xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มบ้านไร่กับหวานใจไฮโซ ตอนที่ 9

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หนุ่มบ้านไร่กับหวานใจไฮโซ ตอนที่ 9


ตะวันวาดเตะบอลกับเพื่อนๆอยู่ในโรงเรียน บอลหลุดออกไปนอกสนาม ตะวันวาดวิ่งมาจะเก็บบอล แต่น้อยหน่าเข้ามาเก็บลูกบอลไว้ เธอมองหน้าเขาแล้วเตะลูกบอลเปรี้ยง ลูกบอลลอยไปตกในสระน้ำของโรงเรียน ตะวันวาดอ้าปากหวอ เพื่อนๆก็อึ้งไปตามกัน

“ทำอะไรของเธอน่ะ”
น้อยหน่าผลักอกตะวันวาด
“นายยังไม่เลิกใช่มั้ย”
ตะวันวาดงงๆ
“เลิกอะไร”
“ก็พยายามจะให้พ่อฉันเป็นแฟนกับแม่นายน่ะ ฉันรู้นะเรื่องที่นายนัดให้พวกเขาไปกินข้าวกันน่ะ”
ตะวันวาดหน้าเสีย
“ก็...ถ้าเขาไม่คิดอะไรกัน เขาก็เป็นเพื่อนกัน ไปกินข้าวกันก็ไม่แปลกนี่ แต่ถ้าเขาชอบกันก็อีกเรื่อง ฉันไม่ได้บังคับอะไรซักหน่อย”
“ไม่ต้องมายุ่งกับพ่อของฉัน ถ้าอยากหาแฟนใหม่ให้แม่นายล่ะก็ ไปหาคนอื่น”
น้อยหน่าสะบัดหน้าเดินหนีไป ตะวันวาดจะเดินตามไป เพื่อนรีบดึงเสื้อไว้
“ไปเก็บบอลมาเลยไอ้ตะวัน”
“เออๆๆ”
ตะวันวาดไปหยิบไม้พยายามเขี่ยบอล เพื่อนๆคอยลุ้น น้อยหน่าที่เดินหน้าบูดมา พีทรีบตามมาประกบ
“น้อยหน่า เสาร์นี้ว่างมั้ย”
“มีอะไรเหรอพีท”
“เราตอบคำถามรายการวิทยุได้ตั๋วหนังมาสองใบ ไปดูกันมั้ย”
น้อยหน่าเงียบไป หันไปมองตะวันวาดเห็นเขามองมาพอดี
“ไปดิ”
“เยส”
พีทดีใจยิ้มเริงร่า เดินไปกับน้อยหน่า ตะวันวาดมองตามทั้งสองไปจนทำบอลหลุดมือตกน้ำอีกครั้งเพื่อนที่มองๆอยู่พูดขึ้น
“สงสัยไอ้พีทชวนน้อยหน่าไปดูหนังแหงๆ”
ตะวันวาดหันไปถาม
“รู้ได้ไงวะ”
“มุขหากินของมัน...ตอบคำถามรายการวิทยุได้ตั๋วหนังมาสองใบ ไปดูหนังกันมั้ยครับ...มันใช้มุขนี้ประจำแหละ”
เพื่อนอีกคนพูดต่อ
“แล้วรายการวิทยุของมันเนี่ย แจกแต่ตั๋วหนังรอบดึก เสร็จแล้วมันก็จะขับรถไปส่งแล้วก็ถือโอกาสจุ๊บๆ แล้วก็มาคุยอวดเขาไปทั่ว”
ตะวันวาดหน้าตื่น
“จริงเหรอวะ”
“ของแบบนี้คนที่รู้ว่าจริงไม่จริงก็มีมันกับผู้หญิงเท่านั้นแหละ”
ตะวันวาดหน้าเครียดทีนที

ค่ำนั้น...ปราบ นับดาว น้อยหน่า นั่งกินข้าวอยู่ด้วยกัน น้อยหน่าขออนุญาตไปดูหนัง ปราบมองลูกสาวอย่างแปลกใจ
“จะไปดูหนังกับเพื่อนพ่อไม่ว่า แต่ทำไมต้องไปดูรอบดึกขนาดนั้น”
“ก็รายการเขาให้ตั๋วหนังมาแบบนี้นี่คะ”
“พีทเป็นใคร พ่อไม่รู้จัก”
“เขาอยู่คนละห้องกับหน่า ในคลาสมีตั้งร้อยกว่าคน พ่อจะรู้จักหมดได้ไง”
“พ่อไม่ให้...”
ปราบจะปฏิเสธแต่นับดาวเตะหน้าแข้งเขาเต็มแรง ปราบหันขวับมองหน้า นับดาวทำหน้าเฉยแอบมองเขาส่งข้อความทางสายตา ปราบลังเลนิดหนึ่ง แล้วยอมเชื่อนับดาว
“ก็ได้...งั้นเดี๋ยวพ่อไปรับตอนหนังเลิกนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ พีทเขามีรถ เขาอาสาจะมาส่งหน่าที่บ้าน”
“แต่...”
นับดาวขยับขา ปราบรีบยกขาหลบ
“เอางั้นก็ได้ แต่ต้องเปิดมือถือไว้นะ พ่อจะโทรเข้าไปตอนหนังจบ”
“ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ”
น้อยหน่ายิ้มให้ปราบ แล้วลุกจากโต๊ะ เดินเข้าห้องไป ปราบมองตามลูกสาวไป ก่อนจะหันมาพูดกับนับดาว
“ไอ้พีทมันเป็นใคร ทำไมผมต้องไว้ใจมัน หา...ไหนคุณพูดมาดิ๊”
“ไอ้พีทเป็นใครก็ช่างเถอะ แต่ที่คุณต้องไว้ใจน่ะคือลูกสาวคุณ”
“น้อยหน่ายังเป็นเด็ก จะไปรู้เรื่องอะไร ถ้าเกิดว่า...”
“น้อยหน่าโตแล้วค่ะ คุณต้องปล่อยให้เขาดูแลตัวเองบ้าง อย่างน้อยที่สุดคุณก็ต้องให้เขาเชื่ออย่างนั้น เขาจะได้มีความมั่นใจในตัวเอง”
“หมายความว่า...”
“ก็ถ้าคุณจะแอบตามไปดูโดยไม่ให้เขารู้ตัวล่ะก็ ฉันก็ไม่ว่า”
ปราบฟังแล้วยิ้มออก

ที่หน้าโรงภาพยนตร์มัลติเพล็กซ์ พีทกับน้อยหน่าเดินถือน้ำกับถังป๊อบคอร์นมาด้วยกัน น้อยหน่าหยิบมือถือออกมา
“เราโทรบอกพ่อก่อนนะว่าจะเข้าโรงแล้ว”
“เดี๋ยวออกมาค่อยโทรก็ได้ รีบเข้าเหอะ จะได้ดูหนังตัวอย่างด้วย”
น้อยหน่าเก็บมือถือ เดินผ่านที่เก็บตั๋วเข้าไปในโรงภาพยนตร์ ปราบกับนับดาวโผล่ออกมาจากที่ซ่อน
“คุณเห็นหน้ามันมั้ย ยัยหน่าไว้ใจมันเข้าไปได้ยังไง หน้าตามันอย่างกะหมาจิ้งจอก”
“ใจเย็นน่า อย่าเพิ่งรีบตัดสินคนจากภายนอกสิ”
ปราบกับนับดาวรีบเดินตามเข้าไป

น้อยหน่ากับพีทนั่งดูหนังด้วยกัน คนในโรงมีไม่เยอะนัก ปราบกับนับดาวจึงย่องเข้ามานั่งด้านหลังทั้งสองได้ พีทวางถังป๊อบคอร์นไว้ระหว่างเขากับน้อยหน่า น้อยหน่าดูหนังตลอด แต่พีทกลับคอยสังเกตน้อยหน่า พอเห็นเธอล้วงป๊อบคอร์นกิน ก็แกล้งยื่นมือจกลงไปด้วย ถือโอกาสจับมือ น้อยหน่าหันมามองพีท
“ขอโทษครับ”
น้อยหน่ายิ้ม ไม่ว่าอะไร ดูหนังต่อ พีทยิ้มได้ใจ ปราบอยู่ข้างหลัง ชะโงกหน้าดู เห็นเหตุการณ์ ปราบลุกขึ้นจะตบกบาลพีท นับดาวรีบดึงลงนั่งแล้วกระซิบ
“จะทำอะไร”
ปราบกระซิบตอบ
“จะตบกะโหลกมันน่ะดิ มันหลอกจับมือน้อยหน่า”
“เฉยไว้ก่อนได้มั้ย”
ปราบฮึดฮัด...พีทดูหนังไปสักพัก มือก็เริ่มเลื้อย ค่อยๆอ้อมไปแตะที่เบาะหลังของน้อยหน่า ปราบเม้มปาก หน้าตาเอาเรื่อง เกิดจินตนาการในใจ เขาล้วงกระเป๋าหยิบไฟแช็คขึ้นมา ปรับระดับไฟจนสุด จ้องไปที่มือพีท พอพีทเอื้อมมือโอบน้อยหน่า เขาก็จุดไฟเผามือเด็กหนุ่ม พีทร้องลั่น ดึงมือกลับมา ปราบขยุ้มผมพีทกระชากลงมาหน้าหงาย จ่อไฟแช็คที่หน้าพีทแล้วตะคอกลั่น
“เลิกยุ่งกับลูกสาวฉัน ไม่งั้นขนตาแกหงิกแน่ เข้าใจมั้ยไอ้กาจั๊วะ”

ปราบเม้มปาก หน้าตาเอาเรื่อง ล้วงกระเป๋าหยิบไฟแช็คขึ้นมา ปรับระดับไฟจนสุด จ้องไปที่มือพีท นับดาวมาจับมือไว้กระซิบบอก
“บอกให้อยู่เฉยๆ”
ปราบกระซิบตอบ
“แต่ว่ามัน...”
นับดาวดึงไฟแช็คจากมือปราบไปเก็บไว้ พีทโอบไหล่น้อยหน่า ปราบตาถลน แต่ก่อนที่ปราบจะทำอะไร น้อยหน่าก็ดึงไหล่หลบ ปัดมือออกหันมามองพีทหน้าดุๆ พีทจ๋อย รีบดึงมือกลับ
“เอ่อ เมื่อยมือน่ะ ไม่มีอะไรหรอก”
น้อยหน่าจ้องหน้า
“อย่าทำอีกนะ”
“อื้อ ไม่มีอะไรจริงๆ”
น้อยหน่าดูหนังต่อ ปราบยิ้มแป้น ยกนิ้วโป้งให้ลูกสาวกระซิบกับตัวเอง
“เยี่ยมมากลูกพ่อ ต้องอย่างงี้สิ”
นับดาวคืนไฟแช็คให้
“เห็นมั้ย หัดไว้ใจลูกสาวตัวเองซะมั่ง”
ปราบพยักหน้า ยอมรับว่านับดาวเป็นฝ่ายถูก

เมื่อออกจากโรงหนัง น้อยหน่ากับพีทเดินออกมาจากตัวห้างเข้าสู่ที่จอดรถ น้อยหน่าจะโทรหาปราบ พีทรีบบอก
“ในนี้สัญญาณไม่ค่อยดี ผมเคยโทรแล้ว คุยไม่รู้เรื่องเลย รอออกไปแล้วค่อยโทรดีกว่าครับ”
น้อยหน่าพยักหน้า พีทพาน้อยหน่าเดินไปขึ้นรถของเขาที่จอดอยู่ด้านหนึ่ง ปราบกับนับดาวตามออกมา แอบมองตามไป
“ขึ้นรถเร็ว เดี๋ยวไม่ทัน”
นับดาวกับปราบมาที่รถที่จอดในซอง แต่มีรถคันอื่นจอดขวางอยู่ ปราบเข้าไปเข็นรถที่จอดขวางปรากฏว่ารถที่จอดขวางเข้าเกียร์ไว้
“เฮ้ย จอดรถประสาอะไรวะ”
“เดี๋ยวฉันไปเรียกยามให้”
ปราบพยักหน้า ขณะชะเง้อดูพีทกับน้อยหน่า ทั้งสองขึ้นไปบนรถแล้ว พีทติดเครื่อง แล้วขับรถออกมา ปราบรีบก้มหลบ มองตามไปด้วยความร้อนใจ นับดาวตามยามมา ยามลากที่ลากรถมาด้วยท่าทางเย็นใจ ปราบรีบวิ่งไปดึงมา
“เร็วๆหน่อยครับ ลูกสาวผมอยู่ในอันตราย”
ยามตกใจ
“หา ลูกสาวพี่อยู่ในอันตรายเหรอครับ ครับๆๆ”
ยามรีบช่วยปราบจัดการยึดที่ลากรถกับรถที่จอดขวาง นับดาวมองปราบขำๆ
“เป็นเอามากจริงๆ”

ริมถนน เยื้องๆหน้าห้าง มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งจอดซุ่มอยู่ คนขับสวมหมวกกันน็อคไม่เห็นหน้า คนขับจับตามองไปที่ประตูทางออกจากที่จอดรถของห้าง รถของพีทวิ่งออกมา เลี้ยวออกวิ่งไปตามถนนใหญ่ คนขับมอเตอร์ไซค์สตาร์ทเครื่อง ขับตามไปทันที
โปรดติดตามตอนต่อไป

หนุ่มบ้านไร่กับหวานใจไฮโซ ตอนที่ 9


พีทจอดรถเข้าข้างทาง น้อยหน่าถามขึ้นอย่างสงสัย
“จอดรถทำไม”
“สงสัยรถเสีย เป็นอะไรไม่รู้”
น้อยหน่ามองพีท เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
“เดี๋ยวเราโทรตามพ่อมาช่วยดูให้”
“อือ เอาดิ เผื่อพ่อเธอจะช่วยได้”
น้อยหน่าโทรออกแต่ไม่มีสัญญาณ พีทแอบยิ้มเจ้าเล่ห์
“ตรงนี้ไม่มีสัญญาณน่ะ”
“เหรอ ว้า แย่จัง”
พีทเอื้อมมือโอบตัว น้อยหน่ากระเถิบหนี
“เธอจะทำอะไรน่ะ”
“เราจะล็อคประตูรถให้ จอดที่เปลี่ยวๆแบบนี้มันอันตรายนะ ไม่เคยอ่านข่าวเหรอ”
พีทกดปุ่มล็อคประตูฝั่งน้อยหน่า น้อยหน่าเกร็งตัวถอยหนี ใบหน้าเขาอยู่ใกล้เธอมาก
“น้อยหน่า...เธอรู้ตัวมั้ยว่าเธอสวยน่ารักมาก...เราชอบเธอ”
“ขอบใจ”
พีทยื่นหน้ามาจะจูบ น้อยหน่าผลักออกไปอย่างแรง
“ไปไกลๆเลยไป เลิกคิดได้เลย ฉันไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น”
พีทมองน้อยหน่าอย่างประสงค์ร้าย!

ปราบขับรถออกมา ถึงถนนใหญ่ก็จอดรถ
“หายไปไหนแล้วเนี่ย”
“น่าไปทางที่ไปไร่นั่นแหละ”
“แต่มันไปได้สองทาง”
“งั้นลองไปทางที่เปลี่ยวกว่าแล้วกัน”
ปราบเลี้ยวเข้าถนนใหญ่ ไปคนละทางกับพีท

พีทยังอยู่อยู่ในรถกับน้อยหน่า
“รถเสียจริงรึเปล่า ให้ฉันลองขับดูดิ๊” น้อยหน้าบอกอย่างไม่สบายใจ
“บอกเสียก็เสียสิ”
น้อยหน่ามองหน้า
“พีท ฉันไว้ใจนายนะ อย่าทำแบบนี้น่า”
“ก็ได้ แต่เธอต้องให้ฉันจูบก่อน”
น้อยหน่าตะลึง
“อะไรนะ”
“แค่ขอจูบนิดเดียวเองจะตกใจทำไม หรือว่า...ตะวันวาดมันยังไม่เคยจูบเธอ”
น้อยหน่าไม่พอใจ
“เขาไม่ทำอะไรทุเรศๆแบบเธอหรอก...ขับไปส่งฉันที่บ้านเดี๋ยวนี้”
พีทไม่สน
“ไม่...จนกว่าเธอจะให้ฉันจูบ ถ้าไม่งั้น ก็เชิญลงจากรถเดินกลับบ้านเอง กว่าจะมีสัญญาณมือ
ถือก็อีก 3 กิโลเอง เดินเล่นๆซักชั่วโมงถึง แต่ก่อนหน้านั้นฉันไม่รับประกันนะว่า เธอจะเจอพวกแก๊งค์เด็กนรกหรือเปล่า เคยได้ยินใช่มั้ย พวกลูกคนใหญ่คนโตขับรถตู้ตระเวนหาเหยื่อ พวกเด็กผู้หญิงที่เดินคนเดียว มันจะจอดรถประกบแล้วฉุดขึ้นรถหายไปทั้งคืน พอเช้ามาก็เป็นศพไปแล้ว...ถ้าไม่กลัวก็ลงไปดิ”
น้อยหน่ามองพีทอย่างเกลียดชัง
“เธอเลวมาก”
พีทยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ
“ว่าไงล่ะ จะให้ฉันจูบมั้ย”
น้อยหน่าถอนใจ
“เธอหลับตาก่อน”
พีทยิ้ม หลับตา ยื่นปากเข้ามา น้อยหน่ากำหมัด ง้างแล้วต่อยตู้ม พีทร้องลั่น
“โอ๊ย”
น้อยหน่าจะเปิดประตูหนี แต่เปิดไม่ออก ประตูโดนล็อคจากฝั่งพีท
“เปิดไม่ออกหรอก กล้าต่อยหน้าฉัน เธอโดนจัดหนักแน่น้อยหน่า”
น้อยหน่าชกอีก พีทกำหมัดน้อยหน่า จับแขนบิด น้อยหน่าร้องลั่น
“ปล่อยนะ ปล่อย”
“เสร็จฉันล่ะ”
พีทยื่นหน้ามาจะจูบ ทันใดนั้นมีเสียงตึง รถสะเทือนไปทั้งคัน พีทหันไป เห็นมอเตอร์ไซค์มาชนท้าย
“อะไรวะ”
พีทรีบลงจากรถ ชี้หน้าด่าคนขับมอเตอร์ไส่ซึ่งใส่หมวกกันน็อค
“ขับรถยังไงของแกวะ”
น้อยหน่าถือโอกาสนั้นรีบลงจากรถ
“ช่วยด้วยค่ะๆ”
พีทหันไปหาน้อยหน่า
“กลับขึ้นรถไป...”
พีทยังพูดไม่จบ คนขับมอเตอร์ไซค์ก็ต่อยหน้าพีทโครม พีทร่วงลงไปกอง คนขับมอเตอร์ไซน์รีบบอกน้อยหน่า
“ขึ้นรถเร็ว”
น้อยหน่าลังเลวูบหนึ่ง ก่อนจะวิ่งกลับไปที่รถพีท ดึงกุญแจรถออกวิ่งมาซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ พีทลุกขึ้นมาได้
“เฮ้ย หยุดนะ เดี๋ยวก่อนเอากุญแจรถฉันมา”
พีทวิ่งตามมา น้อยหน่าตะโกนตอบ
“เรื่องอะไรอยากได้ก็ไปเก็บเอาเอง”
น้อยหน่าโยนกุญแจรถเข้าป่าข้างทาง
“บ้าเอ๊ย ทำงี้ได้ไงวะ”
พีทจะวิ่งเข้าไปพงหญ้าข้างทางหากุญแจ รถมอเตอร์ไซลค์จอด น้อยหน่าตะโกนมาดังลั่น
“ระวังงูกัดนะพีท”
พีทชะงักไม่กล้าเข้าไป น้อยหน่าหัวเราะเยาะเย้ย มอเตอร์ไซค์ขับออกไป

น้อยหน่าชี้บอกทาง คนขับขับมอเตอร์ไซค์มาส่งที่หน้าบ้านปราบ น้อยหน่าลงจากรถ
“ขอบใจนะตะวันวาด”
ตะวันวาดเป็นคนขับมอเตอร์ไซน์ชะงัก ถอดหมวกกันน็อคออก
“รู้ได้ไงว่าเป็นฉัน”
“ก็ใครจะเป็นห่วงฉันขนาดขับมอเตอร์ไซค์ตามประกบรถนายพีทแบบนี้ล่ะ ก็มีแต่นายคนเดียว”
“ฉลาดซะทุกเรื่องนะเธอนี่”
“แต่ก็ไง่ที่หลงไปไว้ใจนายพีท...ฉันเห็นนายตั้งแต่ตอนขับออกมาจากห้างแล้ว...ขอบใจมากนะ”
ตะวันวาดยิ้มเขินๆ แล้วโดยไม่รู้ตัว น้อยหน่าก็จุ๊บที่แก้ม ตะวันวาดตะลึงลาน น้อยหน่ารีบวิ่งเข้าบ้านไป ตะวันวาดจับแก้มตัวเองยิ้มๆ

ถนนเปลี่ยวและมืดมาก...ปราบขับรถมา สองคนช่วยกันมองตามริมถนน
“เห็นอะไรผิดปกติบ้างมั้ยครับ”
นับดาวเพ่งมอง
“ไม่มีเลยค่ะ เราอาจจะมาผิดทาง หรือไม่ก็นายพีทก็พาน้อยหน่าไปส่งที่บ้านอย่างเรียบร้อย”
ปราบเงียบไป ระหว่างนั้นก็เกิดเสียงปัง รถเป๋ ปราบรีบประคองรถเข้าไหล่ทาง หยุดรถ ลงจากรถไปดู
“ยางแตก”
“มียางอะไหล่มั้ย”
“มี”
ปราบเปิดท้ายรถ จะหยิบยางอะไหล่ ทันใดนั้นมือถือดังขึ้น ปราบเห็นเบอร์โทรเข้าก็รีบรับสาย
“น้อยหน่าอยู่ไหนลูก...เหรอ ปลอดภัยดีใช่ไหม...พ่อเหรอ...เอ่อ ออกมาทำธุระกับคุณดาวนิดหน่อยจ้ะ กำลังจะกลับจ้ะ...ได้จ้ะ”
ปราบวางสาย หันมาบอกนับดาว
“น้อยหน่าอยู่บ้านแล้ว ปลอดภัยดี แต่เขาบอกมีอะไรจะเล่าให้ผมฟัง”
“โล่งอกไป คุณรีบเปลี่ยนยางเถอะ แถวนี้เปลี่ยวๆดูไม่น่าไว้วางใจยังไงก็ไม่รู้”
“นี่ จะบอกว่าผมไม่น่าไว้ใจใช่มั้ย”
“เปล่า อย่ามาหาเรื่องกันสิ ถนนมันเปลี่ยวจริงๆนี่นา รีบๆเปลี่ยนยางเถอะ”
ปราบหัวเราะ หยิบยางมาเปลี่ยน รถตู้คันหนึ่งวิ่งมาแต่ไกล ในรถตู้เป็นแก๊งค์เด็กนรก
“เฮ้ย...เห็นยัยนั่นมั้ย สวยชะมัดเลยว่ะ”
“เป๊กกูเลย เตรียมพร้อมโว้ยพวกเรา ได้เหยื่อแล้วโว้ย”
วัยรุ่นจอดรถเอี๊ยด ประตูเปิด พวกเด็กนรกในรถรวมทั้งหมด 5 คนกรูลงมา วัยรุ่นสองคนเข้าไปหาปราบ ไม่พูดพล่ามทำเพลง ถือไม้เบสบอลหวดใส่ทันที ปราบไม่ทันตั้งตัว โดนรุมฟาดลงไปกอง ขณะที่อีกสามคนเข้าไปล็อคตัวนับดาว นับดาวถีบเท้าดิ้น แต่สู้แรงพวกมันไม่ได้ โดนอุ้มขึ้นรถ
“ปล่อยฉันนะ ปล่อย...ช่วยด้วย ช่วยด้วย”
“ได้แล้ว ไปโว๊ย”
วัยรุ่นที่เป็นคนขับรีบวิ่งขึ้นรถ สตาร์ทเครื่อง วัยรุ่นอีกคน ง้างเท้าจะเตะปราบก่อนอำลา ปราบจับข้อเท้ามันทัน กระชากอย่างแรง มันร้องลั่น หงายหลังหัวกระแทกพื้นน็อคไป เพื่อนของมันตกใจ
“เอาไงดีวะ”
วัยรุนที่เป็นคนขับรีบบอก
“ช่างมันเหอะ ปิดประตูเร็ว”
วัยรุ่นจะปิดประตูรถ ปราบยื่นไม้เบสบอลแหย่ไว้ก่อน จิกหัวมันออกมายกเข่าสวนออกไปกระแทกหน้า วัยรุ่นคนนั้นน็อค กลิ้งลงมาสลบเหมือด วัยรุ่นอีก 3 คนเลยกรูลงมาพร้อมอาวุธครบมือ รุมฟาด ปราบจัดการไปได้อีก 1 แต่เขาก็โดนฟาดจังๆเหมือนกัน ปราบจัดการกับวัยรุ่นได้อีกคน เหลืออีกคนตัวต่อตัว แต่ปราบบาดเจ็บง่อนแง่น วัยรุ่นคนสุดท้ายเงื้อไม้จะฟาด แต่นับดาวย่องมา หยิบประแจไขน็อตล้อฟาดเปรี้ยงซะก่อน มันล้มลงกับพื้น ปราบล้มลง นับดาวรีบคุกเข่าเข้ามาดู
“คุณปราบ คุณเป็นอะไรมั้ยอ่ะ”
“ยังไหวครับ คุณดาวปลอดภัยดีนะ”
“ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ...คุณปราบ...”
นับดาวจับหน้าปราบที่โดนทำร้ายดูด้วยความเป็นห่วง ปราบยิ้ม
“ระวัง...”

โปรดติตตามตอนต่อไป


หนุ่มบ้านไร่กับหวานใจไฮโซ ตอนที่ 9

ปราบยื่นมือออกไป เหมือนจะกอดนับดาว แต่ความจริง มีวัยรุ่นคนหนึ่งยังไม่สลบ ย่องมา เงื้อไม้เบสบอลจะฟาดนับดาว ปราบจึงยื่นมือออกไปกันไม้เบสบอลที่ฟาดลงมา แล้วเตะขาไอ้นรกคนนั้นจนมันเสียหลักล้มลง
“ยันขาออกไปเต็มแรงเลยครับ”
นับดาวยกขา วัยรุ่นคนยนั้นก้มมอง เจอส้นเข็มของนับดาว จ่อหน้ามัน
“อย่า...”
นับดาวยันลูกหลังเปรี้ยง มันโดนส้นเข็มกระแทกกลางหน้า หงายหลังเงียบกริบใบหน้าของปราบกับนับดาวอยู่แทบชิดติดกัน แขนสองข้างของปราบยังกอดนับดาวไว้
“โดนมั้ยคะ”
“เป๊ะเลยครับ คุณดาวเก่งมากครับ”
ปราบกับนับดาวมองตากัน
“ขอบคุณมากนะคะ”
ปราบยิ้มให้
“เจ็บมั้ยคะ”
“คงไม่เจ็บเลยนะโดนซะขนาดนี้”
นับดาวถลึงตาที่เขากวน
“แต่ยังไงก็ขอบคุณนะ เพิ่งเห็นว่าส้นสูงคุณมีประโยชน์ก็วันนี้เอง”
หญิงสาวมองชายหนุ่มที่ไม่ยอมคลายกอดสักที สองคนมองตากัน

วันใหม่...น้อยหน่าเดินเข้ามาในโรงเรียน พวกนักเรียนหลายคนมองมาที่เธอ ด้วยสายตาชื่นชม ตะวันวาดเข้ามาหา ถือหนังสือพิมพ์เข้ามาโชว์น้อยหน่า
“เห็นหนังสือพิมพ์เช้านี้รึยัง”
ตะวันวาดชี้ไปที่หนังสือพิมพ์ มีรูปปราบกำลังให้พยาบาลทำแผลที่โรงพยาบาล มีพาดหัวย่อยว่า "แก๊งค์นรกโดนพลเมืองดีสอยร่วงทั้งแก๊งค์"
“เห็นแล้ว”
“อาปราบเท่ระเบิดเลย”
“แน่น้อน พ่อฉันเก่งที่สุด”
น้อยหน่าหันไปเห็นพีทนั่งอยู่คนเดียว พอพีทเห็นหน้าน้อยหน่าก็หลบหน้าทันที ลุกจะเดินหนี น้อยหน่าเดินตามไป
“เดี๋ยวก่อน นายพีท”
“ว่าไงเหรอน้อยหน่า”
“ฉันเล่าเรื่องเมื่อคืนให้พ่อฟังแล้ว”
พีทหน้าซีดทันที
“คือว่า...ฉันอธิบายได้นะ...แบบว่า...”
พีทหมดฟอร์ม ยกมือไหว้น้อยหน่า
“น้อยหน่า...ฉันขอโทษ เธอช่วยไปบอกพ่อเธออย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันจะไม่ทำ
อะไรอย่างนี้อีก”
“ความจริงพ่อฉันโกรธมาก จะมาหาเธอวันนี้ด้วยซ้ำ”
พีทหน้าแหย
“แต่เอาเหอะ ฉันกลัวเธอจะโดนพ่อฉันฆ่าเหมือนกัน...ฉันจะบอกพ่อว่าเธอสำนึกผิดแล้ว รับปากว่าจะไม่ทำอีก แต่ถ้ารู้ว่าเธอทำแบบนี้กับเด็กคนอื่นอีก รับรองเธอเจ็บตัวอย่างไอ้พวกนี้แน่ๆ เผลอๆจะหนักกว่าอีก
น้อยหน่าชี้รูปแก๊งค์นรกในหนังสือพิมพ์เป็นรูป แก๊งค์นรกนอนปางตายบนพื้นถนน ข้างๆรูปปราบทำแผล พีทพยักหน้าถี่
“ได้ๆๆ ฉันรับปาก ไม่ทำอีกแล้ว ฉันไปก่อนนะ สวัสดีครับ”
พีทเผลอยกมือไหว้น้อยหน่า แล้วรีบเดินออกไป น้อยหน่ากับตะวันวาดมองตามไป หัวเราะกัน

ปราบซึ่งมีผ้าพันแผลที่แขน แต่ไม่ได้เข้าเฝือก กำลังจิบกาแฟอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ ป้ายวงเดินเข้ามา
“คุณปราบคะ มีคนมาหาค่ะ...ผู้หญิง ซ้วยสวย”
ปราบชะงัก
“ใครครับ”
“เขาบอกเขาชื่อเอมี่ค่ะ เป็นเพื่อนคุณนับดาว”
ปราบนิ่งไปอย่างแปลกใจ


นับดาวเดินเข้ามาในคลินิกปราบสัตวแพทย์ ขณะที่แก้วทำงานอยู่หันมาเห็น
“สวัสดีค่ะพี่ดาว”
“หวัดดีจ้ะแก้ว คุณปราบให้พี่มาเอายาของเฉาก๊วยน่ะ”
“พี่ปราบยังไม่หายเหรอคะ”
“ยังฟกช้ำดำเขียวอยู่เลย”
แก้วจัดยาให้
“งวดนี้ยาหมดเร็วจัง เฉาก๊วยแย่ลงรึเปล่าคะ”
“พี่ดูไม่ออกหรอก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันป่วย”
“เฉาก๊วยมันม้าขี้โรคน่ะค่ะ ดีที่อยู่ในมือพี่ปราบ เลยยังแข็งแรงอยู่...แต่เห็นหลังๆนี่พี่ปราบเริ่ม
ออกอาการหนักใจเหมือนกัน”
นับดาวใจหาย
“เฉาก๊วยจะเป็นอะไรเหรอ”
“แก้วไม่รู้เหมือนกันค่ะ ต้องไปถามพี่ปราบค่ะ” แก้วบอกอบ่างไม่สบายใจ

ปราบเดินออกมา เอมี่ที่รออยู่ยิ้มแย้ม
“สวัสดีค่ะ คุณปราบใช่มั้ยคะ ฉันเอมี่เพื่อนนับดาวค่ะ”
“สวัสดีครับ คุณนับดาวไม่อยู่ เข้าไปทำธุระในเมืองน่ะครับ”
“ว้า เสียดายจัง”
“คุณเอมี่รอสักครู่ก็ได้ครับ เดี๋ยวเขาก็กลับมา”
“เอางั้นก็ได้ค่ะ...ปกติดาวเขาพักที่ไหนเหรอคะ”
“ที่นี่แหละครับ”
“อ๋อ แล้วคุณปราบล่ะคะ”
“ผมก็พักอยู่นี่เหมือนกัน นี่บ้านผมครับ”
“อ๋อ ค่ะ”
เอมี่ยิ้มให้ ปราบยิ้มตอบตามมารยาท เขาดูนาฬิกาข้อมือ
“ผมขอตัวก่อนนะครับ เชิญคุณตามสบาย”
ปราบเดินสวนกับป้ายวงที่เอากาแฟมาเสิร์ฟ
“ป้าฝากดูแลคุณเขาด้วยนะครับ”
“ค่ะ”
ป้ายวงวางแก้วน้ำและกาแฟให้เอมี่
“ขอบคุณค่ะป้า อุ๊ย...กาแฟหอมจัง แหม เอมี่อิจฉานับดาวจังได้มาอยู่แถวนี้ อากาศก็สดชื่น วิวก็สวย แถมในบ้านก็มีแต่คนดี อย่างคุณปราบ หรืออย่างป้าเนี่ย ก็ดูเป็นคนใจดี๊ใจดี”
ป้ายวงยิ้มแก้มปริ
“ค่ะคนที่นี่ก็เป็นอย่างงี้ทั้งนั้นแหละค่ะ”
“ท่าทางป้าจะสนิทกับนับดาวนะคะ”
“สนิทซีคะ คุณดาวเขาน่ารัก มีเสน่ห์ เหมือนคุณเลย”
“ขอบคุณค่ะ งั้นเอมี่ถามอะไรหน่อยสิคะ”
“เชิญถามได้เลยค่ะ” ป้ายวงยิ้มแย้ม พร้อมที่จะตอบทุกอย่าง

เอมี่ยืนอยู่นอกบ้าน มองออกไปที่ทุ่งหญ้าโล่งกว้าง ปราบจูงเฉาก๊วยฝึกเดินตีวง ดูเท่และมีเสน่ห์ คำพูดของป้ายวงดังในความคิดของเธอ
‘…คุณดาวกับคุณปราบน่ะเหรอคะ ทะเลาะกันประจำแหละค่ะ จะตีกันตายตั้งหลายครั้ง แต่ยังไงไม่รู้ ทะเลาะกันเสร็จก็ดีกัน ออกไปนั่งเล่นคุยกัน ดูดาวกัน เสร็จแล้วแป๊บๆก็ทะเลาะกันอีกแล้ว’
‘ถึงขั้นลงไม้ลงมือกันไหมคะ’
‘ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ อย่างมากคุณปราบก็อุ้มคุณดาวไปโยนใส่เล้าหมูแค่นั้นเอง...แต่จะว่าไปก็แปลกนะคะ ปกติคุณปราบเขาไม่ใช่คนแบบนั้น เขาออกจะสุภาพ แต่กับคุณดาวน่ะ ดูเขาจะใจร้ายกว่าปกติ’
‘อุ๊ย จริงเหรอคะ แต่ปกติยัยดาวเขาไม่ใช่คนยอมคนนี่คะ’
‘ถึงว่าสิคะ ถ้าเป็นป้าโดนแบบนั้น ป้าไม่อยู่แล้วล่ะค่ะ...ป้าว่าจริงๆแล้วคุณดาวเขาก็ชอบนะคะ’
เอมี่กระซิบ
‘ชอบอะไรคะ’
ป้ายวงกระซิบตอบ
‘ชอบคุณปราบน่ะสิคะ’
เอมี่มองปราบอย่างมีแผนการบางอย่าง



ค่ำนั้น...นับดาวกลับเข้ามาที่บ้าน ถือถุงยามาด้วย
“คุณปราบ ฉันเอายามาให้แล้วนะ”
ไม่มีเสียงตอบ สักพักป้ายวงก็เดินออกมา
“คุณปราบอยู่ไหนคะป้า”
“ไม่อยู่หรอกค่ะ อ้าว เขาไปหาคุณดาวไม่ใช่เหรอคะ”
“หาดาวที่ไหนคะ ดาวไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
“เขาไปกับคุณเอมี่น่ะค่ะ”
นับดาวชะงัก
“เอมี่”
“ค่ะ เพื่อนคุณไงคะ”
“ยัยเอมี่มาที่นี่เหรอคะ”
“ค่ะ มาได้สักพักก็ชวนคุณปราบออกไป บอกจะออกไปหาคุณน่ะค่ะ”
นับดาวขมวดคิ้ว
“ยัยเอมี่ต้องมีแผนอะไรแน่ๆ”
ขณะเดียวกันนั้น มือถือนับดาวดังขึ้น เธอดูชื่อ ขึ้นชื่อเอมี่ นับดาวรับสาย
“จะเอายังไงเอมี่”
“ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ แค่โทรมาทักทาย เสียดาย อุตส่าห์มาหาแต่ไม่เจอเพื่อน ฉันกลัวหลงทางน่ะก็เลยชวนคุณปราบมาด้วย ตอนนี้ฉันอยู่กับคุณปราบที่ปั๊มน้ำมันก่อนทางแยก กำลังจะเข้าไปซื้อน้ำให้เขากิน ว่าจะใส่ยาปลุกนิ้งหน่องลงไปด้วย”
นับดาวอึ้งไป
“ใส่ยาปลุก...เธอจะทำอะไรของเธอ”
“พอดีหิวน่ะ อยากจะหาผู้ชายล่ำๆหม่ำซักคน...อุ๊ยๆๆ แค่นี้ก่อนนะ หายหน้าไปนาน เดี๋ยวไก่ตื่น
เอมี่วางสาย”
“ดะๆ เดี๋ยว เอมี่...ยัยเอมี่...”
นับดาวรีบกดโทรหาปราบ
“อย่าเพิ่งกินน้ำยัยนั่นนะคุณปราบ”
เสียงมือถือปราบดังใกล้ๆตัว นับดาวหันไปเห็นมือถือของเขาวางอยู่
“เฮ้อ ตาบ๊องเอ๊ย”
นับดาวรีบวิ่งออกไปจากบ้าน ขับรถออกไปอย่างแรงอย่างร้อนใจ
 
โปรดติดตามตอนต่อไป

หนุ่มบ้านไร่กับหวานใจไฮโซ ตอนที่ 9


เอมี่เดินมาขึ้นรถของเธอ ปราบนั่งข้างๆ เอมี่ส่งขวดน้ำใส่หลอดมาให้
“น้ำค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
ปราบรับมา แต่ยังไม่ได้กิน
“ดีนะคะเนี่ยที่คุณปราบใจดีนั่งมาเป็นเพื่อนด้วย ไม่งั้นเอมี่ไม่กล้าขับไปไหนมาไหนคนเดียวแบบนี้หรอกค่ะ เอมี่ขี้กลัวน่ะค่ะ”
เอมี่จับมือ ปราบค่อยๆดึงมือกลับ
“ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ ผมไม่ได้ช่วยอะไรมาก”
“มือคุณปราบอุ่นดีจังเลยค่ะ แต่ขาเอมี่สิคะเย้นเย็น เย็นจนหนาวเลย จับดูสิคะ”
เอมี่จับมือเขามาวางบนขาอ่อนเธอ ชายหนุ่มสะดุ้ง รีบดึงมือกลับ เอมี่มองแบบไม่พอใจ
“ก็ไม่เย็นเท่าไหร่นี่ครับ แหะๆ...คุณดาวเขานัดคุณเอมี่ในเมืองไม่ใช่เหรอครับ รีบไปเถอะครับ เดี๋ยวเขาจะรอนาน”
“ท่าทางจะไม่นานหรอกค่ะ”
เอมี่มองออกไปนอกปั๊ม ความเงียบเกิดขึ้นชั่วขณะ ปราบไม่มีอะไรทำเลยกินน้ำที่เอมี่เอามาให้ เอมี่แอบชำเลืองมองยิ้มเล็กน้อย แล้วสตาร์ทเครื่อง
“เราไปกันเถอะค่ะ”
“ครับ”
เอมี่กำลังจะถอยรถออก นับดาวขับรถมาจอดจ่อขวางข้างหน้า เปิดประตูลงมาจากรถ เอมี่ลงจากรถ หัวเราะเสียงใส
“มาเร็วกว่าที่คิดนะยัยดาว”
นับดาวไม่สนใจมองมาที่ปราบที่กำลังลงจากรถ
“อ้าว พวกคุณนัดเจอกันที่นี่เองเหรอครับ”
นับดาวดูขวดน้ำในมือปราบ
“โห กินเข้าไปตั้งเยอะ”
ปราบงง นับดาวเข้ามาบีบปากเอานิ้วแหย่เข้าไป
“อ้วกออกมา”
“เฮ้ย ทำอะไรของคุณ”
ปราบสะบัดหน้าหลบ เอมี่รีบเสนอ
“เอางี้ละกันดาว เดี๋ยวเราไปหาข้าวกินในเมืองนะ เธอขับนำไปเลย เดี๋ยวฉันกับคุณปราบจะ
ตามไป”
“ไม่...” นับดาวหันไปหาปราบ “คุณปราบ มาขึ้นรถฉันดีกว่าค่ะ เราขับไปที่ร้านแล้วให้ยัยเอมี่ตัวแสบ เอ๊ย เอมี่แสนหวานขับตามเราไปละกัน”
“ยังไงก็ได้ครับ แล้วแต่พวกคุณ”
“งั้นคุณมาขึ้นรถเอมี่ดีกว่าค่ะ”
เอมี่จับแขนปราบจะพามาที่รถเธอ นับดาวจับแขนอีกข้างของเขากระชากกลับไป
“ไม่ ไปรถฉันดีกว่า”
“ผมว่าคุณเอมี่เขาเป็นแขกของเรา ให้ผมนั่งไปกับคุณเอมี่...เฮ้ย...”
นับดาวเปิดประตู กระชากเขาเข้ามาผลักเข้าไปนั่ง หัวปราบโขกขอบประตูรถดังโป๊ก เขาร้องลั่น นับดาวไม่สนใจ ปิดประตู
“ขับตามมาละกันนะจ๊ะ”
“ขับช้าๆนะจ๊ะ ขับเร็วเดี๋ยวเอมี่ตามไม่ทัน”
“ได้สิจ๊ะ” นับดาวยิ้มเยาะ

รถนับดาวกับรถเอมี่แข่งกันมาบนถนนหลวง นับดาวเหยียบมิด เอมี่ก็ตามจี้ นับดาวมองกระจกหลัง เห็นเอมี่ตามมา ก็หักเลี้ยวกะทันหันที่สี่แยก เอมี่เลี้ยวตามติด ปราบตกใจหน้าตื่น
“เฮ้ยๆๆ ช้าๆก็ได้คุณดาว คุณจะรีบไปไหน”
“คุณอยู่เฉยๆเลย กินน้ำเข้าไปเยอะๆ มันจะได้เจือจางฤทธิ์ยา ถ้าเกิดยาออกฤทธิ์ตอนนี้ล่ะก็ฉันซวยแน่ๆ...บอกให้กินน้ำเข้าไปเยอะๆไง”
ปราบงงๆ
“อะไรของคุณเนี่ย ก็ได้ๆ กำลังหิวน้ำอยู่ ปราบยกขวดน้ำซดอั้กๆๆ”
นับดาวนึกได้
“เดี๋ยวๆๆๆ นั่นน้ำจากไหนน่ะ”
“ก็ที่คุณเอมี่ให้มาไงครับ”
ปราบยกกินอีก หมดขวดพอดี นับดาวถอนใจ
“เวรกรรมแล้วไง”
นับดาวมองเอมี่ที่กระจกหลัง พยายามเร่งเครื่องสลัดหนี แต่เอมี่ตามจี้ติด ข้างหน้าเป็นสี่แยก ขึ้นไฟเหลือง นับดาวเหยียบขับผ่าแยกออกไป เอมี่จะตามแต่ไม่ทัน รถจากทางแยกพุ่งออกมาแล้ว เอมี่เหยียบเบรกเอี๊ยด ยังยิ้มกระหยิ่ม
“เชอะ...ยัยนับดาวเหลาเหย่ ทีตอนฉันอ่อยคุณจ๊อบ ไม่เห็นแกเป็นเดือดเป็นร้อนขนาดนี้ แค่นี้
ฉันก็รู้สิ่งที่ฉันอยากรู้แล้วล่ะย่ะ”
เอมี่หัวเราะชอบใจ

นับดาวขับรถไป มองปราบไป
“รู้สึกเป็นไงบ้าง”
“ร้อน...”
ปราบปลดกระดุมเสื้อ มองนับดาว หญิงสาวใจไม่ดี
“นี่ จะทำอะไรอ่ะ”
ชายหนุ่มไม่ตอบมองขาอ่อนหญิงสาว นับดาวรู้ตัว ปราบยิ้มให้
“สงสัยยาออกฤทธิ์แล้วสิเนี่ย”
ปราบมองนับดาว แลบลิ้นเลียริมฝีปาก
“อาาาาา”
นับดาวกลืนน้ำลายเอื๊อก มองไปเห็นโรงแรมม่านรูดอยู่ข้างหน้า เธอเลี้ยวขวับเข้าไปทันที
“คุณเลี้ยวเข้ามาทำไมเนี่ย”
นับดาวไม่ตอบ แถมกระเถิบตัวให้ห่างจากเขา เลี้ยวรถเข้ามาจอด เธอรีบลงจากรถ ปราบตามลงมาทันที เด็กวิ่งมารูดม่านปิดให้ เด็กมองปราบแว่บหนึ่ง นับดาวเปิดประตูห้อง จับปราบรุนหลังผลักเข้าไปในห้องปราบงงๆ
“อะไรของคุณคุณดาว”
“คุณเข้าไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อย ให้ฤทธิ์ยามันหมด เสร็จแล้วค่อยออกมา ฉันจะรออยู่ในรถ”
ปราบชะงักมองหญิงสาวอย่างไม่เข้าใจ
“ฤทธิ์ยาอะไร ผมไม่เข้าใจ”
นับดาวไม่ฟังเสียง
“ถ้ายังไม่เสร็จไม่ต้องออกมา”
นับดาวผลักปราบเข้าไป ปิดประตู ปราบเปิดประตู โผล่หน้าออกมา
“ผมว่าคุณเข้าใจอะไรผิดอะไรสักอย่างแล้วล่ะ”
“อย่าโอ้เอ้สิ เข้าไปเดี๋ยวนี้”
นับดาวผลักปราบเข้าไป ดันประตู แต่สู้แรงเขาไม่ได้ ปราบเปิดออกมา กระชากเธอเข้าไป
“จะทำอะไร อย่านะ”
“เข้ามาซะดีๆ”
ปราบปิดประตูปัง

ป้ายวงล้างจานอยู่ มือถือดังขึ้น ป้ายวงรับสาย
“ว่าไง...หา...อะไรนะ คุณปราบเนี่ยนะ แกจำผิดคนรึเปล่า ตาเถร...เออๆๆ ก็เรื่องของเขาแต่ก็ขอบใจนะที่โทรมาบอก”
ป้ายวงวางสาย หน้าซีด
“คุณพระคุณเจ้า ฟังแล้วยวงใจสั่นไปหมดแล้วเนี่ย”
น้อยหน่าอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ถามขึ้น
“มีอะไรเหรอคะยายยวง”
ป้ายวงสะดุ้ง หันขวับมา
“คุณน้อยหน่า...คือ...คือว่า...เอ่อ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ”
“เมื่อกี้หนูได้ยินยายพูดชื่อพ่อหนูด้วยนี่”
“เอ่อ คือหลานยายมันทำงานอยู่ที่ม่านรูดน่ะค่ะ มันโทรมาบอกว่า...บอกว่า...เห็นคุณปราบเข้าไปในม่านรูดกับ...”
น้อยหน่าอึ้ง
“แม่ตะวันวาดเหรอคะ”
“ไม่ใช่ค่ะ”
“ยัยเพชรสี”
“ก็ไม่ใช่อีกค่ะ”
“งั้นก็...”
“คุณนับดาว”
น้อยหน่าหน้าตาเอาเรื่องขึ้นมาทันที

ในห้องของโรงแรมม่านรูด...ปราบยืนเท้าสะเอว ท่าทางเคืองๆ นับดาวยืนอยู่ใกล้ๆ มองเขาอย่างระแวดระวัง
“เชื่อผมเถอะ คุณน่ะโดนเขาอำแล้ว ผมกินน้ำเปล่า ไม่มียาเยออะไรหรอก”
“แต่ตอนอยู่ในรถ คุณบอกร้อน แล้วก็มองฉันแปลกๆ มองขาอ่อนฉันด้วย”
“ก็สงสัยว่าทำไมคุณไม่เปิดแอร์ ไอ้ที่มองน่ะมองแอร์ แอร์เสียรึไง หรือว่าลืม”
นับดาวนึกออก
“อุ๊ย...ใช่ ฉันมัวแต่เครียดเรื่องคุณเลยลืมเปิดแอร์”
“สงสัยอะไรอีกไหมล่ะ”
“เอ่อ...คุณไม่มีอาการอะไรทำนองนั้นจริงๆเหรอ”
ปราบกางมือให้ดูพร้อมหมุนตัว
“เอ้า ดูซะ ผมมีอาการอะไรอย่างที่คุณสงสัยไหม หรือผมต้อง…”
ปราบทำท่าจะถอดเข็มขัด นับดาวรีบห้าม
“ไม่ต้องย่ะ เชื่อก็เชื่อ...งั้นก็กลับบ้านกันเถอะ”
“กลับสิ หรือคุณอยากอยู่ต่อก็ได้นะ ผมไม่รังเกียจ”
“อยู่ไปคนเดียวเถอะ”
“เฮ้อ หมดเรื่องซะที”
นับดาวกับปราบเดินออกมาจากห้อง เจอน้อยหน่ากับปกป้องเปิดม่านเข้ามาพอดี ทั้งสองฝ่ายยืนจ้องกัน น้อยหน่าโวยวายทันที
“พี่ดาว พี่ทำอะไรพ่อหน่า”
ปราบหน้าตื่น
“เฮ้ย เปล่า เขาไม่ได้ทำอะไรพ่อ”
ปกป้องมองหน้าหลานชาย
“งั้นแกก็ต้องทำอะไรคุณดาว”
“เปล่าค่ะ ไม่มีใครทำอะไรใครทั้งนั้นหรอกค่ะ”
ปกป้องไม่เชื่อ
“เชื่อก็บ้าแล้ว”
ปราบพยายามอธิบาย
“มันไม่ใช่อย่างนั้นครับอา...แบบว่า...”
น้อยหน่าจ้องหน้าปราบสลับกับนับดาวแล้วร้องไห้โฮ นับดาวทำหน้าหน่ายใจ


โปรดติดตามตอนต่อไป


หนุ่มบ้านไร่กับหวานใจไฮโซ ตอนที่ 9
 
นับดาวเข้ามาคุยกับน้อยหน่าในห้อง

“หน่าขอโทษค่ะที่เข้าใจพี่ดาวผิดไป”
“ช่างมันเถอะ ความจริงเห็นแบบนั้นมันก็น่าจะเข้าใจผิดอยู่หรอก...ว่าแต่ ท่าทางเธอนี่จะหวงพ่อเอาเรื่องเลยนะเนี่ย”
“หน่าเชื่อว่าวันหนึ่งแม่หน่าจะกลับมาอยู่กับพ่อ”
นับดาวสะดุ้งเล็กๆ
“หน่า คนกับผีน่ะอยู่ด้วยกันไม่ได้หรอกนะ”
น้อยหน่าอึ้งไป
“แม่หน่าตายแล้วเหรอคะ...ใครบอกพี่เหรอคะ...แล้วทำไมพวกเขาไม่เคยบอกหน่า แม่หน่าเป็น
อะไรตายเหรอคะ”
นับดาวเหวอ
“เดี๋ยวๆๆ ก็...ที่คุณปราบอยู่เลี้ยงเธอคนเดียวเนี่ย ไม่ใช่แม่เธอตายไปหรอกเหรอ”
“เปล่าค่ะ ตอนเด็กๆพ่อกับปู่ป้องบอกหน่าว่าแม่ไปเที่ยวแล้วเครื่องบินตก หายสาบสูญ พอ หน่าโตขึ้นหน่อยป้ายวงแอบมาเล่าให้หน่าฟังว่าแม่คลอดหน่าเสร็จก็ทิ้งพ่อไป แล้วก็ไม่มีใครเจอแม่อีกเลย หน่าเพิ่งรู้จากพี่ดาวนี่แหละว่าแม่ตายแล้ว”
นับดาวรีบแก้ตัว
“เปล่าๆงั้นฉันมั่วแล้วล่ะ ฉันเห็นใครๆก็ไม่อยากพูดเรื่องแม่เธอ เลยทึกทักเอาเองว่าแม่เธอตาย”
“เฮ้อ โล่งอก”
“แต่นี่มันยุคไหนแล้ว ถ้าจะหาคนที่หายไปซักคนมันไม่น่าหายากนี่นา”
“หน่ากับตะวันเคยพยายามลองดูแล้วค่ะ แต่ไม่สำเร็จ”
น้อยหน่าเปิดลิ้นชักโต๊ะเขียนหนังสือหยิบอัลบั้มให้นับดาวดู
“รูปแม่ที่พ่อเขาเก็บไว้น่ะค่ะ”
น้อยหน่าเปิดอัลบั้มให้นับดาวดู เป็นรูปปรายฟ้าตอนสาวๆ มีทั้งชุดนางพยาบาล ชุดไปรเวท มีทั้งถ่ายเดี่ยว มีทั้งถ่ายคู่กับปราบ
“แม่เธอนี่สวยมากเลยเนอะ”
“ไม่งั้นพ่อหน่าจะจีบเหรอ”
“พี่ว่าแม่เธอคงมีเหตุผลอะไรซักอย่างที่ทำให้ต้องจากที่นี่ ไปจากผู้ชายดีๆอย่างพ่อเธอ และไปจากลูกสาวที่น่ารักอย่างเธอ”
“หน่าก็อยากรู้ค่ะว่าทำไม...”
นับดาวลูบศีรษะน้อยหน่ารู้สึกสงสารจับใจ

ปราบฉีดยาให้เฉาก๊วย นับดาวดูอยู่ข้างๆถามขึ้นอย่างสงสัย
“เห็นแก้วบอกเฉาก๊วยป่วยหนักเลยเหรอ”
“มันไม่แข็งแรงมาตั้งแต่เกิดแล้ว แต่มันก็ยังสู้นะ นี่ก็ดีขึ้นมากแล้ว”
นับดาวลูบหัวเฉาก๊วย
“เก่งมากลูกแม่”
ปราบเก็บกระเป๋ายา นับดาวมองๆ
“ถามอะไรหน่อยดิ”
“ว่า…”
“คุณยังรักแม่ของน้อยหน่าอยู่รึเปล่า”
ปราบเงียบไป
“ว่าไงล่ะ”
“รัก”
นับดาวฝืนยิ้ม
“คุณเป็นผู้ชายที่น่ารักดี...งั้นถามอีกหน่อยดิ ทำไมเขาถึงจากไปล่ะ”
“ผมก็อยากรู้เหมือนกัน” ปราบบอกเครียดๆ

นับดาวกับปราบลงจากรถเอทีวี เดินมาที่บ้าน นับดาวเปิดประตู เจอชนะชัยกับชัชฎา นับดาวยืนอึ้ง
“สวัสดีดาว เป็นอะไรไปน่ะ หน้าซีดเชียว”
“อ๋อ ไม่มีอะไรค่ะ สวัสดีค่ะคุณแม่”
นับดาวยกมือไหว้ชัชฎาพลางแอบยื่นขาหลังยันปราบที่เดินตามมา ปราบไม่ทันตั้งตัวโดนถีบเซออกไป นับดาวรีบปิดประตูบ้าน
“แหม คุณจ๊อบกับคุณแม่จะมาก็ไม่บอกก่อนเลยนะคะ ตกใจหมดเลย”
“เกรงใจน่ะ เดี๋ยวกลายเป็นว่าต้องให้หนูดาวมาคอยต้อนรับ”
“อุ๊ย ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
มีเสียงทุบประตูปังๆ พร้อมกับเสียงปราบดังมา
“เปิดประตูเดี๋ยวนี้ เรื่องอะไรไม่ให้ผมเข้าบ้าน”
ชัชฎาตกใจ
“ใครเหรอ หนูดาว”
“คนบ้าน่ะค่ะ”
เสียงปราบเงียบไป นับดาวถอนใจโล่งอก
“คุณแม่กับคุณจ๊อบมากันนานรึยังคะ เราออกไปหาอะไรกินกันในเมืองดีไหมคะ ไปกันเลยนะคะ”
“เดี๋ยวสิจ๊ะ แม่เพิ่งมาถึงเอง ขอนั่งพักหน่อย เออ แล้วนี่เจ้าของไร่อยู่ไหม”
“หมายถึงคุณปราบน่ะเหรอคะ”
“ใช่คนนั้นแหละ...คนที่หนูดาวบอกว่าเป็นเกย์น่ะ”
ชนะชัยกระซิบกับนับดาว
“คุณแม่ท่านคิดมาก แล้วสงสัยว่าคุณปราบกับคุณปกป้องเป็นเกย์จริงหรือเปล่า ถ้าเกิดเป็นแบบครึ่งๆกลางคุณแม่กลัวคุณจะแย่เอา”
“ท่านไม่เชื่อดาวหรือคะ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ ท่านกลัวคุณจะหลงกล เลยจะมาช่วยดู”
นับดาวหันคุยกับชัชฎา
“คุณแม่คะ เรื่องของคุณปราบเนี่ย...”
นับดาวยังพูดไม่จบ ก็เห็นปราบเดินเข้ามาจากทางหลังบ้าน เธอรีบวิ่งพรวดผลักปราบออกไป ชัชฎากับชนะชัยไม่ทันเห็นปราบ มองตามนับดาวไปงงๆ นับดาวโผล่หน้ามา
“เดี๋ยวมานะคะ แป๊บนึงค่ะ”
นับดาวหายหน้ากลับไป

นับดาวพาปราบออกมานอกบ้าน เอานิ้วชี้ทาบริมฝีปากทำนองให้เบาๆ แต่ปราบไม่สนใจ สะบัดมือนับดาวออก
“ไม่ต้องมาชู่ว์มาใส่ผม นี่บ้านผม ผมจะแหกปากยังไงก็ได้ แล้วจะไปไหนก็ได้ด้วย ไม่ต้องมาทำเป็นห้ามผมเลย”
“คุณปราบ ฟังก่อนสิ ฉันมีเรื่องขอร้อง เป็นเรื่องคอขาดบาดตายมาก”
“จะมาไม้ไหนอีกเนี่ย”
นับดาวมองซ้ายขวา แล้วกระซิบข้างหู ปราบตาโต
“คุณจะบ้าเหรอ ให้ผมเป็นเกย์เนี่ยนะ”
“น่านะ ฉันขอร้อง”
“ไม่”
ปราบเปิดประตู ทำท่าจะเดินเข้าบ้าน
“ถ้าไม่ยอมล่ะก็...”
ปราบจ้องหน้า
“ทำไม จะวางยาฆ่าไก่ผมอีกเหรอไง”
“เปล่าฉันจะ...จะฆ่าตัวตาย”
“เชิญตามสบาย ผู้หญิงโรคจิตอย่างคุณฆ่าตัวตายไปเกิดใหม่น่ะถูกต้องแล้ว ผมจะอุทิศส่วนกุศลไปให้ ขอให้คุณได้เกิดใหม่เป็นคนปกติธรรมดาๆ ไม่ใช่ผู้หญิงจอมปลอมที่วันๆเอาแต่สร้างภาพโกหกตอหลดตอแหลไปวันๆตลอดชีวิตแบบนี้ คุณรู้ตัวมั้ยว่าชีวิตคุณมันน่าสมเพชแค่ไหน”
“งั้นฉันจ้างก็ได้อ่ะ”
“ไม่”
“คุณปราบ ที่ผ่านมาฉันช่วยคุณมาตั้งเยอะแล้วนะ มันไม่มีความหมายอะไรกับคุณเลยเหรอ”
“คุณก็ทำแสบกับผมไว้เยอะเหมือนกัน อาจจะเยอะกว่าด้วย”
“นะๆคุณปราบ ฉันขอร้อง”
นับดาวซึมไป ค่อยๆบีบน้ำตาออกมาหนึ่งหยด ปราบชะงัก นับดาวเห็นได้ผลเลยร้องไห้สะอึกสะอื้นน้ำตาไหลพราก ปราบอดใจอ่อนไม่ได้
“เอางี้ ... ผมจะหลบหน้าพวกเขาละกัน คุณอยากโกหกอะไรเกี่ยวกับผมก็โกหกไป ผมไม่อยู่ให้ เขามาคาดคั้นผมหรอก แบบนี้โอเคมั้ย”
“เอาอย่างนั้นก็ได้ค่ะ...ขอบคุณคุณมากนะ”
นับดาวทำท่าจะจุ๊บแก้มขอบคุณ ปราบมองหน้า
“นี่คุณจะทำอะไรผม”
“ฉันแค่จะจุ๊บขอบคุณคุณเท่านั้นแหละน่า”
ปราบจ้องหน้า นับดาวชักเกร็ง
“เอา จุ๊บสิ ไหนบอกจะจุ๊บ”
นับดาวจ้องหน้าเขาชักเขิน
“ไม่เอาแล้ว ยังไงก็ขอบคุณค่ะ”
นับดาวเดินกลับเข้าไปในบ้าน ปราบมองตามไปรู้สึกเขิน

นับดาวกลับเข้ามาในบ้าน แล้วรีบบอก...
“คุณปราบเขาคงยุ่งอีกพักใหญ่ๆเลยล่ะค่ะ”
ชัชฎามองนับดาวแบบรู้ทัน
“มีคนบอกแม่ว่าคนชื่อปราบน่ะไม่ใช่เกย์ แล้วเธอก็ชอบนายปราบคนนี้ด้วย”
นับดาวพึมพำกับตัวเอง
“ยัยเอมี่...” นับดาวหันไปพูดกับชัชฎา “ดาวไม่รู้ไม่หรอกค่ะว่าใครพูด แต่เรื่องที่เขาพูดน่ะมันไร้สาระมากเลยค่ะ”
ชนะชัยรีบเสริม
“ผมก็พยายามบอกแม่แล้ว แต่แม่ไม่ยอมเชื่อผมเลย”
“ถ้านายปราบไม่ใช่เกย์ การที่เธอมาอยู่ที่ไร่กับเขาแบบนี้ก็แปลว่าเธอชอบเขา นี่คิดจะเหยียบเรือสองแคมเหรอ...เธอเป็นอย่างที่ฉันพูดรึเปล่า”
“ดาวไม่สนหรอกค่ะว่าคุณแม่ไปฟังใครมาและยัยคนนั้นพูดอะไรบ้าง ดาวขอยืนยันว่าความสัมพันธ์ของดาวกับคุณจ๊อบยังเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง และดาวก็ไม่ได้ชอบคุณปราบ และอีกอย่างคุณปราบก็เป็นเกย์และแฟนเขาก็คือคุณปกป้อง ทุกสิ่งที่ดาวพูดคือความจริงทั้งหมดค่ะ”
ชัชฎามองนับดาว เริ่มสับสนว่าจะเชื่อนับดาวดีไหม
“ฉันจะไม่เชื่อใครง่ายๆหรอก นอกจากฉันจะเห็นด้วยสายตาตัวเอง”
“ถ้าคุณแม่คิดว่าการเป็นเกย์หรือไม่เกย์ดูกันได้ง่ายๆน่ะ คุณแม่คิดผิดแล้วค่ะ”
“เธอมีเหตุผลอะไรที่ไม่ให้ฉันเจอคุณปราบ”
“ก็เขาไม่ว่างนี่คะ เอางี้ละกันค่ะเพื่อให้คุณแม่สบายใจ เอาเป็นว่า...ตอนนี้เชิญคุณแม่กับคุณจ๊อบกลับไปก่อน ดาวต้องไปช่วยคุณปราบดูแลเฉาก๊วย แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ เดี๋ยวเรากินมื้อเย็นด้วยกัน ดาวจะหาวิธีพิสูจน์ว่าคำพูดของดาวเป็นความจริงเองค่ะ”
ชัชฎามองหน้านับดาว นับดาวไม่หลบตา
“ตกลง”
ชัชฎาลุกเดินออกไป ชนะชัยแอบทำท่าให้กำลังใจนับดาวสู้ๆ นับดาวยิ้มให้ ชนะชัยเดินออกไป รอยยิ้มบนใบหน้านับดาวหายไป กลายเป็นหน้าระทม กุมขมับ
“แล้วฉันจะทำยังไงดีเนี่ย”

โปรดติดตามตอนต่อไป

หนุ่มบ้านไร่กับหวานใจไฮโซ ตอนที่ 9
 

นับดาวกลุ้มใจมากจึงโทรไปขอร้องให้อลิสาช่วย

“น้าอะซ่าคะ มีแต่เขาคนเดียวแล้วล่ะค่ะที่ช่วยเราได้ ช่วยดาวหน่อยนะคะ...ดาวคิดวิธีอื่นไม่ออกจริงๆ ไม่งั้นดาวคงไม่ขอให้น้าอะซ่าทำแบบนี้หรอกค่ะ...ดาวเข้าใจค่ะ ถ้าน้าทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ พอคุณชัชฎากับคุณจ๊อบรู้ว่าคุณปราบไม่ใช่เกย์ก็คงเชื่อตามข่าวลือว่าดาวมามั่วกับคุณปราบที่นี่ แล้วคุณจ๊อบก็คงเลิกกับดาว เกมส์โอเว่อร์กันไป”
นับดาววางสาย เป่าปากหนักใจ...อลิสาวางสายจากนับดาวอย่างสับสน ขบคิดอยู่ครู่ใหญ่ หยิบมือถือขึ้นมาอีกครั้ง กดโทรออก สักครู่อีกฝ่ายก็รับสาย
“สวัสดีค่ะคุณปกป้อง...”

ในห้องน้ำของโรงแรม...อลิสาอยู่ในชุดดูเซ็กซี่ ส่องกระจกแต่งหน้า น้ำตาร่วง เธอรีบเช็ดน้ำตา พยายามทำใจ แล้วแต่งหน้าต่อ
อลิสาเดินมาที่ล็อบบี้โรงแรม เข้ามาคุยกับปกป้องที่รอเธออยู่ก่อนแล้ว
“ผมทำไม่ได้หรอกครับถึงจะเป็นคุณอะซ่าขอให้ผมทำก็เถอะ แต่ให้ผมเล่นเป็นเกย์ให้คนอื่นดูเนี่ย ผมคงทำไม่ได้ ไม่ใช่รังเกียจเกย์ ตุ๊ด กะเทย ประเทือง อะไรทั้งนั้น แต่ผมเป็นลูกผู้ชายเต็มตัว ผมไม่โกหกคนอื่น ผมไม่เป็นก็คือไม่เป็น”
“ฉันเข้าใจค่ะว่าฉันขอคุณเป๊บปี้มากเกินไป ฉันลำบากจริงๆ นะคะถ้าแฟนของยัยดาวเขารู้ว่าคุณปราบไม่ได้เป็นเกย์ เขาคงขอเลิกกับยัยดาวแน่ๆ”
“ถ้าเรื่องแค่นี้ไม่เชื่อใจกัน ก็อย่าเสียเวลาไปคบกับมันเลยครับบอกคุณดาว”
“เลิกไม่ได้ค่ะ นับดาวมีความจำเป็นต้องแต่งงานกับเขา...ถึงขั้นนี้แล้ว ฉันจะเล่าให้คุณเป๊บปี้ฟังทั้งหมดก็ได้ว่าฉันกับดาวเนี่ย ความจริงแล้วเรา...”
ปกป้องยกมือปราม
“ถ้าเป็นเรื่องภายในของครอบครัวคุณ คุณไม่ต้องเล่าให้ผมฟังก็ได้ครับ ผมเชื่อว่าคุณมีความ
จำเป็น แต่ผมก็ยังยืนยันคำตอบเดิมครับว่าผมช่วยคุณไม่ได้”
“คุณเป๊บปี้คะ ถ้าคุณช่วยฉัน...ฉัน...”
อลิสาสะอึกพูดต่อไม่ได้ ปกป้องมองหน้า
“คุณจะ”
“ฉันจะให้ทุกอย่างที่คุณต้องการ”
อลิสาวางกุญแจห้องพักลงบนโต๊ะ ปกป้องใช้เวลาครู่หนึ่งจึงเข้าใจความหมาย
“คุณดูถูกตัวเองมากเลยรู้มั้ย”
“ฉันรู้ค่ะ”
“แล้วคุณยังดูถูกผมด้วย”
“ฉันขอโทษค่ะ”
“มันจำเป็นขนาดนั้นเลยเหรอครับ คุณถึงต้องทำอย่างนี้”
“ฉันรักนับดาวค่ะ”
ปกป้องมองอลิสา หยิบกุญแจห้องมา อลิสาดีใจ
“คุณยอมช่วยฉันแล้วใช่ไหมคะ”
ปกป้องวางกุญแจคืนให้อลิสา
“คุณเอาคืนไปเถอะครับ ผมไม่ใช่ผู้ชายฉวยโอกาส”
อลิสาหน้าเสีย รับกุญแจคืนไป ลุกขึ้น เดินจากไป ปกป้องเรียกไว้
“เดี๋ยว”
อลิสาชะงัก
“คะ”
“ผมจะช่วยคุณ”
“แต่ว่า...”
“ผมไม่ต้องการสิ่งตอบแทนอะไรแบบนั้นหรอก แค่ให้คุณเลิกกลุ้ม ยิ้มออกได้ ผมก็พอใจแล้ว”
อลิสายิ้มดีใจ

ค่ำนั้น นับดาว ชนะชัยและชัชฎานั่งรออยู่ในร้านอาหาร ชัชฎาชักหงุดหงิด
“เรารอนานแล้วนะ”
“เอ่อ ปกติเขาเป็นคนตรงต่อเวลามากเลยนะคะ แต่ เอ...”
ชัชฎามองหน้านับดาว
“เธอพยายามปิดบังอะไรอยู่”
“ไม่มีค่ะ ดาวบริสุทธิ์ใจจริงๆ”
ชนะชัยรีบแย้ง
“คุณแม่ครับ คุณดาวไม่ใช่คนแบบนั้นหรอกครับแม่”
ชัชฎามองหน้านับดาว นับดาวยิ้มให้
“ฉันว่าเธอถ่วงเวลาไปงั้นแหละ ดูเธอไม่มั่นใจเลยนะ” ชัชฏาหันไปบอกลูกชาย “เรากลับกันเถอะ”
แต่ก่อนที่ชัชฎาจะลุก ปกป้องก็เดินเข้ามา แม้แต่นับดาวยังแอบประหลาดใจ ปกป้องมาในชุดเนี้ยบ เชิร์ตม่วงรัดรูป ปลดกระดุมโชว์แผงอก เหน็บแว่นกันแดดแร่ดๆ กางเกงลายเสือ รองเท้าหนังสีเขียว เดินเชิ่ดเข้ามา โบกมือสะบัดแล้วเข้ามากอดนับดาว
“ไฮ นับดาว”
นับดาวยกมือไหว้
“หวัดดีค่ะอาป้อง”
ปกป้องค้อน
“บอกให้เรียกเป๊บปี้ไง”
ชัชฎาอึ้งไป
“นี่เหรอนายปราบ”
ปกป้องยิ้มให้
“ไม่ใช่ครับ นี่ปราบ's boy friend ครับ”
นับดาวรีบแนะนำ
“อาเป๊บปี้คะนี่คุณชัชฎา แม่คุณจ๊อบ นี่คุณจ๊อบ ที่อาเป๊บปี้เคยเจอมาแล้วไงคะ”
“บองชู้...มาดาม อยากบอกว่าลูกชายมาดามน่าหม่ำมาก”
ชนะชัยแปลกใจ
“วันก่อนเราเจอกัน คุณป้องไม่ได้เป็นแบบนี้นี่ครับ”
ปกป้องหัวเราะเสียงแหลม
“อยู่ในไร่แต่งตัวแบบนี้ก็โดนฝูงพฤกษภผกาสรไล่กระทืบจมพสุธาสิครับ”
ชัชฎามองปกป้องแบบพินิจพิจารณา โดนปกป้องมองกลับด้วยสายตาแบบเดียวกัน ทำเอาชัชฎาสะดุ้งเล็กๆ
“มองหาเห็บเหาอะไรเหรอครับ”
“เอ่อ เดี๋ยวนะคะ”
ชัชฎาเปิดกระเป๋าหยิบโพยออกมามีรายชื่อเพลง ปกป้องถือวิสาสะหยิบโพยมาดู ชัชฎาตกใจ
“เสียมารยาทมาก เอาคืนมานะ”
“อะไรเนี่ย มีแต่ชื่อเพลง...อ๋อ คงมีคนบอกมาดามสิครับว่าถ้าเป็นเกย์ต้องร้องเพลงพวกนี้ได้”
นับดาวพึมพำ
“ยัยเอมี่อีกล่ะสิ”
“จะไอเดียใครก็เถอะ...เธอร้องได้มั้ยล่ะ อย่าบอกนะว่าร้องไม่เป็น”
ปกป้องยิ้มแย้ม
“แค่ร้องเฉยๆจะไปมันอะไร้”

คาราโอเกะ อินโทรขึ้นเร้าใจ ปกป้องถือไมค์วาดลวดลายแด๊นซ์สเต็บเทพ ท่าออกเกย์ๆ ปกป้องร้องเพลง ลีลาสนุกสนานเร้าใจ บรรยากาศการร้องเพลงของปกป้องสนุกมากจนทุกคนเริ่มขยับมือขยับเท้า และสนุกมากขึ้นเรื่อยๆจนนับดาว ชนะชัย และ ชัชฎายังอินปรบมือตามไปด้วย ปกป้องมาชวนชัชฎาไปเต้นด้วย ชัชฎาร้องวี้ดว้าย แต่ในที่สุดก็หลุด เต้นไปด้วย

หลังจากสนุกสนานกันจนอิ่มใจแล้ว ปกป้องควงชัชฎาอย่างสนิมสนมออกมาจากร้าน ชนะชัยกับนับดาวเดินตามออกมา
“เป็นไงบ้างครับมาดาม หัวใจจะวายเหรอครับ”
“ใช่ เธอแย่มากเป๊บปี้ หัวใจฉันจะวายจริงๆ โอ๊ย เหนื่อย”
“อย่ามาอำเลยครับ ผมดูออกว่ามาดามยังไหวอยู่...ฟิตเปรี๊ยะเลย”
ปกป้องขยำก้นชัชฎา ชนะชัยตกใจ อ้าปากหวอ ชัชฎาก็ตะลึง
“เธอ...เธอบังอาจมาก แต่รู้อะไรมั้ย ฉันไม่ยักโกรธแฮะ”
ชัชฎาหัวเราะกับเพื่อนสาว แล้วหันไปหานับดาว
“เขาเป็นเกย์ที่น่ารักอย่างคิดไม่ถึงเลยนะ หนูดาวว่ามั้ย”
“นั่นน่ะสิคะ ดาวก็คิดไม่ถึงจริงๆค่ะ”
“งั้นฉันกับจ๊อบกลับก่อนนะ”
นับดาวยกมือไหว้
“ค่ะ สวัสดีค่ะ”
“จ้ะ สวัสดี...ส่วนเรื่องหุ้น ฉันยังให้โอกาสเธออยู่นะ แต่อย่าให้นานมากล่ะ เกรงใจคนอื่นที่เขาอยากได้”
“ค่ะ”
ชัชฎาหันมาบ๋ายบายปกป้อง ปกป้องหลิ่วตาให้ ชนะชัยหันมาหานับดาวด้วยสายตาอ้อนวอน
“คุณดาวครับ ยังไงอย่าอยู่ที่นานเลยนะครับ ผมคิดถึงแล้วก็เป็นห่วง”
“ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ แค่คำพูดของจ๊อบก็ทำให้ดาวรู้สึกอบอุ่นใจและมีกำลังใจมากเลยค่ะ”
ชนะชัยยิ้มให้ เดินขึ้นไปรถไปกับชัชฎา ก่อนจะขับรถออกไป ปกป้องกับนับดาวมองตามจนรถลับตาไป
“อาป้องคะ...ดาว...ดาวขอบพระคุณมากค่ะ”
นับดาวไหว้ปกป้อง
“ไปขอบคุณน้าอะซ่าของคุณเถอะ”
นับดาวเงียบไป หน้าหมอง ปกป้องเดาความคิดนับดาวออก
“ไม่มีอะไรอย่างที่คุณคิดหรอก ผมช่วยเขาด้วยความบริสุทธิ์ใจ น้าคุณรักคุณมากนะ”
ปกป้องเดินจากไป....ปกป้องเดินมาจะขึ้นรถ อลิสารออยู่แถวนั้นก่อนแล้ว เธอเดินออกมาหา
“คุณอะซ่า”
“เมื่อกี้ฉันแอบดูอยู่ ฉันเห็นทุกอย่างแล้วค่ะ”
ปกป้องออกอาการเซ็ง
“ก็บอกแล้วว่าอย่ามาดู ว้า...เห็นเลยผมแต๋วแตกเลย”
“ใครบอกล่ะคะ คุณแมนมากเลย ที่คุณทำก็เพื่อช่วยผู้หญิงที่กำลังเดือดร้อน อีกอย่างสิ่งที่คุณ
ทำน่ะมันก็ไม่ได้ทำกันง่ายๆเลย”
“ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ตอนอยู่ที่อเมริกาผมเคยเป็นตัวประกอบเล่นหนังด้วย คนเอเซียหน้าตาแบบผมมีไม่มากเท่าไหร่ เลยได้เล่นบทหลายบท แต๊ดแต๋กว่านี้ก็เคยเล่นมาแล้ว”
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ...เป๊บปี้คะ อยากบอกว่าคืนนี้คุณได้ใจฉันไปเต็มๆเลยค่ะ”
ปกป้องเดินเข้ามาหาอลิสา
“ประโยคบอกรักของคุณเร้าใจผมมาก”
“เอ่อ มันไม่ใช่ประโยคบอกรักนะคะ แค่จะบอกว่าฉันรู้สึกดีกับคุณน่ะค่ะ”
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ มันก็เร้าใจผมอยู่ดี งั้นเรารีบไปโรงแรมกันดีกว่าครับ”
“เอ่อ คือฉันไม่ได้อยากเข้าห้องน้ำอะไรนะคะ”
“ครั้งนี้ไม่ได้จะพาคุณไปเข้าห้องน้ำนี่ครับ”
อลิสามองหน้า ปกป้องยิ้มกรุ้มกริ่ม
“จะชวนไปทำไม พูดชัดๆได้มั้ยคะ ฉันไม่อยากเข้าใจผิดอีก”
“ผมจะชวนคุณอะซ่าไปฟีเจอริ่ง...คุณกับผม”
“โอเค ทีนี้ไม่เข้าใจผิดแน่นอน”
ปกป้องยักคิ้ว อลิสาตบหน้าฉาด
“เห็นฉันเป็นผู้หญิงใจง่ายนักหรือไง”
อลิสาเดินกะฟัดกะเฟียดออกไป ปกป้องงงๆ

โปรดติดตามตอนต่อไป


หนุ่มบ้านไร่กับหวานใจไฮโซ ตอนที่ 9
 

ค่ำคืนนั้น...ปราบนอนไม่หลับ จิตใจไม่สงบ ไม่สามารถข่มตาหลับได้

“ไม่น่าแอบตามไปดูเล้ย”
ปราบนึกถึงภาพในร้านอาหาร...ปกป้องกำลังร้องเพลงวาดลวดลายเกย์อยู่บนเวที ปราบก็ซุ่มนั่งอยู่ในร้านด้วย มองไปบนเวที
“อาป้อง...อาไปไกลมากนะเนี่ย”
ปราบรู้สึกรับไม่ได้กับภาพที่เห็น เขานอนลืมตาโพลงอยู่บนเตียง
“ภาพมันติดตาจนนอนไม่หลับเลย”

วันใหม่...นับดาวนั่งเล่นอยู่ตรงมุมโปรดของเธอ ปราบเดินมานั่งข้างๆ
“อยากกลับกรุงเทพมั้ย”
“ทำไมอยู่ดีๆถามแบบนี้ล่ะ”
“ช่วงนี้ไร่ผมวุ่นวายเหลือเกิน”
“เอ่อ หมายถึงคนพวกนั้นใช่มั้ย”
นับดาวพูดถึงชัชฎากับชนะชัยมาหาที่ไร่ ปราบพยักหน้า
“ฮึ กะมาพูดให้ฉันรู้สึกผิดแล้วก็ถอนตัวกลับกรุงเทพ ถึงตอนนั้นคุณก็จะบอกว่าฉันทำผิดสัญญา จะได้ไม่ต้องขายที่ให้ฉันใช่ไหมล่ะ ไม่มีทาง”
“คุณดาว อย่าเอานิสัยของคุณมาเดาความคิดคนอื่นสิ ผมไม่ใช่คนเจ้าเล่ห์เพทุบายแบบคุณนะ”
“หลอกด่าฉันอีกเหรอเนี่ย”
“ผมว่ามันจะเป็นการดีกับเราทั้งสองฝ่าย ถ้าคุณจะกลับไปกรุงเทพสักพักหนึ่ง พวกผมก็จะได้อยู่กันอย่างสงบสุข ไม่ต้องคอยเล่นละคร เดี๋ยวก็ต้องเป็นญาติโรคจิต เดี๋ยวก็ต้องเป็นเกย์ ส่วนคุณก็จะได้สบายใจ ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาจับโกหกคุณที่นี่ได้”
“แล้วเรื่องสัญญา...”
“ก็ถือว่าเป็นช่วงอุ๊บอิ๊บไปละกัน โอเคมั้ย”
“มีลูกไม้อะไรรึเปล่าเนี่ย”
“จริงใจสุดๆเลยครับ”
นับดาวมองหน้าเขา ชั่งใจครู่หนึ่ง
“ตกลงก็ได้ ฉันขอเวลาสักพัก ไม่นานหรอก แล้วจะรีบกลับมาอยู่ให้ครบตามสัญญา ยังไงฉันก็ยังต้องการที่ของพ่อฉันอยู่”
“ตามสบายครับ” ปราบบอกอย่างตัดสินใจ

นับดาวตัดสินใจกลับกรุงเทพ ก่อนที่เธอจะกลับ เธอไปกอดเฉาก๊วยด้วยความคิดถึง
“บ๋ายบายนะเฉาก๊วย แข็งแรงๆนะ”
นับดาวหันมาหาปราบที่ถือเชือกเฉาก๊วยอยู่ข้างๆ
“ดูแลเฉาก๊วยดีๆด้วยล่ะ”
“คุณจะสั่งทำไม นี่มันม้าผม ผมต้องดูแลมันอยู่แล้ว”
“เชอะ”
นับดาวค้อนแล้วจะเดินไปขึ้นรถ ปราบเรียกไว้
“เดี๋ยว เอานี่ไปด้วย”
ปราบยื่นซองใส่รูปให้
“อะไร”
“วีซ่ากลับเข้าวงการของคุณ”
นับดาวเปิดซองออกดู เป็นรูปถ่ายใบหนึ่ง นับดาวเห็นรูปแล้วอึ้งไป
“นี่มัน...”
“ผมถ่ายไว้ได้โดยบังเอิญ”
“ขอบคุณนะ”
“ไม่เป็นไร...โชคดีนะครับ”
นับดาวยิ้มให้ แล้วเดินขึ้นรถขับออกไป ปราบส่ายหน้าระอาใจ พาเฉาก๊วยเดินกลับเข้าคอก ทั้งสองแยกกันไปคนละทาง นับดาวหันกลับไปมอง ปราบเดินไปตามทางของเขา นับดาวขึ้นรถขับจากมา ปราบหันกลับไปมองจนรถนับดาวลับสายตา

นับดาวขับรถเข้ามาในใจกลางเมืองกรุงเทพ รถติดมาก
“อา...กลับมาบ้านแล้ว กรุงเทพที่คิดถึง มีทั้งรถติด ควันพิษ ตึกเบียดๆกันคนหน้าเครียด...กรุงเทพจ๋า นับดาวกลับมาแล้วจ้ะ”
สัญญาณไฟเขียวมีรถจะปาดหน้า นับดาวกดแตรลั่น
“เฮ้ย อะไรวะ ขับดีๆไม่เป็นเหรอ ถนนเป็นของแกคนเดียวรึไง”
นับดาวขับต่อไป

ค่ำนั้น...อลิสาเคาะประตูแล้วโผล่หน้าเข้ามา
“ดาวจ๊ะ ใกล้เสร็จรึยัง เดี๋ยวจะไปงานคุณหญิงสายนะ”
“จวนแล้วค่ะ แต่งหน้าอีกแป๊บนึงค่ะ”
“เอาเนี้ยบๆเลยนะ งานนี้สื่อมากันเพียบ รับรองรุมถ่ายรูปเธอกันใหญ่...การกลับมาอีกครั้งของนับดาว ว๊าวแซบ ซีเล็บสาวสุดแซบของวงการ”
นับดาวยิ้มเล็กน้อย แต่งหน้าต่อไป

ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ปิดร้านเพื่อจัดงานวันเกิดให้กับคุณหญิงที่จัดงานประมูลรูป ผู้คนในงานกำลังสรวลเสเฮฮากัน แขกคนหนึ่งหันมาเจอใครบางคน ก็หยุดมอง พวกที่คุยอยู่ในวงก็หันมา แล้วก็ประหลาดใจแกมทึ่ง คนเกือบทั้งงานหยุดคุยชั่วครู่ หันมามองนับดาวที่เดินนำอลิสาเข้ามาในงาน สื่อมวลชนเห็นเธอแล้ว รีบกรูเข้ามาหานับดาวทันที นับดาวเดินไปหาคุณหญิงที่ยืนคุยกับแขกอยู่ ยกมือไหว้อย่างนอบน้อม
“สวัสดีค่ะคุณหญิง”
คุณหญิงยิ้มแย้มรับไหว้
“หนูดาว สวัสดีจ๊ะ กลับเข้าวงการเมื่อไหร่จ๊ะเนี่ย”
“งานนี้งานแรกเลยค่ะ เพื่อคุณหญิงของดาว”
นับดาวส่งของขวัญให้ คุณหญิงรับมา แล้วสวมกอดกับนับดาว สื่อมวลชนรุมถ่ายรูปกันพึ่บพั่บ
“นับดาวยิ้มหน่อยครับ”
เอมี่เดินกรีดกรายเข้ามาในงาน กลุ่มสื่อแตกเป็นช่องให้ทั้งสองเจอหน้ากัน
“ต๊าย ตายๆๆๆ ดาวจริงๆเหรอเนี่ย กล้าเสนอหน้า เอ๊ย...กลับมาออกงานตั้งแต่เมื่อไหร่จ๊ะเนี่ย”
“ก็เพิ่งวันนี้แหละจ้ะเพื่อนเอมี่”
“ดีใจด้วยนับดาว หายหน้าไปตั้งเดือนสองเดือน คนเขาคงลืมหมดแล้วล่ะว่าเธอเคยกระชาก
เสื้อฉันหลุดบนแคตวอล์กน่ะ”
“ไม่เอาน่า เอมี่ เรื่องมันแล้วไปแล้ว อย่าพูดถึงมันได้มั้ย”
“อุ๊ย...ขอโทษ หลุดปากไป นั่นสินะ เดี๋ยวคนเขาจะจำได้ว่านอกจากนั้นแล้วเธอยังตบหน้าฉันแล้วจะเอาสนับมือชกหน้าฉันอีก ขอต้อนรับกลับเข้าสู่สังคมของคนที่เจริญแล้ว ไม่ใช้อาวุธทำร้ายคนอื่นอย่างป่าเถื่อนนะจ๊ะเพื่อน”
นับดาวหน้าเสีย
“พี่ๆสื่ออย่าเอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่เลยนะคะ สงสารเพื่อนนับดาวเขาแค่อิจฉาเอมี่ที่สวยกว่าดัง
กว่า เลยต้องทำอะไรแบบนั้น แต่เอมี่ก็ให้อภัยเขานะคะ...ฉันยกโทษให้เธอจ้ะดาว”
เอมี่กางแขนเข้ามากอด นับดาวฉากหลบ เอมี่เสียหลักเซไป
“ว้า บอกแล้วไงว่าอย่าพูดเรื่องนี้...แต่ในเมื่อเธอพูดมันขึ้นมา...ก็ดี ดาวมีอะไรจะให้พี่ๆสื่อดู
ด้วยค่ะ”
นับดาวพยักหน้าให้ อลิสาเข้ามาส่งซองขนาดซองจดหมายที่เตรียมมาเป็นปึก ให้นักข่าวคนละซอง
“จำสถานที่ได้ใช่ไหมคะ งานการกุศลวันที่มีเรื่องกันน่ะค่ะ พี่ๆสื่อมวลชนคงจำได้นะคะ ว่านี่คือรูปที่ถ่ายตอนนางแบบซ้อมเดินก่อนงานเริ่ม”
นักข่าวเปิดซองเอารูปออกมาดู แล้วก็เริ่มมีเสียงฮือฮา พากันมองหน้าเอมี่แปลกๆ เอมี่เอะใจ รีบหยิบรูปใบหนึ่งจากนักข่าวมาดูเธอถึงกับหน้าเหวอไป เพราะเป็นรูปที่ถ่ายตอนซ้อมเดินบนเวที เห็นที่กระเป๋ากางเกงของเอมี่มีสนับมือเสียบอยู่

เหตุการณ์ที่ผ่านมา...สไตลิสต์เดินนำพวกนางแบบ ซึ่งมีนับดาวกับเอมี่รวมอยู่ด้วย เป็นการซ้อมคิว พวกนางแบบจึงใส่ชุดตามสบาย สื่อมวลชนจึงไม่ให้ความสนใจ มีเพียงปราบที่หยิบกล้องหามุมสวยๆถ่าย ปกป้องเข้ามาแซว
“เฮ้ย...นี่เขาแค่ซ้อม ยังไม่เอาจริง แกดูดิ ไม่มีใครเขาถ่ายรูปซักคน”
“อย่างนี้สิครับน่าสนใจกว่า”
ปราบเล็งกล้องถ่าย แล้วก็เจอนับดาว ปราบรู้สึกเธอสวยและสง่ามาก จนตะลึงไปชั่วครู่ ก่อนกดชัตเตอร์ถ่ายรูป แต่นับดาวไม่ได้สนใจหรือเห็นปราบเลย แล้วก็เลยไปถ่ายนางแบบคนอื่นๆ ถ่ายบรรยากาศรวมๆของแคตวอล์ก มีรูปหนึ่งซึ่งถ่ายติดเอมี่ขณะเดินหันหลังให้ เห็นสนับมือ

เอมี่รีบปรับสีหน้า หัวเราะด้วยความขบขัน
“อู๊ย อย่าบอกนะคะว่าเชื่อกันน่ะค่ะ นี่มันรูปตกแต่งในคอมพ์ชัดๆ ดูแสงเงาสิคะ เฟคมากเลยค่ะ”
“กะอยู่แล้วว่าเพื่อนเอมี่ต้องพูดแบบนี้”
นับดาวหันมาสบตากับอลิสา อลิสาหยิบซองพลาสติกเล็กๆออกมา เปิดซองออกหยิบฟิล์มสไลด์ที่ถูกตัดแบ่งออกมาให้นักข่าวคนหนึ่งที่ดูเป็นเซียนไอที
“อ่ะ นี่ฟิล์มต้นฉบับค่ะ ย้ำว่าฟิล์ม...ให้พี่ต้อมดูแล้วกันนะคะ ในฐานะที่พี่เชี่ยวชาญเรื่องนี้”
นักช่าวรับไป หยิบแว่นส่องพระออกมาดูอย่างพิจารณา
“ของจริงครับ”
คนอื่นๆฮือฮา นักข่าวคนหนึ่งหันไปถามเอมี่
“คุณเอมี่คะ สรุปว่าสนับมือนั่นของคุณใช่ไหมคะ”
เอมี่ไม่พอใจ
“ของใครก็ไม่รู้สิคะ พี่ต้อมลองดูดีๆสิคะว่ามีชื่อเอมี่ติดอยู่รึเปล่า ถ้ายังไม่มีจะได้ให้เขาเอา
กลับไปแก้ใหม่...เดี๋ยวนี้เขาสร้างไดโนเสาร์ สร้างจานบิน 3 มิติ 4 มิติ เหมือนจริงซะยิ่งกว่าของจริงอีก กะอีแค่สนับมือแค่นี้ขนมๆค่ะ”
เอมี่พูดจบก็เดินออกไป นับดาวยิ้มอย่างผู้ชนะ นักข่าวรุมถ่ายรูปเธอกันใหญ่

นับดาวเดินมากับอลิสาออกมาจากงาน
“งานวันนี้เราเอาชนะยัยเอมี่ขาดเห็นๆ อย่างนี้เธอไม่ต้องกลับไปที่ไร่ปรีดาแล้วก็ได้”
“ทำไมล่ะคะน้าอะซ่า”
“ก็ถ้าเราเคลียร์เรื่องที่ทำร้ายยัยเอมี่ได้ เราก็กลับไปรับงานได้เหมือนเดิม น้าจะบอกฟู่ของานเยอะๆหน่อย ยิ่งวันก่อนฟู่บอกมีคนอยากจะให้ดาวไปเล่นละครทีวีด้วยนะ รายได้ดีเลยล่ะ ไม่ต้องกลับไปที่ไร่แล้ว ดีมั้ย”
“ไม่เอาค่ะ ดาวอยากกลับไปที่ไร่”
“ไปเหนื่อยโกยขี้วัวลมๆแล้งๆให้เขาแกล้งแบบนั้นน่ะเหรอ”
“แหมน้าอะซ่าค่ะ ไหนๆก็เหนื่อยมาแล้ว เหนื่อยต่ออีกนิดเดียวเอง ดาวจะหาวิธีให้นายปราบยอมขายที่ได้”
นับดาวเดินแซงหน้าไป อลิสามองตาม รู้สึกเอะใจกับความคิดของนับดาว
“หรือว่าเธอ...ไม่มั้ง เป็นไปไม่ได้หรอก”
อลิสาส่ายหน้ากับความคิดตัวเอง แล้วรีบเดินตามนับดาวไป

วันใหม่...ปราบเดินผ่านกรงตัวเงินตัวทอง มองกระป๋องอาหารที่วางที่ริมผนัง มองเข้าไปในคอกเฉาก๊วย
แล้วมองเข้าไปในเล้าหมู ทุกที่ที่ปราบไป ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายของนับดาวอยู่จางๆค่อยเงียบหายไป แล้วก็เป็นความเงียบสนิท

ปราบกับน้อยหน่ากินข้าวด้วยกันเงียบๆ ป้ายวงอยู่ข้างๆพูดขึ้น
“พอคุณนับดาวไม่อยู่นี่ ไร่เราดูเงี้ยบเงียบนะคะ ยังกะบ้านผีสิง”
“นั่นสิคะ หน่าก็รู้สึกเหมือนยายเลยค่ะ ตอนพี่ดาวอยู่นะบ้านเราไม่เงียบอย่างงี้เลย”
“เงียบๆอย่างนี้แหละดีแล้ว ยัยนั่นอยู่ก็เอาแต่ส่งเสียงเอะอะอะไรก็ไม่รู้”
“เอ่อ พ่อคะ ที่หน่าว่าไม่เงียบเนี่ย คือเสียงพี่ดาวทะเลาะกับพ่อน่ะค่ะ พี่ดาวเขาจะเอะอะโวยวายคนเดียวได้ซะเมื่อไหร่”
“ไม่จริงมั้ง”
“ป้าว่าก็จริงของหนูหน่านะคะ”
ปราบเงียบไป ไม่พูดอะไรอีก


โปรดติดตามตอนต่อไป เวลา 17.00 น.

หนุ่มบ้านไร่กับหวานใจไฮโซ ตอนที่ 9
 

นับดาวกับอลิสาเดินอยู่ท่ามกลางสินค้าหรูหรามากมายในห้างสรรพสินค้า นับดาวมองตุ๊กตาเครื่องเคลือบดินเผารูปม้าสีดำเธออดยิ้มไม่ได้

“ตอนดาวมานี่ เฉาก๊วยมันไม่สบายด้วย ไม่รู้ตอนนี้เป็นไงมั่ง”
“ไม่เป็นไรมั้ง คุณปราบเขาเป็นสัตวแพทย์นี่นา”
นับดาวเดินต่อ
“ทางเดินในห้าง
นี่มันแคบจังเลยนะคะ”
“ไม่นะ ในบรรดาห้างด้วยกัน ห้างนี้จัดว่ากว้างแล้วนะ”
นับดาวไม่พูดอะไร เดินต่อไป แล้วหยุดมองแชนเดอเลียที่แขวนโชว์บนฝ้าเพดาน
“สวยจังเลยนะ แต่อย่าบอกนะว่าอยากได้น่ะ ตอนนี้เรายังไม่พร้อม”
“ไม่สวยหรอกค่ะ ดาวว่าดาวบนฟ้าที่ไร่ปรีดาสวยกว่าเยอะเลย”
นับดาวนึกถึงตอนที่เธอดูดาวบนฟ้ากับปราบ

ค่ำคืนนั้น...นับดาวกับชนะชัยนั่งอยู่ในร้านอาหาร
“คุณดาวต้องกลับไปที่ไร่ปรีดาอีกไหมครับ”
“ค่ะ ต้องกลับไปเคลียร์อะไรอีกนิดหน่อย”
“ญาติคุณที่ชื่อปราบนั่นเขากวนใจคุณมากไหมครับ จะให้ผมแนะนำทนายให้ไหมคับ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ”
“พวกมาเฟียผมก็พอรู้จักนะ...ถ้ายังไง...”
นับดาวหัวเราะ
“จะส่งไปให้เขาตื้บทำไมคะ”
ชนะชัยอึ้งไป
“เขาเก่งขนาดนั้นเชียวเหรอ”
“ก็พอตัวค่ะ”
นับดาวนึกถึงตอนที่ปราบสู้กับพวกแก๊งค์เด็กนรก
“ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ผมเป็นห่วงคุณดาว ไปอยู่นู่น เกิดไม่สบายอะไรขึ้นมา เขาจะดูแลคุณ
ดาวไม่ดีพอ”
“ใครว่า...เขาดูแลดาวใช้ได้เลยค่ะ”
นับดาวนึกถึงตอนที่เธอหัวกระแทกพื้น ปราบอุ้มพาส่งโรงพยาบาล ขณะเดียวกันนั้น พนักงานเอาอาหารมาเสิร์ฟ เป็นสเต็กกับสลัดผัก
“มื้อนี้จัดหนักหน่อยนะครับ อยู่นู่นคุณดาวคงไม่ได้กินอะไรอร่อยๆซักเท่าไหร่”
“ก็พอกินได้น่ะค่ะ”
หญิงสาวนึกถึงตอนที่เธอกับเขาทำบาร์บีคิวกินกันเอง นับดาวนั่งเหม่ออมยิ้มอยู่คนเดียว ชนะชัยแปลกใจ
“คุณดาว...คุณดาว..."
นับดาวค่อยตื่นจากภวังค์
“คะ”
“คิดอะไรอยู่เหรอครับ”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ”
นับดาวฝืนยิ้มทำร่าเริง

หลังจากแยกกับชนะชัย นับดาวเข้ามาในบ้าน เจออลิสานั่งดูทีวีอยู่
“ดินเนอร์เป็นไงบ้างจ๊ะ ไม่เจอกันตั้งนาน สวีทหยดเลยสิท่า”
“ไม่ค่อยค่ะ”
“อ้าว ทำไมงั้นล่ะจ๊ะ”
“ก็จะคุยเรื่องอะไรในหัวดาวก็มีแต่ภาพของ...”
นับดาวชะงักมองหน้าน้าสาว อลิสาแปลกใจ
“ภาพอะไรเหรอ”
“ไม่บอกดีกว่า”
“บอกมาเหอะ”
“ดาวไปอาบน้ำก่อนดีกว่าค่ะ”
อลิสาคิดๆ
“หรือว่าจะเป็น...”
“ทำไมต้องทำน้ำเสียงมีเลศนัยแบบนั้น น้าอะซ่าคิดว่าเป็นภาพใครเหรอคะ”
“น้ายังไม่ได้บอกซักคำว่าเป็นภาพของสถานที่ สิ่งของ หรือว่าคน...แสดงว่าที่มันอยู่ในใจเธอ
เป็นภาพของ ใครซักคน...ใช่มั้ย”
นับดาวยังไม่ทันตอบ มือถือนับก็ดังขึ้น เธอดูเบอร์ ยิ้มดีใจ รับสาย
“หวัดดีจ้ะน้อยหน่า...จริงเหรอ...อยากมาเที่ยวกรุงเทพมั้ย มาอยู่บ้านพี่ก็ได้...ให้พี่ไปรับที่ไร่ก็ได้
นะ...ไม่เป็นไรไปได้จริงๆ...ไม่ต้องเกรงใจ ให้พี่ไปรับดีกว่าจะได้ปลอดภัย”
นับดาวเดินหนีไป อลิสามองตามไปแววตากังวลเล็กๆ
“อย่านะยัยดาว...อย่าให้หัวใจเธอว่อกแว่กนะ”

ปราบเอารูปที่ถ่ายในไร่มาดู เป็นรูปขาวดำทั้งรูปวิว คนงานมั่ง สัตว์ เปิดมาถึงเซ็ตที่ถ่ายตอนนับดาวขี่เฉาก๊วย ปราบพลิกดูช้าๆ น้อยหน่าเดินเข้ามา ปราบยังดูรูปอยู่ไม่รู้ตัว
“พ่อคะ”
ปราบสะดุ้ง เหมือนเด็กแอบกินขนมแล้วโดนครูจับได้ รีบเก็บอัลบั้มแต่อารมณ์ลนลานเลยทำตกพื้น เห็นรูปนับดาวเต็มๆ ปราบเปลี่ยนท่านั่ง เอาขามาวางบังอัลบั้มไว้
“ว่าไงลูก”
“คือว่า...หน่าปิดเทอมแล้ว ทีนี้ช่วงปิดเทอมเนี่ย...”
“อยากจะหางานทำพิเศษใช่มั้ย”
น้อยหน่าทำหน้าเซ็ง
“ไม่ใช่อย่างงั้นค่ะ คือหน่าอยากขอพ่อไปเที่ยวกรุงเทพน่ะค่ะ”
“จะชวนพ่อไปด้วยเหรอ อืม พ่อก็ว่างๆอยู่นะ”
น้อยหน่าเซ็งหนักขึ้น
“ไม่เอา หน่าไม่ได้จะไปสวนสนุกนะคะ หน่าจะไปเอง คือหน่าจะไปอยู่กับพี่ดาวน่ะค่ะ”
ปราบนิ่งไปนิด
“แล้วพี่ดาวเขาจะให้ลูกไปอยู่ด้วยเหรอ”
“ค่ะ หน่าคุยกับพี่ดาวแล้ว”
ปราบลังเล
“เขาบอกเขาจะมารับหน่าเองด้วย”
ปราบยิ้มออก
“เหรอ...อืม...งั้นก็โอเค”
น้อยหน่าอึ้ง
“โอเค?”
“ทำไม มีอะไรเหรอ”
“คือหน่าไม่คิดว่าพ่อจะโอเคง่ายๆแบบนี้”
ปราบอึ้งไปนิดนึง
“เอ่อ...จริงสินะ งั้น...”
“เดี๋ยวๆๆ พ่อโอเคแล้ว ห้ามเปลี่ยนใจ ห้ามอะไรทั้งสิ้น โอเคคือโอเค หน่าหมดเรื่องแล้วขอบคุณ
ค่ะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ ฝันดีนะคะ หน่ารักพ่อค่ะ”
น้อยหน่าพูดจบก็วิ่งเข้าห้องไปทันที ปราบมองตามไปจนแน่ใจว่าน้อยหน่าเข้าห้องไปแล้ว ปราบถึงก้มลงไปหยิบอัลบั้มขึ้นมา มองรูปนับดาว

นับดาวขับรถเข้ามาจอดในไร่ปรีดา อลิสานั่งมาด้วย
“น้าบอกตั้งแต่เช้าแล้วให้รีบออกจากกรุงเทพ เธอก็มัวแต่ทำนู่นทำนี่ ดูซิ กว่าจะถึงไร่นี่ก็เกือบเย็นแล้ว”
“ให้ดาวทำไงล่ะคะ ก็ธุระมันเยอะนี่นา”
“น้าเห็นมีแต่ธุระไม่จำเป็น ทำทีหลังก็ได้”
“ไม่รู้ค่ะ ก็ดาวว่ามันจำเป็นอ่ะ”
นับดาวจอดรถ อลิสาถอนใจ
“งั้นก็รีบๆรับน้อยหน่าขึ้นรถกลับบ้านเลยละกัน จะได้ถึงกรุงเทพไม่ดึกมาก โอเคมั้ย”
“ได้ค่ะ”
นับดาวลงจากรถ สูดอากาศ
“อากาศสดชื้นสดชื่น แวะไปหาเฉาก๊วยหน่อยดีกว่า”
นับดาวจะเดินไปขึ้นรถเอทีวี อลิสารีบเข้ามาดึง
“เฉาก๊วยน่ะดูวันหลังก็ได้ รีบไปหาน้อยหน่าก่อนเถอะ”
อลิสาดึงนับดาวกลับเข้าบ้าน

นับดาวกับอลิสาเข้ามาในบ้าน เจอปราบกับน้อยหน่ารออยู่แล้ว น้อยหน่าแพ็คกระเป๋าเรียบร้อย
“พี่ดาวมาแล้ว สวัสดีค่ะน้าอะซ่า”
อลิสายิ้มรับ
“น้อยหน่าเก็บกระเป๋าเสร็จแล้วใช่มั้ยจ๊ะ ไปกันเลยมั้ย”
นับดาวแย้งขึ้น
“เดี๋ยวสิคะ ดาวยังล้าๆอยู่เลย ขับรถมาตั้งไกล”
“ขากลับน้าขับให้ก็ได้”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่ขอพักกินกาแฟซักแก้วละกัน”
ปราบรีบอาสา
“เอาสิครับ เดี๋ยวผมชงให้ น้าอะซ่าเอาด้วยมั้ยครับ”
“เอ่อ...ขอบคุณค่ะ แค่กาแฟนะจ๊ะดาวจ๋า” อลิสากำชับ

ฟ้ามืดลงแล้ว ปราบถือจานบาบีคิวมาหานับดาวที่ระเบียงบ้าน
“ได้แล้วครับคุณผู้หญิง”
“อร่อยจริงๆ นี่ฉันไม่ได้กินมื้อเย็นสองจานมานานมากแล้วนะ”
ปราบยิ้มกำลังจะตอบนับดาว อลิสาก็เข้ามาแทรก
“รีบๆกินเถอะจ้ะดาว จะได้รีบกลับบ้านกัน ตอนออกมาน้าไม่ได้เปิดไฟในบ้านด้วย เดี๋ยวโจรมัน
รู้ว่าไม่มีคนอยู่”
ปกป้องเดินเข้ามาร่วมวง
“ผมว่าคุณอะซ่าอย่าเพิ่งไปกังวลเรื่องนั้นเลยครับ อยู่กินให้อิ่มหมีพีมันกันก่อนดีกว่า”
“คือ...”
นับดาวอ้อนวอน
“นะคะ น้าอะซ่า”
อลิสาถอนใจ
“อ้ะๆๆ รีบๆกินละกันนะ น้าเป็นห่วงบ้านน่ะ ไม่ใช่อะไรหรอกจ้ะ”
นับดาวยิ้ม หันไปรับจานบาบีคิวจากปราบ ทั้งสองยิ้มให้กัน อลิสาดูภาพนั้นด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ

เวลาผ่านไป...นับดาววางแก้วไวน์ลงข้างๆตัว พูดเสียงอ้อแอ้
“น้าอะซ่าคะ ดาวไม่ไหวแล้วค่ะ มึนไปหมดเลย”
“ก็ดันกินซะเยอะ งั้นเดี๋ยวขากลับน้าขับเอง”
“ไม่เอา...ต่อให้น้าขับ แต่ถ้าขึ้นรถตอนนี้ล่ะก็ ดาวเมารถอาเจียนกระจายแน่เลยค่ะ”
“แล้วจะให้ทำยังไงเนี่ย”
“กลับพรุ่งนี้เช้าละกันนะคะน้าอะซ่า”
“ไม่เอาหรอก น้าไม่อยากค้างนี่”
อลิสาจ้องหน้านับดาว
“เมาดิบรึเปล่าเนี่ยเรา”
“เมาจริงๆค่ะ”
อลิสาหงุดหงิด แต่ไม่รู้จะทำยังไง
 
จบตอนที่ 9

 
โปรดติดตามตอนที่ 10 วันพรุ่งนี้ เวลา 09.30น.

กำลังโหลดความคิดเห็น