เปิดใจ...นักแสดง
เปิดอก "ปุ๊กลุ๊ก-ฝนทิพย์ วัชรตระกูล"
ละคร ผู้ชาย และศัลยกรรม
"ปุ๊กลุ๊ก-ฝนทิพย์ วัชรตระกูล" พร้อมทีมนักแสดงจากละครฮิตเรื่อง "เพลงรักบ้านนา" (เติ้ล-ธนพล / แตงโม-ภัทรธิดา / มะนาว-ศรศิลป์) ละคร “เสาร์ 5 ตอน ทับทิมสยาม” (โน้ต-วัชรบูล / เอก-รังสิโรจน์ / น้ำ-รพีภัทร / แก้ม-กวินตรา / กวาง-ฟ้ารุ่ง / กี้-รฐกร เอี๊ยม-วรรษพร / อุ่น-ปริยานุช) และ “วิวาห์…ฮาเฮ” (วุธ-อัษฎาวุธ / หมู-ธีรภัทร์ / นินิว-กัญญารัตน์ / กัสเบล-ชวนภ) มาขึ้นคอนเสิร์ต “7 สี คอนเสิร์ตพิเศษ รวมเด็ดละคร7 สี” ในวันเสาร์ที่ 25พฤศจิกายน 2554 ที่ผ่านมา โดยถ่ายทอดสด เวลา 11.45 น. จาก ห้อง MCC HALL ชั้น 4 เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน
พร้อมกันนี้นางเอกมาแรงเปิดใจเรื่องผลงานละคร รวมทั้งเรื่องของความรัก และปิดท้ายด้วยข่าวการทำศัลยกรรมที่ยังมีเข้ามาตลอดๆ
ฟีดแบ็ก หรือเสียงตอบรับจากละคร “เพลงรักบ้านนา” เป็นอย่างไรบ้าง
จากที่หายหน้าหายตาไป หนูขอขอบคุณแฟนละครจริงๆ ที่คอยติดตาม และติชมมา หนูคิดว่าคำชมหรือว่าสิ่งใดๆ หนูรับมาหมด เพื่อนำมาปรับใช้ คอมเม้นท์ในเรื่องของการสื่ออารมณ์ต่างๆ เพื่อที่จะปรับปรุงให้มันดีขึ้นในการที่ถ่ายทำละครอยู่ที่ใช้อารมณ์ การใช้เสียงอะไรอย่างนี้ เราก็ต้องปรับ หนูก็จะปรับปรุงตัวไปเรื่อยๆ หนูก็ขอขอบคุณแฟนๆ ทุกๆ คนที่คอยติดตามชมละครกันน่ะค่ะ
หลายคนมองว่าเป็นนางงามแล้วมาเป็นดาราที่ห่วงสวย ปุ๊กลุ๊กคิดอย่างไรกับเรื่องนี้
ส่วนใหญ่เลย เยอะเลยใช่ไหมคะ จริงๆ แล้วอยากจะบอกเหมือนกับว่า จริงๆแล้วเราไม่ห่วงสวย ว่าเราก็ห่วงสวยอยู่เหมือนกัน ด้วยความที่เป็นนางงามเราก็ต้องมีการห่วงสวยกันบ้างอะไรอย่างเนี่ยอ่ะ จริงๆ แล้วเวลาเข้าฉากก็ไม่เคยแต่งหน้าเลยค่ะเลยไม่ค่อยแปลกใจ และเวลาเข้าฉากเล่นโคลน เวลาหยิบจับโคลนมาป้ายหน้าจริงๆนะ เพื่อให้คนดูได้รู้ว่าเรา เราจับต้องโคลนได้ เราจับต้องไฟได้นะ หนูก็คิดว่าเหมือนว่าคนดูละครคงจะสัมผัสได้ถึงตรงนั้น เรารู้สึกว่าเราอินกับบุคลิกตัวนั้น ในการที่จะสู้กับวายร้ายในละครอ่ะค่ะ
ได้ร่วมงานกับ “นิว วงศกร” เป็นอย่างไรบ้าง สำหรับละครเรื่อง “เพลงรักบ้านนา” นี้
ได้ร่วมการกับพี่นิว พี่นิวเป็นคนน่ารักค่ะ ตอนหลังๆ มีการเข้าคิวของตัวละครก็ไม่ค่อยได้พูดคุยกันสักเท่าไหร่ พี่นิวในตัวละครจะเป็นคนที่กวนๆ อะไรอย่างนี้ บางทีเราเล่นๆ ไป ก็มีการเขินอาย คือจะไม่กล้ามองหน้า ไม่กล้าจ้องหน้าพี่นิวเลยอ่ะค่ะ
แล้วเรากลัวไหม ว่ามันจะอินออกมานอกจอ?
หนูว่าเราเล่นละครนะ เราก็เหมือนเป็นตัวนั้นเลยจริงๆ อ่ะคะ ช่วงระยะเวลาที่เล่นเรื่องนี้ ณ ตอนนี้ที่ถ่ายทำอยู่คือเราสองคนจะไม่ค่อยคุ้นกัน เราก็จะพยายามปรับเข้าหากัน เราไม่ค่อยได้คุยกันสักเท่าไหร่ เราก็ต้องมานั่งคุยกันแล้วอย่างนี้
แล้วเรื่องที่มีการมาสอนคิวบู๊ให้กันด้วย
ไม่นะ...ไม่หรอกค่ะ พี่นิวน่ารักแล้วก็เค้าถนัดคิวบู๊ และหนูเองก็เล่นได้ไม่เก่งเท่าพี่นิวค่ะ ในเรื่องนี้พี่ๆ เค้าก็จะคอยสอนเรื่องของจังหวะและคิวไม่ให้พลาด ตั้งการ์ดบ้าง โหม่งบ้าง อะไรอย่างนี้
ตอนที่เข้าฉาก ทราบมาว่าได้เจอพี่วี วีรภาพ มาป๊ะกันเรื่องเป็นอย่างไร (วีรภาพกับเวียร์ ศุกลวัฒน์ แวะไปที่กองละครเพลงรักบ้านนา)
คือในวันนั้นเป็นการเจอกันโดยบังเอิญ อีกแล้ว (เสียงสูง) นะคะ ก็กองละครของหนูก็ไปถ่ายโลเคชั่น หนูก็เดินลั้ลลาไปทั่วเลย แล้วบังเอิญว่าวันนั้นเป็นวันแรกเลยที่ใส่เสื้อกล้ามสีดำ และกางเกงมวยไทย แล้วก็เหมือนมีพี่คนหนึ่งมองหนูแล้วก็อึ้ง เหมือนเค้ามองเราแล้วเค้าจะลวนลามเราอะไรอย่างนี้ หนูก็ไม่รู้ซีนสุดท้าย หนูก็คือไม่ทันได้สังเกต ก็มัวแต่ตกใจนิดนึง แล้วก็แค่ตกใจว่าคือตรงนี้ก็มีแต่กอง(ละคร) เรากับกอง(ละคร )เค้า เราก็เป็นจุดเด่น และเราก็คิดว่าเราบังเอิญเจอกันอีกแล้วหรออะไรอย่างนี้อ่ะค่ะ
...เราจะถ่ายทำอยู่คนละส่วนอ่ะค่ะ คือวันนั้นหนูเป็นคิวบู๊ แล้วพี่วีก็เข้ามาไหว้คุณอา ซึ่งวันนั้นเราก็ไม่ทันได้มองดู ซึ่งพี่วีเขาก็เข้ามาทัก “น้องปุ๊ก...ครับ” พอเค้าเข้ามาไหว้เสร็จเขาก็กลับไป แล้วเราก็ไม่ได้คุยอะไรกันมากมาย
...คือตอนนั้นหนูซ้อมคิวบู๊อยู่ค่ะ คือพี่เค้าไหว้ เราก็ซ้อมคิวตั้งการ์ด คือเราไม่ได้พูดคุยกัน ไม่...ไม่มีอะไรจะคุยสักเท่าไหร่
ถึงขั้นย้ายโรงแรมหนีกันเลย จริงไหม?
คือ...อันนั้นมันก็เป็นสถานที่เปลี่ยว และเป็นโรงแรมที่ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ คือทุกอย่างที่ถ่ายละครเราก็ต้องซื้อต้องหา ทุกอย่างเลย
เวียร์ ถูกมองว่ามาจับคู่กัน มีการมาแซวกัน ปุ๊กลุ๊ก คิดยังไง
โอ๊ย...ทำการบ้านมาดีมากๆ งานเข้า ก็ว่า คือประมาณว่าพี่เขาแซว ว่าเอ่อ.. ปุ๊กลุ๊ก คือมีใครมาว่ามาแซวเราว่า หรือปล่าว ว่าเท้าแล้วหนักกว่าเดิมอีก อะไรอย่างนี้แล้วเค้า เค้าก็บอกว่า ไม่นะ เราก็ไม่ได้สนใจ เราไม่ได้เห็นแก่พี่เวียร์ เราไม่ได้เห็นแก่พี่วี จะเท้าจะหนักก็ไม่เกี่ยวกับพี่วี
กลัวจะถูกโฟกัสไปเรื่อง “เวียร์ ศุกลวัฒน์” ไหม?
โอ๊ย...ไม่หรอกค่ะ ซึ่งพี่เวียร์ กับวันนั้นตอนที่เราไม่ได้เล่นละครด้วยกัน คือพี่เวียร์เราก็ได้คุยกันตัวจริงๆอะไรอย่างนี้ แล้วพี่วีเนี่ยเราก็เพิ่งได้มาเจอกันทีหลัง คือพอเจอกับพี่เวียร์เราก็คุย พี่เวียร์เดินมาในกองสัก 3 นาทีอะไรอย่างนี้อ่ะค่ะ
...หนูก็ไม่ได้ห่างกับพี่วีคนเดียว หนูห่างกับทุกๆ คน เพราะว่าเราได้ทำงานหนัก หนักมากๆ เลย แล้วเราก็ไม่อยากไปโฟกัสที่ใครๆ แล้ว เหมือนเราจะอยู่ในความรู้สึกที่ต้องเราจะต้องมาคอนโทรลเรื่องของความรัก และการทำงาน พอเอาเข้าจริงๆ แล้ว เราได้ห่างกันมา เอ๊ เราก็ได้สนุกกับการทำงาน มันอยู่ในช่วงปรับตัว เราไม่ได้คาดหวังไว้อ่ะ
แสดงว่าต้องเต็มที่กับงานมากๆ เลย ว่างั้น
ก็ต้องเรียกว่า บ้างานเลยล่ะค่ะ ต้องมาคอย มานั่งรอ มานั่งเล่น ตามกองถ่ายอ่ะค่ะ
เป็นเพราะบ้างานจนลืมอัพเดทเรื่องของหัวใจใช่ไหม?
ถ้าถามว่าบ้างานจนลืมไปแล้ว 100 % คือเราเหมือนกันพลังงานมันเหลือๆ ไม่มีเอาไว้ให้คิดมาก ก็ได้ไปช่วยฝ่าย Prop ทีมสโมค (Smoke ทีมทำควัน) ในกองถ่ายอะไรอย่างนี้อ่ะค่ะ ก็รู้ว่า มันกลิ่นอะไรนะ มันใส่ถ่านหรือปล่าว
กับความรักที่ผ่านมา ทำให้เราปิดกั้นตัวเองหรือปล่าว?
ปิดกั้นไหม (หยุดคิด) จริงๆ แล้วหนูก็ไม่ได้เปิด แต่ก็ยังไม่ได้ปิด จริงๆ คือเรายังไม่พร้อมที่จะให้ใครมาดูแลหัวใจเป็นพิเศษแล้วอ่ะค่ะ
มีหลายกระแสออกมาหลายว่า ปุ๊กลุ๊กไปฉีดโน่น ฉีดนี่มา มันจริงไหม (ศัลยกรรม)?
ว๊าย...จริงๆ แล้วอันนี้ อันนี้หนูไม่ทราบค่ะ ไม่ทราบด้วยว่า ว่ามีคนเคยมาแนะนำให้ฉีด
มีคนมาขอคำแนะนำบ้างไหม...ให้ไปฉีดที่ไหน?
คือมีคนมาถามคะ มาถามเราว่าไปฉีดหรือไปทำจมูกอะไรที่ไหนยังไงอ่ะคะ หนูก็บอกไปว่าหนูไม่ได้ทำอะไรอย่างนี้ คือถ้าจะทำหนูก็จะไปดูร้าน ไปดูว่าอยู่แถวไหนจะได้ไปทำมาบ้าง จะได้สวยไ ถ้าทำมาได้ผลแล้วจะมาบอกอ่ะคะ
...เวลามีคนมาถามเกี่ยวกับความสวยความงาม ว่าทำโน่นทำนี่ เลเซอร์ ส่วนใหญ่จะตอบว่าใช้พวกยาหรือครีมบำรุงไม่ได้ผ่า ไม่ได้เสริมอะไรมา ก่อนปุ๊กลุ๊กคิดยังไงกับเรื่องนี้
...คือตัวเราก็ไม่เคยมีประสบการณ์ เราก็เลยไม่รู้ว่าทำมาแล้วเห็นผลเป็นยังไงบ้างค่ะ เราก็ไม่ได้แบบรู้เส้นสายในวงการ ว่าจะไปทำ ต้องไปถามคนในวงการดูสิ เราก็จะได้ไปสืบดูด้วยอะไรอย่างนี้อ่ะค่ะ คือยัง ยังไม่ได้ไปคิดถึงในส่วนนั้น เราก็ไม่ได้รู้ว่าเราจะได้ให้คำแนะนะดีไหม ได้มากน้อยอะไรยังไง
...โอเคค่ะ ขอบคุณพี่ๆ สื่อมวลชนทุกๆ คนค่ะ