xs
xsm
sm
md
lg

ลิขิตฟ้าชะตาดิน ตอนที่ 16

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ลิขิตฟ้าชะตาดิน  ตอนที่ 16

ค่ำคืนนั้นในขณะที่บัญชาเตรียมตัวนอน ขยับเอนตัว ดารากานต์กำลังเติมน้ำร้อนใส่กระติก รีบวางมือ มาช่วยประคอง

ดารากานต์กังวล จนห้ามใจไม่ไหว “นายหัวคะ ชั้นกลุ้มใจจัง”
“เรื่องอะไร”
“จ้างอายุสมควรที่จะแต่งงานได้แล้วนะคะ ขืนปล่อยให้โสดลอยชายไปแบบนี้ เดี๋ยวจะไปคว้าผู้หญิงที่ไม่คู่ควรเข้า รู้สึกว่า..มีสาวๆ มารุมตอมกันเกรียว”
“เช่น..ลูกสาวนายเด่นน่ะเหรอ”
“ก็ด้วย…”
“อ้อ..ดวงยิหวา ไม่ดีพอสำหรับจ้าง..แต่ถ้าสำหรับน้องดิน..คุณยอมรับได้” บัญชาประชด
“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ พี่น้องไม่ควรมองผู้หญิงคนเดียวกันไม่ใช่หรือคะ แล้วก็..ยังมีคนอื่นอีก”
“คุณก็เลยคิดจะคลุมถุงชน..งั้นเหรอ”
“จ้างก็ชอบเทเรซ่านี่คะ ไม่ใช่ไม่ชอบ”
“อ้อ ตกลง..คุณเจาะจงคนนี้แล้วสินะ”
“ค่ะ..ชั้นไม่ได้ทำหน้าที่แม่เลย..ตอนลูกยังเล็กๆ ขอทำหน้าที่แม่ที่ดีที่สุด ตอนลูกโตนี่ก็แล้วกัน” ดารากานต์ไม่สำเหนียกสักนิดว่าความหวังดีของตนกำลังจะทำร้ายลูกชาย
“หึๆ เอาสิ คุณจะทำอะไรก็เต็มที่เลย ผมสนับสนุน” บัญชาสะใจที่ปลาฮุบเหยื่อแล้ว
“ขอบคุณค่ะ”
ดารากานต์ห่มผ้าให้สามีหน้าตาโล่งใจ ในขณะที่บัญชามอง แล้วแอบทำหน้าสะใจ

เช้าวันใหม่ฟ้ากระจ่างกำลังมุ่งมั่นกับการทำน้ำจิ้มซีฟู้ดด้วยการปั่นทุกอย่างสีเขียวๆในเครื่องปั่นจื๊ดๆๆ โดยมีดวงยิหวาจัดอาหารทะเลใส่จานข้างๆ
ดวงยิหวามองดูฟ้ากระจ่าง ที่กำลังเทน้ำจิ้มลงชามแก้วขนาดใหญ่สีหน้าชื่นชม
“โห..พี่จ้าง ดูมืออาชีพสุดๆ เลยค่ะ”
“อ้าว ก็พี่เป็นมืออาชีพจริงๆ นะ รสชาติระดับทำขายได้เลย”
“ขี้โม้จัง” ดวงยิหวาหยิบเอาช้อนเล็กๆ ตักมาทดลองชิม แล้วทำตาโต “หืม..จริงด้วย”
“ลูกชายอาหึ่งแห่งครัวศาลเจ้า--- ซะอย่าง ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นอยู่แล้ว”
ดวงยิหวาฟังแล้วชะงัก มองอย่างเกรงใจนิดๆ ก่อนถามขึ้น “พี่จ้าง..ไม่รู้สึกว่า..นายหัว..เป็นพ่อพี่บ้างเลย..หรือคะ”
ฟ้ากระจ่างอึ้งแล้วนิ่งไปครู่หนึ่ง คิดก่อนตอบ “ไม่นะ..ก็รู้สึกว่าท่านเป็นนายหัวนี่แหละ..” จู่ๆ ก็ยิ้มออกมาเหมือนนึกบางอย่างได้ “พี่กลับบ้านดีกว่า ขอลานายหัวไปพักผ่อนศาลเจ้าซักสี่ห้าวัน..ตอนพวกศาลเจ้ามา พี่ไม่ได้ดูแลเลย ตอนนี้งานเสร็จแล้ว ไปนอนกลิ้งให้สบายเย็นๆ ใจหน่อย ดวงไปกับพี่ไหม”
ดวงยิหวายิ้มหวาน “จริงเหรอ”
“จริงสิ พี่ขอลางานให้ดวงเอง”
“แล้ว..คนอื่นเค้าจะว่าอะไรหรือเปล่า” ดวงยิหวารู้สึกกังวลใจ
“ก็..ถ้าพ่อดวงอนุญาต คนอื่นใครจะมาว่าเรื่องอะไรล่ะ”
“ก็..นายหัว นายหญิง..คนที่บ้านพี่”
“คนบ้านพี่เหรอ คนไหนล่ะ คนชื่อเกียรติบดินทร์เหรอ” ฟ้ากระจ่างแซว สายตาเจ้าเล่ห์
“พอๆๆๆ หยุดเลย”
“พี่ไม่สนใครจะว่าไงทั้งนั้น ดวงอยากไปไหมล่ะ ถ้าอยากไป เราก็ไป”
ทั้งสองคนสบตาดวงยิหวาตั้งท่างอนใส่นิดหน่อย แต่ที่สุดก็หวานใส่กัน

ไม่นานหลังจากนั้นทั้งคู่ก็พาตัวเองมาโผล่ที่มุมขายเสื้อผ้าชายในห้างสรรพสินค้า ฟ้ากระจ่างหยิบเสื้อโปโล ลายทางๆ สีสันสดใส หันมาทางดวงยิหวา
“ของป๊าพี่..ดวงว่าขนาดนี้โอเคมั้ย คงตัวไม่เล็กไปหรอกเนอะ”
“ขนาดน่ะ โอเคค่ะ แต่สี..มันจะจี๊ดเกินไปไหม” ดวงยิหวาท้วง
“อ้าว ดวง..คนสูงอายุน่ะ เค้าไม่ชอบสีขรึมๆ กันนะ ต้องสดใสๆ”
“พี่จ้างต้องดูอย่างนายหัวสิคะ นายหัวแต่งตัวสีนุ่มๆ สวย สง่า เท่ๆ มีสไตล์ สมวัย” ดวงยิหวาว่า
น้ำเสียงฟ้ากระจ่างจริงจังมาก “แต่ป๊าไม่เหมือนนายหัวนี่ ป๊าทำงานหนัก มีแต่ของที่มันเปื้อนง่าย ต้องสีแบบนี้ แล้วเวลาไปเที่ยว ก็ควรจะเด่นๆ มองเห็นง่าย”
“งั้น..ของโกเหลียง..เอาสียังไงดีล่ะคะ”
“โกเหลียงเหงื่อเยอะ ไม่เอาเสื้อยืดดีกว่า เอาเสื้อฮาวายบางๆ หน่อย ดวงไปหาเสื้อให้แม่หน่อยสิ เอาดอกๆ นะ สีสวยๆ ชมพูๆ นะ”
ดวงยิหวาหัวเราะแซวออกมา “พี่จ้างตั้งใจจะซื้อเสื้อให้ทุกคนเลยเหรอคะ”
ฟ้ากระจ่างขำตัวเอง “จริงด้วยสิ แต่ก็ดีแล้วล่ะ ดวง..พวกคนที่ศาลเจ้าเค้าประหยัดมาก ไปไหนก็ซื้อแต่ของกิน ไม่ค่อยใช้ตังค์มาซื้อพวกของแบบนี้ เค้าจะคิดว่ามันฟุ่มเฟือย ตอนนี้พี่มีปัญญาแล้ว..ก็จะรับหน้าที่ซื้อให้เค้าไง”
ดวงยิหวายิ้มอย่างชื่นชม “พี่จ้างเป็นลูกกตัญญูจังเลย พี่ต้องเจริญแน่ๆ”
ฟ้ากระจ่างหน้าหม่นลงนิดๆ “ไม่หรอก..พี่ยังทำไม่ดีพอ..กับแม่ที่แท้จริง..แล้วก็กับ..พ่อที่แท้จริงด้วย แต่พี่คงไม่มีโอกาสตอบแทนบุญคุณท่านครบทุกคน”
ฟ้ากระจ่างเผยความรู้สึกลึกๆ ในใจ เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยพูดกับใครมาก่อน
“พี่จ้างอยากจะสืบหาพ่อที่แท้จริงไหม”
ฟ้ากระจ่างนิ่ง ไปนิด เหมือนจะลังเล “อย่าเลย ท่านอาจจะ..ไม่อยาก..” จากนั้นก็เงียบไป
ดวงยืหวาจับแขนบีบเบาๆ เพื่อปลอบใจ ฟ้ากระจ่างยิ้มให้เหมือนพยายามบอกว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วง

ในวันต่อมาปีเตอร์ มาดามพิณ และชิงชัย กำลังดื่มชา และประชุมหารือกันอยู่ที่บ้านปีเตอร์ ทั้งสามคนหันไปโดยไม่นัดหมาย แล้วอึ้งไปตามๆ กัน เมื่อเห็นนายเด่นเดินเข้ามา โดยมี 4 บอดี้การ์ดล้อมกรอบ
มาดามพิณผุดลุกยืนขึ้นก่อนใคร “คุณเด่น..คนของนายหัวบัญชา”
“มีอะไร มันมาทำไม หรือจะมาเอาเรื่องผม” ชิงชัยสงสัย
นายเด่นเดินมาถึงโต๊ะก้มหัวให้มาดามพิณ แล้วมองเจาะจงมาที่ปีเตอร์ “คุณปีเตอร์ มีจดหมาย..มาจากนายหญิงครับ”
“นายหญิง...” ปีเตอร์งง
“จากภรรยานายหัว คุณแม่ของคุณฟ้ากระจ่างครับ” นายเด่นขยายความ
ปีเตอร์รับไป เปิดออกมา เป็นการ์ดสีนวลอ่อน ปีเตอร์อ่านเงียบๆ สักพัก ทุกคนรอฟังเต็มที่
ปีเตอร์เงยหน้าขึ้นมา “ขอโทษที เรื่องส่วนตัวน่ะ”
สองแม่ลูกอึ้งไป
ปีเตอร์เดินออกมาหานายเด่น พูดพอได้ยินสองคน หน้าตาจริงจัง เป็นมิตร
“ฝากกลับไปเรียนนายหญิงของคุณ..ว่าผมยินดี”
นายเด่นยิ้มรับ รักษามาดสงบขรึม คนอื่นๆ มองด้วยความสนใจ ใคร่รู้ แต่ต้องเก็บความรู้สึกนั้นไว้

นายเด่นกลับจากบ้านปีเตอร์ มานั่งดื่มกาแฟอยู่ที่บ้านบัญชา ด้วยหน้าตาเคร่งคิด นายน้อมยกน้ำเย็นมาวางให้
“รับอะไรอีกไหมครับ คุณเด่น วันนี้มีแซนด์วิชปูอัด”
“ไม่ล่ะ ขอบคุณ คุณน้อม สงสัยจะเครียด กระเพาะมันตีบๆ ชอบกล”
“อ้าว ทำไมล่ะครับ”
“ผมไม่สบายใจเลย ไม่ทราบว่านายหัวกำลังทำอะไร..ช่างเถอะ” นายเด่นลูบหน้าเหมือนไม่อยากคิด
“ทำไมครับ”
“ตะกี๊ใช้ให้ผมไปบ้านมิสเตอร์ปีเตอร์ เอาจดหมายอะไรไปให้ก็ไม่รู้ แล้วที่จริงเค้าก็ไม่ถูกกันไม่ใช่เหรอ อยู่ๆ มาให้เราเป็นคนเดินสาร ไอ้เราจะเปิดอ่านก็ไม่กล้า”
“หา จริงเหรอครับ ไม่ใช่ไปท้าเขาดวลนะ” นายน้อมออกความเห็น
“เอ่อ..ผมจะบอกคุณดีไหม” นายเด่นกังวล
“อ่าว..ยังไง”
“คือ..” นายเด่นรู้สึกขัดแย้งในใจที่จะพูดออกมา “ผมรู้สึกไม่ดี ไม่สบายใจ ผม..ผม..ไม่ชอบโกหก”
“คุณเด่น หมายความว่ายังไงหรือครับ” นายน้อมยิ่งสงสัย
“นายหัว..ให้ผมไปส่งจดหมายให้มิสเตอร์ปีเตอร์ แต่ให้บอกว่า..มาจากนายหญิง”
“อ้าว ไหงงั้น
“แถมมิสเตอร์ปีเตอร์ก็ท่าทาง..เต็มใจด้วย ผม..ไม่เข้าใจ ผมงง” นายเด่นปรารภ
“แปลก...” นายน้อมออกความเห็น
“ยิ่งกว่าแปลกอีก” นายเด่นว่า
สองคนสบตากัน อึ้งๆ


ด้านมาดามพิณอยู่ในอาการหงุดหงิดเอาการ ขณะเดินนำลูกออกมาหยุดยืนอยู่ในมุมสงบของบ้านปีเตอร์
“เรื่องส่วนตัว!!!..ทำไมคุณปีเตอร์ต้องใช้คำนี้..กับพวกเรา”
“ผมอยากรู้ ว่าในการ์ด..เขียนว่าอะไร”
“มันจงใจที่จะให้เรารู้เห็น..ว่ามันกำลังสานสัมพันธ์กะปีเตอร์อย่างเปิดเผย แต่มันเอาเมียมาอ้างเพื่อบังหน้ามากกว่า”
“เมียนายหัวจะมีเรื่องส่วนตัวอะไรที่จะติดต่อกับคุณปีเตอร์..นอกจาก..เรื่อง..เทเรซ่า กับไอ้ฟ้ากระจ่าง”
มาดามพิณครุ่นคิดก่อนเอ่ยขึ้น “ถ้าเป็นสิ่งที่นายหัวบัญชามันชักใยอยู่เบื้องหลัง มันต้องมีอะไรลึกซึ้งกว่าเรื่องรักๆ ใคร่ๆของเด็กๆแบบนี้...หรือพวกนั้นมีแผน.. จะมาจัดการกับเรา”
“จัดการ มันจะจัดการอะไรอีก” ชิงชัยสงสัย
มาดามพิณหน้าซีด “มันควานหาเบาะแสเรื่องมือปืนที่ยิงมัน..จนรู้แล้ว..ว่าลูกเป็นคนว่าจ้างมา มันอาจจะพยายามสืบ..ว่าปีเตอร์รู้เห็นเป็นใจด้วยหรือเปล่า แล้วถ้ามันแน่ใจว่าปีเตอร์ไม่เกี่ยวข้องด้วย มันก็จะผูกมิตรกับปีเตอร์ แล้วร่วมมือกันมาเล่นเรา”
“มันจะแยกเรากับปีเตอร์ออกจากกันงั้นเหรอ”
“เรื่องไอ้ฟ้ากระจ่างจีบเทเรซ่า..คือแค่ปาหี่หน้าฉาก หลอกให้เราหลงทาง”
“จริงเหรอแม่”
“ชิงชัย..ลูกต้องควบคุมอารมณ์ให้ดี อย่าให้เรื่องรักๆใคร่ๆมาบังตา..เราต้องทำทุกอย่าง..ให้พวกมันเห็นว่าปีเตอร์เป็นคงบงการ ถ้าเรื่องนี้แดงขึ้นจริงๆ..เราต้องโยนความผิดให้ตำรวจเชื่อ ว่าทั้งหมด เป็นฝีมือปีเตอร์ ลูกไม่เกี่ยว..ครอบครัวเราไม่เกี่ยว”
ชิงชัยไม่อยากเชื่อนัก แต่มาดามพิณพยายามให้ลูกเห็นตรงกับตน

ค่ำวันนั้นเทเรซ่าเดินถือการ์ดสีนวล อ่านไปมา สีหน้าตื่นเต้น ในนั้นเป็นข้อความภาษาอังกฤษ เขียนด้วยลายมือสวยงาม
“จดหมายเชิญของคุณแม่ของคุณจ้าง..น่ารักจังเลย
“ไม่รู้ชื่อที่เซ็นต์ขึ้นต้นด้วยอักษร D. นี่ คือชื่ออะไร”
ปีเตอร์ไม่สังหรณ์ใจสักนิดว่า มันมาจาก...ดารากานต์ รักแรกพบของเขานั่นเอง
“ชื่อคนไทยนี่ยากด้วยสิคะ มีชื่อแปลกๆใหม่ๆ มากมาย ไม่ค่อยซ้ำกันเหมือนชื่อภาษาอังกฤษ ที่พวกเราใช้ชื่อของนักบุญต่างในศาสนาคริสต์กัน”
“ใช่ คนไทยชอบประดิษฐ์ชื่อใหม่ๆ” ปีเตอร์บอก
“แดดดี้คะ คุณแม่คุณจ้างอยากพบเทเรซ่า มันหมายถึงการดูตัว..ใช่ไหมคะ”
“ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น”
“แล้ว..เรื่องที่..เราเป็นศัตรูกัน เพราะขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจกันละคะ”
“ทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงไปได้เสมอแหละ ลูก พ่อยินดีทำอะไรก็ได้ เพื่อความสุขของลูก..โดยเฉพาะ..กับจ้าง..ที่แดดดี้ถูกชะตาเค้าขนาดนี้”
“แปลกจัง..ที่เค้าไม่โกรธเรา..ที่คุณจ้างถูกทำร้าย” เทเรซ่าประหลาดใจ
“แดดดี้ยังไม่ได้ขอโทษคุณจ้างอย่างเป็นทางการเลย”
“แดดดี้ไปกับเทเรซ่านะคะ” เทเรซ่าอ้อนพ่อ
ปีเตอร์หัวเราะ “กลัวหรือเทเรซ่า แดดดี้จะไปด้วยได้ยังไงล่ะ มาดามเค้าเชิญลูก ไม่ได้เชิญแดดดี้สักหน่อย ขืนไปโดยไมได้รับเชิญ..แดดดี้ก็เหมือนพ่อหัวโบราณ ที่หวงลูก จนเสียมารยาทน่ะสิ”
เทเรซ่ายิ้มชื่น อย่างมีความสุข

เช่นเดียวกับดารากานต์ดีใจออกนอกหน้า ขณะเอ่ยขึ้น “คุณเชิญหนูเทเรซ่ามาที่นี่เหรอคะ”
“ใช่..แต่ผมอ้างชื่อคุณนะ เพราะถ้าใช้ชื่อตัวเอง..อาจทำให้..มิสเตอร์..เอ้อ..คุณพ่อของเทเรซ่าเค้าจะต่อต้าน..ไม่ยอมให้มา” บัญชาหัวเราะ
“จ้างต้องเซอไพร้ซ์แน่ๆ เลย” ดารากานต์ระรื่น
“จ้าง..ลูกชายคนดีของคุณ..จะได้เจอเรื่องเซอร์ไพร้ส์ไม่หยุดหย่อนเลยล่ะ สมกับความเก่งของเค้า”
ดารากานต์หลงนึกว่าบัญชารักลูกชายตัวเองมาก ซึ่งใจจนน้ำตาคลอ
“นายหัวคะ นายหัวทราบไหม ว่านายหัวคือพ่อพระที่แท้จริงสำหรับฉัน ชีวิตนี้..โชคดีที่สุดของฉัน ที่ได้สามีที่สุดแสนจะประเสริฐ”
“ทุกอย่าง..เป็นผลตอบแทน กับทุกสิ่ง..ที่คุณทำมาตลอด..เพื่อผมไง..ดารากานต์”
น้ำเสียงหยามหยันนั้น ไม่ทำให้ดารากานต์รับรู้สักนิดว่ากำลังกลายเป็นเครื่องแก้แค้นของบัญชา
ดารากานต์ซับน้ำตา แล้วพนมมือ กราบกับอกบัญชา
“ขอบพระคุณนายหัวที่สุด..นายหัวน่ารักที่สุด”
“คุณก็เหมือนกัน”
บัญชากอดดารากานต์แนบอก สีหน้า เศร้าลงๆๆ



บ่ายวันต่อมาฟ้ากระจ่างกำลังเอาถุงเสื้อผ้าที่ซื้อมาสำหรับฝากชาวศาลเจ้ามาเรียงใส่ในกระเป๋าเดินทางอย่างเป็นระเบียบ
นายน้อมจัดประเป๋าพวกเครื่องสำอางผู้ชาย โลชั่นบำรุงผิว ใส่ของใช้ส่วนตัว ทั้งแปรงสีฟัน หวี น้ำหอม ครีมโกนหนวด อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
“คุณจ้าง..ผมใส่แชมพู เจลอาบน้ำลงไปด้วยนะ เดี๋ยวที่ศาลเจ้าคุณจะได้ไม่ต้องไปใช้ของอิเหละเขละขละร่วมกับคนอื่น” นายน้อมกำชับ
“โห นายน้อม ของพวกนั้นหนักๆทั้งนั้น” ฟ้ากระจ่างบ่น
“หนักที่ไหน ผมแบ่งใส่แพ็คเกจเล็กๆ ให้ไปเป็นเซ็ทเลย สำหรับใช้แค่ 4-5 วันเท่านั้นเอง”
ทันใดนั้น มีเสียงเคาะประตูห้องเบาๆ สองคนมองหน้ากัน แล้วนายน้อมเดินไปเปิดประตูให้ เป็นดารากานต์ที่ก้าวเข้ามา
“จ้าง..แม่ขอโทษทีนะ ที่ลูกจะบินกลับไปเยี่ยมพวกที่ศาลเจ้าคืนนี้น่ะ เลื่อนไปเป็นไฟลท์พรุ่งนี้เช้าแทน ได้ไหมลูก”
“อ้าว ทำไมล่ะครับ”
“เย็นนี้ แม่มีแขกสำคัญ..จะมาดินเน่อร์บ้านเรา แม่อยากให้ลูกอยู่เจอหน่อย”
นายน้อมมอง รูสึกตงิดๆ ในใจ
“ต้องเย็นนี้ด้วยหรือครับ”
“ก็นายหัวน่ะสิ เค้าไม่ทราบว่าลูกจะบินคืนนี้ เค้าเลยไปจัดการนัดแนะซะดิบดี คงอยากจะเซอร์ไพร้ส์ลูกไง เลยไม่ได้บอกลูกล่วงหน้า”
นายน้อมถึงบางอ้อ “อ๋อ..ผมรู้แล้ว ที่แท้ก็เรื่องนี้เอง”
ดารากานต์ย้อนถามไม่พอใจนิดๆ “อะไรเหรอ นายน้อม”
นายน้อมบ่นอุบอิบ “เปล่าครับ”
“นะจ๊ะ จ้าง..ลูกไม่ค่อยว่างมาทำอะไรแบบนี้กับแม่เลยนี่นา ตอนนั้นที่แม่จัดปาร์ตี้ให้ หวังจะฉลองให้ลูก ลูกก็เกิดมามีงานด่วน จนไม่ได้มากินกับใครเค้า..แล้วดูสิ พอมีเวลาว่างนิดหน่อย ลูกก็จะกลับไปหาพ่อแม่ที่ศาลเจ้าซะอีก ไม่รู้ล่ะ ถ้าลูกไม่ยอมอยู่สังสรรค์คืนนี้ แม่จะถือว่าลูกไม่รักพ่อแม่ที่นี่เท่าที่พ่อแม่ที่ศาลเจ้า”
“โธ่ แม่ครับ..อย่าคิดแบบนั้นสิครับ”
“ลูกก็รับปากแม่สิ แค่เลื่อนจากบินไฟลท์กลางคืน มาเป็นบินไฟลท์เช้าเอง พวกที่ศาลเจ้าคงไม่ว่าหรอก..นายน้อม จัดการด้วย..” ดารากานต์ดูนาฬิกาข้อมือ “เร็วๆ เลย”
นายน้อมลอบมองอย่างหารือ ฟ้ากระจ่างมองตอบแบบเอาตามนั้นก็แล้วกัน ดารากานต์พอใจ

ดวงยิหวานั่งอยู่ท่ามกลางข้าวของที่กำลังจัดเก็บใส่กระเป๋า เห็นโดราเอม่อนต่างๆ ที่ฟ้ากระจ่างให้วางเด่นอยู่บนเตียง และกำลังพูดโทรศัพท์กับฟ้ากระจ่างอยู่
“อ้าว เหรอคะ เลื่อนเป็นพรุ่งนี้เหรอ”
“ใช่..นายหญิงจะมีแขกมาที่บ้าน..แล้วพี่ต้องอยู่ช่วยต้อนรับน่ะจ้ะ”
“อ๋อ งั้น..ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แล้วพรุ่งนี้จะเป็นไฟลท์ไหนล่ะคะ”
“นายน้อมเปลี่ยนตั๋วให้เป็นไฟลท์แรกเลย ต้องตื่นเช้ากันหน่อย แต่พี่อยากไปถึงเร็วๆ”
ดวงยิหวาหัวเราะ “กะว่าโผล่ไป พวกศาลเจ้าตื่นมา ก็จะได้เห็นหน้าพี่เป็นสิ่งแรกกันเลย ใช่ไหมคะ”
“ช่าย”
“ได้ค่ะ ดวงยังไงก็ได้ แล้วแต่พี่เลยค่ะ”
“ดีมาก”
ทั้งสองต่างหัวเราะกัน อย่างชื่นมื่น

ชิงชัยตัดสินใจว่าต้องพูดปีเตอร์ให้รู้เรื่องเสียที เข้ามาในบ้านแล้วมองหา รีรอ หาจังหวะที่เหมาะสม เห็นปีเตอร์เดินลงมาจากชั้นบนชิงชัยจึงเดินเข้าไปหา
“คุณปีเตอร์ครับ..ด้วยความเคารพ ผมอยากจะขอร้องคุณปีเตอร์เป็นครั้งสุดท้าย ว่าอย่าไปยุ่งกับนายหัวบัญชาเลย เท่าที่ผ่านมา เค้าก็ทำกับเรามามากพอแล้ว คุณปีเตอร์อย่าลืมสิครับ ว่าคนๆ นี้ปลิ้นปล้อนขนาดไหน หาความน่าเชื่อถืออะไรไม่ได้ทั้งสิ้น”
“ขอบคุณนะครับ ที่เตือน แต่คุณชิงชัยไม่ต้องห่วง ผมก็มีวิจารณญาณของผมเหมือนกัน” ปีเตอร์ประชดอยู่ในที
“แค่ที่คุณปีเตอร์เอ็นดูนายฟ้ากระจ่างมันก็รุนแรงพอแล้ว ผมถือว่าเป็นความหลงผิดอย่างมาก ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงที่จะทำให้ตัวเองน่าเชื่อถือมากกว่าคนๆนี้..สำหรับคุณ ผมบอกได้แต่ว่า ผมคือคนที่จริงใจกับคุณ และซื่อสัตย์กับเทเรซ่าจริงๆ แล้วพวกนั้น มันก็เป็นศัตรูของคุณจริงๆ ศัตรู..ที่ไม่มีวันพลิกมาเป็นมิตรได้”
“ขอผมดูทุกอย่างด้วยสายตาของตัวเองได้ไหมชิงชัย” ปีเตอร์ว่า
มาดามพิณเดินเข้ามาผสมโรง “พวกเราเสียใจกันมากนะคะ คุณปีเตอร์..ที่คุณใช้คำว่า..เรื่องส่วนตัว..กับพวกเรา ความจริง ดิฉันคิดว่า การที่ครอบครัวนายหัวบัญชา พยายามเข้ามาแทรกแซงระหว่างเรา มันจะเรียกว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของคุณไม่ได้ ในเมื่อคนๆ นี้คือคนที่เจตนาจะทำลายบริษัทของพวกเรามาตั้งแต่แรก”
“เอาเป็นว่า..ที่ผมใช้ว่าคำเรื่องส่วนตัว ก็เพราะเขาติดต่อกันเรื่องส่วนตัวจริงๆ ที่ผมยังไม่พร้อมที่จะแบ่งปันกับใคร..มาดามพิณกับคุณชิงชัยน่าจะให้เวลาผมบ้าง”
“แล้วการที่พ่อของชิงชัย โดนยิงตาย..คุณปีเตอร์คิดว่ามันเป็นแค่เรื่องส่วนตัวของครอบครัวดิฉันเท่านั้น ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของคุณปีเตอร์หรือเปล่าล่ะคะ” มาดามพิณยกเรื่องการตายของสามีมาอ้าง
“แน่นอน..ผมไม่ได้คิดอย่างนั้น”
“ครอบครัวของเรา..ไม่ได้ร่วมกันแต่ธุรกิจไม่ใช่หรือครับ เรายังเป็นเพื่อนกันอีกด้วย” ชิงชัยบอก
“ครับ..เราเป็นเพื่อนกันเสมออยู่แล้ว แต่เรื่องบางเรื่อง..ผมขอ..ให้มันเป็นเรื่องภายในครอบครัวของผมหน่อย มันก็ไม่ควรจะเป็นปัญหานะครับ..ขอโทษนะ” ปีเตอร์เดินผ่านทั้งสองไปอย่างเย็นชา
สองแม่ลูกมองตามไปทั้งน้อยใจและหวั่นเกรงว่าจะโดนทรยศ!

ทรายทองเดินเข้ามาในบ้าน หลังจากออกไปช้อปปิ้ง ถือถุงขนมติดมือเข้ามามากมายดารากานต์นั่งรออยู่
“ทราย..ซื้ออะไรมาเยอะแยะ”
“นายหญิง..คือ..ทรายจะฝากขนม..ให้พี่จ้างหิ้วกลับไปให้..พวกญาติๆ ของพี่จ้างน่ะค่ะ”
“ญาติของจ้าง..ญาติของจ้างก็คือพวกเรานะหลาน”
“ทรายหมายถึง..บรรดาผู้มีพระคุณของพี่จ้างน่ะค่ะ”
“ตกลงจ้างยังไม่เดินทางเย็นนี้นะจ๊ะ เพราะป้าจะมีแขกมาทานข้าวที่บ้านเรา เป็นแขกคนสำคัญของพี่จ้างด้วย”
“แขกคนสำคัญ..ใครคะ”
“คุณเทเรซ่า”
“อะไรนะคะ”
ดารากานต์พูดอย่างภาคภูมิใจ “เทเรซ่าเป็นเพื่อนหญิงของจ้าง..ที่ป้ากับนายหัวเห็นตรงกัน ว่าเป็นผู้หญิงที่เหมาะสมคู่ควรกับจ้างมาก ป้ากับนายหัวก็เลยเชิญมาบ้านเรา เพื่อทำความรู้จักคุ้นเคยกัน”
“แต่ว่า..คุณป้าทราบหรือเปล่าคะ..ว่า..เทเรซ่าเป็นลูกใคร”
“ทำไมจะไม่รู้ล่ะ”
“คุณป้าคะ..บริษัทเรากับพวกเค้า...” ทรายทองไม่ยอมง่ายๆ
“ป้ารู้ดี เทเรซ่า นายหัวยิ่งรู้ดีกว่า..แต่เราคงจะไม่ยอมให้ความขัดแย้งทางธุรกิจมาขัดขวางความสุขของลูกของเราหรอก”
“คุณป้า มิสเตอร์โจวคนนี้คือ..คนที่...”
ทรายทองทำท่าจะบอกความจริงออกมา แต่เสียงกลับหายเข้าไปในลำคอ
ดารากานต์รีบตัดบทเสียก่อน
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว เทเรซ่า ป้าไม่ต้องการฟัง ใครจะรู้ ว่าคู่แข่งทางธุรกิจ อาจจะกลายมาเป็นคนกันเอง ที่ดีต่อกันมากๆ ก็ได้ นายหัวก็คงคิดแบบนี้ นายหัวถึงสนับสนุนเรื่องนี้ เพราะฉะนั้น..ป้าขอ..ขอความร่วมมือจากทราย ว่าขอให้หลานช่วยป้า..ต้อนรับหนูเทเรซ่าด้วย”
“ให้หนูต้อนรับแม่เทเรซ่าเนี่ยนะคะ”
“ใช่..ทำไม..ทรายมีปัญหาอะไรเหรอ”
“แต่..แต่..พี่จ้าง..กับยัยนั่น..ไม่ได้เหมาะสมคู่ควรอะไรกันเลย”
“ทำไม” ดารากานต์ชักสีหน้า
“หนู..หนู..” ทรายทองอึกอักอยู่อย่างนั้น
ดารากานต์ตัดสินใจพูดสิ่งที่ตนเห็นเมื่อวันก่อน “ทรายกับจ้าง..เป็นพี่น้องกัน ทรายจะมาคิดอะไรนอกลู่นอกทางกับพี่เค้าไม่ได้”
ทรายตกใจ หน้าซีด “คุณป้า!!”
“อย่านึกว่าป้าไม่รู้..ทำใจซะเถอะ ทราย เรายังเป็นเด็ก ก็เพ้ออะไรไปแบบเด็กสาวๆ ป้าเข้าใจดี แล้วก็ไม่ได้คิดว่าหนูผิด แต่ป้าอยากให้หนูเห็นพี่จ้างเขาเป็นพี่ ถ้าจะรักกัน ก็ขอให้รักกันแบบพี่น้อง” ดารากานต์เข้ามากอดปลอบ “ป้ารักหลานนะทราย..แต่อยากให้หลานมีเหตุผล อย่าใช้อารมณ์..ทำตัวดีๆกับเทเรซ่าเค้าด้วย ถ้าหนูรักจ้าง หนูก็ต้องช่วยป้าทำให้จ้างมีความสุขนะลูก”

ทั้งสองคนไม่รู้ว่า ที่อีกมุมหนึ่งไม่ไกลนัก เกียรติบดินทร์ยืนฟังอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ด้วยสีหน้าและแววตาเกียรติบดินทร์ที่แม้จะเจ็บปวด แต่เจือความสะใจฉายชัด!
 
อ่านต่อหน้า 2




ลิขิตฟ้าชะตาดิน  ตอนที่ 16 (ต่อ)

เย็นย่ำวันนั้นพระอาทิตย์เคลื่อนตัวลอยต่ำลงตรงเหลี่ยมเขาเทเรซ่าอยู่ในชุดสวยงามน่ารักแฝงความสง่าเดินลงบันไดมา ปีเตอร์ซึ่งยืนรอรับอยู่ มองด้วยแววตาปลาบปลื้ม

“เทเรซ่าดู..ใช้ได้หรือยังคะ แดดดี้” เทเรซ่ามีอาการประหม่าไม่มั่นใจขึ้นมา
“เทเรซ่าสวยที่สุด เพอร์เฟ็คท์ที่สุดจ้ะ ลูกสาวของแดดดี้” ใบหน้าปีเตอร์ยิ้มปลื้ม
“เทเรซ่าตื่นเต้นจัง”
“เทเรซ่าจะเอาชนะใจทุกคนในครอบครัวนั้นได้แน่นอน แดดดี้คอนเฟิร์ม”
“โอ๊ย..แดดดี้พูดแบบนี้ ยิ่งทำให้เทเรซ่ากลัวนะคะ” เทเรซ่านอยด์สุดชีวิต
“เทเรซ่าอย่าไปกลัวสิลูก ช่วยไปเป็นหูเป็นตาแทนแดดดี้ด้วย ว่าที่จริงแล้ว นายหัวบัญชาเค้าคิดอะไรอยู่กันแน่ มาดามของเค้าน่ารักจริงหรือเปล่า แล้วจ้างเค้าตั้งใจ..จะจริงจังกับลูกขนาดไหน” ปีเตอร์ปลอบลูกสาวสุดที่รัก
“โอ แดดดี้ นี่เป็นภารกิจที่ใหญ่เกินไปสำหรับเทเรซ่าแล้วล่ะค่ะ”
“เทเรซ่าต้องทำได้สิลูก เทเรซ่าควรจะเปิดหูเปิดตา ใช้สมองไหวพริบของลูกแทนแดดดี้ด้วย แดดดี้ไม่อยากให้หนูเอาแต่เคลิบเคลิ้มไปกับความรักเท่านั้น แต่ลูกควรตั้งสติให้ดี แดดดี้หวังว่าดินเนอร์วันนี้ จะทำให้ลูกมองเห็น ว่าครอบครัวนี้ ดีพอสำหรับลูกหรือเปล่า”
“โอ แดดดี้คะ ไม่ใช่ว่า..เทเรซ่าจะดีพอสำหรับเค้าหรือคะ”
“เทเรซ่าคือคนที่ดีที่สุด..สูงค่าที่สุดนะลูก คนอื่นไม่ใช่ผู้เลือก แต่เทเรซ่าคือผู้เลือก..จำไว้”
ระหว่างนั้นบอดี้การ์ดทั้ง 4 คน เดินนำนายเด่นเข้ามา
นายเด่นเอ่ยขึ้นด้วยหน้าตาเคร่งขรึม “นายหัวกับนายหญิงให้ผมมารับคุณเทเรซ่าครับ”
“เรียนคุณบัญชาและมาดามด้วย ว่าผมฝากความระลึกถึงมาให้” ปีเตอร์บอก
“ครับผม แล้วผมจะเรียนท่านครับ เชิญครับ”
“ไป..เทเรซ่า แดดดี้ไปส่งที่รถนะลูก”
ปีเตอร์ควงเทเรซ่าออกไป นายเด่นตามไปมองสองพ่อลูก ด้วยความอึดอัด และไม่สบายใจ หันมา
เจอบรรดาบอดี้การ์ดหันมายิ้มให้นายเด่นอย่างกันเอง แต่ดูน่ากลัว
นายเด่นยิ้มตอบ ค้อมหัวให้แบบพยายามวางมาดกลบลบความไม่สบายใจ

ทีวีกำลังรายงานข่าวภาคค่ำ ในขณะที่ดวงยิหวากำลังฉีกซองบะหมี่ใส่หม้อเตรียมต้ม เด็กรับใช้ชายเดินเข้ามา
“พี่ดวง..ลูกชายนายหัวมาหา”
ดวงยิหวาสะดุ้ง หันไป คนที่เดินเข้ามากลายเป็นเกียรติบดินทร์ “คุณดิน!!”
เกียรติบดินทร์เข้ามาดึงหม้อบะหมี่ออกไปจากมือ แล้วจัดการปิดแก๊สให้ “ไม่ต้องกงต้องกินแล้ว บะหมี่ซองไร้สาระพรรค์นี้.. ไฮโซอย่างเธอ มันต้องไปดินเนอร์ที่คฤหาสน์สิ”
“อะไรของคุณ..คุณดิน”
“ฉันมารับเธอไปกินข้าวเย็นกัน..วันนี้เขามีการเลี้ยงรับรองแขกคนสำคัญที่บ้าน ไม่ต้องกลัว ว่าชั้นจะหลอกเธอไปทำมิดีมิร้ายที่ไหน พ่อเธอก็อยู่นั่น”
“ไม่เกี่ยวกับดวงนี่คะ ดวงจะไปทำไม ไม่ได้มีหน้าที่อะไรซะหน่อย”
“ทำไมจะไม่มี แขกของครอบครัวเรามา เธอก็นับเป็นสมาชิกคนนึงในครอบครัวเรา..เธอก็ควรไปร่วมสังสรรค์ด้วยสิ”
“แล้วคุณล่ะ มาทำอะไรข้างนอก คุณไม่ต้องรับแขกด้วยเหรอคะ”
“ต้องสิ ชั้นอยากให้เธอไปอยู่ในงานของเราด้วย”
“ตลกแล้ว คุณดิน” ดวงยิหวาชักฉุนที่เกียรติบดินทร์เจ้ากี้เจ้าการ
“ดวงยิหวา เธอต้องไปเป็นแขกของชั้น” เกียรติบดินทร์คาดคั้น
“ไม่ค่ะ” ดวงยิหวายืนกรานหนักแน่น
“ทำไม”
“ก็ไม่ทำไม..”
“คุณฟ้ากระจ่างเค้าห้ามไม่ให้เธอไปล่ะสิ” เกียรติบดินทร์หัวเราะเยาะ “ร้ายกาจนะ พี่ชายของชั้นคนนี้ มันเป็นนักบริหารตัวยงจริงๆ..จัดตารางทุกอย่างลงตัวเป๊ะ ไม่เคยพลาด”
“คุณพยายามจะบอกอะไร..คะ คุณดิน”
“เธอโดนคุณชายฟ้ากระจ่างหลอกไง..ดวงยิหวา ถ้าเธอหาว่าชั้นมาใส่ร้ายป้ายสี เธอก็ควรไปดูให้เห็นกับตา ว่าไอ้เทพบุตรคนนี้ มันเห็นเธอเป็นคนรัก หรือเห็นเธอเป็นของเล่นกันแน่”
ดวงยิหวาอึ้งไป

โต๊ะนั่งเล่นบริเวณเฉลียงด้านข้าง นอกบ้านบัญชา ถูกจัดแต่งอย่างประณีตและสวยงาม สำหรับงานเลี้ยงรับรองเทเรซ่ามื้อค่ำวันนี้

ฟ้ากระจ่างเข็นรถบัญชาออกมา โดยมีดารากานต์เดินเคียงมาอย่างครอบครัวแสนอบอุ่น ทรายทองตามมาด้วยหน้าตาที่ดูออกว่าฝืนใจ ทุกข์ระทมอย่างหนัก มีป้าบัวกับนายน้อมตามติด
“นี่มันอะไรกันมากมายนักหนาคะ ป้าบัว ทำยังกับรับเสด็จเจ้าหญิงอะไรซักอย่างแน่ะ”
“แหม..จะบ่นไปทำไมคะ คุณทราย ลูกชายคนโตของบ้านนี้จะมีแฟนทั้งคน มันจะน้อยกว่านี้ได้ยังไงคะ”
ฟ้ากระจ่าง พานายหัวประมุขของบ้านมาถึงที่ระเบียง พอดีกับนายเด่นเดินขึ้นมา ฟ้ากระจ่างยิ้มพลางเอ่ยทัก
“นายเด่นก็มาช่วยรับแขกพิเศษของเราด้วยหรือครับ..แม่”
นายเด่นหันไปบอกคนข้างหลัง ทีมีพุ่มไม้บังอยู่ น้ำเสียงสุภาพ “เชิญทางนี้ครับ คุณ...”
เทเรซ่าเดินตามนายเด่นมา ฟ้ากระจ่างอึ้ง งงงัน ดารากานต์ยิ้มระรื่นอย่างภูมิใจในผลงาน
“นี่ไงล่ะจ้าง..แขกคนสำคัญของเรา นายหัวกับแม่อยากจะทำความรู้จักกับหนูเทเรซ่ามานานแล้ว”
ฟ้ากระจ่างพูดเสียงแผ่วแทบเป็นพึมพำ “แม่หมายเทเรซ่าหรอกหรือครับ..ที่แม่ให้ผม..เลื่อนไฟลท์..เพื่อที่จะ..”
นายเด่นพาเทเรซ่าเข้ามาตรงหน้าพอดี “คุณเทเรซ่าครับ นายหัว กับนายหญิง”
ฟ้ากระจ่างมองหน้านายเด่น อึ้งไป หน้าซีด ทำตัวไม่ถูก นายเด่นมองตอบแบบอึ้งๆ ไม่เข้าใจเช่นกัน
เทเรซ่าไหว้ทั้งสอง “นายหัวบัญชา มาดามคะ..” ยิ้มกับดารากานต์ “เทเรซ่าดีใจมากๆ เลยค่ะ ที่ทราบว่า มาดามคือคุณแม่ของคุณฟ้ากระจ่าง”
ดารากานต์ยิ้มเยื้อนอย่างยินดี “ฉันก็ดีใจมาก ที่รู้ว่า..หนูเทเรซ่านี่เอง..ที่จ้างคบหาดูใจอยู่”
ฟ้ากระจ่างยิ่งอึ้งหนัก มองหน้านายเด่น แต่นายเด่นก้มหน้า แล้วถอยออกไปเงียบๆ
ใบหน้าฟ้ากระจ่างซีดลงๆ
“แดดดี้ฝากความปรารถนาดีมาถึงคุณบัญชากับมาดามค่ะ และฝากความระลึกถึงมาถึงคุณจ้างด้วย”
“ขอบคุณแดดดี้ของหนูมากนะ จ้าง..พาหนูเทเรซ่าไปที่โต๊ะไป..เดี๋ยวน้อมดูแลชั้นเอง” บัญชายิ้มให้
ฟ้ากระจ่างหันมา ก้มหน้ารับ ท่าทีสงบเสงี่ยม “ครับผม..” พลางหันไปยิ้มกับเทเรซ่า “เทเรซ่า..เชิญครับ”
นายน้อมเข้ามาเป็นคนเข็นบัญชาแทน
เทเรซ่าเข้ามาใกล้ พูดด้วยเบาๆ “คุณจ้างดูกังวลๆ นะคะ มีอะไรหรือเปล่า”
ฟ้ากระจ่างรีบยิ้มให้ “ไม่มีอะไรครับ..ไม่ทราบว่า..คุณปีเตอร์..สบายดีหรือเปล่า”
“แดดดี้สบายดีค่ะ แดดดี้รู้สึกขอบคุณมากเลย ที่คุณแม่ของคุณจ้างส่งการ์ดไปเชิญเทเรซ่ามาวันนี้ แดดดี้เป็นห่วงและเกรงใจคุณจ้างมาก ที่..มีเรื่องกันวันนั้น แต่แดดดี้ยังไม่มีโอกาสขอโทษคุณจ้างเลย คุณจ้างหายเจ็บแล้วใช่ไหมคะ”
“ผมไม่เป็นอะไรแล้วครับ”
ทรายทองมองภาพนั้นอย่างหมั่นไส้สุดขีด
“ดูพี่จ้างสิคะ ทำยังกะกลัวเกรงยัยนี่ซะมากมาย ยังไม่ทันไรเลยนะ”
“แต่ดูๆ เค้าก็สมกันดีนะคะ” ป้าบัวเริ่มจะเห็นงามด้วย
“สมกันตรงไหนป้า” ทรายทองฉุน

จังหวะนั้นบัญชามองภาพพี่น้องต่างมารดา ฟ้ากระจ่าง และเทเรซ่า ด้วยแววตาสมเพชเจือสะใจ
“คุณเชื่อไหม ดารากานต์ ว่าคนเป็นเนื้อคู่กัน มันจะมีอะไรคล้ายๆ กันนิดๆ ยังกับเป็นพี่น้อง..หรือญาติกัน” บัญชาปรารภขึ้นมา
“นายหัวคะ..เราจะต้องทำให้จ้างได้มีชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์ที่สุดให้ได้นะคะ”
บัญชามองๆ หา “เอ..แล้วน้องดินล่ะ ไม่อยู่หรือวันนี้ เราก็ควรจะทำให้น้องดินได้สมหวังเหมือนกันใช่ไหม”
“ใช่สิคะ ถ้าเราช่วยให้ลูกๆ ของเราทุกคนมีชีวิตคู่ที่ดี มีลูกเต็มบ้าน หลานเต็มเมือง เราก็จะเป็นอาม่าอากงที่มีความสุขที่สุดเลย จริงไหมคะ” ดารากานต์บีบไหล่ เอาใจบัญชา
ระหว่างนั้นนายน้อมมองสองนายแล้วรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก

นายเด่นเดินออกมาจะกลับ พอดีเกียรติบดินทร์พาดวงยิหวาเดินเข้ามา นายเด่นชะงัก
“พ่อ...”
“ดวง..ลูกมาทำไม”
“นายเด่น ไม่ร่วมโต๊ะกับครอบครัวเราหน่อยเหรอครับ”
“คุณดินครับ..ผมว่า..คุณให้ดวงกลับบ้านกับผมดีกว่า แล้วคุณก็รีบไปรับแขกเถอะครับ”
“นี่ไง นายเด่น แขกของผม คนอื่นเค้ามาโชว์ตัวกันได้ เราก็ต้องโชว์ตัวกันบ้างสิครับ”
“ไป..ดวง กลับบ้าน” นายเด่นไม่ในใจคำพูดเกียรติบดินทร์
“นายเด่นจะรีบพาดวงหนีไปไหนล่ะ กลัวว่าดวงเค้าจะได้รู้เห็นความจริงอะไรหรือครับ” เกียรติบดินทร์พูดแทงใจดำ
“คุณดินครับ ผมขอร้อง”
“ทำไมพ่อ มีอะไรเหรอ” ดวงยิหวาชักสงสัย
“มันเป็นเรื่องที่..สิ่งที่เราเห็นไม่ใช่ความจริงหรอกดวง”
เกียรติบดินทร์หัวเราะ น้ำเสียงเยาะหยัน “โอโห..นายเด่นครับ แทนที่จะปกป้องลูกสาวตัวเอง นายเด่นกลับปกป้องว่าที่ลูกเขยหรือครับ”
“มันคืออะไรกันแน่หรือ พ่อ..คุณดินคะ ดวงอยากรู้..มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่” ดวงยิหวารีบเดินพุ่งนำไปเลย
“ดวง! ไม่เอานะ ดวง!” นายเด่นร้องเรียกลูกสาว
ดวงยิหวาไม่ฟัง เดินดุ่มๆๆ
เกียรติบดินทร์หันมายิ้ม “ใจเย็นๆ สิครับ นายเด่น ขำๆ ครับ..ขำๆ” แล้วรีบตามเข้าไป
นายเด่นเครียดจัด

ดินเนอร์ปาร์ตี้เริ่มแล้ว บัญชานั่งที่หัวโต๊ะ ถัดมาคือดารากานต์ ทรายทอง อีกฝั่งเป็นฟ้ากระจ่าง นั่งคู่กับเทเรซ่า และที่ติดกันยังมีเก้าอี้ว่างของเกียรติบดินทร์
“นานๆ ทีเราจะได้ร่วมโต๊ะกันพร้อมหน้าพร้อมตา หนูเทเรซ่าล่ะคะ ครอบครัวหนูเป็นยังไงบ้าง มีพี่น้องหลายคนไหมคะ” บัญชาถามขึ้นอย่างกันเอง
“เทเรซ่าอยู่กับแดดดี้สองคนเองค่ะ บ้านของเราเงียบมาก” เทเรซ่าตอบ
“แล้วคุณแม่ของหนูล่ะคะ” ดารากานต์ซัก
“คุณแม่เทเรซ่ามีเทเรซ่าคนเดียวค่ะ แต่หลังจากเลิกกับแดดดี้ คุณแม่ก็มีครอบครัวใหม่อยู่ที่ต่างประเทศ มีน้องๆอีก 2 คน” เทเรซ่ายิ้มๆ “แต่เราก็ยังติดต่อกันตลอดเวลา”

ขณะนั้นเอง เกียรติบดินทร์พร้อมกับดวงยิหวาก็มาถึง
ดารากานต์ยังไม่รู้ตัวว่าทำร้ายลูกชายอีกครั้งแล้ว “จ้างเงียบจริง..ไม่พูดจาอะไรเลย”
ฟ้ากระจ่างฝืนยิ้มบางๆ ให้แม่ “อ้าว..ก็แม่กับนายหัวกำลังสัมภาษณ์คุณเทเรซ่าอยู่นี่ครับ ผมก็ขอเป็นคนฟังดีกว่า...”
“คุณจ้างคุยเก่งนะคะ แดดดี้ชอบคุยกับคุณจ้างมาก”
ดวงยิหวามองภาพที่ฟ้ากระจ่างและเทเรซ่าหันมายิ้มอ่อนโยนให้กัน ตัวแข็งทื่อ ยืนตะลึง
พวกที่โต๊ะยังไม่ทันหันมาเห็นเกียรติบดินทร์และดวงยิหวา
“ขอโทษนะครับ..ที่เรามาถึงช้าไปหน่อย แต่ผมกับดวงยิหวาก็ไม่ได้พลาดอะไรไป ใช่ไหมครับ” เกียรติบดินทร์เอ่ยขึ้น
ทุกคนหันมา ฟ้ากระจ่าง มองดวงยิหวา รู้สึกตกใจ นิ่ง และเงียบกริบ
ดวงยิหวายกมือไหว้ผู้ใหญ่ “นายหัว นายหญิง..คุณจ้าง..ป้าบัว..นายน้อม..” แล้วค้อมหัวให้ทรายทอง “คุณทรายทอง”
เกียรติบดินทร์ยิ้มร่าจ้องหน้าเทเรซ่า “คุณเทเรซ่า..รู้จักกับ ดวงยิหวา แฟนผมสิครับ”
ฟ้ากระจ่างอึ้งไปอีกรอบ
บัญชาช้อนตามองเกียรติบดินทร์ ลุ้นว่ามันจะเอายังไง หรือทำอะไรให้งานกร่อยหรือเปล่า?
ดารากานต์ มองดวงยิหวาอย่างทึ่ง ที่กล้ามาแสดงตัวแบบนี้
“สวัสดีค่ะ คุณดวง..” เทเรซ่าทักทาย ยังงงๆ อยู่ ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“ดวงยิหวาครับ..แปลว่า..ดวงใจ” เกียรติบดินทร์สำทับ
“ดวงยิหวา” เทเรซ่าทวนคำ
“ดวงใจของผมไงครับ..” เกียรติบดินทร์ยิ้มกับเทเรซ่าและฟ้ากระจ่างอย่างเจาะจง แล้วเลื่อนเก้าอี้ให้ดวงยิหวานั่ง ก่อนจะนั่งลงข้างๆ
“คุณดินสบายดีนะคะ” เทเรซ่าทักทายตามมารยาท
“ไม่ค่อยสบายหรอกครับ..เพราะดวงยิหวาเค้าไม่ค่อยมีเวลาให้ผมเลย เพราะพี่จ้างนี่แหละ ใช้งานแฟนผมหัวไม่วาง หางไม่เว้น ทั้งงานราษฏร์ งานหลวง จนดวงยิหวาแทบไม่มีเวลาให้ผมบ้างเลย”
เกียรติบดินทร์ประชดแกมเหน็บแนมอีกดอก
บัญชารีบแทรก “ดวงยิหวาทำงานเก่ง ซื่อสัตย์ ไว้ใจได้ ก็ต้องได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานเยอะเป็นธรรมดา ลูกมาบ่นแทนเค้า เพราะเค้าเคยมาฟ้องลูกงั้นเหรอ”
“ฟ้องบ่อยๆเลยล่ะครับ ดวงมีอะไรก็บอกผมทุกอย่าง ผมว่า ถ้าผมไปเมืองนอก..ผมอยากจะขอให้นายหัวส่งดวงยิหวาไปเรียนกะผมด้วยดีกว่า ผมไม่อยากปล่อยดวงไว้..กับคนที่ไม่เห็นใจดวงเลย”
ฟ้ากระจ่างทอดสายตามองหน้าดวงยิหวา เป็นเชิงถามไถ่ ทว่าดวงยิหวาเมินหน้าหนี หันไปหาเทเรซ่า
“คุณเทเรซ่าน่าจะมาช่วยทำงานในบริษัทของเรานะคะ บริษัทเราจะได้สดชื่นขึ้นหน่อย..” ดวงยิหวายิ้มหวาน สบตาเกียรติบดินทร์ “คุณดินคะ..ขอบคุณนะคะ ที่พาดวงมา ทำให้ดวงได้เห็นว่า ทำไมคุณจ้างถึงมีความสุขจังหมู่นี้..เพราะคุณจ้างมีกำลังใจดีๆ นี่เอง” ดวงยิหวาประชดประชัน
เกียรติบดินทร์ได้โอกาสสร้างภาพ กอบกุมมือดวงยิหวา “บอกแล้วไงจ๊ะ ดวงยิหวา ว่าดินเน่อร์คืนนี้ คือดินเนอร์ดูตัว ผมถึงพาดวงยิหวามาเปิดตัวอย่างเป็นทางการบ้าง ไม่งั้น เดี๋ยวคู่เราจะน้อยหน้าแย่”
ดวงยิหวา เกียรติบดินทร์หัวเราะกันคิกคัก มองตากัน
บัญชารู้สึกผิดสังเกต จดสายตาจับจ้องฟ้ากระจ่าง และดวงยิหวา
ฟ้ากระจ่างอึ้ง ในขณะที่ทรายทอง มองภาพของทั้ง 2 คู่ แล้วอยากจะร้องไห้

ในครัวกำลังง่วนอยู่กับจัดเตรียมผลไม้ไปเสิร์ฟ เด็กรับใช้เตรียมผลไม้จัดใส่จานอย่างสวยงาม และกำลังจะยกออกไป ป้าบัวเดินเข้ามาเรียกไว้
“เดี๋ยวๆๆ ผลไม้เอาไว้สุดท้าย..เอาขนมออกไปก่อน”
“ค่ะๆๆ”
ป้าบัวเดินไปเปิดตู้เย็น หยิบถาดเค้กน่าทานออกมา
ดวงยิหวาเดินเข้ามา “มีอะไรให้ดวงช่วยไหมคะ”
“อุ๊ย..หนูดวงยิหวา อย่าเลยค่ะ ไปนั่งเป็นเพื่อนคุณดินดีกว่า มาๆๆ รีบยกไปเถอะ..เธอ”
ป้าบัวยกเค้กไป เด็กยกถาดจานแบ่งพร้อมส้อม รีบตามไป ดวงยิหวาถอนใจ แล้วเดินตามออกไป
ฟ้ากระจ่างเดินเข้ามาพอดี ทั้งสองสบตากัน ดวงยิหวาพยายามหลบตา จะเดินเลี่ยงหนี แล้วทิฐิที่นำความคิด ทำให้ทั้งคู่เปิดฉากประชดประชันกัน
“ดวง..คุณเกียรติบดินทร์ไปรับดวงมาเหรอ”
“ค่ะ..คุณดินอยากให้ดวงเห็น..ว่าแขกพิเศษ คนสำคัญ..ของพี่จ้าง..คือใคร”
“ดวง..ดวงเข้าใจว่ายังไง”
“พี่จ้าง..พอเถอะค่ะ ความจริง..คนที่พี่จ้างชวนไปเที่ยวบ้านพี่ น่าจะเป็นคุณเทเรซ่านะคะ มันจะง่ายกว่าไหมคะ ถ้าคนเราทำอะไรซื่อๆตรงๆ จะได้ไม่ต้องคอยสับราง หรือจัดคิว”
“แล้วดวงล่ะ”
“ดวงทำอะไร ดวงไม่เหมือนพี่จ้างหรอก”
“ดวงเชื่อเค้ามากกว่าพี่อีก..แค่นี้..มันก็ชัดแล้ว..ว่าใครกันแน่ ที่มีความหมายสำหรับดวงมากกว่า ดวงไม่ไว้ใจพี่เลยด้วยซ้ำ”
“ใช่สิ ถ้าดวงไว้ใจพี่..ป่านนี้ดวงก็นั่งโง่อยู่ที่บ้าน แล้วก็งมงายไปคนเดียว นั่งรอให้พี่พาไปเที่ยว ตามประสาอีนังเด็กบ้านๆ ซื่อๆ เซ่อๆ”
“ดวง..พี่เองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำนะ ว่าแขกพิเศษของนายหญิงเป็นใคร ผู้ใหญ่สั่ง พี่ก็ต้องทำตาม”
“ก็ใช่ไง..พี่จ้างไม่ใช่อาจ้างคนเดิมหรอก ดวงเข้าใจแล้ว เวลานี้ พี่คือคุณชายฟ้ากระจ่าง พี่ก็ต้องทำตามที่นายหัวกับนายหญิงคาดหวังอยู่แล้ว..ในที่สุด พี่ก็ต้องเลือกคนที่คู่ควร คือลูกสาวเศรษฐีด้วยกัน”
“แล้วดวงล่ะ ดวงเลือกใคร..หรือว่าดวงรักพี่ แต่เสียดายน้อง” ฟ้ากระจ่างพูดประชดอย่างลืมตัว
ดวงยิหวาแค้นนัก ผลักฟ้ากระจ่างเต็มแรงจนเซ แล้ววิ่งหนีไป
ฟ้ากระจ่างยืนเซ่อ อึ้ง และซึม


กลางดึกคืนนั้น ฟ้ากระจ่างตามมาส่งเทเรซ่าในบ้าน ด้วยท่าทีเงียบๆ ขรึมๆ ส่วนเทเรซ่ามองอย่างปลาบปลื้ม
“คุณจ้างเงียบจังค่ะ ไม่พูดไม่จาอะไรเลย”
ฟ้ากระจ่างรีบยิ้มให้ “ผมกำลังคิด..สงสัยว่า..ดึกแล้ว..คุณเทเรซ่า..คงเหนื่อยแล้วสิครับ”
“เหนื่อย..ทำไมต้องเหนื่อยด้วยล่ะคะ”
“ก็..ไม่มีอะไรหรอกครับ..คือ..ครอบครัวผม..อาจจะ..ทำคุณรู้สึกอึดอัดหรือเปล่า”
“ไม่นี่คะ ทุกคนน่ารักมาก”
“ถ้าคุณเทเรซ่าคิดอย่างนั้น..ผมก็ดีใจ ผมกังวลนิดหน่อย..กลัวว่าคุณจะเบื่อ”
“ไม่เลยค่ะ เทเรซ่าสนุกดี”
ฟ้ากระจ่างยิ้มให้ “งั้นก็ดีครับ”
“คุณจะดื่มอะไรไหมคะ เดี๋ยวเทเรซ่าจะไปเชิญแดดดี้ลงมา”
“ผมไม่รบกวนดีกว่า พรุ่งนี้ผมต้องเดินทางเช้ามาก”
“ขอบคุณมากนะคะ..ฝากขอบคุณทุกคน..เทเรซ่าแฮปปี้..กับดินเน่อร์ที่บ้านคุณจ้างจริงๆ”
“ครับผม..ผมดีใจ ที่คุณเทเรซ่ามาบ้านเรา..ผมไปก่อนนะครับ” ฟ้ากระจ่างหันกลับจะเดินออกไป
“คุณจ้างคะ..ขอบคุณนะคะ กู้ดไนท์”
ฟ้ากระจ่างหันมา ยิ้มอ่อนโยนให้ “เช่นกันครับ” แล้วรีบเดินออกไป
เทเรซ่ามองตาม ปลื้มมาก ในขณะเดียวกันทันทีที่หันหลังให้เทเรซ่า หน้าตาฟ้ากระจ่างเปลี่ยนเป็นเครียด ครุ่นคิดหนัก

เทเรซ่าให้อาหารกระต่าย หน้าตามีความสุข
มีเสียงปีเตอร์ดังลอดเข้ามา “ดึกป่านนี้ ยังให้มันกินอีก”
เทเรซ่าหันมา ลุกยืน ตื่นเต้น หน้าตามีความสุข “แดดดี้..ยังไม่นอนอีกหรือคะ”
ปีเตอร์เข้ามา ลูบผมลูกสาวขณะเอ่ยถาม
“แดดดี้เห็นสีหน้าลูกตอนนี้ ก็คงไม่ต้องถามแล้วนะ ว่าดินเน่อร์เป็นยังไงบ้าง”
เทเรซ่าเล่าอย่างกระตือรือร้น เห่อๆ ปลื้มมากๆ “นายหัวเป็นสุภาพบุรุษที่อบอุ่นมากค่ะ แดดดี้ ไม่ได้ดูโหดร้ายอะไร แล้วมาดามก็อ่อนหวานใจดี ที่แปลกคือ..น้องชายคุณจ้าง นายเกียรติบดินทร์..ที่เราเคยรู้จักว่า..เลวร้าย ก็กลับไม่ใช่แบบที่เราเคยเห็น แล้วยังพาคุณดวงยิหวาคู่รักมาด้วย เค้ารักกันม้ากมากค่ะ”
“แล้วคุณจ้างล่ะ”
“คุณจ้าง..เค้า..พูดน้อยค่ะ..แต่ก็น่ารักเหมือนเดิม” เทเรซ่าหัวเราะ แววตาวิบวับเป็นประกายฝันๆ
“ฟังแล้ว..เหมือนทุกอย่างจะดูดี..ดูดีเกินจริงไปหรือเปล่า” ปีเตอร์แซว
“แดดดี้เชิญพวกเค้ามาบ้านเราบ้างสิคะ..แดดดี้ต้องเจอเอง”
ปีเตอร์มองลูกสาว ยิ้มอย่างเอ็นดู

นายน้อมกำลังติดกระดุมเสื้อนอนให้นายหัว บัญชาดูครุ่นคิดอะไรอย่างเงียบๆ
ที่สุดแล้วนายน้อมอดรนทนไม่ได้ “ทุกอย่างราบรื่นดี..ตามแผนนะครับ”
บัญชาหันมา “หมายความว่ายังไง”
“ก็..ไม่มีอะไรครับ”
“แกพูดแปลกๆ นะ” บัญชามองจ้องเขม็ง
“เปล่าครับ” นายน้อม ก้มหน้า หลบตา
พอดีมีเสียงเคาะประตูขัดจังหวะเสียก่อน เป็นดารากานต์เดินเข้ามา ยิ้มสดใส มีความสุขมากๆ
“ขอบคุณมากนะคะ นายหัว..หนูเทเรซ่าน่ารักมากๆ ฉันดีใจมากเลย ที่รักเอ็นดูคนไม่ผิด
บัญชารีบเปลี่ยนสีหน้า หันมายิ้มแย้ม “ใช่..เทเรซ่าน่ารักมาก..สมกับจ้างจริงๆ..เป็นคู่ที่..ถ้าแต่งงานกัน จะต้องมีความสุขกันมากแน่ๆ”
“คู่ของน้องดินก็น่าเอ็นดูนะคะ เอาเข้าจริง..ดวงยิหวาเค้าก็ออกจะรักกับน้องดินดี ดิฉันคิดได้แล้วล่ะ ว่า..เราควรจะส่งเค้าไปเรียนเมืองนอกด้วยกันซะเลย จะได้หมดปัญหาทุกอย่าง น้องดินก็จะได้ยอมไปเรียนแต่โดยดีซะที เราจัดให้เค้าหมั้นกันก่อนก็ได้ นายเด่นจะได้สบายใจ นายหัวว่ายังไงคะ” ดารากานต์ว่า
บัญชาหัวเราะชอบใจ “แบบนี้น้องดินต้องดีใจแน่ๆ เอาสิ..ผมเห็นด้วยกับคุณหมดทุกอย่างนั้นแหละ”
นายน้อมก้มหน้า แล้วเดินเลี่ยงออกไป

ดวงยิหวานั่งเศร้าอยู่ที่เก้าอี้โซฟาภายในห้องนั่งเล่น สมองมึนชา รู้สึกผิดหวังในตัวฟ้ากระจ่าง
เกียรติบดินทร์นั่งลงข้างๆ “เธอเห็นความจริงรึยัง..ว่าไอ้จ้างมันไม่จริงใจกับใครทั้งนั้น ถึงที่สุดแล้ว.. มันก็ไม่เห็นจะแคร์เธอซักนิดเดียว”
ดวงยิหวาประชดส่ง “แล้วคนอย่างดวง..จะต้องมีใครมาแคร์หรือคะ”
เกียรติบดินทร์รุกทันที “ชั้นไง...”
“คุณดิน..ดวงเหนื่อยแล้ว..ดวงไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว”
“งั้นเดี๋ยวดวงก็..นอนซะ..แล้วตื่นขึ้นมา ดวงก็จะคิดได้เอง..ว่าดวงควรจะทำยังไง แต่สำหรับวันนี้ ดวงเก่งมาก ทำได้ดีมาก”
ดวงยิหวาไม่ตอบหน้าตาเหม่อลอย เกียรติบดินทร์นั่งมองหน้าดวงยิหวาไปเงียบๆ สีหน้าเศร้า

เวลาเดียวกันนั้นที่ด้านนอกประตูซึ่งมองทะลุเข้ามาเห็น ฟ้ากระจ่างยืนมองด้วยหน้าตาไม่พอใจ ภาพในกรอบสายตาที่เขาเห็น คือเกียรติบดินทร์ กับดวงยิหวาอยู่บนโซฟาเดียวกัน ทั้งคู่ดูชิดใกล้กันมาก
แวบหนึ่งฟ้ากระจ่างนึกอยากจะเข้าไปเพื่อทำอะไรสักอย่างให้แตกหัก แต่แล้วตัดสินใจถดตัวกลับถอยออกมาเงียบๆ
ดวงยิหวาไม่รู้เรื่อง และเกียรติบดินทร์ก็ยังมองอยู่ ด้วยความห่วงใย


รุ่งเช้าวันต่อมาในขณะที่สารภีกำลังยกของขึ้นรถเข็น แล้วจู่ๆ จังหวะหนึ่งเจ็บแปลบที่บริเวณหลัง ต้องหยุดชะงัก เอามือค้ำสะเอวไว้ แล้วค่อยๆทรุดตัวลงนั่ง ร้องโวยวายอยู่คนเดียว
“โอ๊ย..เจ็บๆๆๆ อ้า..ผิดท่าๆๆๆ ไม่น่าเลยเรา โอยๆๆ”
ฟ้ากระจ่างยืนมือเข้ามาประคอง
“แม่..เป็นยังไงบ้าง..ก็หมอเขาบอกหลายทีแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าห้ามยกของหนัก..แล้วทำไมแม่ยังดื้ออีกล่ะครับ”
“อาจ้าง..อาจ้างจริงๆด้วย นี่..มาได้ไง แม่ไม่ได้ฝันไปใช่ไหม” สารภีร้องออกมาอย่างดีใจ
“ไม่ได้ฝันไปหรอกครับ..ตัวจริงเสียงจริงเลย” ฟ้ากระจ่างหัวเราะนิดๆ แต่แววตายังมีแววหม่น
รอบๆ ตรงที่ฟ้ากระจ่างยืนอยู่ มีกระเป๋าเดินทาง กระเป๋าของฝาก ถุงขนมวางกอง
“เออ..ตัวจริง..เป็นๆ เลยด้วย” สารภีหันไป ตะโกนลั่น “เจ้าข้าเอ๊ย ทุกคนๆๆ อาจ้างกลับมาแล้ว อาจ้างขนของซมซานกลับมาอยู่บ้านแล้ว เจ้าข้าๆๆๆ”
ชาวศาลเจ้าทุกคน ค่อยๆ โผล่มาดู
“อ้าว เฮ้ย..อาจ้าง อาจ้างมาแล้วๆ” อาหึ่งรีบเข้ามา จับดูหน้าใกล้ๆ “อาจ้าง ทำไมหน้าตาลื้อดูเหนื่อยๆ สุขภาพทรุดโทรมแบบนี้ล่ะ”
“ไม่จริง..อาจ้างก็ดูดี แข็งแรงเหมือนเดิม ใครว่าซมซาน ใครว่าสุขภาพทรุดโทรม ไม่จริงๆๆ ไอ้คู่นี้นี่ พูดจาไม่เป็นมงคลเลย..” อาม่าสาลี่แย้ง
กู๋เหลียงท้วงขึ้น “อ้าว..แล้วมากับใครเนี่ย..มาคนเดียวเหรอจ้าง”
“ก็มาคนเดียวอะสิ จะให้มันมากะใครล่ะ” สารภีถามย้อน ขวางๆ
“นึกว่าจะพาสาวมาไง..หนูดวงยิหวาล่ะ ไม่มาด้วยกันเหรอ”
“นั่นสิ จ้าง ทำไมหนูดวงไม่มาล่ะ อาม่าคิดถึงนะ มีปัญหาอะไรรึป่าว..อาม่าบอกแล้วใช่ไหม ว่าอาจ้างอย่าปล่อยให้ใครมาจับคลุมถุงชน สมัยใหม่แล้ว หนุ่มสาวเค้าต้องเลือกคนที่ตัวเองรักสิ” อาม่าสาลี่บอก
“เปล่าครับอาม่า ไม่ใช่อะไรแบบนั้นหรอก” ฟ้ากระจ่างยิ้ม “คือ..ไม่มีใครเขาว่างมาหรอกครับ..ผมมาหลายวัน คนอื่นเขาเลยมากันไม่ได้”
“อ้าว..แล้วมาคุยอะไรกันตรงนี้ มาเหนื่อยๆ จ้างตื่นแต่มืดสิ เพลียไหม ไปๆๆ เข้าไปกินข้าวเช้ากันดีกว่า” นักบวชตงบอก
“จริงด้วยๆๆ กินข้าวๆๆ วันนี้มีของโปรดลื้อพอดี อาจ้าง” อาหึ่งเอ่ยขึ้นใบหน้ายิ้มแย้ม
“อะไรครับป๊า”
“ต้มหน่อไม้จีนเห็ดหอม..ไข่พะโล้” อาหึ่งภูมิใจนำเสนอ
“สุดยอดเลย..” ฟ้ากระจ่างยิ้มแต้
“แล้วจ้างซื้อไรมาฝากแม่มั่ง..มีหนมมั้ยๆๆ” สารภีเข้ามารื้อของพัลวัน

ทุกคนเข้ามาห้อมล้อมมะรุมมะตุ้มถามไถ่เซ็งแซ่ ฟ้ากระจ่างหัวเราะออกมาเริ่มรู้สึกผ่อนคลาย และสบายใจขึ้นมากในอ้อมแขนแห่งรักที่เขาคุ้นเคย!

อ่านต่อหน้า 3 พรุ่งนี้ เวลา 9.00 น.




ลิขิตฟ้าชะตาดิน  ตอนที่ 16 (ต่อ)

ตอนสายวันเดียวกันที่บ้านนายเด่น ภายในห้องนอนดวงยิหวา ตุ๊กตาโดราเอม่อนกองจุกอยู่มุมหนึ่งใต้เตียง ส่วนบนเตียงดวงดวงยิหวานั่งซม จ่อมจมอยู่กองหมอน และผ้าห่ม ร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่ยอมในถือผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาที่ไหลพราก

นายเด่นยืนกอดอกพิงโต๊ะเขียนหนังสือ มองมาอย่างห่วงใย
“เฮ้อ ลูกเอ๊ย..ต่างคนต่างแรง ต่างคนต่างไม่พูดกัน ไม่ฟังกัน มันก็ต้องแบบนี้แหละ”
“พี่จ้างเค้าไม่รักดวงแล้ว” ดวงยิหวาฟูมฟาย
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกลูก”
“เค้ากลับบ้านไปคนเดียว ไม่พาดวงไปด้วย”
นายเด่น ส่ายหน้า “เค้าก็เด็กๆ พอๆ กับลูกนั่นแหละ เค้าคงงอน..ก็เท่านั้น
“เค้ามีสิทธิ์อะไรจะมางอน..แล้วทีตัวเองล่ะ”
“พ่อบอกแล้ว ไม่ให้ลูกเข้าไป”
“ถ้าไม่เข้าไป ดวงจะรู้ความจริงไหมล่ะคะ ว่า..เค้ากะลูกคุณหนูคนนั้น..ฮือ” คราวนี้ร้องไห้โฮชุดใหญ่
นายเด่นถอนหายใจยาว หยิบเก้าอี้ทำงานมาพลิก นั่งลง มองเงียบๆ พักหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“นั่นไม่ใช่ความจริง..ไม่มีความจริงอะไรทั้งนั้น”
ดวงยิหวาสั่งน้ำมูกพรืดยาว “พ่อเข้าข้างคุณจ้างเหรอเนี่ย
“พ่อจะเข้าข้างคุณจ้างทำไม พ่อไม่ได้อยากให้ดวงรักเค้าหรอกนะ ถ้าดวงเลิกได้ หรืออยู่ห่างๆ เค้าได้ พ่อจะดีใจด้วยซ้ำ แต่พ่อไม่อยากให้ลูกเข้าใจผิด” นายเด่นพยายามอธิบายโดยใช้เหตุผล
“พ่อจะบอกว่า..คุณจ้างไม่ได้ชอบยัยนั่น แต่โดนพ่อแม่บังคับเหรอคะ แล้วสุดท้าย ถ้าเค้าแต่งงานกัน พ่อก็จะบอกว่า คุณจ้างจำใจแต่ง..จำเป็นต้องทำตามคำสั่งนายหัวกะนายหญิง แต่งงานเพื่อปรองดองทางธุรกิจ อะไรประมาณนั้นเหรอ”
“พ่อคิดว่า..มันไม่น่าจะมีวันนั้นนะดวง”
“ทำไมล่ะคะ” ดวงยิหวาหันมา อย่างสนใจ
“พ่อเชื่อว่า..คุณจ้าง..เป็นแค่หมากตัวนึง บนกระดานของนายหัว..เพื่อทำให้ศัตรูหลงทาง..แล้วสุดท้าย..จะต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่ๆ”
ดวงยิหวาชะงัก วางผ้าเช็ดหน้า “ยังไงคะ..พ่อ”
นายเด่นอึ้ง
ดวงยิหวาทนไม่ไหวลุกมาจับแขนนายเด่นเขย่า “พ่อ..แล้วพี่จ้างจะเป็นไงคะ..พี่จ้างจะมีอันตรายหรือเปล่าคะ”
นายเด่นอึ้งอยู่อย่างนั้น


ช่วงสายวันเดียวกัน ที่บริเวณกลางศาลเจ้า ฟ้ากระจ่างไหว้เจ้าด้วยขนม ผลไม้ ปักธูปเทียน วางของเซ่นไหว้ หน้าตา สงบ เปี่ยมศรัทธาขณะเพ่งมองใบหน้าเปี่ยมเมตตา ของเทพเจ้าองค์ต่างๆ ในศาลเจ้า เห็นชัดว่าเขากำลังอธิษฐานขอพรบางประการ ฟ้ากระจ่างอยู่ในชุดอาจ้างเด็กหนุ่มแห่งศาลเจ้า เป็นเดิม ทั้งเก่าและเยิน

สารภีใส่เสื้อชุดใหม่ ทำท่าเป็นเดินแฟชั่นหมุนอยู่ที่หน้าครัว อาหึ่งสวมชุดที่ลูกชายซื้อมาฝากกำลังจัดโต๊ะอาหารใหญ่ มีหมี่เหลืองในถาดกลางโต๊ะแบบพูนๆ แยกอาหารเจ และไม่เจ จัดวางอย่างตั้งใจ
อาม่าสาลี่ก็อยู่ในเสื้อผ้าใหม่ กำลังยกถาดขนมน่ากินหลายอย่างออกมาวาง
และสุดท้าย คือนักบวชตง กับกู๋เหลียงที่ใส่เสื้อใหม่เช่นกัน เดินเคียงกัน ต่างถือถาดผลไม้ที่เชิญลามาจากการเซ่นเสร็จแล้ว เพื่อมาสู่กันกิน
จ้างออกมา ยกถาดน้ำชา พร้อมถ้วยครบคนมาวาง
สารภีถามขึ้นทันที “จ้าง..แม่สวยไหม”
“สวยสุดๆ อย่างกับนางสาวไทยแน่ะ”
สารภีค้อนขวับ “โกหก..ไม่ถึงขนาดนั้นซักกาหน่อย..แค่ระดับจังหวัดแค่นั้นแหละ”
“จังหวัดอะไรวะ อั๊วจะไม่ไปเหยียบเด็ดขาด” อาหึ่งแขวะตามธรรมเนียม
ทุกคนฮาอย่างสนุกสนาน
“อาจ้าง ดูสิ ป๊าแกล้งแม่ นิสัย!!”
“อาหึ่งเองก็ไม่เลวนะ ยังกะบี้ เดอะสตาร์” อาม่าสาลี่อวยพร้อมกับยิ้ม
“บี้เบ้ออะไร ไม่รู้จักเว้ย อั๊วะมันระดับตึ้งกวงหยง พระเอกคู่ขวัญเจินเจิน และหลินชิงเสีย”
“โห..ตึ้งกวงหยง..พระเอกไต้หวัน รู้สึกตายไปแล้วนะคนนี้”
คำพูดของอาม่าผู้อารี ทำเอาทุกคนปล่อยเสียงหัวเราะขึ้นมาพร้อมๆ กัน
“นี่ๆๆ แล้วไม่ต้องเอาอั๊วไปเปรียบกะใครนะ อั๊วไม่ต้องการเทียบตัวเองกับพวกดารงดาราอะไร ไม่ว่าไทยหรือต่างชาติ อีกอย่าง รูปร่างหน้าตาของคนเรา มันก็แค่เปลือกนอก คนเรา สำคัญที่ใจตังหาก”
“พูดถูก..เพราะอย่างอาเหลียง จะเอารูปร่างหน้าตาไปแข่งกับใคร ก็คงจะลำบาก” อาจารย์ตงเอ่ยขึ้น
“อ้าว..อาจารย์” กู๋เหลียงเซ็ง โดนจนได้
“อั๊วหมายความว่า..สังขารมันเป็นของไม่เที่ยง ย่อมเสื่อมไปเมื่อเวลาก้าวไปข้างหน้า มีแต่ใจเท่านั้น ที่ยกระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ เป็นลำดับ กู๋เหลียง..ใจลื้อ..มันหล่อมาก” อาจารย์ตงหักมุมได้อย่างสวยงาม
ทุกคนฮาแตกกันอีกรอบ โดยเฉพาะฟ้ากระจ่าง ที่กำลังใช้ตะเกียบคีบหมี่แจกใส่จานเสิร์ฟเรียงตามที่นั่งบนโต๊ะ ฮาแทบตกเก้าอี้ รีบวางจานหมี่ กลัวหก
“ขำอะไรนักหนาฮะ อาจ้าง...” อาหึ่งหงุดหงิดเล็กๆ
“ขำตงเซียนเชิง..พูดสำนวนวัยรุ่นมากครับ ป๊า” ฟ้ากระจ่างบอก
“เออ..อั๊วนึกว่าอาหนูดวงยิหวาจะมาด้วยซะอีก ทำไมล่ะ พ่ออีไม่อนุญาตเหรอ แหม..ทำไมไม่บอกล่ะ ว่าอั๊วจะดูแลอีเอง..มาที่นี่ไม่มีอะไรน่าเกลียดหรอก” อาม่าว่า
ฟ้ากระหน้าเสียทันที
“อ๋อ เปล่าครับ ดวงเค้า..ติดงานครับ”
“แม่คนสวยของลื้อเค้าว่าไงล่ะ เค้าจะคลุมถุงชนลื้อเหรอ เค้าคงหวงลื้อ ไม่อยากให้กลับมานี่ ท่าทางเค้าจะเป็นคนดุ ชอบบังคับจิตใจคนนะ อาจ้าง” สารภีถามขวางๆ
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอครับแม่..นายหญิงเค้าใจดีจะตาย” ฟ้ากระจ่างแก้ต่าง
“แล้วอยู่บ้านนั้นเขาทำกับข้าวอะไรให้ลื้อกินวะ จ้าง..อั๊วว่าลื้อผอมลงนะ สงสัยจะไม่มีอะไรอร่อยเลยสิ” อาหึ่งถามอย่างห่วงใย
ฟ้ากระจ่างหน้าซีดลงๆ แล้วในที่สุด ก็หันมามอง เห็นทุกคนรุมดูหน้าตน รีบยิ้มแหย ทำเป็นไม่มีอะไร
“โอ๊ย..มันแน่อยู่แล้ว..ของกินที่ไหนจะมาอร่อยเหมือนฝีมือป๊าล่ะ ไม่ไหวแล้ว กินก่อนแหละ”
ฟ้ากระจ่างคีบบะหมี่เข้าปากกินตุ้ยๆ ทุกคนแอบสบตากัน

เวลาต่อมาฟ้ากระจ่างเดินออกมาหามุมสงบ หยิบโทรศัพท์มามอง ตัดสินใจ แล้วกด เวลาเดียวกันดวงยิหวาที่เดินไปเดินมา พร้อมโทรศัพท์ในมือ สะดุ้งโหยง มองหน้าจอ ตื่นเต้น ผสมลังเล ยังงอน แต่ก็ห่วง เอาไงดี
ฟ้ากระจ่างรอ หน้าตาวุ่นวายใจ ดวงยิหวาตัดสินใจกดรับ
“ไงล่ะ” ฟ้ากระจ่างอดกวนไม่ได้
ดวงยิหวาจี๊ดขึ้นมากวนกลับ “ก็ไงล่ะ โทมาไม”
“ก็โทร.ไปงั้น..พวกผู้ใหญ่ที่ศาลเจ้าเค้าถามถึง..ก็แค่นั้น ไม่มีไร”
“ก็ไม ไม่บอกเค้าไปล่ะ ว่าตัวเองเป็นคนทิ้งเรา บินไปโดยไม่มารับเราเอง”
“ก็ใครจะกล้าไปรับแฟนสาวของคุณเกียรติบดินทร์..ที่กำลังจะไปเมืองนอกด้วยกันล่ะ”
“ก็ดีแล้ว ถึงมารับก็ไม่ไป เพราะใครจะกล้าไป กะแฟนของคุณหนูเทเรซ่าคนสวยไฮโซเริดเลอเพอร์เฟ็คท์” ดวงยิหวาเยาะ
“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะดวง”
“แล้วมันยังไงล่ะ”
“แล้วดวงมากะแฟนดวงได้ไงล่ะ”
“โอเค งั้นแค่นี้นะ” ดวงยิหวากดปิดมือถือทันที
“เออ บาย..” ได้ยินว่าอีกฝ่ายชิงวางสายไปก่อนแล้ว อารมณ์เสียสุดๆ “โธ่เว้ย”
ฟ้ากระจ่างโมโห หน้าหงิก เก็บมือถือยืนกอดอก และพยายามสงบสติอารมณ์
ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีก ฟ้ากระจ่างกระชากออกมา กดรับ โดยไม่ดูก่อน
“ไรอีกล่ะ ไม่ต้องเลยนะ ไม่ต้องมาแก้ตัวเลย..ตัวเองนั่นแหละที่...”
เสียงดารากานต์พูดขึ้น “จ้าง..นั่นจ้างใช่ไหมลูก”
ฟ้ากระจ่างสะดุ้ง หยุดกึก “ฮัลโหล แม่หรือครับ”
ดารากานต์อยู่ที่บ้าน ทำหน้าฉงน
“จ้าง..จ้างสบายดีไหมลูก”
“ครับ..แม่ สบายดีครับ”
“แล้วที่นั่นหนาวหรือเปล่า หรือร้อน..จ้างกินอาหารได้หรือเปล่า”
“ก็..กินได้ครับ..อาหารอร่อย..อากาศก็ไม่หนาวไม่ร้อน กำลังดี”
ดารากานต์อึ้งไปนิด “จ้างอยู่ที่นั่น คงมีความสุขกว่าอยู่ที่นี่สินะ”
ฟ้ากระจ่างอึ้งเช่นกัน “ก็..ไม่หรอกครับ..ก็ เหมือนๆ กัน”
“แล้วจ้างจะอยู่กี่วัน เมื่อไหร่กลับ”
“ก็..ยังไม่แน่เลยครับ”
“อะไรกัน..ไหนว่าจะไป 3-4 วันไง อยู่ได้ยังไงนานๆ..ไม่คิดถึงบ้านนี้หรอกเหรอลูก
ฟ้ากระจ่างนิ่งไปนาน “คิดถึงสิครับ”
ดารากานต์นิ่ง เสียงเศร้า “แม่คิดถึงลูกนะ จ้าง..แม่อยากให้ลูกกลับมาเร็วๆ นะลูก”
สีหน้าแววตาของฟ้ากระจ่างแววตาดูออกว่ากลัดกลุ้มหนักขณะรับปากออกไป “ครับ”
ดารากานต์คิดถึงลูกชายจริงๆ ในขณะที่ฟ้ากระจ่างขรึม สีหน้าเศร้าลงไปอีก

ค่ำคืนนั้นภายในมุ้งสายบัวเก่าคร่ำคร่าที่กางเหนือที่นอนขนาดพอดีตัว ตรงมุมหนึ่งในห้องอาหึ่ง ฟ้ากระจ่างนอนตัวงอหลับเหมือนสลบ
พวกชาวศาลเจ้ามามุงดูอยู่นอกมุ้ง แล้วมองหน้ากัน
“ทำไมมันนอนจุจังวะ” กู๋เหลียงทเอ่ยขึ้น
นักบวชตงทักเห็นด้วย “เหมือนคนอดหลับอดนอนมามาก”
“หรืออยู่บ้านนั้น..มันนอนไม่หลับวะ” อามี่สาลี่บอก
“ชั้นว่าเหมือนมันเหน็ดเหนื่อยมามากมาย..ชั้นใช้ให้นวด มันนวดให้แป๊บเดียวเอง” สาลี่ว่า
“อีบ้า มันให้ตังค์ลื้อตั้งแยะ ลื้อก็เอาไปจ้างยายเขียด หมอนวดหลังตลาดมานวดสิวะ มันเป็นใคร ลื้อเป็นใคร ไปใช้มัน” อาหึ่งด่า
“ทีลื้อให้มันล้างจานล่ะ” สารภีไม่ยอม โต้กลับ
“มันล้างเองเว้ย” อาหึ่งบอกเสียงดัง
“ชู่ววว...อย่าทะเลาะกัน ให้มันหลับซะ ให้สบาย ไม่รู้กลับไป..มันจะได้นอนเต็มที่แบบอยู่นี่ป่าว” อาม่าร้องห้าม
“ตกลงอยู่คฤหาสน์ นอนห้องแอร์ เตียงคิงไซส์ มันไม่ได้ทำให้คนเราหลับสนิทหรอกเหรอ” กู๋เหลียงปรารภ
“ไม่หรอก สู้ไอ้ที่นอนเปื่อยๆ ผ้าห่มถูกๆ กะมุ้งเหม็นสาบไมได้” นักบวชตงตอบแทน
ทุกคนยิ้มหัวให้กัน

เวลาเดียวกันในขณะที่เทเรซ่ากำลังให้อาหารน้องหมา สักพัก มีช่อดอกไม้สีชมพูยื่นมาตรงหน้า เทเรซ่าตาโต ลุกขึ้นมารับทันที
“แดดดี้!!!” เทเรซ่ารีบรับดอกไม้ไป ดีใจสุดๆ
ปีเตอร์หยิบนามบัตรให้ดู “จากคุณนาย..D. คุณแม่ของจ้าง”
“น่ารักจังเลยค่ะ แดดดี้ หนูส่งดอกไม้ตอบดีไหมคะ” เทเรซ่าเนื้อเต้น
“เอางี้ดีกว่า แดดดี้จะส่งเอก..ช่อดอกไม้ ถึงคุณนายดี..เชิญคุณนายและสามีกับลูกชาย มาดินเน่อร์บ้านเราบ้าง ดีไหม” ปีเตอร์ออกไอเดีย
“แต่นายหัวบัญชาเค้าจะมาหรือคะ..เค้านั่งเก้าอี้วีลแชร์”
“ก็ลองเชิญดู..ถ้าเค้าไม่สะดวก..ก็..ไม่เป็นไร”
“แล้วก็..ไม่ต้องเชิญนายเกียรติบดินทร์มานะคะ” เทเรซ่าหน้าหงิก
ปีเตอร์หัวเราะขัน “อะไรกันนี่..ลูกจะคบแต่พี่ แล้วเป็นคู่กัดกับน้อง..งั้นเหรอ”
“ก็นายคนนั้นนิสัยไม่ดีนี่คะ แดดดี้ อีกอย่าง เค้าก็คงไม่อยากมาหรอก”
“พ่อจะเขียนว่าเชิญทั้งครอบครัวก็แล้วกัน ใครจะไม่มาก็ตามใจ”
“หนูจะทำคัพเค้ก” เทเรซ่าเสนอเมนูถนัดทันที
“คัพเค้กอีกแล้ว” ปีเตอร์แซว
“แต่อาหาร เราสั่งมาดีกว่านะคะ เอาอาหารอิตาเลี่ยน..เทเรซ่าชอบ”
“แล้วคุณจ้างเขาชอบหรือเปล่า”
“เออ..จริงด้วยสิคะ เทเรซ่าไม่เคยรู้เลย ว่าคุณจ้างเค้าชอบ หรือไม่ชอบอะไร เทเรซ่าถามแม่บ้านของเค้าตรงๆเลย จะดีไหมคะ เราจะได้ทำให้ถูกต้อง..คุณจ้างมาดินเน่อร์บ้านเรา จะได้ประทับใจ”
ปีเตอร์หันไปทางประตู แล้วสะดุ้ง เห็นชิงชัยยืนหน้าซีดเผือดที่ประตู ไม่รู้ฟังมาตั้งแต่ช่วงไหน ปีเตอร์หันมาเห็นชิงชัย ก็เจื่อนไปเช่นกัน
“อ้าว ชิงชัย มาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ขอโทษครับ..ผมไม่ตั้งใจ ที่จะมารับทราบ..เรื่องส่วนตัว..ภายในครอบครัวของพวกคุณ” ชิงชัยชูเอกสารขึ้น “นี่คือเอกสารที่แก้ไขเรียบร้อยตามที่คุณปีเตอร์คอมเม้นท์มา พร้อมที่จะนำส่งกับทางการแล้ว..” เดินมาวางที่โต๊ะ “ลองตรวจทานดูอีกทีนะครับ..ผมไปล่ะ บาย” ก้มหัวให้ปีเตอร์ “..กู๊ดไนท์นะ..เทเรซ่า” ชิงชัยหันกลับรีบเดินออกทันที
เทเรซ่า กับปีเตอร์สบตากัน อึ้งๆไป เทเรซ่ายิ้มหน้าซีดๆ กับพ่อ แล้วตัดสินใจตามชิงชัยออกไป

ชิงชัยเดินหน้าหงิกออกมาหยุดในห้องรับแขก เทเรซ่าตามมาเรียกไว้
“คุณชิงชัยคะ”
ชิงชัยชะงัก
“กรุณาฟังเทเรซ่าก่อนค่ะ เทเรซ่าขอร้อง”
ชิงชัยหันมา มองหน้าแล้วถาม “จะให้ผมฟังอะไร รายการอาหารที่คุณจะเสิร์ฟไอ้พวกคนที่มันฆ่าพ่อผมน่ะเหรอ”
“เทเรซ่าเข้าใจ ว่าคุณรู้สึกไม่ดี..เทเรซ่าต้องขอโทษ ที่ไม่สามารถคิดให้ตรงกับพวกคุณได้”
“คุณก็เลยไปคิดตรงกับ..ไอ้ฟ้ากระจ่างแทน..งั้นสิ” ชิงชัยประชดประชัน
“คุณจ้างกับเทเรซ่า..เข้ากันได้ดีจริงๆ นี่คะ เราถูกชะตากัน พูดคุยกันถูกคอกันดี..สิ่งเหล่านี้เราบังคับไม่ได้ไม่ใช่เหรอคะ มันต้องเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ”
เทเรซ่าว่า ซึ่งเหมือนมีดกรีดซ้ำลงกลางใจดวงช้ำของชิงชัย
“พอที.. เทเรซ่า คุณไม่แคร์หรือไง ว่าเรื่องนี้ มันทำให้ผมเจ็บปวดแค่ไหน”
“เทเรซ่าไม่อยากให้เราต้องมาโกรธเกลียดกันเลย..คุณชิงชัยก็น่าจะจำได้ ว่าคุณจ้างเค้าเพิ่งมาที่นี่ทีหลัง..หลังจากเรื่องราวเลวร้ายผ่านไปแล้ว เค้าไม่ได้รู้เห็นอะไรด้วยซักหน่อย”
“เรื่องเลวร้ายมันยังไม่ได้ผ่านไปไหนเลย เทเรซ่า ผมไม่เข้าใจเลย ว่าทำไมคนอย่างคุณปีเตอร์ถึงมองไม่ออก”
“คุณชิงชัย ทำไมคุณไม่ปล่อยให้กฎหมายจัดการกับคนผิด คุณบัญชาเค้าก็กลายเป็นคนพิการไปแล้ว เทเรซ่าเห็นมากับตา ว่าเค้าน่าสงสารไม่น้อยไปกว่าใครๆ ทุกฝ่ายก็สูญเสียกันทั้งนั้น เทเรซ่าอยากจะขออาสา..เป็นคนเชื่อมสัมพันธไมตรีให้ทั้งสองฝั่งสงบศึกกัน..
ชิงชัยหัวเราะใส่หน้า “คุณมันไร้เดียงสา เทเรซ่า โลกนี้มันไม่สวยงามอย่างในนิทานหลอกเด็กหรอก บ้าที่สุด” เดินหนีออกไป เจ็บปวด เคียดแค้น
เทเรซ่าถอนหายใจ สีหน้าสลด รู้สึกอนาถและสมเพชชิงชัยนัก

ภายในห้องรับแขกบ้านบัญชา นายน้อมถือโทรศัพท์สายในบ้านพูดสายอยู่ บัญชานั่งจิบชา พลางออกคำสั่ง
“เอา..สีแดง..กุหลาบแดง..ช่อใหญ่..ไม่ต่ำกว่า 2 พันบาท คราวนี้..ให้ลงชื่อไปเลย..ว่าฟ้ากระจ่างเป็นคนส่งมา”
นายน้อมรับคำ แล้วทวนคำสั่ง “ครับ..กุหลาบแดงช่อใหญ่..ไม่ต่ำกว่า2พันครับ..ครับ..แนบการ์ดไปด้วยครับ..พิมพ์ไปเลยครับ ว่าสำหรับคุณเทเรซ่า จาก..ฟ้ากระจ่างครับ..ครับ..ครับ..” นายน้อมวางหู หันมาทางบัญชา “เรียบร้อยครับ..”
บัญชายิ้มอย่างพอใจ “ดีมาก..หึๆ ยัยหมวยนี่ท่าทางมันเพ้อเจ้อใช้ได้เลย..ได้รับดอกไม้แล้วคงเป็นบ้าไป ฮ่ะๆๆ”
นายน้อมทนสงสัยไม่ไหว “นายหัว..อยากให้คุณจ้างรักกับคุณเทเรซ่าหรือครับ”
น้ำเสียงบัญชาสะใจยิ่งนัก “ใช่..ให้มันรักกัน..แทบตายเลย”
ในอีกมุมหนึ่ง ทรายทองแอบฟัง สีหน้าเจ็บปวด ขัดเคืองใจ สะบัดตัวจะหันหนีไป แล้วสะดุ้งเกือบชนร่างเกียรติบดินทร์ก็ยืนฟังอยู่ ติดข้างหลังตน ด้วยสีหน้าชิงชัง
ทั้งคู่สบตากัน เกียรติบดินทร์ก็ดึงตัวทรายทอง ลากออกไป



เกียรติบดินทร์ดึงทรายทองเข้ามา
“นายหัวถึงกับหาคู่ที่คู่ควรให้มันแล้ว.. แกตัดใจได้เลย ยัยทราย..แกหมดหวังแล้ว”
“แล้วพี่ดินจะมาเดือดร้อนทำไม พี่ก็สบายแล้วนี่ ยัยดวงยิหวาคงจะไม่ไปไหนเสียล่ะ คราวนี้” ทรายทองเยาะ
“ต่อไปจะมีอะไรอีก..ห้องนอนนายหัวก็เป็นของมัน นามสกุลของฉัน รถคันใหม่.. อีกหน่อย..มันคงเป็นคนเซ็นเช็คแทนนายหัวแต่ผู้เดียว แล้วชั้นจะเหลืออะไรวะ”
“ถ้านังเทเรซ่ามันแต่งงานมาเป็นสะใภ้ใหญ่บ้านนี้ ทรายคงอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้ ทรายต้องทนไม่ได้แน่ๆ แต่พี่ดินน่ะสิ จะได้ไปเมืองนอกกะคุณแฟน”
“ฉันจะไปได้ไง ฉันไป ไอ้เด็กศาลเจ้าก็สบาย..แล้วพวกเราจะเน่ากันหมด รวมทั้งพ่อเธอด้วย บ้านนี้จะบ้าเข้ารกเข้าพงไปกันใหญ่ ทั้งนายหัวนายหญิงหลงไอ้จ้างหน้ามืดขนาดนี้ ฉันไปไหนไม่ได้เด็ดขาด ไม่มีวัน!!”
สีหน้าและแววตาของเกียรติบดินทร์มุ่งมั่นและหมายมาด

วันต่อมาเทเรซ่าหอบดอกกุหลาบแดงช่อบึ้มมาอวดปีเตอร์ที่กำลังนั่งทำงานหน้าคอมพ์ฯ ปีเตอร์ถอดแว่น เอามือแตะชมดอกไม้ สีหน้าชอบใจ เทเรซ่าเอาการ์ดที่เขียนถึงเทเรซ่าจากฟ้ากระจ่างให้พ่อดู
ปีเตอร์ล้อๆ แซวๆ พ่อลูกหัวเราะเฮฮากัน
เทเรซ่าเดินหอมดอมดมช่อดอกไม้ไปตลอดทาง ไม่สนทั้งน้องหมา หรือน้องกระต่ายที่มาขวางทางจะเล่นด้วย วิ่งลั้นลาขึ้นชั้นบน
ปีเตอร์มองตามไปด้วยสายตาเอ็นดู มีความสุขไปกับลูกสาว

อีกวันถัดมาภายในห้องทำงานกลุ่มของบัญชานั่งประชุมซีเรียส กำนันนวลถือกระดาษเอกสารมากมาย มาแจกทุกคน ซึ่งในนั้น มีแผนที่บริเวณริมชายหาด เป็นภาพถ่ายผ่านดาวเทียม กำนันชี้จุดนั้น จุดนี้ พร้อมอธิบายกำกับ แต่ละคนออกความเห็น บุรีถกเถียง ชี้แจง ด้วยท่าทีจริงจัง
นายเด่นทำหน้าที่เลขาฯ จดวาระ และบันทึกเรื่องราวในการประชุม และเป็นคนจดรวบรวมทุกความเห็น บัญชาออกคำสั่ง นายเด่นรับคำ
อีกมุมหนึ่งในที่ลับตาผู้คน บัญชาเซ็นเช็ค แล้วส่งให้กำนันนวล
กำนันเห็นตัวเลขในเช็ค แล้วดีใจซึ้งมากๆ กราบบัญชาที่เข่า บัญชากอด พลางตบหลังไหล่กำนัน

นายเด่นแอบมองภาพ สีหน้าใคร่ครวญครุ่นคิด ไม่เข้าใจการกระทำอะไรของบัญชา

คืนนั้นบัญชาเอนตัวลงนอนโดยมีนายน้อมคอยดูแล จังหวะนั้นบุรีพรวดพราดเปิดประตูเข้ามาหันมาทางนามน้อม
“นายน้อม ออกไปก่อน”
นายน้อมก้มหัวให้ เดินออกไปทันที
“อะไร” บัญชานิ่วหน้าถาม
“การประมูลคราวนี้..พวกเราชนะแน่ๆ ผมมั่นใจ แล้วผมก็มีส่วนเต็มๆ ที่ทำให้มีวันนี้ แต่ใจคอนายหัวจะให้ไอ้จ้างมันเป็นเจ้าของโครงการเลยเหรอ”
“ใจเย็น..บุรี”
“มันจะไหวเหรอครับ คราวนี้งานสร้างถนนนะครับ ไม่ใช่งานเดินสายไฟ”
“รอก่อน บุรี พี่ขอร้อง..”
“ไอ้จ้างมันไม่ได้แม้แต่มาร่วมประชุม มันไม่มีความรู้อะไรเลย..เกี่ยวกับงานที่จะทำ พี่จะให้มันมาเป็นหุ่นเชิด เวลาสั่งงานก็ให้อ่านโพยเป็นนกแก้วนกขุนทองงั้นเหรอ แบบนี้เอาน้องดินไปเลยไม่ดีกว่าเหรอครับ”
“ไม่ดีกว่า..น้องดินห้ามเกี่ยวกับเรื่องนี้ บุรีไม่ต้องไปเสี้ยมหลานอีก”
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น พี่รักพี่หลงอะไรไอ้เด็กคนนี้นักหนา คนในวงการเค้าไม่ยอมรับมันกันหรอก จะบอกให้”
“ฟ้ากระจ่างมีชื่อในวงการไปเรียบร้อยแล้ว..บุรี ตั้งแต่ส่งงานอาคารนั้นเรียบร้อย..แล้วงานระบบไฟของตึกนั้น ก็มีคนชมเชยมากด้วย แล้วมันก็กลายเป็นเหมือนหนังสือรับรอง..ฟ้ากระจ่าง เกียรติถลาง..ทายาทคนโตของชั้น” หัวเราะออกมาแบบขำ จี้เส้นเต็มประดา
บุรีหน้าไหว้ “ผมพลาดเอง..พลาด..ที่ยอมเปิดโอกาสให้มันได้โชว์ฝีมือกะพี่ ทำให้ชื่อเสียงของมันเกิดขึ้นในวงการ ทำให้พี่ไว้วางใจมันมากกว่าผม”
“บุรี เพราะบุรีเป็นแบบนี้ เรื่องบางเรื่อง..พี่ถึงบอกบุรีไม่ได้ บุรีเป็นน้องคนเดียวของพี่ บุรีไว้ใจพี่หน่อยสิ บุรีต้องรู้จักพี่ดีสิ ว่าพี่เป็นคนยังไง พี่จะเห็น ’คนอื่น’ ดีกว่าน้อง ดีกว่าลูกตัวเองได้ไง แต่พี่มีเหตุผลของพี่ ที่เวลานี้..พี่จำเป็นต้องทำแบบนี้ ขอเวลาให้พี่อีกนิดนะ บุรี” บัญชาพูดเป็นนัย
ทันใดนั้น ดารากานต์เปิดประตูเข้ามา บัญชากับบุรีอึ้งกันไป
“ดารากานต์..อย่าเพิ่งเข้ามา ผมคุยความลับทางธุรกิจกันอยู่” บัญชาเอ่ยขึ้น
ดารากานต์พูดสวนออกมาด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด
“ความลับทางธุรกิจ..ที่คุณบุรีไม่ยอมรับ..ฟ้ากระจ่าง..ให้เป็นคนดูแลงานแทนนายหัวน่ะเหรอคะ”
สองพี่น้องอึ้ง น้ำตาดารากานต์ไหลออกมา
“คุณบุรีคะ..ฉันไหว้ล่ะค่ะ” พร้อมกับพนมมือ “ขอโอกาสให้เด็กคนนี้ด้วย ถึงเขาจะไม่ใช่หลานแท้ๆ ของคุณ..เขาอาจจะไม่เก่งกาจมากมาย แต่ฉันรับรอง ว่าเขาเป็นคนซื่อสัตย์สุจริต เขาจะไม่มีวันทำอะไรเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองเลยแม้แต่น้อย แต่จะทำทุกอย่าง..เพื่อผลงานของบริษัท”
บุรีครุ่นคิดอย่างหนัก แล้วมองจ้องหน้าพี่ชาย
“แบบนี้ใช่ไหม นายหัว ที่มีพลังอำนาจเหนือจิตใจนายหัว..จนพูดอะไรกับพี่น้องไม่รู้เรื่องอีกแล้ว ผมรู้มานานแล้ว ว่านายหัวรักเมียหลงเมียมาก..แต่ไม่เคยคิด ว่าจะหลงซะจนหน้ามืดตาบอดไปหมดขนาดนี้”
บุรีเดินออกไป ปิดประตูดังปัง ดารากานต์ และบัญชาต่างก็อึ้ง ดารากานต์หันไปมองหน้าเหมือนอยากจะถาม แต่บัญชากลับเมินหน้าหนี

ทรายทองทรุดตัวลงนั่งที่สนามหญ้าหน้าบ้าน เหมือนคนไร้เรี่ยวแรง
“พ่อ..ทรายไม่ไหวแล้ว ทรายอยากไปให้พ้นจากที่นี่”
บุรีพูดไม่ออก นั่งนิ่งงัน
“แต่ก่อนพ่อบอกว่า..ให้ทรายคิดซะ ว่าทรายเป็นลูกนายหญิงเพราะนายหญิงไม่มีลูกสาว..ทรายก็พยายามทำดีทุกอย่างแล้ว แต่นายหญิงก็ไม่เห็นจะรักทรายตรงไหนเลย แล้วพ่อก็มาบอกว่า..ไม่เป็นไรอีกหน่อย..พอโตขึ้น..พี่ดินจะแต่งงานกะทราย ทรายก็ทำดีกะพี่ดินทุกอย่าง..แต่พี่ดินก็เกลียดทราย แล้วตอนนี้..พอทรายรักพี่จ้าง พี่จ้างก็ไม่รักทรายอีก” ทรายทองระบายอย่างอัดอั้น
“หุบปากได้แล้ว..” บุรีตวาด
“พ่อให้ทรายไปอยู่กะพ่อไม่ได้เหรอ..หรือแม้แต่พ่อ ก็ไม่ต้องการลูกแล้ว”
“ทรายๆๆๆ ตอนนี้พ่อก็มึนเหมือนกันนะ..นายหัวพูด..เหมือนมีอะไรบางอย่าง..ให้พ่อรอ..แต่พ่อก็ไม่รู้ ว่ามันคืออะไร” บุรีเอาแต่คิดเรื่องตัวเอง
“นี่พ่อไม่สนทรายเลยนี่คะ พ่อสนแต่เรื่องของพ่อ ทรายไม่มีค่า ไม่มีค่าอะไรกับใครเลย” ทรายทองน้อยใจนัก
“ทราย..ทำไมทรายจะไม่มีค่า ที่พ่อทำทุกอย่าง..พ่อตั้งใจจะให้ลูกกับพ่อ..เราพ่อลูก..ได้ดีมีสุขมากกว่านี้ บริษัทนี้..พ่อสร้างมากับนายหัวสองพี่น้อง แต่วันนี้นายหัวเปลี่ยนไป..พ่อไม่ยอม..ถ้านายหัวคิดจะเขี่ยพ่อ พ่อจะสู้ให้ถึงที่สุด”
“พ่อจะสู้ยังไง เราไม่มีทางสู้เลย”
“ต้องมีสิ ทำไมจะไม่มี ทรายอดทนอยู่ที่นี่ไปก่อน ถ้ารู้อะไร ต้องบอกพ่อให้หมด..ก่อนที่เราจะโดนเขี่ย เราต้องเขี่ยพวกมันให้กระจาย เข้าใจไหม”
“เขี่ยเหรอคะ เราจะมีปัญญาเหรอคะ”
“พ่อจะลองดู..นายหัว..อาจจะกีดกันพ่อ..เพราะเหตุผลบางอย่าง..แต่ถ้าเป็นลูกล่ะ”

ทรายทองมองหน้าผู้เป็นพ่อ ในอาการเหวอๆ เอ๋อๆ

 อ่านต่อตอนที่ 17  



กำลังโหลดความคิดเห็น