เรื่องย่อจบบริบูรณ์
อสูรน้อยในตะเกียงแก้ว
บทประพันธ์ : โสภี พรรณราย
บทโทรทัศน์ : ฉายฉันท์ และ ภาวิต
กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
แนวละคร : โรแมนติก-คอมเมดี้-แฟนตาซี
ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร บริษัทดีด้า วิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ออกอากาศ : เวลา 20.30 ทางช่อง 7 สี
เริ่มออกอากาศ :
จำนวนตอนออกอากาศ : -
ณ ดินแดนเวทมนตร์ เมืองของแม่มด พ่อมดทั้งหลาย ทาฮิร่า (ดวงดาว จารุจินดา) แม่มดอาวุโส (ยายของ จินนี่ และ ฮันนี่) กับ บาบาร่า (สุปรีย์ฎา คำนวนศิลป์) คู่ปรับตัวร้ายที่กลายมาเป็นเพื่อนรัก และ ไทเกอร์ แมวแสนรู้ พูดได้ กำลังเดินเล่นในเมือง ซึ่งมี “งาน 9 ฉลอง” ฉลองวันเวลา พิเศษในรอบหลายพันปี คือ วันที่ 9 เดือน 9 ปี 9 เวลา 9 นาฬิกา ทุกคนต่างมีความสุข บรรยากาศงานเฉลิมฉลองในอาณาจักรแห่งมนตรา ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ตึกรามบ้านช่องต่างประดับด้วยธงสีทองมีเลข 999 ตามความหมายของวันงาน 9 ฉลอง
แต่แล้วก่อนถึงเวลาสำคัญไม่กี่ชั่วโมง จู่ๆ เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง แผ่นดินแตกแยกเป็นร่องลึกอย่างน่ากลัว ซ้ำร้ายลมพัดแรงกลายเป็นพายุหอบน้ำทะเลขึ้นมาซัดท่วมเมือง ผู้คนหนีตายกันอลหม่าน รวมทั้ง ทาฮิร่า บาบาร่า และ ไทเกอร์ เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ ทุกอย่างก็สงบลง ดินแดนเวทมนตร์ได้รับความเสียหายมากอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน มีคนบาดเจ็บล้มตายกันมาก
เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอาเพศบอกลางร้ายที่น่ากลัวมาก กลุ่มแม่มดอาวุโสรีบไปที่หอประชุมอย่างรู้หน้าที่ เมื่อที่ประชุมพร้อม ประธานซึ่งเป็นผู้ที่อาวุโสที่สุดจึงบอกกับทุกคนว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่เป็นเพราะมีอสูรร้ายตนหนึ่งเกิดขึ้นแล้วบนดินแดนแห่งนี้
อสูรน้อยตนนี้ถ้าไม่รีบกำจัด อีกยี่สิบปีข้างหน้ามันจะย้อนมาทำลายดินแดนเวทมนตร์จนไม่เหลือซาก อสูรน้อยตนนี้เกิดมาเพื่อทำลายจริงๆ ขอให้แม่มด พ่อมดทั้งหลายออกตามล่า และกำจัดมันให้เร็วที่สุด
อันตรายจากอสูรน้อยทำให้ทุกคนหวาดกลัวรวมทั้ง ทาฮิร่า บาบาร่า แต่ทั้งคู่ไม่คิดหนีเอาตัวรอด หน้าที่ในการดูแลรักษา ดินแดนแห่งนี้เป็นของแม่มดอาวุโสทุกคน ทาฮิร่า กับ บาบาร่า รวมทั้ง ไทเกอร์ แมวที่มีประสาทในการดมกลิ่นดีเป็นพิเศษจึงออกตามล่าอสูรด้วยกัน ผ่านไปหลายชั่วโมงทั้งสามก็ไม่พบวี่แววอสูรแต่อย่างใด ทาฮิร่า จึงแยกไปตามหาอีกทางหนึ่ง ปล่อยให้ บาบาร่า กับ ไทเกอร์ ไปอีกทางหนึ่ง ขณะที่ทาฮิร่า ขี่ไม้กวาดผ่านป่าละเมาะ นางสังเกตเห็นแสงสว่างนวลเหมือนแสงไฟส่องวูบวาบขึ้นมา ทาฮิร่า ตัดสินใจบินลงไปเดินสำรวจทันที
ที่นั่นนางพบกระท่อมหลังหนึ่ง เก่าทรุดโทรมจนไม่น่าจะมีใครอยู่ได้ แต่เสียงเด็กทารกร้องแว่วออกมาทำให้ทาฮิร่ารีบเข้าไปในกระท่อมทันที ที่พื้นห้องกลางบ้าน มีตะกร้าหวายบุด้วยผ้าสีแดงสวยสดใสวางอยู่ เสียงเด็กทารกร้องมาจากในตะกร้า ทาฮิร่าปราดเข้าไปดูทันที ทารกน้อยน่ารักลืมตามองนางตาแป๋ว ทาฮิร่ามองตาใสๆ ปากนิด จมูกหน่อย ของแกแล้ว ก็อดอุ้มขึ้นมาไม่ได้ พลางนึกสงสัยว่าเป็นลูกของใครกัน ร่างน้อยๆนั้นห่อหุ้มด้วยผ้าไหมเนื้อเนียน สีแดงสวย มีลายปักด้วยเป็นลวดลายสวยประณีตงดงาม แสดงว่าพ่อแม่เด็กคนนี้ต้องไม่ธรรมดา แน่นอน
ทาฮิร่าอดคิดถึง จินนี่ และ ฮันนี่ หลานสาวที่ตัดสินใจไปใช้ชีวิตอยู่ที่โลกมนุษย์ไม่ได้ เพราะเมื่อยังเป็นเด็ก ทั้งสองสาวก็น่ารักน่าเอ็นดูไม่แพ้เด็กคนนี้เลย ทาฮิร่าตกใจเมื่อคิดได้ว่า เด็กคนนี้เป็นลูกอสูรที่นางต้องกำจัด สำนึกในหน้าที่ทำให้ ทาฮิร่า ยกมืออีกข้างขึ้นสูงเตรียมกำจัดเด็กน้อย ตาใสแจ๋วที่มองนาง ปากน้อยๆ ที่เผยอขึ้นราวจะพูดด้วย ทำให้ทาฮิร่าทำไม่ลง นางคิดทบทวนช้าๆ ถ้าเด็กคนนี้ไม่ใช่อสูร นางก็จะทำความผิดมหันต์ เป็นบาปหนักหนาสำหรับแม่มด ตราบใดที่พิสูจน์ไม่ได้ว่าเจ้าตัวน้อยนี้เป็นอสูร ทาฮิร่าจะไม่กำจัดแก เมตตาธรรมในใจทำให้นางตัดสินใจจะเลี้ยงทารกน้อยนี้ไว้เป็นหลานสาวคนใหม่
เสียงของบาบาร่ากับไทเกอร์ที่ร้องเรียกทาฮิร่า ทำให้นางต้องรีบซ่อนเจ้าตัวน้อยไว้ในลังเก่าๆที่มุมกระท่อมทันที เพราะรู้ดีว่าถ้าบาบาร่ากับไทเกอร์พบแกเข้า เด็กน้อยคนนี้คงไม่รอดชีวิตแน่นอน เมื่อทั้งสองตามเข้ามาในกระท่อม ไทเกอร์ทำจมูกฟุดฟิดทันที พลางพึมพำว่ากลิ่นเด็กทารก ไทเกอร์ปรี่เข้าค้นในกระท่อมจนทาฮิร่าใจหาย นางได้แต่ส่งกระแสจิตเตือนเด็กน้อยให้หาวิธีซ่อนร่องรอยกลิ่นของตัวเองอย่าให้ไทเกอร์หาพบ ถ้าพ้นจากที่นี่ได้นางจะดูแลแกต่อไป ทาฮิร่าไม่หวังว่าเด็กคนนี้จะรับรู้อะไร ได้แต่คิดหาทางช่วยเหลือทางอื่น ทว่าจู่ ๆไทเกอร์หยุดชะงัก หมุนไปรอบๆ ยื่นจมูกดมทุกอย่างจนแม้กระทั่งที่ลังใบนั้น
ทาฮิร่าใจสั่นทำอะไรไม่ถูกกลัวไทเกอร์จะเปิดลังแล้วพบเด็กน้อย ทว่าไทเกอร์กลับไม่มีท่าทางว่าจะสนใจลังใบนั้นอีก ได้แต่เดินบ่นพึมพำว่าแปลกที่กลิ่นทารกหายไปเฉยๆ หายไปทันทีไม่ใช่ค่อยๆ จางไป แต่หายวูบไปราวกับไม่เคยมีมาก่อน ทาฮิร่าจึงแกล้งว่า ไทเกอร์เพี้ยน แล้วชวนหนึ่งแม่มดกับหนึ่งแมวออกไปตามหาที่อื่น แมวตัวเก่งเริ่มหงุดหงิดเพราะมั่นใจในประสาทสัมผัสพิเศษของตัวเอง แต่เมื่อบาบาร่าเห็นด้วยกับทาฮิร่าที่จะไปจากที่นี่ไทเกอร์จำใจยอมตามไปด้วย
ดึกมากแล้วเมื่อทาฮิร่าย้อนกลับมาที่กระท่อมร้าง เพื่อมาพาเด็กน้อยกลับไปที่บ้าน นางดีใจที่เด็กน้อยยังอยู่ที่เดิมที่ซ่อนไว้ นางจึงรีบพากลับไปที่บ้านของนางทันที ทาฮิร่าปิดประตูแน่นหนา นางโบกมือร่ายคาถา นมขวดหนึ่งปรากฏขึ้นมาทันที นางรีบป้อนให้เจ้าตัวเล็ก พึมพำหยอกล้อกับเด็กน้อยอย่างอารมณ์ดี ทาฮิร่าแปลกใจที่แม่หนูอึดเกินเด็กทั่วไป ไม่ได้กินนมหลายชั่วโมงแต่ก็ไม่งอแง นมหมดขวดอย่างรวดเร็ว ทาฮิร่าโยนขวดเปล่าหายวับไปในอากาศ เจ้าตัวเล็กในอ้อมแขนส่งเสียงอ้อแอ้เหมือนจะคุยด้วย นางจึงบอกแกว่าจะตั้งชื่อให้ว่า แนนนี่ พูดแล้วก็ลังเลพึมพำเหมือนจะถามต่อไปว่า ชอบไหม หรือจะเปลี่ยนเป็นชื่ออื่น ทาฮิร่าตกใจมากเมื่อได้ยินเสียงใสๆ ตอบมาว่า “หนูชอบชื่อ แนนนี่จ้ะ”
เสียงนั้นดังขึ้นในความคิดในจิตใจอย่างประหลาด แต่นางไม่มีเวลาหาที่มาของเสียงนั้น เพราะบาบาร่ากับไทเกอร์กำลังเคาะประตูอยู่ดังลั่น ทาฮิร่าหันซ้ายหันขวาลุกลี้ลุกลนหาที่ซ่อนแม่หนูแนนนี่ นางยิ้มอย่างดีใจเมื่อเหลือบไปเห็นตะเกียงแก้วบนโต๊ะ ทาฮิร่ากระซิบบอกแนนนี่ให้ซ่อนอยู่ในตะเกียงแก้ว และให้ระวังไทเกอร์ให้ดี พริบตาเดียวร่างแนนนี่หายวับไปในตะเกียงแก้ว
แต่ทาฮิร่าต้องตกใจเมื่อไทเกอร์ปรากฏตัวขึ้นมาแทนในชั่วเสี้ยววินาทีตามมาด้วยบาบาร่า ไทเกอร์ทำจมูกฟุดฟิด เดินวนรอบทาฮิร่า ทำหน้าตาสงสัย พึมพำว่ากลิ่นแปลกๆ ก่อนจะหันไปสนใจตะเกียงแก้ว ทาฮิร่ารีบคว้าตะเกียงแก้วขึ้นมาถือไว้ ย่อส่วนจนเหลืออันนิดเดียว แล้วรีบซุกไว้ในเสื้อคลุมของนาง พลางบ่นว่าต้องรีบเก็บก่อนไทเกอร์จะทำตะเกียงแตกเพราะทั้งซนและซุ่มซ่าม ไทเกอร์งอนแต่ไม่วายจะเที่ยวดมฟุดฟิดไปทั่วบ้าน งึมงำแต่ว่า กลิ่นทารก กลิ่นเด็กอ่อน ต้องหาให้เจอ ทาฮิร่าได้แต่ส่งกระแสจิตเตือนแนนนี่ ให้ระวังตัว จู่ ๆไทเกอร์หยุดนิ่ง ทำหน้างงๆ ก่อนจะบ่นอุบอิบว่า กลิ่นหายไปหมดแล้ว ทาฮิร่าจึงถอนใจยาวอย่างโล่งอก จากนั้นต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควรกว่าบาบาร่ากับไทเกอร์จะยอมกลับไป
เมื่อแน่ใจว่าอยู่กันตามลำพัง ทาฮิร่าจึงลองส่งกระแสจิตคุยกับแนนนี่อีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่านางไม่ได้หูแว่วไปเอง เด็กน้อยทำให้นางอึ้งเมื่อสามารถโต้ตอบกับนางทางกระแสจิตได้ราวกับคนที่โตแล้ว ทาฮิร่าเลี้ยงแนนนี่ลำบากขึ้นทุกวันเพราะบาบาร่ากับไทเกอร์มาแอบดูอยู่เสมอ และหลายครั้งที่เกือบจับแนนนี่ได้ ทว่าแนนนี่มีอำนาจพิเศษที่เก่งกว่า เพราะจะรู้ตัวและหายจากอ้อมแขนทาฮิร่าไปซ่อนตัวในตะเกียงแก้วอย่างรวดเร็วจนทาฮิร่าปรับตัวไม่ทัน ต้องยืนทำท่าอุ้มเด็ก พูดคนเดียวอยู่จน บาบาร่ากับไทเกอร์สงสัยมากขึ้นทุกที ขณะเดียวกัน ผู้นำแม่มด (ปนัดดา โกมารทัต) ประกาศตามล่าอสูรต่อไปจนกว่าจะกำจัดได้
สถานการณ์ที่ดินแดนเวทมนตร์ตึงเครียดขึ้นทุกวัน จนทาฮิร่าตัดสินใจว่าต้องส่งแนนนี่มาเลี้ยงที่โลกมนุษย์ และต้องหาครอบครัวที่ดี มีศีลธรรมด้วยเพื่อจะได้อบรมสั่งสอนให้อสูรน้อยกลับตัวกลับใจ นางมั่นใจว่าเด็กที่ได้รับการอบรมเลี้ยงดูด้วย ความรัก ความเมตตา และได้รับการสั่งสอนที่ดี จะเติบโตเป็นคนดีได้ ดังนั้นทาฮิร่าจึงต้องเดินทางมาโลกมนุษย์บ่อยครั้ง ครอบครัวดีที่ต้องการนั้นหายากเหลือเกิน
วันหนึ่ง ทาฮิร่าบินผ่านซอยเปลี่ยวแห่งหนึ่ง นางเห็นหญิงสาววัยรุ่น อุ้มเด็กเดินแกมวิ่งท่าทางโกรธจัด หน้าตาบูดบึ้ง ปากบ่นพึมพำอะไรสักอย่าง เมื่อนางตั้งใจฟัง ก็ตกใจจนแทบเป็นลม เพราะหญิงคนนั้นตั้งใจพาเด็กมาทิ้งที่กองขยะ หรือถ้ามีโอกาสก็จะฆ่าทิ้งทันที ก่อนที่ทาฮิร่าจะบินลงไปห้าม ผู้หญิงอีกคนหนึ่งวิ่งมาห้ามเสียก่อน ผู้หญิงคนนี้แต่งกายดีท่าทางมีเมตตา ทาฮิร่าแอบดูเหตุการณ์ต่อไปจึงรู้ว่า แม่ของเด็กชื่อ มาลี (ประถมาภรณ์ รัตนภักดี) เป็นเด็กสาวมาจากต่างจังหวัด มีอาชีพเป็นแม่ค้าขายปลาในตลาด อยู่มาวันหนึ่ง มาลีถูกผู้ชายกลุ่มหนึ่งฉุดและโดนรุมข่มขืนจนหมดสติจำอะไรไม่ได้ มาลีไม่กล้าไปแจ้งความเก็บเรื่องเงียบไว้ กว่าจะรู้ตัวก็ตั้งท้องได้หลายเดือนแล้ว พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้แท้ง แต่ไม่สำเร็จ เธอไม่รักลูกเลยสักนิด ทุกวันมาลีจะบ่นระบายความเคียดแค้นชิงชังอยู่คนเดียว โดยไม่รู้ว่าเด็กในท้องรับรู้ถึงความโกรธแค้นนี้ด้วย เมื่อครบกำหนด มาลีคลอดลูกเป็นหญิง หน้าตาน่าเอ็นดู แต่เธอกลับเกลียดลูกที่สุด ทันทีที่ออกจากโรงพยาบาล มาลีตั้งใจจะอุ้มลูกมาทิ้ง
ทว่า ปัทมน (มยุริญ ผ่องผุดพันธ์) เจ้าของโรงงานเย็บกระเป๋าเพื่อส่งออกที่มีชื่อเสียงมาพบเข้าเสียก่อน เธอเป็นคนใจบุญ จึงขอลูกสาวของมาลีมาอุปการะ มาลีรีบส่งลูกให้โดยไม่อาลัยสักนิด มาลีวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วราวกับกลัวว่า ปัทมนจะคืนลูกกลับมา
ทาฮิร่าตามปัทมนไปถึงบ้าน ได้รู้เพิ่มเติมอีกว่า ปัทมนเป็นม่าย มีลูกชาย หนึ่งคนชื่อ ธานี อายุเพิ่ง 5 ขวบ เธอเป็นนักธุรกิจหญิงที่ประสบความสำเร็จมาก ใจบุญ และฐานะดี บ้านของเธออยู่ติดกับ ดร.จักรวาล (ปรินทร์ วิกรานต์) นักวิทยาศาสตร์หนุ่มใหญ่ เขาเป็นพ่อม่ายมีลูกติดสองคน ชายหนึ่ง หญิงหนึ่ง คือ ภวัต อายุเท่า ธานี และ รัดเกล้า อายุประมาณ 3 ขวบ
ทั้งสองครอบครัวนี้ สนิทสนมกันมาก เด็กๆ ก็รักกันเหมือนพี่น้อง เรียนอยู่ที่เดียวกันด้วย ดังนั้น ดร.จักรวาล กับ ปัทมน จะผลัดกันรับลูกถ้าอีกฝ่ายไม่ว่าง หรือถ้าใครมีงานต้องไปต่างจังหวัด หรือต่างประเทศหลายวัน ดร.จักรวาล กับ ปัทมน จะสลับกันช่วยดูแลเด็กๆให้ เด็กหญิงลูกของมาลี ปัทมนตั้งชื่อให้ว่า ดารกา ธานีเห่อน้องสาวคนใหม่มาก รวมไปถึง ภวัต กับรัดเกล้าด้วย
ทาฮิร่าพรางตัวแอบตามดูครอบครัวนี้อยู่หลายวันจนรู้ว่า ดร.จักรวาล กับ ปัทมน เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น ปัทมน เป็นคนจิตใจงาม อ่อนโยน ชอบปฏิบัติธรรม ทาฮิร่าดีใจที่พบคนที่เหมาะสมที่จะฝากแนนนี่ให้ดูแลแล้ว แต่ยังหาวิธีส่งตัว แนนนี่มาอยู่ที่นี่อย่างแยบยลไม่ได้ ทุกวันที่กลับไปจากบ้านปัทมน ทาฮิร่าจะเล่าเรื่องครอบครัวนี้ให้แนนนี่ฟัง นางบอกต่อไปว่าการที่หลานสาวตัวน้อยได้ไปอยู่กับปัทมนจะเป็นการดี และปลอดภัยที่สุด
บ่ายวันหนึ่งขณะที่ ทาฮิร่า พรางตัวมาที่บ้านนี้เช่นเคย เสียงเอะอะของคนในบ้านที่ตามหา ธานี ทำให้ทาฮิร่าร้อนใจ นางปรากฏร่างที่สระว่ายน้ำทันทีที่ได้ยิน เสียงกรีดร้องของปัทมน ภาพของเด็กชายธานี กำลังดิ่งจมลงก้นสระ ทำให้ปัทมนทำอะไรไม่ถูก ทาฮิร่าร่ายมนตร์วิเศษทันที ร่างธานีกลับพลิกหงายลอยตัวขึ้นช้าๆ กลับมาที่ริมสระ ในช่วงเวลานั้นปัทมนตกตะลึงตาค้างมองทาฮิร่าอย่างแปลกใจ เมื่อร่างลูกชายลอยมาใกล้ๆ เธอรีบวิ่งไปช้อนตัวลูกชายขึ้นมากอด ธานีรู้สึกตัวดีไม่มีอาการของคนที่จมน้ำเลย อย่างไรก็ตาม ปัทมนก็จะพาธานีไปโรงพยาบาล ขณะที่ทุกคนในบ้าน โกลาหลช่วยธานี ปัทมนเหลียวหาหญิงวัยกลางคนสวมเสื้อคลุมรุ่มร่าม ท่าทางใจดี ที่ช่วยลูกชายไว้ เธอหันไปพบนางกำลังจะเลือนหายไปในกำแพง ปัทมนอึ้งทำอะไรไม่ถูก
ที่โรงพยาบาลหมอตรวจธานีอย่างละเอียดและบอกว่าปลอดภัยดี คืนนั้นปัทมนสวดมนตร์อยู่นาน ตั้งจิตอธิษฐานขอพบหญิงลึกลับที่ช่วยชีวิตลูกชายสักครั้ง เมื่อปัทมนกลับเข้าห้องนอนส่วนตัว เธอพบทาฮิร่านั่งรออยู่แล้ว มาคราวนี้นางแต่งกายสุภาพทันสมัย สง่างาม หน้าตายิ้มแย้มอย่างคนใจดี ปัทมนรีบยอบตัวลงนั่งพนมมือไหว้ขอบคุณทาฮิร่าทันที การที่นางช่วยชีวิตธานีไว้ ปัทมนถือว่าเธอเป็นหนี้บุญคุณนางที่สุด ทาฮิร่าคุยกับปัทมนอยู่นานนางขอร้องให้ช่วยเลี้ยงแนนนี่ หลานสาวตัวน้อย เด็กพิเศษที่ไม่เหมือนใคร ทาฮิร่าจำเป็นต้องบอกข้อมูลบางอย่างให้ปัทมนรู้เพื่อจะได้ไม่ตกใจ ถ้ายัยหนูทำอะไรแผลงๆ ทาฮิร่าบอกว่านางเป็นแม่มดมาจากดินแดนเวทมนตร์ ส่วนแนนนี่เป็นหลานสาวที่มีเลือดผสมของมนุษย์กับแม่มด เด็กกลุ่มนี้จะไม่ได้รับการยอมรับจากคนที่นั่น ทาฮิร่าจึงต้องนำมาฝากให้ปัทมนเลี้ยงดู โดยขอให้อบรมแกให้เป็นคนดี และสัญญาว่าจะมาเยี่ยมแกบ่อยๆ ช่วยประคับประคองอีกทางหนึ่ง ทาฮิร่าขอร้องให้ปัทมนเก็บเรื่องแนนนี่เป็นแม่มดไว้เป็นความลับ ซึ่งปัทมนยอมรับปากอย่างเต็มใจ
ไม่กี่วันต่อมา ทาฮิร่าในมาดหญิงวัยกลางคนที่แต่งตัวดี สง่างามก็อุ้มแนนนี่มาให้ปัทมน เธอรับแกมาอุ้มอย่างเอ็นดู เด็กน้อยตากลมโตใสแจ๋วยิ้มให้ปัทมน ทาฮิร่าอยู่ไม่นานก็กลับไป ได้แต่ส่งกระแสจิตคุยกับแนนนี่ตลอดเวลา น่าแปลกที่ทันทีที่ปัทมนอุ้มแนนนี่ ดารกากลับร้องไห้จ้างอแง อย่างไม่มีเหตุผล วันนั้นธานีภวัต และรัดเกล้า แย่งกันเลี้ยงน้องสาวคนใหม่ พอดารการ้องไห้ก็ไปโอ๋ดารกา ภวัตสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงใสแจ๋วก้องในหัวว่า “ห้ามไปเล่นกับคนอื่น พี่ภวัตต้องเป็นพี่ชายของแนนนี่คนเดียว”
ภวัตเหลียวมองรอบตัวก็ไม่มีใคร พอหันไปมองแนนนี่ ยัยหนูยิ้มให้ส่งเสียงอ้อแอ้ชวนเล่นเหมือนทารกทั่วไป แต่เมื่อเขาหันไปหา ดารกา เสียงดุๆใสแจ๋วนั่นก็ดังขึ้นอีก “พี่ภวัตมาหาแนนนี่” ภวัตมองธานี รัดเกล้า และยายผาด (จารุศิริ คชหิรัญ) พี่เลี้ยงของเด็กๆ อย่างประหลาดใจ ที่ทุกคนทำราวกับไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น ภวัตหันไปมองแนนนี่อีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจเดินออกจากห้องนั้น เด็กชายคิดว่าเขาหูแว่วไปเอง
ทาฮิร่าที่แอบเฝ้าดูเหตุการณ์อยู่อ่อนใจในความแก่นแก้วของแนนนี่ นางหาโอกาสปรากฏตัวมาคุยกับภวัต บอกว่าเป็นยายของแนนนี่ ค่อยๆ คุยจนเด็กชายถามถึงเรื่องที่ได้ยินเสียงแนนนี่ หรือแนนนี่พูดโต้ตอบราวกับอ่านใจเขาได้ ทาฮิร่าทำเป็นดีใจที่ภวัตรู้สึกเหมือนนาง แถมยังบอกอีกว่า แกไม่กล้าบอกใครกลัวเขาจะหาว่าเพี้ยน แนนนี่เป็นเด็กพิเศษจริงๆ ทาฮิร่ากับภวัตตกลงกันว่าจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับรู้กันสองคน ภวัตรู้สึกดีและสบายใจมากขึ้นที่ไม่ได้ผิดปกติคนเดียว
ดึกมากแล้วเมื่อทาฮิร่ามาหาแนนนี่ ยัยหนูดีใจนักหนา แต่เมื่อทาฮิร่าถามเรื่องภวัตว่าทำไมต้องพูดคุยสื่อสารกับเขา แนนนี่ตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า ตนรู้สึกผูกพันกับเขามาก ทันทีที่เห็นหน้า และจะไม่ยอมให้เขาไปวุ่นวายกับคนอื่นเด็ดขาด พี่ภวัตต้องรักแนนนี่ เป็นพี่ชายของแนนนี่คนเดียว ทาฮิร่าเริ่มหนักใจกับอิทธิฤทธิ์ของเจ้าอสูรน้อยเต็มที
เวลาผ่านไป วันนี้ที่บ้านปัทมนจัดงานฉลองวันเกิดให้ลูกสาว ทั้งสองคน คือ ดารกา และแนนนี่ ทั้งคู่อายุ 12 ปีแล้ว ปัทมนเลี้ยงเด็กทั้งคู่มาด้วยกัน อบรมเหมือนกันทุกอย่างแต่นิสัยใจคอต่างกันลิบลับ แนนนี่ทั้งขี้อิจฉา เอาแต่ใจตัวเอง เป็นตัวป่วนประจำบ้าน แก่นแก้ว ชอบแกล้งและเอาเปรียบดารกาตลอดมา แกไม่ยอมรับว่าดารกาเป็นพี่สาว แม้ปากจะเรียก พี่ดา แต่ก็เรียกไปอย่างนั้น แนนนี่รักและติดภวัต มาตั้งแต่เด็กๆ จะอาละวาดถ้า ภวัต ไม่เล่นด้วยหรือหันไปสนใจดารกา ด้านการเรียนแนนนี่ เรียนไม่ค่อยเก่งจนปัทมนหนักใจส่วนดารกาตรงกันข้าม เด็กหญิงเรียบร้อย อ่อนหวาน เรียนเก่ง และยอมให้แนนนี่แกล้งตลอดเวลา ยายผาดสรุปว่า ถ้าเป็นละคร ดารกา ก็เป็นนางเอก ส่วนแนนี่คือนางอิจฉา
วันนั้นเกิดเรื่องอีกจนได้ เมื่อภวัตหยิบกล่องของขวัญผูกโบว์สีชมพูให้ดารกาก่อน จะหยิบกล่องผูกโบว์สีแดงให้แนนนี่ พลางพูดเย้าอย่างอารมณ์ดีว่า สีชมพูเหมาะกับดารกา ที่หวาน เรียบร้อย ส่วนแนนนี่เป็นสีแดงเพราะซนเหลือเกิน แนนนี่ตาคว่ำมองดารกาที่บรรจงแกะกล่องอย่างหมั่นไส้เต็มทน แต่ยังเกรงใจภวัต จึงไม่อาละวาด ดารกาหยิบผ้าพันคอเนื้อนิ่มสีชมพูหวาน คลี่ออกดูอย่างพอใจ เด็กสาวขอบคุณภวัตพี่ชายที่แสนดีอย่างน่ารัก แนนนี่งอนป่องฉวยกล่องของขวัญไปที่ห้องนอน เธอแกะโบว์และฉีกกระดาษขาดอย่างคนใจร้อนและเอาแต่ใจ
ทาฮิร่าซึ่งแอบดูอยู่นาน ได้แต่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ แนนนี่กระชากผ้าพันคอเนื้อนิ่มแบบเดียวกับของดารกา เพียงแต่เป็นสีแดงออกมาอย่างโกรธจัด ทั้งที่ผ้าพันคอผืนนั้นสีสวยสดใสมาก แต่แนนนี่กลับมองไม่เห็นความสวยงามของมัน เด็กสาวฉีกผ้าพันคอขาดเป็นริ้วทันที บ่นพึมพำต่อว่า ภวัตที่ไม่รู้ใจตนว่าตัวเองชอบสีชมพู และเกลียดสีแดงที่สุด แนนนี่ทำให้ ทาฮิร่าต้องปรากฏตัวออกมา
แนนนี่ดีใจที่ยายมาหา แต่ก็หน้าเสียเพราะรู้ว่าเดี๋ยวต้องถูกดุแน่นอน ทาฮิร่าอบรมแนนนี่ที่ทำตัวไม่น่ารัก ไม่เห็นคุณค่าของของขวัญที่ภวัตหามาให้ เด็กสาวเถียงข้างๆ คูๆ ว่า ภวัตแกล้งเลือกสีแดงมาให้ทั้งที่รู้ว่าแนนนี่ชอบสีชมพู ทาฮิร่าจึงพูดอย่างรู้ทันว่า ถ้าภวัตเลือกสีแดงให้ ดารกา แล้วสีชมพูให้แนนนี่ เธอก็จะเกลียดสีชมพูใช่หรือไม่ แนนนี่หน้าแดงที่ยายรู้ทันแต่ไม่ยอมรับง่ายๆ ทาฮิร่าจึงบอกว่า รู้มั้ยกว่า ภวัตจะตัดสินใจเลือกผ้าพันคอผืนนี้ให้แนนนี่เขาใช้เวลาเลือกอยู่นานมาก ต่างกับของดารกา ที่เห็นปุ๊บก็หยิบเลย แนนนี่ยังเถียงว่า เพราะภวัตสนใจแต่ดารกา จึงรู้ดีว่าต้องหยิบสีชมพู
ทาฮิร่าระอาใจกับความรั้นของแนนนี่จนอยากจะตีแม่หลานสาวจอมแก่นสักที แต่ก็ทำไม่ลงจึงอธิบายต่อไปอีกว่า ตรงกันข้ามเลย ที่เลือกให้แนนนี่อยู่นานก็เพราะต้องการให้ของที่ถูกใจแนนนี่ต่างหาก ภวัตเดินหาอยู่นานกว่าจะได้ผ้าพันคอสีแดงสวยถูกใจเขา ถ้าไม่เพราะสนใจแนนนี่มากจะเดินหาให้เหนื่อยทำไม หยิบสีอะไรก็ได้ หรือแม้แต่สีแดงก็มีให้เลือกเป็นสิบๆเฉดสี แต่ผืนนี้ สวยต่างจากผืนอื่น ภวัตจึงเลือกมาให้เธอ แต่แนนนี่กลับฉีกขาดเหมือนไม่เห็นคุณค่า และน้ำใจคนให้ ทาฮิร่าย้ำว่าที่รู้ก็เพราะแอบตามไปเพื่อหาของขวัญให้แนนนี่เหมือนกัน แนนนี่ยิ้มออก โบกมือร่ายคาถาอย่างรวดเร็ว ผ้าพันคอที่ขาดเป็นริ้วกลับคืนสู่สภาพเดิมทันที ทาฮิร่าถอนใจอย่างหนักใจเมื่อเห็นแนนนี่ใช้เวทมนตร์ นางย้ำกับเธอว่า บอกกี่ครั้งว่าห้ามใช้เวทมนตร์พร่ำเพรื่อ เพราะแนนนี่เกิดมาเป็นแม่มดลูกครึ่งมนุษย์ การใช้เวทมนตร์พร่ำเพรื่อ หรือใช้ในทางที่ผิดจะเป็นการทำลายตนเอง แนนนี่โผกอดทาฮิร่าอย่างประจบ และรับปากว่าจะระวังให้มากขึ้น ทาฮิร่าใจอ่อน แม้จะรู้ว่าแนนนี่จะเผลอตัวบ่อยครั้งเมื่อไม่ได้ดั่งใจ
แนนนี่อ้อนขอตะเกียงแก้วจากทาฮิร่าเป็นของขวัญวันเกิด เหมือนทุกปี เด็กสาวปฏิเสธของขวัญชิ้นอื่นจากทาฮิร่า จะขอเพียงอย่างเดียวคือตะเกียงแก้วที่ผูกพันมาตั้งแต่เด็ก ทาฮิร่ารับปากว่าปีนี้จะให้ โดยตกลงกันก่อนว่า แนนนี่ต้องเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี เป็นความลับอย่าให้ใครเห็นเด็ดขาด แนนนี่รับปาก ทาฮิร่า จึงบอกว่าคืนนี้จะนำมาให้ แต่ตอนนี้ให้แนนนี่กลับลงไปทำหน้าที่เจ้าของวันเกิดที่น่ารักได้แล้ว เด็กสาวพันผ้าพันคอผืนสวยวิ่งลงมาอย่างอารมณ์ดี แม้จะหงุดหงิดที่ต้องเป่าเค้กพร้อม กับดารกาแต่ก็พยายามข่มใจ แนนนี่ตัดเค้กลงจานแบ่งแล้ว รีบยกไปให้ปัทมนกับจักรวาลที่โต๊ะก่อนดารกาจะแย่งทำ แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งแนนนี่เห็นดารกา กำลังประคองถาดเสิร์ฟ เค้กให้ภวัต รัดเกล้า และธานีที่โต๊ะกลางสนาม แนนนี่ก็โกรธขึ้นมาอีก เธอเหลือบไปเห็น ผ้าพันคอสีชมพูที่ดารกาวางเอาไว้ แนนนี่ห้ามใจไม่อยู่สาวน้อยอารมณ์ร้ายหยิบผ้าพันคอผืนนั้นขึ้นมาฉีกขาดก่อนจะพับไว้เหมือนเดิม
เมื่องานเลี้ยงเลิก ดารกาหยิบกล่องของขวัญกลับไปที่ห้อง เธอใจหายเมื่อเห็นว่า ผ้าพันคอผืนสวยเป็นรอยขาดหลายแห่ง ดารกานึกรู้ว่า ต้องเป็นฝีมือ แนนนี่ เธอเดินไปที่ห้องน้องสาวและต่อว่าอย่างเสียใจ แต่แนนนี่กลับทำไม่รู้เรื่อง ปฏิเสธเสียงแข็ง แต่แล้วก็หน้าซีดเมื่อดารกาพูดเรียบๆว่า งั้นคงขาดมาจากที่ร้าน แล้วภวัตไม่เห็น เธอจะไปบอกภวัต ให้พาไปเปลี่ยนผ้าผืนใหม่ ดารกาออกจากห้องไปแล้ว แนนนี่หน้าเง้าไม่พอใจเธอจะยอมให้ดารกาทำอย่างนั้นไม่ได้ สาวน้อยพึมพำขอโทษ ทาฮิร่าก่อนจะผิดสัญญาใช้เวทมนตร์ทำให้ผ้าพันคอสีชมพูกลับสู่สภาพเดิม อย่างไม่ค่อยพอใจนัก
ส่วนดารกา กลับไปที่ห้องส่วนตัว ได้แต่เสียใจที่โดนแกล้ง แต่เธอคงไม่บอกภวัต ที่พูดไปก็เพราะต้องการให้แนนนี่ กลัวบ้างเท่านั้น ดารกาสะบัดผ้าออกเพื่อพับเก็บ เด็กสาวอึ้งเมื่อเห็นว่า ผ้าพันคอผืนสวยไม่มีรอยขาดแม้สักนิด ความดีใจที่ได้ของกลับมามีมากกว่าความสงสัยว่าเป็นไปได้อย่างไรกัน คืนนั้นดารกาหลับอย่างมีความสุข ส่วนแนนนี่ คอยทาฮิร่าจนดึก กว่าทาฮิร่าจะมา นางนำตะเกียงแก้วมาให้ แนนนี่ตามสัญญา ซึ่งแนนนี่ดีใจมาก คว้ามือ ทาฮิร่าหายวับลงไปในตะเกียงแก้วด้วยกันทันที
ห้องในตะเกียงแก้วสวยงามน่าอยู่ เหมือนเดิมทุกอย่าง แนนนี่ลงนอนบนเบาะนุ่มสีสวยแล้วหลับไปอย่างง่ายดาย ทาฮิร่ายิ้มให้อย่างเอ็นดูก่อนจะกลับดินแดนเวทมนตร์ไป
ไม่กี่วันต่อมา จักรวาล นำข่าวดีมาบอก ภวัต (ชนะพล สัตยา) ว่า มหาวิทยาลัยที่อเมริกา ตอบรับให้เขาเข้าเรียนแล้ว และต้องเดินทางเร็วๆ นี้ ภวัตตั้งใจจะเรียนแพทย์ เขาเรียนเก่งจนได้ไปเรียนต่ออย่างที่ตั้งใจ ข่าวนี้ทำให้ดารกาซึมลงไป เธอเองก็รักและ “ติด” ภวัตไม่ต่างจากแนนนี่เช่นกัน ส่วนแนนนี่ ที่ใครต่อใครเป็นห่วงว่าคงอาละวาดไม่ยอมให้ภวัตไป กลับนิ่งเฉย ไม่ทุกข์ร้อนเสียใจอะไรเลยสักนิดจนทุกคนแปลกใจ เมื่อถามเธอเรื่องนี้ แนนนี่ กลับพูดจาเป็นผู้ใหญ่ว่า ภวัตไปเรียน เพื่อนำความรู้กลับมารักษาคนไข้ ไม่ได้ไปเที่ยวสักหน่อย จะโกรธทำไม ที่จริงแล้วแนนนี่รู้ดีว่า เธอจะไปหาภวัต เมื่อไหร่ก็ได้ เพราะเธอเป็นแม่มด แว้บไปแว้บมา เมืองไทยกับอเมริกา ง่ายนิดเดียว
วันที่ไปส่งภวัต ที่สนามบิน แนนนี่หงุดหงิดที่ดารกา ทำพวงกุญแจที่มีกรอบรูปใส่รูปตัวเอง ให้ภวัตติดตัวไปเป็นที่ระลึก เพื่อจะได้ไม่ลืมเธอ แต่ครู่เดียวก็ยิ้มระรื่น รูปถ่ายหรือจะสู้ตัวจริงอย่างแนนนี่ ทาฮิร่าแอบมาพบภวัตที่ห้องพักผู้โดยสาร นางมาอวยพรให้เขาเรียนสำเร็จ และเดินทางปลอดภัย ชายหนุ่มงงๆ ที่ ทาฮิร่า โผล่มาและหายไปอย่างรวดเร็ว จนเขานึกชมว่า นางช่างแข็งแรงเหลือเกิน
ส่วนแนนนี่ เมื่อกลับถึงบ้าน เธอรีบกลับไปที่ห้องส่วนตัว ก่อนจะหายแว้บไปพร้อมไม้กวาด พาหนะคู่ใจ เธอจะบินตามไปส่งภวัต พี่ชายคนพิเศษของเธอ ส่วนภวัต ตกใจนึกว่าตาฝาดเมื่อเห็นแนนนี่ขี่ไม้กวดบินลอยอยู่ข้างหน้าต่าง เสียงใสๆ ของเธอที่ดังขึ้นในใจ ทำให้เขารู้ว่าไม่ผิดตัว เป็นแนนนี่จริง ภวัตทำอะไรไม่ถูก ไม่เข้าใจว่าเธอทำได้อย่างไร แนนนี่โบกมือให้ เมื่อเห็นว่าเธอกำลังทำให้ผู้โดยสารที่นั่งข้างๆ สงสัยว่า ภวัต จะเพี้ยน เพราะมี เขาเพียงคนเดียวที่จะเห็นเธอได้ ในเวลาเดียวกัน ทาฮิร่าที่เฝ้ามองหลานสาวจากดินแดนเวทมนตร์ หนักใจที่ แนนนี่ อสูรน้อยตนนี้ ฤทธิ์มากเหลือเกิน ขี่ไม้กวาดบินตามเครื่องบินได้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อยตั้งแต่อายุนิดเดียว แนนนี่เป็นเด็กพิเศษมากจริงๆ เสียด้วย
ทาฮิร่าอดสงสัยไม่ได้ว่าหลานสาวเป็นอสูรแต่ทำไม ใช้เวทมนตร์ และขี่ไม้กวาดคล่องแคล่วราวกับแม่มดอย่างนี้ เก่งกว่า จินนี่ กับ ฮันนี่ เหลือเกิน ส่วน ภวัต แปลกใจมากขึ้นเมื่อ เขาเดินทางถึงที่พัก แล้วพบแนนนี่นั่งรออยู่แล้วที่เก้าอี้รับแขก ภวัตเข้าใจว่า แนนนี่บินตามมาพร้อมครอบครัว แนนนี่ต้องอธิบายอยู่นาน แสดงการใช้เวทมนตร์ อีกหลายอย่าง กว่า ภวัต จะยอมรับอย่างไม่เต็มใจนักว่า เธอเป็นแม่มด
เวลาผ่านไป แนนนี่ (พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) โตเป็นสาวสวย คมเข้ม สะดุดตา เธอเรียนที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง ส่วน ดารกา (อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์) มุมานะจนสอบติดแพทย์จนได้ เธอตั้งใจเรียนแพทย์เหมือนภวัต เพราะต้องการใกล้ชิดกับเขา ทั้งที่เคยตั้งความฝันว่าจะเป็นนักธุรกิจเหมือนปัทมน
ขณะที่ภวัต เรียนอยู่อเมริกา คนอื่นๆ ในครอบครัวติดต่อกับเขา ทางสื่อทันสมัยต่างๆ ทั้งโทรศัพท์ หรือ อินเทอร์เน็ต แต่แนนนี่กลับใช้วิชาแม่มด แม้จะโบราณแต่ได้ผลดีกว่า เพราะเธอสามารถไปพบกับภวัตได้ตลอดเวลา แม้จะต้องทำตามเงื่อนไขของภวัตอยู่บ้าง เช่นให้ระวังตัว หรือห้ามมากวนตอนใกล้สอบ แนนนี่ก็พอใจ
บ่ายวันหนึ่ง รัดเกล้า (ธันย์ชนก ฤทธินาคา) นำข่าวของภวัตมาเล่าให้ฟังเหมือนเคย แต่ข่าวนี้กลับทำให้ ดารกาเสียใจมาก รวมทั้งแนนนี่ด้วย รัดเกล้าบอกว่ากลับมาคราวนี้ภวัต คงพาแฟนกลับมาด้วย เธอชื่อ บุษบา (ณิชานันท์ ฝั้นแก้ว) เป็นผู้หญิงที่สนิทสนมกับภวัตมากเป็นพิเศษ ดารกาเสียใจเจ็บปวดจนต้องหนีกลับไปร้องไห้ที่ห้องพัก เธอรักภวัตเหลือเกิน ในความรู้สึกของเธอ ภวัต ไม่ใช่ “พี่ชาย” มานานหลายปีแล้ว แต่เขาเป็น “คนพิเศษ” ในใจเธอต่างหาก ส่วนแนนนี่แทบอดใจรอจนถึงค่ำไม่ไหว คืนนี้เธอต้องไปคุยกับภวัตให้รู้ความจริงเกี่ยวกับบุษบาให้ได้
ที่ห้องพักของภวัต ชายหนุ่มโดนแนนนี่ แม่มดจอมป่วน ซักถามเขาอย่างละเอียดเรื่องบุษบา ซึ่งเขาตอบตามความจริงว่าไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าเพื่อน แนนนี่ถามจนพอใจ เมื่อมั่นใจว่าภวัตไม่ได้รักบุษบา เธอโผเข้ากอด ภวัตแน่นอย่างดีใจ บอกย้ำว่า เขาต้องรักเธอ ดูแลเธอคนเดียวเท่านั้น ภวัตใจเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แนนนี่ เข้ามากอดเขา แต่ทุกครั้งเธอเหมือนน้องน้อยน่ารักขี้ประจบ ทำให้เขารู้สึกเอ็นดู ไม่เคยใจเต้นแรง อย่างนี้สักครั้ง ภวัตค่อยๆ ปลดมือยัยจอมแก่นออกจากตัว ข่มใจไม่ให้ตื่นเต้นจนแนนนี่รู้ เพราะเธออ่านใจเขาได้ง่ายมาก ถ้าภวัตเผลอตัวคิดเรื่อยเปื่อย เขารู้ว่าถ้าเขาทำจิตว่างแล้ว แนนนี่จะไม่สามารถอ่านใจเขาได้เลย ชายหนุ่มแกล้งไล่แนนนี่กลับโดยอ้างว่าเขาจะดูหนังสือเตรียมสอบครั้งสุดท้าย แนนนี่ยอมกลับแต่โดยดี ภวัตข่มใจอ่านหนังสือต่อไป พยายามทำจิตนิ่งๆ แต่ภาพของแนนนี่แม่มดสาวสวยคอยรบกวนจิตใจอยู่ร่ำไป
อ่านต่อหน้า 2
เรื่องย่อจบบริบูรณ์
อสูรน้อยในตะเกียงแก้ว (ต่อ)
วันหนึ่ง แนนนี่ นึกสนุก แอบเดินทางไปที่ดินแดนเวทมนตร์ทั้งที่รู้ว่า ทาฮิร่าห้ามนักหนา แต่ความอยากรู้อยากเห็นทำให้เธอแอบไปจนได้ แนนนี่ ตื่นตาตื่นใจมากกับความสวยงามของดินแดนแห่งนี้ สาวน้อยไปที่โรงเรียนเวทมนตร์ เธอนั่งฟังการสอนของครู อย่างสนุกสนาน คาถาต่างๆ พรั่งพรูเข้าสมองอย่างง่ายดาย ช่างต่างจากการเรียนที่มหาวิทยาลัยบนโลกจริงๆที่ แนนนี่ไม่เข้าใจอะไรเลย หญิงสาวหลบออกไปก่อนที่ใครจะทันสังเกต เธอเดินเพลินๆไปที่ห้องสมุด สะดุดตากับหนังสือเล่มหนึ่ง ปกสีดำสนิท ตัวหนังสือ สีทองกระจ่างที่หน้าปก แนนนี่ หยิบขึ้นมาเปิดดูอย่างสนใจ ตาคมสวยเป็นประกายอย่างถูกใจเมื่อเห็นว่าเป็นตำรา ที่รวบรวมคาถาบทพิเศษๆเอาไว้ แนนนี่ พึมพำ ขอยืม ก่อนจะเก็บหนังสือเล่มนั้น ใส่กระเป๋าสะพายทันที แม่มดน้อยออกเที่ยวต่อไป อย่างตื่นตาตื่นใจ จนมาถึงตลาดกลางเมืองซึ่ง ทาฮิร่า บาบาร่า กับไทเกอร์ออกมาซื้อของเช่นกัน
แนนนี่เดินปะปนกับชาวเมืองไปเรื่อยๆ เธอเที่ยวเพลินจนไม่ทันระวังตัว มารู้สึกตัวอีกที เจ้าไทเกอร์ แมวตัวร้ายก็มาอยู่ตรงหน้าแล้ว ไทเกอร์เดินวนดมฟุดฟิดรอบตัวเธอ มันลังเล ไม่แน่ใจ เมื่อได้กลิ่นอสูร จางๆ จากตัวแนนนี่ กลิ่นอ่อนมาก แต่ก็เป็นกลิ่นอสูร ไทเกอร์โวยวายเอะอะให้ช่วยจับอสูรทันที ทาฮิร่าตกใจแทบช็อกเมื่อเห็นแนนนี่ เหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายจนแนนนี่ทำอะไรไม่ถูก แต่เมื่อหันไปเห็น ทาฮิร่าก็ใจชื้น สองยายหลานคุยกันทางกระแสจิต ทาฮิร่าแอบร่ายมนตร์ช่วยแนนนี่ให้หนีรอดไปได้อย่างหวุดหวิดเต็มที
คืนนั้นทาฮิร่าตามมาดุและอบรมแนนนี่ในตะเกียงแก้วมากมาย นางชี้ให้เห็นถึงอันตรายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับแนนนี่ถ้ายังดื้อไม่เชื่อนางและแอบไปที่ดินแดนเวทมนตร์อีก และการที่แนนนี่หยิบตำราสำคัญออกมาจากดินแดนเวทมนต์ ถือเป็นความผิดที่ร้ายแรง แนนนี่จึงหยิบตำราเล่มนั้นออกมาคืนทาฮิร่า หญิงสาวยิ้มไม่ออกเมื่อทาฮิร่าบอกว่า ตำราเล่มนี้จะเป็นเหมือนอุปกรณ์ส่งสัญญาณที่ทำให้คนจากดินแดนเวทมนตร์ ตามมาจับตัวเธอได้ ทาฮิร่าจึงสั่งห้ามแนนนี่ไม่ให้ไปที่นั่นอีกเด็ดขาด แนนนี่ยอมสัญญาแต่โดยดี
ข่าวการเดินทางกลับมาของภวัตทำให้แนนนี่ และดารกาตื่นเต้น ทุกคนในครอบครัวไปรับเขาที่สนามบิน ภาพของ หญิงสาวสวยที่เดินคล้องแขน ภวัตมาอย่างสนิทสนม คนอื่นตื่นเต้นดีใจ ตรงข้ามกับพี่น้องสองสาวที่ หมดความสุขทันที แนนนี่ หงุดหงิดเมื่อจำได้ว่าเธอคือบุษบา หน้าสวยๆ บึ้งดุ ตาวาวน่ากลัวอย่างโกรธจัด ส่วนดารกาเจ็บจี๊ดที่หัวใจ เธอรู้สึกเหมือนว่าตัวกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เหมือนมีพลังอะไรบางอย่างที่รุนแรงมาก อยู่ในตัวเอง ดารกาพยายามข่มไว้ อย่างสุดความสามารถ เธอถามภวัตถึงพวงกุญแจแทนใจของเธอ ภวัตตอบว่ายังอยู่ ทำให้ ดารกาใจชื้นขึ้น ส่วนแนนนี่ หงุดหงิด หวง ภวัต หมั่นไส้ทั้งดารกา และ บุษบาที่วุ่นวายกับภวัตเหลือเกิน
สาวน้อยจึงพึมพำร่ายคาถาขโมยพวงกุญแจรูปดารกา ซึ่งเป็นของที่ระลึกแทนใจของพี่สาวมาจาก ภวัต เธอทำหน้าเฉยมองชายหนุ่มที่ค้นกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกงวุ่นวายไปหมด เพื่อหาพวงกุญแจมาให้ดารกาเห็นว่าเขาเก็บไว้อย่างดีจริงๆ ภวัตแปลกใจที่หาไม่เจอ ในเมื่อเขามั่นใจว่าเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกง สุดท้ายเขาต้องบอกดารกาว่า สงสัยเขาจะทำตกหายที่ไหนสักแห่ง เมื่อดารการู้ว่า ภวัตทำพวงกุญแจหาย หญิงสาวกลับเสียใจมากขึ้นไปอีก เธอรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้ง ไม่มีใครสนใจห่วงใยเลยสักคน หน้าจ๋อยๆ ของดารกาทำให้ ภวัต สงสารมาก เขานึกรู้ ว่าคงเป็นฝีมือแนนนี่ แต่ทำอะไรไม่ได้ เขาตั้งใจว่าต้องพูดกับแนนนี่ให้รู้เรื่องเสียที บุษบาแยกกลับไปกับหมอไชย (ตระการ พันธุมเลิศรุจี) พี่ชายซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง บุษบาเองก็มีหุ้นอยู่มากเหมือนกัน สองพี่น้องเป็นผู้บริหารคนสำคัญ ของโรงพยาบาลแห่งนี้ บุษบา สวีท กับ ภวัต อย่างไม่เกรงใจใคร
เมื่อกลับถึงบ้าน แนนนี่กลับไปที่ห้องส่วนตัว หยิบพวงกุญแจรูปดารกา ออกมา โยนไว้บนโต๊ะเล็กหัวเตียง ข้างตะเกียงแก้วใบน้อยอย่างหงุดหงิด เธอหมั่นไส้ทั้งดารกา และ ภวัต ที่ใส่ใจกับพวงกุญแจนี้เหลือเกิน ทั้งที่แสนจะไร้สาระที่สุด ที่สำคัญทำไม ภวัตไม่ยอมเข้าใจเสียทีว่า เขากับแนนนี่นั้นเกิดมาคู่กัน เธอไม่ยอมให้ภวัต เห็นผู้หญิงอื่นดีกว่าเธอแน่ๆ แม่มดจอมแก่นคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนไม่ได้ยินเสียง ดารกาที่เปิดประตูเข้ามาในห้อง
แนนนี่ตกใจเมื่อ เห็นพี่สาวเดินมาถึงตัว ส่วนดารกาเมื่อเห็นพวงกุญแจของเธอ วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียง หญิงสาวหยิบขึ้นมากำไว้แน่น พูดอะไรไม่ออก ได้แต่มองน้องสาวอย่างเสียใจที่สุด น้ำตากลบตา แม้จะสงสัยว่าแนนนี่เอามาได้อย่างไรแต่ก็ยังน้อยกว่าอารมณ์ตัดพ้อ น้อยใจ เสียใจ ส่วนแนนนี่แก้ตัวไม่ออกได้แต่เจ็บใจตัวเองที่ประมาทไม่ซ่อนพวงกุญแจให้เรียบร้อย ดารกากำพวงกุญแจไว้ในมือเดินออกไปจากห้องนั้นทันที เธอพบกับปัทมนที่หน้าห้องน้องสาว เพียงเห็นหน้าดารกา ปัทมนก็รู้ว่าแนนนี่ทำเรื่องอีกแล้ว เธอดึงลูกสาวที่น่าสงสารเข้ามากอด เท่านั้นเองดารกาก็หมดความอดทน เธอกอดมารดาแน่น ร้องไห้จนแทบไม่มีน้ำตาจะไหล ดารกาสะอื้นพลางเล่าทุกอย่างให้มารดาฟังจนหมด
คืนนั้น ปัทมนจึงเรียกแนนนี่มาพบที่ห้องพระ อบรมสั่งสอนอยู่นาน และลงโทษด้วยการให้แนนนี่สวดมนตร์จากหนังสือสวดมนตร์จนจบเล่ม ดังนั้นกว่าแนนนี่จะได้ไปหาภวัตก็ดึกมากแล้ว เธอเสียใจที่ภวัต ต่อว่าเรื่องพวงกุญแจของดารกาทันทีที่พบหน้า เขาไม่เปิดโอกาสให้ แนนนี่พูดอะไรทั้งสิ้น แม่มดสาวน้อยจึงน้อยใจที่สุดเมื่อเข้าใจว่า เขาห่วงใยใส่ใจดารกามากกว่าเธอ แนนนี่มองเขาอย่างเจ็บช้ำใจที่สุด ก่อนจะหายตัวกลับไป ในตะเกียงแก้ว ทิ้งภวัตให้มองตามอย่างเสียใจที่ดุเธอมากไปหน่อย
แนนนี่เงียบหายไปจนภวัตเริ่มกังวล ทว่างอนได้ไม่กี่วัน สาวน้อยจอมแก่นก็ตามมาป่วน เขาอีกจนได้ แนนนี่ไม่เคยโกรธเขาได้เลยจริงๆ
ส่วนภวัตตัดสินใจไปทำงานกับหมอไชย เขามีความสุขกับการทำงาน แต่การที่บุษบาตามวุ่นวายกับเขา ทำให้ภวัตอึดอัดใจ เขายอมรับว่าเคยคิดจะพัฒนาความสัมพันธ์กับเธอให้มากกว่านี้ แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจ เพราะบุษบาไม่สามารถเข้ากับคนในครอบครัวเขาได้เลย ครอบครัวเขาที่หมายรวมถึง ปัทมนกับลูกๆ ด้วย ยิ่งนานวัน บุษบาก็ยิ่งแสดงธาตุแท้ที่ร้ายกาจของเธอออกมา จนรัดเกล้าต้องมาออกปากกับเขา เธอเล่าว่าวันนี้ขณะที่ทุกคนสนุกสนานกับปาร์ตี้น้ำชา รัดเกล้าเห็นบุษบา ทำกิริยาไม่น่าดู ทำท่ารังเกียจดูถูกดารกา ซ้ำร้ายยังพูดตอกย้ำเรื่องดารกาเป็นลูกที่แม่ไม่ต้องการ เป็นลูกสาวแม่ค้าขายปลากลางตลาด แม่ค้าที่โดนข่มขืนจนไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อของลูกในท้อง เมื่อคลอดจึงต้องทิ้งลูกซึ่งก็คือดารกานั่นเอง จนดารกาต้องร้องไห้ แม้กระทั่งแนนนี่ บุษบาก็ไม่ละเว้น รัดเกล้ามาถามภวัตให้แน่ใจว่า คิดจะให้ บุษบามาเป็นพี่สะใภ้เธอหรือไม่ รัดเกล้ายิ้มได้เมื่อ ภวัตปฏิเสธว่าเขาไม่ได้รู้สึกกับ บุษบามากไปกว่าความเป็นเพื่อน
ภวัตไม่ได้บอกน้องสาวว่า คนที่ทำให้เขาเปลี่ยนใจคือแนนนี่ สาวน้อยคนนี้ทำให้เขารักเธอมากขึ้นทุกวัน แต่เขาต้องข่มใจ ไม่บอกให้เธอรู้ เขาจะรอจนกว่าเธอจะเรียนจบ ส่วนบุษบาความรักทำให้ตาบอด เธอรักภวัตมากเหลือเกิน บุษบาเกลียด ทั้งดารกาและแนนนี่ น้องสาวร่วมโลกของเขามาก ทำไมเธอจะดูไม่ออกว่า สองสาวนั่นรู้สึกอย่างไรกับภวัต เธอจะต้องหาทางกำจัดสองคนนั่นให้ได้
วันหนึ่ง บุษบามาที่บ้านภวัต ขณะที่กำลังกินสปาเกตตีเป็น อาหารกลางวันกัน แนนนี่ซึ่งเลิกเรียนกลับมาพอดี เข้ามาขอร่วมโต๊ะด้วย บุษบาไม่พอใจมาก เธอทักทายแนนนี่อย่างอ่อนหวาน หยิกแกมหยอก แต่ เชือดเฉือนร้ายลึก จนแนนนี่ทนไม่ไหว เธอโต้ตอบด้วยการเสกให้...
เส้นสปาเกตตีในปากบุษบาดิ้นกระดุบกระดิบ จนเธอต้องคายออกมา ให้บุษบาตาฝาดเห็น สปาเกตตีเป็นหนอนดิ้นยั้วเยี้ย หลุดออกมาจากปาก เส้นสปาเกตตีในจานกลายเป็นหนอนดิ้นกระดุบกระดิบน่าคลื่นไส้ แนนนี่อมยิ้มเมื่อ บุษบากรีดร้อง โวยวาย วิ่งหนีกลับไปที่รถขับออกไปทันที
เด็กสาวหมดสนุกเมื่อหันมาเห็นภวัตกำลังมองเธอดุๆ วันนั้นภวัตอบรมแนนนี่มากมายและให้เธอสัญญาว่าจะไม่ใช้เวทมนตร์แกล้งใครอีก บุษบาหายไปหลายวัน ทำให้ทุกคนในครอบครัวมีความสุขมากขึ้น โดยเฉพาะแนนนี่
บ่ายวันหนึ่ง ภวัต กับแนนนี่ออกไปซื้อของด้วยกัน ชายหนุ่มซื้อเสื้อผ้าใหม่หลายชุด แนนนี่ช่วยเขาเลือกอย่างตั้งใจ ภวัตยอมรับว่า เธอมีรสนิยมดีและเลือกได้ ถูกใจเขามาก ในขณะที่แนนนี่ชวนภวัต ดูต้นคริสต์มาสต์ต้นใหญ่ที่ประดับไฟระยิบ ตั้งอยู่ที่โถงใหญ่กลางห้างสรรพสินค้าหรูที่ระเบียงชั้นบนสุด เด็กชายคนหนึ่งปีนขอบระเบียงออกมาเพื่อหยิบดาวบนยอดต้นไม้จนพลัดตกลงมา เสียงกรีดร้องดังลั่นจากคนที่พบเห็น ทุกอย่างหยุดนิ่งไปชั่วครู่เมื่อ แนนนี่ร่ายเวทมนตร์ให้เด็กน้อยลอยกลับไปอยู่บนระเบียงลึกเข้าไปอย่างปลอดภัย เมื่อทุกอย่างกลับสู่ปกติ ภวัต เห็นมารดาของเด็กคว้าลูกชายอุ้มไว้อย่างปลอดภัย ก็รู้ว่าเป็นฝีมือแนนนี่ เด็กสาวพึมพำขอโทษที่ผิดสัญญา แต่ ภวัตกลับบอกว่า ใช้เวทมนตร์ช่วยคนอย่างนี้ไม่เป็นไร เขายิ้มให้เธอแล้วจูงมือ แนนนี่ ชวนไปร้านอาหารอร่อยในห้างนั้น
บังเอิญว่า หมอไชยกับบุษบาอยู่ที่นั่นด้วย หมอไชยชวนร่วมโต๊ะด้วย แนนนี่หมดสนุกทันที ส่วนบุษบา ยิ่งเกลียดแนนนี่มากขึ้นไปอีก ภาพที่ภวัตเดินจูงมือ แนนนี่ ทำให้ เธอแค้นจนสุดจะแค้น ขณะที่หมอไชยกับ ภวัต คุยเรื่องงานอย่างสนุกสนาน สองสาวกลับปะทะคารมเชือดเฉือน ว่าใครกันแน่ ที่ “เป็นคนพิเศษ” ของภวัต
แนนนี่หน้ามุ่ยเมื่อ บุษบากระซิบว่า ที่อเมริกา ภวัตไม่ได้เพียงจับมือเธอเหมือนพี่ชายจูงน้องสาวอย่างเมื่อครู่หรอก แต่เขากับเธอทำมากกว่านั้น คือทั้งกอดและก็จูบ อาหารมื้อนั้นไม่อร่อยที่สุด ในความรู้สึกของแนนนี่ โชคดีที่หมอไชยชวนบุษบากลับไปประชุมที่โรงพยาบาล ก่อนที่แนนนี่จะทนข่มใจไม่ไหว สองพี่น้องแยกไปแล้ว ภวัตแปลกใจที่แนนนี่ บ่นอยากกลับบ้าน
คืนนั้น ขณะที่ภวัตนั่งหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต อยู่เพลินๆ แนนนี่ก็ปรากฏตัวขึ้น เธอมาถามเขาเรื่องบุษบา อยากจะรู้ให้ได้ว่า เขาเคยจูบบุษบาหรือไม่ พูดไปพูดมาแนนนี่ก็พาล เธอขอให้เขาจูบเธอบ้าง บอกซื่อๆว่าอยากรู้ว่าเป็นอย่างไร ภวัตพยายามบ่ายเบี่ยง เขาอยากให้ทุกอย่างค่อยเป็นค่อยไปแต่แนนนี่ไม่ยอม สาวน้อยจอมแก่นบอกว่า ถ้าเขาไม่จูบเธอ พรุ่งนี้แนนนี่จะไปที่มหาวิทยาลัย จะไปถามเพื่อนผู้ชาย และจะให้พวกนั้นจูบเธอแทน ซึ่งภวัตยอมไม่ได้เด็ดขาด เขาดึงมือแนนนี่ให้มายืนใกล้ๆ ก่อนจะก้มหน้าจูบเธอเบาๆ ที่ริมฝีปาก สัมผัสนั้นแผ่วเบาราวขนนก แต่ก็ทำให้ เขาและเธอหน้าแดง ร้อนวูบไปทั้งตัว ภวัตไล้แก้มแนนนี่เบาๆ พูดเสียงเข้มห้ามแนนนี่ไปทำอย่างนี้กับผู้ชายอื่นเด็ดขาด แนนนี่รับปากอายๆ แล้วหายตัวไป ภวัตถอนใจยาว เขาต้องพยายามอดทนข่มใจให้มากกว่านี้ ต้องรอจนกว่ายัยจอมแก่นนี่จะเรียนจบ เขาจึงจะบอกเธอได้ว่า เขาพร้อมจะดูแลเธอไปตลอดชีวิต ตลอดเวลานั้น ทั้งภวัตและแนนนี่ไม่รู้ว่า ทาฮิร่ามาแอบดูอยู่ด้วย นางพร้อมจะจัดการภวัตถ้าเขาล่วงเกินแนนนี่มากไปกว่านี้ นางหายตัวตามแนนนี่ไปที่ตะเกียงแก้ว ตามไปอบรม หลานสาวจอมแก่นแสนซน อีกนาน หลังจากวันนั้น บุษบาตัดสินใจเด็ดขาดที่จะกำจัด มารหัวใจ ทั้งดารกาและแนนนี่
วันหนึ่งขณะที่ดารกากำลังจะกลับบ้าน เธอถูกชายลึกลับสามคนจับตัวไปที่บ้านร้างแห่งหนึ่ง บุษบาจ้างชายโฉดพวกนี้ให้ทำร้ายเธอ พวกมันพยายามจะข่มขืนดารกา หญิงสาวดิ้นรนหนีสุดชีวิต ด้วยความกลัว และอารมณ์ เคียดแค้น ที่เก็บกดมานาน ทำให้พลังร้ายในตัวดารกา ปรากฏขึ้นมา เธอกรีดร้องดังลั่นเสียงนั้นทำให้ทุกอย่างสั่นสะเทือนราวกับเกิดแผ่นดินไหว ลมพายุพัดหมุนแรงรอบตัวดารกา ขณะที่หญิงสาวยืนนิ่ง แววตาที่มองออกมา เกรี้ยวกราดราวกับจะลุกเป็นไฟ สาวสวยหน้าหวาน บอบบาง กลายเป็น ปีศาจร้ายน่ากลัว ชายทั้งสามตกใจแทบสิ้นสติ วิ่งหนีลนลานไปคนละทิศละทาง เมื่อทุกอย่างสงบลง ดารกากลับบ้านอย่างอ่อนเพลีย เธอไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ลึกๆ แล้วรู้สึกดีใจที่เธอมีพลังพร้อมที่จะจัดการคนที่ทำร้ายเธอได้แล้ว
เมื่อครั้งแรกทำไม่สำเร็จ บุษบาไม่ละความพยายาม ส่งชายโฉดไปอีกหลายคนมากกว่าเดิมเพื่อทำลายดารกาให้เธอมีมลทินให้ได้ ภวัตจะได้เลิกสนใจดารกาเสียที ในวันเกิดเหตุ ดารกาถูกจับตัวไปอีกครั้ง คราวนี้กลุ่มคนร้าย กักขฬะต่ำทรามมากกว่าเดิม เธอถูกพวกมันจับตัวไว้แน่น เสื้อผ้าโดนกระชากขาดวิ่น บุษบาซึ่งอยู่ที่นั่นด้วยมองอย่างสะใจ เธออยากจะเห็นดารกามารหัวใจของเธอโดนทำลายต่อหน้าต่อตา
เมื่อเหตุการณ์วิกฤต ดารกาดึงพลังในตัวเธอออกมาจนได้ กลุ่มชายชั่วผงะเมื่อ แววตาสาวน้อยเปลี่ยนเป็นประกายตาของปีศาจ แววตาเปล่งประกายเขียวเรืองแสงน่ากลัว ดารกาสะบัดแขนเบาๆ กลุ่มชายโฉดที่จับตัวเธอกระเด็นไปคนละทิศละทาง หญิงสาวโบกมือไปมา กรีดเสียงร้องอย่างดุร้ายน่ากลัว ลมพายุหมุนแรง บ้านร้างถล่มลงทับคนร้ายตายหมด บุษบาหาที่ซ่อนรอดตายหวุดหวิด แต่ก็หนีไม่ทัน ดารกาดักรออยู่แล้ว เมื่อรู้ว่าบุษบาอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ เธอจึงแก้แค้นอย่างสาสม บุษบาจึงตายอย่างทรมาน
เหตุการณ์ทั้งสองครั้งทำให้พลังของดารกามีมากขึ้น เมื่อบุษบาตายอย่างผิดปกติ ภวัตเข้าใจว่าเป็นฝีมือแนนนี่ รวมถึงปัทมนด้วย แนนนี่โดนต่อว่า มากมาย แต่การที่ภวัตหมางเมินเย็นชากับเธอกลับทำให้ แนนนี่เสียใจที่สุด ประกอบกับทาฮิร่าเองก็หายไป แนนนี่ตัดสินใจไปหายายที่ดินแดนเวทมนตร์
แต่คราวนี้ แนนนี่ไม่โชคดีอย่างครั้งที่แล้ว สาวน้อยถูกจับตัวจนได้ เธอถูกพันธนาการแน่นหนา และทำให้ ทาฮิร่าเดือดร้อนไปด้วย แนนนี่พยายามร่ายคาถาหลบหนี แต่บนดินแดนแห่งนี้ คาถาของเธอแทบไม่มีผลอะไรเลย
ทางโลกมนุษย์ ทุกคนร้อนใจที่แนนนี่หายไป โดยเฉพาะ ภวัต ที่เพิ่งรู้แน่แก่ใจว่า เขารักแนนนี่มากแค่ไหน ภวัตเจ็บปวดทรมานเมื่อติดต่อแนนนี่ไม่ได้ เธอหายไปอย่างไร้ร่องรอยจริงๆ ส่วนทาฮิร่าแอบมาบอก ปัทมนว่า แนนนี่ถูกจับตัวไว้ที่ดินแดนเวทมนตร์ และถูกตัดสินให้ถูกกำจัดเพราะเป็นอสูร ปัทมนใจจะขาดเธอได้แต่บอกทาฮิร่าว่า แนนนี่ไม่ใช่อสูรอย่างแน่นอน การหายตัวไปของแนนนี่ทำให้ ดารกามีความสุข เธอฉวยโอกาสเข้าไปในห้องน้องสาว หยิบตะเกียงแก้วใบสวยขึ้นมาชื่นชมอย่างพอใจ เพียงคิดว่าอยากเข้าไปในตะเกียงแก้ว ดารกาก็ได้เข้าไปสมใจ บรรยากาศในนั้นสวยงามน่าอยู่มาก ของส่วนตัวของแนนนี่ที่วางไว้ทำให้ดารการู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของแนนนี่ในเวลาเดียวกัน
ทาฮิร่ากับแนนนี่ พยายามหาทางหนีให้ได้ สองพลังแม่มดทำให้เครื่องพันธนาการของแนนนี่หลุดออก แม่มดน้อยหนีกลับมาโลกมนุษย์ ได้อย่างหวุดหวิด เด็กสาวกลับไปที่ห้องนอน สัมผัสพิเศษทำให้รู้ว่า ดารกาอยู่ในตะเกียงแก้ว แนนนี่หยิบตะเกียงเขย่าอย่างแรง จนดารกาอยู่ไม่ได้ ต้องปรากฏตัวออก ต่างฝ่ายยืนเผชิญหน้ากันด้วยตัวตนที่แท้จริง แววตาดารกาเปล่งประกายเขียวเรือง เธอได้โอกาสกำจัดแนนนี่แล้ว เมื่อไม่มีแนนนี่ ภวัตก็จะรักเธอคนเดียว สองสาวต่อสู้กันดุเดือด แนนนี่เป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำเพราะร่างกายอ่อนเพลียจากดินแดนเวทมนตร์ ดารกาบังคับให้ร่างแนนนี่ลอยขึ้น ออกไปทางหน้าต่าง เธอพูดอย่างสะใจว่า แนนนี่ต้องตายอย่างน่าอนาถเหมือนบุษบา ตายเหมือนเป็นอุบัติเหตุ แต่ที่จริงแล้วเป็นเพราะดารกา
แนนนี่พยายามขืนตัวไว้ แต่ก็ยากเต็มที ดารกาฆ่าคนตายไปหลายคนทำให้พลังอสูรในตัวเธอแข็งแกร่งมากขึ้น ก่อนที่แนนนี่จะตกลงไปทางหน้าต่าง ภวัตเข้ามาช่วยไว้ทันเวลา เขาดึงแนนนี่กลับเข้ามาจนได้ ชายหนุ่มกอดเธอไว้อย่างแสนรัก ภาพนั้นทำให้ดารกาแค้นมากขึ้นไปอีก เธอพยายามจะทำร้ายแนนนี่ให้ได้ แต่ภวัตหมุนตัวออกมาบังแนนนี่ไว้ เขาสบตาเขียวเรืองคลั่งแค้นของดารกาอย่างไม่เกรงกลัว พูดชัดเจนว่า ถ้าดารกาจะฆ่าแนนนี่ ก็ต้องฆ่าเขาก่อน เพราะเขาจะไม่ยอมให้ใครทำร้ายแนนนี่เด็ดขาด ดารกากรีดเสียงร้องอย่างโกรธแค้น บ้าคลั่ง เธอหายตัวไปที่ดินแดนเวทมนตร์ทันที อสูรร้ายในร่างดารกาทำลายดินแดนเวทมนต์อย่างบ้าคลั่ง การปรากฏตัวของเธอทำให้ ผู้นำแม่มด และคนอื่นๆ รู้ว่าใครคืออสูรร้ายตัวจริง ส่วนแนนนี่รีบตามดารกามาเพื่อขัดขวางเธอ โดยมีภวัตตามมาด้วย
แนนนี่ สู้กับดารกาอย่างไม่กลัว ทั้งคู่เก่งพอๆกัน ดินแดนเวทมนตร์โดนดารกาทำลายเสียหายมาก แผ่นดินแตกแยกเป็นรอยลึกอย่างน่ากลัว ทาฮิร่าได้แต่เฝ้ามองอย่างเป็นห่วง ผู้นำแม่มดเข้ามาบอกว่า ที่จริงแล้ว แนนนี่เกิดมาเพื่อกำจัดอสูรร้าย แต่เป็นเพราะเกิดในวันเดียวกัน เวลาเดียวกัน ทำให้เข้าใจผิด แนนนี่จะกำจัดดารกาได้แต่ก็ต้องตายไปพร้อมกัน ทาฮิร่ากับภวัตใจหาย หาทางช่วยแนนนี่แต่ก็ยากเต็มที เมื่อถึงเวลาที่ชะตากำหนด แนนนี่รู้หน้าที่ว่าจะกำจัดอสูรร้ายตนนี้อย่างไร แม่มดน้อยแนนนี่ส่งกระแสจิตบอกทาฮิร่าว่า เธอรักนางมาก และสำหรับภวัต เธอรักเขาและจะรักเขาคนเดียวตลอดไป แนนนี่กระซิบลาทุกคน ก่อนจะคว้าแขนดารกา จับไว้แน่น พูดเสียงเข้มให้มาด้วยกัน เธอดึงร่างดารกา หายลงไปในรอยแยกของแผ่นดินด้วยกัน
แนนนี่จะฝังร่างเธอกับดารกาลงใต้พื้นปฐพี ลงไปให้ลึกที่สุด ร่างของสองสาวดิ่งลงไปอย่างรวดเร็ว ยิ่งลงลึก ดารกาก็ยิ่งหมดแรง รวมถึงแนนนี่ด้วย ในช่วงเวลาเดียวกัน ปัทมนที่นั่งสวดมนตร์อยู่ในห้องพระ เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างจากสมาธิ เธอพยายามเตือนสติดารกาให้หยุดทำบาป ในช่วงเวลาเดียวกันเสียงสวดมนตร์ของปัทมน ทำให้สองสาวชะงัก แนนนี่กระซิบลาปัทมนก่อนจะลากดารกาดิ่งลงไปอีก อสูรร้ายดารกาต้องถูกกำจัด ตรงข้ามกับดารกาที่กระแสบุญของปัทมนทำให้ เธอรู้สึกตัวได้สำนึกในความผิด ดารการวบรวมพลังครั้งสุดท้ายสะบัดแขนหลุดจากแนนนี่ เธอผลักน้องสาวจนสุดกำลังให้ลอยกลับขึ้นไปร่างของสองสาวแยกจากกัน แนนนี่ลอยสูงขึ้น ส่วนดารกากลับดิ่งลึกลงอย่างรวดเร็ว เธอตะโกนบอกแนนนี่ให้ช่วยดูแลทุกคนโดยเฉพาะ ปัทมน และภวัต
ทันทีที่ร่างแนนนี่ลอยพ้นรอยแยกของแผ่นดิน ผู้นำแม่มดและคนอื่นๆ ช่วยกันร่ายมนตร์จนผืนแผ่นดินกลับสมานกันสนิทเป็นดินผืนเดียวกันเหมือนเดิม อสูรร้ายดารกาถูกฝังจนไม่มีทางจะกลับมาทำร้ายใครได้อีก ต่อไป ทาฮิร่ากลายเป็นแม่มดคนดัง เป็นวีรสตรีแม่มดที่ปกป้องเลี้ยงดูผู้กำจัดอสูร ซึ่งก็คือ แนนนี่จนโต เพราะถ้า ทาฮิร่ากำจัดทารกน้อยแนนนี่ตั้งแต่พบตัว ดินแดนเวทมนตร์ต้องถูกทำลายจนหมดแน่นอน แนนนี่กับภวัตกลับมาใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์เหมือนเดิม เมื่อใครถามหาดารกาว่าหายไปไหน ปัทมนจำต้องบอกทุกคนว่า ดารกาไปเรียนต่อต่างประเทศ เมื่อรัดเกล้าเรียนจบมาทำงานที่บริษัทของปัทมน ซึ่งธานี (กฤษณกันท์ มณีผกาพันธ์) เข้ามาช่วยบริหารงาน รัดเกล้ากับธานีเป็นคู่กัด ที่น่ารัก ในสายตาของปัทมนและจักรวาล และคู่กัดก็กลายมาเป็นคู่รักจนได้ ธานีหมั้นกับรัดเกล้า ส่วนภวัต รอเวลาที่แนนนี่จะเรียนจบ แล้วจะหมั้นกับเธอเป็นคู่ต่อไป
ทาฮิร่าได้แต่ปลื้มใจที่หลานสาวจะมีความสุข ภวัตกับแนนนี่เกิดมาคู่กันจริงๆ เมื่อหมดกังวลในเรื่อง แนนนี่ ทาฮิร่าจึงออกไปเที่ยวรอบจักรวาล โดยมี บาบาร่าและไทเกอร์ตามไปด้วย
จบบริบูรณ์
ใครเป็นใคร ใน “อสูรน้อยในตะเกียงแก้ว”
1.ชนะพลสัตยา แสดงเป็นภวัต
2.พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ แสดงเป็นแนนนี่
3.อัญรินทร์ธีราธนันพัฒน์ แสดงเป็นดารกา
4.ธันย์ชนกฤทธินาคา แสดงเป็นรัดเกล้า
5.กฤษณกันท์ มณีผกาพันธ์แสดงเป็น ธานี
6.ธันวา สุริยจักร แสดงเป็น ปีเตอร์
7.ดวงดาวจารุจินดาแสดงเป็นแม่มดทาฮิร่า
8.สุปรีย์ฎาคำนวนศิลป์แสดงเป็นแม่มดบาบาร่า
9.ปนัดดาโกมารทัตแสดงเป็นผู้นำแม่มด
10.มยุริญ ผ่องผุดพันธ์แสดงเป็นปัทมน
11.ปรินทร์วิกรานต์แสดงเป็นดร.จักรวาล
12.ตระการพันธุมเลิศรุจีแสดงเป็นหมอไชย
13.ณิชานันท์ ฝั้นแก้วแสดงเป็นบุษบา
14.ปีเตอร์ หลุยส์ ไมอ๊อคชิ แสดงเป็นสดับ
15.ประถมาภรณ์รัตนภักดีแสดงเป็นมาลี
16.จารุศิริคชหิรัญแสดงเป็นผาด
17.น้ำทิพย์เสียมทอง แสดงเป็นดวง
18.ดีใจดีดีดีแสดงเป็นดร.อิงอร
19.ต๋องชวนชื่นแสดงเป็นนายโป่ง
ติดตามชมละครเรื่อง "อสูรน้อยในตะเกียงแก้ว" เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 สี เร็วๆ นี้ (รอคอนเฟิร์ม วันออกอากาศอีกครั้ง)
*ติดตามอ่านเรื่องราว "อสูรน้อยในตะเกียงแก้ว" อย่างเต็มอิ่ม ละเอียดทุกบทสนทนา ทุกลมหายใจของตัวละคร สมบูรณ์ที่สุด และตรงตามบทโทรทัศน์ช่อง 7 สี ตั้งแต่ต้นจนอวสาน โดยไม่มีการตัดทอน ทุกวันทาง "ละครออนไลน์" เร็วๆ นี้