รักออกอากาศ ตอนที่ 2
ก้องเกียรติและกิ่งแก้วมาส่งเจ้าคุณขึ้นรถโดยสาร ที่ท่ารถทัวร์ เจ้าคุณอยู่ในอาการงงๆ
“แกพาฉันมาที่นี่ทำไมวะไอ้ก้อง”
“แกต้องเริ่มตั้งแต่ออกเดินทางนะเพื่อน” ก้องเกียรติบอก
“ตั๋วรถทัวร์นะ” กิ่งแก้วยื่นตั๋วโดยสารให้
“บ้าแล้ว นี่พวกแกจะบ้าไปกันใหญ่แล้ว รถทัวร์เป็นยังไงวะ ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยนั่งรถทัวร์มาก่อนเลยนะเว้ย” เจ้าคุณโวยใส่ทั้งคู่
“ก็เคยซะซิวะ ไอ้คุณหนู” เสียงคุ้นหูของแมทธิวดังขึ้น
ทั้งหมดหันขวับ แมทธิวเดินเก๊กมากับเจอาร์ โดยมีเอมี่ตามมาด้วย เจ้าคุณเมินหน้า เอมี่รีบวิ่งโผเข้ามาหาเจ้าคุณ
“คุณคะคุณ มี่โทร.ไปหา คุณหญิงแม่บอกว่าคุณออกมาแล้ว โห โชคดีนะเนี่ยที่มี่มาทัน ไม่งั้นล่ะ มี่คงเสียใจแย่ที่ไม่ได้มาส่งคุณคะคุณของมี่”
“ใช่ คงน่าเสียใจมาก ถ้าพลาดเห็นการนั่งรถทัวร์ครั้งแรกในชีวิตของเจ้าคุณเพื่อนรักของเรา ฮ่าๆ” แมทธิวเยาะ
“ไอ้แมท!” เจ้าคุณโมโห
“รึอยากจะเห็นมันกราบเท้าผมดีล่ะ เอมี่” แมทธิวว่า
เจ้าคุณชะงักกึก มองแมทธิวอย่างอดกลั้น ก่อนจะกระชากตั๋วรถทัวร์ในมือกิ่งแก้วมาถือไว้
“ไอ้ก้อง ไปเอากระเป๋าท้ายรถกัน” เจ้าคุณนึกถึงกระเป๋าที่มะขิ่น กับไมเคิลยัดเต็มท้าย
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วมองหน้ากัน อย่างไม่รู้ว่าใครจะเป็นคนบอกก่อน เจ้าคุณมองก้องเกียรติและกิ่งแก้ว
“เฮ้ แม้น ฉันเอามาให้แล้ว” เจอาร์ยื่นเป้เน่าๆ ให้ใบหนึ่ง
เจ้าคุณมองเป้ในมือเจอาร์ แล้วหันมองหน้าก้องเกียรติอย่างมีคำถาม
“ไปอยู่บ้านนอกนะครับ ไม่ใช่ไปท่องเรือสำราญรอบโลก ถ้าไม่เอาตามนี้ก็กราบ”
แมทธิวกระชากเป้จากเจอาร์ขว้างพลั่กเข้าไปที่อกเจ้าคุณ พร้อมกับชี้ลงไปที่เท้าตัวเอง
“ไอ้แมท ให้แม่แกสอนกราบสวยๆ ไว้ตั้งแต่วันนี้เลย อีกเดือนนึง ฉันจะกลับมาให้แกกราบเท้าฉัน”
ว่าแล้วเจ้าคุณก้มลงคว้าเป้แล้วก้าวฉับๆ ออกไปทันที แต่เอมี่ยังเรียกเจ้าคุณเสียงหลง จนเจ้าคุณชะงัก
“ผิดทางค่ะ รถจอดทางนี้ค่ะ”
แมทธิว กับเจอาร์ขำก๊าก เจ้าคุณหน้าเจื่อน จ้องมาอย่างเคืองๆ ส่วนก้องเกียรติ และกิ่งแก้วมองหน้ากันจ๋อยๆ สงสารเจ้าคุณแต่ไม่รู้จะช่วยยังไง
เจ้าคุณขึ้นรถทัวร์มาอย่างเงอะงะ เพราะไม่เคยขึ้น ไม่รู้ต้องทำอย่างไร โดนผู้โดยสารคนอื่นๆ ชนเบียดไปมา เจ้าคุณหน้าเบ้ เพราะเหม็นอับกับกลิ่นสารพัด กระเป่ารถที่หน้าตากวนโอ๊ย ดูจะไม่เข้าขากันเท่าไหร่นักเดินมา
“ไหนตั๋ว มั่วป่าวเนี่ย”
เจ้าคุณยื่นตั๋วให้ กระเป๋าชี้ไปที่นั่งหน้าส้วม
“ห๊า! พี่ๆ ผมขอเปลี่ยนที่ได้มั้ย ขอนั่งเฟิร์สคลาส เอ๊ย นั่งข้างหน้า เท่าไหร่ผมก็จ่าย”
เจ้าคุณต้อง ชะงักเมื่อตบกระเป๋าหลัง ซ้าย-ขวา หายังไงก็ไม่เจอกระเป๋าพอหันไปนอกรถจึงพบว่า แมทธิวที่ยืนอยู่กับกลุ่มเพื่อนชูกระเป๋าสตางค์ของเจ้าคุณยิ้มแฉ่งอยู่ เจ้าคุณยั๊ว กระเป๋ารถจึงไล่ไปนั่งหน้าส้วมตามเดิม เจ้าคุณพุ่งไปที่เก้าอี้หน้าส้วม
เจ้าคุณมองอย่างพินิจก่อนจะจำใจนั่งลงตรงนั้น ไม่นานก็มีผู้โดยสารชายอ้วนดำใส่เสื้อกล้าม หน้าอย่างโจร มานั่งข้างๆ เจ้าคุณหันไปมองเพื่อนๆ อีกที รถเริ่มเคลื่อนตัว หน้าเจ้าคุณแอบหวั่นเหมือนนกน้อยกำลังถูกปล่อยให้ออกจากรัง โดยที่ไม่อยากจะออก เจ้าคุณรีบหันขวับไปมองเพื่อน เหมือนจะเปลี่ยนใจอยากลงจากรถ แต่ แมทธิวยืนชี้เท้าตัวเองเหยงๆ อยู่ เจ้าคุณจึงต้องหันขวับกลับมา ทำใจฮึดสู้อีกที จนรถเคลื่อตัวออกไป
“แล้วเจอกัน..ไอ้แมท” เจ้าคุณคำรามในลำคอ
“สะใจจริงว้อย!” แมทธิวเอ่ยขึ้น
“เกินไปรึเปล่า ไอ้แมท” ก้องเกียรติต่อว่าทันที
“เกินตรงไหน นี่ไอ้ก้อง ถ้าไม่ได้ฉัน บริษัทแกก็ไม่มีวันได้เวลาจากสถานีนะเว้ย”
“ทวงบุญคุณกันเลยเหรอเนี่ย” กิ่งแก้วฉุน
“ไม่ได้ทวง แค่ทบทวนความจำให้แฟนเธอ แล้วก็เธอด้วย กิ๋ง”
“ขอบใจ สมองฉันไม่ได้เสื่อมเหมือนจิตใจแก แมท” ก้องเกียรติหลอกด่า
“อ้าว เฮ๊ยๆ”
“เออ ว่าแต่ เมื่อไหร่คุณคะคุณจะได้ออกทีวีล่ะคะ มี่ตื่นเต้นจัง มี่อยากดูแล้วน่ะ”
ก้องเกียรติได้ยินคำพูดเอมี่ จึงโทร.หากำโป๊ง เพื่อนสนิทพ่อที่บ้านม๊วนแต๊ทันที
สมใจอยู่ที่บ้าน กำลังคุยกันเรื่องออเดอร์ลูกค้าสั่งชาอยู่กับคำปุย
“เย้! ออเดอร์เพียบ ล็อตใหญ่ พรุ่งนี้เช้าเฮาจะมุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯนะ ไอ้ปุ๋ย”
“ได้เลย”
สมใจชะงักเห็นแคบหมูเดินหน้าหักหน้างอเข้ามา
“เป็นอะไร ไอ้แคบ หน้างอเชียว”
“งอที่ไหนล่ะ หน้ามันหัก ฮ่าๆ” คำปุยเย้า
สมใจ กับคำปุย ขำกันกลิ้ง
“ลูกค้าขอลดออเดอร์ลงครึ่งนึง” คำปุยพูดเป็นงานเป็นการ
“ครึ่งนึง เอาน่ะ ครึ่งนึงก็ยังดี ดีกว่าไม่เอาเลย พรุ่งนี้เช้า เจอกันพรุ่งนี้ คอนเฟิร์ม” สมใจว่า
“เออ เฟิร์มก็เฟิร์ม แต่ฉันว่าหมู่นี้แกดวงกุดยังไงชอบกลนะนังใจ๋ อะไรๆ ดูมันจะสะดุดไปซะหมด
“เพ้อเจ้อ! สะดุดอะไรของแกนังปุ๋ย”
คำปุยพูดไม่ทันขาดคำ สมใจก็เดินสะดุดหน้าทิ่มโขกประตูดังโป๊ก!!
“โอ๊ย!”
“ต๋ายล่ะ คุณพระคุณเจ้า พุทโธ ธัมโม สังโฆ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่จริงๆ นะนังใจ๋”
สมใจอึ้ง หน้ามุ่ย เอามือคลำหน้าผากป้อยๆ หน้าผากแดงแป๊ด
บนรถทัวร์เวลานั้น ตะวันเริ่มตกดิน แดดทิ่มตาเจ้าคุณเต็มๆ เจ้าคุณเอื้อมมือจะจับผ้าม่านรูดปิด แต่ต้องผงะ เพราะสภาพผ้าม่านทั้งดูเหี่ยวดำ และสกปรก เจ้าคุณตัดใจไม่รูดม่าน แต่ม่านดันหลุดติดมือเจ้าคุณออกมาซะงั้น
เจ้าคุณเซ็ง เบือนหน้าไปจ๊ะเอ๋กับผู้โดยสารอ้วนดำที่นั่งข้างๆ ชายอ้วนดำมองยิ้มหวานส่งให้ เจ้าคุณไม่ยิ้มตอบ อ้วนดำขยับตัวลีบ อ้วนดำยิ้มให้อีกทีก่อนจะปรับเอนเก้าอี้นอน ยกแขนขึ้นพาดเหนือหัว เห็นขนเต่าเพียบ มาพร้อมกลิ่นเต่าโชยหึ่ง
เจ้าคุณชะงักกึกแทบสำลัก รีบเอาผ้าม่านอุดจมูก แต่ก็ฮัดเช้ยออกมาเพราะฝุ่นของผ้าม่าน อ้วนดำมองยิ้มๆ ขำๆ
รถทัวร์แล่นไปท่ามกลางแสงแดดยามเย็นย่ำ เจ้าคุณเคลิ้มๆ ตาจะปิดลงเพราะง่วงมาก ทันใดนั้นมีเสียงชักโครกดังสนั่น เจ้าคุณสะดุ้งเฮือกตกใจตื่นขึ้นทันที เจ้าคุณอยู่ในอาการงง มองไปรอบข้าง ด้วยสีหน้าท้อแท้
ผู้โดยสารคนหนึ่งเปิดประตูห้องน้ำเดินออกมา เอามือป้ายๆ เบาะที่นั่ง กลิ่นห้องน้ำโชยชวนชะงัก เจ้าคุณทำหน้าตาแบบอดกลั้นอย่างน่าสงสาร
“ไม่ไหวแล้วเว้ย ห๊า! อะไรวะเนี่ย มือถือก็ไม่มี เฮ๊ย! จะบ้าเหรอวะ ไม่ไหวแล้วนะเว้ย!” เจ้าคุณตะโกนขึ้นมาอย่างสุดจะทนไหว
ไฟบนรถทัวร์เปิดพรึ่บ ผู้โดยสารด้านหน้าต่างหันมาด่าเป็นเสียงเดียว
“ไม่ไหวก็ลงไปสิเว้ย ไอ้เบื๊อก”
เจ้าคุณอึ้ง เงียบกริบ
เช้าวันรุ่งขึ้น ภายในออฟฟิศกึ่งสตูดิโอที่กรุงเทพฯ ก้องเกียรติ และกิ่งแก้ว นั่งข้างกันอยู่ภายในห้องถ่ายทอดสด ก้องเกียรติหันไปสั่งทางทีมงาน
“เตรียมตัวออกอากาศ อีก 10 วินาที เริ่มนับถอยหลัง”
ระหว่างการนับถอยหลังนั้น ทีวีหลายเครื่องฉายภาพตามมุมต่างๆ ของหมู่บ้านม่วนแต๊ อุปกรณ์การถ่ายทอดสดเพียบ
ภาพไตเติ้ลรายการไฮโซบ้านเฮา สีสันฉูดฉาด ปรากฎขึ้นบนจอทีวี พิธีกรชาย หญิง ในชุดชาวเขายืนอยู่ในห้องส่ง สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
“สวัสดีครับท่านผู้ชม ผมขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่รายการเรียลิตี้โชว์ ไฮโซบ้านเฮา กับแขกรับเชิญคนแรกของรายการ เจ้าคุณ คุณากร มหาศักดิ์ไพศาล ไฮโซหนุ่มหล่อพันล้านคนดัง เจ้าของฉายา ไฮโซซิ่งนรก”
พิธีกรหญิงรีบพูดเสริมต่อทันที
“วันนี้เขามากับบทบาทใหม่ ซึ่งเราต้องเอาใจช่วยกันว่าเขาจะสามารถใช้ชีวิตเป็นชาวชนบทได้สำเร็จลุล่วงภายในหนึ่งเดือน หรือไม่ในรายการใหม่เอี่ยมอ่องพร้อมกันไฮโซบ้านเฮา”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วยืนดูพิธีกรที่กำลังรายการสด ด้วยสีหน้าพึงพอใจ
“ท่านผู้ชมสามารถเอสเอ็มเอสแสดงความคิดเห็นหรืออยากเห็นเจ้าคุณทำอะไรในรายการ ส่งมาได้ตามเบอร์ที่ปรากฏด้านล่างจอนี้นะคะ”
“และตอนนี้ขอเชิญท่านผู้ชมไปพบกับความสนุกสนานได้ในรายการไฮโซบ้านเฮากันเลยครับ”
ภาพในจอทีวี ตัดเข้ารถทัวร์ที่แล่นมาจอดที่ท่ารถ
เช้าวันเดียวกัน เจ้าคุณนอนพิงหน้าต่างหลับสนิทภายในรถทัวร์ ผู้โดยสารต่างลุกเดินออกไปจนหมด กระเป๋ารถเดินมาปลุกเจ้าคุณ เจ้าคุณหันไปมองด้านนอก แล้วก็ชะงักกับทัศนียภาพที่เห็น มีทั้งภูเขา ต้นไม้สีเขียว เจ้าคุณขยี้ตาให้ตื่นแล้วก็ลุกขึ้นเดินออกไปที่ท่ารถทัวร์ เห็นบรรยากาศที่พ่อค้าแม่ค้าขายของ ผู้คนมากมาย แต่งตัวกันแบบชาวบ้านๆ เจ้าคุณเบ้หน้า
“นี่มันอะไรกันวะเนี่ย แล้วไหนคนที่ไอ้ก้องบอกว่าจะมารับ” เจ้าคุณยืนบ่นอยู่
“พี่ครับ” ใครคนหนึ่งเข้ามาทัก
“คนของคุณก้องใช่มั้ย”
“ใช่ครับ” ชายคนนั้นว่า
ทุกอิริยาบถของเจ้าคุณอยู่ในรายการทีวีของก้องเกียรติและกิ่งแก้ว คนดูทางบ้านจะได้เห็นเจ้าคุณในทุกขณะ ตัดสลับกับห้องคอนโทรล
ก้องเกียรติและกิ่งแก้วต้องตกใจเมื่อคนที่มารับเจ้าคุณ ไม่ใช่คนที่นัดหมายไว้
“เฮ้ย! ใครน่ะ”
“อ้าว! ไม่ใช่คนของตัวเองเหรอก้อง”
“ไม่ใช่”
“ห๊า”
“แย่แล้ว ไอ้คุณ!”
ที่ท่ารถทัวร์แห่งนั้น ชายที่อ้างตัวว่าเป็นคนของก้องเกียรติมารับเจ้าคุณที่รถ ซึ่งแท้จริงเป็นคนที่แมทธิวส่งมา
“รถอยู่ไหน” เจ้าคุณถาม
“นู่นครับ”
ชายคนนั้นชี้ไปที่รถเก่าปุโรทั่ง เจ้าคุณเห็นสภาพรถก็ตกใจ
“นั่นนะรถ”
“ขอแอร์หน่อยซิ” เจ้าคุณขอแอร์ทันทีที่ขึ้นรถ
“แรงสุดแล้วครับ”
ชายคนขับรถส่งผ้าเย็นยื่นให้ 2 ผืน เจ้าคุณไม่ทันตั้งตัว เลยโดนเอาผ้าปิดปาก เจ้าคุณตกใจตาเหลือก แต่ยาออกฤทธิ์เร็วมาก ทำให้เจ้าคุณหมดสติ
ที่ห้องคอนโทรลในสตูดิโอ ทีมทุกคนตกใจกับภาพที่เห็น คิดว่าก้องเกียรติมีเซอร์ไพร์สแต่ความจริงแล้วไม่ใช่แผนของก้องเกียรติ
“ไอ้คุณ!”
“นี่มันอะไรน่ะก้อง ทำไมเล่นแรงอย่างนี้” กิ่งแก้วต่อว่า
“ไม่ใช่เขา นี่ตัวเองคิดว่าเขาจะกล้าทำอย่างนี้กับไอ้คุณงั้นเหรอ”
“ถ้างั้น ฝีมือใคร” กิ่งแก้วถามคาดคั้น
“ว๊าย!”
ก้องเกียรติ กับกิ่งแก้ว หันขวับ แทบช็อกเพราะเสียงเอมี่ ที่ชี้ไปที่มอนิเตอร์ในภาพเจ้าคุณโดนโปะยาสลบ
“ตายแล้ว! คุณคะคุณของมี่”
เจ้าคุณถูกจับแก้ผ้าโยนลงมาจากรถคนนั้นที่ริมถนน สองหน้าม้ายืนมองเจ้าคุณแล้วขำสะใจ เจ้าคุณยังนอนนิ่งไม่รู้สึกตัว แต่ไม่นานพวกมันก็ถอยรถกลับมาใหม่ เปิดประตู แล้วก็โยนกล่องกระดาษใส่ตัวเจ้าคุณ ก่อนจะขับรถออกไปอีกครั้ง
เจ้าคุณนอนนิ่งโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าโดนลอกคราบไปหมดแล้ว
ที่ห้องคอนโทรล แมทธิวขำกลิ้งอย่างสะใจ ก้องเกียรติรู้ทันที จึงปรี่เข้าไปกระชากคอเสื้อแล้วชกเปรี้ยง แมทธิวล้มคว่ำไปกองกับพื้น ทุกอย่างโกลาหล ทีมงานเข้ามาห้ามกันใหญ่ กิ่งแก้วเข้ามาต่อว่าแมทธิวด้วย
“ฝีมือแกแน่ๆ ไอ้แมท”
“ก็เออซิวะ”
“แกนี่มันทุเรศจริงๆ ไอ้แมท”
“พวกแกซิทุเรศ แทนที่แกสองคนจะขอบใจฉัน ที่อุตส่าห์ช่วยคิดให้รายการของแกมีรสชาติมากขึ้น แกดันมาชกหน้าฉันเนี่ยนะไอ้ก้อง!!” แมทธิวโวยวาย
“น้อยไป ฉันควรจะกระทืบแกซะด้วยซ้ำ ไอ้เพื่อนเฮงซวย แกทำอย่างนี้กับไอ้คุณได้ไงวะ”
“ทำไมจะทำไม่ได้ ฉันจะทำให้มากกว่านี้อีกเว๊ย แกอย่าลืมซิ ว่าไอ้คุณมันยอมไปอยู่ที่หมู่บ้านอะไรนั่นก็เพราะฝีมือฉัน นี่แกลืมผู้มีพระคุณของแกได้ไงไอ้ก้อง”
“แกนี่มันเลวจริงๆ” ก้องเกียรติด่าอย่างเหลืออด
“ยกเลิกเหอะก้อง เลิกรายการนี้ไปเลย” กิ่งแก้วบอก
“เอาซี้ ยกเลิกเลย ฉันไม่เดือดร้อนอยู่แล้ว แต่ไอ้ที่เดือดร้อนก็คือแกสองคนต่างหาก นอกจากจะเสียหน้าและบริษัทพังแล้ว ยังต้องโดนสถานีฟ้องร้องเอาด้วย แหม ซวยจริงๆ” แมทธิวเยาะแกมหยัน
ก้องเกียรติ กับกิ่งแก้ว อึ้งมองหน้ากัน แมทธิวยิ้มอย่างผู้ชนะ
“เฮ๊ย!!” เจอาร์โพล่งขึ้น พลางชี้ไปที่จอ ทุกคนหันขวับไปมอง กล้องแพนฟรึ่บไปที่จอเห็นเจ้าคุณในสภาพนอนหมดสติกับกล่องกระดาษ 1 ใบ
เจ้าคุณยังนอนหมดสติอยู่ที่เดิมริมถนน มีกล่องกระดาษปิดน้องชายเอาไว้ แสงแดดสาดเปรี้ยงเข้าหน้าเต็มๆ เจ้าคุณค่อยๆ ลืมตา หน้าเจ้าคุณแดงเถือกไปด้วยฝุ่นดินลูกรังสีแดงจากถนนจนจำแทบไม่ได้ เจ้าคุณค่อยๆ ลุกขึ้นมานั่งมองรอบๆ ตัวด้วยความงง กลืนน้ำลายด้วยความกระหายน้ำ ก่อนจะก้มลงมองตัวเองแล้วก็ตกใจ
เจ้าคุณค่อยๆ เปิดกล่องกระดาษ จ๊ะเอ๋กับน้องชายแล้วก็ตกใจกับสภาพตัวเอง มองไปที่ปลายเท้า รองเท้าก็ถูกถอดไปด้วย ความอดทนของเจ้าคุณถึงขีดสุดแล้ว
“ไม่ไหวแล้วเว๊ย!”
เวลาเดียวกัน รถของสมใจที่มีคำปุยนุ่งมาด้วยข้างๆ เกิดกระตุก
“ต๋ายละ นังใจ๋ จะไหวมั้ยเนี่ย”
“ต้องไหวซิ”
ขาดคำ รถกระตุกแรง แล้วเครื่องดับทันที
“นั่น! ปากไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์เลยนะแก”
“อะไรวะ เมื่อเช้าก็เช็คมาอย่างดี”
ทั้งสองปิดประตูลงมาเปิดกระโปรงรถ ควันตลบอบอวลใส่หน้า
“ซื้อใหม่เลยจะดีกว่ามั้ยยะ ว๊าย!”
ใบหน้าสมใจ โดนควันสีดำจนหน้าตาดำปิ๊ดปี๋แทบจำไม่ได้
“ไอ้ใจ๋ อีผีบ้า!”
“อะไรวะ”
สมใจยังไม่รู้ว่าตัวเองหน้ำดำปี๋เพราะเขม่าควันรถ
ผ่านเวลาไปสักพัก แสงแดดร้อนแรงมากขึ้นจนแทบเผาตัวเจ้าคุณ เจ้าคุณร้อนทั้งตัว ร้อนทั้งเท้า เหงื่อโทรมกาย หน้าตาเลอะฝุ่นแดงเถือก หนุ่มไฮโซกระโดดเหยงๆ
“โอ๊ย อุ๊ย บ้าเอ๊ย มันอะไรกันวะเนี่ย ทำไมซวยแบบนี้”
เจ้าคุณนึกถึงคำเตือนที่พราหมณ์บอกว่าปีนี้ตนอายุเบญจเพส จะเกิดเคราะห์กรรมหลายอย่างขึ้น
“ปีนี้...เบญเพส ดาวประจำตัวตกเลขมรณะ ต้องรีบไปทำบุญใหญ่ มิฉะนั้นชะตาจะขาด ดวงจะถึงฆาต!”
เจ้าคุณกลืนน้ำลายเอื๊อก ก่อนจะฮึดขึ้นมา แม้ว่าไม่อยากจะเชื่อในคำทำนายของพราหมณ์ก็ตาม แต่แล้วเจ้าคุณต้องหยุดกึกเมื่อ เห็นรถสมใจจอดอยู่ เจ้าคุณดีใจมาก ใช้แรงทั้งหมดที่มีรีบวิ่งขึ้นเขาไปหา สมใจกำลังซ่อมเครื่อง ยกมือปาดเหงื่อ หน้าทั้งดำทั้งมัน
“ถ้าแกยังไม่หาย ฉันจะเอาแกไปขายร้านเหล็ก” สมใจด่ารถคู่ชีพ
“ให้ฟรีเขาจะเอารึเปล่ายังไม่รู้เล้ย”
คำปุยยังคุยอยู่กับสมใจ ในขณะที่เจ้าคุณกำลังวิ่งมาหาอย่างกระชั้นชิด
“ช่วยด้วย คุณ คุณ”
สมใจได้ยินเสียง หันไปเห็นเจ้าคุณไกลๆ สมใจหรี่ตามองด้วยความสงสัย เห็นเจ้าคุณวิ่งตรงมา
“ตัวอะไรวะ”
เจ้าคุณวิ่งเข้ามาใกล้ สมใจอึ้งกับสภาพของเจ้าคุณ และด้วยความลืมตัว เจ้าคุณยกสองมือโบกให้สมใจ ทำให้กล่องร่วงลงพื้น สมใจแทบช็อก ส่วนคำปุยตกใจปิดตาแต่แหวกนิ้วดู
“เฮ้ย ปุ๋ย ขึ้นรถ!”
“ว๊าย! พุทโธ ธัมโม สังโฆ”
เจ้าคุณเห็นสมใจขึ้นรถก็ตกใจ ยังไม่รู้ตัวว่าโป๊ รีบยกกล่องขึ้นมาแล้ววิ่งไปหาอีก สมใจเห็นเจ้าคุณวิ่งมาก็รีบสตาร์ทรถ แต่เครื่องไม่ติด ใช้มุกทุบพวงมาลัยแต่ก็ยังไม่ได้ผล
“ติดซิ ติดซิเว๊ย โธ่”
สมใจหันไปคว้าปะแจยาวๆ แล้วเปิดประตูลงมา เจ้าคุณดีใจ รีบเข้าไปหา เจ้าคุณกับสมใจจำหน้ากันไม่ได้ เพราะสภาพไม่น่าดูทั้งคู่
“ช่วย ด้วย”
“ตายซะ! ไอ้โรคจิต!”
“ผมไม่ใช่ไอ้บ้ากาม” เจ้าคุณพยายามอธิบาย
“อ๊าย!...”
สมใจคิดว่าเจ้าคุณเป็นพวกโรคจิตชอบโชว์ออฟ จึงคว้าประแจเตรียมเล่นงาน เจ้าคุณนึกได้ ก้มมองตัวเอง ตกใจ รีบยกกล่องขึ้นบัง เงยหน้าจะอธิบาย
แต่ไม่ทันจะอ้าปากพูด ก็เจอสมใจต่อยเปรี้ยง! เจ้าคุณหน้าหงายเงิบ เลือดกำเดาไหล มึน ตาเหล่ เห็นดาววิบวับ แล้วก็สลบเหมือดลงไปกองกับพื้นตรงนั้น
“ไอ้ใจ๋!ขึ้นรถ ปิ๊กบ้านก่อนเร็ว”
คำปุย และสมใจไม่รอช้ารีบขึ้นรถ ที่ดันสตาร์ทติด ทั้งคู่ดีใจรีบออกรถไป ทิ้งให้เจ้าคุณนอนสลบอยู่ตรงนั้น
จบตอนที่ 2
บนถนนเส้นทางที่มุ่งหน้าไปหมู่บ้านม่วนแต๊ ในขณะนั้นสมใจขับรถไป ขยี้ตาไป และโวยไป โดยที่ใบหน้าของสมใจยังดำปี๋อยู่
“ซวย ซวยจริงๆ ซวยแต่เช้า แล้วไงเนี่ย ข้าวของไม่ได้เอาไปส่งลูกค้าเลย โอ๊ย อะไรมันจะซวยอย่างนี้
เพราะไอ้ผีเปรตนั่นแท้ๆ เลย”
“นอกจากไอ้ผีเปรตที่แกว่าแล้วอีแก่ของแกก็ด้วยแหละ ติดๆ ดับๆ อยู่อย่างนี้อีกกี่ปีจะถึงกรุงเทพฯ
ยะ กลับบ้านก่อน!เดี๋ยวดับอีก”
คำปุยบ่นไม่ทันขาดคำ รถกระตุกดับพรึ่บทันที
“นั่น”
“เฮ๊ย!”
“ฉันบอกแล้ว หมู่นี้ดวงแกมันสะดุดจริงๆ นังใจ๋ เฮ้อ จะเจออะไรซวยอีกวะเนี่ย”
คำปุยและสมใจกำลังปวดหัวกับความซวยและเรื่องราวแปลกๆ ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ แม้ว่าจะดูไม่ค่อย
เชื่อนักสำหรับสมใจแต่ก็อดอ่อนใจไม่ได้
เวลาเดียวกัน กำโป๊งกับไส้อั่วกำลังก้มจ้องมองกล้องอยู่ที่ใต้ถุนบ้าน และขณะนั้นกล้องกำลังจับภาพของเจ้าคุณที่สลบ ใบหน้ายังแดงแป๊ดด้วยฝุ่นถนนลูกรังอยู่
เจ้าคุณค่อยๆ ลืมตาตื่น เห็นหน้ากำโป๊งจากเบลอๆ จนชัดขึ้น ต่างคนต่างตกใจ เจ้าคุณชกเข้าที่ใบหน้ากำโป๊งอย่างจัง
“โอ๊ย ไอ้วอก ไอ้ผีบ้า” มาต่อยข้าทำไมวะ”
กำโป๊งด่าเจ้าคุณเป็นภาษาเหนือรัวยิก ส่วนเจ้าคุณก็คิดว่ากำโป๊งเป็นโจรเช่นกัน
“ไอ้โจร แกนี่เองที่ปล้นฉัน ฉันจะแจ้งตำรวจจับแก” เจ้าคุณสวนกลับ
“จับแกน่ะซิ ไอ้ผีเปรต ไอ้ชีเปลือย ไอ้อนาจาร”
เจ้าคุณโดนกำโป๊ง เบิ๊ดกะโหลกหนึ่งที เจ้าคุณชะงักนึกขึ้นมาได้ ก้มมองสารรูปตัวเองที่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า กำโป๊งเขวี้ยงผ้าขาวม้าใส่หน้า เจ้าคุณรับไว้แล้วรีบเอามาปิดจุดอันตรายทันที
“ลุงเป็นใคร” เจ้าคุณตั้งสติถาม
“ข้าก็ชื่อ...” กำโป๊งชะงัก “บ๊ะ! ไอ้เบื๊อกนี่ ข้าอุตส่าห์ส่งไปรักษาตัวมาหลายปีแต่ก็ยังติงต๊องเหมือนเดิม”
กำโป๊งชะงักอีก หันมองไส้อั่วที่จ้องมองอยู่อย่างสาระแน กำโป๊งเลยเล่นละครใส่เจ้าคุณทันที
“ติงต๊อง” เจ้าคุณพึมพำ
ไส้อั่วหูกางอย่างอยากรู้เต็มทน
“ฮั่นแน่ะเห็นมั้ย ติงต๊องถึงขนาดว่าจำไม่ได้ว่าตัวเองติงต๊อง นี่หมอก้องเขารักษาเอ็งยังไงวะไม่ได้เรื่อง!”
กำโป๊งขยิบตาปริ๊บๆ ใส่เจ้าคุณเป็นการส่งซิก แต่เจ้าคุณก็ยังไม่รู้เรื่อง
“หมอก้อง” เจ้าคุณ
“โอ๊ย! กูล่ะเวียนหัว ไอ้อั่ว เอ็งจะไปไหนก็ไป ลุงหลานเขาจะคุยกัน ดั๊นมาเสนอหน้าอยู่ได้” กำโป๊งออกปากไล่
“นอกจากฉันแล้ว ลุงยังมีหลานอีกด้วยเหรอลุงกำโป๊ง นี่ไอ้อั่วมีพี่ชายตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”
ไส้อั่วเกาหัวแกรกๆ
“จะบ้าเหรอ ชั้นไม่ใช่พี่แกแล้วชั้นก็...” เจ้าคุณปฏิเสธพัลวัน
“จ๊าก! ข้าบอกให้ออกไป ก็ออกไปซิวะไอ้ไส้อั่ว”
กำโป๊งคว้าอะไรแถวนั้นจะเขวี้ยงใส่ไส้อั่ว แต่ไส้อั่วรู้แกวพุ่งปรู๊ดออกไปได้ก่อน ทิ้งความสงสัยไว้ให้เจ้าคุณต่อไป
ทันทีที่สมหมายกับสมศรีรู้เรื่องที่สมใจเจอโรคจิตไม่ใส่เสื้อผ้าวิ่งเข้ามาจะให้ช่วยเหลือก็โวยวายเสียงดังลั่น
“ ไหน มันอยู่ไหน ไอ้โรคจิตที่ไหนมันบังอาจมาแหยมลูกสาวข้า ข้าจะเฉาะหน้ามันให้เละเลย เฮ๊ย! หน้าตามันเป็นยังไงวะ ไอ้ใจ๋”
ว่าแล้วสมหมายคว้าอาวุธจะออกไปจัดการไอ้โรคจิต ในขณะที่สมใจกำลังเอาทิชชู่เช็ดหน้าดำปิ๊ดปี๋ของตัวเองอยู่ แอบเซ็งพ่อ
“จำหน้าไม่ได้ แต่ฉันจำอย่างอื่นมันได้นะไอ้ใจ๋ อื้อหือ เห็นเต็มๆ 2 ลูกกะตา ปะล้ำป่ะเหลือบึ้กๆ” คำปุยว่า
“นังปุ๋ย!” สมใจหันไปดุ
“อะไรของเอ็งวะนังปุ๋ย ปะล้ำปะเหลือบึ้กๆ” สมศรีถามงงๆ
“อูย ก็ อุ๊บส์!”
“ทะลึ่ง!” สมใจตะปบปิดปากคำปุยไว้แน่น
ปลัดจืดที่ร่วมวงสนทนาอยู่ มองอาการสองคู่ซี้
“อย่างนี้มันไม่ได้นะปลัด แต่ไหนแต่ไรม่วนแต๊ของเราไม่เคยมีคนแปลกหน้าโผล่มาวุ่นวาย ปลัดจะปล่อยไว้ไม่ได้นะ ต้องจัดการ” สมหมายโวยวายต่อ
“ลุงหมายไม่ต้องห่วงนะครับผมไม่ปล่อยไว้แน่ ปลัดจืดอยู่ที่ไหน อุ่นใจที่นั่น”
ปลัดจืดพูดพลางหันไปทางสมใจ จนแคบหมูกระแอมแซว
“แค่กๆ”
“เป็นไรนังแค๊บ” สมใจหงุดหงิด
“แคบหมูติดคอเจ้า”
สมใจเขกหัวแคบหมูโป๊ก ปลัดจืดมองสมใจอย่างเอ็นดู
ส่วนที่แคร่ใต้ถุนบ้านกำโป๊ง เจ้าคุณและกำโป๊งกำลังคุยกันอย่างหาข้อสรุปไม่ได้”
“ผมเป็นหลานลุงกำโป๊ง” เจ้าคุณร้องลั่น
“ก็เออซิวะ บ๊ะ! จะแหกปากไปไหน เดี๋ยวใครมันมาได้ยิน”
“ทำไมล่ะครับ ทำไมผมต้องเป็นหลานลุงด้วย”
“ถ้าเอ็งไม่เป็นหลานข้า เอ็งก็จะอยู่ในม่วนแต๊ไม่ได้” กำโป๊งอธิบายเสียงจริงจัง
เจ้าคุณมองอย่างยังไม่เข้าใจ
ในขณะเดียวกันนั้น ไส้อั่วที่อยู่อีกมุมหนึ่งในพุ่มไม้ไกลๆ พยายามแหวกพุ่มไม้ตั้งใจฟังแต่ก็ไม่ได้ยิน
“ม่วนแต๊ ของเราเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ทุกคนอยู่กันอย่างสันโดษ พอเพียง ที่สำคัญ พวกเราอยู่กันไม่กี่
คน เพราะฉนั้น ถ้าจู่ๆ มีเอ็ง ซึ่งเป็นคนแปลกหน้าโผล่เข้ามา แล้วโดนชาวบ้านไล่ออกไปล่ะก้อ รายการไอ้ก้อง
บรรลัยแน่” กำโป๊งเผลอหลุดปากจนได้
“อะไรนะครับ รายการอะไร” เจ้าคุณสงสัย
“เฮ๊ย! รายการอะไร รายการที่ไหน ใครพูด ไอ้นี่หูฝาด ข้าบอกว่ามีหวังไอ้ก้องมันบรรลัยแน่ มัน
อุตส่าห์ฝากฝังให้เอ็งมาอยู่ที่นี่ ข้าก็ต้องดูแลเอ็งให้อยู่ให้ครบเดือนนึงใช่มั้ย”
กำโป๊งอธิบาย และเริ่มภารกิจโน้มน้าวเจ้าคุณเป็นฉากๆ
“นั่น ที่นี่ถ้าคนในม่วนแต๊เขาไม่ยอมรับเอ็ง เอ็งก็ไม่มีทางอยู่ได้ครบเดือนใช่มั้ย”
และปิดจ๊อบด้วยเหตุผลที่เจ้าคุณต้องปลอมเป็นหลานชายของตัวเอง
“นั่น! เพราะฉะนั้น เอ็งจึงต้องเป็นหลานข้า ที่พลัดพรากจากกันไปยี่สิบปี เพราะว่าเอ็งติงต๊อง เลยถูก
จับส่งไปรักษาตัวที่อื่น”
“เฮ๊ย! ไม่เอานะลุง” เจ้าคุณรับไม่ได้
“จะอยู่รึไม่อยู่”
“อ่ะๆ ก็ได้”
ไส้อั่วพยายามเงี่ยหูฟังแต่ไม่ได้ยิน
“เรื่องมากจริงไอ้นี่ เออ ว่าแต่เอ็งชื่ออะไรวะ ไอ้หนุ่ม”
“เจ้าคุณ!”
“เว๊ย เจ้าคุณ ไฮไซเกินเหตุ!! ไม่ได้ๆ มันต้อง ชื่ออะไรดีวะ ไอ้ขุน เอ็งต้องชื่อไอ้ขุน”
“ไอ้ขุน!” เจ้าคุณทวนชื่อใหม่ตัวเอง
“ใช่ ไอ้ขุนทองหลานข้า” กำโป๊งเสริม
“ไอ้ขุนทอง”
เจ้าคุณทวนชื่อใหม่ด้วยน้ำเสียงที่ดูจะไม่ชอบชื่อนี้นัก แต่ต้องจำยอมในที่สุด
เวลาเดียวกัน แมทธิวกับเอมี่กำลังฮาก๊าก ชี้ไปทีวี ทั้งคู่นั่งดูรายการเรียลลิตีที่เจ้าคุณกำลังออกอากาศ อยู่ด้วยกันในคอนโดแมทธิวที่กรุงเทพฯ
“ฮ่าๆ ไอ้ขุนทอง ไอ้ขุนทอง..ฮ่าๆ”
“อี๊ ขุนทอง หมดกัน คุณคะคุณของมี่”
“ไหนล่ะเอมี่ ไหนคุณเคยบอกว่าไอ้คุณมันเหนือผมทุกอย่าง แล้วตอนนี้เป็นไง แมทธิว กับ ไอ้
ขุนทอง ฮ่าๆ มันช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว ฮ่าๆ”
“อืมม์”
เอมี่หน้าตาเหมือนชักจะเห็นด้วย ก่อนที่เหลือบตาดูทีวี เห็นภาพโคลสอัพใบหน้าเจ้าคุณแดงในสภาพเถือกแล้วเอมี่ทำหน้าตาแหยๆ ก่อนจะหันมาจ้องแมทธิว
“จริงด้วย ตอนนี้แมทดูหล่อกว่าคุณคะคุณขาเยอะเลยน่ะ”
“ตอนนี้ นี่มันแค่เริ่มต้นเท่านั้นนะจ๊ะ ต่อไป ไอ้คุณ เอ๊ย! ไอ้ขุนทองมันจะต้องทุเรศนรกขนาดไหน ขอให้ติดตามตอนต่อไป”
สองคนหันกลับไปดูทีวีต่อ เห็นเป็นหน้าเจ้าคุณในจอ แมทธิวหน้าเหี้ยมคิดแผนร้ายในใจ
อ่านต่อหน้า 2
รักออกอากาศ ตอนที่ 2 (ต่อ)
ทางด้านเจ้าคุณยังอยู่ที่ใต้ถุนบ้านกับกำโป๊ง และกำลังมองสำรวจไปรอบๆ ตัว เพราะง่วงนอนจากความเหนื่อยล้า
“แล้วไหนห้องนอนผมล่ะลุง?
“ห้องนอน ตามมา”
เจ้าคุณลุกฟรึ่บ ผ้าขาวม้าหล่นลงมากองแทบเท้าทันที กำโป๊งเห็นแล้ว ตาลุกตกใจ ไส้อั่วที่แอบดูอยู่ตาลุกวาวร้องอู้หู กำโป๊งรีบคว้าผ้าขาวม้าขึ้นมาโอบตัวเจ้าคุณ แล้วสอนวิธีผูกผ้าขาวม้าให้
“เวรกรรมอะไรของข้าวะเนี่ย เฮ้อ เสื้อผ้าก็ไม่มีมาซักตัวเลยเหรอะวะ” กำโป๊งบ่นพึมพำ
“ไอ้ก้อง ให้ฉันมาตกนรกชัดๆ ไอ้เพื่อนเฮงซวย”
เจ้าคุณบ่นอย่างเคืองๆ ก้องเกียรติเพื่อนสนิทที่ทำให้ต้องมาตกระกำลำบากกว่าที่คิดไว้มาก
ซึ่งทั้งก้องเกียรติและกิ่งแก้ว เห็นอาการทั้งหมดของเจ้าคุณผ่านห้องคอนโทรล แต่ก็ทำได้แค่มองหน้ากันไปมาอย่างสุดวิสัย
กำโป๊งเปิดประตูห้องหนึ่งออก ห้องที่กำลังจะกลายเป็นห้องนอนเจ้าคุณที่บ้านม่วนแต๊ กำโป๊งเดินนำเจ้าคุณเข้ามาในห้อง เจ้าคุณตกตะลึงร้องลั่น
“ลุง!”
“อะไร ตกใจหมด”
“ไหนครับ ห้องนอน”
“จะไหน ก็เนี่ยล่ะเว้ย ห้องนอน”
“เนี่ยนะ ห้องนอน”
เจ้าคุณกวาดตามองไปรอบๆ เห็นสภาพห้องที่ทั้งคับแคบ และทรุดโทรม ทั้งห้องมีเฟอร์นิเจอร์เป็นตู้เสื้อผ้าเก่าๆ อยู่ใบเดียว
“ก็เออซิวะ”
“จะนอนยังไงเนี่ยลุง”
“บ๊ะ!! ทำไมมันง่าวงี้วะ นี่ไง นอนอย่างนี้ไง นอนเป็นมั้ย คร่อกๆ”
กำโป๊งเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบหมอนเก่าๆ ออกมาใบหนึ่ง โยนแหมะลงกลางห้อง แล้วล้มตัวลงนอนให้ดู ทำเสียงกรนให้ดูด้วย
“ไม่ใช่อย่างนั้นลุง คือ เตียงนอน แอร์ ทีวี ดีวีดี บลูเรย์ คอมพ์ฯ ตู้เย็น”
เจ้าคุณพูดไม่ทันจบ กำโป๊งเอาหมอนขว้างใส่เต็มหน้าทันที
“ถุ้ย! ไอ้หนุ่มเมืองกรุง ไอ้ไฮโซโอเว่อร์ มันชักจะมากไปแล้วเว๊ย ที่เอ็งพร่ำมาทั้งหมดน่ะ ไม่มี ถ้า
อยากจะมีก็เชิญกลับไปมีที่กรุงเทพฯ บ้านเอ็งโน่น ไม่ต้องมาอยู่กับข้า กระแดะ!”
เจ้าคุณโดนด่าเป็นชุดจนอึ้งไป
คู่รักเพื่อนเลิฟของเจ้าคุณอยู่ที่หน้าห้องคอนโทรล ก้องเกียรติทรุดตัวลงกับเก้าอี้ กิ่งแก้วทรุดตามลงไป ด้วยความสงสารเจ้าคุณ
ระหว่างนั้นทีมงานโผล่เข้ามา ก้องเกียรติถามเรื่องเรตติ้งของรายการเรียลิตีไฮโซบ้านเฮา
“ไง ยอดเอสเอ็มเอสเป็นไง?”
“เพียบเลยพี่”
“จริงเหรอ”กิ่งแก้วถามย้ำอย่างดีใจ
“ครับ พวกเราโทร.กันเองทั้งนั้น” ทีมงานว่า
“อ้าว”
“เอ่อ น้องๆ มันฝากถามว่าค่าโทรศัพท์เบิกกับใครน่ะพี่”
“เบิกที่บัญชี”
พูดจบก้องเกียรติกุมขมับ ทันใดนั้นมือถือดัง ก้องเกียรติหยิบมาดู ลุงกำโป๊งโทรมาจากในห้องลับเป็นห้องแคบๆ มีอุปกรณ์เทคนิคเพียบ โทรศัพท์ที่ใช้อยู่เป็นแบบรุ่นปิ่นโต
“เออ ข้าเองไอ้ก้อง ข้าชักจะไม่ไหวแล้วนะเว้ย ไอ้โฮโซของเอ็งน่ะ กระแดะชิปเป๋ง เอ็งมาเอาของเอ็งคืนไปเหอะ ข้ารำคาญ!” กำโป๊งพูดขึ้นอย่างเหลืออด
“โธ่ ลุง ใจเย็นๆ นะครับ ก็คนมันไม่เคยน่ะ ให้โอกาสมันหน่อย ถือว่าให้โอกาสผมด้วยนะ ผมลูก
เพื่อนรักลุงเชียวนะ ถ้าลุงไม่ช่วยผม รายการผมพังแน่เลย”
กำโป๊งค้อนขวับๆ ก่อนจะกดน้ำชาร้อนๆ จากกาน้ำร้อนประดิษฐ์เองแล้วซดโฮกแก้เครียด กิ่งแก้วคว้าโทรศัพท์มาคุยเองเพื่อช่วยก้องเกียรติ
“ลุงคะ ตะกี๊ลุงอยู่ในทีวี ล้อ หล่อ”
“จริงอ่ะ!” กำโป๊งหน้าบาน
“จริงค่ะ แหม หล่อยังกะโดมปกรณ์ ลัม แน่ะ”
“ห๊า! จริงเหรอวะอีหนู”
“จริงซิคะ ลุงรีบกลับไปเข้ากล้องนะคะ เดี๋ยวคนดูคิดถึงแย่”
“เอาล่ะๆ จะรีบไป แค่นี้นะ”
ได้ผลชะงัดนัก กำโป๊งวางหูทันที ก้องเกียรติ กับกิ่งแก้ว ยิ้มให้กัน ส่วนกำโป๊งกำลังจะเดินออกจากห้องลับปิดประตู หันมาจ๊ะเอ๋กับเจ้าคุณเต็มๆ
“เย้ย! มายืนหน้าแดงเถือกตรงนี้ทำไมวะไอ้ขุน”
“ห้องอะไรน่ะลุง”
“อย่ายุ่ง แล้วข้าขอเตือนว่าอย่ามายุ่งกับห้องนี้เด็ดขาด ไม่งั้นข้าจะไล่เอ็งกลับกรุงเทพฯ ตกลงว่ามาทำ
อะไรตรงนี้”
“ห้องน้ำรึเปล่า ผมอยากอาบน้ำ”
“อาบน้ำ”
กำโป๊งยิ้มทันทีที่ได้ยินเจ้าคุณบอกอยากอาบน้ำ
สักพักใหญ่เจ้าคุณถือไฟฉายมาตามทางมืดๆ ทางเดินเต็มไปด้วยดินแฉะๆ เจ้าคุณเดินโหย่งๆ เพราะเท้าโดนดินเปียก เหนียวหนืด เจ้าคุณเหยียบโคลนติดเท้าเป็นก้อน เลยพยายามจะเช็ดดินออกจากเท้า แต่ทำไปทำมาอย่างทุลักทุเล แล้วจังหวะหนึ่งก็ล้มหน้าทิ่มลงไปในโคลนเต็มๆ เจ้าคุณเงยหน้ามาหน้าดำปี๋ เต็มไปด้วยโคลนแถมมีไส้เดือนเต้นดุ๊บๆ เจ้าคุณจับออกดู ร้องจ๊ากลั่น
จะบ้าเหรอวะอาบน้ำทั้งทีต้องเดินเป็นกิโล ไอ้ก้องนะไอ้ก้อง แกจะหาที่ดีๆ ให้ชั้นไปอยู่หน่อยไม่ได้รึไง เว้ย ไอ้แมท แกจะต้องกราบเท้าฉันไอ้แมท”
อีกฟากหนึ่งที่บ้านสมใจ เวลานั้นสมใจใส่ผ้าถุงกระโจมอก มีผ้าขนหนูคล้องไหล่ เปิดฝาตุ่มน้ำแล้วปรากฏว่าน้ำไม่มี นึกโมดหหันไปท้าวสะเอวอ้าปากจะด่าแคบหมู แต่ดูเหมือนคู่กรณีจะรู้ตัวเสียก่อน
“อภัยให้แค๊บด้วยเต๊อะ แค๊บลืมตักน้ำ แฮ่ๆ”
“ลืมทั้งปีนังแค๊บ! นี่ฉันต้องไปอาบที่บึงอีกแล้วซิเนี่ย?
“จ้ะ”.
สมใจเหล่มองแคบหมู ถอนใจเฮือกใหญ่อย่างระอา
ที่บริเวณบึงของหมู่บ้าน เจ้าคุณค่อยๆเอาเท้าแหย่ลงในน้ำแล้วชะงักดึงเท้ากลับ แต่ก็ตัดสินใจลงน้ำ เพราะคันไปทั้งตัว
“โอย ยังกะน้ำแข็ง เอาวะ”
เจ้าคุณค่อยๆ จุ่มตัวลงในน้ำ สักพักต้องชะงักเพราะได้ยินเสียงเหมือนคนเล่นน้ำอยู่อีกด้านหนึ่ง เจ้าคุณสงสัยค่อยๆ เดินแหวกน้ำไปตามเสียง ทันใดนั้นสมใจโผล่พรวดขึ้นจากน้ำโดยมีผมยาวลู่ปิดหน้าตายังกะผีจูออนในหนังเกาหลี เจ้าคุณตกใจสุดขีด
“ผีหลอก!”
สมใจก็ตกใจ ลืมตามองเห็นเจ้าคุณหน้าดำปิ๊ดปี๋เพราะเปื้อนโคลน
“ว๊าย!”
เจ้าคุณกับสมใจรีบจ้ำพรวดๆ ขึ้นจากบึง แต่พอขึ้นมาได้ก็ดันวิ่งหนีมาชนกันโครม สมใจล้มหงายลงไปโดยมีเจ้าคุณคร่อมเต็มตัว
“ว๊าย! ไอ้ผีเปรต”
พูดจบสมใจก็ชกเปรี้ยง เข้าไปที่หน้าเจ้าคุณหงายเงิบ สมใจถีบอีกเปรี้ยงจนเจ้าคุณก้นจ้ำเบ้าหงายหลังลงไปกับพื้น สมใจรีบวิ่งหนีไป ปากก็ร้องเรียกให้คนช่วยไปด้วย เจ้าคุณนั่งมึนกุมปาก กุมจมูกอยู่ตรงนั้น
“อะไรวะเนี่ย อูย! นังผีบ้า”
ชาวบ้านและคนดูต่างชอบอกชอบใจ ในขณะที่นั่งดูเรียลิตีของเจ้าคุณ เด็กผู้ชายผู้เด็กหญิงนั่งดูชี้เจ้าคุณในทีวีขำกันกลิ้ง แม่ถือจานกับข้าวมาเต็ม 2 มือ ปากก็บ่น
“เอ้า ขำอะไรกันนักหนาไอ้ 2 คนนี่ มัวแต่ดูทีวี ข้าวปลาไม่กิน”
เด็กๆ ยังขำกันกลิ้ง ไม่สนใจแม่ แม่ยิ่งเคือง แม่มองทีวี เห็นเจ้าคุณตะเกียกตะกายลุกขึ้นจากการที่ก้นจ้ำเบ้าดูน่าขำ แม่ชักจะขำมั่ง วางจานข้าวแล้วปรี่ไปนั่งดูกับลูกเฉยเลย
“นั่นมันใครน่ะ”
“ไอ้ขุนทอง”
ทั้งหมดก็ตั้งหน้าตั้งตาดูทีวีต่อไป ขุนทองในเรียลิตี้กลายเป็นดาวตลกของคนดูทางทีวีไปแล้ว
เจ้าคุณอยู่ในสภาพหน้าดำ มีรอยเลือดกำเดาไหล โผล่มาที่บ้านจนกำโป๊งตกใจ ส่วนที่บ้านสมใจ กำลังถูกพ่อกับแม่ซักไซร้เรื่องผีเปรตที่เพิ่งไปเจอมา
“ไอ้ผีเปรต” สมศรีอุทาน
“ใช่จ้ะ ไอ้ผีเปรต” สมใจย้ำชัด
“ไป ไอ้ใจ๋ มันอยู่ไหนไอ้ผีเปรต พาข้าไปที หลอกใครไม่หลอก บังอาจมาหลอกลูกสาวไอ้สมหมาย
ข้าจะยิงมันให้ไส้แตกเลย”
“เดี๋ยวก่อนพี่หมาย จะไปยิงผีเนี่ยนะ นี่ไอ้ใจ๋ ตกลงมันยังไงหะ เมื่อกลางวันเพิ่งเจอไอ้โรคจิต ตกกลาง
คืนมาเจอไอ้ผีเปรตอีกแล้ว
“เออ จริงด้วย” สมหมายเห็นด้วย
“ฉันบอกแล้วเห็นมั้ย หมู่นี้ดวงแกมันซวยๆ ยังไงพิกล ไอ้ใจ๋” คำปุยย้ำอีกรอบ
“ไปหาอุ๊ยคำให้ช่วยสะเดาะเคราะห์ซะหน่อยมั้ยลูก” สมศรีแนะนำลูกสาว
“ จะไปหาอุ๊ยคำทำไม อย่างนี้มันต้องปรึกษาพ่อปลัดจืด” สมหมายบอก
“ปลัดจืดจับผีเป็นด้วยเหรอห๊า” สมศรีตวาด
“แต่ เดี๋ยวนะแม่ ใจ๋ว่า ไอ้โรคจิตกับไอ้ผีเปรตเนี่ยมันดูมีอะไรคล้ายๆ กันนะ เพียงแต่ไอ้โรคจิตมันหน้าแด๊งแดง แต่ไอ้ผีเปรตมันหน้าดำปิ๊ดปี๋เลย” สมใจตั้งข้อสังเกต
“ผีดำผีแดง!” แคบหมูโพล่งออกมา จนสมศรีต้องปาของใส่
“จะบ้าเหรอนังแค๊บ มีที่ไหนผีดำผีแดง เขามีแต่กบดำกบแดงเว้ย” คำปุยว่า
“ฮั่นแน่” แคบหมูยิ้มแซวคำปุย
“อ่ะ ไงนะ ไอ้ใจ๋ ไงต่อ”
“ใจ๋ว่า หมู่บ้านเราชักจะไม่ปลอดภัยซะแล้ว”
กำโป๊งจุดตะเกียง ห้องนอนเจ้าคุณสว่างจ้า
“อะไรนะลุง ที่นี่ไม่มีไฟฟ้า” เจ้าคุณตะโกนขึ้นอย่างงงๆ อีก
“เออซิวะ เอ็งจะตะโกนหาพระแสงเงี้ยวอะไรของเอ็งวะ?
“ไม่มีไฟฟ้า ที่นี่ไม่มีไฟฟ้า ไม่จริงอ่ะลุง ไม่มีไฟฟ้าแล้วจะอยู่กันได้ยังไง ผมไม่เชื่อ” เจ้าคุณโวยวาย
“ก็เชื่อซะ คนที่นี่เขาอยู่ได้ อยู่กันมาหลายชั่วคนแล้ว และที่สำคัญ เอ็งก็ต้องอยู่ให้ได้ด้วย ไอ้ขุนทอง”
“ไม่เอาแล้ว! ผมไม่อยู่แล้ว”
“ก็ตามใจ อยากกลับไปกราบตีนเพื่อนเอ็งก็ตามใจ” กำโป๊งพูดแทงใจดำ
เจ้าคุณอึ้ง กำโป๊งจะเดินออกไป
“เดี๋ยวลุง”
กำโป๊งชะงัก หันมามองแทนคำถาม
“ผมหิว”
“จัดให้”
ไม่นานหลังจากนั้นกำโป๊งเดินอมยิ้มเข้ามา ส่งกระติ๊บข้าวเหนียวเก่าๆ น้ำพริกหนุ่มในถ้วยเล็กๆ เก่าๆ แห้งกรัง มีไข่ต้มครึ่งลูกวางอยู่ในถ้วยนั้นด้วย ยื่นให้เจ้าคุณที่แคร่หน้าบ้าน
“กินซะ”
“เนี่ยนะ แค่เนี้ยนะลุง”
“ก็เออซิวะ แล้วแค่นี้ที่ไหน ไอ้แค่นี้ของเอ็งข้าเก็บไว้กินได้ 2 วันเชียวนะเว้ย จะกินไม่กิน”
ไส้อั่วมองๆ ในขณะที่เจ้าคุณกลืนน้ำลายเอื๊อกๆ
“เอ่อ..มีอย่างอื่นอีกมั้ย?”
“มี”
กำโป๊งลุกไปเด็ดยอดผักแถวนั้น 2-3 ยอดมาวางแหมะตรงหน้า
“ผักสดๆ วิตามินเพียบ”
“ผมไม่กินผัก”
“ไม่กินผัก”
“ใช่ ผมกินผักไม่เป็น”
“เวร แม่เอ็งเลี้ยงเอ็งมายังไงวะไม่ให้กินผัก มิน่า ลูกถึงติงต๊อง เฮ้อ”
จู่ๆ เจ้าคุณก็นึกถึงแม่ขึ้นมาตาละห้อยทีเดียว
ไม่ต่างไปจากคุณหญิงรจนาวรรณ ที่กำลังนั่งสะอื้นคิดถึงเจ้าคุณ โดยมีมะขิ่นคอยดูแลอย่างห่วงใย
และคอยยื่นทิชชู่ให้
“ฮือๆ เจ้าคุณลูกแม่ ป่านนี้จะเป็นไงมั่งก็ไม่รู้”
“อย่าคิดมากเลยเจ้าค่ะ คิดซะว่าคุณหนูไปดีแล้ว”
“นังบ้า! ลูกชายฉันยังไม่ตายนะยะ”
“แฮ่ๆ มะขิ่นหมายความว่า คุณหนูไปปฏิบัติธรรม ก็แบบว่าไปทำดี ได้บุญนะเจ้าคะ”
“ไม่ไหวแล้ว ฉันทนคิดถึงลูกคุณไม่ไหวแล้ว มะขิ่น มือถือฉันอยู่ไหน”
“นี่เจ้าค่ะ” มะขิ่นยื่นให้อย่างรู้ใจ รจนาวรรณกดโทร.ออกทันที
“ฮัลโหล หนูก้อง นี่คุณหญิงแม่นะจ๊ะ”
ก้องเกียรติอยู่ในห้องคอนโทรลสะดุ้งโหยง มองหน้ากิ่งแก้วเลิ่กลั่ก
“คุณหญิงแม่ ครับ สวัสดีครับคุณหญิงแม่”
“หนูก้อง แม่คิดถึงลูกคุณใจจะขาดแล้ว แม่ขอที่อยู่ลูกคุณหน่อยเถอะ แม่จะบินไปหาลูกคุณที่อังกฤษ”
“คุณหญิงแม่จะไปหาเจ้าคุณที่อังกฤษ!”
ก้องเกียรติและกิ่งแก้ว มองหน้ากันช็อกๆ
เวลาเดียวกันนั้นเจ้าคุณควักข้าวเหนียวในกระติ๊บเต็มกำมือ ลุงกำโป๊งตีมือเพี๊ยะ เจ้าคุณร้องลั่น
“โอ๊ย”
“จะบ้าเหรอ ใครเขากินอย่างนั้น”
“ก็ลุงบอกไม่มีช้อนส้อม”
“มีเว้ย แต่ไม่จำเป็น ใช้แล้วก็ต้องล้างเปลืองน้ำเปลืองท่าเปล่าๆ ทรัพยากรธรรมชาติเราต้องรู้จักใช้
อย่างประหยัด คุ้มค่า มา กินอย่างนี้”
กำโป๊งสาธิตการปั้นข้าวเหนียว จิ้มน้ำพริกหนุ่มใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ
“ลำแต๊ๆ เอาซิ เอ๊า กินซิวะ”
กำโป๊งดุๆ ให้เจ้าคุณทำตาม เจ้าคุณปั้นข้าวเหนียวตามอย่างเงอะงะ ข้าวเหนียวติดมือ ไส้อั่วขำๆ
เจ้าคุณส่งข้าวเหนียวเข้าปาก หน้าแหยๆ เคี้ยวไปเคี้ยวมา แล้วก็ตาโต ร้องลั่น เพราะน้ำพริกเผ็ดจี๋
“จ๊าก! เผ็ดๆ”
เจ้าคุณพ่นข้าวเหนียวออกมา ไส้อั่วขำก๊าก
“เอ้า! ไอ้เวร น้ำพริก ไม่เผ็ดแล้วจะให้หวานรึไงวะ”
“น้ำๆ”
“อ่ะ น้ำ”
ไส้อั่วส่งขันน้ำเก่าให้ เจ้าคุณมองแล้วรับมาทำหน้าอี๋อย่างรังเกียจ ก่อนจะเอามือวักน้ำล้างๆถูๆปาก กำโป๊งตบหัวเจ้าคุณดังป้าบจนหัวทิ่ม
“บ๊ะ ไอ้นี่ น้ำฝนมีไว้กินเว๊ย ไม่ใช่เอามาล้างหน้า”
“กิน กินน้ำฝน ในนี้อ่ะนะ” เจ้าคุณอึ้งอีก
“กินไม่ได้ก็ไม่ต้องกิน”
กำโป๊งกระชากขันกลับมากินเอง เจ้าคุณตาละห้อย อ้าปากเป่าๆ ปากเพราะยังเผ็ดอยู่
“กินนี่มั้ยพี่ แก้เผ็ด”
เจ้าคุณมองๆ ถ้วยใส่อั่วส่งให้
“อร่อย..มันๆ ลองดิ”
“ขอบใจ อืมม์ อะไรอ่ะ อร่อยดี” เจ้าคุณหยิบใส่ปากเคี้ยวหมับๆ
“แมงกุ๊ดจี่” ไส้อั่วบอก
“แมงกุ๊ดจี่” เจ้าคุณไม่เคยได้ยิน
“แมงกุ๊ดจี่ ที่มันอยู่ในกองขี้วัวขี้ควายน่ะ” กำโป๊งอธิบายจนเห็นภาพ
เจ้าคุณพ่นพรวด ร้องโวยวายแล้ววิ่งไปอ้วก ลุงกำโป๊ง ไส้อั่วขำกลิ้ง เจ้าคุณก้มๆ เงยๆ อาเจียน น้ำตา
เอ่อๆ หน้าตาสุดทน และคิดถึงแม่ขึ้นมาทันที
เวลาเดียวกัน ก๊วนเพื่อนทั้ง ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว เอมี่ แมทธิว และเจอาร์ มารวมกันพร้อมหน้าที่คฤหาสน์รจนาวรรณ เพื่อหาวิธีไม่ให้รจนาวรรณไปเยี่ยมเจ้าคุณ
“ว่าไงนะ แม่ต้องไปปฎิบัติธรรม”
“ใช่ค่ะ คือ มันเป็นหนึ่งขั้นตอนของคอร์สปลีกวิเวกที่เจ้าคุณไปปฎิบัติน่ะค่ะ บุญกุศลของคุณแม่กับ
คุณลูกจะช่วยเกื้อหนุนกันน่ะค่ะ” กิ่งแก้วอธิบาย
“ได้ พรุ่งนี้แม่จะบินไปอังกฤษเลย”
“เอ๊ย! ไปไม่ได้ เอ๊ย! ไม่ใช่ครับ คือ คุณหญิงแม่ต้องปฎิบัติธรรมที่เมืองไทยครับ” ก้องเกียรติหว่านล้อม
“ใช่ค่ะ ยิ่งวัดต่างจังหวัดก็ยิ่งดี”
“มันจะดียังไงหนูกิ๋ง แล้วทำไมแม่ถึงจะไปปฎิบัติธรรมกับเจ้าคุณไม่ได้”
ทุกคนมองหน้ากันอย่างเครียดๆ
“คืองี้ครับคุณหญิงแม่ ขืนคุณหญิงแม่ไปปฎิบัติธรรมร่วมกับเจ้าคุณ เจ้าคุณมันอาจจะสมาธิว่อกแว่ก แล้วคอร์สปลีกวิเวกของมันก็จะไม่สำเร็จ
“จริงค่ะๆ แล้วทั้งคุณหญิงแม่กับคุณคะคุณขาก็จะบาปกรรมตกนรกหมกไหม้นะคะ” เอมี่สรุปสั้นๆ ให้ฟังแต่แรงส์
รจนาวรรณสะดุ้ง ทุกคนมองหน้ากันอึ้งๆ แต่ดูท่ารจนาวรรณจะเชื่อเอมี่เสียด้วย
“ตายจริง ไม่เอาค่ะไม่เอา แม่ไม่อยากตกนรกหมกไหม้ งั้นไปจ้ะ แม่จะไปปฎิบัติธรรม”
ทุกคนลืมตัวดีใจ กระโดดตีมือกันลั่น
“ว่าแต่ ใครจะไปเป็นเพื่อนแม่จ๊ะ ลูกมี่ใช่มั้ย”
“ไม่นะ!” เอมี่เหวอทันที
อีกมุมของคฤหาสน์ แมทธิว เอมี่ กิ่งแก้ว ก้องเกียรติ ยังคงตกลงเรื่องไปปฏิบัติธรรมกับรจนาวรรณไม่ลงตัว
“ไม่ได้ เอมี่ต้องไป” แมทธิวสั่ง
“ทำไม ทำไมจะต้องเป็นมี่”
“ก็ว่าที่ลูกสะใภ้ ไงจ๊ะเธอไม่ไปแล้วใครจะไป หรือจะให้ไอ้เจอาร์”
“ว๊าย! เขาไม่อยากเป็นลูกสะใภ้คุณหญิงนะยะ” เจอาร์สาวแตกใส่ทันที
“คุณต้องไปนะเอมี่ ถ้าไม่รีบกันคุณหญิงแม่ออกไปไกลๆ ล่ะก้อ แผนผมแตกแน่” แมทธิวว่า
“แผน แผนอะไรของแก ไอ้แมท” ก้องเกียรติคาดคั้นทันที
“เอ่อ... แผนของเรา คือ ฉันหมายถึงแผนของแกที่หลอกให้ไอ้คุณไปอยู่บ้านนอกเพื่อทำรายการทีวีไง”
“ฉันไม่ได้หลอก แกต่างหากที่พนันกับไอ้คุณ” ก้องเกียรติแย้ง
“แต่แกก็ได้ผลประโยชน์ไปเต็มๆ ไม่ใช่เหรอไอ้ก้อง แกได้ทำรายการนี้ ก็เพราะฉันนะเว้ย”
“ทวงบุญคุณอยู่นั่นแหละ” กิ่งแก้วโวยแมทธิว
ในระหว่างนั้นรจนาวรรณโผล่มาพร้อมมะขิ่นพอดี ทุกคนสะดุ้ง สงบปากและเก็บอาการกันสุดฤทธิ์
“ทำไมหลบมาอยู่ตรงนี้กันหมดล่ะลูก”
“เอ่อ มาสูดอากาศธรรมชาติน่ะครับ คฤหาสน์คุณหญิงแม่อากาศเฟรช มากครับ” เจอาร์เจ๋อตอบก่อนใครๆ
“อ๋อ จ้ะๆ ตกลงว่าไงจ๊ะ จะไปปฎิบัติธรรมกับแม่มั้ยจ๊ะลูกมี่”
เอมี่อ้าปาก แต่ไม่ทันแมทธิว
“ไปครับ เอมี่ยินดีไปปฏิบัติธรรมกับคุณหญิงแม่ครับ”
เอมี่อ้าปากค้าง รจนาวรรณโผเข้ากอดเอมี่อย่างซาบซึ้งใจ
“ลูกมี่ น่ารักสมกับจะเป็นลูกสะใภ้แม่จริงๆ จ้ะ”
เอมี่เคืองจัดแต่ไม่รู้จะพูดอย่างไร ทุกคนโล่งอก แมทธิวยิ้มอย่างพอใจ
เหตุการณ์ที่บ้านม๊วนแต๊ เวลานั้นเจ้าคุณเปิดประตูห้องนอนเข้ามา ในมือถือตะเกียงมาด้วย เจ้าคุณยืนมองไปรอบๆ ห้องอย่างอนาถใจ บ่นพึมพำอยู่คนเดียว
“หนึ่งเดือน นี่ยังไม่หมดหนึ่งวันฉันก็จะแทบตายแล้วเว้ยไอ้แมท”
พูดจบก็ลืมตัว เขวี้ยงตะเกียงลงพื้นทันที ไฟจากตะเกียงลุกพรึ่บอย่างรวดเร็ว เจ้าคุณตกใจมากร้องลั่น
“เฮ้ย! ช่วยด้วยๆ”
กำโป๊งเปิดประตูผลัวะออกมา หน้าตาประแป้งเย็นพร้อมนอนเต็มที่แล้ว
“ดึกดื่นแล้วจะแหกปากทำบ้าอะไรอีกวะ”
“ไฟไหม้!” เจ้าคุณร้องลั่น
“ กูรู้แล้ว ไฟไหม้ ไอ้อั่วไฟไหม้!” กำโป๊งปรี่เข้ามาเอาผ้าห่มตบๆ ดับไฟ เจ้าคุณกระโดดหนีลูกเดียว
“จะยืนอยู่ทำเงี้ยวอะไรวะ ช่วยกัน”
เจ้าคุณส่ายหน้าลูกเดียว กำโป๊งด่า แล้วก็ดับไฟต่อ แป๊บหนึ่งไส้อั่วก็แบกน้ำมาหนึ่งถัง
“เร็ว! ไอ้อั่ว”
ไส้อั่วสาดโครมเข้าไปเต็มๆ หน้า กำโป๊งเปียกซ่กพร้อมกับไฟดับลง
กำโป๊งหันมาตีหน้ายักษ์ใส่ไส้อั่วทันที ส่วนเจ้าคุณได้แต่มองจ๋อยๆไป
กำโป๊งโมโหเขวี้ยงหมอนให้เจ้าคุณไล่ให้ไปนอนที่แคร่หน้าบ้าน โวยวายใส่ที่จะทำบ้านโดนไฟไหม้
“นอนตรงนี้แหละไอ้เบื๊อก ชิชะ มาอยู่ไม่ทันข้ามคืนก็จะเผาบ้านข้าซะแล้วมั้ยล่ะ”
“ผมไม่ได้ตั้งใจ” เจ้าคุณเสียงอ่อย
“หุบปากไปเลย นอน อย่าหาเรื่องให้ข้าเดือดร้อนอีก” พูดจบกำโป๊งก็เดินฉุนออกไป
“ ใจเย็น พี่ชาย” ไส้อั่วเห็นใจเจ้าคุณ
กำโป๊ง ไส้อั่ว ทิ้งให้เจ้าคุณนั่งกอดหมอนอึ้งอยู่ดูแล้วน่าสงสาร สักพักก็มีเสียงหึ่งๆ ของยุงดังข้างหู เจ้าคุณสะดุ้ง ตบหน้าตัวเองผัวะ หงายมือออกดูเห็นยุงถูกตบบี้แบนเลือดเปรอะ
“ลุงกำโป่ง!” เจ้าคุณตะโกนอย่างสุดจะทนไหว แต่ดันโมโหจนเรียกชื่อผิด
กำโป๊งรู้ทันยืนตีหน้ายักษ์ขว้างมุ้ง ที่ม้วนเป็นก้อน ใส่หน้าเจ้าคุณ
“เอาไป อ้อ ข้าชื่อ กำโป๊งไม่ใช่กำโป่ง!”
“เดี๋ยวลุง!” เจ้าคุณเรียกไว้
กำโป๊งชะงัก หันกลับมาหน้าตาสุดหน่าย
“จะอารายอีก”
“นี่มันอะไร” เจ้าคุณคาใจเรื่องมุ้ง
“มุ้ง นี่เอ็งไม่รู้จักมุ้งเหรอไอ้เบื๊อก ไอ้โง่ ไอ้ง่าว ไอ้ติงต๊อง กูไม่อยากยุ่งกับมึงแล้ว”
“มุ้ง”
เจ้าคุณงง ทำท่าจะถามไส้อั่ว แต่ไม่ทันแล้วเพราะทั้งกำโป๊งและไส้อั่วพากันเดินออกไป ปล่อยให้เจ้าคุณมองไอ้ก้อนกลมๆ ในมืออย่างสงสัย
สักพักจึงจับคลี่ ออก แต่ก็ไม่ไรู้ว่าจะต้องทำอย่างไร สุดท้ายเอาห่อๆ ตัวเอง แล้วล้มลงนอน พอนอนไปสักพักเดียวยุงกัดหน้าอีก เจ้าคุณตบแผละ ในที่สุดก็ดึงมุ้งมาห่อคลุมหน้า ม้วนมุ้งเข้ากับตัวจนเห็นแต่ลูกตาดูราวกับมัมมี่ เจ้าคุณนอนเอามือก่ายหน้าผาก พึมพำกับตัวเอง
“อยู่ไม่ได้ เราอยู่ที่นี่ไม่ได้จริงๆ เราต้องหนี”
เจ้าคุณพูดด้วยสีหน้าแววตาเอาจริง
ไม่นานหลังจากนั้น เจ้าคุณกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาตามทาง หันไปมองด้านหลังเป็นระยะๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครตามมา เจ้าคุณหันกลับไป แล้วเริ่มออกวิ่ง ก่อนจะมาถึงถนนใหญ่ เจ้าคุณหอบแฮ่กๆ อย่างเหนื่อยล้า จังหวะนั้นก็มองเห็นแสงไฟจากรถแล่นมา เจ้าคุณดีใจมาก รีบโบกมือ ไม่นานรถจอด เจ้าคุณเปิดประตูขึ้นไปนั่ง
“รีบไปเลย!”
รถแล่นออกไป เจ้าคุณโล่งใจ หันไปก็ตกใจสุดขีดที่เห็นแมทธิว
“ไอ้แมท”
“แกแพ้ฉันแล้ว”
แมทธิวเบรกเอี๊ยด หันมามองเจ้าคุณหน้าตาโหดเหี้ยม
“แกทำตามที่พูดไว้ไม่ได้ เพราะฉะนั้น”
แมทธิวยกเท้าขึ้นมาวางบนตักเจ้าคุณ
“กราบเท้าฉันซะ”
เจ้าคุณดันขาแมทธิวออกไป แล้วรีบเปิดประตูรถ เจ้าคุณวิ่งหนีแต่กลับเจอแมทธิวดักหน้ารออยู่ เจ้าคุณหลอนมาก หันไปอีกทางก็เจอแมทธิวอีกคน หันไปมองรอบๆ แมทธิวยืนล้อมตัวเองไว้ แล้วพูดขึ้นพร้อมๆ กัน
“กราบเท้าฉันไอ้ฉี่เหม็น กราบเท้าฉัน ไอ้ฉี่เหม็น กราบเท้าฉัน ไอ้ฉี่เหม็น”
เจ้าคุณก้มมองเห็นตัวเองฉี่ราด ก็ตกใจ แมทธิวทั้งหลายล้อมวงเข้ามา เจ้าคุณอุดหูเหมือนตอนเด็กๆ แล้วย่อตัวลงที่พื้น
ที่แท้เจ้าคุณในห่อมัมมี่บนแคร่หน้าบ้านกำโป๊ง กำลังนอนกระสับกระส่ายเพราะฝันว่าตัวเองต้องกราบเท้าแมทธิว
“ไม่ ไม่ ไม่”
เจ้าคุณร้องสุดเสียง แล้วผุดลุกขึ้นทั้งตัวที่ห่อห่มแบบมัมมี่ เจ้าคุณสะดุ้งลืมตาตื่น กวาดตามองไปรอบๆ ในอาการเหนื่อยหอบ
“ไอ้แมท! ฉันไม่มีวันกราบเท้าแก แกต่างหากที่ต้องกราบเท้าฉัน”
พูดจบเจ้าคุณก็ล้มตัวลงนอนต่อ โดยตลบเอามุ้งคลุมหน้านอนเหมือนมัมมี่ตามเดิม
อ่านต่อหน้า 3
รักออกอากาศ ตอนที่ 2 (ต่อ)
พระอาทิตย์สาดแสงสวยงามยามเช้า ช่วยสร้างบรรยากาศให้ทั่วทั้งบ้านม่วนแต๊สดใส ที่ร้านน้ำแข็งใสของหวานเจี๊ยบ สมาชิกในหมู่บ้านอยู่กันครบครันพร้อมหน้าเช่นทุกๆ วัน เวลานั้นทุกคนกำลังรุมล้อม โต๊ะที่ปลัดจืด สมใจ สมหมาย สมศรี และคำปุย นั่งอยู่ กลายเป็นการประชุมสภาม่วนแต๊ขนาดย่อมเลยทีเดียว
“ว่าไงนะ ไอ้โรคจิต! หวานเจี๊ยบกลัวอ่ะพี่ใจ๋” หวานเจี๊ยบกลัวเว่อร์พุ่งจะไปนั่งตักสมใจ แต่โดนผลักออก
“ว๊าย! ไอ้ผีเปรต แทใยก็กลัว” ลำใยเอาบ้าง กระโดดนั่งตักปลัดจืดทันที ปลัดทำท่าจะปัดออก
“นี่ นังลำใย หน้าแกก็ไม่แพ้เปรตเลยนะยะ” คำปุยเหน็บแถมค้อนใส่
ต๊าย นังปุ๋ยหมักปากเหม็น พูดอย่างนี้กับลูกสาวข้า มาตบกับแม่มันดีกว่ามั้ย”
ลำยองชักไม่ปลื้มคำปุย
“โอย อย่าเพิ่งตีกันได้มั้ย ขอพูดเรื่องคอขาดบาดตายก่อน เอ้า! ตาหมาย ว่าไป” สมศรีตัดบท
“คืองี้ ปลัด ปลัดต้องจัดการให้เด็ดขาดนะ เมื่อวานนี้ ตอนเช้าไอ้ใจ๋มันก็เจอคนแปลกหน้าโรคจิตไป
ทีนึง ตกกลางคืนมันก็เจอผีเปรต”
“เออ ฉันว่าไม่ใช่ผีหรอกพ่อ คนนี่แหละ ชั้นยังชกมันซะเลือดกระฉูดเลย”
“ว๊าย พี่ใจ๋ เก่งจังเลย แมนสุดๆ” หวานเจี๊ยบปรบมือรัวชมสมใจออกนอกหน้าจนโดนปลัดจืดดุ
“เงียบๆ หน่อย”
“ไอ้ปลัดจ๋อย!” หวานเจี๊ยบแว้ดใส่
“นังหวาน” สมศรีปรามหวานเจี๊ยบ ถึงเงียบลงได้ แต่ก็ยังฟึดฟัดใส่
“ไง ปลัด บ้านม่วนแต๊ของเราไม่เคยมีเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อน ปลัดจะปล่อยไว้ไม่ได้นะ ไม่งั้นจะเป็น
อันตรายต่อพี่น้องของเรา” สมหมาย
ชาวบ้านรับคำเห็นด้วยกันอื้ออึง ไส้อั่วเพิ่งจะมาถึงจึงเดินเข้ามามองๆ
“ไม่ต้องห่วงครับลุงหมาย ผมจะต้องปกป้องดูแลม่วนแต๊ให้สงบสุขเหมือนอย่างที่เคยเป็นมา จะไม่
ยอมให้ไอ้หน้าไหนมาทำลายความสุขของพี่น้องเราเด็ดขาด” ปลัดหน้าจืดสนิทอาสาดูแลราษฎร
ทุกคนปรบมือเกรียวกราวยกเว้นหวานเจี๊ยบที่แหวะใส่ สมหมายตบไหล่ปลัดจืดแบบสุดปลื้ม
“ดีมาก สมกับที่เป็นปลัดในดวงใจข้าจริงๆ”
“วู้ๆ ปลัดในดวงใจ เชียวเหรอ ลุงหมาย”
ทุกคนหันขวับ เมื่อได้ยินเสียงดำเกิง นักเลงโตประจำบ้านม่วนแต๊ เดินกร่างเข้ามาพร้อมสมุน
“ก็เออซิวะ เอ็งจะทำไมข้า ไอ้ดำเกิง” สมหมายฉุนที่โดนล้อเลียน
“ดำเกิงจะทำไม? ดำเกิงก็เสียใจน่ะดิ ที่เดี๋ยวนี้ไม่ได้เป็นดำเกิงในดวงใจของลุงหมายแล้ว”
ดำเกิงคุกเข่าตรงหน้าสมหมายทันที ครวญครางเสียงอ่อย
“อย่าทะลึ่ง ไม่ว่าจะเดี๋ยวนี้เดี๋ยวไหนเอ็งก็ไม่เคยเป็นเว้ย” สมหมายว่า
“สมน้ำหน้า!คนอะไรไม่เจียมตัว” ลำใยซ้ำ
“สวยตายนี่อีหน้าหนอน” ดำเกิงสวนกลับทันทีเช่นกัน
“อ้าว! เฮ้ยๆ ด่าลูกสาวข้าอย่างนี้ มาต่อยกับแม่มันดีกว่ามั้ยไอ้ดำเกิง”
ลำยองตั้งการ์ดใส่ดำเกิง ก่อนจะชุลมุนไปกว่านี้ สมใจก็ปรี๊ดขึ้น
“หยุด! แทนที่จะตีกัน เรามาช่วยกันตามจับไอ้โรคจิตผีเปรตดีกว่า”
“จ้า น้องใจ๋คนสวยพูดถูก น้องใจ๋ว่าไรนะ ไอ้โรคจิตผีเปรตที่ไหนกัน”
“สงสัยจะญาติแกล่ะซิ ไอ้ดำเกิงไ หวานเจี๊ยบหึงสมใจใส่ดำเกิง
“อ้าว! น้องหวานเจี๊ยบ พูดจาน่าจูบปากซะให้เข็ด”
ดำเกิงยื่นปากมาหมายจะจูบหวานเจี๊ยบ เลยโดนหวานเจี๊ยบตบหมุนติ้ว ผู้คนสะใจฮือฮากันทั้งบาง ไส้อั่วปรี่มากระซิบถามแคบหมูที่อยู่แถวนั้น
“นังแค๊บ อะไรกันวะ”
“เขาประชุมกัน บ้านเรามีไอ้โรคจิต ไอ้ผีเปรต” แคบหมูว่า
“ไอ้โรคจิต ไอ้ผีเปรต” ไส้อั่วประหลาดใจ
“เออ เมื่อวานพี่ใจ๋เขาเจอ ตอนเช้าไอ้โรคจิตหน้าแดง ตอนกลางคืนไอ้ผีเปรตหน้าดำ” แคบหมูสำทับข้อมูล
“ไอ้โรคจิตหน้าแดง”
ไส้อั่วพึมพำ แล้วนึกถึงหน้าเจ้าคุณ ในชื่อขุนทองหลานกำโป๊งทันที
“พี่ขุนทอง!” ไส้อั่วอุทานด้วยความใจ
“พี่ขุนทอง” แคบหมูอุทานเสียงดังกว่า
หมู่มวลสภาม่วนแต๊เงียบกริบ หันขวับมองมาที่เด็กทั้งสองคนกันเขม็ง และสงสัยว่าใครกันคือขุนทอง ไส้อั่วได้แต่ทำหน้าแหยๆ
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วนั่งอยู่หน้าจอมอนิเตอร์ในห้องคอนโทรล ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“แย่แล้ว ทำไงดีล่ะก้อง” กิ่งแก้วร้องขึ้น
ก้องเกียรติอึ้ง ก่อนจะนึกออก รีบคว้ามือถือมากดโทร.หากำโป๊งทันที
“ฮัลโหล สวัสดีครับลุงกำโป๊ง”
“ไอ้ก้อง เอ็งรีบเลยนะ รีบมาเอาไอ้เพื่อนไฮโซของเอ็งกลับกรุงเทพฯ ไปเลยนะ ข้าจะสุดทนแล้ว เมื่อคืนมันจะเผาบ้านข้าวอดวายแล้วรู้มั้ย”กำโป๊งรับสายก็ใส่ก้องเกียรติทันที
“รู้ซิครับลุง แต่ลุงก็ดับไฟทันนี่ครับ เก่งจังเลย”
“เก่งพ่อเอ็งน่ะซิ ไอ้อั่วมันสาดโครมข้าเต็มๆ ข้างี้เปียกซ่ก ฮ้าดเช่ย!”
“ขนาดเปียกยังหล่อเลย เซ็กซี่ด้วย พี่โดมงี้อายเลยค่ะลุง” กิ่งแก้วช่วยอวย ชมอีกรอบ แต่ทำท่าไม่ได้ผล กำโป๊งของขึ้น
“ไอ้พี่โดมมันไม่อายหรอกเว๊ย กูซิอาย”
“ลุงครับ อย่าโกรธเลยนะครับ ไหนๆ ช่วยผมแล้วก็ช่วยให้ตลอดเถอะนะครับ นึกว่าสงสารลูกนกลูกกา”
กำโป๊งสะบัดหน้างอนใส่ก้องเกียรติ
“คุณลุงขา นะๆ เออ จริงด้วย ตอนนี้พวกชาวบ้านรู้แล้วนะคะว่าเจ้าคุณอยู่ที่บ้านลุงอ่ะค่ะ”
“ห๊า!”
“ลุงครับ ลุงต้องช่วยนะครับ อย่าให้ชาวบ้านรู้เด็ดขาดว่าไอ้คุณเป็นใคร ไม่งั้นแผนแตก รายการผมเจ๊งแน่” ก้องเกียรติอ้อนสุดชีวิต
มีเสียงชาวบ้านเดินแห่กันมาที่บ้านกำโป๊งเพื่อหาตัวขุนทองดังขึ้น
“ไหนวะ ไหนๆ ไอ้ขุนทองอยู่ไหน”
“เวรละ ข้าจะเจ๊งซะก่อนอ่ะซิ ไอ้ก้อง”
กำโป๊งวางหูโทรศัพท์ทันที เพราะชาวบ้านแห่กันมา โดยมีไส้อั่วโดนลากมาด้วยแบบหน้าจ๋อยๆ
“ไหนวะ ไอ้อั่ว ไหนไอ้พี่ขุนทองของเอ็งอยู่ไหน”
กำโป๊งโผล่พรวดออกมาจากประตูห้องลับ รีบปรี่มาขวางขบวนก่อนจะมาถึงแคร่ที่เจ้าคุณนอนอุตุอยู่ในสภาพมัมมี่
“เอะอะโวยวายอะไรกันแต่เช้า โอ้โห พ่อปลัดนำทีมมาเองเลยรึนี่ มีเรื่องอะไรใหญ่โตรึ”
“คือ พวกเราได้ข่าวว่า มีคนแปลกหน้ามาอยู่ที่บ้านลุงกำโป๊ง จริงรึเปล่าครับ” ปลัดจืดถามเสียงสุภาพ
ลุงกำโป๊งเหล่ไส้อั่ว ไส้อั่วหน้าจ๋อย หัวเราะแหะๆ
“ว่าไงพี่โป๊ง จริงรึเปล่า” สมหมายซักกำโป๊ง
“จริง” กำโป๊งว่า
“นั่นไง สงสัยมันจะต้องเป็นไอ้โรคจิตไอผีเปรตที่มาหลอกน้องใจ๋ของอ้ายเกิงแน่ๆ” ดำเกิงพูดขึ้น
ทุกคนฮือฮาเห็นด้วย
“เอ็งพูดอะไรของเอ็งไอ้ดำเกิง หลานชายข้ามันเป็นไอ้โรคจิตไอ้ผีเปรตอย่างที่เอ็งว่าได้ยังไง”
ชาวบ้านอึ้ง งง เมื่อรู้ว่ากำโป๊งมีหลานชาย
“ที่สำคัญ ไอ้ขุนทองมันก็ไม่ใช่คนแปลกหน้าอย่างที่พ่อปลัดจืดว่าด้วย” กำโป๊งสำทับ
“งั้นฉันขอดูหน้ามัน เอ๊ย! ขอดูหน้าหลานชายลุงหน่อยได้มั้ย” สมใจยืนยันจะขอพบขุนทองเดี๋ยวนี้
“นี่เอ็งไม่เชื่อข้ารึ ไอ้ใจ๋” น้ำเสียงกำโป๊งดูน้อยใจนิดๆ
“ไม่ใช่อย่างน้าน ลุง”
“แต่ถึงยังไง ตามกฎของบ้านม่วนแต๊ การที่จะมีใครเข้ามาอยู่อาศัยในหมู่บ้านเราก็จำเป็นต้องแสดง
ตัว และได้รับการยอมรับจากพวกเราก่อนอยู่แล้วนะครับลุง” ปลัดจืดยืนยันตามสมใจ ทุกคนเห็นด้วย
“เอ้า! อยากดูก็ดูซะ”
เจ้าคุณนอนในสภาพมัมมี่ ทั่งตัวห่อด้วยมุ้ง
“อยู่ไหน”
“ก็นั่นไง มันนอนอยู่นั่นน่ะ”
“ห๊า!”
ทุกคนกรูไปยืนมุงดูมัมมี่กันพรึ่บพรั่บ ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันยกใหญ่ เพราะยังไม่เห็นหน้า
“ไหนล่ะลุง ไม่เห็นหน้าเลย” สมใจย้อนถามกำโป๊ง
“ไอ้เวรเอ๊ย! ขนาดนี้แล้วเอ็งยังไม่ตื่นอีก เฮ้อ!”
กำโป๊งคว้าระฆังมาตีรัวที่ข้างหูเจ้าคุณ เจ้าคุณลุกฟรึ่บร้องโวยลั่น ทั้งที่หลับตาและยังห่มมุ้งปิดหน้าอยู่ ชาวบ้านแตกฮือ
“โว๊ย! หนวกหูเว๊ยไอ้ไมค์ ฉันจะนอน”
เจ้าคุณลืมตัวคิดว่ากำลังนอนอยู่ที่คฤหาสน์และถูกไมเคิลปลุก พอเริ่มรู้สึกตัวก็เหลือบตามองรอบๆ แต่แล้วต้องตกใจร้องลั่น
“เฮ๊ย!”
ชาวบ้านก็สะดุ้งโหยง กลัวอยู่เหมือนกัน
“ไหน ขอดูหน้าหน่อยซิ” สมใจปรี่มาดูหน้าเจ้าคุณทันที เจ้าคุณจำสมใจได้
“ยัยหมูกะทะ!”
ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว ที่อยู่ในห้องคอนโทรลหน้าเสีย
“แย่แล้ว!”
“นั่นมันยัยหมูกะทะจริงๆ ด้วย” ก้องเกียรติกังวล
“ถ้าเขาจำเจ้าคุณได้” กิ่งแก้วมองไปที่ก้องเกียรติอึ้งเช่นกัน
สมใจยังคงข้องใจขยับไปใกล้เจ้าคุณอีก
“ว่าไงนะ”
“ไอ้ใจ๋! อย่าไปใกล้มัน” สมหมายเข้าไปจับลูกสาวตัวเองไว้
“ช่วยเอาผ้าออกให้เราเห็นหน้าหน่อยซิ เอ่อ นายขุนทอง” ปลัดจืดเข้ามาจะขอดูหน้าเจ้าคุณ
“เอ้า! เปิดให้เขาดูซิวะไอ้ขุนทอง จะได้หมดเรื่องหมดราว”
กำโป๊งสั่งเจ้าคุณ แต่ช้าไปแล้ว เพราะสมใจโดดเข้ากระชากมุ้งที่ห่อคลุมหน้าเจ้าคุณออกทันที แต่สมใจต้องอึ้ง เพราะจำเจ้าคุณไม่ได้ เนื่องจากยุงกัดไปทั้งหน้า แดงเถือกไปหมดจนจำแทบไม่ได้ ต่างคนต่างจ้องกันไปมา
“ทำไมหน้าคุ้นๆ” สมใจบ่นงึมงำ
“ไป๊!”
เจ้าคุณไล่สมใจ ชาวบ้านสะดุ้งโหยง กอดกันกลม
“ไงไอ้ใจ๋ ใช่ไอ้โรคจิต ไอ้ผีเปรตรึเปล่า”
สมหมายถามลูกสาว สมใจยังอึ้งๆ
“ไอ้ขุนทองมันไม่ค่อยจะเต็ม” กำโป๊ง ลูบหัวเจ้าคุณอย่างเวทนา
“เฮ๊ย!” เจ้าคุณมองกำโป๊ง ก่อนที่จะโดนเบิ๊ดกะโหลกหนึ่งเพียะ
“ลุง! นี่ลุง อย่ามาขึ้นเสียง มันไม่ใช่ ไอ้โรคจิต ไอ้ผีเปรตอะไรที่ไอ้ใจ๋มันว่าหรอก เมตตามันเถอะนะ
ให้ฉันเลี้ยงมันไว้ซักพัก ไม่กี่วันหรอก เดี๋ยวแม่มันก็มารับ”
กำโป๊งโล่งใจที่ชาวบ้านเชื่อและมองเจ้าคุณอย่างสงสาร เจ้าคุณสุดเซ็งแต่สมใจยังคงมองแบบติดใจ
เจ้าคุณหันมาป๊ะสายตาสมใจ เจ้าคุณเลยทำหน้ายักษ์ใส่ สมใจสะดุ้ง ทำหน้ายักษ์ใส่บ้าง
ก้องเกียรติ และกิ่งแก้วอยู่ในห้องคอนโทรล หงายหลังพิงเก้าอี้หน้ามอนิเตอร์พร้อมกันอย่างโล่งอก ก่อนจะหันมองหน้ากันแล้วยิ้มแฉ่ง กอดกันแน่น แถมยังกดภาพเจ้าคุณและสมใจตีหน้ายักษ์ใส่กันเต็มจอเก็บไว้ด้วย
สมาชิกในบ้านสมใจกำลังเสวนาเรื่องหลานกำโป๊งคนล่าสุด นั่นคือขุนทองหรือเจ้าคุณ ที่เพิ่งไปพบมา
“ไม่ยักกะเคยรู้มาก่อนเลยนะว่าลุงกำโป๊งแกมีหลานอีกคน โถ หน้าตาน่าเวทนา” สมศรีเอ่ยขึ้น
“แต่ถึงยังไงเอ็งก็ต้องระมัดระวังตัวนะไอ้ใจ๋ เพราะเราก็ยังตามล่าไอ้โรคจิตผีเปรตนั่นไม่ได้ เอาล่ะ
สายแล้ว เดี๋ยวไปที่ไร่กันได้แล้ว”
สมหมายยังคงห่วงลูกสาวตามเคย
“ไงล่ะนังใจ๋ ไอ้โรคจิตผีเปรตอะไรของแกน่ะ” คำปุยถาม
สมใจไม่ตอบยังนิ่งคิด ติดใจเรื่องเจ้าคุณในชื่อขุนทองโดยมีคำปุยนั่งอยู่ด้วย
“นังใจ๋!” คำปุยเรียกซ้ำ
“ปุ๋ย! ทำไมฉันรู้สึกคุ้นหน้าไอ้ ไอ้ขุนทองอะไรนั่นจัง”
“ติงต๊องเหมือนกันก็เลยต้องชะตากันน่ะซิ ฮ่าๆ” คำปุยขำกลิ้ง
“จริงนะเว๊ย ไม่ได้พูดเล่น”
“นี่ นังใจ๋ ฉันว่าแกเลิกคิดเรื่องไอ้ขุนทองหน้าลายหมาจุดนั่น แล้วก็ไปเก็บชากันดีกว่า เดี๋ยวลุงหมาย
ด่าตายละ ไป นังแค๊บ”
พูดจบคำปุยก็ออกไปพร้อมแคบหมู ทิ้งให้สมใจยังครุ่นคิดอยู่อย่างนั้น
เจ้าคุณถือกระจกส่องหน้าตัวเองแล้วร้องโวยวายดังลั่น เพราะมีรอยยุงกัดเต็มไปหมด
“เฮ๊ย หน้าฉัน ลุงกำโป่ง”
กำโป๊งตบหัวเพี๊ยะ
“บอกว่ากำโป๊งๆ เรียกกำโป่งอยู่นั่น ชื่อข้าน่ะ กำโป๊งแปลว่าแมงมุม เข้าใจ๋”
“ลุง หน้าผม ทำไมมันเป็นอย่างนี้” เจ้าคุณครวญ
“เป็นยังไง ก็ไม่เห็นจะเป็นยังไง”
“ลายไปทั้งหน้าอย่างเนี่ยนะ ลุงยังไม่เห็นอีกเหรอ ตาบอดรึเปล่า”
“อย่ามาทำปากดี ข้าไม่ใช่ขี้ข้าเอ็งนะเว้ย ไอ้ไฮโซ”
“คันด้วยอ่ะลุง ทำไงดี จะหายมั้ยเนี่ย” เจ้าคุณเกายิกๆ
“ของดีที่ม่วนแต๊มีเยอะแยะเอ็งจะไม่หายได้ไง” กำโป๊งว่าสีหน้าภาคภูมิใจ
กำโป๊งทำสมุนไพรแก้แพ้ยุง และกำโป๊งกำลังใช้มือควักใบตำลึงที่ไส้อั่วนั่งโขลกอยู่ในครกเก่าๆ โป๊กๆ มาโปะไว้ที่หน้าเจ้าคุณ
“ใบตำลึงโขลกให้แหลกผสมน้ำซาวข้าวกับพิมเสน โปะ เข้าไปอย่างนี้จะแก้คันได้เป็นอย่างดี”
“จะหายแน่เหรอลุง”
“บ๊ะ! โบราณเขาใช้กันมาหลายชั่วคนแล้วเว๊ย เชอะ อย่างว่าซิ เอ็งมันไอ้ไฮโซเมืองกรุง เอะอะก็ใช้แต่
ยาฝรั่ง”
กำโป๊งพูดไปอวดสรรพคุณสมุนไพรตัวเองไป ก่อนจะเอื้อมมือไปควักในครกอีกโดยไม่ทันมอง เลยโดนไส้อั่วโขลกมือเข้าอย่างแรง
“จ๊าก! ไอ้อั่ว ไอ้ว่อก”
เจ้าคุณมองยิ้มขำๆ
“สุมาเต๊อะลุง อั่วไม่ได้ตั้งใจ” หลานชายตัวแสบจ๋อยสนิท
“พอ เลิก เอาแค่เนี้ย ไม่หายก็ช่างเอ็งแล้วไอ้ขุนทอง แหม้...ตั้งแต่เอ็งก้าวเข้ามาในชีวิตข้านี่ยังกะผีป่ามาหลอกมาหลอน ซวยขนาด” กำโป๊งบ่นเป็นหมีกินผึ้ง
“ลุง”
“อะไรอีก”
“ผมหิว”
“อูย กูล่ะเบื่อ หิวก็ไปหากินเอาเองซิเว้ย”
“หากินเอง นี่ลุงไม่ได้มีหน้าที่จัดอาหารให้ผมด้วยหรอกเหรอ” เจ้าคุณถาม
“เจริญนะมึง ไอ้อั่ว” กำโป๊งตะโกนเรียกหลานดังลั่น
ไส้อั่ววิ่งปรู๊ดออกมา
“จ๊ะ ลุง”
“ไอ้ขุนทองมันหิว เอ็งพามันไปหาอะไรกินหน่อยซิ”
“จัดให้”
ไส้อั่วยิ้มตาวาว เจ้าคุณยิ้มแฉ่งออกมา เมื่อรู้ว่าจะได้กินข้าวเสียทีหลังจากผ่านเรื่องวุ่นวายมาตลอดทั้งวัน
ดูท่าไส้อั่วกับเจ้าคุณจะโดนเจ้าของบ้านเล่นงานอย่างหนัก หลังจากไปมีเรื่องกับดำเกิงผู้ทรงอิทธิพลของบ้านม่วนแต๊ แต่เหนือความคาดหมายเมื่อเจ้าคุณ เจอสามรุมหนึ่ง ทว่าสามารถเอาชนะมาได้ จนกลายเป็นลูกพี่ไส้อั่วไปในพริบตา
มีเพียงกำโป๊งที่ดูไม่ปลื้มเอามากๆ เพราะงานจะเข้าเพราะขุนทองหลานชายจำเป็นไปต่อยนักเลงโตประจำหมู่บ้าน
“มีเรื่องกับใครไม่มี ดั๊นไปมีเรื่องกับไอ้ดำเกิง ไอ้จ๊าดง่าว!” กำโป๊งบ่นจบด้วยการด่า
เจ้าคุณสะดุ้ง ไส้อั่วอ้าปากจะพูดแต่ไม่ทัน กำโป๊งด่าต่อ
“เพิ่งจะมาอยู่ได้ 2 วัน ดั๊นไปมีเรื่องกับไอ้หมาหมู่แห่งบ้านม่วนแต๊ อย่างนี้เอ็งมีหวังโดนไอ้ดำเกิงกับ
พวกมันกระทืบตายก่อนจะได้อยู่จนครบเดือนแน่ๆ ล่ะไอ้ขุนทอง”
เจ้าคุณถอนหายใจ ไส้อั่วอ้าปากจะพูด แต่กำโป๊งไวกว่า
“มึงเป็นอะไรของมึงไอ้อั่ว นั่งอ้าปากพะงาบๆ อยู่ได้”
“ก็ ฉันจะบอกลุงว่าอ้ายขุนทองน่ะคงไม่ตายหรอก แต่อ้ายดำเกิงกะพวกมันตะหากที่ป่านนี้จะตายไปรึ
ยังก็ไม่รู้” ไส้อั่วรายงาน
“อ้าว! ทำไมวะ” กำโป๊งงงปนสงสัย
“ก็พวกมันโดนอ้ายขุนของฉันจระเข้ฟาดหางซะสลบเหมือดไปเลยน่ะเซ่” ไส้อั่วกอดคอเจ้าคุณอย่าง
ภูมิใจ
“เอ็งว่าไงนะ?!!
ดำเกิงและพวกสมุน กำลังโอดโอยไปฟ้องสมหมายเรื่องโดนเจ้าคุณทำร้ายอยู่บริเวณหน้าบ้าน
“พ่อหมาย พ่อหมายต้องช่วยลูกเกิงนะพ่อนะ โอยๆ” ดำเกิงทำเป็นครวญครางร้องโอดโอย
“เฮ๊ย! ใครพ่อเอ็งวะ ไอ้ดำเกิง” สมหมายฉุน
“น่า ตอนนี้ยังไม่เป็น แต่อีกหน่อยก็เป็น”
“ทะลึ่ง! เดี๋ยวพ่อกระทืบซ้ำซะเลยนี่”
“ใจเย็นตาหมาย ว่าแต่เอ็งเหอะไอ้ดำเกิง เอ็งบอกว่าโดนไอ้ขุนทองมันกระทืบมา แล้วทำไมไม่ไปฟ้อง
พ่อปลัดจืดเขา เอ็งมาบอกพวกข้าทำไม” สมศรีเอ่ยถามดำเกิงที่อยู่สภาพสะบักสะบอมสุดๆ
“โธ่ แม่ศรีจ๋า” ดำเกิงลามปาม
“ป้า เว๊ย ป้า” สมศรีฉุน
“จ้ะ ป้าศรีจ๋า อย่าลืมซิว่าไอ้ขุนทองน่ะมันหลานใคร มันหลานลุงกำโป๊งเชียวนะ ก็รู้กันอยู่ว่าไม่มีคน
ม่วนแต๊หน้าไหนกล้าแตะลุงกำโป๊ง แม้แต่ไอ้ปลัดจืดนั่น ไม่งั้นลุงกำโป๊งแกงดให้บริการไฟฟ้า โทรศัพท์ ต่างๆ
นานาขึ้นมาล่ะ พวกเราก็เดือดร้อนกันหมดซิป้า”
“อ่ะแล้วยังไง แล้วเอ็งมาบอกพวกข้าทำไม” สมหมายถามขึ้น
“อ่ะแหม…ไม่ให้เกิงมาบอกลุงหมายกะป้าศรีแล้วจะให้เกิงไปบอกใครล่ะจ๊ะ ไม่ให้มาพึ่งบารมีเจ้าของไร่
ชาม่วนใจ๋ เจ้าใหญ่และเจ้าเดียวแห่งบ้านม่วนแต๊แล้วจะให้เกิงไปพึ่งใคร” ดำเกิงฉอเลาะเล่นลิ้น
“ไอ้เกิง เอ็งพูดยังกะข้าเป็นมาเฟีย” ถึงอย่างไรสมหมายก็แอบภูมิใจกับคำพูดของดำเกิงเล็กน้อย
“ใช่ ถึงเราจะเป็นเจ้าของไร่ชา แต่ว่าที่ไร่ม่วนใจ๋มันใหญ่โตมาได้อย่างทุกวันนี้ ก็เพราะพี่น้องม่วนแต๊
ของเราช่วยกันลงแรงนะเว๊ย” สมศรีย้ำ
“สรุปว่า เอ็งไปพึ่งปลัดจืดเขาดีกว่า มันหน้าที่ของเขาโดยตรง อ้าว! นั่นไง พูดถึงก็มาพอดี” สมหมายแนะ
ขาดคำ ปลัดจืด สมใจ และคำปุยเดินมาพร้อมกันหลังกลับจากไร่ชา
“สวัสดีครับ ลุงหมาย ป้าศรี” ปลัดจืดยกมือไหว้
“เจริญๆ เถอะพ่อปลัด”
“ผมเห็นว่ามืดแล้ว ก็เลยตามมาส่งใจ๋กับปุ๋ยครับ”
“ก็มัวแต่ตามรับตามส่งน้องใจ๋ ดูแลราษฎรไม่ทั่วถึง อย่างนี้ไงฉันถึงได้โดนไอ้ขุนทองมันรุบกระทืบซะ
เละ” ดำเกิงชี้ที่ใบหน้าตัวเอง
“เดี๋ยวก่อนนะ เท่าที่รู้มาน่ะ 3 ต่อ 1 ไม่ใช่เหรอ ดำเกิงกับลูกน้องอีก 2 ส่วนขุนทองน่ะ ตัวคนเดียว”
ถูกปลัดจืดแฉ ดำเกิงอึ้งไป
“อ้าว! ไอ้เวรดำเกิง แล้วมาครางหงิงๆ ให้ข้าฟังอยู่ได้ตั้งนาน ที่แท้ก็ไปหมาหมู่ใส่ไอ้ขุนทองมันนี่
หว่า” สมหมายด่าซ้ำ
“โธ่! ลุงหมาย ฟังเกิงก่อน”
“แต่ฉันว่าถึงยังไงปลัดก็ควรจะตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะม่วนแต๊ของเราไม่เคยมีเรื่องแบบนี้ แต่พอมีคน
แปลกหน้าที่ชื่อขุนทอง เข้ามาได้ไม่กี่วัน ก็เกิดเรื่องวุ่นวายทันที” สมใจว่า
ทุกคนชะงักหันไปมองไปที่สมใจเป็นตาเดียวกัน
“ถูกต้อง น้องใจ๋พูดถูกต้องและถูกใจอ้ายเกิงที่สุด” ดำเกิงได้ที
“ว่าไง ปลัด”
“เอ่อ...”
สมใจเลิกคิ้วถามปลัดอย่างคาดคั้นรอเอาคำตอบ
ไม่นานหลังจากนั้น สมาชิกบ้านสมใจ ปลัดจืด และดำเกิงมารวมตัวกันอย่างพร้อมหน้าที่ใต้ถุนบ้านลุงกำโป๊ง โดยที่กำโป๊งเปิดไฟรอ หลังจากทราบเรื่องราวเบื้องต้นจากไส้อั่วมาก่อนหน้านี้แล้ว
“อ่ะ! จะทำการประชุมใหญ่ ก็เปิดไฟกันซะหน่อย”
ทุกคนล้อมวงอยู่ ขยับวงล้อมเข้ามาอย่างตั้งอกตั้งใจ
“คือว่า ไอ้ขุนทองมันไม่อยู่ มันไปอาบน้ำที่บึง เดี๋ยวก็มา ว่าแต่ ที่แห่มากันเนี่ย มีอะไรมิทราบ”
“เอาซิปลัด ว่าไปเลย” ดำเกิงโบ้ยให้ปลัดจืดพูด สมใจจ้องอยู่ ปลัดจืดจึงต้องทำหน้าที่ต่อ
“เอ่อ คือ เมื่อเช้า ดำเกิงกับพวกมีเรื่องชกต่อยกับขุนทองหลานชายลุงกำโป๊ง”
“ข้ารู้แล้ว แล้วไง”
“จะแล้วไง ไม่เห็นหน้าฉันเหรอลุง ม่วงยังกะมะเขือม่วง” ดำเกิงโวยวาย
“ก็แล้วเอ็งมันง่าวเอาหน้าไปให้ไอ้ขุนทองมันกระทืบทำไมวะ นี่ขนาดพวกเอ็งรุมมัน 3 ต่อ 1 ยังสู้ไอ้
ขุนทองคนเดียวไม่ได้ แล้วยังจะมีหน้ามาโวยวายอีกเหรอะ เป็นข้าข้าอายนะเนี่ย” กำโป๊งเยาะแกมหยัน
ดำเกิงจ๋อย
“ว่าไง ไอ้เกิง” สมหมายรุกถามซ้ำ
“แต่มันจะขโมยไก่ฉัน” ดำเกิงยังทำท่าไม่ยอม
“ฉันไม่ได้ขโมยไก่แก!” เสียงของเจ้าคุณดังขึ้นมา
ทุกคนหันไปมองตามเสียง เห็นเจ้าคุณยืนอยู่ในชุดผ้าขาวม้า เพิ่งจะกลับจากอาบน้ำ หน้าปกติต่างจากวันแรกที่โดนยุงกัดมีรอยเป็นจ้ำๆ เต็มหน้าวันนั้น
เจ้าคุณมองหน้าสมใจแว่บหนึ่ง ก่อนจะทำเป็นไม่รู้จัก เพราะกลัวความลับแตกแล้วจะไม่ได้อยู่ต่อ ส่วนคำปุยยิ้มกริ่มเมื่อเห็นซิกซ์แพ็คในฝัน
“ฉันเข้าใจผิดคิดว่าเป็นไก่ของลุงกำโป๊ง” เจ้าคุณบอก
“ใช่ ฉันเป็นพยานได้จ้ะ อ้ายปลัด” ไส้อั่วช่วยยืนยัน
“ฉันเคยเจอนาย ใช่มั้ย” สมใจจ้องหน้าพร้อมกับถาม
เจ้าคุณมองนิ่ง
“อะไรกันใจ๋ ใจ๋เคยเจอไอ้ เอ่อ... ขุนทองที่ไหน เมื่อไหร่” กำโป๊งรีบเข้ามาช่วยกู้สถานการณ์
“นั่นซิ ไอ้ใจ๋ ยังไงกันวะ” สมหมายสงสัย
“ฉันเคยเจอนายที่กรุงเทพฯ ร้านหมูกะทะ” สมใจบอกด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
เจ้าคุณแอบมีตกใจแว่บหนึ่งก่อนจะทำหน้าตาเนียนนิ่ง กำโป๊งอึ้งกลัวความลับแตก
“ติงต๊อง!” เจ้าคุณพูดใส่หน้าสมใจ
“นายว่าใครติงต๊อง??” สมใจฉุนขึ้นมาทันที
กำโป๊งปรี่เข้าไปขวาง
“เฮ้ยๆๆ ไอ้ใจ๋ใจเย็น เอ็งจะเคยเห็นไอ้ขุนทองที่กรุงเทพฯได้ไงวะ ในเมื่อตั้งแต่เกิดมามันไม่เคยไปกรุงเทพฯ ที่สำคัญมันถูกแม่มันส่งไปรักษาใน โรงพยาบาลบ้าตั้งแต่เด็ก”
“ลุง!” เจ้าคุณเหวอกับประวัติชีวิตตัวเองที่กำโป๊งเขียนให้ใหม่
“ไม่ต้องอายไอ้ขุน เราลูกผู้ชาย เป็นบ้าก็ต้องยอมรับว่าบ้า”
“เฮ้ย!”
“ยอมรับว่าเป็นบ้ายังไม่น่าอายเท่ากับเที่ยวโกหกคนอื่นว่าเป็นคนดี จริงมั้ยไอ้ดำเกิง” กำโป๊งหลอกด่าดำเกิง
“อ้าว!” ดำเกิงเซ็ง
“ถูก ลุงกำโป๊งพูดถูก พูดดี มีข้อคิด ฉันเห็นด้วย ดำเกิง กลับตัวกลับใจยังไม่สายนะ ไอ้ใจ๋ เอ็งก็อย่าไป
ติดใจอะไรเลยวะ หาเรื่องกับคนติงต๊องบาปกรรมเปล่าๆ ปลัดว่าไงดี ตามนี้นะ” สมหมายสรุปความ
“เอ่อ ครับ ผมก็เห็นด้วยกับลุงหมาย”
“เอ้า ถ้างั้นพวกเราก็กลับกันเถอะ ดึกดื่นแล้ว เกรงใจลุงกำโป๊ง”
ทุกคนร่ำลาพากันเดินออกไป ดำเกิงยังหงุดหงิด สมใจหันมาจ้องหน้าเจ้าคุณอย่างไม่เชื่อใจ แต่เจ้าคุณยักคิ้วให้ทำหน้ากวนประสาทใส่
“ไอ้ใจ๋ กลับได้แล้ว”
สมหมายเรียกลูกสาวกลับบ้านเสียงดุ สมใจฮึดฮัดขัดเคืองใจทำมือเป็นซิกว่าจับตามองอยู่ เจ้าคุณทำมือโอเคตอบ แล้วทำท่าพระเอกนางเอกเกาหลีซารังแฮโยยอดฮิต เอามือชนกันเหนือหัว สมใจฉุนปรี่จะเข้าลุยทันที แต่ดีที่กำโป๊งโผไปตบหัวเจ้าคุณเอาไว้ก่อน
“ไอ้นี่ ติงต๊องกำเริบอีกแล้ว อย่าไปถือมันนะมันบ้า มันชอบเพ้อว่ามันเป็นพระเอกหนังเกาหลี”
คำพูดของกำโป๊งทำเอาสมใจชะงักกึก เจ้าคุณยิ้มแฉ่งให้สมบาทบาท...บ้า
“ไป ไอ้ปุ๋ยกลับ!”
สมใจลากคำปุยเดินออกไป คำปุยยังไม่ละสายตาจากเจ้าคุณ แถมยังชมตล๊อด...ว่าหล่อกว่าพระเอกเกาหลีเสียอีก
“หวิดไปแล้วมั้ยล่ะ ไอ้ขุนทอง นี่ดีนะที่ไอ้ก้องมันโทร.มาเล่าเรื่องหมูกะทะให้ข้าฟังก่อน ไม่งั้นล่ะ ไอ้ใจ๋
เอาเอ็งตายแน่” กำโป๊งบอก
“ไอ้ใจ๋”
เจ้าคุณนึกขำและได้รู้เสียทีว่ายัยหมูกะทะ ก็คือไอ้ใจ๋ สาวห้าวแห่งหมู่บ้านม่วนแต๊นั่นเอง
อ่านต่อหน้า 4
รักออกอากาศ ตอนที่ 2 (ต่อ)
พอกลับมาถึงบ้านดูเหมือนสมใจจะยังไม่ยอมจบเรื่องเจ้าคุณอยู่คนเดียว
“ฉันไม่เชื่อ ต่อให้เด็กอมมือก็ต้องไม่เชื่อ คนอะไร หน้าตามันจะเหมือนกันเป๊ะขนาดนี้” สมใจบ่นโวยวายอยู่กับคำปุย
“หน้าตาเหมือนเป๊ะยังไงวะ ฉันลืมดู มัวแต่ดูอย่างอื่น หืมม์ ซิกซ์แพ็ค ปึ้กขนาด! ฮ่าๆ” คำปุยยังติดตราตรึงใจอยู่แต่ซิกซ์แพ็คของเจ้าคุณ
“นังนี่ก็บ้าผู้ชายจนตาบอด”
“ว๊ะ นังใจ๋นี่ ผีป่าอะไรเข้าสิง เดี๋ยวนี้ถึงได้ปี๊ดตลอดๆ รู้ตัวมั่งป่าว” คำปุยด่าเพื่อนสาว
“แกก็รู้ว่าฉันเกลียดคนโกหก ฉันไม่ชอบให้ใครมาหลอก ฉันไม่ชอบให้ใครมามองว่าฉันโง่ เป็นควาย!”
คำปุย อึ้งไป สงสารเพื่อน และเพิ่งคิดได้ว่าเพื่อนยังเจ็บใจไม่หายเรื่องโก้
“ไอ้ใจ๋ ฉันรู้ว่าแกเจ็บมากเรื่องพี่โก้ แต่แกก็ต้องลืมบ้าง อะไรบ้าง อะไรที่จำแล้วทำให้ปวดใจเราก็ควร
ลืมๆ มันไปซะมั่งนะเพื่อนนะ”
สมหมาย กับสมศรี แอบได้ยินที่ทั้งคู่คุยกัน อยู่ในอีกมุมหนึ่ง เดินเข้ามาทันที
“ไม่จริง! ไอ้ปุ๋ย เอ็งเอาอะไรมาพูดกับลูกข้า อย่าไปฟังมันนะใจ๋ คนเราเจ็บแล้วต้องจำถึงจะถูก”
สมหมายพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“พุทโธ ธัมโม สังโฆ!”
“พี่หมาย” สมศรีปรามสามี ส่วนสมใจโผเข้ากอดพ่อ
“ไอ้ใจ๋ลูกพ่อ ไอ้หนุ่มเมืองกรุง อย่าให้เจอเชียว ไม่ว่าหน้าไหน พ่อจะต่อยให้คว่ำ” สมหมายฮึดฮัดเพราะหวงลูกสาว
“เฮ้อ! พ่อลูกคู่นี้มันพาลเหมือนกันไม่มีผิด”
สมศรีส่ายหน้าหน่ายๆ ก่อนจะมองไปที่ลูกสาวที่เหมือนจะยังเจ็บกับความรักครั้งเก่าอยู่ไม่น้อย
เช้าวันต่อมา ในลานวิปัสสนาของวัดแห่งนั้น รจนาวรรณ นุ่งขาวห่มขาวไม่แต่งหน้า กำลังคร่ำเคร่งกับการกวาดใบไม้ที่ลานวัดช้าๆ ปากก็ท่องไปอย่างเป็นจังหวะ
“พุท โธ พุท โธ”
ในขณะที่เอมี่แม้จะนุ่งขาวเช่นกันแต่แต่งหน้าเต็มยศ ถือไม้กวาดโผล่มาร้องเรียกลั่นเสียงเขียว
“คุณหญิงแม่ขา”
“พุทโธ่! อะไรกันจ๊ะ หนูมี่ แม่สติหลุดหมดเลย เฮ้อ!”
“มี่ไม่ไหวแล้วนะคะ มี่ทนอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว”
“หนูมี่ หนูมี่ไม่รักลูกคุณเหรอจ๊ะ เราต้องอดทนเพื่อลูกคุณนะจ๊ะ
“โอ๊ย! ไม่รักแล้วค่ะ” เอมี่หลุดปาก
“ห๊า!” รจนาวรรณเหวอ
“เอ่อ... มี่จะบอกว่าไม่รักได้ไงคะ มี่รักคุณคะคุณขาจะตายไป แต่ มี่ เหนื่อยอ่ะค่ะ กวาดใบไม้ก็ว่าแย่แล้ว
ตี 5 ต้องตื่นมาล้างส้วมอีก คุณหญิงแม่ขา มี่เหม็นจะอ้วกอ่ะค่ะ”
เอมี่ทำท่าจะร้องไห้อย่างน่าสงสาร รจนาวรรณเข้ามากอดปลอบใจ
“โถ หนูจ๋า นึกซะว่ายิ่งกลิ่นส้วมแรงเท่าไหร่ ลูกคุณก็จะได้กุศลแรงเท่านั้นนะจ๊ะ”
“คุณหญิงแม่!”
เอมี่ฟังเหตุผลแล้วผละมามองหน้าว่าที่แม่สามี อย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
“จุ๊ๆ ไม่จ้ะหนู ไม่โกรธไม่กรี๊ดควบคุมจริตเราไว้ อย่าให้มารมันมาขวางเจตนาดีของเราได้” รจนาวรรณดูจะซึ้งในรสพระธรรมยิ่งนัก
“ห๊า!” คราวนี้เอมี่เป็นฝ่ายเหวอ
“อ่ะ! กวาด 2 มือเลยดีมั้ยจ๊ะหนู ซ้าย ขวาจะได้ไม่ฟุ้งซ่านที่สำคัญเราจะได้กุศลดับเบิ้ลเป็น 2 เด้ง
ส่วนแม่จะไปเตรียมจัดสำรับเพลให้พระท่านนะหนูนะ อ้อ แม่บอกแล้วว่าอย่าแต่งหน้าทาปากนะจ๊ะ บาปกรรม”
พูดจบคุณหญิงแม่ของเจ้าคุณก็เดินก้มหน้ามองเท้าเปล่าตัวเอง ก้าวออกไปอย่างเจริญสติ
“ว๊าย! อีบ้า! เชิญขัดส้วมสร้างกุศลไปคนเดียวเถอะย่ะ!! ฉันไม่บ้าไปกับแกด้วยหรอก นังคุณหญิงแม่!
ชิ”
เอมี่สบถอย่างอารมณ์เสีย พลางเหลียวซ้ายแลขวา ควักมือถือออกมาแอบซุ่มโทร.หาแมทธิวทันที
แมทธิว ทะลึ่งพรวดขึ้นจากที่นอนที่มีกิ๊กสาวนอนซุกอกอยู่อย่างพริ้มที่คอนโดตัวเอง
“จะบ้าเหรอเอมี่ คุณจะออกมาไม่ได้เด็ดขาด คุณต้องคอยประกบนังคุณหญิงแม่อย่าให้มันกลับออกมา ขืนมันออกมาแล้วเห็นไอ้คุณในทีวีเมื่อไหร่ล่ะก็ ผมแฉเรื่องระหว่างเราแน่ ไม่เชื่อก็ลองดู”
“แมทอ่ะ ผู้ชายอะไร โคตรเลว!!”
“ก็ควรคู่กับผู้หญิงเลวอย่างคุณไม่ใช่เหรอ แค่นี้นะ ผมจะออกกำลังกายแล้ว”
พูดจบแมทธิวกดวางสาย หันมาคลุมโปงออกกำลังกายเล่นกีฬาในร่มกับสาวๆ ต่อทันที
“ไอ้บ้า! ฮือๆ ไอ้บ้า”
เช้าวันเดียวกัน เจ้าคุณยังคงหลับอยู่ในห้องนอนที่บ้านม่วนแต๊ กำโป๊งเปิดประตูผลัวะเข้ามา เห็นเจ้าคุณยังหลับอุตุอยู่ เดินพุ่งเข้ามาเอาระฆังมาตีแก๊งๆๆ ใส่หู เจ้าคุณสะดุ้งลุกพรวด
“พ่อคุณ พ่อมหาจำเริญ ตะวันแยงก้นแล้ว ยังไม่ตื่นอีกเว๊ย”
“โอ๊ย! คนจะนอนเว๊ย”
“จะนอนกินบ้านกินเมืองรึไงไอ้ขุนทอง สายโด่งจนป่านนี้ ข้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยนะเว๊ย”
“แล้วไง”
“แล้วไง อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น เข้าใจมั้ย” กำโป๊งยกคำพังเพยมาอ้าง แต่ดูเหมือนจะไม่เข้ารูหูเจ้าคุณเท่าไหร่
“ฉันปั้นเป็นที่ไหนล่ะลุง เฮ๊ย ลุงมีลูกด้วยเหรอ แล้วเอาเมียไปไว้ที่ไหนล่ะ ไม่เคยเห็นเลย” เจ้าคุณว่าไปนั่น
“ไอ้เวร ข้าพูดคำพังเพยเว๊ย เฮ้อ เด็กสมัยนี้ยิ่งโตยิ่งโง่ คืองี้ ขอเชิญเอ็งแหกขี้ตาตื่นแล้วออกไปกับไอ้ไส้อั่ว ไปหาอาหารเช้ามารับประทานกันได้แล้ว เข้าใจมั้ย”
“หาอาหารเช้า”
เจ้าคุณยังงงอยู่ว่าจะไปหาอาหารเช้าที่ไหนให้กำโป๊ง
ไม่นานหลังจากนั้น เจ้าคุณกับไส้อั่วกำลังยืนวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่บริเวณริมบึงของหมู่บ้าน
“อย่าบอกนะไส้อั่วว่าจะให้มาเก็บไข่ไก่ในบึงเนี่ย”
“ใครจะบ้ามาเก็บไข่ในโคลนล่ะอ้าย ฉันจะพามาจับปลา” ไส้อั่วบอก
“จับปลา!”
ครู่ต่อมาเจ้าคุณตะครุบจับปลาซะจนหน้าทิ่ม แต่จับได้แต่โคลน หน้าตายู่ยี่ อารมณ์เสีย ไส้อั่วขำกลิ้งสมน้ำหน้า แล้วสาธิตวิธีจับปลาให้ดู เจ้าคุณเงอะงะจับใหม่ ก็ทำไม่ได้ สุดท้ายจับได้ ดีใจสุดขีด แต่ปลาก็ดันหลุดมือไป ไส้อั่วขำ
เจ้าคุณเซ็งเตะโคลนกระจาย และไม่ได้ปลากลับติดมือบ้านซักตัว จนโดนกำโป๊งประชดเพราะในข้องของเจ้าคุณว่างเปล่า ทั้งที่เนื้อตัวเลอะเทอะโคลนไปหมด
“เก่งมากเลยนะเอ็ง ไอ้ขุนทอง”
“โธ่! ลุง ก็คนมันไม่เคยทำ”
“สู้ไอ้อั่วมันไม่ได้ซักนิด” กำโป๊งด่า
“นี่จ้ะลุง” ไส้อั่วภูมิใจนำเสนอผลงาน
เจ้าคุณชะโงกดูข้องในมือลุงกำโป๊ง เห็นปลา 4-5 ตัวในข้อง เจ้าคุณแอบฉุนๆ แบบต้องมาแพ้เด็ก
“เอาไปย่างไปไอ้อั่ว ข้าหิวจนแสบไส้แล้ว”
“จ้ะลุง”
“จะมายืนโสโครกอยู่ทำไมวะ? ไปอาบน้ำไป๊! เดี๋ยวจะได้มากินข้าว”
กำโป๊งไล่เจ้าคุณไปอาบน้ำ
“เฮ้อ! จะอยู่ได้อีกกี่วั๊น ไอ้หนุ่มไฮโซ”
กำโป๊งดูแคลนไล่ตามหลังไป
เจ้าคุณเดินเซ็งๆ มาที่ริมบึง ก้มมองสารรูปตัวเองที่เลอะเทอะเปรอะโคลนไปทั้งตัว เลยถอดเสื้อออกจะลงแช่น้ำ ทันใดนั้น ต้องชะงักเมื่อหันไปเห็นสมใจใส่กระโจมอกกำลังก้าวลงมาแช่น้ำในบึง เจ้าคุณหลบหลังพุ่มไม้ แอบมอง เคลิ้มจนเผลอไปเหยียบกิ่งไม้หักเสียงดัง
“ใครน่ะ ฉันถามว่าใคร” สมใจตะโกนลั่น
เจ้าคุณสะดุ้ง แต่ยังแอบอยู่ สมใจปรี่ขึ้นมาอย่างไม่กลัวเกรง
“ไม่แน่จริงนี่หว่า ไอ้โรคจิต แอบดูผู้หญิงอาบน้ำ อ่อนว่ะ!”
เจ้าคุณชักยัวะ พุ่งออกมาจากที่ซ่อน จนเกือบจะชนสมใจ
“แก แกอีกแล้ว” สมใจแค้นหนัก
“ไม่ต้องโกรธเลย ฉันต้องโกรธเธอมากกว่า ผู้หญิงอะไรหน้าไม่อาย ไม่มีอะไรจะโชว์ก็ยังอยากจะโชว์ ใครเขาจะอยากแอบดู ยังกะไม้อัด”
“ห๊า! แกว่าไงนะ” สมใจอึ้ง งง กับมุกเจ้าคุณ
“ไม้อัด แบนกว่าไม้กระดานอีก” เจ้าคุณเฉลย
“ไอ้ ไอ้บ้า ไอ้ปากเหม็น มาแอบดูเขาแล้วยังมาด่าเขาอีก ไอ้บ้า”
สมใจทุบตีเป็นพัลวัน เจ้าคุณวิ่งหนีอย่างขำๆ สมใจตามลุยแหลก เจ้าคุณวิ่งหนีลงน้ำ สมใจก็ตามลงน้ำไปด้วย เจ้าคุณหนีออกไปลึกเรื่อยๆ
“นี่เธอ พอแล้ว ตรงนี้มันเริ่มลึกแล้ว”
“ไม่กลัวเว๊ย ดีซิ ฉันจะฆ่าถ่วงน้ำแกซะเลย”
“โหดไม่หายเลยนะเธอ” เจ้าคุณหลุดปากขำๆ
“แกว่าอะไรนะ”
“ไปดีกว่า”
เจ้าคุณรีบว่ายน้ำกลับเข้าฝั่ง ก่อนที่จะหลุดว่าเคยเจอหน้ากับสมใจมาก่อน
“เฮ้ย! อย่าหนีซิ แน่จริงอย่าหนีผู้หญิงซิวะ”
“จะอยู่ทำไมให้อารมณ์เสียล่ะ ยัยไม้อัด ฮ่าๆ”
“ไอ้บ้า!”
สมใจจะว่ายกลับเข้าฝั่ง แต่เริ่มรู้สึกเป็นตะคริว
“โอ๊ย!”
สมใจจมลงใต้น้ำ พยายามจะบีบขาตัวเองที่เป็นตะคริว
“โธ่! แน่จริงก็ด่าซิวะ เงียบทำไม”
เจ้าคุณหันมองสมใจในบึงไม่เห็นใคร ก็หยุดยืน หันมาตะโกน
“อ้าว! ด่าไม่ออกก็หนีเลยเหรอเจ๊ ฮ่าๆ”
สมใจทะลึ่งพรวดชูมือขึ้นมา แล้วก็จมหายไปอีกแต่ยังอวดดีไม่ได้ร้องให้เจ้าคุณช่วย เจ้าคุณหันมาอีกที อึ้งอยู่แป๊บนึง ก่อนจะวิ่งไปกระโดดลงน้ำ ช่วยสมใจขึ้นมานอนที่ฝั่ง สมใจแน่นิ่งไป เจ้าคุณตัดสินใจปั๊มหัวใจ สมใจสำลักน้ำ ทะลึ่งตัวพรวด ค่อยๆ ลืมตาขึ้น โดยที่เห็นมือเจ้าคุณยังคาที่หน้าอกตัวเอง
ทั้งสองคนจ้องหน้ากัน ในอาการอึ้งๆ แต่ปลัดจืดมาพบเข้า เข้าใจผิดคิดว่าขุนทองลวนลามสมใจ
“ไอ้ขุนทอง!”
เจ้าคุณหันขวับ หมัดปลัดจืดฟาดเปรี้ยงเข้าเต็มๆ จนเจ้าคุณกระเด็นไป ปลัดจืดปรี่เข้าประคองสมใจ
“ใจ๋ เป็นไงมั่ง”
สมใจยังพูดไม่ออก ได้แต่ส่ายหน้า
“ไอ้ขุนทอง แกจะทำอะไรใจ๋”
“แล้วแกเห็นฉันทำอะไรอยู่ล่ะ” เจ้าคุณโมโห
“ฉันก็เห็นแกจับนมใจ๋อยู่น่ะซิ!”
“ปลัด!”
สมใจร้องทักปลัดจืด ในขณะที่เจ้าคุณเบือนหน้าไปแอบขำกิ๊ก
“นมที่ไหนล่ะ ไม้อัดตะหาก!”
พูดจบก็เดินออกไปเลย สมใจได้แต่อ้าปากหวอ
“ไม้อัด อะไรเหรอใจ๋?!”
“ไม่รู้”
ปลัดเหลือบมองหน้าอกสมใจโดยไม่ตั้งใจ สมใจผลักปลัดหงายเงิบด้วยความอาย แล้วสั่งกำชับอย่าเล่าเรื่องนี้ให้ใครรู้เด็ดขาด แม้จะออกอาการงงแต่ปลัดก็พร้อมทำตามคำสั่งสมใจ
ภาพในจอทีวีหยุดไว้เท่านั้น
ภายในร้านไอศกรีม วัยรุ่นหญิง 3 คนกำลังดูเรียลลิตี้ไฮโซบ้านเฮาของเจ้าคุณอย่างสนุกสนาน และมีภาพปลัดจืดกำลังออกอากาศอยู่
“น่าสงสารอ่ะปลัดจ๋อย จ๋อยจริงเลย” นางหนึ่งเพ้อ
“ฉันว่าอีกหน่อยใจ๋กับไอ้ขุนทองชอบกันแน่” อีกนาง...คอละครไทยเม้าท์มอย
“ชอบๆ กด Like เลย” นางคนสุดท้ายว่า
ทั้งสามสาวดูมีความสุขในการดูรายการเรียลลิตี้มาก ต่างส่งข้อความเอสเอ็มเอสเข้ารายการกันยกใหญ่
เวลาเดียวกัน ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วอยู่หน้าจอมอนิเตอร์ ที่ห้องคอนโทรล ก้องเกียรติพอใจสุดขีด ขำก๊าก
“สุดยอดเลย ไอ้คุณ ตั้งแต่คบกันมายังไม่เคยเห็นมันกวนอย่างนี้มาก่อนเลย”
“แต่เขาว่ามันชักจะยังไงๆ นะก้อง” กิ่งแก้วตั้งข้อสังเกต
“ชักจะยังไง สนุกกว่าละครที่ตัวเอง ชอบดูอีกนะกิ๋ง มีทั้งฮา ทั้งบู๊ ทั้ง..”
“จะทั้งรักด้วยรึเปล่าอ่ะ ก้อง”
“โอ๊ย! ไม่มีทาง อย่างไอ้คุณน่ะมันไม่มองน้องนางบ้านนาหรอก ที่สำคัญถ้าเกิดมันมองขึ้นมาจริงๆ ละ
ก็ คุณหญิงแม่มีหวังฉีกอกมันตายแน่ อย่าคิดมากเลยน่า”
“แต่ว่า..” กิ่งแก้วลังเล
แต่ทีมงานเข้ามาแทรกขัดจังหวะเสียก่อน เพราะว่ายอดเอสเอ็มเอสที่เข้ามาพูดถึงเจ้าคุณเพียบไปหมด
“พี่ครับพี่!”
“อะไร”
“เอสเอ็มเอสครับตรึมเลยครับพี่”
“เห็นแล้ว ส่งกันน้อยๆ หน่อยก็ได้นะยะพวกหน้าม้าน่ะ ประเดี๋ยวสิ้นเดือนมาเบิกกับพี่ พี่ไม่มีเงินจ่าย
ค่าโทรศัพท์ให้ไม่รู้ด้วยนะ” กิ่งแก้วร้องเตือน
“เปล่านะพี่ ไม่ใช่พวกผม คนดูส่งมากันเพียบเลยพี่”
ก้องเกียรติ กับกิ่งแก้ว ตกใจ มองหน้ากันยิ้มแฉ่ง สองคนโผกอดกันแน่นด้วยความดีใจ
ทางด้านปลัดจืดกำลังเล่าเรื่อง ขุนทองจับหน้าอกสมใจที่ตัวเองเข้าใจผิดคิดไปเองให้คำปุยฟัง ในร้านของหวานเจี๊ยบ
“ต๋ายล่ะ!คุณพระช่วย! ไอ้ใจ๋โดนขุนทองจับนม” คำปุยตกใจโพล่งออกมา
หวานเจี๊ยบที่กำลังไสน้ำแข็งให้แทใยที่ยืนรออยู่ ได้ยินก็หูผึ่ง หันขวับมาอย่างสนใจ ปลัดจืดตะปบปากคำปุยทันที
“อย่าเสียงดังซิปุ๋ย เดี๋ยวคนอื่นได้ยิน” ปลัดจืดเตือน
“เออๆ สุมาเต๊อะปลัด ก็คนมันตกใจนี่นา ต๋าย! หน้าตาก็ดูซื่อๆ ไหงมันโรคจิตขนาดนี้นะไอ้ขุนทอง
ว่าแต่ ไอ้ใจ๋มันเป็นอะไรรึเปล่าปลัด” คำปุยห่วงเพื่อน
“ไม่ต้องห่วง ฉันเข้าไปช่วยได้ทันเวลา” ปลัดจืดยิ้ม
“ต๋าย! ยังกะพระเอกขี่ม้าขาวในละครเลยนะเนี่ย”
“ก็ไม่ขนาดนั้น ว่าแต่ที่ฉันต้องบอกเรื่องนี้กับปุ๋ยก็เพราะชั้นเอ่อ เป็นห่วงใจ๋ ไม่อยากให้ไปอาบน้ำที่บึง
นั่นคนเดียวอีกแล้ว ยังไงปุ๋ยอย่าปล่อยให้ใจ๋ไปไหนมาไหนคนเดียวเลยนะ ถ้าไปเป็นเพื่อนได้ก็ช่วยหน่อย”
“ต๋าย!! ปลัดกลายเป็นลุงหมายพ่อมันตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย”
“นะ ถือซะว่าฉันขอร้อง ชั้นไม่อยากให้ใจ๋ต้องไปเจอไอ้ขุนทองนั่น แก้ผ้าอาบน้ำแล้วลวนลามใจ๋อีก”
หวานเจี๊ยบได้ยินชัดเต็มสองหู ทำที่ไสน้ำแข็งในมือร่วงทันที ด้วยความตกใจ พอๆ กับลำใย
“ขุนทองแก้ผ้าอาบน้ำแล้วลวนลามพี่ใจ๋ / ใจ๋!”
สองสาวประสานเสียง ก่อนจะหันไปมองหน้าทำตาโตเท่าไข่ห่านใส่กัน
ปลัดจืด และคำปุย สะดุ้งเฮือก เมื่อรู้ว่าทำข่าวรั่ว ให้หวานเจี๊ยบและลำใยรู้เสียแล้ว
เวลาต่อมาพอสมใจซึ่งอยู่ที่บ้าน รู้ว่าปลัดจืดคายความลับของตัวเองก็ทำลังชาหล่นทับเท้าปลัดจืดแบบไม่ได้ตั้งใจ แล้วโวยวายใส่ทันที
“ฉันบอกปลัดแล้วใช่มั้ยว่าอย่าเอาเรื่อง ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าไม่ให้เอาเรื่องนั้นไปบอกคนอื่น”
“ไอ้ใจ๋...” คำปุยรีบปรามเพื่อน
“ไม่คิดเลยนะว่าปลัดจะเป็นคนแบบนี้” สมใจโวยต่อ
“ปุ๋ยเขาเป็นคนอื่นซะที่ไหนล่ะใจ๋ ที่ฉันตัดสินใจเล่าให้ปุ๋ยฟังก็เพราะเห็นเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของใจ๋
อยากให้เขาช่วยระวังให้”
“ฉันไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะปลัด”
“แต่ฉันเป็นห่วงใจ๋”
ปลัดจืดบอกเสียงอ้อนๆ สมใจชะงัก
“ต๋ายละ! ข้าเจ้าไปเก็บชาดีกว่า” คำปุยอมยิ้มก่อนจะเดินปลีกวิเวกออกไป
“ขอโทษนะ ที่ทำให้ใจ๋โกรธ”
“อือ ไม่เป็นไร”
ปลัดจืดใจชื้นขึ้น มองสมใจอย่างรักสุดหัวใจ ในขณะที่สมใจถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความหนักใจ
“ต่อไป ฉันจะไม่ทำอะไรให้ใจ๋ไม่สบายใจอีก”
“เปล่าหรอก ไม่ใช่เพราะปลัด ฉันยังข้องใจเรื่องไอ้นายขุนทองนั่น”
“ข้องใจเรื่องอะไรใจ๋”
“คนติงต๊อง มันช่วยคนจมน้ำแถมยังปั๊มหัวใจให้ด้วยได้ยังไง”
สมใจและปลัดยังอึ้งไปตามๆกัน
กำโป๊งนั่งซ่อมอุปกรณ์ต่างๆ อยู่ที่บ้าน จู่ๆ ก็เกิดยัวะขึ้นมา เมื่อเห็นเจ้าคุณยืนนุ่งผ้าขาวม้าผืนเดียวอยู่ตรงหน้า
“เอ็งว่าไงนะ ไอ้ขุนทอง”
“ก็บอกว่า พาผมไปห้างหน่อย เสื้อผ้าผมยังไม่แห้ง ไม่มีอะไรใส่ ลุงให้เสื้อผ้าผมแค่ชุดนึงกับผ้าขาวม้าผืนเดียว จะไปพอใส่ได้ยังไง” เจ้าคุณในชื่อขุนทองโอดครวญ
“ไม่ได้ก็ต้องได้ แล้วก็ฝันไปเถอะไอ้ขุนทอง ที่นี่ไม่มีห้างเว๊ย ไอ้เบื๊อก!” กำโป๊งพูดแทบเป็นตะโกน
เจ้าคุณได้ฟังข้อมูลใหม่ถึงกับร้องลั่น “เว๊ย!”
“แน้ๆ อย่ามาทำคุณหนูใส่ข้านะเว๊ย เชิญกลับไปปี๊ดใส่ข้าทาสบริวารที่กรุงเทพฯบ้านเอ็งนู่น”
“ร้านเริ้นอะไรก็ไม่มีเหรอลุง ซื้อเสื้อผ้าให้ผมเพิ่มแค่ 5-6 ชุด ก็ได้”
“5-6 ชุด ถุ้ย พ่อคุณ พ่อไฮโซ นุ่งผ้าขาวม้าไปงั้นแหละ ดีแล้ว”
กำโป๊งชะงัก หันมาเหล่แล้วจะเดินออกไป เจ้าคุณเสียงนิ่มลง
“ชุดเดียวก็ได้ นะลุง”
กำโป๊งชะงัก แล้วตาโตวิบวับเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ หันกลับมาพูด
“ไปซิ ไอ้ขุนทอง ข้าก็อยากได้เสื้อใหม่ซักตัวอยู่พอดี”
เจ้าคุณงงๆ ไม่เก็ต ที่จู่ๆ ก็กำโป๊งยอมเอาเสียดื้อๆ แต่ก็ยอมตามกำโป๊งไปแบบไม่มีข้อกังขา
บ้านใต้ถุนสูง คล้ายบ้านของชาวภาคเหนือ หนึ่งเดียวในบ้านม่วนแต๊ คอยให้การต้อนรับฝรั่งและคนไทย มาดูการทอผ้ากี่กระตุกแบบเก่า มีศิลปะพิ้นบ้านภาคเหนือ เครือฟ้าเจ้าของบ้านหลังนี้ ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าสาวของหวานเจี๊ยบ กำลังฟ้อนรำแต้อย่างงดงามและแสนจะภาคภูมิใจ ให้นักท่องเที่ยวฝรั่ง 2-3 คนชื่นชม โดยมีวงดนตรีพื้นบ้าน เครื่องดนตรี 2-3 ชิ้น บรรเลงโดยชาวบ้านที่นั่งเล่นเพลงอยู่บนแคร่
พอเครือฟ้ารำจบ ฝรั่งปรบมือกันเกรียวกราว ขอถ่ายรูปกับเครือฟ้า หวานเจี๊ยบโผล่เข้ามาพอดี เพื่อจะถ่ายภาพให้ฝรั่งเอาไปเป็นที่ระลึก
“เฮลโหล!
“แท้งกิ้ว เวรี่มัช”
ฝรั่งกรูไปถ่ายรูปกับเครือฟ้า พอถ่ายเสร็จหวานเจี๊ยบแบมือหรา
“วัน ฮันเดรด”
เครือฟ้าต้องดุหวานเจี๊ยบในความงก
“นังหวานเจี๊ยบ โนๆ โอเค โฟโต้ ฟรีๆ แต้งกิ้ว โอเค้”
“ไทย พีเพิ่ล โซไนซ์ วี เลิฟ ไทยแลนด์”
“แต้งกิ้วๆ เจ๊า”
ฝรั่งปลาบปลื้ม กรูกันไปซื้อหาของที่ระลึกต่างๆ เช่น ผ้า เสื้อ ที่วางอยู่แถวนั้น
“นังเจี๊ยบ! แกนี่มันเค็มจริงๆ แค่ถ่ายรูปให้เขาก็คิดตังค์”
“แหม น้า ที่ไหนเขาก็ทำกัน”
“แต่ต้องไม่ใช่ที่ม่วนแต๊ คนม่วนแต๊ต้องมีน้ำใจ ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่ได้ เราอยากส่งเสริมความเป็น
ไทยให้ชาวโลกได้ประจักษ์เพื่อความภาคภูมิใจของเรา อย่าไปทำให้เขาดูถูกเราด้วยการเอาเปรียบเขา”
กำโป๊งยืนฟันยื่นปลาบปลื้มจัดข้างๆ โดยมีเจ้าคุณยืนฟังอยู่ด้วย กำโป๊งปรบมือสนั่นด้วยความปลาบปลื้ม
“สุดยอด ยอดเยี่ยม”
สองน้าหลานหันมามอง เครือฟ้าเอียงอาย หวานเจี๊ยบเห็นเจ้าคุณก็ตาโตในซิกซ์แพ็ค
“อ้ายกำโป๊ง” เครือฟ้าน้าสาวเพ้อ
“อ้ายขุนทอง” หวานเจี๊ยบหลานสาวครวญ
“เพราะมีแม่นางงามทั้งกายทั้งใจอย่างแม่เครือฟ้าม่วนแต๊ของเราถึงได้น่าอยู่”กำโป๊งหยอดทันที
“ปากหวานนัก อ้ายกำโป๊ง”
“หวานที่ไหน ข้าพูดจริง”
ฝรั่งชี้ชวนกันดู เจ้าคุณที่ไม่ใส่เสื้อ แถมนุ่งผ้าขาวม้าผืนเดียว คิดว่าเป็นกะเหรี่ยงบนดอยจึงอยากขอถ่ายภาพ
“เมย์ ไอ เทค อะ โฟโต้ วิท ยู”
“เฮ๊ย!” เจ้าคุณสะดุ้งโหยง
“ใครเนี่ย” เครือฟ้ากระซิบถามคำโป๊ง
“อ๋อ ไอ้ขุนทอง หลานข้า”
“อ๋อ! โอเคๆ เจ๊า เอ้า นังเจี๊ยบ ถ่ายให้เขาหน่อยซิ”
“ได้จ้ะน้า”
หวานเจี๊ยบรีบปรี่ไปจับแขนเจ้าคุณประมาณจัดท่าให้
“เฮ้ย! ไม่เอาๆ” เจ้าคุณขุนทองโวยวายดังลั่น
“เอาน่า เพื่อม่วนแต๊ของพวกเรา” เครือฟ้าหันมาบอก
“เร้ว ไอ้ขุน!” กำโป๊งสำทับ
หวานเจี๊ยบลากเจ้าคุณมายืนแอ็กชั่นแล้วถือโอกาสแต๊ะอั๋งลูบไล้ซิกซ์แพ็คไปด้วยอย่างชื่นใจ
เจ้าคุณจำใจยืนให้ถ่ายรูปหลายแชะ ด้วยใบหน้าบึ้งตึงไม่รับแขก ในขณะที่ฝรั่งยิ้มแฉ่งสุดปลื้ม
เมื่อเอมี่ไปนุ่งห่มขาวถือศีลปฏิบัติธรรมกับรจนาวรรณ แมทธิวจึงมีเวลาออกลายเจ้าชู้อยู่กับสาวๆ อยู่ที่ที่คอนโด ในขณะที่สาวเจ้ากำลังดูเรียลลิตี้ไฮโซบ้านเฮา นั่งยิ้มตาลุกวาวไปกับซิกซ์แพ็คของเจ้าคุณในทีวีตาไม่กระพริบ
“น้องนก เอาผ้าเช็ดตัวให้พี่หน่อย นก! ขอผ้าเช็ดตัว”
“หล่ออ่ะ! หยิบเองเซ่” น้องนกว่า
“ทำอะไรอยู่ บอกให้หยิบผ้าเช็ดตัว”
แมทธิวยั๊วเลยเดินออกมาเอง จึงพบว่าน้องนกกำลังมองเจ้าคุณในจออย่างสนอกสนใจ
“แค่นี้ก็หยิบเองไม่ได้ คนเค้ากำลังดูอ้ายขุนทองอยู่อ่ะ”
“ ไอ้ขุนทอง”
“ยืมมือถือหน่อยซิคะพี่แมท จะเอสเอ็มเอสชียร์อ้ายขุนทองอ่ะเจ๊า”
แมทธิวยิ่งอึ้งหนัก ตาแววโรจน์ด้วยความแค้นที่สาวๆ กลับเริ่มสนใจขุนทองในเรียลลิตี้เข้าให้แล้ว
เวลาเดียวกัน กำโป๊งพาขุนทองมาเพื่อพบกับเครือฟ้าที่อาจจะช่วยเรื่องเสื้อผ้าของเจ้าคุณได้ แต่ดูเหมือนจะมีอุปสรรคไม่น้อยเพราะเสื้อผ้าถูกฝรั่งซื้อไปหมดแล้ว เหลือแต่เสื้อที่ไมได้ย้อม งานนี้เจ้าคุณจึงลงมือย้อมเองแบบเงอะงะ
“สุมาเต๊อะ อ้ายกำโป๊ง ฝรั่งซื้อเสื้อไปหมด เหลือแต่เสื้อที่ยังไม่ได้ย้อม ย้อมเองละกันนะขุนทองนะ
แป๊บเดียวก็เสร็จ” เครือฟ้าว่าเสียงหวาน
“แป๊บเดียวที่ไหนล่ะ แค่นี้ก็...”
เจ้าคุณ ปาดเหงื่อ ค้อนกำโป๊งขวับ ก่อนจะอ้าปากเตรียมจะโวย แต่ถูกตัดหน้าก่อน
“ไอ้ขุน ย้อมไป แม่เครือฟ้าเขาอุตส่าห์เมตตา อย่าไปถือสาเลยนะแม่เครือฟ้า มันไม่ค่อยจะเต็ม”
“โถ น่าสงสาร” เครือฟ้าหน้าละห้อยสงสารเจ้าคุณ
เจ้าคุณเซ็ง และเคือง กระแทกไม้ลงในถัง น้ำร้อนๆ กระเด็นโดนตัวร้องจ๊าก
“โอ๊ย!”
“ว๊าย อ้ายขุน! แย่แล้ว”
หวานเจี๊ยบตกใจรีบปรี่เข้าประคบประหงม แต๊ะอั๋งจับซิกซ์แพ็คที่โดนน้ำร้อนไปด้วย
“นังเจี๊ยบ! เป็นสาวเป็นนาง รักนวลสงวนตัวหน่อยย่ะ” เครือฟ้าดึงหลานสาวมาพลางเตือน
หวานเจี๊ยบยังคงจิ๊จ๊ะใส่น้าตัวเองในขณะที่กำโป๊งมองเจ้าคุณ ส่ายหน้าอย่างขำๆ ไม่นานนัก เจ้าคุณกำลังสวมเสื้อใหม่ แอบรู้สึกดีที่ทำเองกับมือ
“กรี๊ด! ว๊าย หล่อขนาดๆ นักๆ”
“เว่อร์! นังเจี๊ยบเว่อร์” เครื่อฟ้าเอ็ดหลานสาว
“ขอบใจแม่เครือฟ้ามากนะจ๊ะ ขอบใจรึยังเจ้าคุณ”
“เอ่อ ขอบใจนะครับ” เจ้าคุณเผลอเน้นเสียงนุ่มทุ้มตรงคำว่านะครับสำเนียงคนกรุง
“กรี๊ด! ว๊าย พูดเพราะด้วยพูดครับ” หวานเจี๊ยบ...หวานเว่อร์ตามระเบียบ
กำโป๊งสะดุ้ง รีบเอาศอกกระทุ้งเจ้าคุณ
“เอ่อ ขอบใจนะน้า” เจ้าคุณเปลี่ยนคำใหม่
“ขอบจงขอบใจอะไร ลูกหลานคนบ้านเดียวกัน”
“เอาเป็นว่าถ้าแม่เครือฟ้าขาดเหลืออะไร อยากใช้โทรศัพท์ หรืออยากใช้ไฟฟ้าฉุกเฉินอะไรก็บอกฉันนะอย่าได้เกรงใจ ขอให้ชั้นได้ตอบแทนบ้าง เอ่อ ว่างๆ ก็ไปกินข้าวกันมั่งนะ” กำโป๊งหยอดอีกดอก
“อ้ายอ่ะ!”
กำโป๊งจีบเครือฟ้าออกหน้าออกตาจนอีกฝ่ายเอียงอาย เจ้าคุณมองทั้งคู่แล้วแอบอมยิ้ม
ส่วนหวานเจี๊ยบลอบมองเจ้าคุณตาปริบๆ ตกหลุมรักเข้าแล้วเต็มเปา!
อ่านต่อตอนที่ 3 เวลา 18.00 น. วันนี้ (16 ก.พ. 55)