ลูกไม้หลากสี ตอนที่ 18
ฟากชนิกานต์เดินเสิร์ฟอาหาร เหลียวมองไปที่มุมหนึ่งนิ่งนาน กฤติยาเห็นก็แปลกใจ มองตามสายตาชนิกานต์ เห็นธีรดนย์ถือถาดแก้วน้ำ สุตาภัญช่วยเสิร์ฟ ธีรดนย์หยิบผ้าเช็ดหน้า คอยซับเหงื่อให้สุตาภัญ
“เคล็ดลับเธอล้มเหลวแล้วล่ะ...ไม่เห็นธีจะสนใจฉันเลย”
“เรื่องของใจต้องใช้เวลา ให้เขาค่อยๆ ซึมซับความดีของเธอ”
“อีกนานไหม”
“ไม่รู้...สู้ๆ นะ”
กฤติยาให้กำลังใจ ชนิกานต์ฝืนยิ้ม เดินเสิร์ฟอาหารต่อไป
ขณะที่ชนกชนม์นั่งกินข้าว นิธิก็เดินเข้ามาตรงหน้า ยักคิ้วให้ชนกชนม์
ชนกชนม์แปลกใจ “นิธิ มาได้ไงครับ”
“นิธิมีขานี่ครับ”
“ไม่ขำนะ มากับใคร? มาทำอะไร”
“มากับคุณพ่อคุณแม่ครับ”
ชนกชนม์มีสีหน้าเครียด กังวลขึ้นมาทันที กลัวนัชชาไม่พอใจ
นิธิส่งผลไม้ให้ชนกชนม์ “คุณแม่ให้นิธิเอาผลไม้มาให้พี่ชนม์ครับ”
ชนกชนม์แปลกใจ หันไปมองที่มุมหนึ่ง เห็นนัชชาเดินแจกผลไม้ให้กับผู้บำบัด นัชชาเห็นชนกชนม์มองมา
“คุณแม่บอกว่าเป็นพี่น้องกันต้องช่วยเหลือกันครับ”
ชนกชนม์ยกมือไหว้นัชชา นัชชายิ้มรับบางๆ แล้วหันไปแจกผลไม้คนอื่นต่อ
ชนกชนม์บอกนิธิ “ขอบใจน้องรักมากนะครับ”
นิธิเดินเข้ามากอดไหล่ชนกชนม์ “ไม่เป็นไรครับพี่ชาย”
ชนกชนม์หัวเราะขำ
“นิธิไปช่วยคุณแม่ทำความดีก่อนนะครับ”
นิธิวิ่งออกไปชนกชนม์รู้สึกดีที่นัชชามาให้กำลังใจตน จังหวะนั้นวีรภัทรเข้ามาหา
“ทุกคนรักและเป็นกำลังใจให้ลูก ลูกต้องไม่ทำให้พวกเราผิดหวัง”
“ครับคุณพ่อ”
วีรภัทรโอบไหล่ให้กำลังใจชนกชนม์ ชนกชนม์กินข้าวอย่างมีความสุข และเปี่ยมแรงใจ
ไม่นานต่อมา สุรัมภาจูงมือชนกชนม์มาคุยที่มุมหนึ่ง
“มีอะไร? ทำยังกะมีความลับแน่ะ”
“ลับสุดยอดค่ะ!”
สุรัมภาเอาของบางอย่างใส่มือ ชนกชนม์แบมือดู เห็นเป็นสร้อยของตนก็แปลกใจ
“สร้อยของพี่!”
“ภายังไม่ได้ให้พี่ตา พี่ชนม์ควรมอบให้พี่ตาด้วยตัวเอง”
ชนกชนม์เปลี่ยนใจ “พี่ว่าไม่ต้องให้แล้วล่ะ”
“ทำไมล่ะคะ พี่ตาหายโกรธพี่ชนม์แล้ว ภารู้ว่าพี่ชนม์ยังรักพี่ตา...พี่ชนม์มอบให้พี่ตาเถอะค่ะ”
สุรัมภาเข้าใจความรู้สึกสองคน และอยากให้ชนกชนม์ได้สมหวังกับสุตาภัญ
“ตามีธีคอยดูแลแล้ว สร้อยเส้นนี้ไม่จำเป็นสำหรับตาอีก”
ชนกชนม์ยอมที่จะหลีกทางให้ธีรดนย์ ระหว่างนั้นธีรดนย์จูงมือสุตาภัญเข้ามา
“แอบมาอยู่นี่เอง ฉันมาขวางคออะไรรึเปล่า”
“เปล่าค่ะ เรากำลังคุยเรื่องพี่ตา”
สุรัมภาเปิดทาง หวังให้ชนกชนม์คุยกับสุตาภัญ
“นินทาอะไรพี่จ๊ะ”
“พี่ชนม์ต่างหาก พี่ชนม์มีอะไรจะบอกพี่ตาคะ”
สุรัมภาชงเรื่องให้อีก ชนกชนม์อึกอัก ธีรดนย์ชิงพูดก่อน
“ผมก็มีเรื่องสำคัญจะบอกตานะ”
ทุกคนแปลกใจว่าเป็นเรื่องอะไร
ฝ่ายชนิกานต์เดินเข้ามาที่มุมหนึ่ง อยากรู้ว่าธีรดนย์จะบอกอะไรสุตาภัญ กฤติยาเดินเข้ามายืนข้างชนิกานต์
“ผมไม่อยากให้ตาพักอยู่อพาร์ทเม้นท์ มันไม่ปลอดภัย...ผมไปเช่าบ้านไว้แล้ว ผมจะให้ตากับน้องย้ายไปอยู่ที่นั่น”
สุตาภัญฉุน “ธีไม่ปรึกษาตาเลย”
“ก็ผมอยากเซอร์ไพร้ส์ตา ยังมีเรื่องเซอร์ไพร้ส์อีกนะ ตาเรียนจบ ผมจะหมั้นตาทันที!”
ชนิกานต์ตกใจ เสียใจ กฤติยาเข้าไปยืนจับมือ ปลอบใจ
สุตาภัญแปลกใจ หันไปมองชนกชนม์ เห็นชนกชนม์เศร้าใจแต่ฝืนยิ้มให้สองคน
“ข่าวดีสุดๆเลย ยินดีด้วยนะตา”
“ยินดีอะไรกัน... ธีพูดเล่นนะ” สุตาภัญบอก
“ผมพูดจริง เราเป็นแฟนกันนานแล้ว...ผมไม่ลังเลที่จะใช้ชีวิตกับตา ผมอยากดูแลตา”
ว่าพลางธีรดนย์เข้ามาโอบกอดสุตาภัญแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ สุตาภัญพูดไม่ออกฝืนยิ้มให้
ชนกชนม์บอกทุกคน
“ฉันเองก็มีข่าวดีจะบอก”
ทุกคนแปลกใจอยากฟังว่าเป็นเรื่องอะไร?
“สร้อยเส้นนี้เป็นของครอบครัวฉัน...ฉันขอมอบสร้อยเส้นนี้ให้กับ...”
สุตาภัญมอง รอฟังว่าชนกชนม์จะมอบให้ใคร
ชนกชนม์บอกต่อ “ภา…”
สุรัมภาแปลกใจชนกชนม์เข้าไปสวมสร้อยให้สุรัมภา
สุรัมภาขืนตัวรั้งมือชนกชนม์ไว้ “พี่ชนม์ทำอะไร”
“พี่ตามีคนดูแลแล้ว ภาก็ต้องมีใครสักคนคอยช่วยเหลือนะ”
ชนกชนม์สวมสร้อยให้แล้วบอกสุรัมภา
“หลังจากพี่ออกจากที่นี่....พี่จะดูแลภา พี่จะเป็นพ่อของลูกภา”
สุรัมภาตกใจ คาดไม่ถึง และตื้นตันใจ
“พี่ชนม์”
สุรัมภาร้องไห้โผเข้าสวมกอดชนกชนม์ สุตาภัญได้ฟังก็เศร้าใจ แต่ฝืนยิ้มทั้งน้ำตา
“ฉันขอบใจนายมาก...ที่รักและห่วงภา”
ธีรดนย์โอบกอดสุตาภัญ “ร้องทำไม นี่เป็นข่าวดีนะ ข่าวดีของทุกคน”
ธีรดนย์ยิ้มพอใจที่ชนกชนม์เลือกสุรัมภา ทำให้หมดคู่แข่งเรื่องความรักอีกต่อไป
ชนิกานต์เสียใจจะเข้าไปโวย แต่ถูกกฤติยารั้งไว้ ชนิกานต์หงุดหงิดทำอะไรไม่ได้ วิ่งเตลิดออกไป กฤติยาเป็นห่วงรีบตามไป
ชนกชนม์โอบกอดสุรัมภา ตามองไปยังสุตาภัญซึ่งอยู่ในอ้อมกอดธีรดนย์ และมองมาพอดี
ทั้งสองคนมองหน้าฝืนยิ้มให้กัน ภายในใจแสนเจ็บปวดและเต็มไปด้วยความขมขื่น ที่แสดงออกมาไม่ได้
ชนิกานต์เดินออกมาตรงมุมหนึ่งในศูนย์บำบัด แล้วหันมาโวยใส่กฤติยาที่ตามมาอย่างฉุนเฉียว
“ข่าวดีของทุกคน แต่เป็นข่าวร้ายของฉัน เธอบอกให้ฉันไม่สนใจเขาก็ไม่สนใจฉัน ธีเลือกตาแล้ว”
กฤติยาพยายามพูดปลอบให้เย็นลง “ใจเย็นๆ ก่อนนะ ธีบอกรักตาก็ไม่ได้หมายความว่าธีจะแต่งงานกับตาวันนี้พรุ่งนี้...เธอยังมีเวลาให้โอกาสตัวเอง”
“ฉันรอไม่ได้อีกแล้ว! ฉันต้องเคลียร์กับตา”
ชนิกานต์ประกาศกร้าว คิดจะไปเคลียร์กับสุตาภัญ กฤติยาหนักใจ และกังวลใจ
ธีรดนย์เดินเข้าไปถามชนกชนม์ที่มุมหนึ่ง
“นายตัดสินใจดีแล้วใช่มั้ย”
“มันเป็นทางออกที่ดีที่สุด” ชนกชนม์บอก
“นายทำเพื่อภา”
ชนกชนม์ยบอก “เพื่อตา...เพื่อนายด้วย”
ธีรดนย์ซึ้งใจ
“นายก็รู้ว่าฉันรักตามาก ไม่น้อยกว่านาย ฉันมอบตาให้นายดูแล...นายต้องดูแลตาให้ดีที่สุด....อย่าทำให้ตาเสียใจ อย่าทำให้ตาผิดหวัง”
ชนกชนม์ขอร้อง ธีรดนย์พยักหน้ารับ ยื่นมือไปจับชนกชนม์จับมือกับธีรดนย์แบบแมนๆ
“ขอบใจมากเพื่อน”
ชนกชนม์ยิ้มให้กำลังใจธีรดนย์
คืนนั้นสองพี่น้องกลับมาที่อพาร์ทเมนท์ สุตาภัญและสุรัมภาเดินเข้ามาในห้องพักแล้ว สุรัมภาหันไปบอกสุตาภัญ
“พี่ตาไม่โกรธภานะคะ”
“พี่จะโกรธภาเรื่องอะไร”
“ภาไม่ได้คิดแย่งพี่ชนม์”
สุตาภัญยิ้มให้น้อง “พี่รู้ ชนม์เป็นคนเลือกภา”
“แล้วพี่ตาล่ะ? พี่ตาไม่ได้รักพี่ธี พี่ตารักพี่ชนม์”
สุตาภัญตกใจที่สุรัมภาพูดเรื่องนี้ “พี่คงต้องให้โอกาสธีได้พิสูจน์ตัวเอง” แล้วรีบเปลี่ยนเรื่อง “หยุดพูดเรื่องนี้ได้แล้ว ต่อไปนี้ภาต้องรักตัวเองรักลูกให้มาก ชนม์เขาจะเป็นผู้ชายที่ปกป้องภาได้”
สุตาภัญยิ้มให้กำลังใจว่าที่คุณแม่วัยทีน
“ดึกแล้ว เข้านอนได้แล้ว”
“ค่ะ”
สุรัมภาเข้าน้อง เตรียมอาบน้ำนอน สุตาภัญคิดอะไรบางอย่าง
สุรัมภาหลับไปแล้ว สุตาภัญเดินลงมาที่ใต้ถุนอพาร์ทเม้นท์ เศร้าใจเรื่องที่ชนกชนม์บอกจะดูแลสุรัมภา โดยมอบสร้อยให้สุรัมภาแทนใจ
“สร้อยเส้นนี้เป็นของครอบครัวฉัน...ฉันขอมอบสร้อยเส้นนี้ให้กับ...”
สุตาภัญมอง...รอฟังว่าชนกชนม์จะมอบให้ใคร
ชนกชนม์บอกต่อ “ภา…”
สุรัมภาแปลกใจ คาดไม่ถึง ชนกชนม์เข้าไปสวมสร้อยให้สุรัมภา แล้วบอก
“หลังจากพี่ออกจากที่นี่....พี่จะดูแลภา พี่จะเป็นพ่อของลูกภา”
สุรัมภาทั้งตกใจและตื้นตันใจ “พี่ชนม์!” ร้องไห้โผเข้าสวมกอดชนกชนม์
สุตาภัญดึงตัวเองกลับมา ร้องไห้ด้วยความเสียใจ แต่ต้องตัดใจยอมรับความเป็นจริง
“เราคงเป็นได้แค่เพื่อนกัน”
สุตาภัญปาดน้ำตาจะกลับขึ้นห้อง แต่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น สุตาภัญมองเบอร์ แปลกใจ
“นิกกี้!”
สุตาภัญเดินเข้ามาในสวนสาธารณะละแวกอพาร์ทเม้นท์ ชนิกานต์ปราดเข้ามาร้องไห้ขอร้องสุตาภัญ
“ตา! คืนธีให้ฉัน”
กฤติยาตามเข้ามา พยายามห้ามปรามชนิกานต์
“พอเถอะนิกกี้”
ชนิกานต์ปัดแขนกฤติยาออก ขอร้องสุตาภัญต่อ “ตา..อย่าแย่งธีไปจากฉัน”
“ฉันไม่คิดแย่งเธอ เธอกับธีเลิกกันแล้ว”
“เขาบอกให้ฉันเลิก! แต่ฉันรักธี ฉันตัดใจจากธีไม่ได้”
สุตาภัญแปลกใจ “แล้วทำไมไม่บอกฉัน”
ชนิกานต์ตัดสินใจบอกความจริง “ธีขู่ฉัน ถ้าฉันบอกเธอ เขาจะย้ายออกไปจากบ้าน ฉันไม่มีโอกาสได้พบหน้าเขาอีก ฉันไม่มีทางเลือก เธอต้องช่วยฉันนะ...ตา..ฉันต้องทำยังไง บอกสิฉันต้องทำไง”
ชนิกานต์ร้องไห้ฟูมฟายแล้วจู่ๆ ก็เป็นลมพับไป
สุตาภัญตกใจ “นิกกี้”
กฤติยากังวลใจ “นิกกี้เป็นลมบ่อยมาก พาไปคลินิกเถอะ จะได้รู้ว่าป่วยเป็นอะไร”
สุตาภัญเห็นด้วยกับความคิดกฤติยา ช่วยกันประคองชนิกานต์ออกไป
ทางด้านธีรดนย์นอนอยู่บนเตียง มองภาพที่เคยถ่ายคู่กับสุตาภัญ นึถึงเหตุการณ์ที่ธีรดนย์บอกสุตาภัญ ว่าเช่าบ้านให้สุตาภัญอยู่ด้วยกัน แล้วหลังเรียนจบจะหมั้นกับสุตาภัญ
“ผมเช่าบ้านไว้แล้ว ผมจะให้ตากับน้องย้ายไปอยู่ที่นั่น”
“ธีไม่ปรึกษาตาเลย” สุตาภัญไม่พอใจ
“ก็ผมอยากเซอร์ไพร้ส์ตา ยังมีเรื่องเซอร์ไพร้ส์อีกนะ....ตาเรียนจบ....ผมจะหมั้นตาทันที!”
ฉละอีกเหตุการณ์ที่ชนกชนม์บอกให้ธีรดนย์ดูแลสุตาภัญให้ดีที่สุด
“นายก็รู้ว่าฉันรักตามากไม่น้อยกว่านาย...ฉันมอบตาให้นายดูแล...นายต้องดูแลตาให้ดีที่สุด.....อย่าทำให้ตาเสียใจ อย่าทำให้ตาผิดหวัง”
ธีรดนย์คิดแล้วมองภาพสุตาภัญ ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
“ตา...รอหน่อยนะ อีกไม่นาน...เราจะได้อยู่ด้วยกัน...ผมจะดูแลตาให้มีความสุขที่สุด”
ธีรดนย์จูบรูปสุตาภัญด้วยความสุข ฝันเพ้อไปถึงวันที่จะได้อยู่กับสุตาภัญ
ฟากสุตาภัญประคองชนิกานต์มา โดยมีกฤติยาคอยช่วยดูแล
“ตา แอน...ไม่เป็นความจริงใช่ไหม”
ชนิกานต์ซักสุตาภัญ และกฤติยา กฤติยาหลบหน้าไม่กล้าพูด
“คุณหมอบอกว่าเธอตั้งท้องได้สองเดือนแล้ว”
ชนิกานต์ยิ่งฟังก็เสียใจ
“ไม่จริง! หมอตรวจผิดพลาด ฉันปกติดีที่ฉันคลื่นไส้หน้ามืด ฉันนอนไม่หลับ! ฉันเครียด”
ชนิกานต์พยายามปฎิเสธความจริง กฤติยาหยิบเครื่องตรวจการตั้งครรภ์ขึ้นมา
“เธอตรวจเช็คแล้ว มันก็ได้ผลตรงกัน”
ชนิกานต์โมโหปัดที่ตรวจครรภ์โยนทิ้ง “เครื่องมันห่วย เชื่อถือไม่ได้!”
ชนิกานต์ร้องไห้เสียใจที่รู้ว่าตัวเองตั้งท้อง และเริ่มอ่อนลง
“ฉันจะทำยังไง ฉันจะอยู่ยังไง”
“เธอต้องเข้มแข็ง รักตัวเองให้มากขึ้น..แล้วไม่ทำร้ายตัวเอง”
“เขาเกิดจากความรักและความตั้งใจของเธอนะ”
สุตาภัญและกฤติยาให้กำลังใจ
ชนิกานต์หน้าเศร้า นึกถึงเหตุการณ์ที่ธีรดนย์พยายามให้กินยาคุมกำเนิด และใจเสีย เพราะวันนั้นตนมองแผงยาคุมกำเนิด กำไว้ในมือ แล้วยกดื่มน้ำอย่างเดียว แล้วเอายาคุมทิ้งลงถังขยะ ไม่ยอมกินยา
ชนิกานต์ได้สติ รู้ว่าเด็กเกิดจากความตั้งใจของเธอ
“ใช่...เขาเกิดจากความรักและความตั้งใจ ฉันจะดูแลเขา”
“เธอต้องบอกธี ให้ธีรับผิดชอบ” สุตาภัญบอก
ชนิกานต์ร้องลั่น “ไม่ พวกเธอห้ามบอกธี!”
กฤติยาแปลกใจ “ทำไมล่ะนิกกี้ เธอเองก็อยากให้ธีอยู่กับเธอ”
“ฉันจะไม่เอาลูกเป็นเครื่องมือต่อรองขอความรัก ฉันไม่อยากให้เขารักฉันเพราะสงสารฉัน ฉันอยากให้เขารักฉันด้วยใจ”
สุตาภัญและกฤติยาแปลกใจที่ชนิกานต์เลือกหนทางนี้
“ห้ามบอกธีเรื่องฉันท้อง สัญญากับฉันสิ”
ชนิกานต์ขอร้องสองสาว กฤติยาจำต้องพยักหน้ารับคำ
ชนิกานต์หันมาถามสุตาภัญ “ตา”
“ฉันสัญญา”
ชนิกานต์โล่งใจที่ทุกคนยอมปิดบังเรื่องนี้ ชนิกานต์คิดจะเก็บความลับนี้ไว้ ส่วนสุตาภัญกังวลใจกับปัญหาที่จะตามมาอีกมากมาย
วันเวลา ผ่านไปอีกสักระยะ เหล่าลูกไม้หลากสีสัน ดำเนินชีวิตกันตามครรลองของใครมัน
เช่นเดียวกับชนกชนม์ที่เข้ารับการบำบัด และหายขาดจากการติดยาบ้า เช้านี้เขากำลังถือกระเป๋ายืนรอ สักครู่หนึ่งสุตาภัญเดินเข้ามาหา
“นึกว่าเธอไม่มารับฉันกลับซะแล้ว”
“มาส่งก็ต้องมารับสิ กลัวคนบางคนหมดกำลังใจ หันไปเสพยาอีก แน่ใจนะว่าใจเข้มแข็งพอ”
“ต่อให้เอายาเสพติดมากองตรงหน้า ฉันก็จะพุ่งเข้า...”
สุตาภัญตกใจ ชนกชนม์บอกต่อ
“พุ่งเข้าไปทำลายด้วยมือฉันเอง รู้ซึ้งแล้วว่ามันทำลายชีวิตฉัน”
สุตาภัญยิ้มย่อง ชื่นชม “สอบผ่าน....คุณได้ไปต่อ”
พลางสุตาภัญผายมือ เชื้อเชิญชนกชนม์เดินออกไปจากศูนย์
ขณะเดียวกันเพทายนั่งดื่มน้ำรออยู่ใต้ถุนอพาร์ทเม้นท์ที่สุตาภัญกับสุรัมภาพักอยู่ ปอนเข้ามาถามเพทาย
“แกรออะไรวะ”
เพทายยิ้มกริ่ม “รอรับรางวัลจากที่รักของฉัน”
“ยัยเด็กนั่นออกไปข้างนอก กลับเหอะ นั่งรอเสียเวลา”
“อยากกินของดีของอร่อย....มันต้องใจเย็นๆ”
เพทายนั่งดูดน้ำรอจัดการสุรัมภา อย่างใจเย็น
สุตาภัญเดินนำมาที่บ้านเช่าหลังเก่าพลางหันไปถามชนกชนม์
“ไม่คิดจะเปลี่ยนที่อยู่ใหม่ เริ่มต้นชีวิตใหม่”
“ฉันเคยบอกแล้วไง สิ่งแวดล้อมเลวร้ายแค่ไหนไม่สำคัญ มันอยู่ที่ใจ คิดดีทำดี มันจะเป็นเกราะป้องกันภัยให้เรา”
สุตาภัญเย้า “แหม....เดี๋ยวนี้คมคายนะ เชิญค่ะ ชีวิตใหม่...นายชนกชนม์”
สุตาภัญผายมือ เชื้อเชิญให้ชนกชนม์เดินเข้าไปในบ้าน พอชนกชนม์เปิดประตูบ้านเข้าไป
ด้านใน ก็อึ้ง ทึ่ง เพราะเห็นสภาพภายในบ้านสะอาด สดใส สวยงาม ตกแต่งประดับด้วยดอกไม้ ตามมุมบ้าน
สุรัมภาเดินถือช่อดอกไม้เข้ามาหาชนกชนม์
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ” สุรัมภามอบช่อดอกไม้ต้อนรับชนกชนม์
ชนกชนม์รับดอกไม้ มองไปบริเวณห้อง มองอย่างทึ่งสุดๆ “ผลงานภาใช่ไหมเนี่ย”
“พี่ชนม์อาสาจะดูแลภา ภาก็ต้องดูแลพี่ชนม์สิคะ”
ชนกชนม์ยิ้มดีใจ สุตาภัญมองเห็นความสัมพันธ์สองคน ก็เศร้าใจเล็กน้อย
“เอากระเป๋าเสื้อผ้ามาค่ะ ภาจัดเสื้อผ้าให้”
“อย่าเลย พี่เกรงใจ”
พูดจบชนกชนม์ส่งกระเป๋าให้ สุรัมภาหัวเราะขำ รับเข้าไปจัดใส่ตู้เสื้อผ้าในห้องนอนให้
สุตาภัญเห็นสุรัมภาดูแลชนกชนม์อย่างดี ก็เลี่ยงเดินออกไป ชนกชนม์หันมองตาม สังเกตเห็นความผิดปกติของสุตาภัญ
เวลาเดกดียวกัน แป๋วบอกชลนิภา ด้วยอาการตื่นเต้น
“คุณผู้หญิงคะ มาอีกแล้วค่ะ”
ชลนิภาตกใจ ขวัญผวา “ตำรวจรึพวกมาเฟีย”
“ไม่ใช่ค่ะ!”
ชลนิภาแปลกใจ “ใคร”
ระหว่างนั้น ชยางกูรเดินเข้ามาในสภาพบักโกรก ทรุดโทรมดูไม่จืด
“คุณแม่ครับ”
“ลูกกูร”
ชลนิภายืนมองไม่ยอมเข้าไปหา ชยางกูรรู้ตัวว่าทำผิด ค่อยๆ เข้ามาหาชลนิภา....
“กูรขอโทษ กูรผิดไปแล้ว คุณแม่จะด่าจะว่ากูรลงโทษกูรได้เลยขอให้คุณแม่ให้อภัยกูร รักกูรนะครับ”
ชยางกูรทรุดตัวก้มลงกราบเท้าแม่ ชลนิภามองชยางกูรร้องไห้ นั่งลงบอกลูกชาย
“แม่ลงโทษลูกไม่ได้ ขอแค่เห็นลูกกลับมาปลอดภัย แม่ก็ดีใจแล้ว”
ชยางกูรตื้นตันเข้าสวมกอดชลนิภา
“ลูกไปอาบน้ำ แล้วเราจะไปสถานีตำรวจด้วยกัน”
ชยางกูรตกใจ “ไม่ครับ! กูรไม่ไป”
“ตำรวจกำลังตามจับลูก ลูกต้องไปมอบตัว แม่จะหาทนายเก่งๆ ไปสู้คดี”
ชยางกูรโวยวาย “กูรไม่ไป! กูรไม่อยากติดคุก”
“แล้วลูกจะทำยังไง”
“กูรจะหนีไปต่างประเทศ กูรจะหนีไปให้ไกล ไม่กลับมาที่นี่อีก คุณแม่ต้องช่วยกูร! คุณแม่รักกูรไหมครับ คุณแม่ต้องช่วยกูรด้วยนะครับ”
ชยางกูรร้องไห้ฟูมฟายขอร้อง จนชลนิภาต้องยอม
“จ้ะ...ลูกขึ้นไปอาบน้ำ แม่จะเตรียมเงิน จัดเสื้อผ้าให้”
ชยางกูรดีใจ “ขอบคุณครับคุณแม่”
“รีบไปอาบน้ำเถอะ”
“ครับ”
ชยางกูรรีบขึ้นห้อง เพื่ออาบน้ำเตรียมตัวหนีไป ส่วนชลนิภาคิดอะไรบางอย่าง
ลูกไม้หลากสี ตอนที่ 18 (ต่อ)
ฝ่ายสุตาภัญยืนคิดอะไรบางอย่างอยู่หน้าบ้านเช่า ชนกชนม์เดินเข้ามาถาม
“เธอไม่สบายใจเรื่องอะไร”
สุตาภัญปฏิเสธ “เปล่า”
ชนกชนม์จ้องตา “ตาเธอมันฟ้อง ว่าโคตะระกลุ้มใจเลย”
สุตาภัญอดขำไม่ได้ “ศูนย์บำบัดเขาฝึกวิชาชีพดูหมอด้วยรึไง”
“ฉันเป็นหมอเดา เดาถูกไหมล่ะ”
“เป็นคำตอบที่..ผิด.....ค่ะ”
“แย่จัง”
ชนกชนม์ไม่อยากคาดคั้น นึกถึงเพื่อนๆ
“ช่วงที่ฉันไม่อยู่ มีอะไรเกิดขึ้นบ้างเนี่ย อัพเดทหน่อย เพื่อนๆ เป็นไง นิกกี้ทำใจเรื่องธีได้ยัง”
สุตาภัญอึ้ง ไม่กล้าบอกว่าชนิกานต์ท้อง “นิกกี้เข้มแข็งขึ้น ไม่มีอะไรน่าห่วง”
ชนกชนม์วกกลับมาถาม “แล้วกลุ้มใจเรื่องอะไรคะ”
สุตาภัญแปลกใจ “ยังไม่เลิกถามอีก”
“ก็คนมันรู้จักกัน...เห็นปุ๊บก็รู้ปั๊บ ว่านางฟ้าซีเรียส”
ชนกชนม์เป็นห่วง สุตาภัญไม่อยากบอกเรื่องชนิกานต์ เล่าเรื่องสุรัมภาแทน
“ฉันเป็นห่วงภา ไม่อยากให้ภาลำบาก อีกไม่นานก็ต้องคลอดลูก”
“ฉันรับปากแล้วไงว่าจะดูแลภาให้ดีที่สุด”
“นายต้องรักภาให้มากนะ”
สุตาภัญขอร้อง ชนกชนม์ยิ้มรับอย่างมั่งมั่น
สุรัมภาตามออกมา ยืนยิ้ม ดีใจที่รู้ว่าชนกชนม์พร้อมจะดูแลตนและลูกน้อย
ส่วนชลนิภาหยิบเสื้อผ้าชยางกูร ออกมาพับ เตรียมจัดกระเป๋าเดินทางให้ ชลนิภาพับเสื้อผ้าแล้วคิดถึงเหตุการณ์ในอดีต
ทั้งเหตุการณ์ที่ชยางกูรขโมยของ ธนกรต่อว่า แต่ชลนิภาเข้าข้างชยางกูร และเหตุการณ์ที่ธนกรต่อว่าชยางกูรเรื่องเข้าบ่อนเล่นการพนัน ชยางกูรร้องไห้ ชลนิภาต่อว่าธนกร
กระทั่งเหตุการณ์ที่ธนกรเตือนสติชลนิภา ที่เข้าข้างลูก และว่าชยางกูรจะเสียคน
ชลนิภาครุ่นคิดวางเสื้อลง คิดตัดสินใจบางอย่าง มองไปยังห้องน้ำที่ชยางกูรอาบน้ำอยู่ แล้วเดินออกจากห้องไป
สุตาภัญเดินเข้ามากับสุรัมภา หลังไปส่งชนกชนม์กลับบ้าน
สองสาวหยุดที่ชั้นล่างอพาร์ทเม้นท์ สุรัมภาคว้ามือสุตาภัญไว้
“พี่ตา...พี่ตาว่าพี่ชนม์รักภาจริงๆ รึแค่สงสารภา”
“ทำไมคิดงั้นล่ะ”
“ก็ภารู้ว่าพี่ชนม์รักพี่ตามาก แล้วก็รักพี่ธี...พี่ชนม์อาจเปิดทางให้พี่ธีสมหวังในรัก”
“ไม่เอา..หยุดคิดหยุดพูดได้แล้ว...” สุตาภัญจับสร้อยที่คอสุรัมภา “ชีวิตของชนม์อยู่กับภา...ใจชนม์ก็อยู่กับภา...ภาต้องดูแลมันให้ดี”
สุรัมภาใจชื้น “ค่ะ...” พลางจับสร้อย “ภาจะรักมันสุดหัวใจ”
“กลับห้องได้แล้ว”
สุตาภัญพาสุรัมภาเดินไปจะขึ้นห้อง เจอธีดนย์ยืนรออยู่
“กลับมาแล้วเหรอ? ผมรอตาตั้งนานแน่ะ”
“ภาขึ้นห้องไปก่อนนะ”
สุรัมภาพยักหน้า แล้วเดินออกไป เพทายซึ่งหลบอยู่ มองตามสุรัมภา แล้วสะกดรอยสุรัมภา
สุตาภัญตัดสินใจที่จะคุยกับธีรดนย์ให้รู้เรื่อง
ชยางกูรใส่เสื้อผ้าเสร็จ เดินออกมาบอกชลนิภา
“คุณแม่เตรียมเงินให้กูรล้านนึงด้วยครับ”
ชยางกูรพูดจบเหลียวมองไป แต่ไม่เจอชลนิภา เห็นเพียงกระเป๋าเสื้อผ้าที่จัดไม่เสร็จ
ฟากชลนิภาเดินมายังมุมหนึ่งของบ้าน หันกลับไปมอง ชยางกูรจะเห็น ชลนิภาคิดตัดสินใจบางอย่าง
สุตาภัญคุยกับธีรดนย์ซึ่งตัดพ้อตามประสา
“ตาไปรับชนม์กลับ ทำไมไม่บอกผม ผมจะขับรถไปให้”
“ตานั่งแท็กซี่ไปก็ง่ายดี”
“ผมไม่อยากให้ตาไปคนเดียว คนอื่นเข้าใจผิดคิดว่าตาเป็นแฟนชนม์”
สุตาภัญอึ้ง ธีรดนย์ออดอ้อนสุตาภัญ
“แฟนหึงนะครับ”
สุตาภัญบอกนิ่งๆ “อย่าใช้คำนี้อีกเลย”
ธีรดนย์อ้อนต่อ “ไม่อยากให้ผมเรียกแฟน งั้นเรียกเพื่อนสนิทนะ”
สุตาภัญบอกด้วยท่าทีจริงจัง “ธี... เราเป็นได้แค่เพื่อน เพื่อนเท่านั้น”
พอพูดแล้วสุตาภัญก็ร้องไห้ออกมา ธีรดนย์แปลกใจ
“ตาเป็นอะไร”
“ตาพูดจริงนะ เราเป็นแฟนกันไม่ได้ เราหมั้นกันไม่ได้ เราแต่งงานกันไม่ได้”
ธีรดนย์อึ้งตกใจ คาดไม่ถึง
สุตาภัญร้องไห้ เดินหนีไป ธีรดนย์ตกใจ ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
ฝ่ายชนิกานต์ ตื่นมาก็เดินเข้าไปถามกฤติยา
“ธีไปหาตาใช่ไหม”
กฤติยาพยักหน้า ชนิกานต์รับฟัง ไม่โวยวาย จนกฤติยาแปลกใจ
“ฉันดีใจนะที่เธอทำใจได้”
“ฉันไม่ได้ทำใจ ฉันแค่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่างหาก”
กฤติยาไม่เข้าใจความคิดชนิกานต์
สุตาภัญเดินหนี ธีรดนย์เดินตามจนทัน คว้าแขนสุตาภัญไว้
“ใครพูดอะไร? ใครใส่ร้ายผม”
สุตาภัญนิ่ง ไม่ยอมตอบ
“นิกกี้ใช่มั้ย นิกกี้ยุให้ตาเลิกกับผม”
“ไม่ใช่!”
“รึว่าชนม์ ชนม์มันตื๊อตาอีก ธีจะไปคุยกับชนม์ให้รู้เรื่อง”
ธีรดนย์วึดวือ จะออกไป สุตาภัญตะโกนบอก
“พอเถอะธี การตัดสินใจของตาไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้น มันเกิดจากตัวธีเอง”
ธีรดนย์หันกลับมาหา มองอย่างแปลกใจ “ตาบอกผมมา...ผมทำอะไรผิด”
สุตาภัญยังไม่กล้าบอกเรื่องชนิกานต์ท้อง
“ตาไม่ชอบอะไรในตัวผม ผมจะปรับปรุงตัว ผมจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อตา”
“ตาไม่อยากหลอกตัวเอง ตาไม่ได้รักธี ต่อให้ธีเป็นซุปเปอร์แมน เป็นผู้ชายที่เพอร์เฟคที่สุดในโลก ตาก็ไม่ได้รักธี”
“ผมไม่เข้าใจ ทำตัวดีๆ ไม่ชอบ ตาคงชอบแบบกุ๊ย ไอ้ขี้ยาอย่างชนม์”
ธีรดนย์พาลพาโล โวยวายใส่ สุตาภัญทนไม่ได้ ตบหน้าให้สติธีรดนย์
“พอเถอะ แล้วสักวันธีจะเข้าใจ ว่าเรารักกันไม่ได้”
สุตาภัญเดินหนีขึ้นห้องพักไป ธีรดนย์ไม่เข้าใจ และพาลโกรธชนกชนม์อยู่อย่างนั้น
ฝ่ายสุรัมภานั่งมองสร้อยคอล็อกเก็ตภาพครอบครัวของชนกชนม์อย่างเป็นปลื้ม
“อีกไม่นาน...เราจะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะคะพี่ชนม์”
สุรัมภามองสร้อยด้วยความสุขใจ โดยไม่รู้ว่าอันตรายกำลังคืบคลานเข้ามา
เพทายจะเดินไปยังห้องพักสุตาภัญ แต่มีผู้เช่าห้องอื่นเดินผ่านมา เพทายหลบมุม รอจังหวะที่จะเข้าไปหาสุรัมภา
ไม่นานนัก ชนกชนม์เดินเข้าไปหาธีรดนย์
“ตาเพิ่งกลับไปสักพัก”
ชนกชนม์พูดไม่ทันจบ ธีรดนย์ถลันเข้าต่อยหน้าทันที ชนกชนม์ตกใจ
“แกทำอะไรวะ”
ธีรดนย์พุ่งเข้าต่อย ชนกชนม์เลยต่อยกลับ ธีรดนย์เซ ล้มลงที่พื้น
“ฉันไม่ยอมให้แกต่อยฟรีหรอก แกโกรธฉันเรื่องอะไร”
ธีรดนย์ร้องไห้โฮออกมา ชนกชนม์แปลกใจและสงสาร
“ไอ้ธี!”
สุรัมภาถอดสร้อยวางไว้ เตรียมตัวไปอาบน้ำ ยินเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น
“พี่ตา”
สุรัมภาเดินไปเปิดประตู ถามโดยยังไม่ได้มองหน้า
“พี่ตาคุยกับพี่ธี” แต่แล้วต้องตกใจ “แก!”
สุรัมภาจะปิดประตูห้อง แต่เพทายแรงเยอะกว่า ผลักเข้ามาในห้องได้
ขณะเดียวกันสุตาภัญจะเดินไปที่ห้อง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น สุตาภัญรับสาย
“ว่าไงชนม์”
ด้านสุรัมภาจะหนีออกไป แต่เพทายดันตัวไว้
“ปล่อยฉันนะ”
“ไม่เอาน่า...ฉันจะทำให้เธอมีความสุข”
เพทายเข้าไปกอดรัดสุรัมภา
ชนกชนม์คุยโทรศัพท์บอกสุตาภัญ สายตามองไปยังธีรดนย์ที่นั่งร้องไห้ที่มุมหนึ่ง
“ธีเสียใจมาก ฉันอยากให้เธอมาคุยกับธีให้รู้เรื่อง รีบมานะตา”
สุตาภัญวางสายคิดหนัก ว่าจะไปหาธีรดนย์ หรือทำอย่างไร
ฝ่ายเพทายผลักสุรัมภาล้มลงบนเตียงนอน
“ช่วยด้วย ปล่อยฉันนะ!”
“ฉันมารับรางวัลที่เธอติดค้างฉัน”
“เอาเงินไปเถอะ ฉันให้นายหมดเลย”
“ตัวเธอมีค่ามากกว่าเงินเป็นร้อยเท่า”
เพทายเข้ามาหาสุรัมภา สุรัมภาแสร้งยอมนิ่ง แล้วฉวยโอกาสทีเผลอ ถีบเข้าหว่างขาเพทายจังเบอร์
“โอ๊ย”
สุรัมภารีบวิ่งไปที่ประตูห้อง จะเปิดออก แต่เพทายเข้ามากระชากตัวแล้วจับสุรัมภานอนลงที่พื้น
“วันนี้ไม่มีใครช่วยเธอได้!” เพทายรุกปล้ำสุรัมภาอย่างหื่นกระหาย
สุรัมภาร้องลั่น “ช่วยด้วย”
ประตูเปิดผลัวะออก สุตาภัญเห็นภาพก็ตกใจ คว้ามีดที่โต๊ะในห้อง ขึ้นมาจ่อขู่
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ”
เพทายตกใจ คาดไม่ถึง
สุตาภัญคว้านกหวีดที่แขวนไว้เตือนภัย เป่าปรี๊ด ร้องขอความช่วยเหลือ “ช่วยด้วยค่ะ” แล้วเป่านกหวีดอีก “ช่วยด้วยค่ะ”
ผู้เช่าห้องติดกันได้ยิน เปิดประตูห้องออกมา แล้วเดินมาที่ห้องสุตาภัญที่เปิดอยู่
เพทายตกใจ ปล่อยสุรัมภา
“ฉันไม่ยอมให้เธอหลอกใช้ฟรี เธอต้องตอบแทนฉัน!”
เพทายเหฌนท่าไม่ดีพูดขู่ แล้วรีบออกจากห้องไป เจอผู้เช่าห้องอื่นที่เดินเข้ามา เพทายรีบวิ่งหนีไปที่บันไดหนีไฟ..
สุตาภัญรีบเข้าไปดูสุรัมภา “ภา”
สุรัมภาตกใจมาก “พี่ตา”
สุรัมภากอดสุตาภัญไว้แน่นด้วยความหวาดกลัว
ฟากชนกชนม์รู้ความจริงจากปากธีรดนย์ก็แปลกใจ
“ไม่มีเหตุผลอะไรที่ตาจะบอกเลิกนาย ตาไม่มีใคร”
“ใช่ ตาไม่มีใครนอกจากนาย นายรักตา”
ชนกชนม์ยืนยัน “ฉันเลือกที่จะดูแลภาแล้ว ฉันไม่เคยหักหลังนาย”
“แล้วมันเป็นเพราะอะไรกัน? มันเกิดอะไรขึ้น”
“ฉันตอบไม่ได้ ตาเองก็ไม่เคยเล่าฉัน...ในฐานะเพื่อน ฉันแนะนำได้แค่ว่า...นายกลับไปดูแลนิกกี้เถอะ นิกกี้รักนายมาก มันน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด” ชนกชนม์แนะนำ
ธีรดนย์ไม่ยอม “ไม่...ความฝันความหวังของฉันคือตา ฉันฝันที่จะใช้ชีวิตกับตา ฉันไม่ยอมให้ใครมาทำลายฝันของฉัน”
ธีรดนย์ปาดน้ำตา ฮึดสู้ให้สุตาภัญกลับมารัก แล้วเดินออกไป ชนกชนม์หวั่นใจกลัวจะเกิดปัญหาตามมา
สุตาภัญแปลกใจที่เพทายมาหาสุรัมภา แถมพูดข่มขู่ไว้
“เพทายมันบอกว่าภาต้องตอบแทนมัน ภาสัญญาอะไรกับมันไว้”
สุรัมภาตัดสินใจเล่าความจริง “ภาขอให้มันทำลายคลิปที่ชยางกูรขืนใจภา...ภาคิดว่ามันจะเอาเงิน แต่มันต้องการภา”
สุรัมภาร้องไห้ สุตาภัญกอดน้องไว้สีหน้าเป็นกังวล
“ภาไม่น่าเลย”
“ภาจะทำยังไงดี มันไม่ปล่อยภาแน่”
“เราต้องระวังตัวกันมากขึ้น พี่จะบอกให้ชนม์ดูแลภามากกว่านี้ แล้วพี่จะทำงานหาเงิน ย้ายไปอยู่ที่อื่น”
สุรัมภาเสียใจ “ภาทำให้พี่ตาเดือดร้อนอีกแล้ว”
“อย่าพูดอย่างนั้น เราเป็นพี่น้อง มีอะไรเราต้องช่วยเหลือกัน”
สุตาภัญกอดปลอบใจน้อง คิดหางานหาเงินให้ได้มากๆ
ในที่สุดชลนิภาเดินมาหยิบโทรศัพท์ จะโทร.แจ้งตำรวจ แป๋วเข้ามาถามชลนิภาด้วยความเป็นห่วง
“คุณผู้หญิงตัดสินใจดีแล้วเหรอคะ”
ชลนิภาคิดตัดสินใจอีกครั้ง แล้วกดโทร.หาตำรวจ
“คุณตำรวจคะ ชยางกูรกลับมาบ้านแล้วค่ะ ดิฉันจะพาลูกไปมอบตัว”
พลันมือของชยางกูรเข้ามาแย่งโทรศัพท์วางลงทันที
ชลนิภาตกใจ “ลูกกูร”
“คุณแม่โกหก! คุณแม่ไม่รักกูร กูรเกลียดคุณแม่”
ชยางกูรรีบวิ่งหนีออกไป ชลนิภาตกใจ วิ่งไล่ตาม
แป๋วกังวลใจมาก
ชยางกูรจะออกไปที่รถ ชลนิภาตามเข้ามาขอร้อง
“ลูกกูรกลับมาก่อน แม่รักลูกนะ”
“ไม่จริง คุณแม่จะจับกูรส่งตำรวจ คุณแม่เกลียดกูร!”
“แม่อยากให้ลูกสู้คดี ถึงแม้ต้องโดนติดคุก แม่ก็รู้ว่าลูกปลอดภัย แม่ดูแลลูกได้ ดีกว่าปล่อยให้ลูกหนีไปทั้งชีวิต แม่ทำไปเพราะรักลูก”
ชยางกูรตัดพ้อต่อว่า “กูรไม่เชื่อ! คุณแม่ใจร้ายใจดำ คุณแม่รักแต่ตัวเองไม่เคยรักใคร คุณแม่ไม่ยอมให้กูรหนีไป เพราะคุณแม่กลัวจะเสื่อมเสียชื่อเสียง”
ชยางกูรต่อว่าชุดใหญ่ ชลนิภาเสียใจตบหน้าชยางกูร
“ทำไมลูกพูดกับแม่อย่างนี้ ลูกไม่เคยสำนึกเลยใช่ไหม ว่าลูกทำอะไรลงไป แม่ไม่เคยสอนให้ลูกทำชั่วเป็นคนเลว”
ชยางกูรย้อนกลับ “คุณแม่เคยสอนกูรด้วยเหรอครับ”
ชลนิภาอึ้ง พูดไม่ออก
“ที่ผ่านมาคุณแม่มัวแต่ทำงาน ปากก็บอกว่าทำเพื่อลูก แต่คุณแม่ไม่เคยสนใจ ไม่เคยให้เวลากูร นอกจากใช้เงินเลี้ยง”
ชลนิภายอมรับผิด “ใช่...มันเป็นความผิดของแม่เอง...ลูกกูร...เราจะเริ่มต้นกันใหม่ แม่จะดูแลลูกให้ดี เรามีกันสองคน อย่าทิ้งแม่ไป”
“สายไปแล้วครับ...ในเมื่อคุณแม่ไม่เคยให้ความรัก ให้ความผูกพัน ก็อย่ามาเรียกร้องความรักเลย”
ชยางกูรเดินออกไป ชลนิภาเข้ามาจับตัวไว้
“อย่าทิ้งแม่ไป....ลูกกูร”
ชยางกูรรำคาญ ผลักชลนิภาออก ชลนิภาล้มลงตัวกระแทกตู้โชว์
“คุณผู้หญิง!” แป๋วตกใจ รีบเข้าไปดูชลนิภา บอกชยางกูร “คุณกูรคะช่วยคุณผู้หญิงด้วยค่ะ”
ชยางกูรเหลียวมามองชลนิภา แล้วเดินออกไปจากบ้านไม่แยแส ชลนิภาเห็นชยางกูรออกไป ก็เสียใจ
“ลูกกูร”
ชลนิภาเป็นลมไป แป๋วตกใจ
“คุณผู้หญิง!”
ชยางกูรจะเดินออกไปจากบ้าน เจอกับชนกชนม์
“แก!”
“นายไปมอบตัวเถอะ”
“ฉันโดนตำรวจจับเพราะแก แกคิดทำร้ายฉัน ไอ้สารเลว!”
“เมื่อไหร่นายจะเลิกโทษคนอื่น ความผิดทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะตัวนายเอง”
“ไม่ต้องมาสอน สะใจแกแล้วสิ แกจะได้กลับไปเป็นลูกรักของแม่ แต่จำไว้ฉันไม่ยอมจนตรอกให้แกหัวเราะเยาะ ฉันจะต้องชนะแก”
ชยางกูรจะออกไปอีก ชนกชนม์ขวางไว้
“ไปโรงพักกับฉัน”
ชนกชนม์จะพาชยางกูรไป ชยางกูรควักปืนออกมาขู่
“อยากตายรึไง”
ชยางกูรเล็งปืนใส่ ทำท่าจะยิงชนกชนม์ตกใจมาก
“แกยังเคยมีความดีที่ช่วยฉัน...ฉันปล่อยแกไป แต่หลังจากนี้แกกับฉันเป็นศัตรูกัน”
ชยางกูรผลักชนกชนม์ แล้วเดินออกไป ชนกชนม์มองตามด้วยความเป็นห่วง
ขณะเดียวกันแป๋วดูแลชลนิภา ท่าทีลนลาน
“คุณผู้หญิงคะ”
ชนกชนม์เข้ามาในบ้าน เห็นภาพชลนิภาเป็นลมก็ตกใจ
“คุณแม่”
ชนกชนม์รีบเข้าไปดูอาการแม่ทันที
ธีรดนย์เดินเข้ามาในคฤหาสน์ โวยใส่ชนิกานต์
“เธอสั่งให้ตาเลิกกับฉัน”
“ฉันไม่ได้พูด!”
ธีรดนย์เข้าจับตัวชนิกานต์ “ยอมรับความจริงมา”
“ตาฉลาดพอที่จะตัดสินใจเองได้ ว่าใครเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดสำหรับตา”
ธีรดนย์ฉุน “พูดงี้หมายความว่าไง ฉันเลวนักรึไง?”
“มักง่าย! เห็นแก่ตัว! ไม่มีความรับผิดชอบ”
“ฉันเลวฉันแย่มาก ก็เลิกยุ่งกับฉัน มารักฉันทำไม”
ธีรดนย์ผลักชนิกานต์ออกอย่างฉุนฌแยว ชนิกานต์มองจ้องหน้าธีรดนย์
“ถ้าย้อนเวลาไปได้ ฉันก็อยากเกลียดนาย แต่ฉันทำไม่ได้...ฉันรักนายไปแล้ว! นายเป็นยังไงฉันก็รัก!”
“เลิกพูดเถอะ ฟังแล้วจะอ๊วก”
ธีรดนย์จะเดินออกไป จู่ๆ ชนิกานต์รู้สึกคลื่นไส้ พะอืดพะอม วิ่งจู๊ดไปที่ห้องน้ำ ธีรดนย์หันมามองด้วยความเป็นห่วง กลัวจะป่วยหนัก
กฤติยากำลังหั่นแตงกวา เป็นเครื่องเคียงข้าวคลุกกะปิ กัณฐิกาถาม
“ฝากเตือนเพื่อนเธอด้วย อย่าเสียมารยาทกับฉันให้มากนัก”
“นิกกี้ทำอะไรแม่คะ”
“เห็นหน้าฉันก็ทำเสียงโอ๊กอ๊าก วิ่งไปอ๊วก”
กฤติยาตกใจ กลัวกัณฐิกาจับได้ และรู้ว่าชนิกานต์ท้อง
“นิกกี้ไม่ค่อยสบายน่ะค่ะ”
กัณฐิกาแขวะ “โรคสำออยอีกสิ พ่อไม่อยู่ เรียกร้องความสนใจไปทั่ว”
“อาหารเสร็จแล้ว แอนไปตามนิกกี้มาทานนะคะ”
กฤติยาตัดบท รีบออกไป กัณฐิกาหันไปทำอาหารต่อ
ชนิกานต์เดินเข้ามา มีอาการอ่อนเพลีย ธีรดนย์ส่งแก้วน้ำให้
“ยังไม่หายอีก ไปหาหมอ”
ชนิกานต์สะดุ้ง ตกใจ “ไม่ไป”
“จะตายยังดื้ออีก ให้หมอตรวจว่าเป็นโรคอะไร”
“ฉันหายแล้ว ไม่ต้องห่วง ฉันดูแลตัวเองได้”
“เธอพูดเองนะว่าดูแลตัวเองได้..คุณท่านกลับมา ฉันจะย้ายออกไป”
ชนิกานต์ตกใจ “นายสัญญาว่าจะอยู่ที่นี่จนกว่าเรียนจบ!”
“ฉันเบื่อที่จะทะเลาะรายวันกับเธอ ฉันไม่อยากประสาทเสียเป็นโรคจิต!”
ธีรดนย์เดินออกไป ชนิกานต์เศร้าใจ กฤติยาเดินเข้ามาหา
“เธอจะปิดเรื่องท้องได้นานแค่ไหน บอกเขาไปเถอะ เขาจะได้รักและห่วงใยเธอ”
ชนิกานต์ฟังคำแนะนำกฤติยา แล้วคิดตัดสินใจ
ชลนิภานอนอยู่บนเตียง ชนกชนม์เอาผ้าเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ มองแม่ด้วยความรักและคิดถึง
“คุณแม่ครับ ผมกลับมาเป็นชนกชนม์คนดีของคุณแม่แล้ว ผมจะไม่ทำให้คุณแม่เสียใจ ผมจะดูแลคุณแม่ ผมรักคุณแม่ครับ”
ชนกชนม์ลุกขึ้น ไปทรุดตัวกราบที่เท้าชลนิภา มองแม่ด้วยความรักและเทิดทูน
แป๋วกำลังทำความสะอาดบ้านอยู่ ชนกชนม์เดินออกมาหา
“คุณชนกชนม์หิวรึยังคะ แป๋วจะทำอาหารมื้อพิเศษ ฉลองชัยในวันกลับบ้านค่ะ” แป๋วยิ้มย่อง
“ไม่ต้องหรอก ฉันจะกลับแล้ว”
แป๋วขอร้อง “กลับมาอยู่ด้วยกันเถอะค่ะ คุณผู้หญิงใจอ่อนลงเยอะ คิดถึงคุณชนกชนม์มากนะคะ”
“เอาไว้ให้คุณแม่อยากให้ฉันกลับมาจริงๆ ค่อยว่ากัน...พี่แป๋ว”
“ขา.....”
“พี่แป๋วอย่าบอกนะว่าฉันมาที่นี่”
“แป๋วต้องบอกค่ะ คุณผู้หญิงจะได้รู้ความจริงสักทีว่าคุณชนกชนม์เป็นลูกประเสริฐ”
“อย่าเลย...คุณแม่อาจไม่พอใจที่ฉันมาวุ่นวายที่นี่...เครียดหนักกว่าเดิม....ฉันขอ...”
“ค่ะ”
ชนกชนม์เดินออกไป แป๋วมองตามตาเยิ้มสงสารและเป็นปลื้ม
“โถ...พ่อทองเนื้อแท้...อภิชาตบุตร”
ลูกไม้หลากสี ตอนที่ 18 (ต่อ)
ฝ่ายกัณฐิกาจัดอาหารวางไว้ที่โต๊ะ กฤติยาพาชนิกานต์เข้ามา พลางเอ่ยขึ้น
“น้ากัณทำข้าวคลุกกะปิให้ทาน สูตรน้ากัณอร่อยมากนะ”
กัณฐิกาเสริม “ไม่สบายก็กินเยอะๆ อย่ามาตายตอนพ่อเธอไม่อยู่ ฉันไม่อยากตกเป็นจำเลยฆ่าลูกเลี้ยง”
กัณฐิกายังคงปากร้าย แต่แฝงด้วยความเป็นห่วงใย ชนิกานต์นั่งลง กฤติยาเอาจานข้าวคลุกกะปิที่จัดไว้พร้อม มาวางตรงหน้า
ชนิกานต์ไม่เก็บอาการ “เหม็นอ่ะ”
กัณฐิกาฉุน “เหม็นได้ไง ฉันใช้กะปิชั้นดีของระนอง กลิ่นหอมที่สุดแล้ว”
ชนิกานต์จะตัก แต่รีบวางช้อน เพราะฉุนกะปิ
“เหม็นยังกะปลาเน่า!”
กัณฐิกาฉุนขาด ไม่พอใจอย่างแรง “นี่เธอ ฉันพยายามทำดีด้วยแล้วนะ ไม่อยากกินก็ไม่ต้องกิน อย่ามาบ่นว่าฉันใช้ของเน่า!”
“ก็มันเหม็นจริงๆ นี่ จมูกเธอเน่าสิถึงไม่ได้กลิ่น”
กัณฐิกาชักโกรธ “ทำให้กินยังมาร้ายใส่ฉันอีก!! ยัยเนรคุณ!”
ชนิกานต์ทนไม่ไหว รีบวิ่งออกไปอาเจียนกฤติยาเป็นห่วง วิ่งตามไป
“นิกกี้”
กัณฐิกาแปลกใจ หอมบอกว่าเหม็น หยิบจานข้าวคลุกกะปิมาดมกลิ่น
“หอมที่สุดในสามโลก...ยัยเด็กบ้า” กัณฐิกาฉุกคิดว่านิกานต์ท้อง “รึว่ายัยนั่น...”
กฤติยาพาชนิกานต์มานอนพักที่เตียง ชนิกานต์กำชับ
“อย่าให้แม่เธอรู้นะว่าฉันท้อง..แม่เธอต้องฟ้องคุณพ่อ คุณพ่อเล่นงานฉันตายแน่!”
“ฉันไม่บอกหรอก”
ชนิกานต์กังวลใจ “ฉันจะเป็นอย่างนี้อีกนานไหม เมื่อไหร่จะหายแพ้ท้อง...ฉันกลัวพวกเขารู้!”
“คิดมาก... เครียดมากก็คลื่นไส้อีก นอนพักเยอะๆ”
กฤติยาห่มผ้าให้ชนิกานต์นอนพัก แล้วเดินออกไป ชนิกานต์ยังกังวลใจไม่หาย
กฤติยาเดินออกมาเจอแม่ที่หน้าห้อง กันฐิกาพูดลอยๆ
“ยัยนิกกี้ท้อง”
กฤติยาตกใจ “แม่!”
“บอกฉันมา...ยัยคุณหนูท้องใช่มั้ย”
“นิกกี้จะท้องกับใครล่ะคะ” กฤติยาเฉไฉ
“ธีรดนย์ไง สองคนนั่นเคยนอนด้วยกัน”
“แม่คิดไปเองอีกแล้ว...”
กัณฐิกาย้อน “ฉันไม่ได้โง่นะ อ๊วกโอ๊กอ๊าก เหม็นโน่นเหม็นนี่ มันอาการคนแพ้ท้อง”
“นิกกี้เป็นโรคกระเพาะค่ะ” กฤติยาบอก
กัณฐิกาไม่เชื่อ “โรคกระเพาะ”
“ค่ะ...แอนเป็นคนพาไปหมอ แม่ไม่เชื่อ เดี๋ยวแอนเอาใบรับรองแพทย์ให้ดู”
กฤติยาทำท่าจะกลับไป แต่กัณฐิการั้งไว้
“ไม่ต้อง จะเป็นไรก็ช่าง ช่วยๆ ดูแล้วกัน....คิดว่าทำบุญ”
“ค่ะแม่”
กัณฐิกาเดินออกไป กฤติยาโล่งใจที่เห็นแม่ไม่ติดใจเรื่องชนิกานต์
คืนนั้นธีรดนย์ว่ายน้ำ ด้วยความเร็ว จ้วงว่ายแรงๆ และว่ายไม่หยุด ธีรดนย์ว่ายน้ำด้วยความเสียใจความโกรธ และว่ายน้ำมาเกาะที่ขอบสระ ธีรดนย์ว่ายน้ำมาแล้วหยุด คิดถึงเหตุการณ์ที่สุตาภัญบอกเลิก
ซึ่งเวลานั้นสุตาภัญบอกอย่างจริงจัง “ธี... เราเป็นได้แค่เพื่อน เพื่อนเท่านั้น!”
สุตาภัญพูดแล้วร้องไห้ ธีรดนย์แปลกใจ
“ตาเป็นอะไร?”
“ตาพูดจริงนะ เราเป็นแฟนกันไม่ได้ เราหมั้นกันไม่ได้ เราแต่งงานกันไม่ได้”
ธีรดนย์ตีน้ำอย่างแรง โวยวายไม่พอใจ และไม่ยอมเลิกกับสุตาภัญ
“ผมไม่ยอม ผมไม่ยอมให้ตาทิ้งผมไป”
เช้าวันใหม่มาถึง สุตาภัญกำลังบรี๊ฟ เตรียมงานอยู่กับทีมกล้องวิดีโอ และเพื่อนๆ อยู่ตรงมุมหนึ่งที่มหาวิทยาลัย ชนกชนม์เดินเข้าไปถามสุตาภัญ
“ตา! เมื่อวานเธอน่าไปปรับความเข้าใจกับธี”
“ฉันคุยจบแล้ว ไม่อยากพูดถึงมันอีก”
“แต่ธีเสียใจมาก”
“เลิกสนใจคนอื่น หันมาสนใจภาบ้าง เมื่อวานเพทายมันคิดจะขืนใจภา”
ชนกชนม์ตกใจ “ไอ้เพทาย”
“หลังจากนี้ฉันอยากให้นายคอยดูแลภา อย่าปล่อยภาไว้ลำพัง”
“โทร.ตามฉันมาเรื่องนี้เหรอ” ชนกชนม์สงสัย
“จะช่วยให้ทำงานด้วย”
“แจกใบปลิวร้านอาหารอิตาเลี่ยน เวียดนาม เกาหลี” ชนกชนม์เดาไปเรื่อย
“โน...งานนี้สนุกกว่าเยอะ ใช้ศักยภาพนายได้เต็มที่ เราจะทำโฆษณาลงยูทูป”
“ฉันเล่นละครไม่เป็น แอ๊คติ้งไม่เป็น”
“ไม่ต้องพูดไม่ต้องแสดง เต้นอย่างเดียว เราจะเต้น Harlem Shake” สุตาภัญบอก
“Harlem Shake เต้นไงอ่ะ? ฉันเต้นไม่เป็น ฉันทำไม่ได้ ฉันเป็นคนขี้อาย”
ระหว่างที่ชนกชนม์พูดไป ก็เต้นท่าแปลกประหลาดสารพัดไปด้วย จนสุตาภัญหัวเราะขำ
“เพี้ยนหนักแล้วนะเรา”
“มีฉันคนเดียวเหรอ? ฮาเล็มเช็คต้องเต้นหลายคน”
“ฉันมีอีกเยอะ”
สุตาภัญผายมือไปที่มุมหนึ่งที่บริเวณกองถ่าย เห็นสุรัมภา ชนิกานต์ กฤติยา และเพื่อนๆ ในคณะ โบกไม้โบกมือให้ชนกชนม์
“ไม่ชวนธีมาด้วยล่ะ”
สุตาภัญนิ่งไปทันที ไม่อยากพูดถึง
ธีรดนย์เดินเข้ามาหาสุตาภัญ
“ตา...ผมขอคุยด้วย”
“ตาไม่สะดวก...ตากำลังทำงาน”
สุตาภัญบอก แล้วลากชนกชนม์ออกไปที่บริเวณกองถ่าย ธีรดนย์มองด้วยความผิดหวัง
สุตาภัญสวมมาดผู้กำกับ หันไปสั่งทีมงานกล้อง อย่างจริงจัง
“กล้องพร้อม 5 4 3 2 แอ๊คชั่น!”
ช่างกล้องเคลื่อนดอลลี่เข้าไปที่มุมหนึ่ง จับภาพทุกคนแต่งชุดนักศึกษา กำลังติวหนังสือโดยมีชนกชนม์ยืนหันหลัง
เสียงเพลงดังขึ้น ชนกชนม์หันหน้ามา ใส่ปิ๊ปคลุมหัว โยกย้ายเต้น Harlem Shake ท่าประหลาดหลุดโลกอยู่คนเดียว ในขณะที่ทุกคนนั่งติวหนังสือเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ช่างกล้องเก็บภาพอีกครั้ง ทุกคนที่เคยนั่งอยู่เฉยๆ ใส่หน้ากาก บ้างถืออุปกรณ์ประกอบการเต้น ท่าเพี้ยนๆ จนพอจบเพลง แล้วชูป้าย ชื่อร้านอาหารที่จะโฆษณา
อีกฉากสุตาภัญเน้นไอเดียไทยๆ ชนกชนม์เปิดตัวด้วยชุดหนุมาณ สวมหัวหนุมาน และเต้นท่าลิงหนุมานอยู่คนเดียว...และอีกช่วง ทันทีที่เพลงเล่นไปได้ 15 วินาที ทุกคนเปลี่ยนชุดเป็น นางนากอุ้มลูก ผู้หญิงไทยโบราณนุ่งโจง ใส่ผ้าแถบ บางคนใส่ชุดตะเบงมาน ผู้ชายบางคนแต่งเป็นนายจันหนวดเขี้ยว
ไม่นานต่อมาตรงมุมหนึ่งในมหาวิทยาลัย สุตาภัญยิ้มแป้นบอกทุกคน
“ผลงานออกมาได้เยี่ยมมาก ปิดจ๊อบ”
ทุกคนร้อง “เย๊!” พร้อมกัน
จากนั้นทุกคนเริ่มถอดชุด แต่ชนกชนม์ยังคงเต้นต่อเนื่อง เข้ามาบอกสุตาภัญ
“เมื่อกี้ฉันยังเต้นไม่ดีเลย มันอาย ขอเต้นใหม่อีกรอบนะ”
สุตาภัญบอก “พอแล้ว!”
ทุกคนขำชนกชนม์ หัวเราะให้กัน
“เอาล่ะ...ทุกคนรีบเปลี่ยนชุด ฉันพาไปเลี้ยงข้าว”
“รอฟังคำนี้นานแล้ว ฉันไม่กินข้าวคลุกกะปินะ เหม็น!” ชนิกานต์ว่า
จังหวะนั้นธีรดนย์เดินเข้ามาหาสุตาภัญ
“ผมขอคุยกับตาส่วนตัว”
ชนกชนม์มองหน้าเพื่อนๆ ตัดสินใจจะเดินออกไป กฤติยาจับมือจะพาชนิกานต์เดินออกไปเช่นกัน
สุตาภัญบอกทุกคนให้อยู่ฟังด้วย
“พวกเราเป็นเพื่อนกัน ไม่มีความลับต่อกัน ธีมีอะไรพูดได้เลย!”
กัณฐิกาเดินเข้ามาในห้องชนิกานต์ เดินไปที่โต๊ะ มองหายา
“ไม่เห็นมียาโรคกระเพาะ”
กัณฐิกามองหายา ดันเจอแผงยาแก้คลื่นไส้อาเจียน
“แก้คลื่นไส้ อาเจียน...” กัณฐิกานึกสงสัย “ยัยนิกกี้เป็นอะไรกันแน่”
ทุกคนอยู่พร้อมหน้าตรงมุมหนึ่งในมหาวิทยาลัย ทั้งชนกชนม์ สุตาภัญ สุรัมภา ธีรดนย์ ชนิกานต์ และกฤติยา
จังหวะหนึ่งสุตาภัญบอกธีรดนย์
“ถ้าธีไม่มีอะไรจะพูด ตาขอตัวก่อน”
สุตาภัญจะเดินออกไป ธีรดนย์เดินเข้ามาหา ชนกชนม์มองด้วยความแปลกใจว่าธีรดนย์จะทำอะไร พลันธีรดนย์คุกเข่าลงตรงหน้าสุตาภัญ แล้วหยิบแหวนเพชรออกมา อย่างโรแมนติก
“แต่งงานกับผม”
สุตาภัญตกใจ ชนกชนม์ไม่คิดว่าธีรดนย์จะมาไม้นี้
“ตาเป็นผู้หญิงที่ผมรักมากที่สุด ผมจะดูแลตาและรักตาคนเดียว”
ชนิกานต์มองภาพตรงหน้าด้วยความเสียใจ กฤติยาเข้าใจความรู้สึก บีบมือให้กำลังใจ
ธีรดนย์จับมือสุตาภัญ แล้วทำท่าจะสวมแหวนให้ สุตาภัญชักมือกลับ พลางบอก
“ธี...อย่าทำอย่างนี้...”
“ทำไมล่ะตา ตามีใคร ผมทำอะไรผิด ตาถึงไม่รักผม บอกผมสิตา”
สุตาภัญไม่กล้าบอกความจริง ชนิกานต์ตัดสินใจบอกธีรดนย์
“หยุดคาดคั้นตาได้แล้ว ตาทำเพื่อฉัน”
สุตาภัญตกใจ “นิกกี้”
ธีรดนย์หันมาต่อว่าชนิกานต์ “ฉันนึกแล้วเชียว เธอมันตัวปัญหา หยุดรังควาญฉันได้แล้ว ยังไงฉันก็ไม่รักเธอ”
“นายไม่รักก็ต้องรักลูกของเรา!” ชนิกานต์บอก
ธีรดนย์ ชะงักกึก ตกใจ “อะไรนะ”
ชนิกานต์ย้ำ จริงจัง “ฉันตั้งท้อง”
“ไม่จริง...เธอเอายาคุมให้เธอกินแล้ว” ธีรดนย์ไม่เชื่อ
“ฉันไม่ได้กิน”
ธีรดนย์ตกใจ ไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นความจริง
“ธี...นายต้องดูแลนิกกี้...ดูแลลูกของนาย” สุตาภัญบอก ชนกชนม์พูดด้วยดีๆ เป็นคนต่อมา
“นายจะปล่อยให้นิกกี้ท้องไม่มีพ่อไม่ได้”
“อย่าให้พี่นิกกี้เสียใจเหมือนภานะคะ” สุรัมภาว่า
กฤติยาก็เห็นด้วย “นายต้องรับยอมรับความจริง มันเป็นความผิดพลาดของนาย”
“ฉันไม่เชื่อ ทุกคนสร้างเรื่องโกหกฉัน” ธีรดนย์ยังคงเห็นแก่ตัวเช่นเคย ชี้หน้าด่าชนกชนม์ “นายตั้งใจแย่งตา” แล้วหันมาชี้หน้าทุกคน “ทุกคนใจร้าย ไม่มีใครอยู่ข้างฉัน พวกเธอไม่ใช่เพื่อนฉัน”
ธีรดนย์โวยวายแล้ววิ่งหนีออกไป ชนิกานต์ร้องไห้โฮ ทรุดตัวลงกับพื้นอย่างอ่อนแรงเสียใจที่ธีรดนย์ไม่ยอมรับความจริง
สุตาภัญ สุรัมภา และกฤติยาเข้าไปดูแลชนิกานต์ ส่วนชนกชนม์หันไปมองธีรดนย์ด้วยความเป็นห่วง
ชนิกานต์เดินเข้ามาในคฤหาสน์ สีหน้าเครียดเคร่งเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด พอเจอกัณฐิกา รีบก็เดินเลี่ยงออกไป กฤติยาจะตามชนิกานต์ไป กัณฐิกาคว้าข้อมือไว้จ้องหน้าถาม
“ฉันเจอแต่ยาแก้อาเจียน ไม่มียารักษาโรคกระเพาะสักเม็ด!”
กฤติยาตกใจ “แม่เข้าไปค้นห้องนิกกี้”
“ก็ฉันเป็นห่วง ไหนล่ะยาที่แกบอกว่าไปหาหมอ”
“นิกกี้เอาติดตัวไปทานด้วยค่ะแม่”
กฤติยาจะเดินออกไป กัณฐิกาพูดไล่หลัง
“อย่าให้ฉันรู้ว่ายัยนิกกี้ท้อง ฉันไม่ปล่อยไว้แน่ คุณณวัตรเองก็เกลียดเรื่องนี้มาก”
กฤติยาฟังแล้วกังวลใจ รีบเดินออกไปเร็วรี่
ชนิกานต์เข้ามาในห้อง นั่งมองไปยังรูปณวัตร สีหน้าหมองหม่น ท่าทีกังวลใจ คิดถึงเหตุการณ์ในอดีต
ตอนนั้นณวัตรอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ แล้วโยนหนังสือพิมพ์ลงตรงหน้าชนิกานต์ ปากด่า
“ไม่ไหว เด็กสมัยนี้รักสนุกปล่อยเนื้อปล่อยตัว ท้องตั้งแต่ยังเรียน”
ชนิกานต์รับหนังสือมาดูข่าว
ณวัตรว่าต่อ “สถิติท้องปีนึง 150,000 คน เฉลี่ยเดือนละ 10,000 กว่า ประเทศไทยครองแชมป์วัยรุ่นตั้งท้องอันดับหนึ่งของเอเชีย มันจะภูมิใจไหมล่ะ ทำตัวแย่มาก ไม่คิดถึงหัวอกพ่อแม่!”
ชนิกานต์ลองหยั่งเชิง “แล้วถ้านิกกี้ท้องล่ะคะ”
“หยุดนะ! อย่าแม้แต่คิด พ่อไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น แล้วถ้ามันเกิดขึ้นจริงล่ะก็ พ่อจะไม่ไว้ชีวิตไอ้ผู้ชายคนนั้น ลูกก็ไม่ต้องมาเรียกพ่อว่าพ่อ”
ชนิกานต์นึกถึงคำประกาศกร้าว รู้ว่าพ่อเอาจริงก็ร้องไห้ด้วยความกลัว กฤติยาเข้ามาในห้อง เห็นชนิกานต์ร้องไห้ ก็เข้าไปกอดปลอบ
“ฉันทำยังไงดี ช่วยฉันด้วย”
กฤติยากอดปลอบขวัญ เป็นห่วงชนิกานต์มาก
ตกกลางคืนชยางกูรโผล่มาที่บ่อน เดินตรงไปยังห้องปรัชญา ปรัชญาหันมามองชยางกูร แปลกใจ
“วันนี้เฮงเฮงเฮงว่ะ น้องชยางกูรมาหาเฮีย โดยที่เฮียไม่ต้องไล่ฟัด แม่น้องคงกลัวน้องตาย รีบเขียนเช็คมาให้เฮีย”
ปรัชญาแบมือรับเช็ค ชยางกูรส่งเช็คให้ ปรัชญารับมา แต่เป็นเช็คเปล่าๆ
“แกเล่นตลกอะไรวะ”
ลูกน้องปรัญชาไม่พอใจ ชักปืนออกมาขู่ชยางกูร ชยางกูรพูดกับปรัชญา
“ฉันติดหนี้เฮีย ฉันชดใช้เอง เฮียอย่าไปรังแกแม่ฉัน”
“สายไปแล้วที่จะเล่นบทลูกกตัญญู เฮียต้องการเงิน เฮียจะทำทุกทางเพื่อเอาเงินของเฮีย”ปรัชญาพูดใส่หน้า
ชยางกูรบอก “พรุ่งนี้ฉันจะเอาเงินมาใช้เฮีย ขอให้เฮียรอฉันอยู่ที่นี่”
“เฮียจะเชื่อใจได้ยังไง”
“ถ้าฉันไม่มา...เฮียเอาชีวิตฉันไปได้เลย” ชยางกูรพูดจริงจัง
“ได้...ทำธุรกิจกันก็ต้องเชื่อใจกัน”
ชยางกูรเดินออกไป ปรัชญามองตาม แล้วส่งสัญญาณให้ลูกน้องสะกดรอยชยางกูร
ชยางกูรเดินออกจากบ่อน รู้ว่าปรัชญาส่งคนตาม ก็ยิ้มร้ายสาสมใจ
เพทายกำลังจะเดินเข้าไปในบ่อน เจอกับชยางกูร
“อยากรู้ไหมว่าฉันไปไหนมา ฉันจะไปกินตับเด็กเก่าแก แต่เสียดาย พี่สาวกันท่าไว้ เอาไว้วันหน้าฉันจะซัดทั้งพี่ทั้งน้องแล้วถ่ายคลิปไปอวดแก”
เพทายหัวเราะเยาะใส่หน้า ชยางกูรพูดสวนออกมา
“ไปดื่มกับฉัน”
เพทายแปลกใจ เข้าไปลูบหัวชยางกูร “โอกาสอะไรวะ? ไอ้ลูกหมา”
“ฉันกำลังเป็นอิสระ ใช้หนี้เฮียหมด...แล้วก็ฉลองที่แกกำลังจะมีความสุขกับผู้หญิงของแก”
เพทายยิ้มย่อง สนใจ ชยางกูรเดินนำออกไป เพทายเดินตามไป ลูกน้องปรัชญายืนมอง แปลกใจที่เห็นเพทายออกไปกับชยางกูร
ธนกรนัดเจอกับชนกชนม์ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ตอนกลางคืน และกำลังเดินมาหาชนกชนม์ที่รออยู่แล้ว ทักทายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“อาดีใจด้วยนะที่เราผ่านเรื่องเลวร้ายมาได้”
“ผมได้กำลังใจที่ดีจากทุกคนและคุณอาด้วยครับ”
“มาหาอามีธุระอะไรให้อาช่วย บอกมาได้เลยไม่ต้องเกรงใจ”
“ผมมาบอกข่าวคุณแม่ครับ”
ธนกรแปลกใจ
“คุณแม่ป่วยหนัก คุณแม่เครียดเรื่องน้องกูร กูรโดนข้อหาพยายามข่มขืน และถูกมาเฟียทวงหนี้พนัน กูรหนีออกจากบ้านไปแล้วครับ”
ธนกรหน้าหม่นลง “อาคิดแล้วว่าต้องมีวันนี้ จะโทษกูร โทษแม่เราก็ไม่ได้ เป็นความผิดของฉันด้วยที่ละเลยในการสอนลูก”
“ผมอยากให้คุณอากลับบ้าน กลับไปดูแลคุณแม่ครับ คุณแม่ต้องการใครสักคนครับ”
ชนกชนม์ขอร้อง ธนกรครุ่นคิดตัดสินใจ
เวลาเดียวกันขณะที่กัณฐิกานั่งอ่านนิตรสารอยู่ตรงห้องโถง ณวัตรเดินเข้ามา กัณฐิกามองไปเห็นทั้งตื่นเต้นและดีใจ
“คุณณวัตร ทำไมกลับมาเร็วก่อนกำหนด ไม่บอกกัณสักคำ”
“ผมเคลียร์งานเสร็จแล้ว ผมคิดถึงคุณ อยากให้คุณตื่นเต้นด้วย”
“กัณก็คิดถึงคุณค่ะ”
กัณฐิกาหอมแก้มต้อนรับณวัตร
“นิกกี้อยู่ไหน? ผมอยากเจอลูก”
“คุณมาก็ดีแล้ว หนูนิกกี้ไม่ค่อยสบายค่ะ กัณเป็นห่วงแกมากคอยดูแลใกล้ชิด นี่ก็เพิ่งให้ยัยแอนอยู่เพื่อนในห้องค่ะ”
“ไปหานิกกี้เถอะ”
ณวัตรร้อนใจชวนกัณฐิกาไปหาชนิกานต์ที่ห้อง
ชนิกานต์นอนคิด กังวลใจ
“เธอคิดดีแล้วใช่ไหม? ที่ยอมบอกความจริงกับเขา”
“ฉันไม่อยากให้ทุกคนต้องเดือดร้อนเพราะฉันอีก ฉันมาคิดอีกที ถ้าเขารู้ เขาอาจจะรักและเป็นห่วงฉัน แต่คำตอบที่ได้มันแย่เหลือเกิน เขาไม่แคร์ฉัน! ทั้งๆที่รู้ว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเขา”
ชนิกานต์ครวญคร่ำร้องไห้เสียใจเรื่องธีรดนย์
ณวัตรเปิดประตูเข้ามาในห้อง ได้ยินคำพูดเต็มหู โกรธชนิกานต์มาก
“ลูกท้องกับใคร”
ชนิกานต์เห็นณวัตรเข้ามาก็ตกใจมาก
“คุณพ่อ”
กัณฐิกาก็ตกใจ รีบดึงตัวกฤติยาเข้ามาอยู่ใกล้ ณวัตรปราดเข้าไปดึงตัวชนิกานต์ทันที
“บอกพ่อมา ใครเป็นพ่อเด็ก”
เสียงของณวัตรดังลั่นบ้าน
ลูกไม้หลากสี ตอนที่ 18 (ต่อ)
ทางด้านธีรดนย์จมอยู่กับความทุกข์ เสียใจที่สุตาภัญบอกเลิก ธีรดนย์ยืนมองคฤหาสน์ แล้วเดินไปยังห้องพัก
ส่วนณวัตรเข้าไปดึงตัวชนิกานต์ลุกออกจากเตียง
“คุณพ่อคะ คุณพ่อเข้าใจผิด”
“ยังมีหน้ามาแก้ตัว พ่อได้ยินที่ลูกพูดหมดแล้ว”
ชนิกานต์ตกใจ กฤติยาสงสารรีบแก้ตัวแทน
“คุณอาเข้าใจผิดจริงๆค่ะ นิกกี้ไม่ได้ตั้งท้อง เราคุยเรื่องเพื่อนที่มหาลัยค่ะ”
กัณฐิกาดุปราม “ยัยแอน เลิกแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ได้แล้ว หนูบอกน้าว่านิกกี้เป็นโรคกระเพาะ ไปหาหมอ แต่ทำไมไม่มียาไม่มีใบรับรองแพทย์”
ชนิกานต์แก้ตัว “คุณพ่อค่ะ นิกกี้ไม่สบายจริงๆ นะคะ”
“ไม่สบาย งั้นก็ไปหาหมอ! ไปตรวจให้รู้ผลตอนนี้เลย ว่าเป็นโรคกระเพาะหรือท้อง”
ณวัตรลากตัวชนิกานต์ออกไปจากห้องทันที
“คุณพ่อคะ” ชนิกานต์ร้องไห้หันไปทางกฤติยา “แอนช่วยฉันด้วย”
ณวัตรลากตัวชนิกานต์ออกไปจากห้อง ผ่านหน้ากฤติยาที่ยืนตกใจอยู่ กฤติยาเป็นห่วงชนิกานต์ กัณฐิกาไม่พอใจกฤติยาที่ปกปิดความลับ
ขณะเดียวกันธีรดนย์เก็บเสื้อผ้าเสร็จ เดินไปหยิบภาพของอุษา
“คุณแม่ครับ ผมทำพลาดอีกแล้ว ผมเป็นลูกที่แย่มาก คุณแม่อย่าโกรธผมนะครับ ผมไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ผมไม่พร้อมจะรับผิดชอบใคร ผมกลัว...ผมกลัวครับคุณแม่”
ธีรดนย์ร้องไห้กับภาพแม่
ณวัตรลากตัวชนิกานต์จะออกไปจากคฤหาสน์
“คุณพ่อคะ นิกกี้เจ็บ สงสารนิกกี้เถอะค่ะ”
“ฉันต้องรู้ให้ได้ ว่าเธอไม่สบายรึท้อง!”
ณวัตรโมโหมาก จะลากชนิกานต์ออกไป ชนิกานต์ตัดสินใจบอกความจริง
“คุณพ่อไม่ต้องเสียเวลาหรอก...นิกกี้ยอมรับแล้ว..นิกกี้ท้อง”
ณวัตรตกใจ กฤติยาและกัณฐิกาก็ตกใจ
กฤติยาตกตะลึงที่ชนิกานต์ยอมรับ “นิกกี้” หันไปบอกณวัตร “คุณอาคะ ไม่จริงค่ะ นิกกี้พูดประชดคุณอา”
ชนิกานต์สวนออกมา “พอเถอะแอน ความลับไม่มีในโลก ยังไงคุณพ่อก็ต้องรู้ความจริง”
“ลูกท้องกับใคร? ผู้ชายสารเลวเป็นใคร”
ชนิกานต์ไม่กล้าตอบ กัณฐิกาหันไปซักกฤติยา
“ยัยแอน หนูสมรู้ร่วมคิดปิดบัง หนูต้องรู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร บอกคุณอาเดี๋ยวนี้”
“แอนไม่ทราบค่ะ”
“หนูไม่รู้ได้ไง หนูไปไหนมาไหนกับนิกกี้? บอกความจริงมา”
กัณฐิกาพยายามซักกฤติยา แต่กฤติยาไม่ตอบ ณวัตรจึงหันไปคาดคั้นชนิกานต์
“บอกฉันมา..ว่ามันเป็นใคร ฉันจะไปฆ่ามัน”
ชนิกานต์ตกใจ ยิ่งไม่กล้าบอกความจริง
ณวัตรจ้องหน้าถาม “ธีรดนย์ใช่ไหม”
ชนิกานต์ตกใจ อึ้ง พูดไม่ออก
“ไม่ตอบก็ได้...ผู้ชายที่ใกล้ชิดลูกมากที่สุดคือนายธี”
ณวัตรพุ่งตรงไปยังห้องพักธีรดนย์ทันที ทุกคนตกใจ
ด้านชยางกูรชนแก้วกับเพทาย อยู่ในผับ
“ดื่มให้กับความสุขของแก”
เพทายเริ่มเมา “ดื่มให้กับความโง่ของแก”
เพทายหัวเราะเยาะ ชนแก้วกับชยางกูรยกดื่ม
ชยางกูรมองเพทาย ยิ้มร้ายมีแผนจะทำลายเพทาย
ธีรดนย์ถือกระเป๋าออกจากห้องจะเดินไปยังรถที่ประตูคฤหาสน์
“ฉันทำอะไรผิด อโหสิกรรมให้ฉันด้วย ลาก่อน...”
ธีรดนย์จะเดินออกไป เจอกับณวัตรลากตัวชนิกานต์เข้ามา กัณฐิกาและกฤติยาเดินตามหลัง
ธีรดนย์ตกใจ “คุณท่าน” รีบยกมือไหว้
“แกจะไปไหน?” ณวัตรถามอย่างเอาเรื่อง
“ผมจะไปค้างบ้านเพื่อน ติวหนังสือสอบครับ”
ณวัตรดักคอ “ติวหนังสือหรือหนีความผิด!”
ธีรดนย์ตกใจประสาวัวสันหลังหวะ หันมองไปยังชนิกานต์ เจอชนิกานต์ส่ายหน้าไม่ให้พูด
“แกทำลูกสาวฉันท้อง!”
ณวัตรพุ่งเข้ามาต่อยธีรดนย์ด้วยแรงโทสะ ธีรดนย์ล้มลง
ชนิกานต์ตกใจ ร้องห้ามดังลั่น “คุณพ่อคะ อย่าค่ะ”
ณวัตรไม่ฟังเข้าไปต่อยตี ธีรดนย์ได้แค่ปัดป้องตัวเอง
“ใครที่มันกล้าแตะต้องลูกสาวฉัน มันต้องตาย”
ณวัตรคำราม โกรธจัด ต่อยตีธีรดนย์ไม่ยั้ง ชนิกานต์เข้าไปขอร้องกัณฐิกา
“เธอช่วยไปห้ามคุณพ่อให้หยุดทำร้ายธี”
“เธอก็บอกความจริงสิว่าเธอท้องกับใคร”
กัณฐิกาไม่ยอมเข้าไปห้าม ชนิกานต์มองเห็นณวัตรต่อยตีทำร้ายธีรดนย์ไม่หยุด ชนิกานต์เข้าไปห้าม กันธีรดนย์ไว้
“คุณพ่อเข้าใจผิด ไม่ใช่ธี”
“ไม่ใช่ธีแล้วเป็นใคร มันเป็นผู้ชายคนเดียวที่อยู่ใกล้ลูกมากที่สุด”
ชนิกานต์โพล่งขึ้น “นิกกี้ท้องกับชนม์ค่ะ”
ณวัตรตกใจ ธีรดนย์ กฤติยาและกัณฐิกา ต่างตกใจ
ชนกชนม์กลับเข้าหลังคุยธุระกับธนกรเสร็จ อาบน้ำอาบท่าเดินมาในห้องนอน ยกมือไหว้พระ
“ทุกอย่างกำลังจะเป็นไปได้ด้วยดี...ผมเชื่อแล้วครับ ทำดีย่อมได้ดี...ผมจะเริ่มต้นชีวิตใหม่เป็นนายชนกชนม์คนใหม่”
ชนกชนม์ยิ้มมีความสุขที่จะได้เริ่มต้นชีวิตดีๆ โดยไม่รู้ว่าปัญหาใหม่กำลังเดินเข้ามาท้าทายเขาจากคำพูดปกป้องธีรดนย์ของชนิกานต์
ชนิกานต์ยืนยันกับณวัตรหนักแน่น
“นิกกี้ท้องกับชนม์จริงๆ ค่ะ”
“ฉันไม่เชื่อ เธอคิดจะปกป้องมัน”
“คุณพ่อก็รู้ว่านิกกี้เคยเป็นแฟนกับชนม์”
“หนูแอนเคยเล่าให้ฉันฟัง ว่าเธอสองคนเลิกกันแล้ว” กัณฐิกาสอดขึ้น
“แอนคงลืมเล่าว่าเรากลับมาคบกันใหม่ ลูกในท้องเป็นลูกของชนม์ คุณพ่อถามได้ค่ะ”
ณวัตรหันไปมองกฤติยา
“บอกความจริงคุณอา ห้ามโกหก!”
กฤติยามองชนิกานต์ นิ่งคิดตัดสินใจโกหกแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน
“เป็นความจริงค่ะ แอนเป็นคนแนะนำให้นิกกี้ปิดเรื่องนี้ไว้ กลัวคุณอาจับได้ค่ะ”
ณวัตรยังไม่ปักใจเชื่อ หันไปถามธีรดนย์
“แกสนิทสนมกับลูกสาวฉัน..แกก็ต้องรู้...บอกฉันมา..พ่อของเด็กเป็นใคร”
ชนิกานต์รอฟังคำตอบจากธีรดนย์
“ใช่ครับ...เด็กในท้องเป็นของลูกชนม์”
ชนิกานต์ร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ กับความเห็นแก่ตัวของธีรดนย์ที่ไม่กล้ายอมรับ พูดเหน็บธีรดนย์ไป
“นิกกี้ขอโทษค่ะพ่อ นิกกี้พลาดไปแล้ว แต่เด็กในท้อง เป็นลูกที่เกิดจากความตั้งใจ เกิดจากความรัก”
ณวัตรผิดหวังในตัวลูกสาว เข้าไปตบตีชนิกานต์ด้วยความแค้นใจ
“เด็กไม่ได้เกิดจากความรัก แต่เกิดจากความผิดพลาด รักสนุก! สิ้นคิด”
ณวัตรตบชนิกานต์ฉาดใหญ่ ชนิกานต์เป็นลม เพราะเสียใจ อีกทั้งร่างกายอ่อนแอ กัณฐิกาเป็นห่วงเข้าไปกันไว้
“พอเถอะค่ะคุณ แกกำลังตั้งท้อง...” หันไปบอกกฤติยา “แอน ธีรดนย์ ช่วยพาหนูนิกกี้เข้าห้อง”
ธีรดนย์กับกฤติยา รีบช่วยกันประคองชนิกานต์เข้าบ้านไป
กัณฐิกาปลอบ “เรื่องมันก็เกิดขึ้นแล้ว ค่อยๆ คิดหาทางแก้ไขนะคะ”
ณวัตรยังคงโกรธขึ้งชนิกานต์เอามากๆ
พอรุ่งเช้า ขณะที่สุตาภัญเดินออกมาจากห้องน้ำ เห็นสุรัมภากำลังวาดภาพทำการ์ดอะไรอยู่จึงถาม
“ทำอะไรจ๊ะ? คนสวย”
“ภากำลังเขียนการ์ดวันพ่อค่ะ”
“จริงสิ...อีกไม่กี่วันก็ถึงวันพ่อแล้ว...นี่คงเป็นปีแรกที่เราไม่ได้กราบเท้าคุณพ่อ ไม่ได้ทานข้าวด้วยกัน”
สุตาภัญรู้สึกเศร้าใจนิดๆ สุรัมภาให้กำลังใจ
“แต่เราก็ส่งความรู้สึกถึงกันได้”
สุตาภัญยิ้มให้ สุตาภัญเห็นการ์ดอีกใบ
“แล้วนั่นการ์ดของใครเอ่ย”
“ของคุณพ่อชนม์”
สุตาภัญฉงน
สุรัมภาหยิบการ์ดขึ้นมา เป็นภาพสุรัมภาจับมือกับชนกชนม์และมีลูกอยู่ในภาพ
“คุณพ่อของลูกภา ภาต้องทำการ์ดขอบคุณพี่ชนม์ที่รักภาและเป็นพ่อที่ดีของลูก”
สุรัมภายิ้มย่อง เสียงเคาะห้องดังขึ้น สุตาภัญเดินไปดูตรงตาแมวที่ประตู เห็นชนกชนม์ยืนหล่ออยู่ สุตาภัญเปิดประตูให้
“ถึงเวลาทำงานแล้วครับ” ชนกชนม์ยิ้ม
สุตาภัญและสุรัมภาแปลกใจ
ขณะเดียวกันชลนิภารู้สึกตัว หันไปเรียกหาแป๋ว
“แป๋ว...ฉันขอน้ำหน่อย”
มีมือใครคนหนึ่งส่งแก้วน้ำให้ ชลนิภารับมา หันไปมองแล้วต้องแปลกใจ
“คุณธนกร”
ธนกรยิ้มทัก
ชนกชนม์พาสุตาภัญและสุรัมภาเข้ามาในบริษัทแม่
“วันนี้สาวๆ ต้องช่วยงานผมบ้างนะ”
สุตาภัญเห็นเอกสารเกลื่อนห้องก็แซว “บริษัทแม่นายโดนเฮอร์ริเคนถล่ม”
“เปล่า..แค่ทอร์นาโด” ชนกชนม์ยิงมุก
สุรัมภาแปลกใจ “พนักงานหายไปไหนหมดคะ”
ชนกชนม์บอกหน้าตาเฉย “ถูกพายุกวาดไปเรียบ”
สุตาภัญเข้ามาตีชนกชนม์
“ไม่ขำนะ”
“งั้นฟังเรื่องขำดีกว่า มาเฟียมาพังบริษัทคุณแม่ ต้องการเงินที่ชยางกูรติดหนี้ แล้วพนักงานก็รวมตัวลาออก ไม่พอใจการบริหารงานของคุณแม่ เป็นไง..ขำไหมล่ะ”
สุตาภัญหยิกชนกชนม์คิดว่าพูดเล่น “ยังมีหน้ามาเล่นอีก”
“บริษัทจะปิดตัวแล้ว..ให้เราทำความสะอาดทำไมคะ” สุรัมภายิ่งง
“พี่จะทำให้มันกลับมาอีกครั้ง อยากเป็นฮีโร่กู้โลกไหมล่ะ”
สุตาภัญและสุรัมภายิ้มรับ สองสาวประสานเสียง
“นางฟ้าเบอร์ห้าพร้อม”
ชนกชนม์บิ้วท์ “Let Go!”
ส่วนชลนิภาหน้าตึง ขยับตัวหนีธนกร
“แป๋ว ส่งแขก”
“คุณธนกรเป็นไทยแท้นะคะ” แป๋วพูดหน้าเป็น
“นังแป๋ว พาคนแปลกหน้าออกไปจากห้องฉัน” ชลนิภาเสียงดัง
“ผมเป็นสามีคุณ” ธนกรบอก
ชลนิภาไม่พอใจ สั่งแป๋ว “แป๋ว”
แป๋วจะเข้ามาเชิญธนกร ธนกรมองหน้าแป๋วดุ
“แป๋ว”
แป๋วปวดตับ สับสน “แป๋วปวดหัว ขอตัวไปกินยาก่อนนะคะ”
แป๋วรีบเผ่นออกไปจากห้องทันที ชลนิภาไม่พอใจหันมาต่อว่าธนกร
“เสียมารยาทเข้ามาโดยที่เจ้าของบ้านไม่เชิญ..คุณออกไปได้แล้ว”
“เลิกทิฐิได้แล้ว บ้านนี้ก็เป็นบ้านของผม”
“คุณหย่าจากฉันแล้ว ไม่สิ ฉันหย่าจากคุณต่างหาก”
“ก็แค่คำพูด เรายังไม่ได้ลงบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่ถือเป็นเอกสารทางกฎหมาย”
ชลนิภาหน้าตึง ไม่พอใจที่ธนกรไม่ยอมออกไป
ธนกรเอ่ยขึ้นขอร้องอยู่ในที “ไปหาหมอเถอะ”
“ฉันไม่ไป...ฉันสบายดี”
“จริงสิ หมอที่ไหนก็คงรักษาไม่หาย นอกจากนิสัยดื้อแล้วยังดื้อยา แล้วอีกอย่างคุณไม่ได้ป่วยกาย ป่วยใจก็ต้องรักษาที่ใจ”
“ไม่ต้องมาอวดดี! ถ้าคุณอยากให้ฉันหายล่ะก็ ออกไปซะ อย่ามาให้ฉันเห็นหน้า”
ธนกรรู้สึกแย่ ตัดสินใจลุกขึ้นเดินออกไป สวนกับแป๋วที่เดินเข้ามา
“คุณผู้หญิงไม่น่าไล่เลย คุณธนกรอุตส่าห์มาเยี่ยม หายากนะคะผู้ชายที่ยอมทิ้งศักดิ์ศรีกลับมาง้อเมีย”
ชลนิภานอนคิดตาม รู้สึกไม่ดีที่ไล่ธนกร แต่ก็ไม่อยากเสียหน้า ไปง้อ
ส่วนที่บริษัท ชนกชนม์ สุตาภัญ และสุรัมภาช่วยกันเก็บเอกสารที่กระจายเกลื่อนห้อง ชนกชนม์หอบเอกสารจะเอาไปจัดเรียงบนตู้ แฟ้มเอกสารจะตก สุตาภัญเข้ามาช่วยจับไว้ให้ ชนกชนม์และสุตาภัญช่วยกันแย่งหยิบแฟ้มจัดใส่ตู้ ว่าใครใส่ได้มากกว่า
ฝ่ายสุรัมภาช่วยเช็ดโต๊ะทำงาน จัดวางเรียงของให้เรียบร้อย
ฟากสุตาภัญเดินเข้ามาในห้องทำงานชลนิภา เห็นภาพชลนิภา สุตาภัญยกมือไหว้ ชนกชนม์เดินเข้ามาเห็นก็ขำ สุตาภัญอาย เอาไม้ปัดฝุ่น เข้ามาปัดตัวชนกชนม์
ชนกชนม์จั๊กกะเดียมวิ่งหนี สุตาภัญได้ที แกล้งวิ่งไล่ปัด ชนกชนม์วิ่งหนีไปจนมุม สุตาภัญเข้ามาปัด ชนกชนม์ยื้อแย่งไม้ปัดฝุ่น จนทำให้ทั้งสองตัวชิดติดกัน
พอดีสุรัมภาถือผ้าเช็ดโต๊ะเข้ามาในห้อง สุตาภัญรีบผละออก สุรัมภาเดินเข้ามา แล้วเอาผ้าขี้ริ้วเช็ดหน้าเช็ดตัวชนกชนม์ แต่ชนกชนม์วิ่งหนี สุตาภัญยิ้มดีใจที่เห็นสุรัมภามีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ชนกชนม์
สุตาภัญคิดอะไรบางอย่าง เดินออกจากห้องไป
เวลาเดียวกันชนิกานต์เดินเข้ามาหาณวัตรที่นั่งหน้าบึ้งอยู่
“คุณพ่อคะ...นิกกี้ขอโทษค่ะ”
“ไปกับฉัน!”
“คุณพ่อจะพานิกกี้ไปไหนคะ”
“คุณชลนิภาต้องรับผิดชอบเรื่องนี้”
ชนิกานต์ตกใจที่ณวัตรจะพาไปบ้านชนกชนม์ ณวัตรเดินนำออกไป ชนิกานต์กังวลใจ หันไปมองกฤติยาที่ตามมา กฤติยาช่วยอะไรไม่ได้
ชนิกานต์เดินตามพ่อไป กฤติยาเป็นห่วงชนิกานต์มาก หันไปเห็นธีรดนย์ ก็ไม่พอใจ
ธีรดนย์ยืนมองที่มุมหนึ่ง รู้สึกผิด แต่ไม่กล้าสารภาพความจริง
รถของณวัตรพาชนิกานต์ออกไปแล้ว ธีรดนย์ยืนมอง กฤติยาเข้ามาต่อว่าธีรดนย์
“พอใจแล้วใช่ไหม นายเป็นคนสร้างปัญหา แต่ปล่อยให้คนอื่นรับปัญหา”
“ฉันเองก็รู้สึกผิด”
“ผิดก็รับผิดสิ...ทำไมไม่กล้ารับความจริง”
ธีรดนย์อึ้ง
“ฉันผิดหวังในตัวนายมาก”
“เธอก็เห็นว่าคุณท่านโกรธมาก คุณท่านจะฆ่าฉัน ฉันกลัว”
“นายกลัวตาย แต่ไม่เห็นใจนิกกี้ ไม่เห็นใจชนม์ที่เป็นแพะรับบาป นายมันขี้ขลาด เห็นแก่ตัว”
ธีรดนย์คิดอะไรบางอย่างจะออกไป
“ฉันจะไปหาชนม์”
ธีรดนย์เดินลิ่วไป กฤติยาแปลกใจว่าธีรดนย์จะทำอย่างไร
ในที่สุดชนกชนม์ก็ทำความสะอาดเสร็จ หันไปบอกสุรัมภา
“ทำงานเสร็จแล้ว ขอเรียนเชิญท่านผู้มีเกียรติไปร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน”
สุรัมภาเดินเข้ามาหา ชนกชนม์เหลียวมองหาสุตาภัญ
“พี่สาวเราไปไหน”
“พี่ตาบอกว่าไปธุระค่ะ”
“ที่ไหน”
“ไม่ทราบค่ะ”
ชนกชนม์แปลกใจ
ที่แท้สุตาภัญเดินมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าบ้าน ครุ่นคิดตัดสินใจ เสาวนิตย์เดินออกมาหาสุตาภัญ
“ลูกตา”
“คุณแม่!”
“อย่าหนีแม่ไปอีกนะ”
“ตามาหาคุณแม่ มาหาคุณพ่อค่ะ”
เสาวนิตย์ดีใจที่สุตาภัญมาหา แต่แปลกใจว่าลูกสาวจะคุยอะไรกับสุทิน
ชนกชนม์วางมาด คิดแผนลงโทษสุตาภัญ
“พนักงานสุตาภัญหนีงาน ไม่แจ้งลาบอส...คราวหน้าต้องโดนลงโทษ”
สุรัมภาขำ “ส่วนคนนี้เป็นพนักงานดีเด่น ต้องได้รางวัลนะคะบอส”
“ครับ...ให้โบนัสด้วยการเลี้ยงข้าวเที่ยงสองต่อสอง”
สุรัมภายิ้มแฉ่งเดินเข้ามาควงแขนชนกชนม์
“ใครบอกล่ะ สามคนต่างหาก”
ชนกชนม์ฉงน
“พ่อแม่ลูก”
ชนกชนม์นึกได้ หันไปยิ้มให้สุรัมภา
“พี่ชนม์คิดรึยังคะ จะตั้งชื่อลูกว่าอะไรดี?”
“นั่นสิ ยังไม่ได้คิดเลยอะ”
“ต้องตั้งสองชื่อนะ ผู้ชายชื่อนึง ผู้หญิงชื่อนึง”
“จ้ะ ไปทานข้าวได้แล้ว คุณลูกหิวแล้วนะ”
ชนกชนม์จะพาสุรัมภาออกไปทานมื้อเที่ยง เห็นธีรดนย์เข้ามาหาก็แปลกใจ
“ธี!”
สุทินได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาในบ้าน หันไปถาม
“กลับมาแล้วเหรอ”
“ค่ะ ตากลับมาแล้วค่ะ”
สุทินแปลกใจหันไปมอง เห็นสุตาภัญก็หน้าตึง
“เธอ”
สุตาภัญเดินเข้ามา ยกมือไหว้สุทิน
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ!”
สุทินตำหนิเสาวนิตย์ “อย่าให้คนแปลกหน้าเข้ามาวุ่นวายในบ้าน”
จากนั้นสุทินเดินหนีออกไป เสานิตย์ร้องเรียก
“คุณคะ!”
สุตาภัญผิดหวังที่สุทินยังโกรธตนไม่หาย
ฟากชนกชนม์รู้เรื่องจากธีรดนย์ก็ตกใจ
“นิกกี้บอกว่าฉันเป็นพ่อของเด็ก”
“ใช่”
“แล้วทำไมนายไม่บอกความจริง ว่าเป็นนาย”
ธีรดนย์ก้มหน้า “ฉันไม่กล้า”
“ก่อนทำแล้วไม่คิด นายไม่กล้า ฉันบอกเอง”
ธีรดนย์ตกใจ “ไม่ได้นะ! ฉันมาหานาย ฉันมาขอร้องให้นายสมยอมรับเป็นแฟนนิกกี้”
สุรัมภาซึ่งตามเข้ามา ฟังธีรดนย์บอกชนกชนม์ก็ไม่พอใจ
“นายคิดอะไรของนาย นายมันเห็นแก่ตัว!” ชนกชนม์ด่า
“ฉันไม่อยากตาย” ธีรดนย์สารภาพอย่างคนขี้ขลาด
“แล้วฉันล่ะ” ชนกชนม์จ้องหน้า
“อย่างน้อยนายก็เป็นลูกเจ้าของบริษัทเพชร เป็นลูกเพื่อนของคุณท่าน คุณท่านไม่ทำร้ายนาย ฉันขอล่ะ ช่วยฉัน ถือว่าช่วยนิกกี้ด้วย”
“ไม่...ฉันช่วยนายไม่ได้...ฉันต้องดูแลภา”
สุรัมภาเดินเข้ามา หลังจากได้ยินเรื่องราวทั้งหมด
“พี่ชนม์ไปช่วยพี่นิกกี้เถอะค่ะ”
ชนกชนม์แปลกใจ “ภา”
ฝ่ายสุทินเดินหนี สุตาภัญเดินตาม
“คุณพ่อคะ ฟังตาก่อนนะคะ ตามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย”
“ฉันเปิดโอกาสให้พวกเธอ แต่เธอกลับทิ้งมัน แล้วคราวนี้จะมาเรียกร้องหาสวรรค์วิมานอะไร”
“ตารู้ค่ะว่าตาผิด คุณพ่อโกรธเกลียดตา ตาไม่เสียใจ....ตามาวันนี้ไม่ได้มาขอให้คุณพ่อรักตา ยอมให้อภัยตา...แต่ตาขอร้อง...คุณพ่อรับน้องกลับนะคะ”
สุทินแปลกใจที่สุตาภัญมาขอร้องเรื่องสุรัมภา
เสาวนิตย์นิ่งฟังสงสารและเป็นห่วงสุรัมภามาก
“น้องเองก็อยากกลับบ้าน แต่น้องสงสารตา ยอมอยู่เป็นเพื่อนตา ตาอยากให้คุณพ่อรับน้องกลับบ้าน น้องรักคุณพ่อ รักคุณแม่ คุณพ่อจะปล่อยให้หลานคุณพ่อเกิดมาด้วยความลำบากเหรอคะ”
“เด็กในท้องยัยภาไม่ใช่หลานฉัน!” สุทินเสียงแข็ง
“ลูกของภาก็คือสายเลือดคุณพ่อนะคะ คุณพ่อไม่ต้องกังวลเรื่องเสียหน้า ชนกชนม์อาสาจะดูแลภา เป็นพ่อของลูกภา”
สุทินและเสาวนิตย์แปลกใจที่ชนกชนม์อาสาเป็นพ่อของสุรัมภา
ด้านชนกชนม์ปฎิเสธสุรัมภาเสียงแข็ง
“พี่ทำอย่างนั้นไม่ได้ พี่จะเป็นพ่อของลูกภา!”
“ภาขอบคุณพี่ชนม์มากนะคะ แต่ภาสงสารพี่นิกกี้...ภาเข้าใจความรู้สึกพี่นิกกี้ว่าแย่ขนาดไหน การที่ถูกคนรักปฎิเสธ”
ธีรดนย์เหมือนโดนด่า รู้สึกแย่มาก
“พี่นิกกี้กำลังโดดเดี่ยว และเหตุผลเดียวที่พี่นิกกี้โกหกคุณพ่อว่าพี่ชนม์เป็นพ่อของเด็ก พี่นิกกี้เห็นว่าพี่ชนม์เป็นเพื่อนที่ดีที่สุด พี่ชนม์เป็นที่พึ่งสุดท้าย อย่าทำลายความหวังพี่นิกกี้นะคะ”
ชนกชนม์ถาม “แล้วภาล่ะ”
“ภายังมีพี่ตา ภาดูแลได้ ช่วยพี่นิกกี้ด้วยนะคะ”
สุรัมภาขอร้องชนกชนม์อีกแรง
ธีรดนย์มองจ้องหน้า รอฟังการตัดสินใจของชนกชนม์อย่างจดจ่อ
โปรดติดตาม "ลูกไม้หลากสี" ตอนที่ 19