใจที่พลอยมันเชื่อใจ ไว้ใจ คนที่มีภาพพจน์ที่สวยหรู แสนดี” ทับทิม กระแทกเสียงด่า “แต่ความจริงเลวแสนเลว”
น้ำหนึ่งก้มหน้าไม่เข้าใจ ทับทิมพูดเหมือนด่า จงเกลียดจงชัง ทับทิมมองพลอยเวทนา
“ไม่น่าเลยลูก...ไม่น่าเลยพลอย”
ทับทิมเสียงเครือ น้ำหนึ่งมองภาพสองแม่ลูกอย่างเห็นใจ สองคนนั่งเงียบ เป็นภาวะที่สุดอึด
อัดใจ เสียงทีวีที่เปิดอยู่ด้านนอกดังแว่วเข้ามา
“รมต.เกรียงศักดิ์ ถูกหามส่งรพ.ตั้งแต่คืนวานนี้ ว่ากันว่าสาเหตุมาจาก...ลูกสาวหนีตาม
แฟนหนุ่มเท็จจริงเป็นอย่างไร...เราจะเสนอข่าวเป็นลำดับต่อไป
น้ำหนึ่งหน้าซีดเผือดตกใจ
“พ่อ...” หันมาทางทับทิม “น้ำหนึ่งกลับเลยนะคะ ขอบคุณมากค่ะที่ให้ที่พัก”
น้ำหนึ่งเดินขากระเผลกออกไป แต่ทับทิมว่า
“มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ”
น้ำหนึ่งหันกลับมามอง ทับทิมมองน้ำหนึ่งเกลียดชังขณะบอก
“เพราะไอ้คนเลว ที่มันทำร้ายพลอย คือพ่อของเธอ”
“คุณพ่อ”
น้ำหนึ่ง ตกใจ คาดไม่ถึง
เกรียงศักดิ์นอนอยู่ในห้อง พักฟื้น มีดาราณี นวลเฝ้า ขณะที่นักข่าวรุมถามรอบเตียงเสียงเซ็งแซ่ สลับกับถ่ายรูปพรึ่บพรั่บ
“จริงหรือเปล่าครับท่าน?ที่ว่าลูกสาวท่านหนีตามผู้ชาย” นักข่าว 1 ถาม
นักข่าว 2 ถามต่อ “แหล่งข่าวบอกว่าผู้ชายคนนั้นเป็นกุ๊ย จริงหรือเปล่าคะ”
“ไม่จริง...ลูกสาวผมไม่ได้หนีตามใครทั้งนั้น”
“แต่แหล่งข่าวบอกว่าจริงแน่นอนร้อยเปอร์เซ็น บอกอีกด้วยผู้ชายคนนั้นชื่อเพชร ไม่มีอาชีพ
ไร้หลักแหล่ง เกาะผู้หญิงกิน จริงหรือเปล่าคะ”
ดาราณี นวล หน้าซีด เกรียงศักดิ์โมโห โต้นักข่าวไปมา
“พอผมบอกว่าไม่จริง พวกคุณก็ไม่เชื่อ อ้างแต่แหล่งข่าวๆ ถ้าเชื่อแหล่งข่าวขนาดนั้นก็ไป
ถามแหล่งข่าวไม่ต้องมาถามผม”
“ก็แหล่งข่าวยืนยัน บอกอีกด้วย พอท่านรู้ว่าลูกสาวหนีตามผู้ชาย ท่านตกบันได”
“ก็บอกแล้วไง ถ้าพวกคุณเชื่อแหล่งข่าว ก็ไปถามแหล่งข่าว ไม่ต้องมาถามผม”
ดาราณีรีบเข้ามาห้าม “ขอโทษนะคะ ท่านต้องการพักผ่อนค่ะ”
“ตกลงว่าท่านเป็น...”
เกรียงศักดิ์สวนขึ้นทันที โมโหมาก “ผมไม่ได้เป็นอะไร แค่หกล้ม พรุ่งนี้ก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว”
“ตกลงว่า..ลูกสาวท่านไม่ได้หนีตามผู้ชาย...แล้วคุณน้ำหนึ่งไปไหนคะ”
“เค้าไปเที่ยว เดี๋ยวก็กลับ...แค่นี้นะครับ ผมจะนอน”
พูดจบเกรียงศักดิ์ก็หลับตา ดาราณีบอกนักข่าว
“ให้ท่านพักผ่อนนะคะ...ขอบคุณค่ะ”
กลุ่มนักข่าวเดินออกไป แต่ก่อนไปก็หันมาถ่ายรูปพรึ่บพรั่บ ทันทีที่ประตูปิด เกรียงศักดิ์ก็ลืมตาขึ้น สีหน้าเครียดเคร่ง ทั้งโกรธ ทั้งโมโห
“ผมไม่เข้าใจ ทำไมน้ำหนึ่งถึงทำกับผมได้ขนาดนี้”
“ลูกแค่หลงผิดไป”
“หลงผิด โดยไม่คิดถึงหน้าพ่อหน้าแม่ ..ผมเกลียดไอ้เพชรนะเกลียดมันมาก แต่คนที่ผมทั้ง
เกลียดทั้งโกรธมากกว่าคือน้ำหนึ่ง ทำไมถึงได้ใฝ่ต่ำอย่างนี้”
เกรียงศักดิ์เสียงเครือ สะเทือนใจที่สุดในชีวิต
ฝ่ายน้ำหนึ่งที่ขายังเจ็บอยู่ วิ่งกระเซอะกระเซิงมาอย่างเสียขวัญ มาถึงตรงบริเวณหนึ่งในไร่บ้านเชิงเขา เสียงของทับทิมดังก้องในหู
“ไอ้คนเลว ที่มันทำร้ายพลอย คือพ่อของเธอ”
“ไม่จริง”
“จริง...และเธอก็ต้องรู้ ความเลวระยำของพ่อเธอ น้ำหนึ่ง”
น้ำหนึ่ง นึกถึงสิ่งที่ทับทิมเล่า ประมวลภาพความสัมพันธ์ของพลอยและเกรียงศักดิ์ ตามคำบอกเล่าของพลอย เกรียงศักดิ์ปล้ำ แล้วยังขับรถชนพลอย
น้ำหนึ่งน้ำตาไหลริน เสียใจ เสียงของพลอยดังก้อง
“คนอย่างเธอมีหน้าที่ต้องชดใช้เพียงอย่างเดียวน้ำหนึ่ง ได้ยินมั้ย เธอต้องชดใช้...ชดใช้”
น้ำหนึ่งน้ำตาไหลพราก เสียใจมาก และคาดไม่ถึง
เกรียงศักดิ์นอนนิ่งหน้าเครียด ดาราณีมองมาท่าทีเสียใจ ปลอบเสียงอ่อนโยน
“ฉันไม่อยากให้คุณโกรธลูก...ลูกยังเด็ก...ฉันยังยืนยัน ลูกต้องถูกผู้ชายคนนั้นล่อลวง”
“ผมรู้...ที่ผมพูดตอนนั้นเพราะผมโมโห คนผิด ยังไงก็เป็นไอ้เพชรอยู่ดี”
“ฉันอยากให้ลูกกลับมา”
“ผมให้คนไปตามหาแล้ว ถ้ารู้ว่าไอ้เพชรมันอยู่ที่ไหน ผมจะไปเอาน้ำหนึ่งกลับคืนมา”
เกรียงศักดิ์พูดด้วยน้ำเสียงปวดร้าว แต่ดวงตากร้าวบอกว่าเอาจริง
วันต่อมาเพชรอยู่ในคอนโดแต่งตัวเสร็จ เปิดประตูออกจากห้อง แต่ต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อประตูถูกผลักกลับเข้ามาพร้อมร่างชายฉกรรจ์สองคนที่ผลักเพชรเข้ามาในห้องจนล้มลง
“โอ๊ย”
มันสองคนไม่รอช้า ตรงเข้ามารุมเพชร ตะคอกถาม
“คุณน้ำหนึ่งอยู่ไหน” / “เอาคุณน้ำหนึ่งคืนมาเดี๋ยวนี้”
“บอกไอ้เกรียงศักดิ์ อย่ามายุ่งกับเมียฉัน”
คนของเกรียงศักดิ์ต่อยเข้าที่หน้าเพชรอีกพลางด่า
“บ๊ะ! ไอ้นี่ปากดี...ประเดี๋ยวได้ตายตรงนี้หรอก”
“เอาลูกสาวท่านคืนมา”
“บอกว่าอย่ามายุ่งกับเมียฉัน”
“ปากดีอย่างนี้ อุ้มมันไปหาท่านเลยดีกว่า”
ลูกน้องเกรียงศักดิ์ตรงเข้ามากระชากร่างเพชร เพชรฉวยโอกาส ผลักออก เตะเข้าที่ตัวคนของเกรียงศักดิ์
แล้ววิ่งหนีออกไปรวดเร็ว ลูกน้องเกรียงศักดิ์วิ่งตามพลางตะโกน
“อย่าหนีนะเว้ย อย่าหนี”
เพชรขับรถหนีมา ลูกน้องเกรียงศักดิ์ขับรถตาม เพชรขับหนีอย่างคล่องแคล่ว แต่ไม่ว่าจะไปทางไหน ลูกน้องเกรียงศักดิ์ก็ตามทัน
ระหว่างนั้นมีมอเตอร์ไซค์รับจ้างคันหนึ่งผ่านมา เพชรจอดรถเข้าที่ข้างทาง กระโจนซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์รับจ้าง หนีไปได้อย่างหวุดหวิด
เสียงโทรศัพท์ดังลั่นห้องรับแขกบ้านเชิงเขา ทับทิมเดินมารับสาย
“อะไรนะลูก เพชรลูกไล่ล่า”
เพชรจอดรถโทรศัพท์อยู่ตู้ข้างทาง บอกทับทิมด้วยเสียงเครียดจัด
“ครับแม่....ไอ้เกรียงศักดิ์มันให้คนมาอุ้มผม”
ทับทิมโกรธมากยิ่งขึ้น “อุ้ม ไอ้เกรียงศักดิ์ให้คนมาอุ้มลูก นี่มันจะฆ่าจะแกงกันเลยเหรอ”
น้ำหนึ่งเดินหน้าเศร้ามาได้ยินตกใจ ขณะที่เพชรบอกทับทิม
“มันจะเอาลูกสาวมันคืน...แต่แม่ไม่ต้องห่วง ถ้าแผนเรายังไม่สำเร็จ ผมไม่ปล่อยให้น้ำหนึ่งไปไหนทั้งนั้น ....นี่ผมก็มาหลบโทรศัพท์ กลัวมันจะตามเจอจากสัญญาณโทรศัพท์ของผมเมื่อเช้าก็ถือว่าโชคดีที่ผมย้ายทะเบียนบ้านมาอยู่คอนโด ไม่งั้นป่านนี้มันอาจตามไปเจอพี่พลอยแล้วที่บ้าน”
“ตอนเกิดเรื่อง แม่ถึงขนาดยอมย้ายบ้านหนี มาถึงป่านนี้แล้ว แม่ไม่มีทางยอมให้ไอ้เกรียง
ศักดิ์ตามมาเจอพลอยเด็ดขาด เพชรไม่ต้องห่วง ดูแลตัวเองนะลูก”
“ครับแม่....แล้วน้ำหนึ่ง”
“ไอ้เกรียงศักดิ์มันทำกับเราถึงขนาดนี้ ยังไงยัยน้ำหนึ่งก็ต้องชดใช้ในสิ่งที่พ่อมันทำ”
“ใช่...น้ำหนึ่งต้องชดใช้ในสิ่งที่ไอ้เกรียงศักดิ์มันทำ”
เพชรวางสาย ดวงตาแข็งกร้าวขึ้นมาใหม่ โกรธเกลียดเกรียงศักดิ์พาลมาถึงน้ำหนึ่ง
ทับทิมหันมา เห็นน้ำหนึ่งยืนหน้าซีดจ๋อยอยู่ ทับทิมมองมาอย่างเกลียดชัง
“เธอได้ยินหมดแล้วใช่มั้ย พ่อเธอให้คนมาอุ้มเพชร”
น้ำหนึ่งเสียงเครือ สั่น เสียใจทั้งเรื่องของพ่อและถูกหลอก “น้ำหนึ่งขอโทษค่ะ คุณพ่อคงโกรธ ที่น้ำหนึ่งหนีตามพี่เพชร แต่ถ้าน้ำหนึ่งกลับบ้าน ทุกอย่างก็จะจบ”
“จบ มันจะจบง่ายอย่างนี้เชียวเหรอ น้ำหนึ่ง”
ทับทิมตรงมากระชากแขนน้ำหนึ่งอย่างแรง น้ำหนึ่งร้องด้วยความเจ็บปวด ขณะที่ทับทิมกระชากแขนลากน้ำหนึ่งมาสุดแรง
“มานี่...เธอมานี่”
น้ำหนึ่งร้องเจ็บปวด ทับทิมไม่สะใจ ลากอย่างแรง ด้วยความเกลียดชัง
ร่างน้ำหนึ่งถูกลากไปยังสวนหลังบ้าน น้ำหนึ่งร้องอย่างเจ็บปวด ทับทิมตะคอก
“นั่นเธอดูนั่น”
น้ำหนึ่งมองตามทับทิม เห็นเป็นพลอยกำลังฝึกทำกายภาพบำบัดบนลู่ทาง เดินด้วยตัวเอง สีหน้าพลอยเจ็บปวด พลอยล้ม แต่กัดฟันลุก สุดแสนทรมาน แต่พลอยไม่ท้อ ลุกขึ้นมาใหม่ แต่ก็ต้องลุกลงอีก เพราะร่างกายไม่แข็งแรง ขายังใช้การไม่ได้ ทับทิมมองพลอยด้วยความสงสาร
“เธอดู...พลอยถูกข่มเหงรังแกจนต้องอยู่ในสภาพเมียเก็บเมียน้อยให้แม่เธอมาย่ำยีไม่พอ พ่อเธอยังทำให้พลอยเป็นอัมพาตอีก” ทับทิมหันมามองน้ำหนึ่ง “แล้วเธอยังจะไป มันไม่ง่ายไปเหรอน้ำหนึ่ง มันไม่ง่ายไปเหรอ”
ทับทิมจิกทึ้งร่างน้ำหนึ่งไว้ น้ำหนึ่งร้องไห้ พลอยหันมามอง ทับทิมลากน้ำหนึ่งเข้าไปหาพลอย
“เธอดู...เธอดูให้เต็มตา สภาพลูกสาวฉัน มันทุเรศทุรังขนาดไหน”
ทับทิมผลักน้ำหนึ่งอย่างแรง จนร่างน้ำหนึ่งล้มลงตรงหน้าพลอย
พลอยจดสายตามองหน้าน้ำหนึ่งเขม็ง น้ำหนึ่งผงะ หน้าตาที่เปียกซ่กไปด้วยเหงื่อของพลอย กอปรกับดวงตาที่แข็งกร้าวเย็นชา ยิ่งดูน่ากลัว เหมือนคนเป็นโรคจิต มือพลอยมาตะปบที่ไหล่สุดแรง น้ำหนึ่งสะดุ้งเฮือก พลอยถามเสียงเย็น
“สภาพของฉันมันทุเรศมากใช่มั้ย”
พลอยจ้องเขฒ้ง น้ำหนึ่งตัวสั่น พลอยบีบที่หัวไหล่ของน้ำหนึ่งแรงมากขึ้น
“ตอบฉันมา...สภาพของฉันมันทุเรศมากใช่มั้ย”
“ไม่ค่ะพี่พลอย ไม่”
“ไม่ต้องมาพูดดี สายตาเธอบอกว่ากลัวฉัน รังเกียจฉัน...ใช่ซี้ ฉันมันเป็นคนพิการ ง่อย
เปลี้ยเสียขา แต่ที่ฉันเป็นอย่างนี้เพราะพ่อของเธอ พ่อของเธอ”
พลอยที่ยังล้มลุกอยู่ที่พื้น ออกแรงกดน้ำหนึ่งลงมา ตะโกนก้อง
“พ่อของเธอ ไอ้เกรียงศักดิ์มันทำให้ฉันเป็นอย่างนี้”
“ไม่...ไม่จริง คุณพ่อเป็นคนดี”
พลอยมองหน้า ไม่กรี๊ดแต่แค้น “งั้นแกหมายความว่าฉันเป็นคนเลวเหรอนังน้ำหนึ่ง” พลอยขย้ำ
คอน้ำหนึ่ง “แกด่าว่าฉันเป็นคนเลวเหรอ”
พลอยจิกผมน้ำหนึ่ง กระชากให้แหงนเงยขึ้น น้ำหนึ่งกลัวจนตัวสั่น ร้องไห้อย่างน่าเวทนา
“เปล่าค่ะพี่พลอย..เปล่า....คุณพ่ออาจไม่ได้ตั้งใจ”
“ใช่...พ่อเธอไม่ได้ตั้งใจ ฉันถึงได้ตกอยู่ในสภาพนี้ไง เธอต้องชดใช้ให้ฉัน ได้ยินมั้ยน้ำหนึ่ง เธอต้องชดใช้ให้ฉัน”
พลอยออกแรงจิกผมน้ำหนึ่งแรงมากขึ้น น้ำหนึ่งได้แต่ร้องโอดโอย ถามพลอย
“แล้วพี่พลอยจะให้น้ำหนึ่งชดใช้ยังไงคะ”
“เธอก็ต้องเป็นเมียน้อยเมียเก็บเพชร เหมือนกับที่พ่อเธอทำกับฉัน”
น้ำหนึ่งหน้าซีดเผือด ตื่นตกใจ และหวาดกลัว ขณะที่พลอยเขย่าร่างของน้ำหนึ่งแรงอีกตะโกนใส่หน้า
“เธอก็ต้องเป็นเมียน้อยเมียเก็บเพชร เหมือนกับที่พ่อเธอทำกับฉัน”
น้ำหนึ่งร้องกรี๊ดแล้วหมดสติไป
ส่วนดาราณีประคองเกรียงศักดิ์เข้าไปในบ้าน มีนวลกับตาหวานตามหลัง เกรียงศักดิ์ถามคนของ
ตัวเองที่มารายงาน
“ตกลงไอ้เพชรมันหนีไปได้”
“ครับท่าน...แต่ผมสืบดูแล้วทะเบียนบ้านมันอยู่ที่คอนโด ยังไงมันก็ต้องกลับมา” ลูกน้องบอก
“แล้วมันจะกลับมาเมื่อไหร่?”
ลูกน้องเงียบ เกรียงศักดิ์บอก
“ไปสืบมา ไอ้เพชรมันพาน้ำหนึ่งไปอยู่บ้านญาติโกโหติกาคนไหน ฉันจะไปลากตัวมันเอง”
เกรียงศักดิ์พูดเสียงเกรี้ยวกราดเพราะโกรธจัด ดาราณีกับนวลนิ่งเห็นด้วย ตาหวาน ไม่สบายใจห่วงน้ำหนึ่ง
ด้านน้ำหนึ่งนอนร้องไห้อยู่ในห้อง เสียงของพลอยดังก้อง
“เธอก็ต้องเป็นเมียน้อยเมียเก็บเพชร เหมือนกับที่พ่อเธอทำกับฉัน”
สีหน้าของน้ำหนึ่งหวาดกลัว หวาดระแวง ไม่รู้จะทำอย่างไรกับตัวเองดี ทันใดนั้นประตูก็
เปิดผลัวะเข้ามา ตามด้วยร่างของเพชร หน้าตาของเพชรดุดัน น้ำหนึ่งถอยหลังกรูด
“อย่าทำอะไรน้ำหนึ่งนะพี่เพชร”
เพชรมองด้วยสายตาเฉยเมย “สายไปแล้วน้ำหนึ่ง”
เพชรเดินเข้ามาหา น้ำหนึ่งถอยหลัง
“อย่า...”
เพชรไม่พูดอะไรนอกจากกระชากร่างของน้ำหนึ่งเข้ามา ปล้ำจูบก่อนผลักน้ำหนึ่งลงบนเตียง
“อย่าพี่เพชรอย่า...” น้ำหนึ่งทุบอกเพชรผลักออก “ปล่อยน้ำหนึ่งนะ ปล่อย”
“ไม่ปล่อย เธอต้องเป็นของฉัน”
น้ำหนึ่งมองจ้องหน้า ทั้งเสียใจ โกรธ และผิดหวัง “พี่เพชร”
เพชรมองอย่างโลมเลีย ค่อยๆ เอามือจับคางน้ำหนึ่งเชยขึ้น
“แต่อย่าหวังว่าจะได้เป็นเมียแต่ง น้ำหน้าอย่างเธอเป็นได้แค่เมียเก็บเท่านั้น”
พูดจบเพชรก็ปลุกปล้ำน้ำหนึ่งทันที น้ำหนึ่งได้แต่ร้องไห้โฮ ร้องตะโกนออกมา
“อย่า..พี่เพชรอย่า น้ำหนึ่ง รักพี่เพชร อย่า”
ติดตาม "มารกามเทพ" ตอนที่ 5