ลูกไม้หลากสี ตอนที่ 19
ทางฝ่ายสุทินเยาะเย้ย ถากถางสุตาภัญเรื่องชนกชนม์เป็นการใหญ่
“ฉันไม่มีวันยอมรับขี้ยามาเป็นลูกเขย! ฉันเตือนพวกเธอแล้วอย่าไปยุ่งกับมัน เธอก็ไม่ฟังฉัน แล้วเป็นไง มันติดยา ต้องไปรับการบำบัด”
“ใช่ค่ะ..ชนม์ติดยา ชนม์ไม่ดี แต่คนไม่ดีก็มีโอกาสแก้ตัวไม่ใช่เหรอคะ คนเราผิดพลาดกันได้ ตาก็ผิดพลาดที่ไม่เชื่อฟังคำเตือนคุณพ่อ”
เสาวนิตย์ตัดสินใจเข้ามาพูดเสริมสุตาภัญ
“ฉันก็ผิดพลาด ที่ดูแลลูกไม่ดี ไม่สามารถให้คำปรึกษาลูกได้ และความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ ฉันอ่อนแอเกินไป ไม่กล้าคัดค้านในเวลาที่ฉันไม่เห็นด้วยกับคุณ”
สุทินโมโห ที่เสาวนิตย์กล้าพูดขัดตน หันมาต่อว่าและไล่ตะเพิดสุตาภัญ
“ฉันก็ผิดพลาด ที่ปล่อยให้เธอพูดเพ้อเจ้อ หลอกด่าฉัน กลับไปได้แล้ว!”
“คุณพ่อรับน้องกลับบ้านนะคะ” สุตาภัญขอร้อง
“ไม่มีใครมาสั่งฉัน! ฉันคิดตัดสินใจเองได้”
สุตาภัญจนหนทางจึงไหว้ลาพ่อและแม่ เสาวนิตย์จะเดินตามสุตาภัญไป สุทินสั่ง
“เธอไม่ต้องไปส่ง”
เสาวนิตย์ผิดหวังและไม่พอใจที่สุทินยังคงใจแข็งดื้อด้าน จึงเดินตามสุตาภัญออกไป สุทินฉุนจัด ที่เสาวนิตย์ขัดคำสั่ง
สุตาภัญจะกลับ เดินออกไป เสาวนิตย์เข้ามาบอก
“ตารอแม่ด้วย แม่จะไปเก็บเสื้อผ้า แม่จะไปอยู่กับลูก”
“คุณแม่...”
“ลูกคงลำบากมาก แม่จะไปช่วยดูแลลูกดูแลน้อง น้องท้องหลายเดือนแล้ว ต้องมีคนช่วยดูแล”
สุตาภัญตื้นตัน ซาบซึ้งใจ “อย่าเลยค่ะแม่...แม่ไปแล้วใครจะดูแลคุณพ่อ”
“ลูกไม่โกรธคุณพ่อ”
“ตายอมรับที่ผ่านมาตาไม่พอใจ แต่พอตาได้ใช้ชีวิตด้วยตัวเอง ต้องดูแลน้อง ตาเข้าใจแล้วว่าคนที่ต้องรับผิดชอบชีวิตคนอื่นแบกภาระหนักแค่ไหน...ตาเข้าใจคุณพ่อค่ะ”
เสาวนิตย์ดีใจที่สุตาภัญเข้าใจสุทิน
“แม่เป็นห่วงลูก”
“ตายังพอดูแลน้องได้ มีชนม์คอยช่วยอีกคน”
“แม่จะอยู่ที่นี่ คอยช่วยพูดให้คุณพ่อใจอ่อน...รับลูกกลับบ้าน...เราจะได้มาอยู่พร้อมหน้ากัน”
เสาวนิตย์กอดให้กำลังใจสุตาภัญ
ชลนิภานอนลืมตาอยู่บนเตียง ธนกรถือถาดอาหารเดินเข้ามา
ชลนิภาแปลกใจคุณยังไม่กลับไปอีก!
“จะให้ผมไปไหน ที่นี่เป็นบ้านผม ทานอาหารเถอะ จะได้ทานยา”
ชลนิภาอึ้ง งวยงง “คุณหายโกรธฉันแล้ว”
“ผมจะโกรธคุณได้ไง เราไม่ใช่คนแปลกหน้า เราเป็นคู่ชีวิต เรามีสิทธิ์ที่คิดเห็นต่าง แต่เรายังรักกัน”
ชลนิภาเต็มตื้นที่ธนกรยังรักตนอยู่
“ชวนผมคุย...เดี๋ยวเลยเวลาทานยานะ”
ธนกรตักอาหารป้อน ชลนิภามองหน้าด้วยความซึ้งใจ ตั้งใจทานอาหาร ธนกรตักอาหารให้อีก ชลนิภาซึ้งใจน้ำตาไหล
“ขอบคุณมากนะคะที่ให้อภัยฉัน”
ธนกรยิ้ม แล้วตักอาหารให้ แป๋วเข้ามาบอกชลนิภา
“คุณผู้หญิงคะ มีแขกมาหาค่ะ”
ธนกรและชลนิภาแปลกใจ
“ผมไปดูเอง คุณทานอาหารเถอะ”
ธนกรส่งอาหารให้ชลนิภาแล้วออกไป ชลนิภาสงสัยว่าใครมา
ธนกรเดินลงมา เจอณวัตรนั่งรออยู่ตรงโถง
“สวัสดีครับคุณณวัตร”
“ผมมีเรื่องสำคัญต้องคุยกับคุณชลนิภา”
“ภรรยาผมป่วยนอนพักรักษาตัว มีอะไรคุยกับผมได้เลย”
“ผมเข้าเรื่องเลยแล้วกัน ชนกชนม์ ลูกชายคุณทำลูกสาวผมท้อง”
ธนกรตกใจ หันไปมองชนิกานต์เป็นเชิงถาม
“มีเรื่องเข้าใจผิดรึเปล่าครับ ผมไม่ได้เข้าข้างชนกชนม์ แต่ผมรู้จักนิสัยแกดี ชนกชนม์ไม่เคยทำพฤติกรรมเสียหาย” ธนกรว่า
“คุณจะปัดความรับผิดชอบไม่ได้ ลูกสาวผมเป็นคนบอกเอง” ณวัตรฉุน พูดอย่างเอาเรื่อง
ธนกรหันไปถามชนิกานต์
“เป็นความจริงเหรอหนูนิกกี้?”
ชนิกานต์กลัวณวัตร จำต้องโกหก “ค่ะ”
“ผมคิดว่าควรให้ความเป็นธรรมกับชนกชนม์ ผมจะเรียกชนกชนม์มาคุยเรื่องนี้”
ชนกชนม์เดินเข้ามาหาทุกคนพอดี
“ผมขอรับผิดชอบนิกกี้เองครับ!”
ทุกคนหันไปมองชนกชนม์ ชนิกานต์รู้สึกผิดที่ต้องให้ชนกชนม์รับบาป
สองสาวอยู่ที่ห้องพัก สุตาภัญรู้ความจริงจากสุรัมภาก็ตกใจ
“ภาคิดดีแล้วใช่ไหม”
“ค่ะ...อย่างน้อยพี่นิกกี้มีคำตอบให้คุณพ่อได้”
“แล้วภาล่ะ”
“ช่างมันเถอะพี่ตา...ภาดูแลตัวเองได้ แล้วที่สำคัญ..ภามีพี่สาวที่รักภา ขอมีใครสักคนรักเราแค่คนเดียว ภาก็มีความสุขแล้ว”
“พี่ขอให้ความดี ความเสียสละของภา ส่งผลดีให้ภาพบเจอสิ่งที่ดี นับจากนี้ต่อไป”
สุตาภัญกอดสุรัมภา ซึ้งใจที่น้องสาวเข้มแข็งขึ้นมาก และยังรู้จักการเสียสละ
ขณะเดียวกันทั้ง 4 คน อยู่ในห้องโถง ณวัตรถามชนกชนม์
“นายยอมรับก็ดีแล้ว...ฉันต้องการให้นายแต่งงานกับลูกสาวฉันให้เร็วที่สุด”
“นิกกี้ยังเรียนอยู่นะคะ นิกกี้แต่งงานไม่ได้” ชนิกานต์ท้วง
“ไม่ต้องเรียนแล้ว...พ่อไม่ยอมให้ลูกอุ้มท้องไปเรียน ให้คนนินทาว่าพ่อเลี้ยงลูกไม่ดี...ยังไงก็ต้องแต่ง!”
“ผมขอเวลาสักระยะหนึ่งครับ รอให้คุณแม่หายดีก่อน ผมไม่อยากให้คุณแม่ทุกข์ใจ เครียดมากไปกว่านี้”
ณวัตรจ้องหน้าชนกชนม์ “ฉันจะเชื่อใจเธอได้ไง ว่าเธอไม่ต่อรองหนีปัญหา”
“ขอให้เชื่อใจผม...ผมรับปากจะจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด”
ณวัตรเห็นว่าธนกรรับปากก็คลายความกังวลใจ ชนิกานต์มองชนกชนม์ รู้สึกผิดที่โยนความผิดให้ชนกชนม์
ชลนิภาอยู่บนเตียงในห้องนอน ถามคาดคั้นแป๋ว
“บอกฉันได้รึยังว่าใครมาหาฉัน”
แป๋วอึกอัก “คือ...”
ชลนิภาขึ้นเสียง “นังแป๋ว”
“คุณณวัตรกับคุณหนูนิกกี้ค่ะ”
“มาหาฉันเรื่องอะไร”
“คือว่า…”
“อ้ำอึ้งอยู่นั่นแหล่ะ ฉันไปดูเอง”
ชลนิภาอารมณ์เสีย ตัดสินใจลุกออกจากเตียง จะลงไปดูเอง ธนกรเดินเข้ามาในห้อง
“คุณนอนพักเถอะ เขากลับไปแล้ว”
“มีเรื่องอะไรคะ” ชลนิภาสงสัยหนัก
“คุณณวัตรทราบข่าวว่าคุณป่วย พาลูกสาวมาเยี่ยม ผมบอกว่าคุณยังไม่แข็งแรง.. ขาก็ฝากกระเช้าเยี่ยม อยู่ด้านล่าง”
ชลนิภาต่อว่าแป๋ว “เรื่องแค่นี้ต้องปิดฉัน มันน่านักนังแป๋ว”
“แป๋วขอโทษค่ะ อยากทำให้คุณผู้หญิงตื่นเต้น จะได้หายไวไว” แป๋วจ๋อย
ธนกรเข้าไปห่มผ้าให้ชลนิภา ภายในใจกังวลใจเรื่องชนกชนม์
ชนกชนม์เดินออกมาส่งณวัตรและชนิกานต์ที่หน้าคฤหาสน์ชลนิภา
ชนกชนม์ยกมือไหว้ณวัตร
ณวัตรไม่รับไหว้แล้วเดินไปที่รถ ชนิกานต์หันมาบอกชนกชนม์
“ชนม์ฉันขอโทษ ฉันไม่มีทางออกจริงๆ”
“ฉันเข้าใจ...แต่ฉันคงช่วยเธอได้เฉพาะหน้า เธอต้องคุยกับธีให้ได้ ยังไงเธอก็ปิดเรื่องนี้ไม่ได้แน่ เขาเป็นสายเลือดของธี”
ชนิกานต์เข้าใจคำแนะนำชนกชนม์
“ฉันขอบใจนายมากนะ”
ชนิกานต์ขอบใจชนกชนม์ แล้วเดินไปขึ้นรถออกไป ชนกชนม์รู้สึกเครียดกับปัญหาที่ต้องแบกรับ
ชยางกูรพาเพทายซึ่งเมาปลิ้น ออกจากผับ มาหยุดอยู่มุมหนึ่งในลานจอดรถ
“ฉันเลวเชี๊ยกับแก แกยังมีน้ำใจเลี้ยงเหล้า..แกได้ใจฉันมากว่ะ”
“แกทำให้ฉันได้ประสบการณ์ชีวิตที่ดี ฉันแกร่งขึ้นมาก...แกจำได้ไหม แกเคยด่าว่าฉันยังไง”
“จำได้สิวะ ไอ้หน้าตัวเมีย มีปัญหาก็ให้คนอื่นช่วย ไม่เคยทำอะไรได้ด้วยตัวเอง ไอ้หน้าตัวเมีย!”
เพทายยิ้มชี้หน้าชยางกูรขำๆ ชยางกูรต่อยหน้าเพทายเต็มหมัด
เพทายตกใจ “แก!”
“มันเป็นอดีตแล้วเพื่อน วันนี้ฉันจะซัดแกตัวต่อตัว แล้วแกจะรู้ว่าฉันแกร่งแค่ไหน”
ชยางกูรต่อยเพทายเป็นชุด เพทายจะสู้แต่สู้ไม่ไหวเพราะเมาแทบยืนไม่อยู่
“ไอ้เชี๊ย... หลอกมอมเหล้ากู”
“มันยังน้อยไป ที่แกหลอกฉันเข้าบ่อน ทำลายชีวิตฉัน ไอ้สารเลว”
ด้วยแรงแค้นชยางกูรต่อยเพทายไม่ให้ตั้งตัว ซัดอย่างจัดหนัก จนเพทายล้มกองกับพื้น
“ถึงเวลาเคลียร์บัญชีแล้ว”
ชยางกูรล้วงเอาโทรศัพท์ของเพทายออกมา แล้วกดโทร.หาตำรวจ
“คุณตำรวจ ผมชื่อเพทาย มีการเปิดบ่อน มันใช้ผับบังหน้า...”
ชยางกูรโทร.แจ้งตำรวจ บอกรายละเอียดเรื่องบ่อนปรัชญา
ปรัชญาอยู่ในออฟฟิศที่บ่อน ถามลูกน้อง
“ชยางกูรมันไปไหน”
“มันพาเพทายออกไปกินเหล้าครับเฮีย”
ปรัชญาสงสัย “มันกัดกัน แล้วทำไมถึงยังดีกับเพทาย”
ลูกน้องอีกคนวิ่งหน้าตื่นเข้ามาบอกปรัชญา
“เฮียครับ ตำรวจมา”
ปรัชญาตกใจ...สั่งลูกน้อง
“รีบขวางไว้”
ปรัชญาวิ่งหนีไปที่ห้องทางลับอย่างว่องไว ลูกน้องตามประกบปรัชญา
ตำรวจบุกเข้าไปในบ่อน ลูกน้องปรัชญาเข้าต่อสู้ ตำรวจเตะต่อย แล้วล๊อคจับตัวไว้ทุกคน
นักพนันวิ่งหนี ตำรวจสกัดจับไว้ได้ ตำรวจบุกเข้ามาทลายบ่อน ขาพนันวิ่งหนีตำรวจอลหม่าน ตำรวจดักไว้ทุกทาง ทุกคนนอนหมอบ มอบตัว
ส่วนปรัชญาและลูกน้องอีกคนจะวิ่งหนีออกไปจากบ่อน ตำรวจเข้ามาสกัดจับไว้ได้ ปรัชญาถูกตำรวจเข้าล็อคตัว ชยางกูรยืนมองอยู่ที่มุมหนึ่ง
“ฉันบอกแล้วไง ฉันจะใช้หนี้แก”
ชยางกูรเหยียดยิ้มสะใจที่ได้แก้แค้นปรัชญา
เช้าวันนี้ บรรยากาศสดชื่นแจ่มใส สุตาภัญเดินเข้ามาในวัด ก้าวมายืนเคียงข้างกับชนกชนม์ที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว สุตาภัญเอ่ยแซวขึ้นก่อน
“ใครกันเอ่ย? บอกว่าวัดเป็นที่ของคนแก่”
ชนกชนม์ยิ้มรับหน้าเป็น ยกมือขึ้นถามคืน
“ใครกันเอ่ย? สอนว่าวัยรุ่นวัยมีปัญหาควรเข้าวัด”
สุตาภัญยิ้ม ยกมือขึ้น
“ใครกันเอ่ย? เชื่อคนง่าย”
ชนกชนม์ยิ้มแฉ่ง ยกมือขึ้น
“ใครกันเอ่ย? ชวนมาง่ายจัง”
สุตาภัญยิ้ม ยกมือขึ้นจะพูดอีก ชนกชนม์รีบเบรค
“พอแล้ว”
สุตาภัญและชนกชนม์มองหน้าหัวเราะให้กัน
“เธอว่าหน้าฉันมืดไหม”
“มืดทั้งตัวเลยล่ะ”
“ตลกล่ะ...ช่วงนี้เหมือนมีเคราะห์ เจอแต่ปัญหา...อยากไหว้พระทำบุญ”
“ก็ดี...ฉันก็อยากทำบุญให้ใจสงบบ้าง”
สองคนนั่งพับเพียบอยู่ตรงหน้าพระประธานในโบสถ์ ชนกชนม์ก้มกราบพระ สุตาภัญกราบอยู่ข้าง ทั้งสองคนกราบพระเสร็จ นั่งมองพระประธาน ด้วยใจอิ่มสุข
ด้านชนิกานต์กำลังเดินตรงไปยังห้องณวัตร กฤติยาเดินเข้ามาถาม
“นิกกี้ เธอจะไปไหน”
“ฉันจะไปบอกความจริงกับคุณพ่อ”
ชนิกานต์เดินออกไป กฤติยานึกได้ รีบเดินตาม เข้าไปห้าม
“เธอเปลี่ยนใจแล้ว”
“ฉันละอายใจที่โยนบาปให้ชนม์ ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้เกี่ยวข้อง เขาเป็นเพื่อนที่ดี แต่ฉันกลับทำร้ายเขา”
“ฉันเห็นด้วยกับเธอ”
ชนิกานต์จะเดินไปยังห้องณวัตร แต่กฤติยารั้งไว้
“คนที่ต้องบอกเรื่องนี้ไม่ใช่เธอ” กฤติยาว่า
ชนิกานต์แปลกใจ
“ธีรดนย์เป็นผู้ชาย ควรแสดงความรับผิดชอบ! ฉันจะไปเกลี้ยกล่อมให้เขายอมรับ พูดความจริง”
ชนิกานต์รู้สึกดีใจที่กฤติยาจะช่วยพูด
“ขอบใจมากนะ”
“เพื่อนต้องช่วยเพื่อน”
ทั้งสองจับมือกัน ชนิกานต์รู้สึกดีมากที่กฤติยาคอยช่วยเหลือยามมีปัญหา จังหวะนั้นกัณฐิกาเดินมาที่มุมหนึ่ง แปลกใจว่าสองคนคุยอะไรกัน
ชนกชนม์เดินออกมาจากโบสถ์ สุตาภัญเดินเข้ามา แล้วใช้ดอกกุหลาบจุ่มลงในขันน้ำมนต์ ประพรมน้ำมนต์ให้ชนกชนม์ ชนกชนม์ยิ้มกริ่ม ยืนให้สุตาภัญประพรมอีก
สุตาภัญประพรมน้ำมนต์ให้ชนกชนม์ โดยเดินประพรมไปรอบๆ ตัวชนกชนม์ ชนกชนม์ยิ้มอย่างมีความสุข
“ฉันไม่รู้หรอกนะ ว่ามันช่วยให้ชีวิตนายดีขึ้นรึเปล่า”
“ต้องได้สิ...อย่างน้อยฉันมีกำลังใจมากขึ้น และฉันก็ได้รับน้ำใจจากเธอ เอาอีก”
ชนกชนม์ยิ้มรอให้สุตาภัญประพรมอีก สุตาภัญแกล้งเอาน้ำมนต์รด ชนกชนม์ไม่หนี
“ชื่นใจ...เอาอีก”
“เดี๋ยวพาไปสุขให้สุดๆ”
สุตาภัญพาชนกชนม์ออกไปที่มุมหนึ่งของวัด
ส่วนธีรดนย์นั่งขดตัวอยู่ที่มุมหนึ่งในห้อง ทุกข์ใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ธีรดนย์ผวา แปลกใจ
“เปิดประตู ฉันรู้ว่านายอยู่ข้างใน”
ธีรดนย์นั่ง ไม่กล้าเปิดประตูออกไป
“ฉันบอกให้เปิดประตู! เลิกหดหัวอยู่ในกระดอง ถ้านายยังเป็นลูกผู้ชาย นายต้องกล้าเผชิญหน้ากับความจริง!”
กฤติยาเคาะประตูอีก ประตูเปิดออก
ธีรดนย์มองหน้ากฤติยา ทำตัวไม่ถูก กฤติยาดึงมือธีรดนย์ออกไป
ธีรดนย์งง “เธอจะพาฉันไปไหน”
ฝ่ายสุตาภัญส่งถ้วยใส่เหรียญจำนวนมากให้ชนกชนม์ จากนั้นสุตาภัญเดินหยอดเหรียญทำบุญในบาตรพระ ชนกชนม์เดินตาม แล้วหยอดเหรียญ ชนกชนม์และสุตาภัญสุขใจที่ได้ร่วมทำบุญ
ชนกชนม์และสุตาภัญช่วยกันทำความสะอาด บริเวณจุดธูปเทียนบูชาพระ ช่วยกันขูดครอบน้ำตาเทียน เช็ดปัดกวาดเศษธูป
จากนั้นชนกชนม์ช่วยกวาดลาดวัด สุตาภัญเข้ามาเอาน้ำมาให้ ชนกชนม์ดูดน้ำจากขันเดียวกับสุตาภัญ ยิ้มแฉ่งความสุข
กฤติยาลากตัวธีรดนย์จะพาเข้าไปในบ้าน ธีรดนย์สะบัดตัวออก
“นายต้องไปบอกความจริงกับคุณอาณวัตร”
“ไม่ ฉันบอกไม่ได้”
“นิกกี้ยอมปกป้องนาย ชนม์เสียสละเพื่อนาย แล้วนายล่ะ นายทำอะไรเพื่อคนอื่นบ้าง”
ธีรดนย์เสียใจ ร้องไห้ออกมา กฤติยาต่อว่าธีรดนย์อีก
“นายเคยเรียกร้องศักดิ์ศรีความเป็นคน น้อยเนื้อต่ำใจเกิดมาเป็นคนใช้ ถูกโขกสับไม่ได้รับเกียรติ มันไม่ใช่แค่ฐานะที่นายเป็น แต่สิ่งที่นายทำต่างหาก เรียกว่าไร้ศักดิ์ศรี! นายเป็นคนที่เห็นแก่ตัวที่สุดในโลก!”
ธีรดนย์สะเทือนใจ ร้องไห้ เถียงไม่ออก
“ในเมื่อนายไม่กล้า ฉันจะพูดเอง”
กฤติยาจะออกไป ธีรดนย์เข้ามากอดไว้
“ไม่นะ เธอรักฉัน เธอต้องช่วยฉัน”
กฤติยาตกใจที่ธีรดนย์พูดเรื่องนี้ขึ้นมา
ฝ่ายกัณฐิกาออกตามหากฤติยา ชนิกานต์มาขวางไว้
“ออกไป ฉันจะไปหายัยแอน เธอใช้ให้หลานฉันไปทำอะไร”
“ไม่ต้องยุ่งเรื่องของฉัน! เราตกลงไม่ยุ่งเกี่ยวกันแล้วเรา ต่างคนต่างอยู่”
“ฉันอยู่ของฉัน ถ้าเธอไม่บังคับหลานฉัน”
กัณฐิกาจะเดินตามหากฤติยา ชนิกานต์ผลักไม่ให้ไป
“ฉันบอกแล้วไงอย่ายุ่ง!”
“มีชนักติดหลังยังกล้าทำร้ายฉัน! ท้องไส้ก็เจียมตัวซะ!”
กัณฐิกาตบหน้าชนิกานต์ฉาดใหญ่ ชนิกานต์ไม่พอใจตบกลับ
“ฉันท้อง แต่ไม่ได้ง่อย ฉันเคยบอกแล้วไม่จำ ความแรงมันต่างกัน”
“ฉันมันก็พวกแรงดีไม่มีตก!”
กัณฐิกาพุ่งเข้าไปตบทันควัน ชนิกานต์ตอบโต้ ทั้งสองล้มลงไปด้วยกัน
ลูกไม้หลากสี ตอนที่ 19 (ต่อ)
ฟากธีรดนย์กำลังออดอ้อนขอร้องกฤติยา
“มีเธอเพียงคนเดียว....ที่รักฉัน”
“ปล่อยฉัน...อย่าทำอย่างนี้”
“แอน..เธอเป็นเพื่อนที่ดี เธอเข้าใจฉันมากที่สุด ฉันเองก็รักเธอ”
กฤติยาอึ้ง
“เธอต้องช่วยฉัน ช่วยฉันนะ”
ธีรดนย์สวมกอดกฤติยาแน่น กฤติยาเริ่มใจอ่อน ธีรดนย์ลูบไล้ตัวกฤติยา
ด้านชนิกานต์ตบตีกัณฐิกาพัลวัน กัณฐิกาพลิกมาเหนือกว่าจะตบ แต่นึกได้ว่าชนิกานต์ท้อง จึงหยุดทันที รีบลุกขึ้น
“รักษาชีวิตดูแลลูกให้ดี อย่ามาแรงใส่ฉันอีก!”
ชนิกานต์ไม่พอใจ “ฉันบอกคุณพ่อว่าแอนเป็นลูกสาวแท้ๆ ของแก”
กัณฐิกาตกใจ “อย่านะ เราตกลงกันแล้ว เธอปิดเรื่องฉัน ฉันปิดเรื่องเธอ!”
ชนิกานต์เยาะ “เรื่องของฉันมันไม่เป็นความลับอีกต่อไป แต่เรื่องของแก! ทำให้พ่อฉันเดือดดาลไล่แกออกจากบ้าน!”
กัณฐิกาเหยียดยิ้ม “คิดเหรอว่าคุณณวัตรจะฟังเธอ...เธอทำให้เขาหมดหวัง ผิดหวังและเลิกไว้ใจเธอแล้ว คำพูดของเธอเป็นเพียงคำโกหก”
ชนิกานต์กังวลใจ กลัวณวัตรจะไม่ฟังเธอกัณฐิกาเดินตรงไปเพื่อตามหากฤติยา
“ยัยแอน”
ชนิกานต์ตกใจ กลัวกัณฐิกาวุ่นวาย ทำให้เรื่องยุ่งเหยิงจึงรีบตามไป
ฟากธีรดนย์กอดกฤติยาลูบไล้พูดขอร้องอย่างอ่อนโยน
“ทำเพื่อฉัน...ทำเพื่อคนที่เธอรัก”
ธีรดนย์หว่านล้อม แล้วจะจูบ กฤติยาเคลิ้ม แต่แล้วผลักธีรดนย์ออก
“อย่าทำอย่างนี้กับฉัน”
“ฉันรักเธอนะ”
กฤติยาตบหน้าธีรดนย์ “คนรักกันไม่ทำอย่างนี้...เธอใช้ความรักมาต่อรองเรียกร้องผลประโยชน์ มันไม่ใช่ความรัก มันเป็นความเห็นแก่ตัว!”
ระหว่างนั้นกัณฐิกาเข้ามา ยืนฟังที่มุมหนึ่ง
“ถึงฉันจะรักนายมาก ฉันก็ไม่ยอมตกเป็นเครื่องมือของนายทำร้ายคนอื่น! ฉันจะบอกคุณท่านว่านายเป็นคนทำนิกกี้ท้อง”
กฤติยาประกาศกร้าว ธีรดนย์ตกใจ
กัณฐิการู้ความจริง ว่าธีรดนย์ทำชนิกานต์ท้องก็ตกใจ
“ธีรดนย์”
ธีรดนย์ตกใจที่กัณฐิการู้ความจริง ชนิกานต์เข้ามากัณฐิกาหันไปถามใส่หน้าชนิกานต์
“เธอจะปฎิเสธอะไรอีก”
“ไปบอกคุณพ่อฉัน ไปบอกทุกอย่างที่เธอได้ยิน ฉันอยากรู้เหมือนกันว่าคุณพ่อรู้ว่าฉันท้องกับธี คุณพ่อจะทำยังไง”
“ไม่ต้องมาท้าทายฉัน ฉันบอกคุณณวัตรแน่!”
ธีรดนย์หน้าเสีย “ไม่ได้นะครับ คุณกัณครับ ผมขอร้อง...อย่าบอกเรื่องนี้กับคุณท่าน”
“ที่ผ่านมา เธอเคยขอให้ฉันช่วยหลายต่อหลายครั้ง ฉันยอมเธอเพราะความดีที่เธอ แต่ครั้งนี้ ฉันให้เธอไม่ได้ ฉันต้องทำเพื่อความถูกต้อง”
กัณฐิกาเดินไปธีรดนย์ตกใจ เข้าไปขอร้องชนิกานต์
“นิกกี้ เธอรักฉัน เธอไปห้ามคุณกัณ”
ชนิกานต์ไม่ยอมทำตาม กฤติยาเห็นธีรดนย์ก็เศร้าใจ ที่เขาไม่กล้ารับความจริง เห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ
ธีรดนย์ใจเสีย กลัวณวัตรโกรธและทำร้ายถึงชีวิต
ที่โรงแรมร้างแหล่งกบดานของปรัชญา ลูกน้องปรัชญากระชากตัวผลักเพทาย ล้มลงหน้าปรัชญา
“เฮีย...ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ทำกับฉันได้ไง”
“บ่อนของเฮียถูกตำรวจบุกทลาย”
“ฉันเองก็เพิ่งรู้...ใครกันกล้าลูบคมเฮีย”
“คนที่บอกทางเข้าออกบ่อนได้ มันต้องเป็นคนในเท่านั้น”
ปรัชญาพูดจบก็ต่อยเพทายเต็มหมัด เพทายตกใจ
“ฉันไม่ได้เป็นสายให้ตำรวจ!”
ปรัชญาชักปืนออกมาขู่
“แกรวมหัวกับไอ้ชยางกูรเล่นงานฉัน”
“ไม่จริงนะเฮีย ฉันถูกมันหลอกไปทำร้าย เฮียก็เห็นรอยแผล”
ปรัชญาตบหน้าเพทายด้วยปืน
“คิดว่าแผลแค่นี้จะทำให้เฮียเชื่อ? คนอย่างแกมันนกสองหัวหมาสองราง ใครให้ผลประโยชน์ แกก็เลียขาเป็นพวก”
“ฉันไม่ได้ทำ ฉันไม่ได้หักหลังเฮีย”
ปรัชญาเล็งปืนไปที่เพทาย
“คนอย่างแกมันเลี้ยงไม่เชื่อง”
ปรัชญาจะเหนี่ยวไกปืนยิง เพทายตัวสั่น
“ฉันสาบานได้เฮีย ฉันจะลากคอมันมาให้เฮีย”
ปรัชญายิงปืนปัง เพทายตกใจ ปรัชญาแค่ยิงขู่ บอกเพทาย
“ฉันให้โอกาสแกแก้ตัว....เอามันมาให้เฮีย!”
เพทายรับปากจะไปจับตัวชยางกูรมาให้ปรัชญา
ขณะเดียวกันสองคนยังอยู่ที่วัด สุตาภัญเข้ามาถามชนกชนม์
“แม่นายรู้เรื่องที่นายแต่งงานกับนิกกี้รึยัง”
ชนกชนม์ส่ายหน้า “ฉันขอไม่ให้คุณอาธนกรบอก...คุณแม่ยังเครียดเรื่องชยางกูร ต้องเจอเรื่องนี้ จะทรุดหนักกว่าเดิม”
“ใช่...นายคงกลายเป็นลูกนอกคอกไม่รักดีตลอดชีวิต”
“ฉันคงเกิดมาเป็นตัวซวยจริงๆ เกิดมาทำให้บริษัทแม่ทรุด พ่อกับแม่เลิกกัน ชะตาชีวิตฉันเลวร้ายเหมือนที่หมอดูเคยทำนายไว้”
“หมอดูไม่ใช่เจ้าชีวิตเราสักหน่อย เราต่างหากที่กำหนดชีวิตตัวเราเอง” สุตาภัญพูดให้กำลังใจ “ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะแห่งตน”
ชนกชนม์ยิ้มชื่นชม “คมคายมาก”
“เอามาจากนั่นอ่ะ”
สุตาภัญชี้ไปที่ป้ายที่ติดไว้ต้นไม้ในวัด
“มันก็จริง” ชนกชนม์พูดตามคำคม “จะดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ” พลางชี้ไปที่อีกป้าย
“จงศรัทธาในความดี” สุตาภัญอ่าน
“ความดีไม่มีวันตาย!”
ชนกชนม์และสุตาภัญประสานเสียง ชี้ไปที่ป้ายที่ติดต้นไม้ แล้วหัวเราะให้กัน
สุตาภัญนึกได้ “ว้าย ฉันนัดยัยภาไว้”
“ไปไหน ฉันไปด้วย”
“ไม่ได้..เรื่องภายในครอบครัว ฉันไปก่อนนะ”
สุตาภัญโบกมือลาชนกชนม์ แล้ววิ่งออกไป ชนกชนม์คิดถึงชลนิภา
“ครอบครัวเขา แล้วครอบครัวเราล่ะ”
ชลนิภาเดินออกมานอกห้อง ธนกรนั่งอยู่มุมหนึ่ง เห็นชลนิภาก็เป็นห่วง
“คุณน่าจะนอนพัก ไม่น่าออกมาเลย” ธนกรบอก
“ฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”
แป๋วเข้ามาเสริม
“ใช่ค่ะ ที่ผ่านมาแสร้งเป็นลมเรียกร้องความสนใจ ขี้อ้อนเหมือนคุณชยางกูรน่ะค่ะ”
ชลนิภาและธนกรหน้าเสีย เมื่อแป๋วพูดเรื่องชยางกูร แป๋วสำนึกได้
“ไม่ต้องดุค่ะ แป๋วผิดไปแล้ว ตบปากสามครั้ง”
แป๋วตบปากตัวเองแล้วรีบชิ่งออกไป
“คุณคงทราบเรื่องลูกกูร”
ธนกรพยักหน้า “เราทำดีที่สุดแล้ว เราสอนได้แต่บังคับจิตใจเขาไม่ได้ ก็ต้องปล่อยให้กฎหมายควบคุมเขา”
“คุณไม่ห่วงไม่สงสารลูก”
“ตามใจจนเสียคน กับใจแข็งแล้วลูกเป็นคนดี ผมขอเลือกอย่างหลัง”
ชลนิภายังคงเศร้าใจ เพราะเป็นห่วงชยางกูร
“ผมยังหวังนะ ว่าสักวัน...ลูกกูรจะกลับมาหาเรา”
“ขอให้ฉันได้เห็นหน้าลูกอีกสักครั้งก็ยังดี”
ธนกรกอดให้กำลังใจชลนิภา
ชยางกูรถือกระเป๋า หยิบแว่นตาดำเดินออกจากโรงแรม ตั้งใจจะหนี ชยางกูรเดินออกมาเจอเพทายเข้ามาดักรออยู่
ชยางกูรตกใจ “เพทาย”
“ไปไหนวะ หอบเสื้อผ้าคิดหนี หนีไม่รอดหรอกเพื่อน”
เพทายพูดจบจะเข้ามาต่อย ชยางกูรโยนกระเป๋าใส่เพทายตกใจรับกระเป๋าไว้ไม่ทันตั้งตัว ชยางกูรถีบเพทายแล้ววิ่งหนีไป เพทายตะโกนสั่งลูกน้องปรัชญาที่คุมเชิง วิ่งไล่ตาม
“จับมันให้ได้!”
ชนกชนม์ขี่มอเตอร์ไซค์ ผ่านมาเห็นชยางกูรวิ่งหนีพอดี จึงหยุดรถ
“กูร”
เพทายและลูกน้องปรัชญาไล่ล่าชยางกูร ชนกชนม์คิดตัดสินใจ จะไปช่วยหรือทำอย่างไร?
ชยางกูรวิ่งหนี เพทายและลูกน้องปรัชญามาขวางไว้
“ไปกับฉัน เฮียต้องการสะสางคดีกับแก!”
“ไปก็ตาย ไม่ไปก็ตาย แต่คนที่ตายไม่ใช่ฉัน”
ชยางกูรเข้าต่อสู้ต่อยกับเพทาย ลูกน้องปรัชญาเข้ามาต่อยชยางกูร
จู่ๆ รถมอเตอร์ไซค์ชนกชนม์พุ่งเข้ามา ชนกชนม์กระโดดลงไปต่อยช่วยชยางกูร เพทายและลูกน้องปรัชญาเข้ามาต่อย ทั้งสองคู่ต่อสู้กัน
เพทายต่อสู้กับชนกชนม์ ชยางกูรต่อสู้กับลูกน้องปรัชญา
ชนกชนม์เหนือกว่า เพทายเสียท่าจะชักปืนขึ้นมายิง ชนกชนม์เอาไม้ฟาด ปืนตกลงที่พื้น แล้ววิ่งไปที่รถมอเตอร์ไซค์ ตะโกนเรียกชยางกูร
“กูรขึ้นรถ”
ชยางกูรต่อยลูกน้องปรัชญากระเด็นออกไป แล้ววิ่งไปที่รถชนกชนม์ เพทายจะวิ่งไปหยิบปืนที่กระเด็นห่างออกไปเพื่อยิงชยางกูร
ชนกชนม์เลี้ยวรถใช้ล้อกวาดหน้าเพทายหลบไป ชยางกูรกระโดดขึ้นรถ เพทายวิ่งไปหยิบปืน ยิงปืนไล่หลัง
ชนกชนม์ขี่รถพาชยางกูรหนีไปได้ เพทายมองด้วยความเจ็บใจ
ณวัตรเดินมาที่ห้องโถง แปลกใจที่ทุกคนมากันพร้อมหน้า
“มีเรื่องอะไรกันอีก ฉันไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น”
“เรื่องนี้สำคัญมากค่ะ มันเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับธีรดนย์” กัณฐิกาเอ่ยขึ้น
ธีรดนย์กังวลใจมาก
“นายธีทำอะไร”
“ธีรดนย์ต้องรับผิดชอบ...”
ธีรดนย์กังวลใจมาก
“แต่งงานกับหนูแอน!”
ชนิกานต์ตกใจมากที่กัณฐิกาพูดเรื่องนี้ แทนที่จะพูดเรื่องของตน กฤติยาตกใจ ธีรดนย์แปลกใจมาก
“มันเกิดอะไรขึ้น” ณวัตรถาม
“ฉันไม่อยากพูดเรื่องนี้ แต่ฉันปล่อยให้มันผ่านไปไม่ได้ ก่อนหน้านี้ธีรดนย์ลวนลามหนูแอน หนูแอนตกเป็นของธีรดนย์ ฉันในฐานะน้า ฉันต้องปกป้องศักดิ์ศรีเรียกร้องความเป็นธรรมให้หลานฉัน”
ชนิกานต์เข้ามาผลักกัณฐิกา “ยัยแม่มด แกต้องการอะไร”
ณวัตรฉุน ไม่พอใจ “นิกกี้ หยุดก้าวร้าวคุณกัณ”
“มันคิดจะยัดเยียดหลานมันให้ธี!” ชนิกานต์โพล่งขึ้นอย่างโกรธแค้น
“หยุดพูดได้แล้ว” ณวัตรหันมาถามธีรดนย์ “ธี มันเป็นจริงอย่างที่คุณกัณพูดรึเปล่า”
กัณฐิกามองธีรดนย์ ชนิกานต์หันไปมองธีรดนย์ กฤติยามองแล้วส่ายหน้า ไม่อยากให้
ธีรดนย์ยอมรับ
“ใช่ครับ! ผมเคยล่วงเกินแอน”
ชนิกานต์ตกใจและไม่พอใจมาก กฤติยาน้ำตาไหล เสียใจที่ธีรดนย์ยอมรับ
“ถึงจะใช่ แต่นายไม่รักแอน มันเป็นความใคร่ไม่ใช่ความรัก นายบอกคุณพ่อสิ นายรักฉัน...ฉันท้องกับนาย!”
ณวัตรฟังเรื่องนี้ก็ตกใจ และไม่พอใจ
“นิกกี้ หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว!”
“นิกกี้ไม่อยากโกหกอีกแล้ว ทุกคนรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงเวลาที่ทุกคนต้องพูดความจริง”
กัณฐิกาตัดบท “กัณไม่ทราบเรื่องนี้ค่ะ!”
ชนิกานต์โกรธจัด “แกโกหก ตอแหล!”
พูดจบชนิกานต์ตบหน้ากัณฐิกา แต่กัณฐิกาไม่สู้
“หนูนิกกี้”
ณวัตรเข้ามาผลักชนิกานต์ออก
“พ่อบอกให้หยุด!”
ชนิกานต์หันไปบอกธีรดนย์
“นายบอกคุณพ่อ บอกว่านายเป็นพ่อของลูก”
“ไม่ใช่ครับ ผมกับนิกกี้ไม่เคยมีอะไรกัน”
ชนิกานต์ผิดหวังและเสียใจมาก หันไปขอร้องกฤติยา
“แอน เธอเป็นเพื่อนฉัน เธอสัญญาจะช่วยฉัน”
“คุณอาคะ...ที่นิกกี้พูดมาทั้งหมด”
กฤติยาจะบอกความจริง แต่ณวัตรสวนขึ้น
“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ฉันจะจัดงานแต่งให้หนูกับนายธีรดนย์!”
ชนิกานต์ตกใจและเสียใจมาก
“คุณพ่อ!”
ณวัตรเดินหนี ชนิกานต์วิ่งตามออกไป
กัณฐิกายิ้มสะใจ ธีรดนย์ก้มหน้าจำยอมรับสภาพ กฤติยาทรุดตัวร้องไห้...ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
กัณฐิกาเข้ามาหากฤติยา “หลานไม่ต้องร้องไห้...น้าทำทุกอย่างเพื่อหนู เพื่อความถูกต้อง”
กฤติยาโกรธ วิ่งหนีเข้าไปห้อง
“หนูแอน”
กัณฐิกาบอกธีรดนย์ “เธอต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เธอทำ”
จากนั้นกัณฐิกาเดินตามกฤติยาไป ธีรดนย์เครียดไม่รู้จะทำยังไง
ฟากณวัตรเดินหนีจะเข้าไปห้อง ชนิกานต์ตามมา
“คุณพ่อ คุณพ่อต้องเชื่อนิกกี้ นิกกี้ท้องกับธี”
ณวัตรเดินหนี ชนิกานต์เข้ามาตื๊อขอร้อง
“คุณพ่อให้ธีแต่งงานกับแอนไม่ได้ นิกกี้รักธี ธีเป็นพ่อของลูก”
ณวัตรโกรธ ตบหน้าชนิกานต์!
“พ่อจะไม่ฟังเรื่องไร้สาระอีกแล้ว พ่อของเด็กในท้องคือชนกชนม์ ไม่ใช่คนใช้อย่างธีรดนย์!”
ณวัตรเข้าห้อง ปิดประตูใส่ชนิกานต์
พอเข้าห้องมา ณวัตรเดินตรงมาที่มุมหนึ่ง ร้องไห้ด้วยความเสียใจ เพราะรู้ความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น ชนิกานต์ทรุดตัวนั่งร้องไห้อยู่หน้าห้อง ส่วนภายในห้อง ณวัตรเองก็ร้องไห้เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ชนกชนม์ขี่มอเตอร์ไซค์ พาชยางกูรหนีมาได้ จอดรถที่ตึกร้างแห่งหนึ่ง ชยางกูรลงจากรถจะเดินหนีไป ชนกชนม์เรียกไว้
“กูร”
ชยางกูรหันหน้ามาชนกชนม์ต่อยหน้าเต็มหมัด ชยางกูรตกใจ
“แก!”
ชนกชนม์ต่อยชยางกูร พร้อมกับต่อว่าชยางกูร
“สำหรับความชั่วที่นายโยนความผิดให้ฉัน” ต่อยอีกที “สำหรับความเลวร้ายที่นายทำให้คุณพ่อคุณแม่เสียใจ” ต่อยอีกหมัด “และสำหรับตราบาปที่นายทำไว้กับภา”
ชยางกูรทรุดตัวลง ไม่พอใจชนกชนม์
“ฉันรู้ว่าความรุนแรงไม่ช่วยแก้ปัญหา ฉันต้องการเตือนสตินาย กลับตัวกลับใจ ไปมอบตัวซะ”
ชยางกูรลุกขึ้น ชี้หน้าชนกชนม์
“ไม่ต้องมาสอน...ชีวิตเป็นของฉัน”
“ใช่..ชีวิตนายเป็นของนาย...ฉันทำได้เพียงแค่ให้สติในฐานะพี่ แต่นายเป็นคนเลือกเส้นทางชีวิตด้วยตัวนายเอง”
ชนกชนม์มองชยางกูร รอการตัดสินใจ
“อยากเริ่มต้นชีวิตใหม่..ไปกับพี่”
ชยางกูรมองชนกชนม์ แล้วหันหลังเดินออกไป ชนกชนม์จำต้องปล่อยชยางกูร พูดตามหลัง
“ฉันอยากให้นายไปขอโทษภา ขอโทษคุณพ่อคุณแม่”
ชยางกูรหยุดฟังแล้วเดินออกไป ชนกชนม์จำยอมรับสภาพ ต้องตัดใจปล่อยวางเรื่องของชยางกูร
ขณะเดียวกันสุตาภัญเดินเข้ามาหาสุรัมภา ซึ่งอยู่ตรงหน้าบ้านพ่อกับแม่
“พร้อมแล้วใช่ไหม”
“พร้อมแล้วค่ะ” สุรัมภาชูการ์ดพร้อมพวงมาลัยที่เตรียมมา
สุตาภัญจะกดกริ่งบ้าน สุรัมภาตกใจ
“พี่ตาทำอะไร”
“กดกริ่งให้คุณแม่มารับเราเข้าไปพบคุณพ่อ”
“ไม่นะ ภายังไม่กล้าสู้หน้าคุณพ่อ”
“แล้วการ์ดวันพ่อกับมาลัยล่ะ”
“เสียบไว้ที่ประตูก็ได้”
สุรัมภาเอาการ์ดและมาลัยวางไว้ที่ประตู สุตาภัญตัดสินใจกดกริ่ง สุรัมภาตกใจ สุทินเดินออกมาที่หน้าบ้าน
สุรัมภากลัวสุทินเห็นรีบลากสุตาภัญหลบไป
สุทินเดินมาที่หน้าบ้านมองหา แปลกใจว่าใครมากดกริ่ง สุตาภัญและสุรัมภาหลบอยู่มุมหนึ่ง สุทินไม่เห็นใครจะเดินกลับ แต่เห็นการ์ดและมาลัยเสียบไว้ แปลกใจรับมาดู
สุทินนิ่งอึ้ง สุทินเปิดการ์ดออกดู สุตาภัญและสุรัมภาจับมือกัน มองลุ้นว่าสุทินรู้สึกอย่างไร
สุทินเปิดดูสมุดภาพวาดในการ์ด นึกถึงความสัมพันธ์กับลูกทั้งสอง
สุทินมองภาพ ตั้งแต่ภาพแต่งงาน ที่มีรูปหัวใจด้านบนภาพ ภาพที่สอง ภาพพ่อกับแม่อุ้มลูก เขียนชื่อกำกับว่า.ลูกตา ภาพที่สาม เป็นภาพพ่อแม่และสุตาภัญอุ้มน้อง เขียนชื่อกำกับว่า ลูกภา ภาพที่สี่ เป็นภาพพ่อแม่ สุตาภัญ และสุรัมภา เขียนกำกับว่า ครอบครัวของเรา
ส่วนภาพที่ห้า ภาพพ่อแม่ สุตาภัญและสุรัมภา ในภาพนั้น สุทินอุ้มเด็กน้อย เขียนกำกับว่าหลานคุณตา
พร้อมกับมีข้อความอวยพร “ขอให้คุณพ่อมีสุขภาพแข็งแรง...อยู่เป็นกำลังใจให้พวกเราตลอดไปนะคะ...จากลูกรัก......ตา...ภา..”
สุทินนิ่งอึ้ง แล้วเดินเข้าไปในบ้าน สุตาภัญและสุรัมภา มองลุ้นว่าสุทินรู้สึกอย่างไร?
ครู่ต่อมาสุทินถือการ์ดและมาลัยเข้ามาในบ้าน
“ใครมาคะ”
สุทินไม่ตอบยืนนิ่ง น้ำตาไหล เสาวนิตย์แปลกใจ
“คุณ”
เสาวนิตย์รับการ์ดมาจากสุทินซึ่งถือมือสั่นอยู่ เสาวนิตย์เปิดการ์ดดู เห็นภาพก็รู้ว่าสุตาภัญและสุรัมภาวาดภาพมาให้
สุรัมภาเดินมายังหน้าบ้านอีกครั้ง สุตาภัญบอก
“เข้าไปกราบคุณพ่อ...ถึงแม้คุณพ่อไม่ให้อภัย อย่างน้อยเราก็ได้มาแสดงออกว่าเรารักและเคารพท่าน”
“ภายังไม่กล้า...ขอแค่ได้มาส่งการ์ดอวยพร ได้เห็นหน้าคุณพ่อ ภาก็ดีใจแล้วค่ะพี่ตา”
สุตาภัญเข้าใจความรู้สึกสุรัมภา กอดปลอบใจน้องมองเข้าไปในบ้าน
เสาวนิตย์มองการ์ด ร้องไห้ออกมา
“ลูกเอาการ์ดมาอวยพรผม ลูกไม่โกรธ ไม่เกลียดผม”
สุทินยืนร้องไห้ เสาวนิตย์เข้ามาจับมือ
“ลูกยังรักคุณเสมอค่ะ รับลูกกลับบ้านนะคะ”
เสาวนิตย์บอกสุทินยืนร้องไห้ เสาวนิตย์จะเข้ามากอดปลอบใจ แต่ชะงัก กลัวสุทินไม่ชอบ แต่สุทินกลับคว้าเสาวนิตย์เข้ามาโอบกอดแทน เสาวนิตย์ดีใจที่สุทินมีท่าทีเปลี่ยนไป
คืนนั้นกฤติยาต่อว่ากัณฐิกา
“แม่รู้ไหมแม่ทำอะไรลงไป แม่ต้องการแก้แค้นนิกกี้ แม่ใจร้ายมาก”
“ไม่ใช่...ฉันทำเพื่อแก”
กัณฐิกาบอกกฤติยาแล้วร้องไห้
“ลูกเสียสละเพื่อคนอื่นมามากพอแล้ว ลูกควรทำเพื่อตัวเองบ้าง ลูกรักธี ฉันก็อยากให้ลูกมีความสุข สมหวังกับคนที่ลูกรักที่ผ่านมาชีวิตลูกขาดแม่ ยายก็มาจากไป แม่ไม่อยากให้ลูกต้องสูญเสียคนที่รักอีก แม่ทำเพื่อลูกนะ”
กฤติยาอึ้ง ซึ้งใจ ไม่คิดว่ากัณฐิกาคิดอย่างนี้ แต่ก็สงสารชนิกานต์
“แล้วนิกกี้ล่ะแม่? แม่ไม่คิดถึงความรู้สึกนิกกี้บ้าง”
“นิกกี้ต้องแต่งงานกับชนม์ เขาทั้งสองเหมาะสมที่สุด ทั้งฐานะและชื่อเสียงตระกูล”
“แม่...แอนทำร้ายความรู้สึกนิกกี้ไม่ได้...แอนจะไปบอกคุณณวัตรให้ยกเลิกการแต่งงาน”
กฤติยาจะออกไปกัณฐิกากอดไว้
“เชื่อแม่ คิดถึงตัวเองบ้าง แล้วที่สำคัญ...คุณณวัตรก็ต้องการให้มันเป็นแบบนี้”
“แอนไม่เข้าใจ” นึกเป็นห่วงชนิกานต์ “นิกกี้”
กฤติยาเดินออกไปจากห้อง กัณฐิการ้องไห้ รู้ดีว่าณวัตรคิดอะไรอยู่
ลูกไม้หลากสี ตอนที่ 19 (ต่อ)
กฤติยาเปิดประตูออกมาจากห้องเจอกับชนิกานต์รออยู่
“นิกกี้ ฉัน...”
ชนิกานต์เข้ามาตบกฤติยา
“เธอหักหลังฉัน”
“นิกกี้ฉัน..ไม่ได้ตั้งใจ ฉันจะไปบอกคุณพ่อเธอให้รู้ความจริง”
“พอที! เลิกตีสองหน้าได้แล้ว...ฉันเบื่อฟังคำแก้ตัวของเพื่อนทรยศ! สุดท้ายเธอก็แสดงธาตุแท้ แย่งผู้ชายเหมือนแม่เธอ แสร้งทำดีเข้าอกเข้าใจฉัน แต่แย่งคนรักฉัน!”
“นิกกี้ฟังฉันก่อน ฉันเป็นเพื่อนเธอนะ”
กฤติยาพยายามจะอธิบาย ชนิกานต์สะบัดมือหนี
“เราไม่ใช่เพื่อนกันอีกต่อไป”
ชนิกานต์เดินออกไป กฤติยาเสียใจที่ทำให้ชนิกานต์เข้าใจผิด
ฝ่ายธีรดนย์นั่งเครียดอยู่บนเตียง กังวลใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น นึกถึงเหตุการณ์ที่ตนได้เสียกับชนิกานต์
ส่วนชนิกานต์ทรุดตัวร้องไห้อยู่ในห้องนอน เสียใจที่ธีรดนย์ต้องแต่งงานกับกฤติยา
ธีรดนย์รู้สึกผิดกับสิ่งที่ตน ทำร้ายชนิกานต์ ธีรดนย์คิดถึงเรื่องของกฤติยาขึ้นมาอีกเหตุการณ์ตอนได้เสียกับกฤติยาผุดขึ้นในหัว
ทางด้านกฤติยานั่งร้องไห้เสียใจ ที่เธอต้องไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ทำร้ายจิตใจชนิกานต์
ธีรดนย์สงสารกฤติยาที่ตกมาเป็นเหยื่อ และคิดถึงเรื่องที่ณวัตรบังคับให้แต่งงาน ธีรดนย์เครียดมาก ทิ้งตัวลงนอนบนเตียง น้ำตาไหลริน กับสิ่งที่ตัวเองเป็นคนก่อ
เช้าวันต่อมาสุตาภัญเดินออกมา แปลกใจที่เห็นชนกชนม์เข็นรถใส่กระถางต้นกุหลาบ ที่ยังเป็นดอกตูมเข้ามาหา สุตาภัญาสงสัย
“อะไรอะ”
ชนกชนม์ร้องขายดอกกุหลาบ “มาแล้วครับ ต้นกุหลาบพันธุ์ดีให้ดอกหลากสีสวยงามตา เชิญมาซื้อหาได้เลยครับ”
สุตาภัญตกใจ กลัวคนอื่นมาต่อว่า รีบเข้ามาปิดปากชนกชนม์
“หยุดเห่าได้แล้ว”
ชนกชนม์เลยทำเสียงหมาหอนแทน “โบร๋ว”
สุตาภัญปิดปากสนิท “เป็นบ้าอะไรเนี่ย เอามาทำอะไร”
ชนกชนม์จะพูดก็พูดไม่ได้ เพราะมือสุตาภัญปิดไว้ สุตาภัญนึกบางอย่างได้ รีบปล่อยมือ ชนกชนม์ยิ้ม
“เอามาให้เธอ มาให้ฉัน”
สุตาภัญงง ชนกชนม์ดึงมือมาจับที่เข็นรถแล้วตัวเองก็ลงไปนั่งในรถเข็น ให้สุตาภัญเข็นรถออกไป สุตาภัญจำต้องเข็น ชกนชนม์แกล้ง ตะโกนไปที่อพาร์ทเม้นท์
“มาแล้วจ้า ต้นกุหลาบขายถูกๆ คนขายหล่อต่อรองได้จ้ะ”
สุตาภัญหมั่นไส้ เข็นรถเข็นอย่างเร็ว ชนกชนม์ตกใจร้องเสียงหลง
“เฮ้ย”
สุตาภัญเข็นรถมาจอด ชนกชนม์ยิ้มให้ เดินมาหาสุตาภัญ แล้วจะเข้ามาหอมแก้ม
สุตาภัญตกใจ ถอยหนี
“ทำอะไร”
“ฉันไม่มีเงินจ่ายค่าเข็นรถ...จะจ่ายเป็นจูบ”
ชนกชนม์จะยื่นหน้าไปจูบ สุตาภัญเอานิ้วจะจิ้มตา ชนกชนม์แสร้งร้องเสียงหลง
“ช่วยด้วย ตาบอด” พลางยิ้มให้สุตาภัญ “ความรักทำให้ตาบอด”
สุตาภัญมองชนกชนม์ แล้วแหวะใส่
“บอกได้ยัง เอาต้นกุหลาบมาทำอะไร”
“อยากปลูกต้นกุหลาบ เป็นตัวแทนการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของฉัน ฉันจะคอยรดน้ำพรวดดิน ดูการเจริญเติบโตของมัน พร้อมกับชีวิตของฉัน”
“ก็เอาไปปลูกสิ”
สุตาภัญจะเดินหนี ชนกชนม์เข้ามาจับมือไว้
“ฉันอยากให้เธอปลูกชีวิตฉัน ช่วยรดน้ำและดูแลมัน” ชนกชนม์ร่ายกวี “เธอดั่งดวงตะวันที่สาดแสงทอฝันในวันฟ้าหมอง”
สุตาภัญบอก “เยอะ”
ชนกชนม์ร่ายกลอนต่อ “เธอคือน้ำคลองที่เน่าเหม็น”
“ไม่ใช่ล่ะ” สุตาภัญทุบตีชนกชนม์
“ไป...ช่วยฉันปลูกต้นรัก”
“ต้นกุหลาบ ไม่ใช่ต้นรัก”
สุตาภัญเดินหยิบกระถางหนึ่งเดินนำออกไป ชนกชนม์รีบขนอีกหลายกระถางตามไป
ทางด้านชลนิภาเดินออกมามองหาธนกร แป๋วเดินมาจากหน้าบ้านเข้ามาถามชลนิภา
“คุณผู้หญิงมองหาใครคะ รึจะเรียกใช้แป๋ว”
“คุณธนกรไปไหน”
“ทำครัวค่ะ บอกว่าอยากทำอาหารให้คุณผู้หญิงทาน”
ชลนิภายิ้มบางๆ จะเดินไปหาธนกร แป๋วนึกได้รีบบอก
“ว้าย...ลืมค่ะ....มีแขกมาหาคุณผู้หญิงค่ะ”
ชลนิภาแปลกใจว่าเป็นใคร
วีรภัทรและนัชชาถือกระเช้าเข้ามาหาชลนิภา
“ผมกับคุณนัชชา ทราบว่าคุณไม่สบาย เราสองคนตั้งใจมาเยี่ยม”
“มาเยี่ยมรึมาสมน้ำหน้าฉัน? ฉันไม่ตายง่ายๆ”
“ดิฉันทราบค่ะ คนเก่งอย่างคุณชลนิภา ต้องอยู่อีกนาน”
นัชชาถือกระเช้าส่งให้ ชลนิภามอง แล้วตัดสินใจรับไว้
“ขอบใจนะ”
วีรภัทรยิ้มพอใจที่ชลนิภามีท่าทีดีขึ้น ชลนิภาส่งกระเช้าให้แป๋ว
“ผมดีใจด้วยนะที่คุณธนกรกลับมา”
“เขาไม่ได้หายไปไหน สามีภรรยากันก็ต้องอยู่ด้วยกัน”
วีรภัทรและนัชชายิ้มขำ ที่ชลนิภายังคงฟอร์มจัด
“แล้วชนกชนม์ล่ะ”
“ถามถึงลูกฉันทำไม”
“เราทราบข่าวจากคุณณวัตร ว่าหนูนิกกี้ท้องกับชนกชนม์”
“คุณพูดอะไร? ชนกชนม์ไปก่อเรื่องอะไรอีก?” ชลนิภาสงสัย
ธนกรเดินเข้ามาบอกชลนิภา
“ผมขอโทษที่ไม่ได้บอกคุณ”
ชลนิภาตกใจที่เหมือนชนกชนม์จะก่อเรื่องอีก
บริเวณสวนสวนข้างอพาร์ทเม้นท์ ชนกชนม์เอาต้นกุหลาบต้นสุดท้ายลงหลุมที่ขุดไว้แล้ว หลังจากปลูกไปแล้วหลายต้น ชนกชนม์และสุตาภัญช่วยกันเอาดินมากลบหลุม ทั้งสองมองหน้ากัน สุตาภัญเดินไปหยิบฝักบัวมารดน้ำ
“ฝากดูแลด้วยนะ”
“ไม่รับฝาก นี่มันของฉัน”
“เฮ้ย...ขโมยกันซึ่งๆ หน้าเลย...ฉันซื้อมา ฉันขุดหลุม”
“ใครกลบดิน ใครรดน้ำ”
“เธอ...”
“นายจะมาอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของคนเดียวไม่ได้”
“ครับนางฟ้ามหาโหด”
สุตาภัญหมั่นไส้ เอาฝักบัวรดน้ำ สะบัดน้ำใส่ ชนกชนม์หลบได้
“เมื่อวานไปหาคุณพ่อคุณแม่ ท่านว่าไงบ้าง”
“เอาการ์ดกับมาลัยไปวางไว้ ภาไม่กล้าเข้าไปพบท่าน”
“พ่อกับแม่ตัดลูกไม่ขาดหรอก...ยังไงท่านต้องใจอ่อน รับพวกเธอกลับบ้าน”
“นายล่ะ เจอชยางกูรไม่ใช่เหรอ”
“อาจเป็นการเจอกันครั้งสุดท้าย..เขาเลือกที่จะหนี”
“คงเป็นบาปกรรมที่เขาทำกับยัยภา”
ชนกชนม์นึกขึ้นได้ รีบถาม
“ภาอยู่บนห้องเหรอ”
“ออกไปซื้อของข้างอพาร์ทเม้นท์ เดี๋ยวคงกลับ”
“ไปล้างมือได้แล้ว เธอมีเรียน ฉันไปส่ง...” ชนกชนม์ชี้ไปที่รถเข็น
“ไปคนเดียวเหอะ”
สุตาภัญเบ้หน้าใส่แล้วเดินหนีไป ชนกชนม์หัวเราะชอบใจ
สุรัมภาถือของกำลังจะเดินเข้าไปอพาร์ทเม้นท์ แต่เจอชยางกูรดักอยู่ สุรัมภาตกใจ
“นาย”
สุรัมภาถดตัว แล้วรีบเดินหนีไปด้วยความกลัว
ชลนิภาเดินมาที่มุมหนึ่ง...คิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนตนเข้าไปถามธนกรอย่างฉุนเฉียว
“คุณธนกร ทำไมคุณไม่บอกฉัน”
“ผมไม่อยากให้คุณเครียดอีก ผมห่วงคุณ”
“คุณเป็นห่วงฉัน รึอยากช่วยปิดบังเรื่องเลวร้ายของชนกชนม์”
“คุณควรให้อภัยชนกชนม์ได้แล้ว...ผมเชื่อว่าชนม์ไม่มีพฤติกรรมแบบนั้น”
ชลนิภาคิดถึงชนกชนม์ ค้างคาใจ อยู่ตรงมุมหนึ่งในคฤหาสน์ณวัตร
“ไม่ทำแล้วหนูนิกกี้จะท้องได้ยังไง”
นัชชาเดินเข้ามาหา ชลนิภาไม่ค่อยพอใจนัก
“ฉันคิดว่าคุณกลับไปแล้ว”
“ฉันยังกลับไม่ได้ ฉันมีเรื่องต้องคุยกับคุณ”
“อยากเยอะเย้ยฉันก็เชิญ ฉันพร้อมยอมรับสภาพ..ลูกคนเล็กหนีคดี ลูกคนโตทำผู้หญิงท้อง”
“ฉันไม่คิดว่าชนกชนม์ก่อเรื่อง”
น้ำเสียงนัชชาจริงจัง จนชลนิภาแปลกใจ
“คุณเป็นแม่..คุณเลี้ยงแกมาตั้งแต่เกิด...คุณน่าจะรู้จักลูกคุณดี”
“เธอไม่มีสิทธิ์มาสอนฉัน”
ธนกรและวีรภัทรเดินเข้ามา ได้ยินที่ทั้งสองคุยกัน ธนกรเป็นห่วงกลัวมีเรื่อง จะเข้าไป..แต่วีรภัทรรั้งไว้ ปล่อยให้นัชชาได้พูดต่อ
“ฉันไม่ยอมให้คุณทำร้ายจิตใจชนกชนม์อีก ชนกชนม์เป็นลูกคุณวีรภัทร ก็เท่ากับเป็นลูกของฉัน”
ชลนิภาแปลกใจที่นัชชาเปิดใจยอมรับชนกชนม์ วีรภัทรและธนกรยิ้มพอใจที่นัชชาเปลี่ยนความคิด
“ฉันให้เวลาคุณคิดไตร่ตรองให้ดี ถ้าคุณไม่ยอมรับชนกชนม์ ฉันจะใช้สิทธิ์ความเป็นแม่เลี้ยงที่รักลูก รับชนกชนม์ไปอยู่บ้านฉัน”
นัชชาบอกชลนิภา แล้วเดินออกไป วีรภัทรมีความสุขมากที่นัชชายอมรับชนกชนม์หมดใจ
ชลนิภาตกใจไม่คิดว่านัชชาจะรักชนกชนม์ แล้วกลับมานั่งคิดทบทวนตัวเอง
สุรัมภาเดินหนีมาที่มุมหนึ่งของอพาร์ทเม้นท์ ชยางกูรเข้ามาจับตัว
“เจอทีไรเป็นต้องหนี ฉันน่ากลัวนักรึไง”
“นายเป็นมากกว่านั้น นายมันน่าขยะแขยงที่สุด”
ชยางกูรไม่พอใจ จะตบหน้า แต่นึกได้ ยั้งมือไว้ “เธอเป็นไงบ้าง”
สุรัมภาเงียบกริบ แปลกใจที่ชยางกูรถามด้วยความเป็นห่วง
ชยางกูรตะคอกถาม “ฉันถามว่าเป็นไงบ้าง? ลูก...”
“ไม่ต้องสนใจฉัน ฉันดูแลตัวเองได้ ลูกคนนี้เป็นลูกของฉัน ไม่ใช่ของนาย”
ชยางกูรมองสุรัมภา รู้สึกผิด แต่ไม่พร้อมรับผิดชอบ ชยางกูรยื่นเงินให้สุรัมภา
“เอาเงินไว้ซื้อของให้ลูก”
สุรัมภาร้องไห้สะอึกสะอื้น “เอาเงินสกปรกนายคืนไป ฉันมีปัญหาเลี้ยงลูกของฉันได้ ไม่ต้องมาวุ่นวายกับชีวิตฉันอีก! ฉันจะดีใจมากถ้าไม่เห็นหน้านายอีก”
สุรัมภาไล่ ชยางกูรเก็บเงิน
“ดูแลตัวเองให้ดีแล้วกัน...”
สุรัมภาแปลกใจที่ชยางกูรอ่อนลงมาก สุรัมภาจะเดินหนีไป ชยางกูรบอกเสียงเรียบๆ
“ฉันขอโทษ”
สุรัมภาอึ้ง ไม่คิดว่าจะได้ยินคำขอโทษจากชายชั่วคนนี้ ชยางกูรหันหลังเดินออกไป ร้องไห้ เสียใจกับสิ่งที่ทำ สุรัมภายืนมอง อย่างน้อยก็คลายความโกรธและเกลียดลงไปได้บ้าง
ส่วนที่โรงแรมร้างแหล่งกบดานของปรัชญา เพทายเข้าไปรายงานปรัชญา
“ผมจะจับมันมาให้เฮีย แต่พี่ชายมันมาช่วยไว้”
“พี่ชายไอ้ชยางกูร!”
ปรัชญาคิดถึงเหตุการณ์ในอดีต ตอนปรัชญาเล่นงานชยางกูรที่มหาลัย แล้วชนกชนม์มาช่วย สุตาภัญออกอาการเป็นห่วงชนกชนม์
“มันแส่หาเรื่อง! คิดจะแย่งผู้หญิงของฉัน! เล่นงานน้องไม่ได้เล่นงานพี่มัน!”
เพทายอาสา “ผมจะจับไอ้ชนกชนม์มาให้เฮีย”
“ไม่ต้อง...เอาผู้หญิงของมันมา..ฉันจะทำให้มันกระอักเลือดตาย”
“ได้ครับเฮีย....ผมจะจับสุตาภัญ แล้วก็สุรัมภา ผู้หญิงของผม”
“ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว!”
ปรัชญาหัวเราะชอบใจ เพทายยิ้มร้ายคิดจะจัดการสุรัมภาด้วย
เวลานั้นธีรดนย์เดินเข้ามาตรงมุมหนึ่งในมหาวิทยาลัย สุตาภัญก็เดินเข้าไปหา
“ตา”
ธีรดนย์ไม่กล้าสู้หน้า จะเดินเลี่ยงไป
“ตาขอเถอะ เห็นแก่ความรัก เห็นแก่ความดีที่นิกกี้มีให้ธี”
ธีรดนย์รู้สึกผิด หันกลับมาหาสุตาภัญ
“เพียงแค่ธีไม่กล้ายอมรับความจริง เรื่องราวมันบานปลาย ไปทำร้ายคนอีกหลายคน ทั้งแอน นิกกี้ แล้วก็ชนม์”
ชนกชนม์เดินตรงเข้ามา จริงจัง
“นายกลับไปบอกคุณณวัตร นายเป็นคนเดียวที่เปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้”
“ฉันไม่กล้า”
ธีรดนย์จะเดินหนีไป ชนกชนม์เข้ามาต่อยธีรดนย์
“นายไม่ใช่ลูกผู้ชาย! นายไม่ใช่เพื่อนฉัน! เพื่อนกันไม่ทำอย่างนี้”
ชนกชนม์เข้าต่อยธีรดนย์ไม่ยั้ง ธีรดนย์ล้มลงที่พื้น ชนกชนม์จะเข้าไปซ้ำ ชนิกานต์วิ่งเข้ามาห้ามชนกชนม์ ปกป้องธีรดนย์
“หยุดนะ หยุดทำร้ายเขาได้แล้ว”
ชนกชนม์และสุตาภัญแปลกใจที่ชนิกานต์เข้ามาห้าม ธีรดนย์เองก็ฉงนที่ชนิกานต์มาช่วยตน
ด้านณวัตรนั่งเครียดเรื่องชนิกานต์ กัณฐิกาถือโบว์ชัวร์โรงแรมเข้ามา
“คุณคะ กัณได้ร้านชุดบ่าวสาวแล้วค่ะ ส่วนนี่เป็นโบว์ชัวร์โรงแรม เราทำพิธีหมั้นเช้า จัดเลี้ยงมงคลสมรสตอนค่ำ เชิญแขกมาสัก 100 โต๊ะ นะคะ”
“ไม่ต้อง”
“ทำไมล่ะคะ? งานแต่งของหลานกัณ กัณอยากให้สมเกียรติ สมหน้าตาคุณ”
“คุณอยากเอาเรื่องงามหน้าในบ้านไปประจานบอกชาวบ้านรึไง! ทำพิธีสวมแหวนในบ้าน เชิญแขกคนสนิทเท่านั้น”
ณวัตรไม่เห็นดีเห็นงามกับการจัดแต่งงานใหญ่ กัณฐิกาไม่กล้าขัด
“ค่ะ คุณว่าไงกัณก็ว่าตามนั้น”
ชนิกานต์เข้าไปดูแลธีรดนย์อย่างห่วงใย
“ธีเป็นยังไงบ้าง? เจ็บตรงไหน ฉันจะหายามาทาให้นะ”
สุตาภัญฉุนกึกไม่พอใจ เข้ามาดึงตัวชนิกานต์ออก
“พอเถอะนิกกี้ อย่าเสียศักดิ์ศรีมากกว่านี้เลย เขาไม่รักเธอ ไม่รับผิดชอบ เธอยังปกป้องเขาอีก”
ชนิกานต์หันมาบอก “ฉันไม่รู้ว่าศักดิ์ศรีหน้าตามันเป็นไง ฉันไม่สนใจ ฉันรู้แค่ฉันรักเขา เขาเป็นพ่อของลูกฉันนะตา”
ชนกชนม์หันไปบอกธีรดนย์ “ธี ฟังคนที่รักแก...คนที่ดีกับแก ทำไมแกไม่เห็นใจนิกกี้บ้าง”
ธีรดนย์หันไปมองชนิกานต์ ลุกขึ้นจะเดินออกไป ชนิกานต์น้อยใจ
“ธี...”
“นายหนีความจริงได้แค่วันนี้ พรุ่งนี้ มะรืนนี้ แต่นายไม่มีทางหนีความจริงได้ชั่วชีวิต” สุตาภัญบอก
“ที่ผ่านมา นายทำพลาดมาหลายครั้ง ยังพอแก้ไขได้ แต่ครั้งนี้ หากนายตัดสินใจพลาด นายจะผิดบาปชั่วชีวิต”
ธีรดนย์เหมือนได้สติ หันกลับไปมองชนิกานต์ คิดอะไรบางอย่าง แล้วเดินออกไป
ชนิกานต์ สุตาภัญ และชนกชนม์ คาใจว่าธีรดนย์จะตัดสินใจอย่างไร
ไม่นานต่อมา ขณะที่ณวัตรนั่งมองภาพชนิกานต์วัยเด็ก เสียใจที่ชนิกานต์ท้อง ธีรดนย์เข้ามาในห้อง
“คุณท่านครับ”
ณวัตรตะเพิด “ออกไป”
“ผมมีเรื่องสำคัญจะคุยกับคุณท่าน”
ณวัตรไม่อยากฟัง “ฉันบอกให้ออกไป!”
ธีรดนย์ตัดสินใจบอก “ผมทำนิกกี้ท้องครับ”
ชนิกานต์ซึ่งตามเข้ามาหยุดยืนฟังที่มุมหนึ่ง รู้สึกดีใจที่ธีรดนย์ยอมรับความจริง
ณวัตรอึ้ง
“ลูกในท้องเป็นลูกของผม ผมขอยกเลิกการแต่งงานกับแอน”
ณวัตรตบหน้าธีรดนย์ทันที
“ไม่ได้”
ชนิกานต์ตกใจที่ณวัตรไม่ยอมรับ
ธีรดนย์ผิดหวังและแปลกใจ “ผมเป็นพ่อของหลานคุณท่านนะครับ”
“เพราะฉันรู้ว่าแกเป็นพ่อเด็ก ฉันถึงต้องทำอย่างนี้”
ธีรดนย์ตกใจที่ณวัตรรู้เรื่องนี้
ชนิกานต์ยืนร้องไห้เสียใจ
“มันเป็นสิ่งที่ฉันกลัวมาตลอดเวลา แล้วมันก็เป็นจริง ฉันน่าจะไล่แกออกไปจากบ้านนี้ตั้งแต่วันที่พ่อแกตาย” ณวัตรพรั่งพรูความรู้สึกออกมา
“ผมรู้ตัวว่าผมทำผิด ผมย้อนเวลากลับไปแก้ไขไม่ได้ ขอให้ผมได้รับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น”
ชนิกานต์ฟังรู้สึกดีที่ธีรดนย์ยอมดูแลเธอ
“ฉันไม่ยอมให้ลูกสาวฉันอยู่กินกับคนใช้ในบ้าน แล้วฉันก็ไม่เก็บสายเลือดชั่วไว้ ฉันจะให้นิกกี้เอาเด็กออก”
ชนิกานต์ได้ยินก็ตกใจ เข้ามาต่อว่าณวัตร
“คุณพ่อ นิกกี้รักลูก! นิกกี้ไม่ยอมทำแท้ง!”
ชนิกานต์วิ่งเตลิดไป ณวัตรตามชนิกานต์อย่างห่วงใย ธีรดนย์เสียใจที่ณวัตรไม่ยอมรับตน
ชนิกานต์วิ่งมาหยุดร้องไห้ที่มุมหนึ่งณวัตรเดินเข้ามาหา
“นิกกี้ไม่ยอมให้คุณพ่อทำร้ายลูกนิกกี้”
ณวัตรสารภาพความในใจ “พ่อทำร้ายเด็กไม่ได้”
ชนิกานต์คลายความกังวล “คุณพ่อ...ให้ธีแต่งงานกับนิกกี้นะคะ”
ณวัตรหน้าตึง ยังโกรธธีรดนย์ “ทำไม ทำไมต้องเป็นมัน”
“มันคงเป็นกรรม กรรมที่คุณพ่อเคยทำไว้กับครอบครัวธี เวรกรรมที่คุณพ่อเคยทำกับผู้หญิงคนที่ผ่านมา บาปกรรมถึงตกมาอยู่ที่ลูก”
ณวัตรรู้สึกผิดแต่ไม่ยอมรับ “ไม่ต้องโทษเวรโทษกรรม ต้องโทษสิ่งที่เธอทำ ฉันจะส่งเธอไปอยู่กับญาติที่ออสเตรเลีย”
ชนิกานต์ตกใจ
“ไปคลอดที่นั่น ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น...ไม่ต้องกลับมาเมืองไทยอีก”
“คุณพ่อ”
ณวัตรเดินออกไป ชนิกานต์เสียใจที่ถูกพ่อกีดกัน ทั้งๆ ที่ธีรดนย์ยอมรับผิดแล้ว
ลูกไม้หลากสี ตอนที่ 19 (ต่อ)
เหตการณ์ภายในบ้านสุทิน ขณะที่สุทินเดินลงมาจากชั้นบนเข้ามาในห้องรับแขก เสาวนิตย์เดินเข้าไปหา
“คุณคะ ไปรับลูกกลับบ้านนะคะ”
สุทินเดินเลี่ยงหนีไป
“สิ่งที่ลูกทำผิดพลาด เราจะโทษลูกฝ่ายเดียวไม่ได้ คนเป็นพ่อเป็นแม่ ต้องร่วมรับผิด เราเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา และอาจเป็นตัวการใหญ่ของปัญหาด้วยซ้ำ” เสาวนิตย์ว่า
สุทินเสียงดังใส่ “หยุดพูดได้แล้ว”
“ฉันอยากให้คุณรับฟังความคิดเห็นฉันบ้าง”
“เสียเวลาฟังเธอบ่นเพ้อเจ้อ...แล้วฉันจะได้ออกไปรับลูกเมื่อไหร่”
เสาวนิตย์ชะงัก คาดไม่ถึง “คุณ!”
“รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เราจะออกไปรับลูก...”
“ค่ะ...ค่ะ” เสาวนิตย์ตื่นเต้นดีใจมาก แทบทำตัวไม่ถูก รีบกลับไปที่ห้องเร็วรี่
สุทินยืนมองภาพครอบครัว สุขใจที่จะได้พร้อมหน้าครอบครัวอีกครั้ง
สุตาภัญอยู่ที่ห้องพัก คุยโทรศัพท์กับเสาวนิตย์น้ำเสียงตื่นเต้นดีใจ
“อะไรนะคะคุณแม่...”
สุรัมภาอยู่ในห้อง ได้ฟังก็แปลกใจ
“ค่ะ ภาจะรอที่ห้องค่ะ ค่ะ”
สุรัมภาพลอยตื่นเต้นอยากรู้
“พี่ตา คุณแม่โทรมาว่าไงคะ”
“คุณพ่อจะมารับเรากลับบ้าน”
สุรัมภาฟังแล้วร้องไห้ออกมา วิตกไม่หาย
“คุณพ่อจะตีภา ดุภาอีกรึเปล่า”
“ไม่สิ...คุณพ่อให้อภัยเราแล้ว...การ์ดวิเศษกับมาลัยพวงนั้น ทำให้คุณพ่อรู้ว่าเรารักท่าน”
“ภาไม่ได้ฝันไปใช่ไหมคะพี่ตา”
สุตาภัญช่วยเช็ดน้ำตาให้น้อง สุรัมภายิ้มเต็มตื้นดีใจ เช็ดน้ำตาให้พี่สาวเช่นกัน
“ช่วยกันเก็บของ เราจะกลับบ้านด้วยกัน”
สุรัมภายิ้มทั้งน้ำตา “ค่ะ”
ส่วนที่บริษัทชลนิภา พนักงานชาย หญิง สองคนที่ลาออกไปแล้ว มาพบชนกชนม์ที่โทร.ไปตามตัว
พนักงานเดินเข้ามาในบริษัทเจอกับชนกชนม์ ยกมือไหว้
“ผมขอร้องล่ะครับ พวกพี่กลับมาทำงานที่นี่นะครับ”
“ท่านประธานโกรธพวกพี่มาก ท่านไม่รับพวกเรากลับมาทำงานหรอก” พนักงานชายบอก
พนักงานหญิงเสริม “พวกพี่ก็ไม่อยากทำงานรองรับอารมณ์ท่านอีก”
ชนกชนม์ยืนยันให้ความมั่นใจ “มันจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้วครับ คุณแม่ให้คุณอาธนกรมาบริหารงานแทน”
บรรดาพนักงานแปลกใจที่รู้ว่าธนกรกลับมาทำงาน
“คุณธนกรหย่าไปแล้ว” พนักชายว่า
จู่ๆ ธนกรเดินเข้ามาหาพนักงาน
“ผมแค่ลาพักร้อนเท่านั้น”
พนักงานดีใจ รีบพากันยกมือไหว้ “คุณธนกร”
“ถ้าทุกคนยังรักและไว้ใจฉัน ขอให้กลับมาทำงานร่วมกัน”
“แต่หัวหน้าฝ่ายออกแบบไปทำงานให้บริษัทคู่แข่งแล้ว” พนักงานคนหนึ่งบอก
“ผมจะเป็นคนคุมงานออกแบบเองครับ ไว้ใจผมเถอะครับ” ชนกชนม์บอก
“ถ้าคุณธนกรคุณชนกชนม์ลุย พวกเราก็พร้อมลุย” พนักงานชายบอก
“ฉันจะตามเพื่อนๆ กลับมาทำงานค่ะ”
ธนกรและชนกชนม์ดีใจมากที่พนักงานจะกลับมาทำงานอีกครั้ง
ฝ่ายสุตาภัญเก็บกระเป๋าเสร็จหันไปถามสุรัมภา
“เสร็จรึยังจ๊ะภา”
“ภากำลังเขียนการ์ดให้คุณพ่อคุณแม่ค่ะ”
“ได้กลับบ้านแล้วยังเขียนอีก” สุตาภัญขำ
“เป็นของขวัญแทนคำขอโทษค่ะ”
สุรัมภานั่งวาดรูประบายสี
“พี่ลงไปแจ้งย้ายออกก่อน เร็วๆ นะ.. ขืนช้า คุณพ่อมา พี่ทิ้งให้อยู่คนเดียว”
สุตาภัญแหย่สุรัมภาแล้วเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้สุรัมภานั่งวาดรูปเขียนการ์ดขอโทษให้พ่อและแม่ต่อไป
ทางด้านชนกชนม์หารืออยู่กับธนกรที่บริษัท
“คุณแม่รู้ว่าผมต้องแต่งงานกับนิกกี้ คุณแม่ว่าไงบ้างครับ”
“ตกใจและไม่พอใจตามระเบียบ แต่ไม่โวยวายเหมือนก่อน ได้คุณวีรภัทรและคุณนัชชาพูดให้สติ”
ชนกชนม์อึ้งไม่อยากเชื่อ “คุณพ่อกับน้านัชชาไปหาคุณแม่เหรอครับ”
“ทั้งสองท่านห่วงชนม์มาก...คุณนัชชาเองก็มีท่าทีเปิดใจรับชนม์แล้วนะ”
ชนกชนม์รู้สึกดีที่ทุกคนเริ่มเข้าใจตน
“อาว่าถึงเวลาที่เราไปพบคุณแม่ได้แล้ว”
“อย่าเลยครับ ให้ผมช่วยงานได้มากกว่านี้ ทำให้บริษัทกลับมาเหมือนเดิม ผมอยากพิสูจน์ว่าผมไม่ใช่ตัวซวย ผมสามารถทำให้บริษัทเจริญรุ่งเรืองได้”
ธนกรยิ้มรับความคิดของชนกชนม์ เสียงโทรศัพท์ชนกชนม์ดังขึ้น
“ผมขอตัวก่อนนะครับ”
ชนกชนม์เดินเลี่ยงออกไปรับโทรศัพท์ ธนกรมองตาม ภูมิใจในตัวชนกชนม์
สุตาภัญนั่นเองโทร.มาหา และคุยโทรศัพท์กับชนกชนม์ขณะอยู่ที่ใต้ถุนอพาร์ทเม้นท์
“ชนม์ คุณพ่อจะมารับฉันกลับบ้าน!”
ชนกชนม์ดีใจด้วย ตะโกนลั่น
“สุดยอดดด”
สุตาภัญรีบดึงโทรศัพท์ออกห่าง เพราะแสบแก้วหู
“พอแล้ว แก้วหูแทบแตก”
“ก็คนมันดีใจนี่ เป็นข่าวดีที่สุด...เอางี้..ฉันจะไปช่วยขนของ ฉันมีเรื่องจะบอกภาด้วย”
“มีอะไรเหรอ?”
“เหอะน่า..ไปถึงแล้วจะบอก...”
“รีบมาแล้วกัน มาช้าฉันไม่รอนะ”
“คร๊าบ...”
ชนกชนม์วางสายยิ้มกว้าง จะรีบไปหาสุตาภัญ
สุตาภัญวางสายจากชนกชนม์ ยิ้มย่องดีใจที่ทุกอย่างกำลังลงตัวด้วยดี สุตาภัญเดินไปยังห้องเจ้าหน้าที่ เพื่อทำเรื่องย้ายออกด่วน โดยไม่รู้ว่าเพทายออมาจากมุมหนึ่ง ยิ้มร้ายเตรียมจะจัดการกับทั้งสุรัมภาและสุตาภัญ
ขณะเดียวกันณวัตรเคาะประตูห้องชนิกานต์
“นิกกี้...นิกกี้ พ่อเอาเอกสารมาให้กรอกข้อมูลไปออสเตรเลีย”
ณวัตรแปลกใจที่ชนิกานต์ไม่เปิดประตู ณวัตรล้วงกุญแจสำรอง ออกมาไขเข้าไปในห้อง
-ณวัตรและกัณฐิกาเข้าไปในห้อง
“นิกกี้”
แต่ไม่มีใครอยู่ในห้อง
“หนูนิกกี้หนีไปเหรอค่ะ...ฉันกลัวว่าแกจะคิดสั้น!”
“นิกกี้รักตัวกลัวตาย ไม่กล้าทำร้ายตัวเอง”
กัณฐิกาแสร้งเป็นห่วง “คุณไปตามแกเถอะค่ะ”
“อยากไปก็ปล่อยไป”
“คุณไม่รักไม่สงสารแก”
“เพราะรักฉันถึงต้องใจแข็ง ตามใจจนเสียคนมามากพอแล้ว หวังว่าหนีไปตั้งสติจะคิดได้จะเป็นแม่คนอยู่แล้วต้องคิดให้เป็น”
กัณฐิกาแอบสะใจที่ชนิกานต์หนีไป
ธีรดนย์และกฤติยารู้ข่าวชนิกานต์หนีไปจากกัณฐิกา
“ป่านนี้นิกกี้จะเป็นยังไงบ้าง” กฤติยาเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรหรอก...คงไปสงบสติอารมณ์ที่ไหนสักแห่ง” กัณฐิกาว่า
ธีรดนย์เป็นห่วง จะออกไปกัณฐิกาถามเสียงขุ่น
“เธอจะไปไหน”
“ผมจะไปตามนิกกี้ครับ”
“เธอไปไม่ได้ ฉันนัดช่างเอาชุดแต่งงานมาให้เธอลอง เธอต้องอยู่ที่นี่”
ธีรดนย์ไม่สนใจเดินออกไป กัณฐิกาโกรธที่ธีรดนย์ออกอาการเป็นห่วงชนิกานต์
“ธีรดนย์! กลับมา”
กฤติยาบอกธีรดนย์ “นายไปเถอะ ตามตัวนิกกี้กลับมาให้ได้”
ธีรดนย์พยักหน้ารับ แล้วเดินออกไป กัณฐิกาไม่พอใจต่อว่ากฤติยา
“ยัยแอน มันจะเป็นตายก็ปล่อยมันไป”
“แม่อย่าทำบาปมากกว่านี้เลย...เวรกรรมมันจะเล่นงานแม่”
กฤติยาเตือนสติแม่ แล้วเดินออกไปกัณฐิกาไม่พอใจ
“กรรมมันตามฉันไม่ทันหรอก แกก็เห็นว่าชีวิตฉันมีความสุขแกได้แต่งงานมีครอบครัว คุณณวัตรยังรักฉัน...ยัยนิกกี้ก็ถูกเฉดหัวออกจากบ้าน!”
กัณฐิกายิ้มย่องลำพองที่ชีวิตกำลังเป็นไปด้วยดี กฤติยาเป็นห่วงความคิดของกัณฐิกา
ส่วนสุรัมภาเขียนการ์ดเสร็จ มองภาการ์ดแล้วยิ้มออย่างมีความสุข
“การ์ดสำหรับคุณพ่อคุณแม่ค่ะ...ครอบครัวของเรา”
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นสุรัมภาคิดว่าเป็นสุตาภัญเดินไปเปิดทันที
“ภาเสร็จแล้วค่ะพี่ตา” แต่แล้วต้องตกใจ “แก”
เพทายยิ้มเผล่ให้สุรัมภา
“ที่รักของพี่!”
สุรัมภาตกใจ จะรีบปิดประตู แต่เพทายแรงเยอะกว่าผลักประตูแล้วเข้ามาในห้อง
สุตาภัญจัดการเรื่องย้ายออกเสร็จแล้ว ยืนรอชนกชนม์อยู่ใต้ถุนอพารฺทเม้นท์ ชนกชนม์โผล่มาด้านหลัง
“ต๊ะเอ๋”
สุตาภัญตกใจ หันไปจะต่อยชนกชนม์
“ฉันเอง”
“ตกใจหมดเลย นึกว่าเป็นพวกเพทาย”
“ไป...กรรมกรหน้าหล่อพร้อมช่วยยกของแล้ว”
สุตาภัญเดินนำไปที่ห้อง ชนกชนม์ตามไป
ฝ่ายสุรัมภาถูกเพทายจับตัวพยายามดิ้นหนี เพทายวิ่งตามเข้ามาสุรัมภากระทืบเท้าเพทาย
“โอ๊ย”
สุรัมภาวิ่งหนีไปที่ระเบียงห้อง มองไปสูงมาก ไม่กล้ากระโดด เพทายเข้ามาหาสุรัมภา
“อยากตายก็กระโดดลงไปสิ”
สุรัมภาตะโกนให้คนช่วย “ช่วยด้วย...ช่วยด้วย”
เพทายปิดปากสุรัมภา แล้วล็อกตัวไว้
สุตาภัญเดินนำมาใกล้ห้อง แปลกใจเห็นประตูเปิดทิ้งไว้
“ภา”
สุตาภัญและชนกชนม์รีบวิ่งเข้าไปในห้อง เห็นข้าวของเกลื่อนกระจาย
“ภา…”
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย”
ชนกชนม์และสุตาภัญได้ยินเสียงร้องจากบันไดหนีไฟ
สุรัมภาพยายามดิ้นรน ร้องขอความช่วยเหลือ
“ช่วยด้วย”
เพทายเข้ามาเอามือปิดปาก สุรัมภาดิ้นกัดมือ
“โอ๊ย”
สุรัมภาเป็นอิสระจะวิ่งหนีไป
ชนกชนม์รีบวิ่งนำไป สุตาภัญวิ่งตามหลัง
“ภา...”
ขณะที่สุรัมภากำลังวิ่งหนี แต่แล้วเพทายวิ่งตามมาจับตัวไว้ได้
“อย่าให้ฉันต้องใช้กำลังกับเธอ!”
เพทายล็อกตัวสุรัมภาไว้ ชนกชนม์วิ่งเข้ามาเห็น
“ไอ้เพทาย ปล่อยภา!”
เพทายไม่สนใจล็อกตัวสุรัมภาออกไป ชนกชนม์จะวิ่งตามไปแต่แล้วกลับโดนใครคนหนึ่งทุบที่ท้ายทอย
ชนกชนม์ทรุดตัวล้มลง สุตาภัญวิ่งตามเข้ามาเห็นชนกชนม์ล้มอยู่กับพื้นก็ตกใจ
“ชนม์”
เพทายหันไปสั่งลูกน้อง “จับตัวมันไปให้เฮีย”
ลูกน้องปรัชญาเข้าจับตัวสุตาภัญ ชนกชนม์พยายามฝืนลุกขึ้น
“ ภา...ตา”
ชนกชนม์ลุกตามไม่ไหว ทรุดลงไปอีกอย่างอ่อนแรง
เพทายและลูกน้อง จับตัวสุรัมภาและสุตาภัญเข้าไปในรถ ปิดประตู รถของเพทายวิ่งออกไป สวนทางกับรถของสุทินที่ขับเข้ามาจอดหน้าอพาร์ทเม้นท์พอดี
สุทินและเสาวนิตย์ลงจากรถ
“ลูกพักที่นี่ค่ะ”
สุทินและเสาวนิตย์ดีใจ รีบขึ้นไปหาสองสาว
เสาวนิตย์เดินนำสุทินมาที่ห้องพักสุตาภัญ
“ลูกตา”
“ลูกภา พ่อมารับแล้วลูก”
สุทินและเสาวนิตย์เดินเข้าห้อง เห็นข้าวของเกลื่อนกระจาย สองคนตื่นตกใจ
เสาวนิตย์ใจหาย “ลูกตา ลูกภา”
ชนกชนม์เดินเซมาที่ห้อง
“คุณอาครับ”
สุทินเข้าชาร์ตชนกชนม์ถามรัวเร็ว “มันเกิดอะไรขึ้น ลูกสาวฉันอยู่ไหน?”
“พวกเพทายมันจับตัวไปครับ”
สุทินตกใจ ปล่อยตัวชนกชนม์...เสาวนิตย์ทรุดตัวร้องไห้โฮ
“ลูกแม่”
ชนกชนม์เป็นห่วงสุตาภัญและสุรัมภามาก
ติดตาม "ลูกไม้หลากสี" ตอนที่ 20