มนต์รักตลาดสด ตอนที่ 27
ค่ำนั้น ดวงกลับมาที่ห้อง พบต่างหูวางอยู่บนโต๊ะ เขาสงสัย หยิบข้างที่เขาเอามาจากหนูดีออกจากกระเป๋า หยิบมันมาคู่กัน ถอนหายใจ...
สายมุกอารมณ์ไม่ดีนักค้นหาของในลิ้นชัก แล้วก็พบรูปที่เธอถ่ายคู่กับหนูดี แล้วก็เกิดหมั่นไส้ขึ้นมา
“ไม่ต้องยิ้มเลยนะ ใครก็รู้ว่าฉันสวยกว่าตั้งเยอะ ชิ”
สายมุกคว่ำรูป ไม่สบอารมณ์
สายวันใหม่...ดวงกำลังดูแลต้นไม้ใบหญ้าอยู่ที่สนามหน้าบ้าน สายมุกเดินออกมา งอน ทำไมสนใจ เดินไปที่รถ พะวงเดินมาทักทายตามประสา ดวงแอบเหลือบมอง
“คุณมุกจะไปไหนแต่เช้าคะนั่น”
“ไปตลาด จะซื้อของมาทำกับข้าว...กินเอง”
สายมุกแอบๆเน้นเสียงให้ดวงได้ยิน
“ถ้าคุณมุกทำ ก็ต้องกินเองอยู่แล้วค่ะ”
“อะไรพะวง ว่ามุกทำไม่อร่อยเหรอ”
“เปล่าค่ะ เปล่า...แหม ดูอารมณ์ไม่ดีแต่เช้าเชียวนะคะ”
“ใครว่าอารมณ์ไม่ดี อารมณ์ดีจะตาย อารมณ์ดีมากเลยเนี่ย”
สายมุกฮัมเพลงประกอบ พะวงมองๆ
“ค่ะ อารมณ์ดีก็อารมณ์ดี แล้วนี่ทำไมไม่ให้เด็กมันไปซื้อของให้ละคะ ทำไมต้องไปเองด้วย”
“เบื่อหน้าคน ไม่อยากอยู่บ้าน”
“อ้าว...แล้วก็บอกอารมณ์ดี”
“เอ๊ะ จะมาจับผิดมุกทำไมเนี่ย”
“ค่ะๆ คุณมุกไปเถอะค่ะ”
“มุกจะไปคนเดียว...ไม่ต้องให้ใครติดรถไปด้วยทั้งนั้นนะ ถ้าใครอยากไป ก็ให้เดินไปเอง”
พะวงงงๆ
“ยังไม่ได้พูดอะไรเลยค่ะ”
“นั่นแหละ บอกไว้”
สายมุกขึ้นรถทำเชิดไม่หันไปมองดวง ดวงแอบมองไม่ได้แสดงทีท่าใดๆ สายมุกขับรถออกไป พะวงหันมองดวง
“แล้วนี่ไม่ไปทำงานที่ตลาดรึไง”
“กำลังจะไปครับ”
พะวงพยักหน้ารับทราบ ดวงจัดแจงเก็บอุปกรณ์ทำสวนเรียบร้อย เตรียมออกไป
สายมุกขับรถมา รถมีอาการแปลกๆ หญิงสาวจอดเข้าข้างทาง
“อย่าบอกนะ...ว่า...”
สายมุกรีบลงจากรถมาดูที่ล้อรถ เห็นยางแบนแต๊ดแต๋
“เออ ให้มันได้แบบนี้สิ ทำไมซวยอย่างงี้เนี่ย”
หญิงสาวหยิบมือถือจะโทรตามช่าง แบตมือถือก็มาหมดซะงั้น
“อ้าวเฮ้ย...ทีตอนแชทละไม่หมด มาหมดตอนเดือดร้อนงี้”
สายมุกมองใครแถวนั้นก็ไม่มีเลย เธอเลยเปิดกระโปรงหลัง พยายามเอายางอะไหล่ออกมาอย่างทุลักทุเล ดวงก็เดินมาถึงตรงนั้นพอดี ชายหนุ่มเข้าไปถามอย่างเป็นห่วง
“รถเสียเหรอครับ”
สายมุกประชดประชัน
“ไม่เสียหรอก ขับฉิวเลย นี่จอดมาถอดยางเล่นอยู่”
“ยางรั่วเหรอครับ”
สายมุกประชดอีก
“ไม่ได้รั่ว แค่กลัวยางอะไหล่น้อยใจ เลยเอามาเปลี่ยนเล่นๆไปงั้น”
ดวงถอนใจ
“ตกลงว่าเราจะไม่คุยกันดีๆใช่มั้ยครับ”
สายมุกหน้าตากวนๆ
“ฉันคุยไม่ดียังไง ฉันพูดคำหยาบเหรอ ก็เปล่านี่”
“คุณประชดผมตลอดเวลา”
“ไม่ได้ประชด ประชดตรงไหน”
“โอเค ไม่ได้ประชด...แปลว่ารถคุณสบายดีนะ ผมไปล่ะ”
สายมุกรีบคว้าแขนดวงไว้
“เฮ้ย...จะไปจริงๆเหรอ ฉันเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวนะ”
ดวงมองหน้า
“นึกว่าจะเก่ง”
สายมุกมองดวงอ้อนวอน หมดฟอร์ม
แหวววิ่งหน้าตาตื่น ดีใจมาก มาหาซันที่แผงไข่
“แก แก แก”
“อะไร ทำไมต้องโวยวายขนาดนี้ด้วย”
“แก...ฉันโทรไปที่เบอร์ผู้จัดการดาราคนนั้นแล้วล่ะ”
ซันเบื่อที่เป็นเรื่องนี้
“แล้วเขาว่าไง”
“เขาจะชวนฉันไปเทสหน้าก้อง แก...ฉันจะได้เป็นดาราแล้ว”
“ทำเป็นดีใจไป เขาไม่รับเลือกแล้วจะจ๋อย”
“ความหวังน่ะ รู้จักมั้ย...ไม่รู้ล่ะ ยังไงแกก็ต้องไปเป็นเพื่อนฉัน ไปเทศหน้ากล้องวันนี้”
ซันถอนหายใจท้อๆกับพฤติกรรมของแหววที่ทำให้เขาลำบากใจ
ดวงเปลี่ยนยางให้สายมุกพร้อมกับสอนไปด้วย สายมุกไม่ค่อยสนใจนัก
“ก่อนอื่นๆ คุณเอาแม่แรงใส่ไปตรงนี้ แล้วก็หมุนแบบนี้ ไหนลองทำซิ”
“โอ๊ย ทำไมฉันต้องทำด้วยล่ะ คุณก็ทำไปสิ”
“แล้วถ้าเผื่อวันหลังคุณไปรถเสียคนเดียว แล้วไม่มีผมจะทำยังไง”
“ก็โทรเรียกช่าง”
“แล้ววันนี้คุณโทรได้มั้ยล่ะ”
สายมุกไม่เต็มใจนัก แต่ก็มาหมุนแม่แรงตามที่ดวงสั่ง
“มันหมุนยากนะเนี่ย แรงฉันก็มีแค่นี้เนี่ย”
ดวงเอามือตนไปจับช่วยสายมุกหมุน
“ออกแรงหน่อยสิ คุณไม่เต็มใจทำเลย”
สายมุกแอบอมยิ้มที่เขาจับมือเธอ แต่ดวงไม่ได้คิดอะไร
“ผมทำอะไรตลกรึไง”
สายมุกอมยิ้ม
“เปล่า”
“ทีนี้ พอแม่แรงมันยกรถขึ้นแล้วเนี่ย คุณก็เอาประแจนี่มาถอดน็อตที่อยู่ตามล้อ แบบนี้”
ดวงทำตัวอย่างวิธีใช้ประแจให้สายมุก
“อ่ะคุณลองทำบ้าง”
สายมุกลองทำ ไม่มีแรงพอจะหมุนได้
“มันแข็งขนาดนี้ แรงฉันคนเดียวจะไปหมุนไหวได้ยังไง”
“ไม่ไหว คุณก็ใช้เท้าเลย ทิ้งน้ำหนักลงไปเลย”
สายมุกยืนเอาเท้าเหยียบประแจ แต่แล้วก็เซล้ม ดวงเข้ามาประคอง ทั้งคู่มองตากันซึ้งในภวังค์ แต่แล้วดวงก็ได้สติปล่อยสายมุก ต่างคนต่างเขิน
“เห็นมะ ของแบบนี้ทำคนเดียวได้ที่ไหน”
ดวงหาเครื่องมืออย่างอื่นหยิบมาถอดล้อให้เสร็จ แก้เขิน
ซันแต่งตัวหล่อจะออกไปกับแหววที่แต่งตัวเตรียมเทสหน้ากล้อง อาซ้งมายืนประจำที่แผงไข่แทน
“นี่จะไปไหนกันละเนี่ย”
แหววยิ้มกว้าง
“ไปเป็นดาราจ้ะ”
อาซ้งขำๆ
“แหมๆ ขอให้จริงเถ๊อะ ชีวิตนี้ฉันจะได้ไปคุยได้ว่ารู้จักดาราซักคน”
ซันถอนใจ
“อย่าไปฟังไอ้แหววมันมากพ่อ มันเพ้อ”
แหววค้อน
“แกนี่ ดับฝันจริงๆ”
“โทษทีนะพ่อต้องให้พ่อมาเฝ้าร้านน่ะ ไม่เป็นไรหรอกเนอะ ทำงานซะบ้างเราน่ะ”
“เออ ฉันจะทำงานทดแทนบุญคุณแกเอง ไม่ต้องห่วงหรอก”
ซันยิ้ม
“ดีมาก ไปนะพ่อนะ”
“ไปนะจ้ะลุง อวยพรให้หนูทีสิ”
อาซ้งอวยพร
“ไม่เด่นไม่ดังจะไม่หันหลังกลับไป”
แหววยกมือพนมท่วมหัว
“สาธุ”
ซันมองหน้าแหวว
“นี่แกถือว่าเป็นคำอวยพรด้วยเหรอน่ะ”
“อย่ามายุ่งน่า”
ซันกับแหววพากันเดินออกไป อาซ้งเฝ้าแผงไข่อยู่ถนอมเดินเข้ามาอีกทาง
“ซื้อไข่หน่อยจ้ะ”
“เอาขนาดไหนดี มีให้เลือกหลายราคานะ”
“ฉันกินคนเดียวน่ะ เลือกให้ทีเถอะพ่อ”
อาซ้งหยิบไข่ให้
“ได้ ๆ เอาขนาดนี้ก็แล้วกันนะ กำลังพอดี”
ถนอมรับมา
“ขอบใจจ้ะ”
“นี่เป็นใครมาจากไหนเนี่ย ไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อน”
“พอดีแวะมาทำธุระแถวนี้น่ะ”
“คงไม่ได้มา...ตามหาของใช่มั้ย”
อาซ้งนึกถึงกระเป๋าสตางค์ที่ดวงฝากไว้บอกมีคนทำตก และนึกถึงรูปด้านในที่เป็นรูปดวงตอนเด็กๆ ถนอมชะงัก
“ของ”
“ไม่ได้มาหาก็ไม่เป็นไร ฉันก็ไม่ได้อยากให้เรื่องอะไรมันใหญ่โตเหมือนกัน”
ถนอมไม่ค่อยเข้าใจที่ซ้งพูดเท่าไหร่นัก
ดวงเปลี่ยนยางให้สายมุกจนเสร็จ
“จำได้มั่งมั้ยเนี่ยที่สอนไปน่ะ”
สายมุกส่ายหน้า
“ไม่ได้”
“ก็ไม่ตั้งใจฟัง แล้วนี่เวลาไปยางแตกคนเดียวขึ้นมาอีกจะทำยังไง”
“ก็คุณไง”
“ผมไม่ได้อยู่กับคุณตลอดเวลาหรอกนะ”
“จะไปอยู่กับหนูดีใช่มั้ยล่ะ”
ดวงมองสายมุกไม่เถียงอะไร
“ทำไมไม่แก้ตัวล่ะ พูดอะไรซักอย่างสิ”
“ไม่จำเป็นนี่...อธิบายยังไงคุณก็เข้าใจในแบบของคุณอยู่ดี”
“แล้วจะให้ฉันเข้าใจว่าอะไร คุณน่ะให้ตุ้มหูฉันแล้วก็ให้หนูดีด้วย คนที่ทำแบบนี้ มีแต่พวก...”
สายมุกเห็นดวงใส่ต่างหูทั้งสองข้างครบ ก็ชะงักไป
“พวกอะไรครับ”
“ตุ้มหูสวยดีนะ แหะ แหะ ฉันว่าฉันเอายางไปปะดีกว่า”
สายมุกเขินๆที่เหมือนตัวเองจะเข้าใจผิด...ริมถนนอีกฝั่ง โอมจอดรถอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ไม่ทันได้สังเกต นักเลงเดินถือดอกไม้ช่อใหญ่มาให้
“นายครับ ดอกไม้สำหรับคุณมุกได้แล้วครับ”
“เออ...ได้แล้วก็รีบไปสิ”
นักเลงหันไปเห็นอีกฝั่งถนนพอดี เป็นภาพสายมุกขึ้นรถ ดวงเปิดประตูให้ สายมุกเข้าไปนั่ง
“นายครับ ดูนั่นสิครับ”
“อะไรอีกล่ะ แกนี่มันเรื่องเยอะจริงๆ”
โอมพักจากหนังสือพิมพ์ดูตามที่นักเลงบอก
สายมุกเห็นหน้าดวงเปื้อน
“นี่จะไปตลาดด้วยสภาพนี้น่ะเหรอ”
“ทำไมเหรอ”
“หน้าเลอะเทอะไปหมดแล้ว”
ดวงเอามือตนเช็ด มือที่เปื้อนก็ยิ่งเปื้อนไปใหญ่ สายมุกรีบห้าม
“พอเลย ฉันจัดการเอง”
สายมุกหยิบทิชชู่มาเช็ดให้
“เรื่องแค่นี้ ผมทำเองก็ได้”
“ฉันต้องพูดต่างหากว่าเรื่องแค่นี้ฉันทำได้ แต่ถ้าเรื่องใหญ่ขนาดเปลี่ยนยาง ให้เป็นหน้าที่คุณก็แล้วกัน”
ดวงกับสายมุกส่งยิ้มให้กัน สายมุกขึ้นไปนั่งบนรถ ดวงปิดประตูให้ โดยไม่รู้เลยว่าอีกฝั่งหนึ่งโอมและนักเลงมองอยู่ด้วยความแค้น
นักเลงจอดรถที่ตลาด โอมลงมาจากรถด้วยความโกรธ เขวี้ยงดอกไม้ที่ซื้อให้สายมุกลงพื้น เอาเท้าเหยียบขยี้ๆ
“ไอ้ดวงนี่มันอยากตายนักใช่มั้ย”
“คราวนี้จะเอามันถึงตายเลยเหรอครับ”
ถนอมเดินผ่านมาบริเวณนั้นพอดี ได้ยินสิ่งที่โอมกับนักเลงคุยกันก็แอบฟัง
“ฉันเตือนมันมากี่ครั้ง มันเคยฟังฉันมั้ย นี่แปลว่ามันไม่เคยเกรงกลัวฉันแม้แต่นิดเดียว”
“ก็เลยต้องเล่นงานมันแบบรุนแรงเลยใช่มั้ยนาย”
“แกเตรียมหาคนให้พร้อมเลยนะ คราวนี้ ถ้าไอ้ดวงไม่ตาย ก็ต้องปางตายล่ะ”
“แล้วคุณมุกละครับ”
“มุกก็เหมือนกัน...ขนาดขู่ไปขนาดนั้นว่าจะบอกคุณนายสร้อยเพชร เรื่องเงินมุกให้มันยืมตั้งหลักแสน ก็ยังทำแบบนี้อีก คงคิดว่าฉันพูดเล่นกันซะละมั้งคนพวกนี้”
“นายจะเล่นคุณมุกปางตายด้วยเหรอครับ”
โอมตวาดทันที
“แกจะบ้ารึไง ฉันแค่บอกคุณนายสร้อยเพชรเรื่องเงิน แค่นั้นก็เรื่องใหญ่พอละ”
นักเลงยิ้มชื่นชม
“นายนี่มันชั่วถึงใจจริงๆ”
ถนอมที่แอบฟังอยู่ตกใจที่ดวงจะโดนทำร้าย และขณะที่แอบฟังอยู่นั้น ถนอมดันไปชนเอาปี๊บที่ตั้งอยู่ตรงนั้น ร่วงกราวเสียงดัง นักเลงกับโอมหันไปมองตามเสียง ถนอมตกใจ
“มีคนแอบฟังครับนาย”
“รีบตามไปจับมันสิ”
ถนอมรีบวิ่งหนีเข้าไปในตลาด นักเลงวิ่งตามไป...ถนอมหนีเข้ามาในตลาดมองหาที่หลบ เจอกับดวงพอดี
“อ้าวคุณ...”
ถนอมยิ้มๆให้ดวง หันหลังระแวง
“เออ...วันนั้นคุณทำกระเป๋าสตางค์ร่วงไว้ ผมเก็บไว้ให้นะครับ เดี๋ยวผมจะพาคุณไปเอา”
ถนอมร้อนใจ
“เอาไว้วันหลังเถอะ”
“ร้านที่ผมฝากไว้อยู่แค่ตรงนี้เองครับ”
“เอ่อ...”
ถนอมหันรีหันขวาง กลัวนักเลงตามมา
“ตามผมมาเลยครับ”
ดวงเดินนำถนอมไปแผงไข่...ถนอมเดินตามดวงมาถึงแผงไข่แต่ไม่มีใครอยู่ ดวงตะโกนเรียก
“อาซ้ง...ซัน”
“เธอต้องสัญญากับฉันนะ ว่าเธอต้องระวังตัวให้มาก”
“ระวังตัว เรื่องอะไรเหรอครับ”
“สัญญาก่อนสิ”
“ครับ”
อาซ้งเดินออกมาพอดี เป็นจังหวะเดียวกับที่นักเลงตามถนอมมาทัน ถนอมหันไปเห็นรีบวิ่งหนีไป อาซ้งหันมาถามดวง
“อ้าว ดวงนั่นเองน่ะ มีอะไร”
“เจ้าของกระเป๋าตังค์ที่ผมฝากไว้เขามาน่ะครับ”
อาซ้งตกใจ
“คนไหน”
ดวงหันหลังไปไม่เห็นมีใคร
“อ้าว...เมื่อกี้ยังอยู่เลยนะ”
อาซ้งแปลกใจ
“เขามาจริงๆน่ะเหรอ”
“ใช่ครับ...ผมเป็นพาเขามาเมื่อกี้เนี่ย แต่หายไปไหนแล้ว”
“ฉันออกมาก็เห็นเธอมาคนเดียวแล้วนะ”
“แต่ผมพาเขามาจริงๆนะครับ”
“เขาอาจจะวนเวียนเพื่อปกป้องเธออยู่ตลอดเวลาก็ได้นะ”
“หมายความว่าไงครับ”
“ไม่มีอะไรหรอก”
“แล้วนี่ซันไปไหนละครับเนี่ย”
ดวงถามอย่างแปลกใจ
แหววเดินไปเดินมาตื่นเต้นอยู่หน้าห้องแคสติ้ง ซันมองเพลียๆ
“เมื่อไหร่จะหยุดเดินเนี่ย เวียนหัวไปหมดแล้ว”
“ก็คนมันตื่นเต้นนี่ เลิกบ่นซะทีได้มั้ย”
“อ้าว...มาเป็นเพื่อนนี่ก็ดีแค่ไหนแล้วเนี่ย”
“มาแล้วไม่ให้กำลังใจ กลับไปเลยไป”
“ก็คนมันไม่เห็นด้วยที่จะให้เป็นดารานี่หว่า”
“ก็ความสุขของฉันนี่”
“เออ...ทำไปเลยอยากรับงานกับพระเอกหล่อๆก็เอาเลย ไม่ต้องสนฉันหรอก ไปถ่ายละครเมืองนอก ซื้อของแพงๆใช้ ก็ไปเลย”
“ทำเหมือนว่าฉันจะได้เป็นดาราแล้วงั้นแหละ”
“ก็คนแบบเธอ ทำได้อยู่แล้ว”
แหววได้ยินก็แอบยิ้ม
“ฉันจะถือว่านั่นเป็นคำให้กำลังใจก็แล้วกันนะ”
มนต์รักตลาดสด ตอนที่ 27 (ต่อ)
ผู้ช่วยมาเรียกแหววเข้าไป แหววเดินเข้าไปในห้อง ซันยังงอนๆไม่พอใจนัก...ผู้กำกับโฆษณาเรียกแหววเข้ามาในห้องแคสติ้ง
“ทำอะไรได้มั่งเนี่ย”
“ก็หลายอย่างค่ะ”
“ร้องเพลงได้มั้ย”
“ได้ค่ะ” แหววร้องเพลงแต่ไม่ค่อยเพราะ “ฉันหวง ฉันมาทวงของฉันคืน ฉันไม่เคยแย่งของคนอื่น...”
ผู้กำกับยกมือห้าม
“พอๆ แสดงล่ะ แสดงได้มั้ย”
“ก็พอได้ค่ะ”
“อ่ะ ลองดูซิ”
แหววแสดงละครแอ๊คชั่น
“แน่จริงก็เข้ามาสิ”
แหววทำท่าต่อยเตะไปมาจริงจัง ผู้กำกับตะโกนลั่น
“เฮ้ย...พอ...บอกให้พอ...นี่แสดงละครหรือต่อยมวยให้ดูเนี่ย”
แหววยิ้มแหยๆ
“ก็แนวแอ๊คชั่นไงคะ”
“โอ๊ย...ดราม่าน่ะได้มั้ย”
“ค่ะ ดราม่าก็ได้ค่ะ”
“เอ๊า งั้นก็ดราม่า”
แหววเริ่มแสดง
“ไม่ค่ะ...คุณนายอย่าตีดาวค่ะ...ไม่ค่ะ...โอ๊ย...โอ๊ย”
แหววร้องไห้เฟคๆสะอึกสะอื้น ผู้กำกับส่ายหัว
“นี่ชีวิตเธอมีแต่คนตีกันรึไงห๊า พอ...ออกไปได้แล้ว ใครเรียกยายนี่มาเนี่ย เสียเวลาชิบเป๋ง”
แหววพยายามแย้ง
“แต่ยังแสดงได้อีกหลายบทเลยนะคะ”
ผู้กำกับหงุดหงิด
“ก็บอกให้ไปไง”
แหววเสียใจที่โดนไล่ เดินออกไปหงอยๆ
ซันนั่งรออยู่หน้าห้อง เห็นแหววเดินซึมออกมา ซันมองลุ้นๆ
“เป็นไงบ้าง”
แหววไม่พูดอะไรเดินเข้ามาซบอกร้องไห้ ซันอึ้งๆแต่เขาก็ลูบหัวปลอบ
“ไหนบอกว่าฉันทำได้อยู่แล้วไง”
ซันได้แต่ประคองแหววไว้ในอ้อมกอดอยู่อย่างนั้น แหววเสียใจร้องไห้ไม่หยุด ซันไม่มีคำปลอบใดๆ
นักเลงวิ่งมาที่รถ โอมถามทันที...
“เป็นไง...เจอคนที่แอบฟังมั้ย”
“ไม่เจอครับ มันหายไปเร็วมาก”
“นี่แกหายไปตั้งนาน ไม่ได้อะไรเลยรึไง ทุเรศจริง”
“มันอาจจะไม่ได้รู้จักอะไรกับไอ้ดวงก็ได้นะครับ แค่เดินผ่านมาได้ยินเฉยๆ”
โอมตบหัวนักเลงผลัวะ
“ฉันใช้งานให้แกทำเรื่องใหญ่จะได้เรื่องมั้ยเนี่ย”
“จริงๆนะครับนาย ไอ้แก่คนนั้น ผมไม่เคยเห็นมันแถวนี้ คงแค่ผ่านมาจริงๆ”
“ถ้างานฉันล่ม แกนั่นแหละที่ซวย รู้ไว้” โอมโวยวายอย่างหงุดหงิดมาก
เย็นนั้น คุณนายสร้อยเพชรกำลังคุยเรื่องลูกหนี้ต่างๆพัลวันทางโทรศัพท์
“อย่ามาเห็นว่าฉันใจดีก็ขอผ่อนผันไปได้เรื่อยหรอกนะ นี่มันกี่งวดมาแล้วห๊า ไม่รู้ล่ะ ยังไงฉันส่งคนไป ยังไงก็ต้องได้เงินมา เท่าไหร่ก็เท่านั้น ไม่ใช่มาทำแบบนี้”
โอมเดินเข้ามาในห้องรับแขก คุณนายสร้อยเพชรเห็นรีบวางสาย
“เออ...แค่นี้ก่อน” คุณนายสร้อยเพชรหันมาหาโอม “ว่าไงโอม มาหาสายมุกเหรอ”
“มาหาคุณแม่นั่นแหละครับ แต่เหมือนว่าคุณแม่จะยุ่งอยู่”
“โอ๊ย...ไม่ได้ยุ่งอะไรหรอก คุยกับพวกลูกหนี้น่ะ ฉันละเบื้อเบื่อคนพวกนี้นะ ตอนมาขอยืมล่ะไหว้ปะลกปะลก แต่พอตอนทวงนี่กว่าจะตามตัวได้ มีลูกมีเต้านะฉันย้ำตลอดแหละว่าอย่าเที่ยวไปให้ยืมเงิน มีแต่ปัญหา”
โอมยิ้ม เข้าทาง
“แล้วนี่มาหาฉันมีอะไรเหรอ”
“ผมไม่แน่ใจว่าไอ้ดวงมันยังอยู่ที่นี่อยู่รึเปล่าครับ”
“ก็เหมือนเดิมนั่นแหละ”
“อะไรนะ แต่วันนั้นมุกก็บอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าไม่อยากให้มันอยู่”
“ฉันเป็นคนให้อยู่เองล่ะ มีปัญหาอะไรรึเปล่า”
โอมชะงัก
“เปล่าครับ ทำไมแม่ถึงชอบมันนักหนา”
“ก็เงิน...เอ้ย หมายถึงว่า มันก็เป็นคนดี ช่วยดูแลบ้าน ดูแลสวน”
“ถ้างั้น...คุณแม่ก็คงไม่รู้จักมันดีน่ะสิ”
“หมายความว่าไง”
“สายมุกคงยังไม่ได้บอกแม่หรอกใช่มั้ยครับ”
“เรื่องอะไร บอกฉันมาเดี๋ยวนี้เลย”
โอมยิ้มเจ้าเล่ห์
สายมุกสะพายกระเป๋าลงจากรถ ดวงก็กลับเข้ามาในบ้านพอดี
“เป็นไง รถเรียบร้อยมั้ยครับ”
“อืม...เลยไม่ได้ทำอะไรเลยทั้งวัน”
ทั้งคู่จะเดินเข้าบ้านแต่ก็ใจตรงกันเดินจะชนกัน จะเดินอีกก็จะชนอีก จนทั้งคู่แอบยิ้ม
“เชิญคุณก่อนดีกว่าครับ”
คุณนายสร้อยเพชรกับโอมออกมาจากในบ้าน
“ทำอะไรกันน่ะ”
สายมุกหันไปตามเสียง แล้วก็ต้องตกใจที่เห็นโอมยืนอยู่กับแม่
“คุณมาทำอะไรน่ะ”
โอมยิ้มหยัน
“ผมก็มีธุระมาคุยกับคุณแม่นิดหน่อยน่ะสิ”
สายมุกกังวลว่าจะเป็นที่ตนคิดหรือไม่
“มุก...ตามแม่เข้าไปข้างในหน่อย” คุณนายสร้อยเพชรมองดวง “เธอด้วย”
สายมุกร้องใจเป็นกังวล ดวงยังไม่แน่ใจว่าเรื่องอะไร ส่วนโอมยิ้มสะใจ
ทั้งหมดอยู่ในห้องรับแขก คุณนายสร้อยเพชรหน้าตาซีเรียส สายมุกกับดวงพาลกังวลไปด้วย คุณนายสร้อยเพชรจ้องหน้าดวง
“จริงรึเปล่า ที่เธอยืมเงินลูกฉันไปเป็นแสน”
สถานการณ์ในห้องตึงเครียดขึ้น
“จริงครับ”
สายมุกพึมพำเบาๆ
“ยอมรับทำไม”
“สายมุก...ทำไมลูกให้ดวงยืมเงินโดยไม่บอกแม่ เงินตั้งมากมายขนาดนั้น”
“คือดวงเขาเดือดร้อนกระทันหันน่ะค่ะ มุกก็เลยรีบตัดสินใจ เลยไม่ได้บอกแม่”
ดวงหน้าเสีย
“ผมขอโทษจริงๆครับ ตอนนี้ผมก็กำลังรีบหาเงินมาใช้คืนคุณมุกอยู่ครับ”
คุณนายสร้อยเพชรมองหน้า
“เงินที่ติดหนี้ฉัน เงินที่ติดหนี้ยายมุก ไหนจะที่มาอยู่บ้านฉันอีก จะให้ฉันพูดยังไงดีห๊า”
สายมุกพยายามพูดช่วยดวง
“ตอนนี้ดวงเขาก็จะเปิดแผงขายของนะคะ รายได้ก็คงเข้ามามากขึ้น”
คุณนายสร้อยเพชรเบ้หน้า
“มันจะได้ซักเท่าไหร่กันเชียว”
สายมุกชะงัก
“แล้วแม่จะให้ทำยังไงละคะ”
คุณนายสร้อยเพชรนิ่งครุ่นคิดในใจ
‘…เอายังไงดีละฉัน เงินที่มันถูกหวย สิบเปอร์เซ็นต์ก็หลายสิบล้าน กับเงินแค่นี้ คุ้มกันมั้ย ถ้าฉันปล่อยไป ก็จะเป็นบุญคุณกับมัน มันติดหนี้ฉันไปทั้งชีวิต กับเงินแค่หลักสิบล้านคงไม่เท่าไหร่หรอก…’
โอมรีบยุแยง
“คุณแม่ต้องจัดการขั้นเด็ดขาดแล้วครับแบบนี้ ให้มันอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอก”
แต่คุณสายมุกกลับบอก...
“ไม่มีอะไร ฉันก็แค่บอกไว้ให้รู้ว่าฉันไม่ได้หูหนวกตาบอด เวลาที่เธอทำอะไร ฉันให้อภัยเพราะเห็นว่าเธอเดือดร้อน ยังไงก็หาเงินมาคืนฉันกับลูกให้ได้เร็วที่สุดก็แล้วกัน”
โอมหน้าตื่น
“ห๊า...อะไรนะครับคุณแม่ ทำแบบนี้ไม่ได้ คราวที่แล้วมุกก็ยอมปิดบังช่วยมันมาทีนึงแล้ว”
ดวงเหลือบมองสายมุก เข้าใจที่สายมุกทำไป คุณนายสร้อยเพชรหันไปมองหน้าโอมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“นี่บ้านฉัน ฉันมีวิธีจัดการของฉัน”
ดวงยกมือไหว้
“ขอบคุณคุณนายมากเลยครับ ผมจะไม่ลืมพระคุณคุณนายเลยครับ”
คุณนายสร้อยเพชรยิ้มกริ่ม คิดในใจ
‘…มันพูดออกมาแล้วว่าจะไม่ลืมพระคุณ เสร็จฉันล่ะ’
สายมุกยิ้มดีใจ มีโอมคนเดียวที่โกรธ
โอมออกมาหน้าบ้านฟึดฟัดอยู่คนเดียว
“เป็นแบบนี้ไปได้ยังไงวะ เป็นบ้าอะไรกันไปหมดเนี่ยคนบ้านนี้ กับแค่ไอ้คนกระจอกๆคนเดียว คอยดูเถอะ แล้วจะเสียใจที่มองข้ามหัวฉันแบบนี้”
ค่ำนั้น...ซันกับแหววนั่งอยู่ในร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทาง แหววกินก๋วยเตี๋ยวไม่หยุด หมดภาพสวยที่รักษาหันไปสั่งเพิ่มอีก
“เล็กน้ำอีกชามเฮีย”
ซันชะงักอึ้ง
“นี่หิวมาจากไหนเนี่ย ไม่กลัวอ้วนรึไง”
“อ้วนก็อ้วนไปสิ ไม่อยากสวยแล้ว จะขี้เหร่ให้ดู”
“นี่ขี้เหร่แล้วเหรอ แล้วอย่างฉันเรียกอะไรเนี่ย”
“ฉันเกลียดวงการบันเทิง วงการมายา ไม่มีใครจริงใจหรอก ฉาบฉวยทั้งนั้นแหละที่เห็นๆกันน่ะ ใครจะอยากเป็น ดาราน่ะ”
“เออ ไม่เป็นก็ดี มาเป็นแหววแบบเดิมนั่นแหละ ไม่ต้องสวยมากหรอก สวยแค่กับฉันก็พอ”
แหววยิ้มเขินๆ
“ขอบใจที่อยู่เป็นเพื่อน”
“ไม่เป็นเพื่อนได้ป่ะล่ะ”
“ทะลึ่งละ...กินไป”
ซันมองยิ้มๆ แหววก็แอบเขินไม่น้อย
สายมุกเดินออกมาหน้าบ้าน เห็นดวงกำลังนั่งวาดบางอย่างในสมุดอยู่ที่สนาม เธอค่อยๆย่องไปจะแอบดู
“ทำอะไรน่ะ”
ดวงรีบเก็บสมุดไม่ให้เห็น
“ไม่มีอะไร”
“ก็เห็นอยู่ว่าวาดรูป วาดอะไร”
“วาดวงกลม แบบคุณไง”
“แต่ฉันเห็นแว้บๆนะ ไม่เห็นจะกลมเลย”
“ก็ผมวาดไม่เก่งเท่าคุณไง”
“นี่ประชดรึเปล่าเนี่ย”
“พูดจริงๆ แล้วนี่คุณออกมาทำอะไรเวลาแบบนี้ ผมนึกว่าคุณนอนไปแล้วซะอีก”
“ก็มาดมกลิ่นดอกไม้กลางคืนบ้าง ไม่ได้รึไง”
ดวงพยักหน้ายิ้มๆ
“ฉันจะมาขอบคุณที่ช่วยฉันเปลี่ยนยางรถวันนี้ คือฉันเพิ่งนึกได้ว่ายังไม่ได้ขอบคุณ”
“ยินดีรับใช้ครับ”
“มีดอกไหนน่าเอาวางบนหัวเตียงบ้างเนี่ย”
ดวงเด็ดดอกไม้ดอก ทัดหูให้หญิงสาว
“ขอโทษนะครับ...ทำแบบนี้ กลิ่นจะได้ชัดๆ”
สายมุกเขิน
สายวันใหม่...ซันเดินผ่านบริเวณลานจอดรถ ถนอมเข้ามาขวางไว้
“อะไรเนี่ยลุง”
“เราเป็นเพื่อนสนิทดวงใช่มั้ย”
ซันพยักหน้า
“บอกดวงด้วยนะ ให้ระวังตัว คอยดูเขาอย่าให้คลาดสายตาเลย”
ซันงงๆ
“นี่อะไรเนี่ยลุง ไปดูหมอดูมาหรือว่าไง”
ถนอมหน้าเป็นกังวลเป็นห่วงดวง
“มีคนคิดจะทำร้ายดวง”
“ใคร”
“ฉันไม่รู้...แต่คอยดูดวงไว้ดีๆ”
“ฉันไม่ได้อยู่กับไอ้ดวงมันตลอดเวลาหรอกนะลุง ว่าแต่ลุงเป็นอะไรกับไอ้ดวงมันน่ะ ทำไมต้องห่วงมันด้วย”
“เปล่า...ไม่ได้เป็นอะไร แต่อย่าลืมนะ ให้ดวงระวังตัว”
ถนอมรีบแยกตัวออกไป ซันมองงงๆ
“บ้าป่าววะ ใครมันจะมาทำร้ายไอ้ดวง”
ซันไม่ใส่ใจเดินต่อไป
คุณนายสร้อยเพชรอ่านหนังสือพิมพ์เห็นข่าว ตลาดน้ำสี่ภาค กลายเป็นศูนย์รวมนักท่องเที่ยว
“ทำยังไงตลาดฉันจะดังเหมือนตลาดน้ำสี่ภาคบ้างเนี่ย”
สายมุกมองแม่
“โหแม่ นั่นเขาตลาดน้ำนะ ถ้าแม่จะแข่ง แม่ต้องเริ่มขุดคลองก่อนเลย”
“มันต้องทำการตลาด”
“การตลาดอะไรล่ะคะ ทุเรียนสดที่สุดเหรอ”
“มันต้องมีสิ ทำให้อะไรซักอย่างในตลาดเราเป็นเอกลักษณ์ขึ้นมา แต่มันจะเป็นอะไร มุกมีไอเดียอะไรมั้ย”
“นึกไม่ออกหรอกค่ะ”
“แม่ก็นึกไม่ออกเหมือนกัน”
สายมุกนึกบางอย่างได้
“ถ้างั้นทำไมแม่ไม่...ให้ชาวบ้านออกไอเดียช่วยคิดละคะ จะได้หลายๆหัวหน่อย”
คุณนายสร้อยเพชรพยักหน้าเห็นด้วย
“อืมม ก็ดีนะ หึหึ คราวนี้ล่ะ ตลาดสร้อยเพชรจะเป็นตลาดที่ดังไม่แพ้ตลาดไหนๆเลยคอยดู”
คุณนายสร้อยเพชรสายตามุ่งมั่น สายมุกมองแม่แบบไม่เข้าใจนัก
ใบประกาศเขียนว่า...
“ตลาดสร้อยเพชร ประกวดไอเดียการขายของ เพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ของตลาด ชิงรางวัลใหญ่ เพื่อให้ตลาดกลายเป็นตลาดที่ดังที่สุดในประเทศไทย”
ถูกแปะบนบอร์ดกลาง และแจกเป็นใบปลิวให้พ่อค้าแม่ค้า...ทุกคนต่างดูกันด้วยความสนใจ....
โปรดติดตาม มนต์รักตลาดสด ตอนต่อไป พรุ่งนี้ 9.30 น.
มนต์รักตลาดสด ตอนที่ 28
ลั้นลาเดินมาหน้าร้าน เห็นใครมาแปะประกาศก็บ่นอุบ
“ใครกล้าเอาอะไรมาแปะหน้าร้านฉันเนี่ย อย่าให้เห็นหน้าเชียว ฉันจะตบให้แขนหลุดเลยคอยดู”
อั้มเดินผ่านมา
“ต๊าย...นั่นตบหรือจับกินกันยะ”
“พูดแบบนี้แปลว่าเป็นหล่อนสินะที่เอาประกาศพวกนี้ มาติดหน้าร้านฉันให้สกปรก”
“แกเห็นฉันว่างขนาดนั้นรึไง ถ้าไม่จำเป็นฉันก็ไม่เดินผ่านหน้าร้านหล่อนหรอกย่ะ”
“ไม่ใช่หล่อนแล้วใครจะเอามาปิด”
ลั้นลาลอกใบปิดที่แปะอยู่หน้าร้าน
“ประกวดหาโอท็อปประจำตลาดเหรอ”
“อะไรของหล่อน หาโอท็อป”
“อีโง่...ก็ตลาดเรากำลังจะหาจุดขายให้มีชื่อเสียงน่ะสิ คุณนายสร้อยเพชรเลยให้พวกเราน่ะนำเสนอไอเดียเพื่อทำให้ตลาดนี้ดังเป็นพลุแตก แถมยังบอกอีกว่า ใครชนะได้รางวัลใหญ่”
อั้มตาวาว สนใจแต่ทำปากแข็ง
“ประกวดเด็กอนุบาลละสิ ฉันไม่สนใจหรอก”
“ดี หล่อนไม่สน ฉันจะได้ลดคู่แข่งไปอีกคน”
“หน้าอย่างหล่อนจะเอาอะไรไปแข่งกับเขายะ นมข้างเดียวน่ะเหรอ”
“พูดอย่างนี้เดี๋ยวก็เอานมตบหน้าซะหรอก...ฉันไม่จำเป็นต้องบอก คอยดูวันแข่งก็แล้วกัน”
“แข่งเขิ่งอะไร ดูยังไม่อยากดูเลย ไร้สาระ”
อั้มเดินเชิดๆแยกออกไป ลั้นลายืนฝันฟุ้งถึงสิ่งที่จะทำไปแข่ง
อั้มกลับมาที่แผงของตนหน้าตาตื่นเต้น เดินเข้าหาลูกแฝด
“ลูกแม่ คราวนี้...the star ก็ the star เถอะ คราวนี้ล่ะ ลูกจะได้กลายเป็นเด็กที่ดังที่สุดในยุคนี้แล้ว”
แฝดนิชคุณพูดเหมือนในละคร
“หล่อนพูดอะไรของหล่อน”
อั้มตาเหลือก
“นี่ฉันแม่แกนะ วันหลังฉันจะไม่ให้ดูละครหลังข่าวเยอะอีกแล้ว”
“สามหาว”
อั้มโกรธ
“เดี๋ยวปั๊ดตบปากเลยนี่”
แฝดนิชคุณสะดุ้ง เงียบ ไม่กล้าพูดอะไรอีก อั้มจ้องหน้าลูกแฝด
“เดี๋ยวคอยทำตามที่ฉันสั่งก็พอ รู้มั้ย...เรื่องนี้ยายลั้นลารู้ไม่ได้เด็ดขาด”
อั้มบอกอย่างตั้งใจมาก
เป้งถือใบปลิวประกวดไว้ในมือ หน้าตามุ่งมั่น ต๋อยมองๆก่อนจะถาม
“เอาจริงเหรอพี่”
“จริงไม่จริงไม่รู้ รู้แต่ข้าจะส่งเข้าชิง 2 ทีมเลยคอยดู”
ต๋อยไม่เข้าใจ
“สองทีม คือ...”
“เอ้า ก็ในนามวินมอเตอร์ไซค์ กับในนามของคณะลิเกไงเล่า มันต้องชนะซักอันสิวะ”
“นี่หวังรวยเลยใช่มั้ยเนี่ย”
“โทรบอกพ่อแม่เลย ว่าช่วงนี้จะไม่ได้กลับบ้าน”
“ฉันลูกกำพร้าพี่ พ่อแม่ทิ้งตั้งแต่เด็ก”
เป้งไม่อยากเชื่อ
“พูดเป็นเล่น”
“หน้าฉันดูเหมือนคนพูดเล่นเหรอ”
“หมาป่าเก็บแกไปเลี้ยงใช่มั้ย โดนเด็กๆโดนหมากินไปซะครึ่งตัวอะดิ”
ต๋อยชักฉุน
“เฮ้ย...นี่พี่พูดถึงปมด้อยฉันทุกอย่างเลยนะเนี่ย”
“เออ ขอโทษว่ะ แต่ฉันก็เข้าใจพ่อแม่แกนะเว้ย”
ต๋อยสงสัย
“รู้จักเขารึไง ถึงได้เข้าใจเขาน่ะ”
“ใครคลอดลูกมาแล้วเจอหน้าอย่างแก ใครก็ต้องตกใจทั้งนั้น ดีนะเขาไม่เอาแกลงดินรอแตกหน่อ”
“คนนะเว้ย ไม่ใช่หน่อไม้ เดี๋ยวก็ไม่ช่วยซะเลยนี่”
“แหม แซวนิดแซวหน่อยเอง” เป้งบอกขำๆ
ซันนั่งคิดจริงจังเกี่ยวกับสิ่งที่จะทำประกวดอยู่ที่แผงไข่ แหววมองๆ
“นี่คิดจริงเลยเหรอ”
“อ้าว คิดเล่นๆจะคิดทำไม เสียเวลาเปล่า”
“แล้วจะเอาอะไรไปแข่งกับเขา เธอก็มีแต่ไข่ ไข่ แล้วก็ไข่”
“ไข่นี่แหละของดี อย่าดูถูกเชียวนะ”
“ที่ไหนก็เหมือนกันหมดป่าว”
“อ๊ะๆๆ อย่าเพิ่งพูดแบบนั้น คอยดูเถอะ ไข่ของฉันน่ะจะทำโลกตะลึง”
“แล้วก็ว่าเรื่องฉันอยากเป็นดารานมะ ตัวเองก็เลอะเทอะเหมือนกันแหละ”
ซันครุ่นคิด จริงจังมาก
ดวงเข็นผักผ่านแผงที่จะเปิดกับหนูดี เห็นหนูดีเอาของมาลงที่แผง เป็นพวกขนมคุ้กกี้ ขนมต่างๆ
“อ้าว คุณหนูดี”
หนูดีหันมามอง
“นี่ดวงยังไม่ลาออกจากขนผักนี่อีกเหรอ แล้วใครจะเฝ้าร้านล่ะ”
“พอดีว่าแกยังหาคนไม่ได้น่ะครับ ผมเลยช่วยไปก่อน”
หนูดีแนะนำสินค้า
“เนี่ย...เป็นขนมเจ้าอร่อยเลยนะ”
ดวงยิ้ม
“ผมเชื่อครับ”
“ยังไม่ทันชิมเลย รู้ได้ยังไงว่าอร่อย”
“ก็คุณหนูดี คงไม่ยอมปล่อยให้อะไรที่ไม่เพอร์เฟคเข้ามาในชีวิตอยู่แล้ว”
หนูดีเขินๆ
“ก็พูดไปโน่น”
ชาวบ้านเดินซุบซิบกันผ่านไป เกี่ยวกับโครงการที่คุณนายสร้อยเพชรคิด หนูดีแปลกใจ
“เขาพูดเรื่อประกวดอะไรกันเหรอ”
“โครงการฟื้นฟูตลาดของคุณนายสร้อยเพชรเขาน่ะครับ ตลาดจะได้คึกคัก”
“ดีจังนะ แล้วดวงจะเข้าประกวดกับเขาด้วยเหรอ”
ดวงยิ้มๆ
“ฉันช่วยเสนอไอเดียมั้ย”
“อะไรครับ”
“ขนมปังคู่รักเป็นไง กินแล้วจะสมหวัง”
“ไอเดียดีนะครับ ว่าแต่เราจะทำให้มันเป็นแบบนั้นจริงๆได้ไงละครับ”
“ดวงก็ลองไปคิดเป็นการบ้านสิ”
สายมุกเดินนำให้คนถือขนมปังมาส่ง
“มาแล้วจ้า”
หนูดีมองสายมุก ไม่ค่อยอยากให้มาเท่าไหร่
“สายมุกรู้ได้ยังไง”
ดวงยิ้มๆ
“ผมบอกว่าวันนี้ร้านจะเปิดน่ะครับ”
หนูดีไม่ค่อยพอใจนัก สายมุกยิ้มแย้ม
“เป็นไงบ้าง”
หนูดีเสียงแข็งใส่
“ถามฉันหรือว่าใคร”
“แหม ก็ถามทั้งคู่”
“ก็ดี...ว่าแต่มานี่มีอะไรรึเปล่า”
“ก็เห็นว่าเธอจะขายพวกขนมปัง ฉันเลยเอาขนมที่ฉันทำมาฝากขายด้วย”
หนูดีกับดวงร้องออกมาพร้อมกัน
“ห๊า”
สายมุกยิ้มหวานให้
สายมุกยืนตะโกนขายขนมปังของตน...
“ขนมปังอบใหม่ๆจากเตาเลย อร่อยมากนะคะ แวะซื้อแวะชิมกันก่อนเลย”
ดวงกับหนูดีมองเกรงว่าคนจะมาซื้อ แฝดนิชคุณเดินมาถาม
“ขายอะไรของหล่อน”
“ขนมปัง อร่อยนะ”
“ถ้าฉันจะชิมก่อน...”
“ได้”
สายมุกโยนขนมปังให้แต่แฝดรับพลาดเข้ากลางหน้าล้มตึง ลุกขึ้นมาอีกทีเลือดกลบปาก
“แน่ใจนะว่าที่โยนมาคือขนมปัง”
“แน่สิ เพิ่งอบเสร็จใหม่ๆเลย”
แฝดนิชคุณเจ็บปาก
“นี่ขนาดเพิ่งอบเสร็จใหม่ๆนะ ยังขนาดนี้ ทิ้งไว้ซัก 2 วันไม่กลายเป็นหินบะซอลเลยเหรอ”
ดวงอึ้งๆ
“โห...เดี๋ยวนี้รู้จักหินบะซอลด้วย”
แฝดนิชคุณคุยโอ่
“ไม่ธรรมดานะ เริ่มเปลี่ยนจากละครมาดูสารคดีแล้ว”
หนูดีถอนใจ
“ฉันว่าเธอพักก่อนดีมั้ยมุก ไม่ต้องไปยืนตะโกนหรอก”
แฝดนิชคุณมองหน้าสองสาว
“แล้วทำไมต้องมาช่วยพ่อขายกันมากมายแบบนี้”
“นั่นสิครับ ผมขายคนเดียวก็ได้นะครับ พวกคุณกลับไปเถอะ”
สายมุกไม่ยอม
“ได้ไง ของฉันเอามาขายยังไม่หมดเลยเนี่ย ฉันรอของฉันขายหมดก่อนสิ”
แฝดนิชคุณส่ายหน้าเซ็ง
“คงไม่ได้กลับละมั้ง ถ้างั้น”
สายมุกไม่พอใจ
“อ้าว เฮ้ย...นี่ว่าขนมฉันไม่อร่อยรึไง”
หนูดีคิดบางอย่างได้เพื่อให้สายมุกกลับบ้าน
“งั้นฉันเหมาขนมเธอหมดเลยละกันนะมุก”
สายมุกชะงัก
“อะไรนะ”
“พอดีฉันจะเอาไปฝากที่บ้านน่ะ ทุกคนคงชอบ”
สายมุกไม่ยอม
“ได้ไง เธอเหมาไปคนเดียวคนอื่นก็อดกินสิ”
แฝดนิชคุณเบ้หน้า
“ถามคนอื่นก่อนมั้ยว่าอยากกินรึเปล่า”
สายมุกถลึงตาใส่
“เฮ้ย!”
แฝดนิชคุณตัดบท
“เอางี้ดีกว่า...ให้พ่อตัดสินเลย ว่าใครจะอยู่ใครจะไป”
ดวงหน้าเหวอ
“อ้าว...โยนมาแบบนี้ได้ไง”
หนูดีกับสายมุกมองหน้าดวงเขม็งรอคำตอบ ดวงลำบากใจ
“ผมว่ากลับไปก่อนทั้งสองคนนั่นแหละครับ เดี๋ยวทางนี้ผมดูแลเอง”
แฝดนิชคุณยิ้มพอใจ
“ชัดมั้ย” แฝดเข้าประจบประแจงดวง “เดี๋ยวฉันจัดการทางนี้เอง เชิญพวกหล่อนกลับ”
หนูดีกับสายมุกไม่ค่อยพอใจนัก
ในออฟฟิศโอม...นักเลงยืนอยู่กับชายฉกรรจ์ หน้าตาโหด นักเลงส่งรูปของดวงให้พวกนั้น
“จัดการไอ้คนนี้”
“ถึงตายเลยป่ะ”
โอมยิ้มเหี้ยม
“ถ้าตายก็ไม่สนุกน่ะสิ เอาแค่ปางตายก็พอ”
ชายฉกรรจ์ยิ้มพอใจ
“จะให้จัดการเมื่อไหร่ดี”
นักเลงหันมาบอกโอม
“ผมได้ข่าวมาว่าที่ตลาดสร้อยเพชรจะจัดงานแข่งขันอะไรซักอย่างนี่แหละนาย เรารอวันนั้นมั้ย คนพลุกพล่าน ไม่มีใครทันสังเกต”
โอมเห็นด้วย
“ก็ดีเหมือนกันนะ”
ชายฉกรรจ์รับคำ
“ได้”
“ตกลงตามนี้”
นักเลงหยิบซองใส่เงินปึกใหญ่ให้
“นี่งวดแรก ถ้าเสร็จแล้วก็มารับที่เหลือ”
ชายฉกรรจ์รับเงินแล้วเดินออกไป โอมยิ้มอย่างมั่นใจ
“คราวนี้แหละไอ้ดวง แกจะไม่กล้ามาแหยมกับฉันอีก”
สายมุกเดินมาที่ลานจอดรถกับหนูดี
“มุก...ฉันขอถามอะไรหน่อยสิ”
“ว่า”
“จำได้มั้ยที่ฉันเคยถามเธอ ว่าเธอชอบดวงรึเปล่า แล้วเธอตอบว่าเปล่า”
“อืม”
“ฉันจะถามเธอวันนี้อีกทีนะ...ว่าเธอยังยืนยันคำตอบเดิมมั้ย”
สายมุกชะงักไปนิด
“ทำไมต้องถามซ้ำ นายดวงนี่มีอะไรให้ฉันต้องชอบขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ทำไมล่ะ แค่เขาเป็นคนดี แล้วใส่ใจความรู้สึกคนอื่นแม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ แค่นี้ยังไม่พออีกเหรอ”
สายมุกอึ้ง
“เอ่อ...”
“ที่ฉันถาม เพราะเห็นว่าเธอเป็นเพื่อนฉันนะ ตกลงว่าไง”
สายมุกตอบเลี่ยงๆ
“เอ่อ...คนเราก็ไม่จำเป็นต้องชอบคนดีทุกคนก็ได้มั้ง”
หนูดีมองหน้า
“ตอบแบบนี้หมายความว่า...เธอยืนยันใช่มั้ย ว่าไม่ได้ชอบดวง”
สายมุกอึกอัก
“เอ่อ...”
“เธอมาว่าฉันทีหลังไม่ได้นะ”
สายมุกชะงัก
“คือ...”
“งั้นก็ตกลงตามนี้...ต่อไปนี้เธอต้องช่วยฉันเรื่องดวง”
สายมุกหน้าตื่น
“เฮ้ย! จะดีเหรอ”
“ไม่มีอะไรดีกว่านี้แล้ว”
สายมุกหน้าเครียด กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
พะวงเดินตื่นเต้นเข้ามาหาคุณนายสร้อยเพชรที่กำลังเลือกชุดจากแคตตาล็อคอยู่ในห้องรับแขก
“คุณนายคะคุณนาย”
“อะไรของแก ทำเสียงซะตื่นเต้นเชียว”
“ก็โครงการที่คุณนายจะให้พวกพ่อค้าแม่ค้า แข่งกันนำเสนอตลาดของเราน่ะค่ะ พวกพ่อค้าแม่ค้าสนใจกันใหญ่เลย”
คุณนายสร้อยเพชรยิ้มพอใจ
“ก็แหงล่ะ ฉันฉลาดนี่”
“ถ้าข่าวแพร่ออกไป รับรองว่าได้ดังไปทั่วแน่ค่ะ ตลาดของเรา”
“แน่นอน แต่เลิกใช้คำว่าเราซักทีได้มั้ย ตลาดน่ะเป็นของฉันคนเดียวย่ะ”
พะวงมองหน้าเซ็งๆ
“แล้วนี่ทำอะไรคะนั่น”
“ก็เลือกชุดสำหรับไปเป็นกรรมการตัดสินน่ะสิ เผื่อคนมาทำข่าวเยอะขึ้นมา ฉันจะได้ดังระเบิด”
พะวงมองเอือมๆ
ถนอมยืนระแวงหันรีหันขวางอยู่ตลอดเวลา ซันเดินมากับแหวว
“นั่นไงแหวว ดูตาคนนั้นสิ” ซันชี้ให้แหววดูถนอม
แหววมองตามที่ซันชี้
“ทำไมเหรอ”
“อยู่ๆก็มาบอกฉันว่า ไอ้ดวงจะตกอยู่ในอันตราย ให้ฉันช่วยดวงด้วย”
แหววชะงัก
“หมอดูเหรอ”
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่พักนี้เห็นมาแถวนี้ตลอดเลย”
แหววหน้าตื่น
“หรือคนบ้า”
“ก็ไม่แน่นะ ท่าทางแปลกๆด้วย”
อยู่ๆอาซ้งก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ มาแจมด้วยอีกคน
“คุยอะไรกันน่ะ”
ซันสะดุ้ง
“อ้าวพ่อ...คุยเรื่องคนๆนั้นน่ะพ่อ”
อาซ้งเพ่งสายตามองตามที่ซันชี้
“ใครน่ะ”
“คนที่อยู่ๆก็มาบอกฉันว่าให้ฉันปกป้องไอ้ดวง บอกไอ้ดวงจะตกในอันตราย”
อาซ้งเพ่งไปที่ถนอมอีกครั้ง
“เหรอ คนนี้เหรอ”
มนต์รักตลาดสด ตอนที่ 28 (จบตอน)
อาซ้งเพ่งสายตาจะเดินรี่เข้าไปหา ซันเรียกไว้
“พ่อ...จะไปทำอะไรเขา”
“อยากเห็นหน้าใกล้ๆหน่อย ไกลๆแบบนี้ข้าเห็นไม่ชัด”
ซันงงๆ
“ทำไมต้องเห็นชัดๆด้วย มีอะไร”
“เปล่า”
อาซ้งหันไปอีกทีจะเดินไปหา ถนอมหายไปซะแล้ว
“อ้าว! หายไปไหนซะแล้ว”
ซันมองแปลกใจ
“นั่นสิ”
อาซ้งเซ็งเลยหันมาบ่นลูกชาย
“แกนี่ ไม่น่าเรียกไว้เลย”
แหววแปลกใจ
“มีอะไรเหรอคะ ทำไมถึงอยากเห็นหน้าเขานัก”
“ไม่มีอะไรหรอก”
อาซ้งท่าทางพิรุธปิดบังแล้วรีบเดินจากไป แหววมองตามอย่างสงสัย
“ฉันว่าพ่อเธอแปลกๆนะ”
ซันเห็นด้วย
“นั่นสิ”
“เหมือนมีเรื่องกังวลใจอยู่”
ซันพยักหน้า
“อืม...แต่ช่างเถอะ เรารีบไปซ้อมเตรียมสำหรับชิงแชมป์เลยดีกว่า”
ซันหน้าตาจริงจังกับการแข่ง แหววจ้องหน้า
“นี่ตกลงเอาจริงใช่มั้ย”
ซันพย้กหน้าอย่างขึงขัง
ดวงขายขนมโดยมีแฝดนิชคุณช่วย คนก็สนใจมาซื้อมาลองบ้างโดยเฉพาะผู้หญิง
“อันนั้นขึ้นชื่อเลยนะครับ ลองชิมดูก่อนได้”
“ขอชิมหน่อยได้มั้ยคะ”
แฝดนิชคุณเบ้หน้า
“ตัวก็อ้วนปานนั้น ยังจะซื้อขนมหวานอีก”
ลูกค้าตกใจ ดวงรีบปรามนิชคุณ
“อย่าไปสนใจเลยครับ เด็กมันดูละครมากไป เลยเลียนแบบมา”
“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ชิมแล้วก็ได้”
ลูกค้าเดินหนีไป ดวงหันมาดุแฝดนิชคุณ
“นี่เราทำไมไปพูดแบบนั้นล่ะ ไม่ดีเลย”
แฝดนิชคุณเถียง
“ก็มันจริง นางอ้วนเป็นช้างแล้ว จะกินขนมหวานทำไม เขาก็ห่วงสุขภาพนางออกนะ”
แฝดคว้าขนมหวานเข้าปากตุ้ยๆๆ ดวงส่ายหน้าระอา
“แล้วนี่ไม่ห่วงตัวเองบ้างเหรอ”
แฝดนิชคุณยิ้มแหยๆ
“อูยยย มันเพลินไปหน่อย”
“เอาของซื้อของขายมากิน แล้วเมื่อไหร่จะได้กำไร”
แฝดนิชคุณยังเถียง
“พ่อก็กินนี่”
“อันนี้คุณมุกเขาทำมา ไม่ได้ของขายซักหน่อย”
แฝดนิชคุณถึงกับหน้าแหยเมื่อรู้ว่าดวงกินขนมที่สายมุกทำ
“เคี้ยวไหวด้วยเหรอ”
“ก็โอเคนะ ไม่เชื่อลองชิมสิ นี่กินจะหมดแล้วเนี่ย”
แฝดนิชคุณส่ายหน้าดิก
เย็นนั้น ดวงเดินเข้าบ้านมา สายมุกนั่งอยู่ที่สนามเอ่ยทักขึ้น
“ขายของวันแรกเป็นไง”
ดวงยิ้มแย้ม
“ก็ถือว่าดีครับ”
“แล้วขนมฉันล่ะ ขายหมดมั้ย”
ดวงพยักหน้ารับ
“เกือบหมดครับ”
สายมุกดีใจ
“จริงเหรอ ดีจังเลยอ่ะ เดี๋ยวฉันจะตื่นแต่เช้ามาทำเพิ่ม”
ดวงสะดุ้ง
“อย่าเลยครับ”
“ทำไมล่ะ”
“คือของเดิมยังขายไม่หมด กลัวว่าคนจะไม่ซื้อของที่เหลือน่ะครับ”
“อ๋อ แล้วไป...นึกว่าไม่อร่อยซะอีก”
ดวงยิ้มแห้งๆ
“แหะ แหะ”
สายมุกนึกถึงคำพูดของหนูดี ที่บอกให้สายมุกช่วยระหว่างเธอกับดวงขึ้นมา
“เออ...หนูดีฝากถามเกี่ยวกับขนมปังความรักอะไรก็ไม่รู้ ถามว่าคุณจะลงแข่งด้วยมั้ย”
“อ๋อ...ผมว่าผมคงไม่”
สายมุกแอบยิ้ม
“แน่ใจเหรอ”
“ครับ ผมไม่มีเวลาคิดหรอก”
สายมุกพอใจมาก
“ก็ดีแล้ว”
ดวงชะงัก
“หมายความว่าไงครับ”
“ฉันว่าหนูดีเขาชอบคุณนะ”
“อ๋อครับ”
“ตอบสั้นๆแค่นี้น่ะเหรอ”
“แล้วผมต้องตอบว่าไง”
“ก็คุณคิดยังไงกับเขาล่ะ”
“คุณหนูดีเป็นคนดีครับ”
สายมุกไม่พอใจคำตอบของดวง
“ใช่สิ...ฉันเป็นคนไม่ดี เอาแต่ใจ อารมณ์แปรปรวนง่าย วาดรูปก็ไม่ได้เรื่องใช่มั้ยล่ะ”
สายมุกเดินงอนหายเข้าไปในบ้าน ดวงงงๆ ไม่รู้ว่าทำอะไรผิด
สายมุกเข้ามาในห้องนอน คว่ำรูปตนกับหนูดีบนโต๊ะหัวเตียง ไม่พอใจ ฟึดฟัดไปมา ต่อว่าหนูดีในรูป
“เออ ไปรักกันไกลๆเลยไป”
พะวงออกมาจากมุมหนึ่งในห้อง กำลังทำความสะอาดอยู่
“บ่นอะไรคะคุณนมุก”
สายมุกสะดุ้งโหยง
“ว๊าย ทำไมมาอยู่ในห้องมุกได้คะเนี่ย”
“มาทำความสะอาดค่ะ”
“เอาไว้ทำวันหลังดีกว่าค่ะ”
“ได้ค่ะได้”
พะวงมองสายมุก แอบรู้ทัน
คุณนายสร้อยเพชรเปิดประตูเข้ามาในห้อง อยู่ๆพะวงก็โผล่ออกมาจากมุมนึง
“คุณนาย”
คุณนายสร้อยเพชรตกใจ
“ว๊าย...แกมาทำอะไรในห้องฉัน”
“คุณนายคะ คุณนายเคยสังเกตคุณมุกมั่งมั้ยคะ”
“ทำไม ยายมุกมีอะไร”
“คุณมุกทำตัวเหมือนคนมีความรัก”
“ความรักเหรอ...กับใคร”
“ก็คุณนายเห็นผู้ชายคนไหนรอบตัวคุณมุกบ้างละคะ”
คุณนายสร้อยเพชรคิดๆ
“ไอ้ดวงเหรอ ไม่หรอกมั้ง”
“ไม่เชื่อคุณนายลองสังเกตดีๆสิคะ พะวงว่ามันมีอะไรแปลกๆไงไม่รู้ คุณมุกดูจิตใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว”
คุณนายสร้อยเพชรเริ่มระแวง คนไม่มีหัวนอนปลายตีนอย่างดวง
เช้าวันใหม่...ที่โต๊ะอาหาร พะวงตักข้าวให้คุณนายสร้อยเพชรพร้อมกระซิบ
“ลองสังเกตดูสิคะ”
คุณนายสร้อยเพชรมองสายมุก จับผิด สายมุกนั่งทานโจ๊กหยิบหนังสือพิมพ์มาอ่าน คุณนายสร้อยเพชรพยักหน้าเรียกพะวงมา
“ไหน...อ่านหนังสือพิมพ์มันผิดปกติยังไง ห๊า”
“ของแบบนี้ต้องค่อยๆดูกันไปค่ะ”
สายมุกหันมาเห็น
“คุยอะไรกันเหรอคะ”
คุณนายสร้อยเพชรรีบแก้
“เปล่าจ้ะ แค่บอกว่าจะให้ไปช่วยตัดสินงานวันนี้หน่อย”
“ทำไมต้องเป็นหนูด้วยคะ”
“ถ้าไม่ใช่ลูกจะเป็นใครล่ะ นะไปช่วยแม่หน่อย”
สายมุกพยักหน้ารับ
หนูดีกับดวงอยู่ด้วยกันที่แผงพร้อมกับห่อขนมปังมากมาย
“ขนมปังแห่งความรัก...ดวงคิดมาว่ายังไง” หนูดียิ้มแย้มถาม
“ผมต้องขอโทษจริงๆครับ ผมคงไม่ประกวดหรอกครับ”
หนูดีหน้าเสีย
“อ้าวทำไมล่ะ ฉันอุตส่าห์ตั้งใจ”
“ผมไม่เก่งเรื่องคิดอะไรแบบนี้หรอกครับ แต่ถ้าให้เป็นผู้ช่วยคุณหนูดีละก็ ผมก็พอทำได้ครับ”
หนูดีถอนหายใจท้อ
“เป็นแบบนี้ทุกที”
หนูดีไม่พอใจ หยิบขนมปังมากิน แล้วเลอะปาก
“คุณหนูดี ขอโทษนะครับ ปากคุณเลอะ”
ดวงเอาผ้าเช็ดให้ สายมุกมากับคุณนายสร้อยเพชรเข้ามาเห็นพอดี
“ไหนบอกจะไม่แข่งไง มาถึงก่อนใครเลยนะ” สายมุกงอนๆ “โกหกทุกอย่าง”
คุณนายสร้อยเพชรสังเกตเห็นสายมุกมองไปที่ดวงก็กระแอม
“มองอะไรลูก”
สายมุกหลบตา
“เปล่านี่ค่ะ”
คุณนายสร้อยเพชรสังเกตอาการของลูกสาวไม่วางตา
ถนอมชะเง้อชะแง้มองหาชายแปลกหน้าแต่ก็ไม่เจอ ซักพักรถก็มาจอด ถนอมรีบแอบทันที ชายฉกรรจ์ เดินลงมาจากรถ คนนึงถือรูปของดวงหันไปสั่งพรรคพวก
“แยกกันไปตามหาก่อนนะ ใครได้เจอยังไงก็ส่งข่าวด้วย”
ถนอมได้ยินอย่างนั้นก็ยิ่งใจไม่ดี
คุณนายสร้อยเพชรขึ้นกล่าวเปิดงาน สายมุกกับพะวงนั่งตรงเก้าอี้กรรมการ
“เอาล่ะ ถึงเวลาที่เหมาะเจาะที่พวกเราชาวตลาดสร้อยเพชรทุกคนจะพิสูจน์ให้ทุกคนได้รู้ว่า พวกเราทุกคนไม่ธรรมดา”
สายมุกเหลือบดูบริเวณที่ดวงอยู่กับหนูดีตลอด
ชายฉกรรจ์กับสมุนเข้ามารวมตัวกัน ที่มุมหนึ่งของตลาด
“ไม่เห็นจะมีเลยครับครับพี่”
“แกไปดูตรงที่เขาจะจัดงานโน่น ฉันว่ามันอยู่ตรงนั้น”
ถนอมแอบฟัง แล้วยิ่งห่วงดวง ก่อนจะแอบตามไป
ลั้
นลากำลังเตรียมตัวซ้อมวิธีการชงกาแฟรสเลิศอยู่ อั้มพาลูกแฝดที่แต่งเป็นกุมารทองมาคู่กัน
“เดี๋ยวพอขึ้นเวที ใครถามอะไรหนูต้องตอบได้นะลูก”
ลั้นลาหันมาเห็น
“ไหนว่าการประกวดมันไร้สาระไง นี่เธอเตรียมพร้อมกว่าฉันตั้งเยอะ”
“นี่ฝืนใจมากนะเนี่ย ไม่อยากทำ แต่เด็กมันขอร้อง”
แฝดทั้งคู่มองหน้าอั้มเซ็งๆ พายามบอกว่าไม่จริง
“กล้าพูด ไม่เคยถามซักคำ”
ลั้นลามองเย้ย
“ยังไงสิ่งที่เธอจะทำ ก็ชนะร้านกาแฟฉันไม่ได้ กาแฟมหัศจรรย์ของฉัน”
“คอยดูเอาเองก็แล้วกัน”
อั้มกับลั้นลามองหน้ากันไม่ยอมกัน
ถนอมแอบย่องตามชายฉกรรจ์กับสมุนตลอดเวลา แต่แล้วทันใดนั้น ชายฉกรรจ์โผล่มาจากด้านหลัง
“แกตามฉันมาทำไม”
ถนอมช็อค พูดไม่ออก สมุนของชายฉกรรจ์หลายคนปรากฏตัวลากถนอมหายไป
หนูดีพยายามใกล้ชิด ดวงพยายามออกห่างแต่แล้วก็ไปเจอธรรมชาติที่บังคับให้ทั้งคู่ให้กัน สายมุกแอบมองอย่างน้อยใจ
“ถ้าเธอเลือกแล้วก็อย่ามายุ่งกับฉัน”
สายมุกเดินหนีออกไป ดวงสังเกตเห็นสายมุกลุกออกไปจากโต๊ะกรรมการ ชายหนุ่มตามไปอย่างห่วงๆ
สามมุกเดินงอนออกมาบ่นอุบ
“คนโกหก ทีเมื่อคืนฉันถามล่ะบอกไม่มีอะไร ไม่ได้คิดอะไร แต่การกระทำตรงข้ามกับหัวใจนี่นา”
สายมุกไม่พอใจ ไม่คิดว่าดวงจะตามเข้ามา
“ทำไมคุณเดินหนีออกมาแบบนี้”
สายมุกตกใจ
“คุณตามฉันออกมาทำไม คนโกหก”
“คุณเข้าใจผิดแล้ว”
ขาดคำ ดวงกับสายมุกก็โดนฟาดสลบเหมือดไปทั้งคู่ ชายฉกรรจ์ออกมาพร้อมไม้หน้าสามแสยะยิ้ม
ลั้นลาโชว์กาแฟของตนบนเวที การพรีเซ็นต์ดูเวอร์ๆ ขายความเซ็กซี่
“สำหรับตลาดสร้อยเพชรของเราแล้ว ไม่มีสิ่งไหนที่ถูกพูดถึงไปมากกว่า ร้านกาแฟของฉันอีกแล้ว บางคนอาจสงสัยว่า เฮ้ย...ร้านกาแฟธรรมดาทำไมถูกพูดถึงได้มากมาย วันนี้ฉันจะมาไขความลับให้ ร้านกาแฟของฉัน กินแก้วนึง ตาสว่างได้ข้ามวัน ฮั่นแน่...กำลังคิดว่าฉันโฆษณาชวนเชื่อ ใครจะไปตื่นได้นานขนาดนั้น ฉันเลยเตรียมกาแฟสูตรพิเศษมาสำหรับกรรมการทุกท่าน แล้วใครที่สนใจ”
ลั้นลารินกาแฟใส่แก้วหอมฉุย เสิร์ฟให้คุณนายสร้อยเพชรกับพะวง แล้วก็แก้วเล็กน้อยๆสำหรับคนอื่นๆที่อยากชิม คุณนายสร้อยเพชรกับพะวงยกแก้วขึ้นชิมก็ตาสว่างจ้าจริงๆ
“หลายคนอาจยังไม่เชื่อ เอ๊ะกินแล้วก็ไม่เห็นว่าจะพิเศษอะไร ฉันมีหลักฐานความแตกต่างของกาแฟของดิฉันนะคะ”
ลั้นลาเดินไปจูงแฝดทั้ง 2 คนลูกของอั้มขึ้นมาโดยที่อั้มไม่ทันตั้งตัว
“เป็นพยานกันได้ทั้งตลาดนะคะ ว่าก่อนหน้านี้ยายนี่แค่ท้องอยู่เฉยๆ ท้องเป็นปีไม่มีใครสนใจ แต่อยู่ๆพอนางกินกาแฟของฉัน นางก็คลอดลูกแฝดจอมพลังออกมาสองคน เป็นที่ตื่นตะลึงของวงการาแฟของฉัน”
อั้มกระซิบลั้นลา
“เล่นไม้นี้เลยเหรอ”
ลั้นลากระซิบตอบ
“แน่นอน”
ชาวบ้านพึมพำซุบซิบกันใหญ่เกี่ยวกับปรากฏการประหลาดที่เกิดขึ้น คุณนายสร้อยเพชรหันมาถามพะวง
“จริงรึเปล่าที่เขาพูด”
“จริงค่ะคุณนาย”
คุณนายสร้อยเพชรพอใจกับการพรีเซนต์ของลั้นลา แต่มองหาสายมุกที่ยังไม่ยอมกลับมาซักที
“นี่ยายมุกไปไหนเนี่ย ทำไมเงียบแบบนี้”
“ห้องน้ำมั้งคะคุณนาย”
หนูดีเองก็มองหาดวงไม่เห็น มองไปที่เก้าอี้กรรมการ สายมุกก็หายไป เธอเริ่มร้อนใจ
ในโกดังร้าง ดวงค่อยๆรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาคนแรก เขามองซ้ายมองขวาเห็นสายมุกสลบอยู่ไม่ไกล พร้อมกับถนอม
“คุณมุก คุณมุกเป็นอะไรมั้ย”
ดวงพยายามเขย่าปลุก สายมุก ก็ยังนอนนิ่ง ดวงไปปลุกถนอม
“คุณ...คุณ นี่มันเรื่องอะไรเนี่ย...คุณ”
ดวงยังงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ชายฉกรรจ์กับเหล่าสมุนเดินออกมา
“ตื่นแล้วเหรอ ไอ้ตัวดี”
ดวงมองพวกมันอย่างไม่เข้าใจ
“นี่พวกแกทำอะไร จับพวกเรามาทำไม”
“จริงๆ คนอื่นนั่นก็แค่คนซวย ใจฉันจะเล่นแกแค่คนเดียวต่างหาก”
“ใครใช้ให้พวกแกทำแบบนี้”
“นั่นไม่สำคัญว่าแกไปทำอะไรให้ใครเขาโกรธเคืองรึเปล่า”
“ฉันไม่เคยทำอะไรใคร”
“เหรอ...ฉันก็ไม่รู้หรอกนะ ฉันก็แค่คนรับจ้างมาอีกที ใครจ่ายเงินก็คือคนถูกเสมอ”
“ฉันไม่มีเงินมากมายอะไรให้แกหรอก แต่ฉันแค่อยากขอให้แกปล่อยคนที่ไม่เกี่ยวไปซะ”
“พระเอกซะจริงๆ แต่แกเคยได้ยินมั้ย พวกพยานเนี่ยตัวร้ายที่สุดเลย ปากดีนัก ฉันว่าฉันเล่นพวกมันก่อนแกจะสนุกกว่าซะอีก”
ชายฉกรรจ์คว้าสายมุกที่คอพับคออ่อนเพราะสิ้นสติไว้
โปรดติดตาม มนต์รักตลาดสด ตอนต่อไป พรุ่งนี้ 9.30 น.