น้องเมีย ตอนที่ 17
มะเฟืองแกล้งจมน้ำ ตะกุยตะกายขอความช่วยเหลือ
“ช่วยด้วย...ช่วยด้วย”
งามเนตรตกใจ
“มะเฟือง...”
เอกภพกระโดดลงไปช่วย
“คุณภพ...”
งามเนตรมองตามเป็นห่วง บัวแอบมองเจ็บใจที่เห็นเอกภพโดดลงไปช่วยมะเฟือง
“ฮึ่ย...! คุณภพจะโดดลงไปช่วยมันทำไม...คนอย่างมันตายๆไปซะได้ก็ดี”
บัวมองอย่างหมั่นไส้มาก
เอกภพพามะเฟืองขึ้นมาได้อย่างทุลักทุเล เธอแกล้งทำหมดสติ งามเนตรรีบเข้ามาช่วยเขย่าตัวน้องสาวแต่มะเฟืองนิ่ง
“มะเฟืองเป็นไงบ้าง มะเฟือง คุณภพทำไมมะเฟืองนิ่งไปแบบนี้ล่ะคะ” งามเนตรตกใจ
เอกภพจับหน้ามะเฟืองดูเห็นไม่มีปฏิกิริยาตอบ เขาก็ตกใจเหมือนกันหันบอกงามเนตร
“ท่าทางไม่ดี ดูเหมือนมะเฟืองจะหมดสติไป คงต้องรีบผายปอด”
บัวแอบดูอยู่ได้ยินว่าผายปอดก็ตกใจ
“ผายปอดเหรอ” บัวจับที่ปาก “อย่าบอกนะว่าคุณภพจะเป่าปากให้มันน่ะ อย่าหลงกลมันเชียวนะคุณภพ อย่านะ”
บัวแอบดูลุ้นกระวนกระวาย เอกภพจัดแจงจับมะเฟืองกำลังจะก้มลงผายปอดโดยการเมาท์ทูเมาท์ บัวรีบวิ่งโผล่เข้ามาพร้อมเสียงที่ดังเอะอะโวยวาย
“ตายแล้ว...ตายแล้วน้าชมมาช่วยกันหน่อยเร็วๆมะเฟืองจมน้ำ น้าชมเร็วๆเข้า”
บัวรีบปรี่เข้ามาที่เอกภพกับงามเนตรก่อน สักพักชมก็วิ่งหูตาตื่นตามเข้ามา บัวเอื้อมมือมาเขย่ามะเฟืองด้วยความหมั่นไส้
“โถ...มะเฟือง...นิ่งไปเลย แบบนี้หามส่งหมอเลยดีกว่าค่ะ”
ชมหน้าตื่นตกใจ
“ตายแล้วจริงๆด้วย หน้าซีดเชียว”
บัวกับชมเข้ามาขวางตรงหน้า เอกภพรีบบอก
“เอาล่ะสองคนถอยไปก่อน ตอนนี้ผมต้องช่วยผายปอดให้มะเฟืองฟื้นขึ้นมาก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
เอกภพก้มลงจะเป่าปากให้มะเฟือง บัวดึงแขนเขาไว้
“เดี๋ยวค่ะคุณภพ การเป่าปากช่วยหายใจถ้าทำผิดวิธีมะเฟืองอาจจะสำลักน้ำตายได้นะคะ เดี๋ยวฉันจัดการเองค่ะ”
ทุกคนหันมองหน้าบัวแบบไม่เชื่อ บัวรีบพูดสร้างความน่าเชื่อถือให้ตัวเอง
“ฉันเคยเป็นพยาบาลฝึกหัดมาก่อนฉันรู้วิธีดีค่ะ”
งามเนตรเป็นห่วงน้องรีบบอก
“งั้นบัวช่วยมะเฟืองด้วยนะจ๊ะ”
“ได้เลยค่ะ”
บัวมองมะเฟืองแอบยิ้ม ชมอึ้งๆไม่อยากเชื่อบ่นเบาๆ
“นังบัวมันเคยไปฝึกมาตอนไหนวะ ทำไมฉันไม่รู้วะ”
บัวก้มลงหน้าเข้าใกล้มะเฟืองพร้อมกับเอามือมาประสานกันแล้วกดตรงลิ้นปรี่ของมะเฟืองพร้อมทำท่าจะกระแทกกำปั้นลงลิ้นปรี่
“มันต้องกระแทกลิ้นปรี่ให้น้ำออกก่อน”
บัวออกแรงจะกระแทกแต่ยังไม่ทันลงน้ำหนักมะเฟืองก็พ่นน้ำใส่หน้า บัวหลบทันแต่เป็นช่วงที่ชมโผล่มาดูพอดีโดนน้ำพุ่งเข้าหน้าเต็มๆ ชมตกใจ
“อ๊าย...ฟื้นแล้ว...นังบัวแกนี่มันเก่งจริงๆด้วย ดูสิมะเฟืองรู้สึกตัวแล้ว”
มะเฟืองแกล้งสำลักน้ำต่อ งามเนตรเห็นมะเฟืองรู้สึกตัวดีใจรีบเข้ามาประคอง
“มะเฟืองเป็นไงบ้าง”
มะเฟืองไม่ตอบ
“เดี๋ยวพี่ไปเอาผ้าขนหนูให้นะ”
“ชมไปช่วยค่ะ”
งามเนตรลุกอออกไปชมตามไป มะเฟืองทำเป็นหมดแรงเอียงไปซบด้านที่เอกภพนั่งอยู่
“นี่หล่อนจมน้ำจริงๆหรือว่าแกล้งกันแน่เนี่ย บทจะฟื้นก็ฟื้นมาง่ายเหลือเกินนะแม่คุณ” บัวหมั่นไส้
มะเฟืองแกล้งไอสำลัก จนเอกภพหันมาทำตาดุใส่บัว
“บัว อย่าเพิ่งมาหาเรื่องกันตอนนี้เลยฉันขอร้องมีอะไรทำก็ไปทำก่อนไป”
บัวหน้างอ
“คุณภพอ่ะ...ไปก็ได้”
บัวเดินปั้นปึ่งออกไป สวนกับงามเนตรที่เดินถือผ้าเช็ดตัวเข้ามา งามเนตรมองเห็นท่าทีของเอกภพดูห่วงใยดูแลมะเฟืองที่กำลังแกล้งหนาวสั่น เธอยืนดูอึ้งๆนิดๆ เอกภพหันมาเห็นดึงผ้าจากมือมาห่มให้มะเฟือง งามเนตรมองทั้งสองอย่างกังวลใจ
เอกภพประคองมะเฟืองที่มีผ้าเช็ดตัวคลุมลงนั่งที่เก้าอี้ข้างสระน้ำด้วยท่าทีหนาวสั่น เขาหันมาถามงามเนตร
“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นทำไมถึงตกน้ำตกท่าแบบนี้”
งามเนตรอึกอัก มะเฟืองจ้องหน้างามเนตรด้วยสายตาดุๆ
“เอ่อ...คือว่าฉัน…”
งามเนตรไม่กล้าพูดเรื่องที่มะเฟืองโดนไล่ออก มะเฟืองชิงพูดก่อนพยายามบีบน้ำตา
“ฉันผิดเองแหละ ที่ทำให้พี่เนตรไม่พอใจ”
“ไม่พอใจเรื่องอะไร”
งามเนตรมองน้องสาว เอกภพอยากรู้ มะเฟืองบีบน้ำตา
“พี่เนตรไม่พอใจที่ฉันสนิทกับคุณ ก็เลยบังคับให้ฉันย้ายออกไปจากบ้านนี้”
งามเนตรอึ้งไปกับคำพูดของมะเฟือง เอกภพนิ่งไป
“มะเฟืองพี่ไม่เคยพูดแบบนั้นนะ”
เอกภพมองงามเนตรอย่างไม่อยากเชื่อสิ่งที่มะเฟืองบอก
“แต่พี่หมายความอย่างที่ฉันพูดใช่มั๊ยล่ะ ไม่ว่าฉันจะทำอะไรก็ผิดในสายตาพี่ทุกอย่าง”
“พี่แค่ถามเธอเรื่อง...”
งามเนตรจะพูดต่อว่าเรื่องเรียน แต่มะเฟืองรีบตัดบทก่อนใส่อารมณ์เต็มที่
“ก็บอกคุณภพไปเลยสิ บอกไปเลยว่าจะทำยังไงกับฉัน ก็ดีเหมือนกันฉันจะได้ไม่ต้องมาอึดอัดอยู่แบบนี้เรื่องบ้าๆแบบนี้มันจะได้จบๆไปซะที เนี่ยเหรอลูกสาวคนที่พ่อรักน่ะ ที่แท้คนเห็นแก่ตัวอย่างพี่ก็รักแต่ตัวเองแค่นั้นแหละ”
มะเฟืองทำเสียใจวิ่งร้องไห้ออกไป งามเนตรสับสนสะเทือนใจที่ตัวเองเป็นต้นเหตุทำให้น้องเสียใจ เอกภพไม่แน่ใจกับคำพูดของมะเฟืองว่าเรื่องอะไร เขาอึดอัดกับความรู้สึกหันมองงามเนตรเห็นว่าเธอน้ำตาคลอเสียใจ เอกภพรู้สึกไม่ดีอยากรู้ว่าเรื่องอะไร
“คุณจะบอกอะไรกับผมเหรอเนตร”
งามเนตรแอบเช็ดน้ำตา กำกระดาษจดหมายในมือไว้แน่นตัดสินใจที่จะไม่พูด
“เอ่อ...ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เนตรขอตัวก่อนนะคะ”
งามเนตรเก็บความรู้สึกเสียใจเดินออกไป เอกภพมองตามแล้วหันกลับมาคิด
“หรือว่าเป็นเรื่องนั้น...”
เอกภพหน้าเครียดทันที
มะเฟืองเข้ามาในห้อง เจ็บใจที่งามเนตรรู้เรื่องจดหมายจากมหาวิทยาลัย
“อีเนตรแกจะแส่เรื่องของฉันมากไปแล้วนะ”
มะเฟืองแค้นใจ ขณะเดียวกันเอกภพมาเคาะห้อง
“มะเฟือง ผมขอคุยอะไรด้วยหน่อย”
มะเฟืองที่ยืนอยู่หลังประตูได้ยินดีใจรีบเปิดประตูให้ เอกภพเข้ามาแล้วปิดประตูห้องหน้าตาร้อนใจ
“ที่เนตรผลักคุณตกสระน้ำเพราะเนตรรู้เรื่องระหว่างเรา 2 คนเหรอ”
มะเฟืองมองดูเขาเห็นท่าทางร้อนรน เธอทำเป็นก้มหน้าไม่ตอบ
“เธอเล่าเรื่องนั้นให้เนตรฟังใช่ไหม”
มะเฟืองทำเป็นเสียใจ
“ฉันจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไรคะในเมื่อฉันรับปากกับคุณแล้ว ว่ามันเป็นความลับระหว่างเราสองคน ฉันรู้ตัวเองดีว่าสำหรับคุณฉันเป็นได้แค่น้องเมีย ต่อให้ฉันทำดีกับคุณแค่ไหนคุณก็ไม่ทิ้งพี่เนตรมาหาฉันหรอก”
มะเฟืองทำน้อยใจเดินเข้าไป เอกภพรู้สึกผิดที่กล่าวหา
งามเนตรนั่งมองดูกระดาษจดหมายในมือคิดเรื่องมะเฟือง บัวเข้ามาหา
“อย่าหาว่าฉันยุ่งเลยนะคะ ทำไมคุณไม่บอกคุณภพไปล่ะคะว่ามันเรื่องอะไร”
“ช่างเถอะจ้ะ”
“โถคุณคะ...ก็เห็นๆอยู่ว่านังน้องคุณมันต้องการเรียกร้องความสนใจจากคุณภพ ฉันนะเห็นคุณยอมนังนั่นมาตลอดเลย ทำไมไม่จัดการอะไรสักทีคะเห็นแล้วโมโหแทน”
“มะเฟืองเป็นน้องฉันนะจ๊ะบัว”
“โอย...แล้วมัน...เอ้ย...นังนั่นมันเห็นคุณเป็นพี่หรือเปล่าล่ะคะ เอะอะอะไรก็น้องก็น้อง ถ้าอีนังน้องมันคิดจะแย่งผัวพี่...เอ่อ...สามีพี่ขึ้นมายังจะยอมให้มันเพราะมันเป็นน้องอยู่ไหมล่ะคะ”
งามเนตรหันมองบัวปรามๆ
“บัว อย่าพูดแบบนี้ให้ฉันได้ยินอีกนะ”
งามเนตรไม่อยากให้บัวพูดต่อเลยนิ่งเงียบซะเอง บัวแอบมองเช็คความรู้สึกแล้วพูดต่อ
“ฉันว่าคุณก็คงไม่โง่จนเกินไปที่จะเดาเหตุการณ์นี้ไม่ออกหรอกว่าที่น้องคุณทำไปเพื่ออะไร”
บัวพูดลอยๆ งามเนตรนิ่งฟังเฉยๆไม่อยากต่อความ ชมเอาน้ำผลไม้มาให้งามเนตรพอดีทันได้ยินที่บัวพูด
“การอยู่เฉยๆมันไม่ทำให้เรื่องมันจบหรอกนะคะ เพราะคุณเป็นแบบนี้น้องคุณถึงได้ทำตัวเสมอคุณแม้กระทั่งเรื่องคุณภพ ฉันเองก็ยังเคยเห็นมากับตา”
งามเนตรอึ้งหันมองบัว
“ฉันพูดไปคุณก็ไม่มีทางเชื่อฉันหรอก ทางที่ดีคุณควรจะจับตาดูนังน้องคุณให้ดีแล้วกัน”
ชมตีบัวดังเพลี้ยะให้หยุดพูด
“โอย...น้าตีทำไมเนี่ย”
“พล่ามไปเรื่อยนะแกเนี่ยนังบัว ผีเจาะปากมาให้พูดหรือไงกัน” ชมหันมาทางงามเนตร “อย่าไปฟังมันมากนะคะคุณเนตรนังนี่มันไร้สาระ” ชมหันไปไล่บัว “ไปทำงานได้แล้วคุณเนตรเธอจะได้พักผ่อน”
ชมลากบัวออกไปบ่นไป งามเนตรคิดสิ่งที่บัวพูดหน้าเครียด
มะเฟืองยังคงแสดงละครกับเอกภพ
“พี่เนตรพยายามผลักไสฉันไปอยู่ที่อื่นเพราะคิดว่าฉันจะมาแย่งความรักจากคุณไป มันก็เหมือนตอนเด็กๆที่พี่เนตรทำร้ายฉันเพราะโกรธที่ฉันกับแม่มาแย่งความรักจากพ่อไป ฉันยอมถูกพ่อด่าว่าว่าเป็นเด็กไม่เอาไหนเผื่ออยากให้พี่เนตรสบายใจว่าพ่อรักพี่เนตรมากกว่าฉัน จนวันสุดท้ายของพ่อ...พ่อก็ยังเห็นว่าฉันเป็นลูกที่เลวในขณะที่ฉันเสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยพ่อ ไม่มีใครรักฉันเลยสักคน”
มะเฟืองพูดไปทั้งน้ำตา เอกภพเดินเข้าไปกอดปลอบใจสงสารที่มะเฟืองต้องแบกรับความรู้สึกไว้มากมาย
“ผมขอโทษนะมะเฟือง”
มะเฟืองแอบยิ้มที่ทำให้เขาเชื่ออย่างสนิทใจ
“ถึงฉันจะรักคุณแค่ไหนฉันก็ไม่ทำร้ายพี่ฉันหรอก ฉันได้แค่ตัวคุณแต่หัวใจคุณมีแต่พี่เนตร ฉันก็เป็นได้แค่ ผู้หญิงที่คุณจำเป็นต้องนอนด้วยเท่านั้นเอง”
เอกภพมองหญิงสาวอึ้งๆ มะเฟืองแอบยิ้มร้าย
ชมพาบัวเข้ามาในครัว กดไหล่บัวลงนั่งแล้วเดินมานั่งตรงข้าม
“เอ็งจะไปยุ่งเรื่องนายๆเขาทำไมวะนังบัว”
“ก็ฉันอดไม่ไหวนี่นา เห็นๆอยู่ว่านังหลายแฉกนั่นมันสร้างภาพ อย่างคุณเนตรมัวแต่ หงิมๆรู้ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมนังแมวยั่วสวาทนั่นหรอก”
“แล้วแกรู้ทันงั้นเหรอ”
“อ๊ะ...ก็ใช่น่ะสิ”
ชมคิดๆ
“อ๋อ...ไอ้ที่เขาว่ากันว่า ผีย่อมเห็นผี...มันเป็นแบบนี้นี่เอง”
“นี่น้า พูดงี้ชี้หน้าด่าฉันเลยก็ได้นะ”
บัวทำงอนอารมณ์เสียใส่
“แหม...แหย่เล่นฮาๆไม่ได้เลยหรือไงวะ แล้วที่แกว่าเขาสร้างภาพน่ะมันยังไงเหรอ”
“ฉันเห็นกับตาว่ามันเป็นคนโดดลงไปเอง แต่ปากก็บอกว่าพี่สาวเป็นคนทำ ถ้าฉันเป็นคุณเนตรนะ ฉันจะจับอีน้องบ้ากดน้ำซะให้ตายคามือเลย”
ชมฟังแล้วสงสัย
“เดี๋ยวๆนี่แสดงว่าแกอยู่ในเหตุการณ์ตลอดเลยว่างั้น”
“ก็ใช่น่ะสิน้า ฉันต้องคอยตามงานของฉันเพราะเป็นคนเอาจดหมายไล่ออกจากมหา’ลัยให้คุณเนตรดูเอง สองคนนั่นก็เลยมีปากเสียงกัน แต่เจ็บใจที่คุณเนตรดันแพ้มารยาของมันได้”
“ที่แท้ก็เป็นเพราะแกนี่เอง ที่ทำให้คุณเนตรโดนน้องต่อว่าทะเลาะกันใหญ่โต”
“ฉันทำไปเพราะหวังดีแท้ๆ แต่ไม่มีใครเห็นค่าแม้กระทั่งน้าตัวเอง”
ชมสะอึก
งามเนตรกำลังเดินมาที่ห้องมะเฟืองลังเลที่จะเคาะห้อง แล้วตัดสินใจจะเคาะ พอดีกับเอกภพออกมาจากห้อง งามเนตรตกใจที่เห็นเขาออกมาจากห้องน้องสาว เอกภพก็ตกใจเหมือนกัน
“คุณภพ...”
“เอ่อ...คุณจะมาหามะเฟืองเหรอ”
“ค่ะ มะเฟืองอยู่ในห้องใช่มั๊ยคะ ฉันอยากคุยกับมะเฟือง”
“ผมว่าเอาไว้คุยกันวันหลังดีกว่านะครับ”
งามเนตรมองเอกภพแปลกๆไป
ค่ำนั้น...เอกภพนอนไม่หลับคิดถึงคำพูดของมะเฟืองที่เคยเล่าเรื่องงามเนตรให้ฟัง...มะเฟืองตีหน้าเศร้าๆสุดๆ
“พี่เนตรเขาเกลียดมะเฟือง เพราะมะเฟืองเป็นลูกของแม่เลี้ยงเป็นเมียใหม่ของพ่อเขา แล้วพ่อก็รักมะเฟืองมาก มะเฟืองก็เลยถูกพี่เนตรเขม่นมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วล่ะค่ะ พอลับหลังพ่อ พี่เนตรเขาก็จะลงไม้ลงมือกับมะเฟือง”
“ลงไม้ลงมือ ถึงขนาดนั้นเชียวเหรอครับ”
“คุณคงไม่เชื่อสินะคะ เพราะต่อหน้าคนอื่นๆ พี่เนตรดูเป็นคนใจเย็นแล้วก็อ่อนหวาน” มะเฟืองแกล้งสะอื้น
เอกภพครุ่นคิดนอนไม่หลับ...งามเนตรเองก็นอนลืมตาคิดถึงคำพูดของบัวที่บอกกับเธอเมื่อเย็นนี้
“ฉันพูดไปคุณก็ไม่มีทางเชื่อฉันหรอก ทางที่ดีคุณควรจะจับตาดูนังน้องคุณให้ดีแล้วกัน”
คำพูดของนิดาแว่บเข้ามา
“งั้นเอางี้...แบบง่ายๆเลยนะ...ฉันรู้สึกว่าน้องเธอต้องการทำอะไรสักอย่างเพื่อให้เธอกับคุณภพผิดใจกัน”
งามเนตรคิดถึงคำพูดที่มะเฟืองเคยพูด
“ฉันบอกแล้วใช่มั้ยให้เลิกยุ่งกับคุณเอกภพ”
“จะเลิกได้ยังไง คุณเอกภพเขาเป็นแฟนพี่”
“พูดอย่างนี้จะเย้ยฉันใช่มั้ยว่าหาผัวได้รวยกว่า”
มะเฟืองกระชากแขนงามเนตรอย่างแรง
“โอ๊ย ! พี่ไม่เคยคิดอย่างนั้นนะมะเฟือง พี่ไม่เข้าใจว่าเธอทำอย่างนี้ทำไม คุณเอกภพเขาเป็นแฟนพี่ เธอไม่มีสิทธิ์มาสั่งห้าม พี่หรือใครทั้งนั้น”
“ไม่มีสิทธิ์งั้นเหรอ งั้นฉันจะบอกให้ก็ได้ว่าทำไม...ฉันชอบคุณเอกภพ ได้ยินมั้ย ฉันชอบคุณเอกภพ”
งามเนตรทอดถอนใจ กังวล...คิดไม่ตก
“นี่มันคือเรื่องจริงเหรอเนี่ย”
ทั้งสองคนที่ต่างนอนไม่หลับพลิกตัวหันมาเจอกันโดยบังเอิญ แล้วนิ่งไป งามเนตรอึดอัดตัดสินใจพูด
“คุณภพคะ คุณเข้าไปทำอะไรที่ห้องมะเฟืองเหรอคะ”
เอกภพเครียดเหมือนกัน
“ผมเข้าไปคุยกับมะเฟืองเพราะไม่อยากให้เขามีปัญหากับคุณ”
“มะเฟืองบอกคุณเหรอคะว่าเกิดอะไรขึ้น”
“บอกแล้วครับ เนตรผมขออะไรคุณอย่างได้ไหม”
“อะไรเหรอคะ”
“คุณอย่าเก็บเอาเรื่องผมกับมะเฟืองไปคิดมากเลยนะครับ มะเฟืองเองก็ไม่สบายใจ ผมสงสารเขา”
สิ่งที่เอกภพพูดทำเอางามเนตรอึ้งไปสับสนกับความคิด
เช้าวันใหม่...เสียงมือถืองามเนตรดังขึ้นเธอกดรับสาย
“สวัสดีค่ะ”
“บริษัท ไพรม์ ไทม์ คอนเฟริม์เวลานัดสัมภาษณ์งาน สิบเอ็ดโมง นะคะ”
“อ๋อ...ค่ะๆ ดิฉันจะรีบไปนะคะ ขอบคุณค่ะ”
งามเนตรรีบเติมหน้านิดๆสำรวจความเรียบร้อยหน้ากระจกหยิบกระเป๋าสตางค์มองดูรูปพ่ออย่างคิดถึง
“คุณพ่อคะ วันนี้เนตรจะไปสัมภาษณ์งานใหม่ค่ะพ่อเป็นกำลังใจให้เนตรด้วยนะคะ”
งามเนตรยิ้มเศร้าๆให้กำลังใจตัวเองก่อนหยิบกระเป๋าถือออกไป
เนตรเดินออกมาจากห้องผ่านหน้าห้องมะเฟืองหยุดมองด้วยความเป็นห่วง มะเฟืองเปิดประตูออกมาพอดีตกใจจะปิดห้อง งามเนตรรีบยื้อไว้
“เดี๋ยวก่อนสิมะเฟือง คุยกับพี่ก่อน”
“ฉันไม่มีอะไรต้องคุย”
“พี่ขอโทษที่ต่อว่าเธอเรื่องเรียนนะ พี่จะไม่บังคับเธออีกแล้ว ถ้าเธอพร้อมและอยากเรียนเมื่อไหร่มาบอกพี่นะ”
มะเฟืองมองหน้ากวนๆ
“และถ้าอยากมีผัวล่ะ จะต้องบอกแกก่อนไหม”
มะเฟืองปิดประตูใส่หน้า งามเนตรมองตามอย่างเสียใจ
ภัสสรนั่งอยู่ที่โถงกลาง เห็นงามเนตรกำลังจะเดินออกจากบ้านก็ถามขึ้น
“หนูเนตรจะไปไหนล่ะจ๊ะ”
งามเนตรเดินเข้ามาหา
“วันนี้มีนัดสัมภาษณ์งานน่ะค่ะ”
“ที่ไปสมัครมาเมื่อวันก่อนน่ะเหรอ ทำไมเรียกสัมภาษณ์เร็วจัง”
“คงเป็นเพราะเพื่อนแนะนำมามั๊งคะก็เลยลดขั้นตอนไป”
“เดี๋ยวออกไปพร้อมกับแม่สิ แม่รอนังชมมันหยิบกระเป๋าอยู่น่ะ”
“ได้ค่ะ”
ภัสสรถามต่อ
“หนูเนตรได้ข่าวว่าทะเลาะกับน้องหรือไงจ๊ะ”
งามเนตรหน้าสลด
“เอ่อ...คือ…”
“แม่รู้มาจากเด็กๆในบ้านน่ะ แม่เห็นว่าเป็นพี่เป็นน้องกันแม่เลยไม่อยากเข้าไปยุ่ง พูดก็พูดเถอะว่ามะเฟืองนิสัยต่างจากเนตรมาก แม่รู้ว่าเนตรรักน้องแต่บางทีมันก็ต้องมีขอบเขตนะลูก อะไรที่มันมากไปเกินไปก็ต้องบอกต้องเตือนน้องบ้างนะ”
งามเนตรกราบขอโทษภัสสร
“หนูต้องกราบขอโทษคุณแม่ด้วยนะคะ ที่เนตรกับมะเฟืองมาอยู่ที่บ้านนี้ทำให้บ้านนี้วุ่นวายไปหมด หนูเกรงใจคุณแม่กับคุณภพเหลือเกิน”
“อย่าคิดแบบนั้นสิจ๊ะเนตรก็เป็นลูกแม่เหมือนกัน เมื่อหนูกับภพลงตัดสินใจลงหลักปักฐานกันแล้ว หนูกับภพต้องช่วยกันทำให้บ้านเป็นบ้านนะลูก”
งามเนตรอึ้งไป
เอกภพนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะ พนักงานเดินเอาเอกสารเข้ามาให้
“คุณภพคะ ใบวางบิลของผู้รับเหมางานตกแต่งเรือนไทยคุณกันตางวด 2 ค่ะ”
เอกภพรับมาดู
“ขอบคุณนะครับ เดี๋ยวผมขอตรวจรายละเอียดก่อนนะครับ”
“ค่ะ”
พนักงานเดินออกไป เอกภพตรวจใบวางวิลและเอกสารแนบต่างๆ แล้วเห็นว่ามีการแคนเซิลของตกแต่งบางประเภท เอกภพงงๆ
“เอ...คุณกันตาเซ็นระงับการสั่งสินค้า 2 รายการเหรอ”
เอกภพคิดๆ เลยตัดสินใจโทรหากันตา
กันตาเดินหมดเรี่ยวแรงหน้าซีดๆมาในห้องครัวกำลังหาน้ำดื่ม เสียงโทรศัพท์ดังเธอรีบเดินมารับสาย
“ฮัลโหล”
“ผมเอกภพนะครับ คุณกันตาเป็นไงบ้างครับสบายดีหรือยัง”
กันตาอ่อนแรง
“ก็ดีค่ะ แต่ตอนนี้เวียนหัวเหมือนบ้านหมุนๆ”
เอกภพตกใจ
“หาที่นั่งก่อนนะครับ หาที่จับไว้ก่อนหายใจลึกๆนะครับ”
กันตาลงนั่งอย่างอ่อนแรงเวียนหัว หมดแรงที่จะคุย
“มันตื้อไปหมดเลย คุณภพฉันไม่ไหวแล้วค่ะ”
กันตาหมดแรง...เอกภพเห็นกันตาเงียบไป
“คุณกันตา คุณยังอยู่หรือเปล่าครับ คุณกันตา...กันตา”
ไม่มีเสียงตอบจากอีกฝ่ายเอกภพรีบคว้ากุญแจรถแล้วออกจากห้องไป
เอกภพเปิดเข้ามาเห็นกันตานอนนิ่งอยู่ที่พื้น เขาตกใจรีบวิ่งเข้าไป
“กันตา”
เอกภพเข้าไปอุ้มเธอขึ้นมาแล้วพามานอนที่โซฟา รีบหายาดมในลิ้นชักแถวๆนั้นมาพร้อมกับหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้ เอกภพเอายาดมให้ดม กันตาค่อยๆลืมตาขึ้นมาเห็นเอกภพ
“เป็นไงบ้างครับ”
“ฉันนี่แย่จัง รบกวนคุณตลอดเลย”
กันตาพยายามลุกขึ้นนั่งช้าๆ เอกภพประคอง
“คุณหน้ามืดแบบนี้บ่อยๆเหรอครับ”
กันตาอายๆ
“ครั้งแรกค่ะ”
“ผมว่าไปให้หมอตรวจดูหน่อยมั๊ยครับ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ”
“ทำไมล่ะครับ อยู่คนเดียวแบบนี้อันตรายนะครับถ้าเกิดเป็นขึ้นมาอีกจะยุ่งนะครับ”
“คงไม่เป็นหรอกค่ะ”
เอกภพแปลกใจ
“คือจริงๆแล้วฉัน...”
ทันใดนั้นเสียงท้องของเธอร้องจ๊อกดังจนเขาได้ยินมองหน้า กันตายิ้มอายๆ
“คือ...ฉันคงหิวจนหน้ามืดไปน่ะค่ะ”
เอกภพหลุดขำ กันตายิ่งอาย
“คุณอย่าหัวเราะฉันแบบนี้สิ ฉันหิวจริงๆนะ”
เอกภพยิ้มมองดูกันตาอายเป็นภาพที่เขาไม่เคยเห็นเธอในมุมนี้มาก่อน เอกภพมองยิ้มๆ
งามเนตรนั่งทำงานเปิดข้อมูลศึกษางานอยู่ที่โต๊ะทำงาน เสียงมือถือดังขึ้นเธอกดรับสาย
“ไงจ๊ะสัมภาษณ์เสร็จแล้วใช่ไหมล่ะ”
งามเนตรแปลกใจที่นิดารู้
“ทำไมเธอรู้ล่ะ”
“ระดับฉัน รู้ทุกเรื่องค่ะ...ยกเว้นเรื่องตัวเองคร่า”
“แต่เรื่องนี้เธอต้องไม่รู้แน่เลย”
“ไรยะ”
“ก็เขาให้ฉันทำงานวันนี้เลยน่ะสิ”
“จริงดิ บริษัทอะไรวะทำไมมันรับคนง่ายดายแท้”
งามเนตรสงสัย
“อ้าว...ก็เธอบอกว่าเป็นบริษัทของเพื่อนไง”
นิดาคิดได้
“เออจริงด้วย หมู่นี้ฉันขี้ลืมบ่อยๆ วันนี้ก็ตื่นสายเลยลางานเฝ้าร้านซะเลย”
“แบบนี้คุณมาวินไม่ถามหาหรอกเหรอ”
“ไม่หรอกฉันเคลียร์เส้นทางไว้หมดแล้ว แต่ถ้าคุณมาวินคิดถึงฉันเขาคงตามมาหาฉันที่นี่เองแหละ”
“ขอบใจนะนิดา”
“จ้า...ทำงานให้สนุกนะ ไว้เจอกันจ้า”
นิดาวางสายยิ้มๆ
น้องเมีย ตอนที่ 17 (ต่อ
นิดาเดินถือชาร้อนออกมาเสิร์ฟที่โต๊ะแล้วลงนั่ง
“ขอบคุณคุณมาวินมากนะคะที่ช่วยเนตร”
“เพื่อคนที่ผมรัก ผมทำให้ได้ทุกอย่างแหละครับ”
นิดาแปลกใจที่มาวินพูดแบบนี้
“เอ่อคืออย่าหาว่านิดาแสล๋นเลยนะคะ นิดาอยากรู้จริงๆว่าคุณมาวินยังรักเนตรอยู่อีกเหรอคะ”
มาวินพยักหน้า
“ก็คนมันรักจะให้เลิกรักมันก็ไม่ได้หรอก”
“แต่ว่าเนตรเขามีสามีแล้วนะคะ แล้วเขาก็รักกันมากด้วย”
“ผมรู้ครับ แล้วก็จะไม่เข้าไปแทรกกลางระหว่างเนตรกับสามีเขาอีกแล้ว ที่ผ่านมาตัวเองตกเป็นเครื่องมือของมะเฟือง ผมขอดูอยู่ห่างๆแบบนี้ดีกว่า”
“ดีแล้วล่ะค่ะ นิดาดีใจที่คุณมาวินคิดได้ แต่กว่าจะคิดได้ก็ทำเอายัยเนตรเข้าใจคุณผิดใหญ่โตไปหมด”
“สักวันเนตรอาจจะเข้าใจผมก็ได้”
นิดายิ้มชื่นชมเจ้านาย ลบภาพอคติที่เคยรู้สึกไม่ดีลงไปได้
กันตานั่งมองดูเอกภพทำครัว เขาหั่นผักอย่างชำนาญ เตรียมเครื่องปรุงไว้พร้อม
“ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าคุณจะทำอาหารเป็นกับเขาด้วย”
“ผมทำได้หลายอย่างนะครับ เอางี้ถ้าผมทำเสร็จแล้ว คุณลองชิมดูแล้วค่อยมาตัดสินว่าผมผ่านหรือไม่ผ่านดีกว่า ตกลงไหมครับ”
“ตกลงค่ะ”
เอกภพตั้งใจทำอาหาร กันตามองดูเขารู้สึกถึงความอบอุ่นของเขาจนเธอไม่อาจละสายตาไปจากเขาได้ เอกภพเงยหน้ามาสบสายตาของเธอที่จ้องมองอยู่ ก็เขินๆ
“เอ่อ...คุณจ้องผมขนาดนี้ผมประหม่านะครับเดี๋ยวทำผิดสูตรขึ้นมา คุณอาจจะได้ทานคาโบนาล่า รสชาติแปลกๆนะครับ”
กันตายิ้มๆ
“ให้แปลกยังไงฉันก็จะทานค่ะ”
เอกภพขำๆจ้องหน้าเธอใกล้ๆเหมือนพูดกับเด็กน้อย
“คงเป็นเพราะคุณหิวแน่ๆเลยใช่ไหม”
กันตาอายเขินหน้าแดง เอกภพยิ้มขำๆแล้วละมือจากอาหารไปเปิดตู้เย็นเอาน้ำหวานเทใส่แก้วมาให้
“ระหว่างรอ คุณควรเติมน้ำตาลเข้าไปในร่างกายซะก่อนจะดีกว่าจะได้มีแรง”
“ขอบคุณค่ะ”
กันตาซึ้งในการใส่ใจของเขาบ่นกับตัวเองเบาๆ
“ฉันเจอคุณช้าไปสินะ”
หญิงสาวมองดูเขาอย่างประทับใจกับรายละเอียดที่เขาใส่ใจดูอบอุ่น
มะเฟืองเดินงุ่นง่านไปมาในบ้าน พลางมองโทรศัพท์
“ทำไมไม่โทรมานะ เขาน่าจะห่วงฉันบ้างสิ”
มะเฟืองมองมือถือ แล้วตัดสินใจกดไปเอง มือถือเอกภพที่วางอยู่ห้องรับแขกดังขึ้น กันตาได้ยินเห็นว่าเอกภพกำลังง่วนกับการทำอาหารอยู่เลยเดินไปรับสายแทนเห็นชื่อขึ้นว่า มะเฟือง เธอมองแล้วกดรับ
“สวัสดีค่ะ”
มะเฟืองที่หวังว่าจะได้ยินเสียงเอกภพ ได้ยินเสียงผู้หญิงทำเอาอารมณ์เสียทันที
“นั่นเบอร์คุณภพใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ แต่ภพไม่ว่างรับสายค่ะ”
“แล้วแกเป็นใคร”
กันตาส่งเสียงยั่วๆ
“เป็นเพื่อนสนิทค่ะ”
มะเฟืองคิดออกว่าต้องเป็นกันตาแน่ๆก็โกรธ
“นั่นแกใช่ไหม ฉันจำเสียงแกได้นะ”
“ขอบคุณค่ะที่จำได้ แต่ฉันจำคุณไม่ได้หรอกนะคะ เพราะฉันจำแต่คนที่น่าจำเท่านั้นค่ะ”
“อ๊ายย...แก...แกมีสิทธิ์อะไรมารับโทรศัพท์ของคุณภพ”
“ก็สิทธิ์ของเจ้าของบ้านไงคะ”
“นี่คุณภพอยู่บ้านแกเหรอ”
“ใช่...เราอยู่ด้วยกัน ค่ะ”
“อ๊ายย...ไปเรียกคุณภพมาคุยกับฉันเดี๋ยวนี้นะ”
กันตายิ้มสะใจขำที่มะเฟืองประสาทเสีย
“คงไม่เหมาะมั๊งคะ เพราะคุณภพกำลังเตรียมจัดชุดใหญ่ไว้รอฉันอยู่”
มะเฟืองงงๆอึ้งๆกับชุดใหญ่ที่กันตาพูด
“ชุดใหญ่อะไร แกหมายความว่าไง”
“แหม...ถามแบบนี้ฉันจะตอบยังไงล่ะคะ”
มะเฟือง ตวาดใส่
“ก็ตอบมาสิ”
กันตายั่วโมโห
“ก็หมายถึง การทำอะไรบางอย่างร่วมกันแล้วทำให้คนสองคนมีความสุขน่ะสิคะ”
มะเฟืองโกรธจัด
“นี่แกจะนอนกับเขางั้นเหรอ...แก...”
เอกภพชะโงกหน้ามาบอกกับกันตา
“ผมพร้อมแล้วนะครับ รอคุณคนเดียว”
กันตาแอบยื่นโทรศัพท์ให้มะเฟืองได้ยินเสียงเอกภพ
“ค่ะ เดี๋ยวจะตามไปกดคะแนนให้นะคะ”
มะเฟืองฟังอยู่หายใจถี่ขึ้นเพราะความโกรธ
“บอกมาเดี๋ยวนี้นะว่าบ้านแกอยู่ไหน บอกฉันมานะ”
“ขอโทษนะคะฉันไม่มีเวลาคุยแล้วค่ะ ภพมาเร่งแล้วไปก่อนนะคะ”
กันตากดวางสายไป แล้วกดปิดเครื่องซ้ำ ยิ้มสะใจ
“ป่านนี้คงอกแตกตายแล้วมั๊ง”
“ฮัลโหล...ฮัลโหล...”
มะเฟืองโกรธมาก กดโทรหาเอกภพใหม่ โทรเท่าไหร่ก็ไม่ติดมะเฟืองกรี๊ดลั่น
“อ๊ายย...อีบ้าเอ้ย”
มะเฟืองโกรธจนตัวสั่น หันมากดโทรศัพท์อีกครั้ง
งามเนตรกำลังนั่งเรียนรู้งานอยู่ที่โต๊ะโดยมีพนักงานอีกคนคอยสอนให้ เสียงมือถือดังขึ้น เธอหันมาบอกพนักงาน
“ขอโทษนะคะ ขอรับสายแป๊ปนะคะ”
“เชิญค่ะ”
งามเนตรเห็นเบอร์ มะเฟืองก็กดรับ
“มะเฟืองมีอะไรเหรอจ๊ะ”
เสียงมะเฟืองแว๊ดขึ้นมา
“มัวไปทำอะไรอยู่ รู้บ้างไหมว่าคุณภพเขาอยู่ที่ไหนน่ะ”
“คุณภพไปทำงานนะมะเฟือง”
“ทำงานบ้าบออะไรล่ะ เขาไปอยู่กับอีลูกค้าสาวที่ชื่อกันตาสองต่อสองที่บ้านมันโน่น”
“คุณภพกับคุณกันตาเขาเป็นเพื่อนร่วมงานกันนะจ๊ะ เขาก็ต้องไปด้วยกันเป็นธรรมดา”
“เพื่อนร่วมเตียงล่ะสิไม่ว่า ป่านนี้คงจะนัวเนียกันอยู่อย่างเมามันส์แล้วล่ะ”
งามเนตรเกรงใจเพื่อนร่วมงานที่ยืนอยู่
“ทีหลังถ้าจะโทรหาพี่เพื่อเรื่องไร้สาระพวกนี้ ไม่ต้องโทรมาอีก ที่สำคัญคุณเอกภพเป็นสามีพี่ ไม่ใช่สามีเธอ พี่ต้องทำงานต่อแล้วล่ะแค่นี้ก่อนนะ”
งามเนตรวางสายไป มะเฟืองไม่พอใจ
“นังเนตรกล้าพูดแบบนี้กับฉันแบบนี้เลยเหรอ เห็นทีฉันจะต้องจัดการพวกแกทั้งสองคนแล้ว”
มะเฟืองแค้นใจ
วิภากำลังหยอดเหรียญลงตู้โทรศัพท์สาธารณะแล้วกดเลข...มือถือมะเฟืองดังเธอนึกว่าอาจจะเป็นเอกภพรีบรับสาย
“คุณภพเหรอคะ”
“มะเฟือง”
มะเฟืองนิ่งฟัง วิภารีบบอก
“มะเฟือง นี่แม่เองนะ”
มะเฟืองตกใจ
“แม่...นี่แม่จริงๆเหรอ”
“ก็เออสิวะ”
“แม่อยู่ที่ไหน”
“แกอออกมาหาแม่หน่อยได้ไหมมะเฟือง”
บัวเดินมาพอดีได้ยินมะเฟืองคุย
“ได้สิ...จะให้ฉันไปเจอที่ไหนล่ะ”
“ตอนนี้แม่อยู่ที่ห้าง”
“โอเค เดี๋ยวฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ”
มะเฟืองวางสายแล้วรีบขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า บัวมองตามสงสัย
“ท่าทางลุกลี้ลุกลนแบบนี้ น่าสงสัย มันนัดเจอใครกันนะ”
บัวคิดๆแล้วตาโตขึ้นมา
"หรือว่าจะเป็นคุณภพ...เห็นทีฉันต้องตามไปเก็บหลักฐานซะแล้ว”
บัวหน้าตามุ่งมั่นแล้วรีบวิ่งออกไป
วิภานั่งชะเง้อมองหามะเฟืองอยู่ที่ร้านกาแฟในห้างสรรพสินค้า สักครู่มะเฟืองเดินมาที่ร้าน วิภาเห็นรีบกวักมือเรียก
“นังมะเฟือง ทางนี้”
มะเฟืองเห็นแม่เดินปรี่เข้าไปในร้าน ลูกน้องฉลามเดินผ่านมาเห็นมะเฟืองพอดี
“นั่นคู่ขาพี่หลามนี่หว่า เสร็จแน่มึง”
ลูกน้องมองมะเฟืองที่เข้าร้านไปแล้ว จึงกดโทรศัพท์หาฉลามเพื่อรายงาน...มะเฟืองเข้ามาหาวิภาที่โต๊ะลงนั่งพร้อมกับต่อว่า
“หนีเอาตัวรอดไปคนเดียวเลยนะแม่”
“ดีแล้วที่แกอยู่กับนังเนตรน่ะ ถ้าไปอยู่กับฉันป่านนี้ก็คงต้องไปขายตัวกินแล้วล่ะ”
มะเฟืองตกใจที่แม่พูด
“อะไรกันแม่ เงินที่แม่ได้ไปก็เยอะอยู่มันไปไหนซะล่ะ”
“เงินแค่หยิบมือที่ขายที่บ้านนั้นได้น่ะ ฉันเอาไปต่อทุนจนหมดแล้วล่ะ”
“ต่อทุนทำอะไร”
“ก็...” วิภามองซ้ายมองขวาก่อนจะกระซิบกับลูก “ฉันไปบ่อนฝั่งเกาะกงมาเล่นจนหมดตูดไม่เหลือสักบาท แถมยังติดหนี้พวกมันอีก ฉันก็เลยต้องมาหาแกนี่แหละ”
มะเฟืองไม่พอใจลุกขึ้นจะกลับ
“งั้นแม่ก็กลับไปได้เลยเพราะฉันไม่มีเงินให้แม่หรอกนะ”
วิภารีบดึงมะเฟืองให้นั่งลงก่อน
“เดี๋ยวสิวะ นี่ฉันเป็นแม่แกนะ แกจะไม่ดูดำดูดีฉันเลยหรือไง”
“แล้วตอนนี้แม่ทำอะไรอยู่ที่ไหน”
“ก็อยู่ไปเรื่อยแหละไม่มีหลักแหล่ง พักตามบ้านคนโน้นทีคนนี้ที”
“พักตามบ้านหรือตามบ่อนล่ะแม่ เอาให้แน่”
วิภารำคาญที่ลูกรู้ทัน
“เอาเถอะน่าเรื่องที่อยู่ฉันไม่กวนแกหรอก” วิภาตีหน้าเศร้า “ฉันแค่จะมาขอยืมเงินแกซื้อข้าวซื้อปลาเลี้ยงท้องไปวันๆก็พอ”
มะเฟืองสงสารแม่
“ฉันไม่ได้มีเงินเยอะแยะนะแม่” มะเฟืองควักเงินในกระเป๋าสะพายออกมา “ฉันมีอยู่แค่นี้แหละแม่เอาไปใช้ก่อนแล้วกัน”
วิภารับเงินมานับดู
“แค่ 300 บาทเนี่ยนะ”
“หรือไม่เอา”
มะเฟืองจะคว้าเงินกลับวิภารีบเก็บทำเศร้าต่อ
“มะเฟือง หาเงินให้แม่ยืมสัก 30,000 สิ”
“โหแม่...เงินตั้งเยอะแยะฉันจะไปเอาที่ไหนให้แม่ล่ะ”
วิภาเศร้า
“ถ้าไม่มีไปใช้หนี้ให้พวกมัน มีหวังฉันคงโดนพวกมันตัดมือตัดตีนแน่”
“ไม่ใช่ว่าฉันไม่ช่วยนะแม่ งานการฉันก็ไม่มีทำได้เงินจ้างเรียนวันล่ะไม่กี่ร้อย ยิ่งตอนนี้นังเนตรมันรู้ว่าไม่ได้เรียน ไม่รู้มันจะให้เงินฉันหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“อะไรกันแกไปอยู่บ้านใหญ่โตทำไมไม่มีเงินเลย”
“ก็ฉันไม่ใช่เจ้าของบ้านนี่นา”
วิภาพูดลอยๆ
“แกก็ทำตัวให้เป็นเจ้าของบ้านเร็วๆสิฉันจะได้สบายกับเขาสักที”
มะเฟืองคิดตามที่แม่พูด
มะเฟืองเดินออกมาจากห้องน้ำห้างสรรพสินค้า พบกับลูกน้องของฉลามก็ตกใจ
“หลีกไปนะ”
ลูกน้องเดินเข้าหาไม่สนใจ มะเฟืองถอยหนีวิ่งออกไปอีกทางเจอเข้ากับฉลาม เธอตกใจ
“ไอ้ฉลาม”
“ไงจ๊ะเจอพี่หลามถึงกับสั่นเลยเหรอ ท่าทางคงจะอยากมากล่ะสิท่า”
ฉลามเข้ามาใกล้มะเฟือง
“อย่าเข้ามานะไม่งั้นฉันร้องให้คนช่วยจริงๆด้วย”
“ก็ร้องไปสิ เรื่องผัวๆเมียๆใครมันจะกล้าแส่เข้ามาช่วยวะ กูตามหามึงอยู่หลายวันนี้แหละกูจะคิดบัญชีที่มึงทำกูเจ็บรอบสองให้สาสมเลย”
มะเฟืองกลัวรนราน
“ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริง”
ฉลามเดินเข้ามาหน้าเหี้ยมจับคางมะเฟืองบีบ
“เอาขวดฟาดหัวกูนี่นะไม่ได้ตั้งใจ”
มะเฟืองจับมือฉลามไว้แล้วพูดเสียงเศร้าๆ
“ก็วันนั้นฉันขอร้องแล้วว่าฉันป่วย พี่ฉลามก็ไม่ฟัง ที่ฉันทำไปก็เพราะกลัวว่าพี่จะข่มขืนแบบป่าเถื่อนเหมือนครั้งก่อนอีกฉันเจ็บ ฉันก็เลยพลั้งมือไป”
มะเฟืองตีหน้าเศร้าฉลามนิ่งฟัง
อีกมุมหนึ่งของห้าง บัวเดินตามหามะเฟืองจนเมื่อยชักหงุดหงิด
“มันไปไหนของมันวะ เดินตามหาซะขาลากไปหมดแล้วเนี่ย เจ็บใจนักเชียว”
บัวเดินเลี้ยวจะมาทางห้องน้ำ หันไปเห็นมะเฟืองเดินไปกับกลุ่มผู้ชาย บัวตาโต
“อยู่นี่เองอีตัวดี”
บัวรีบตามไปแอบดูเห็นมะเฟืองโดนฉลามดันเข้าไปชิดข้างฝา มีนักเลงอีกสองคนยืนอยู่ด้วย
“เสร็จฉันล่ะอีนังมะเฟือง ไม่เคยออกไปเรียน จ้องจะออกไปแรดอย่างเดียว”
บัวแอบมองเห็นฉลามเข้ามาคลอเคลียมะเฟืองก็ตาลุกวาว หยิบมือถือออกมาถ่ายภาพมะเฟืองที่กำลังถูกลวนลาม ฉลามจับมือมะเฟืองตรึงไว้กับผนังซุกไซร้ บัวแอบดูสะใจที่ได้รู้ความลับมะเฟืองยิ้มมีแผน
“คราวนี้ฉันจะแฉแกให้หมดเลย”
พนักงานทำความสะอาดเข้ามาตรงบัว
“ขอโทษนะคะ ขอเก็บขยะหน่อยค่ะ”
กลุ่มฉลามหันมา บัวตกใจรีบหลบออกไป...ฉลามหันกลับมาที่มะเฟือง
“คราวหลังอย่าทำให้ฉันเจ็บอีกเข้าใจไหม”
“ถ้าพี่ไม่ทำรุนแรงกับฉัน ฉันก็เต็มใจสำหรับพี่อยู่แล้ว”
“ก็ดี...งั้นวันนี้เราไปสนุกต่อกันนะที่รัก”
มะเฟืองถอนหายใจ ทำหน้าเศร้า
“ไว้คราวหน้าเถอะนะพี่”
“มึงยังกล้าพูดคราวหน้าอีกเหรอ อยากลองดีใช่ไหม”
“ฉันต้องหาไปหาเงินให้แม่ก่อน เมื่อกี้แม่มาขอเงิน เงิน 3หมื่น จะไปหาจากไหน ยังไม่รู้จะทำไงดีเลย ไว้หาเงินได้ฉันจะไปสนุกกับพี่นะ”
ฉลามไม่พอใจ
“ลีลานะมึง โกหกหรือเปล่าเนี่ย”
“ฉันจะโกหกทำไมล่ะ ที่ฉันมาที่นี่ก็เพราะต้องมาเจอแม่ แต่แม่ก็ดันเดือนร้อนต้องการใช้เงิน ฉันกลุ้มใจจริงๆ”
ฉลามคิดๆแล้วบอก
“ถ้ามึงอยากได้เงิน กูมีวิธี มีอยู่ 2 อย่างเท่านั้น ไม่ค้ายา ก็ค้าหญิง”
มะเฟืองฟังอึ้งๆ
บัวกดเช็คภาพถ่ายในมือถือที่แอบถ่ายมะเฟืองมาได้ ยิ้มเยาะเย้ย
“ที่แท้ก็ผ่านมือชายมาไม่รู้กี่คนต่อกี่คน คิดจะมาจับคุณภพของฉันฝันไปเถอะ”
บัวยิ้มเหยียด
ค่ำนั้น...งามเนตรนั่งอ่านแฟ้มงานอยู่ในห้อง เอกภพกลับเข้ามา งามเนตรลุกเข้ามารับเสื้อไปเก็บให้...เอกภพเดินมานั่งที่มุมห้อง
“วันนี้กลับดึกจังเลยนะคะ”
“พอดีวันนี้ผมแวะไปดูคุณกันตามาน่ะ”
งามเนตรแปลกใจ
“คุณกันตาเป็นอะไรเหรอคะ”
“วันนี้กันตาเป็นลมหมดสติไปโชคดีที่ผมโทรเข้าไปพอดีจึงรู้ ไม่งั้นกันตาแย่แน่เลย”
งามเนตรตกใจ
“ตายจริง แล้วเป็นอะไรมากมั๊ยคะ”
“ตอนนี้ดีขึ้นแล้วล่ะครับ เขาคงตรอมใจเลยไม่ยอมทานอะไรเข้าไปเลยก็เลยหน้ามืดวูบไปเฉยๆ ดูๆแล้วก็น่าสงสารนะครับ ปากบอกว่าใครๆว่าเข้มแข็งแต่จริงๆแล้วก็อ่อนแอ”
งามเนตรสังเกตเอกภพเวลาพูดถึงกันตาก็ไม่เห็นมีอะไรตามที่มะเฟืองบอกสักหน่อย งามเนตรลองซักต่อ
“แล้วคุณไปกับใครล่ะคะ”
“ผมไปคนเดียวเพราะ โจ้ติดคุยงานกับลูกค้า”
งามเนตรโล่งใจที่อย่างน้อยเขาก็บอกตรงๆ เอกภพเห็นแฟ้มงานที่โต๊ะ
“คุณทำอะไรอยู่เหรอ”
งามเนตรยิ้มๆ
“งานใหม่ของเนตรค่ะ”
“ผมดีใจด้วยนะครับคุณจะได้ไม่เบื่อ เป็นบริษัทอะไรเหรอครับ”
“เป็นบริษัทด้านออกาไนซ์ ค่ะ งานก็น่าสนุกดีนะคะ เนตรทำวันนี้วันแรกด้วยก็เลยเอาข้อมูลมาดูเพิ่มเติมน่ะค่ะ”
เอกภพยิ้มๆ ที่งามเนตรมีความสุขกับงานใหม่
เช้าวันใหม่...ชมกำลังล้างถ้าชามอยู่ บัวยกจานที่เก็บมาจากโต๊ะอาหารส่งให้
“น้องคุณเนตรลงมาทานข้าวไหม”
“ไม่มา ถึงมาฉันก็ไม่ตักให้กิน”
“เอ๊าอีนี่ดูพูดเข้า เขาก็เป็นนายเราเหมือนกันนะ”
“ทำตัวเหลวแหลกขนาดนี้ ฉันไม่รับเป็นนายหรอกจ้า”
ชมหันมาถาม
“นี่เอ็งไปเกลียดเขาเรื่องอะไรวะ”
“เกลียดทุกเรื่อง บอกไม่ถูกว่าเรื่องอะไร คอยดูนะน้าฉันจะเปิดไพ่มันออกมาทีละใบๆ ฉันจะทำให้มันอายจนต้องแทรกแผ่นดินหนีเลย”
มะเฟืองเพิ่งตื่นเดินมาที่ครัวเพื่อหาอะไรกินแต่มาได้ยินบัวกับชมคุยกันจึงแอบฟัง
“แกดูละครมากเกินไปหรือเปล่า เปิดพงเปิดไพ่อะไรของแกวะนังบัว”
บัวหงุดหงิดที่ชมช่างเข้าใจอะไรยากเหลือเกิน
“ก็เปิดความลับมันไงล่ะน้า ตอนนี้ฉันเปิดไปแล้วคือเรื่องจดหมายที่มหา’ลัยไล่มันออกไงน้า...จริงๆแล้ววันนั้นฉันตั้งใจจะไปหาหลักฐานอื่น แต่ดันไปค้นเจอจดหมายที่มหา’ลัยไล่มันออกเข้า ฉันงี้สะใจมากเลยที่เห็นมันหน้าซีดตอนที่คุณเนตรถามว่าทำไมถูกไล่ออก มันคงอยากจะกรี๊ดอ่ะเน๊อะ น้าว่าไหม”
บัวขำชอบใจ ชมหน้านิ่งรำคาญ
“ตอนนี้ฉันฟังแกมากๆก็อยากจะกรี๊ดเหมือนกันล่ะ”
“ฉันยังมีเรื่องเด็ดๆอีกนะน้า”
“อะไรอีกวะ”
“เมื่อวานฉันตามมันไปข้างนอก ฉันเจอความลับมันอีกอย่างด้วยล่ะและฉันก็เก็บภาพไว้ในเทเลโฟนของแล้ว น้าอยากดูไหมล่ะที่ฉันบอกว่ามันเหลวแหลกน่ะมันเป็นยังไง ผู้ชายตั้งหลายคนรุมฟัดมันที่ห้างน่ะ เห็นแล้วหยะแหยงชะมัด”
ชมปราม
“พอได้แล้ว ไร้สาระไปจัดการทำความสะอาดหน้าบ้านเลยไป”
บัวเซ็งที่โดนไล่ เดินเชิดออกไป มะเฟืองที่ฟังอยู่เจ็บใจมาก
บัวกวาดเศษใบไม้อยู่ริมสระหันไปจะหยิบที่โกยขยะ มะเฟืองเหยียบอุปกรณ์ไว้บัวมองตามเท้าที่เหยียบเห็นเป็นมะเฟืองก็โมโห
“จะหาเรื่องหรือไง”
“ใช่...ส่งมือถือแกให้ฉันเดี๋ยวนี้”
บัวยิ้มเยาะ
“เรื่องอะไร”
มะเฟืองขู่
“ฉันบอกให้ส่งมาไง”
บัวยั่วให้มะเฟืองโกรธ
“คงอยากเห็นภาพผัวเก่าจนตัวสั่นล่ะสิ อ้อไม่ใช่ผัวเก่าสิต้องพูดว่าผัวปัจจุบันและผัวในอนาคตถึงจะถูกใช่มิ”
มะเฟืองจะเข้าไปตบ บัวยกมือถือขู่
“อย่าเข้ามานะไง่งั้นฉันจะส่งภาพพวกนี้ให้คุณภพทันที”
“อีหมาลอบกัด”
“ก็ยังดีกว่าอีพวกกินบนเรือนขี้บนหลังคาแหละว๊า”
มะเฟืองน้ำเสียงเข้มดุแบบขู่
“ฉันไม่ได้อยากมีเรื่องกับแกเพราะฉะนั้นอย่าแส่ เรื่องของฉัน ส่งโทรศัพท์มาเดี๋ยวนี้อีบัวถ้าไม่อยากเจ็บตัว”
บัวยิ้มเยาะแล้วชูมือถือหย่อนเข้ามาเก็บในเสื้อชั้นใน
“เรื่องอะไร โทรศัพท์นี่มันเป็นของส่วนตัวของฉัน”
บัวเชิดใส่หันไปทำงานต่อ มะเฟืองแค้นเดินเข้าไปผลักบัวเสียหลักเกือบตกสระ บัวตกใจร้องกรี๊ดๆ มะเฟืองดึงเสื้อบัวไว้เลยยังทรงตัวอยู่ได้
“แกๆ...อย่านะ”
มะเฟืองยิ้มเยาะแล้วพูดข้างๆหู
“ของส่วนตัวของฉันแกก็ห้ามแตะต้องเข้าใจไหม”
มะเฟืองปล่อยมือแล้วถีบบัวลงน้ำ โครมใหญ่ บัวร้องกรี๊ดๆ มองเห็นโทรศัพท์ล่วงลงก้นสระ
“อ๊าย!...โทรศัพท์ฉัน...อีบ้า”
บัวร้องโวยวายตีน้ำกระจายอยู่ในสระ มะเฟืองเดินออกไปจากสระทิ้งให้บัวร้องกรี๊ดๆอยู่อย่างนั้น มะเฟืองยิ้มร้ายไม่สนใจ
น้องเมีย ตอนที่ 18
ชมร้องเพลงไปล้างจานไป หันเอาจานมาเก็บมองเห็นบัวเดินเข้ามาในสภาพที่เปียกปอนชมมองประหลาดใจ
“อ้าวเฮ้ยนังบัว ฉันให้แกไปทำความสะอาดไม่ได้ให้ไปโดดน้ำเล่นนะโว้ย”
บัวอารมณ์เสีย
“ฉันไม่ได้ลงไปเล่นฉันถูกถีบลงไปต่างหาก”
ชมเผลอหัวเราะออกมา
“ถูกใครเขาถีบมาล่ะวะ”
บัวตาขวาง
“มันไม่ขำนะน้า”
ภัสสรเดินมาเห็นรอยน้ำหยดเป็นทางมาที่ห้องครัว
“ชมใครมาทำน้ำอะไรหกเลอะเทอะไปหมดเลย”
ภัสสรโผล่เข้ามาในครัวเห็นสภาพบัวที่เปียกปอนมองงงๆ ชมอึกอักๆก่อนจะตอบไป
“คือนังบัวมันตกน้ำมาน่ะค่ะ”
“แล้วไปทำอีท่าไหนเข้าละแม่บัว”
ชมขยิบตาไม่ให้บัวพูดเพราะไม่อยากให้เกิดเรื่อง แต่บัวไม่ทำตามโผเข้าหาคุณผู้หญิง
“คุณผู้หญิงต้องช่วยบัวนะคะ บัวถูกนังมะเฟืองมันถีบตกสระน้ำมาค่ะ”
ภัสสรตกใจ
“แล้วมีเรื่องอะไรกันล่ะ ถึงต้องทำกันขนาดนี้”
“บัวไปรู้ความลับของมันเข้า มันก็เลยไม่พอใจด่าว่าบัวว่ายุ่งเรื่องของมัน”
“ถ้ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา เราก็ไม่ควรไปยุ่งนะบัว”
“แต่มันเป็นคนไม่ดีนะคะ มันสมสู่กับผู้ชายไม่เลือกหน้า”
ภัสสรตกใจ ชมเซ็งที่บัวเอาอีกแล้ว
“โอย...ฉันจะเป็นลม”
ภัสสรเวียนหัวชมรีบเข้ามาบีบนวด
“คุณผู้หญิงเอายาลมไหมคะเดี๋ยวชมไปเอามาให้”
“ไม่ต้อง” ภัสสรหันบอกกับบัว “แล้วเธอเห็นกับตาหรือไงแม่บัว”
“เห็นเต็มสองตาเลยล่ะค่ะคุณผู้หญิง เพราะบัวตามมันไป แล้วก็ไปเจอมันกำลังมั่วกับผู้ชาย บัวก็เลยแอบถ่ายรูปมันไว้ พอมันรู้เข้ามันก็มาขู่จะภาพเอาในมือถือบัว บัวไม่ให้มันก็เลยถีบบัวตกน้ำ”
มะเฟืองโผล่เข้ามาหน้าเหวี่ยงสุดฤทธิ์
“ไหนล่ะหลักฐานที่ว่าฉันมั่วน่ะอยู่ไหน”
ทุกคนตกใจ บัวหันไปเถียง
“ก็แกถีบฉันตกน้ำไปพร้อมกับโทรศัพท์นี่ไง”
บัวยกโทรศัพท์ที่มีน้ำขังขึ้นมาโชว์ให้เห็น
“หลักฐานก็ไม่มี ไม่มีอะไรสักอย่างแล้วก็เที่ยวกล่าวหาว่าฉันทำอย่างงั้นฉันทำอย่างงี้ แกเป็นอะไรมากเปล่า หรือว่าจะเรียกร้องความสนใจ”
บัวโมโห
“อีหน้าด้านไร้ยางอาย แกกลัวว่าฉันจะแฉแกใช่ไหมล่ะ ถึงวันนี้ฉันจะไม่มีหลักฐานแต่วันหน้ารับรอง ฉันจะถ่ายมาเป็นภาพเคลื่อนไหวเลย ดูสิว่าแกจะแก้ตัวยังไง”
มะเฟืองเหลืออด
“มันจะมากไปแล้วนะ อีบัว”
มะเฟืองจะเข้ามาตบบัว ภัสสรส่งเสียงดังห้ามทั้งสองคนไว้
“หยุด...นี่เธอสองคนเถียงกันด่ากันไม่เห็นหัวฉันบ้างเลยหรือไง”
ชมเสริม
“จริงด้วย คุณผู้หญิงนั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ทั้งคน”
ภัสสรหันมองตาเขียวใส่ชม
“นี่ก็อีกคนเป็นผู้หลักผู้ใหญ่แล้วหัดสอนเด็กๆมันบ้าง” ภัสสรหันบอกมะเฟืองกับบัว “ถ้าเธอไม่ชอบหน้ากันก็ต่างคนต่างอยู่จะได้สิ้นเรื่องสิ้นราว ทำได้ไหมมะเฟือง เธอด้วยบัว”
มะเฟืองมองบัวแค้นๆ บัวเองก็สู้ตามะเฟืองสุดฤทธิ์ ภัสสรมองสองคนด้วยความระอา
มะเฟืองเข้ามาในห้องด้วยความโมโหลงนั่งที่เตียง
“โอ้ย...อีผีบ้านี่มันจะคอยจองล้างจองผลาญกูไปถึงไหนวะ”
ขณะเดียวกันนั้นมือถือดังขึ้น เธอรับสายอย่างหงุดหงิด
“ฮัลโหล”
“มะเฟืองแม่เอง”
“อะไรอีกล่ะแม่ ก็เมื่อวานเราคุยกันแล้วไง จะโทรอะไรนักหนา เดี๋ยวฉันมีฉันเอาไปให้เองแหละน่า”
“เอ็งอย่ามาเดี๋ยวสิวะนังมะเฟือง ไอ้พวกหมวกกันน๊อคมันมาขู่แม่เมื่อกี๊ ถ้าพรุ่งนี้แม่ไม่เอาเงินไปให้มันมันตัดมือแม่ทิ้งแน่ แกต้องหาเงินมาให้แม่นะ ไปหยิบยืมใครมาก่อนก็ได้”
“ใครที่ไหนมันจะให้ฉันยืมล่ะแม่ พูดไปเรื่อย”
วิภาช่วยคิด
“ก็เพื่อนที่แกออกไปแรดๆด้วยกันอยู่ทุกวันนั่นล่ะ มีมั๊ย”
“มันจะมีได้ไงล่ะแม่งานการมันมีทำซะที่ไหนล่ะ”
“ตาย...ฉันต้องโดนมันฆ่าแน่ๆเลย รู้ถึงไหนอายเขาถึงนั่นแน่ ลูกเต้ามีรึก็ช่วยอะไรไม่ได้ โธ่เว้ย ทำไมฉันถึงซวยอย่างงี้วะ”
“โอย แม่จะบ่นให้มันได้อะไรขึ้นมาเนี่ย ฉันกำลังช่วยแม่อยู่นะ พูดแบบนี้เดี๋ยวฉันไม่ช่วยเลย...ปล่อยให้มันตัดมือให้ด้วนเลยก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องไปเล่นไพ่อีก”
“อ้าว...อีนี่ฉันเป็นแม่แกนะ”
“ก็เพราะเป็นแม่นี่ไง ถ้าเป็นคนอื่นฉันก็ไม่เดือนร้อนหรอก ฉันขอคิดก่อนนะว่าจะหาเงินจากที่ไหนเดี๋ยวพรุ่งนี้แม่โทรมาใหม่แล้วกันนะ”
วิภาคิดๆเครียดๆ
“แกต้องช่วยฉันนะ”
วิภาวางสายอย่างกังวล...มะเฟืองเครียดคิดเรื่องเงินกลุ้มใจ
ชมดันบัวเข้ามาในห้อง บัวยังอยู่ในอาการเจ็บใจที่มะเฟืองรอดไปได้ จึงเดินไปนั่งที่พื้นห้องทั้งๆที่เปียก มองมือถือในมือที่เปียกน้ำแล้ววางลงที่พื้นด้วยความโมโห
“ทำใจเย็นๆน่ะทำเป็นไหมนังบัว ไปเหวี่ยงเขาแต่พอโดนเขาเหวี่ยงกลับมาก็ไม่พอใจ”
“ฉันไม่ได้ไม่พอใจมัน...แต่ ฉันเกลียดมันต่างหากล่ะน้า!”
“เกลียดก็อยู่ห่างๆ เอ็งไม่ได้ยินที่คุณผู้หญิงบอกหรือไง ว่าให้ต่างคนต่างอยู่น่ะ”
“ได้ยิน...แต่ฉันทำไม่ได้”
บัวแค้นใจ ชมมองระอา
“พูดกับแกนี่มันเปลืองน้ำลายจริงๆ...แล้วนี่เอ็งจะนั่งเปียกๆอยู่อย่างงี้ให้เห็ดมันงอกออกมาหรือไงวะ ไปอาบน้ำอาบท่าสักทีเถอะไปรำคาญ”
บัวนั่งนิ่งคิดเรืองอื่นไม่สนใจ ชมหมั่นไส้หันไปหยิบผ้าขนหนูขว้างใส่
“ไปอาบน้ำ”
บัวฟึดฟัดเดินออกไป ชมมองตามเพลียใจ
มะเฟืองหงุดหงิดได้แต่ถอนหายใจ มองดูเหรียญที่รวบรวมได้ไม่มากวางอยู่ข้างหน้า เสียงของฉลามแว่วเข้ามาในความคิด
“ถ้ามึงอยากได้เงิน กูมีวิธี อยู่2อย่างเท่านั้น ไม่ค้ายา ก็ค้าหญิง”
มะเฟืองเริ่มเห็นทางออกของปัญหา
“ค้าหญิง...งั้นเหรอ”
มะเฟืองปิ๊งขึ้นมาทันที รีบกดมือถือหาฉลามทันที
ฉลามเห็นเบอร์มะเฟืองโทรมาก็กดรับ
“ว่าไงจ๊ะเมียจ๋า โทรมาหาพี่แบบนี้แสดงว่าสนใจอาชีพเสริมของพี่ใช่ไหมจ๊ะ”
“ฉันต้องการเงิน 40,000 บาทกับงานครั้งนี้”
“โอ้ว...นี่ปล้นกันชัดๆเลยนะเนี่ย ราคาขนาดนี้ ของที่ส่งมามันก็ต้องสมราคาน๊ะจ๊ะเมียจ๋า”
มะเฟืองหน้าร้าย
“เปิดซิง...แบบนี้เรียกว่าสมราคามั๊ย”
ฉลามตาวาว
“ว๊ะว๊ะว๊าวว...ขนลุกซู่เลย แบบนี้ต้องส่งเจ้าประจำซะแล้ว”
“งั้นบอกที่อยู่มาฉันจะส่งคนไป”
ฉลามบอกทาง มะเฟืองฟังแล้วจดที่อยู่ที่
มะเฟืองแอบเข้ามาห้องบัวมองเห็นเสื้อผ้าที่เปียกกองอยู่หน้าห้องน้ำ ในห้องน้ำมีเสียงบัวอาบน้ำไปร้องเพลงไป มะเฟืองยิ้มเหยียดๆ เอาจดหมายมาไว้ที่เตียง มะเฟืองหันมองทางห้องน้ำ
“ร้องเพลงซะให้พอนะ หลังจากพรุ่งนี้ไปแกจะได้แต่ร้องไห้ เท่านั้น”
มะเฟืองค่อยๆแอบออกไปนอกห้อง แต่พอโผล่พ้นประตูออกมา ชมเดินมาพอดีเห็นหลังมะเฟืองเดินออกไป
“มาเอาอะไรเหรอ”
มะเฟือง ตกใจนึกว่าไม่มีใครอยู่
“เอ่อ...คือ...ฉันจะมา ขอโทษบัวน่ะ”
ชมแปลกใจไม่อยากเชื่อ
“มาขอโทษนังบัวเนี่ยนะ”
ชมมองออย่างไม่เชื่อ
“คือ...ฉันไม่อยากให้คุณผู้หญิงไม่สบายใจน่ะ”
ชมพอจะคล้อยตามที่มะเฟืองเกรงใจ
“ดีแล้วล่ะ ตอนนี้นังบัวมันอาบน้ำอยู่จะรอไหมล่ะ”
“ไม่เป็นไรวันหลังคอยมาขอโทษก็ได้”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอก ไปฉันพาเข้าไป”
ชมจะเปิดประตูเข้าห้อง เสียงรถเอกภพดังเข้ามาในบ้าน มะเฟืองรีบบอกชม
“คุณภพมาแล้ว พี่ชมรีบไปรับคุณภพก่อนเถอะ”
“จริงสิ งั้นเธอรอเองแล้วกันนะ ไปล่ะ”
ชมเดินออกไป มะเฟืองโล่งอก
บัวอาบน้ำเพิ่งเสร็จเปลี่ยนชุด เห็นจดหมายวางอยู่มองงงๆว่าอะไร เดินเข้าไปหยิบมาแล้วเปิดอ่าน
“ถึงบัว...ผมรู้เรื่องที่บัวโดนมะเฟืองรังแกหมดแล้ว ผมสงสารบัวจังที่โดนแกล้ง ผมอยากมีเวลาได้อยู่ลำพังกับบัวสองคนจังเลยมันคงจะทำให้ผมได้รู้จักบัวมากขึ้น ถ้าบัวไม่รังเกียจ ผมอยากให้บัวออกมาเจอผมพรุ่งนี้ที่โรงแรม…ผมจะเตรียมของขวัญชิ้นใหญ่ไว้ปลอบใจบัวนะ ปล. เป็นความลับห้ามบอกใครนะครับ แล้วอย่าลืมทำลายจดหมายนี้ทิ้งนะครับเพราะผมไม่อยากให้ใครมาเห็นแล้วขัดขวางความสุขของเรา รัก...เอกภพ”
บัวเอากระดาษมาจูบด้วยความรัก
“บัวก็รักคุณค่ะ”
บัวยิ้มเขินอายดีใจอย่างที่สุด
เช้าวันใหม่...บัวตักข้าวให้ทุกคนมาจนมาถึงภัสสร บัวแอบมองส่งสายตาหวานให้เอกภพ เขาหันมองพอดี บัวเขินยืนอาย มะเฟืองแอบมองหมั่นไส้ บัวตักข้าวไปเขินไปเกือบออกนอกจาน ชมรีบดึงทัพพีกับหม้อข้าวออกมาแล้วดุ
“นังบัว...แกจะเอาข้าวกองลงโต๊ะให้คุณผู้หญิงกินอยู่แล้วนะนังนี่”
ภัสสรมองชมค้อนๆ
“ถอยไปเลยฉันตักเอง ไปเสิร์ฟน้ำโน่น”
บัวเดินเขินๆไปหยิบเหยือกน้ำ ภัสสรมองบัวแปลกๆไปแอบถามชม
“เขาเป็นอะไรของเขาน่ะชม”
“มันก็ผีเข้าผีออกแบบนี้แหละค่ะคุณผู้หญิง”
มะเฟืองมอง บัวไม่สนใจเชิดใส่หันมายิ้มต่อแล้วเดินถือเหยือกน้ำมาเทให้เอกภพก่อนแล้วเอาหน้ามาใกล้กระซิบที่ข้างหูเขา
“ตามนั้นนะคะ...”
บัวยกมือแอบๆทำท่า โอเค เอกภพมองหน้าบัวงงๆ บัวส่งตาหวานขยิบตาให้เขาเก้อๆ ยิ้มแล้วไปเทน้ำเสิร์ฟให้ภัสสรต่อ แต่ตาคอยชม้ายมองดูเอกภพตลอดๆ มะเฟืองมองแอบยิ้มเหยียดๆพูดเบาๆ
“อีโง่...”
มะเฟืองมองบัวสะใจ
ทุกคนทานอาหารเรียบร้อยแล้ว ภัสสรหันไปบอกชม
“ชมไปหยิบกระเป๋าให้ฉันที”
“ได้ค่ะคุณผู้หญิง”
ชมเดินออกไป ภัสสรหันมาบอกงามเนตร
“หนูเนตรเดี๋ยวออกไปพร้อมแม่นะ เดี๋ยวแม่แวะไปส่ง”
งามเนตรยิ้มๆ
“ค่ะ”
เอกภพรีบบอก
“เดี๋ยวผมไปส่งเองครับคุณแม่ ผมอยากไปเห็นที่ทำงานใหม่ของเนตรเขาด้วยครับแล้วอีกอย่างวันนี้ผมไม่รีบด้วยครับ ไปส่งได้สบายมาก”
“คุณไม่เสียเวลาแน่นะคะ”
งามเนตรยิ้มๆ มะเฟืองหมั่นไส้
“ถ้ากลัวเขาจะเสียเวลา ก็หาทางไปเองสิคนอื่นเขาจะได้ไม่เดือดร้อน”
งามเนตรหันมามองมะเฟือง บัวหันมาพูดกับงามเนตร
“คุณภพรีบไปทำงานเถอะค่ะ อย่าไปสนใจเสียงหมาเห่าหมาหอนเลยนะคะ”
มะเฟืองฉุนกึก
“แกว่าใครนังบัว”
ภัสสรปราม
“เอาล่ะๆ พอได้แล้ว บัวไปทำงานไป”
ชมวิ่งเอากระเป๋ามาให้ภัสสร
“ปาเก๋ามาแล้วค่ะ”
ภัสสรสวนทันควัน
“กระเป๋า”
งามเนตรกับเอกภพยิ้มขำๆแม่กับชม
“ไปกันได้แล้วลูกไป”
ภัสสรเดินนำออกไป งามเนตรเดนตามไป บัวรีบเรียกเอกภพ
“คุณภพคะ” บัวส่งสายตาหวานให้ “ขับรถดีๆนะคะคุณภพ...เจอกันค่ะ”
บัวยกมือบ๊ายบายเล็กๆให้ เอกภพยิ้มๆมองงงๆ
“อีบัววันนี้มึงยับเยินแน่” มะเฟืองหมั่นไส้
บัวแต่งตัวสวยเดินเข้ามาในโรงแรม มองหาเอกภพไม่เห็นเลยเดินไปนั่งรอที่ล๊อบบี้ เธอเช็คความสวยของตัวเอง หยิบกระจกออกมาเติมแป้งเติมลิปมองกระจกยิ้มๆ
“วาสนาของอีบัวมาถึงแล้วโว้ย...”
บัวยิ้มดีใจสุดๆ พนักงานเข้ามาถาม
“ขอโทษนะครับ ใช่คุณบัวหรือเปล่าครับ”
“ใช่ค่ะ”
“งั้นรบกวนเชิญที่ห้อง วีไอพี เลยครับ”
บัวตื่นเต้น
“ว้าว...! วีไอพี่ เชียวเหรอเนี่ย...คุณภพน่ารักจังเลยอ่ะ”
“เชิญครับ”
พนักงานเชิญ บัวเดินตามออกไปยิ้มมีความสุข
พนักงานพาบัวเข้ามาในห้อง
“เชิญตามสบายนะครับ อีกสักครู่ท่านก็จะมาถึงแล้วครับ”
บัวยิ้มให้
“ขอบใจจ้ะ”
พนักงานออกไป บัวมองสำรวจห้องแล้วยิ้มฝัน
“คุณภพนี่โรแมนติกกว่าที่คิดไว้แฮะ...อุตส่าห์จองห้องวีไอพี ให้เราซะด้วย...”
บัวยิ้มเดินมาที่หน้ากระจกมองสำรวจตัวเอง
“วันนี้บัวจะถวายให้คุณทั้งตัวเลย”
บัวแอบโพสท่า นั่งรอนอนรอที่เตียงด้วยท่วงท่าเซ็กซี่ เสียงเคาะประตูดังขึ้น บัวดีใจ
“คุณภพมาแล้ว”
บัวรีบวิ่งมาเปิดแล้วเดินยืนหลังให้ บัวตื่นเต้นดีใจ เสียงประตูปิดลง เสี่ยหันมาเห็นบัวก็ตาลุกวาว แต่บัวยังไม่หันหน้ามา เสี่ยกระแอมเบาๆ
“แฮ่มๆๆ”
บัวมีเขินๆหันข้างมานิดๆแต่ไม่เห็นเสี่ย บัวแกล้งเดินอ่อยไปจนเกือบถึงเตียง เสี่ยเดินตามถอดเสื้อนอกออกเหวี่ยงไปมุมห้อง บัวแอบยิ้มแล้วหยุดตรงเตียงพูดเขินๆ
“บัวพร้อมนะคะ”
ทันทีที่เสี่ยได้ยินก็รีบตรงมาที่บัวเอานิ้วไล้ที่หัวไหล่แล้วก้มลงหอมที่บ่าไล่ไปที่ซอกคอ บัวเคลิ้ม เสี่ยพูดข้างหู
“เสี่ยจะทำให้หนูมีความสุขที่สุดเลย”
ทันที่ที่ได้ยินเสียงบัวตกใจหันมองหน้าเป็นผู้ชายแก่ที่ไหนไม่รู้ เธอผงะถอยหนี
“แก...แกเป็นใครอ่ะ...ออกไปนะ”
“แน๊...มีมุขด้วย...แบบนี้เสี่ยชอบ”
เสี่ยจะเข้าหาบัวเอามือดันไว้
“อย่าเข้ามานะ ไปออกไป...ไม่งั้นฉันจะร้องให้คนช่วยจริงๆด้วย”
“ไม่เอาน่า...ขัดขืนนิดๆก็พอไม่ต้องเยอะ...มามะ มาสนุกกันดีกว่า”
เสี่ยพุ่งเข้าหาหมายจะกอด บัวหลบเสี่ยล้มไปที่เตียง บัววิ่งหนีไปที่ประตูเปิดประตูแต่เปิดไม่ได้ เสี่ยลุกขึ้นมา
“ถ้าเสี่ยไม่สั่งให้เปิด ก็ไม่มีทางเปิดได้หรอก...อย่าเสียแรงเลยเก็บแรงไว้ทำอย่างอื่นดีกว่า”
เสี่ยยิ้มหื่นๆเดินเข้ามา บัวผลักวิ่งหลบไปที่มุมห้อง เสี่ยเดินตามไป
“ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยฉันที...ช่วยด้วย”
เสี่ยเข้ามาใกล้ บัวพยายามปัดป้อง เสี่ยจับข้อมือไว้ บัวพยายามดันทุบตีต่างๆนาๆแต่ก็ไม่
เป็นผล
“สู้แบบนี้สิ...ฉันชอบนัก”
เสี่ยตบจนบัวหน้าหันแล้วเหวี่ยงลงเตียง เธอพยายามจะลุก เสี่ยตามมากดมือสองข้างของลงกับที่นอน
“ปล่อยฉัน...ปล่อยฉัน”
บัวทั้งดิ้นทั้งถีบ เสี่ยตบหน้าแล้วจบด้วยการชกท้อง บัวจุกมองหน้าเสี่ยอย่างหวาดกลัว ก่อนจะสลบไป เสื้อบัวถูกเหวี่ยงลงพื้น ตามด้วยเสื้อผ้าเสี่ย...
มะเฟืองเดินเข้ามาที่บริษัทเอกภพพร้อมด้วยถุงขนมที่ซื้อมา มุ่งหน้าเข้าไปที่ห้องของเขาทันทียิ้มแย้มเข้าไปในห้องแต่ต้องหุบยิ้มทันที่ที่เห็นกันตากำลังแกะขนมเค้กชิ้นเล็กใส่จาน กันตาเงยหน้ามอง มะเฟืองทำไม่สนใจปรี่เข้าไปหาเอกภพ
“คุณภพคะ มะเฟืองเอาขนมมาให้ค่ะ”
เอกภพแปลกใจที่มะเฟืองมาที่บริษัท
“ทีแรกมะเฟืองจะเอาให้คุณตั้งแต่ตอนเช้าแล้วล่ะค่ะ พอดีว่าคุณภพออกมาก่อน”
“อ๋อ...ผมไปส่งเนตรน่ะครับ ขอบคุณนะครับ”
กันตาแกล้งยั่วมะเฟือง
“คุณภพน่ารักจังเลยนะคะ ไปส่งภรรยาก่อนมาทำงานด้วย คนอื่นคงจะอิจฉาตาร้อนน่าดู”
มะเฟืองมองหน้ารู้ว่ากันตาว่าแดกดัน พนักงานเดินเข้ามาตามเอกภพ
“ขอโทษนะคะ คุณภพคะเชิญที่ฝ่ายการตลาดสักครู่ค่ะ”
“ได้ครับ” เอกภพหันบอกกันตา “ขอตัวสักครู่นะครับ”
“ตามสบายเลยค่ะ ฉันอยู่รอคุณได้ทั้งวันอยู่แล้ว”
เอกภพออกไป มะเฟืองหันมามองกันตา
“เที่ยวมาแบให้เขาจนถึงที่แบบนี้ถ้าไม่เรียกว่าหน้าด้าน จะเรียกว่าอะไรดีหนา”
กันตายิ้มขำๆ
“อุ๊ย...ทำไมด่าตัวเองอย่างนั้นล่ะคะ”
“ฉันด่าแกนั่นแหละ”
กันตาลุกขึ้นยืนมองจ้องหน้ามะเฟือง
“ฉันมาที่นี่ในฐานะลูกค้าคนสำคัญของบริษัท แต่เธอไม่ใช่ ใครกันแน่ที่ หน้าด้าน มาแบให้เขาจนถึงที่น่ะ”
“นี่แกด่าฉันเหรอ”
“ฉันไม่ได้ด่า ฉันถามเธอต่างหาก อ๋อ...หรือว่าพื้นที่สมองมีน้อยเลยคิดเองไม่ได้”
กันตาทำหน้าเย้ยๆมะเฟืองโกรธ
“ปากดีนักใช่ไหม”
มะเฟืองปรี่เข้าตบแต่กันตาคว้าข้อมือไว้ ชี้หน้ามะเฟือง
“ฉันไม่ใช่พี่สาวเธอ อย่ามาใช้สันดานแบบนี้กับฉัน”
กันตาสะบัดมือออกไปมะเฟืองเซเสียศูนย์ เจ็บใจแอบกดอัดเสียงในมือถือ แล้วเดินเข้ามาพูดกับกันตา
“ฉันอยากให้คุณภพมาได้ยินทุกคำที่แกพูดจังจะได้รู้สักทีว่า...ที่แท้แกมันก็เป็นอีงูพิษดีๆนี่เองต่อหน้าคุณภพทำตัวเป็นคนดีแสนดีที่แท้ก็อยากได้เขาจนตัวสั่น”
กันตายิ้มเยาะๆ
“ฉันว่าคุณภพเขารู้นะว่าฉันอยาก...ได้ และเขาเองก็คงอยาก...ให้ฉันเหมือนกัน และถ้าฉันอยากได้คุณภพขึ้นมาจริงๆใครก็ห้ามฉันไม่ได้ แม้แต่เธอ จำไว้”
มะเฟืองตั้งท่าจะกรี๊ดๆ แต่เอกภพเปิดประตูเข้ามาซะก่อน กันตารีบบอก
“คุณภพคะ ฉันจองร้านอาหารไว้แล้ว ไปทานข้าวกันดีกว่าค่ะ”
“ได้ครับ...”
มะเฟืองอึ้งๆ ไม่อยากให้เอกภพไปกับกันตา
“แล้วขนมมะเฟืองล่ะคะ...”
“เอาไว้ในห้องเนี่ยแหละครับ เดี๋ยวพวกโจ้จะเข้ามาจัดการเองครับ ขอบคุณมากนะมะเฟือง”
กันตาควงเอกภพผ่านหน้ามะเฟืองไปยิ้มเยาะเย้ย มะเฟืองแค้นใจยกมือถือขึ้นมาหยุดการอัดเสียง
งามเนตรนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะ มือถือดังขึ้น เธอมองเห็นเบอร์มะเฟืองแล้วกดรับ
“มีอะไรเหรอมะเฟือง”
“แกอยู่ไหน”
“พี่ก็อยู่ที่บริษัทน่ะสิจ๊ะ”
“ดี...เดี๋ยวฉันจะไปหา”
“มีธุระอะไรสำคัญหรือเปล่าจ๊ะ ถ้าไม่คุยทางโทรศัพท์เลยก็ได้พี่ฟังได้”
“ทำไม...ฉันจะไปหาไม่ได้หรือไง หรือให้ผัวไปได้คนเดียว”
“ไม่ใช่อย่างนั้น” งามเนตรเซ็งๆไม่อยากเถียง “งั้นตามใจแล้วกันจะมาก็มา”
มะเฟืองวางสายหงุดหงิด
น้องเมีย ตอนที่ 18 (ต่อ)
มะเฟืองยื่นโทรศัพท์ให้ งามเนตรมองงงๆ
“อะไรเหรอ”
“ฟังซะจะได้หูตาสว่างสักที”
มะเฟืองกดเพลย์ เสียงคลิปที่อัดไว้ให้เนตรฟัง
“ต่อหน้าคุณภพทำตัวเป็นคนดีแสนดีที่แท้ก็อยากได้เขาจนตัวสั่น”
“ฉันว่าคุณภพเขารู้นะว่าฉันอยาก...ได้ และเขาเองก็คงอยาก...ให้ฉันเหมือนกัน และถ้าฉันอยากได้คุณภพขึ้นมาจริงๆใครก็ห้ามฉันไม่ได้ แม้แต่เธอ จำไว้”
มะเฟืองกดหยุดมองหน้าพี่สาว งามเนตรนิ่งๆถามมะเฟือง
“เรื่องที่จะคุยกับพี่มีแค่นี้ใช่ไหม”
มะเฟืองแปลกใจ
“นี่แกไม่ได้ยินที่มันพูดเหรอ หูหนวกหรือไงกัน มันพูดชัดออกขนาดนี้ไม่คิดจะทำอะไรสักอย่างหรือไง หรือจะรอให้มันแย่งคุณภพไปก่อน ซื่อบื้อจริงๆเลย”
“พอเถ่อะมะเฟือง หยุดยุ่งวุ่นวายเรื่องคุณภพสักที เธอไม่มีสิทธิ์มาเจ้ากี้เจ้าการอะไรทั้งนั้น พี่รู้ว่าเธอชอบคุณภพ แต่เขาเป็นสามีของพี่”
มะเฟืองอึ้งมึนงง
“เป็นสามีแล้วไง...คนมันจะรักกัน ชอบกันใครมันจะมาห้ามได้ ฉันจะแย่งคุณภพมาจากพี่ให้ได้คอยดูสิ”
งามเนตรไม่คิดว่าน้องสาวจะพูดแบบนี้
“มะเฟือง”
“ฉันจะกันทุกคนที่มายุ่งกับคุณภพ และพี่จะต้องเสียใจ ที่เห็นน้องเมียอย่างฉันทำหน้าที่เมียแทนพี่”
งามเนตรอึ้งตกใจที่น้องสาวพูดออกมา แต่ทำทีข่มความรู้สึกให้นิ่งไว้
“คุณภพไม่มีทางคิดกับเธอแบบนั้นหรอก อย่าพยายามเลย”
มะเฟืองยิ้มเยาะๆ
“ดูมั่นใจเหลือเกินนะ...” มะเฟืองหัวเราะขำๆ “ของบางอย่างยิ่งห้ามมันก็เหมือนยิ่งยุ และฉันก็เป็นคนประเภทนั้นซะด้วยสิ”
มะเฟืองหัวเราะขำๆออกไป งามเนตรมองตามถอนใจด้วยความหดหู่
เอกภพนั่งอยู่กับกันตาที่ร้านกาแฟในห้างสรรพสินค้า ระหว่างที่เขาดื่มกาแฟ กันตาแอบมองแล้วบอก
“ฉันขอโทษนะคะที่ลากคุณมาข้างนอกแบบนี้”
“ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ ดีซะอีกไม่งั้นผมอึดอัดตายเลย”
กันตายิ้มๆ
“คุณรู้ใช่ไหมคะว่าทำไมฉันถึงดึงคุณออกมา”
“ก็พอจะเดาออกอยู่บ้าง”
กันตาแกล้งทำเป็นโล่งใจ
“เฮ้อ...ค่อยยังชั่ว ถ้าคุณไม่ออกมากับฉัน ฉันคงหน้าแตกยับเลยแน่ๆ”
เอกภพยิ้มๆ กันตามองเข้าแล้วยิ้มเขินๆ ขณะเดียวกันนั้น โทรศัพท์เอกภพดังขึ้น เขารับสาย
“เนตรเองค่ะ”
“มีอะไรเหรอเนตร”
งามเนตรคิดๆก่อนที่จะถาม
“เอ่อ...คุณทำงานอยู่เหรอคะ เนตรโทรมากวนหรือเปล่า”
“ไม่กวนหรอก ตอนนี้ผมอยู่ข้างนอกน่ะ”
อยู่ข้างนอก...อยู่กับใครเหรอคะ”
“ผมออกมาทานกาแฟกับกันตาน่ะครับ คุณมีอะไรหรือเปล่าเนตร”
งามเนตรอึ้งไป เอกภพเห็นเงียบไปก็ถาม
“เนตร...เนตร...คุณได้ยินผมไหม”
งามเนตรรู้สึกตัวรีบปรับอารมณ์
“เอ่อ...ค่ะ ได้ยินค่ะ”
“มีอะไรเหรอครับ”
“คือ...เย็นนี้คุณมารับเนตรหน่อยได้ไหมคะ”
“ได้สิครับ คุณเลิกงานแล้วรอผมนะครับเดี๋ยวผมไปรับ”
“ค่ะ...เนตรจะรอนะคะ”
งามเนตรวางสายไปอย่างใจกังวล เอกภพวางสายไปกันตายิ้มให้ก่อนถาม
“คุณเนตรเหรอคะ”
“ครับ...เนตรโทรมาให้ไปรับตอนเย็นน่ะครับ”
กันตายิ้มๆ แล้วนิ่งคิดอะไรบางอย่าง
“เดี๋ยวเรากลับกันเลยดีกว่าค่ะ เผื่อรถติดเดี๋ยวคุณไปรับคุณเนตรช้า”
“ก็ได้ครับ”
เอกภพเรียกบริการมาเก็บเงิน
เอกภพกับกันตาเดินออกจากร้าน ระหว่างนั้นกันตาแกล้งเซหน้ามืด เขารีบพยุงเธอไว้
“คุณกันตาเป็นอะไรไปครับ”
“อยู่ๆก็เวียนหัวขึ้นมาน่ะค่ะ เหมือนหน้ามืด”
“ไหวไหมครับ”
กันตาทำเหนื่อยไม่มีแรงตอบ
“คุณขับรถไม่ไหวแน่เลย งั้นเดี๋ยวผมขับไปส่งคุณที่บ้านดีกว่าครับ”
“แต่ว่า...คุณเนตร”
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมไปส่งคุณก่อนแล้วค่อยไปรับเนตรก็ได้ครับ ค่อยๆเดินนะครับ”
เอกภพพยุงกันตาเดินออกไป กันตาแอบยิ้มๆ
เมื่อมาถึงบ้านกันตา เอกภพประคองกันตาลงนั่งที่โซฟา
“นั่งพักตรงนี้ก่อนแล้วกันนะครับ”
“ขอบคุณนะคะที่อุตส่าห์มาส่ง ฉันนี่แย่จัง ต้องรบกวนคุณภพอยู่เรื่อยเลย”
“ไม่ได้รบกวนหรอกครับ ตอนนี้คุณดีขึ้นไหม หายหน้ามืดหรือยังครับ”
“ก็ยังปวดหัวนิดๆน่ะค่ะ เออ...เห็นคุณบอกว่าจะไปรับคุณเนตรไม่ใช่เหรอคะ ไปเถอะค่ะเดี๋ยวคุณเนตรจะรอ”
เอกภพมองเธอที่ยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ เขามองดูนาฬิกาที่ข้อมือแล้วบอก
“เออ...ผมว่าคุณทานยาแก้ปวดหัวสักหน่อยจะดีกว่านะครับ เดี๋ยวผมหยิบให้นะครับ”
เอกภพเดินไปที่ตู้ยาและรินน้ำใส่แก้ว หญิงสาวมองดูชายหนุ่มช่างเป็นผู้ชายที่ดูอบอุ่นเหลือเกิน ครู่หนึ่งเขาเอายากับน้ำมาให้
“ทานยาก่อนนะครับ คุณจะได้นอนพักไปด้วย”
กันตารับยากับแก้วน้ำมา
“ขอบคุณค่ะ”
กันตาจำใจต้องกินยา เพราะเอกภพนั่งจ้องเหมือนป้อนยาให้เด็กน้อย เอกภพยิ้มขำๆเพราะเห็นท่าทางของเธอดูไม่ค่อยอยากกินยา
“คุณกันตาเหมือนเด็กเลยนะครับ”
กันตาแปลกใจ
“เหมือนยังไงคะ”
“ก็ดูท่าทางไม่ชอบทานยาเอาซะเลย”
กันตายิ้มเขินๆเก้อๆเพราะรู้ดีว่าไม่ได้เป็นอะไรแต่ดันต้องกินยา
“ถ้าคุณยังมึนๆหัวอยู่ก็ลองพักสายตาสักพักนะครับ เดี๋ยวพอยาออกฤทธิ์ก็คงดีขึ้นเอง หรือจะหลับไปเลยก็ได้นะครับ”
“คุณภพจะกลับเลยก็ได้นะคะ ฉันอยู่ได้สบายมาก”
“ไม่ต้องห่วงผมหรอกครับ พักผ่อนเถอะ”
เอกภพลุกไปหยิบหมอนมาจัดที่ทางให้นอน กันตานอนพิงหมอนยิ้มๆให้เขา เอกภพยกแก้วน้ำดื่มไปเก็บ กันตามองตามมีความสุขที่ได้อยู่กับเขาแล้วก็หลับไป
งามเนตรนั่งรอเอกภพอยู่ที่ทำงาน จนพนักงานเดินกลับไปเกือบหมด เธอนั่งเหม่อคิดถึงเรื่องที่มะเฟืองเอาโทรศัพท์อัดเสียงกันตามาเปิดให้ฟัง
“ฉันว่าคุณภพเขารู้นะว่าฉันอยาก...ได้ และเขาเองก็คงอยาก...ให้ฉันเหมือนกัน และถ้าฉันอยากได้คุณภพขึ้นมาจริงๆใครก็ห้ามฉันไม่ได้ แม้แต่เธอ จำไว้”
มะเฟืองกดหยุด มองหน้าพี่สาว งามเนตรนิ่งๆถามมะเฟือง
“เรื่องที่จะคุยกับพี่มีแค่นี้ใช่ไหม”
มะเฟืองแปลกใจ
“นี่แกไม่ได้ยินที่มันพูดเหรอ หูหนวกหรือไงกัน”
มันพูดชัดออกขนาดนี้ไม่คิดจะทำอะไรสักอย่างหรือไง หรือจะรอให้มันแย่งคุณภพไปก่อน ซื่อบื้อจริงๆเลย”
งามเนตรถอนหายใจเศร้าๆ มองดูไม่มีใครแล้ว เธอมองนาฬิกาข้อมือตัดสินใจเดินออกไป รถเอกภพมาอีกด้านหนึ่งเข้ามาจอดที่หน้าออฟฟิศ เขาลงไปดูที่หน้าตึกเห็นไม่มีใครก็ยืนรออยู่สักพัก ก่อนหยิบมือถือขึ้นมาโทรหางามเนตรแต่แบตหมด
“เอ้า...แบตหมดอีก...”
เอกภพมองหาไม่มีใครตัดสินใจยืนรอต่อที่ข้างรถ
บัวออกมาจากโรงแรมในสภาพที่โดนรุมโทรมหน้ามีรอยโดนตบที่แก้มปากแตก เสื้อผ้ายับเยิน บัวหน้ามืดหมดสติเป็นลมพับอยู่ที่ฟุตบาท นำโชคขับรถมาพอดี มองเห็นคนล้มฟุบอยู่ก็จอดรถแล้ววิ่งเข้าไปดู ก่อนจะเข้าไปช่วยเห็นว่าเป็นบัวก็ตกใจ
“คนที่บ้านมะเฟืองนี่หน่า...เธอ...เธอ...”
นำโชคเขย่าให้บัวรู้สึกตัว แต่เธอนิ่งไปไม่หืออือ เขารีบอุ้มเธอเข้าไปในรถแล้วขับออกไป
บัวนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล เธอฟื้นขึ้นมามองดูรอบๆอย่างหวาดกลัวร้องไห้หวาดผวากับสิ่งที่เจอมา
“ฮือๆๆๆ”
บัวมองด้วยความหวาดกลัว นำโชคเข้ามาดู บัวเห็นนำโชคก็หลับตาปี๋ร้องไห้โวยวายลั่น
“อย่าเข้ามาฉันกลัวแล้ว...ปล่อยฉัน”
“ใจเย็นๆนะ ไม่ต้องกลัว ที่นี่โรงพยาบาลไง”
บัวมองรอบๆแต่ก็ยังร้องไห้สะอื้นอยู่ พยาบาลกับหมอเดินเข้ามา นำโชครีบเข้าไปหา
“หมอครับเขาเป็นอะไรมากไหมครับ”
พยาบาลเอายามาฉีดให้กับบัว หมออธิบาย
“จากที่ตรวจร่างกายมาหมอว่าคนเจ็บคงจะโดนข่มขืนมาอย่างทารุณ เลยทำให้มีอาการหวาดผวา นี่หมอให้ยานอนหลับเพื่อให้คนเจ็บพักผ่อนสักพัก เผื่อจะคลายอาการหวาดผวาลงได้บ้าง”
“แล้วมีอาการอื่นๆอีกไม๊ครับ”
“ก็มีแผลฟกช้ำเล็กๆน้อย ตามตัว ว่าแต่คุณจะแจ้งความไว้ไหม”
นำโชคคิดๆ
“เอ่อ...เดี๋ยวผมขอคุยกับเพื่อนเขาก่อนนะครับ”
“เดี๋ยวหมอขอตัวตรวจคนไข้ก่อนะ”
“ครับ...ขอบคุณครับ”
นำโชคไหว้หมอ มองดูหมอเข้าไปตรวจอาการของบัวอย่างสงสาร
มะเฟืองมาหาฉลามที่ห้องพัก เธอนั่งนับเงินอยู่หน้าตาจริงจัง ฉลามเข้ามาคลอเคลีย
“ไม่ต้องนับหรอก ฉันไม่โกงหรอกน่า”
มะเฟืองมองฉลาม
“ฉันไม่เชื่อ”
มะเฟืองหันไปนับต่ออีก ฉลามส่งโทรศัพท์ให้ดู มะะเฟืองมองงงๆ
“จะให้โทรศัพท์หรือไง”
ฉลามหน้าหื่นๆ
“ให้ดู...ของดีในคลิป”
“ของดีอะไรของแกวะ”
“เอาน่าดูก่อน เผื่อจะให้คะแนนฉันเพิ่ม”
มะเฟืองรับโทรัพท์มากดเพลย์ดู เห็นเป็นคลิปแอบถ่ายบัวตอนโดนรุมโทรมที่โรงแรม บัวโดนเสี่ยข่มขืนเสร็จแล้วเสี่ยเดินออกไป กลุ่มฉลามใส่ไอ้โม่งเข้ามาในห้อง บัวมองเห็นกลุ่มผู้ชายเข้ามา เธอมีแต่ผ้า
ห่มคลุมร่างกระเถิบตัวหนี ฉลามสั่งลูกน้องจับตัวบัวไว้ ลูกน้องจับแขนบัวไว้อีกคนก็ถ่ายภาพไป ฉลามจับหน้า บัวขัดขืน ฉลามลงมือข่มขืน บัวร้องกรี๊ด...มะเฟืองอึ้งกับภาพคลิปที่เห็นหันมาด่าฉลาม
“นี่แกจัดการมันด้วยเหรอ”
“อือหืม”
“ไอ้บ้าเอ๋ย ป่านนี้มันไม่ตายไปแล้วเหรอ”
“ยังหรอกน่า ก็น้องมะเฟืองบอกไม่ชอบขี้หน้ามันไม่ใช่เหรอ พี่เลยจัดหนักให้เลย จะบอกว่าที่พี่เสียสละไปข่มขืนมันน่ะก็เพราะต้องการคลิปฉาวของมันมาให้น้องมะเฟืองนั่นแหละ”
มะเฟืองคิดๆ
“อย่างน้อยมันก็ทำให้นังคนนั้นมันอยู่ในกำมือมะเฟืองได้นะ จ๊ะ”
มะเฟืองยิ้มๆสะใจ จัดการดึงซิมโทรศัพท์ของฉลามมาใส่กระเป๋าตัวเอง”
“เสร็จกูแน่อีบัว”
มือถือมะเฟืองดัง เธอกดรับสาย...วิภาโทรมาจากตู้สาธารณะ
“มะเฟือง ได้เงินหรือยังวะ”
“อ่ะได้แล้ว เดี๋ยวจะส่งให้เดี๋ยวนี้แหละ”
“เร็วๆนะ ฉันจะไปรอกดตังค์ที่หน้าตู้เอทีเอ็ม ต้องส่งเลยนะ”
“เออๆๆ รู้แล้วน่าแม่ ย้ำอยู่นั่นล่ะ”
มะเฟืองวางสายไป หงุดหงิดจะเดินออกไปเสียงโทรศัพท์ดังอีกเธอชักรำคาญ
“ฉันบอกว่ากำลังไปรอเดี๋ยวไม่ได้หรือไงแม่”
นำโชคโทรมาจากโรงพยาบาล
“มะเฟือง ฉันนำโชคเองนะ”
มะเฟืองอารมณ์เสียวีนใส่
“โทรมาทำไม”
“คือ...ตอนนี้ฉันพาบัวคนทีบ้านเธอมาส่งโรงพยาบาล”
มะเฟืองตกใจ
“โรงพยาบาล”
“หมอบอกว่าเขาโดนข่มขืนมาจะให้แจ้งตำรวจ เธอจะให้ฉันแจ้งเลยไหม”
มะเฟืองตกใจ
“ไม่ได้นะแจ้งตำรวจไม่ได้นะ แกอยู่ที่นั่น อยู่เฉยๆเลยนะ ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เดี๋ยวฉันไปจัดการเอง เข้าใจไหม”
“จ้ะๆ”
มะเฟืองวางสายไปหงุดหงิดหนักเข้าไปอีก
เอกภพกลับเข้าบ้านมามองหางามเนตร เห็นนั่งอยู่ที่ห้องรับแขก เขาเดินเข้าไปหา
“เนตรผมขอโทษนะครับที่ไปรับคุณช้าไปหน่อย”
งามเนตรไม่อยากพูดทำท่าจะลุกเดินไป
“เดี๋ยวสิครับ แต่ผมก็ไปหาคุณที่บริษัทนะครับไปรอตั้ง”
งามเนตรนิ่งไม่ตอบ
“ผมรู้ว่าคุณโกรธ แต่มันมีเหตุสุดวิสัยน่ะครับ คือ พอดีกันตาไม่สบายผมก็เลยต้องพาคุณกันตาไปส่งที่บ้านก่อน แล้วรถมันก็ติดมาก ผมเลยไปช้า”
งามเนตรฟังเฉยๆ เอกภพเข้าไปอ้อน
“ผมขอโทษนะ...นะ”
งามเนตรเสียใจ
“ไม่เป็นไรค่ะ”
เอกภพกอด งามเนตรคิดๆเสียใจ
กันตาลืมตาตื่นขึ้นมามองเห็นว่าตัวเองมีผ้าห่มคลุมอยู่คงเป็นเอกภพที่ห่มให้ เธอเดินหาเขาแต่ไม่อยู่แล้ว กันตามองมาที่โต๊ะอาหารเห็น ถาดอาหารวางไว้ก็แปลกใจเดินไปเปิดดูเห็นข้าวต้มหมูยังร้อนๆ และมีน้ำส้มคั้น 1 แก้ว วางข้างๆกัน เธอเหลือบเห็นกระดาษโน้ตเขียนแปะไว้ที่โต๊ะจึงดึงมาอ่าน
“ผมกลับก่อนนะครับ เห็นคุณหลับอยู่เลยไม่อยากปลุก! ถ้ายังรู้สึกเวียนๆหัวอยู่ ลองดื่มน้ำส้มคั้นดูนะครับ วิตามินซีจะช่วยทำให้คุณสดชื่น และถ้าหิวก็ทานข้าวต้มหมูนะครับ จะได้มีแรงอย่าปล่อยให้ท้องว่างนะครับมันไม่ดีต่อสุขภาพ Take care นะครับ !”
กันตานั่งมองกระดาษโน้ตตื้นตันใจในความห่วงใยที่เขามีให้
“นี่ฉันหลงรักคุณเข้าแล้วจริงๆสินะ”
กันตายิ้มมีความสุข แววตามีความหวัง
มะเฟืองเข้าห้องไปเห็นบัวนอนซมอยู่ที่เตียงดูเยินๆ มะเฟืองมองสะใจ
“น่าสมเพช”
มะเฟืองยืนมอง บัวลืมตามามองหน้ามะเฟืองงงๆ
“ไงได้ข่าวว่าโดนรุมโทรมมาจนยับเลยนี่ ไม่น่ารอดมาได้เลยนะแกเนี่ย น่าจะตายๆไปซะ”
บัวมองแค้นๆที่มะเฟืองตอกย้ำ
“แกมานี่ทำไม”
“เอ้า...ก็มาดูน้ำหน้าแกน่ะสิ อยู่ดีๆไม่ว่าดีออกมาให้เขาข่มขืนเอาซะอย่างงั้น ได้ข่าวว่ามาเป็นโขลงเลยไม่ใช่เหรอ” มะเฟืองยื่นหน้ากวนตีนถาม “มันคันมากใช่ไหม”
บัวสงสัย
“แก...แกรู้ได้ยังไง”
มะเฟืองแอบขำ
“เรื่องเน่าๆแบบนี้กลิ่นมันไปเร็ว”
บัวฟังเครียดๆ
“ไม่ใช่แค่กลิ่นสิ ภาพกับเสียงมันก็ไปเร็วเหมือนกัน”
บัวคิดตาม
“แกหมายถึงอะไร...”
มะเฟืองยิ้มเย้ยๆ
“อยากรู้เหรอ...ให้ดูก็ได้”
มะเฟืองเอาภาพในมือถือให้ดู บัวเห็นตัวเองกำลังถูกรุมข่มขืนก็ช็อคนิ่งไป มะเฟืองหยุดภาพไว้แค่นั้น บัวหันมองหน้าเครียดแค้น
“มันเป็นฝีมือแกใช่ไหม แกหลอกฉันออกไปให้ไอ้พวกนั้นใช่ไหม อีมะเฟือง”
“ใช่...ทั้งหมดมันเป็นแผนของฉันเอง อยากมาแส่เรื่องของฉันก็ต้องโดนแบบนี้แหละ”
มะเฟืองหัวเราะเยาะ บัวปรี๊ดโกรธจัด เอาหมอนเอาผ้าห่มที่อยู่บนเตียงขว้างใส่
“อีคนเลว...ออกไป...ออกไป”
เสียงบัวดังลั่น นำโชครีบวิ่งเข้ามาในห้อง เห็นห้องรกไปหมดนำโชคเข้าไปจับตัวบัวที่กำลังจะดึงสายน้ำเกลือออกไว้
“บัวอย่า...”
นำโชครั้งไว้ มะเฟืองจ้องหน้าบัว
“ถ้าแกยังไม่หยุดวุ่นวายกับฉันหรือคุณเภพอีกคราวนี้ คุณภพจะได้เห็นความโสโครกของแกจากไอ้คลิปนั่นแน่”
มะเฟืองเดินออกไปบัวแค้นใจเจ็บใจที่หลงกลมะเฟือง
“อีมะเฟือง ถ้าชาตินี้กูยังไม่ตายกูจะเอาคืนมึงแน่”
บัวแค้นสุดๆ
ภัสสรเดินมาเห็นชมกำลังนั่งดูทีวีอยู่ก็ถามขึ้น
“ชมบัวมันไปไหนน่ะ ฉันยังไม่เห็นเลย”
“มันขอออกไปข้างนอกตั้งแต่ยังไม่เที่ยงเลยค่ะคุณผู้หญิง ป่านนี้ยังไม่กลับเลย มือถือก็ไม่มีไม่รู้ว่าไปไหนอีกต่างหาก”
“แล้วเขาไม่ได้บอกหรอกเหรอ”
“เปล่าค่ะ”
“อะไรกัน อยู่บ้านเดียวกันทำไมไม่ถามไถ่กันบ้างล่ะชม เพื่อเกิดอะไรขึ้นใครจะรู้ล่ะเนี่ย”
ภัสสรเป็นห่วงชมก็เป็นห่วงเหมือนกัน มะเฟืองกลับเข้าบ้านมามีบัวตามหลังมา ภัสสรและชมเห็นบัวโทรมๆก็ตกใจ
“นังบัวนี่เอ็งไปฟัดกับใครที่ไหนมาทำไมมาสภาพนี้วะ”
บัวก้มหน้างุดๆหลบไม่ให้ภัสสรเห็นรอยช้ำที่หน้า
“นั่นสิ แล้วนี่ไปไงทำไมกลับมาพร้อมกับมะเฟืองได้ล่ะ”
“พอดีฉันเห็นมันยืนอยู่หน้าปากซอยก็เลยชวนขึ้นรถมาด้วย” มะเฟืองตอบ
ชมวิ่งเข้ามาดูบัวใกล้ๆ
“นี่เอ็งไปโดนอะไรมาวะ ดูสภาพเหมือนโดนรุมโทรมมาเลยเนี่ย”
บัวตกใจที่ชมพูดถูก แต่รีบกลบเกลื่อน
“เอ่อ...ฉันไม่สบายน่ะน้า”
“งั้นก็คงออกไปฉีดยามาล่ะสินะ ท่าจะหลายเข็ม ยังไงก็พักบ้างนะอย่าหักโหม”
พูดเสร็จมะเฟืองก็เดินเชิดออกไป บัวมองแค้นใจเป็นที่สุด
โปรดติดตาม "น้องเมีย" ตอนที่ 19 พรุ่งนี้ 9.00 น.