xs
xsm
sm
md
lg

ลิขิตฟ้าชะตาดิน ตอนที่ 9

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 ลิขิตฟ้าชะตาดิน  ตอนที่  9 

นายเด่นขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ ตามรถมอเตอร์ไซค์ของลูกน้องมาตามถนนบนเขา เลาะเลี้ยวตามขอบโค้ง แล้วจังหวะหนึ่งลูกน้องก็พามาจอดตรงจุดชมวิว

นายเด่นจอดรถรีบลงไปหาทันที “ไหน..ตรงไหน”
ลูกน้องส่องกล้องส่องทางไกลมองพลางชี้ให้ดู
“นั่นไงครับ นายเด่น กำนันพาพวกนี้มาแต่เช้า จนป่านนี้ ยังชี้ที่ดินกันไม่เสร็จ นายเด่นว่ามันจะซื้อที่ หรือทำอะไร”
นายเด่นมองตามไปยังจุดหนึ่งไกลออกไปแต่ไม่ถึงกับไกลลิบตา ที่บริเวณถนนดินจะพังมิพังแหล่ เลียบชายฝั่งทะเล เห็นกลุ่มคนชายหญิง แต่งตัวเป็นชาวพื้นเมือง ยืนชี้ ชวน พูดคุย และกำลังปรึกษากันอยู่
ลูกน้องส่งกล้องให้ นายเด่นมองผ่านกล้อง กวาดสายตาดูไล่ไปทีละคน เห็นเป็นมาดามพิณ ชิงชัย ปีเตอร์ เทเรซ่า โดยมาดามพิณและเทเรซ่ากางร่มคนละคัน นายเด่นไล่มองไปที่สมุน 4 คนของปีเตอร์ แล้วกราดสายตากลับมาเน้นที่ปีเตอร์
จังหวะนั้นนายเด่นขยับซูมขยายดูปีเตอร์จนเห็นใกล้ๆ ว่ากำลังเอากล้องถ่ายรูปออกมา ถ่ายมุมนั้นมุมนี้ไปมา นายเด่นเอากล้องลง สีหน้าครุ่นคิด

ทางด้านปีเตอร์ยังใช้กล้องเล็กๆ ในมือถ่ายรูปมุมต่างๆ เทเรซ่าถือร่มเดินมา กระโปรงปลิวไปตามแรงลม และแสงแดดก็แรงมาก
สักพักหนึ่งเทเรซ่าก็ปล่อยร่ม ร่มปลิวไปตามแรงลม เทเรซ่าทรุดฮวบ เป็นลมหมดสติไป
“เทเรซ่า” ทุกคนอุทานพร้อมกัน
ปีเตอร์มัวแต่ถ่ายรูป หันมาเห็น ตกใจ รีบเข้ามา ชิงชัยเข้าอุ้มได้ก่อน เพราะอยู่ใกล้กว่า
“รีบพาไปบ้านกำนันเร็ว ไป ไปๆๆ คุณเทเรซ่าเป็นลมแล้ว..บอกแล้ว ว่ามันร้อนมาก อย่ามาๆ ก็ไม่เชื่อ” มาดามพิณบ่น
ชิงชัยรีบอุ้มร่างเทเรซ่าไปที่รถ ปีเตอร์รีบตาม

เวลาเดียวกันนั้น นายน้อมพาฟ้ากระจ่างมาจัดการธุระที่นายหัวบัญชาสั่ง ทั้งคู่อยู่ภายในโชว์รูมร้ายขายรถหรูของจังหวัด รถยนต์ป้ายแดงคันงามหรู ยี่ห้อยุโรป จอดเคียงกันอยู่ 2 คัน ต่างสี ต่างรุ่น
ฟ้ากระจ่างกำลังยืนมองอย่างมึนๆ งงๆ
“นายหัวให้คุณจ้างมาดูเอง เลือกเอง ลองขับดูก่อนครับ” นายน้อมบอก
“สวยทั้งสองคันเลยนะคะ แล้วแต่ชอบค่ะ ถ้าชอบปราดเปรียว โฉบเฉี่ยว สมวัยก็คันนี้ แต่ถ้าชอบความสง่า หรู อย่างผู้บริหาร ก็คันนี้ค่ะ” พนักงานขายอธิบายแต่ละรุ่น
ฟ้ากระจ่างมองแล้วถอนหายใจ “คันไหนแพงกว่าครับ”
“แหม..ฉลาดจัง..เลือกคันที่แพง..ก็ต้องคันนี้สิคะ แพงกว่าล้านนึงพอดีค่ะ” คนขายว่า
“งั้น..ผมเอาคันนี้” ฟ้ากระจ่างชี้คันที่ถูกกว่า “ไม่ต้องลอง โอเคเลย จบ!”
คนขายตกใจเล็กๆ
นายน้อมขำแบบประชดแดกดัน “แหม..สมถะ ไม่โลภ..ดีจังเลยนะครับ”
ฟ้ากระจ่างยิ้มพลางว่า “มันแน่อยู่แล้ว เอ้า นายน้อมขึ้นไปนั่ง”
“ห๊ะ คุณต้องขับนะครับ” นายน้อมงง
“ก็ใช่ไง ไม่ได้บอกให้ขับ ให้นั่ง ขอกุญแจครับ”
คนขายส่งกุญแจให้ ฟ้ากระจ่างบอกคนขาย
“ช่วยให้ใครขับคันของนายน้อมกลับบ้านนายหัวด้วยนะครับ ผมจะพานายน้อมไปขับรถเล่นหน่อย”
“จะดีเหรอครับ”
“นี่คือคำสั่ง..ของทายาทคนโตของนายหัว...” ฟ้ากระจ่างมองยิ้มๆ
นายน้อมคอย่น ส่งกุญแจรถคันเก่าให้คนขายรถ แล้วเปิดขึ้นไปนั่งโดยดี
“ผมไปได้เลย ใช่ไหมครับ” ฟ้ากระจ่างหันไปทางพนักขาย
“ค่ะ”
ฟ้ากระจ่างขึ้นรถ มองๆ จับๆ แตะ นั่น นี่ ทำความรู้จักสักพัก แล้วสตาร์ทเครื่องยนต์ ขับออกไปอย่างนุ่มนวล
พนักขายมองตามไป ดูเหมือนจะติดใจ เสน่ห์ของทายาทคนโตของนายหัวบัญชาเข้าให้แล้ว

ฟ้ากระจ่างขับมาในโรงพยาบาล แล้วถอยจอดเสียบแบบเซียนมาก
“เย้ย..คุณจะมาทำอะไรที่นี่ครับ คุณจ้าง ไม่สบาย เป็นไข้ยังไม่หายเหรอครับ” นายน้อมสงสัย
“ขอมือขวาซิ” ฟ้ากระจ่างเอ่ยขึ้นขณะจอดรถ
“ผมไม่ใช่หมานะ”
“ขอดูมือขวาครับ” ฟ้ากระจ่างย้ำเสียงสุภาพ
นายน้อมยกขึ้นมา มือบริเวณที่พันกริปป์ไว้ ดูบวมเป่ง และช้ำมากขึ้น
“ผมบอกแล้วใช่ไหม ว่าถ้าบวม..แปลว่า..เป็นเรื่อง ต้องหาหมอ ลงไป”
“แต่ว่า...”
“ผมสั่ง!”
นายน้อมอึ้ง ค้อนๆ แต่ก็รีบลง ทั้งคู่เดินเข้าไปในโรงพยาบาล

นางพยาบาล เดินนำนายน้อมในชุดเสื้อผู้ป่วยสำหรับการเอ็กซเรย์ นายน้อมเดินงอนๆ มา ฟ้ากระจ่างตามมามองอย่างขำๆ
“ห้องเอ็กซเรย์ ทางนี้ค่ะ นั่งรอก่อนนะคะ” พยาบาลหันมาหาฟ้ากระจ่าง “ญาติ..เชิญรอข้างนอกนะคะ”
“อ้อ ครับ ขอโทษครับ”
ฟ้ากระจ่างเดินออกไป
เป็นจังหวะเดียวกันที่รุ่นพี่นักกู้ชีพที่เคยไปเที่ยวทะเลด้วยกันกับฟ้ากระจ่าง ใส่เครื่องแบบมูลนิธิ เดินมาพอดี
“อ้าว อาจ้าง” รุ่นพี่ร้องทักอย่างดีใจ
ฟ้ากระจ่างรีบไหว้ทักทายกลับ “หวัดดี พี่ พาคนมาห้องฉุกเฉินเหรอครับ”
“เออ มีคนโดนงูพิษกัด ตอนนี้ฉีดเซรุ่มแล้ว แต่หมอให้พักดูอาการก่อน”
“โห..เสียวจัง” ฟ้ากระจ่างทำหน้าเสียวไส้
“แล้วจ้างมาทำไม”
“อ๋อ คนที่บ้านประสบอุบัติเหตุนิดหน่อยครับ”
“แล้วลื้อต้องเป็นคนพามาด้วยเหรอ ดูสิ แต่งตัวออกจะหรู ยังติดนิสัยเดิมๆ ไม่หายนะ ชอบพาคนไปโรงบาล”
รุ่นพี่พูดแซวจบทั้งคู่ก็หัวเราะกันสนุกสนาน

ปีเตอร์ กับชิงชัย เดินเลี้ยวมาตรงนั้นพอดี

ฟ้าลิขิตให้พ่อกับลูกร่วมสายเลือด ที่ต่างก็ไม่รู้ว่ามีกันและกัน เจอหน้ากันอีกครั้งแล้ว!!

ฟ้ากระจ่างหันไปพอดี ต่างคนต่างเห็นกัน และชะงัก ฟ้ากระจ่างรีบไหว้ปีเตอร์ รุ่นพี่ไว้ตาม
“คุณจ้าง..พาคนมาโรงพยาบาลหรือครับ” ปีเตอร์ยิ้มทักทาย
ฟ้ากระจ่างหันไปมองหน้ารุ่นพี่นิดหนึ่ง ตอบแบบย่นย่อ ขี้เกียจอธิบายยาว “ครับ…”
ปีเตอร์มองศีรษะฟ้ากระจ่าง ตรงที่เคยหัวแตก “แผลคุณ..หายแล้วนะครับ”
ฟ้ากระจ่างเผลอจับนิดๆ “อ๋อ ครับ”
ชิงชัยมองอย่างดูหมิ่น ดูแคลน กวาดตามองหัวจรดเท้า แล้วเมินไป
“ปีเตอร์ครับ..ไปหาอะไรดื่มเย็นๆ กันเถอะครับ อีกนานเลย..กว่าจะเสร็จ”
“เชิญคุณเถอะ” ปีเตอร์มองฟ้ากระจ่างเหมือนติดใจอะไรบางอย่าง “ผมจะคุยกะคุณจ้างหน่อย ดีใจ ที่ได้เจอ”
น้ำเสียงชิงชัยไม่ค่อยไว้ใจ “คุย..ก็คุยด้วยกันสิครับ
ฟ้ากระจ่างนึกขึ้นได้ “มีใครไม่สบายหรือเปล่าครับ”
“เทเรซ่าเป็นลมครับ เพราะความร้อน แล้วก็ร่างกายขาดแร่ธาตุบางอย่าง หมอเลยต้องให้น้ำเกลือหน่อย” ปีเตอร์บอก พร้อมเล่าอาการลูกสาว
“แล้วฟื้นแล้ว ใช่ไหมครับ”
“ฟื้นแล้วครับ”
“ไม่มีปัญหาเรื่องความดัน..หรืออย่างอื่น..ใช่ไหมครับ”
“ไม่มีครับ” ปีเตอร์งงที่ฟ้ากระจ่าง ถามอย่างรู้ละเอียด
“หึ อยากรู้ไปทุกเรื่องเลยนะ คุณน่ะ” ชิงชัยแขวะด้วยความหมั่นไส้
รุ่นพี่แอบเหล่อาการชิงชัยแล้วสะกิด ฟ้ากระจ่างหันมาขยิบตาให้ แล้วหันไปทางชิงชัย มองนิดหนึ่ง
“เป็นห่วงน่ะครับ เห็นคุณเทเรซ่าร่างกายอ่อนแอบอบบาง”
“หึ!” ชิงชัยเมินไป
“คุณไปเยี่ยมเทเรซ่าสิ ถ้าลูกผมเห็นคุณ น่าจะดีใจ เทเรซ่ายังอยากจะมีโอกาสตอบแทนบุญคุณคุณนะครับ”
“ผมไปเยี่ยมได้หรือครับ ดีจัง ผมก็อยากพบคุณเทเรซ่าอีกครับ”
ฟ้ากระจ่างพูดแล้ว แอบสะกิดตอบรุ่นพี่ ปีเตอร์ยิ้มกว้างอย่างดีใจ ชิงชัยหันมา ไม่อยากเชื่อ
ในขณะที่ฟ้ากระจ่างกับรุ่นพี่มูลนิธิแอบขำกัน ที่ได้กวนตีนคนเล่น

เทเรซ่าอยู่ในชุดผู้ป่วย นอนพักอยู่ในห้องพิเศษสุดสำหรับลูกค้าวีไอพี กำลังให้น้ำเกลือ หันมาอย่างแปลกใจ เมื่อได้ยินเสียงคนเดินตรงประตู
ปีเตอร์ยืนคาประตูทางเข้าอยู่ พูดด้วยสีหน้าดีใจ “เทเรซ่า ดูสิ ว่าแด็ดดี้ไปเจอใคร แล้วเขาอยากมาเยี่ยมลูกด้วย”
เทเรซ่ายิ้มงงๆ “ใครหรือคะ แด๊ดดี้ เพื่อนเทเรซ่าจากสิงคโปร์หรือคะ..เจนนี่?”
“ไม่ใช่จ้ะ”
ปีเตอร์เบี่ยงตัว เห็นฟ้ากระจ่างก้าวเข้ามา
เทเรซ่าดีใจออกนอกหน้า “คุณจ้าง!”
ฟ้ากระจ่างยิ้มให้เป็นรอยยิ้มสดใสประจำตัว “อากาศร้อนแบบนี้ คุณเทเรซ่าต้องระวังตัวหน่อยนะครับ
“คุณมาได้ยังไงคะ”
“คุณจ้างกับเพื่อน..พาคนเจ็บมาส่งโรงพยาบาลน่ะลูก” ปีเตอร์ตอบแทน
ชิงชัยเดินเบียดปาดชนจนฟ้ากระจ่างกระเด็นไปนิดๆ รีบก้าวเข้ามา บังหน้าฟ้ากระจ่าง
“ก็เป็นธรรมดาฮะ ที่คนทำงานเก็บศพ..เอ๊ย..หน่วยกู้ภัยพวกนี้ เค้าต้องวิ่งเข้าวิ่งออกโรงพยาบาลกันทุกวัน ได้ข่าวว่าแต่ละมูลนิธิแย่งงานกันน่าดู เพราะอะไรนะครับ คุณจ้าง” ชิงชัยหยัน
“เอ..มีด้วยหรือครับ ผมไม่ทราบ เพราะไม่เคยแข่งขันกับใคร นอกจากแข่งกับเวลา อยากให้คนเจ็บปลอดภัยเร็วที่สุด ก็แค่นั้น” ฟ้ากระจ่างตอกกลับ...นิ่มนิ่ง
“เป็นการบำเพ็ญประโยชน์ที่น่าชื่นชมมากครับ” ปีเตอร์ว่า
“เพราะคุณจ้างชอบช่วยชีวิตคนอยู่แล้วนี่เอง..ถึงได้มาช่วยเทเรซ่า” เทเรซ่ายิ้มแย้ม
“ใครๆ ก็ต้องช่วยคุณเทเรซ่าครับ ถ้าต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนั้น” ฟ้ากระจ่างบอก
“ไม่เสมอไปหรอกครับ คุณถึงกับต้องเจ็บตัว เราอยากพบคุณอีกจริงๆ แต่เราไม่ทราบจะติดต่อคุณได้ที่ไหน ถ้าจะขอเบอร์ติดต่อ จะรังเกียจไหมครับ”
ฟ้ากระจ่างหยิบโทรศัพท์แพงหรูรุ่นล่าสุดที่เพิ่งได้มาออกมา ส่งให้ปีเตอร์ “คุณปีเตอร์กดเบอร์คุณปีเตอร์เลยดีกว่าครับ”
“ดีครับ” ปีเตอร์รับมา กดเบอร์ตัวเอง
ชิงชัยมองจ้อง “ว้าว..รุ่นล่าสุดเลย ซื้อเอง หรือว่า..เก็บได้จากตามอุบัติเหตุอ่ะครับ”
ฟ้ากระจ่างหันไป งงกับความคิดชิงชัย “อะไรนะครับ”
“ผมล้อเล่นนะครับ..” ชิงชัยหัวเราะ
“ชิงชัยเป็นคนอารมณ์ขันแปลกๆ นิดหน่อยครับ” ปีเตอร์กดโทร.ออก รออีกนิดหนึ่ง มือถือปีเตอร์ดัง ปีเตอร์ล้วงหยิบมือถือขึ้นมา “เอาล่ะ ตอนนี้ เบอร์คุณก็จะมาอยู่ในเครื่องผมล่ะ” แล้วกดโทร.ทิ้ง ก่อนส่งคืนให้ฟ้ากระจ่าง
ฟ้ากระจ่างรับมาดู แล้วกดเม็มพลาง เงยหน้าขึ้นมายิ้มสลับ
“ผมก็ว่างั้น..เพราะคุณชิงชัยท่าทางจะนิสัยดีออก” หันไปหาเทเรซ่า แบบจงใจมองผ่านเลยไป “คุณเทเรซ่าพักผ่อนมากๆ นะครับ แล้วจะทำอะไร ไปไหน หรือคบกับใคร..ก็ให้ระวังตัว อย่าประมาท..มีอะไรก็โทร.หาผมได้ รับรอง ว่าผมเป็นเพื่อนที่คุณจะไว้ใจได้แน่”
เทเรซ่ายิ้ม ชิงชัยข่มอารมณ์ไว้ มองหน้าปีเตอร์ เทเรซ่า และฟ้ากระจ่างที่ยิ้มกันไปมา แล้วเมินไปทางอื่น อย่างแค้นเคืองใจ

นายเด่นเล่าเรื่องที่เห็น พร้อมกับประเมินอย่างมั่นใจให้นายหัวบัญชาฟัง
“พวกนั้นจะเข้าประกวดราคาสร้างถนนเลียบหาดที่ตำบลหนองหญ้าปล้องแน่ๆ ครับ”
“หูตากว้างขวางดีมาก นายเด่น” บัญชาชม
“งั้น..ผมจะรีบเข้าไปหากำนันนวลก่อนเลย” บุรีอาสา
“วันเสาร์วันเกิดกำนันนวลพอดีครับ..นายหัวส่งกระเช้าไปก่อนก็ดี ผมจะยกไปเอง” นายเด่นว่า
“ชั้นไปเองดีกว่า นายเด่น เอาหน้าชั้นไปเสนอหน้า กำนันก็ต้องนึกถึงนายหัวแล้ว”
ดวงตาของบัญชาฉายแวววาววับเหมือนมีแผนบางอย่าง “บุรีไม่ต้อง..งานนี้ ให้จ้างไป”
“อีกแล้วหรือครับ..แล้วใครจะไปรู้จักมัน ว่าเป็นใคร” บุรีหงุดหงิด
“นายเด่นพาจ้างไป..กำนันนวลเป็นคนมีอิทธิพลไม่น้อย คนสำคัญต้องไปกันเพียบ ทั้งเสือสิงห์กระทิงแรด นี่แหละ จะเป็นงานเปิดตัวจ้าง..ที่คู่ควรและเนียนๆ ที่สุด”
บุรีอึ้งกับแผนของพี่ชาย


เกียรติบดินทร์เดินงุ่นง่าน เป็นเสือติดจั่น เดินวนไปมา ในท่าทีร้อนรน
“ไม่ได้นะ อาบุรี มันชักจะมากเกินไปแล้ว” เกียรติบดินทร์โวยวาย
“มันมาแรงจริงๆ แล้วนะ ไอ้จ้างคนนี้ อย่าว่าแต่น้องดินเลย อาก็ตกกระป๋อง” บุรีเยาะ
“นายหัวหน้ามืดตามัวอะไร ผมไม่เข้าใจเลย”
“นายหัวเค้ารักหลงแม่น้องดินมาก แม่น้องดินรักใคร เค้าก็อยากจะเอาใจน่ะสิ จะมีอะไร” บุรีว่า
“เราต้องร่วมมือกันสิ อาบุรี เราสองคนต้องช่วยกัน ถ้าผมเอาความไว้วางใจคืนมาจากนายหัวได้ ผมรับรอง..ว่าต่อไปนี้ ผมจะอยู่ข้างอาบุรีทุกเรื่อง” เกียรติบดินทร์บอก
“น้องดิน..” บุรีคิดอะไรได้ “เอางี้..เรามาลองใช้ไม้อ่อนดู น้องดินชอบดื้อ ชอบก่อเรื่องให้นายหัวเค้าปวดหัวบ่อยๆ ถ้าน้องดินทำตัวใหม่ เราอาจมีความหวังนะ”
“ทำตัวใหม่ ก็คือทำเป็นคนดี เชื่องๆ เซื่องๆ ก็คือยอมไปเรียนเมืองนอก..มันมีแค่ทางเดียวเองนะ อาบุรี”
“เราต้องลอง..ขอให้น้องดินอย่าเยอะ..หัดนิ่งๆ เงียบๆ ยอมๆ คนบ้าง น้องดินจะทำได้ไหมล่ะ”
เกียรติบดินทร์อึ้ง

ฟ้ากระจ่างขับรถมา โดยนายน้อมนั่งเคียงและจ้องดูมือตัวเองที่ได้รับการพันใหม่
ฟ้ากระจ่างเหลือบตาดู “ค่อยยังชั่ว เอ็นอักเสบ..นึกว่าอะไรหักซะแล้ว แต่นายน้อมต้องหมั่นกินยา ทายา แล้วก็เลิกใช้มือข้างนี้ไปสักพักล่ะ ถ้าอยากหายเร็วๆ น่ะ”
นายน้อมมองอย่างซึ้งใจ “คุณเป็นคนมีน้ำใจมาก”
“นายน้อม..ก็เหมือน..ป๊า เหมือนกู๋ เหมือนอาจารย์ผม..ที่ศาลเจ้านั่นแหละ” ฟ้ากระจ่างยิ้ม สีหน้าฉายแววอ่อนโยนนิดหนึ่ง “เป็นคนวัยเดียวกัน”
นายน้อมมองจ้อง “คุณคงคิดถึงบ้านมากสิครับ”
ฟ้ากระจ่างยิ้มให้ “ไม่เท่าไหร่หรอก” จอดรถลงที่หน้าบ้าน “ผมส่งนายน้อมตรงนี้นะ นายน้อมเข้าบ้านไปก่อน”
“แล้วคุณจะไปไหน” นายน้อมสงสัย
“ผม..จะไปขับรถเล่นหน่อยนึง”
“จะดีเหรอ”
“อ้าว..ก็ดีสิ คนเพิ่งได้รถใหม่ ก็อยากจะลองรถบ้างอะไรบ้าง”
“คุณจะไปซิ่งเหรอ”
“ผมขับรถกู้ชีพมาก่อนนะ เรื่องซิ่งนะ ชัวร์”
“เย้ย..อย่านะ” นายน้อมตกใจ
“ผมพูดเล่น น่า ผมอยากลองรถนิดนึง..นะครับ จะรีบกลับมา..ให้ทันรับประทานอาหารเย็น โอเค้?”
ฟ้ากระจ่างยิ้มให้ นายน้อมอึ้งๆ


เย็นเกือบค่ำแล้ว ฟ้ากระจ่างขับรถมา แล้วจอดซุ่มที่ใต้ต้นไม้ข้างไซด์งาน ห่างออกมาจากคอนเทนเน่อร์ที่เป็นที่ทำงานดวงยิหวาพอสมควร
ฟ้ากระจ่างนั่งอยู่ในรถมองไปที่ช่องหน้าต่าง และประตูตู้คอนเทนเน่อร์ เห็นยังเปิดไฟสว่าง ฟ้ากระจ่างนั่งเกาะพวงมาลัย มองอยู่ คิดหนัก ว่าจะเอายังไงดี และไม่แน่ใจ ว่าดวงยิหวายังอยู่หรือเปล่า
สักพักหนึ่ง ประตูเปิดออก มีคนงาน 4-5 คน เดินออกมา พูดคุย หัวเราะๆ กัน
ฟ้ากระจ่างมองไม่วางตา อาการลุ้นๆ
สักครู่ต่อมา ประตูเปิดออกมาอีก มีเงาใครคนหนึ่งเดินออกมาที่ประตู ยืนขวางทางแสงไฟ จึงมองไม่เห็นหน้าตา ใครคนนั้นปิดไฟ แสงที่ประตู หน้าต่างดับมืดลง แล้วเดินออกมา พ้นกรอบประตู มาสู่แสงไฟจากด้านนอก จึงเห็นหน้าว่าเป็นดวงยิหวา
ฟ้ากระจ่างอึ้ง ตะลึงนิ่งไป
ดวงยิหวาปิดประตูคอนเทนเน่อร์ ล็อคกุญแจอีกชั้น จากนั้นหันเดินมาทางถนน
ดวงยิหวาเดินมาพลางเขย่าพวกกุญแจแกว่งไปมาอย่างไม่มีความหมายอะไร ดูเลื่อนลอย เหมือนตกในภวังค์ ใกล้เข้ามาที่บริเวณฟ้ากระจ่างจอดรถทุกทีๆ
ฟ้ากระจ่างตัดสินใจ เปิดประตู ก้าวลงไปหา ดวงยิหวาเห็นว่าเป็นใคร สะดุ้ง ถึงกับยืนอึ้ง ฟ้ากระจ่างเองก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน
“ดวงยิหวา..” ฟ้ากระจ่างเรียกเต็มยศ
“พี่..เอ๊ย..คุณ..จ้าง” ดวงยิหวาพูดตะกุกตะกัก
“ผม..นึกไม่ถึงเลย ว่าจะได้เจอดวง..วันนั้น..แบบนั้น” ฟ้ากระจ่างว่า
ดวงยิหวาพยายามรวบรวมสติ ตั้งตัว ยิ้ม “ดวงก็นึกไม่ถึงเหมือนกัน..ว่า ที่แท้พี่จ้าง จะเป็น..คุณจ้าง แบบนี้”
ดวงยิหวาจดสายตามองฟ้ากระจ่างในรูปโฉมใหม่ แล้วมองไปที่รถ
ฟ้ากระจ่างมองตามสายตาดวงยิหวาแล้วเอ่ยขึ้น
“ผม..พยายามโทหาดวง อยากคุยกะดวง อยากบอกเรื่องทุกอย่างกับดวง..แต่ก็..ดวงไม่รับสายนี่ครับ”
“ดวงพยายามโทกลับพี่หลายครั้งมาก..แต่ติดต่อไม่ได้”
“มันมีเหตุขัดข้อง..นิดหน่อย” ฟ้ากระจ่างไม่พูดอธิบายอะไรมาก
“นั่นสิคะ จากอาจ้าง มาเป็น..คุณฟ้ากระจ่าง..ลูกคนโตของบ้านนี้ พี่จ้างคงต้องเปลี่ยนทุกอย่างใหม่หมด..จะได้เป็นคนใหม่จริงๆ”

“ผมไม่ได้เป็นคนใหม่” ฟ้ากระจ่างบอกเสียงจริงจัง
ดวงยิหวามองหัวจรดเท้า น้ำเสียงเยาะ “เหรอ..คะ?”
“ดวงสิ ไม่เห็นเคยเล่าให้พี่ฟังเลย..เรื่อง คุณเกียรติบดินทร์”
ดวงยิหวาอึ้งไป “มันไม่มีอะไร..ที่ต้องเล่าแม้แต่น้อยนี่คะ”
ฟ้ากระจ่างหน้าเยาะๆ “งั้นเหรอ?”
“ใช่” ดวงยิหวาเชิดตอบบ้าง “ทำไมดวงต้องเล่า ให้..พี่..คุณจ้างฟังด้วยล่ะ”
ฟ้ากระจ่างเริ่มกวนใส่ “ต้องสิ อย่างน้อย เวลานี้ ผมก็อุตส่าห์มาตามตัวเค้าถึงที่นี่..แต่ถ้าเค้าไม่อยู่ ก็ฝากให้คุณช่วย..ไปบอกให้เค้ากลับบ้านซะที ทุกคนเป็นห่วง”
ดวงยิหวามองจ้องหน้า แววตาตัดพ้อ “คุณดินเค้าจะกลับหรือไม่กลับ ก็ช่างเค้าสิ”
ฟ้ากระจ่างยิ้มเยือกเย็นประชดอยู่ในที “ก็คนรักกัน..สนิทกัน ก็ควรชักนำกันไปในทางที่ถูกที่ควร”
“ดวงกับคุณเกียรติบดินทร์จะอะไรยังไง..ก็ไม่ใช่กิจของชาวบ้าน”
“ผมไม่ใช่ชาวบ้าน ผมเป็นพี่ชายเค้า”
ดวงยิหวามองหน้าฟ้ากระจ่าง สักพักหนึ่ง หัวเราะแค่นๆออกมา
“ปรับตัวเร็วจัง..ไม่รู้เลย ว่าคุณจะเป็นคนที่แสดงบทบาทต่างๆ ได้ดีขนาดนี้ เคยนึกว่า..คุณเป็นคนตลกๆ..ขี้อายๆ บ้านๆ เสียอีก”
“ผมก็เป็นผม ผมไม่ได้แสดงบทบาท รู้สึกอะไร ก็ทำไปตามที่รู้สึก” ฟ้ากระจ่างบอกย้ำ
ดวงยิหวาส่ายหน้าไม่ยอมรับรู้ “การที่โลกกลม มันไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป เพราะบางที มันทำให้เราได้เข้าใจ..ว่าคนบางคน..ที่เรานึกว่าเรารู้จักเค้าแล้ว..ที่แท้..เราไม่เคยได้รู้จักเค้าซะหน่อย”
ฟ้ากระจ่างได้ฟัง ทั้งเสียใจ และรู้สึกผิดหวัง
“นั่นสิ บางที ภาพแรกๆที่เราเห็น มันไม่ใช่ภาพจริงเลย..เราเห็นแค่นิดๆ หน่อยๆ แล้วเราก็ไปต่อเติม เสริมแต่ง ปะติดปะต่อเอาเอง ให้เป็นภาพที่เราชอบ แต่ที่จริง..ความจริงมันไม่ใช่”
“นี่..คุณมาที่นี่เพื่อมาตามคุณดินเท่านั้นใช่ไหม” ดวงยิหวาถามขึ้น
“จริงๆ ผมก็มาเพื่อ..ธุระอื่นด้วย แต่ว่า..ช่างมันเถอะ..ไม่เป็นไร มันไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว”
“ดีค่ะ ถ้า..คุณไม่มีธุระอะไร.. ดิฉันก็ขอตัว..” ดวงยิหวาไหว้แบบจงใจ ด้วยท่าทีนอบน้อมเกินเหตุ แล้วเดินข้ามถนนไปที่ขึ้นรถกระบะ ขับออกไปอย่างเร็ว
ฟ้ากระจ่างมองตาม อึ้ง ใบหน้านิ่งงัน คนงานเดินผ่านไปมา มองอย่างสนใจ ฟ้ากระจ่างรีบเปิดประตูก้าวขึ้นรถ นั่งลงมองไปที่นั่งข้างๆ คนขับ หนังสือการ์ตูนโดราเอม่อนเล่มใหม่ๆ เป็นตั้งใหญ่ วางกองอยู่

ฟ้ากระจ่างหันมามอง แล้วจับโยนไปข้างหลัง แล้วนั่งนิ่ง ผิดหวังกับตัวเอง ที่ไม่รู้ว่าทำถูกทำผิด หรือควรทำอะไรกันแน่

นายเด่นกำลังจัดวางกับข้าวมือค่ำ บนโต๊ะอาหาร ดวงยิหวาล้างมือที่อ่างล้างจานในห้องเตรียมอาหาร แล้วหยิบผ้ามาเช็ดๆ มือ สีหน้าขรึมเศร้า แล้วหันไป หยิบจาน ช้อนส้อม 2 ที่ เดินมาช่วยตั้งโต๊ะ
นายเด่นถามลูกสาวขึ้นมาลอยๆ
“ดวงคงได้ยินเรื่อง..ลูกชายคนโตของนายหัว ที่จะมาช่วยนายหัวดูแลกิจการแล้วใช่ไหม”
ดวงยิหวาสะดุ้ง จนจานหลุดมือ กระแทกกับโต๊ะ ตรงที่จะวางพอดี
“คะ?..ค่ะ ได้ยินแล้วค่ะ พ่อ”
“นี่แหละ สาเหตุที่คุณดินมาอาละวาดๆอยู่ทุกวันนี้ไง...” นายเด่นส่ายหัว “ตัวเองมีแต่ก่อเรื่อง สร้างศัตรู จนทำให้พ่อตัวเองเป็นแบบนี้ แล้วพอพ่อเค้าหาคนมาช่วย ก็ยังจะสร้างปัญหาอีก”
“ก็.. มันก็แปลกนะคะ พ่อ ที่อยู่ๆ คุณ..พี่ชายคนโตนี่ก็โผล่มา..จากไหนก็ไม่รู้”
“ดวงคิดว่าไง ดวงไม่เชื่อเหรอ”
“ดวง..ไม่ทราบ”
“นายหัวตามสืบเรื่อง..เด็กคนนี้มาพักนึงแล้ว ที่นายหัวพยายามบอกใครๆ ว่า รู้เรื่องเด็กคนนี้มาตลอด แล้วตัวเองก็ช่วยส่งเสียน่ะ ไม่ใช่นะ นายหัวเพิ่งรู้เรื่องนี้มาไม่กี่เดือน แล้วก็จ้างคนไปตามดู สุดท้าย..ตัวเองก็แอบไปหาเด็กเอง แล้วยังไงก็ไม่รู้..พอดี ก็มาโดนยิงซะ” นายเด่นเล่า
“จริงเหรอคะ” ดวงยิหวาประหลาดใจ
“อย่าไปบอกใครนะ เรื่องส่วนตัวของนาย..เราเป็นลูกน้อง นี่พ่อเล่า เพราะเห็นดวงไว้ใจได้ นายหัวปิดเรื่องนี้เป็นความลับ นายบุรีก็ไม่รู้ นายหญิงก็คงเพิ่งรู้ แต่พ่อรู้เพราะพ่อเห็นหลักฐานที่นายหัวโอนเงินให้นักสืบ แล้วก็..ที่นายหัวเคยหายไปหลายวัน..ไม่บอกใคร พ่อก็เห็นบิลค่าใช้จ่าย..บัตรเครดิต ที่จังหวัดลำพูน..มันจังหวัดเดียวกับที่..เด็กคนนั้นอยู่ พ่อก็เดาๆ เอา แต่ไม่พลาดแน่” นายเด่นเล่ารายละเอียดที่รู้มาเสริม
“เค้า..เป็นลูกใคร..จริงๆ หรือคะ”
“นายหัวบอกว่าเป็นลูกนายหัวนี่”
“พ่อเคย..เจอเค้าหรือยังคะ”
“ยัง แต่พ่อต้องพาเค้าไปงานกำนันนวลวันเสาร์ ดวงก็ต้องไปด้วยนะ”
ดวงยิหวาฟังแล้วสะดุ้ง “ไม่นะคะ”
“อะไรนะ” นายเด่นสงสัยในท่าทีของลูกสาว “ทำไม”
“ไม่..ไม่มีอะไรค่ะ ดวง..ขี้เกียจไปงาน กะว่า..วันเสาร์..อยากนัดเพื่อนไปเที่ยวเกาะ”
“ไปเที่ยวเกาะ..ไปเมื่อไหร่ก็ได้ มาธุระกะพ่อก่อน งานนี้งานสำคัญ..เท่ากับเป็นการเปิดตัวคุณจ้างให้ทุกคนรู้จัก ดวงต้องไปช่วยพ่อ..แล้วก็ช่วยแนะนำคุณจ้างให้คนที่ดวงมีคอนเน็คชั่นทั้งหลายได้รู้จักด้วย ทำให้ทุกคนเชื่อให้ได้ ว่านี่คือลูกชายคนโตของนายหัวจริงๆ”

ได้ยินว่าตัวเองต้องไปช่วยสร้างภาพให้ ฟ้ากระจ่าง...อาจ้าง...พี่จ้าง จากพ่อ ดวงยิหวาอึ้ง เหวอไปในทันที

อ่านต่อหน้า 2




 ลิขิตฟ้าชะตาดิน  ตอนที่  9 (ต่อ) 

รุ่งเช้าวันต่อมา เกียรติบดินทร์ซึ่งอยู่ในเสื้อผ้าชุดเดิม ในวันที่ขับรถจนเกือบชนฟ้ากระจ่าง กำลังกราบที่เท้าบัญชา ที่ยังนั่งกึ่งนอนเอนๆ อยู่บนเตียงในห้อง เกียรติบดินทร์เงยหน้าขึ้นมาในสภาพน้ำตาคลอหน่วย พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังมากกว่าครั้งไหนๆ ในชีวิต

“ดินไม่เคยกราบขอโทษนายหัวสักครั้ง กับความผิดรุนแรงที่สุด ที่ดินทำลงไป...ความใจ
ร้อนที่ดินให้คนไปทำร้ายศัตรูถึงตาย คือต้นเหตุ ที่ทำให้นายหัวต้องมาเป็นแบบนี้”
“เกียรติบดินทร์” น้ำเสียงในท่าทีอึ้งของบัญชาแฝงด้วยความสะเทือนใจ
“ถ้ามันจะทำให้นายหัวโกรธเกลียดดิน ถึงขั้นจะเนรเทศดินไปให้พ้นๆ ดินก็เข้าใจครับ”
บุรีเองก็อึ้ง มองอย่างทึ่งสุดขีดในแอ็คติ้งมารยาของเกียรติบดินทร์
บัญชา อึ้งอยู่นาน แล้วจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ
“ถ้าความสำนึกผิดทำให้ดินต้องเป็นทุกข์มาก พ่อก็อยากจะบอกดินว่า ทั้งหมด คนผิดที่
แท้จริง..ไม่ใช่ลูก..แต่เป็น..พวกมัน” บัญชาเน้นเสียงตรงคำว่า..พวกมัน อย่างจงใจ “และพวกมัน จะต้องชดใช้
“นายหัวจะทำอะไรครับ” เกียรติบดินทร์สงสัย
“พ่อกำลังเตรียมการณ์ทั้งหมดอยู่แล้ว ขอให้ดินอย่าเก็บไปคิดอีก รีบไปเรียน ทำทุกอย่าง
ตามที่พ่อวางแผนไว้ให้”
“แล้วดินจะทิ้งนายหัวไปได้ไงครับ เกิดนายหัวเป็นอะไรไป เกิดมีปัญหาขึ้นมา ดินต้องการ
ที่จะอยู่เคียงข้างนายหัวในเวลานั้น” เกียรติบดินทร์ครวญคร่ำ
“ไม่ได้ ดิน..ดินต้องไป ไปเรียน..ให้จบ อยู่ให้สบาย ปลอดภัยที่สุด” บัญชายืนยัน
“ขอดินเรียนอยู่ที่นี่ไม่ได้หรือครับ” เกียรติบดินทร์ยังขอต่อรอง
“ไม่ได้” บัญชาเสียงกร้าว
“นายหัวจะไว้ใจคนอื่นมากกว่าลูกตัวเองได้ไง ว่าเค้าจะซื่อสัตย์ต่อนายหัวจริงๆ ถ้ามีอะไร
คับขัน ไม่มีใครตายแทนนายหัวได้ แต่ดินตายแทนได้” เกียรติบดินทร์เล่นบทลูกแสนดีต่อ
“พ่อ..ไม่อยากให้ดินต้องมาเสี่ยง”
เกียรติบดินทร์งัดไม้ตาย ยกมือพนมไหว้บัญชา
“ดินขอสัญญา ว่าจะทำทุกอย่าง ตามคำสั่งนายหัว จะอยู่ในโอวาทย์นายหัวจริงๆ ดินจะไม่
ดื้อ จะไม่หาเรื่องใส่ตัว ขอให้ดินได้อยู่บ้านนี้ ใกล้ๆนายหัว สงสารดินนะครับ ดินไปจากนายหัวไม่ได้จริงๆครับ”
เกียรติบดินทร์จัดเต็ม เสริมด้วยออพชั่นบีบน้ำตาไหลหยดอาบใบหน้า
บัญชาอึ้ง ในขณะที่บุรีลุ้นตัวโก่ง


เวลาเดียวกันฟ้ากระจ่าง อาบน้ำเรียบร้อย อยู่ในชุดลำลองที่ดูดี เปิดประตูออกมาจากห้องนอน เกียรติบดินทร์ เดินขึ้นบันไดมาจ๊ะเอ๋กันพอดี ต่างคนต่างมองหยั่งเชิงกัน
เกียรติบดินทร์ยิ้มหยัน มองหัวจรดเท้า
“นายนี่มัน..เหมาะกับบ้านหลังนี้มากขึ้นทุกวัน ปรับตัวเก่งจริงๆ”
จ้าง“คุณไปค้างที่ไหนมา นายหญิงเป็นห่วงมาก”
เกียรติบดินทร์หัวเราะเยาะ “เป็นห่วง! แหม..ขอบใจนะ ได้ยินแล้วรู้สึกดีขึ้นเยอะ”
“ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะครับ นายหญิงจะโทร.ตามคุณ..ก็ไม่กล้า กลัวว่าคุณจะยิ่งหงุดหงิด”
“นายนี่เป็นคนดีจริงนะ กับคนอื่นน่ะ ทำดีไปเถอะ ไม่ต้องมาดีกะชั้น เหนื่อยเปล่า”
“คุณดิน ถ้าคุณเกลียดผมมากนัก ก็มีทางเดียว ที่คุณต้องทำ”
“อะไร” เกียรติบดินทร์ถาม
“รีบไปเรียน แล้วก็รีบๆจบ รับรองว่า คุณเรียนสำเร็จกลับมา ผมไปแน่”
คราวนี้เกียรติบดินทร์ระเบิดเสียงหัวเราะใส่หน้า
“เสียใจด้วยนะ ความหวังนายพังซะแล้ว ฮ่าๆๆๆ” ว่าแล้วเดินลอยชายไปหน้าห้องดารากานต์ แล้วหันมาทำหน้าบอกให้ฟ้ากระจ่างคอยดู ว่าตนสามารถทำได้ขนาดไหน แล้วทำเสียงเรียกอ้อนๆ เจื้อยแจ้ว “นายหญิงคร้าบ..นายหญิง..แม่คร้าบ น้องดินกลับมาแล้วคร้าบ” หันมายักคิ้วยั่วฟ้ากระจ่างงง

ดารากานต์กับป้าบัว เปิดห้องออกมา
“น้องดิน..น้องดินไปไหนมา หายไปตั้งหลายวัน..หือ..ลูก”
เกียรติบดินทร์ไม่ตอบเข้าไปกราบอกแม่ “แม่ครับ..น้องดินขอโทษ” กอดแม่ แล้วหอมฟอดซ้ายขวาแบบฝรั่งๆ “น้องดินผิดไปแล้ว ต่อไปนี้ น้องดินจะไม่ทำอีกแล้วครับ”
ฟ้ากระจ่างยืนมองอยู่อีกมุมหนึ่ง ทำตาปริบๆ
ดารากานต์งงไปหมด จับตัวเกียรติบดินทร์ออกห่าง เพื่อมองหน้าตาให้ถนัด ลูบหน้า ลูบผม
“น้องดิน น้องดินเป็นอะไรหรือเปล่า ไม่สบายหรือลูก”
“ดินสำนึกผิดแล้วครับ..ดินคิดได้แล้ว ว่าที่ผ่านมา..ดินมันแย่มากๆ อ่ะครับ”
ฟ้ากระจ่างถอนหายใจเฮือกใหญ่ งุนงงกับการกระทำแปลกๆ ของคนบ้านนี้
“ดินได้ไปอยู่เงียบๆคนเดียวมาพักนึง..อยู่กับตัวเอง..แล้วก็พยายามคิดทบทวน ตั้งสติ ดินถึงเข้าใจ ว่าดินคือคนผิดจริงๆ”
ดารากานต์ดีใจ รู้สึกตื้นตันขึ้นมา
“น้องดิน..น้องดินไม่ได้ผิดหรอกนะลูก..น้องดินเป็นเด็ก รู้เท่าไม่ถึงการณ์ตังหาก”
“น้องดินเอาแต่ใจตัวเอง น้องดินไม่เคยฟังใครเลย ผมรู้ตัวเองดีนะครับ”
“โถๆๆ น้องดิน..ป้าบัวได้ยินน้องดินพูดแบบนี้ ป้าบัวก็ดีใจที่สุดแล้วล่ะค่ะ ไม่เป็นไรนะคะ ที่แล้วมาก็ให้มันแล้วไป เรามาตั้งต้นกันใหม่นะคะ” ป้าบัวช่วยปลอบ
จังหวะนั้นเกียรติบดินทร์แอบทำหน้าแหวะ กับคำพูดป้าบัว โดยจงใจ ให้ฟ้ากระจ่างเห็นหน้าตน แล้วก็หันไปตอบแบบดัดจริตสุดๆ
“ขอบคุณครับ ป้าบัว ป้าบัวใจดีแล้วก็รักน้องดิน เข้าใจน้องดินตลอดเลย”
ป้าบัวซาบซึ้งน้ำตาเล็ดด้วยความตื้นตันใจ
“โธ่ ทำไมป้าบัวจะไม่เข้าใจน้องดิน..ก็ป้าบัวเลี้ยงมากะมือตัวเองนี่คะ”
“แล้วน้องดินไปค้างที่ไหนมา ทำไมดูผอมดำจังเลย แล้วนี่กินอะไรมาหรือยัง หิวไหม อยาก
กินอะไรครับ” ดารากานต์ถามเป็นชุด
“อะไรก็ได้ครับ ที่แม่ทำ..ดินไปค้างบ้านเพื่อน กินอะไรไม่ลงเลย อะไรก็ไม่อร่อยเหมือนข้าว
บ้านเราครับ” เกียรติบดินทร์หวานสุดลิ่ม
“งั้น..ป้าบัวรีบไปทำของโปรดคุณดินดีกว่า คุณดินรีบอาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้านะคะ
จะได้กินข้าวให้อร่อยๆเลย นะคะ” ป้าบัวเข้ามาหยิกแก้ม แล้วรีบแจ้นไป
ดารากานต์ดึงเกียรติบดินทร์เข้ามากอด ลูบหัวเบาๆ
“ผมก็ชักยาวๆแล้วนะลูก..แล้วไปหานายหัวหรือยัง นายหัวว่าอะไรหรือเปล่า อย่า
ดื้ออย่าเถียงพ่อนะลูกนะ..ทุกคนรักดิน หวังดีกะดินกันทั้งนั้นนะลูก”

“ดินทราบค้าบบ...” จับมือแม่มา หอมฟอดๆ แล้วแอบปรายตา ทำหน้าเยาะหยัน
ทุกสิ่ง
ฟ้ากระจ่างถดตัวถอยห่าง แล้วแอบออกมาให้พ้นสายตาเกียรติบดินทร์ รู้สึกอนาถใจปนฉงน

บ้านกำนันนวล เป็นตึกหรูหรา เหมือนบ้านคนรวยชนบททั่วไป ช่วงเที่ยงวันนั้นคณะจัดงานเลี้ยงแบบโต๊ะจีน กำลังลงโต๊ะ เก้าอี้ จัดแต่งประดับบริเวณงานอย่างคึกคัก พรึ่บพรั่บ แข่งกับเวลาเพื่อให้ทันงานตอนค่ำ บนเวทีกลางลาน มีตัวหนังสือเขียนกำกับหราว่า
“HAPPY BIRTHDAY กำนันนวล 53 ปี พี่มีแต่ให้”
ชิงชัยกำลังชี้สั่งคนที่กำลังปีนประดับไฟกระพริบบนต้นไม้ต่างๆ
มาดามพิณ ชิงชัย เดินมากับกำนันนวลและภรรยา
“แหม มาดามครับ ไม่น่ายุ่งยากเลย น้องชิงชัยถึงกับลงมาจัดสถานที่ให้ด้วยตัวเองเลย
เกรงใจจริงๆ” กำนันว่า
“นั่นสิคะ ปีก่อนๆเราก็จัดแบบบ้านๆกัน โอ้โห นี่มาดามสั่งโต๊ะจีนอย่างหรูมาเลย”
“โต๊ะจีนนี่..เป็นอภินันทนาการจากมิสเตอร์ปีเตอร์น่ะครับ ปีเตอร์เค้าซาบซึ้งในน้ำใจของ
กำนันม้ากมาก..เค้าก็เลยอยากจะตอบแทนบ้าง” มาดามพิณชงให้ปีเตอร์
“แหม..ผมก็ไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย” กำนันบอก
ชิงชัยเดินเข้ามา
“เรารักกำนันนี่ครับ วันเกิดกำนันทั้งที เราก็อยากจะแสดงออกถึงความในใจของพวกเรา
นิดนึงอ่ะครับ”
ลูกสาวกำนัน 2 คน ยกน้ำ กับขนมออกมา
“มาดามขา พี่ชิงขา..คุณพ่อคุณแม่ขา..ดื่มน้ำหวานแก้ร้อนกันก่อนนะคะ” อีกคนเสริมทันที
“พี่ชิงขา เห็นพี่ชิงบ่นอยากรับประทานผลไม้ นี่ค่ะ เงาะ..น้องคว้านเองเลยนะคะ พักเหนื่อย รับทานก่อนนะคะ จะได้ชื่นใจค่ะ”
“อ้ะ เชิญๆๆ มานั่งพัก ทานอะไรกันก่อน” กำนันนวลว่า
ทันใดนั้น ก็มีรถบรรทุกอีกคันหนึ่งเข้ามาจอด มีคนงาน 4-5 คน ขนอาหารทะเลเป็นเข่งๆๆ ชุดเตาปิ้งย่างขนกันลงมาต่อหน้า
“อุ๊ย อะไรกันอีกคะเนี่ย โต๊ะจีนก็แล้ว ยังมีอาหารทะเลอะไรอีกคะ” เมียกำนันพูดยิ้มๆ
หัวหน้าคณะปิ้ง ย่าง เดินเข้ามา ไหว้ทุกคน
หัวหน้า“กำนันครับ คุณนายครับ ..สวัสดีครับทุกคน จะให้พวกผมอยู่ตรงไหนดีครับ”
มาดาม“พวกเธอ..มาจากไหน ใครส่งมาหรือจ๊ะ” มาดามพิณถามยิ้มหวาน
หัวหน้า “อ๋อ..ผมร้านใหญ่ทุกอย่างทะเลเผาครับ นายหัวบัญชาจัดมาครับผม..อ่อ มีครัวโต๊ะจีนอยู่
ตรงนั้น งั้น..ผมตั้งมุมทะเลเผาตรงนี้..ดีไหมครับ จะได้แยกเป็นสัดส่วน”
“นายหัวบัญชาเหรอ!!..โอ้โห..อะไรกันนี่ นายหัวบัญชาไม่สบาย ท่านยังอุตส่าห์นึกถึงเรา..น่ารักจริงๆๆ เอ้อ เชิญทางนี้ๆ..มีที่ตั้งเตาตั้งอะไรได้ มาๆๆ” กำนันเดินนำ
“นายหัวบัญชา...” ชิงชัยมองหน้าแม่
มาดามพิณหน้าตาซีดๆ “มันท้าชนกับเราแล้ว..ชิงชัย”
สองแม่ลูกมองหน้ากัน เครียด


ช่วงหัวค่ำนั้นเอง บัญชาอึ้งไป เมื่อเห็นเกียรติบดินทร์ใส่สูทเท่เฟี้ยวยืนอยู่ตรงหน้า
“ดินเอาความคิดอะไร..มาทำให้อยากจะไปงานนี้นัก” บัญชาถามขึ้นน้ำเสียงไม่พอใจนัก
“พ่อครับ ดินไม่ได้จะไปหาเรื่องใครนะครับ ดินรับรอง ว่าดินจะสงบปาก สงบคำที่สุด จะเดินตามพี่จ้างไปเงียบๆ ความคิดของดินก็คือ..ดินจะไปงานนี้..เพื่อเสริมบารมีพี่จ้างไงครับ ไม่อย่างนั้น พ่อนึกหรือครับ ว่าคนจะเชื่อว่า..พี่จ้าง..เป็นลูกคนโตของพ่อจริงๆ” เกียรติบดินทร์ว่า
บุรีรีบเสริมขึ้นมาทันทีนายหัว
“ผมว่า..น้องดินคิดถูกนะครับ ดูสิครับ ว่าน้องดินฉลาดออกจะตาย น้องดินเข้าใจแผนของนายหัวทุกอย่าง”
บัญชา ผงะรู้สึกประหลาดใจ “เข้าใจ เข้าใจว่ายังไง
“ก็เข้าใจว่า..นายหัวอยากปกป้องดิน..จากคดีเก่าๆ ทั้งหมด และจะพยายามปั้นพี่จ้าง..ให้มาทำงานแทนนายหัว..เพราะนายหัวคิดว่า..พี่จ้างเก่งพอที่จะรับมือกะไอ้พวกนั้นได้ ไม่เหมือนดิน ..ที่อ่อนหัด”
“พ่อไม่ได้ว่าดินอ่อนหัด”
“ดินก็อ่อนหัดจริงๆนั่นแหละครับ พี่จ้างเค้าดูสุขุมเยือกเย็นกว่าดิน ดินเข้าใจ ดินจะปรับปรุงตัว ดินจะยืนอยู่ข้างหลัง..คอยทำหน้าที่เป็นน้องชายที่ดีของพี่จ้างไงครับ”
ดารากานต์เดินเข้ามา ทันได้ยินประโยคหลังพอดี ก็รู้สึกดีใจ
“แต่บุรี..ไม่ควรไปนะ งานนี้” บัญชาเอ่ยขึ้น
“ผมเข้าใจน่า นายหัว ปล่อยให้นายเด่นเค้าเล่นบทบาทประสานสิบทิศไปน่ะ ถูกแล้ว ผมรู้
ว่าถ้าพวกนั้นเห็นหน้าผม มันอาจระวังตัวเกร็งเครียดกันขึ้นมาก็ได้”
ดารากานต์อยากรู้ขึ้นมาทันที “พวกนั้น..พวกไหนคะ”
“ก็..พวกคู่แข่งเราน่ะจ้ะ ดารากานต์ ไม่มีอะไร เอ้า ออกไปกันได้แล้ว พ่อขอเอนหลังซัก
หน่อย” บัญชาบอก
บุรี กับเกียรติบดินทร์ สบตากัน แล้วเดินออกไปจากห้อง
ดารากานต์มองตามไปสักพัก ยิ้มดี๊ด๊า อย่างดีใจ
“คุณว่าไหมคะ จ้างอาจจะเป็นส่วนนึง ที่ทำให้น้องดินมีความพยายามที่จะปรับปรุงตัว
ใหม่ขึ้นมาบ้างก็ได้”
ในหัวบัญชาครุ่นคิดบางอย่าง “ผมก็หวังอย่างนั้น”

“ขอให้น้องดินเป็นเด็กดีจริงๆซะทีเถอะ ฉันไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว ขอแค่ให้เรามี
ครอบครัวที่พร้อมหน้าพร้อมตา พี่น้องรักกัน แล้วก็...” ดารากานต์จับข้อเท้าบัญชาบีบขยำ นวด
เบาๆ “แล้วก็ขอให้นายหัวหายวันหายคืน ขอให้เกิดปาฏิหาริย์ ให้นายหัวกลับมาเหมือนเดิม..ฉัน
สวดมนตร์แบบนี้ทุกวันๆ ขอแค่นี้ แล้วจะไม่ขออะไรอีกแล้วจริงๆ ค่ะ”
ดารากานต์ยิ้มอย่างอ่อนโยนให้บัญชา ลูบขาบีบนวดเบาๆ
บัญชากลับรู้สึกเศร้า เสเมินก้มหน้า “..อือ คอแห้งจัง ขอชาหน่อยซิ”
“ได้ค่ะ สักครู่นะคะ” ดารากานต์มีสีหน้าระรื่น กระตือรือร้น รีบหันไป กุลีกุจอรินชาให้สามี
อย่างเป็นสุข บัญชามองตาม เพ่งมองจ้องดูดารากานต์ ที่กำลังรินชา แววตาช้ำใจผุดขึ้นมา


เวลาต่อมากำนันนวลยืนรับกระเช้ากล้วยไม้ไฮโซที่ดูหรูสุดจากมือปีเตอร์อย่างปลาบปลื้ม ปีเตอร์ ครอบครัวกำนันนวล พร้อมกับเทเรซ่า ยืนยิ้มในท่ารับ-ส่งกระเช้าค้างให้ทีมงาน 2-3 รายถ่ายไว้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ
“ขอให้มีความสุขมากๆ นะครับ กำนัน” ปีเตอร์อวยพร
“ขอบคุณคุณปีเตอร์มากครับ” กำนันยิ้มๆ
ลูกน้องกำนันมารับกระเช้าไปวางที่โต๊ะของขวัญ
“แฮปปี้เบิร์ธเดย์ค่ะ กำนัน” เทเรซ่าร่วมอวยพร
“เป็นเกียรติมากครับ คุณหนูเทเรซ่า”
วันนี้เทเรซ่าดูสวยสง่ามาก สวยราวกับดาราระดับนางเอก
“คุณหนูเป็นไงบ้างคะ ได้ข่าวว่า ทนอากาศร้อนไม่ค่อยจะได้” เมียกำนันนวลถามยิ้มแย้ม
ลูกสาวสองคนแอบหลังพ่อแม่ มองเทเรซ่าอย่างอิจฉา ต่อหน้ายิ้มหวานใส่ แต่ลับหลังซุบซิบนินทาทันที
“ดัดจริตล่ะไม่ว่า” แต่พอลูกสาวหันมาสบตาเทเรซ่า ยิ้มฉีกถึงหู “ตุ้มหูคุณเทเรซ่าสวยจังค่ะ”
ลูกคนที่สองอวยต่อ “ผมก็สวยค่ะ อยากทำทรงคุณหนูเทเรซ่ามั่งจังเลย” แอบกระซิบลับหลัง “ดูแต่งตัวเข้าสิ นึกว่าเป็นนางฟ้ารึไง”
มาดามพิณ กับชิงชัย เดินมาจากในงาน ทำตัวดุจเจ้าภาพร่วม
“เทเรซ่า สวยจังเลยครับ..ยังกับนางฟ้าแน่ะ” ชิงชัยหลีใส่ทันที
ลูกสาวกำนันสะดุ้ง มองหน้าชิงชัย แล้วมองหน้ากัน อยากจะกรี๊ด นอกจากนั้นชิงชัยเข้ามาดูแลเทเรซ่าใกล้ชิด “หิวหรือยังครับ”
“ยังค่ะ” เทเรซ่าบอก
“ระวังจะเป็นลมไปอีกนะครับ ทีหลังมีอะไรแล้วต้องรีบบอกพี่นะครับ อย่าทน..อย่าเกรงใจ”
“คุณปีเตอร์คะ เชิญทางนี้ค่ะ”
ปีเตอร์ เทเรซ่า ตามมาดามพิณและชิงชัย ไปที่โต๊ะกลุ่มไฮโซ ผู้หลักผู้ใหญ่ประจำจังหวัด
“ท่านผู้ว่าฯขา มาแล้วค่ะ มิสเตอร์ปีเตอร์ กับมิสเทเรซ่าลูกสาว คุณปีเตอร์คะ หนูเทเรซ่า ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดค่ะ” มาดามพิณแนะนำน้ำเสียงระรื่น
ทั้ง สองฝ่ายไหว้กันไปมา ผู้ว่าฯ รับไหว้ ทำท่าภูมิฐานหน่อย มองอย่างทึ่งในมาดเนี้ยบและการแต่งตัวที่ดูหรูไฮของปีเตอร์กับลูกสาว
“นี่..ท่านนายอำเภอค่ะ ท่านนายอำเภอคะ มิสเตอร์ปีเตอร์ คุณเทเรซ่าค่ะ” มาดามพิณเอาหน้าต่อ
สองฝ่ายต่างไหว้กันไปตามฟอร์ม นายอำเภอมองเทเรซ่าแววตาชื่นชมสุดๆ
“ท่านนายกอ.บ.ต.ครับ..คุณปีเตอร์ ท่านนายกฯ ครับ คุณปีเตอร์ กับลูกสาวครับ คุณเทเรซ่า”
ชิงชัยเป็นคนแนะนำแทนมารดา นายกอ.บ.ต. ลุกขึ้น ยื่นมือให้ปีเต้อร์จับ เขย่ามือแบบฝรั่ง
และจับมือกับเทเรซ่าด้วย
แขกพิเศษในโตะวีไอพีนี้ ยังมีฟ้าใส สกาย หรือ เสี้ยวท้อ ซึ่งเดินถือจานที่ใส่อาหารทะเล ปิ้งย่าง พร้อมน้ำจิ้ม อีก 2 ที่ ยิ้มหวานทำตัวร่าเริง ป๊อปสุดๆ เข้ามา
“ท่านนายกขา..ท่านผู้ว่าขา..มาแล้วค่า ทะเลเผา..กับน้ำจิ้มซีฟู้ดสุดแซบ (วางตรงหน้า มีใครอยากได้อีกไหมคะ เดี๋ยวฟ้าใสบริการเองค่า” หันไปเห็นหน้าปีเตอร์ ชะงัก “อุ๊ย..” รีบไหว้ “สวัสดีค่ะ ไม่ทราบ..ท่านผู้มีเกียรติท่านนี้…”
นายกอบต.รีบดึงแขนฟ้าใส แล้วโอบเอวโชว์ “คุณปีเตอร์กับลูกสาวจ้ะ” เน้นๆ เสียง “ลูกสาวคงมาคุมคุณพ่อแทนคุณแม่ไงล่ะ”
ฟ้าใสไหว้ชดช้อย อ่อนหวานจิกตาใส่ “สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” ฟ้าใสนั่งลง คลอเคลียกับนายกอบต. “ท่านนายกฯ ขา เดี๋ยวฟ้าใสแกะปูให้ดีกว่านะคะ ดูสิคะ ก้ามใย้ใหญ่ น่ากิ๊น น่ากิน ท่านผู้ว่าฯขา จะให้ฟ้าใสแกะให้หรือเปล่าคะ จะได้มือไม่เปื้อน รอสักครู่นะคะ ฟ้าใสจะแกะให้รอบวงเลย” ฟ้าใสใส่จริต ดูร่าเริง คล้ายๆ นกกระเต็นน้อย
เทเรซ่ามองอย่างทึ่งๆ หันมา ยิ้มให้กับผู้เป็นพ่อ ชิงชัยจับตามองดูฟ้าใส รู้สึกตื่นตาตื่นใจ
มาก มาดามพิณเห็นแอบหยิกลูก ฟ้าใสระริกระรี้ ทำตัวเด่นอยู่ในโต๊ะวีไอพี

เวลาเดียวกัน ฟ้ากระจ่างอยู่ในชุดสูทโก้ สีสะอาดตา เนี้ยบลุคตรงข้ามกับเกียรติบดินทร์ เดินลงมาจากชั้นบน หน้าตาครุ่นคิด หนักใจ เสียงเกียรติบดินทร์ดังขึ้น
“โอ้ว้าว..จุ๊ๆๆๆ ไม่ใช่ย่อยๆ”
ฟ้ากระจ่างหันไปเห็น เกียรติบดินทร์เดินมา เข้ามาดูรอบตัวจ้าง มองรอบๆ แล้วหัวเราะเบาๆ กวนๆ นายน้อมตามลงมาพอดี
เกียรติบดินทร์หันไปหานายน้อม
“นี่ฝีมือนายน้อมแต่งตัวให้พี่ชายผมหรือนี่..รู้สึกจะเลือกข้าวของก๊อปปี้นายหัวมาทุกอย่างเลยนะ ทั้งแบบ สี ยี่ห้อ เป็นแบบที่นายหัวใช้ประจำทั้งนั้น นี่คิดจะโคลนนิ่งพ่อผมบนสังขารของนายคนนี้ให้ได้เลยเหรอ”
“นายหัวเป็นคนสั่งครับผม ผมก็ทำตาม” นายน้อมบอก
“ไม่เลว ทำได้ดี ดูไปดูมาแล้ว น่าเชื่อเหมือนกัน..ว่าเค้าเป็นลูกชายนายหัวจริงๆ ดูท่าจะเหมือนนายหัวมากกว่าผมซะอีก” เกียรติบดินทร์ยักไหล่ “อย่างว่า..ผมมันลูกแม่ เค้ามันลูกพ่อ” เกียรติบดินทร์หัวเราะก๊าก หัวร่องอหาย
ฟ้ากระจ่าง อึ้ง พูดไม่ออก พอดี ดารากานต์เดินเข้ามา ยิ้มเยื้อนอย่างมีความสุข
“คุยอะไรกันจ๊ะ พี่น้อง ขำอะไรใหญ่เชียว น้องดิน จ้าง..” มองลูกทั้งสอง แล้วเกิดไอเดีย “โอ้
โห ไม่อยากเชื่อเลย นี่แม่มีลูกชายโตเป็นหนุ่มหล่อมากๆ ตั้ง 2 คนเลยเหรอเนี่ย..น่ารักมากๆ เลยลูก” ดารากานต์หยิบมือถือออกมา หันมา “เอ้า นายน้อม ถ่ายรูปให้ชั้นที” ดารากานต์รีบเข้าไปยืนตรงกลาง ควงแขนทั้งสองคน
เกียรติบดินทร์ทำท่ายิ้มเว่อร์ ขณะที่ฟ้ากระจ่างมองความเฟคของน้องชาย แล้วก็ถอนใจ แต่ก็พยายามยิ้มไป พอถ่ายเสร็จ จ้างถอยออกมา ดารากานต์เอามือถือจากนายน้อมมาดู
“โอเคจ้ะ นายน้อม ขอบใจนะ” หันมาเล็งลูกชาย “โอ้..ไม่ได้ๆๆ ลูกๆ เข้ามายืนใกล้ๆ กันหน่อยจ้ะ”
ฟ้ากระจ่างอึ้งนิดๆ แต่ก็ทำตาม ว่าง่าย หันมามองหน้าเกียรติบดินทร์
“ใกล้ๆ กันหรือครับ..นายหญิง ไม่พอมั้ง..พี่น้อง..รักกันๆ มันต้องแบบนี้”
เกียรติบดินทร์กอดคอฟ้ากระจ่าง ข่มลงนิดๆ ฉีกยิ้มแฮปปี้แฝงความรุนแรง
จังหวะนั้นฟ้ากระจ่างแอบลอบดูมือที่จงใจกดบ่าตนนิดๆ แล้วไม่อยากใส่ใจ เงยมา มองกล้อง แล้วยิ้มสดใสให้ ดารากานต์รัวกล้องมือถือไม่ยั้ง
“ดีจังเลย หล่อจังเลย เท่มากๆ หล่อกว่านายแบบหรือดาราอีกลูก...”
บุรีเดินออกมาจากห้องบัญชา มองขวางๆ แล้วกระแอมเบาๆ เรียกเสียงจิกๆ
“คุณชายฟ้ากระจ่างครับ..นายหัวขอพบ..ด่วน”
ฟ้ากระจ่างอึ้งๆ แล้วรีบไป เกียรติบดินทร์สบตาบุรีเป็นเชิงถาม ว่าอะไร บุรีแอบยักไหล่ เป็น
เชิงตอบ ว่าไม่รู้ ดารากานต์มัวกดดูรูปในกล้อง ดี๊ด๊าร่าเริง
ในขณะที่นายน้อม มองเกียรติบดินทร์กับบุรี ด้วยความรู้สึกทะแม่งๆ


บัญชามองฟ้ากระจ่าง ที่เข้ามายืนสงบเสงี่ยม เอี้ยมเฟี้ยมอยู่หน้าเตียง มองอย่างเพ่งพินิจ
แล้วยิ้ม
“งานวันนี้สำคัญมาก..ฉันมีภารกิจให้จ้างทำ..2 อย่าง พยายามทำให้สำเร็จด้วย”
“ครับผม”
“อย่างแรก..พยายามตีสนิท สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับกำนันนวลให้มากที่สุด ให้นายเด่น
เป็นตัวเชื่อม นายเด่นเค้ารู้แล้ว แต่จ้าง..ก็ทำตัวให้มันลื่นไหล ไปตามเกมของนายเด่นก็แล้วกัน”
“ครับผม”
“อย่างที่สอง..มาดามพิณ กับปีเตอร์..ต้องมางานนี้แน่ๆ..อยู่ห่างพวกมันไว้ ไม่ต้องไปผูกมิตรอะไร คนพวกนี้ หน้าเนื้อใจเสือ เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม อย่าไปไว้ใจเด็ดขาด อย่าลืม ว่าที่ชั้นกลายเป็นแบบนี้ เพราะพวกมัน ถ้าจำเป็น ก็แค่ทักทายตามมารยาทสังคมก็พอ”
ข้อนี้ฟ้ากระจ่างอึ้งไปนิด แอบหลบตาขณะรับคำ “ครับผม”
“อ้อ..ลืมไป..พอดี..มันมีสิ่งที่นอกเหนือจากแผนการเดิมเกิดขึ้น คือ..เกียรติบดินทร์”
ฟ้ากระจ่างรีบถาม “นั่นสิครับ นายหัวครับ..แล้ว..ตกลงคุณดิน..ไม่ไปเรียน…”
บัญชาถอนใจ
“ก็..คงเป็นอย่างนั้น..ชั้นคิดว่า..เค้าคงคิดอะไรของเค้าอยู่ แต่เด็กคนนี้..ชั้นก็ไม่รู้จะบังคับยังไงเหมือนกัน เอาเป็นว่า..สำหรับงานนี้ ชั้นขอให้จ้างดูน้องดินไว้ อย่าให้คลาดสายตาด้วย พยายามให้เค้าอยู่ติดตัวเธอตลอดเวลา เด็กคนนี้เหมือนม้าพยศ ชั้นก็ไม่ไว้ใจเค้าเท่าไหร่ ว่าจะ..อยู่ในกรอบ..ไปได้ซักกี่น้ำ เพราะฉะนั้น เธอต้องดูแลความปลอดภัยให้น้องดินด้วย แต่ชั้นคิดว่า ตอนนี้เค้าพยายามจะทำความดีประกวดกับเธอ คิดซะว่าเค้าเป็นน้องชายแท้ๆ ของเธอ..” บัญชาหัวเราะ “ที่จริง..เค้าก็เป็นน้องชายของเธอจริงๆ นั่นแหละ ดูแลเค้าด้วย”
ข้อนี้ฟ้ากระจ่าง รู้สึกหนักใจเป็นที่สุด

ฟ้ากระจ่างเดินออกมาหน้าตึก มีนายน้อมตามควบคุมความเรียบร้อย ปกเสื้อ กระดุมคอ ไทด์ กระดุมเสื้อ กระดุมข้อมือ แล้วดูกระทั่งรองเท้า
“พอแล้ว นายน้อม ไม่มีอะไรผิดที่ผิดทางหรอกน่า”
“ทำไมจะไม่มี” นายน้อมว่าพลางนั่งลง ผูกเชือกรองเท้าที่หลวมไป
“เจ๊ย..ผมทำเองได้” ฟ้ากระจ่างตกใจ ก้มลงไป จะแย่งทำ
แต่ถูกนายน้อมหันมาดุใส่ “ยืนตรงๆ นิ่งๆ อย่าเสียบุคลิก!!”
“อ้าว..”
ฟ้ากระจ่างจ๋อย พอเงยขึ้นหน้ามา ต้องชะงัก เมื่อเห็นดวงยิหวากับนายเด่นยืนอยู่ และเกียรติบดินทร์ด้วย ดวงยิหวาใส่ชุดกระโปรงแสคสั้น เรียบๆ แขนกุดสีเรียบนวลๆ รวบผม ดูแปลกตาเป็นคนละคน
ฟ้ากระจ่างมองอย่างอึ้งๆ ไม่รู้ว่าควรทำตัวยังไงดี ดวงยิหวามองฟ้ากระจ่าง ที่ยืนตัวตรงขึ้น ให้นายน้อมผูกรองเท้าให้ แล้วหมั่นไส้ จนต้องเมินหน้าหนี ส่วนนายเด่นมองอย่างสนใจ แล้วเดินเข้าไปหา ฟ้ากระจ่างรีบไหว้ทันที
“สวัสดีครับ..เอ้อ มารอกันนานแล้วหรือครับ”
“เพิ่งมาถึงครับ ผม เด่นนะครับ..คุณจ้าง(หันมามองลูก แล้วรีบเรียก)ดวงๆๆ มานี่สิ มารู้จักคุณจ้างเร็ว”
ดวงยิหวาตั้งสตินิดหนึ่ง แล้วเดินเข้ามา ไหว้จ้างด้วยท่านอบน้อม สีหน้าสงบเสงี่ยม “สวัสดีค่ะ คุณจ้าง”
ฟ้ากระจ่างอึ้งไป กับท่าทีเหมือนคนไม่เคยรู้จักของดวงยิหวา อดไม่ไหว กวนกลับไป
“สวัสดีครับ..ชื่อดวงหรือครับ..ดวงอะไรครับ..ดวงจันทร์..หรือว่า..ดวงดี”
นายน้อมลุกขึ้นมาพอดี ยิ้ม “ดวงยิหวาครับ”
“ดวงยิหวา..ชื่อจำยากจัง เดี๋ยวถ้าผมเกิดลืม..อย่าโกรธนะครับ ช่วยเตือนด้วย ผมความจำสั้น”
เกียรติบดินทร์มองเหล่ฟ้ากระจ่าง รู้สึกขัดหู เดินกร่างเข้ามา
“นายเด่น เดี๋ยวนายเด่นนั่งไป..กับ..พี่ฟ้ากระจ่าง แล้วให้ดวงยิหวานั่งรถผม”
ฟ้ากระจ่างพูดขึ้นน้ำเสียงเรียบๆ
“ให้นายเด่นกับลูกสาวเค้าไปคันของเค้าน่ะ ดีแล้ว..น้องดินต้องนั่งกับพี่..เพราะนายหัวสั่งมา” เน้นเสียง “ว่า..ให้พี่กับน้องดินอยู่ด้วยกันอย่างใกล้ชิด ตลอดเวลา..ห้ามคลาดสายตา ถ้าน้องดินไปรถคนละคัน พี่คงไม่สบายใจแน่”
เกียรติบดินทร์ผงะ “อะไรนะ..ไม่!”
ทรายทองแต่งตัวสวยใส เครื่องประดับแพรวพราวระย้าระยิบระยับ เดินสวยลงมา
“จริงด้วยค่ะ นายหัวถึงสั่งให้ทรายไปด้วยอีกคน ให้มาช่วยกัน..ควบคุมพี่ดิน”
“โกหก” เกียรติบดินทร์
“ถ้านายหัวไม่สั่ง ทรายจะกล้าสะเออะตามไปด้วยหรือคะ ไม่เชื่อ..พี่ดินก็ไปถามนายหัวเองสิคะ นายหัวบอกว่า ให้เรา 3 คนพี่น้อง พี่จ้าง พี่ดิน กับทราย..อยู่ด้วยกันตลอดเวลา ให้คนทุกคนเห็นว่า..เรา3คน..เป็นพี่น้องที่รักและใกล้ชิดสนิทสนมกันมากๆ..แล้วให้ทรายทำยังไงก็ได้ ให้พี่จ้างได้ถ่ายรูปคู่กับกำนันนวล..ให้คนของกำนันนวล เอารูปคู่กะพี่จ้างลงหนังสือพิมพ์ข่าวท้องถิ่นพรุ่งนี้ให้ได้ ถ้าไม่ได้..นายหัวจะไม่พอใจในตัวทรายมากค่ะ”
ทรายทองอวดความสำคัญของตนอย่างภาคภูมิใจสุดๆ เกียรติบดินทร์อึ้ง เซ็งเป็ดแต่ทำอะไรไม่ได้

นายเด่นแอบจับแขนดวงยิหวาบีบเบาๆ ดวงยิหวาหันมาสบตา ทั้งสองคิดเหมือนรู้กันทำนองว่า เห็นไหมว่านายหัวทำอะไรแปลกๆ อีกแล้ว?

อ่านต่อหน้า 3 เวลา 17.00 น.




 ลิขิตฟ้าชะตาดิน  ตอนที่  9 (ต่อ) 

บรรยากาศในงานวันเกิดกำนันนวลกำลังคึกคักสนุกสนาน บนเวทีกำลังมีโชว์ของหญิงสาวในชุดล่อแหลม คล้ายๆ ลีลาเพลงคันหูชื่อดัง พวกเสี่ยภูธร และป๋ากระเป๋าหนัก ออกันอยู่หน้าเวที มอบทิปเงินสดๆ ให้สาววัยรุ่นนางนั้น เจ้าภาพกำนันนวลยืนอยู่หน้าสุด โดยมีนายกอบต. เคียงข้าง ทั้งคู่หัวเราะกันเอิ๊กอ๊าก อย่างชอบอกชอบใจ

ในขณะเดียวกันฟ้าใส หรือเสี้ยวท้อกำลังนั่งเอาพัดโบกคลายร้อนไปมา แต่ลอบมองปีเตอร์ตาเป็นมันเป็นระยะ มาดามพิณมองฟ้าใส ตาขวางด้วยความหมั่นไส้
ด้านผู้ว่าฯ กับปีเตอร์นั่งคุยกัน ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม โดยมีนายอำเภอนั่งยิ้มฟังอยู่
“โชว์นี่..ใครจัดมานี่ รู้สึกจะถูกใจประชาชีมาก” ผู้ว่าฯถามขึ้น
ปีเตอร์หัวเราะก่อนตอบ “ชิงชัยสิครับ..จะใคร”
ชิงชัยนั่งอยู่ข้างเทเรซ่า รีบออกตัว “ผมจัดมาเพื่อเอนเตอร์เทนกำนันโดยตรงครับ ไม่ใช่ว่าผมชอบดูเองหรอก”
“ทำไมคุณชิงชัยไม่ชอบล่ะคะ เทเรซ่ายังชอบเลย สวยๆ ทุกคน” เทเรซ่ารู้ทันว่าชิงชัยจะพูดเอาใจ
สองสาวลูกกำนัน แอบค้อนเทเรซ่า
“แหมๆๆ รู้สึกจะรู้ใจกำนันจริงๆเลยนะคะ คุณชิงชัยเนี่ย แบบนี้ออกปากอะไร กำนันไม่ขัด
แน่ๆ” เมียกำนันมองค้อนชิงชัย
ทุกคนที่ได้ยินต่างหัวเราะชอบใจ


เวลาเดียวกัน รถที่นายเด่นนั่งเพิ่งจะแล่นออกมาจากซอยบ้านบัญชา โดยมีมอเตอร์ไซค์สองคันจอดรอ แต่ละคันมีคนขับ และอีกคนใส่ชุดสีเทาซ้อนท้าย พอรถนายเด่นโผล่มา มอเตอร์ไซค์ทั้งสองสตาร์ท
ดวงยิหวาเป็นคนขับชะลอรถเล็กน้อย ก่อนจะขับออกถนนใหญ่ นายเด่นนั่งเคียงข้างหน้า ยกมือให้สัญญาณ
มอเตอร์ไซค์คันแรกให้สัญญาณตอบ แล้วพุ่งขึ้นหน้า แล่นนำไป แล้วรถนายเด่นขับตาม
มอเตอร์ไซค์คันที่สองเตรียมพร้อม พอรถสปอร์ตคันใหม่ของฟ้ากระจ่าง แล่นตามรถนายเด่นผ่านไป มอเตอร์ไซค์คันที่สองขับมาปิดขบวน ประกบหลังตามไปห่างๆ
ดวงยิหวามองเห็นทางกระจกข้างจึงถามผู้เป็นพ่อ “นายหัวให้พวกนี้มาเหรอคะ พ่อ”
“ใช่..นายหัวสั่งพ่อ..ให้เรียกมา..นายหัวไม่ยอมประมาทอีกแล้วตอนนี้” นายเด่นบอก
ดวงยิหวาถอนหายใจ “อะไรกันเนี่ย แค่ธุรกิจแค่นี้..ต้องทำกันยังกับอยู่ในศึกสงคราม
เกียรติบดินทร์ ซึ่งนั่งข้างๆ มองหน้าฟ้ากระจ่าง มองตัวเลขความเร็วบนแผง มองระยะห่าง ที่ทิ้งระยะจากรถนายเด่น แล้วหันกลับมามองหน้าฟ้ากระจ่างใหม่
“ขับให้มันเร็วๆหน่อยได้ไหม ทิ้งระยะอะไรขนาดนี้ เดี๋ยวก็มีคนมาแซงแทรกกลางหรอก”
ฟ้ากระจ่างพูดหน้านิ่ง “ขับจี้คันหน้ามากมันไม่ดี มีอุบัติเหตุ หรือคันหน้าเบรกอะไรกะทันหัน เราจะเบรกไม่ทัน”
“ขับเป็นรึเปล่านี่ เพิ่งเคยมีรถล่ะสิ คงขับอ่อนมาก..ถึงต้องระวังตัวแจขนาดนี้”
ฟ้ากระจ่างหัวเราะก๊ากออกมา
“ขำอะไร”
“ที่คุณพูดก็ถูก..แต่ถ้าคุณรู้ว่า..ผมขับรถอะไรมาตลอด..คุณคงไม่คิดแบบนั้น”
“รถอะไรคะ พี่จ้าง รถอะไร”
ฟ้ากระจ่างหัวเราะอีก “ผมไม่บอก”
“บอกสิคะ บอกๆๆ บอกหน่อย”
“รถขนหมูเหรอ ไม่ก็..รถขนขยะ” เกียรติบดินทร์ทา
“ผิด!”
“ยอมๆๆ พี่จ้างเฉลยเร็ว เฉลยๆๆๆ” ทรายทองบอก
ฟ้ากระจ่างยิ้มๆ “รถกู้ชีพ..แต่ก็บ่อยๆ..ที่ก็ต้องขนบางอย่าง..แต่ไม่ใช่หมูหรือขยะ”
“ขนศพ!!” ทรายทองตอบ
“ถูก!”
ทรายทำหน้าขนลุก สยอง แต่แบบคิกคักๆ เกียรติบดินทร์ทำปากเบ้ ดูถูก


เสียงเพลงจากบนเวที จังหวะเร่งเร้ามากขึ้น สาวๆ โคโยตี้บนเวทีเต้นกันสะเด่า กำนันนวลเต้นมันสุดๆ นายกอบต.ก็เต้นไปด้วย หน้าแดงด้วยฤทธิ์เหล้า อยู่ในอาการกึ่มๆ ทั้งคู่

“แหม..หนูไม่เห็นจะชอบเลย ทำไมไม่มีเต้นเกาหลีบ้าง” ลูกสาวกำนันคนหนึ่งว่า
“น่าจะมีแบบวงซูเปอร์จูเนียร์มาบ้างนะคะ” อีกคนเสริม
ทันใดนั้น ก็มีความเคลื่อนไหวมาจากหน้าประตูทางเข้า ผู้คนต่างขยับหันไปรุมดู ลุกจากที่นั่งไปบ้างก็
นายอำเภอชะโงกหน้าไปมอง “เอ๊ะ ใครมาอีก”
ชายฉกรรจ์ลูกน้องของกำนันสองคน เดินลิ่วๆ เข้ามาบอกกับเมียกำนัน
“ลูกนายหัวบัญชามาครับ”
ปีเตอร์ กับเทเรซ่า หันไปมองหน้ากัน มาดามพิณและชิงชัย ลุกพรวด
“ไอ้เกียรติบดินทร์” ชิงชัยสบถ
มาดามพิณจับแขนลูกชาย “ใจเย็นๆ ลูก”
ฟ้าใสถามไปรอบๆ “ใครมานะคะ แล้วทำไมต้องตื่นเต้นกันด้วยคะ”
ลูกน้องกำนันอีกคนบอก “มาทั้ง 3 คนเลยครับ ลูกชายคนโต ลูกชายคนเล็ก แล้วก็ลูกสาวบุญธรรม”
“อ้าว.. ผมนึกว่าเค้ามีลูกคนเดียวซะอีก” ผู้ว่าฯงง
ชายทั้งสองคน รีบเข้าไปกระซิบกำนันนวลที่หน้าเวที นายเด่น กับดวงยิหวา เดินเข้ามา
ในมือดวงยิหวาถือกระเช้าผลไม้นอกมา นายเด่นยิ้มแย้มร่าเริงขณะเดินเข้ามาที่โต๊ะแขกวีไอพี
“ท่านผู้ว่าฯ สวัสดีครับ ท่านนายอำเภอ สวัสดีครับ”
ผู้ว่าฯ นายอำเภอ รับไหว้
“คุณเด่น น้องดวง..ยังบ่นถึงอยู่เลย ว่าจะมารึเปล่า” เมียกำนันยิ้มเยื้อนทักทาย
“ดวง..แหม..ทอมอย่างเธอใส่กระโปรงกะเค้าเป็นเหมือนกันเหรอ” ลูกสาวกำนันกัด
“อุ๊ยตาย แต่งหน้าด้วย สงสัยฝนจะตก” ลูกสาวอีกคนเสริม
ระหว่างนั้นกำนันนวลกับนายกอ.บ.ต. เดินออกจากหน้าเวทีมาถึงพอดี
“กำนันครับ สุขสันต์วันเกิดครับ”
นายเด่นยิ้มอวยพรดวงยิหวามอบกระเช้า “ขอให้กำนันสุขภาพดี และรวยๆๆ นะคะ”
ช่างภาพของกำนันรีบเข้ามาแชะภาพการรับมอบ ทั้งสองฝ่ายยิ้มโพสท่าให้กล้องแป๊บนึง
“ขอบใจลูก..คุณเด่น นายหัวเป็นไงบ้าง..คิดถึง อยากไปเยี่ยม แต่ไม่มีเวลาเลย” กำนันนวลยิ้มร่า
“ไม่เป็นไรครับ กำนัน นายหัวเข้าใจดี ..นี่ก็..ให้ลูกๆมาแทนตัวครับ”
คำพูดของนายเด่นทำเอานายกอบต.งง “ใครบอกว่านายหัวมีลูกชายสองคนเหรอ”
“ครับ..ลูกชายคนโต..คุณฟ้ากระจ่าง..เพิ่งมาจากลำพูนครับ” นายเด่นสำทับเสียงจริงจัง
ฟ้าใสดีใจจนลืมตัว รีบแทรกนายกอ.บ.ต.มา “คุณฟ้ากระจ่าง! เหรอคะ?”

จังหวะเดียวกันเกียรติบดินทร์เดินมาดหยิ่งและถือตัว ฝ่าสายตาทุกคนเข้ามา ตามด้วย
ทรายทอง เทเรซ่าเห็นก็ผวากอดแขนพ่อแน่น ปีเตอร์บีบมือลูกปลอบขวัญ
ชายชุดสีเทาสองคน แบกรูปเขียนสีน้ำมันผูกโบว์ เป็นภาพเหมือนของกำนันนวลบานใหญ่บึ้มตามเข้ามา
กำนันนวลจ้องมองภาพเขียน ถึงกับตะลึง “โอ้โห..ภาพเราหรือนี่” ก่อนจะยิ้มร่า
“เหมือนยังกะภาพถ่ายแน่ะครับ” นายกอบต.ว่า
ชายในชุดสีเทาทั้งสองคนหันไป รอจนเห็นฟ้ากระจ่างมาถึง แล้วจึงค่อยๆ เบี่ยงตัวหลบ เปิดทางให้
ฟ้ากระจ่างเดินผ่านทุกคนเข้ามา มองไปที่กำนัน ยิ้มสุภาพแล้วไหว้อย่างนอบน้อม แล้วเอ่ยขึ้น
“นายหัวบัญชามอบหมายให้พวกเรามาอวยพรกำนันแทนท่านครับ ขอให้กำนันมีความสุขมากๆ คิดสิ่งใดสมปรารถนาครับ”
เกียรติบดินทร์ไม่มองใคร มองแต่กำนันนวล แล้วไหว้ “สุขสันต์วันเกิดครับ กำนัน”
ทรายทองอวยพรปิดท้าย “แฮปปี้เบิร์ธเดย์ค่ะ กำนัน”
ชายชุดเทาประคองรูปภาพไปให้จ้างถือด้านหนึ่ง
“ที่ระลึก..เล็กๆ น้อยๆ จากนายหัวครับ” ฟ้ากระจ่างเอ่ยขึ้น
กำนันนวลรีบเข้ามารับภาพที่ด้านหนึ่ง “ขอบคุณๆ มากครับผม”
ช่างภาพในงานทั้งหมด ซึ่งมีผู้สื่อข่าวท้องถิ่นอยู่ด้วย รุมถ่ายๆๆๆ ฟ้ากระจ่างกับกำนันนวล
ต้องยืนโพสในท่านั้นนานกว่าคนอื่น
“นายหัวเตรียมการทุกอย่างไว้เป๊ะจังเลยเนอะ พี่ดินเนอะ” ทรายทองเสียงระรื่นขณะกระซิบกับเกียรติบดินทร์ซึ่งกำลังเซ็งเป็ด ที่เห็นฟ้ากระจ่างเด่นเกินหน้า
เกียรติบดินทร์กัดฟัน หันมากระซิบกับดวงยิหวา “ไอ้บ้านี่มันขโมยซีนเก่งจริงว่ะ”
ดวงยิหวาอึ้ง หันไปมองพ่อ นายเด่นพยักหน้าให้เป็นเชิงบอกว่า แผนคือแบบนี้แหละ

ไม่มีใครทันสังเกตอาการเทเรซ่าที่จ้องมองฟ้ากระจ่าง มองเกียรติบดินทร์ อย่างตก
ตะลึง อึ้ง มึนไปหมด เทเรซ่าเข่าอ่อน เหมือนจะล้มลง ปีเตอร์รีบเข้ามาประคองลูกสาวไว้
ชิงชัย มาดามพิณมองหน้ากันเลิ่กลั่ก
สองลูกสาวขาเม้าท์ของกำนัน มองฟ้ากระจ่างที มองเกียรติบดินทร์ที แอบซุบซิบเม้าท์มอยกันว่า ใครจะเอาใครดี

และไม่มีเห็นด้วยว่าวินาทีนั้นฟ้าใสมองฟ้ากระจ่าง ด้วยใบหน้าสมหวัง ตาลุกวาว
ฟ้ากระจ่างยังต้องคอยมองตามกล้องต่างๆ แสงแฟลชยิงเข้าหน้าเสียงดังพึ่บๆๆๆ จนไม่
ทันได้มองหน้าผู้คน ได้ยินแต่เสียงตะโกนแข่งกันของช่างภาพเบื้องหน้า
“กล้องนี้ครับ” / “กล้องนี้ด้วยค่ะ” / “กล้องนี้ๆๆ”

หลังเสร็จสิ้นกระบวนการสร้างภาพ ตามใบสั่งนายหัวบัญชา นายเด่นกำลังกินอาหารบนโต๊ะจีน ดื่มไป คุยไป ที่โต๊ะหนึ่ง ซึ่งมีผู้คนซึ่งล้วนทำงานในธุรกิจเดียวกัน นั่งกินดื่มอยู่
แต่คนอื่นๆ ดูเหมือนจะอิ่มกันหมดแล้ว มีนายเด่นกับดวงยิหวา ที่เพิ่งลงมือกิน โดยมีนายกอบต. ฟ้าใส เมียกำนัน และลูกสาวทั้งสองนาง มายืนมุง ถาม แล้วคอยฟัง อย่างสนอกสนใจยกใหญ่
“ลูกชายคนโตมาจากลำพูน ไหงเป็นงั้นล่ะ คุณเด่น ลูกคนโตยังไง ตั้งแต่สมัยไหน เมื่อไหร่กัน” เมียกำนันถามแทนใจทุกคน
นายเด่นหัวเราะ ขณะหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดปาก ยกน้ำขึ้นดื่ม
“แหม เรื่องมันยาวครับ ครือว่า..ก็แบบว่าตอนหนุ่มๆ นายหัวท่านก็ออกจะทั่วถึง..เหนือใต้ออกตกอยู่พอควร ท่านก็ไปได้สาวเหนือ..ตามธรรมเนียม หนุ่มใต้สาวเหนือล่ะคร้าบ..แต่ก็บอกใครไม่ได้ เพราะตอนนั้นพ่อแม่ท่านก็จัดการหมั้นหมายไว้แล้วกะลูกสาวโกเม้ง..คือนายหญิงของผมเนี่ย ท่านก็เลยต้องแอบๆ ส่งเสียของท่านไปเงียบๆ” นายเด่นเขียนประวัติฟ้ากระจ่างใหม่ ตามใบสั่งบัญชา
ฟ้าใสได้ฟังก็หัวเราะร่วนออกมา แล้วรีบเอามือปิดปาก พอคนหันมามองหน้า ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“แหม นายหัวนี่ เห็นขรึมๆ เอาการเอางาน ที่จริงเจ้าชู้เงียบหรือนี่ แล้วนายหญิงรู้เข้า ไม่บ้านแตกเรอะ เล่นซุกลูก หมกเม็ดไว้ขนาดนี้” นายกอบต.ว่า พลางถามต่อ
“โอ๊ย..นายหญิงแกใจดี๊..แกตามใจนายหัวหมดแหละ ยิ่งนายหัวไม่สบายแบบนี้ แกยิ่งโอ๋ พอนายหัวขอให้ฟ้ากระจ่างมาช่วยทำงานแทน..แกก็ยิ่งดีใจ เพราะแกไม่ค่อยอยากให้คุณดินมายุ่งตอนนี้ งานช่วงนี้มันปัญหาเยอะ เศรษฐกิจก็ไม่ดี แล้วคุณดินก็เด็กเกินไป ใช่ไหมล่ะ”
สองลูกสาวขาเม้าท์เปิดฉากชมสองพี่น้องทันที
“บ้านนี้ทำไมลูกๆ เค้าหน้าตาดีกันหมดเลยเนอะ”
“นั่นสิ ลูกที่มีแม่เป็นสาวเหนือ ก็หล่อเหนือๆ ลูกที่มีแม่เป็นสาวใต้ ก็หล่อแบบใต้ๆ
สองสาวหันมา แปะมือกัน แล้วก็ร้องกรี๊ดเก็บอาการไม่อยู่
“อร๊ายยย...”

ด้านมาดามพิณลากลูกชายออกมาคุยที่มุมลับตาคน
“นี่มันอะไรกัน ฟ้ากระจ่าง..มันไม่ใช่คนเดียวกะเด็กชื่อจ้างที่มาช่วยหนูเทเรซ่าคนนั้นหรอกเหรอ”
“ใช่สิครับ แม่! เราโดนไอ้นายหัวบัญชาเล่นวิชามารอะไรเข้าแล้วล่ะครับ มันส่งลูกชายคนเล็กมาทำทีเป็นฉุดเทเรซ่า แล้วก็ให้ไอ้คนโตที่มันหมกเม็ดไว้เป็นไม้ตาย..มาทำเป็นช่วย เป็นฮีโร่ เพื่อจะได้สร้างความสัมพันธ์กับน้องเทเรซ่าชัดๆ”
“หนอย..นี่มันคือละครจัดฉากเหรอ ต๊าย นี่ก็โชคดีล่ะสิ ที่น้องเทเรซ่าจำหน้าไอ้เกียรติบดินทร์ได้ ไม่งั้น เราคงไม่รู้ ว่ามันเป็นพี่น้องกัน แปะมือกันมา แสดงเป็นพระเอกคน เป็นผู้ร้ายคน..เพื่อทำแผนลวงน้องให้ตายใจ“
“ผมงงไปหมดแล้ว แม่ ถ้ามันอยากเป็นญาติดีกะคุณปีเตอร์ มันก็ไม่น่าทำตัวเป็นศัตรูแต่แรก แต่นี่ มันจะทำอะไรของมัน”
“มันตั้งใจทำให้พวกเราสับสน ทำให้เราปั่นป่วน มันจะแยกสลายขั้วของเรากะคุณปีเตอร์หรือเปล่า”
“ไม่ได้นะ ทำแบบนั้นได้ไง ผมไม่ยอม”

รูปวาดภาพเหมือนเท่าตัวจริงของกำนันนวล ถูกลูกน้องยกมาในบ้าน พยายามทดลอง
แปะ ว่าตรงไหนเหมาะในห้องรับแขก กำนันนวลหัวเราะร่วน
“มันต้องอยู่ห้องนี้เลย มันถึงจะสง่า คนเข้ามาปุ๊บ..เจอเราเลย ว่ะฮ่ะๆๆๆๆ”
“ถ้าตามฮวงจุ้ยนะครับ ผมว่า ควรจะอยู่ตรงนี้ เพราะตรงนี้ คือตำแหน่งมังกร” ฟ้ากระจ่าง
ว่า
“ฮ้า..คุณฟ้ากระจ่างทราบเรื่องฮวงจุ้ยด้วย”
เกียรติบดินทร์เยาะๆ “สมเป็นเด็กศาลเจ้าจริงๆ”
“อะไรนะครับ คุณดิน” กำนันได้ยินไม่ค่อยถนัด
ทรายทองต่อให้ “อ่อ คือ..พี่จ้างชอบไปศึกษาศาสตร์ต่างๆ..ที่ศาลเจ้าน่ะค่ะ”
“เอ่อ..ก็ ก็..ครอบครัวเราทำงานก่อสร้าง จำเป็นต้องศึกษาฮวงจุ้ยไว้บ้างครับ”
“ถูก..ถูกต้องเลย จริงๆนะ นายหัวนี่..แอบมีลูก ร้ายๆ ซ่อนไว้ด้วยนะเนี่ย โผล่มาที หงาย
หลังตึงกันทั้งเมือง”
เมียกำนัน กับลูกสาวสองนาง และบรรดาบริวารสาว ช่วยกันยกสำรับต่างๆ เรียงรายกันเข้ามาจัดโต๊ะใหม่อย่างรวดเร็ว
“เชิญคุณๆทั้งสามคนรับประทานกันในนี้ดีกว่านะคะ แอร์เย็นๆ พอดีโต๊ะจีนข้างนอกเค้ารับประทานกันไปจนจะจบจานของหวานแล้วค่ะ เรามาตั้งโต๊ะแบบเริ่มจานออร์เดิฟกันในนี้ดีกว่านะคะ”
“อะไรกันเนี่ยครับ พวกเราไม่ได้เรื่องมากนะครับ..ที่นี่ก็คนกันเองทั้งนั้น ทำยังกะพวกผมเข้ากับใครไม่ได้ หรือสังคมรังเกียจ หรืออะไร”
เกียรติบดินทร์เอ่ยขึ้น ลูกสาวกำนันร้องเสียงหลง
“ว้าย..คุณดินขา ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ
“ใครจะไปรังเกียจคุณดินกะคุณฟ้าล่ะคะ..เนี่ย เราสองคนก็จะมานั่งชิมนั่นชิมนี่เป็นเพื่อนไงคะ”
ว่าแล้วลูกสาวคนเล็กก็เดินเฉียดผ่านทรายทองไปแบบไม่เห็นหัว
“มาค่ะ คุณดินขา เชิญนะคะ” แทบจะประคองเกียรติบดินทร์มานั่ง
“คุณฟ้าขา นั่งตรงๆนี้ๆ เดี๋ยวหนูบริการคุณฟ้าเองค่ะ” อีกคนว่า
“คุณฟ้า..คุณดิน..ลิเกหลงโรงชัดๆ” ทรายทองพึมพำ กลอกตาไปมาด้วยความโมโห
เกียรติบดินทร์แอบทำหน้ายี้...อี๋ใส่ลูกสาวกำนัน แต่พอคนหันมามอง ก็ยิ้มบางๆ ตรงมุมปาก

เทเรซ่า จ้องขนมในจานตรงหน้า หน้าซีดลงๆ น้ำตาคลอๆ ผู้ว่าฯกำลังคุยอยู่กับปีเตอร์
“เออ..ดีนะ คนสมัยนี้มีลูกโตทันใช้ นักการเมืองเด็กๆ เกิดขึ้นมาแทนพ่อแม่มากมาย แล้วดูนี่สิ นักธุรกิจก็เหมือนกัน ไม่ว่ามาดามพิณ หรือนายหัวบัญชา ลูกๆขึ้นมาทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่พ่อแม่กันทั้งนั้น”
ปีเตอร์เอื้อมมือมา บีบมือเทเรซ่า “ผมสิครับ มีเทเรซ่าคนเดียว ผมมีลูกช้า แล้วแกก็ไม่ชอบงานแบบนี้เอาเลย ใช่ไหมลูก”
เทเรซ่าเหมือนไม่ได้ยิน น้ำตาคลอมากบตา ชิงชัยจ้องจับแอบสังเกตตลอด รีบสะกิดแม่
มาดามพิณถอนใจนายกอบต.จูงมือฟ้าใสกลับมาที่โต๊ะ
“นี่ๆๆ ทุกคน ผมไปสืบมาแล้วนะ โอ๊ย เฮียบัญชาแกไม่ใช่เบาๆนะ กว่าเมียจะรู้ความจริง ว่ามีลูกชายคนโตตัวเท่าโน้น..” ทำมือ “ก็ที่โรงพยาบาล หลังจากแกโดนยิง แล้วหมอบอกว่า จะเป็นอัมพาต เดินไม่ได้อีกต่อไป แกถึงสารภาพกะเมีย เมียก็ใบ้รับทานสิ ผัวปะงาบๆอย่างนั้น ใครจะกล้าด่า จิงปะล่ะ โอ๊ย..แล้วเมียที่แกซุกไว้ ก็ไม่ใช่ธรรมดานะ เป็นพวกจีนฮ่อโน่น..ลงมาเขาหมู่บ้านขุนส่า พวกนี้เขามีเชื้อสายนา..เขาเป็นพวกนายทหารลูกน้องนายพลเจียงไคเช็กเก่า รบกะเหมาเจ๋อตุงมาก่อน แล้วหนีลงมาทางบ้านเราไง”
ฟ้าใสพัดถี่ๆ เหลือกตามองฟ้า สลับถอนใจ และยิ้มจิกๆ เทเรซ่าน้ำตาหยด ต้องหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมา
“ขอโทษนะคะ เทเรซ่ารู้สึกไม่ค่อยสบาย..ขอตัวสักครู่” รีบลุก เดินหนีไปทางหนึ่ง
ชิงชัยขยับจะลุกตาม
ปีเตอร์รีบลุก แล้วกดบ่าชิงชัยลง “ไม่ต้อง ผมดูแลเอง(หันมาหาทุกคน)ขอโทษนะครับ สงสัยเทเรซ่าแพ้ความร้อนอีกแล้ว วันก่อนก็เพิ่งเป็นลม..ขออนุญาตครับ” แล้วรีบตามไป
ทุกคนมองตาม อย่างเป็นห่วง

ปีเตอร์วิ่งตามออกมาที่มุมหนึ่งในสวน ตะโกนเรียกหา “เทเรซ่าๆ”
เทเรซ่าหันไป เห็นพ่อ รีบหนีแอบ หลบหลังต้นไม้
“เทเรซ่า อย่าทำแบบนี้ลูก..มีอะไรบอกพ่อมา อยากจะกลับไหม ไป..พ่อพาลูกกลับเดี๋ยวนี้เลย” เดินหาและรีบสาวเท้าก้าวยาวๆ ผ่านเลยไปรวดเร็ว “เทเรซ่า”
เทเรซ่าเช็ดน้ำตา ดวงตาวาว สุดที่จะแค้น
“แด้ดดี๊ไม่เข้าใจ..เทเรซ่าไม่อยากกลับ ทำไมเทเรซ่าต้องเป็นฝ่ายวิ่งหนีเค้า เทเรซ่าจะไปถามคุณจ้างให้รู้เรื่อง ฮือๆๆ ทำไมเขาทำแบบนี้กับเทเรซ่า ทำไมๆๆ”

เทเรซ่ารีบเดินออกมาตรงระเบียงด้านข้างบ้าน หันรีหันขวางอยู่ที่ตัวตึกบ้านกำนันนวล
พอดีมีสาวเสิร์ฟคนหนึ่งเดิน ผ่านหน้าไป ถือจานใบใหญ่ ใส่สลัดผลไม้เมล่อนกับกุ้งตัวโตประตูข้างเปิดออกมาพอดี มีอีกคน ถือถาดเปล่าออกมา ทั้งคู่เม้าท์เรื่องสองพี่น้องสุดหล่อ ลูกชายนายหัวบัญชา
“เป็นไงยะๆ คุณชายฟ้า คุณชายดิน?” นางคนแรกถาม
“หวายๆๆ..เลือกไม่ถูก..รักพี่เสียดายน้อง คริๆๆๆ” อีกนางว่า
“ยัยบ๊อง คงไม่ถึงเราหรอก คุณเป็ดกะคุณไก่คงคว้าไปงาบซะก่อน”
“รีบเข้าไปเสิร์ฟเร้ว..จะได้ดูใกล้ๆ”
“ลาออกไปสมัครเป็นคนงานบ้านนายหัวบัญชาดีกว่า งุงิงุงิ”
ทั้งสองนางรีบไปอีกทาง สาว1รีบเข้าประตูนั้นไปในบ้าน
เทเรซ่าแอบฟัง และดูจนแน่ใจ เห็นทุกอย่างนิ่งสงบ ไม่มีใครไปมาแน่แล้ว เทเรซ่าออกจากที่ซ่อน ค่อยๆ ย่องๆ พยายามเอื้อมมือไป แง้มประตูนั้นเพื่อจะโผล่แอบดูด้านใน
ทันใดนั้น ประตูนั้นเปิดผัวะออกมา กระแทกมือและแขนเทเรซ่าเต็มแรง จนร่างเทเรซ่าเซไป
“ว้าย!” เทเรซ่าร้องทั้งตกในและเจ็บ
คนที่พรวดออกมาคือเกียรติบดินทร์ ไม่ทันเห็นว่าร่างนั้นคือใคร ตกใจมาก รีบเข้ามาประคอง
“โอ๊ย..ขอโทษๆๆๆ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ..ตายๆๆ”
พอประคองกันขึ้นมา ทั้งสองเห็นหน้ากันในแสงที่สวยงาม ต่างชะงักสะดุ้งเหมือนโดนน้ำร้อนลวก
“เธอ!!”
เทเรซ่าสะบัดสุดแรง “ปล่อย..” แต่แล้วก็รู้สึกเจ็บอย่างมาก ก้มลง กุมแขน “โอ๊ย..”
เกียรติบดินทร์กังวลรู้สึกไม่ดีนัก “เป็นอะไรหรือเปล่า..โดนเข้าไปเต็มๆ เลยหนิ”
เทเรซ่าถอยหนี “เทเรซ่าไม่เป็นไร” รีบหันตัว จะวิ่งหนี
เกียรติบดินทร์ตามมา คว้าแขนไว้ “เดี๋ยว”
เทเรซ่าเจ็บจริง อะไรจริงจนร้องลั่น “โอ๊ย..” น้ำตาไหลพรากออกมา “อย่าทำอะไรชั้นนะ อย่าทำ ฮือๆๆ”
“ใครเค้าจะทำอะไรเธอ..เธอนั่นแหละ เซ่อซ่าซุ่มซ่าม..มาอยู่ตรงนั้นทำไม”
“พี่ชายคุณล่ะ อยู่ไหน”
“ทำไม..อ๋อ อยากไปหาเค้าเหรอ เธอคงเป็นอีกคนล่ะสิ ที่หลงเชื่อว่ามันเป็นคนดีซูเปอร์ดี เป็นเทพบุตรสุดใสซื่อ ที่เพิ่งนั่งสมาธิจากวัดเสร็จมาใหม่ๆ”
“พี่ชายคุณน่ะเหรอ เป็นคนดี เป็นคนที่มาจากวัด เทเรซ่าจะบอกให้นะ ว่าคนอย่างมิสเตอร์จ้างน่ะ มันปีศาจ เป็นซาตานแปลงร่างมามากกว่า” เทเรซ่าระเบิดออกมา
เกียรติบดินทร์ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง “อะไรนะ”
“ก็มันจริงไหมล่ะ เค้าให้คุณ..เป็นคนมาฉุดตัวเทเรซ่า แล้วตัวเอง..ก็ทำเป็นฮีโร่ มาช่วยเทเรซ่า คุณ2คนพี่น้องเล่นละคร แอ็คติ้งทำเป็นสู้กัน ต่อยกัน ตีกัน แล้วเค้าก็ทำเป็นปล่อยให้คุณวิ่งหนีไป ลงทุนขนาดที่ทำให้ตัวเองหัวแตก..เพื่อมาให้เทเรซ่ากับแดดดี้หลงชื่นชม เพื่ออะไร เพื่อจะมาเยาะเย้ยสมน้ำหน้า ที่เทเรซ่าโง่ หลอกง่ายมาก..แค่นั้นเหรอคะ” เทเรซ่าร้องไห้ออกมา
เกียรติบดินทร์งง มึน เริ่มปะติดปะต่อเรื่องราว
“เธอพูดจริงเหรอ..คืนนั้น ไอ้คนที่มันต่อยเตะชั้นซะอ่วมยังกะเจ็ท ลี..ที่แท้..คือ..มัน..” ชี้ไปที่ฟ้ากระจ่างที่อยู่ในบ้าน แล้วเหวอ อึ้ง ทึ่ง “เฮ้ย..จริงดิ!!”
เทเรซ่าร้องไห้แบบไม่สนใจฟังที่เกียรติบดินทร์พูด
“ทำไมพวกคุณใจร้ายแบบนี้ พวกคุณเล่นสนุกกับความรู้สึกของคนอื่น เทเรซ่ากับแดดดี๊ไม่เคยรู้เรื่องที่พ่อคุณโดนทำร้ายซะหน่อย ทำไมพวกคุณต้องมาทำแบบนี้กะคนบริสุทธิ์ด้วย พวกคุณมันไม่ใช่คน พวกคุณมันปีศาจๆๆจริงๆ ฮือๆๆๆ” เทเรซ่าสะอึกสะอื้นจนตัวโยน แล้วอยู่ๆ ก็วูบ ร่วงลงไปซะงั้น
“เฮ้ย!” เกียรติบดินทร์กระโดดเข้ามารับไว้ได้ทัน แล้วช้อนตัวอุ้มขึ้นมา มองซ้าย ขวา แล้วอึ้งๆ “เอาไงดีวะ”

ในที่สุด เกียรติบดินทร์ก็อุ้มเทเรซ่าเข้าบ้านกำนัน ไปทางประตูเดิม

อ่านต่อตอนที่ 10



กำลังโหลดความคิดเห็น