นางฟ้ากับมาเฟีย ตอนที่ 22 อวสาน
ธิดาเดินออกจากห้องน้ำ แล้วชะงัก เจอภาคภูมิยืนอยู่ในห้อง
“คุณเข้ามาทำไม”
ภาคภูมิไม่ตอบ แต่เข้ามายกตู้เลี้ยงงูออกไป ธิดาเดินตาม เห็นภาคภูมิเอาพวกอาหารสัตว์ใส่ลงไป
ธิดาสงสัย
“คุณจะเอาไปไหนน่ะ”
“บริจาค” ภาคภูมิพูดห้วน
ธิดาเอื้อมมือไปจับแขนภาคภูมิไว้ เขามองที่มือด้วยสายตาเย็นชา ธิดาชักมือออกแทบไม่ทัน
“อย่าเพิ่งเอาไปบริจาคเลย ฉันกำลังจะซื้อลูกๆ ใหม่ให้คุณแล้ว”
“ไม่ต้อง”
ภาคภูมิเดินหนีไป ธิดาไม่สบายใจ พยายามปลอบใจตัวเอง
“เชอะ ทำเก๊ก นึกว่าฉันอยากง้อคุณนักหรือไง”
แต่พอเห็นตรงที่เคยวางตู้โล่งๆ แล้วไม่สบายใจ ธิดาพยายามพูดเข้าข้างตัวเอง
“ไม่ ฉันทำถูกแล้ว สัตว์ก็ต้องไปอยู่ในสวนสัตว์สิ จะมาอยู่ในบ้านคนได้ยังไง ฉันทำถูกแล้วๆๆๆ”
ธิดาพยายามสะกดจิตตัวเอง แต่ก็ทนไม่ได้ หยิบรูปภาคภูมิมาพูดด้วย
“โอ๊ย..ตาบ้าเอ๊ย ทำไมต้องทำให้ฉันรู้สึกผิดด้วยแบบนี้นะ”
ธิดาครุ่นคิดว่าจะทำยังไงดี
ธิดามาหาภาคภูมิที่ปปส. แต่งตัวสวยเช้ง ในมือถือถุงใส่กล่องอาหาร เมื่อมาถึงหน้าห้อง เธอหยุดยืน สูดลมหายใจลึกๆ ก่อนกลั้นใจเคาะประตู แต่ไม่มีเสียงตอบ ธิดาผลักประตูออก
“ผู้ก...”ธิดาอึ้ง
ธิดาเห็นภาคภูมิกอดผู้หญิงวัยรุ่น หน้าตาลูกครึ่งกำลังหอมหน้าผากกันอยู่ ธิดาหึงโดยไม่รู้ตัวปากล่องอาหารใส่ภาคภูมิ ข้าวกล่องปะทะอกภาคภูมิ หก เสื้อเปื้อน
ภาคภูมิกับสาวสวยสะดุ้ง ขยับออกห่างจากกัน
“เฮ้ย อะไรกันคุณ”
ธิดาไม่ตอบสะบัดหน้าไป ภาคภูมิงง มองไป เห็นกล่องข้าวหก ไม่เข้าใจ ตามธิดาไป ปล่อยให้ทิ้งแซนดี้น้องสาวของเขายืนงง
ธิดาเดินโมโหออกมา ภาคภูมิตามคว้าแขนธิดาไว้
“ปล่อยฉันนะ” ธิดาสะบัดออกแต่ไม่หลุด
ภาคภูมิไม่ปล่อย
“ไม่ จนกว่าคุณจะบอกเหตุผล ที่ทำตัวเสียมารยาทอย่างนี้”
“ฉันทำอะไร ก็แค่เอาข้าวเที่ยงมาส่งเพราะเห็นคุณอารมณ์เสียเรื่องที่บ้าน แต่คิดว่าคุณคงอยากกินกับแฟนมากกว่าข้าวกล่องของฉัน”
แซนดี้ที่ตามออกมารีบบอก
“เดี๋ยวค่ะพี่ แซนดี้เป็นน้องสาว ไม่ใช่แฟนพี่ภาคหรอกค่ะ”
ธิดาอึ้ง
“น้องสาว”
“ค่ะ แซนดี้เป็นน้องสาวแท้ๆ ของพี่ภาค”
ธิดาหน้าแตก แต่รักษาฟอร์ม
“แล้วทำไมคุณไม่บอกฉันล่ะ ว่ามีน้องสาวด้วย”
“ก็คุณไม่ได้ถาม”
“แต่พวกคุณไม่เห็นเหมือนกันเลย”
“แซนดี้กับผมเป็นลูกคนละแม่ มีอะไรสงสัยอีกไหม”
ธิดาค้อนภาคภูมิ ยิ้มเจื่อนหันไปพูดกับแซนดี้
“พี่ขอโทษด้วยนะคะ งั้นพี่ไม่กวนน้องกับผู้กองแล้วล่ะ”
ธิดารีบเดินหนีไป ภาคภูมิมองแปลกใจ
“เป็นอะไรของเขานะ นับวันยิ่งแปลกขึ้นทุกที”
แซนดี้หัวเราะคิก
“ไม่เห็นจะแปลกเลย เขาก็แค่หึงพี่ภาคเท่านั้น”
ภาคภูมิอึ้ง ก่อนรีบปฏิเสธ
“หึง! เป็นไปไม่ได้หรอก พี่กับเขาเพิ่งเจอกันไม่กี่วันนี้เอง แล้วเขาจะมาหึงพี่ได้ยังไง”
“เวลาไม่มีความหมายหรอกนะคะ ถ้าหัวใจคลิกตรงกัน”
ภาคภูมิเริ่มหวั่นไหว เมื่อรู้ว่าธิดาหึงเขา
เมขลาเช็ดกระจกอยู่ภายในบ้าน รามผ่านมา หยุดชะงักมอง สบตากัน คิดถึงความหลัง เมขลาเป็นฝ่ายทนไม่ได้ก่อนหันหลังหนี
รามจับทัน กดเมขลาไว้กับผนังบ้าน
“กี้เรายังคุยกันไม่จบเลยนะ”
“แต่ฉันคุยจบแล้ว”
รามจ้องหน้าเมขลา
“บอกผมมาสิเม ว่าคุณหนีผมมาทำไม ทำแบบนี้มันอันตรายมาก รู้มั้ยว่าผมเป็นห่วงคุณแค่ไหน” รามแนบหน้าผากกับหน้าผากเมขลา “พอคิดว่าถ้าไอ้เหลียงมันตามหาคุณเจอแล้วเล่นงานคุณเข้า ผมก็แทบคลั่งแล้ว กลับไปกับผมเถอะ...นะเม...ไปกับผม ทุกคนเป็นห่วงคุณมากรู้ไหม ทั้งคุณแม่ ทั้งโรส น้าละมุน คุณไม่คิดถึงพวกเขาหรือ”
“พี่เม พี่เมคะ...” เสียงหมวยดังขึ้น
ทั้งคู่ชะงัก เมขลารีบผลักรามออก
“คะน้องหมวย”เมขลารีบไป
รามเซ็ง เดินไปนั่งอีกมุม เทวัญเข้ามา ได้ยินทั้งหมดที่คุยกัน
“ฉันบอกนายแล้วไง ว่าให้รอจนถึงคืนนี้”
“ผมรอไม่ไหวหรอก ความรู้สึกมันอัดแน่นอยู่ในนี้ คุณรู้ไหม” รามจิ้มที่อกตัวเอง
“รู้สิ ฉันก็เคยเป็นอย่างนายมาก่อน”
เสียงของตกดังเพล้ง รามกับเทวัญชะงัก มองไปไม่เห็นใคร แต่ไม่สบายใจ
“ไปหาที่เงียบๆ คุยกันเถอะ”
รามพยักหน้า สองคนพากันเดินออกไป ด้านหลังทั้งสอง เจ๊ง้อค่อยๆแง้มประตูออกมา
“ทำไมพวกอีต้องทำลับๆ ล่อๆ ด้วยหรือว่าพวกอีจะเป็น...”
เจ๊ง้อคิดๆก่อนตาเหลือก ทนไม่ได้ รีบสะกดรอยตามสองหนุ่มไปห่างๆ
รามกับเทวัญ แกล้งทำเป็นทำงานไปคุยกันไป
“ผมกับหมวย ไม่ได้เป็นอะไรกัน ผมแค่ช่วยเขาบางเรื่อง แลกกับการที่เขาต้องช่วยผมบางอย่าง” รามเล่า
“เขาช่วยอะไรนาย”
“ให้ผมเข้ามาอยู่ที่นี่ดูแลพวกคุณ แต่ผมคงเข้าใจผิดไปเองเพราะดูเหมือนคุณก็ดูแลเมได้”
เทวัญกลั้นใจสบตาราม
“แต่คงไม่ดีเท่านาย เพราะฉันไม่มีวันปกป้องคุณเม จากเงื้อมือของเหลียงได้เหมือนนาย พวกเราถึงได้ต้องหลบอยู่ที่นี่ และโกหกใครๆไปแบบนั้น”
รามโล่ง ที่เทวัญสารภาพออกมา
“คุณจะบอกว่าพวกคุณไม่ได้เป็นอะไรกัน”
เทวัญพยักหน้า
“แล้วทีนี้นายจะทำยังไงต่อ”
“รีบไปจากที่นี่ ผมไม่อยากเสียเวลามากไปกว่านี้อีกแล้ว”
“แล้วถ้าคุณเมไม่ยอม”
“คุณก็ต้องช่วยผม หลอกเมยังไงก็ได้ ให้พวกเราได้ไปจากที่นี่”
เจ๊ง้อตกใจ
“ไอหยา ซี้เลี้ยวอ่า..นี่พวกอีถึงขั้นชวนกันหนีตามเลยเหรอ ไม่ๆ เป็นไปไม่ได้ พวกอีคงไม่ได้เป็นแบบนั้นหรอก อั๊วต้องหูฝาดแน่ๆ”
เจ๊ง้อจะเดินเข้าไปใกล้ฟังให้ชัดๆอีก เทวัญคิดๆ รามเห็นหัวเจ๊ง้อผลุบๆ โผล่ๆอยู่จึงชะเง้อมอง กลัวเป็นพวกเหลียง เห็นไม่ถนัด ปีนบันไดขึ้นไปมอง แต่แล้วเสียหลัก เซ จะตกจากบันได
“โอ๊ะ”
เจ๊ง้อเบิกตาโต เห็น เทวัญรีบเข้าไปช่วยรับรามไม่ให้ร่วงลงบันได แต่ภาพเหมือนกอดกัน
“เป็นอะไรหรือเปล่า”
รามส่ายหน้า
เจ๊ง้อปิดตาทนดูไม่ได้
“อ๊าย...ฟ้าผ่าแน่เลี้ยว” เจ๊ง้อวิ่งหนีไป
เทวัญกับรามได้ยินเสียงเจ๊ง้อแว่วๆ งงๆ มองหน้ากัน ว่าอะไร ฟ้าผ่าทำไม แล้วลุกขึ้นต่างคนต่างทำงานต่อ
ในบ้าน...หมวยนั่งอ่านนิตยสารอยู่ เมขลาทำงานบ้านใกล้ๆ เจ๊ง้อเดินเข้ามาแล้วชะงัก อย่างกล้าๆ กลัวๆ
เมกับหมวยรู้สึกว่าเจ๊ง้อแปลกๆ เลยแอบสบตากัน เจ๊ง้อเห็นพอดี ตัดสินใจโพล่งออกไป
“อั๊วว่า ลื้อสองคนรีบไปเลิกกับผัว เอ่อ แฟนของพวกลื้อเถอะ”
เมขลานิ่วหน้า
“ฉันพอเข้าใจว่าเจ๊อยากให้น้องหมวยเลิกกับคุณร..เอ่อแฟนเพราะจะได้ไปแต่งงานกับผู้ชายที่เจ๊หาให้ แต่ฉันไปเกี่ยวอะไรด้วย”
เจ๊ง้อหงุดหงิด
“ไม่เกี่ยวได้ไง ในเมื่อพวกอีเป็นเกย์”
เมขลางง หมวยอึ้ง แต่แกล้งทำไม่สนใจ
“ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ม๊าไม่รู้เหรอ ผู้หญิงเดี๋ยวนี้แต่งงานกับเกย์กันเยอะแยะ”
“ไอหยา นี่ลื้อล้อเล่นใช่มั้ย”
“แต่ฉันว่าก็ดีนะ ยุ่งกับผู้ชายด้วยกัน ก็ดีกว่าไปหาผู้หญิงอื่น”
“เออ จริงของลื้อ ดีกว่าไปหาผู้หญิง” เจ๊ง้อนึกได้ “อ๊ากส์...ไอ๊หยา นี่พวกลื้อรู้ตัวไหมว่าพูดอะไรออกมา”
เจ๊ง้อชี้หน้าเมขลา
“ต้องเป็นเพราะลื้อแน่ๆ ที่ทำให้อาหมวยคิดอะไรบ้าๆ บอๆ แบบนี้ ไม่ได้ อั๊วไม่ยอม”
เจ๊ง้อไป เมขลางง รีบตาม
“เจ๊...เดี๋ยวสิเจ๊ นั่นเจ๊จะทำอะไรน่ะ”
เจ๊ง้อขนของเมขลามาโยนทิ้งนอกห้อง ก่อนหันมาประกาศใส่หน้า
“พวกลื้อสองคนผัวเมียโดนไล่ออกแล้ว”
เมขลาอึ้งพูดไม่ออก
“เพราะขืนอั๊วให้พวกลื้ออยู่ต่อ อาหมวยต้องเสียคนแน่ๆ”
“เจ๊ทำแบบนี้ไม่ได้นะ จู่ๆ จะมาไล่พวกฉันออกด้วยเรื่องส่วนตัวได้ยังไง”
“ทำไมจะไม่ได้ ในเมื่ออั๊วเป็นนายจ้างส่วนพวกลื้อเป็นแค่ลูกจ้าง”
เจ๊ง้อเดินรุกเข้าหา จนเมหลังชนฝา เมขลาคิดหาทางออก
“ลูกจ้าง...นายจ้างงั้นเหรอ...ได้ ถ้าเจ๊ไล่พวกฉันออก ฉันจะไปฟ้องกรมแรงงาน ให้เจ๊จ่ายเงินเดือนล่วงหน้าให้พวกฉันเดือนนึง”
เจ๊ง้อรีบคิดเลข
“เดือนหนึ่ง ไอ๊หยา ก็ตั้งสามพันสิ ไม่ อั๊วไม่ยอมจ่ายเงินตั้งสามพันให้พวกลื้อฟรีๆ หรอก อย่ามาขู่อั๊วนะ”
“ฉันไม่ได้ขู่ เจ๊ไม่เชื่อก็ไล่พวกฉันเลยสิ พวกฉันกำลังอยากได้เงินก้อนใหญ่พอดี” เมขลารุกเจ๊ง้อบ้าง “เอาเลยสิเจ๊ ไล่เลย ไล่สิ”
เจ๊ง้อส่ายหน้า ถอยหนี
“ไม่...ไม่ อั๊วไม่ไล่พวกลื้อออกแล้วก็ได้ ไม่แล้ว ไม่เอาแล้ว”
เจ๊ง้อรีบไป แล้วนึกได้ มองไปที่หน้าต่างห้องนอนหมวย
หมวยนั่งซึม เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น หมวยไม่เปิด ไม่หันไปมอง เมขลาตัดสินใจเข้ามา
“เป็นอะไร กลัวว่าแฟนหมวยจะเป็นเกย์หรือ เขาไม่ได้เป็นเกย์หรอกเชื่อพี่สิ”
หมวยนิ่วหน้า
“พี่รู้ได้ยังไง ในเมื่อพี่ก็เพิ่งเจอเขาเหมือนๆกับหมว....”
หมวยหยุดพูด เมขลาแปลกใจ
“นี่หมวยล้อเล่นหรือเปล่า”
หมวยไม่ยอมพูด ไม่กล้าสู้หน้า
“ก็ไหนหมวยบอกพวกเราว่า เขาเป็นแฟนหมวยไง ว่าไงล่ะหมวย”
เมขลาเขย่าแขนหมวยอยากรู้ หมวยถอนใจ
“หมวยโกหกม๊าน่ะค่ะ หมวยคิดว่าถ้าหมวยมีแฟน ม๊าก็จะเลิกยุ่งกับหมวยเสียที แต่พี่อย่าบอกม๊านะ”
เมพยักหน้า ก่อนครุ่นคิดๆ
เมขลานึกในใจ...
‘พี่ลืมไปได้ยังไงนะ ว่าคุณรามเขาเล่นละครเก่งแค่ไหน’
เมขลานึกได้ รีบถาม
“จริงสิ แล้วทำไม เขาถึงได้ยอมช่วยหมวยโกหกล่ะ”
หมวยนึกถึงวันที่เธอตกลงกับราม...เขาบอกเธอว่าที่ช่วยเธอ เพราะอยากเข้ามาในบ้านนี้ เพื่อคุ้มครองคนที่เขารัก เมขลาฟังแล้วอึ้ง
เมื่อกลับออกมาจากห้องหมวย เธอคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา นึกถึงวันที่รามตกเขา แล้วเธอคิดว่าเขาตายไปต่อหน้าต่อตา แล้วตัดสินใจทันที...
“ไม่...ฉันจะไม่มีวันยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก...ฉันไม่มีวันทนเห็นคุณตายไปจากฉันได้อีกแล้ว”
เมขลาทำอาหารเที่ยงไปให้เทวัญขณะที่เขาทำงานอยู่ เมื่อเทวัญเปิดกล่องออกมาพบว่าอาหารถูกจัดอย่างน่ารัก
“กินสิคะคุณเทวัญ วันนี้ฉันอุตส่าห์ตั้งใจทำตั้งนานเลยนะ”
รามที่นั่งไม่ไกลนัก มองอาหารของตนเอง มีเพียงไข่ดาวแห้งๆ รามชะโงกดูกล่องอาหารของเทวัญแล้วตาลุก เทวัญเจื่อนๆ ไม่รู้จะทำยังไง
“เฮ้ย..ทำไมอาหารสองกล่อง ถึงได้ต่างกันอย่างนี้ล่ะคุณ”
รามถามอย่างหมั่นไส้
“ก็คุณเทวัญเป็นแฟนฉัน ฉันก็ต้องเอาใจใส่เขามากหน่อย ไม่เห็นจะเข้าใจยากที่ตรงไหนเลย” เขลาแกล้งหันไปถามเทวัญ “คุณมือเจ็บหรือถึงได้ไม่ยอมกินเลย มาฉันป้อนให้นะคะ”
เมขลาจ่อช้อนที่ปากเทวัญ รามคว้ามือเมขลาไว้ไม่ให้ป้อน
“ป้อนคนผิดหรือ เปล่าสามีคุณนั่งอยู่ตรงนี้นะ”
“จะต้องให้บอกอีกสักกี่ครั้งว่าเรื่องของเราจบลงแล้ว และตอนนี้ฉันเป็นภรรยาคุณเทวัญไม่ใช่ภรรยาของคุณ”
รามบีบมือเมขลาแน่น
“แสดงว่าคุณมีชู้ เพราะคุณไม่ได้หย่ากับผม”
“ฉันไม่แคร์”
“พูดใหม่อีกทีสิ”
สองคนมองหน้ากัน เมขลาสะบัดมือแล้วเดินหนี รามจะตาม แต่เทวัญห้ามไว้
“ผมคุยกับเธอเอง”
เทวัญเดินตามเมขลาไป
“เม คุณคงไม่รู้ว่า ผมบอกรามไปหมดแล้ว ว่าเราไม่มีอะไรกัน”
เมขลาอึ้ง มองเทวัญผิดหวัง
“คุณทำแบบนั้นได้ยังไง ทำไมไม่ถามฉันสักคำ”
“เพราะผมเป็นผู้ชาย ผมเข้าใจดีว่ารามรู้สึกอย่างไง”
“ในที่สุดคุณก็เข้าข้างเขา”
เทวัญจับมือเมขลา
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะคุณเม แต่รามเขารักคุณมาก ที่เขาโกหกว่าเป็นแฟนหมวย และยอมให้เจ๊ง้อโขกสับก็เพราะเป็นห่วง อยากปกป้องคุณ แล้วทำไมคุณต้องทำร้ายเขาด้วย”
เมขลาฝืนใจโกหกตัวเอง
“เพราะฉันไม่ได้รักเขาแล้ว นี่เป็นทางเดียว ที่จะทำให้เขาเลิกตอแยกับฉัน”
เมขลาเดินหนีไป เทวัญมองตามอย่างกลุ้มๆ
ที่คอนโดภาคภูมิ...ผัก เนื้อสัตว์ถูกหั่นเรียงไว้อย่างประณีต ธิดามั่นใจมาก จะผัดผัก เธอตั้งกระทะรอจนควันขึ้น น้ำมันร้อน แล้วเทของที่หั่นไว้ลงไป ไฟลุกท่วมกระทะ
“กรี๊ด”
ภาคภูมิที่เพิ่งกลับมาได้ยินเสียงตกใจ วิ่งพรวดเข้าไป
“เป็นอะไรคุณ”
ธิดาผวาเข้ากอดภาคภูมิแน่น ภาคภูมิตัวแข็ง ก่อนนึกได้มองไป เห็นไฟลุกท่วมกระทะน่ากลัว จึงหันมองหาอะไรมาดับไฟ เจอแก้วน้ำ จึงเทพรวดลงไป ควันคลุ้ง ทั้งคู่พากันไอ
“นี่คุณทำอะไรของคุณฮึ จะวางเพลิงห้องผมหรือไง”
ธิดาทุบภาคภูมิแรงๆ
“บ้าสิ ฉันจะทำแบบนั้นทำไม ฉันแค่..แค่อยากขอโทษที่ทำไม่ดีกับคุณต่อหน้าน้องสาว แล้วก็เรื่องงูพวกนั้นอีก”
ภาคภูมิยิ้มออก
“คุณเลยอยากทำกับข้าวไถ่บาป”
ธิดาพยักหน้า
“แล้วคุณเคยทำหรือเปล่า”
ธิดาส่ายหน้า ภาคภูมิหายโกรธดึงธิดาไป
“ตามมานี่”
ธิดาตัวปลิว
“นี่คุณจะลากฉันไปไหนเนี่ย”
ภาคภูมิพาธิดามาที่แผงขนมจีนในตลาดนั้น ธิดาอึ้งยืนมองที่นั่งม้านั่งยาวรวมกัน กลางโต๊ะมีผักสดใส่ตะกร้าไว้
“นี่คุณลากฉันมากินขนมจีนเนี่ยนะ”
ภาคภูมิพยักหน้าให้ธิดานั่ง
“คุณอยากกินอะไรก็บอกมา เดี๋ยวผมสั่งให้”
ธิดาอึ้งนั่งแบบกระมิดกระเมี้ยน
“ฉันว่า...เปลี่ยนร้านไม่ดีหรือ”
“เปลี่ยนทำไม ร้านนี้เด็ดที่สุดในเขตนี้แล้วคุณรู้มั้ย ราคาก็ไม่แพงแถมพี่เจ้าของร้านเคยเป็นลูกมือแม่ของผมมาก่อน”
“แล้วตอนนี้คุณแม่ของคุณท่านอยู่ที่ไหน”
ภาคภูมิเศร้านิดหน่อยคิดถึงแม่
“แม่เสียไปนานแล้ว พอแม่ตาย พ่อก็ไปแต่งงานใหม่กับแม่ของแซนดี้อย่างที่คุณเห็นนั่นแหละ” ภาคภูมิรีบเปลี่ยนเรื่อง “อ่ะ คุณจะกินอะไร ขนมจีนน้ำพริก น้ำยา หรือแกงไก่”
“ฉันไม่ค่อยได้กินขนมจีนสักเท่าไหร่ คุณสั่งให้ฉันก็แล้วกัน”
“งั้นกินขนมจีนน้ำยา กับไข่ต้มยางมะตูมก็แล้วกัน”
ภาคภูมิสั่งให้ ไม่นานนักจานขนมจีนกับไข่ต้มยางมะตูมเยิ้มๆน่ากินมาวางตรงหน้า แต่ธิดาลังเล ภาคภูมิเห็นพอดี
“นี่ไม่เคยกินจริงๆ หรือ”
ธิดาพยักหน้า
“เกิดเป็นคนไทยได้ไงเนี่ย ไม่เคยกินขนมจีนน้ำยากับไข่ต้มยางมะตูม”
ภาคภูมิบ่น แต่หันไปคีบผักสด ผักดองใส่จานให้
“ผมจะสอนให้ เคล็ดลับของการกินขนมจีนตลาดนัดก็คือ..”
ธิดาจับมือภาคภูมิไว้
“เดี๋ยวๆ กินขนมจีนยังต้องมีเคล็ดลับอีกเหรอ”
“มีสิคุณ” ภาคภูมิกระซิบ “ก็เขาให้ผักฟรี เราเลยต้องใส่ผักลงไปเยอะๆ จะได้กินจานเดียวอิ่ม ประหยัดเงินในกระเป๋า” ภาคภูมินึกได้ “อ้อ...แต่ลูกคนรวยอย่างคุณคงไม่ต้องทำแบบนี้หรอกมั้ง”
“ลืมไปแล้วหรือว่าพ่อฉันโดนอายัดทรัพย์สินไปหมดแล้ว อะไรประหยัดได้ก็ต้องประหยัด ทีนี้ยังไงต่อ”
“ก็แค่นี้แหละ อ่ะ กินได้แล้ว”
ธิดากินแบบกล้าๆ กลัว ๆ แต่ต่อไปอร่อย ติดใจ ภาคภูมิแอบอมยิ้ม ก่อนชะงัก เห็นน้ำยาเปื้อนแก้มธิดา จึงดึงทิชชู่จะเช็ดให้ แล้วนึกได้เขินๆ รีบส่งทิชชู่ให้ทำท่าว่าน้ำยาเปื้อนแก้ม ให้เช็ดเอง
ธิดารับไปเช็ด ภาคภูมิมองเผลอๆ เริ่มเห็นความน่ารักของธิดา พอมองสบตากัน ภาคภูมิยิ่งเขินหนัก กินขนมจีนแก้เขินใหญ่จนถึงกับสำลักออกมา
ธิดาขำที่ภาคภูมิหลุดฟอร์มเก๊ก ส่งแก้วน้ำให้ มือกระทบมือ ดึงออกแทบไม่ทัน ต่างคนต่างก็หน้าแดง
อ่านต่อหน้า 2
นางฟ้ากับมาเฟีย ตอนที่ 22 อวสาน (ต่อ)
เมขลาตัดกล้วยไม้ด้วยใจเหม่อลอย รามเข้ามาข้างหลังปิดปากเธอแล้วลากออกไปที่รถซึ่งขับมาจอดรอไว้แล้ว เมขลาดิ้นจนหลุด
“คุณอีกแล้ว เมื่อไหร่จะเลิกยุ่งกับฉันซะที”
“ก็ไปกับผมซิ จะได้จบ”
“ฉันไม่ไป ฉันจะอยู่ที่นี่กับคุณเทวัญ”
รามรวบตัวไว้อีก
“ผมไม่สนใจว่า คุณกับเทวัญจะมีอะไรกัน จริงหรือไม่จริง แต่คุณไปอยู่ในที่ปลอดภัยก่อน คุณไม่รู้หรอกว่าพวกไอ้เหลียงมันโหดแค่ไหน มันอาจจะสับคุณกับเทวัญเป็นชิ้นๆก็ได้”
เมขลากลัวแต่พยายามใจดีสู้เสือ
“ดีซิ ฉันจะได้ตายกับคนที่ฉันรัก”
“พูดอีกทีซิ”
“ฉันรักคุณเทวัญ รักๆๆๆ”
รามรวบตัวเมขลาเข้ามาจูบทันที เมขลาอึ้ง
“พูดอีกทีซิ”
“ฉันรัก...เทวัญ”
รามจูบอีก
“พูดอีกซิ”
“ฉันรัก....”
มีคนงานคนหนึ่งเดินมา
“อุ๊ย...”
เมขลาได้โอกาสผลักรามวิ่งหนีไป
เหลียงไปดูแหวนเพชรที่ร้าน เขาหันไปสั่งพนักงาน
“ผมอยากได้แหวนเพชรหมั้น ขนาดสามกะรัตขึ้นไป ราคาไม่เกี่ยง คุณพอจะแนะนำวงไหนให้ผมได้”
พนักงานก้มหน้าไปเลือกขึ้นมาให้ ป้ายราคาเห็น เขียนว่า ล้านหนึ่งแสนสองหมื่น
เหลียงรับไป ยิ้มอย่างพอใจ
“แบบนี้ น่าจะเหมาะกับน้องหมวย”
เมื่อซื้อแหวนเพชรได้แล้ว เหลียงขับรถคันหรูไปที่บ้านเจ๊ง้อ เหลียงแต่งตัวเนี้ยบหล่อสุดลงจากรถ ตรงเข้าไปในบ้านทันที...
เมื่อได้พบเจ๊ง้อ เขานำเงินปึกใหญ่ กับกล่องใส่แหวนมาวางไว้ตรงหน้าเจ๊ง้อ
“ผมขอโทษ ที่ไม่ได้มีเถ้าแก่มาช่วยสู่ขอหมวย จะมีก็แต่ความจริงใจเป็นที่ตั้ง”
เจ๊ง้อตะลึงกับสินสอด ไม่พูดไม่จา ทำให้เหลียงเข้าใจผิด
“แต่ถ้าเจ๊ไม่พอใจ ผมก็ขอโทษด้วย”
เหลียงจะเก็บเงินกลับ เจ๊ง้อรีบตะครุบแย่งมากอดไว้แทบไม่ทัน
“อุ๊ย อั๊วไม่ได้ไม่พอใจ แต่...” เจ๊ง้ออึกอัก เรื่องที่หมวยมีคนอื่นแล้ว
“แต่อะไร เงินสินสอดมันคงน้อยใช่ไหม เจ๊อยากได้เท่าไหร่”
“ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอก คือ..”
“ถ้าเป็นเรื่องเรือนหอก็ไม่ต้องห่วงนะ ผมตั้งใจจะให้หมวยเลือกแบบบ้านเอง งบไม่อั้นแล้วถ้าเจ๊จะเลิกทำฟาร์มกล้วยไม้ ไปอยู่กับพวกเราก็ได้”
เจ๊ง้อพูดไม่ออก ขณะเดียวกันเสียงเทวัญดังขึ้น
“เจ๊ครับ”
“มีอะไรอาเทพ ลื้อเข้ามาทำไม ไม่เห็นหรือว่าอั๊วมีแขก”
เทวัญเข้ามาตะลึงเห็นเหลียง แต่เหลียงยังไม่เห็น ก้มไปหยิบแก้วน้ำดื่มพอดี เขาจึงรีบเอาผ้าขาวม้าที่พาดบ่าขึ้นมาปิดปาก
“เอ่อ ขอโทษครับ” เทวัญแกล้งไอโขลกๆ “งั้นเดี๋ยวผมมาใหม่ก็ได้”
เทวัญรีบออกไป ขณะเดียวกับที่เหลียงวางแก้ว แล้วหันไปคุยต่อ...
“เจ๊จะยกหมวยให้ผมได้ไหมครับ”
“เจ๊น่ะอยากยกให้อาคุณบุญเลี้ยงใจจะขาด แต่นังหมวยนี่สิ”
“หมวยทำไมครับ”
“หมวยมันมีผัวไปแล้ว”
เหลียงเดือด
“มันเป็นใคร”
เมขลาอยู่ในห้อง คิดถึงที่รามจูบ กับที่รามบอกว่าเหลียงโหดมาก สับสนหันไปเห็นประตูเปิดเทวัญเข้ามารีบร้อน
“คุณเทวัญ”
“เราต้องหนีไปจากที่นี่แล้วล่ะคุณเม”
เมขลาอึ้งๆ ส่ายหน้า
“ก็ไหนคุณเคยบอกฉันว่า คนเราหนีไปได้ไม่ตลอดไงคะ”
“ผมไม่ได้หมายถึงราม”
“คุณพูดถึงใคร”
เมขลางง
ช่วงเวลาเดียวกันนั้น หมวยไปหารามที่ห้อง เขาตัดสินใจเล่าเรื่องของเขากับเมขลาให้เธอฟัง หมายถึงกับตะลึง
“หา พี่เมเป็นเมียเฮีย”
“เขาโกรธผม เลยหนีผมมาอยู่นี่”
“แล้วคนที่เป็นผัวเค้าตอนนี้ล่ะ”
“เขาคงโกหก เพราะจะประชดผม แต่ผมต้องเอาตัวเขากลับไปให้ได้ คงช่วยหมวยเล่นละครไม่ได้แล้วละ”
ขณะเดียวกัน เหลียงที่โมโหจัด เดินพรวดๆมาที่หน้าห้องหมวย แล้วเปิดผลัวะเข้าไป รามเจอกับเหลียง อึ้งกันทั้งคู่คาดไม่ถึง
“ที่แท้ก็แกนี่เอง”เหลียงชี้หน้าราม
“ไอ้เหลียง”
เหลียงโผเข้าหารามเล่นงานทันที หมวยกรี๊ด
“หยุดนะ คุณบุญเลี้ยง อย่าทำอะไรเฮียรามนะ ปล่อยสิ”
หมวยจะเข้าไปช่วย แต่โดนเหลียงผลักออกมา หมวยเซไปชนเจ๊ง้อที่รีบตามเหลียงมา เจ๊ง้อรีบดูลูกสาว
“อาหมวย ลื้อเป็นอะไรหรือเปล่า”
หมวยส่ายหน้า
“ม๊าเข้าไปห้ามคุณบุญเลี้ยงเร็วสิ เร็วสิม้า”
“ลื้อจะให้อั๊วห้ามยังไงล่ะ อั๊วไม่ได้จบจากง้อไบ๊นะ”
หมวยหันไปตามสายตาเจ๊ง้อ รามกับเหลียงสู้กันดุเดือดมาก หมวยพยายามเข้าไปแยก ห้ามปราม ทำให้รามพลาดท่า โดนเหลียงซัดถลาไปโดนโต๊ะเขียนหนังสือของหมวย ฟุบไปเพราะเจ็บจนพูดไม่ออก ขยับไม่ได้
เจ๊ง้อมาดึงหมวยออกไป
“ออกมานี่ อย่าไปยุ่งกับพวกอี เดี๋ยวลื้อก็เจ็บเอาหรอก”
เหลียงหักนิ้วมือมองราม
“วันนี้เป็นวันตายของแก ที่แกกล้ามาแตะต้องหมวยของฉัน”
หมวยหน้าซีด มองๆไปที่คัทเตอร์ที่วางไว้บนโต๊ะ เหลียงชักปืนเล็งราม หมวยกลั้นใจ คว้าไปหยิบคัทเตอร์ขึ้นพุ่งเข้าไปแทงที่ไหล่ด้านหลังเหลียง
เหลียงอึ้ง มองหน้าหมวยแบบคาดไม่ถึง เลือดที่ไหล่ไหลแดงออกมา เจ๊ง้อตาเหลือก
“ไอ๊หยา ลื้อจะทำอะไรน่ะ อาหมวยลื้อทำอาบุญเลี้ยงทำไม”
“ก็เขาจะทำร้ายเฮียราม”
เหลียงเค้นเสียง
“แต่เฮียเป็นคู่หมั้นหมวยนะ”
หมวยพูดไม่ออก รามค่อยหายเจ็บได้โอกาสถีบเหลียงทรุดลง แล้วแย่งปืนมา เจ๊ง้อกรี๊ด พุ่งเข้าไปหาราม
“ลื้อทำอะไรฮึ อาบุญเลี้ยงยังเจ็บไม่พอหรือไง” เจ๊ง้อทุบๆ
รามจับมือเจ๊ง้อไว้
“แค่นี้ยังน้อยไป สำหรับนักฆ่าจากฮ่องกงอย่างมัน”
เจ๊ง้อส่ายหน้า
“ไม่จริง ลื้อโกหก”
เหลียงซีด ที่ความลับเปิดเผย มองรามแค้นๆ รามควักกระเป๋าโชว์บัตรตำรวจให้ดู
“ ทีนี้จะเชื่อหรือยัง”
เจ๊ง๊อมองไม่อยากเชื่อ เป็นลม
“ม๊าๆ” หมวยช่วยประคองแทบไม่ทัน
“อ้าว เจ๊ อย่าเพิ่งเป็นลมสิเจ๊”
เหลียงค่อยๆลุกขึ้น กระโดดหน้าต่างหนีออกไป รามหันไปเห็นพอดี
“เฮ้ย อย่าหนีนะ”
รามผลักเจ๊ง้อให้หมวย ตามเหลียงไป
เทวัญพาเมขลาหนีออกไปจากฟาร์ม ทั้งคู่วิ่งไปด้วยกัน แต่จู่ๆเมขลาตัดสินใจหยุด ไม่ยอมวิ่งต่อ เทวัญหันมา
“เป็นอะไรไปคุณเม”
“คุณหนีไปก่อนเถอะค่ะ ฉันเป็นห่วงคุณราม ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง”
“รามเป็นตำรวจ ยังไงเขาก็เอาตัวรอดได้อยู่แล้ว”
“แต่ฉันอยากจะไปบอกเขาก่อน ให้เขาปะทะกับเหลียงก็เหมือนส่งเขาไปตาย ฉันทนเห็นเขาตายอีกครั้งไม่ได้หรอก”
เมขลาดึงมือจากเทวัญ หันหลังวิ่งกลับเข้าฟาร์มไป เทวัญขมขื่น เพราะรู้เหตุผลที่แท้จริงของเมขลาในการตีตัวออกห่างรามแล้ว
เหลียงบาดเจ็บกุมแผลวิ่งซมซานไป ขณะที่เมขลาวิ่งกลับมาแล้วชะงักเมื่อเห็นเหลียง เธอถอยหนี เหลียงแสยะยิ้ม ขณะเดียวกันรามวิ่งไล่ตามเหลียง แต่มาพบกับเทวัญก่อน
“นายเจอคุณเมหรือยัง”
“เมไม่ได้อยู่กับคุณหรือ”
“เมบอกฉันว่าจะไปหานาย เขาอยากบอกนายเรื่องเหลียงมาที่นี่”
รามส่ายหน้า
“ไม่ ผมยังไม่เจอเม...”
รามเห็นมือถือของเมตกอยู่ รามเดินไปก้มลงเก็บเห็นหยดเลือดสดๆ จากแผลเหลียงอยู่แถวนั้นด้วย
เทวัญเข้าไปดูด้วย
“มือถือคุณเม”
“คุณไปทางด้านโน้น ผมจะไปทางนี้เอง มันทั้งบาดเจ็บ ทั้งมีเมไปด้วย คงไปไหนไม่ได้ไกลหรอก”
เทวัญรีบไปหาเมขลา รามมองรอบๆ เครียด ดูหยดเลือด แล้วตามไป
ในสวนใกล้กับบ้านสวนของรุจ...เหลียงที่เจ็บ หลบซ่อนตัวอยู่หลังพุ่มไม้ใหญ่ เลือดไหลจากแผลชุ่มเสื้อ เหลียงพักพอแล้วจะลุกขึ้น แต่ชะงักเมื่อเห็นรามวิ่งมามองหา เหลียงรีบหลบ เหยียบกิ่งไม้หักดังเป๊าะ รีบกุมมีดในมือเตรียมพร้อม รามหันขวับมา จะเดินเข้ามาหา ทันใด นกบินจากต้นไม้ที่เหลียงแอบอยู่ขึ้นฟ้า
“นึกว่าอะไร”
เหลียงมองตามหลังไป ถอนหายใจโล่งอก เหลียวมองข้างๆ เมขลาที่ถูกเขาตุ๊ยท้องจนสลบแล้วแบกหนีมายังไม่ฟื้น จึงตัดสินใจแบกเมขลาวิ่งไปที่บ้านสวนรุจ ถีบประตูเข้าไป ขณะที่ในสวนห่างออกมา รามที่วิ่งตามหาหยุดหอบ ตะโกนเรียกหา
“เม...เม ได้ยินผมไหม”
ขณะเดียวกันเทวัญมาถึง
“นายไปหาทางอื่นเถอะ แถวนี้ฉันดูทั่วแล้วไม่มีแน่”
รามโมโห ผลักเทวัญออก
“ยังมีหน้ามาสั่งผมอีกหรือ รู้มั้ยว่าเป็นเพราะคุณคนเดียว ถ้าคุณดูแลเมดีๆ ก็ไม่เกิดเรื่องแบบนี้หรอก หรือคุณไม่รู้ว่าไอ้เหลียงมันโหดแค่ไหน”
“หุบปาก เลิกโทษคนอื่นเสียที ฉันน่ะดูแลคุณเมได้แค่ตัว จะไปดูแลหัวใจเขาได้ยังไง ที่เขาโดนจับไปนี่ก็เพราะเขาเป็นห่วงนาย เขารักนาย รู้ไว้ซะด้วย”
“เขารักผม แต่เที่ยวบอกใครๆ ว่าเป็นผัวเมียกับคุณเนี่ยนะ”
“ที่เขาทำแบบนั้น ก็เพราะอยากให้นายเกลียดแล้วไปจากเขา เขาไม่อยากเห็นนายได้รับอันตรายอีก เข้าใจหรือยัง”
รามอึ้งพูดไม่ออก
“และคราวนี้ ถ้าคุณเมเป็นอะไรไป นายต้องรับผิดชอบ”
เทวัญเดินหนีไป รามอึ้งๆ มองรอบๆ หาร่องรอยเมขลา
ก้องภพ และภาคภูมินำทีมตำรวจถึงถึงบ้านเจ๊ง๊อ สอบถามเรื่องเหลียงทันที
“อาบุญเลี้ยงอีเป็นลูกเจ้าของสวนข้างๆ รู้จักหมวยตั้งแต่รุ่นๆแล้ว ทีนี้วันนึงสวนอีเกิดล่ม พ่อแม่ผูกคอตายหนีหนี้กันหมด อีเลยพลอยหายหน้าไปด้วย พอกลับมาอีกทีก็กลายเป็นเสี่ยไปแล้ว ถามอี อีก็บอกว่าไปทำงานร่ำรวยอยู่ที่เมืองนอกเมืองนาโน่น”
เจ๊ง๊อเล่าไปดมยาดมไป ขณะที่หมวยนั่งอยู่ข้างๆ
“เขาก็ไม่ได้โกหกเจ๊หรอก เหลียงไปทำงานที่เมืองนอกจริงๆ แต่ไปเป็นมือปืนให้เจ้าพ่อค้ายาที่ฮ่องกง”
ก้องภพบอก เจ๊ง้ออ้าปากค้าง
“ไอ๊หยา แล้วนี่อั๊วจะโดนข้อหารับเงินโจรด้วยป่ะเนี่ย”
หมวยเขย่าแขนแม่
“เห็นไหม แม่เกือบให้หมวยเป็นเมียโจรแล้ว ดีนะที่เฮียรามยอมโกหกว่าเป็นผัวหมวย ไม่งั้นหมวยต้องตกนรกทั้งเป็นแน่”
“นี่ลื้อ...ลื้อโกหกอั๊วหรอกเหรอเนี่ย” เจ๊ง้อเซ็ง ก่อนโล่ง “แต่ก็ดีแล้วล่ะ อีเป็นเกย์ ลื้ออย่าไปยุ่งกับอีเลย”
ภาคภูมิกับก้องภพ สำลักน้ำพรวดทั้งคู่
“ใครเป็นเกย์นะครับ” ก้องภพตกใจ
รามเข้ามา เจ๊ง๊อรีบเงียบ มองไปที่รามแทนคำตอบ
“ผมว่าเจ๊เข้าใจผิดแล้วล่ะ”ภาคภูมิหันไปถามราม“เจอตัวเหลียงไหมผู้กอง”
รามส่ายหน้าเครียดๆ
“ไม่ใช่แค่ไม่เจอ แต่มันยังจับตัวเมียผมไปด้วย”
“เมีย! นี่ลื้อมีเมียด้วยเหรอ”
“เมเป็นเมียผม” รามหันไปพูดกับก้องภพ “ท่านครับผมขออนุญาตนำกำลังไปตรวจค้นหาเมนะครับ”
ก้องภพพยักหน้า พวกราม ก้องภพ ภาคภูมิออกไป เจ๊ง้อจะเป็นลมอีกครั้ง
“ทำไมมันยุ่งอินุงตุงนังกันอย่างนี้”เจ๊ง้อนึกได้ รีบตาม “เดี๋ยวสิอาคุณตำรวจ พวกลื้อยังไม่ได้บอกเลย ว่าอั๊วจะโดนจับข้อหารับเงินโจรมั้ยอ่ะ คุณตำรวจ”
เจ๊ง้อตามไม่ทัน พวกรามขึ้นรถไปแล้ว หมวยเข้ากอดม๊า มองพวกรามอย่างเอาใจช่วย
เหลียงเจ็บแผลจนเผลอหลับ ขณะที่เมขลาฟื้นขึ้นเห็นบ้าน
“นี่บ้านสวนของรุจนี่”
เมขลาเข้ามาดูเหลียงเห็นเลือดไหลเยอะ คลานถอยหันไปทางประตู
“หยุด”
เมขลาหันไปจ่อปืน
“คิดจะหนีเหรอ”
“ฉันจะไปเอายามาทำแผลให้นาย”
“ไม่ต้องมาโกหก ที่นี่มันบ้านร้าง จะไปเอายาที่ไหน”
“ที่นี่ไม่ใช่บ้านร้างแต่เป็นบ้านเพื่อนฉัน ฉันรู้ว่าเขาเก็บยาไว้ที่ไหน”
เหลียงยอมให้เมขลาไปเอายามาทำแผลให้ เพราะเจ็บจนแทบทนไม่ไหว้ เมขลาให้เหลียงไปนอนที่เตียง แล้วทำแผลที่หลังให้จนเสร็จเรียบร้อย
“ช่วยฉันทำไม” เหลียงถามอย่างแปลกใจ
“เพราะฉันไม่ใช่คนใจร้ายเหมือนนาย ที่จะปล่อยให้คนตายไปต่อหน้าต่อตา”
“ทั้งๆที่ฉันจะฆ่าเธอน่ะเหรอ”
“แต่นายก็ยังไม่ได้ฆ่า”
“ไม่ต้องห่วง ฉันฆ่าเธอแน่ แต่รอไอ้รามกับพวกก่อน ผัวเธอดันมายุ่งกับหมวย ฉันฆ่ามันให้เธอยุติธรรมดีไหม”
“นายเข้าใจผิดแล้ว รามไม่ได้เป็นอะไรกับหมวย เชื่อฉันสิ ฉันพูดจริงๆนะ”
เหลียงมองหน้าเมขลาอย่างประเมินว่าเธอพูดจริงหรือเปล่า
เสียงโทรศัพท์ในห้องทำงานที่ปปส.ดัง รามสะดุ้งพรวดจะไปรับ แต่ก้องภพรับก่อน รามมองลุ้น ได้ยินแต่ก้องภพรับคำว่าโอเค ก่อนวางสาย
“ได้เบาะแสเมหรือยังครับท่าน”
ก้องภพส่ายหน้า
“เป็นแหล่งข่าวจากฮ่องกง โทรมาบอกว่าไอ้จาง น่าจะบินมาถึงเมืองไทยแล้ว”
“หรือไอ้เหลียงมันจะเอาตัวเมไปให้ไอ้จาง งั้นขอผมทำคดีนี้เองนะครับ ผมจะไปหาตัวไอ้จางให้เจอ”
“แล้วนายรู้หรือว่าพวกมันกบดานอยู่ที่ไหน”
“แต่จะให้ผมรอฟังข่าวอยู่อย่างนี้ไม่ได้หรอก ผมทำไม่ได้”
“ต้องได้ นายต้องอยู่ที่นี่ ห้ามออกไปไหน ไม่อย่างนั้นมีหวังเสียเรื่องแน่ แล้วฉันจะให้ผู้กองภาคภูมิทำคดีนี้แทน”
“แต่เรื่องนี้เกี่ยวกับเมียผม ผมทนเสียเขาไปไม่ได้ท่านเข้าใจไหม”
ก้องภพอึ้ง ทุกคนเงียบ เพราะนึกถึงตาล รามก็อึ้ง เสียใจ
“ขอโทษครับท่าน แต่เมโดนเหลียงจับไปเพราะผม ถ้าผมช่วยเมไม่ได้ ผมคงรู้สึกผิดไปทั้งชีวิต”
“ผู้กองใจเย็นๆ อย่าเพิ่งขัดคำสั่งหัวหน้า”
รามวางบัตรประจำตัวที่โต๊ะ
“ผมใจเย็นเรื่องนี้ไม่ได้ ถ้าผมไม่ได้ทำคดีนี้ผมขอลาออก”
รามเดินไปทันที
“ให้ผมไปตามผู้กองกลับมาไหมครับ”ยงยุทธถาม
ก้องภพคิดๆแล้วส่ายหน้า
“ให้คนของเราสะกดรอยตามผู้กองรามไปก่อน ส่วนผู้กองภาคภูมิ ไปตรวจสอบกับต.ม. เรื่องไอ้จางให้เร็วที่สุด”
ยงยุทธกับภาคภูมิรับคำสั่งแล้วออกไป ก้องภพถอนใจหยิบบัตรรามขึ้นดู
“ไม่ใช่มีแค่นายคนเดียวหรอกนะ ที่อยากจัดการกับไอ้จางน่ะ”
เมื่อเหลียงอาการดีขึ้น เขานั่งมองแหวนแต่งงานอย่างคิดถึงหมวย ขณะที่เขาจับเมขลามัดมือด้วยผ้าดำไว้ข้างหน้า นั่งอยู่ที่มุมห้อง เมขลามองกล่องแหวนเพชรแล้วถาม...
“นายจะสมหวังกับน้องหมวยได้ยังไง ถ้านายยังทำงานสกปรกอย่างที่กำลังทำอยู่”
เหลียงมองเมขลาตาขวาง เธอจ้องตอบอย่างไม่กลัว
“เธอเคยอดอยากขนาดต้องแย่งข้าวหมากินมั้ย แม้กระทั่งแอบดูคนที่ตัวเองรัก ก็ยังโดนไล่ตะเพิด ทำไมล่ะ เพราะฉันไม่มีเงินไง เงินคือพระเจ้า มันเปลี่ยนได้ทุกอย่าง แม้แต่เจ๊ง้อที่เคยดูถูกฉัน จากคำว่าไอ้เลี้ยง พอฉันโยนเงินให้มันก็เรียกฉันว่าคุณบุญเลี้ยงทุกคำ เงินมันน่าอัศจรรย์มากเลยเห็นมั้ย” เหลียงหัวเราะขื่นๆ
เมขลาเริ่มเห็นใจเหลียง
“แล้วเงินที่นายนับถือเป็นพระเจ้า มันซื้อความรักได้หรือเปล่าบ้าน รถ แหวนเพชร มันทำให้หมวยรับรักนายมั้ย”
“แต่หมวยไม่เคยปฏิเสธที่จะแต่งงานกับฉัน”
“เพราะเจ๊ง้อบังคับหมวยต่างหาก พวกมาเฟียก็อยู่ด้วยกันได้เพราะผลประโยชน์ วันใดที่นายหมดแรงจะรับใช้เขาได้ นายก็คงกลับมาเป็นหมาตัวเดิม แม้แต่คนที่นายรักก็ไม่มีวันยอมรับนาย”
เหลียงโกรธขึ้นมาที่เธอพูดแทงใจดำ เหลียงเดินตรงไปหา ชักมีดออกมาจ่อที่หน้า
“ฉันถึงต้องใช้เธอล่อไอ้ผู้กองออกมาไง ถ้าฉันฆ่ามันได้ชื่อเสียงฉันในองค์กรนี้ก็จะขจรขยายไปทั่ว ต่อให้ใหญ่กว่าเฮียจางก็ต้องการตัวฉัน”
เมขลาจ้องมีด คิดว่าคงเกลี่ยกล่อมเหลียงไม่สำเร็จ จึงถีบใส่เหลียงที่นั่งยองๆอยู่ เหลียงหงายไป กล่องแหวนหลุดมือแหวนกระเด็นออกมา เมขลารีบเอาปากคาบแหวนไว้ “นังแม่มด อย่าแตะต้องแหวนฉัน”
เมขลาเงยหน้าอมไว้พร้อมกลืน เหลียงแบมือ
“คายออกมา”
เมขลาส่ายหน้ายิกเพราะไม่ยอมอ้าปาก เหลียงโมโหมากบีบคอเมขลา เงื้อมีด
“บอกให้คายออกมา”
เมขลาตาเหลือกยอมคายแหวน เหลียงรีบเก็บแหวนด้วยความหวงแหน เสียงมือถือเหลียงดังขึ้น เหลียงรีบรับสายเฮียจาง
“ครับเฮีย”
“แกมันไม่ได้เรื่อง แค่ไอ้พวกตำรวจกระจอกป่านนี้ยังทำอะไรมันไม่ได้”
“ขอเวลาผมอีกหน่อย ตอนนี้ผม....”
เฮียจางไม่ฟังสวนกลับไปก่อน
“ฉันจะลงมือเอง ให้พวกมันได้โดนฝังพร้อมกันในหลุมศพขนาดใหญ่ ที่ประดับประดาไปด้วยดอกกล้วยไม้”
เฮียจางตัดสายไป เหลียงตะโกนลั่น
“หมวยไม่เกี่ยว พวกมันไม่ได้ไปที่ฟาร์ม”
“มันจะฆ่าหมวยเหรอ”
“เฮียจางจะบุกฟาร์มกล้วยไม้ เพื่อฆ่าเธอนั่นแหละมันคิดจะล่อตำรวจไปที่นั่น”
“แล้วช้าอยู่ทำไมล่ะ หมวยต้องโดนลูกหลงไปด้วยนะ”
เหลียงยังลังเล
“คนรักฉันอยู่ที่นั่น คนรักนายก็เหมือนกัน หรือนายจะยอมเป็นทาสเฮียจางไปจนวันตายทั้งๆที่มันไม่ได้แยแสความรู้สึกนายสักนิด”
“หุบปาก!”
เหลียงชูมีดขึ้น เดินเข้าหา เมขลาถดหนีคิดว่าตายแน่ แต่เหลียงกลับตวัดมีดตัดเชื่อที่มือเธอให้เป็นอิสระ
ในฟาร์มกล้วยไม้...รามเดินเข้าฟาร์มชะงักเห็นเทวัญยืนคุยอยู่กับหมวย
“ผมมีเรื่องขอคุยหน่อย” รามบอกเสียงเครียดๆ
“จะถามเรื่องพี่เมใช่มั้ยคะ น่าอิจฉาพี่เมที่มีผู้ชายถึงสองคนคอยเป็นห่วง แต่หมวยชักงงแล้วว่าใครเป็นแฟนพี่เมกันแน่”
รามจะอ้าปากบอก แต่โดนเทวัญชิงก่อน
“คุณเมมากับผมก็ต้องเป็นแฟนผมสิครับ ส่วนคนอื่น”เทวัญเหล่ราม “เป็นอดีต”
รามไม่ยอมแพ้เถียงเป็นเด็กๆพูดกับหมวย
“ผมมีใบทะเบียนสมรส ส่วนคนอื่นไม่มีอะไรสักอย่าง ดีแต่คอยขี้ตู่เมียชาวบ้าน”
เทวัญฉุนเงื้อหมัดจะชก รามก็เงื้อหมัดสู้
“มากเกินไปแล้วนะ”
หมวยต้องรีบแหวกกลางขวางไว้
“อย่าทะเลาะกันเลยค่ะ เวลานี้ต้องช่วยกันตามหาพี่เมก่อนไม่ใช่เหรอคะ”
เทวัญลดมือลง
“ผมขอฉายเดี่ยวดีกว่า ถ้าคุณหมวยรู้ข่าวคุณเมช่วยติดต่อผมด่วนเลยนะครับ”
เทวัญเดินไป รามกวนพูดดังๆตีซี้หมวย
“น้องหมวยต้องแจ้งเฮียก่อนนะจ๊ะ เพราะเฮียเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีกำลังตำรวจครบมือกว่า”
เทวัญหันกลับมามองหน้า รามมองตอบยิ้มยียวน
อ่านต่อหน้า 3
นางฟ้ากับมาเฟีย ตอนที่ 22 อวสาน (ต่อ)
รถตู้ของจางแล่นเข้ามาจอดที่หน้าฟาร์มกล้วยไม้ ลูกน้องจางสวมชุดดำ อาวุธครบมือ เตรียมพร้อมจะยิงถล่ม ขณะเดียวกันเทวัญเดินออกมาอีกด้านหนึ่ง รามเดินไล่ตาม
“ใครนะที่เคยยอมรับว่าเมรักผม ถ้ารู้ตัวว่าปิดประตูแพ้ชัวร์ ก็ควรถอยไปตอนนี้จะดีกว่า”
เทวัญหยุดเดินหันกลับมาย้อน
“ตอนแรกก็คิดจะถอยเหมือนกัน แต่ฉันเพิ่งคิดได้ว่าความรักคือความเห็นแก่ตัวไม่ใช่เรื่องที่จะมาเสียสละกัน ใครดีใครได้”
รามจะอ้าปากเถียง ทันใดนั้นเสียงปืนหลายนัดดังมาจากในฟาร์ม
เจ๊ง้อกับหมวยมุดใต้โต๊ะหลบกระสุน ลูกน้องจางยิงกราดไปทั่ว พวกคนงานพากันวิ่งหนีออกจากฟาร์มไม่คิดชีวิต เจ๊ง้อพาหมวยวิ่งหนี เจอจางเข้ามาขวางทาง
“พวกมันอยู่ไหน”
เจ๊ง้อรีบดึงหมวยมาหลบหลังตัวเอง
“ใครเหรอ จะมาหากันก็ถามไถ่กันดีๆก็ได้”
ลูกน้องจางเล็งปืนใส่ จางตวาดถาม
“นังผู้หญิงที่ชื่อเมขลาอยู่ไหน”
เจ๊ง้อกลัวตัวสั่น
“มันไปไหนแล้วก็ไม่รู้...” เจ้ง้อยกมือไหว้ “ไว้ชีวิตฉันกับลูกสาวเถอะ เราไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย”
เฮียงจางหันไปสั่งลูกน้อง
“ปิดปากมันทั้งคู่”
หมวยรีบขึ้นมาบังแม่ไว้
“อย่า...อย่าทำอะไรม้า”
ลูกน้องจางกำลังจะยิงใส่ แต่จู่ๆมีมีดสั้นพุ่งมาปักคออกตายคาที่ จางหันไปเห็นเหลียงยืนคู่กับเมขลา จางแค้นๆ
“ไอ้ทรยศ! ฆ่ามัน”
ลูกน้องยิงใส่เหลียงกับเมขลา เหลียงผลักเมขลากลิ้งไปหลบในที่กำบัง ส่วนตัวเองหลบอีกฟาก
“ช่วยพาหมวยออกไปจากที่นี่ที”
“ไม่ต้องห่วง ระวังตัวด้วยนะ”
เหลียงโผล่ขึ้นมาซัดมีดสั้นใส่ลูกน้องเรียงตัว จางเข้าที่กำบังยิงใส่เหลียง เมขลาอาศัยความชุลมุนวิ่งหลบๆไปทางหมวย
หมวยกับเจ๊ง้อหลบกระสุนกันอยู่ ลูกน้องจางโผล่มาจะยิงใส่หมวย เมขลามาถึงคว้ากระถางกล้วยไม้ทุบหัวลูกน้องจางสลบเหมือด
“เราต้องหนีออกไปทางด้านหลังฟาร์ม”
เมขลาดันหมวยให้รีบไปก่อน แต่หมวยชะงักเพราะจางยืนขวางอยู่ ยกปืนเล็งใส่หมวย
จางจะยิง เหลียงกระโจนเข้ากอดจางแบบรวมแขนไว้แนบลำตัวแล้วตะโกนสั่งเมขลา
“พาหมวยหนีไป ไปเร็ว”
หมวยช็อคไม่คิดว่าเหลียงจะรักเธอขนาดนี้ หมวยเรียกชื่อเดิมที่เคยเรียกตอนเด็ก
“เฮียเหลียง”
เหลียงกอดจางแน่นไม่ให้ใช้ปืนได้ จางพยายามสะบัด เหลียงหันมาตวาด
“บอกให้ไป...ไป”
เมขลาได้สติ เจ๊ง้อกับเมขลารีบลากหมวยพ้นไป ลูกน้องจางที่ยังไม่ได้ลุกขึ้นมายิงเหลียงด้านหลังสองนัดผงะออก จางหันมายิงใส่ท้องเหลียงหลายนัด เหลียงตาเหลือก เลือดออกมุมปาก
เมขลากับหมวยพากันวิ่งหนี ได้ยินเสียงปืนดังตามมา หมวยจะหันไปมอง เมขลาจับบ่าหมวยแน่น สั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดเข้มแข็งมาก
“อย่าหันไปมอง ไปข้างหน้าอย่างเดียว”
เจ๊ง้อดึงหมวยวิ่ง เมขลาพยายามกลั้นน้ำตา รำพึงในใจ
‘นายอย่าเป็นอะไรไปนะ นายต้องอยู่เพื่อรอดูผลงานของนาย’
เมขลา หมวย เจ๊ง้อพากันวิ่งหนีไปทางโรงเพาะกล้วยไม้ได้ยินเสียงปืนตามมา เจ๊ง้อตกใจ
“มันตามมาแล้ว”
เมขลามองโรงเพาะกล้วยไม้ข้างหน้า หันไปข้างหลังเห็นจางกับลูกน้องวิ่งตามมาไกลๆยิงใส่เป็นชุด เมขลารีบพาหมวยกับเจ็ง้อวิ่งเข้าไปหลบกระสุน ตามกระถางกล้วยไม้ที่แขวนเรียงกันเป็นตับ เมขลาให้หมวยกับเจ๊ง้อหลบอยู่มุมหนึ่ง
“หลบอยู่ตรงนี้นะ พี่จะล่อมันออกไป”
หมวยจับมือเมขลาไว้ เมขลามองอย่างปลอบใจ
“ไม่ต้องกลัว เราต้องรอด”
เมขลาจะไป แต่มีปืนยื่นมาจ่อที่หัว ทุกคนตะลึง เมขลาหันกลับไปพบว่าจางเป็นคนจ่อปืนที่หัวของเธอ
“เธอใช่มั้ย ที่เป็นเมียผู้กองราม”
เมขลาจ้องหน้าจางทำใจกล้า
“ฉันชื่อเมขลา สามีฉันเป็นตำรวจมือปราบยาเสพติดที่ไม่เคยกลัวเกรงพวกแก ถ้าแกกล้าทำร้ายฉัน ก็อย่าหวังจะได้ออกจากประเทศนี้”
จางตบเปรี้ยง เมขลาถลาไปหาหมวย
รามวิ่งเข้ามา เทวัญตามหลังเห็นลูกน้องจางสลบอยู่ เทวัญหยิบปืนที่พื้นขึ้นมาถือไว้ รามเล็งปืนไปรอบๆ เห็นเหลียงนอนจมกองเลือด รามรีบเข้าไปจับหงายขึ้นมา เหลียงยังหายใจอยู่ พยายามพูด รามรีบถามอย่างร้อนใจ
“หมวยอยู่ไหน”
เหลียงชี้บอกทาง พูดอย่างยากเย็น
“เมพาหมวยไปทางนั้น” เหลียงบีบมือรามแน่น “ช่วย...ช่วย หมวยด้วย”
เหลียงสิ้นใจตาย รามรีบวางเหลียง วิ่งไปพร้อมๆกับเทวัญ
รามกับเทวัญจะวิ่งผ่านโรงเพาะไป แต่ได้ยินเสียงหมวยร้องขึ้น
“ช่วยด้วย...ช่วยเราด้วย”
รามกับเทวัญชะงัก วิ่งเข้าโรงเพาะเจอหมวยกับเจ๊ง้อโดนจับมัดไว้ หมวยรีบบอกอย่างร้อนใจ
“เฮีย มันจับพี่เมไป”
“เมกลับมาที่นี่เหรอ”
หมวยพยักหน้า
“พวกมันบอกว่าถ้าอยากได้ตัวพี่เมคืน ก็ต้อง...เอาชีวิตเฮียไปแลก”
เทวัญช่วยแก้มัดให้หมวยกับเจ๊ง้อ รามรีบกดมือถือโทรหาก้องภพ
“ท่านครับ เฮียจางมันบุกมาที่ฟาร์มกล้วยไม้ มันจับเมียผมไป ช่วยสกัดจับรถของพวกมันให้ที”
เทวัญคิดว่าจะช่าวยเมขลาอย่างไรดี
ค่ำนั้น...เทวัญคิดอะไรบางอย่างได้ เขารีบไปที่ร้านขายตำราจีนย่านเยาวราช อาแปะกำลังนั่งดีดลูกคิดเงยหน้ามอง
“ลื้อต้องการซื้ออาราย ถ้าพู่กันก็มุมโน้น เลือกเอา”
เทวัญวางถุงใส่เกาลัดตรงหน้า
“ฝากให้แป๊ะยิ้มด้วย บอกว่าจาก สิงโตทอง”
อาแปะไม่ตอบก้มหน้าดีดลูกคิดต่อทำเป็นไม่สนใจ เทวัญเดินออกไป
วันใหม่...จางกับ ลูกน้องคนสนิทอยู่ที่รีสอร์ทริมลำธาร ลูกน้องจางแกะเม็ดเกาลัดที่พันสก็อตเทปปิดไว้ หยิบเอากระดาษโน้ตที่ถูกยัดใส่ไว้ส่งให้ จางหยิบมาอ่าน
‘ผมจะเอาตัวผู้กองรามมาแลกกับตัวประกัน เทวัญ’
“ลูกชายพ่อเลี้ยงคนนี้มันฉลาดไม่ใช่เล่น ยังอุตส่าห์จำวิธีส่งข่าวของอั้วกับพ่อเลี้ยงได้”
เฮียงจางหยิบเกาลัดขึ้นมาดูยิ้มแสยะน่ากลัว
“เฮียจะเชื่อมันได้หรือครับ” ลูกน้องถามอย่างไม่ไว้ใจ
จางยิ้ม
“รู้มั้ยว่าผู้ชายอย่างเราโง่ที่สุดตอนไหน”
ลูกน้องไม่กล้าตอบ
“ตอนที่รักผู้หญิงแบบไม่มีลืมหูลืมตานี่ไง มันมาพร้อมกันสองคนก็ยิ่งดี ถึงเวลาก็ฆ่ามันซะให้หมด”
จางบี้เม็ดเกาลัดจนแตก
รามเดินเร่งรีบเข้ามาในที่ทำงาน ตรงมาหายงยุทธทันที
“ดาบ...เฮียจางมันติดต่อเข้ามาหรือยัง”
ยงยุทธหันไปรายงาน
“ยังเงียบอยู่ครับ”
รามหงุดหงิด เป็นห่วงเมขลามาก
“มันจะเอายังไงของมัน ต้องการตัวฉันก็บอกมาสิว่าอยู่ไหน จะได้เอาชีวิตไปถวายให้ถึงที่”
เทวัญโทรเข้ามา รามหงุดหงิดมากขึ้นอีก
“นี่ก็อีกคน อยากจะเอาชนะฉันให้ได้ ฝันไปเถอะ” รามบ่นอุบก่อนจะกดรับสาย “ฮัลโหล ผมไม่ว่าง แค่นี้นะ”
“เดี๋ยว !...ฉันรู้แล้วว่ามันจับเมไว้ที่ไหน แต่นายต้องให้ฉันไปด้วย ฉันถึงจะบอกนาย”
รามอึ้งไปเมื่อเทวัญต่อรองอย่างนั้น...
รามขับรถเข้ามาจอดหน้าที่พัก เทวัญยืนรออยู่เปิดประตูเข้ามานั่งทันที
“บอกมาได้หรือยังว่า...เมียผม อยู่ไหน”
เทวัญชักปืนจ่อที่เอว รามชะงัก
“ขับไปตามที่บอก ก็จะรู้เอง”
“คุณเล่นอะไร นี่มันไม่ใช่เกมนะ”
“ฉันเอาจริง เฮียจางต้องการตัวนายคนเดียว”
“ถ้านายต้องการช่วยเม เราร่วมมือกันก็ได้ ไม่เห็นต้องทำแบบนี้”
“ฉันทำเพื่อตัวเอง ถ้านายยังอยู่ ฉันก็ไม่มีทางสมหวัง พ่อฉันพูดถูก ถ้าอยากอยู่ให้ได้ในโลกใบนี้ เราต้องเหี้ยม”
“ด้วยวิธีร่วมมือกับไอ้วายร้ายพวกนั้นเหรอ”
เทวัญกดปืนแรงขึ้น
“ถ้านายรักเมจริง ก็รีบขับไป”
รามยอมทำตาม
เทวัญจ่อปืนให้รามเดินมาหน้าเซฟเฮ้าส์
“ยังทันนะถ้าคุณเปลี่ยนใจมาร่วมมือกับผม” รามพยายามกล่อม
“แล้วนายจะยกเมให้ฉันงั้นเหรอ”
รามอึ้ง
“ไม่มีทาง”
“งั้นเราก็ต้องเดินหน้าต่อไป เดิน”
เทวัญดันรามเดินไปหน้าเซฟเฮ้าส์ จางกับลูกน้องยืนรออยู่ รามมองหาเมขลา จางยิ้มพอใจ
“หลานชายมาได้ตรงเวลาดี ยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาส เปิดบ้านต้อนรับผู้กอง”
รามยิ้มกวน ไม่เกรงกลัว
“ทางผมก็ล้างคุก เตรียมต้อนรับเฮียไว้เรียบร้อยแล้วเหมือนกัน”
จางหุบยิ้มชักไม่พอใจ เทวัญรีบชิงพูด
“ผมพาคนที่เฮียต้องการมาแล้ว แต่ผมยังไม่เห็นแฟนผมเลย”
รามมองเทวัญอย่างหมั่นไส้
“คนที่คุณพูดถึงคือเมียผม”
จางชอบใจที่ทั้งสองกัดกันเรื่องผู้หญิง จางหันไปสั่งลูกน้อง
“พาผู้หญิงออกมา”
ลูกน้องเฮียพาเมขลาออกมา รามจะอ้าปากเรียกแต่โดนเทวัญชิงเรียกก่อน รามเซ็งไปเลย
“คุณเม ปลอดภัยดีใช่มั้ยครับ”
เมขลามองราม
“พวกคุณมากันทำไม กลับไปซะ ไม่ต้องห่วงฉัน”
“ปล่อยคุณเมมา ผมจะยกมันให้ตามสัญญา”
เมขลาตกใจ
“อย่านะ คุณบ้าไปแล้วเหรอ คุณก็รู้นี่ว่ามันจะฆ่าราม”
“ผมจะพาคุณไปอยู่ฮ่องกง เฮียรับปากจะให้ผมไปตั้งตัวทำมาหากินอยู่ที่นั่น ไปกับผมเถอะผู้ชายคนนี้เขาไม่ได้จริงใจกับคุณ”
รามแสยะยิ้ม
“นี่ไงธาตุแท้ของคนที่คุณวิ่งโร่ตามเขาไป เห็นหรือยัง”
เมขลาส่ายหน้าไม่อยากเชื่อ จางพยักหน้าให้ลูกน้องปล่อยเมขลา เทวัญผลักรามให้ ลูกน้องเฮียจี้ปืนใส่ราม เทวัญเดินไปหา รับตัวเมขลามาแก้เชือกให้ แต่จางชักปืนจะยิงใส่เมขลา รามเห็นรถเข็น 4 ล้อเล็กๆสำหรับบรรทุกพวกกระถางต้นไม้อยู่ใกล้ๆ เขาผลักรถออกไปอย่างแรงใส่ จางถอยหลบล้มลงไป ลูกน้องคนอื่นๆมัวตกใจมอง รามเลยหันไปซัดศอกใส่เข้าหน้าอีกคนฟุบไป คนอื่นได้สติรุมเข้ามาอีก เทวัญจะพาเมขลาวิ่งหนี
“ไปกับผม”
เมขลาเห็นรามโดนผู้ร้ายรุมก็เป็นห่วง
“ราม...ไอ้พวกบ้า แกกล้าทำร้ายสามีฉันเหรอ แกอย่าอยู่เลย”
เมขลาคว้าปืนจากมือเทวัญ วิ่งเข้าไปหารามหลับหูหลับตายิงใส่ขาลูกน้องจางที่รุมรามอยู่ ทุกคนพากันกระโดดหลบ รามเห็นจางลุกขึ้นมาได้เล็งปืนมาทางเมขลา รามรีบคว้าข้อมือของเธอ
“หนีเร็ว”
เสียงปืนดังเปรี้ยง!
รามจับหัวเมขลาหลบพ้นวิถีกระสุน พากันวิ่งหนีไป จางมองตามแค้นๆ
“ตามไป จับมันมาให้ได้”
ลูกน้องกรูกันวิ่งตามไปพร้อมกับจาง เทวัญยืนตะลึงอยู่เพราะเจ็บปวดที่เห็นเมขลาเอาชีวิตเข้าเสี่ยงเพื่อช่วยราม
รามจูงมือเมขลาวิ่งหนีมาถึงริมลำธาร เมขลาหกล้ม
“โอ๊ยยย”
รามรีบประคอง
“ไหวมั้ย”
เมขลาหอบเหนื่อย
“ฉันทิ้งคุณเทวัญไม่ได้ ฉันต้องกลับไปช่วยเขา”
เมขลาจะไป รามกระชาก
“คุณเคยช่วยใครได้บ้าง คิดว่าตัวเองเก่งนักเหรอ เที่ยวยิงมั่วซั่วอย่างนั้นเกิดโดนผมจะทำยังไง มันปืนจริงนะไม่ใช่ปืนเด็กเล่น”
เมขลาโกรธเพราะอุตส่าห์ช่วย สะบัดแขน
“คนเนรคุณ ปากคุณเคยขอบใจใครเป็นบ้างมั้ย เคยเห็นใครทำดีเพื่อคุณมั้ย ดีแต่ว่า”
เมขลาเดินหนี รามรีบหยิบปากกาที่กระเป๋าเสื้อออกมาติดต่อก้องภพ แต่พอกดปุ่มกลับเงียบสนิท
“เฮ้ย ทำไมปุ่มพาวเวอร์ไม่ทำงาน”
ทางด้านก้องภพกับยงยุทธอยู่ในรถ พยายามติดต่อรามเช่นกัน
“งูเขียว เรียกตุ๊กแก งูเขียวเรียกตุ๊กแก ทำไมไม่มีสัญญาณตอบ”
“ปากกาสื่อสารอาจมีปัญหา สัญญาณมือถือก็เงียบสนิท เราคงต้องรอฟังเสียงจากพลุอย่างเดียว” ยงยุทธบอก
ก้องภพเครียด...ภาคภูมิยืนคุมเชิงอยู่นอกรถ ธิดากับตำรวจคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหา
“พี่ชายฉันล่ะ พี่เทพเป็นไงบ้าง”
ภาคภูมิมองหน้าตำรวจไม่อย่างตำหนิตำรวจจ๋อยๆ
“คุณธิดาบังคับให้ผมพามาหาผู้กองครับ ไม่งั้นเธอจะไปหา นักข่าวให้ช่วยประกาศตามหาคุณเทวัญ”
ธิดาค้อนภาคภูมิ
“ฉันถามหัวหน้าคุณก็ได้”
ภาคภูมิคว้าข้อมือธิดาจับไว้แน่น
“ถ้าคุณอยากเห็นพี่ชายยังมีชีวิตอยู่ อยู่เฉยๆจะดีกว่า”
รามมองมือถือเซ็งๆ
“แถวนี้มันไม่มีสัญญาณเลยนี่หว่า”
รามมองหาเมขลา เห็นเธอกวักน้ำล้างหน้า
“เราต้องรีบออกไปจากที่นี่แล้ว”
เมขลาลุกเดินกลับทางเดิม
“ฉันจะกลับไปช่วยคุณเทวัญ”
รามดึงไว้ ยัดมือถือใส่มือ
“คุณเดินเลียบไปตามลำธารจะเจอทางออก แถวนั้นมีสัญญาณมือถือ โทรหาหัวหน้าผม เขาจะมารับคุณ”
“แล้วคุณล่ะ”
“ผมจะไปช่วยหวานใจของคุณไงล่ะ”
“ฉันปล่อยให้คุณไปคนเดียวไม่ได้”
“ทำไมไม่ได้ ถ้าผมเป็นอะไรไปก็ฝากแม่ผมด้วยแล้วกัน”
รามจะไป เมขลารีบบอก
“ไม่นะ ฉันจะอยู่ได้ไงถ้าไม่มี...”
รามชะงักหันกลับมาฟังให้ชัด
“ไม่มีใคร ไม่มีนายเทวัญ หรือ ไม่มีผม”
เมขลารวบรวมความกล้าจะพูด ทันใดนั้นเสียงปืนดังขึ้น
“เปรี้ยง!”
รามกับเมขลาสะดุ้ง หันไปเห็นพวกจางกับลูกน้องตามมาถึง ลูกน้องจางยิงใส่อีก รามคว้าแขนเมขลา
“ข้ามไปฟากโน้น”
รามพาเมขลาวิ่งไปที่สะพานไม้เล็กๆเพื่อข้ามไปอีกฟาก จางวิ่งตามมาถึงลำธาร แล้วตะโกนสั่งให้ลูกน้องระดมยิง
“ฆ่ามัน”
จางกับลูกน้องยังไม่ทันยิง มีเสียงปืนดังมาจากทางอื่น ลูกน้องจางโดนเป่าร่วงไปทีละคน จางก้มหลบไม่รู้ทิศทางของปืน รามรีบพาเมขลาวิ่งพ้นลำธารไป...ลูกน้องจางตายเรียบเหลือแต่จางกับคนสนิท จางตะโกนถาม
“แกเป็นใคร แน่จริงก็เสนอหน้าออกมาซิวะ”
เทวัญเดินออกมาจากต้นไม้ใหญ่ เล็งปืนมาทางจาง
“เฮียหักหลังผม เป็นถึงมาเฟียใหญ่แต่ไร้สัจจะ ก็ไม่ควรนั่งอยู่ในตำแหน่งนี้อีกต่อไป”
คนสนิทจางจะยิง เทวัญไวกว่ายิงเฉี่ยวแขนคนสนิทจนปืนตกเลือดไหล จางเล็งปืนใส่ เทวัญเล็งตอบ จ้องวัดดวงกัน
“ในเมื่อเป้าหมายของเราคือคนเดียวกัน เรามาร่วมมือกันไม่ดีกว่าเหรอ ถ้าผู้กองมันรอดไปได้ ลื้อกับอั๊วก็ติดคุก ผู้หญิงที่ลื้อรักมันจะรอคนขี้คุกอย่างลื้อหรอก” จางเกลี้ยกล่อม
เทวัญนิ่งไปดูเหมือนลังเลเพราะว่าถ้ายิงสวน อาจตายกันทั้งคู่ จำเป็นต้องร่วมมือกับจางไปก่อน
เมขลากับรามทิ้งตัวลงนั่งหลบที่โขดหินต่างก็หอบเหนื่อย
“ผมให้เวลาพัก 5 นาที เราต้องรีบไปให้พ้นจากนี่ก่อนค่ำ”
“เสียดาย ตอนที่ฉันช่วยคุณ ไม่น่าทำปืนตกเลย”
“ทำไม คุณจะยิงสู้กับพวกไอ้จางเหรอ ไม่กลัวหรือไง”
“ผู้หญิงอย่างฉันไม่เคยกลัวอะไร”
เมขลาเหลือบไปเห็นตัวทากกระดึ่บอยู่ใกล้ๆก็ร้องลั่น
“กรี๊ดดดด”
เมขลาผวาเข้าไปกอด รามตกใจ
“อะไร เป็นอะไรพวกมันตามมาเหรอ”
“ไม่ใช่ ตะตะตัวอะไรไม่รู้ อี๊...มันจะกัดฉันอ่ะ”
รามมองไปที่ก้อนหินที่เมขลานั่ง เห็นทากก็ขำๆ
“นี่เหรอไม่เคยกลัวอะไร ทากตัวนิดเดียวร้องลั่นป่าจะเป็นจะตาย”
“ก็ตัวมันกระดึ๊บๆน่าเกลียดน่าขยะแขยง ใครจะอยากอยู่ใกล้”
“งั้นก็แสดงว่าผมน่ารักละสิ คุณถึงกระโจนเข้ากอดผม แถมยังรัดแน่นซะจนผมหายใจไม่ออก”
เมขลาเพิ่งรู้สึกตัวว่ากอดเขาอยู่จะดันเขาออก
“คนบ้า”
รามไม่ยอมดึงเธอมากอดไว้แน่น ตาจ้องตา ใจเต้นระทึกทั้งคู่ รามค่อยๆบรรจงจูบ เทวัญยืนจ้องมองอย่างสะเทือนใจ จางกับลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามาสมทบ
“ฉากรักช่างบาดใจ ถ้าลื้อคิดจะปล่อยมันไป ก็โง่แล้ว”
รามกับเมขลาสะดุ้งหันไปมอง
“คุณเทวัญ”
เทวัญเล็งปืนไปที่ราม
“ถ้านายขยับ ฉันยิง”
รามยกมือขึ้นสองข้าง เทวัญเข้าไปดึงเมขลา
“คุณเทวัญอย่าทำแบบนี้เลย คุณออกมาจากโลกมืดได้แล้ว ทำไมยังหันกลับไปหามันอีก”
เทวัญจ้องหน้า
“ผมเคยบอกคุณแล้วไง วงการนี้ออกไปก็คือตาย ผมจำเป็นต้องเดินทางเก่าเพื่อมีชีวิตอยู่กับคุณให้ได้”
เทวัญถอยมาริมลำธาร ตามองลงไป แล้วมองรามเหมือนจะบอกให้เขารู้ว่า ให้โดดลงน้ำพร้อมกัน รามมองลำธาร เข้าใจความหมายของเทวัญ เขาขยับตัวไปทางลำธาร จางหันไปสั่งคนสนิท
“อาเห่า...จัดการมัน”
อาเห่าดึงระเบิดแบบตั้งเวลากดด้วยรีโมทออกจากอกเสื้อ จางแสยะยิ้ม เทวัญตกใจ
“เฮียจะทำอะไร”
จางไม่ตอบเล็งปืนไปทางราม แล้วสั่งอาเห่า
“มัดติดกับมันไว้ รอให้หัวหน้ามันยกพวกมาถึงเมื่อไหร่จะได้ตายพร้อมกันทีเดียว”
“ฉันมาคนเดียว ไม่มีใครตามมา”
“ลื้อคิดว่าอั้วไม่รู้เหรอ ว่าพวกลื้อมันต้องแอบซุ่มอยู่แถวนี้”
เทวัญครุ่นคิดแล้วรีบบอก
“ผมว่าเฮียไม่ควรเสี่ยงเอง มันทำให้พ่อผมต้องตาย ผมขอเป็นคนส่งมันลงนรกเอง”
อาเห่ารีบกระซิบจาง
“เฮียครับ ระวังมันตุกติก”
จางหันไปบอกอาเห่าเบาๆ
“รีโมทอยู่กับฉัน จะกลัวอะไร”
เทวัญปล่อยมือจากเมขลา
“ไม่นะ ฉันจะไม่ยอมให้คุณทำร้ายราม ไม่ยอมให้คุณทำผิดจนต้องเสียใจไปตลอดชีวิต”
เทวัญผลักเมขลาล้มกลิ้งไปกระแทกก้อนหินจนเจ็บลุกไม่ไหว
เทวัญเดินไปหาอาเห่า รับระเบิดมาแล้วหันไปหารามส่งสายตาให้รามรู้ว่าเขาจะทำอะไร รามส่งสายตาบอกไม่ให้ทำ เทวัญก้าวหาแต่แล้วหมุนตัวกลับพุ่งเข้ากอดจางกลิ้งไปใกล้ริมธาร อาเห่าจะยิงเทวัญ รามกระโจนเข้าใส่ซัดกันนัวเนีย ระเบิดในมือเทวัญหล่นข้างตัวจาง
จางจะคลานหนีเทวัญรวบขาไว้แน่น แล้วแย่งรีโมทจากมือกดทันที นาฬิกาตั้งเวลาเริ่มเดินนับถอยหลังแค่ 3 วินาที จางตาเหลือกกระเสือกกระสนจะหนี เทวัญกอดไว้แน่น
“จะไปไหนเล่า เรามาตายพร้อมกันเถอะ”
รามตกใจตะโกนลั่น
“อย่า !”
เมขลาตกใจมองไปทางเทวัญ ระเบิดดังสนั่น เมขลากรีดร้อง
“คุณเทวัญ !”
ตำรวจที่วางแผนร่วมกับเทวัญและรามไว้แล้ว มาจอดรถซุ่มอยู่ ดักรอเพื่อเข้าจับกุมงงกันไปหมดเมื่อได้ยินเสียงระเบิด
“บุกเข้าไป”
ก้องภพนำกำลังเข้าไป ธิดาจะตาม ภาคภูมิกันไว้สั่งอย่างเร็วๆ
“คุณรอฟังข่าวอยู่ที่นี่ ดาบดูแลด้วย”
“ครับผู้กอง”
ยงยุทธดึงเธอไว้ ธิดาสะบัด
“ปล่อยฉัน พี่ชายฉันอยู่ข้างใน ฉันจะไปด้วย”
ภาคภูมิหันมาจ้องหน้าไม่พอใจ
“คุณโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว หัดฟังเหตุผลคนอื่นบ้างเค้ากำลังจะฆ่ากันตาย คุณจะช่วยอะไรได้”
ธิดาหงอไม่กล้าหือ ภาคภูมิรีบวิ่งตามพวกก้องภพไป
เมขลาตะเกียกตะกายลุกขึ้นจะไปตรงริมลำธาร โดยไม่รู้ว่ารามช่วยเทวัญกระโจนลงน้ำไปแล้ว อาเห่าเห็นสภาพนายตายคาที่ แค้นมากคว้าปืนที่พื้นจะยิงใส่เมขลา ก้องภพโผล่มายิงใส่อาเห่าตายไป ตำรวจและภาคภูมิตามเข้ามา เห็นเมขลาร้องไห้สะอึกสะอื้นตามองไปทางศพจางที่อยู่ริมธาร ภาคภูมิและตำรวจมองไปทางศพของจางคิดว่าเธอมองศพเทวัญกับราม
เช้าวันใหม่...เมขลาอยู่ในชุดดำไว้ทุกข์ยืนเหม่อซึม หมวยในชุดดำเดินตรงมาหา
“พี่เม ขอบคุณนะคะที่แวะมา”
เมขลาหันมาจับมือหมวยปลอบใจ หมวยร้องไห้สะอึกสะอื้น
“หมวยผิดมากที่เป็นสาเหตุให้เฮียเหลียง ต้องกลายเป็นผู้ร้ายแล้วเขายังต้องมาตายเพื่อหมวย”
“แต่พี่ว่า เหลียงเขาคงภูมิใจที่ทำอะไรเพื่อคนที่เขารัก”
“แต่หมวยไม่ได้ทำอะไรให้เขาเลย”
“หมวยจัดงานศพให้เขา นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดที่หมวยได้ตอบแทนเขาแล้ว เลิกเสียใจและหยุดโทษตัวเองนะจ๊ะ”
หมวยพยักหน้า
“หมวยจะเข้มแข็งให้ได้ครึ่งหนึ่งของพี่เมค่ะ”
เมขลายิ้มวางกล่องแหวนเพชรบนมือ หมวยเปิดดู มองหน้าเมขลา
“คุณบุญเลี้ยง ฝากพี่ไว้ สั่งพี่ว่า ถ้าเขาเป็นอะไรไปก็ให้มอบแหวนแต่งงานวงนี้ให้หมวยด้วย”
หมวยร้องไห้โฮกอดเมขลาแน่น เมขลาหน้าหมองลง
ธิดาลากกระเป๋าออกมาจากห้องนอน ภาคภูมินั่งเก๊กไม่กล้าห้ามไม่ให้ไป
“ขอบคุณนะคะที่ให้ที่อยู่ที่กินกับฉัน” ธิดาวางเงินให้บนโต๊ะ “นี่เป็นค่าเช่า แล้วก็ ค่าน้ำ ค่า...”
ธิดายังพูดไม่จบ ภาคภูมิหยิบเงินขึ้นมาคว้าข้อมือธิดาแล้ววางเงินคืนบนมือ
“ถือว่าช่วยกันในฐานะ...เออ เพื่อนมนุษย์ ผมไม่ส่งนะ พอดีมีงานคั่งค้าง”
ภาคภูมิรีบเดินเข้าห้องตัวเอง เพราะไม่รู้จะทำอย่างไรดี กลัวปล่อยความอ่อนแอออกไป
ธิดารู้สึกเศร้าคิดว่าภาคภูมิคงไม่มีใจด้วย...
ภาคภูมิ ยืนพิงประตูอยู่ ได้ยินเสียงประตูปิดปัง เขารีบเปิดประตูห้องนอนออกไป
“เดี๋ยว...”
ภาคภูมิชะงักเพราะไม่เห็นธิดาแล้ว
ธิดาหิ้วกระเป๋าออกมาหน้าคอนโด เทวัญมีผ้าพันที่ศอกจากที่โดนสะเก็ดระเบิด ยืนรอที่รถค่อยๆหันกลับมาแล้วเข้าไปช่วยหิ้ว
“เรายังพอมีเวลาก่อนขึ้นเครื่อง น้องอยากไปไหนก่อนมั้ยจ๊ะ”
ธิดาคิดๆเกิดความลังเล รีบจับมือเทวัญที่จะหิ้วกระเป๋าไป
“พี่เทพ...น้องไม่อยากไปแล้ว น้อง น้องอยากอยู่เมืองไทย”
เทวัญมองขึ้นไปบนคอนโด แล้วยิ้มๆ
“น้องมีคนที่ดูแลดีกว่าพี่แล้วใช่มั้ยล่ะ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย พี่เทพต้องสำคัญกว่าใครๆอยู่แล้ว”
เทวัญขยี้หัวน้องสาว
“เด็กโง่ ถ้ามีคนดีๆดูแลน้องแทนพี่ พี่ก็เบาใจ”
“เบาใจเพราะพี่เทพจะได้บินไปพร้อมกับยัยเมสองต่อสอง โดยไม่มีน้องไปเป็นก้างขวางคอล่ะสิ รู้ทันหรอกน่า”
เทวัญไม่ตอบมีเพียงรอยยิ้มระบายบนใบหน้า
อ่านต่อหน้า 4
นางฟ้ากับมาเฟีย ตอนที่ 22 (ต่อ)
ภาคภูมิเดินไปเดินมาอยู่ภายในห้อง ครุ่นคิดและตัดสินใจไม่ถูกว่าจะทำอย่างไรดี
“เอาไงดี นายตามไปตอนนี้ก็ยังทันนะ แต่ถ้าเกิดเค้าด่ากลับมา ขายหน้าตาย”
ภาคภูมิตัดสินใจจะไป ทันใดนั้นธิดาเปิดประตูเข้ามาพอดี ภาคภูมิชะงัก
“โอ๊ย หิ้วไปหิ้วมาหนักจะแย่อยู่แล้ว นี่ผู้กองยืนเฉยทำไม ช่วยออกแรงยกหน่อยสิ”
“คุณกลับมาอีกทำไม” ภาคภูมิงง
“พี่ชายฉันคงจะไปสวีทกับยัยเมที่ฝรั่งเศส ขืนฉันตามไป ก็คงหง่าวอยู่คนเดียว” ธิดามองภาคภูมิ “หรือว่าผู้กองไม่อยากให้ฉันอยู่ด้วย ฉันจะได้ไปพ้นๆ”
ภาคภูมิดีใจโผเข้ากอด ธิดายืนตัวแข็งไม่คาดฝัน
เมขลามาหาละมุนที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ละมุนจับมือเมขลาอย่างดีใจ
“หมดเคราะห์หมดโศกเสียทีนะจ๊ะหนูเม โชคดีเหลือเกินที่หนูไม่เป็นอะไร”
“เมเป็นหนี้ชีวิตของคนสองคนค่ะน้ามุน คนหนึ่งยอมแลกชีวิตตัวเองเพื่อปกป้องเม”
เมขลานึกถึงตอนที่ เทวัญกอดเฮียจางไว้เพื่อจะระเบิดไปด้วยกัน เมขลามองไปทางเทวัญ รามซัดอยู่กับลูกน้อง เทวัญมองรามเป็นครั้งสุดท้าย
“ฝากคุณเมด้วย”
“อย่า !”
นาฬิกาจับเวลาถอยเหลือหนึ่งวินาที รามกระโจนเข้าหาเทวัญพากระโจนลงน้ำ ก่อนระเบิดทำงานแค่เสี้ยววินาที เมขลาตะโกนลั่น
“คุณเทวัญ!”
เมื่อนึกถึงภาพนั้น เมขลายังกลัวไม่หาย
“ส่วนอีกคน...ก็ยอมเสี่ยงตายเพื่อช่วยชีวิตคนอื่น”
“แล้วหนูจะตัดสินใจยังไง หนูต้องเด็ดขาดแล้วนะ ปล่อยคาราคาซังไว้อย่างนี้ไม่เป็นผลดีกับใครเลย” ละมุนถาม
เมขลาตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกราม
“เมจะปล่อยไปตามที่หัวใจเมต้องการค่ะ”
ละมุนยิ้มพอใจ ขณะเดียวกันนั้นเสียงมือถือของเธอดังขึ้น เมขลากดรับสาย
“ฮัลโหล ได้ค่ะ ฉันกำลังจะไปให้ปากคำที่ปปส.อยู่พอดี ค่ะแล้วเจอกันค่ะคุณเทวัญ”
ละมุนหน้าไม่ค่อยดี เมขลายิ้มอายๆ
“น้าละมุนไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ เมไม่ไปจากคนดีของน้าหรอก เสร็จจากให้การแล้ว เมจะยอมเป็นฝ่ายงอนง้ออีตาหน้ายักษ์เอง พอใจมั้ยคะ”
ละมุนพยักหน้าดีใจสวมกอดเมขลา
ก้องภพอยู่ในห้องทำงานกำลังจับมือกับเทวัญ โดยรามยืนมองอยู่ด้วย
“ผมจะมาลาท่าน บ่ายนี้ผมจะบินไปฝรั่งเศสครับ”
ภาคภูมิเปิดประตูผางเข้ามาไม่มองใครเลย
“ผู้กอง รู้หรือเปล่าคุณเมจะไปฝรั่งเศสกับนายเทวัญ ผู้กองช้าไม่ได้แล้วนะ ต้องรีบทำอะไรสักอย่าง”
ก้องภพกระแอม ภาคภูมิเห็นเทวัญ หน้าเจื่อนยิ้มแหยๆ ก้องภพต้องรีบเปลี่ยนเรื่องคุยกับเทวัญ
“ทำไมกะทันหันนัก ผมตั้งใจจัดเลี้ยงขอบคุณที่คุณเทวัญให้ความร่วมมือกับเราอย่างเต็ม ที่ถ้าไม่ได้คุณ เราคงทลายแก๊ง เฮียจางได้ยาก”
เทวัญหันมามองหน้าราม
“คงเพราะผมได้คู่หูที่ดีครับ”
รามยิ้มรับที่ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี เขานึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ขณะที่เขานั่งประชุมอยู่กับ ก้องภพ ภาคภูมิ ยงยุทธ เพื่อวางแผนเรื่องทะลายแก็งค์เฮียจาง เทวัญได้มาพบ บอกว่าเขารู้จักวิธีที่จะติดต่อกับเฮียจางได้ และเขาก็ช่วยจนทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี
รามมองเทวัญ
“แต่คุณก็บ้าบิ่นไม่ยอมทำตามแผนที่ตกลงกัน”
“นายยังรู้จักเฮียจางน้อยกว่าฉัน มันไม่มีทางปล่อยคุณเมกับฉัน อย่างที่มันรับปากหรอก ถ้าฉันไม่ลงมือก่อน พวกเราก็ต้องตายหมดอยู่ดี”
“ด้วยการยอมให้ตัวเองแหลกไปกับมันเนี่ยนะ คิดบ้าๆ”
เทวัญยื่นมือให้รามจับ
“ครั้งนี้ฉันเป็นหนี้ชีวิตนาย”
รามยินดีจับมือด้วยอย่างเต็มใจ
“เห็นหรือยัง ไม่ว่ายังไงผมก็แน่กว่าคุณเสมอ”
เทวัญยิ้มเพราะรู้รามล้อเล่น รามซึมลง
“แต่ถึงจะแน่กว่าในเรื่องลุยกับผู้ร้าย สำหรับเรื่องความรัก ผมแพ้คุณราบคาบ”
เทวัญมองหน้า
“หมายความว่า ถ้าตอนนี้คุณเมเค้าเกิดยืนยันว่ารักฉัน นายก็จะยอมแพ้”
“เขาอาจจะทนนิสัยเถื่อนๆ พูดหวานๆไม่เป็น เอาใจไม่เก่งอย่างผมไม่ได้ ถ้าอยู่กับผมแล้วไม่มีความสุข ผมก็จะปล่อยเขาไป”
ขณะเดียวกันนั้น เมขลาออกมาจากห้องสอบสวน ห่างจากรามกับเทวัญคุยกันเล็กน้อย เธอเห็นสองคนคุยกันอยู่จึงหยุดฟัง
“แน่ใจนะ”
รามหัวเราะขื่นๆ
“คนอย่างผมคงไม่เหมาะจะรักใคร ความรักของผมคืองานไม่แน่นะ ถ้าผมตัดสินใจแต่งกับงานซะ ชีวิตผมอาจจะไม่ต้องวุ่นวายอย่างงี้”
เมขลาอึ้งน้อยใจรามสุดๆเพราะอุตส่าห์ตั้งใจจะมาคืนดีด้วย เธอน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัวปาดน้ำตาทิ้งเพราะแค้นใจ รำพึงในใจอย่างเจ็บใจ
‘ก็ดี งั้นก็อยู่กับงานไปจนตายเถอะ’
เทวัญเดินออกมา เมขลดักรออยู่
“คุณเม”
“ฉันให้ปากคำเสร็จพอดีค่ะ ให้ฉันไปส่งคุณนะคะ”
“อย่าเลยครับ ถ้าคุณไป ผมคงตัดใจไม่ได้”
“คุณเทวัญ อย่าว่าฉันขี้แยเลยนะคะ ตอนนี้ฉันรู้สึกเศร้ามากมันเหมือน” เมขาพูดอย่างกล้ำกลืน “เทวดาประจำตัวฉัน กำลังจะหายไป”
“แต่เทวดาที่ว่ากลับไม่มีฤทธิ์เดชเอาชนะใจนางฟ้าได้ เพราะนางฟ้ายกหัวใจไปให้มาเฟียรามสูรซะแล้ว”
เมขลาอึ้งไป
“คุณเทวัญ”
“น้องหมวยบอกผมว่า คุณเป็นรักแรกของราม ผู้ชายที่เคยแต่จับปืนอย่างเขา เลยทำตัวไม่ถูก”
“แต่เขาก็ไม่เคยบอกว่ารักฉันเลย”
“คำนั้นมันไม่สำคัญหรอกนะครับ”
“ลูกกำพร้าอย่างฉันไม่เคยมีแม่คอยบอกรัก ฉันได้แต่ฝันว่าสักวัน ฉันจะได้ยินมันจากปากคนที่ฉันรัก ฉันผิดตรงไหน ที่อยากได้ยินคำนี้”
เมขลาร้องไห้โฮ เทวัญเข้าไปกอดปลอบโยน
“ผมมั่นใจว่าวันหนึ่งคุณต้องได้ยินคำนั้น ลาก่อนนะครับ”
“ลาก่อนค่ะ”
รามเดินมาเห็น ก็มองอย่างเจ็บปวดใจก่อยจะเดินผละออกไป
อาทิตย์ต่อมา...เย็นขับรถ โรสถือโทรโข่งป่าวประกาศ
“มาแล้วจ้า แตงโมจินตราของแท้ เนื้อแดงสด รสหวานฉ่ำถ้าไม่หวาน เอามาปาหัวสามีหนูได้”
เย็นค้อน
“น้องโรสอ่ะ ใจร้ายกับพี่เย็นอยู่เรื่อยเลย”
ทรงวาดกับแม่แจ่มออกมายืนหน้าบ้าน แจ่มกวักมือเรียก
“แวะทางนี้หน่อยจ้า หนูโรส”
โรสเห็นทรงวาดก็ยิ้มดีใจ
“คุณแม่ จอดๆพี่เย็น คุณแม่จะซื้อแตงโม”
เย็นกับโรสขนแตงโมเข้ามาในบ้านบริเวณหน้าตึก มีทั้งที่ซิ้อและที่แถม
“ของซื้อของขาย เอามาแถมอย่างนี้จะเหลือกำไรเหรอจ๊ะ”
เย็นยิ้มอย่างอ่อนโยน
“ให้ผมได้ตอบแทนบ้างเถอะครับ ถ้าคุณทรงวาดไม่ออกรถกระบะให้ เราก็คงไม่มีปัญญา”
ทรงวาดยิ้มตอบ
“ฉันช่วย เพราะไม่อยากให้เธอสองคนกลับไปเดินทางเก่า แล้วอีกอย่างหนูโรสก็เป็นเพื่อนกับหนูเมด้วย ช่วยได้ก็ช่วยกันไปนะ”
“พูดแล้วน้อยใจ เมมันใจดำไม่ยอมติดต่อมาหาหนูเลย” โรสบ่น
ทรงวาดถอนใจ
“เฮ้อ คนหนึ่งก็เงียบหาย อีกคนก็ร่ำร้องอยากไปเป็นตำรวจลับ ดีนะที่ท่านไม่อนุญาต ไม่งั้นแม่คงช้ำใจตาย”
รามนั่งซึมกดคอมดูไปมา เป็นรูปตอนที่เขาแต่งงานกับเมขลา ก้องภพเข้ามามองๆ
“ถ้าอยากกลับไปเป็นตำรวจลับฉันจะไม่ขวางนาย แต่ช่วยกลับไปสำรวจใจตัวเองให้ดีก่อนถ้าไปเพราะต้องการประชดความรัก ก็เลิกคิดได้ งานของชาติไม่ใช่ศาลาพักใจของใคร”
“ผมแน่ใจครับ”
ก้องภพส่ายหน้าเดินออกไป ภาคภูมิกับธิดาเข้ามา
“เฮ้...รามอยู่นี่พอดี ฉันมีรูปร้านกาแฟของพี่เทพที่ฝรั่งเศสมาให้ดู หุ้นส่วนพี่เทพสวยน่าดูเลยด้วย”
ธิดาหยิบไอแพดมาเปิด
“อย่าแกล้งผมเลย ทั้งคุณทั้งพี่ชายกำลังอินเลิฟ เห็นใจคนไม่มีความรักอย่างผมมั่ง”
ธิดายิ้มๆ
“ฉันน่ะใช่ แต่พี่เทพ ตั้งแต่ถูกเมียนายหักอกก็ยังไม่ยอมมองใครเลย”
“อะไร...เมอุตส่าห์ตามพี่คุณไปถึงฝรั่งเศส เขาก็ต้องรับรักพี่คุณแล้ว”
ธิดาหันไปมองกับภาคภูมิ
“ผมว่าผู้กองเข้าใจอะไรผิดแล้ว มิน่าถึงอยากไปเป็นตำรวจลับนัก”
ภาคภูมิยืนไอแพดให้ดู เป็นภาพเทวัญถ่ายที่ป้ายร้านกาแฟกับฝรั่งผู้หญิง รามมองแล้วหน้าตื่น
“นี่ไม่ใช่เมนี่”
“ตอนแรกฉันก็เข้าใจว่าพี่เทพอยู่กับเม แต่ก็ไม่ใช่”
ภาคภูมิตบบ่าเบาๆ
“พลาดแล้วครับผู้กอง”
รามอึ้งไปเลย
“แล้วเมอยู่ที่ไหนล่ะ”
เมขลามาที่หอคอยโซล เธอไขกุญแจคู่รักแยกออกจากกันแล้วโยนกุญแจทิ้งตามธรรมเนียม แต่ยังมองด้วยความอาลัยในบางสิ่ง
เมขลาเดินซึมก้มหน้าก้มตามาด้านล่างหอคอย รุจเดินคลอเคลียมากับหนุ่มเกาหลี ต่างคนเดินสวนกันไม่ทันมอง เมขลาชนไหล่หนุ่มเกาหลี
“ขอโทษค่ะ”
เมขลาพูดโดยไม่เงยหน้ามองแล้วเดินเลยไป รุจชะงักเอะใจ
“ชะนีนางนี้หน้าตาคุ้นๆ เหมือนเคยป้อนกล้วยป้อนน้ำกันมาก่อน”
รุจหันไปมอง เพ่งๆ จำได้ ดีใจสุดขีด
“นัง...” รุจนึกได้รีบปิดปากตัวเอง “จะให้มันรู้ตัวก่อนไม่ได้”
เมขลาหันมาทางรุจพอดี รุจรีบกอดหนุ่มเกาหลี พยายามหลบหน้าหลบตาไม่ให้เมขลาเห็นแล้วหยิบมือถือออกมา โทรหาราม
รามสะพายเป้ วิ่งไปที่รถอย่างรีบร้อน ทรงวาดรีบวิ่งมาดึงไว้
“แม่ยังไม่ให้ลูกไปนะ กลับเข้าบ้านเดี๋ยวนี้”
รามโวยวายเป็นชุด
“ผมจะไปตามลูกสะใภ้คนโปรดกลับมาให้แม่ แม่จะห้ามผมทำไม ผมไม่เข้าใจอารมณ์ผู้หญิงเลยจริงๆเอาใจไม่ถูกแล้วเนี่ย”
ทรงวาดมองๆ
“ลูกจะไปทั้งสภาพอย่างนี้หรือจ๊ะ แน่ใจนะ แม่จะได้ไม่ห้าม”
รามมองสภาพตัวเอง อยู่ในชุดเสื้อยืดคอกลมง่ายๆ กางเกงขาสั้นแบบใส่นอน ไล่ลงไปเห็นใส่รองเท้าผ้าแบบเดินในห้องนอน รามยิ้มแหยๆ
“คือผมไม่ได้รีบร้อนนะครับแม่ แค่ลืมตัวไปนิดเดียว”
ทรงวาดยิ้มขำ
“จ๊ะแม่เชื่อ อาการยังไม่หนักเท่าไหร่หรอกลูก”
วันใหม่...เมขลาเดินเล่นชมอาคารหลากสีเห็นหนุ่มสาวเป็นคู่ เธอก็ซึมเศร้าลงคิดถึงราม จากนั้นเธอได้ขี่จักรยานผ่านดงสนสองข้าง ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงร้องดังมา
“โอ๊ยๆๆๆ”
เมขลามองไปข้างหน้า เห็นรุจที่ใส่หมวกไหมพรมปกปิดหน้ากำลังชกท้องราม เมขลาเห็นรามจากด้านหลัง เห็นเขาโดนชกหลายทีตัวงอ ล้มหน้าคว่ำลงไป เมขลากระโดดจากรถจักรยาน วิ่งไปหา
“หยุดนะ”
รุจวิ่งหนีไปทันที เมขลาวิ่งไล่ผ่านร่างรามไป รุจหันไปมองเห็นเมขลาวิ่งตามมาก็บ่นงึมงำกับตัวเอง
“แกจะวิ่งตามฉันมาทำไมนังเม ไปดูแฟนแกนอนพะงาบๆอยู่นู้น ไป๊”
เมขลาวิ่งตามพร้อมกับตะโกนไปด้วย
“ทำร้ายคนอื่นแล้วคิดหนีเอาตัวรอด อย่าหวังเลยฉันจะต้องจับแกไปส่งตำรวจ”
รามนอนอยู่ เงยหน้ามองเมขลาที่วิ่งไล่รุจอย่างเซ็งๆ
“หมดกัน ผิดแผนหมด ดันไปไล่จับคนร้ายซะงั้น จุ้นเรื่องชาวบ้านไม่เลิกจริงๆ ยัยตังเม”
เมขลาตามทันกระโจนล็อกคอ ขี่หลังรุจ
“แกหนีไม่รอดหรอก”
เมขลาดึงหมวกไหมพรมออก รุจตกใจแต๋วแตกทันที
“ว้าย แม่เจ้า แค่กๆ”
รุจหายใจไม่ออกตาเหลือก รามเห็นท่าไม่ดี รีบแกล้งร้องลั่น
“โอ๊ย...คุณ...คุณช่วยผมด้วย”
เมขลายังไม่ทันได้เห็นหน้ารุจ หันไปดูรามเสียก่อนเห็นเขานอนดิ้นพลาดๆกลิ้งไปกลิ้งมา เมขลาปล่อย รุจเลยผลักแล้ววิ่งหนี เมขลาเงอะงะเอาไงดี ตัดสินใจวิ่งไปหา รามหันหลังให้เธออยู่ รีบควักผ้าเช็ดหน้ามีน้ำแดงติดที่ผ้าวงใหญ่คล้ายเลือดแล้วเอาผ้าปิดจมูกบังๆหน้าไว้ครึ่งหน้า เมขลาหงายหน้าเขามาหา
“คุณ...คุณเป็นยังไงบ้าง เจ็บมากมั้ย เลือด!”
รามทำเสียงแปล่งๆ
“สงสัยจะจมูกหักครับ”
“คุณเป็นคนไทยหรือคะ มาค่ะ ฉันจะช่วยห้ามเลือดให้ก่อน”
เมขลาดึงผ้าเช็ดหน้าออก เห็นหน้าเขาเต็มๆ รามยิ้มให้ เมขลาชะงักอึ้ง
“คุณ”
รามยิ้มทะเล้นใส่
“ในที่สุดผมก็ตามเมียรักจนเจอ เมียกลับมาที่นี่เพราะคิดถึงวันแรกที่เราเจอกันใช่มั้ยจ๊ะ โถ...ถ้าอยากมาก็น่าจะบอกกันดีๆก็ได้”
เมขลาเอาผ้าปาใส่หน้าเขา
“ไอ้คนลวงโลก ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ”
ขาดคำเมขลาก็กระแทกหมัดใส่หน้าเขาจนหงายหลังไป
“โอ๊ย”
เมขลาวิ่งไปที่จักรยานปั่นหนีไปทันที รามลุกขึ้นวิ่งตามไป
“เม...คุณคิดจะหนีผมไปถึงไหน ต้องการอะไร ทำไมไม่มาคุยกันดีๆ ผมก็สารภาพเรื่องที่หลอกคุณไปหมดแล้ว แล้วคุณยังไม่พอใจอะไรอีก”
“ฉันไม่ได้หนี แต่ฉันพาคุณกลับมาหาคุณแม่ได้แล้วหน้าที่ของฉันมันก็จบ เรื่องที่เราจดทะเบียนกัน มันก็แค่เรื่องหลอกๆ ที่ฉันไม่อยากเอามาเป็นเครื่องผูกมัดคุณ ฉันจะหย่าให้”
เมขลาปั่นเร็วขึ้น รามวิ่งไปหอบไป
“แต่ผมไม่หย่า”
เมขลาจอดรถหันมาหา
“เพราะอะไรถึงไม่หย่า คุณคิดจะแกล้งฉันหรือ”
ราม อึกอักอายที่จะพูด
“คือ...แต่งแล้วหย่าไม่ดีนะคุณ...คุณก็จะได้ชื่อว่าเป็นแม่ม่าย ส่วนผมก็เป็นพ่อม่าย ฟังดูไม่ดีเลย”
“แต่ฉันไม่แคร์ ดีกว่าทนอยู่กับคนที่ไม่รัก”
“อ๋อเข้าใจแล้ว คุณอยากหย่าเพราะไม่ได้รักผมนี่เอง”
เมขลายิ่งโมโหที่รามโยนความผิดให้
“ฉันหมายถึงคุณไม่ได้รักฉัน”
“แล้วคุณรักผมหรือไง”
เมขลาโมโหสวนไปไม่ทันคิด
“ไม่รัก ฉันทำตามหน้าที่ ก็เหมือนกับที่คุณเป็นตำรวจหน้าที่ของคุณมันสำคัญยิ่งใหญ่กว่าทุกอย่างแม้กระทั่งตามฉันมาที่นี่ ก็คงทำหน้าที่ลูกที่ดี เพื่อคุณแม่เหมือนกัน”
รามจ๋อยไป เมขลาเองก็ใจเสียใจที่พูดออกไป
“คุณกลับไปเถอะ คุณพยายามอย่างที่สุดแล้ว คุณแม่คงไม่ตำหนิคุณหรอก ฝากกราบขอโทษคุณแม่ด้วย”
เมขลาปั่นจักรยานไป รามยังยืนนิ่งมองเมขลาที่ปั่นจักรยานไกลออกไปทุกที เมขลาเองก็น้ำตาไหล เบ้หน้าร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมา
“คนผีทะเล คนใจดำ ฉันไม่มีคุณฉันก็อยู่ได้ เพราะฉันคือนางฟ้า นางฟ้าไม่จำเป็นต้องมีคู่หรอก ฮือๆๆ”
รามเสียใจตะโกนไล่หลัง
“อยากไปก็ไปเลย ไม่มีคุณผมก็อยู่กับงานได้ ดีเสียอีกไม่ต้องมีเมียคอยกวนใจ มีความสุขเป็นบ้าเลยโว้ย”
เมขลาหันหน้าตะโกนกลับมา
“ฉันเป็นโสดแล้ว โอ๊ย...มีความสุขจริงๆเลยค๊า”
เมขลาร้องตะโกนอย่างร่าเริงทั้งที่น้ำตาอาบแก้ม จับแฮนด์มือเดียว อีกมือโบกมือทำดีใจ รามทนไม่ไหวตัดสินใจวิ่งไปเต็มฝีเท้าเพื่อให้ทันจักรยาน รามวิ่งเลยหน้าไป เมขลางง รามหันกลับมายืนขวาง พูดเร็วๆเพราะเขิน
“พูดตรงๆ ก็ได้ ความจริงแล้วผมอยากให้คุณคอยกวนใจผม ผมอยากได้ยินเสียงด่าของคุณทุกวัน ความรู้สึกแบบนี้ มันใช่รักหรือเปล่า ถ้าใช่ ผมก็คงรักคุณตั้งนานแล้ว หรือไม่ ผมก็คงเป็นโรคจิต”
เมขลามัวแต่ฟังเขาพูด รถเสียหลัก จักรยานส่ายไปมา
“อ๊าย”
จักรยานล้มทับตัว เมขลานอนคราง รามตกใจ
“เม”
รามรีบเข้าไปยกจักรยานออก ประคองเธอขึ้นมา
“คุณช่วยพูดใหม่อีกครั้งได้มั้ย ฉันไม่ทันได้ฟัง”
“ผมขี้เกียจพูดแล้ว ทำจริงเลยดีกว่า”
รามดึงเมขลาเข้ามาจูบ เมขลาตาค้าง แล้วหลับตานิ่งอย่างมีความสุข แต่ทันใดนั้นเธอก็เจ็บขาขึ้นมา
“อู๊ย”
รามตกใจ รีบดู
“ขอโทษๆ ผมลืมไปว่าคุณกำลังเจ็บ”
“เพราะคุณนั่นแหละ ถ้าฉันขาเป๋ไปจะทำยังไง”
“ผมก็จะอุ้มไว้อย่างนี้ไง มือหนึ่งถือปืนไล่จับโจร อีกมืออุ้มเมียพาดบ่า เข้าท่าดีนะ”
“ไม่มีใครเขาบ้าทำอย่างที่คุณพูดหรอก”
ขณะเดียวกันนั้น รุจวิ่งร้องลั่นมาหา
“ช่วยด้วย ผู้กองช่วยจับมันที มันล้วงกระเป๋าผม”
ผู้ร้ายวิ่งผ่านหน้าไป รามตะโกนสั่งทันที
“หยุด...นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ”
รามคว้าตัวเมขลาพาดบ่าแบกวิ่งไล่โจรไป เมขลาร้องลั่น
“ว้าย...ปล่อยฉันลงก่อน อีตารามสูร”
รามยังคงอุ้มเมขลาพาดบ่าวิ่งไล่ล่าผู้ร้ายอย่างไม่รู้เหนื่อย เป็นการปฏิบัติภารกิจที่รามแสนจะมีความสุข เพราะมีเมขลาอยู่เคียงข้าง โดยมีรุจวิ่งตามไปห่างๆ
จบบริบูรณ์