xs
xsm
sm
md
lg

นางฟ้ากับมาเฟีย ตอนที่ 4

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นางฟ้ากับมาเฟีย ตอนที่ 4

รามยืนรอฟังผลอย่างกระสับกระส่าย ไม่นานนักเย็นเดินมาหา รามรีบถาม

“ผมผ่านการทดสอบไหมพี่เย็น”
“ผ่านอยู่แล้ว”
รามดีใจ
“แล้วพ่อเลี้ยงให้ผมทำหน้าที่อะไร”
“งานของเอ็งสำคัญมาก”
“จริงเหรอ พี่ พ่อเลี้ยงให้ผมเป็นบอดี้การ์ดใช่มั้ย”
“เปล่า พ่อเลี้ยงให้เอ็งเป็นลูกน้องข้า ดีใจมั้ยวะ”
เย็นกอดคอ รามเซ็ง
“เอ่อ...เหรอ ก็ยังดี ดีใจมากครับ”
รามเซ็งแต่จำใจฝืนยิ้มให้เย็น
“ก็ต้องอย่างงั้นซิ ไป”
“ไปไหนพี่ พ่อเลี้ยงมีงานใหญ่ให้ผมใช่มั้ยพี่”
เย็นยิ้มไม่พูดอะไร

ปองธรรมตบหน้าแสงฉาดใหญ่จนหน้าหัน ขณะที่อยู่ด้วยกันที่ห้องลับในบ้าน
“เรื่องใหญ่อย่างนี้ แกคิดว่าจะปิดฉันได้เหรอ”
“ขอโทษครับพ่อเลี้ยง ต่อไปผมไม่กล้าแล้ว”
“แกก็รู้ว่าฉันเกลียดนัก ไอ้พวกที่เห็นฉันเป็นหัวหลักหัวตอ”
เทวัญรีบช่วยแสง
“พ่อครับ พี่แสงคงไม่อยากให้พ่ออารมณ์เสีย ในวันสำคัญของยัยน้อง ต่อไปพี่แสงก็อย่าทำอะไรพละการเองอีกก็แล้วกัน”
“ครับคุณเทวัญ”
ปองธรรมหันไปทางมุมห้อง คนร้ายมือระเบิดโดนมัดติดเสา หน้าบวมช้ำจากการโดนซ้อม แล้วเดินตรงไปที่ถาดใส่ถ่านร้อนๆ แล้วคีบขึ้นมาเดินตรงเข้าไปหา
“ใครส่งแกมา”
คนร้ายปิดปากเงียบ ปองธรรมจี้ถ่านร้อนๆที่หน้าอก คนร้ายจนร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด
“จะบอกหรือไม่บอก”
คนร้ายทนไม่ไหว
“บอกแล้ว บอกแล้ว แก๊งสิงห์ดำส่งฉันมา”
ปองธรรมแค้นจัด สั่งเทวัญ
“ตาเทพ พ่อมีงานให้แกทำ และต้องสำเร็จกลับมา”
เทวัญไม่ค่อยสบายใจ เพราะรู้ว่าต้องไปทำสิ่งที่ไม่อยากทำ

ที่บ้านพักตากอากาศ สิงห์ดำกำลังปล้ำกอดกับสาวๆ เสียงกริ่งประตูดังขึ้น
“หนูไปดูให้เองคะพี่สิงห์”
ผู้หญิงแยกตัวไปดูที่หน้าบ้านแล้วร้องกรี๊ดลั่น เพราะเห็นศพของคนร้ายมือวางระเบิดล้มมาใส่ตัวเอง
“กรี๊ดดด”
พวกลูกน้องสิงห์ดำหลายคนวิ่งออกมา พวกแสงและลูกน้องอีกนับสิบกรูลงมาจากรถที่จอดรออยู่
ลูกน้องสิงห์ดำชักปืนยังไม่ทันยิง ก็โดนแสงกับลูกน้องยิงดับ เทวัญเปิดประตูรถลงมาสั่ง
“เข้าไป”
เทวัญนำ แสงกับลูกน้องตามบุกเข้าบ้านพักสิงห์ดำ เจาะยิงลูกน้องสิงห์ดำที่ไม่ทันได้เตรียมตัวตายไปทีละคน
ฝีมือของฝ่ายแสงเหนือชั้นกว่ามาก บรรดาสาวๆของสิงห์ดำหวีดร้องหนีกันกระเจิง บรรยากาศวุ่นวาย เทวัญใช้ปืนซัดลูกน้องสิงห์ดำหมอบ บางคนก็โดนเทวัญยิงขา ยิงแขนอย่างไม่ตั้งใจให้ตาย เพราะไม่ต้องการจะฆ่าใคร
สิงห์ดำถือปืนออกมายิงใส่ เทวัญหลบทัน ยิงสวนกลับไปโดนขาสิงห์ดำ แสงยิงซ้ำอีกจนทรุด
เทวัญเดินออกไปหา สิงห์ดำยกมือไหว้
“อย่าๆ ไว้ชีวิตฉันด้วยเถอะ”
“อย่าไปฟังมันนะครับคุณเทวัญ มันคิดจะฆ่าพ่อเลี้ยงก่อน” แสงรีบอก
“ไม่จริง พ่อของแกต่างหากที่คิดไล่เด็ดหัวหัวหน้าแก๊งทีละแก๊ง เพราะต้องการฮุบพื้นที่หากินไว้คนเดียว ถ้าฉันไม่ลงมือก่อน คนที่ตายอาจเป็นฉัน”
“งั้นแกก็ตายมันวันนี้เลยแล้วกัน”
แสงจะยิง สิงห์ดำรีบกราบเทวัญ
“ขอให้ฉันได้ลาลูกลาเมียก่อน แล้วจะเอาชีวิตฉันก็เอาไปเลยฉันกราบขอร้องล่ะ ขอให้ฉันได้เห็นหน้าลูกก่อนเถอะ”
สิงห์ดำร้องไห้ฟูมฟายกราบไม่หยุด แสงกำลังเหนี่ยวไก เทวัญใจอ่อนจับข้อมือไว้
“ปล่อยเขาไป”
“ผมคงทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะถ้ามันรอด ผมก็ตาย คุณเทวัญคงรู้จักนิสัยพ่อเลี้ยงดี”
แสงจ้องหน้าเทวัญเพื่อให้เลือกว่าจะให้ใครตาย เทวัญเสียใจที่ต้องฆ่าคน ตัดสินใจหันหลัง แสงยกปืนขึ้น
“อย่าๆ”สิงห์ดำร้อง
เทวัญขบกรามแน่น เสียงปืนดังติดๆกัน 2 นัด เปรี้ยงๆ!

เมขลาพารุจมายืนมองที่หน้าไนต์คลับที่รามพักอยู่ รุจส่ายหน้าอย่างไม่อยากจะทำตามที่เพื่อนขอร้อง
“แกจะให้ฉันเข้าไปตามนายรามสูร ที่สำนักโคมเขียวนี่หรือ ฝันไปเหอะ”
เมจับแขนรุจไว้เหนียวแน่น
“แต่แกสัญญากับฉันไว้แล้วนะ ว่าแกจะช่วยฉัน”
“ที่ที่มีชะนียั้วเยี้ยอย่างนี้ ฉันเข้าไปได้ผื่นขึ้นปะไร”
“ได้ งั้นฉันจะบอกกับสเตฟานกิ๊กแก ว่าตอนนี้แกกำลังจีบกัปตันชาคริตอยู่”
“อุ๊ย นังเม แกเล่นมุขนี้เลยเหรอ”
เมหยิบมือถือ
“อย่านะ”
รุจรีบห้าม แล้วตัดสินใจยืดอก ทำท่าแมนและเพลย์บอยมาก ปัดจงอยผมลงมา เดินเอียงเข้าไปด้านใน เมขลายิ้มพอใจ
เมื่อเข้าไปด้านใน รุจมองหาราม เห็นสาวๆนั่งตามโต๊ะ มีเฮียแก่ๆกับพวกระดับวินมอเตอร์ไซด์นั่งเฮฮาอยู่ รุจเบ้ปาก สาวคนหนึ่งมองมาเห็นรุจพอดี รีบเดินเข้ามาหา
“สวัสดีค่ะ พี่รูปหล่อ มาคนเดียวเหรอคะ”
รุจนึกได้รีบเก๊กแมนยิ้มเฝื่อนๆให้
“ครับผม”
“อุ๊ย พูดเพราะด้วย ให้เอนั่งเป็นเพื่อนนะคะ”
สาวอีกคนเข้ามา
“ให้หนูบริการดีกว่าค่ะ นังเอ ของแกโต๊ะโน้นไปเลยไป”
“เอ๊ะ นังนี่ ฉันเจอพี่เขาก่อน”
“แต่มันคิวฉัน”
ทั้งสองคนดึงรุจไปมา รุจกรี๊ด
“อ๊ายยยย”
ทุกคนอึ้งมองหน้ารุจนึกได้ รีบพูดแก้
“อะแฮ่ม ลองเสียงน่ะ อยากร้องคาราโอเกะ ฮ้า ฮา ฮา ตกลงพี่เหมาหนูทั้งคู่เลยแล้วกันนะจ๊ะ จะได้หมดปัญหา”
สองสาวหยุดทะเลาะกันทันที หันมายิ้มให้รุจแทน

รุจเดินกึ่งวิ่งออกมาจากไนท์คลับ ด้วยท่าทางขยะแขยงสุดๆ เมขลาที่รออยู่ วิ่งมาหา
“รุจ”
“ฮือๆ นังเม ฉันเกือบเสียสาวให้นังชะนีแล้วนะแกรู้มั้ย แต่ละคน ยังกะปอบดูดเลือด”
รุจมีรอยลิปสติคเต็มตัว พยายามเอาผ้าเช็ดหน้าเช็ด
“อะไรนะ นี่อย่าบอกนะว่าแกวิ่งหนีออกมา โดยที่ยังไม่ได้เจอตารามสูรนั่น”
“เออ”
“รุจ ฉันผิดหวังแกจริงๆเรื่องแค่นี้ แกก็ทำให้เพื่อนไม่ได้ ต่อแต่นี้ฉันจะไม่ขอความช่วยเหลืออะไรจากแกอีก ฉันจะไปตายดาบหน้าด้วยตัวของฉันเอง”
เมขลาจะเข้าไป รุจเหนี่ยวไว้
“ปล่อย ไม่ต้องมายุ่ง ให้พวกแมงดามันจับฉันขายชายแดนไปเลย”
“หยุด ฟังก่อนนังละครหลังข่าว ที่ฉันออกมาเพราะนายรามสูรไม่ได้อยู่ในนั้น เขาไปทำงานที่อื่นแล้ว”
เมขลาเครียดทันที

สถานบันเทิงของปองธรรม มีทั้งคาเฟ่ คาราโอเกะ สนุกเกอร์ ด้านหน้ามีรปภ.มาดเข้ม ใส่ชุดสีทึมๆ เฝ้าหน้าประตูเป็นจุดๆเมื่อส่วนคาดเฟ่ เริ่มเปิดให้บริการ เย็นเดินซ่า ทักทายไปทั่ว รามตาม
“เฮ้ย รู้จักกันไว้นะ นี่ไอ้รามเด็กใหม่ที่จะมาช่วยงานข้า”
รามไหว้ไปทั่ว
“พี่เย็นคุมที่นี่ทั้งหมดเลยเหรอ” รามซัก
“งั้นซิ”
“แล้วพ่อเลี้ยงเข้ามาที่นี่บ่อยมั้ย”
“ไม่ ส่วนมากพ่อเลี้ยงจะให้คุณเทวัญเข้ามาแทน ลูกชายแกน่ะ แต่ไม่ค่อยได้เรื่องหร็อก อะไรๆก็ต้องพึ่งข้า”
“ พี่เย็นนี่เจ๋งน่าดู แล้วข้างบน ทำอะไรมั่งพี่”
รามมองอย่างตรวจตรา เห็นกล้องวงจรปิดตามมุม
“เสี่ยงโชค”
“บ่อนเหรอ”
เย็นยักคิ้ว
“แต่เอ็งเพิ่งมา ยังขึ้นไปไม่ได้ เดี๋ยวข้าจะฉลองรับน้องให้”
รามพยักหน้ารับ แม้ว่าเสียดายที่ไม่ได้ขึ้นไปสำรวจทันที

เมขลากับรุจมาถึงด้านหน้าของสถานบันเทิงปองธรรม
“แกแน่ใจนะว่าเป็นที่นี่” เมขลาชะเง้อมอง
รุจพยักหน้า มองไม่สบายใจ เมพยักหน้า
“งั้นไปลุยกันเลย”
รุจคว้าเมขลาไว้แทบไม่ทัน
“เดี๋ยว! เม ฉันว่า..แกน่าจะให้แม่บุญธรรมของแก จัดการกับลูกชายเขาเองมากกว่านะ”
“ทำไมแกพูดแบบนั้นล่ะ นึกปอดอะไรขึ้นมา”
“ไม่ได้ปอด แต่ฉันว่าแกอย่าไปยุ่งกับคนอย่างหมอนี่ดีกว่าในนั้นน่ะ ไม่ได้มีแต่ชะนีนะ แต่เสือ สิงห์ กระทิง แรดเพียบ ไม่คุ้มนะแก”
เมขลานึกถงที่รามเคยชู่เธอ...
‘ผมเคยบอกคุณแล้วนี่ว่ารูปร่าง หน้าตาอย่างคุณเนี่ย ออเดอเพียบ ท่าทางน่าจะช่ำชองซะด้วย...’
เมขลาชักสยอง
“ที่แกพูดมันก็จริง”
“งั้นก็กลับ”
เมขลาลังเล เดินตามรุจแต่ก็แว่บคิดถึงสิ่งที่ทรงวาดบอก
‘แม่อยากคุยกับรามให้รามเข้าใจแม่ แต่รามยังไม่ให้อภัยแม่เหมือนเดิม...แถมยังทำตัวแย่กว่าเดิม เหมือนเค้าตั้งใจจะฆ่าตัวเองทางอ้อม ถ้ายังเป็นแบบนี้อีกต่อไป แม่คงต้องเสียรามไปเหมือนๆ กับที่เสียลักษณ์แน่ๆ’
เมขลานึกถึงทรงวาดแล้วสงสารขึ้นมา และเปลี่ยนใจทันที...
“เดี๋ยว”
รุจหันมา
“ถ้าแกกลัวก็กลับไปก่อนไป”
รุจอึ้ง พูดไม่ออก ยืนมองเมขลาที่เดินเข้าไปอย่างมั่นใจ แล้วจำต้องตามเข้าไป พนักงานต้อนรับ เดินมาพาเมขลาไปที่โต๊ะ ระหว่างทางเมขลามองหารามให้ควั่ก
“อยู่ไหนของเขานะ”
มือรุจจับข้อศอก เมขลาสะดุ้ง
“ว้าย ปล่อยนะ” เมขลาคิดว่าถูกลวนลาม
“ฉันเอง”
เมขลาหันไปเห็นเป็นรุจก็ดีใจ
“ฉันคิดว่าแกกลับไปแล้วเสียอีก”
“ฉันมีชะนีอย่างแกเป็นเพื่อนคนเดียว เกิดแกเป็นอะไรไปฉันเหงาแย่”
“อย่างงี้ซิ ถึงเรียกว่าเพื่อนตาย”
“กี่ที่คะ” พนักงานเข้ามาถาม
“เห็นอยู่แล้วว่าสองยังจะมาถาม”
รุจหมั่นไส้ที่พนักงานเสิร์ฟสวยและเซ็กซี่มาก เมขลาหันไปพูดดีด้วย
“ฉันมาหาเพื่อนที่ทำงานอยู่ที่นี่ ชื่อราม”
พนักงานนิ่งคิดว่าเป็นใคร

รามกับเย็นนั่งดื่มเหล้าอยู่ด้วยกันมุมหนึ่ง เย็นเริ่มเมาแล้ว
“วันนี้เต็มที่เลยไอ้ราม ถือว่าข้าเลี้ยงตอบแทนที่เอ็งช่วยข้าที่เกาหลี ไม่เมาไม่เลิก”
“จะดีรึพี่ ผมมาวันแรก เดี๋ยวคนอื่นจะว่าเอา”
“ใครวะ ใครกล้ามาว่า พ่อจะตบกบาลเรียงตัวเลย เฮ้ย เด็กๆไปไหนกันหมดไม่มาบริการพี่ใหญ่เลย”
รามเซ็งมองไปเห็นเมขลาเดินนำรุจเข้ามา
“เอ๊ะ เมารึเปล่าวะ” รามขยี้ตาตัวเองอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
รามมองอีกที คราวนี้สบตากับเมขลา สะดุ้งรีบก้มหัวเอาตัวเย็นที่ยืนมองหาพนักงานบังไว้
“เฮ้ย หายหัวไปหมด เดี๋ยวพ่อตัดเงินเดือนเรียบเลย”
“พี่เย็น ผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
รามคลานมุดหนี เมขลาเห็นรีบตาม
“เม เม”
รุจร้องเรียก ขณะเดียวกันชนเข้ากับผู้ชายคนหนึ่ง ที่โอบผู้หญิงเดินมา
“โทษครับ เอ๊ะ”
รุจชะงัก เห็นชัดว่าเป็นสเตฟาน กิ๊กตัวเอง
“สเตฟาน”
“ลูซี่”
รุจมองมือที่สเตฟานโอบผู้หญิง
“แก ตาย”
สเตฟานวิ่งหนีออกไปนอกร้าน รุจวิ่งตามทันที
“ไฮ ยู จะไปไหน” ผู้หญิงโวยวาย

รามลัดเลาะ หนีไปหลบใต้เคาน์เตอร์บาร์ แล้วบอกให้บาร์เทนเดอร์เงียบ ยื่นเงินให้ ขณะที่เมขลาเดินเข้ามาถาม
“เห็นผู้ชาย สูงๆ ผิวคล้ำ มั้ยคะ”
“เห็นแวบไปทางโน้นนะครับ”
เมขลาเดินไปตามที่บาร์เทนเดอร์บอก แต่ไม่เห็นราม
บนเวที...โฆษกขึ้นประกาศ
“เอาละครับ วินาทีเวลาแห่งความสุขสำราญของท่านมาถึงแล้ว เราจะขอเชิญท่านพบกับนักร้องสาวเสียงหวาน ซึ่งจะมาขับกล่อมท่านให้เจริญอาหาร ทั้งอาหารตาและอาหารใจ”
เมขลานึกบางอย่างได้ทันที
“ฮึ นึกว่าจะหนีฉันพ้นเหรอ”
เมเดินไปที่เวที แย่งไมค์มา
“ขอโทษนะคะ”
โฆษกงง นักร้องที่ยืนข้างๆเตรียมออกก็งง
“ขอขัดเวลาความสำราญของทุกท่านซักนิดเถอะค่ะ เพราะ ขณะนี้ท่านกำลังมีความสุขอยู่บนความทุกข์ของคนอื่น”
ทุกคนงงๆ มองขึ้นไปบนเวที รามที่นั่งหลบอยู่คุ้นเสียงมาก โผล่ขึ้นมองไปที่เวที
“เฮ้ย”
รามตะลึง พิธีกรมองหน้าเมขลางงๆ
“คุณเป็นใครเนี่ย”
“ฉันเป็นตัวแทนของลูกผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ต้องเสียลูกชายไป เพราะเขาคนนั้นมัวมาหลงกับแสงสี ปล่อยให้แม่ต้องทุกข์ทรมาน ด้วยความรักความเป็นห่วง”
เทวัญเดินเข้ามาพอดี เห็นเมขลาก็หยุดมองอย่างตะลึงในความสวย ขณะที่รามเซ็งสุดๆ
“ยัยบ้าเอ๊ย”
เมขลายังคงว่ารามต่อไป...
“ขนาดแม่เขาล้มเจ็บอยู่โรงพยาบาล เขาก็ยังไม่แยแสกลับมาหาความสุขอยู่ที่นี่ แบบนี้เราควรเรียกเขาว่าอะไรคะ”
คนข้างล่างตะโกน
“ทรพี”
“ช่าย ทรพีๆๆๆ”
เมขลายิ้มพอใจที่มีคนเห็นด้วย รามทนไม่ไหว วิ่งออกไป
“หยุดนะ หยุดบ้าเสียที ลงมาได้แล้ว”
เมขลาชี้ไปที่ราม
“นั่นไงคะ ผู้ชายคนที่ฉันพูดถึง”
ทุกคนหันขวับมามอง รามหยุดกึก ลูกค้าที่เมาแอ่นเข้ามาก่อน
“เนี่ยเหรอ หน้าไอ้คนเนรคุณ ต้องสั่งสอน”
ลูกค้าต่อยแต่รามหลบ ลูกค้าคนอื่นกรูเข้ามา บางคนขว้างของ เมขลาสะใจ แต่พอเห็นรามโดนรุมเปลี่ยนเป็นตกใจวิ่งลงไปช่วย
“เวรแล้ว เฮ้ย”
รามเอาโต๊ะกันตัวเอง เย็นกับลูกน้องเข้าห้าม แต่ถูกลูกหลง เมขลาถูกเหวี่ยงกระเด็นมาเข้าอ้อมกอดเทวัญพอดี แสงวิ่งลงมาจากชั้นบน
“อะไรกันเนี่ย”
เทวัญตะโกน
“เปิดไฟให้หมด พี่แสง ตามเด็กเราข้างบนมาช่วยกันเร็ว”
เมขลาผละออก เป็นห่วงรามที่ยังอยู่ในวงล้อม


เย็นหน้าตา ฟกช้ำ ดึงรามมาหลบในห้องคาราโอเกะ มองรามที่ไม่เป็นอะไรอย่างเป็นห่วงเป็นใย
“เอ็งหลบในนี้ก่อน แล้วเป็นไงบ้างวะ”
“กระดูกกระเดี้ยวยังอยู่ครบพี่”
“ข้านึกว่าเอ็งจะเละเป็นโจ๊กแล้ว โดนสหบาทาขนาดนั้น”
“ขอโทษจริงๆพี่ ที่ทำให้วุ่นวายกันไปหมด”
เย็นจ้องหน้าราม ถามคาดคั้น
“แล้วเรื่องที่ผู้หญิงคนนั้นพูดเรื่องแม่เอ็ง มันเรื่องจริงเหรอวะ”
“ผมบอกแล้วไงพี่ ว่าเขามาตามตื๊อผม เขาก็ต้องทำทุกอย่างให้ผมไปกับเขา”
“นั่นไง ข้าว่าแล้วว่าเอ็งต้องไม่เลวขนาดนั้น พวกเราถึงจะโหดยังไง แต่เรื่องพ่อแม่นี่ต้องยกเว้น ไม่งั้นมันก็เดรัจฉานดีดีนี่เอง”
“แล้วผมจะโดนไล่ออกมั้ยพี่”
“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวข้าช่วยพูดให้”
แสงเปิดเข้ามา เย็นรีบบอก
“พี่แสง คือ เรื่องนี้ ไอ้รามไม่รู้อะไรด้วยนะ ผู้หญิงคนนั้นน่ะ...”
แสงตบหัวเย็นผัวะ
“ไอ้โง่ ยังมีหน้ามาพูด รู้มั้ยวันนี้เสียหายเท่าไหร่”
“อย่าโทษพี่เย็นเลยครับ เรื่องนี้เป็นเพราะผมเอง”
“แกน่ะมันต้องโดนแน่ ตอนนี้คุณเทวัญกำลังสอบสวนนังตัวการอยู่ ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากล ก็อย่าหวังว่าจะได้เดินออกไปจากที่นี่”
รามตกใจ รู้สึกเป็นห่วงเมขลาขึ้นมา

เมขลาถอยหนีเทวัญ จนติดกำแพง...
“อย่าทำอะไรฉันนะ”
เทวัญยื่นผ้าเช็ดหน้าให้
“ศอกของคุณมีแผล ซับเลือดก่อน”
เมขลาดูที่ศอกเห็นเลือดซิบๆ รับผ้าเช็ดหน้ามา
“ขอบคุณ ที่จริง ท่าทางคุณก็เป็นคนดี มีมนุษยธรรมทำไม ถึงมาทำกิจการแบบนี้ล่ะ รู้มั้ยว่ามันทำลายอนาคตของชาติมาเท่าไหร่ๆแล้ว เลิกซะเถอะ”
เทวัญรู้สึกละอาย พูดปฏิเสธิออกไป
“คงไม่ได้ ผมหมายถึง ผมก็เป็นแค่ลูกจ้างเหมือนกัน”
“จริงเหรอ แล้วทำไมคุณถึงเลือกมาทำงานแบบนี้ ฐานะทางบ้านคุณลำบากมากเหรอ”
“เอ่อ ก็ทำนองนั้น”
“งั้นก็พอให้อภัยได้ ผิดกับคนบางคน เงินทองมีเหลือเฟือ แม่ก็รักเหมือนแก้วตา ดวงใจ แต่ไม่รักดี น่าเจ็บใจนัก”
“คุณพูดถึงนายรามเหรอ”
“ใช่ ฉันไม่รู้ว่าพ่อแม่คุณคิดยังไงที่คุณมาทำงานแบบนี้ แต่สำหรับคุณราม แม่เขามีเขาคนเดียว เขาเป็นความหวังทั้งหมดของท่าน คุณบอกเจ้านายคุณให้ปล่อยเขากลับไปเถอะนะ”
“แล้วคุณล่ะ เป็นอะไรกับเขา ทำไมถึงเป็นห่วงเขาขนาดนี้”
“เอ่อ ฉัน....”
เมขลาพยายามคิดว่าจะตอบยังไงดี

ทางด้านราม พยายามพูดให้แสงเข้าใจ...
“พี่แสง ผมสาบานได้ ผมกับผู้หญิงคนนั้นไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันจริงๆ ปล่อยเขาไปเถอะ ผมจะรับผิดชอบเอง”
“แกไม่มีสิทธิ์ต่อรอง”
“ผมจะไปพบคุณเทวัญ”
รามจะออกไป แสงผลักกระเด็น รามสะอึกเข้ามาอีก แสงควักปืนจ่อ
“ถ้าขืนพูดมาก ได้กินลูกตะกั่วแน่”
“พี่แสง” เย็นพยายามห้าม
ประตูเปิด เทวัญเดินเข้ามา แสงรีบเก็บปืน
“เกิดอะไรขึ้น”
“ไม่มีครับ ผมสั่งสอนเด็กใหม่นิดหน่อย”
“ข้างล่าง เรียบร้อยมั้ย”
“ครับ เคลียร์เรียบร้อย ผมให้ปิดก่อนเวลาอย่างที่คุณเทวัญสั่ง”
เทวัญมองราม
“ผมยินดีรับผิดชอบเรื่องทุกอย่างครับ” รามรีบบอก
“ฉันรู้เรื่องนายจากเมียนายหมดแล้ว”
รามอึ้ง
“นายกลับไปได้”
“หมายความว่า คุณเทวัญ ไม่เอาผิดไอ้รามใช่มั้ยครับ” เย็นรีบถาม
“เมียนายเขาบอกว่าทำไปเพราะเป็นห่วงนาย แล้วก็อยากให้นายกลับบ้านไปหาแม่จริงๆ ฉันไม่ถือ แต่หวังว่านาย คงไม่กลับมาที่นี่อีกนะ”
รามพูดไม่ออก เย็นก็งง แสงไม่ค่อยชอบใจที่เทวัญใจดีเกิน

เมขลายืนกอดอกยิ้มอย่างผู้ชนะรออยู่ที่ด้านนอก รามเดินเข้ามาเห็น ข่มอารมณ์สุดๆ เดินผ่านหน้าไปที่รถมอเตอร์ไซด์ของตัวเอง
“อ้าว เดี๋ยว จะไปไหน หยุดนะคุณราม”
“คุณนั่นแหละหยุด หยุดอยู่ตรงนั้น อย่าเข้ามา ผมยังไม่อยากเป็นฆาตกร”
“อ๋อ นี่คุณจะฆ่าฉันเหรอ คุณนี่มันอกตัญญูสมบูรณ์แบบจริงๆ ฉันอุตส่าห์พูดจนพวกเขายอมปล่อยคุณออกมา โดยไม่ต้องเสียค่าชดใช้อะไรซักบาท คุณต้องสำนึกบุญคุณฉันถึงจะถูก”
รามทนไม่ไหวเข้าไปบีบคอ เมขลาตาเหลือก รามจับคอนิ่งไว้ แล้วก็ปล่อย
“ผมไม่ได้ขู่ แต่ผมขอสั่งให้คุณเลิกมั่วนิ่ม เที่ยวไปบอกใครว่าเป็นเมียผมได้แล้ว ไม่อย่างนั้นคราวหน้าผมไม่ปล่อยคุณแน่”
“คิดว่าฉันอยากจะเป็นเมีย คนไม่เอาไหนอย่างคุณนักหรือไง แต่ที่ฉันยอมลงทุนพูดไปอย่างงั้น เพราะต้องการให้พวกมาเฟียคาเฟ่นั่นเห็นใจลูกผู้หญิงตาดำๆ ที่ต้องดูแลแม่สามีที่ป่วยตามลำพัง”
“คุณก็ทำสำเร็จแล้วนี่”
เมขลาจับแฮนด์มอเตอร์ไซด์ไว้
“ยัง ถ้าคุณไม่กลับไปเยี่ยมคุณทรงวาดกับฉัน”
“ถามจริง แม่ผมจ้างคุณมาเท่าไหร่ ถึงลงทุนขนาดนี้”
“คุณยอมรับแล้วใช่มั้ยว่าคุณทรงวาดเป็นแม่”
รามโมโหตัวเอง ที่หลุดพูดไป
“ปล่อย”
เมขลายังจับแฮนด์รถไว้
“ไม่”
“ได้”
รามดึงเชือกที่ไว้ผูกของที่มัดไว้ที่มอเตอร์ไซด์ออกมา ล็อกตัวเมขลาไว้แล้วจับข้อมือเธอมัดติดไว้กับมอเตอร์ไซด์
“จะทำอะไรน่ะ”
“ชอบรถผมนัก ก็ยืนเฝ้าไปแล้วกัน”
“คุณราม คุณทำอย่างงี้กับฉันไม่ได้นะ ปล่อยเดี๋ยวนี้”
รามเดินดุ่มหายไปในความมืด
“ช่วยด้วยๆๆ”
เมขลาร้องลั่น

รามเดินห่างจากรถไปอย่างหัวเสีย
“ผู้หญิงบ้าอะไรเกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น”
รามคืดไปถึงเหตุการณ์ในห้องคาราโอเกะ เทวัญบอกกับเขาว่า...
‘นายควรจะจัดการปัญหาครอบครัวตัวเอง ให้ได้ก่อนที่จะมาทำงานใหญ่ ถ้าแค่เมียกับแม่ตัวเองยังดูแลไม่ได้จะมารับผิดชอบงานที่มอบหมายได้ยังไง’
‘แต่ว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่...’
รามพูดไม่ทันจบ เทวัญตัดบท
‘พ่อฉันไม่ชอบเรื่องจุกจิก นายไปหางานใหม่ที่เหมาะกับนายดีกว่า’
คิดแล้วก็ถอนใจเฮือก ตัดสินใจเดินกลับไปที่รถ แล้วก็ต้องชะงัก เมื่อห็นว่าเมขลาหายไปจากรถแล้ว
“เฮ้ย” รามมองหา “ไปไหนแล้ว”
รามเห็นเชือกวางกองที่พื้น
“เก่งขนาดแก้มัดเองได้เลยเหรอ”
รามหยิบเชือกขึ้นมา มองงงๆ

รามเดินมาตามทางเดินของโรงพยาบาล พอจะถึงหน้าห้องที่ทรงวาดนอนรักษาตัวอยู่ก็ชะงัก เดินหันหลังกลับอย่างลังเล เรืองฤทธิ์เปิดประตูห้องออกมาพอดี พอเห็นรามก็อึ้ง รามพอเห็นเรืองฤทธิ์ ก็หันหลังกลับเดินหนี
“ราม ราม เดี๋ยวซิ จะไปไหน พี่วาดต้องดีใจมากเลยที่รามมา” เรืองฤทธิ์วิ่งตาม
“ผมมาเยี่ยมเพื่อนที่นี่”
“ราม เข้าไปหน่อยเถอะ ไม่งั้นอาคงแย่แน่ๆ เพราะพี่วาดโกรธอามาก ที่เอาตัวรามมาไม่ได้ นี่เขาจะจ้างคนไปตามประกบตัวรามแล้วนะ”
“รวมถึงผู้หญิงที่ชื่อเมขลาด้วยใช่มั้ยฮะ”
เรืองฤทธิ์งง ไม่รู้ว่าเมขลาไปหาราม
“เอ่อ เมขลาเหรอ”
“ผมนึกอยู่แล้วว่ายัยนั่นต้องถูกจ้างไปป่วนผม ไม่ว่านานแค่ไหน แม่ก็ไม่เคยเปลี่ยน เรื่องป่วยนี่ก็คงอยู่ในแผนด้วยซิ”
เรืองฤทธิ์ทำเป็นลำบากใจ
“ราม พี่วาดทำไปก็เพราะหวังดีกับรามนะ”
“บอกเขาด้วยนะครับว่าชีวิตเป็นของผม และผมจะทำในสิ่งที่ผมอยากทำเท่านั้น ใครก็ขวางผมไม่ได้”
รามเดินไป
“ราม ราม”
พอรามเดินลับเรืองฤทธิ์ก็ยิ้มออกมา
“อาเห็นใจแก และอาก็จะไม่ขวางแก วางใจเถอะ”

รามโดดขึ้นมอเตอร์ไซด์ขับอกไป โดยไม่เห็นเทวัญที่ขับพาเมขลามาจอดที่ด้านหน้า
“ขอบคุณมากค่ะ คุณ…”
“เทพครับ”
“ฉันเมค่ะ ขอบคุณนะคะคุณเทพที่ช่วยฉัน”
เทวัญมองเมขลาอย่างนึกสงสาร
“สามีคุณ เขาทำรุนแรงกับคุณแบบนี้บ่อยๆเหรอครับ”
“ไม่บ่อยหรอกค่ะ ครั้งนี้เป็นครั้งแรก และมันก็จะเป็นครั้งสุดท้ายด้วย”
“ยังไงก็อย่าใช้กำลังตัดสินปัญหานะครับ ค่อยๆพูดกัน”
“ค่ะ ฉันไปนะคะ”
เมขลาลงรถแล้วหันมาบอก
“คนดีๆอย่างคุณ ไม่เหมาะกับที่นั่นหรอก หางานใหม่เถอะนะคะ เชื่อฉัน”
เมขลาเดินเข้าโรงพยาบาล ไป เทวัญมองตามถอนใจ
เมขลาเข้าไปในห้องทรงวาด เห็นทรงวาดหลับอยู่ ก็มองรอบๆห้อง
“คุณรามไม่มาจริงๆ...ขอโทษนะคะคุณแม่ที่หนูทำไม่สำเร็จ แต่หนูไม่ยอมแพ้หรอกค่ะ หนูต้องทำให้คุณรามกลับมาเป็นลูกชายคนเดิมของคุณแม่ให้ได้”

เมขลาพูดโดยไม่รู้ว่าเรืองฤทธิ์แอบฟังอยู่ และไม่พอใจมากที่เธอเข้ามายุ่งกับเรื่องของราม!

อ่านต่อหน้า 2







นางฟ้ากับมาเฟีย ตอนที่ 4 (ต่อ)

ณ ตึกหน่วยงานพิเศษของปปส รามเดินตรงมาที่หน้าห้อง ใช้ฝ่ามือทาบกับแผงสแกน ครู่หนึ่งประตูเปิด ด้านในเป็นห้องทันสมัย เต็มไปด้วยอุปกรณ์คอมฯและสื่อสาร

รามเดินไปหายงยุทธ สายลับที่มีหน้าที่เจาะข้อมูล และงานสืบเสาะสื่อสาร ที่นั่งหน้าคอมพิวเตอร์ ค้นดูข้อมูลเมขลาจากทะเบียนราษฎร์ ครู่หนึ่งยุทธหันมาพร้อมกับยื่นกระดาษให้ราม
“นี่เบอร์คุณเมขลาครับ”
รามรับไปดู
“ขอบใจมาก”
“ส่วนเรื่องประวัติที่ผู้กองให้ผมสืบ เขาเป็นเด็กกำพร้า”
“เป็นเด็กกำพร้าหรือเคยอยู่สถานพินิจฯ ดูดีๆซิดาบ”
“เด็กกำพร้าจริงๆครับ แถมมีวีรกรรมเพียบ”
“ยังไง”
“เธอเคยได้รับรางวัลเด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติตอนเรียนป.6 รางวัลเด็กโลกเพื่อสิทธิเด็กสมัย ม.3 รางวัลเด็กดีเด่นของกทม.เพราะเก็บเงินคืนเจ้าของ รางวัล...”
รามรีบยกมือห้ามขี้เกียจฟัง ผิดหวังอย่างหนัก เมื่อได้ยินแต่เรื่องดีๆ
“เฮ้ย เดี๋ยวๆ ตกลงยายนี่ไม่ใช่พวก 18 มงกุฎที่แฝงตัวมาเกาะติดฉันเพื่อหวังผลประโยชน์อะไรสักอย่างเหรอ”
“ผู้หญิงคนนี้ประวัติสะอาด ยังกะนางฟ้าบนสวรรค์ ดูยังไงก็ไม่ใช่คนไม่ดีครับ แล้วผู้กองจะสืบประวัติผู้หญิงคนนี้ทำไมครับ หรือว่าเขาเกี่ยวข้องอะไรกับเป้าหมายเรา”
“ตอนนี้ผมยังไม่แน่ใจ”
สัญญาณโทรศัพท์ดัง รามดูข้อความเห็นว่าก้องภพเรียกมา
“แต่ขอให้คุณอย่าเพิ่งรายงานเรื่องนี้กับหัวหน้านะ”
“ได้ครับ”
“อ้อ มีให้ช่วยอีกเรื่อง”
รามบอกให้ยงยุทธช่วยหาข้อมูลเกี่ยวกับธิดาให้ จากนั้นได้เข้าไปหาก้องภพที่ห้องทำงาน
“เป็นไง” ก้องภพทักทาย
“ผมเกือบได้เข้าทำงานที่คาเฟ่ใหญ่ ของเป้าหมายแล้วครับ แต่มีปัญหานิดหน่อย”
“เรื่องอะไร เคลียร์ได้มั้ย”
“คิดว่าได้ครับ”
“เร่งหน่อยนะ เพราะมันช้าจากกำหนดเวลาเดิมมากแล้ว”
“ครับ”
“อย่าลืม ภารกิจนี้สำคัญเร่งด่วนมาก ที่สำคัญมันเป็นผลงานแรกของนาย ในประเทศไทย ห้ามมีอะไรผิดพลาดเด็ดขาด”
“ทราบแล้วครับ”
รามตัดสินใจที่จะยังไม่บอกความจริงกับก้องภพ คิดว่าเขาน่าจะแก้ไขปัญหาของตัวเองได้

เมขลานั่งแต่งหน้า ในห้องพักของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จะออกไปจิกรามที่ไนต์คลับ เสียงมือถือดังขึ้น เมขลาเดินไปรับ เห็นเบอร์ไม่คุ้น แต่ก็ตัดสินใจรับ
“ฮัลโหล”
“นี่ผมเอง”
เมขลาแปลกใจที่ได้ยินเสียงราม
“คุณไปเอาเบอร์ฉันมาจากไหนเนี่ย”
“เรื่องนั้นช่างเถอะ แต่ผมจะโทรมาชวนคุณไปหาคุณแม่เป็นเพื่อนผมหน่อย”
เมขลาดีใจ
“ในที่สุดบัวก็พ้นน้ำซะทีนะ”
“คุณว่าอะไรนะ”
“เปล่าๆ แล้วจะให้ฉันไปเจอคุณที่ไหนล่ะ”
รามบอกสถานที่ เมขลาบอกว่าจะรีบไป โดยไม่รู้ว่ารามนัดไปแหล่งที่ชุมนุมของผู้หญิงหากิน หรือที่เรียกว่าผีขนุน
เมขลามายืนชะเง้อมองราม ที่ริมถนนแต่ไม่เห็น เธอหันมองไปรอบๆ เห็นมีสาวๆ ในชุดเซ็กซี่หิ้วถุงกระดาษยืนรอกันเป็นกลุ่มบ้าง เป็นคู่บ้าง เดี่ยวบ้าง แต่ทุกคนจะยืนหลบกันตามป้ายรถเมล์ ใต้ต้นไม้ ไม่ประเจิดประเจ้อเหมือนเมขลาที่ยืนเด่นอยู่ริมถนน
รถเก๋งผ่านมา คนขับหนุ่มๆบีบแตรเรียก เมขลาหันไปมอง ไม่ใช่รามเลยมองแบบงงๆ หนุ่มเห็นเมขลาไม่สนเลยไป
“ทำไมแถวนี้แท็กซี่ป้ายดำเยอะจัง”
เมขลาบ่น ผีขนุนคนหนึ่งเดินเข้ามามองๆ
“นี่คงเพิ่งมาสิท่า”
เมขลาพลิกข้อมือดูนาฬิกา
“ก็มาได้สักห้านาทีแล้วล่ะ”
ผีขนุนมองตาเขียว
“ทำมาเล่นลิ้น หวังว่าตอนเจอตำรวจจะปากเก่งอย่างนี้นะ”
ผีขนุนที่ท้องอยู่ ได้ยินพอดี ตีแขนเพื่อนเพี๊ยะ
“ห้ามพูดคำนั้นแถวนี้นะ”
เมขลางง
“คำไหนคะ ตำรวจน่ะหรือ ทำไมล่ะ”
“ก็บอกว่าห้ามพูดไงเล่า เอ๊ะ นังนี่นี่”
เมขลารีบเอามือปิดปากแต่ยังงงๆไม่เข้าใจ ขณะเดียวกันนั้น รามที่แอบซุ่มดู รีบโทรตรามตำรวจทันที หวังจะให้เมขลาถูกจับด้วย


เมขลาหงุดหงิดที่รามไม่มาสักที เดินไปชะเง้อมองที่ถนนอีกครั้ง เห็นรถตำรวจวิ่งมาจอดตรงหน้า เมขลามองแปลกใจก่อนกลายเป็นงง เมื่อเห็นตำรวจเผ่นพรวดลงจากกระบะท้ายรถ ตรงเข้าจับพวกผีขนุน ภาคภูมืที่นำทีมมาจับ ประกาศ
“จับให้หมดเลยน่ะจ่า อย่าให้เล็ดรอดไปแม้แต่คนเดียว”
เมขลาถอยหลบทางให้ตำรวจ แต่ดันไปชนภาคภูมิเข้า
“ว้าย ขอโทษค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ” ภาคภูมิมองแล้วจำได้ “เฮ้ย! นี่คุณอีกแล้วเหรอเนี่ย!”
“แล้วคุณตำรวจมาทำอะไรที่นี่” เมขลาแปลกใจ
“ไม่ต้องมาทำไก๋เลย ไปขึ้นรถ”
ภาคภูมิจับแขน แต่เมขลาสะบัดออก
“เดี๋ยว คุณมาจับฉันทำไม ฉันแค่มารอเพื่อน”
ภาคภูมิมองเหยียด
“ผีขนุนอย่างพวกคุณก็ชอบอ้างแบบนี้ทั้งนั้นแหละ”
เมขลาอ้าปากค้าง
“ผี...ขนุน...เหรอ”
ภาคภูมิต้อนเมขลากับสาวๆไปขึ้นรถ รามที่แอบมองอยู่เสียใจที่ทำแบบนี้...
“ขอโทษนะ แต่คุณบังคับผมเอง”
รามถอนใจอย่างไม่สบายใจ

ที่สถานีตำรวจ เมขลาอยู่ท่ามกลางผีขนุน รอทำประวัติและสอบปากคำ ผู้ต้องหาทุกคนก้มหน้าเอามือประสานปิดหน้า ไม่อยากให้ใครเห็นหน้า แต่เมขลาไม่แคร์ นั่งหน้าบึ้งอยู่ แฟลชจากนักข่าวยิงกระหน่ำมา ภาคภูมิเดินเข้ามามองๆ
“นานๆ ทีผมถึงจะเจอคนกล้าทำกล้ารับอย่างคุณรู้ไหม”
“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องปิดๆ บังๆด้วย”
“ขายเนื้อสดเนี่ยนะไม่ผิด”
เมขลาตวัดตามองไปโมโห
“ก็ฉันไม่ได้ขาย และถ้าขายจริงคุณก็ไม่มีสิทธิปล่อยให้นักข่าวมาถ่ายรูปพวกฉันไปประจานแบบนี้ นี่มันละเมิดสิทธิมนุษย์ชนชัดๆ”
พวกนักข่าวได้ยินเมพูดก็ฮือฮา ภาคภูมิโต้
“ถ้ารู้จักคำนี้ดีขนาดนี้ แล้วพากันมาขายตัวทำไมไม่ทราบ”
เมขลาอึ้ง เหลือบมองเห็นผีขนุนซึ่งนั่งอยู่ติดกันก้มหน้าละอาย เมขลาสะเทือนใจ ก่อนขึงตาใส่ภาคภูมิ
“ฉันไม่ได้ทำ แต่คิดว่าคนที่ทำลงไปเพราะไม่มีทางเลือก พวกเธอเรียนมาน้อย และขาดโอกาส มิหนำซ้ำบางคนอาจมีลูกมีครอบครัวต้องดูแล นี่เลยเป็นทางหาเงินทางเดียวที่รู้จัก”
ผีขนุนฟังแล้วซึ้งแอบเช็ดน้ำตา นักข่าวพูดไม่ออก เมขลามองนักข่าวอ้อนวอน
“ถ้าพวกคุณอยากช่วยจริงๆ ก็ควรเขียนข่าวให้องค์กรต่างๆเข้ามาดูแลพวกเธอดีกว่า ปัญหาพวกนี้จะได้หมดไปเสียที”
พวกผีขนุนตบมือให้ เมขลาก้มหัวขอบคุณเหมือนปราศรัย
“ก่อนจะห่วงคนอื่น ห่วงตัวเองก่อนเถอะ เพราะถ้าผลตรวจคุณออกมาเป็นสีม่วง ผมจับคุณแน่”
เมขลามองภาคภูมิแปลกใจ
“ตรวจอะไร ตรวจไปทำไม”
“ตรวจหาฉี่ม่วงไง คงเคยได้ยินใช่มั้ย ไป ลุกขึ้นได้แล้ว”
เมขลาเหวอ โดนภาคภูมิพาตัวไปเพื่อไปทดสอบ หาสารเสพติดในร่างกาย

เช้าวันใหม่...ที่บ้านปองธรรม ลูกน้องปองธรรม ยืนเข้าแถวหน้ากระดานมือไพล่หลัง ก้มหน้างุด อย่างกลัวๆ มีเทวัญอยู่หัวแถวสีหน้านิ่งๆ
“ลูกสาวฉันหายตัวไปทั้งคน ไม่มีใครรู้เลยรึไง หา” ปองธรรมตวาดถามโมโหมาก ทุกคนอึ้ง “แกก็เหมือนกันเป็นพี่ชายประสาอะไร”
เทวัญถอนใจ...
“พ่อก็รู้ว่าน้องไปไหน ไม่เคยบอกใคร แล้วก็ไม่ยอมให้ใครตามด้วย”
“แกเลยปล่อยให้ยายเทเรซ่า ทำตามใจชอบงั้นหรือ”
เทวัญเงียบไม่กล้าแก้ตัว ปองธรรมมองโมโห ก่อนตวัดสายตาไปที่แถวของลูกน้อง
“ถ้าเย็นนี้ ฉันยังไม่ได้ข่าวคุณเทเรซ่า ฉันจะใช้พวกแกแทนเป้านั่น”
ปองธรรมยกปืนยิงเป้าหลายนัดจนเป็นพรุน ลูกน้องกลัวหัวหดรีบก้มหน้ารับคำสั่ง จะออกไปตามหาตัวธิดา แต่มีเสียงเอะอะดังขึ้นเสียก่อน ทุกคนชะงัก ปองธรรมมองไปเห็นรามวิ่งเข้ามามีลูกน้องวิ่งตามมาล็อกตัว รามสะบัดวิ่งไปหาปองธรรม
“พ่อเลี้ยงครับ”
แสงมองไม่พอใจ
“นี่แกมีหน้ากลับมาอีกเหรอ ลากมันออกไป”
“แต่ผมมีวิธีตามตัวคุณเทเรซ่ากลับมาได้นะครับ ให้ผมลองดูมั้ยครับ” รามพยายามขอร้อง
เทวัญหันไบอกทันที
“ฉันบอกแล้วไงว่า ฉันไม่รับนายเข้าทำงาน”
“ออกไป”
แสงลากตัวรามออกไป รามยังคงขอร้อง
“พ่อเลี้ยง ผมพูดจริงๆนะครับ ผมรู้ว่าคุณเทเรซ่าอยู่ที่ไหน”
“แล้วแกรู้ได้ไง” ปองธรรมหันมาถามทันที
“ตั้งแต่ที่พ่อเลี้ยงให้ผมไปขู่ นายแอนดี้วันนั้น ผมยังไม่วางใจว่ามันจะเลิกคบคุณเทเรซ่าจริงๆ ก็เลยแอบตามสะกดรอยมันอยู่ตลอด”
ปองธรรมหันไปสั่งเย็น....
“เย็น แกไปกับมัน”
“ครับ” เย็นยิ้มอย่างดีใจที่รามได้กลับมาทำงานอีกครั้ง

เย็นกอดคอนำรามมาขึ้นรถ พูดอย่างสบายใจ
“ไอ้น้อง เอ็งนี่มันใจถึงจริงๆ ข้างี้ใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม นึกว่าจะโดนพ่อเลี้ยงจะเป่าซะแล้ว”
“จะเข้าถ้ำเสือมันก็ต้องเสี่ยงพี่”
เย็นยังไม่วายกังวล
“แล้วเรื่องที่บ้านเอ็งล่ะ”
“ผมจัดการเรียบร้อยแล้ว รับรองต่อไปนี้ไม่กล้ามาหือ”
“ต้องอย่างงั้น แต่ว่า เอ็งรู้จริงๆเหรอว่า คุณเทเรซ่าอยู่ที่ไหน”
รามพยักหน้า นึกไปถึงสิ่งที่ยงยุทธหาข้อมูลมาให้ และอ่านประวัติให้ฟัง...
‘เด็กหญิงธิดา เคยเอากรรไกรตัดผมเพื่อนตอนเรียนอนุบาลสอง เพราะโกรธที่เพื่อนน่ารักกว่า ขูดรถครูคณิตศาสตร์เพราะสอบตกตอนม.สาม พอเข้ามหาวิทยาลัยก็ตบกับเพื่อนร่วมคณะเพราะแย่งนักฟุตบอล’
‘ขนาดนั้นเชียว’ รามหน้าแหย
‘ยังมีต่อนะครับ ตอนไปเรียนภาษาที่อเมริกาก็มีเรื่องกับ...’
รามนึกได้รีบยกมือห้าม
‘พอๆ ที่นี่ลองดูซิว่าเค้ามีบ้านหรือคอนโดอยู่ที่ไหนบ้าง แล้วก็ที่อยู่ของบรรดาแฟนเขาด้วย โดยเฉพาะ นายแอนดี้ดารา…’
รามจึงพาเย็นไปบ้านแอนี้ตามข้อมูลที่ได้มา...

บ้านแอนดี้ เป็นบ้านเดี่ยวหรูหรา รถเย็นที่รามนั่งมาด้วยเข้ามาจอดซุ่มดูเหตุการณ์อยู่ แล้วทั้งคู่ก็ได้เห็น แอนดี้กำลังย่องหนีเทเรซ่าออกจากบ้าน มือก็คุยมือถือกระซิบไปด้วย
“อีกชั่วโมงเจอกันนะที่รัก บายจ้า จุ๊บๆ”
เสียงธิดาดังขึ้น...
“แอนดี้ นั่นคุณจะไปไหนคะ”
แอนดี้เซ็ง หันไปเห็นธิดารีบฝืนยิ้มให้ หาเหตุโกหก...
“เอ่อ...ไปทำงานจ้ะ”
“วันนี้คุณมีคิวถ่ายละครตอนบ่ายไม่ใช่เหรอคะ”
“พักนี้ผมรับงานหลายอย่าง เพราะอยากพิสูจน์ให้คุณพ่อคุณเห็นว่าผมไม่ได้เป็นอย่างที่ท่านคิด”
ธิดาซึ้ง กอดแอนดี้
“น่ารักจังเลย”
แอนดี้รีบกอดตอบแสร้งเอาใจ แล้วขึ้นรถขับออกไป รามลงจากรถ หันไปสั่ง
“พี่เย็นตามนายแอนดี้ไป อย่าให้รู้ตัว แล้วโทรบอกผมว่ามันไปไหน เร็ว”
เย็นขับรถแล่นตาม รามเดินตามธิดาเข้าบ้าน
“นายมาที่นี่ทำไม” ธิดาตกใจ
“พ่อเลี้ยงสั่งให้ผมมาพาคุณกลับบ้าน”
“ฉันไม่กลับ ออกไปนะ”
รามเฉย ธิดา วิ่งไปหยิบปืนจากกระเป๋ามาเล็ง
“อย่านึกนะว่าฉันไม่กล้ายิง”
รามพรวดเข้าไปปัดปืน จับธิดาล็อกแย่งปืน ล้มทับกันลงไปบนโซฟา ชะงักกันไปเล็กน้อย รามแย่งปืนได้ ลุกขึ้น
“นายบังอาจมาก ฉันจะฟ้องพ่อ”
“ดีครับ เพราะพ่อเลี้ยงคงรอคุณอยู่”
“นาย!”
ธิดา แค้นมาก เสียงโทรศัพทฺดังขึ้น รามกดรับ...
“ฮัลโหล ที่ไหนนะพี่เย็น ดีเลย พี่เฝ้าอยู่ตรงนั้น ผมจะไปเดี๋ยวนี้”
รามฉุดธิดา
“กล้าแตะต้องตัวฉันเหรอ มันจะมากไปแล้ว”
ธิดาดิ้นตีราม
“ผมจะพาคุณไปดูสุดที่รักของคุณไง ตอนนี้เขากำลังถ่ายหนังรักอีโรติคของตัวเองอยู่ ไม่อยากรู้เหรอว่านางเอกเป็นใคร”
ธิดาชะงัก

รามพาธิดามาถึงคอนโด ที่แอนดี้หลบมาคั่วสาว เมื่อมาถึงพบเย็นซุ่มอยู่หน้าห้อง
“พี่เย็น”
เย็นหันมารายงาน
“พี่เห็นผู้หญิงเปิดรับมันเข้าไปในห้อง”
ธิดาโวย
“ฉันไม่เชื่อหรอกว่าแอนดี้จะอยู่ที่นี่”
รามจุ๊ปาก แล้วเอาลวดออกมาไขประตู ให้แง้มเข้าไป แล้วเห็นว่าที่ห้องรับแขกไม่มีคน รามเปิดประตู เดินนำ เห็นห้องนอนเปิดแง้มอยู่ รามจับแขนธิดาพาย่องนำไป แล้วก็ได้เห็น แอนดี้กำลังนัวเนียกับสาวบนเตียง
“เห็นแล้วใช่มั้ยว่า ทำไมพ่อเลี้ยงถึงไม่อยากให้คุณยุ่งกับมัน”
ธิดายังคงยืนนิ่ง รามเลยตัดสินใจจูงมือธิดาจะให้ไป แต่กลับทำให้ธิดาได้สติ สะบัดมือออกจากราม เธอกระโจนเข้าไปกระชากสาวออกจากแอนดี้ ทำให้แอนดี้กับสาวร้องลั่นอย่างตกใจ
“แกเป็นใคร มายุ่งกับแอนดี้ได้ยังไง”
แอนดี้อ้าปากค้าง
“เทเรซ่า คุณมาได้ยังไง”
สาวได้จังหวะ หนีจากมือธิดาไปแอบหลังแอนดี้ ธิดาพยายามเอื้อมไปตบ ไปตีแต่ไม่สำเร็จ มีแอนดี้บังไว้
“ฉันถามว่านังนี่เป็นใคร”
หญิงสาวยิ้มเยาะ
“บอกเค้าไปสิคะแอนดี้ ว่าฉันเป็นเมียคุณ”
ธิดาหันไปมองแอนดี้ทันที
“อะไรนะ”
แอนดี้ตาเหลือกทำอะไรไม่ถูก
“เอ่อ...”
ธิดาเข้าข่วนๆๆๆ แอนดี้
“โอ๊ย”
แอนดี้เหวี่ยงธิดาไป ธิดาหันรีหันขวางอยากทำร้ายแอนดี้เต็มแก่ รามร้องห้าม
“ใจเย็นๆ คุณ”
ธิดาเห็นที่เอวเย็นมีด้ามปืนตุงๆ ธิดาเข้าไปกระชากปืนมาถือ ทุกคนตกใจ สาวกรี๊ดลั่นกอดแอนดี้อย่างกลัวเป็นพัลวัน ธิดายิ่งเจ็บใจ
“ส่งปืนมาให้ผมคุณเทเรซ่า”
รามร้องบอก ธิดาไม่ฟังขึ้นไก เล็งแอนดี้
“เพราะนังนี่ใช่มั้ย ที่คุณบอกฉันว่าเราควรห่างกันสักพัก”
“ไม่นะ ผมแคร์คุณ แคร์คุณกับคุณพ่อคุณจริงๆ”
“โกหก ถ้าแกแคร์ฉันจริงๆ แกจะต้องไม่ทำอย่างนี้แกต้องไม่หลอกฉันแบบนี้ คนสารเลว ฉันจะฆ่าแก”
ธิดาง้างไก รามรีบโผเข้าแย่งปืนธิดาไว้
“อย่า...คุณธิดา”
ปืนลั่น เปรี้ยง เย็นเข้าช่วย แย่งได้ แอนดี้กับแฟนวิ่งหนีกระเจิงออกไป
“ปล่อยนะ ฉันจะฆ่ามัน...ปล่อย” ธิดาพยายามดิ้นให้หลุดจากราม
“รีบไปเถอะ ไอ้น้อง เดี๋ยวตำรวจแห่กันมาละซวยเลย”
เย็นรีบบอก

ธิดานั่งร้องไห้ ตาแดงๆ จมูกแดงๆอยู่รีมถนน รามเดินเข้ามา พร้อมถุงพลาสติกใส่เบตาดีนกับพลาสเตอร์ยา และทิชชู่เปียก
“เอ้า รับไปสิคุณ”
ธิดาไม่ยอมรับ รามถอนใจ วางถุงลง แล้วฉวยมือธิดาขึ้นมา เห็นเล็บธิดาหักไม่มีดีเพราะทุบเขา รามถอนใจ จับมือธิดาขึ้นเช็ดทิชชู่เปียกให้ทีละนิ้ว
ธิดามองรามงงๆ จะชักมือออก
“จะทำอะไรน่ะ มาจับมือฉันทำไม”
“เล็บคุณหักแล้วก็ฉีก ผมเลยจะทำแผลให้”
ธิดาอึ้ง มองรามตั้งใจหยอดเบตาดีน และปิดพลาสเตอร์ยาให้ เธอเพิ่งสังเกตเป็นครั้งแรกว่ารามหล่อมาก เธอชักสับสน ที่รู้สึกหวิวใจไปกับราม แต่พอสบตากันธิดาได้สติกระชากมือออก รามงงๆ ไม่ได้คิดอะไรด้วย
“คิดหรือว่าทำแบบนี้แล้วจะพ้นผิดน่ะ”
“ผิดอะไร ใครผิด”
“ก็เมื่อกี้ตอนที่นายพยายามห้ามฉัน นายเรียกฉันว่าอะไร”
รามอึ้งคิด ก่อนนึกออกยิ้มแหย
“ผมขอโทษ”
“แค่ขอโทษยังไม่พอหรอก นายต้องชดใช้”
“ชดใช้?”
“ใช่ เอาไว้ฉันนึกออก จะบอกเองว่านายต้องชดใช้ฉันยังไง”
ธิดาตวัดค้อนอย่างงอนๆ

ทรงวาดที่นอนอยู่ในห้องคนไข้ ดูข่าวจากทีรทัศน์ เห็นข่าวเมขลากับเหล่าผีขนุนโดนจับเต็มโรงพัก ผู้ประกาศข่าวรายงานว่า...
“เมื่อตอนหัวค่ำวานนี้ ทางเจ้าหน้าที่ปปส. และตำรวจสายตรวจ ได้ร่วมมือกันบุกเข้าจับกุมและตรวจค้นบริเวณริมถนนเพชรบุรีตัดใหม่ จับหญิงขายบริการได้ทั้งหมด 11 คน ในจำนวนนั้นมีแอร์โฮสเตสสายการบินใหญ่รวมอยู่ด้วย”
ภาพข่าวเป็นภาพที่เมขลากำลังอาละวาด ทรงวาดกำลังกินดื่มน้ำอยู่ ทำแก้วหลุดมือตกแตกเพล้ง เรืองฤทธิ์กำลังหยิบเอกสารมาให้เซ็นรีบหันมาหา
“พี่วาด เป็นอะไรครับ”
ทรงวาดพูดไม่ออก เรืองฤทธิ์มองตามไปที่จอทีวี ขณะเดียวกันนั้น เทวัญซึ่งกำลังกินน้ำเกือบสำลักที่เห็นเมขลาในทีวี
“เมขลา เป็นไปได้ไง”

เช้าวันใหม่ ตำรวจเดินมาที่ห้องขัง...
“คนไหนชื่อ เมขลา”
เมขลารู้สึกตัวตื่น ยกมือเซ็งๆ
“ฉันเองค่ะ”
“มีคนมาขอประกันตัวคุณแล้ว”
เมขลาเบิกตากว้างอย่างดีใจและตื่นเต้น เมื่อออกมาก็เห็นทนายความ แต่ไม่รู้จักว่าเป็นใคร...
“คุณ”
“ผมเป็นทนายของคุณเทวัญครับ”
เมขลาอายๆ เมื่อได้ยินอย่างนั้น หลังจากได้รับประกันตัว เมขลาได้มาพบเทวัญที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง เมขลานั่งกินขนมด้วยความหิว
“ขอบคุณนะคะที่มาช่วยฉันทัน ก่อนที่จะถูกส่งไปบ้านเพื่อนหญิง”
“อย่าบอกนะครับว่า สามีคุณขายคุณมา”
“ไม่ใช่หรอกคะ มันเป็นอุบัติเหตุน่ะ ถ้าเขาใจร้ายขนาดนั้นฉันฆ่าเขาแน่”
“แล้วทำไมเขาถึงไม่มาช่วยคุณ”
“เขาอาจจะไม่รู้ก็ได้”
“แสดงว่าเขายังไม่ได้กลับบ้าน”
“คงยังค่ะ เอ๊ะ มีอะไรหรือคะ”
“เขากลับไปขอพ่อ เอ่อ เจ้านายผมทำงาน”
“จริงเหรอคะ คนบ้า บัวใต้น้ำ”
เมขลาลุกพรึ่บ เทวัญดึงไว้
“เดี๋ยว จะไปไหนครับ”
“ก็ไปลากตัวเขากลับบ้านน่ะซิคะ”
“ไม่ได้นะครับ ที่นั่นตอนนี้เข้มงวดมาก ไม่ใช่ว่าใครจะเข้าออกได้ง่ายๆ”
โทรศัพท์เข้าสองคนพร้อมกัน เทวัญรับสายปองธรรม ส่วนเมขลากดรับสายทรงวาด หลังจากคุยเสร็จ ทั้งคู่จึงแยกกันไปคนละทาง

เมขลามาหาทรงวาดที่โรงพยาบาล ทันทีที่พบหน้า ทรงวาดจับมือเธอไว้ด้วยความดีใจ
“แม่ตกใจหมดเลยรู้มั้ยที่เห็นหนูในทีวี รีบบอกฤทธิ์ให้ไปช่วย แต่ไปก็ไม่เจอหนูแล้ว”
เมขลายิ้ม
“มีเพื่อนมาช่วยประกันหนูน่ะค่ะ”
เรืองฤทธิ์ที่อยู่ด้วยหันมาถาม
“แล้วทำไมอยู่ดีๆ หนูถึงไปอยู่แถวนั้นได้”
“คุณรามนัดให้หนูไปเจอตรงนั้น เขารับปากว่าจะมาหาคุณแม่ด้วยกัน แต่เขายังไม่ทันไป ตำรวจก็มาซะก่อน”
“หนูคงถูกรามหลอกแล้วละ”
“หลอก หมายความว่า...ที่หนูโดนตำรวจจับเป็นฝีมือคุณราม”
ทรงวาดถอนใจ...
“รามนะราม ทำไมถึงใจร้ายแบบนี้ แม่ขอโทษจริงๆนะที่ทำให้หนูต้องเดือดร้อน”
เรืองฤทธิ์ออกความเห็น...
“ผมว่าเรายิ่งไล่รามก็จะยิ่งหนี แล้วก็อาจทำอะไรที่คาดไม่ถึง เราคอยดูเขาอยู่ห่างๆจะดีกว่า”
เมขลาบอกด้วยความแค้น
“ไม่ได้ค่ะ ถ้าเราปล่อยไป เขาอาจจะยิ่งถลำลึก ไปก่ออาชญากรรมร้ายแรงได้นะคะ เราต้องไม่ยอมแพ้ค่ะ เมื่อไม้อ่อนไม้สำเร็จ ก็ต้องใช้ไม้แข็ง หนูจะทำให้คุณแม่ได้ลูกชายกลับคืนมา”
ทรงวาดดีใจกอดเมขลา
“ขอบใจลูก ขอบใจ”

เรืองฤทธิ์เซ็งสุด ที่โน้มน้าวใจทรงวาดให้ตัดใจจากรามไม่ได้

อ่านต่อหน้า 3







นางฟ้ากับมาเฟียตอนที่ 4

รามกับทุกคน ไปรวมตัวกันในห้องทำงาน ปองธรรมโยนเงินให้รามปึกหนึ่ง ที่สามารถตามตัวธิดากลับมาได้

“รางวัลของแก”
รามไหว้
“ขอบคุณครับ แต่ผมขอไม่รับ”
เย็นที่ตาโตกับเงิน หันไปมองงงๆ ปองธรรมแปลกใจเช่นกัน
“ทำไม น้อยไปเหรอ”
“ท่านบอกว่าจะรับผมเข้าทำงาน ถ้าพาคุณเทเรซ่ากลับมาได้ นั่นก็ถือเป็นรางวัลของผมแล้ว”
“ทำไมอยากทำงานกับฉันนัก”
“เพราะเป็นงานที่ผมถนัด แล้วผมก็ศรัทธาในตัวพ่อเลี้ยงมาก”
ปองธรรมหัวเราะ
“ที่นี่ไม่ได้ทำงานด้วยปาก แล้วฉันจะคอยดู”
รามยิ้ม...
“หมายความว่า...ท่านยอมรับผมเข้าทำงานแล้ว”
ปองธรรมพยักหน้า
“แกไปช่วยแสงกับเย็นที่คาเฟ่”
ธิดาเดินเข้ามาในห้องแล้วพูดขัด...
“ไม่ได้นะคะ คุณพ่อ เทเรซ่าจองนายรามแล้ว เขาต้องมาขับรถให้ลูก”
รามอึ้งเพราะกลัวจะเสียแผน แต่ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรเทวัญพูดขึ้นก่อน
“ไหนน้องว่าชอบขับรถเองไง”
“แต่ตอนนี้ขี้เกียจขับแล้ว นะคะ คุณพ่อ”
“เอ่อ คือ...”
รามจะขัด แต่ปองธรรมตัดบทเสียก่อน
“ตามใจ งั้นแกก็ไปเป็นบอดี้การ์ดให้เทเรซ่า”
เย็นกลัวรามขัด แล้วจะอดทำงานทุกอย่างกับปองธรรม จึงรีบบอก
“ยังไม่รีบขอบคุณพ่อเลี้ยงกับคุณเทเรซ่าอีก”
“ขอบคุณครับ”
เทเรซ่ายิ้มพอใจ แต่รามเซ็งมาก

รามเดินกลุ้มออกมาพร้อมเย็น พลางบ่น
“ทำไมเป็นงี้ไปได้ละพี่เย็น”
“เหอะน่า ถ้าเอ็งทำให้คุณเทเรซ่าพอใจได้ จะขออะไรพ่อเลี้ยงให้หมด คุณเทเรซ่าน่ะลูกรัก ไม่เหมือนคุณเทวัญหรอก”
“ทำไม”
เย็นมองซ้ายมองขวา กลัวใครจะได้ยิน แล้วพูดเนินทาเบาๆ
“ก็คุณเทวัญ ทำอะไรไม่เคยได้ดังใจ พ่อเลยน่ะซิ มีพ่อเป็นมาเฟีย แต่ตัวเอง จิ้งจกซักตัวเคยฆ่ารึเปล่าก็ไม่รู้”
รามฟังอย่างไว้เป็นข้อมูล

เทวัญซึ่งคุยอยู่กับปองธรรม และเย็น เห็นว่าหมดธึระแล้วจึงลุกขึ้นจากที่นั่ง...
“ถ้าพ่อไม่มีอะไรแล้ว ผม...”
ปองธรรมสวนทันที
“นี่แกไม่รู้จริงๆเหรอว่าควรทำอะไรต่อ”
“ทุกอย่างก็เรียบร้อยแล้วนี่ครับ”
“เรียบร้อย นี่แกยังมีหน้ามาพูด ถ้าไม่ได้ไอ้รามป่านนี้น้องแกก็ยังไม่ได้กลับบ้าน ทั้งๆที่หน้าที่นี้มันต้องเป็นของแก”
ปองธรรมตะคอก เทวัญจ๋อยไป
“ขอโทษครับ”
“ฉันไม่อยากได้คำขอโทษของแก”
“แล้วผมต้องทำยังไง พ่อถึงจะหายโกรธ”
ปองธรรมบอกสิ่งที่ต้องการ เทวัญถึงกับอึ้งไป

เทวัญนั่งกอดอกรออยู่ในรถ นอกบ้านแอนดี้ ไม่นานนักไฟรถแอนดี้สาดเข้ามา เทวัญเงยหน้าขึ้นมองอย่างเครียดๆมองปืนสั้นในมือ ก่อนตัดสินใจลงจากรถแล้วตามแอนดี้ไป
“แอนดี้”
แอนดี้ที่ลงมาเปิดประตูรั้วสะดุ้ง หันมาเห็นเทวัญ ๆชักปืนก็ตาเหลือก
“อย่าทำผมเลยครับพี่เทพ ผมกลัวแล้ว”
แอนดี้เอาข้าวของขว้างใส่ เทวัญหลบ แอนดี้ถือโอกาสวิ่งหนี เทวัญรีบตามไปกระชากคอเสื้อไว้
“ฟังฉันก่อน...”
แอนดี้สติแตกกลัวตาย ไม่ยอมฟังอะไรเลย หันกลับมาชกใส่เทวัญจนเทวัญหน้าหัน ปืนหล่น เทวัญตอบโต้ชกกลับ แอนดี้สู้ตาย ต่อสู้กันนัวเนีย จนล้มลงไปนอนทั้งคู่ แอนดี้คร่อมบนตัวเทวัญชกใส่ แต่เทวัญใช้เท้าถีบแอนดี้หงายหลังนอนแผ่ มือแอนดี้อยู่ใกล้ปืน แอนดี้รีบคว้า แต่ช้ากว่าเทวัญ ที่คว้าปืนได้ก่อนจ่อใส่ทันที แอนดี้ยกมือไหว้
“อย่านะพี่ อย่า อย่า”
เทวัญยิงปืนเปรี้ยง!!!

เช้าวันใหม่ เห็นเทวัญแต่งตัวพร้อมไปทำงาน เดินเข้ามาในห้องอาหาร แล้วเห็นหนังสือพิมพ์วางไว้ เลยหยิบมามอง เทวัญตะลึงกับพาดหัวข่าว...
“พบศพพระเอกดัง เกยตื้นริมหาดค่ำวานนี้ สันนิษฐานเรื่องชู้สาว”
เทวัญไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง รีบพลิกหนังสือพิมพ์อ่านอย่างรวดเร็ว ปองธรรมเข้ามาเห็นพอดี มองลูกชายไม่พอใจ
“รับรองว่าแกตาไม่ฝาดหรอก”
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนั้น แอนดี้ยกมือไหว้...
“อย่านะพี่ อย่า อย่า”
เทวัญยิงปืนเปรี้ยง!!!
เทวัญยิงแต่ไม่โดน แอนดี้ช็อค มองตัวเองงงๆ
“ไปจากเมืองไทยซะ ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ฉันช่วยแกได้แค่นี้”
เทวัญกลับออกมา แอนดี้รีบเข้าไปเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าอย่างเร่งรีบ แล้วออกมาจากห้อง แต่ยังไม่พ้นประตู พบแสงยืนจังก้าขวางอยู่ แอนดี้ชะงักกึก ตาเหลือก แสงยิง เปรี้ยง!!!

เทวัญเงยหน้าจากหนังสือพิมพ์ มองปองธรรมอย่างเข้าใจ
“พ่อทำแบบนี้ทำไม ในเมื่อแอนดี้เขารับปากผมแล้ว ว่าเขาจะไม่ยุ่งกับน้องแล้ว”
ปองธรรมเดือด ตบหน้าเทวัญ
“แกขัดคำสั่งฉัน ถ้าแกไม่ใช่ลูก ป่านนี้แกไม่มีลมหายใจแล้ว”
“พ่อยังไม่ได้ให้โอกาสเขาพิสูจน์เลย รู้ได้ยังไงว่าเขาโกหก”
ปองธรรมตวาด
“หุบปาก แล้วจำไว้ด้วยว่าถ้าแกคิดจะอยู่ในโลกนี้ให้ได้ แกจะมาใจอ่อนแบบนี้ไม่ได้ แกต้องเหี้ยมกว่านี้”
ปองธรรมเดินออกไป เทวัญทรุดนั่ง อย่างท้อแท้กับโชคชะตา โทรศัพท์มือถือดัง เทวัญบ
“ฮัลโหล คุณเมขลา”
เทวัญทั้งแปลกใจ และดีใจที่เมขลาโทรมา

ที่หน่วยงานพิเศษป.ป.ส รามมองหนังสือพิมพ์ภาพข่าวแอนดี้ ทั้งเครียด ทั้งโมโห
“พวกนี้มันชั่วจริงๆ คิดอยากจะฆ่าใครก็ฆ่าตามใจชอบ สงสารไอ้หมอนี่ ถ้าผมหาข่าวได้เร็วกว่านี้ก็คงพอช่วยเขาได้ทัน”
ก้องภพที่นั่งอยู่ด้วยออกความเห็น
“ดีแล้วที่นายไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง ปล่อยให้ฝ่ายสืบสวนเขาตามเรื่องต่อไปละกัน ถ้านายทำไก่ตื่น งานใหญ่จะพังกันหมด”
“ครับ”
รามดูนาฬิกา
“ผมคงต้องไปแล้วครับ นัดกับลูกสาวปองธรรมไว้”
“โชคดี”
รามทำความเคารพ ก้องภพพยักหน้าให้

รามหิ้วของที่ธิดาซื้อจากห้างสรรพสินค้าเดินตามเธออยู่หลายถุง แต่ธิดาก็ยังคงเดพินเลือกเสื้อ เธอหยิบชุดมาทาบ ถามความเห็นว่าดูดีไหม รามพยักหน้าขอไปที
“เต็มใจออกความเห็นหน่อยสิ”
“ผมไม่ถนัดเรื่องเสื้อผ้าผู้หญิง”
“ก็แค่บอกว่าชอบ หรือไม่ชอบ ยากนักรึไง”
“คุณเทเรซ่าใส่ชุดอะไรก็สวยทั้งนั้นแหละครับ”
ธิดาเหวี่ยงชุดให้ รามต้องเอาคอหนีบไว้
“งั้นเอาชุดนี้ด้วย”
รามมองไปเห็นเมขลา สะดุ้งปล่อยเสื้อหล่น
“มาได้ไงวะเนี่ย”
ธิดาไม่เห็นเมขลาถามอย่างไม่พอใจ
“นี่นาย เสื้อหล่นพื้นแล้วเห็นมั้ย”
“มานี่ก่อนครับ”
รามฉุดธิดาให้ก้มหลบ
“อะไรของนาย”
“ผมเห็นคนสะกดรอยตามเรา”
ธิดาหน้าเสีย
“ใคร แล้วมาตามเราทำไม”
“อาจเป็นศัตรูพ่อคุณ จะมาจับคุณไปเรียกค่าไถ่”
“หา แล้วทำไง โทรบอกพ่อซิ”
“เราต้องหาที่หลบก่อน”
รามโผล่เห็นเมขลาเดินเลยไป รามฉุดธิดาไปอีกทาง เมขลาซึ่งตามรามมาที่ห่างหลังจากโทรศัพท์ไปหาเทวัญแล้วว่าจะตามรามได้ที่ไหน หันมองเห็นหลังรามแวบๆรีบตาม
รามฉุดธิดามาที่ห้องน้ำ ส่งของให้
“คุณเทเรซ่าเข้าไปหลบในห้องน้ำก่อน ผมจะออกไปล่อพวกมันไปทางอื่น”
“เดี๋ยว”
รามรีบพูดเร็วไม่ให้ขัด
“อย่าออกมาจนกว่าผมจะกลับมานะครับ”
รามรีบเดินไป ธิดาจำต้องหอบของไปในห้องน้ำ ขณะที่เมขลาเดินตามหาราม กระทั่งเห็นรามเดินไปบริเวณบรรไดหนีไฟ
“เฮอะ นึกว่าจะหนีฉันพ้นรึไง”
เมขลาเปิดประตูบรรไดหนีไฟออกไป รามวิ่งล่อเมขลาลงบันได
“หยุดนะ”
เมขลาลงมาถึงชั้นล่าง รามแอบอยู่ข้างหลัง
“คุณราม” เมขลาร้องเรียก
รามล็อกคอแล้วเอากุญแจรถทิ่มหลัง
“ว้าย อย่า อย่าทำอะไรฉันเลย ฉันไม่มีเงินหรอก”
“กลัวตายเหมือนกันเหรอ”
“ปล่อยฉันนะ”
“ถ้าไม่อยากให้พุงสวยๆมีรู ก็กลับไปซะ ผมเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้าย”
“คุณไม่กล้าทำหรอก”
“ลองดูมั้ยล่ะ”
“แค่คุณทำตัวเหลวแหลกแบบนี้ คุณแม่ก็เสียใจมากแล้วถ้าคุณฆ่าคน ก็ต้องติดคุก เสียอนาคต เสียทุกสิ่งทุกอย่าง”
“แต่แลกกับการที่ไม่ต้องเจอ ผู้หญิงอย่างคุณมันก็คุ้มนะ”
“ก็ถ้าไม่อยากให้ฉันตามตื๊อ คุณก็กลับไปหาคุณแม่สิ แล้วฉันจะไม่มาให้คุณเห็นหน้าอีกเลย”
“ทำไมต้องเสี่ยงชีวิตมายุ่งกับครอบครัวคนอื่น ว่างมากรึไง”
“เพราะฉันไม่มีแม่ ฉันถึงทนเห็นคุณทำเลวกับคุณแม่ไม่ได้”
รามคลายมือ
“แค่นี้นะ”
“แค่นี้มันก็เกินพอแล้ว” เมขลาได้ทีเห็นว่ารามอ่อนลง รีบโกหกต่อ “ตอนนี้คุณแม่ต้องเข้า ผ่าตัดด่วน แต่ถ้าท่านไม่เห็นหน้าคุณ ท่านจะไม่ยอมเข้าห้องผ่าตัด ถ้าคุณไม่ไปตอนนี้คุณอาจจะไม่ได้เห็นหน้าคุณแม่อีกเลย”
รามอึ้ง
“ผมไม่เชื่อ”
“งั้นคุณก็ไปดูเองซิ ถ้าฉันโกหก ฆ่าฉันได้เลย”
รามฟังแล้วเริ่มลังเล

เมขลาเดินลิ่วนำรามมาตามทางเดินของโรงพยาบาล พลางพึมพำ
“คุณคงไม่ใจร้าย ถึงกับฆ่าฉันจริงๆหรอกนะ”
เมื่อถึงหน้าห้อง เมขลาหันมองรามทำหน้าเศร้า
“คุณเข้าไปได้แล้ว อย่าลืม อย่าพูดจาให้คุณแม่เสียใจ คุณต้องเป็นฝ่ายฟังท่านบ้าง”
รามถอนใจ เปิดประตูเข้าไป เมขลารีบดึงปิด ยกมือท่วมหัว
“เจ้าประคุณ ขอให้คุณแม่เกลี้ยกล่อมตารามสูรได้ทีเถอะ”
เมื่อรามเข้าไปในห้อง เห็นบนเตียงว่างเปล่า ไม่มีทรงวาด รามหงุดหงิดทันที...
“ถูกยัยบ้านั่นหลอกจนได้”
รามจะออกไป ทันใดจักร กับลูกน้องอีกสามคน ใส่หน้ากากปิดจมูกกับปาก ออกมาจากห้องน้ำ ล้อมหน้าล้อมหลัง
“พวกแกเป็นใคร”
จักรไม่ตอบ จะเข้าไปจับ รามเปิดฉากต่อสู้ เพื่อจะหนีออกไปจากห้อง แม้ว่าจะโดนรุม แต่ก็สู้ไม่ถอยเตะต่อยกันอยู่สักพัก จนลูกน้องหมอบ รามจะออกจากห้อง เรืองฤทธิ์เข้ามา
“อา...พวกนี้...”
เรืองฤทธิ์พ่นสเปรย์ยาสลบใส่หน้า รามชะงักร่วงลง เรืองฤทธิ์เข้าประคอง
เมขลารออยู่อย่างกระวนกระวาย อยู่ไม่ห่างจากห้องนัก เมื่อเดินกลับไป ประตูเปิดจักรเข็น รามที่นั่งคอพับออกมา เมขลางง
“อะไรกัน นี่พวกนายเป็นใคร”
เรืองฤทธิ์ที่ตามออกมา รีบบอก
“อาเอง”
เมขลาหันมองเรืองฤทธิ์ อย่างไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

อาหารมากมาย ถูกจัดไว้บนโต๊ะอาหาร ทรงวาดเดินเข้ามองแล้วนิ่วหน้า เห็นกับข้าวขาดไปอย่างหนึ่ง
“แม่แจ่มๆ แกงเขียวหวานเนื้อของโปรดลูกชายฉันอยู่ไหน”
“อยู่นี่ค่ะ แจ่มเพิ่งแกงเสร็จเดี๋ยวนี้เอง”
แจ่มยกแกงมาวาง รามยิ้มพอใจ
“แล้วน้ำมะพร้าวอ่อนล่ะ แช่ไว้หรือยัง นายรามชอบกินแบบเป็นเกล็ดน้ำแข็งนะ”
“เรียบร้อยแล้วค่ะ”
ทรงวาดพยักหน้ามองอาหารบนโต๊ะพอใจ ก่อนหันมองรูปภาพของทรงวาดที่ถ่ายคู่กับพ่อของรามอย่างวิงวอน
“วาดจะทำทุกอย่างให้รามยอมกลับมาอยู่บ้าน พี่เองก็ช่วยดลใจรามให้วาดอีกแรงนะจ๊ะ”
ขณะเดียวกันเสียงเรืองฤทธิ์ดังขึ้น
“พี่วาดครับ นายรามมาแล้วครับ”
ทรงวาดดีใจรีบเดินออกไป ก่อนจะออกไปชะงัก ชะโงกหน้ามองกระจกหรือเงาสะท้อนอะไรก็ได้ แต่งตัวลูบผมตื่นเต้น แล้วเดินเข้าห้องรับแขกไปอย่างสดชื่น แต่แล้วก็ต้องอึ้ง...
“ราม...”
ทรงวาดเห็นเรืองฤทธิ์เดินเข้ามากับเมขลา มีจักรกับคนของเรืองฤทธิ์หิ้วปีกรามเข้ามา เธอรีบวิ่งไปที่รามเขย่าอย่างตกใจ
“ราม...ราม...นี่รามเป็นอะไรไป” ทรงวาดหันถามเมขลา “ทำไมตารามถึงเป็นแบบนี้”
“หนูก็ไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะ จู่ๆ คุณอาก็โปะยาสลบคุณราม แล้วทำไมคุณแม่ไม่รออยู่ที่ห้องแล้วทำตามแผนที่เราตกลงกันไว้ล่ะคะ”
“ฤทธิ์ให้แม่กลับบ้านมารอราม...ตกลงนี่ฤทธิ์ทำอะไรหลาน โปะยาสลบงั้นหรือ” ทรงวาดหันไปถามเรืองฤทธิ์อย่างไม่พอใจ
“ก็ถ้าไม่ทำแบบนี้ เราจะได้ตัวนายรามได้ยังไงล่ะครับ”
ทรงวาดมองรามอย่างสงสาร
“แต่นี่มันรุนแรงไป”
“ยังไม่รุนแรงหรอกครับ”
เรืองฤทธิ์หันไปพยักหน้าสั่งจักร
“พาคุณรามขึ้นไปบนบ้าน”
เมขลาไม่สบายใจ หันไปถาม
“คุณอาจะทำอะไรคุณรามหรือคะ”
เรืองฤทธิ์ยิ้มเครียด

ในห้องนอน...จักรสับกุญแจมือเข้าที่ข้อมือรามที่ยังไม่ได้สติไว้กับตัวเตียง ทรงวาดที่ตามมามองหน้าซีดอย่างตกใจ เมขลาก็ตาค้างเช่นกัน จักรสับกุญแจเข้าที่ข้อมือรามข้างหนึ่งเสร็จ กำลังสับอีกข้างเพื่อรวบข้อมือทั้งสองข้างเข้าด้วยกัน ทรงวาดทนดูไม่ได้ถลาไปจับจักรดึงออก
“พอได้แล้วจักร”
จักรชะงักเหลือบมองเรืองฤทธิ์ ทรงวาดหันไปมองเช่นกัน รีบพูดอย่างไม่เห็นด้วย
“พี่ ไม่เห็นด้วยที่ต้องทำกับรามขนาดนี้”
เรืองฤทธิ์ทำหน้าขรึม
“นายรามฤทธิ์มากขนาดไหน พี่วาดก็รู้อยู่ขืนไม่ทำแบบนี้มีหวังอาระวาดบ้านแตก”
ทรงวาดนิ่วหน้า เริ่มคล้อยตาม แต่ยังสงสาร
“พี่กลัวว่าถ้าเราบังคับรามมากๆ ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเหมือนคราวลักษณ์ ถ้าเป็นอย่างนั้นพี่ก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม”
“รามเป็นคนเข้มแข็ง ไม่มีวันเป็นอย่างลักษณ์หรอกครับ”
ทรงวาดยังลังเล มองไปที่กุญแจข้อมือคิดหนัก
“แต่ทำแบบนี้มันเหมือนว่ารามเป็นนักโทษ”
“ผมเข้าใจว่าพี่วาดรู้สึกยังไง แต่พี่วาดต้องทำใจแข็งให้ได้ถ้าอยากได้ตัวรามกลับมา”
ทรงวาดอึ้ง เรืองฤทธิ์มองทรงวาดอย่างรู้ทันว่ากำลังสับสน
“ถ้าพี่วาดทนไม่ได้ ก็เชิญครับ แต่ผมเชื่อว่าเราจะไม่มีวันได้เข้าใกล้รามอีกแล้ว”
ทรงวาดมองรามอย่างครุ่นคิด ทุกคนมองทรงวาดอย่างรอคอยคำตอบ และในที่สุดเดินออกไปจากห้อง เมขลาเดินตามไปด้วย
“คุณแม่ไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะ คุณแม่ทำดีที่สุดแล้ว”
ทรงวาด พยักหน้ารับ
“เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ หนูเชื่อว่าเราพูดกับเขาดีๆ เขาคงเข้าใจ”
เมขลาบีบมือทรงวาดอย่างให้กำลังใจ

เมื่อรามฟื้น พบว่าตัวเองถูกล็อกกุญแจมือทั้งสองข้างเข้าด้วยกันโยงกับหัวเตียง เขาพยายามดิ้นแต่ไม่หลุด เมขลาเปิดประตูเข้ามา เห็นอย่างนั้นก็ยิ่งเดือด
“มาแล้วเหรอยายตัวแสบ ปล่อยผมเดี๋ยวนี้เลยนะ”
เมขลาเห็นใจแต่ไม่ยอมช่วย
“เสียใจ ฉันทำไม่ได้จริงๆ”
“แต่ถ้าผมหลุดไปได้คุณจะยิ่งกว่าเสียใจ เพราะผมจะบีบคอคุณให้ตายไปเลย”
รามขู่ เดินวาดที่เดินตามเข้ามาถอนใจ
“รามอย่าโกธรน้องเลย หนูเมทำไปก็เพราะว่าอยากช่วยแม่”
รามหันไปมองทรงวาดแค้นใจ
“ผมน่าจะนึกออกว่าคนอย่างยายติงต๊องเนี่ย ไม่มีวันคิดแผนได้เจ้าเล่ห์แสนกลเหมือนแม่หรอก”
ทรงวาดเสียใจ เมขลามองรามโมโห
“คุณแม่ทำทุกอย่างเพื่อให้คุณกลับมา เรื่องอะไรคุณไปว่าท่านแบบนั้น คนอกตัญญู”
“นี่เป็นเรื่องในครอบครัวผม คุณไม่เกี่ยว ไสหัวไปให้พ้น” รามตววาด
“ฉันก็ไม่อยากอยู่กับคนอย่างคุณเหมือนกัน” เมขลาหันไปทางทรงวาด “หนูว่าตอนนี้เราพูดกับเขายังไง เขาก็ไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ ไว้ค่อยคุยกันใหม่วันหลังดีกว่า”
ทรงวาดเห็นด้วย พยักหน้ามองราม
“ไว้รามสงบสติอารมณ์ได้ เราค่อยคุยกัน”
ทรงวาดกับรามเดินอกไป รามมองตามแค้นจัดแล้วดิ้นแรง กระชากแขนจากหัวเตียง
“โธ่โว้ย!”
ทรงวาดที่มาหยุดยืนหน้าห้อง ชะงักฟังเสียงในห้อง ได้ยินเสียงรามดิ้นกึกกัก และสบถอย่างโมโหตามมา
“ช่วงนี้รามคงไม่อยากเห็นหน้าแม่เท่าไหร่ ถ้ายังไงฝากหนูดูแลเขาด้วยนะ”
เมขลายิ้มเจ้าเล่ห์ ดีใจที่ทรงวาดฝืนทำใจแข็งได้
“ได้เลยค่ะ หนูจะดูแลคุณรามให้ดีที่สุดเลย”
ทรงวาดยิ้มพอใจ เมขลามองไปทางห้องรามอย่างสะใจ จะได้แก้แค้นเล็กๆแล้ว

ธิดาที่รอรามอยู่ในห้องน้ำนาน แต่รามก็ไม่มาเสียทีจึงโทรหาเทวัญให้มารับกลับไปที่ร้าน ธิดาร้อนใจมาก กลัวว่ารามจะได้รับอันตราย ให้เทวัญช่วยตามหา เทวัญจึงโทรสั่งลูกน้อง เทวัญกดโทรศัพท์หลังจากพูดกับลูกน้องแล้ว
“ว่าไง พี่เทพ เจอนายรามมั้ย”
“ไม่ ให้คนหาทั้งในห้างแล้วก็รอบๆ ไม่เจอเลย”
“พวกมันต้องเอาตัวรามไปแน่ๆ พี่เทพต้องช่วยคนของน้องนะ” ธิดาร้อนรน
“ใจเย็นก่อน เรายังไม่รู้เลยว่าไอ้พวกนั้นเป็นใครอีกอย่าง คนแถวนั้นก็ไม่มีใครเห็นการต่อสู้ หรือคนร้ายที่น้องพูดเลย”
“หมายความว่า พี่จะไม่ช่วยนายรามใช่มั้ย พี่ ไม่เอาไหนอย่างที่พ่อว่าจริงๆ”
ธิดาคว้ากระเป๋าเทวัญรีบถาม
“จะไปไหน”
“ก็ไปหาตัวนายรามน่ะซิ ในเมื่อพึ่งพี่ไม่ได้แล้ว”
“ไม่ได้นะ มันอันตราย”
“น้องไม่ขี้ขลาดอย่างพี่หรอก”
เสียงเมขลาดังขึ้น
“ฉันเองค่ะ เมขลา จะโทรมาขอบคุณเรื่องสามีฉัน”
“นายรามเหรอครับ”
“ตอนนี้เขากลับมาบ้านแล้วค่ะ ฝากบอกเจ้านายคุณด้วยนะคะว่าเขาคงไม่กลับไปอีกแล้ว”
“ครับ”
เทวัญกดปิดโทรศัพท์อย่างขรึมๆ
“ว่าไง พี่เทพ รามเป็นไง”
“เขาปลอดภัยดี”
“แล้วเขาอยู่ที่ไหน”
“เขาอยู่กับเมีย”
“อะไรนะ”
“รามไม่ได้บอกน้องเหรอว่า เขามีเมียแล้ว แล้วเมียเขาก็ไม่อยากให้เขามาทำงานกับเรา ตอนนี้เขาคงตัดสินใจทำตามที่เมียเขาต้องการแล้ว”
ธิดาอึ้งๆๆๆ
“ไม่ น้องไม่เชื่อ”

ธิดากดโทรศัพท์หารามทันที

อ่านต่อวันพรุ่งนี้





กำลังโหลดความคิดเห็น