ทองประกายแสด ตอนที่ 5
ทองดีนั่งเครียดอยู่ในรถแท็กซี่ สีหน้าคิดหนัก เธอเปิดกระเป๋านับเงินหลบๆ ไม่ให้แท็กซี่เห็นแล้วถอนใจโล่งออก
“คงพออยู่ได้”
คนขับแท็กซี่มองทองดีผ่านกระจกมองหลังอย่างพิจารณา
“ตกลงจะไปไหนน้อง”
ทองดีสะดุ้ง
“ไม่รู้...ขับไปเรื่อยๆ ก่อนได้ไหม”
ทองดีรีบปิดกระเป๋าสตางค์แล้วกำไว้แน่น คนขับแท๊กซี่เริ่มมองทองดีด้วยสายตากรุ้มกริ่ม
“ทะเลาะกับแฟนมาเหรอ...ถ้าไม่มีที่พักพี่ช่วยได้นะ”
ทองดีมองหน้าคนขับยิ่งเห็นสายตาก็รู้ทันๆที ทองดีนึกถึงห้างที่เคยไปกับวีระชัย
“ฉันจะไปห้าง...”
“แหม...เสียดาย” แท็กซี่บ่นเบาๆ
รถแท็กซี่มาจอดหน้าห้างฯ ทองดีลงจากรถ แล้วแท็กซี่ก็ออกไปเธอเดินไปไม่กี่ก้าว ก็มีมอเตอร์ไซค์มาจอดข้างๆ ผู้ร้ายคนซ้อนก็กระชากกระเป๋า ทองดีตกใจร้องลั่น
“ว๊ายยย...อะไรเนี่ย”
เธอพยายามดึงกระเป๋ากลับ ผู้ร้ายลงมาแล้วผลักเธอล้มลงแล้วดึงกระเป๋ารีบขึ้นรถมอเตอร์ไซค์แล้วคนที่ทำหน้าที่ขับรีบขับออกไปเลย ทองดีร้องโวยวาย
“ช่วยด้วย โจรขโมยกระเป๋า” เธอพยายามวิ่งตามร้องเรียกไปด้วย “เอากระเป๋าฉันคืนมา ไอ้พวกเลว เอาคืนมา” เธอเหนื่อย เริ่มวิ่งไม่ไหว “เอาเงินฉันคืนมา…”
ทองดีหยุดวิ่ง เหนื่อยหอบมองมอเตอร์ไซค์ บึ่งหายไปต่อหน้าต่อตาก่อนจะทรุดนั่ง
“เงินของฉัน...ของฉัน...”
ทองดีเดินมาในห้างอย่างใจลอย แล้วหยุดยืน มองไปรอบๆอย่างไม่รู้จะไปไหนดี เธอนึกถึงตอนที่วีระชัยพามาเที่ยว และตอนที่เขาตาย ทองดีหน้ามืดยืนโงนเงน แล้วร่วงล้มลง แต่มีใครคนหนึ่งมารับหลังไว้ได้ทัน เธอหันไปมองหน้าเขา เฮียบุ๋นมองทองดีตะลึง อ้าปากค้าง ปิ๊งทันที ลืมเด็กสาววัยรุ่นที่ยืนอยู่ใกล้ๆไปเลย
เฮียบุ๋นนั่งประคองทองดีที่ยังสลบอยู่ และให้ดมยาดม ส่วนเด็กสาวก็จำใจพัดให้อย่างเซ็งๆครู่หนึ่งเธอก็ฟื้นขึ้นเห็นเฮียบุ๋นประคองตนอยู่ก็ตกใจรีบผลักออก เฮียบุ๋นยิ้มแย้มให้
“น้อง ไม่สบายเหรอครับ”
ทองดีตั้งสติ แล้วลุกขึ้น
“เวียนหัวนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไรแล้วขอบคุณนะลุง”
เฮียบุ๋นสะดุ้งทันที ทองดีจะลุกไปแต่เฮียบุ๋นรีบเรียกไว้
“เดี๋ยวน้อง”
ทองดีหันมา
“น้อง...เอ่อ...ชื่ออะไรเหรอ”
“ทองประกาย”
เฮียบุ๋นยิ้มชอบใจ เริ่มคุยคล่อง
“ชื่อเพราะนะ แล้วจะไปไหนล่ะ”
เด็กสาวที่อยู่ข้างๆชักสีหน้าไม่พอใจ ขัดขึ้นมา
“เฮีย จะไปกันได้ยัง”
ทองดีมองเด็กสาวแล้วมองเฮียบุ๋น คิดว่าคงเป็นเสี่ยที่เลี้ยงเด็ก เบ้หน้า แล้วเดินไปเลย เฮียบุ๋นจะเรียกก็เรียกไม่ทัน
“เดี๋ยว...” เฮียบุ๋นหันมาหงุดหงิดใส่เด็กสาว “โธ่เอ๊ย จะไปไหน ไม่ไปแล้ว”
เฮียบุ๋นหันไปมองหาทองดี แล้วหันมามองเด็กสาวอย่างหงุดหงิดจะเอาไงดี
“กลับไปก่อนเลยไป”
เฮียบุ๋นจะไปเด็กสาวรีบคว้าแขนไว้
“เรื่องอะไร หนูยังไม่ได้โทรศัพท์เลยนะ”
เฮียบุ๋นหงุดหงิด
“ฮึ่ย...ไว้วันหลัง”
เฮียบุ๋นเดินตามทองดีไป เด็กสาวหน้าเหวอ
“อ้าวเฮีย ทิ้งกันอย่างงี้ได้ไงเฮียบุ๋น...”
เด็กสาวกระทืบเท้าด้วยความโกรธ แล้วเดินไปอย่างเซ็งๆ
เฮียบุ๋นตามหาทองดีมาถึงหน้าร้านมือถือ มองๆหาก็ไม่เจอ พอหันมาก็เจอเด็กสาวยืนจ้องอยู่ เฮียบุ๋นตกใจ
“เฮ้ย...ยังไม่ไปอีกเหรอ”
เด็กสาวกอดอก มองอย่างเอาเรื่อง
“ต้องเอาข้าวสารเสกไล่หรือไงวะ”
“หนูไม่ใช่ผีนะ แต่ถ้าจะให้ไปก็...”
เด็กสาวปรายตามองไปในร้านมือถือ เฮียบุ๋นมองตาม ถอนใจ เฮียบุ๋นตัดรำคาญ
“จะเอารุ่นไหน”
เด็กสาวยิ้ม หันไปมองมือถือรุ่นแพงๆ เอียบุ๋นจำต้องซื้อให้ แล้วเดินออกมาหน้าร้าน พลางเก็บบัตรเครดิตเข้ากระเป๋า บ่นอุบ
“เอาซะแพงเลย ไม่มีว็อทแอพ ไม่มี3G นี่ไล่ไม่ไป...” เฮียบุ๊น นึกได้ แล้วมองหาทองดีต่อ “น้องทองประกาย จะกลับบ้านไปหรือยังนะ”
เฮียบุ๋นเดินออกไปตามหาทองดี
ทองดีเดินมานั่งพักที่มุมหนึ่งในห้าง ยังคิดไม่ออกกับชีวิต มองไปเรื่อยๆ เห็นคนถือถุงช็อปปิ้งกันเต็มมือ บ้างก็แต่งตัวสวย เธอมองไปอีกทางก็เห็นคนกินอาหารในร้านดีๆก็ถอนใจ ก้มมองกระเป๋า
“ไม่ได้ ฉันต้องประหยัดที่สุด”
เฮียบุ๋นเดินมาเห็นทองดีนั่งมองกระเป๋าอยู่ก็ยิ้มดีใจ
“อ๊ะอ๊า เจอแล้ว แม่กวางน้อย” เฮียบุ๋นจะเข้าไป แต่ก็ชะงัก “รอผัวอยู่หรือเปล่าวะ”
เฮียบุ๋นถอยไปหลบมุม แอบมองมาเห็นทองดีลุกขึ้น เดินไป เฮียบุ๋นรีบตาม ทองดีเดินดูของตามหน้าร้านต่างๆ เช่นเสื้อผ้า เครื่องประดับ กิ๊ฟช็อป อยากได้แต่ก็ต้องตัดใจ เฮียบุ๋นคอยแอบเดินตามมามอง
“เฮ้อ...จะซื้อของกินของใช้ หรือจะหาที่อยู่ก่อนดีวะ”
ทองดีหันมาเจอมาสค็อตเพนกวินนอนคว่ำทำแพลงกิ้งอยู่บนพื้น เธอเกือบเหยียบตกใจร้องลั่น
“ว้าย”
เพนกวินลุกขึ้น แล้วยื่นใบปลิวให้
“ร้านไอศกรีมฉลองเปิดร้านใหม่ ให้คู่รักกินฟรีครับ”
ทองดีอึ้ง ยิ้มเจื่อน
“ฉันไม่มีคู่รักหรอก”
ทองดีเดินไป เพนกวิน ถอดหัวออกมาเป็นเฮียบุ๋น
“ยังไม่มีแฟนเว้ย”
เฮียบุ๋นยิ้มดีใจ
ทองดีเดินลูบท้องมาที่หน้าฟู้ดเซ็นเตอร์ หยุดมองเข้าไปดูร้านอาหารที่เรียงราย เห็นราคาอาหารที่ร้านหนึ่งติดอยู่บนป้าย ราคา 45 - 55 - 60 เธอมองร้านอื่นราคาก็ไม่ต่างกัน
“แพงพอๆกับกินที่โรงแรมเลย เก็บท้องไปรวบยอดกินข้างทางตอนเย็นก็ได้วะ”
เฮียบุ๋นแอบดูอยู่
“มาคนเดียวแน่ๆ เอาวะ ถ้าเสือไม่งาบตอนนี้ ก็ไม่ได้แล้ว งานนี้ต้องเล่นบทพระเอก” เฮียบุ่นพยายามนึก “เอาไงดีวะ”
ทองดีเดินไปถึงร้านหนังสือ เฮียบุ๋นมองแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์
“ในทีวีพระเอกนางเอกมันต้องชนกันนี่หว่า”
เฮียบุ๋นยิ้มร้ายแล้วรีบเดินอ้อมไปอีกด้านของร้านหนังสือเพื่อให้ไปเจอกับเธอ ทองดีเดินมองหนังสือไปเรื่อยๆ จนมาถึงมุมร้านก็ชนกับเฮียบุ๋นล้มลงไปนั่งกับพื้น
“โอ๊ย...”
“อ้าว...น้องทองประกาย”
“คุณ...”
เฮียบุ๋นยื่นมือให้ทองดี
“มา ลุกขึ้นไหวไหม”
ทองดีมองเฮียบุ๋นอย่างชั่งใจ แล้วส่งมือให้ เฮียบุ๋นยิ้ม แล้วดึงขึ้นมาปะทะตัวเอง ทองดีตกใจ รีบถอนตัวออก แต่เฮียบุ๋นไม่ยอมปล่อยมือ
“เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
“เจ็บสิ ชนซะแรงเลย”
เฮียบุ๋นยิ้มหวาน
“ขอโทษนะ ไหนขอดูแผลได้ไหม”
เฮียบุ๋นจะก้มดูขา ทองดีตกใจรีบหลบแต่เฮียบุ๋นยังจับมืออยู่ เธอพยายามดึงมือออกแต่เฮียบุ๋นไม่ปล่อย
“นี่...ปล่อยได้แล้ว”
“ปล่อยก็หลุดน่ะสิ”
“ได้...งั้นจับแน่นๆนะ”
ทองดีไม่ชอบใจ กระทืบที่เท้าเฮียบุ๋นเต็มแรง
“โอ๊ย...”
ทองดียิ้มเหยียด แล้วเดินหนีไป ทิ้งเฮียบุ๋นร้องโอดโอยอยู่ตรงนั้น ทองดีเดินฉับๆนำหน้าเฮียบุ๋น
“จะรีบไปไหนล่ะ”
ทองดีหยุด แล้วหันมาด่า
“ก็รีบไปให้พ้นแกน่ะสิ ไอ้หัวงู หนอย จะมาขอดูขาฉัน”
“โธ่ อย่าว่าพี่อย่างนั้นสิ พี่เป็นห่วง กลัวน้องเจ็บ ก็อยากดูแลไม่รู้จะเป็นแผลฟกช้ำดำเขียวหรือเปล่า”
“กลับไปดูแลลูกเถอะ เห็นมาด้วยกัน แล้วไปไหนแล้วล่ะ”
เฮียบุ๋นสะดุ้ง
“แหม ลูกเลิกที่ไหน พี่ยังไม่แก่พอจะมีลูกซะหน่อย”
ทองดีเบะปาก เฮียบุ๋นมองทองดีตาหวาน ทองดีทำหน้ายี้ แล้วเดินไป
“อ้าว ไปไหนล่ะ”
เฮียบุ๋นเดินตามไป
ทองดีเดินออกมาหน้าห้าง แล้วชะงัก ยืนนิ่ง ไม่รู้จะไปไหน
“แล้วฉันจะไปที่ไหนล่ะเนี่ย”
เฮียบุ๋นตามมา
“อ้าว บังเอิญเจอกันอีกแล้ว”
ทองดีเซ็งมาก
“บังเอิญไปไหมเนี่ย...ไอ้หัวงู ถ้าไม่เลิกตาม ฉันจะฟ้อง...” ทองดีนึกถึงตำรวจแล้วพูดไม่ออก
“จะฟ้องตำรวจเหรอ โถ...ใจร้ายจัง พี่แค่จะพาไปหาหมอ ซื้อยาให้” เฮียบุ๋นตีหน้าเศร้า “ทำคุณบูชาโทษซะแล้ว”
“เอ๊ะ ก็บอกว่าไม่เป็นไรๆ ไม่ได้จะตายซะหน่อย ไม่ต้องมาทำเป็นรับผิดชอบ”
ทองดีจะเดินหนีไป เฮียบุ๋นรีบถาม
“จะกลับบ้านแล้วเหรอ”
ทองดีชะงัก
“ใช่...”
“แล้วบ้านอยู่ไหนล่ะ ให้พี่ไปส่งนะ”
“อยู่ที่...” ทองดีไม่รู้จะตอบยังไง จึงตัดบท “เออน่า ไม่ต้องมายุ่งหรอก”
ทองดีจะไปอีก เฮียบุ๋นรีบมาดักหน้าไว้
“เอางี้ๆ พี่จะชดใช้ค่าเสียหายให้”
ทองดีชะงักทันที
เฮียบุ๋นกับทองดีนั่งอยู่ในร้านหรู เธอมองไปทั่วร้านอย่างตื่นเต้น เด็กเสิร์ฟนำอาหารมาเสริ์ฟ ทองดีมองอาหารอย่างชอบใจก่อนจะถามขึ้น
“ฉันกินเลยนะ”
“เดี๋ยวก่อน ต้องมีออเดิร์ฟก่อน”
ทองดีงง
“อะเดิ๊บอะไร”
เฮียบุ๋นยิ้ม แล้วส่งเงินค่าเสียหายให้ทองดีห้าพัน แล้วออดอ้อน
“เฮียรู้สึกผิดที่ทำทองประกายเจ็บ นี่เป็นค่าทำขวัญ”
ทองดีหน้าตื่น
“เจ็บแค่นี้ ให้ตั้งห้าพันเลยเหรอ”
เฮียบุ๋นพยักหน้า
“รับไว้เถอะนะ เฮียขอร้อง”
ทองดียิ้มดีใจรับเงินมา เฮียบุ๋นรีบกุมมือ ทองดีมองหน้าอย่างไม่พอใจ แต่อดใจไม่ด่า แล้วดึงมือออก เฮียบุ๋นยิ้มๆ
“เอ้า กินเลยๆ”
ทองดีและเฮียบุ๋นทานอาหารจนเสร็จ จากนั้นเฮียบุ๋นเรียกพนักงานมาเก็บเงิน พนักงานเสริ์ฟเดินเอาบิลมาให้
“ทั้งหมดสองพันบาทค่ะ”
ทองดีได้ยินก็อึ้งไป เฮียบุ๋นลอบมองทองดีที่อึ้ง ก็ยิ้ม หยิบเงินออกมาวางในถาด2500
“ทิป 500 นะจ๊ะ”
เด็กเสิร์ฟ และทองดีตาลุกพอกัน
“ขอบคุณค่ะ”
เด็กเสิร์ฟถือถาดเงินออกไปอย่างดีใจ เฮียบุ๋นเก็บกระเป๋าเงิน ยิ้มๆ ชอบใจได้โชว์พาวให้ทองดีเห็น
“นี่...ค่าอาหาร 2000 ทำไมให้ตั้ง 2500”
เฮียบุ๋นยิ้ม
“ทิปไง”
ทองดีงงๆ
“ทิป...อะไรเหรอ”
เฮียบุ๋นมองอย่างสงสัย
“ไม่รู้จักจริงๆเหรอ”
ทองดีพยักหน้ารับ
“ก็น้องเขามาคอยดูแลบริการเราดี น้ำหมดก็มาเติม มายกอาหารให้เราก็ต้องให้น้ำใจกับเขาสิ”
ทองดีอึ้งไป
“โห...แค่ยกอาหารได้ทิปด้วย ทำไมที่บ้านฉันไม่เห็นมีใครให้เลย”
เฮียบุ๋นแปลกใจ
“ทองประกายว่าอะไรนะ”
ทองดียิ้มฝืนๆ
“เอ่อ...เปล่าหรอก”
เฮียบุ๋นยิ้มหวานเยิ้ม
“อยากไปไหนต่อหรือเปล่าจ๊ะ”
ทองดียิ้มเจื่อน ยังไม่รู้จะไปไหน
ทองดียืนเหม่อดูทีวีที่เปิดคอนเสิร์ตแด๊นซ์กระจายของศิลปินสาวคนหนึ่ง หน้าร้านขายดีวีดี เฮียบุ๋นมองๆ
“เอ่อ...ดูนานอย่างนี้ ซื้อแผ่นกลับไปดูบ้านเลยดีกว่าไหมจ๊ะ”
ทองดีละสายตาจากทีวี
“ฉันไม่มีบ้าน”
เฮียบุ๋นตกใจ
“อ้าว...แล้วน้องทองประกายมาจากไหน อยู่ที่ไหน แล้วจะไปไหน”
ทองดีโกหกทันที
“ฉัน...จะมาหางานทำที่กรุงเทพฯ แต่โดนขโมยกระเป๋าที่ท่ารถ ตอนนี้ยังไม่รู้จะเอายังไงกับชีวิตเลย”
“แล้วจะมาทำงานอะไรล่ะ”
ทองดีมองไปที่ทีวี
“ฉันอยากเป็นดารา...” ทองดียิ้ม ฝันไปครู่หนึ่ง แล้วหันมาถามเฮียบุ๋น “ลุง เอ้ย...เฮียช่วยได้ไหมล่ะ”
“เฮียคงช่วยไม่ได้หรอก งานเฮียมันคนละศาสตร์กับพวกดาราเขา”
ทองดีเศร้า เฮียบุ๋นยิ้ม เข้าทาง
“แต่ถ้าไปทำงานกับเฮีย มันก็อาจจะพอมีทาง เพราะคนในวงการเขาจะมาที่ร้านเฮียกันเยอะ”
“ร้านเฮียทำอะไร”
ทองดีสนใจทันที
ทองดียืนรออยู่ที่ประตูด้านข้างทางออกลานจอดรถ แล้วรถสปอร์ตสุดหรูก็แล่นปราดมาจอดเอี๊ยดตรงหน้า เฮียบุ๋นใส่แว่นดำเท่มากลงมาจากรถแล้วเปิดประตูให้
“เชิญครับ”
ทองดีมองๆรถ อย่างงงๆ ไม่ได้ตื่นเต้นแล้วขึ้นรถไป พอปิดประตู เฮียบุ๋นยิ้มให้
“เจอรถสุดเท่ห์ถึงกับอึ้งละสิ...อิอิอิ”
เฮียบุ๋นยืนหัวเราะขำสะใจ ทองดีเคาะกระจกตะโกนออกมา
“จะไปกันยัง”
เฮียบุ๋นหน้าเจื่อนรีบวิ่งขึ้นรถขับออกไป
รถเฮียบุ่นและมาติดไฟแดง ทองดีมองสำรวจ แต่ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เฮียบุ๋นลอบมอง ยิ้มๆ
“เป็นไงจ๊ะน้องทองประกาย รถเฮียแล่นฉิวเหมือนนั่งเครื่องบินไหม”
“ฉันไม่เคยนั่งเครื่องบิน ว่าแต่นี่เฮียรวยแน่เหรอ”
“นี่...เฮียไม่ใช่แค่รวยนะ ต้องบอกว่า รวยมาก”
“รวยมาก แล้วทำไมขับรถเล็กจัง คนรวยต้องขับรถคันใหญ่สิ นี่อะไรรถตุ๊กๆยังนั่งสบายกว่าอีก”
เฮียบุ๋นสะดุ้ง
“อะจ๊าก...นี่เอารถเฮียไปเปรียบกับตุ๊กๆเลยเหรอ”
“จริงไหมล่ะ รถตุ๊กฉันนั่งนะยังเหยียดขาได้เลย”
“โอ้โห...แบบนี้ต้องเจอไม้ตายซะแล้ว จะได้รู้ว่าเฮียบุ๋น รวยจริงรวยจัง รวยซีเรียส”
เฮียบุ๋นเปิดประทุนโชว์ซะเลย ทองดีมองอย่างตะลึง
“เฮ้ย...เปิดหลังคาได้ด้วย”
“นี่น่ะรถสปอร์ตเปิดประทุนจ้ะ ไม่รวยจริง ไม่มีทางได้ขับหรอกนะ”
ทองดีมองทึ่งๆ เฮียบุ๋นยิ้มพอใจ แล้วเปิดเครื่องเสียงโชว์ เพลงวัยรุ่นดังขึ้น ไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว เฮียบุ๋นเปลี่ยนเกียร์ พร้อมทั้งร้องเพลงที่เปิดตามอย่างดี๊ด๊าก่อนจะออกตัวรถแล่นฉิวตรงไป
เฮียบุ๋นพาทองดีมาที่คลับ เธอเดินตามเขาเข้ามาในนล็อบบี้ แล้วก็ถึงกับอึ้งไปกับคลับที่สวยงามโอ่โถง
“เป็นไง”
ทองดีตื่นเต้น
“สวยจัง...มันเป็นที่แบบไหนเหรอ”
“ไนท์คลับ ที่นี่น่ะใหญ่ติดอันดับต้นๆของประเทศเลยนะ คนในวงการก็มาเที่ยวกันเยอะ ถ้าทำงานกับเฮีย วันนึงอาจจะได้เป็นดาราก็ได้”
“จริงเหรอ แล้วฉันต้องทำอะไรบ้างล่ะ” ทองดีถามอย่างกระตือรือล้น
ทองดีนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานในห้อง เฮียบุ๋นสัมภาษณ์
“จบอะไรมาล่ะ”
ทองดีอ้อมแอ้ม
“จบ...ปริญญาตรี”
เฮียบุ๋นทำหน้าแบบไม่ค่อยเชื่อ
“ดี...งั้นเป็นพีอาร์ก็แล้วกัน”
ทองดีอึกอัก
“คือ...อะไร”
“อ้าว...ก็ Public relations staff ไง”
ทองดีอึ้งไปนิด
“ฉัน...ไม่รู้ภาษาอังกฤษหรอก”
เฮียบุ๋นงง
“เฮ้ย...จบตรีไม่รู้ภาษาอังกฤษ จบสาขาไหนมาเนี่ย”
ทองดีหน้าเสีย จำต้องบอกความจริง
“จริงๆแล้ว...ม.3 ก็ยังซ่อมไม่ผ่านเลย ฉันเลยเลิกเรียนเพราะหัวไม่ดี แม่กับเตี่ยเลยมาให้ช่วยงานที่ร้าน”
“ว่าแล้วไหมล่ะ เอ้า...แล้วจะทำอะไรได้ล่ะทีนี้” เฮียบุ๋นคิดนิดนึง “เต้นเป็นไหม จะให้เป็นโคโยตี้”
ทองดียิ้มแหย
“ไม่รู้จักอ่ะ”
“ก็เต้นประกอบเพลงบนเวทีไง”
“หางเครื่องน่ะเหรอ” ทองดีตื่นเต้นขึ้นมา “ฉันเคยดูในทีวี แล้วก็ที่งานวัดให้ฉันเต้นให้ดูไหมล่ะ”
“เอ้า งั้นลองเต้นให้ดูซิ”
ทองดีทั้งร้องทั้งเต้นมั่วๆงงๆให้ดู เฮียบุ๋น เห็นก็อึ้งส่ายหน้า
“เอาล่ะๆ พอเถอะ”
“ฉันเป็นไอ้ตี้ๆนั่นได้แล้วใช่ไหมเฮีย”
“อย่าให้ตอบเลย” เฮียบุ๋นกดอินเตอร์คอม “ตามวันดีให้หน่อย” เฮียบุ๋ยหันมาหาทองดี “เดี๋ยวให้วันดีเขาเทรนให้ เขาเคยเป็นดาวดังของที่นี่ แต่ตอนนี้เป็นกัปตันคุมเด็กๆแล้ว”
“เป็นดาวเลยเหรอ อย่างนี้ก็ต้องสวยมากสิ เพราะพวกดาววงดนตรีลูกทุ่งเขาสวยๆทุกคน”
ครู่หนึ่ง เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เข้ามา”
วันดีเปิดประตูเข้ามา เสื้อผ้าหน้าผมยังไม่ได้แต่ง ผมเพิ่งจะม้วนโรล ดูเหมือนแม่บ้านมากกว่า ทองดี และเฮียบุ๋นอึ้งไปทั้งคู่
วันดีเดินนำหน้า เชิดๆ คุยโดยไม่หันมอง ทองดีมองวันดีหัวจรดเท้า คิดว่านี่หรือดาว
“ทำยังไงเฮียเขาถึงพามาได้ล่ะ ใช้เต้าไต่มาล่ะสิ”
“อะไร ใช้เต้าไต่ แปลว่าอะไร”
วันดีชะงัก หันขวับ ตาโตใส่
“นี่หล่อน อย่ามาทำเป็นแอ๊บแบ๊วแถวนี้หน่อยเลย หมั่นไส้ ฉันไม่เชื่อหรอก”
“แล้วป้าอ่ะ ไหนเฮียบอกเคยเป็นดาวเด่น ไม่มีเค้าเลยสักนิด”
“อ๊าย นังเด็กปากเสีย แถมยังตาถั่ว หล่อนนี่มันไม่รู้อะไร เมื่อก่อนฉันน่ะตัวทำเงินของที่นี่เลยนะ แขกไทยเรียกวันดี ต่างชาติ call me Wandy!”
วันดีนึกถึงอดีต ตอนนั้นเธอสวยเฉิดอยู่บนเวที ในชุดกระโปรงฟูฟ่อง เต้นสามช่าอย่างสุดเหวี่ยงผู้ชายต่างตบมือเชียร์กันใหญ่ แถมยังยัดเงินตามตัวให้ไม่ขาดสาย วันดีเต้นอย่างมีความสุข...
วันดีเต้นอย่างเมามันจนจบท่าสุดท้ายแล้วโพสท์ ทองดีมองอึ้ง
“เป็นไง อึ้งไปเลยล่ะสิ เชื่อหรือยังล่ะ ว่าฉันน่ะดาวค้างฟ้า...”
ทองดียิ้มขำ
“เชื่อก็ได้ แต่สงสัยจะลอยอยู่ดวงเดียว”
วันดีเริ่มเศร้านิดๆ
“ฉันน่ะเป็นมาทุกอย่างแล้ว ทั้งพีอาร์ โคโยตี้ แล้วก็เด็กนั่งดริ๊งค์ แต่ทุกวันนี้ ก็อย่างที่เห็นนี่ล่ะ ต้องเปลี่ยนมาเป็นกัปตัน คอยดูแลพนักงานที่นี่ทั้งหมด” วันดีเปลี่ยนอารมณ์ จิกตามอง ทองดี “อีกหน่อยพอหล่อนแก่ หล่อนก็จะรู้เอง”
วันดีเดินเชิดนำหน้าไปต่อ ทองดีมองวันดี สงสารนิดๆ แล้วเดินตามไป
พี่ป๊อปครูฝึกสอนโคโยตี้ กำลังฝึกเหล่าโคโยตี้ เต้นกันอยู่ พี่ป๊อปนับจังหวะ
“เอ้า ห้า หก เจ็ด แปด”
วันดีเข้ามาพร้อมเสียง
“ครูป๊อป...”
พี่ป๊อปเต้นหมุนมาเจอหน้าวันดีเต็มๆ ก็ตกใจ
“ว้าย...แร้งทึ้ง...โธ่เจ๊วันดี จะมาดีๆก็ไม่ได้”
วันดีค้อน
“ก็มันยังไม่ถึงเวลางาน ฉันก็ยังไม่ต้องแปลงกายนี่ยะ” วันดีแตะแขนทองดี “เอ้านี่ ทองดี เฮียบุ๋นเขาฝากมาให้หัดโคโยตี้ แล้วนี่ก็เมย์ ดาวเต้นของที่นี่ ดูไว้ เผื่อวันหน้าอาจจะได้ตามรอยพวกฉัน”
วันดีเต้นให้ดูอีก พี่ป๊อปเอือม
“เจ๊ สมัยนี้เขาต้องเทคโนแด๊นซ์แล้ว สามช่าขนาดนี้ ไม่รำวงมาตรฐานไปเลยล่ะ”
วันดีค้อน พี่ป๊อปหันมองเดินวนรอบตัว ทองดีเขินๆ ทันใดนั้นพี่ป๊อปร้องขึ้นดังลั่น
“หน่วยก้านดี แต่จะให้ดูพี่ๆเขาไปก่อนก็แล้วกัน” พีป๊อบตบมือเรียก “เด็กๆ โชว์สเต็ป”
พี่ป๊อป และเหล่าโคโยตี้เต้น ทองดีมองอย่างสนใจ ขยับทำท่าตาม จนโคโยตี้เต้นจบพี่ป๊อปหันมาหาทองดี
“เต้นได้ไหม”
“ดูแล้วก็ง่ายๆ สบายมาก”
“ดีมาก งั้นเริ่มเลย”
พี่ป๊อปไปเปิดเพลง ทองดีเริ่มเต้น ดีได้ไม่กี่ท่าก็ล่ม พี่ป๊อปและวันดีต้องกุมขมับ พี่ป๊อปเดินไปปิดเพลง
“นี่ น้องทองประกายของพี่ ไหนบอกสบายมากไง เอาใหม่ๆ”
พี่ป๊อปเปิดเพลง ทองดีเริ่มเต้นใหม่ แต่ไม่นานก็ล่มเหมือนเดิม พี่ป๊อป และวันดีที่วิญญาณโคโยตี้เก่าเข้าสิงก็ลุกขึ้นไปเต้นประกบ ตบมือนับจังหวะให้จนเหนื่อย
เวลาผ่านไป วันดีกับพี่ป๊อบนั่งพิงกันด้วยความเหนื่อย โคโยตี้คนอื่นพากันหัวเราะเยาะ ยกเว้นเมย์ที่มองทองดีอย่างเห็นใจ ทองดีใจเสีย พี่ป๊อปถอนใจ
“จะรอดไหมเนี่ย แค่นับจังหวะยังผิดเลย คร่อมตลอด นับให้ก็คร่อม นับเองก็คร่อม ชอบคร่อมเหรอจ๊ะ เฮ้อ...”
โคโยตี้หัวเราะ ทองดีทั้งเสียใจทั้งโกรธ โพล่งออกมาจนทุกคนตกใจ
“ทำไม เต้นไม่เป็นแล้วมันน่าขำนักเหรอ ถ้าเป็นแล้วจะต้องมาเรียนไหมล่ะ ไม่ได้เกิดมาเป็นเทวดานะโว้ย”
ทองดีเดินกระแทกออกไป เมย์มองตามไป
ทองดียืนเซ็งอยู่ด้านนอกห้อง เมย์เดินตามออกมา ทองดีรู้ตัวหันกลับไปมองหน้างอไม่พอใจ
“จะตามมาหัวเราะเยาะฉันอีกใช่ไหม!”
เมย์ยิ้ม
“ไม่ใช่ พี่แค่อยากบอกให้เธอใจเย็นๆ แรกๆพวกเราก็เต้นไม่เป็นกันหรอก”
ทองดีแปลกใจ
“จริงเหรอ”
“จริง...เธอน่ะยังดูมีพรสวรรค์นะ ของพี่สิ มาวันแรกจะขยับขายังอายเลย รู้ไหมพี่เต้นยังไง ท่าเต้นสุดเหวี่ยงของพี่ก็แค่นี้เอง”
เมย์ยืนแล้วขยับขาเล็กน้อยแต่ฮัมเพลงที่มันสุดๆ ทองดีเริ่มขำแล้วสองสาวก็หัวเราะกัน วันดีเดินออกมายืนมองสองสาวแล้วค้อนหมั่นไส้
“นี่...มัวแต่หัวเราะกัน แล้วจะให้ทองประกายมันเริ่มเหมือนแกเหรอวะเมย์”
“ตอนนี้ยังเต้นไม่ได้ก็ต้องเริ่มงานอื่น” เมย์แนะ
ทองดีสงสัย
“ฉันควรทำงานอะไรอ่ะ”
“งานที่ได้เงินเยอะของที่นี่ ก็มีอยู่สามอย่างคือ พีอาร์ โคโยตี้ แล้วก็นั่งดริ๊งค์กับแขก ซึ่งหล่อนหมดสิทธิ์ไปสองอย่างแล้ว เหลือแต่นั่งดริ๊งค์” วันดีบอก
ทองดีงงๆ
“นั่งดริ๊งค์เป็นยังไง”
วันดี และเมย์มองหน้ากัน อึ้งในความไม่รู้ของทองดี
"เด็กนั่งดริ๊งค์ก็คือต้องไปกับแขกไงจ๊ะ เมื่อก่อนฉันนะ ได้วันละ หลายดริ๊งค์เลยล่ะ ยัยเมย์ยังเทียบฉันตอนนั้นไม่ได้เลยนะจะบอกให้” วันดีบอก
ทองดีหน้าตื่น
“นั่นมันขายตัวชัดๆ ไม่เอาหรอก ฉันไม่ทำ”
“อุ๊ย หมั่นไส้ ถ้าหล่อนเลือกงานได้ แล้วหล่อนมาที่นี่ทำไม โธ่ มันก็ไม่มีจะกินเหมือนกันนั่นล่ะ”
ทองดีสับสน
“แต่ถึงยังไงฉันก็ไม่ขายตัว ไม่เด็ดขาด ฉันจะไปขอ เฮียบุ๋นทำอย่างอื่น”
ทองดีเดินออกไป วันดีกับเมย์ถอนใจ ส่ายหน้า
อ่านต่อหน้า 2 เวลา 18.00 น.
ทองประกายแสด ตอนที่ 5 (ต่อ)
ทองดีนั่งอยู่ตรงหน้าเฮียบุ๋น ในใจมีความหวังว่าจะได้ตำแหน่งดีๆ
“เต้นไม่ได้ นั่งดริ๊งค์ไม่เอา”
“ฉันไม่ขายตัว”
เฮียบุ๋นถอนใจ
“งั้นให้เริ่มจากเด็กเสิร์ฟก็แล้วกัน”
ทองดีหน้าหุบทันที วันดีหัวเราะสะใจ
“ไงล่ะ สวยเลือกได้ ถูกใจไหมล่ะตำแหน่งนี้” วันดีหันไปบอกกับเฮียบุ๋น “วันดีเห็นด้วยกับเฮียนะคะ เด็กอาไร้ เรื่องมากสุดๆ ไอ้โน่นก็ไม่ทำ ไอ้นี่ก็ไม่ได้...ดัดจริต”
“ดัดจริต...แล้วเป็นเด็กเสิร์ฟ ก็ดีกว่าเป็นกะหรี่ละวะ” ทองดีย้อน
วันดีโกรธ
“ต๊าย...อีนี่ ปากแบบนี้เดี๋ยวเจ๊ตบหรอก”
วันดีจ้องหน้าโกรธจัด สองคนทำท่าจะทะเลาะกัน เฮียบุ๋นต้องห้ามทัพ
“เอาละๆๆ ไม่ต้องทะเลาะกัน” เฮียบุ๋นเดินไปหาทองดี “เดี๋ยวเฮีย จะพาไปดูห้องพัก”
วันดีตาลุก มองเฮียบุ๋นที มองทองดีที อย่างสอดรู้สอดเห็น
“ห้องพัก ที่ไหนเหรอเฮีย”
“ก็ที่ร้านนี่ไง เฮียให้คนจัดที่พักให้ทองประกายไว้แล้ว”
วันดีตะลึง
“ห๊า...ถึงกับได้ห้องพักเลยเหรอ”
เฮียบุ๋นหันมาหาทองดี
“ไป...ไปดูห้องกันนะ แล้วเดี๋ยวจะพาไปซื้อเสื้อผ้า ของใช้ที่ทองประกายอยากได้ ดีไหม”
ทองดีดีใจ
“จริงเหรอ...เฮียจะซื้อให้ทุกอย่างเหรอ งั้นพาฉันไปกินแพงๆแบบเมื่อกลางวันอีกนะ”
ทองดียิ้มเชิดหน้าใส่ วันดีรู้ว่าเฮียบุ๋นคงชอบเด็กคนนี้รีบเปลี่ยนสี อยู่ข้างทองดีทันที
“แหม...น้องทองประกาย จะไปดูห้องพักเหรอ งั้นเดี๋ยวพี่แวนดี้ไปด้วยนะ เราจะได้คุ้นเคยกัน อีกหน่อยต้องทำงานด้วยกัน” วันดีหันไปพูดกับเฮียบุ๋น “เฮียขา ไม่ต้องห่วงนะ แวนดี้จะช่วยโมดิฟายน้องทองประกายด้วย รับรอง สวยออร่าพุ่งกระเด็นออกมานอกหน้าแน่”
เฮียบุ๋นยิ้มชอบใจ แต่ทองดีงงกับวันดีมาก...เฮียบุ๋นพาทองดีออกไป วันดีลอยหน้าลอยตาตามออกไป
ในห้องที่ไม่หรูมาก ทองดีกำลังดูตู้เตียงในห้องอย่างชอบใจ แล้วมานั่งที่เตียง ลองกดๆเด้งๆดู เฮียบุ๋นมานั่งข้างๆ
“ชอบไหม”
“ชอบ เกิดมาฉันไม่เคยได้อยู่ห้องดีๆแบบนี้เลย ขอบคุณนะเฮีย”
“ไม่เป็นไรจ้ะ”
เฮียบุ๋มจะโอบมาหอมแก้ม
“อุ๊ย...ยังไม่ได้ดูส้วมเลย”
ทองดีลุกพรวดขึ้น ทำให้เฮียบุ๋นหน้าทิ่มลงไปเล็กน้อย เฮียบุ๋นเซ็ง
“ดูส้วมเหรอ มันดีกว่าหน้าเราตรงไหนวะ”
เสียงทองดีพูดมาจากห้องน้ำอย่างดีใจ
“อุ๊ย นี่เขาเรียกว่าชักโครกใช่ไหม...โห เจ๋งไปเลย”
เฮียบุ๋นส่ายหน้า
“เห็นส้วมดีกว่าเราเหรอเนี่ย”
วันดีเปิดประตูเข้ามา
“จ๊ะเอ๋ ทองประกาย”
เฮียบุ๋นหันมาทำหน้ายักษ์
“มาทำไมตอนนี้ ไปไป”
วันดีหน้าเหวอ แต่ทองดีออกมาจากห้องน้ำพอดี ยิ้มร่าเข้าไปดึงมือวันดีเข้ามา
“เข้ามาเลยพี่” ทองดีหันไปบอกเฮียบุ๋น “เฮียกลับไปก่อนนะ”
เฮียบุ๋นอิดออด ทองดีดันหลังให้ออกไป
“นะ...นะ ขอฉันคุยกับพี่วันดีก่อน”
เฮียบุ๋นจะไม่ยอมไป แต่ทองดีผลักออกไปจนได้ แล้วปิดประตู วันดีปราดเข้ามาใกล้ยิ้มๆ
“ขอบคุณกันเสร็จแล้วเหรอ”
ทองดีพยักหน้า
“ฮื่อ”
“ว่าแล้ว ว่าต้องไม่ธรรมดา ไม่งั้นเฮียไม่ประเคนของให้ขนาดนี้หรอกแล้วได้ตำแหน่งไหนล่ะ เมียรองอันดับ 1 อันดับ 2 หรือขวัญใจ เฮียบุ๋น”
ทองดีตกใจ
“เฮ้ย ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับเฮีย ไม่มีทางเป็นด้วย”
วันดีถอนใจ
“ค่อยโล่งอกหน่อย ความจริงเฮียบุ๋นแกก็ไม่ค่อยกินไก่วัดหรอกเมียแกดุ ถ้าไม่ถูกใจแกจริงๆ แกจะไม่ยุ่งเด็ดขาด”
“ฉันก็ไม่ชอบเฮียบุ๋นหรอก ไม่ใช่สเป็ค”
“ให้มันจริงเถอะ เดี๋ยววันหลังได้เยอะกว่านี้ จะเปลี่ยนใจ อุ๊ย...ตายแล้ว ไปดีกว่า ต้องไปกระจายข่าวต่อ”
วันดีออกไป เมย์เดินสวนเข้ามามองวันดี ยิ้มขำ แล้วเข้าไปคุยกับทองดี
“นักข่าวสายตรงของที่นี่ล่ะ”
ทองดีขำ
“ความจริงพี่วันดีแกก็ดีนะ”
“อีพี่วันเคยดีก็แบบนี้แหละ พอเฮียชอบใคร ก็เปลี่ยนสีมาเข้าพวกด้วย เผื่อเฮียจะให้สิทธิพิเศษยกห้องใหญ่ๆให้มั่ง”
“เมื่อกี๊เดินผ่านห้องพี่เมย์ด้วยล่ะ สวย แล้วก็กว้างกว่าทุกห้องเลย ทำไมพี่ถึงได้ ไม่เหมือนคนอื่นล่ะ”
เมย์อ้ำอึ้ง ไม่ยอมบอก ทองดีตัดบท
“ไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร ฉันก็ไม่ชอบรู้เรื่องคนอื่นหรอก” ทองดีหันไปเปิดทีวีหัวเตียงแล้วดีใจ “โห...นี่ไงพี่ ฉันฝันมาทั้งชีวิต อยากมีทีวีของตัวเอง”
เมย์ยิ้มเอ็นดูมองทองดีที่ดูสดใส มีความสุข
คืนแรกของการทำงาน ทองดีใส่ชุดเด็กเสิร์ฟ ยืนมองแสงสีเสียงในคลับอย่างตื่นตาตื่นใจแต่มีทิชชู่อุดหู วันดีเดินมาเห็นก็เรียก
“อยู่นี่เอง...ทองประกาย ทำอะไรอยู่ ไปเสิร์ฟของเร็วเข้า”
ทองดียังมองสถานที่เพลิน ไม่ได้ยินวันดีที่เรียกอีก วันดีเดินเข้ามาเขย่าแขน ทองดีสะดุ้งเอาทิชชู่ออก
“อุ้ย...มีอะไรเหรอพี่วันดี”
“จะอุดหูทำไมเนี่ย เดี๋ยวอีกหน่อยก็ชิน”
“ก็วันนี้มันยังไม่ชินนี่”
“เถียงอีก พี่จะให้เธอทำงานง่ายๆไปก่อน อย่างเตรียมน้ำแข็ง ช่วยเด็กเสิร์ฟเหล้า เสิร์ฟอาหาร แล้วเดี๋ยวพี่จะสอนชงเหล้าให้”
ทองดีหน้าเซ็ง ไม่อยากเป็นเด็กเสิร์ฟ แต่ก็เดินตามวันดีไป ระหว่างทางเดินผ่านแขกโต๊ะหนึ่งมีเด็กนั่งดริ๊งค์แต่งตัวสวยป้อนเหล้าให้ ทองดีหยุดมองแล้วก้มดูตัวเอง ถอนใจ รู้สึกว่าตัวเองช่างต่ำต้อย ก่อนจะจำใจเดินตามวันดีต่อไป
ทองดียืนอยู่หน้าบาร์เหล้า วันดีเอาโซดา น้ำแข็ง วางบนถาดตรงหน้า
“โต๊ะ 7 นะ เสิร์ฟดีๆอาจได้ติ๊ปเยอะ”
ทันใดนั้นมีเสียงเป่าปาก เสียงแซว เสียงเชียร์จากแขกหนุ่มๆดังขึ้น ทองดีหันไปมอง เมย์ และกลุ่มโคโยตี้ขึ้นเต้น แขกชอบใจกันใหญ่ แขกลุกมาให้ทิปโคโยตี้เยอะมาก ทองดีตาโตอยากเป็นบ้าง วันดีตีแขน
“เอ้า ไปได้แล้ว”
ทองดีสะดุ้ง
“จ้ะๆ”
ทองดียกถาดไป วันดีเต้นตามโคโยตี้
“แหมนังป๊อปมาว่าฉันเป็นแต่สามช่า สเต็ปไหนฉันก็สามารถย่ะ”
ทองดียกน้ำแข็ง โซดา เดินมาเสริฟที่โต๊ะหนึ่ง แต่เดินไปตาก็มองโคโยตี้ไป พอถึงโต๊ะ ก็ยังเสิร์ฟไปมองไป เลยไม่เห็นว่าแขกโต๊ะนั้นมองเธอตาเป็นมัน ทองดีเสิร์ฟเสร็จก็ยืนมองเหม่อ ยิ้มชอบใจ ขณะที่เหม่อมองดูโคโยตี้อยู่นั้น แขกก็จับมือของเธอ
“มานั่งดริ๊งค์กับพี่ไหมน้อง”
ทองดีตกใจ สะบัดออก
“ไม่”
ทองดีจะไปแขกรีบคว้ามือ ดึงเธอมาล้มลงบนตักพอดี แขกโต๊ะนั้นชอบใจกันใหญ่ ทองดีโกรธ รีบลุกขึ้น แล้วด่าอย่างไม่ไว้หน้า
“ฉันไม่ได้ขายตัว ไอ้พวกหื่น ไปกินขี้หมาไป๊!”
ทองดีหยิบเหล้า โซดาน้ำแข็ง เทใส่หัวแขกอย่างไม่ยั้ง แขกร้องโวยวาย วันดีวิ่งหน้าตั้งเข้ามาห้าม คนอื่นๆหยุดดูกันใหญ่
“ว้าย...หยุดๆๆเดี๋ยวนี้” วันดีดึงทองดีไว้ได้ “ขอโทษแขกเดี๋ยวนี้”
“ขอโทษมันทำไม มันมาลวนลามฉัน” ทองดีชี้หน้าด่าแขก “ขอให้แม่แกพี่น้องแกโดนอย่างฉันบ้าง”
แขกโกรธด่ากลับ
“เฮ้ย อย่าคิดว่าสวยแล้วกูจะยอมให้นะโว้ย แผนทำตัวไร้เดียงสา อัพค่าตัวน่ะ มันเชยแล้วน้อง มาทำงานแบบนี้ มันก็กะหรี่ทั้งนั้นแหละ!”
ทองดีโมโหจัด ถีบแขกจนล้ม วันดีร้องลั่น
“ว้าย ตายแล้ว ตายแน่ๆ”
เพื่อนๆช่วยพยุงชายคนนั้นขึ้นมา
“มึงกล้าถีบกูเหรอ”
แขกโมโหมาก ปรี่เข้าไปหาทองดี แต่วันดีขวางไว้ยกมือไหว้
“พี่ขา ใจเย็นๆนิดนึงนะคะ เด็กมันเพิ่งมา เรียนก็ไม่ได้เรียน บ้านน้อกกก บ้านอกมาก พ่อแม่ก็ไม่สั่งสอน ยกโทษให้มันเถอะนะคะ” วันดีหันไปดุทองดี “เอ้า ขอโทษพี่เขาสิ”
ทองดีเชิด
“ไม่!”
วันดีตกใจ
“ไม่ได้ ขอโทษเดี๋ยวนี้” วันดีจับมือทองให้ไหว้ “ไหว้ ขอโทษ เร็ว”
ทองดีพยายามดิ้น
“ไม่ๆ ปล่อยฉัน”
ทองดีพยายามดึงมือออก วันดีถึงกับต้องจับหัวกดให้โค้งขอโทษ วันดีกดไม่ปล่อย ทองดีร้องและดิ้นอยู่อย่างนั้น
“หยิ่งนักเหรอ ตัวเป็นทองหรือไง ถึงจับไม่ได้ ไหนขอดูหน่อยซิ”
แขกเข้าไปจับคอเสื้อทองดีจะเปิด เมย์รีบเข้ามาจับมือแขกไว้
“พี่คะ อย่าทำอะไรน้องมันเลย เอางี้นะคะ เดี๋ยวคืนนี้เมย์จะดูแลพวกพี่เองนะคะ นะคะ”
เมย์พากลุ่มแขกไป แล้วหันมาพยักเพยิดให้วันดีพาทองดีออกไป วันดีพยักหน้ารับดึงทองดีไป
“ไปๆๆ วันนี้ไม่ต้องทำแล้ว”
ทองดีถูกวันดีดึงมาที่ห้องพัก เธอทิ้งตัวนั่งลงอย่างโกรธๆ จะร้องไห้ แต่กลั้นไว้ วันดียืนมองอยู่ใกล้ๆ
“นี่ แม่ทองประกาย ทำไมมันถึงได้ดื้อด้านอย่างนี้ ถ้าเฮียรู้มีหวังโดนไล่ออกแน่”
“แต่มันทำฉันก่อน ฉันไม่เข้าใจ พวกผู้ชายที่บ้านมันก็ชอบแซวฉันแต่ก็ไม่เคยมีใครมาทำแบบนี้ แล้วถ้าฉันด่า พวกมันก็จะหยุดแต่ทำไมคนที่นี่ไม่หยุดแถมยังจะด่าฉันกลับอีก”
วันดีอึ้งไป แล้วยิ้มขำเอ็นดูในความเป็นเด็กอ่อนต่อโลก
“เด็กเอ๊ยเด็ก”
“ฉันไม่เด็กแล้วนะ”
“ย่ะ...แม่นางร้าย” วันดีถอนใจ “อยู่ๆไปเธอก็จะรู้เอง คนที่มันเสียเงินมันก็คิดว่าเงินมันใหญ่ทั้งนั้นแหละ”
“ฉันอยากได้เงิน อยากมีเงินซื้ออะไรได้อย่างใจทุกอย่าง แต่ไม่เคยคิดว่าจะใช้มันมาดูถูกคนแบบนี้”
“เอาอะไรกับคนกลางคืนวะ พยายามคิดให้ได้ว่าเราทำงานให้มันๆให้เงินเราก็พอ แล้วเธอจะมีความสุข” วันดีลูบหัวทองดี
เฮียบุ๋นนั่งดื่มเหล้าอย่างสบายอารมณ์ ทันใดนั้นมีเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น พร้อมกับทองดีเปิดเข้ามา เฮียบุ๋นลุกขึ้นเข้าไปโอบให้มานั่ง ทองดีไม่ชอบ แต่ก็จำยอม เพราะกลัวความผิด
“น้องทองประกายมาแล้ว มามา นั่งลง ไหนบอกมาซิว่างานวันนี้เป็นไงมั่ง”
ทองดีชะงัก นั่งไม่ลง
“ฉัน...เอ่อ...ฉันคิดว่าฉันทำไม่ค่อยดี”
เฮียบุ๋นงงๆ
“ไว้ค่อยๆหัดไปนะ เฮียจะส่งเสริมเอง”
“เฮียยังไม่รู้เรื่องเหรอ”
“เรื่องอะไรจ๊ะ”
“ช่างเถอะ เด็กเฮียออกจะเยอะ เรื่องฉันไม่น่าใส่ใจหรอก”
เฮียบุ๋นขยับมานั่งใกล้
“โถ เฮียจะไม่ใส่ใจทองประกายได้ยังไง” เฮียบุ๋นเอามือทำปูไต่แขนทองดี “ตอนนี้ในหัวใจเฮียมีแต่ทองประกายคนเดียว”
“แล้วเมียล่ะ มีคนเล่าว่าเฮียมีเมียแล้วนี่”
เฮียบุ๋นอึ้ง เลิ่กลั่ก
“เมียก็อยู่ส่วนเมีย มันไม่กล้ามาแหยมกับเฮียหรอก”
เฮียบุ๋นจับมือของเธอยื่นหน้าจะจูบ แต่เธอเอนตัวหลบ ทำหน้ายี้ ทันใดนั้นเสียงมือถือดังขึ้น เฮียบุ๋นชะงัก หยิบมือถือขึ้นมาดูอย่างเซ็งๆ
“โว้ย ใครวะ” พอเห็นหน้าจอก็สะดุ้ง กดรับ เสียงหวาน “จ๋าจ้ะ ที่รักเลิกเล่นไพ่แล้วเหรอ จ้ะเดี๋ยวเค้าไปรับนะ” เฮียบุ๋นวางสายอย่างเซ็งๆหันมาบอกทองแประกาย “เอ่อ...ทองกลับไปพักเถอะนะ เฮียไม่กวนละ”
ทองดีหัวเราะ
“โธ่ กลัวเมีย”
เฮียบุ๋นวางฟอร์ม
“อะไร พูดอย่างนี้ตีตายเลย กลัวที่ไหน แต่เห็นมันคอยก็สงสาร เฮียน่ะมีมนุษยธรรมหรอก”
ทองดียิ้มขำ
ทองดีล้มตัวลงนอนบนที่นอน เมย์นุ่งผ้าเช็ดตัว กำลังทาครีมอยู่หน้ากระจก
“ขอบใจนะพี่เมย์ที่วันนี้ช่วยฉันไว้”
“ไม่เป็นไรหรอก แต่ทองก็ต้องทำใจ ทำงานในที่แบบนี้มันก็ต้องเจอแบบนี้แหละ”
เสียงมือถือเมย์ดังขึ้น เธอเห็นหน้าจอก็ยิ้ม กดรับสาย เสียงหวาน
“ค่า...อยู่ที่ห้องสิคะเฮีย จะให้ไปไหนได้ล่ะ”
ทองดีได้ยินเมย์เรียกเฮีย ก็เอะใจ พูดงึมงำ
“เฮีย...เฮียบุ๋นแหงๆ อี๋...หัวงูชะมัด”
เมย์คุยไปยิ้มไปแล้วกดวางสาย ทองดีถามทันที
“แฟนเหรอ คุยกันหวานหยดย้อยเชียวนะ”
“ไม่รู้สิ ไม่รู้เรียกว่าอะไร รู้แต่ชอบเขาแล้วเขาก็ชอบ ก็โอเคแล้ว”
ทองดีไม่เข้าใจ
“งงอ่ะ มีแฟน แล้วทำไมไม่ไปอยู่กับแฟนให้แฟนเลี้ยง มาทำงานแบบนี้ทำไม แล้วแฟนไม่หึงเหรอ”
“อุ๊ย...ผู้ชายน่ะมันรักใครไม่เป็นหรอก อย่าไปอะไรกับมันมาก อิ่มแล้วก็ไป...” เมย์เข้าไปดึงทองดีให้ลุกขึ้น “แต่ว่าตอนนี้ ทองกลับห้องไปก่อนนะ เพราะคนที่โทรเขาจะมาหาที่ห้อง”
“จ้า...”
ทองดีเดินออกไป
วันต่อมา...ในห้องซ้อมเต้น พี่ป๊อปกำลังนำเหล่าโคโยตี้เต้น โดยมีทองดีนั่งดูอยู่ พอเพลงจบ เธอก็เข้าไปหาพี่ป๊อป
“พี่ป๊อป ฝึกให้ฉันด้วยนะ ฉันอยากเต้น”
“โอ๊ย...ไม่ล่ะ ฝึกให้เธอ ฉันกลัวเหนื่อยเปล่า ได้ข่าวว่าได้งานแล้วนี่อย่ามาหลอกมาหลอนฉันเลย”
ทองดีออดอ้อน
“น่า...พี่ป๊อบ ฝึกให้ฉันนะ ฉันไม่อยากเป็นเด็กเสิร์ฟอ่ะ” ทองดีนึกได้ “เอางี้...ถ้าพี่ยอมฝึกให้ ฉันจะไปดูหนังด้วย นะๆ”
พี่ป๊อบ และทุกคนอึ้งไปชั่วขณะ แล้วพี่ป๊อปก็ร้องกรี๊ด ออกมาดังลั่น ทองดีตกใจ
“ทำไมต้องกรี๊ดด้วย เอ๊ะ แล้ว...ทำไมถึงร้องกรี๊ดได้ล่ะ”
ทุกคนขำกันใหญ่ โคโยตี้คนหนึ่งแซว
“ต๊าย ทอง จะชวนพี่ป๊อปข้ามเพศกลับเป็นเพศเดิมเหรอจ๊ะ”
ทองดียังไม่เข้าใจ เมย์เข้ามาบอก
“แถวบ้านไม่มีกะเทยหรือไง ถึงได้ดูไม่ออกน่ะ”
ทองดีเก็ท หัวเราะขำ
“อ๋อ...ขอโทษจ้ะพี่ป๊อป ฉันไม่รู้จริงๆ”
พี่ป๊อบตัดบท
“เอาล่ะๆ ฉันจะฝึกให้ แต่ที่ฝึกให้เพราะกลัวหล่อนจะมาจีบฉันนะยะ อึ๋ย ขนลุก น่ากลัวนะหล่อนเนี่ย”
พี่ป๊อบเริ่มฝึกให้ แต่ทองดีก็เต้นผิดๆถูกๆ พี่ป๊อปเซ็งๆ สุดท้ายทองดีก็หลับหูหลับตามั่วเต้นเอามันตามสไตล์ตัวเอง ทำเอาทุกคนอึ้ง พอเพลงจบพี่ป๊อปตบมือให้ใหญ่ ทองดีหันมาถาม
“ฉันเต้นเป็นไง”
“เต้นผิดเสต็ปตามเคย”
ทองดีหน้าเสีย
“แต่ท่าของหล่อนนี่ โอ๊ยยยย พรสวรรค์มากๆ แบบนี้กด like ให้เลยค่ะ”
พี่ป๊อบยกนิ้วโป้งให้สองข้าง วันดีแอบดูอยู่หน้าประตู ตะลึงตาค้าง แล้วรีบผลุบออกไป
วันดีเข้ามารายงานเฮียบุ๋นในห้องทำงาน เฮียบุ๋ยตื่นเต้น
“เหรอ...ทองเขาเต้นได้ขนาดนั้นเลยเหรอ ดีๆ งั้นให้เขาฝึกไปก่อน เฮียจะได้ปั้นดาวดวงใหม่ไว้เรียกแขกเพิ่ม”
วันดีเหล่มอง
“ดูเฮียจะปลื้มเด็กคนนี้จริงนะ ชอบเหรอ”
เฮียบุ๋นกระซิบบอก
“ชอบสิวะ อยากได้มาเป็นสมบัติส่วนตัวเลยล่ะ...ถามทำไม”
วันดีกระซิบตอบ
“ซ้อจ้างให้ถาม”
เฮียบุ๋นกุมขมับ
“อีนกสองหัว นี่แกจะอยู่ข้างไหนเนี่ย”
“ข้างที่จ่ายหนักกว่าไงล่ะ ซ้อให้มาสองพันค่าคำถาม เฮียจะให้ค่าคำตอบเท่าไหร่”
“ฮึ่ย...สามพัน”
“ก็ได้ งั้นย้ายข้าง” วันดีเปลี่ยนมายืนอีกข้างของเฮียบุ๋นแล้วยกมือขึ้นมา “กิ๊ฟมีไฟว์”
เฮียบุ๋นแปะมือวันดีอย่างเซ็งๆ
เย็นนั้น ทองดีกำลังซ้อมเต้นอยู่หน้ากระจก อย่างมีความสุข มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น“เดี๋ยวจ้ะ”
ทองดีไปเปิด เจอเฮียบุ๋นยิ้มหวาน ในมือถือช่อดอกไม้ร้องเพลง หมุนตัวเข้ามาในห้อง
“loving u too much so much very much right now...” เฮียบุ๋นคุกเข่าลง แล้วยืนช่อดอกไม้ให้ “สำหรับทองประกายจ้ะ”
ทองดียิ้มๆ รับมา เฮียบุ๋นได้ใจเข้ามาจับจะจูบ
“น้องทองจ๋า”
เฮียบุ๋นยื่นหน้าจะจูบ ทองดีเอาช่อดอกไม้มาขวาง
“ถ้าอยากจีบ ก็ต้องให้ฉันเป็นโคโยตี้สิ ฉันเต้นได้บ้างแล้วนะ”
“no” เฮียบุ๋นโบกนิ้วไปมา “เฮียทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกจ้ะ งานก็คืองานนะ ถ้าพี่ป๊อบยังไม่รับรองมาตรฐาน เฮียก็ยังไม่อนุมัติจ้ะดาหลิง”
ทองดีโกรธ
“งั้นก็ไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก ไม่ต้องมาจับแม้แต่ชายเสื้อเลยด้วย”
ทองดีผลักเฮียบุ๋น แล้วออกไป ปิดประตูดังปั้ง เฮียบุ๋นจ๋อย
“โธ่ น้องทองประกาย...ทำไมต้องทำร้ายหัวใจพี่ด้วย”
ค่ำนั้น ทองดีกำลังฝึกชงเหล้า โดยมีวันดีคอยคุม
“เอ้า...ชงดีๆสิจ๊ะคุณน้องทองประกาย”
“ทำไมฉันต้องมาเสิร์ฟอาหาร ชงเหล้าอยู่อย่างนี้ด้วยนะ”
“อีกแล้ว พูดอย่างนี้อีกแล้ว ชีวิตต้องสู้น่ะ เคยได้ยินไหม” วันดีร้องเพลงเสียงแหลม “ต้องสู้ ต้องสู้ถึงจะชนะ...”
ทันใดนั้นเสียงแขกดังขึ้น
“น้อง! ไปชงเหล้าให้พี่ที่โต๊ะหน่อยสิ”
วันดีสะดุ้ง หยุดร้องทันทีหันมามองทองดีจำได้ว่าเป็นแขกที่มีเรื่องเมื่อคืน วันดีทำเป็นพูดเล่นไปชี้ตัวเอง
“น้องเหรอคะ”
แขกชี้ทองดี
“น้องคนนั้นต่างหาก ไม่ใช่ป้าของน้อง”
วันดีเริ่มใจไม่ดี ทองดีพยายามพูดนิ่งๆ
“ไม่ไปหรอกพี่”
ทองดีชงเหล้าต่อ ไม่สนใจ แขกโยนเงินให้
“งั้นพี่ขออ๊อฟไปนอนด้วย ว่าไง จะเอาเท่าไหร่ว่ามา”
“ไม่ไป”
“ยังกล้าเล่นตัวอีกเหรอ” แขกคนนั้นหยิบเงินออกมา “เงินน่ะ มึงเคยเห็นไหม กูจะซื้อมึงขายเท่าไหร่”
ทองดีโกรธ เอาเหล้าสาดหน้า วันดี และคนอื่นๆตกใจ แขกโกรธมาก
“กล้ามากนะ วันนี้กูไม่ปล่อยไว้แน่”
แขกกระโดดขึ้นเคาท์เตอร์จะตะปบทองดี วันดีดึงไว้
“ว้าย พี่ อย่ามีเรื่องเลย” วันดีเรียกพนักงาน “ช่วยกันห้ามหน่อยเร็ว”
ทองดีไม่กลัว
“มาเลย”
ทองดีเอาน้ำแข็ง น้ำสาดใส่ไม่ยั้ง
“ไอ้โรคจิต”
เฮียบุ๋นเข้ามา
“หยุดๆ อะไรกัน”
ทุกคนหยุด แขกหันมามองเฮียบุ๋น
“อ่อ..มาแล้วเหรอเฮียบุ๋น” แขกกระโดดลงมาจากเคาท์เตอร์ “สั่งสอนเด็กยังไง ให้ทำมารยาททรามกับแขกได้ ให้มันมากราบผมเดี๋ยวนี้”
เฮียบุ๋นไม่ยอม
“แต่ที่ผมเห็น คุณไม่สุภาพกับเด็กผมก่อน”
“อ้าวเฮีย พูดอย่างนี้จะไม่ขอโทษผมใช่ไหม เฮียก็รู้นี่ ว่าผมสามารถสั่งให้ใครมาปิดคลับของเฮียเมื่อไหร่ก็ได้”
“ถ้าคุณอยากจะฟ้องใครให้มาปิดร้านผมก็เชิญ” เฮียบุ๋นตบมือเรียกเสียงเข้ม “เด็กๆ!”
ชายฉกรรจ์ลูกน้องเฮียบุ๋นออกมาล้อมแขกไว้ เฮียบุ๋นจ้องหน้า
“ถ้าคุณรอดออกไปฟ้องใครนะ”
แขกกับเพื่อนอึ้ง โมโหกลับไปด้วยความเจ็บใจ เฮียบุ๋นเห็นแขกทุกคนยืนมองกันอึ้ง ก็ประกาศลั่น
“ไม่มีอะไรแล้วครับ เชิญสนุกกันต่อได้เลย วันนี้ผมลดให้ 20% ทุกโต๊ะ”
แขกอื่นๆตบมือเฮกันลั่น แล้วแยกย้ายไปนั่งที่ เสียงเพลงสนุกดังขึ้นมาใหม่ เฮียบุ๋นหันไปหาทองดี
“กลับไปทำงานต่อเถอะ”
เฮียบุ๋ยเดินไป ทองดีมองตามยิ้มๆ เริ่มรู้สึกดีกับเฮียบุ๋น
หลังจากที่ร้านเลิกแล้ว พนักงานช่วยกันเก็บร้านกันอยู่ เด็กทำความสะอาดคนหนึ่งก็วิ่งมาหาทองดี
“ทอง...มีแขกทำกระเป๋าตังค์หายน่ะ ทองเห็นบ้างไหม เขา บอกว่าทองชงเหล้าที่โต๊ะเขานะ”
ทองดีนึกไม่ออก
“แขกคนไหน”
พนักงานส่ายหน้า
“ไม่รู้สิ แต่เขารออยู่ข้างนอก”
ทองดีพยายามนึก
“ไปบอกเขาเถอะ เดี๋ยวหาว่าเราขโมยนี่เรื่องใหญ่เลยนะ เฮียแกไม่เลี้ยงไว้แน่”
“อือๆ เดี๋ยวฉันไปคุยกับเขาเอง”
ทองดีเดินออกไป
เมื่อออกไปด้านนอกทองดีก็ต้องตกใจที่เจอกับแขกกลุ่มที่มีเรื่อง แขกยิ้มร้าย พากันเดินเข้ามา ทองดีหันหลังจะหนี
“ลากมันมา”
แขกกรูกันเข้าไปจับทองดี จะลากตัวขึ้นรถ ทองดีดิ้นต่อสู้
“ปล่อยฉัน ปล่อย ช่วยด้วย...”
ทันใดนั้นเสียงบีบแตรรถยาวมากดังขึ้น พร้อมกับสาดไฟสูงใส่ทั้งกลุ่ม ทั้งหมดตกใจหันไปมอง
อ่านต่อหน้า 3 เวลา 12.00 น
ทองประกายแสด ตอนที่ 5 (ต่อ)
มิตรจอดรถวิ่งตรงเข้ามาช่วยทองดี
“เฮ้ย...หยุดเดี๋ยวนี้นะ รังแกผู้หญิงตัวนิดเดียว ไม่เท่ห์หรอก”
ลูกค้าชะงักหยุดมือหันไปมอง ทองดีรีบวิ่งไปหลบหลังมิตร
“ช่วยด้วยค่ะ พวกมันจะปล้ำหนู”
มิตรมองทองดีเห็นหัวหูยุ่งเหยิงไปหมด หันไปมองพวกลูกค้าอย่างไม่พอใจ
“ขอโทษนะครับ ถ้าผู้หญิงเค้าไม่เต็มใจ ก็อย่าไปบังคับใจเค้าเลย”
“แล้วมึงมาเกี่ยวอะไรด้วย หมูเค้าจะหาม มึงอย่ามาเสือก” ลูกค้าตะคอก
“ขอโทษนะครับพี่ น้องเค้าเป็นพนักงานเสริฟต์ในร้าน ไม่ออกไปกับแขก แต่ถ้าพวกพี่อยากสนุกอย่างว่า ผมจะไปตามผู้หญิงแบบนั้นมาให้ดีมั๊ยครับ”
“ไม่เอา...กูอยากได้เด็กคนนี้ ใครจะทำไม มึงรู้หรือเปล่า กูเป็นใคร”
มิตรยิ้มแย้ม
“ครับ...ผมทราบว่าพี่กำลังหงุดหงิด เอาอย่างนี้ดีมั๊ยครับ ผมจะ เลี้ยงเหล้าพี่เป็นการขอโทษแทนน้องคนนี้”
“กูไม่แดกเหล้า กูจะเอาอีนี่ มันปากดีนัก เอาเหล้าสาดหน้ากูด้วย มึงหลีกไป”
ลูกค้าต่อยอย่างแรงมิตรหลบทัน ลูกค้ายิ่งโมโห
“ผมว่าเราอย่าใช้กำลังดีกว่านะครับ”
ลูกค้าไม่ฟัง รุมเข้าหามิตรทันที เหตุการณ์เริ่มชุลมุน ทองดีหันรีหันขวาง ทำอะไรไม่ถูก โดดเอารองเท้าตีหัวลูกค้าช่วยมิตร ลูกค้าเห็นท่าไม่ดี ทำท่าจะชักปืนออกมา แต่เสียงปืนดังขึ้นก่อน ทุกคนตะลึง เฮียบุ๋นเดินเข้ามาพร้อมกับการ์ด
“มึงคิดจะใช้ปืนเหรอ ถามปืนกูก่อนดีมั๊ย”
ลูกค้าไม่พอใจ
“เฮ้ย...มึงขู่กูหรือ”
“ไม่ได้ขู่ แต่กูเอาจริง ไม่อยากคุยกับกู คุยกับตำรวจดีมั๊ย กูตามมาแล้วรอแป๊บ”
“ฝากไว้ก่อนเถอะมึง พวกเรากลับ”
ลูกค้าพร้อมพวกทำท่าจะเดินออก เฮียบุ๋นรีบขวางไว้ การ์ดของเฮียบุ๋นเข้าล๊อคแขนลูกค้าไว้
“มึงจะทำไมกู...อย่านะ พ่อกูใหญ่นะโว๊ย”
“เหรอ...งั้นฝากไอ้นี่ไปให้พ่อมึงด้วย”
เฮียบุ๋นเอาปืนตบปาก ลูกค้าคนนั้น เลือดกลบปาก
“อุ๊ย...อุบัติเหตุ ผมป้องกันตัวโดยสุจริต” เฮียบุ๋นหันไปบอกลูกน้อง “ปล่อยมันไป”
การ์ดปล่อยตัวลูกค้า พรรคพวกช่วยกันประคองลูกค้าออกไป เฮียบุ๋นหันไปมองเห็นทองดีกำลังประคองมิตรอยู่
ทองดีทำแผลให้มิตรอยู่ในห้องทำงาน เฮียบุ๋นนั่งมองมิตรอย่างอ่อนใจ
“ลื้อนึกยังไงวะ ถึงไปหาเรื่องกับพวกมัน”
“ก็ฉันเห็นมันกำลังรังแก เอ่อ...”
“ฉันชื่อทองประกายจ๊ะ...” ทองดีหันไบอกเฮียบุ๋น “พวกนั้นมันจะพาฉันออกไปข้างนอก แต่ฉันไม่ยอม มันก็ไม่ฟังเสียง”
“ก็เลยเอาเหล้าสาดหน้ามันใช่มั๊ยล่ะ เออ...เจริญ ขืนทำแบบนี้ ลูกค้าคงหนีหมด”
มิตรออกรับแทนทองดี
“อย่าไปโทษทองประกายเลย แขกพวกนั้นมันเมาด้วยแหละเฮีย”
ทองดีหน้าเหวอ
“อ้าว...คุณเป็นน้องของเฮียหรือ ไม่อยากเชื่อเลย เฮียทั้งแก่ทั้งดำ แต่ทำไมคุณถึง...”
เฮียบุ๋นค้อน
“...แหม...พูดซะฉันเสียหายเลยนะทองประกาย ไอ้คุณมิตรนี่มันเป็นลูกแม่เล็กของเตี่ยฉัน ไปเรียนเมืองนอกเมืองนาหลายปี เออรู้จักกันซะเลย”
ทองดียกมือไหว้มิตรอย่างอ่อนน้อมหน้าตาตื่นเต้น
“โหย...คุณไปเรียนถึงเมืองนอกเมืองนา เก่งจังเลย แถวบ้านฉันใครได้เข้ามาเรียนในกรุงเทพนี่ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว”
เฮียบุ๋นมองทองดีขำๆ
“เธอนี่มันซื่อๆ...น่ารักดีเหมือนกันนะ ต่อไปก็เลี่ยงๆแขกพวกนั้นไว้แล้วกัน”
“จ๊ะ เฮีย...ถ้าเจอคราวนี้ฉันจะวิ่งหนีให้ไกลเลยจ๊ะ”
ทองดีเขินเช็ดแผลมิตรแรงไปหน่อย เขาสะดุ้งคว้ามือเธอไว้
“อุ๊ย...เจ็บจัง เบาหน่อยสิทองประกาย”
“ขอโทษจ๊ะ คุณมิตร ทองไม่ทันระวัง”
มิตรยิ้มแบบไม่คิดอะไร ทองดียิ้มแอบเขิน ทำแผลต่อไป เริ่มประทับใจในตัวคุณมิตร
พนักงานสองคนแอบฟังอยู่หน้าห้อง พอทองดีเปิดประตูออกมา ทุกคนแตกกระจาย แต่เมื่อเห็นว่าเป็นทองดี ทุกคนกรูเข้าไปหา
“เป็นไงบ้างทองประกาย”
“ฉันไม่เป็นอะไรหรอก ขอบใจนะ”
“ฉันไม่ได้ถามถึงหล่อนย่ะ คุณมิตรน่ะ...คุณมิตรเป็นยังไงบ้าง”
“อ้าว...แล้วก็ไม่บอก คุณมิตรไม่เป็นไรมากหรอกจ๊ะ แค่ฟกช้ำ ฉันทำแผลให้เรียบร้อยแล้ว”
พนักงานหน้าตื่น
“ตายจริง เป็นแผล โอ๊ย...แล้วทำไมไม่เรียกฉันเข้าไปทำแผลให้ โถ...พ่อคุณ เจ็บมาหรือเปล่าก็ไม่รู้”
พนักงานอีกคนจีบปากจีบคอออกท่าออกทางพูด
“แหม...เป็นฉันหน่อยไม่ได้ แม่จะถวายชุดใหญ่จัดเต็ม ทั้งนวดทั้งเฟ้น เอาให้ครบคอร์สไปเลย ไม่แค่ทำแผลหรอก”
พนักงานมองเพื่อนเหยียดๆ
“อย่าทำพูดไปเลย หน้าปลวกอย่างหล่อน คุณมิตรเค้าคงไม่ลงมือช่วยให้เสียเวลา ดีไม่ดี จะช่วยไอ้พวกนั้นซ้อมแกด้วย...โทษฐาน หน้าตาสวยเกิ๊น...”
พนักงานค้อนเพื่อน
“อีบ้า พูดแบบนี้มาตบกันเลยดีมั๊ยเนี่ย...” พนักงานคนนั้นหันไปหาทองดี “แหม แกมันโชคดีจริงๆนะทองประกาย คุณมิตรอุตส่าห์ออกหน้าช่วย พวกเราอยู่มาเป็นปี ได้เห็นหน้าแกไม่กี่ครั้ง...ก็อย่างว่า คนหล่อๆเรียนสูงๆ ผ่านเมืองนอกเมืองนามา คงไม่ชายตามองผู้หญิงอย่างเราหรอก”
“พูดก็พูด ฉันชักอิจฉาแกแล้วนะทองประกาย...แกนี่มันขี่ดวงมาจริง...จริ๊ง”
พนักงานทั้งสองเดินออกไป ทองดียิ้มอย่างปลื้มๆ
เฮียบุ๋นส่งบัญชีให้มิตรดู เขามองหน้าพี่ชายเป็นเชิงถาม
“เอานี่...รายละเอียดงานของคลับนี้ ลองอ่านดู ฉันอยากให้แกมาช่วยเรื่อง แขกวีไอพี อยากทำเป็นเมมเบอร์ จับพวกแขกกระเป๋าหนักแบบมีระดับ รวยจริง ไม่ใช่พวกไฮโซอัพเกรด พอไหวมั๊ย”
มิตรเปิดอ่านดูคร่าวๆ
“ไม่มีปัญหาหรอกเฮีย พวกนี้เรียกร้องการบริการแบบแตกต่างเหนือระดับแต่ยอดจ่ายไม่อั้น เออ...เฮีย ทองประกาย เค้ามาทำงานกับเฮียนานหรือยังเนี่ย”
“สักพักนึงแล้ว” เฮียบุ๋นนึกได้ “ถามแบบนี้หมายความว่าไง สนใจทองประกายล่ะสิ”
มิตรยิ้ม
“ก็สวยดีนะ แถมท่าทางยังซื่อๆ ดูธรรมชาติดี”
“เฮ๊ย...สมภารต้องไม่กินไก่วัดนะ...กฎข้อแรกเลยนะ อย่ายุ่งกับเด็กในร้าน ดูอย่างเฮียเป็นตัวอย่าง เห็นมั๊ย ไม่อย่างนั้น มันจะเสียการปกครอง เด็กมันจะไม่นับถือ”
“อ๊ะ...กฎนี้คุ้นๆ อ๋อนึกออกแล้ว อาซ๊อเป็นคนตั้งกฎข้อนี้เอง แล้วสั่งให้เฮียปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด แต่เอ๊ะ...ผมได้ข่าวว่าเฮียยังมีอะไร กรุบกริบๆ อยู่ไม่ใช่หรือ เออ...ชื่ออะไรนะ เมย์...หรือมายด์ นึกไม่ออกแฮะ”
เฮียบุ๋นค้อน
“นึกไม่ออกก็อย่านึกเลย หาเรื่องให้กูแล้วมั๊ยเนี่ย อย่าเผลอหลุดปากให้ซ๊อมึงรู้เชียวนา เฮียเน่าสถานเดียว ว่าแต่แกชอบทองประกายใช่มั๊ยล่ะ ไม่ต้องมาทำปากแข็ง”
มิตรยิ้ม แต่ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ
“ไม่ต้องมาทำเก๊กเลย ฉันว่าแกต้องชอบแน่นอน เฮ้อ...ไม่เป็นไร ถ้าแกชอบฉันก็ยกให้” เฮียบุ๋นแอบบ่น “อดเลยกู อุตส่าห์ถนอมกล่อมเกลี้ยง สุดท้ายหมาคาบไปแดก”
“อ้าว...เฮียว่าใครเป็นหมาเนี่ย ไม่รู้ล่ะ เฮียยกให้ฉันแล้วนะ”
“เออ...เออ...กูไม่ยุ่งก็ได้วะ แต่เอ็งอย่าปากโป้งเรื่องอื่นให้ซ๊อมึงรู้แล้วกัน ไม่งั้นกูเละ”
มิตรยิ้ม
“เออน่า ไม่พูดหรอก สงสัย ฉันต้องเข้ามาที่ร้านบ่อยๆซะแล้ว”
มิตรยิ้มอย่างมีนัย เฮียบุ๋นส่ายหน้าเสียดาย
ทองดีเดินมากำลังจะไขประตูห้อง เมย์นั่งรออยู่ที่หน้าห้อง ทองดีร้องทัก
“อ้าว...ทำไมมานั่งอยู่เงียบๆ ไม่ไปเที่ยวไหนหรือ”
“ฉันได้ข่าวจากเจ๊วันดีว่า เธอมีเรื่องกับลูกค้าหรือ”
“ใช่...ไอ้พวกสวะนั่นน่ะ มันจะออฟฉัน แต่ฉันไม่ยอม มันเลยพาพวกมาหาเรื่อง จะฉุดฉันขึ้นรถ แต่พอดีคุณมิตรมาช่วยไว้ทัน”
ทองดีทำท่าปลาบปลื้มมากจนเมย์ผิดสังเกต
“คุณมิตร น้องเฮียบุ๋นน่ะหรือ”
“ใช่ ท่าทางแกดี๊...ดี ไม่เห็นเหมือนเฮียบุ๋นเลย ไม่น่าเป็นพี่เป็นน้องกันได้”
เมย์ยิ้มๆ
“ท่าทางทองจะปลื้มคุณมิตรนะ มีเรื่องเจ็บตัวแท้ๆ ยังยิ้มแก้มปริ”
“ฉันไม่มีอะไรหรอก ก็ดีใจที่รอดมาได้แหละ เออ...เมย์มีธุระอะไรหรือเปล่า เข้าไปคุยในห้องก่อนสิ”
“ไม่ต้องหรอก ฉันแค่จะมาเตือนเธอ ทำงานแบบนี้ เธอต้องระวังตัวให้มากนะ อย่าไปไหนมาไหนคนเดียว”
“ทำไมล่ะ ก็ฉันไม่ได้ทำอะไรใครนี่นา”
เมย์ถอนใจ
“เฮ้อ...ถึงไม่ได้ทำอะไรใครก็เหอะ ไอ้คนที่มาเที่ยวสถานที่แบบนี้ มันก็เห็นเราเป็นสินค้านั่นแหละ คิดว่าจ่ายเงิน แล้วจะทำยังไงก็ได้ คนแบบนี้เลี่ยงได้ก็เลี่ยง หลบได้ก็หลบ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็ถือว่าทำทานไปแล้วกัน”
“ขอบใจนะ เมย์...เธอดีกับฉันจริงๆ ถือว่าฉันเป็นน้องสาวก็แล้วกันนะ มีอะไรก็คอยเตือนคอยสอนฉันด้วย”
เมย์ยิ้มให้
“เธอทำให้ฉันนึกถึงตัวเอง ตอนวันแรกที่เข้ามากรุงเทพ ก็แบบนี้แหละ อยู่ๆ เธอก็จะเก่งขึ้นเอง แต่เธอโชคดีกว่าฉันเยอะ วันนั้นฉันไม่รู้อะไรเลย ไม่กล้า กลัวไปทุกอย่าง วันนี้ฉันเลยต้องมีสภาพเป็นแบบนี้”
ทองดีแปลกใจ
“เป็นยังไงหรือ”
เมย์หน้าเศร้าอึกอัก ขณะเดียวกันนั้นเสียงมือถือของเมย์ดังขึ้น เธอมองดูหน้าจอโทรศัพท์หยิบขึ้นมารับอย่างดีใจ
“ได้ค่ะ เฮีย...เมย์จะรอนะคะ”
เมย์กดโทรศัพท์วางสายแล้วหันไปเห็นสายตาของทองดี เธอหลบตาวูบ
“ฉันขอตัวก่อนนะทอง อย่าลืมล็อกกลอนให้แน่นหนาด้วย ใครมาเคาะก็อย่าเปิดนะ”
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก โชคดีนะเมย์”
เมย์ยิ้มแล้วรีบเดินไป ทองดีมองตามไปอย่างสงสัย
“ไม่เข้าใจ ผู้หญิงสวยๆอย่างเธอ ต้องยอมเป็นเมียน้องของเฮียบุ๋นด้วย”
ทองดีนอนหลับฝันไป ในความฝันเธออยู่ในชุดแต่งงานมีผ้าคลุมเดินไปตามทางที่โรยด้วยกลีบดอกไม้ มิตรยืนรออยู่ตรงหน้า ยื่นมือมาให้จับ ทองดีเอื้อมมือไปรับ
“คุณแต่งงานกับผมนะครับ คุณทอง”
“ค่ะ...คุณมิตร”
ทองดีเงยหน้าขึ้น มิตรเปิดผ้าคลุมหน้า ทองดีตะลึง มิตรกลายเป็นพิสุทธิ์
“พี่พิสุทธิ์”
ทองดีสะดุ้งตื่นลุกพรวดขึ้นจากที่นอน
“บ้าจริง...ฝันเป็นเรื่องเป็นราว แต่คุณมิตรคงไม่เหมือนพี่พิสุทธิ์หรอก คนเคยเรียนสูงๆผ่านเมืองนอกเมืองนามาแล้ว จะเหมือนกันได้ยังไง”
ทองดีลุกขึ้นไปดื่มน้ำ แล้วกลับมานั่ง
“เค้าคงมีอะไรบางอย่างเหมือนกันบ้างแหละ ไม่อย่างนั้นเราจะฝันถึงทั้งสองคนได้ยังไง เฮ้อ...ประสาทจริงๆ”
ทองดียิ้มแล้วล้มตัวลงนอนฝันหวานต่อไป
เช้าวันใหม่...ในห้องซ้อมเต้นโคโยตี้ ทั้งหลายกำลังซ้อมเต้นตามครูป๊อป วันดีในชุดเต้นอย่างเก๋ ทำเป็นเต้นด้วยเล็กน้อย สักพักแอบไปยืนหอบอยู่หลังห้อง ครูป๊อบบอกกับทุกคน
“วันนี้...เราจะต่อเพลงใหม่กัน เตรียมพร้อม 3...2...1”
ทองดีเดินเข้ามาแบบกล้าๆกลัวๆ เมย์เห็นทองดีเดินเข้ามารีบกวักมือเรียก
“ครูขา รอลูกศิษก่อนนะคะ ทองประกายเร็วเข้า เค้าจะต่อเพลงใหม่”
ทองดีรีบเดินเข้าไปซ้อมด้วยอย่างตื่นเต้น
“เร็วเข้าสิยะ อะดูฉันเป็นตัวอย่างนะ อย่าให้คลาดสายตา ตะก่อนนี้ ฉันมีฉายาว่าสะโพกกวักทิป...เห็นมั๊ย”
วันดีเต้นโชว์แบบตลกๆ โคโยตี้ทั้งหลายหัวเราะกันคิกคัก
“กวักมาหรือกวักไปคะ เจ๊...” โคโยตี้แซว
วันดีค้อน
“อีพวกนี้...” วันดีหันไปหาทองดีโม้ต่อ “ไม่อยากจะคุยหรอกนะ สมัยก่อนนี้น่ะแขกเข้าร้านมา ร้องแต่จะดูฉันเต้น ไม่อยากจะคุย”
โคโยตี้อีกคนมองวันดีขำๆ
“แล้วตอนนี้ ล่ะพี่ เค๊าร้องเรียกเหมือนกัน แต่ให้พี่ลงจากเวทีใช่มั๊ย ให้ทิปก็ได้ แต่ขอร้องอย่าเต้น มันอนาถ...”
วันดีโกรธ
“อีนังพวกนี้...ไม่รู้จักเด็กจักผู้ใหญ่ซะแล้ว ถ้าฉันดังน่ะ พวกแกยังเป็นวุ้นอยู่เลย...”
ครูป๊อบปรบมือเรียกทุกคน แล้วเดินมายืนจ้องหน้าวันดีอย่างรำคาญ
“นี่พวกหล่อน จะคุยอีกนานมั๊ย ฉันจะได้สั่งข้าวเหนียว ส้มตำมากินก่อน นี่หล่อน...แม่ดาวค้างฟ้า...ช่วยกรุณาหลบไปนิด ฉันจะต่อท่าให้พวกนี้”
“เออ...ก็ได้...นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อนนะ...”
วันดีเห็นครูป๊อบถลึงตาใส่ เธอค้อนขวับแล้วสะบัดหน้าไปยืนอยู่ห่างๆ เมย์หันไปบอก
“ต่อเลยค่ะครู พร้อมแล้ว”
ครูป๊อบเต้นให้ดูอย่างรวดเร็ว ทองดีมองตาค้าง พยายามทำตามอย่างตั้งใจ
มิตรเดินมาหยุดมอง สาวๆซ้อมเต้นกัน แล้วยิ้มๆ วันดีมองเห็นมิตรยืนมองอยู่ด้านนอกรีบเดินออกมาเสนอหน้า
“คุณมิตรคะ...คุณมิตรมีธุระอะไรหรือเปล่า วันนี้ถึงมาแต่เช้า”
“ต้องซ้อมกันถึงกี่โมงเนี่ย”
“อุ๊ย...แค่เที่ยงก็เลิกแล้วค่ะ ครูป๊อบแกเขี้ยว...ตรงเวลาเป๊ะ จริงๆแล้วเฮียบุ๋นไม่เห็นจำเป็นต้องจ้างครูมาสอนให้เปลืองเลย วันดีก็สอนได้ ไม่เห็นจะยากเย็นอะไร สมัยก่อนวันดีก็เคยเต้นมาก่อนนะคะ...”
วันดีโม้ไปเรื่อย มิตรไม่สนใจฟัง มองทองดีเต้นสักพักแล้วเดินไป วันดีหันมามิตรหายตัวไปแล้ว
“อ้าว...ไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย คุณมิตรนะคุณมิตร”
วันดีกระทืบเท้าเดินออกจากห้องไป
ครูป๊อบยืนมองเหล่าโคโยตี้ซ้อมเต้น ทุกคนเต้นอย่างคล่องแคล่ว ยกเว้นทองดี ครูป๊อบมายืนข้างๆเธอแล้วส่ายหน้า
“ส่ายสะโพกให้แรงๆหน่อย ยืนแข็งเป็นตอม่อสะพานแขวนเชียวนะหล่อนส่ายสะโพก โยกเอวหน่อยสิยะ”
ทองดีอึดอัด พยายามเต้นอีกครั้ง แต่ไม่ได้เรื่อง ครูป๊อบเริ่มฉุน
“โอ๊ย...นี่แม่น้องนางบ้านนา ไม่ได้เรื่องเลย จับจังหวะให้ได้สิจ๊ะ แม่ทอง”
“จับยังไงคะ ฉันไม่เคยได้ยินเพลงแบบนี้เลยนี่นา ที่บ้านฉันเคยได้ยินแต่เพลงลูกทุ่ง”
“ตาย...ตาย...แม่คุณ อยู่บ้านหล่อนคงชื่อดาวเรืองใช่มะ พอเข้าเมืองหล่อนก็เปลี่ยนชื่อเป็นทองประกายใช่มั๊ยเนี่ย โอ๊ย...เหนื่อยพอ...พอ ฉันเต้นจนมดลูกครากแล้ว วันนี้พอแค่นี้ พวกหล่อนไปซ้อมเต้นกันเอาเองแล้วกัน”
ครูป๊อบเก็บของเดินออกไปจากห้อง เหล่าโคโยตี้คนอื่นเดินคุยกันออกไป เหลือแค่ทองดีกับเมย์สองคน ทองดีหน้าเสียเมย์รีบเข้ามาปลอบใจ
“เอาน่า ครูป๊อบแกเป็นแบบนี้แหละ ตั้งใจลองจับจังหวะให้แม่นๆ พอได้แล้วค่อยใส่ลีลา ไม่ยากหรอก”
มิตรเดินเข้ามาในห้องพร้อมน้ำในมือ2ขวด ทองดีเขินอาย
“ซ้อมเต้นหรือ ทองประกาย หิวน้ำมั๊ย...น้ำครับ”
มิตรส่งน้ำให้ทองดีกับเมย์คนละขวด เมย์รับมาแล้วยกมือไหว้ ทองดีรีบรับมาอย่างตื่นเต้น
“ขอบคุณค่ะ”
“งั้น...ฉันขอตัวก่อนนะคะคุณมิตร เหนียวตัวจัง ขอไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน”
เมย์แยกตัวไป ทิ้งให้คุณมิตรกับทองดียืนมองหน้ากัน ทองดีแอบยิ้มปลื้มกับขวดน้ำ วันดีเดินผ่านหน้าห้องไปแล้วเบรก รีบหันกลับมามองมิตรกับทองดีที่ยืนคุยกันอยู่
“ว๊าย...ขึ้นหน้าหนึ่งข่าวบันเทิงได้เลยนะเนี่ย รับทรัพท์แน่เรา”
เฮียบุ๋นกำลังนั่งทำงานอยู่ในห้อง วันดีกำลังนั่งเล่าข่าวอย่างเมามัน
“อุ๊ย...หน้าแม่ทองงี้ บานแปดกลีบ หูตางี้แพรวพราว ส่วนคุณมิตรก็ยิ้มกริ่ม...คุยกันหนุงหนิง”
เฮียบุ๋นทำหน้าเบื่อๆ วันดีเริ่มฉุนที่เฮียบุ๋นทำไม่สนใจ
“เฮีย...ที่ฉันพูดมาเนี่ยฟังบ้างหรือเปล่า”
“เปล่า...ไม่ได้ฟัง”
“อ้าวเฮีย...ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ถ้าเฮียสนใจทองประกาย เฮียก็ต้องจัดการอะไรให้เป็นเรื่องเป็นราวสิ”
“จัดการอะไร ฉันไม่เห็นว่าไอ้ที่แกพูดมามันจะเป็นเรื่องตรงไหนเลย”
“นี่เฮีย...อารมณ์ไหนเนี่ย งี้เฮียจะยกทองประกายให้คุณมิตรหรือ ง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ...หรือว่าเฮียเข้าวัยทองแล้ว...เหลาเหย่...บ่มีไก๊”
“ปากเสียแล้วแก ไอ้มิตรมันเป็นน้องชายฉัน ถ้ามันอยากได้ ก็เอาไป แล้วที่สำคัญ ฉันยึดถือกฎว่า สมภารไม่กินไก่วัดโว๊ย”
“หยุดเลยเฮีย...อย่ามาทำเป็นพ่อพระเอกหน่อยเลย หน้าไม่ให้...กลัวซ๊อรู้ก็ว่ามาเหอะ...อุ๊ย...อย่างนี้ต้องชวนซ๊อมาดูแถวห้องพักนังเมย์หน่อย...”
เฮียบุ๋นสะดุ้ง
“เฮ๊ย...นี่วันดี แกหาเรื่องแล้วนะนั่น ถ้าเผลอหลุดปากไปล่ะก็ เสร็จ”
เฮียบุ๋นปาดเหงื่อ วันดีรีบไถ
“ไม่รู้ละ ทำอย่างงี้ฉันก็เสียรายได้น่ะสิ เฮ้อ...คิดว่า จะเอาข่าวไปแลกเงินจากคุณมิตรซะหน่อยเหอะ...ไม่ได้เรื่อง แก่แล้วแก่เลย จริง...จริ๊ง”
“นี่แม่คุณ...แม่ดาวไถ มาทางไหนเชิญไปทางนั้นเลย เฮอะ...ว่าอะไรไม่ว่า...ว่าฉันแก่ โกรธนะโว๊ย”
เฮียบุ๋นทำท่าหงุดหงิด วันดีขมุบขมิบปากด่าเฮียบุ๋นแล้วเดินออกไปจากห้องอย่างอารมณ์เสีย
ทองดีซ้อมเต้นอยู่ในห้องซ้อมเต้นอย่างตั้งใจ แต่คร่อมจังหวะ พอหมุนตัว เธอก็ล้มลงนั่งกับพื้น ทองดีท้อแท้ มิตรเดินเข้ามายื่นมือฉุดให้ลุกขึ้น
“ขอบคุณค่ะคุณมิตร เฮ้อ...ทองคงเป็นโคโยตี้ไม่ได้แน่เลย”
“ยังไม่ได้ลอง แล้วรู้ได้ยังไงว่าจะทำไม่ได้”
“เฮ้อ...พี่ป๊อบคงไม่อยากสอนทองอีกแล้วละค่ะ เฮ้อ..ทองคงสู้ใครไม่ได้หรอก จับจังหวะก็ไม่เป็น แถมเพลงอะไรเนี่ย ตั้งแต่เกิดมาเนี่ย เพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก เฮ้อ...สงสัยจะไปไม่รอดแน่เลย”
“อย่าเพิ่งท้อสิ นี่มันแค่วันแรกไม่ใช่หรือ”
“วันแรกยังทำอะไรไม่ได้เลย พรุ่งนี้ยิ่งแย่ใหญ่ ทองคงไม่มีโอกาสเป็นโคโยตี้กับเค้าหรอกค่ะคุณมิตร”
“ทุกอย่างน่ะ มันยากแค่ตอนเริ่มครั้งแรกเท่านั้นแหละ มันไม่เกี่ยวกับโง่ฉลาด หรือเรียนสูงหรือเรียนน้อยหรอก รู้มั๊ยมันต่างกันตรงไหน”
ทองดีส่ายหน้า
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง บอกกี่หนแล้ว เรียนแค่ม.3”
“มันต่างกันตรงขยันกับขี้เกียจต่างหาก ถ้าเธอขยันฝึกซ้อม สักวันเธอต้องเต้นได้ดี เชื่อฉันสิ เธอทำได้ ทองประกาย”
ทองดียิ้มเขิน
“ค่ะทองเชื่อคุณมิตร ต่อไป ทองจะซ้อมเต้นวันละ 24 ชั่วโมงเลย ทองจะได้เก่งเหมือนคนอื่นเค้า”
“ไม่ใช่แค่เต้นเก่ง เต้นเป็นเท่านั้นนะ ยังมีอีกหลายอย่างที่จะทำให้เธอประสบความสำเร็จ”
ทองดีแปลกใจสงสัย
“อะไรคะ...เป็นโคโยตี้นี่ ต้องมีมากกว่าเต้นเก่งอีกหรือ ทำไมมันยากแบบนี้ แล้วทองต้องมีอะไรอีกคะ ถึงจะประสบความสำเร็จอย่างที่คุณมิตรว่า”
“ไว้อีกหน่อยฉันจะทำให้เธอ เข้าใจเองแหละ”
ทองดีสบตากับมิตรหน้าตาแช่มชื่นเชื่อมั่นในตัวเขามาก
“ค่ะ...ทองเชื่อคุณมิตรทุกอย่างเลย”
ทั้งคู่สบตากัน เธอเป็นฝ่ายหลบตาเขาอย่างเขินอาย
มิตรเดินนำหน้าทองดีเข้ามาตรงเคาเตอร์บาร์ ทองดีมองดูแก้วเหล้าที่วางเรียงรายตรงหน้าอย่างงงๆ
“ทำไมมันมีแก้วเยอะแยะแบบนี้คะ”
“นี่แหละ ที่เธอต้องเรียนรู้”
“ทำไมคะ ก็แค่แก้ว อันไหนก็ใส่เหล้ากินได้เหมือนกันนั่นแหละ”
มิตรส่ายหน้ามองเธออย่างเอ็นดู
“เหล้าทุกชนิดมีคุณสมบัติแตกต่างกัน เธอต้องเรียนรู้คุณสมบัติของมัน และแก้วจะทำให้คุณสมบัติของเหล้ามันโดดเด่นขึ้น เหมือนเธอนั่นแหละ ต้องเรียนรู้ที่จะนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุด แล้วเธอจะประสพความสำเร็จ”
ทองดีทึ่ง
“โอโฮ...แต่มันมีตั้งหลายแบบ ทองจะจำได้หมดมั๊ยเนี่ย”
“ได้สิ...เธอทำได้”
มิตรมองหน้าทองดีอย่างให้กำลังใจ ทองดีฮึกเหิมขึ้นมา มิตรหยิบแก้วเหล้าต่างๆชูให้ดู ทองดีตั้งใจฟังแบบงงๆ...มิตรหยิบขวดไวน์ขาว และไวน์แดง มาให้เธอดู ก่อนจะรินไวน์ใส่แก้ว ยกขึ้นดมแล้วค่อยๆดื่มช้าๆ ทองดียกขึ้นแล้วดื่มรวดเดียวหมด
“คุณมิตรขา ถ้าต้องกินหมดทุกชนิดนี่ ทองคงไม่ไหวมั้งคะ สงสัยจะเมาก่อน”
“ใครเค้าให้ดื่มพรวดอย่างนั้นล่ะ เค้าต้องค่อยๆดื่ม...คนดื่มไวน์น่ะ เค้าจะค่อยๆดมกลิ่นก่อน พอดื่มก็อบไว้แป๊บนึง ให้ลิ้นซึมซับรสชาติแล้วถึงค่อยกลืน อ้อ...เวลาจับแก้ว ให้จับที่ก้าน ความร้อนจากมือจะทำให้ไวน์เปลี่ยนรสชาติ”
“ค่ะ...เวลาริน ประมาน ¾ ของแก้ว ไวน์ขาวต้องเสริฟต์เย็นๆ”
“หัวไวดีนี่...อีกหน่อยต้องเก่งแน่เลย”
ทองดียิ้มอย่างภูมิใจ มิตรมองแล้วยิ้มให้
ทองดีซ้อมเดินโดยมีหนังสือเล่มโตวางไว้บนหัว วันดียืนถือไม้เรียวอันยาว ยืนโพส์ท่าเป็นนางแบบอยู่ด้านข้าง
“เดินตัวตรงๆ ตามองไปข้างหน้า อกผายไหล่ผึ่งเชิดไว้”
วันดียื่นไม้เรียวมาจัดท่าทางให้ ทองดีเดินยุกยิกจนหนังสือหล่น วันดีบ่นอุบ
“โอ๊ย...หล่อนนี่มือห่างตีนห่างจริง...จริ๊ง เอาใหม่ เดินเทิ่งๆ ยังกะทหารฝึกแถว ผู้หญิงน่ะต้องเดินให้สวยๆ ทิ้งสะโพก พริ้วๆ ดูเป็นธรรมชาติ ดูฉันเป็นตัวอย่าง”
วันดีเดินโพสท่าราวกับเป็นนางแบบ จบอย่างเก๋ไก๋สวยงาม ทองดีชื่นชม
“โห...เจ๊...เดินสวยเหมือนนางแบบเลย”
วันดีเชิด
“ใช่สิยะ สมัยก่อน...”
เมย์นึกได้
“ใช่ฉันรู้แล้ว ตอนเจ๊สาวๆ น่ะเจ๊เคยเป็นนางแบบมาก่อนใช่ม๊าเรื่องนี้ฉันได้ยินมาหลายรอบแล้วละ”
วันดีค้อน
“เออ...รู้แล้วก็ดี เอาหล่อน ลองเดินซิ เฮ้อ...เหนื่อย นี่ถ้าคุณมิตรไม่ขอร้องนะ จ้างให้ฉันก็ไม่สอนหล่อน นังเด็กหัวทึบ”
ทองดีได้ยินชื่อมิตร แล้วมีกำลังใจเธอตั้งใจซ้อม แล้วเดินไปเดินกลับ หนังสือหล่นไม่รู้กี่รอบ วันดีเอาไม้เรียวตีขา จนในที่สุดทองดีเดินได้เรียบร้อยสวยงามโดยหนังสือไม่หล่นจากหัว วันดีตบมือให้
“ใช้ได้...ทีนีตาหล่อนแล้ว แม่เมย์”
ทองดีหันไปมองหน้าเมย์เหรอหรา เมย์รีบจูงมือทองดีมานั่งที่โต๊ะมองหน้านิ่ง จนทองดีสงสัย
“เธอจ้องหน้าฉันทำไมหรือ มีอะไรเปื้อน”
“เปล่า...นั่งเฉยๆ ฉันจะสอนเธอแต่งหน้า”
ทองดีนั่งนิ่ง เมย์เปิดกระเป๋าเครื่องสำอาง เห็นเครื่องสำอางเรียงรายเต็มกระเป๋า ทองดีหยิบขวดโน้นขวดนี้ขึ้นมาดมอย่างอยากรู้
“นี่มันอะไรเนี่ย หลายอย่างจัง ต้องใช้ทุกอย่างเลยหรือ”
“เริ่มต้นจาก รองพื้นก่อน”
เมย์หยิบรองพื้นขึ้นมา แล้วลงมือแต่งหน้าอย่างจริงจัง...เมย์หยิบแปรงปัดแก้ม นี่นั่นโน่นขึ้นมาแต่งหน้าทองดี สักพัก เมย์หยุดยืนมองหน้าแล้วยิ้ม หมุนโต๊ะให้หันไปมองกระจก ทองดีตะลึง
“โหย...สวยจังเลย เธอเก่งจังเลยเมย์ เราแทบจะจำตัวเองไม่ได้เลยนะเนี่ย”
วันดียักไหล่
“พื้นๆ แต่ก็พอได้ ทีนี้เธอก็พร้อมแล้วนะ แม่ทองประกาย”
ทองดีงงๆ
“พร้อมสำหรับอะไรคะ”
“อ้าว...หล่อนก็พร้อมจะเป็นผู้หญิงนั่งดริ้งค์น่ะสิ แบบนี้วันนึงคงได้ หลายดริ้งค์แหละ แต่คงไม่เท่าสมัยฉันสาวๆหรอก”
ทองดีผุดลุกขึ้นยืนทันที
“แต่ฉันไม่ได้อยากเป็นผู้หญิงแบบนั้นนี่นา”
ทองดีวิ่งพรวดพราด สวนกับมิตรที่เดินเข้าพอดี พอเจอหน้ากัน ทองดีสะบัดหน้าหนี รีบวิ่งออกไป มิตรรีบวิ่งตามไปทันที วันดีหมั่นไส้
“แหม...นังนี่ ทำเป็นเล่นตัว ถ้าฉันสาวกว่านี้ซัก 20 ปีล่ะก็ รู้เรื่องเชียวแก”
“ทองประกายยังเด็กนัก เจ๊อย่าไปว่ามันเลย”
เมย์มองตามทองดีกับมิตรไปอย่างไม่สบายใจ
ทองดีเดินหนี มิตรตามมาทัน คว้ามือไว้
“อ้าวเป็นอะไรไปน่ะ ทองประกาย”
“ฉันไม่อยากเรียนแล้ว”
“ทำไมล่ะ...ไหนว่าอยากก้าวหน้าไม่ใช่หรือ”
“ใช่...แต่ไอ้ที่คุณให้ทองเรียนรู้น่ะ เพื่อจะไปเป็นผู้หญิงนั่งดริ้งค์ไม่ใช่ก้าวหน้าซักหน่อย”
มิตรหัวเราะขำ จนทองดีหงุดหงิด
“หัวเราะอะไร คุณขำทองใช่มั๊ย ทองมันโง่ ไม่รู้ทันคุณใช่มั๊ย”
“เปล่า...ใครบอกเธอ ว่าฉันจะให้เธอไปนั่งดริ้งค์ เธอไม่โง่หรอก อืมม...ไม่ว่าเธอจะไปเป็นเด็กนังดริงค์ หรือเป็นโคโยตี้ก็ตาม เธอต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ในสังคม แล้วไอ้ที่สอนไปน่ะ มันจำเป็นสำหรับการที่จะอยู่ในสังคม”
ทองดีงง
“นี่คุณหมายถึงอะไรเนี่ย...ทองงงไปหมดแล้ว”
“ฟังนะ ทองประกาย...เธอจำได้มั๊ย ที่มีปัญหากับแขกคราวนั้นน่ะ เป็นเพราะเธอไม่รู้วิธีการที่จะเอาตัวรอดจากแขกพวกนั้น แบบนิ่มนวล ถ้าเธอเรียนรู้วิธีการพวกนี้ เธอก็จะแก้ปัญหาได้สบายๆ เข้าใจหรือยัง”
“อ้าว...แล้วทำไมคุณมิตรไม่บอกทองง่ายๆ แบบนั้นล่ะคะ ปล่อยให้ทองโวยวาย ทองอายนะเนี่ย”
มิตรยิ้ม
“ไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วนี่ ฉันจะพาเธอไปที่นึง เธอว่างหรือเปล่า”
ทองดีดีใจสุดระงับ
“ว่างค่ะว่าง ทองอยากไปกับคุณมิตรค่ะ”
ทองดีดีใจโดดไปเกาะแขน มิตรมองยิ้มๆ เธอนึกได้ปล่อยมือจากแขนเขาแล้วยิ้มเขิน
อ่านต่อตอนที่ 6