มุกเหลี่ยมเพชร ตอนที่ 16
ที่บ้านของมรกตเช้าวันต่อมา มุกดายืนอยู่ตรงกลาง ถูกประกบโดยมรกตและปักที่พากันมาช่วยเลือกชุดเจ้าสาว มะดันหน้าตาปลื้มสุดขีด ประไพยืนข้างๆ รุจาที่ยิ้มตื่นเต้นไปด้วย พาทีเอ่ยแนะนำเวนดี้
“คุณเวนดี้จะดูแลทุกอย่างให้เรียบร้อยไม่มีที่ติเลยครับ”
เวนดี้รีบหยิบชุดนำเสนอ “ชุดนี้ลูกไม้ฝรั่งเศส ดีไซเนอร์ดังนะคะ ไม่ต้องบินไปตัดถึงแพรีสสสส”
ปักหยิบชุดมาทาบลงบนตัวเองแล้วหมุนไปรอบๆ
“ถ้าปักได้ใส่ชุดนี้ นั่งรถม้า เคียงข้างเจ้าชาย”
“ให้มะดันตามไปรับใช้ด้วยนะเพคะ เจ้าหญิง” มะดันแซว
“ได้สิจ๊ะ นางข้าหลวงมะดัน”
“คุณปัก” มรกตเรียก
ปักหมุนตัวแล้วหันมาถอนสายบัว
“อะไรคะ หม่อมย่า”
“หน้าฉันเหมือนญาติผู้ใหญ่เธอมากเลยใช่มั้ย” มรกตเสียงเข้ม
“สวยมากไปค่ะ แลไม่ใช่เผ่าพันธุ์เดียวกัน”
ปักรีบเอาชุดไปทางมุกดา
“คุณหนูมุกลองสิคะ ลองหน่อย”
“หนูมุกว่าก็สวยดี ไม่ต้องลองหรอกค่ะ” มุกดารีบตัดบท
“ไม่ได้นะ มุก .. กะด้วยสายตาไม่ได้ หนูรุจาช่วยหน่อยเถอะ ป้าชวนหนูมาด้วยเพราะอยากให้ช่วยดูอีกแรง” ประไพบอก
“ให้คุณรุจาลองด้วยสิคะ” มุกดาเสนอ
“ไม่ .. ไม่ดีกว่าค่ะ” รุจาปฏิเสธ
“ลองเถอะ ไหนๆ สองแม่เค้าก็กะจะมีเจ้าสาวสองคนอยู่แล้ว” เผ่าพงศ์บอก
“เจ้าสาว ... สองคน ... สองคน”
ปักกับมะดันปรบมือเชียร์ ประไพรีบเลือกชุดให้รุจา รุจาทำหน้าเหรอหรา
“อย่าเลยค่ะ ไม่ดีนะคะ คุณป้า” รุจายังไม่ทันตั้งตัว
“ดีสิ เอ. ..ชุดไหนเหมาะกับหนูรุจาดีน้า”
ประไพยังไม่ยอม มรกตมาช่วยเลือกด้วย มุกดาหัวเราะที่รุจาก็หนีไม่พ้นเหมือนกัน
ที่สตาร์ไดมอนด์ เพชรยืนอยู่หน้าเจนจบกับสาลินี นิจนันท์ก้าวมายืนข้างเพชรด้วยหน้าตาแช่มชื่น
“คนที่เหมาะที่สุดสำหรับการเป็นเลขาคนใหม่ของเพชร คือ ..ฉัน” นิจนันท์บอก
เจนจบชักสีหน้า นิจนันท์มองอาการเจนจบแล้วยิ้มเหยียด
“ไม่ต้องเดือดร้อนแทนหรอก เจนจบ ...เพชรเค้าอยากให้ฉันออกมาสู่โลกภายนอกเข้าสังคม ทำงานที่เหมาะสมกับความสามารถ มีอาชีพเลี้ยงตัวได้ ...เธอสมควรจะดีใจกับฉัน”
“ดีใจที่เธอจะได้ใช้ความสามารถ แต่กลัวว่าจะทำให้เพชรกับคุณหนูมุกยิ่งปวดหัว” เจนจบบอก
“สาลี่ขอยาไมเกรนห้าโหลเลยนะคะ ถ้าจะต้องทำงานกับคุณนิจนันท์”
“เลิกบ่น แล้วก็สอนงานนิจด้วย .. คุณสาลี่” เพชรสั่งแล้วขยับจะเดินไป นิจนันท์ถามขึ้น
“อ้าว... แล้วเพชรจะไม่อยู่ออฟฟิศเหรอคะ”
“พอดีวันนี้ผมมีธุระ ไปพบลูกค้าใช่มั้ย... เจนจบ”
เจนจบมองเพชรที่โยนคำถามมาแล้วก็รีบรับลูกแทบไม่ทัน
“ใช่ๆ .. ต้องรีบไปแล้ว เดี๋ยวรถติด”
“ทำงานให้สนุกนะ นิจ”
เพชรทิ้งท้ายแล้วรีบเดินออกไปกับเจนจบ
นิจนันท์วางแฟ้มลงอย่างแรง สาลินีหัวเราะขึ้นดังๆ
“อะอะ...อย่าคิดจะตามไปนะคะ .. คุณเพชรสั่งว่าให้เรียนรู้งาน”
สาลินีหยิบแฟ้มกระแทกไปตรงหน้านิจนันท์
“หัวไวหรือเปล่าคะ สาลี่อาจจะอยู่สอนได้ไม่นาน .. มีแพลนจะลาวงการแล้วค่ะ ยังไงคุณนิจนันท์ก็ช่วยฉลาดเร็วๆหน่อยนะคะ”
“ความฉลาดของฉัน ไม่ได้มีไว้ให้คนโง่มองเห็นหรอกจ้ะ .. อ้อ แล้วฉันว่านะ สาลินี เธออย่าแค่ลาวงการเลย ลาโลกไปเลยดีกว่า”
นิจนันท์ด่าทั้งรอยยิ้ม สาลินีกรี๊ด
เพชรกับเจนจบเดินมาถึงสระน้ำข้างบ้านของมรกต
“ทิ้งนิจนันท์ไว้ที่สตาร์ไดมอนด์น่ะดีแล้ว จะได้ไม่ต้องมาคอยตามฉัน” เพชรบอก
“คิดว่าจะหนีพ้นได้สักกี่วัน”
เพชรมองไปข้างหน้า เห็นด้านหลังของมุกดาที่อยู่ในชุดเจ้าสาว เพชรหยุดมอง มุกดาที่กำลังโทรศัพท์ไม่ทันเห็นว่าเพชรมา
“มาเร็วๆเลย พี่กฤช ... มุกจะได้รีบชิ่งไปสักที” มุกดาบอกพี่ชายผ่านมือถือ
มุกดาวางสายแล้วค่อยๆ หันมา เพชรเห็นมุกดาอยู่ในชุดเจ้าสาวสุดสวยก็ถึงกับคลี่ยิ้ม ตรงข้ามเจนจบที่มีหน้าตาเคร่งเครียด แววตาเกลียดชังมุกดาที่อยู่ในชุดเจ้าสาว
เพชรเดินเข้าไปหามุกดา
“สวย” เพชรชม
“ไม้แขวนเสื้อสวย ชุดไหนก็ดูดีทั้งนั้นแหละ” มุกดาประชด
“โอเค .. แต่ไม้แขวนเสื้อน่าจะปล่อยผมยาวๆนะ”
เพชรเอื้อมมือไปดึงผมมุกดาที่รวบไว้ง่ายๆ ให้สยายออก เจนจบจ้องภาพตรงหน้าอย่างสุดจะทนดูต่อไปไหว เขาหันหลังเดินอย่างรวดเร็วออกไปทันที
มุกดาเขินสายตาและท่าทีที่อบอุ่นของเพชร
“หนูมุกไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ”
เพชรดึงมือมุกดามาเกาะแขนเขา
“เกาะไว้ วันงานจริงๆคุณต้องจับมือผมแบบนี้”
เพชรดึงแขนมุกดาเข้ามาชิดแล้วยิ้ม มุกดามองสายตาหวานของเพชรแล้วเขินจนต้องอมยิ้ม เพชรดึงแขนมุกดาพาเดินเข้าไปในบ้านด้วยสีหน้าสดชื่น
ที่บ้านของมรกต ทุกคนที่อยู่ในห้องรับแขกต่างตื่นเต้นดีใจที่เห็นเพชรเดินคล้องแขนมุกดาเข้ามา
“มาแล้วเจ้าบ่าว เจ้าสาว” ประไพร้องบอก
“สวยเหมือนที่ฝันถึงทุกคืนเลย” มรกตสำทับ
“เป็นฝันที่สวยงามที่สุดครับ คุณแม่” พาทีเสริม
ทุกคนมองอย่างตื่นเต้น
“เห็นแบบนี้แล้ว แม่ล่ะอยากให้ถึงวันงานเร็วๆ แจกการ์ดพรุ่งนี้ แต่งมะรืนเลยได้มั้ยคะ” มรกตหันไปถามประไพ
“แล้วแต่คุณพี่เลยค่ะ” ประไพตอบ
สองแม่หัวเราะดีใจ มุกดาอาย ส่วนเพชรมองแล้วพูด
“ก็ดีนะ หนูมุก แต่งเดือนนี้ เดือนหน้า ท้องเลย”
“มั่น .. มั่นมากว่าน้ำยาแรง” ปักแซว
“พี่เพชรอย่าเพ้อเจ้อ หนูมุกไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ”
มุกดาลุกพรวด แต่เพชรดึงไว้ทำให้มุกดาเสียหลัก เซลงในตักเพชร เพชรรวบตัวเธอไว้ทันที เพชรสบตากับมุกดาในระยะประชิด กองเชียร์ที่อยู่รอบๆ ถึงกับส่งเสียงกรี๊ด
เพชรกับมุกดาสบตากันหวานซึ้ง จนมุกดาต้องหลบตาเพราะความเขิน
อีกด้านในบ้านของมรกต รุจาในชุดเจ้าสาวกำลังยกชายกระโปรงวิ่งหนีเวนดี้
“รุจาไม่แต่งแล้ว” รุจาตะโกนบอก
“ไม่ได้นะ คุณรุจาขา มาให้เวนดี้รูดซิบก่อนสิคะ ทุกคนรอดูอยู่นะคะ”
“ไม่เอา ..รุจาไม่ใช่เจ้าสาว รุจาไม่แต่งงานกับนายคมกฤช”
รุจาวิ่งไปพลางเหลียวหน้าเหลียวหลังไปพลาง เธอวิ่งไปชนเข้ากับคมกฤชที่เข้ามาพอดี รุจาเซจะล้ม คมกฤชรวบตัวรุจาไว้ ทั้งสองคนมองหน้ากัน
“ไม่แต่งกับฉัน น้ำหน้าอย่างเธอจะแต่งกับใคร”
คมกฤชถามแล้วทำตาคมใส่ รุจาพยายามจะออกจากอ้อมแขนคมกฤช
“แอนดี้ไง” รุจาบอก
“เหรอ.... เสียใจด้วยนะ ..ฉันไม่อนุญาต” คมกฤชเสียงหนักแน่น
คมกฤชมองรุจาในชุดเจ้าสาวด้วยสายตากรุ้มกริ่มแล้วก้มลงจะจูบแก้ม รุจาเบี่ยงตัวหลบ ปลายจมูกคมกฤชจึงเฉียดแก้มรุจาไป
“ปล่อยฉัน”
คมกฤชจับรุจาให้ยืนหันหลัง
“เฮ้ย ..นายจะทำอะไร” รุจาลนลาน
คมกฤชรูดซิบชุดเจ้าสาวขึ้นจนสุด แล้วก้มลงไปพูดใกล้ๆ รุจา
“วันนี้ฉันดึงขึ้นให้ก่อน ....แต่วันแต่ง ..เดี๋ยวจะดึงซิปลงให้”
รุจาเขินจึงหันไปผลักคมกฤช
“ไอ้ลามก จิตเสื่อม”
คมกฤชยิ้มชอบใจ รุจารีบยกกระโปรงขึ้นจะวิ่งกลับไปทางที่ออกมา
“คุณรุจาขา ไปให้คุณมรกตดูก่อนสิคะ” เวนดี้บอก
“ไม่ รุจาจะถอด .. คุณเวนดี้มาถอดให้รุจาเร็วๆเลยค่ะ”
รุจาจะหันหลังกลับ แต่คมกฤชกางแขนกั้น รุจายกชายกระโปรงมอง
“หลบ” รุจาสั่ง
“ไม่หลบ”
รุจาจะยกขาขึ้นเตะหน้าแข้งของคมกฤชตามความเคยชิน แต่ขาดันติดชุดเจ้าสาวทำให้เธอจะหงายหลัง คมกฤชรีบช้อนร่างรุจาขึ้นทันที รุจาดิ้นหนี
“ดิ้นมาก .. โยนตรงนี้เลยนะ”
รุจาหยุดดิ้น คมกฤชยิ้มแล้วอุ้มรุจาเดินเข้าไปในบ้านทันที
มุกดากับรุจาที่ต่างก็อยู่ในชุดเจ้าสาวนั่งลงข้างกัน เพชรกับคมกฤชนั่งประกบเจ้าสาวของตัวเองไว้คนละด้าน มุกดาจะลุก เพชรรีบโอบเอวไว้
“จะรีบไปไหนน่ะ หนูมุก เรายังไม่ได้เลือกของชำร่วย”
มุกดามองไปทางเวนดี้ที่เตรียมของชำร่วยหลายแบบเรียงรายไว้บนโต๊ะ
“แบบการ์ดด้วยค่ะ” เวนดี้รีบบอก
“จะจัดงานธีมไหน เชิญแขกกี่พัน” พาทีถาม
“อะไรไม่ว่า ฉันขอโรงแรมที่อาหารอร่อยๆ” มรกตแทรกขึ้น
“เชิญนักร้องขาวๆเซ็กซี่มาร้องเพลงกล่อมหอ” เผ่าพงศ์เสนอ
“ใช่ใช่ สองคู่เนี่ยะร่วมหอ แต่คุณเผ่าน่ะ ลงโลง” มรกตเสียงเข้ม
“แถมสาวใช้กงเต๊กเผาใส่ตามไปรับใช้อีกซักโหล” ปักสอด
“ส่วนเพื่อนเจ้าสาว มะดันกับคุณปักว่างโลดค่ะ” มะดันรีบบอก
“ชั้นไม่ว่าง จะรอแย่งช่อดอกไม้” ปักพูดแล้วหันไปยิ้มหวาน “ทั้งสองงานเลยนะคะ งานคุณรุจากับคุณคมกฤชด้วย”
ทุกคนหันมามองทางคมกฤชกับรุจา
“โอเคครับ ผมจะซื้อช่อดอกไม้ไว้คุณปัก 10 ช่อ เขวี้ยงๆ เหวี่ยงๆไป มันต้องรับได้สักช่อล่ะน่ะ” คมกฤชพูดติดตลก
“บร้าๆๆๆ ... ปักไม่ต้องมีเจ้าบ่าว 10 คนพร้อมกันเลยเหรอคะ” ปักทำท่าเขิน
“หรือไม่เอา” คมกฤชถาม
“เอาอยู่ค่ะ”
ทุกคนหัวเราะไปกับลีลาของปัก
“ดูๆแล้วงานแต่งคุณเพชรกับตากฤช นี่คงทำให้ทุกคนมีความสุข” ประไพบอก
“คุณป้าขา คู่เดียวนะคะ เน้นและขีดเส้นใต้ ... คู่เดียวค่ะ คุณเพชรกับคุณหนูมุก” รุจจารีบพูด
มุกดารีบหันไปทางรุจา “ไม่ได้หรอกค่ะ หนูมุกแต่ง คุณรุจาก็แต่งด้วยเลยนะคะ ยืนข้างๆกันจะได้ไม่เหงา”
เพชรแตะมือกับคมกฤชทันที
“ได้เลยครับ .... เราพร้อม” เพชรกับคมกฤชประสานเสียง
“สองคู่ชูชื่น วิวาห์หวาน งานแต่งบึ้มบั้ม เริ่ด เริ่ด เริ่ด .. เริ่ดที่สุดในสามโลก” มรกตสรุป
ทุกคนมีสีหน้าสดชื่น มุกดาขยับหันไปขยิบตากับพี่ชาย คมกฤชมองแล้วนึกได้
“เดี๋ยวเรามาตกลงธีมงานกันอีกทีดีมั้ยครับ คุณเพชร”
“ทำไมล่ะครับ คุยให้จบวันนี้เลย ... พาทีมันจะได้ไปเตรียมงาน” เพชรบอก
“พอดีที่ออฟฟิศผมมีลูกค้าใหม่ ... รายนี้จุกจิกมาก ผมกะว่าจะมารับให้มุกไปช่วยเทคแคร์เค้าหน่อย” คมกฤชพยายามตัดบท
“ใกล้เวลานัดแล้วด้วยใช่มั้ย พี่กฤช” มุกดาเสริม
“ใช่ครับ ... ไปก่อนเวลาหน่อยก็ดี”
“ไรอ่ะคะ .. เจ้าสาวกำลังฝันหวานเลย” ปักเสียดาย
มุกดาหันไปมองทุกคนที่หน้าม่อยลงอย่างเห็นได้ชัด
“หนูมุกขอตัวไปช่วยงานพี่กฤชก่อนนะคะ”
มุกดาหันกลับมาเห็นเพชรที่มีสีหน้าน้อยใจ
ที่ทาวน์เฮาส์สาลินี ศักดากำลังเก็บกระเป๋าเดินทาง สาลินีเข้ามาเห็นพอดี
“คุณจะเก็บกระเป๋าไปไหน”
ศักดารีบตีสีหน้าให้เป็นปกติ
“คุณกลับมาพอดี เรากำลังจะเอาอะดอเรลลาไปให้ลูกค้าที่ฝั่งโน้น” ศักดาบอก
“ฝั่งโน้น !!! ชายแดน ไม่ได้นั่งเครื่อง เอาออกไปขายที่สวิส อิตาลีเหรอ”
“ให้เราขายได้เงินก่อนสิจ๊ะ ถึงจะไปที่ๆคุณอยากไป”
“ศักดา ... เราจะไม่ถูกจับใช่มั้ย”
“ไม่หรอก .. ที่รัก”
“ฉันไม่ยอมใช้เงินในคุกนะ ยังไงคุณก็ต้องปกป้องฉัน ให้สมกับที่ฉันรับใช้คุณในฐานะเมีย แล้วก็ยอมเสี่ยงไปเป็นสายลับ”
สาลินีจ้องตาของศักดาแล้วพูดต่อ
“คุณห้ามหนีเอาตัวรอดไปแค่สองพ่อลูกนะ ฉันรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับธุรกิจขี้โกงที่จะเอาผิดคุณสองพ่อลูกให้นอนรับโทษประหารชีวิต”
ศักดาขยับจะเดินไป สาลินีหยิบปืนเล็กออกมาจากกระเป๋า ศักดาถึงกับผงะแต่พยายามเก็บอาการ
“ผมไม่ทิ้งคุณหรอก ผมรักคุณมากนะ สาลินี ผมรู้ว่าคุณเสียสละเพื่อผมมาตลอด”
“ดี .. คุณนั่งรอฉันเก็บกระเป๋าแป๊ปเดียว พ่อคุณมาเมื่อไหร่ เราพร้อมไปได้ทันที”
สาลินียิ้มเยือกเย็น ศักดาเห็นแล้วถึงกับหนาวๆร้อนๆ
ที่หน้าบ้านมรกต มุกดาเดินออกมาจากบ้านกับคมกฤชที่เดินคุยมือถือไปด้วย
“ได้เรื่องแล้วใช่มั้ย” คมกฤชคุยกับปลายสาย
มุกดามองพี่ชายคุย คมกฤชวางสายแล้วหันมาบอกมุกดา
“คนของธีรพัฒน์เจอสงครามแล้ว”
รถของสงครามกำลังเลี้ยวเข้ามาในซอย ก่อนจะจอดที่หน้าทาวน์เฮาส์ของสาลินี สงครามลงจากรถ แล้วผลุบเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว บอดี้การ์ดรีบเดินตาม ห่างออกไปด้านหลังสายของธีรพัฒน์ที่ปลอมเป็นคนขับแท็กซี่กำลังมองอยู่
สาลินีแต่งตัวสวยแบบเตรียมพร้อมจะเดินทางไปต่างประทศ เธอลากกระเป๋าเดินทาง 2 ใบใหญ่ๆ ออกมา ศักดายืนอยู่ สงครามเดินเข้ามาเห็นก็ต่อว่าทันที
“นี่เธอคิดว่าจะไปเที่ยวพักผ่อนต่างประเทศหรือไง สาลินี”
“ใช่ค่ะ สาลี่คงไม่กลับมาที่นี่อีกแล้ว” สาลินีรีบตอบ “คุณศักดาจะหาบ้านที่ยุโรปให้สาลี่ คุณพ่อมีอะไรขัดข้องหรือเปล่าคะ”
“ให้มันได้ไปก่อนแล้วกัน .. อย่าทำตัวเป็นจุดเด่นมากนักตอนข้ามชายแดน” สงครามตำหนิ
“นี่สาลี่ก็ทำตัวปกติที่สุดแล้วค่ะ”
สงครามมองอย่างรำคาญ ศักดาหันไปหยิบกล่องอะดอเรลลาแล้วรีบบอก
“ไปกันเถอะ พ่อ”
บอดี้การ์ดหันมาจะเปิดประตูให้ แต่ธีรพัฒน์กับลูกน้องอีก2 คน พรวดพราดเข้าประตูมา บอดี้การ์ดยิงสวนโดนลูกน้องธีรพัฒน์ตายทันที 1 คน ส่วนอีกคนหนึ่งกระสุนโดนท้องจนกระเด็น
ธีรพัฒน์หาที่กำบัง บอดี้การ์ดจะยิงต่อ แต่คมกฤชกับมุกดาพรวดเข้าประตูมาพอดี
“อีหนูมุก” สาลินีส่งเสียง
มุกดาหันมาเห็นสาลินีอยู่กับพวกศักดา
“เธอเองเหรอ ... สาลินี”
บอดี้การ์ดตั้งท่าจะยิง แต่คมกฤชยิงเข้ากลางอกจนบอดี้การ์ดคนแรกล้มลง สงครามกับศักดาจะวิ่งหนี แต่คมกฤชกระโดดพุ่งเข้าล็อคสงครามไว้ได้
ศักดาวิ่งไปไม่กี่ก้าว มุกดายิงเป็นชุดจนศักดาต้องก้มต่ำพร้อมกับกอดกล่องไว้แน่น สาลินีเห็นท่าไม่ดีรีบถีบเข้าสีข้างจนศักดากลิ้ง ศักดาหันมามองอย่าง โมโห สาลินีกระทืบซ้ำลงไปที่มือของศักดา จนกล่องอะดอเรลล่าหลุดมือ
“ฉันขอแล้วกัน” สาลินีบอกแล้วกระชากกล่องพร้อมกับวิ่งพรวดออกไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว
ศักดาจะลุกขึ้นตาม แต่มุกดาวิ่งเข้ามาเอาปืนจ่อ สงครามถูกธีรพัฒน์ใส่กุญแจมือไปแล้ว ศักดาจะวิ่งหนี มุกดาถีบเข้ากลางอกจนศักดาล้มหงาย
คมกฤชยิงบอดี้การ์ดล้มไปอีกคน แล้ววิ่งมาคุมตัวศักดาไว้ มุกดารีบวิ่งตามสาลินีไปทางด้านหลังทันที
สาลินีวิ่งถือกล่องอะดอเรลลาทะลุห้องไปออกทางด้านหลัง มุกดาวิ่งตามมา
“หยุดนะ สาลินี”
มุกดาวิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว
มุกดาวิ่งออกมาถึงสวนด้านหลังทาวน์เฮาส์ เธอกระชับปืนในมือแล้วมองไปรอบๆ โดยมองไม่เห็นสาลินีที่หลบอยู่ที่ผนังอีกด้าน
มุกดาเดินมาตรงกลาง สาลินีกอดกล่องอะดอเรลลาไว้แนบอกส่วนอีกมือกำปืนไว้ สาลินีขยับเท้าไปเหยียบใบไม้แห้งทำให้เกิดเสียงดังขึ้น มุกดาหันมา
สาลินีตั้งท่าจะยิงแต่มุกดาเตะสูงทำให้ปืนในมือสาลินีร่วง มุกดาเตะเสยเข้าหน้าจนสาลินีเซ สาลินีหันมาพร้อมกับเลือดที่กลบปาก
“นังหนูมุก แก..เป็นตำรวจนี่เอง”
“เธอเองก็เป็นโจร ... มอบตัวซะ สาลินี เธอยังมีทางรอด”
“ไม่.. ชีวิตฉันต้องไม่จบในคุก”
“เธอเป็นสายลับให้ศักดา ทั้งๆที่พี่เพชรดีกับเธอทุกอย่าง”
“ความดีมันกินอิ่มซะเมื่อไหร่ล่ะ เงินต่างหากที่ฉันใช้ซื้อความสุขสบาย แกเองก็เหมือนกัน ดีนักเหรอ.... หลอกผู้ชายที่จะแต่งงานด้วย”
“ฉันหลอกพี่เพชรเพื่อรักษาชีวิตเค้า ไม่ใช่หลอกเพื่อทำลายอย่างเธอ สาลินี.. เธอไม่มีทางรอดหรอก มอบตัวตอนนี้ เธอยังมีโอกาส ไม่ต้องแก่ตายในคุก”
สาลินีเริ่มมีสีหน้าสับสน
“จริงเหรอ หนูมุก ฉันไม่อยากติดคุก ... ฉันจะทำยังไงดี”
“เชื่อฉันนะ ฉันจะช่วยเธอ .. เอาอะดอเรลลามาให้ฉัน แล้วมอบตัวซะ”
สาลินีทำท่าทางอ่อนลง มุกดาจึงเดินเข้าไปใกล้ แต่แล้วสาลินีก็เปลี่ยนแววตาเป็นร้ายกาจพร้อมกับเอากล่องอะดอเรลาลาฟาดไปหมายจะตบหน้ามุกดาให้เต็มแรง
มุกดาหลบแล้วจับข้อมือสาลินีบิด กระแทกตัวสาลินีดันจนติดผนัง แต่สาลินียกเท้าถีบเข้าท้องมุกดา จนมุกดากระเด็น
สาลินีจะวิ่งหนี มุกดาเตะตัดขา สาลินีเซถลาหัวทิ่มพื้น มุกดาเตะมือซ้ำจนกล่องอะดอเรลลาหลุดมือตกพื้น มุกดาล็อคคอสาลินี สาลินีดิ้นอยู่ที่พื้นแต่มองเห็นปืนตกอยู่บนพื้น สาลินีม้วนตัวพยายามจะไปคว้าปืน แต่มุกดาวาดเท้าเตะปืนขึ้นจากพื้นขึ้นมาถือจ่อที่ตัวสาลินี สาลินีถึงกับตะลึง
ภายในทาวน์เฮาส์ สงครามถูกใส่กุญแจมือและถูกธีรพัฒน์คุมตัวอยู่ ส่วนศักดาถูกคมกฤชคุมตัวอยู่อีกด้านแต่ก็กำลังมองหาจังหวะเอาตัวรอด
มุกดาล็อคคอสาลินีเดินเข้ามา
“ปล่อยฉันได้แล้ว ฉันไม่หนีให้โง่หรอก” สาลินีโวยวาย
คมกฤชกับธีรพัฒน์หันไปมอง เห็นสาลินีทำท่าทางฮึดฮัด สงครามเห็นจังหวะช่วยลูกจึงก้มลงเอาหัวเสยคางธีรพัฒน์จนหงาย คมกฤชหันมา สงครามพุ่งเข้าชนจนคมกฤชกระเด็น
“หนีไป ... ลูก.... หนีไป” สงครามตะโกนบอกลูกชาย
ศักดาหันไปแย่งปืนในมือคมกฤช แต่คมกฤชไม่ยอม ทั้งสองคนยื้อปืนกัน
มุกดาที่จับสาลินีอยู่ยกปืนขึ้นตั้งท่า แต่ไม่กล้ายิง
“หยุดนะ ศักดา” มุกดาตะโกนบอก
สงครามรีบเอาตัวมาบังลูกชาย
“หนีไป ลูก ศักดา .. หนี”
ศักดากำลังจะเสียท่าจึงหันไปคว้าแจกันฟาดเข้าที่ขมับขวาของคมกฤชเต็มแรง คมกฤชเซและกำลังจะล้ม ศักดากระชากปืนออกจากมือคมกฤชทันที
สาลินีเห็นทางรอดจึงกัดแขนมุกดาจนจมเขี้ยว แต่มุกดาก็ยังไม่ยอมปล่อย คมกฤชวิ่งเข้าไปหา ศักดาเหนี่ยวไกกระสุนถากผ่านขมับขวาของคมกฤชไป
มุกดาเห็นเช่นนั้นก็ถึงกับตะลึง
คมกฤชล้มทั้งยืน
“พี่กฤช” มุกดาตะโกนสุดเสียง
สาลินีดิ้นสุดแรงจนหลุดจากมุกดาได้ มุกดาจะตามแต่เสียงคมกฤชครางขึ้นมา มุกดาหันไปมองเพราะเป็นห่วงพี่ชาย
สาลินีรีบวิ่งอย่างรวดเร็วไปทางประตู ศักดาวิ่งตาม สงครามตะโกนบอก
“หนีไป ลูก .. ศักดา ... หนีไป”
ธีรพัฒน์ที่อยู่ด้านหลังรีบเข้ามาแล้วเอาปืนฟาดหัวสงครามอย่างแรง จนสงครามสลบแน่นิ่งไป ธีรพัฒน์รีบวิ่งมาช้อนหัวคมกฤชขึ้น
“ฝากพี่กฤชด้วย”
มุกดาบอกแล้วรีบวิ่งตามสาลินีออกไปทันที
ที่ถนนด้านหลังทาวน์เฮาส์ สาลินีกับศักดาวิ่งอย่างรวดเร็วแย่งกันพุ่งออกจากประตูหน้า ทั้งสองคนมองถนนเพื่อหาทางหนี รถของภูผาแล่นมาจอดตรงหน้า
“ขึ้นมา ศักดา” ภูผาตะโกนบอก
ศักดากับสาลินีรีบวิ่งขึ้นรถภูผา
มุกดาวิ่งตามมาแล้วตั้งท่าจะยิง แต่ภูผายิงสวนมาก่อน มุกดาจึงต้องหลบ ภูผาเร่งเครื่องขับหนีไปอย่างรวดเร็ว
มุกดาลุกขึ้นแล้ววิ่งตามไป เธอมองตามรถภูผาด้วยความเจ็บใจ
อ่านต่อหน้าที่ 2
มุกเหลี่ยมเพชร ตอนที่ 16 (ต่อ)
ณ ทางเดินในโรงพยาบาล คมกฤชที่นอนอยู่บนเตียงถูกพยาบาลเข็นมาในสภาพเลือดอาบเต็มหน้า พยาบาลกำลังจะเข็นเตียงเข้าไปในห้องฉุกเฉิน มุกดากับธีรพัฒน์เดินตามมาข้างๆ แอนดี้ที่รออยู่เดินเข้าไปสมทบ
“พี่กฤช พี่กฤช” มุกดาเรียก
รุจาวิ่งมาจากด้านหลังตะโกนเรียก
“คมกฤช”
แอนดี้คว้าตัวรุจาไว้ แต่รุจาไม่ยอม เธอสะบัดออกอย่างแรงแล้ววิ่งมาดึงเตียงคมกฤชที่กำลังจะถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัด
“คมกฤช”
รุจาตกใจกับสภาพของคมกฤช
“ใครทำนาย คมกฤช ..ใคร”
“ให้หมอรักษาพี่กฤชก่อนนะคะ”
มุกดาพูดแล้วดึงรุจาไว้ พยาบาลเข็นเตียงเข้าไปด้านใน รุจาสะบัดตัวออกจากมุกดาแล้ววิ่งตามทันที มุกดา ธีรพัฒน์และแอนดี้วิ่งตามไป
เตียงคมกฤชถูกเข็นเข้าไปในห้องฉุกเฉิน ประตูห้องปิด รุจายืนคว้างหน้าห้อง มุกดากับแอนดี้เดินอย่างรวดเร็วเข้ามาหา รุจาหันไปถามทั้งสองทันที
“บอกความจริงกับรุจาได้หรือยังคะ หนูมุก”
ธีรพัฒน์ก็มองมุกดาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
“แอนดี้ไม่ใช่แค่เพื่อนคุณหนูมุก”
รุจาพูดแล้วมองแอนดี้ แอนดี้ยืนนิ่ง รุจาหันมามองมุกดาแล้วพูดต่อ
“คุณหนูมุกเองก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีอะดอเรลลาเพราะแค่เป็นน้องคมกฤช”
มุกดากับแอนดี้เงียบและมอง รุจาน้ำตาคลอ
“รุจาไม่ได้ถามเพราะความเป็นนักข่าว รุจาถามอย่างเพื่อน ถามอย่างคนรู้จัก”
รุจาน้ำตาไหลแล้วหันไปมองทางห้องฉุกเฉิน
“ถามจากใจที่รักและเป็นห่วงเค้า”
รุจาน้ำตาไหลเพราะกลัวว่าคมกฤชจะเป็นอะไรไป
ที่โกดังร้าง สาลินีกับศักดาที่โดนมัดมือไพล่หลังถูกภูผาถีบจนล้มกลิ้งไปกับพื้น ทุกคนยืนมอง สาลินีด่าเสียงดังลั่น
“ไอ้นรก ไอ้เดนคน ถ้าพวกแกไม่อยากติดคุกเรียงตัว แกต้องปล่อยชั้นเดี๋ยวนี้” สาลินีหันไปบอกศักดา “สั่งพวกมันสิ ... ปล่อยชั้น”
“หยุดแหกปากก่อนสิวะ กูจะบ้าตายเพราะเสียงมึงนี่แหละ” ศักดาสั่งสาลินี
“ฉันจะแผดให้ดังกว่านี้อีก บอกให้ปล่อยไงเล่า ปล่อยชั้นเดี๋ยวนี้”
“ภูผา แกต้องการเงินเท่าไหร่ ฉันให้แกได้ ขอแค่พาฉันออกไปอย่างปลอดภัย” ศักดาถาม
“พวกแก... ที่ปล้นอะดอเรลลา” สาลินีเพิ่งนึกขึ้นได้
“แล้วแกก็เป็นนางโจร คนต่อมา” ภูผาบอก
“พวกแกทำงานให้ใคร บอกฉันมาสิ ฉันขอคุยกับมันหน่อย แค่ช่วยฉันกับผัวได้ จะเอาอะไร ว่ามาเลย” สาลินีถาม
ร่างสูงใหญ่ของเจนจบเดินเข้ามา สาลินีหันไปเพ่งมองแล้วก็ถึงกับช็อค
“ไอ้เจนจบ ไอ้นรกสองหน้า”
สาลินีกับเจนจบจ้องหน้ากัน
มุกดาและแอนดี้ ยืนอยู่ตรงข้ามกับรุจาและธีรพัฒน์ที่มุมหนึ่งในโรงพยาบาล
“มุกไม่ใช่คนที่ชอบตีสองหน้า” มุกดาบอก “แต่ที่มุกกับแอนดี้เปิดเผยตัวว่าเป็นตำรวจสากลไม่ได้เพราะคดีนี้มันไม่ใช่แค่เรื่องการปล้นอะดอเรลลาจากสตาร์ไดมอนด์ มันเป็นคดีโจรกรรมข้ามชาติที่เราต้องคลี่คลายให้อื้อฉาวน้อยที่สุด”
“แสดงว่าคุณเพชรจะต้องถูกจับด้วยเหรอคะ” รุจาถาม
มุกดาเงียบ แอนดี้ตอบให้แทน
“ครับ ..ถ้าหาหลักฐานยืนยันไม่ได้ว่า ซื้อขายอะดอเรลลมาอย่างถูกต้องตามกฏหมาย”
ทุกคนมองแอนดี้ที่กำลังถือกล่องอะดอเรลลาอยู่
“ผมประสานกับหน่วยตำรวจสากลแล้ว” ธีรพัฒน์บอก “พวกคุณไปรายงานตัว เพื่อขอดำเนินเรื่องส่งอะดอเรลลาไปตรวจได้เลย”
“ผมขอโทษนะครับ ที่ผ่านมา อาจจะไม่ได้ร่วมมือกับคุณมากเท่าไหร่”
แอนดี้พูดแล้วยื่นมือไปให้ธีรพัฒน์เช็คแฮนด์ด้วยรอยยิ้ม
“เราทำเพื่อประชาชนเหมือนกันครับ” ธีรพัฒน์ยิ้มตอบ
รุจาหันมามองมุกดา “มิน่า คุณหนูมุกถึงไม่ยอมแต่งงานกับคุณเพชร”
“หนูมุกกับพี่เพชรเราไม่ได้อยู่ในฐานะคู่รัก ... แต่เราคือตำรวจกับผู้ต้องสงสัย”
แววตาของมุกดาเศร้าลงในทันที
ที่โกดังร้าง สาลินีมองเจนจบที่ก้าวมายืนเผชิญหน้า ส่วนด้านหลังของเจนจบคือกลุ่มภูผา
“คุณเพชรหลงไว้ใจแกทุกอย่าง ไม่รู้เลยว่าอสรพิษมันอยู่ใกล้ตัว แกนี่เองที่บงการทุกอย่าง แกมันไอ้ชั่ว ชั่วกว่าชนินทร” สาลินีด่าเป็นชุด
เจนจบมองบลู บลูเข้าไปล็อคคอสาลินีไว้ เจนจบเข้าไปจับปากสาลินีเต็มแรง
“อสรพิษอย่างฉัน มีไว้กำจัดคนโลภ ไม่รู้สำนึกบุญคุณใครอย่างแก อย่างชนินทรไม่นึกเลยนะว่าแกจะฉลาดจนขโมยอะดอเรลลา ข้ามหัวฉันออกไปได้”
“คนอย่างแกไม่ได้เก่งคนเดียวหรอก ... ไอ้เจนจบ” สาลินีสวน
เจนจบยิ้มแล้วหันมาฟาดมือไปที่ปากของสาลินี สาลีหันกลับมากรีดเสียงใส่
“ถ้าฉันรอดไปได้ แกต้องตายคนแรก”
เจนจบไม่พูดอะไรจับปากสาลินีบีบแล้วหยิบมีดออกมา สาลินีมองเห็นมีดวาววับตรงหน้า เจนจบจ้วงลงทันที ศักดาเบือนหน้าหนี เสียงสาลินีกรีดร้องยาวเพราะโดนกรีดปาก
สาลินีดิ้นพราด บลูกับขุนพลล็อคตัวเธอไว้ แววตาเจนจบเต็มไปด้วยความสะใจ เลือดสดๆหยดลงพื้นเป็นกอง ภูผามองนิ่ง เจนจบตวัดข้อมืออีกครั้ง เสียงสาลินีกรีดร้องดังลั่นแล้วก็เงียบไป
ที่บ้านของมรกต เพชรกำลังคุยมือถืออยู่
“สาลินีหายไป ไม่กลับมาทำงาน”
ที่สตาร์ไดมอนด์ นิจนันท์คุยมือถือด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“ค่ะ .. หายไปหลังเพชรออกไปกับเจนจบ นี่ก็ไม่มีใครอยู่เลย ไหนว่าเพชรจะกลับมาทำงานไงคะ”
“วันนี้ผมคงไม่เข้าไปแล้วล่ะ นิจกลับบ้านไปเลยก็ได้นะ ไม่มีงานอะไรหรอก”
“นิจยังสงสัยเรื่องข้อมูล ... อยากจะถาม”
เพชรรีบตัดบท “โอเค ... เดี๋ยวผมให้สาลินีเค้าอธิบายงานให้”
ที่โกดังร้าง สาลินีทรุดลงไปนั่งกับพื้น เลือดหยดเต็มพื้นก่อนที่เธอจะเงยขึ้นมาซึ่งเห็นได้ชัดว่าปากของสาลินีถูกกรีดยาวไปถึงเหนือแก้มและมีเลือดทะลักออกจากปาก
“แก แก”
สาลินีพยายามด่าแต่ก็สำลักเลือดออกมาทุกครั้งที่พูด เธอคลานถอยไปด้วยความเจ็บ
“ศักดา ...ช่วยด้วย”
ศักดามองเห็นท่าไม่ดีก็ขยับตัวจะหนี แต่ภูผาเหยียบหลังของเขาแล้วกดไว้ ศักดารีบต่อรอง
“แกช่วยฉันคนเดียวก็ได้ นังนั่น ปล่อยให้มันตายไปเลย พวกเราจะได้ปลอดภัย”
“ตอบแทนกันอย่างดีเลยนะ ... ศักดา” เจนจบบอก “ไม่โหดไปหน่อยเหรอ สาลินีมันอุตส่าห์เป็นสายลับให้แกตั้งหลายปี”
ศักดาหันไปมองเห็นสาลินีจ้องกลับมาเหมือนรู้แล้วว่ากำลังจะถูกลอยแพ สาลินีฝืนเจ็บด่าศักดา ทั้งๆที่เลือดยังทะลักออกมา
“ไอ้ผัวเลว .. ชั้นเป็นเมียแกนะ”
“ฉันไม่ได้คิดจะพามันไปด้วยอยู่แล้ว ตรงไหนลับตาคน ฉันก็กะจะยิง แล้วโยนศพมันทิ้ง” ศักดาเผย
สาลินีโกรธมากที่ได้ยินแบบนั้นจึงตั้งท่าจะขยับ แต่บลูเข้าไปจิกผมกระชากไว้
“มึงต้องตาย ตายด้วยมือกู” สาลินีด่า
เจนจบมองด้วยสายตารำคาญ
“พอแล้ว พอ..ที่นี่ไม่ใช่ที่ๆผัวเมียจะมาทะเลาะตบตีกัน ... หนวกหู”
สาลินีกับศักดามองเจนจบที่ควงมีดในมือ
“เจนจบ ...คนเลวอย่างแก ฉันขอสาปแช่ง แกต้องตายด้วยมือเพื่อนที่แกทรยศ” สาลินีแช่ง
“จุดจบของฉันมันต้องสวยงาม ไม่น่าเอน็จอนาถ ทุเรศยิ่งกว่าซากศพหมาข้างถนนอย่างพวกแกสองคน”
เจนจบพูดแล้วปามีดทีเดียวปักเข้ากลางคอของสาลินี สาลินีสำลัก เลือดพุ่งออกจากคอแล้วล้มลง ดิ้นอีกเฮือกก่อนจะขาดใจตาย
ศักดาทนดูไม่ไหว เขาสติแตกทำท่าจะวิ่งหนี แต่ภูผาเหนี่ยวไกเข้ากลางอกจนศักดาทรุด ล้มลงกับพื้นแล้วขาดใจตาย สาลินีและศักดานอนตายจมกองเลือดอย่างน่าสยดสยอง
ที่บ้านของมรกต เพชรพยายามต่อสายหาเจนจบ สัญญาณติด เขารอสายอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงมีคนรับสาย เพชรรีบถาม
“เจนจบ .. นายอยู่ไหน”
ที่โกดังร้าง เจนจบกำลังยืนคุยมือถือ
“ฉันแวะมาหาลูกค้าน่ะ เพชร”
ที่ด้านหลัง ขุนพลกับบลูกำลังมัดศพสาลินีกับศักดาติดกันด้วยเชือกเส้นใหญ่ ส่วนภูผาลากกระสอบมาวางรอ
เจนจบยืนมองศพสาลินีกับศักดาที่ถูกลากใส่กระสอบ
“โอเค ..เพชร ... ลูกค้าเรียบร้อยดี ไม่มีอะไรน่าห่วง นายไว้ใจฉันได้”
เจนจบวางสาย เขามองศพศักดากับสาลินีที่ค่อยๆ ถูกเลื่อนเข้าไปจนสุด ขุนพลมัดปากกระสอบแล้วมัดกับหินอีกก้อน
“เป็นธุระเรื่องสองคนนี้ให้เรียบร้อยหน่อยนะ ฉันถือว่าสาลินีได้รับเกียรติมากที่ฉันมาดูแล จัดการ ตระเตรียมงานศพให้เองขนาดนี้” เจนจบบอก
ขุนพลลากกระสอบออกไป บลูจ้องเจนจบเพราะเป็นครั้งแรกที่เธอเห็นว่าเจนจบคือคนจ้าง
เจนจบหันมามองบลู “สงสัยอะไร หรือว่าจะจำหน้าฉันไว้ จะได้ยิงไม่ผิดตัว”
“ทำไมคุณไม่จ่ายเงินเรา”
บลูถามแล้วขยับมีด ภูผาเห็นเข้าก็ตวาด
“บลู หยุด”
“แต่นั่นมันเงินของเรา” บลูย้ำ
ภูผาจ้องบลู “เก็บมีด”
บลูมองภูผาแล้วต้องเก็บมีด เจนจบมองจ้องบลู
“หัดอบรมสั่งสอนลูกน้องให้มีระเบียบ มีสัมมาคารวะด้วย”
เจนจบสั่งแล้วเดินออกไป บลูเข้ามาถามภูผา
“ทำไมไม่จับ แล้วบังคับมันเอาเงินให้เรา”
“รู้ให้น้อยที่สุด แล้วแกจะปลอดภัย บลู ..ถ้าแกล้ำเส้นอีก แกจะไม่ได้ใช้เงินเลย”
“เธอมีข้อตกลงอะไรกับมันหรือเปล่า ภูผา” บลูถาม
ภูผาไม่ตอบแล้วเดินออกไปทันที บลูมองตามอย่างไม่พอใจ
ที่ด้านนอกโกดังร้าง เจนจบยืนอยู่ ภูผาเดินมาหา
“ฉันจะกลับไปดูว่านังมุกมันจะพูดอะไรบ้าง” เจนจบบอก “แล้วมันจะเอาอะดอเรลลาปลอมกลับมาคืนเพชรได้ยังไง”
“เราต้องทำอะไรให้คุณอีก” ภูผาถาม
“ฉันกำลังจะขายอะดอเรลลาของจริง”
ที่ด้านหลัง ขุนพลกำลังแอบฟังอยู่
“ระหว่างนี้ รอคำสั่งจัดการนังมุกกับพี่ชายมัน ฉันจะให้เงินค่าจ้าง พร้อมกับตัวลูกชายแก ทันทีที่เห็นศพนังหนูมุก”
เจนจบเดินออกไป ภูผามีสีหน้าอึดอัด ขุนพลมองภูผาแล้วก็ยิ้มที่ได้รู้ทั้งเรื่องลูกภูผากับเรื่องเจนจบจะขายอะดอเรลลา
/
ภายในห้องคนไข้ที่โรงพยาบาล คมกฤชนอนอยู่โดยมีผ้าปิดแผลยาวอยู่ข้างขมับขวา เพชร มุกดา ประไพ และรุจายืนอยู่ข้างเตียง
“ความผิดรุจาเองค่ะ เราเถียงกัน ..ทะเลาะกันแล้วรุจาก็ผลักเค้าแรงเกินไป คมกฤชเค้าสะดุดขาตัวเอง ล้มลง หัวกระแทกขอบโต๊ะ แล้วก็ฟาดพื้น”
รุจายกมือไหว้ประไพ
“รุจาขอโทษค่ะคุณป้า”
“คิดซะว่ามันเป็นอุบัติเหตุแล้วกัน ป้าไม่โทษหนูหรอกค่ะ” ประไพบอก
มุกดามองรุจาด้วยสายตาขอบคุณที่ช่วยโกหกให้ ประไพหันไปมองลูกชาย เพชรมองมุกดาที่หน้าตาเศร้าลง
“ผมพาคุณป้ากลับไปที่บ้านก่อนมั้ย หนูมุก หมอบอกว่าอีกหลายชั่วโมง ถึงจะฟื้น” เพชรเสนอ
“ขอบคุณมากค่ะ พี่เพชร”
“มุกดูพี่ด้วยนะ ลูก ฟื้นแล้วรีบบอกแม่” ประไพบอก
“ค่ะแม่”
เพชรพาประไพเดินออกไป พอประตูปิด มุกดาก็หันมาทางรุจาทันที
“ขอบคุณนะคะที่ช่วย”
“ค่ะ รุจาเข้าใจว่าเรื่องอย่างนี้ต้องอธิบายยาว โดยเฉพาะกับแม่คุณหนูมุก ถ้าท่านรู้ว่าคุณหนูมุกเป็นตำรวจสากล”
“แม่คงเป็นลมล้มตึงไปอีกสามตลบ แค่เรื่องพี่กฤชคนเดียว แม่ก็คงแทบแย่แล้วค่ะ”
สองสาวหันไปมองคมกฤชที่นอนนิ่งด้วยสายตาห่วงใย
ภายในบ้านของมรกต เพชรยืนอยู่ใกล้คุณแม่ ทุกคนที่อยู่ในห้องรับแขกมองประไพอย่างเห็นใจ
“เคราะห์กรรมอะไรของตากฤชก็ไม่รู้” ประไพรำพึง
“อาถรรพ์” ปักพูดลอยๆ
เพชรกับมรกตหันไปมองปัก
“อาถรรพ์อะดอเรลลามาถึงครอบครัวคุณหนูมุกแล้ว” ปักบอก
“อาถรรพ์อะไร เลิกพูดเรื่องไร้สาระน่ะ คุณปัก” เพชรตำหนิ
“จะไม่อาถรรพ์ยังไงคะ แค่ผลักกันไปกันมากับคุณรุจา คุณคมกฤชดันสะดุดขาตัวเองล้มหัวฟาดพื้น นอนนิ่งไปซะเฉยๆอีกคน”
“เพ้อเจ้อน่ะ ยายปัก ไปจัดห้องแขกให้คุณเผ่าอย่างด่วน คืนนี้คุณประไพจะค้างกับฉัน ... เร็ว !” มรกตสั่ง
ปักรีบวิ่งออกไป เพชรหันมาทางแม่
“แม่ครับ ผมว่าเราเลื่อนการแต่งงานออกไปก่อนดีกว่า สงสารครอบครัวหนูมุก”
“แต่แม่ว่าอย่าเลื่อนเลยนะ คมกฤชคงไม่เป็นอะไรมากหรอก เดี๋ยวก็ฟื้นขึ้นมาแหย่คนโน้นคนนี้ได้อีก”
มรกตพูดอย่างมีความหวัง แล้วหันไปยิ้มให้กำลังใจประไพ ต่างจากเพชรที่มีสีหน้าไม่แน่ใจ
ภายในห้องคนไข้ คมกฤชนอนอยู่บนเตียง ด้านข้างคือมุกดาและรุจาที่มองด้วยสายตาเป็นกังวล “เรายังตามหาสาลินีกับศักดาไม่เจอ พี่ธีรพัฒน์บอกว่า เซฟเฮาส์ทุกที่ที่สงครามสารภาพ ... ค้นแล้วก็ไม่เจอตัวศักดากับสาลินี” มุกดาบอก
“ถ้าเป็นการฆ่าปิดปากละคะ เพราะศักดากับสาลินีอาจจะชี้ตัวคนบงการได้” รุจาถาม
“ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าพวกภูผาทำงานให้ใครกันแน่ ชนินทรก็นอนนิ่งไปแล้ว .. สาลินีขโมยอะดอเรลลาออกไปให้ศักดา แต่ภูผาก็มาช่วยไว้ได้ ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับภูผาถ้าเราจับตัวเค้าได้ ... เราจะรู้ว่าใครคือคนบงการ”
“ตอนนี้แอนดี้ถืออะดอเรลลาไปตรวจเอง แล้วทางนี้คุณหนุมุกจะบอกคุณเพชรว่ายังไงล่ะคะ ตอนที่ได้อะดอเรลลากลับมา”
“อะดอเรลลาจะไม่กลับเข้ามาประเทศไทยแล้วค่ะ ตำรวจสากลจะต้องยึดไว้เพื่อส่งคืนราชวงศ์ งานต่อไปที่หนูมุกต้องทำ”
มุกดานิ่งไปครู่ใหญ่ก่อนจะเอ่ยออกมา
“หนูมุกต้องจับตัวคนในสตาร์ไดมอนด์ … เริ่มต้นจาก พี่เพชร”
รุจามองมุกดาที่พูดอย่างใจหาย
เช้าวันใหม่ ที่บ้านมุกดา เพชรเดินเข้าบ้านมาพร้อมรอยยิ้ม
“ผมมารับแล้วครับ .. หนูมุก”
มุกดาที่ยืนอยู่หันมามองเพชร
ภาพในอดีตที่มุกดาบอกกับรุจาแวบขึ้นมา
“...งานต่อไปที่หนูมุกต้องทำคือ จับตัวคนในสตาร์ไดมอนด์ เริ่มต้นจาก พี่เพชร”
มุกดามองเพชรด้วยสายตาสับสน เธอฝืนยิ้มเต็มที่เพื่อไม่ให้เพชรจับความรู้สึกได้
ที่ห้องคนไข้ คมกฤชขยับตัว รุจาที่กำลังมองอยู่ยิ้มอย่างดีใจ เธอ รีบลุกขึ้นประคองคมกฤชให้นั่ง
“ยังเจ็บแผลอยู่หรือเปล่า” รุจาถาม
คมกฤชแตะแผลที่ปิดอยู่แล้วพูดเบาๆ
“เจ็บ”
“ไม่ต้องห่วงนะ ฉันโกหกว่าเราทะเลาะกัน ฉันผลักนาย นายสะดุดขาล้มหัวกระแทกโต๊ะ แล้วก็ฟาดพื้น ตอนแรกฉันจะบอกว่าถูกโต๊ะทับซ้ำ แล้วก็โดนฉันฟาดไม้เข้าอีกที กะว่าจัดหนักไปเลย”
รุจาแหย่ แต่คมกฤชไม่ยิ้ม สีหน้ายังมึนๆ อยู่
“รุจา”
“หืมม เอาอะไร”
คมกฤชยื่นมือเปะปะไปข้างหน้า รุจามองอย่างงงๆ
“รุจา เธออยู่ไหน”
รุจารวบมือคมกฤช
“ฉันอยู่นี่ไง .... นายบีบมือฉันแน่นมากเลย ... คมกฤช นายเป็นอะไร”
“รุจา .. ฉันมองไม่เห็นอะไรเลย”
รุจาหน้าซีดสลดลงทันที
“คมกฤช .. นายมองไม่เห็น”
“ฉันตาบอดเหรอ รุจา ... ฉันตาบอด”
คมกฤชตัวสั่น รุจารีบโอบคมกฤชไว้แน่น
“ใจเย็นๆนะ คมกฤช อย่าเพิ่งตกใจ นายไม่เป็นอะไรหรอก นายต้องไม่เป็นอะไร”
รุจามีสีหน้าตกใจกลัวเป็นอย่างมาก
ที่มุมหนึ่งในโรงพยาบาลหมอกำลังอธิบายให้รุจาฟัง
“คนไข้ทั้งถูกตี ถูกยิง ถึงกระสุนจะถากขมับไป แต่ก็มีผลกระทบกระเทือนประสาทตาอย่างหนักครับ”
“มีโอกาสกลับมามองเห็นมั้ยคะหมอ” รุจาถาม
หมอนิ่งไป รุจาถามอีกครั้งด้วยความเป็นห่วง
“ผ่าตัดได้มั้ยคะ หมอ .. เลเซอร์ หรือรักษาวิธีไหนก็ได้ ที่จะทำให้คมกฤชกลับมามองเห็น ... หมอบอกมาเลย ต่อให้ยากลำบาก แค่ไหน รุจาก็จะพาเค้าไปรักษา บอกสิคะ หมอ..ทำยังไง คมกฤชถึงจะไม่ตาบอดตลอดชีวิต”
รุจาเร่งถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย
ที่โรงพยาบาล เพชรเดินมากับมุกดา ส่วนเจนจบเดินมาจากอีกทาง เขาตรงเข้ามาหาทั้งคู่
“ผมเพิ่งทราบว่าเกิดเรื่องกับคุณคมกฤช”
“อุบัติเหตุน่ะค่ะ” มุกดาบอก
เจนจบมองมุกดาอย่างจับผิดว่ามุกดาจะพูดอะไรต่อ แต่มุกดาก็ไม่พูดอะไรอีก
“เข้าไปดูดีกว่าว่าคมกฤชฟื้นหรือยัง” เพชรเสนอ
เพชรโอบมุกดาเดินไปทางห้องคนไข้ เจนจบเดินตามไปติดๆ
ภายในห้องคนไข้ คมกฤชนั่งซึม เขาทุบมือลงบนเตียงอย่างแรงหลายครั้งด้วยความกดดัน เพชร มุกดา และเจนจบเดินเข้ามา มุกดาเห็นพี่ชายก็รีบเข้าไปหา
“พี่กฤช ฟื้นแล้วเหรอ”
ทั้งสามคนเดินมาใกล้แต่คมกฤชยังนิ่งอยู่
“คุณรุจาเป็นห่วงคุณมากนะครับ ไม่ยอมไปไหนเลย เอาแต่เฝ้าคุณ”
“ออกไปก่อนได้มั้ย” คมกฤชบอก
“พี่กฤช”
“ฉันบอกให้ออกไป” คมกฤชเสียงดังขึ้น
รุจาเปิดประตูเข้ามา มุกดามองหน้ารุจาเห็นรุจาสีหน้าไม่ดี เธอเดินมาใกล้เตียงคมกฤช แต่ยังไม่กล้าพูดอะไร
“ไป ออกไป !!! ฉันอยากอยู่คนเดียว”
คมกฤชขยับตัวสะเปะสะปะ ทุกคนแปลกใจ
“พี่กฤช เป็นอะไร” มุกดาถาม
“คมกฤชมองไม่เห็นคะ เค้ามองไม่เห็น” รุจาบอก
เพชร มุกดาและเจนจบอึ้ง
คมกฤชสะอื้น รุจาเข้ามากอดเขา คมกฤชยังสะอื้นออกมาเบาๆ
มุกดาแทบทรงตัวไม่ไหว เพชรรีบเข้ามาประคองเธอไว้
เพชรประคองมุกดาออกมานั่งหน้าห้องคนไข้ เจนจบเดินมามองอยู่ไม่ห่าง
“พี่กฤชตาบอด .. พี่กฤชจะมองไม่เห็นอีกเลย ..ตลอดชีวิต” มุกดาคร่ำครวญ
เพชรย่อตัวลงตรงหน้าแล้วกุมมือมุกดาอย่างให้กำลังใจ
“อย่าเพิ่งหมดหวัง หนูมุก ผมจะหาหมอเก่งๆมารักษาคมกฤช”
มุกดามองแววตาจริงใจและให้กำลังใจของเพชร เพชรบีบมือมุกดาแน่นอย่างให้กำลังใจ ทั้งสองคนอยู่ในสายตาของเจนจบที่ขยับเข้ามาก่อนจะพูด
“นั่นสิครับ คุณหนูมุก ถ้าเพชรช่วย รับรองว่าคุณคมกฤชต้องกลับมามองเห็น ไม่มีใครโชคร้ายไปตลอดหรอกครับ”
มุกดายิ้มขอบคุณเพชร
“ขอบคุณนะคะ พี่เพชร”
“ไม่ต้องขอบคุณเลยครับ หนูมุก อะไรที่จะเรียกรอยยิ้มหนูมุกกลับคืนมาได้ ผมต้องทำ”
เพชรพูดแล้วสบตามุกดาอย่างหนักแน่น
เจนจบถึงกับเบือนหน้าหนีจากภาพตรงหน้า
เพชรกับมุกดายังคงสบตากันอย่างซึ้งใจ
ภายในห้องคนไข้ คมกฤชนั่งพิงหมอนนัยน์ตาเหม่อมองไปข้างนอก รุจานั่งกุมมือเขาอยู่ใกล้ๆ มุกดาเปิดประตูเข้ามามองเห็นสภาพพี่ชายแล้วก็กำหมัดแน่น
“มุกจะลากไอ้ชั่วพวกนี้... มารับโทษทุกคน”
ที่บ้านเพชร เจนจบเดินเข้ามาหาเพชรที่มีสีหน้าเคร่งเครียด
“นิจนันท์โทรหานาย” เจนจบบอก
“ฉันไม่อยากรับ”
“เค้าเลยโทรมาหาฉัน บอกว่าสาลินีไม่มาทำงาน”
“ลาพักร้อนหรือเปล่า” เพชรถาม
“เปล่า ..... ฉันว่า”
เพชรหันไปมองเจนจบ
“สาลินีกลัวอาถรรพ์อะดอเรลลา” เจนจบบอก
“ไร้สาระ !! ... แล้วนายล่ะ”
“ไม่กลัว วัตถุไม่มีอิทธิพลกับจิตใจฉันหรอก คนต่างหากที่น่ากลัว”
เจนจบยิ้มอย่างสุขุมให้เพชรดั่งเพื่อนที่ดี
ภายในห้องคนไข้ มุกดามองธีรพัฒน์ที่ยืนอยู่ ธีรพัฒน์พูดให้คมกฤชกับรุจาได้ยินทั้งคู่
“คุณเพชรโทรมาแจ้งเรื่องสาลินีหายตัวไป ผมรับเรื่องไว้ ท่าทางคุณเพชรจะไม่ระแคะระคายเลยว่าสาลินีเป็นสายให้เอสเค แล้วตอนนี้ก็หายตัวไปกับศักดา”
“เค้าสองคนจะรอดหรือเปล่าคะ” รุจาถาม
“ถามผม.. .ผมว่าไม่ .. รอแต่ว่าเราจะพบศพสองคนนี้เมื่อไหร่” ธีรพัฒน์ออกความเห็น
“ตอนนี้เราต้องล่าตัวภูผามาให้ได้” มุกดาบอก
“พี่ขอนะ ... เรื่องนี้พี่จัดการเอง หนูมุกดูแลไอ้กฤชก่อนดีกว่า”
ธีรพัฒน์พูดแล้วมองคมกฤชอย่างสงสารก่อนจะเดินออกไปเงียบๆ
มุกดามองรุจาที่นั่งอยู่ข้างๆ คมกฤช
“นายอย่าหมดหวังนะ คมกฤช สมัยนี้หมอเก่งๆมีเยอะแยะ” รุจาให้กำลังใจ
“ฉันอยากอยู่คนเดียว” คมกฤชพูดนิ่งๆ
มุกดามองรุจากับคมกฤชแล้วเดินออกไปก่อน รุจากุมมือคมกฤชแล้วพยายามบังคับเสียงให้ร่าเริง
“ฉันอยู่ตรงนี้นะ เผื่อนายจะเรียกใช้อะไร”
“อย่ามาสนใจผมเลย รุจา .. ผมมันคนไม่มีอนาคต ไม่มีแล้ว...ชีวิตผม..จบสิ้นแล้ว ไปซะ .. ไปให้พ้น .. ไปจากผม”
คมกฤชปัดมือรุจาออกแล้วหันหลังล้มตัวลงนอน
รุจามองอย่างเสียใจ เธอพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล คมกฤชนอนหน้าตาเครียดและกดดัน
บ้านเพชรในตอนเย็น เพชรกุมมือมุกดาไว้อย่างปลอบใจ
“ผมโทรไปติดต่อหมอเก่งๆที่เมืองนอกแล้วนะ เค้าพร้อมจะบินมาดูอาการคมกฤชทันที”
“สภาพจิตใจพี่กฤชไม่ดีเลย”
“ไม่มีใครทำใจได้หรอก หนูมุก แต่ยังดีที่คมกฤชยังมีคุณรุจาอยู่ใกล้ๆ คนเราน่ะ เวลาที่สิ้นหวัง แค่ได้จับมือคนรัก มันก็อบอุ่นที่สุดแล้ว”
เพชรลูบมือมุกดาเบาๆ ยิ้มอย่างอบอุ่นจนมุกดายิ้มตอบอย่างมีกำลังใจ
“หนูมุกขอบคุณพี่เพชรนะคะ”
“ขอบคุณอีกแล้ว..ไม่ต้องขอบคุณผมเลยหนูมุก ขอให้ผมเป็นความสบายใจของคุณบ้าง”
“หนูมุกควรจะเป็นความสบายใจของพี่เพชรนะคะ แต่ตอนนี้... หนูมุกเหนื่อยเหลือเกิน”
เพชรดึงหัวมุกดาลงมาซบลงในอก
“เหนื่อยก็นอนเลยครับ .. ต่อไปข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ผมไม่รู้ แต่เวลานี้ เดี๋ยวนี้ และที่ตรงนี้ ... ผมขออนุญาติรับหน้าที่ดูแลคุณเอง”
มุกดาหลับลงในอกกว้างอย่างปลอดภัย เพชรโอบกอดคนรักไว้อย่างอบอุ่นและอ่อนโยน
ในห้องคนไข้คมกฤชกำลังลงจากเตียง รุจาก้าวเข้ามาให้ห้องพร้อมมถุงขนมมองเห็นคมกฤชกำลังจะเดินลงจากเตียงก็รีบวางถุงขนมทันที คมกฤชเอื้อมมือไปหาที่เกาะแต่คว้าไม่เจออะไรเขากำลังจะล้มลง
“คมกฤช ... ระวัง”
รุจาโผเข้ามารวบตัวคมกฤชไว้กอดแน่นกลัวจะชนเก้าอี้ที่ขวางอยู่ คมกฤชให้รุจากอดชั่วครู่แล้วผลักออก
“ทำไมยังไม่ไป”
“ฉันลงไปซื้อขนมอร่อยๆมา มีซีดีเพลงเพราะๆด้วย ฉันเปิดให้คุณฟังนะ”
“ไม่ต้อง เอาของเธอกลับไป ... ไม่ต้องมาที่นี่อีก อย่ามาสงสารฉัน”
“คมกฤช ฉันรู้ว่าคุณพูดเพราะความเสียใจ”
“เปล่า .. ฉันไม่ได้เสียใจ”
“คุณมันปากแข็ง”
“ออกไป !!! ไม่ได้ยินหรือไง ฉันบอกให้ออกไป .. ออกไปจากชีวิตฉันสักที รุจา”
คมกฤชตวาดด้วยเครียดและกดดัน
“เอาเวลาไปดูแล แอนดี้คนรักของเธอสิ อย่ามาเสียเวลากับผู้ชายตาบอด ไร้อนาคต”
“คุณมันโง่”
รุจาเข้ามายืนตรงหน้าคมกฤช ตัวสั่น น้ำตาปริ่ม
“ฉันแกล้งคุณ รู้มั้ยว่าฉัน คุณหนูมุก แอนดี้ เรารวมหัวกันแกล้งคุณ ฉันกับแอนดี้เราไม่ได้รักกัน ไม่ได้มีอะไรกันแต่คุณกวนประสาทฉันหาว่าฉันต้องง้อคุณ”
รุจาเริ่มสะอื้น จ้องหน้าคมกฤช
“ที่ทะเล ฉัน คุณหนูมุกเลยคิดจะสั่งสอนคุณ ให้รู้จักความรัก”
“ฉันไม่ต้องการความรัก ... อีกแล้ว”
“คมกฤช คุณต้องมีความหวัง คุณต้องสู้นะ คุณแค่มองไม่เห็น แต่สมองคุณความเก่ง ความฉลาดของคุณ .. คุณอย่าทิ้งมันไป”
“วันนี้เธอให้กำลังใจ แต่ผ่านไปปีนึง สองปี ... เธอจะไม่พูดอย่างนี้ ถ้าเธอต้องดูแลผู้ชายตาบอด.. ความรักจะกลายเป็นความเบื่อหน่ายรำคาญ แล้วในที่สุดฉันก็ต้องถูกทิ้งอยู่ดี”
รุจาเข้าไปกอดคมกฤชแน่น
“ไม่ .... ฉันจะไม่ทิ้งคุณ ... คมกฤช ฉันรักคุณ .. ฉันจะดูแลคุณเอง”
คมกฤชนิ่งไปก่อนจะค่อยๆกอดตอบรุจา
“เธอไม่รังเกียจฉัน”
“ไม่ คมกฤช .. ถึงคุณจะด่าว่า ดูถูกฉัน แกล้งฉันแค่ไหน ... ฉันก็รักคุณฉันรู้ว่าทุกอย่างที่คุณทำ เพราะคุณจะปกปิดว่าคิดยังไงกับฉัน”
รุจายิ้มให้คมกฤช
“แต่ตอนนี้ฉันรู้ว่าคุณรักฉัน แล้วฉันก็รักคุณ”
คมกฤชเลื่อนมาแตะสัมผัสหน้ารุจา
“ฉันจะดูแลคุณนะ แต่คุณต้องมีกำลังใจ คุณต้องเชื่อว่าวันนึง คุณจะมองเห็น”
“แล้วถ้าฉันมองไม่เห็นอีกเลย รุจา .. เธอจะแต่งงานกับฉันมั้ย”
“แต่ง ... คมกฤช ... ฉันจะแต่งงานกับคุณ”
คมกฤชเลื่อนมือสัมผัสใบหน้ารุจาด้วยความซาบซึ้งแล้วรวบรุจามากอดไว้แน่น รุจาซบลงในอ้อมกอดของคมกฤชด้วยความเต็มใจ
อ่านต่อหน้าที่ 3
มุกเหลี่ยมเพชร ตอนที่ 16 (ต่อ)
ในห้องนอนเพชร มุกดาขยับตัวตื่นเพชรที่กอดอยู่คลายอ้อมกอดทันที
“หลับสบายมั้ยครับ”
เพชรลูบผมที่ปรกหน้ามุกดาเบาๆ
“ฝันถึงผมหรือเปล่า”
มุกดาอมยิ้ม ยังไม่ทันตอบ เพชรรีบบอก
“ผมน่ะฝันถึงหนูมุกทุกครั้งที่หลับเลยนะ”
“เว่อร์ค่ะ”
“ไม่เว่อร์เลยครับ ... ผมฝันเห็นงานแต่งงานของเรา”
มุกดาเริ่มยิ้มไม่ออก มองเพชรที่แววตาแพรวพราว
“หนูมุก ถ้าคุณไม่อยากจัดงานแต่งงานใหญ่ๆ เราจัดงานเล็กๆเฉพาะสองครอบครัวก็ได้ คมกฤชจะได้ไม่ต้องลำบากใจที่เจอคนเยอะๆ”
“พี่เพชรคะ ...”
“ครับ”
“พี่เพชรยังคิดเรื่องแต่งงานอีกเหรอคะ”
เพชรเริ่มมีสีหน้าคลายยิ้มลง
“ตัดใจจากหนูมุกได้มั้ย”
“ผมทำไม่ได้”
“พี่เพชรต้องทำได้ .... พี่เพชรจะรักผู้หญิงที่ไม่รักพี่เพชรไปทำไม”
“เพราะผมอยากรัก ผมจะรักหนูมุก”
มุกดาลุกขึ้นถอยห่างจากเพชร
“เลิกรักหนูมุกเถอะค่ะ พี่เพชรจะได้ไม่เจ็บมากกว่านี้ เพราะหนูมุก ...หนูมุก...... ไม่ได้รักพี่เพชรเลย”
เพชรมองอย่างอึ้งๆ มุกดากระหน่ำลงไปด้วยสีหน้าเย็นชา
“หรือพี่เพชรต้องการแค่ตัวหนูมุกล่ะคะ”
“ผมต้องการความรัก ต้องการหัวใจของคุณหนูมุก หัวใจคุณที่มีผม ...”
“หัวใจหนูมุก..จะไม่มีวันเป็นของพี่เพชร หนูมุกมีคนอื่นอยู่ในใจอยู่แล้ว ...ก่อนที่จะเจอพี่เพชร เค้ารอหนูมุกอยู่”
“ทำไมถึงไม่เคยบอกผม”
“ตอนแรกหนูมุกคิดว่าเรื่องของเรา มันเรื่องเล่นๆไงคะ .. ควงกันสนุกๆ ขำขำไม่คิดว่าพี่เพชรจะจริงจังขนาดนี้”
เพชรมองมุกดาอย่างปวดร้าว
“หนูมุกจะไม่แต่งงานกับพี่เพชร .. เพราะหนูมุก ..ไม่เคยรักพี่เพชรเลย”
“พอแล้ว หนูมุก....แค่บอกว่าคุณไม่เคยมีผมอยู่ในหัวใจคุณ .. ก็พอแล้ว ผมคงไม่รั้งผู้หญิงที่ไม่รักผมเอาไว้หรอก อายตัวเอง”
เพชรเดินพรวดออกจากห้องลงบันไดไป มุกดามองตามน้ำตาค่อยๆหยดลงมา
“หนูมุกรักพี่เพชรค่ะ ....แต่หนูมุกมีหน้าที่”
มุกดาพยายามกลั้นน้ำตาเรียกความเข้มแข็งกลับมา
“หนูมุกอยากให้พี่เพชรเกลียดหนูมุกตั้งแต่วันนี้ ..ก่อนจะถึงวันที่หนูมุกต้องจับพี่เพชร ด้วยมือของตัวเอง”
มุกดาแววตาเศร้าและฝืนใจตัวเองอย่างที่สุด
ด้านล่างของบ้านเพชร เพชรลงมายืนสงบสติอารมณ์อยู่ด้านล่าง มุกดาเดินลงมาสีหน้าเรียบเฉย
“พี่เพชรบอกคุณป้าให้หนูมุกด้วยนะคะ”
เพชรหันมามอง
“หนูมุกอยากให้ยกเลิกการแต่งงาน”
“จะให้ผมบอกทุกคนว่ายังไง”
“แล้วแต่พี่เพชรเลยค่ะ เอาที่พี่เพชรไม่เสียหน้า”
“ไม่ต้องห่วงผมหรอก ผมไม่แคร์”
“ก็ดีค่ะงั้นก็บอกไปว่า เราเข้ากันไม่ได้”
มุกดาเดินผ่านหน้าเพชรอย่างไม่ใยดี เพชรดึงแขนไว้
“หนูมุก”
“อย่าคิดจะเปลี่ยนใจหนูมุกเลยค่ะ หนูมุกบอกแล้วว่าหนูมุกไม่ได้รักพี่เพชร”
มุกดาสะบัดแขนออกจากมือเพชร เพชรมองมุกดาแต่มุกดาเดินเชิดตัวตรงออกไปจากบ้าน เพชรถึงกับพิงผนังอย่างหมดแรงจะทัดทาน
ในห้องคนไข้ คมกฤชนั่งนิ่งอยู่ที่เตียง มุกดาเดินเข้ามาทิ้งตัวลงซุกตัวในโซฟา แววตาเหม่อปล่อยให้น้ำตาหยดลงมา
“มุกเหรอ”
“ค่ะ พี่กฤช”
มุกดาปล่อยให้น้ำตาหยดแต่เสียงที่ตอบพี่เหมือนปกติ
“เป็นอะไร ทำไมเงียบจัง”
“มุกไม่ได้เป็นอะไร .. คืนนี้มุกเฝ้าพี่กฤชเองนะ”
คมกฤชนั่งสีหน้าหมองหม่น มุกดาเองก็เจ็บช้ำ นอนปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาเพราะเสียใจเรื่องเพชร
ในบ้านเจนจบ เจนจบเดินเข้าหาขุนพลที่ยืนอยู่
“วันนี้ฉันไม่ได้นัดเธอ”
“ผมมาเพื่อให้ในสิ่งที่คุณต้องการ”
ขุนพลถอดเสื้อออก เจนจบมอง แววตาเป็นประกายขึ้นมา
“คุณทำกับผมได้ทุกอย่าง”
ขุนพลโยนแส้ไปตรงหน้าเจนจบ
“ให้ผมเป็นทาสคุณ ผมก็ทำได้”
“ต้องการอะไร”
“เงินส่วนของผม”
“แล้วที่ฉันเคยให้ไปกินไปเที่ยว มันไม่พอยาไส้เลยหรือไง”
“ผมต้องการมากกว่านั้น คุณก็รู้ว่าผมอยากไปแข่งรถเมืองนอก”
เจนจบยังใจเย็น แต่ขุนพลเริ่มงุ่นง่าน
“ผมรู้ว่าคุณจะได้เงินกี่ร้อยล้านจากการขายอะดอเรลลา คุณจ่ายค่าเหนื่อยให้พวกเราไม่กี่ล้าน เจนจบ ... ผมอยากได้มากกว่าภูผา อยากได้มากกว่าบลู .. อย่าลืมสิ ผมเป็นคนตามภูผามาทำงานให้คุณ”
“บุญคุณช่างล้นเหลือ”
“คุณควรจะแบ่งเงินให้ผมคนแรก .... ไม่ใช่ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับภูผาคนเดียว”
“นั่งลง ... ใจเย็นๆก่อน”
เจนจบหันไปรินไวน์ส่งให้แต่ขุนพลปัดออก ไวน์กระฉอกเลอะมือเจนจบ เป็นสีเลือดลงมาตามนิ้ว
“แบ่งเงินให้ผม .. แล้วผมจะหายเข้ากลีบเมฆ”
“จะไม่ช่วยฉันกำจัดนังหนูมุกก่อนเหรอ”
“ให้ภูผากับบลูมันทำ”
“สองคนนั้นจะสู้นังหนูมุกไหวหรือเปล่า พวกเธอ 4 คนยังเจอฤทธิ์มันมาแล้ว”
“ผมถึงไม่อยากทำ นังหนูมุกมันเก่ง .. คราวนี้ผมอาจจะ ...ไม่รอด”
“ที่แท้ก็ห่วง กลัวไม่ได้แข่งรถ .. ห่วงมากกว่าชีวิตเพื่อน”
“พวกมันไม่ใช่เพื่อน มันก็แค่คนที่ทำงานด้วยกัน ให้เงินผมแล้วผมจะไปแต่ถ้าคุณยังชักช้า ผมจะเอาทุกอย่างที่ผมรู้ ไปบอก..นังหนูมุก...”
ขุนพลหยิบปืนมาถือไว้แบบระวังตัว เจนจบมองแล้วถอนใจ
“ฆ่าฉัน เธอก็ไม่ได้อะไรเหมือนกัน วางปืนเถอะ ขุนพล เรารู้จักกันลึกซึ้งขนาดนี้ แค่เธอเดินมาบอกว่าขอเงิน..... ฉันก็ตัดสินใจได้แล้ว”
ขุนพลมองเจนจบที่ท่าทางอ่อนลงมีแต่รอยยิ้มบนหน้า
ในบ้านเพชร เพชรยังนั่งอยู่ที่เดิมอย่างหมดอาลัยตายอยาก นิจนันท์เดินเข้ามา
“เพชร”
นิจนันท์รีบเข้ามาประชิด
“เพชรเป็นอะไร ทำไมสภาพถึงเป็นแบบนี้”
“คุณเข้ามาถึงนี่ได้ยังไง”
“นิจ .. นิจหลอกยามว่า นิจเอาเอกสารสำคัญจากบริษัทมาให้คุณเซ็น แล้วก็หลบไม่ให้คนในบ้านแม่คุณเห็น... ตั้งแต่เกิดเรื่องพี่ชายหนูมุก นิจติดต่อคุณไม่ได้เลย เพชรคะ ครอบครัวหนูมุกเค้าดูแลกันได้ คุณมัวห่วงเรื่องของเค้าจนไม่เป็นอันทำการทำงาน มันไม่ดีกับตัวคุณ ธุรกิจของคุณนะคะ”
“ผมบอกให้ออกไป” เพชรตวาดใส่
นิจนันท์สะดุ้งที่เพชรตวาดเสียงดัง
“มันไม่มีอะไรเกี่ยวกับหนูมุก ... ไม่มีอีกแล้ว”
“หมายความว่าอะไรคะ”
“หนูมุกเค้าไม่ได้รักผม .. ไม่ได้รักเลย”
เพชรสีหน้าเสียใจมาก นิจนันท์สบโอกาสเข้าไปใกล้
“โธ่ เพชร ... ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงไม่เห็นความดีของคุณ”
นิจนันท์ลูบต้นแขนเพชรเบาๆ
“ทำไมเค้าถึงทำร้ายจิตใจผู้ชายแสนดีอย่างคุณได้ลงคอ ทั้งๆที่คุณรักเค้ามากขนาดนี้”
เพชรยืนนิ่ง นิจนันท์เข้าไปซบด้านหลัง กอดเพชรไว้
“นิจเข้าใจค่ะ การถูกปฏิเสธจากคนรัก มันเจ็บปวดแค่ไหน นิจอยากให้เพชรรู้นะคะ ใครไม่เห็นค่าของเรา .. เพชรก็อย่าไปสนใจเค้าอีก.. อยู่กับคนที่รักเพชร ...ให้เพชรได้ทั้งชีวิตเถอะค่ะ”
เพชรปล่อยให้นิจนันท์กอดไว้อย่างนั้นแววตายังเสียใจเรื่องมุกดา นิจนันท์ยิ้มคิดแล้วว่าจะต้องใช้โอกาสนี้ใกล้ชิด เอาใจเพชรให้จนได้
ในห้องอาบน้ำบ้านเจนจบ ขุนพลที่เมาเต็มที่ หัวเราะร่าชูขวดไวน์แดงราดลงหัวตัวเอง แล้วลากมือที่เลอะไวน์แดงลงไปที่อกเจนจบ
“คุณนี่สุดยอด ... สุดยอดจริงๆ เจนจบ ..ผมไม่เคยอยู่กับใครแล้วสนุกมาก... เท่าอยู่กับคุณอีกแล้ว”
“จริงเหรอ”
“จริงสิ ... ผมสาบาน.. สาบานด้วยชีวิตผมเลย”
ขุนพลเทไวน์รดหัวด้วยความเมา เจนจบยิ้มจะเดินออกไปขุนพลรีบถามขึ้น
“เงินอยู่ไหน”
เจนจบหันมา ขุนพลรีบทวง
“เงินของผม ... เงินค่าแรงปล้นอะดอเรลลา”
“ก็กำลังจะหยิบให้”
“ดีมาก ดี .. ดี เอามาให้ผม..เอาของทุกคนมาให้ผมเลย ผมคนเดียว ..”
ขุนพลมองเห็นเจนจบเดินออกไป ก็หันกลับมา พูดกับตัวเอง
“คนอย่างแก....มันต้องใช้เงินซื้อความรัก ไม่ใช่สิ ไม่ใช่ความรัก.. ความใคร่ต่างหาก”
ขุนพลไม่เห็นว่าเจนจบยืนพิงฟังอยู่
“คนอย่างแกมัน..บ้า ไม่มีใครรักแกเข้าไปลงหรอกโว๊ย ไอ้ตัวประหลาด”
เจนจบเดินมาอย่างเงียบกริบ
“ฉันไม่ใช่ตัวประหลาด”
ขุนพลสะดุ้ง ยังไม่ทันหันมามอง เจนจบเอามือไล้มาที่คอขุนพล
“คนอย่างฉันคือเพชรเม็ดงามที่จะเลือกเจ้าของ...ด้วยตัวเอง”
เจนจบใช้แรงบิดคอขุนพลกร๊อบเดียว แล้วแทงที่เปิดขวดไวน์ลงไปที่คอ เลือดจากคอกระเซ็นเลอะกระจก ขุนพลตาเหลือกขาดใจตายทันที เจนจบมีสีหน้าเปี่ยมสุข เลือดไหลลงมาตามร่างกายขุนพลที่เลอะไวน์แดง
“ชีวิตแก .. ก็มีค่าแค่นี้ ไหลลงท่อไปซะ”
เจนจบผลักร่างขุนพลออกห่าง สีเลือดจากร่างขุนพลกับสีไวน์แดงปะปนไหลลงไปตามท่อน้ำทิ้ง
ในบ้านเจนจบ เจนจบวางผ้าขนหนูที่เช็ดมือแล้วหยิบรีโมทเปิดเพลง ภูผาก้าวเข้ามาในห้อง เจนจบหันไปมองแบบปกติ
“ขุนพล มันมาขอส่วนแบ่งของแก .. ฉันคงให้ไม่ได้ เพราะแกทุ่มเททำงานให้ฉันมากกว่ามันหลายเท่า”
ภูผามองเจนจบที่ยิ้ม รินไวน์
“แล้วตอนนี้ขุนพลอยู่ที่ไหน”
“ไปไกลแล้ว”
ภูผามองอย่างสงสัย เจนจบยิ้มอธิบาย
“... ไปในที่ที่เงินไม่ใช่สิ่งจำเป็น ... ไม่ใช่ความหิวกระหาย ไม่ใช่ลมหายใจของมันอีกต่อไป”
“ขุนพล....ตายแล้ว”
“ไม่ดีเหรอ ตัวหารก็น้อยลงไปอีกคน ... สักหน่อยมั้ย ...”
ภูผามองยิ้มของเจนจบอย่างแน่ใจ ว่าขุนพลตายไปแล้วความหวาดหวั่นเกาะกุมใจทันที ต่างกับเจนจบที่ยิ้มเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาๆ
โกดังร้างแห่งหนึ่ง บลูยกขาถีบผนัง ระบายความโมโห
“มันฆ่าขุนพลทำไม”
บลูถีบอาละวาดจนล้มลงไปกองกับพื้น
“มันอยู่ไหน ฉันจะไปฆ่ามัน”
“เจนจบ ไม่ใช่คนที่เราจะต่อรองด้วย” ภูผากล่าว
“ทำไม ภูผา ... ทำไมแกถึงต้องกลัวมัน”
“ฉันกลัวความอำมหิตของมัน”
ภูผาหันมองบลู
“ช่วยฉันทำงานสุดท้าย..... บลู .. ไม่งั้นฉันจะไม่ได้เห็นหน้าลูกชายฉันอีก”
บลูสบตาภูผา
“ฉันอยากไปรับลูกชาย ... ทำงานให้เจนจบอีกครั้งเดียว เราจะเป็นอิสระ”
บลูนิ่งคิด ในใจเริ่มหวาดกลัวถึงสิ่งที่เจนจบลงมือและเห็นมากับตาตัวเอง ภูผาเองก็สีหน้ากดดัน
เช้าวันใหม่ในบ้านมุกดา รุจากำลังป้อนข้าวต้มคมกฤช
“อีกคำนะคะ”
คมกฤชกินช้าๆ รุจาเช็ดปากให้เบามือมุกดาเดินออกมาเห็นรุจากำลังดูแลพี่ชายก็ยิ้มให้ รุจาหันมาเห็นก็ยิ้มถาม
“จะไปหาคุณเพชรเหรอคะ”
มุกดาหุบยิ้ม รุจาสังเกตสีหน้าก็สงสัย
“มีอะไรกันหรือเปล่าคะ”
คมกฤชที่นั่งฟังอยู่ ไม่เห็นมุกดาตอบ ก็เอ่ยขึ้น
“พี่อยากให้แกแต่งงานกับคุณเพชรนะ”
มุกดามองหน้าพี่ชาย
“ถึงพี่จะเป็นแบบนี้ ... มองไม่เห็น .... อาจจะไม่มีวันมองเห็นอีกเลย”
รุจาเอื้อมมือไปกุมคมกฤชไว้อย่างห่วงใย
“แต่พี่ก็ยังมีหัวใจที่สัมผัสความสุขได้ ..”
คมกฤชเอื้อมมือมากุมมือรุจา
“พี่อยากรับรู้ว่า น้องสาวพี่มีความสุขกับผู้ชายที่รักเราจากใจจริง”
มุกดาฟังแล้วเอ่ยขึ้นเสียงเศร้า
“มุกขอโทษนะคะ ... ที่ทำให้ความฝันของทุกคนเป็นจริงไม่ได้”
“ปากแข็ง ใจแข็ง” คมกฤชพุด
“แล้วสุดท้าย ความแข็งแรงที่สร้างขึ้นเพื่อปกปิดความรู้สึกที่แท้จริง จะทำให้เรามีความสุขได้หรือคะ” รุจาบอก
มุกดาไม่ตอบคำถามรุจา เธอหันหน้าหนีมองไปไกลซ่อนแววตาหม่นหมอง
ในบ้านเพชร มรกตลุกพรวดต่อหน้าลูกชายด้วยความโกรธสุดขีด
“เลื่อนการแต่งงาน”
“ครับ .. เลื่อนออกไปก่อน”
“ถึงเมื่อไหร่” เผ่าพงศ์ถาม
“ไม่มีกำหนด”
“หมายความว่าอะไร ไม่มีกำหนด แกจะบ้าเหรอตาเพชร”
เพชรเดินหนีมรกตมาดักหน้า เผ่าพงศ์ดักอีกทาง
“แกบอกฉันสิ ผีบ้าตัวไหนมันเข้าสิงแก”
“ผมไม่อยากแต่งงานกับหนูมุก ทำไมผมต้องงอนง้อผู้หญิงคนนึงที่เค้าไม่รัก ไม่เต็มใจจะอยู่กับผม”
“แม่นิจนันท์ก่อเรื่องอีกแล้วใช่มั้ย”
“ไม่เกี่ยวกับนิจเลยครับ มันเรื่องของผมกับหนูมุก แม่ครับ ...แม่เคยถามหนูมุกหรือเปล่า ว่าเค้ารักผมมั้ย หรือเค้ามีใครอยู่แล้ว”
มรกต เผ่าพงศ์เงียบ
“ความรักของผมมันไม่เคยอยู่ในใจหนูมุก เค้าถึงไม่อยากจะร่วมชีวิตกับผมผมขอนะครับ ยุติเรื่องแต่งงาน ไม่ต้องบีบบังคับอะไรหนูมุกอีก อย่าบังคับให้เค้าต้องรักผม
สวนบ้านมุกดา มุกดากอดอกมองไปไกล รุจามองอย่างเห็นใจ
“หนูมุกทำดีที่สุดแล้วค่ะ ให้พี่เพชรเกลียดหนูมุกตอนนี้ เวลาที่พี่เพชรต้องถูกหนูมุกสอบสวน จะได้ไม่ลำบากใจกัน”
“ที่คุณหนูมุกยอมถูกเข้าใจผิด ก็เพราะรักคุณเพชรมาก”
“ค่ะ พี่เพชรเป็นคนดี แต่หนูมุกก็หาหลักฐานอะไรยืนยันความบริสุทธิ์ของพี่เพชรไม่ได้เลย นอกจากหัวใจตัวเอง”
“คุณหนูมุกไม่คิดจะอธิบายความจริงกับคุณเพชรเลยเหรอคะ คุณเพชรอาจจะเข้าใจเหตุผลของคุณหนูมุกก็ได้”
“อย่าเลยค่ะ ที่ผ่านมา ความดีของพี่เพชรถูกทุกคนรอบตัว เอาเปรียบ หาผลประโยชน์มามากเกินไป . ... กระทั่งหนูมุกเอง.. ก็ยังโกหกพี่เพชร”
มุกดาพยายามกลั้นน้ำตาไว้ รุจามองด้วยความเห็นใจ
“หนูมุกเอาเปรียบความรักของพี่เพชรไม่ได้อีกแล้ว”
ในบ้านเพชร เพชรนั่งซึม พาที เดินไปเดินมากระวนกระวาย
“คุณหนูมุกน่ะเค้ารักแก ฉันมองตาออก เค้ารักแก เค้ารักแก”
“พอทีเถอะ พาที ฉันรำคาญ ก็เค้ายื่นคำขาดมาแล้ว ว่าเค้าไม่แต่งงานกับฉัน”
“เรื่องนี้มันมีเงื่อนงำ แกเชื่อชั้นมั้ย อาถรรพ์..”
“เอาอีกคนนึงแล้ว ... อาถรรพ์อะไร อาถรรพ์อะดอเรลลาบังคับใจคนให้รักกันได้ด้วยเหรอวะ”
“เพราะเรายังหาอะดอเรลลาไม่เจอ”
“ฉันไม่สนอะดอเรลลาแล้ว”
“แต่ถ้าแกได้มันมา ..คุณหนูมุกอาจจะกลับมาคืนดีกับแก”
“พอ ฉันบอกให้แกพอ.. ไม่ต้องออกความเห็น ... แกจัดการยกเลิกทุกอย่าง... ... ไม่มีงานแต่งงานของฉันกับหนูมุกอีกแล้ว”
พาทีฮึดฮัดแต่เถียงอะไรไม่ได้ ที่ประตูนิจนันท์เดินเข้ามา
“มาทำไมน่ะ นิจ” พาทีถาม
“ฉันชวนนิจนันท์มาเอง”
นิจนันท์ยิ้มอย่างผู้ชนะ พาทีมองอย่างไม่พอใจ
“อย่างเธอน่ะ สมควรจะไปดูแลสามีที่กำลังต้องการการดูแลเอาใจใส่มากกว่า”
ในห้องคนไข้ เจนจบก้มลงจูบหน้าผากชนินทรที่นอนไม่รู้สึกตัวด้วยกิริยานุ่มนวลแผ่วเบา
“เป็นยังไงเพื่อนรัก .. .สบายดีนะ ..”
เจนจบยิ้มมองชนินทร
“ฉันดีใจนะที่เห็นแกมีความสุข .. ตอนนี้ฉันก็มีความสุข ..สุขที่สุดเลยล่ะเพชรเค้าไม่ต้องแต่งงานแล้ว .. แต่ยังไงฉันก็ต้องจัดการคุณหนูมุกเพราะท่าทางมันรู้มาก ..”
เจนจบขยับผ้าห่มให้ชนินทร
“คงต้องวางแผนให้รอบคอบ เพราะตอนนี้ไม่มีแกเป็นแพะให้ สาลินีก็เพิ่งตาย บุ่มบ่ามลงมือไป ฉันอาจจะถูกสงสัย”
เจนจบจับเสื้อชุดคนไข้ชนินทรให้เข้าที่
“บ้าๆบอๆอย่างพาที ก็คงไม่มีใครคิดว่ามันจะฉลาดวางแผนได้ จริงมั้ย”
เจนจบตบบ่าชนินทรเหมือนคุยกันรู้เรื่องพยาบาลเดินเข้ามา เจนจบยิ้มให้
“คนไข้เป็นยังไงครับ”
“ยังไม่รู้สึกตัวค่ะ” พยาบาลตอบ
เจนจบมองพยาบาลที่ดูเครื่องมือต่างๆ
“ฝากดูแลเพื่อนผมด้วยนะครับ”
“ค่ะ”
พยาบาลจดรายละเอียดแล้วเดินออกไป เจนจบเดินตามไปกำลังจะออกไปนอกประตู นิ้วชนินทรที่วางอยู่กระดิกขึ้น เจนจบกำลังจะปิดประตูมองมาเห็นชนินทรนอนนิ่งเขายิ้มแล้วปิดประตู
นิ้วชนินทรกระดิกขึ้นมาอีกครั้งเหมือนคนที่กำลังจะกลับมาจากความตาย
จบตอนที่ 16
ติดตามอ่านตอนต่อไปพรุ่งนี้