เสาร์๕ ตอนทับทิมสยาม ตอนที่ 20
เสือสนธิ์ เจ้าพ่ออินทร์ และลูกน้องคนอื่นๆ พากันเดินออกมาจากป่า ส่วนนั้มที่ทำหน้าที่เฝ้าบังเกอร์อยู่รีบเข้าไปรับ
“ทุกคนปลอดภัยกันดีนะครับ เจ้าพ่ออินทร์ เสือสนธิ์”
เสือสนธิ์ถอนใจ
“ก็เกือบไม่รอดเหมือนกัน แต่งานนี้เป็นความผิดของฉันเอง ที่ไม่เชื่อลางสังหรณ์ของเจ้าพ่ออินทร์”
เจ้าพ่ออินทร์ครุ่นคิด
“ผมว่าต่อไป พวกมันต้องกลับมาอีกแน่”
“เมื่อไหร่ด็อกเตอร์วิทยาจะมาก็ไม่รู้ ฉันจะได้หมดภาระในการดูแลทับทิมสยาม 2 ก้อนนี่ซะที” เสือสนธิ์บ่นอย่างหนักใจ
“เสือสนธิ์กับเจ้าพ่ออินทร์ ไปพักผ่อนกันก่อนเถอะครับ ทางนี้ผมจะดูแลให้เอง” นั้มบอก
“ขอบใจ...ยังไงก็ฝากด้วย”
เจ้าพ่ออินทร์กับเสือสนธิ์ พากันเดินเข้าไปด้านในเพื่อพักผ่อน ขณะที่นั้มและคนอื่นๆดูแลเวรยามกันต่อ
กลุ่มเสาร์ห้า เดินลัดเลาะเข้าหาจุดกำบังบริเวณป่าใกล้เจดีย์ เนื่องจากห่างออกไป กลุ่มลูกน้องของเสือสนธิ์กับเจ้าพ่ออินทร์กำลังลาดตะเวณอยู่ สัปเหร่อแต้มมองไปยังพวกที่ลาดตระเวณ
“พวกนี้มันคนในหมู่บ้านเสือหมอบทั้งนั้นเลย”
“มากับพวกเจ้าพ่ออินทร์ กับเสือสนธิ์น่ะครับลุงแต้ม” กริ่งบอก
เทอด มองคนของเสือสนธิ์กับเจ้าพ่ออินทร์อย่างครุ่นคิด
“เราต้องพยายามให้ข้อเท็จจริงกับเขา จะได้ตาสว่างกันซักที”
เดี่ยวถอนใจ
“ท่าทางจะยากครับ พวกเขาไม่ฟังอะไรเลย ผลีผลามออกไปตอนนี้ จะโดนยิงเอาง่ายๆ”
บุษกรหนักใจ
“แบบนี้ทำงานยากนะคะ เขากล้ายิงเราแต่เรายิงเขาไม่ได้”
“ให้พวกผู้หญิงลองเจรจาดูก่อนได้มั๊ยคะ” ชดลาเสนอแนะ
ยูกิเห็นดีด้วย
“ใช่ค่ะ...ถ้าพวกเราเจรจา บางทีพวกเขาก็อาจจะยอมฟังเหตุผลบ้าง”
เดี่ยว เทอด กริ่ง สัปเหร่อแต้ม หันมามองหน้าปรึกษากัน
“เอาไงคุณ กริ่ง คุณเทอด คุณเดี่ยว” สัปเหร่อแต้มถาม
เทอดนิ่งคิดครู่หนึ่ง
“ก็ได้ครับ บางทีเสือสนธิ์ เจ้าพ่ออินทร์อาจจะเชี่อพวกคุณก็ได้”
“แล้วถ้าไม่สำเร็จล่ะ...จะเกิดอะไรขึ้น” กริ่งถามอย่างกังวลใจ
“พวกเขาคงไม่ฆ่าเราหรอกค่ะ เพราะอย่างน้อยก็คนเคยรู้จัก เคยร่วมงานกัน” ชลดาบอก
“พวกเราจะแอบเข้าไปสามคน มีฉัน ยูกิ แล้วก็ชลดา ถ้าเย็นนี้ไม่กลับออกมาก็แสดงว่าเราทำไม่สำเร็จ” บุษกรน้ำเสียงมุ่งมั่น
“งั้นพวกคุณระวังตัวนะครับ” เดี่ยวเตือนอย่างไม่สบายใจ
บุษกร ชลดา ยูกิพากันแยกตัวออกไป
ลูกน้องเสือสนธิ์ เดินลาดตระเวณอยู่รอบเจดีย์ ขณะที่บุษกร ชลดาและยูกิพากันวิ่งลัดเลาะแอบเข้าไป...บุษกรแอบเข้าไปด้านหลังของเวรยาม ใกล้ๆ เจดีย์คนหนึ่งแล้วล็อก คอให้สลบ แต่แล้วยามอีกสามคนโผล่มาเห็น
“เฮ้ย...มาได้ไง”
ชลดาและยูกิ รีบเข้าไปขวางไว้ ชลดาเอานิ้วจุ๊ปาก
“จุ๊ๆ อย่าเสียงดังซิ”
ชลดา ยูกิและบุษกร เข้าต่อสู้ กับยามทั้งคน สามสาวใช้ศิลปะการต่อสู้และฉันเชิงแพรวพราว ทำให้น็อคทั้งสามคนได้ไม่ยากนัก ขณะเดียวกันนั้น เสือสนธิ์กับเจ้าพ่ออินทร์เดินเข้ามาเห็นพอดี
“”หยุดนะ” เสือสนธิ์ตวาดลั่น
“ยกมือขึ้น”
เจ้าพ่ออินทร์ใช้ปืนเล็งพร้อมยิง สามสาวยกมือขึ้น
“ใจเย็นค่ะ เรามาดี” บุษกรบอก
เสือสนธิ์มองสาวๆอย่างไม่พอใจ
“แบบนี้ไม่ได้เรียกว่ามาดี นึกไม่ถึงว่าพวกเธอก็ไม่ต่างอะไรกับพวกเสาร์ห้า”
“เสือสนธิ์ฟังพวกเราบ้างค่ะ มีบางอย่างที่เราอยากจะบอกให้รู้” ยูกิพยายามอธิบาย
“เจ้าพ่ออินทร์ ฉันขอร้อง ให้โอกาสพวกเราได้อธิบายบ้าง” ชลดาอ้อนวอน
เจ้าพ่ออินทร์ และเสือสนธิ์มองหน้ากันในเชิงปรึกษา
บุษกร ชลดาและยูกิ ถูกมัดเอาไว้ที่หน้าพระประธาน เจ้าพ่ออินทร์กับเสือสนธิ์ยืนมอง
“เอาละ มีอะไรว่ามา” เสือสนธิ์บอก
เจ้าพ่ออินทร์มองสามสาว
“อย่าเยิ่นเย้อล่ะ เรามีงานต้องทำอีกเยอะ”
“ค่ะ...ฉันแค่จะมาบอกว่างานที่พวกคุณกำลังทำอยู่ตอนนี้ มันคือการร่วมมือกับคนร้ายทำลายชาติ” บุษกรพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
เสือสนธิ์ยิ้มหยัน
“นี่เธอคงคิดว่าพวกฉันโง่ หลอกได้ง่ายๆ งั้นซิ”
“แต่นี่คือความจริงนะคะ ดร.วิทยาคือคนร้ายที่ไม่หวังดีต่อประเทศชาติ การทดลองที่กำลังจะเกิดขึ้นจะทำให้เมืองไทยของเราพินาศย่อยยับ” ชลดาพยายามบอกความจริง
เจ้าพ่ออินทร์จ้องหน้าชลดา
“เธอเป็นพวกดร.ฟอร์ด ต้องการที่จะขัดขวางความสำเร็จของดร.วิทยา”
“เราไม่ได้เป็นพวกดร.ฟอร์ด เรามาที่นี่เพื่อขัดขวางทั้งดร.ฟอร์ด และดร.วิทยา เพราะคนทั้งคู่กำลังทำร้ายเมืองไทย” ยูกิแย้ง
“เชื่อเราเถอะค่ะ เราสามคนเสี่ยงมาที่นี่ ก็เพราะเราไม่อยากทำร้ายพวกคุณจริงๆ” บุษกรเกลี้ยกล่อม
เสือสนธิ์หันไปสั่งลูกน้อง
“เอาผ้าปิดปากทั้งสามคน”
พวกลูกน้องพากันเอาผ้ามาปิดปากบุษกร ชลดา และยูกิแล้วจากนั้นเจ้าพ่ออินทร์ และเสือสนธิ์ก็เดินออกไป
เสือสนธิ์ และเจ้าพ่ออินทร์เดินมาหยุดคุยปรึกษากัน
“เสือสนธิ์ คิดยังไงกับสิ่งที่พวกนั้นพูด”
“แล้วเจ้าพ่ออินทร์ว่าไง”
“ผมว่าก็สามคนนี่ คงไม่อยากทำร้ายพวกเราก็เลยเสี่ยงเอาเรื่องนี้มาบอก”
“ถ้าแสดงว่าคุณเชื่อว่าเรากำลังโดนดร.วิทยาหลอก”
“ผมพร้อมที่จะเชื่อถ้ามีหลักฐานชัดอีกสักนิด”
“งั้นเราต้องรอเวลา”
ทั้งคู่พากันเดินออกไป
กลุ่มของดร.ฟอร์ดหยุดพักที่กลางป่า ครู่หนึ่งลูกน้องคนหนึ่งก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหาราฮีม
“เจ้านายครับ”
“มีอะไร”
“มีคนกำลังเดินทางมุ่งหน้ามาทางนี้”
“ใคร”
“พวกดร.วิทยา”
ดร.ฟอร์ด ตาลุกวาวด้วยความดีใจ
“ดี...ทับทิมสยามต้องอยู่กับมันแน่นอน”
“ปล้นมันที่นี่เลยนะพ่อ พวกเราพร้อมแล้ว” สตีเฟ่นบอก
“จัดการได้เลยสตีเฟ่น ชิงเอาทับทิมสยามมาให้ได้”
สตีเฟ่น ราฮีม ดร.ฟอร์ดเริ่มประชุมปรึกษาหารือกัน
ขณะที่กลุ่มดร.วิทยาเดินทางอยู่นั้น ลูกน้องบางคนที่อยู่หน้าขบวน ก็โดนระเบิดตูม ดร.วิทยา และฮวงพากันหลบ ขณะที่ลูกน้องคนอื่น ๆพากันยิงตอบโต้
“ใครโจมตี”
ฮวงโผล่ขึ้นไปส่องกล้องมอง
“พวกไอ้ด็อกเตอร์ฟอร์ดครับ”
ดร.วิทยาโกรธ
“ไอ้พวกบ้าเอ้ย เมื่อไหร่มันจะตายซักที”
ดร.วิทยาหันไปคว้าระเบิดมือ แล้วลุกขึ้นปาออกไปด้วยความโกรธแค้น ฮวงพยายามห้าม
“ด็อกเตอร์ครับ หลบก่อนดีกว่า”
“กลัวอะไร อาวุธเราก็มีเพียบ ทันสมัยทั้งนั้น ถล่มมันเลย”
ดร.วิทยาหันไปคว้าปืนจากลูกน้องคนหนึ่ง แล้วกระหน่ำยิงออกไปไม่ยั้ง
กลุ่มของสตีเฟ่น และราฮีม ซึ่งแอบมาซุ่มโจมตีอีกจุดหนึ่ง แต่แล้วกลับโดน ฮวง และลูกน้องรุกไล่ด้วยอาวุธหนักใกล้เข้ามา ราฮีมและสตีเฟ่นหันมาปรึกษากัน
“ราฮีม แกหลอกให้มันตามมาเรื่อยๆ มันจะได้แยกออกเป็นสองกลุ่ม แล้วเดี๋ยวฉันจะเอาพวกอ้อมไปตลบหลัง”
“ได้เลยครับคุณสตีเฟ่น”
สตีเฟ่นนำลูกน้องวิ่งหลบออกไป ขณะที่ราฮีม แกล้งทำเป็นถอยหนีให้ฮวงและลูกน้องตายใจ รุกไล่ติดตาม ทิ้งดร.วิทยาและลูกน้องไว้เบื้องหลัง
สตีเฟ่นวิ่งนำลูกน้องมาซุ่มอยู่ที่ด้านหลังของกลุ่มดร.วิทยาแล้วเล็งปืนหาจังหวะยิง แต่แล้วเมื่อลั่นกระสุนออกไปก็เป็นจังหวะที่ดร.วิทยากำลังก้มตัวลง กระสุนปืนเฉี่ยวไปอย่างฉิวเฉียด ดร.วิทยารีบหลบแล้วหันไปสั่งลูกน้อง
“มันอยู่ข้างหลัง”
ดร.วิทยา และลูกน้องหันกลับมายิงโต้กับสตีเฟ่นแต่เนื่องจากฮวงนำกำลังส่วนใหญ่ไล่ราฮีมออกไป ดร.วิทยาเลยเสียเปรียบ โดนสตีเฟ่นกระหน่ำยิงจนต้องถอยหนี ลูกน้อง พากันยิงโต้สกัด ดร.วิทยาเห็นท่าไม่ดี เริ่มถอยแล้ววิ่งหนีไป สตีเฟ่นส่องกล้องมอง
“มันหนีเข้าป่าแล้ว”
สตีเฟ่นหันไปสั่งให้ลูกน้องยิงปะทะไปเรื่อยๆ ขณะที่ตัวเองแอบตามดร.วิทยาไป
ดร.วิทยาวิ่งหนีเข้ามาในป่า ทันใดนั้นดร.ฟอร์ดโผล่ออกมาดักไว้ ดร.วิทยาชะงัก
“ไอ้วิทยา”
“ดร.ฟอร์ด”
“ส่งทับทิมสยามมาให้ข้า” ดร.ฟอร์ดสั่งเสียงเข้ม
“ทับทิมสยามไม่ได้อยู่กับข้า”
“โกหก”
ดร.ฟอร์ดยิงเปรี้ยง ดร.วิทยาโดดหลบแล้วจะยิงกลับไป แต่แล้วสตีเฟ่น ก็เข้ามาล็อคไว้ แล้วปลดปืน ดร.ฟอร์ดเดินเข้ามาหาด้วยสายตาเหี้ยมเกรียม
“นึกว่าจะรอดรึ”
ดร.ฟอร์ดเดินเข้ามาตบหน้า ดร.วิทยาด้วยความแค้น
“ไอ้หัวขโมย”
“เอาซิ ฆ่าฉันเลย แต่อย่าคิดว่าแกจะได้ทับทิมสยามทั้งสามก้อนไปเด็ดขาด”
ดร.ฟอร์ดชะงักแปลกใจ
“นี่แกมีทับทิมสยามครบสามก้อนแล้วรึ”
“ใช่...ถ้าแกฆ่าฉัน แกจะไม่มีวันได้ทับทิมสยามเด็ดขาด”
ดร.ฟอร์ดเข้ามาค้นตัวดร.วิทยา โดยมีสตีเฟ่นคุมเชิงอยู่ใกล้ๆ แต่แล้ว ดร.วิทยาฉวยจังหวะถีบสตีเฟ่นเซไป แล้วกลับมาล็อคตัวดร.ฟอร์ดไว้เป็นตัวประกัน สตีเฟ่นรีบเข้ามาช่วยแต่ดร.วิทยาเอาปืนจ่อดร.ฟอร์ดไว้
“อย่าเข้ามานะ”
ดร.ฟอร์ดโมโหที่เสียที
“ไอ้งูพิษ...เอ็งมันไว้ใจไม่ได้”
“หุบปาก ไอ้ฝรั่งหน้าโง่”
ดร.วิทยาส่ายปืนไปที่สตีเฟ่น
“อย่าเข้ามานะสตีเฟ่น ไม่งั้นพ่อแกตายแน่”
ดร.วิทยาจับดร.ฟอร์ดเป็นตัวประกันแล้วถอยหลังเข้าป่าไป สตีเฟ่นเดินตามไปห่างๆ
ฮวง และลูกน้องยิงต่อสู้กับราฮีมอยู่ที่มุมหนึ่ง สักครู่ก็เห็นดร.วิทยา จับดร.ฟอร์ดเข้ามา ราฮีมหยุดยิง เกรงดร.ฟอร์ดจะโดนยิง ขณะที่ฮวงรีบเข้าไปช่วยจับดร.ฟอร์ด แทนดร.วิทยา ราฮีมรีบเข้ามาหาสตีเฟ่น ขณะที่ลูกน้องกระจายกำลังรอคำสั่ง
“ถ้าพวกเอ็งกล้า ก็เข้ามา” ดร.วิทยาตะโกนขู่
สตีเฟ่นโกรธมาก
“ถ้ายิงพ่อฉัน รับรองว่าพวกแกตายแน่”
“เอาซิวะ แลกกัน” ฮวงท้าทาย
สตีเฟ่นจะออกไป ยิงสู้ แต่ราฮีมรั้งไว้
“อย่าครับคุณสตีเฟ่น”
“กลัวอะไร”
“ปล่อยมันก่อน”
สตีเฟ่น ราฮีม และลูกน้อง พากันซุ่มคุมเชิงขณะที่ดร.วิทยา ฮวง และลูกน้อง เริ่มถอยแต่ต้องคอยระแวดระวังการโจมตี
เจ้าพ่ออินทร์กับเสือสนธิ์ ตรวจความเรียบร้อยแถวเจดีย์ สักครู่ลูกน้องคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามารายงาน
“นาย ดร.วิทยามาแล้วครับ”
กลุ่มของ ดร.วิทยา คุมตัวดร.ฟอร์ดเข้ามา เสือสนธิ์กับเจ้าพ่ออินทร์ และลูกน้องรีบเข้าไปรับ เสือสนธิ์เห็นดร.ฟอร์ด ก็แปลกใจ
“นี่มันด็อกเตอร์ฟอร์ดนี่ครับ”
“ใช่...พวกลูกชายของมันกับพวก อยู่ในป่า รีบส่งใครไปจัดการที”
“งานนี้ขอผมเองครับ”
เจ้าพ่ออินทร์พารีบพาลูกน้องออกไป ฮวงติดตามไปด้วย ดร.วิทยารีบพา ดร.ฟอร์ดเข้าไปข้างในเจดีย์ เสือสนธิ์ตามไป
เจ้าพ่ออินทร์ ฮวง และลูกน้องมาซุ่มที่มุมหนึ่งนอกป่า สักครู่ก็เห็นสตีเฟ่น ราฮีม และพวก กำลังเคลื่อนกำลังเข้ามา เจ้าพ่ออินทร์หันไปบอกฮวง
“ได้ลองของแล้วฮวง”
ฮวงงงๆ
“ของอะไรครับ”
“ก็อาวุธใหม่ๆที่เราสั่งมาไง จัดหนักไปเลยงานนี้”
เจ้าพ่ออินทร์หันไปสั่งลูกน้องให้เคลื่อนอาวุธหนักเข้ามาแล้วยิงถล่มออกไป ทั้งสองฝ่ายต่างยิงต่อสู้กัน ต่างคนต่างใช้อาวุธสงครามถล่มกัน
สตีเฟ่น และราฮีมต่างพากันกระโดดหลบระเบิด สตีเฟ่นหันไปบอกราฮีม
“รบกันแบบนี้เราสู้ไม่ได้ ต้องปรับกำลังเป็นกองโจร”
“พวกมันวางกำลังรอบเจดีย์เต็มไปหมดเลยครับ”
“งั้นให้พวกเราถอย รอมืดแล้วค่อยลงมือ”
ราฮีมหันไปให้สัญญาณลูกน้อง จากนั้นทุกคนก็พากันถอยหนีเข้าป่าไป
กลุ่มดอน ซุ่มมองเหตุการณ์อยู่ในป่า ดอนใช้ตาทิพย์เพ่งมอง แล้วบอก...
“ตอนนี้สตีเฟ่น กำลังถอยเข้าป่า”
“แล้วคนอื่นๆ ละครับคุณดอน” ยอดถาม
“ผมเห็นคุณเดี่ยว คุณเทอด คุณกริ่งแล้วก็คนอื่นๆ อยู่อีกด้านของเจดีย์ครับ”
“แล้วพ่อฉันล่ะ อยู่กับสตีเฟ่นหรือเปล่า” นาตาชาถามอย่างเป็นห่วง
ดอนใช้ตาทิพย์มอง แล้วแปลกใจที่เห็นดร.ฟอร์ด ถูกจับเอาไว้รวมกับบุษกร ชลดาและยูกิ
“ดร.ฟอร์ดถูกจับขังรวมไว้กับคุณบุษกร คุณชลดา แล้วก็คุณยูกิ ตอนนี้อยู่ในเจดีย์”
กระแตร้อนใจเป็นห่วงเพื่อน
“รีบไปสมทบกับพวกคุณเดี่ยว คุณเทอด คุณกริ่งเถอะค่ะ”
เจนนี่เห็นด้วยกับกระแต
“ใช่ค่ะ...ต้องทำทุกอย่างให้สำเร็จก่อนวันขึ้น15 ค่ำ”
ทุกคนพากันวิ่งตามกันออกไป โดยนาตาชายังคงถูกควบคุมตัวไว้เช่นเดิม
ดร.ฟอร์ด ถูกมัด อยู่ใกล้ๆ กับ บุษกร ชลดา และยูกิ เสือสนธิ์ รายงานเรื่องให้กับดร.วิทยาฟัง
“ผู้หญิงพวกนี้ลักลอบเข้ามาในพื้นที่ของเรา ผมจับได้ก็เลยเอามามัดไว้ที่นี่”
ดร.วิทยายิ้มพอใจ
“ดี...งั้นก็จัดการฆ่าให้หมด ทั้งดร.ฟอร์ดแล้วก็ผู้หญิงพวกนี้”
“แต่ผมว่าอย่าเพิ่งทำเลยครับ”
“ทำไม”
เสือสนธิ์พยายามหาเหตุผลในการช่วยพวกผู้หญิงไว้
“การที่ผู้หญิงพวกนี้ถูกเราจับ เป็นผลดีกับเรานะครับเพราะทำให้เรามีแต้มต่อกับพวกเสาร์ห้า ผมเชื่อว่าพวกมันต้องซุ่มอยู่ข้างนอกแน่นอน”
“ใช่...” ดร.วิทยาหันยิ้มหยันให้ดร.ฟอร์ด “งั้นแกคงต้องตายคนเดียวซะแล้วนะด็อกเตอร์ฟอร์ด”
ดร.ฟอร์ดตื่นกลัว
“อย่า...แกฆ่าฉันไม่ได้นะวิทยา”
“ไหนว่ามาซิ แกมีเหตุผลอะไรถึงจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อ”
“การทดลองไง ถ้าการทดลองเริ่มขึ้น...แกไม่ต้องการความรู้ที่ฉันมีเหรอดร.วิทยา บางทีฉันอาจจะช่วยแนะนำในสิ่งที่แกยังไม่รู้ได้”
ดร.วิทยาครุ่นคิด
“ทำไมฉันต้องเชื่อแก”
ดร.วิทยายกปืนขึ้นมาเล็ง ดร.ฟอร์ดกลัวรนราน
“อย่า...ถ้าจะฆ่าก็รอให้การทดลองเสร็จก่อน ฉันรอที่จะเห็นการทดลองครั้งนี้มานานแล้ว ให้ฉันได้รู้ได้เห็นก่อนที่จะตายเถอะ ฉันขอร้อง”
“ในฐานะนักวิทยาศาสตร์ด้วยกัน ได้...ฉันจะรอให้แกได้เห็นการทดลองก่อนก็ได้ ฉันอยากให้แกอิจฉาในความสำเร็จของฉัน ดร.ฟอร์ด ฮ่ะๆ”
ดร.วิทยาหัวเราะชอบใจลดปืนลง ดร.ฟอร์ดโล่งอก
ลูกน้องของเสือสนธิ์ ลาดตระเวนไปทั่วบริเวณหน้าเจดีย์ เจ้าพ่ออินทร์ ฮวง นั้ม ยืนคุมดูแลสอดส่อง เสือสนธิ์เดินออกมาจากเจดีย์พร้อมกับ ดร.วิทยา ฮวงเข้าไปรายงานความเคลื่อนไหว
“เมื่อกี้ ผมกับเจ้าพ่ออินทร์ไล่พวกไอ้สตีเฟ่นหนีเข้าป่าไป คิดว่ายังไงอีกไม่นานมันต้องลงมือแน่นอน”
“ใกล้วันที่เราจะทำการทดลองแล้ว จัดพื้นที่ให้เข้มแข็ง อย่างให้ใครผ่านเข้ามาได้เด็ดขาด”
“ไม่ต้องกลัวครับด็อกเตอร์ คนเราพร้อม อาวุธเราพร้อม ลูกน้องผมทุกคนจะเปลี่ยนเวรทุก 3 ชั่วโมง ใครก็เข้ามาไม่ได้เด็ดขาด” เจ้าพ่ออินทร์รายงาน
เสาร์ห้า และคนอื่นๆซุ่มดูเหตุการณ์อยู่ เดี่ยวรายงานสิ่งที่ได้ยินให้เพื่อนๆฟัง
“ผมได้ยินมันคุยกันว่ะ จะมีการจัดเวรยามกันหนาแน่นครับ”
“พวกเราต้องบุกเข้าไปช่วย บุษกร ชลดา และคุณยูกิภายในคืนนี้ หากช้ากว่านั้น พวกเธออาจะเป็นอันตราย” ดอนบอกเสียงเครียด
“อันตรายจากการทดลองหรือครับ” กริ่งถามอย่างสงสัย
เทอดพยักหน้า
“ใช่...เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจากการทดลอง บางทีอาจเป็นปฏิกิริยานิวเคลียร์”
ยอดคิดแล้วใจหาย พูดออกมาอย่างไม่สบายใจ
“ขออย่าให้เป็นแบบนั้นเลยครับ เพระคนที่ตาย ไม่ใช่แค่เฉพาะพวกเราแน่ อาจเป็นคนไทยทั้งประเทศก็ได้”
สัปเหร่แต้มอธิบายแผนการ
“แผนเป็นแบบนี้นะ...พวกคุณแยกกันเจาะเข้าไปหลายๆจุดพร้อมๆกัน ทำให้พวกมันปั่นป่วน ถ้าตรงไหนเปิดจุดอ่อนใครอยู่ใกล้ก็บุกเข้าไปเลย ส่วนนาตาชา ให้เจ้าต่ำและบัวชุม คอยคุมเอาไว้ เข้าใจนะ”
ทุกคนพยักหน้ารับ สัปเหร่อหันไปสั่งบัวชุม
“เอาละ มัดนาตาชาไว้ก่อน”
“ได้ค่ะ”
บัวชุมเอาผ้ามัดนาตาชาไว้กับต้นไม้ สัปเหร่อแต้มกวาดมองทุกคน
“ถ้าพร้อมแล้วก็แยกย้าย”
ทุกคนเริ่มแยกย้ายกันออกไป โดย ดอน ไปกับเจนนี่ ยอดไปกับกระแต เดี่ยว เทอด กริ่งไปด้วยกัน เคนไปกับม่านฟ้า สัปเหร่อแต้ม แยกไปคนเดียว บัวชุมคว้าผ้าขึ้นมาแล้วตรงเข้าหา นาตาชา
“นั่นจะทำอะไร”
“มัดปากเธอไว้น่ะซิ”
“มัดทำไม ฉันไม่ส่งเสียงหรอก”
“ไว้ใจได้ซะเมื่อไหร่ อยู่นิ่งๆ มาพี่ต่ำมาช่วยกัน”
บัวชุมจับนาตาชามัดปากไว้ ต่ำเข้ามาช่วย
อ่านต่อวันพรุ่งนี้ เสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
เสาร์๕ ตอนทับทิมสยาม ตอนที่ 20 (ต่อ)
ยอด และกระแตพากันวิ่งมาซุ่มมองเข้าไปยังเจดีย์ ซึ่งมีเวรยามกำลังลาดตระเวณอยู่ เมื่อได้โอกาสเหมาะกระแตเตรียมจะวิ่งไป แต่ยอดรั้งเอาไว้
“เดี๋ยว”
“มีอะไรคุณยอด”
“คือ...”
“อะไรคะ”
“ถ้าการทดลองที่จะเกิดขึ้นทำให้เราต้องตาย ผมมีบางอย่างที่อยากจะบอกคุณ...กระแต”
กระแตเริ่มรู้สึกถึงสายตา และความรู้สึกอบอุ่นที่ยอดส่งมาให้ แล้วจู่ๆ ยอดก็คว้าตัวเธอมากอดเอาไว้
“ขอโทษนะครับกระแต บางทีนี่อาจเป็นกอดครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้กอดคุณ”
“ค่ะ หากฉันเป็นอะไรไป ฉันก็อยากจะบอกว่าฉันแคร์คุณนะคะยอด ฉันอาจจะไม่หวาน สนใจแต่งานมากกว่าความรัก แต่คุณยังอยู่ในใจของฉันเสมอ”
ทั้งคู่กอดกันกระชับแน่น แล้วก็มีเวรยามคนหนึ่งผ่านมาเห็นยอดและกระแต
“เฮ้ย มาทำอะไรกันตรงนี้วะ”
ยอดแกล้งบอก
“โธ่ลูกพี่ ขอเวลาสวีทกันก่อน”
“เอ็งเป็นใคร”
“จำไม่ได้เหรอ”
ยอดเดินมาหาแล้วชกเปรี้ยงเสยคาง แล้วหันมาหากระแต
“ไปเร็ว”
ยอดและกระแตพากันวิ่งลัดเลาะตรงเข้าไปยังเจดีย์
+ + + + + + + + + + + +
ทางด้านเจนนี่ ย่องเข้าไปหายามคนหนึ่ง ซึ่งกำลังนั่งเหม่ออยู่ เมื่อได้จังหวะเจนนี่ก็ซัดเปรี้ยงด้วยด้ามปืนที่ท้ายทอย ยามคนนั้นล้มไป แต่แล้วยามอีกคนซึ่งอยู่ไม่ห่างนักได้ยินเสียงจึงวิ่งเข้ามา
“เฮ้ย...ยกมือขึ้น...”
เจนนี่ค่อยๆ ยกมือขึ้น
“วางปืนลง”
เจนนี่ก้มตัวแล้ววางปืน แต่ดอนก็โผล่มาด้านหลังยามแล้วล็อคคอไว้ ยามล้มลงไป
“เกือบไปแล้ว”
“ใครจะใจร้ายปล่อยให้คุณเป็นอะไรไปต่อหน้า”
“โปรยเสน่ห์ไปทั่ว มิน่าคนอื่นถึงได้...”
“อย่าพูดถึงคนอื่นเลยเจนนี่ ชีวิตที่เหลืออยู่เราจะมีกันแค่สองคน มาทำวันนี้ วินาทีนี้ให้ดีที่สุดนะ”
เจนนี่ชะงักในสิ่งที่ดอนพูด
“ค่ะ หากโลกจะแตก ก็ขอให้เราตายเคียงข้างกันนะคะดอน”
“ครับ ผมจะอยู่กับคุณเสมอ”
ดอนและเจนนี่ พากันตรงไปยังเจดีย์
+ + + + + + + + + + + +
บริเวณฐานเจดีย์...
เดี่ยว เทอด กริ่งพากันย่องเข้ามา แต่บริเวณนี้มีเวรยามกำลังเดินตรวจตราอยู่ เดี่ยว เทอด กริ่งพากันหลบเข้ามุมมืด และเมื่อเวรยามผ่านไปแล้วทั้งสามคนจึงออกจากที่ซ่อน
“พวกผู้หญิงคงถูกขังไว้ข้างในเจดีย์” เดี่ยวบอก
“แต่ทางเข้ามียามเฝ้าทุกประตูเลย” กริ่งมองไปทั่วๆ
“ข้างบนมีช่องลม แทรกตัวเข้าไปได้ ผมรู้เส้นทาง”
“คุณกริ่ง คุณเดี่ยวปีนกันสองคนนะ ผมขอทำอะไรง่ายๆดีกว่า ไปนะ”
เทอดหายตัวแว๊บ
“อ้าว...ทิ้งกันซะงั้น”
“ไปคุณกริ่ง เราสองคนมันลิงกลับชาติมาเกิด เอ้า...ปีน”
เดี่ยว และกริ่งพากันปีนขึ้นเจดีย์ไป
+ + + + + + + + + + + +
บริเวณหน้าองค์พระประธาน ฮวงเปิดภาพจากคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค ซึ่งเป็นภาพวาดการสะท้อนแสงของทับทิมสยาม
ดร.วิทยาหยิบทับทิมสยาม ทั้งสามก้อนออกมาจากกล่อง ขณะที่ดร.ฟอร์ด บุษกร ชลดา และยูกิเฝ้ามองอยู่เงียบๆ
“จากภาพวาด ผมว่าทับทิมสยามสีชมพูต้องวางไว้ตรงนี้ครับ” ฮวงบอก
“ใช่ ฉันว่าสีชมพู ต้องอยู่ตรงนี้ ส่วนทับทิมสยามสีแดง ก็ต้องวางไว้ตรงนี้”
ดร.วิทยาหยิบทับทิมสยามสีชมพูและสีแดงไปวางตามจุด
“แล้วสีม่วง…”
“สีม่วงก็อยู่ตรงโน้นไง”
ฮวงสงสัย
“แต่ด็อกเตอร์ครับ ด็อกเตอร์จะเอาทับทิมสยามสีม่วง ออกจากแท่นเรเดี่ยมเหรอครับ”
ดร.วิทยาลังเล เนื่องจากเกรงปรากฎการณ์ภาพลวงตา จนดร.ฟอร์ดซึ่งฟังอยู่อดรนทนไม่ได้
“เรเดี่ยมมันเป็นตัวสลายพลัง ถ้าไม่เอาออกการทดลองจะล้มเหลว”
ดร.วิทยาตวาด
“หุบปาก”
“แกต้องเอาแท่นเรเดี่ยมออกไป เชื่อฉัน เพราะฉันเองก็อยากเห็นการทดลองครั้งนี้สำเร็จเหมือนกัน”
“แต่ถ้าไม่มีเรเดี่ยม ทับทิมสยามสีม่วงจะก่อให้เกิด ปรากฏการณ์ภาพลวงตา”
“ก็ดีน่ะซิ ปรากฏการณ์ภาพลวงตาที่เกิดขึ้นจะได้ กลายเป็นกำแพงคุ้มครองเจดีย์แห่งนี้จากโลกภายนอก การทดลองจะได้ราบรื่น”
“ก็ได้ เรื่องนี้ฉันจะเชื่อแก แต่เอาไว้ใกล้เวลาก่อน”
วิทยาเดินเอาทับทิมสยามสีม่วง ไปวางไว้บนตำแหน่งที่คำนวนเอาไว้ โดยยังคงมีแท่นเรเดี่ยมวางเป็นฐาน”
“ได้เวลาที่ผมต้องออกไปตรวจดูเวรยาม แล้วครับ ด็อกเตอร์” ฮวงบอก
“ไปเถอะ”
ฮวงเดินออกไป
+ + + + + + + + + + + +
เดี่ยว กริ่ง กำลังปีนป่ายอยู่ที่มุมหนึ่งของเจดีย์ แล้วสักครู่ก็เห็น เจ้าพ่ออินทร์ และลูกน้องปรากฏตัว เล็งปืนมา
“เฮ้ยหยุด”
“ใจเย็นนะครับ เราแค่มาออกกำลังกายกัน เดี๋ยวไปละ”
“ลงมาเดี๋ยวนี้” เจ้าพ่ออินทร์ตวาด
“ท่าทางเอาจริงแฮะ”
เจ้าพ่ออินทร์และลูกน้องเตรียมเหนี่ยวไก
+ + + + + + + + + + + +
ภายในเจดีย์ กลุ่มของบุษกรที่ถูกมัดอยู่ กำลังได้รับการช่วยเหลือ แกะเชือกจากเทอดที่หายตัวเข้ามาช่วย
ดร.วิทยาหันมามอง บุษกรจึงชวนคุยเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ
“การทดลองครั้งนี้ อะไรจะเกิดขึ้นบ้างคะ บอกฉันหน่อยได้มั๊ย”
“ได้ซิ ไหนๆ พวกเธอก็จะตายแล้ว ฉันจะบอกให้ก็ได้ ทันทีที่แสงอาทิตย์แรกส่องผ่านประตูเจดีย์มา ลำแสงของมันก็จะไปกระทบกับทับทิมสยาม แล้วสะท้อนกันไปมาตามจุดที่ฉันวางทับทิมสยามไว้”
“ก็แค่แสงสะท้อนไปมา ไม่เห็นจะมีอะไร” ชลดาหลอกล่อถามต่อ
“ลองคิดถึงแสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านแว่นขยายดูซิ ทับทิมสยาม 3 ก้อนนี้ มีพลังรุนแรงยิ่งกว่าแว่นขยายหลายล้านเท่า การที่มันสะท้อนแสง ส่องกระทบ วนเวียนกันไปมาไม่มีวันจบสิ้นแบบนี้ อะไรจะเกิดขึ้น เธอลองคิดดูซิ ฮ่ะๆ”
ยูกิคิดตาม
“ลำแสงของมันจะคมยิ่งกว่าลำแสงเรเซ่อร์ พลังงานที่เกิดขึ้น อาจจะทำลายล้างสิ่งมีชีวิตยิ่งกว่าปรมาณู”
ดร.ฟอร์ดช่วยออกความเห็น
“หรือไม่ก็เป็นพลังงานใหม่ ที่นักวิทยาศาสตร์ในโลกไม่เคยรู้จักมาก่อน”
บุษกรหันมองดร.วิทยา
“แต่คุณไม่น่าหลอกเสือสนธิ์ กับเจ้าพ่ออินทร์ให้เข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย”
“ฮ่ะๆ พวกมันอยากโง่เอง ฮ่ะๆ แค่เห็นฉันเป็นนักวิทยาศาสตร์ มีหน้ามีตาในสังคม พูดอะไรพวกมันก็เชื่อไปหมด ฮ่ะๆ นึกไม่ถึงว่าจะมีคนโง่แบบนี้ ฮ่ะๆ”
“แกมันเลวกว่าที่ฉันคิดจริงๆ ไอ้ด็อกเตอร์หัวขโมย”
ดร.วิทยาเดินไปหาดร.ฟอร์ด แล้วตบปากฉาดจนดร.ฟอร์ดเลือดกลบปาก ขณะเดียวกันนั้น มุมหนึ่งข้างประตูทางเข้าเจดีย์ เสือสนธิ์กำลังยืนฟังสิ่งที่ดร.วิทยาพูดอยู่เงียบๆ เจ้าพ่ออินทร์เดินพา เดี่ยว และกริ่งเข้ามาหา
“พวกมันลอบเข้ามาครับ”
“ดี เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
“หมายความว่าไงครับ”
เสือสนธิ์ยิ้มให้เจ้าพ่ออินทร์ที่มองงงๆ
+ + + + + + + + + +
เสือสนธิ์เดินคุมตัว เดี่ยว กริ่ง เข้าไปหาดร. วิทยา ทุกคนหันไปมอง
“ในที่สุดพวกเอ็งก็มา”
“สองคนนี่ ลักลอบเข้ามา” เสือสนธิ์บอก
“แล้วพวกคนอื่นๆอยู่ไหน”
กริ่งพูดกวน
“ถามใครเหรอครับ”
ดร.วิทยาเดินเข้ามาตบหน้ากริ่งฉาด
“อู๊ว...ตบแรงนะนั่น”
“ขอโทษครับ ผมขอคืนนะครับ”
กริ่งซัดดร.วิทยาเปรี้ยง ดร.วิทยาแปลกใจที่เสือสนธิ์ยืนเฉย
“เฮ้ย...ทำไมปล่อยมันทำ”
“ผมจะไม่ทำผิดอีกแล้ว ด็อกเตอร์”
“นี่แกโดนมันหลอก พวกมันกำลังจะทำลายชาติของเรานะเสือสนธิ์”
“เลิกเล่นละครเถอะครับ เรารู้ความจริงกันหมดแล้ว”
ทันใด เทอดปรากฏตัว แล้วเข้ามาจับกุมวิทยา พร้อมๆกับที่ บุษกร ชลดา ยูกิหลุดออกจากพันธนาการ
ดร.ฟอร์ดหัวเราะลั่น
“ฮ่ะๆ ในที่สุดแกก็ล้มไม่เป็นท่า ไอ้ด็อกเตอร์หัวขโมย ฮ่ะๆ”
“ปล่อย ๆ ปล่อยข้า ปล่อย”
ดร.วิทยาโวยวาย บุษกร ยูกิ และชลดา เอาเชือกมามัดดร.วิทยาไว้ แล้วนำตัวไปไว้ข้างๆ ดร.ฟอร์ด
+ + + + + + + + + + + +
ด้านหน้าเจดีย์...
ฮวงซึ่งกำลังลาดตระเวนอยู่หันไปเห็นเงาของ ยอด และกระแตซึ่งซุ่มอยู่ที่มุมหนึ่ง ฮวงหันไปหาพวกเวรยามซึ่งอยู่ใกล้ๆ
“เฮ้ย...พวกมันอยู่นั่น”
ฮวงยิงเปรี้ยงๆ เข้าใส่ แต่แล้วก็มีปืนเข้ามาจ่อหลัง ฮวงหันไปมองพบว่าเป็นดอน และเจนนี่
“ปฏิวัติเงียบ”
ฮวงหันไปหาพวกเวรยาม ก็พบว่าเจ้าพ่ออินทร์เดินเข้ามาพร้อมลูกน้อง
“เจ้าพ่ออินทร์ ปล่อยให้พวกมันเข้ามาได้ยังไง”
“เวลาของแกหมดแล้วฮวง จับมันมัดไว้”
ลูกน้องเจ้าพ่ออินทร์พากันจับฮวงมัดไว้ แล้วพาเดินออกไป ยอด และกระแต ออกจากที่ซ่อนเข้ามาหาทุกคน เช่นเดียวกับกลุ่มเทอด พากันออกจากด้านในเจดีย์เข้ามาทุกคน
“ผมต้องขอโทษพวกคุณทุกคนด้วย ที่ผ่านมาผมเข้าใจพวกคุณผิดมาตลอด” เสือสนธิ์บอกทุกคน
เจ้าพ่ออินทร์พยักหน้ารับ
“ผมก็เช่นกัน โดนดร.วิทยาตุ๋นซะเปื่อยเลย โชคดีที่ไหวตัวทัน”
“พวกเรารู้ดีว่าคุณสองคนไม่ใช่คนร้าย” ยอดยิ้ม
“ที่แล้วมาก็ให้มันแล้วไป พวกเราไม่ถือสาอะไรหรอกครับ” เดี๋ยวพยักหน้าให้
“ต่อไปเรามาร่วมมือกันนะครับ ผมจะช่วยพวกคุณให้ถึงที่สุด” เสือสนธิ์บอกทันที
“แล้วสำหรับเรื่องการทดลองที่กำลังจะเกิดขึ้นละครับ จะให้เราทำยังไงต่อ” เจ้าพ่ออินทร์ถาม
ยอดรีบบอก
“การทดลองจะเกิดขึ้นไม่ได้นะครับ เพราะเราไม่รู้ว่าผลของมันจะเป็นยังไง”
กริ่งเสนอ
“ถ้างั้นก็ต้องรีบเอาทับทิมสยามทั้ง 3 ก้อนออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุดนะครับ”
เสือสนธิ์เริ่มกังวล
“แต่ตอนนี้กองกำลังของนายพลจางลี่ กำลังปิดล้อมพวกเราอยู่”
ดอนหันไปถาม
“เจ้าพ่ออินทร์มีวิทยุติดต่อมั๊ยครับ ผมต้องการขอกำลังเสริมจากหน่วยเหนือ”
“ตามผมมา”
เจ้าพ่ออินทร์เดินนำทุกคนไปที่บังเกอร์
+ + + + + + + + + + + +
เจ้าพ่ออินทร์ เดินนำเสาร์ห้า และคนอื่นๆเข้าไปที่มุมสำหรับติดตั้งวิทยุสื่อสาร ในบังเกอร์
ส่วนเสือสนธิ์ พาคนอื่นๆเข้าไปดูอาวุธต่างๆที่อยู่ในบังเกอร์
ดอน เริ่มติดต่อกับหน่วยเหนือ
“เสาร์ห้าเรียกหน่วยเหนือ”
สักครู่ก็มีสัญญาณจากหน่วยเหนือตอบกลับ
“หน่วยเหนือทราบ ผมผู้พันอาจณรงค์ ตอนนี้พวกคุณอยู่ที่ไหน”
“ที่เจดีย์กลางป่า นอกจากผมแล้วเรามีกลุ่มเจ้าพ่ออินทร์ และเสือสนธิ์อยู่ด้วย”
“แล้วต้องการให้หน่วยเหนือ สนับสนุนอะไรบ้าง”
“ตอนนี้เราถูกปิดล้อม จากกองกำลังของนายพลจางลี่ ต้องการกำลังเสริมด่วน”
“รับทราบ กำลังเสริม 1 กองพันพร้อมอาวุธครบมือจะไปถึงพวกคุณภายใน 3 ชั่วโมง”
“รับทราบ ขอบคุณมากครับ”
เทอด มองสำรวจทุกคนแล้วนึกขึ้นได้ว่า ม่านฟ้า เคน และสัปเหร่อแต้มไม่ได้อยู่ด้วย
“มีใครเห็นคุณเคน ม่านฟ้า ลุงแต้ม แล้วคนอื่นๆหรือเปล่า”
กริ่งหันมาบอก
“คุณเคน ม่านฟ้า ลุงแต้ม แยกออกไปทางเดียวกัน ส่วนพี่ต่ำ บัวชุม คงจะคุมตัวนาตาชาอยู่ที่เดิม”
เทอดพยักหน้ารับรู้ แต่ก็รู้สึกเป็นห่วงกลัวเพื่อนๆ จะตกอยู่ในอันตราย
+ + + + + + + + + + +
ในป่า...
เปาชางบัญชาการให้ลูกน้อง กระจายตัวไปตามจุดต่างๆ โดยลักษณะเป็นการวางแผนแบบซุ่มโจมตี ครู่หนึ่งนายพลจางลี่ และอาเตียวเดินเข้ามาสมทบ
“ผมกระจายหน่วยกล้าตาย ให้เข้าซุกตัวรอบฐานเจดีย์ ให้สัญญาณเมื่อไหร่ พวกมันจะบุกพร้อมกันทันทีครับลุง”
“ลุงจะอยู่กับอาเตียวคอยบัญชาการ ถ้าต้องการอาวุธสนับสนุนก็วิทยุเข้ามา อาวุธใหม่ๆ เรามีพร้อม”
จางลี่ เปาชาง อาเตียว กางแผนที่วางแผนการรบ ขณะเดียวกันที่มุมหนึ่ง เคน ม่านฟ้า และสัปเหร่อแต้ม แอบซุ่มดูอยู่
“สงครามใกล้เริ่มแล้ว” ม่านฟ้าพูดเบาๆ
“รีบไปรายงานเรื่องนี้กับพวกเสาร์ห้าเถอะครับ” เคนหันไปบอกสัปเหร่อแต้ม
“แกกับม่านฟ้า ไปก่อน ลุงจะคอยระวังหลังให้”
เคน ม่านฟ้า รีบวิ่งออกไป สัปเหร่อแต้มคอยสอดส่องระวังหลังแล้วรีบตาม นายพลจางลี่ หันไปเห็น
“เฮ้ย...นั่นใคร...”
จางลี่ไม่รอคำตอบ คว้าปืนยิงกราดไล่หลัง สัปเหร่อแต้มยิงโต้ แล้วเริ่มถอยไปเรื่อยๆ
+ + + + + + + + + + + +
บริเวณบังเกอร์...
เคน ม่านฟ้า และสัปเหร่อแต้ม วิ่งหนีกระสุนปืนเข้ามา ทุกคนหันไปมอง
“นึกอยู่แล้วเชียว” เทอดบอก
“ระวังอย่าเพิ่งยิงนะครับ พวกเดียวกัน”
ยอดรีบตะโกนบอกลูกน้องเจ้าพ่ออินทร์ เคน ม่านฟ้าพากันวิ่งมาที่บังเกอร์ ขณะที่มีระเบิดไล่หลังมา ทั้งสามคนกระโดดหลบเข้าบังเกอร์รอดอย่างหวุดหวิด
“เอาละครับ ได้เวลาจัดหนักกันแล้ว ลุย”
ดอนคว้าปืนกลแล้วยิงออกไป
“สนุกเชียว ขอบ้างดิ”
“ขอจัดด้วยคน งานนี้พลาดไม่ได้”
เดี่ยว และ กริ่งหันไปคว้าปืนกลอีกกระบอกมายิงปะทะ คนอื่นๆ พากันหาอาวุธมายิงสู้เช่นกัน
+ + + + + + + + + + + +
กองกำลังของนายพลจางลี่ ระดมยิงเข้าไปในเจดีย์ เปาชางส่องกล้องทางไกลเข้าไปสอดแนม
“มากันครบทีมเลยครับลุง”
“มาด้วยกันก็ให้มันตายด้วยกัน ปล้นเอาทับทิมสยามมาให้ได้”
“ล้อมเจดีย์ไว้แบบนี้ รับรองมันออกมาไม่ได้แน่”
นายพลจางลี่หันมาสั่ง
“เปาชาง แกคุมลูกมือไปซุ่มอีกด้าน คอยเก็บมันทีละคน”
“ครับลุง”
เปาชางนำลูกทีมสไนเปอร์วิ่งแยกตัวออกไป จางลี่ หยิบปืน เอ็ม 79 ออกมาแล้วยิงระเบิดเข้าไป ระเบิดตูมๆ ติดต่อกันราวกับสงครามย่อยๆ
+ + + + + + + + + + + +
ภายในบังเกอร์ ทุกคนกำลังระดมยิงต่อสู้กับกองกำลังนายพลจางลี่ เดี่ยวรู้สึกเป็นห่วงด้านในเจดีย์ จึงหันไปหาเสือสนธิ์
“เสือสนธิ์ครับ ด้านในเจดีย์ตอนนี้มีใครดูแล”
“ให้ไอ้นั้มดูแลอยู่ มีอะไรหรือเปล่าคุณเดี่ยว”
“ผมรู้สึกไม่ค่อยวางใจเลยครับ อยากให้ส่งกองกำลังไปเพิ่ม”
เสือสนธิ์พยักหน้ารับ
“งั้นเดี๋ยวผมจัดให้”
“โอเคครับ”
เสือสนธิ์ หันไปสั่งลูกน้อง
“แบ่งกำลังไปช่วยไอ้นั้ม มันรักษาเจดีย์ ไปเร็ว”
แต่แล้ว ขณะพวกลูกน้องเสือสนธิ์กำลังจะโผล่ออกจากฐาน ลูกน้องคนหนึ่งก็โดนยิงล้มลงมา ลูกน้องอีกคน โผล่นำออกไปแทนคนเก่า แต่ก็ถูกยิงล้มลงมาอีก
“กระสุนปืนมาจากด้านหลังป่า”
ดอนใช้ตาทิพย์มอง ก็รู้ว่าเป็นพวกมือปืนซุ่มยิง นำทีมโดยเปาชาง
“มันมีพวกสไนเปอร์คอยซุ่มยิงจากทางด้านโน้นครับ ผมเห็นเปาชาง เป็นหัวหน้า“
เสือสนธิ์รีบสั่ง
“พวกเรา หมอบลงก่อน อ้อมไปออกอีกด้าน”
ลูกน้องเสือสนธิ์พากันวิ่งไปออกอีกด้าน คนอื่นๆ พากันยิงต่อสู้กับพวกนายพลจางลี่ ซึ่งอยู่อีกด้าน
ขณะเดียวกันพวกสไนเปอร์ พากันวิ่งกระจายตัวไปตามต้นไม้ เพื่อซุ่มยิงจากระยะไกล โดยมีเปาชางคอยสั่งการ
เปาชางปีนขึ้นไปบนต้นไม้ แล้วเริ่มยกปืนขึ้นมาส่องเล็งหาเป้าหมาย ในกล้องของปืน เห็นของเทอด ซึ่งอยู่ในบังเกอร์ กำลังโผล่ขึ้นมายิงต่อสู้ เปาชางเล็งไปที่เทอด แล้วเอานิ้วเข้าไปเหนี่ยวไก
ในบังเกอร์ เทอดกำลังยกปืนขึ้นเล็งยิงฝ่ายนายพลจางลี่ แต่แล้วเทอดขยับตัว จากตำแหน่งเดิมทำให้กลายเป็นเป้าที่ชัดเจนขึ้น ดอนรู้สึกสังหรณ์ใจจึงใช้ตาทิพย์มองออกไป
“คุณเทอดระวัง”
ดอนดึงร่างของเทอดให้ก้มลง กระสุนปืนของเปาชางเฉี่ยวไปโดนกระสอบบังเกอร์ทะลุ เทอดหันไปมองกระสอบแล้วหันมาหาดอน
“พวกสไนเปอร์เหรอครับ”
“ใช่ ฝีมือเปาชางกับพวก”
“เกือบไปแล้วคุณเทอด”สัปเหร่อแต้ม ถอนใจอย่างโล่งอก
“พวกมันอยู่ตรงไหน คุณดอนเห็นมั๊ยครับ” เทอดหันมาถาม
“ต้นไม้ตรงโน้นครับ”
“งั้นเดี๋ยวผมจัดการให้”
“ไปด้วยครับ” เดี่ยวบอก
“ผมยิงคุ้มกันให้ครับ”
เจ้าพ่ออินทร์ ยิงคุ้มกัน เดี่ยวและเทอด พากันวิ่งซิกแซกออกไป ทุกคนพากันยิงต่อสู้กับพวกนายพลจางลี่
+ + + + + + + + + + + +
เทอด และ เดี่ยว พากันวิ่งเข้ามาในป่า แล้วพยายามซุ่มมองหาอย่างเงียบๆ
“ได้ยินเสียงมาจากทางไหนครับคุณเดี่ยว”
เดี่ยวพยายามฟัง
“มีเสียงอื่นๆรบกวนเต็มไปหมดเลยครับ”
“บางทีอาจอยู่ทางโน้น”
“เดี๋ยวครับ”
สไนเปอร์คนหนึ่ง แอบซุ่มอยู่บนต้นไม้ กำลังเล็งปืนไปยังเป้าหมาย เดี่ยวได้ยินเสียงขยับตัว แต่แล้วก็ได้ยินเสียงลูกปืนกำลังวิ่งเข้ามาใกล้
“หลบเร็ว”
เทอดและเดี่ยวพากันหลบ ขณะที่สไนเปอร์ที่อยู่แถวนั้น พากันระดมยิงเข้ามาใส่ เดี่ยวและเทอดพากันวิ่งหนีกระทั่งหาที่หลบได้ แล้วทุกอย่างก็เงียบลงไป
“มันอยู่จุดไหนบ้างครับคุณเดี่ยว”
“น่าจะเป็นต้นไม้ต้นนั้น 1 คน อีก 2 คนน่าจะเป็นทางโน้น”
“งั้นแยกกัน”
เดี่ยว และเทอด แยกกันออกไป โดยทอดวิ่งเข้ามาซุ่มที่มุมหนึ่ง แต่แล้วขณะกำลังจะวิ่งต่อ ก็ปรากฏว่าโดนลอบยิง ทำให้เทอด เสียหลัก โดดหมอบลงกับพื้น สไนเปอร์ซุ่มยิงเล็งจะยิงเทอดซ้ำ แต่แล้วจู่ๆร่างของเทอด ก็หายไป แล้วโผล่มาด้านหลัง แล้วเล่นงานจนน็อคล้มลง
ทางด้านเดี่ยว ซุ่มเข้ามาล็อคสไนเปอร์อีกคนจากด้านหลัง แล้วเกิดการต่อสู้กัน สไนเปอร์ที่อยู่ห่างออกไป หันมาเห็นจึงเล็งปืนมาเพื่อจัดการกับเดี่ยวซึ่งกำลังเผลอตัว กลายเป็นเป้ายิง
แต่แล้วขณะกำลังต่อสู้ เดี่ยวได้ยินเสียงกระสุนปืนพุ่งเข้ามา เดี่ยวรีบพลิกตัวเอาคู่ต่อสู้มาบังไว้ทำให้กระสุนปืนโดนอกคู่ต่อสู้เลือดสาดกระจาย เดี่ยวรีบเข้าที่กำบังแล้ววิ่งเข้าชาร์จจนสไนเปอร์ที่ซุมยิงหมดสติไป
+ + + + + + + + + + + +
เปาชางปืนลงจากต้นไม้เพื่อหามุมถนัด แต่แล้ว จู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนกำลังโดนชกจากคนที่มองไม่เห็น ปืนกระเด็นหลุดมือ ตัวเองเซล้มไปแล้วลุกขึ้นมามอง
“ใครวะ”
เปาชางก็โดนชกอีกครั้ง
“เก่งจริงออกมาซิวะ ไอ้หมาลอบกัด”
เทอดปรากฏตัวขึ้น
“แล้วลอบยิงคนอื่น เรียกว่าหมาลอบกัดหรือเปล่าเปาชาง”
“แกนี่เอง ไอ้เทอด”
เปาชางชักปืนสั้นประจำตัวออกมาแล้วยิง เทอดรีบหลบเข้าหลังต้นไม้ เดี่ยวโผล่ออกมาแล้วเตะปืนเปาชางหล่นไป
“จะเอาเปรียบกันมากไปหน่อยหรือเปล่า”
เดี่ยวเดินหน้าเข้ามาหมายจะเล่นงาน แต่ลูกน้อง เปาชางคนหนึ่งโผล่เข้ามาช่วยยิง เดี่ยวรีบหลบ
“สกัดมันไว้”
เปาชางทิ้งลูกน้องให้สกัดเดี่ยวไว้ ขณะที่ตัวเองรีบถอยหนีเข้าป่าไป เทอดอ้อมมาด้านหลังลูกน้องแล้วเข้าล็อคคอ บิดลูกน้องล้มลง
“เปาชางมันหนีไปแล้ว”
“ปล่อยไว้ก่อน รีบกลับฐานกันเถอะครับ”
เดี่ยวและเทอด พากันมุ่งหน้ากลับฐาน
+ + + + + + + + + + + +
มุมหนึ่งของป่า...
สตีเฟ่น ราฮีม และพวกซึ่งมีอยู่ไม่มากนัก ซุ่มดูเหตุการณ์การสู้รบ ของกลุ่มนายพลจางลี่ และกลุ่มมเสาร์ห้าอยู่
สตีเฟ่นส่องกล้องทางไกลไปยังเจดีย์
“พ่อฉันอยู่ในเจดีย์”
“แต่พวกมันวางกำลังไว้หนาแน่น เข้าไปตอนนึ้คงยาก” ราฮีมประเมินสถานการณ์
“ยังไงก็ต้องเข้าไป ก่อนที่พ่อฉันจะโดนพวกมันฆ่า”
ซัมดอง ปรากฏตัวที่ด้านหลังทุกคน สภาพของซัมดอง มีร่องรอยบาดเจ็บจากมีดอินทรีย์ ร่างกายยังไม่แข็งแรงนัก
“ถ้าอยากเข้าไป ก็ตามข้ามาสตีเฟ่น”
สตีเฟ่น และราฮีมหันไปมอง
“อาจารย์”
“ดร.ฟอร์ดพ่อเอ็งยังไม่ตาย”
“งั้นอาจารย์ช่วยพ่อผมด้วยนะครับ”
“ตามข้ามา”
ซัมดอง เดินนำ สตีเฟ่นหันมาหาราฮีม
“ราฮีม พวกแกซุ่มกำลังคอยอยู่ที่นี่ ฉันจะเข้าไปกับซัมดอง”
“ครับคุณสตีเฟ่น”
ซัมดองเดินนำไป สตีเฟ่นเดินตาม แล้วสักครู่ร่างของซัมดอง และสตีเฟ่น ก็ค่อยๆ เลือนหายไป
โปรดติดตามอ่าน “ตอนอวสาน” ในวันพรุ่งนี้
อาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554