เสาร์๕ ตอนทับทิมสยาม ตอนที่ 21 อวสาน
เปาชางหนีเข้ามาในป่า แล้วหันไปเห็นเงาตะคุ่มๆบางอย่าง ในเงาตะคุ่มนั้นคือ ต่ำ บัวชุม และนาตาชา กำลังหลบอยู่เงียบๆ เปาชางย่องเข้ามาแล้วเล็งปืนยิงเข้าใส่ บัวชุม และต่ำพากันหลบ กระสุน นาตาชาหลับตาลุ้นเกรงจะโดนยิง
“ไม่ไหวแล้ว” บัวชุมขวัญผวา
“งั้นก็ตัวใครตัวมัน”
ต่ำและบัวชุมพากันวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง เปาชางรีบตามเข้ามา แล้วพบว่านาตาชาถูกจับมัดเอาไว้ เปาชางเข้ามาแก้ผ้ามัดปากให้
“แหม่มนาตาชา”
“แก...อย่าทำอะไรฉันนะ”
เปาชางยิ้ม วางแผนที่จะจับเอานาตาชาไว้เป็นตัวประกัน
“ตามข้ามา”
“แกจะทำอะไร ปล่อยฉันนะ”
“ปล่อยก็โง่ซิ ฮ่ะๆ”
เปาชาง ฉุดร่างของนาตาชาให้เดินตามไป ต่ำและบัวชุมแอบมองอยู่
“เอาไงดีพี่บัวชุม”
“แกออกไปสู้ซิ ไอ้ต่ำ”
“บ้าซิ ตัวก็ใหญ่ ปืนก็มี พี่บัวชุมนั่นแหละออกไป”
“ออกไปก็โง่ หนีเร็ว”
บัวชุมและต่ำ พากันวิ่งหนีแยกกันไปคนละทิศละทาง
นั้มและลูกน้อง ซึ่งอยู่ในเจดีย์ พากันออกมาดูเหตุการณ์ ที่ด้านหน้าประตูทางเข้าเจดีย์ได้ยินเสียงปืน เสียงระเบิดดังมาจากแถวบังเกอร์อย่างต่อเนื่อง นั้มหันไปถามลูกน้อง
“สถานะการณ์เป็นยังไง”
“มีพวกเสาร์ห้ามาช่วย ยังไงก็รับมือได้ครับ”
แล้วจู่ๆ นั้นก็รู้สึกเหมือนโดนผลักให้พ้นทางจนเซไป
“เฮ้ย...อะไรวะ”
ลูกน้องแปลกใจ
“มีอะไรครับ”
“เหมือนมีคนผลักข้า”
นั้มและลูกน้องรู้สึกประหลาดใจ แล้วก็รีบเข้าไปข้างในเจดีย์
ภายในเจดีย์ บริเวณหน้าพระประธาน...
นั้ม และลูกน้องเดินเข้ามาข้างใน มองไปรอบๆ เพื่อค้นหาสิ่งผิดปกติ ขณะที่ข้างนอก ได้ยินเสียงปืน เสียงระเบิดดังอย่างต่อเนื่อง
ดร.ฟอร์ด และ ดร.วิทยาถูกมัดมือเอาไว้ ดร.วิทยาแอบเอาเชือกที่มัดมือถูไปมากับเหลี่ยมของผนัง เพื่อให้เชือกขาด ขณะที่ดร.ฟอร์ดหันมองออกไปในเงามืดราวกับว่ากำลังมองเห็นบางอย่าง เนื่องจากเห็นร่างของซัมดองค่อยๆ ปรากฏขึ้นมา นั้มหันมาเห็นดร.ฟอร์ดจึงรู้สึกแปลกใจที่จู่ๆ ดร.ฟอร์ดก็ยิ้มในสถานะการณ์เช่นนี้
“ด็อกเตอร์ฟอร์ดมองอะไร”
“เปล่า”
ที่มุมมืด ซัมดอง และสตีเฟ่น ค่อยๆปรากฏร่างขึ้นมา ลูกน้องนั้มหันไปเห็น
“เฮ้ย...”
สตีเฟ่นเข้าจัดการลูกน้อง ขณะที่นั้มหันมา แต่ซัมดองใช้มือลึกลับ ผลักนั้มกระเด็นไปชนผนังสลบไป ดร.ฟอร์ดหัวเราะดีใจ ที่ซัมดอง และสตีเฟ่นมาช่วยไว้
“ฮ่ะๆ ดีมากสตีเฟ่น แกทำได้ดีมาก”
“เป็นเพราะซัมดองที่ช่วยเราครับพ่อ”
“ขอบคุณมากครับซัมดองที่ช่วยพวกเรา”
ซัมดองหัวเราะ
“เอ็งจะได้ทุกอย่างที่ต้องการ”
“เข้ามาแก้มัดพ่อเร็วสตีเฟ่น”
สตีเฟ่นเข้ามาแก้มัด ดร.ฟอร์ด ขณะที่ดร.วิทยา ยังคงแอบเอาเชือกถูกับผนังไปเรื่อยๆ โดยไม่มีคนสังเกตเห็น
ซัมดองเดินไปที่หน้าพระประธาน แล้วนั่งลง ท่าทางไม่ค่อยแข็งแรงนัก
“อาจารย์เป็นยังไงบ้างครับ ท่าทางเหมือนบาดเจ็บ” ดร.ฟอร์ดถาม
“มีดอินทรีย์ของพวกมัน ทำให้ข้าต้องเป็นแบบนี้”
“ผมจะดูแลไม่ให้พวกมันใช้มีดอินทรีย์ กับอาจารย์ได้อีก” สตีเฟ่นบอก
ซัมดองพยักหน้า
“ข้าขอเวลาทำสมาธิ รวมรวมกำลัง อย่าให้ใครมารบกวน”
“ครับอาจารย์”
ซัมดองนั่งสมาธิ แล้วสักครู่ร่างของซัมดอง ก็ค่อยๆเลือนหายไป ขณะเดียวกันนั้น นั้มซึ่งสลบอยู่ที่ผนัง ค่อยฟื้นขึ้นมา เมื่อเห็นสตีเฟ่น และดร.ฟอร์ดเป็นอิสระแล้วจึงรู้ว่าตัวเองกำลังเสียเปรียบ นั้มจึงหาจังหวะเผลอ ค่อยๆคืบคลานไปที่หน้าประตูแล้ววิ่งหนี
สตีเฟ่นหันไปเห็นจึงรีบตามออกไป ภายในเจดีย์เหลือเพียง ดร.ฟอร์ด กับดร.วิทยา
เชือกของดร.วิทยาขาดลง ดร.วิทยารีบถอยหลังหนีหายไปในซอกมุมมืดของเจดีย์ ดร.ฟอร์ดหันมามอง แต่เมื่อไม่เห็นจึงโวยวาย
“ไอ้ดร.วิทยา มันหนีไปแล้ว”
ดร.ฟอร์ดรีบตามไป แต่โดนดร.วิทยาผลักล้มลงไป
“โอ๊ย”
ดร.ฟอร์ดหันไปคว้าปืนซึ่งเป็นของพวกลูกน้องเสือสนธิ์ที่ตกอยู่
“แกตาย...”
ดร.วิทยาเห็นว่าเสียเปรียบ จึงวิ่งหนีแล้วหายไปยังช่องเจดีย์อีกด้าน
“กลับมาซิวะ กลับมาไอ้วิทยา กลับมา”
ดร.ฟอร์ด เดินเที่ยวค้นหา ดร.วิทยา
+ + + + + + + + + + + +
นั้มวิ่งหนีออกมาที่ด้านนอกของเจเดีย์ ขณะที่สตีเฟ่นวิ่งตาม ลูกน้องนั้มซึ่งอยู่แถวนั้นรีบเข้ามาช่วยนั้ม แล้วยิงต่อสู้กับสตีเฟ่น
ดร.ฟอร์ด รีบมาสังเกตการณ์ หน้าประตูเจดีย์ เห็นสตีเฟ่นกำลังเสียเปรียบ เนื่องจากมีอยู่คนเดียว ขณะที่นั้ม และลูกน้องมีจำนวนมากกว่า จึงตัดสินใจวิ่งไปที่หน้าพระประธาน พยายามร้องเรียกซัมดอง ซึ่งนั่งสมาธิโดยไม่ปรากฏตัว
“ซัมดอง ช่วยด้วยๆ”
ร่างของซัมดองปรากฏตัวขึ้นมา แล้วกระอักเลือด ซังดองฉุนเฉียวที่โดนขัดจังหวะการนั่งสมาธิ
“แกทำลายพลังข้า ดร.ฟอร์ด”
“แต่ว่าถ้าปล่อยไว้ มันจะบุกเข้ามา”
“ไปเรียก สตีเฟ่นเข้ามา”
“ครับอาจารย์”
ดร.ฟอร์ดวิ่งไปที่หน้าประตู เจดีย์ซึ่งสตีเฟ่นอยู่แถวนั้น
“มาเร็ว สตีเฟ่น ซัมดองให้เข้ามา”
สตีเฟ่นค่อยถอยเข้ามาในเจดีย์ ดร.ฟอร์ดหันมาหาซัมดอง
“อาจารย์ช่วยพวกเราด้วยนะครับ อย่าให้พวกมันบุกเข้ามา”
“เอาทับทิมสยามสีม่วง ออกจากแท่นนั่น ข้าจะแปรพลังของมันให้เป็นม่านกันไม่ให้ใครเข้ามาภายในเจดีย์เด็ดขาด”
“ได้ครับ”
ดร.ฟอร์ด รีบไปยังทับทิมสยามสีม่วง แล้วหยิบแท่นเรเดี่ยมออกมา แล้ววางทับทิมสยามสีม่วงลงไป ซัมดองนั่งสมาธิ แล้วปรากฏแสงเรืองรอง ที่บริเวณประตูทางเข้าเจดีย์ สักครู่แสงก็หายไป
“พลังของทับทิมสยามสีม่วง จะปิดเจดีย์แห่งนี้ ไม่ให้มีใครเข้าออกได้”
สตีเฟ่นเดินไปที่ประตู แล้วลองยื่นออกไปแต่เหมือนมีกำแพงที่มองไม่เห็นกั้นเอาไว้
“จริงๆด้วยครับ เหมือนมีกำแพงใส กั้นเอาไว้ ผมยื่นมือออกไปไม่ได้เลย”
“ตราบใดที่เอ็งมีลมหายใจ เอ็งก็จะผ่านเข้าออกไม่ได้” ซัมดองบอก
“แล้วถ้ากลั้นหายใจละครับ”
“ฮ่ะๆ นั่นคือเคล็ดของการเข้าออก ฮ่ะๆ”
สตีเฟ่นลองกลั้นหายใจ แล้วยื่นมือออกไป แล้วมือก็ผ่านออกไปได้
“ออกได้จริงๆ ด้วยครับ”
“คราวนี้ถึงตาที่พวกเอ็งต้องตอบแทนข้าบ้างแล้ว”
“อาจารย์จะให้พวกเราทำอะไรครับ” ดร.ฟอร์ดหันมาถาม
“สตีเฟ่น เอ็งต้องจับตัวพวกเสาร์ห้ามาให้ข้าให้ได้ ไม่อย่างงั้นพวกมันจะทำลายทุกอย่าง”
“ได้ครับอาจารย์”
ซังดองหันไปหลับตาและนั่งสมาธิต่อ
นั้มและลูกน้องติดตามสตีเฟ่นมาที่หน้าประตู เมื่อเห็นไม่มีใครที่หน้าประตู นั้มจึงรีบพุ่งตัวเข้าไป แต่เหมือนกับชนกำแพงบางอย่าง ที่มองไม่เห็น
“เฮ้ย...อะไรวะ”
ขณะเดียวกัน เทอด เดี่ยว ซึ่งเพิ่งกลับออกมาจากป่า เข้ามาสมทบกับนั้มและลูกน้อง
“เกิดอะไรขึ้นครับ”
“สตีเฟ่น ดร.ฟอร์ดแล้วก็ซัมดองอยู่ข้างใน พวกมันทำเวทย์มนต์ปิดประตูเข้าออกไว้ครับ”
เดี่ยว และเทอด ลูบคลำพยายามหาทางเข้าแต่ไม่สำเร็จ
“งั้นผมจะกลับไปที่บังเกอร์กันก่อน ทางนี้ให้วางกำลังคุมเชิงเอาไว้ก่อนนะครับ”
“ได้ครับ”
เดี่ยว และเทอด พากันกลับไปยังบังเกอร์ เมื่อไปถึงก็พบ ดอน ยอด กริ่ง และทุกคน กำลังช่วยกันยิงถล่มไปยังกองกำลังนายพลจางลี่
“ว่าไง คุณเทอด คุณเดี่ยว” ยอดหันมาทัก
“ตอนนี้ด้านในเจดีย์ ซัมดอง ดร.ฟอร์ด แล้วก็สตีเฟ่นยึดเอาไว้ได้แล้ว แต่ผมให้นั้มกับพวกคุมเชิงไว้ด้านนอกครับ”
กริ่งพยักหน้ารับ
“เป้าหมายของพวกดร.ฟอร์ดคือการทดลอง แต่เป้าหมายของ นายพลจางลี่คือทับทิมสยาม”
“ใช่ครับ เรากำลังเจอศึก 2 ด้าน” เทอดถอนใจ
“ถ้างั้นเราต้องใช้ยุทธการดาวกระจายครับ”ดอนออกความเห็น
ยอดหันไปมอง
“หมายความว่าไงคุณดอน”
“ที่บังเกอร์ เราปล่อยลุงแต้ม เสือสนธิ์ เจ้าพ่ออินทร์ดูแล ส่วนพวกเราพยายามหาทางเจาะเข้าไปในเจดีย์ เพื่อทำลายการทดลองให้ได้”
เคนรีบบอก
“สำหรับ พี่ต่ำ บัวชุม แล้วก็นาตาชาที่อยู่กลางป่า ปล่อยไว้อาจเป็นอันตราย ผมขอเป็นคนไปเอาตัวมาเอง”
“ฉันไปด้วยค่ะ”ม่านฟ้าตัดสิดใจ
เทอดพยักหน้ารับ
“โอเคครับ ฝากเรื่องนี้ให้พวกคุณเคนกับม่านฟ้าดูแล”
เสือสนธิ์บอกทุกคน
“ส่วนผมกับเจ้าพ่ออินทร์จะรับผิดชอบบังเกอร์ตรงนี้”
สัปเหร่อแต้มหันมาบอก
“ของผมจะแบ่งกำลังไปดูแลที่บังเกอร์โน้น ยังไงก็คิดว่ารับมือได้แน่นอน”
“อีกไม่นาน กำลังเสริมของเราก็จะมาถึงแล้ว ไม่ต้องห่วง”
เจ้าพ่ออินทร์บอก แล้วหันไปสั่งงานลูกน้องให้แยกไปกับสัปเหร่อแต้ม ขณะที่กลุ่มเสาร์ห้า เคน ม่านฟ้า และพวกผู้หญิงค่อยๆ กระจายตัวกันออกจากบังเกอร์
เปาชางฉุดกระชากนาตาชาให้เดินตาม แต่นาตาชาแกล้งทำเป็นเดินไม่ไหว ทำให้เปาชางหงุดหงิด
“เดินให้ไวหน่อยไม่ได้หรือไง ... เร็ว”
“ฉันเหนื่อยนะ”
“อยากตายกลางป่านี่หรือไง นังแหม่ม”
“จะตายที่นี่หรือว่าตายที่ไหน ยังไงแกก็ฆ่าฉันอยู่แล้ว”
“ฉลาดนี่ แต่คนอย่างเธอน่ะ ฉันไม่ปล่อยให้ตายฟรีๆหรอก ยังไงฉันก็จะเอาเธอแลกกับทับทิมสยาม”
“เชอะ ฝันไปเถอะ”
“เร็ว เดินเร็วๆ”
นาตาชาอาศัยจังหวะเผลอ เอาตัวกระแทกเปาชางเซล้ม แล้ววิ่งหนีไป เปาชางเล็งปืน
“นังตัวดี อยากตายมากใช่มั๊ย”
เปาชางยิงไล่หลัง กระสุนนัดหนึ่งเฉี่ยวไปที่ขา ทำให้นาตาชาล้มลง เปาชางเดินเข้าไป แล้วกระชาแม็กกาซีนขู่
“อย่าให้ฉันต้องฆ่าเธอนาตาชา ลุกขึ้น”
นาตาชา มองที่ขาซึ่งโดนยิงเลือดไหล
“ยิงฉันอย่างนี้ จะให้เดินยังไง”
เปาชางจำต้องอุ้มนาตาชาแล้วเดินไป
นายพลจางลี่ กำลังส่องกล้องสำรวจฝ่ายตรงข้าม แล้วจากนั้นก็ระดมยิงเข้าใส่ ลูกน้องคนหนึ่งวิ่งเข้ามารายงาน
“นายครับ หน่วยสอดแนมรายงานมาว่าตอนนี้ที่ เจดีย์น่าจะโดนพวกดร.ฟอร์ด กับพวกยึดเอาไว้ได้แล้ว”
“ฮึ่ม...มันคงคิดจะมาชิงเอาทับทิมสยามเหมือนกัน”
ขณะเดียวกัน ภาพเปาชาง พานาตาชาเข้ามา
“ลุงไม่ต้องห่วง ยังไงเราก็จะต้องชนะแน่ครับ”
“นั่นแหม่มนาตาชานี่”
“นาตาชาจะเป็นตัวประกันชั้นดี ที่จะทำให้งานของเราง่ายขึ้น”
“ดีมากหลานรัก เราจะเอานาตาชาแลกกับทับทิมสยามฮ่ะๆ”
นาตาชายิ้มเยาะ
“ฝันไปเถอะ ไอ้พวกบ้า”
นายพลจางลี่ไม่พอใจ
“นังแหม่มนี่ปากดี เดี๋ยวเถอะ”
“ปล่อยฉันได้แล้ว ฉันเจ็บ”
เปาชางเหวี่ยงนาตาชาไปที่มุมหนึ่ง แล้วหันไปสั่งลูกน้อง”
“มัดมันไว้”
ลูกน้องช่วยกันมัดนาตาชา ขณะที่เปาชางเดินไปหยิบระเบิดเวลาออกมา
“นั่นแกจะทำอะไร เปาชาง”
“นังแหม่มนี่ฤทธิ์มันไม่ธรรมดา ผมจะเอาระเบิดผูกติดตัวมันไว้ ถ้าเกิดเรื่องอะไรก็จะได้กดรีโมทระเบิดมันทิ้งไปเลยครับลุง”
“แต่เราต้องได้ทับทิมสยามมาก่อน จากนั้นแกอยากจะทำอะไรก็ทำไป ฮ่ะๆ”
เปาชางเดินเอาระเบิดไปผูกไว้กับตัวของนาตาชา
“ถ้าเธอคิดหนี ฉันจะกดรีโมทระเบิดเธอทิ้ง เข้าใจมั๊ย”
นาตาชา เชิดหน้าไม่สนคำขู่ของเปาชาง
สตีเฟ่นกลั้นหายใจแล้วเดินทะลุ กำแพงแก้วออกมา ครู่หนึ่งซัมดองปรากฏร่างขึ้นข้างๆ นั้ม และลูกน้อง ซึ่งรักษาการณ์อยู่แถวนั้นหันมาเห็น
“มันออกมาแล้ว ยิง”
นั้มและลูกน้องพากันระดมยิงมาที่สตีเฟ่นและซัมดอง แต่แล้วซัมดองก็ใช้มือลึกลับสบัดไปทำให้นั้ม และลูกน้อง กระเด็นหกล้ม นั้มและลูกน้องพากันล่าถอยไป ซัมดองหันมาหาสตีเฟ่น
“หน้าที่ของแก คือต้องหาทางจับตัวพวกเสาร์ห้ามาให้ข้า”
“ครับอาจารย์ ถ้าได้ตัวเสาร์ห้า การทดลองที่จะเกิดขึ้นก็จะไม่มีอุปสรรค”
“รีบไปจัดการก่อนที่พวกมันจะมาที่นี่”
“ได้ครับอาจารย์”
ซัมดอง หันมองไปมา ราวกับว่ากำลังรับรู้บางอย่าง
“มีอะไรครับอาจารย์”
“มีดอินทรีย์ ข้าได้กลิ่นมีดอินทรีย์ คนป่าที่ชื่อเคน มันมาแล้ว”
ร่างของซัมดองค่อยๆ เลือนหายไป สตีเฟ่น หยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมา
“ราฮีม...”
สตีเฟ่น วิทยุติดต่อกับราฮีม เพื่อเตรียมกำลัง ทางด้านราฮีม และพวก ซึ่งอยู่ในป่าหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมา
“ครับคุณสตีเฟ่น”
“รีบนำพวกของแกไปหาฉันที่ป่าสุสานช้าง เราจะทำการรบที่นั่น”
“ได้ครับ ผมจะไปถึงที่นั่นใน 5 นาที”
ราฮีมหันไปสั่งลูกน้อง
“ขนอาวุธไปให้หมด ตามข้ามา”
ราฮีมเดินนำทุกคนออกไป
บัวชุมวิ่งหนีกระสุน มาหลบอยู่ที่มุมหนึ่ง แล้วเห็นม่านฟ้า กับเคนกำลังวิ่งมา บัวชุมรีบตะโกนเรียก
“คุณหนู ๆ”
ม่านฟ้าหันมามองแล้วรีบวิ่งเข้ามา พร้อมเคน
“พี่บัวชุมเกิดอะไรขึ้น นาตาชาไปไหน”
“เปาชางมันจับนาตาชาไปแล้ว”
“แล้วพี่ต่ำล่ะ”
“หนีกันไปคนละทาง ไม่รู้อยู่ไหน”
“งั้นตามผมมา เร็ว”
เคนวิ่งนำทุกคน ม่านฟ้าและบัวชุมกันวิ่งตาม ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามยิงปืนไล่หลัง
ดร.วิทยาซึ่งหนีออกมาจากเจดีย์ ผ่านมาเห็นฮวงถูกมัดไว้ที่มุมป่ามุมหนึ่ง จึงรีบเข้าไปช่วยแก้มัด
“แกอยู่นี่เอง นึกว่าหายไปไหน”
“พวกมันจับผมมัดไว้ครับ”
“ตอนนี้ ข้างใน ไอ้ดร.ฟอร์ดกับลูกของมันบุกเข้ามายึดไว้ได้แล้ว พวกเราไม่มีกำลังเหลือเลย เจ้าพ่ออินทร์ กับเสือสนธิ์มันทรยศฉัน”
“ด็อกเตอร์ไม่ต้องกลัว ผมจะคุ้มกันด็อกเตอร์ให้เอง”
วิทยาแก้มัดฮวงเสร็จ แล้วพากันวิ่งหาที่หลบ ม่านฟ้า บัวชุม และเคนวิ่งเข้ามาหลบที่บริเวณใกล้ๆ กัน บัวชุมหันมาเห็นทั้งคู่พอดี
“คุณหนู”
ม่านฟ้าหันมองตาม
“ไอ้คนเลว”
ม่านฟ้า ผละจากทุกอย่าง วิ่งเข้าไปชาร์จ ดร.วิทยา เคนและบัวชุมรีบตามไป
“ตายซะเถอะ”
ฮวงเข้ามาขวางไว้ แล้วต่อสู้กับม่านฟ้า ทำให้ม่านฟ้าเซล้มลงไป เคนเข้ามาช่วยสู้แทน ดร.วิทยาเห็นท่าไม่ดี รีบหาทางวิ่งหนีเอาตัวรอด แต่บัวชุม เข้ามาขวางไว้
“จะหนีไปไหน ไอ้ด็อก”
“หลีกไปนังผีบ้า”
“เรียกผีบ้า งั้นฉันก็ขอบ้าหน่อยละกัน”
บัวชุมกระโดดเข้าใส่แล้วกัด ดร.วิทยาพยายามดิ้นรน ปัดป้อง สะบัดบัวชุมล้มลง ม่านฟ้ากลัวงบัวชุมจะได้รับอันตรายจึงเข้าไปช่วย ทำให้ดร.วิทยาถูกม่านฟ้าและบัวชุมรุม
เคนสู้กับฮวง ปืนของทั้งคู่หล่นลง ทั้งคู่จึงกอดปล้ำเพื่อแย่งปืน ฮวงได้ปืนก่อนจึงหันมาจ่อเคน
“ตายซะเถอะ”
ม่านฟ้า และบัวชุม ชักปืนออกมาจ่อ ดร.วิทยาไว้เช่นกัน
“อย่านะ ไม่งั้นฉันยิงเจ้านายแกแน่”
“ฮวง แกช่วยฉันด้วย” ดร.วิทยาร้องบอก
“ทิ้งปืน ไม่งั้นฉันยิง” ม่านฟ้าสั่ง
ฮวงเกรงดร.วิทยาจะเป็นอันตรายจึงค่อยๆ วางปืน
“ก็ได้”
ฮวงขยิบตาให้ดร.วิทยา จากนั้นดร.วิทยาก็สะบัดตัวล้มลง ฮวงอาศัยความเร็วลั่นกระสุนไปที่ม่านฟ้า บัวชุมเห็นเจ้านายอยู่ในอันตรายจึงรีบพลิกตัวเข้าไปขวางไว้ เลยโดนกระสุนปืนล้มลง
ดร.วิทยารีบวิ่งหนีไป เคนเข้าแย่งปืนจากฮวงบ้าง ฮวงเห็นท่าไม่ดีจึงรีบสะบัดหนีแล้ววิ่งหนีตามดร.วิทยาไป ม่านฟ้า และเคน รีบเข้ามาหาบัวชุมที่นอนหายใจรวยริน
“พี่บัวชุมอย่าเป็นอะไรนะ” ม่านฟาร้องไห้โฮ
“ค่ะ บัวชุมไม่เป็นอะไร”
“แต่พี่บัวชุมเลือดไหล”
“คุณหนูอย่าห่วง เดี๋ยวพี่บัวชุมก็หาย”
“สัญญานะ”
“สัญญาค่ะ พี่บัวชุม จะอยู่ดูแลคุณหนูตลอดไป”
บัวชุมค่อยๆ หลับตาลง มือที่กุมม่านฟ้าไว้หล่นลงไม่ไหวติง เป็นสัญญาณของการจากไปชั่วนิรันดร์
“พี่บัวชุม”
ม่านฟ้ากอดศพบัวชุมไว้ในอ้อมอก แล้วร้องไห้โฮ
“พี่บัวชุมจะอยู่กับพวกเราตลอดไป ม่านฟ้า”
เคนก้มหน้าลงอย่างสลดใจไปพักใหญ่ ก่อนจะช่วยกันกับม่านฟ้า ยกศพของบัวชุมมาวางไว้ที่มุมหนึ่ง แต่แล้วที่ด้านหลังของทั้งคู่ ซัมดองค่อยๆ ปรากฏร่างขึ้นมา
“แกอยู่ที่นี่เอง”
เคนและม่านฟ้าหันไปมอง
“ซัมดอง”
“ตายซะเถอะ”
ม่านฟ้ายกหน้าไม้ขึ้นมายิง แต่ซัมดองรับเอาไว้ได้ จากนั้นก็ขว้างกลับมา ลูกดอกของหน้าไม้ เฉี่ยวไหล่ของม่านฟ้าล้มลง เคนชักมีดอินทรีย์ออกมา
“มีดอินทรีย์ แกจำได้มั๊ย”
ซัมดองผงะเล็กน้อย เนื่องจากเคยรู้ฤทธิ์ของมีดอินทรีย์ ซึ่งเคยทำให้ซัมดองบาดเจ็บมาแล้ว
“แกต้องตาย”
ซัมดองเคลื่อนตัวเข้ามา แต่แล้วเคนก็ปามีดอินทรีย์ออกไป ซัมดองหลบได้ มีดอินทรีย์วิ่งกลับมาหาเคนอีกครั้ง
ม่านฟ้าลุกขึ้นมา แล้วหยิบหน้าไม้ขึ้นมาอีกครั้ง เล็งหาจังหวะที่จะยิงซัมดอง แต่ซัมดอง หายตัว ไปมา โผล่ตรงโน้น ตรงนี้ ทำให้มองเห็นว่าซัมดองมีหลายคน เคนหันมองไปรอบๆ เพื่อมองหาซัมดองตัวจริง ครู่หนึ่งซัมดองก็มาปรากฏตัวที่ด้านหลังเคน ขณะที่ม่านฟ้ายิงหน้าไม้ออกไป ซัมดองจับเอาตัวเคนมารับหน้าไม้ เคนถูกยิงล้มลง มีดอินทรีย์หลุดจากมือหล่นลงพื้น
“เคน...”
“นังผู้หญิงหน้าโง่ ตายซะเถอะ”
ซัมดองอัดพลังจากฝ่ามือออกไป ทำให้ม่านฟ้ากระเด็นไปกระแทกต้นไม้ ม่านฟ้าสลบไป ซัมดองเดินเข้ามาหาเคนซึ่งกำลังนอนบาดเจ็บ หายใจรวยริน
“แกต้องมากับข้า”
เคนค่อยๆลืมตาขึ้นมามองอย่างอ่อนแรง
สตีเฟ่นซุ่มอยู่มุมหนึ่งแถวเจดีย์ ซึ่งยังคงมีลูกน้องเสือสนธิ์ ลาดตระเวณกันอยู่ วิทยุสื่อสารของสตีเฟ่น ดังขึ้นเป็นเสียงของราฮีม
“คุณสตีเฟ่น พวกเรามาแล้ว”
“ดี ฉันรออยู่แถวเจดีย์”
“ผมจะบุกเข้าไปเดี๋ยวนี้”
ขาดคำ ราฮีมกับพวกก็บุกเข้ามายิงลูกน้องเสือสนธิ์ที่กำลังลาดตระเวณ แล้วเกิดยิงต่อสู้กัน สตีเฟ่นเข้าไปสมทบกับราฮีม แล้วเอาชนะ ลูกน้องเสือสนธิ์ได้ในที่สุด
“แบ่งกำลังไว้ที่เจดีย์บางส่วน อีกส่วนหนึ่งตามฉันมา”
“ครับคุณสตีเฟ่น”
ราฮีมแบ่งกำลังทิ้งไว้ที่ฐานเจดีย์ แล้วจากนั้น ราฮีมและพวกที่เหลือตามสตีเฟ่นไป
ทางด้านยอด ดอน กระแต เจนนี่ ย่องเข้ามาที่มุมหนึ่งของเจดีย์ แล้วเห็นลูกน้องของราฮีม กำลังเดินลาดตระเวณ
“นั่นพวกของราฮีม มันแอบบุกเข้ามาแล้ว”
ลูกน้องของราฮีม 2 คน หันมาเห็นจึงยิงกลุ่มยอด ทุกคนรีบหลบ
“คุณยอด คุณดอน หลอกล่อพวกมันอยู่ที่นี่นะคะ” กระแตหันมาบอก
“คุณจะไปไหน”
“ฉันกับเจนนี่ไปอ้อมไปด้านหลัง”
“ระวังตัวด้วยนะ เจนนี่”
“ค่ะ ไม่ต้องห่วง”
กระแต และเจนนี่รีบหลบเข้ามุมมืดหายไป ขณะที่ยอด และดอน โผล่ออกมายิงเพื่อเรียกร้องความสนใจ
กระแต และเจนนี่ พากันลอบเข้ามาที่ด้านหลัง แต่พวกสมุน หันมาเห็นเจนนี่เตะปืนสมุนคนหนึ่งหลุดมือแล้วเข้าชาร์จ ขณะที่กระแตเข้าจัดการกับสมุนอีกคน สมุนทั้งสองล้มไป ยอด และดอน เข้ามาสมทบ
“ตามมาทางนี้ครับ ที่ฐานเจดีย์ด้านโน้นมีช่องเล็กๆให้เข้าไป”
ทุกคนพากันตามดอนไปที่ช่องทางเข้าเจดีย์ แต่ขณะกำลังเดินเข้าไป ดอนก็เหมือนมองเห็นบางอย่างซึ่งเป็นกำแพงใสๆ กั้นไว้ จึงเอามือไปแตะ ทำให้รู้ว่าทางเข้าถูกปิด
“มันปิดทางเข้าออก”
“ไหนคะ”
กระแตลองเอามือไปแตะ ตามด้วยเจนนี่ แต่ก็เหมือนมีกำแพงใสๆ กั้นเอา
“นี่มันอะไรกัน ทำไมเหมือนมีกำแพงกั้นเอาไว้”
“ใช่ค่ะ แต่เป็นกำแพงที่เรามองไม่เห็น”
“ขอผมลองหน่อย”
ยอดลองเอามือแตะ แต่ก็เป็นเหมือนคนอื่น ไม่สามารถเข้าไปด้านในได้
“ทำไมผมก็แทรกตัวเข้าไปไม่ได้”
“ต้องเป็นเวทย์มนต์ของซัมดองแน่นอน” ดอนบอก
ยอดพยายามลูบกำแพงในอากาศ เพื่อหาทางเข้า
กลุ่มเทอด พากันวิ่งมาอีกด้านหนึ่งของเจดีย์ สตีเฟ่น ราฮีมและพวก หันไปเห็น
“นั่นไง พวกมันมาแล้ว”
สตีเฟ่นยิงใส่ทั้งกลุ่ม โดยที่มุมของราฮีม สตีเฟ่น เป็นมุมเก็บอาวุธ วางลังไม้บรรจุกระสุนและอาวุธไว้มากมาย
ขณะที่ฝ่ายของ เดี่ยว เทอด กริ่งกระสุนเริ่มร่อยหรอ
“ประหยัดกระสุนกันหน่อยพวกเรา ฝ่ายตรงข้ามมีกำลังเหนือกว่าเรามาก” เดี่ยวบอกทุกคน
“เห็นตรงที่ราฮีมอยู่มั๊ย ตรงนั้นมีคลังแสง” บุษกรบอก
“งั้นก็ระเบิดคลังแสงมันเลยซิ” ชลดาออกความเห็น
“ต้องหาใครไปจุดชนวน”
ยูกิเสนอ กริ่งอาสาทันที
“ผมก็ได้นะ เดี๋ยวจัดให้”
“แต่ผมสะดวกสุดนะ อย่าลืม ไปละ”
เทอดหายตัว แล้วตรงไปยังจุดที่ราฮีม และสตีเฟ่นซุ่มอยู่ ทันใดลังไม้ซึ่งบรรจุอาวุธถูกเปิดออกโดยมองไม่เห็นว่าเทอดเปิด ราฮีม สตีเฟ่นและคนอื่นๆ ไม่รู้ตัวว่าเทอดอยู่แถวนั้น
เทอด ปรากฏตัวขึ้นแล้วเอาระเบิดมาถอดสลัก จากนั้นก็เอามาตั้งเรียงกันไว้บนฝาลัง สตีเฟ่นหลบกระสุนแล้วหันมาเห็นเทอด
“เฮ้ย...นั่นแก...”
เทอดหายตัวแว๊บไปกับตา ชลดา บุษกร ยูกิ หันมาหาเดี่ยว และกริ่ง
“คุ้มกันให้ด้วย”
“ได้ครับ ไม่ต้องห่วง”
บุษกร ยูกิ ชลดา วิ่งออกจากที่กำบังที่ใกล้ขึ้นกว่าเดิม แล้วลุยเข้าไปยิงใส่ลังกระสุนและระเบิดที่เทอด วางเป้าไว้ให้
สตีเฟ่นรีบดึงราฮีมให้ออกจากที่ซ่อนแล้วหลบออกไป ขณะที่คลังแสงถูกยิงทำให้ระเบิดตูมใหญ่บรรดาลูกน้องพากันล้มตาย
อ่านต่อหน้า 2 วันพรุ่งนี้
เสาร์๕ ตอนทับทิมสยาม ตอนที่ 21 อวสาน (ต่อ)
เดี่ยว กริ่ง พากันวิ่งมาที่คลังแสง พร้อมๆกับที่เทอดปรากฏตัวขึ้น บุษกร ยูกิ ชลดา เข้าเคลียร์พื้นที่แล้วหยิบกระสุน และอาวุธที่ยังไม่ระเบิดส่งมาแจกจ่ายคนอื่นๆ
“ตุนไว้เยอะๆนะคะ ของยังมีเหลืออีกเพียบ” ยูกิบอก
“สตีเฟ่น กับราฮีมมันหนีไปด้านโน้น” เดี่ยวชี้
“งั้นเราแยกกันนะคะ คุณเดี่ยว คุณเทอด คุณกริ่ง”
บุษกรบอกเสาร์ห้า เทอดพยักหน้ารับ
“ครับ ผมจัดการสตีเฟ่น กับราฮีม ส่วนพวกคุณเคลียร์พื้นที่ จัดการพวกลูกสมุน”
“ได้ค่ะ ไม่ต้องห่วง กระสุนเพียบแบบนี้ เราจัดการได้”ฃลดายิ้ม
“ไปครับ ไปทำงานที่เรารัก”
เดี่ยว เทอด กริ่ง พากันวิ่งตามสตีเฟ่น และราฮีมออกไป ลูกสมุนที่เหลือโผล่เข้ามา บุษกร ชลดา และยูกิ ช่วยกันยิงต่อสู้สกัดเอาไว้
บริเวณป่าซึ่ง อยู่ใกล้ๆบริเวณเจดีย์ สตีเฟ่น ราฮีม พากันวิ่งเข้ามาซุ่มหลบอยู่ สมทบกับลูกน้องกลุ่มหนึ่งซึ่งอยู่แถวนั้น
เดี่ยว เทอด กริ่ง พากันวิ่งเข้ามา แล้วโดนสตีเฟ่น และราฮีม ยิงถล่ม ทั้งหมดจึงรีบหลบเข้ามุม
ซัมดองปรากฏตัว โดยจับเคนไว้เป็นตัวประกัน เคนฟื้นแล้วในสภาพสลึมสลือ มีลูกดอกหน้าไม้ปักอยู่ เดี่ยวหันไปเห็น
“คุณเคน”
ทุกคนพากันชะงัก ขณะที่สตีเฟ่น และราฮีม เมื่อรู้ตัวว่ากำลังได้เปรียบ จึงออกมาจากที่ซ่อน
“ถ้าไม่อยากให้ไอ้คนป่านี่ตาย พวกเอ็งจงวางอาวุธ” ซัมดองประกาศ
เดี่ยว เทอด กริ่ง พากันวางอาวุธ แล้วจากนั้นก็โดนพวกของสตีเฟ่น และราฮีม จับมัดเอาไว้กับต้นไม้ใหญ่
“ฆ่ามันเลยซัมดอง อย่าปล่อยไว้เป็นเสี้ยนหนาม” สตีเฟ่นหันไปบอก
“ยังฆ่าไม่ได้...”
“แต่พวกนี้ไว้ใจไม่ได้ครับซัมดอง” ราฮีมแย้ง
“เอ็งได้ฆ่ามันแน่ แต่ต้องรอให้งานของข้าสำเร็จก่อน”
ซัมดองผลักเคนล้มลง แล้วจากนั้นเคนก็ถูกลากตัวไปมัดรวมไว้กับพวกเดี่ยว เทอด กริ่ง ขณะที่ต่ำ แอบดูเหตุการณ์อยู่
ดอน ยอด กระแต เจนนี่ พยายามหาทางเข้าไปด้านในเจดีย์ แต่ไม่สามารถเข้าไปได้ ต่ำวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา
“แย่แล้วๆ”
“มีอะไรคะพี่ต่ำ” เจนนี่หันไปถาม
“รีบไปเร็ว คุณเดี่ยว คุณเทอด คุณกริ่ง คุณเคน ถูกจับ”
“อยู่ตรงไหน” ดอนร้อนใจ
“ตามมา”
ทุกคนพากันวิ่งตามต่ำไป
ขณะเดียวกัน ซัมดองเปิดดวงตาสวรรค์ออกมา ทำให้แสงสว่างเรืองรองไปทั่ว สตีเฟ่น ราฮีม และลูกน้องหายไป เหลือแต่เดี่ยว เทอด กริ่ง และเคน
ภาพในดวงตาสวรรรค์ ซัมดองเห็นกลุ่มดอนกำลังวิ่งเข้ามา แต่แล้วที่ด้านหลังของทุกคน กลุ่มของสตีเฟ่น และราฮีม ก็ปรากฏตัว
“จะไปไหน”
ดอน ยอด กระแต เจนนี่ชะงัก ขณะที่ต่ำรีบหลบเข้ามุมมืด
“ทิ้งปืน ยกมือขึ้น”
ราฮีมและลูกน้อง เอาเชือกมัดทุกคน ซัมดองร้องสั่ง...
“สตีเฟ่น เอาตัวพวกเสาร์ห้าตามข้ามา”
“ครับซัมดอง”
“แล้วคนอื่นๆละครับ” ราฮีมถาม
“ฆ่ามัน”
ซัมดองเดินนำไปยังเจดีย์ สตีเฟ่น และลูกน้องช่วยกันคุมตัวพวกเสาร์ห้า ตามซัมดองไป ราฮีม เดินเข้ามายืนมอง กระแต เจนนี่ และเคนซึ่งถูกมัดไว้ เริ่มฟื้นได้สติ
ซัมดอง เดินนำสตีเฟ่น และพวกเสาร์ห้ามาที่เจดีย์ แล้วจากนั้นซัมดองก็ร่ายมนต์เปิดประตูให้ทุกคนผ่านเข้าไป ข้างใน
บุษกร ชลดา ยูกิ ซึ่งแอบมองอยู่ที่มุมหนึ่งรีบวิ่งตามไปที่ประตู แต่แล้วก็เข้าไปไม่ได้
“พวกเสาร์ห้าอยู่ข้างใน พวกเค้าอยู่ในอันตราย” ชลดากังวล
“นี่มันอะไรกัน ทำไมเข้าไปไม่ได้” บุษกรงง
ทันใด เสียงราฮีมร้องโอยเสียงดังมาจากมุมหนึ่ง
“เสียงใครร้อง ไปเร็ว”
ทั้งสามสาวรีบวิ่งตามเสียงไป
อีกด้านหนึ่งนั้น...
ต่ำ กอดขาของราฮีมไว้แน่น แล้วกัดขาไม่ยอมปล่อย ราฮีมส่งเสียงร้องโอยเสียงดัง ลูกน้องรีบเข้ามาช่วยดึงร่างของต่ำให้ออกมา จากนั้นก็ชักปืนจะยิง แต่แล้วบุษกร ชลดา ยูกิ วิ่งเข้ามาทัน
“หยุดนะ”
ทุกคนหันไปมอง ต่ำได้จังหวะรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีไป ทั้งสามสาวรีบเข้าไปชาร์จกับราฮีม และลูกน้อง แล้วต่อสู้กัน
ต่ำวิ่งมาไปแก้มัดให้ทุกคนเป็นอิสระ เคนกลั้นใจชักลูกดอกที่เสียบหน้าอกออกมาจากตัว แล้วลุกขึ้นในสภาพพร้อมเผชิญหน้ากับศัตรู
ทุกคนช่วยกันต่อสู้ สามารถจัดการกับพวกลูกสมุนของราฮีมไม่ยากนัก ราฮีมเห็นท่าไม่ดีจึงรีบหาทางหนี ชลดาหันไปเห็น
“จะหนีไปไหน ราฮีม”
ชลดายิงเปรี้ยง ราฮีมล้มลง ขาดใจตาย เคนหันมาบอก
“ผมขอแยกตรงนี้ เดี๋ยวมา”
“คุณจะไปไหน” เจนนี่ถาม
“ผมจะไปดูม่านฟ้า เธอสลบอยู่”
กระแตพยักหน้ารับ
“ถ้าไงตามมาสมทบนะ เราจะอยู่แถวเจดีย์”
“ครับ ไม่ต้องห่วง” เคนรีบแยกตัวออกไป
“รีบไปที่เจดีย์กันเถอะค่ะ พวกเสาร์ห้าถูกจับอยู่ข้างใน” เจนนี่บอกทุกคน
เคนเดินเข้ามาหาม่านฟ้าที่นอนสลบไม่ได้สติอยู่
“ม่านฟ้า”
เคนเข้าไปเขย่าตัว ม่านฟ้าลืมตาขึ้นมา
“คุณเคน”
“ครับผมเอง ลุกขึ้นเถอะครับ”
ม่านฟ้าพยุงตัวขึ้นมา แล้วมองไปที่หน้าอกของเคน ซึ่งมีร่องรอยลูกดอก
“ฉันขอโทษที่ยิงมาถูกคุณ”
“ผมไม่เป็นไรแล้ว รีบไปกันเถอะตรงนี้อันตราย”
ม่านฟ้าหันไปหาศพของบัวชุม ซึ่งนอนอยู่ห่างออกไป
“แล้วพี่บัวชุม”
“เอาไว้แล้วค่อยกลับมาจัดการ”
เคนพยุงม่านฟ้าลุกเดินออกไป
กลุ่มบุษกร และต่ำ มารวมตัวกันที่บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้า ทุกคนพยายามหาทางเข้าไปข้างในแต่ไม่สำเร็จ
“นี่มันอะไรกัน ทำไมเราเข้าไปไม่ได้” กระแตหงุดหงิด
“ต้องเป็นอำนาจเวทย์มนต์ของซัมดองแน่นอน” ชลดาบอก
“ยังไงเราก็ต้องเข้าไปให้ได้”
บุษกรพยายามมองหาทาง ทุกคนช่วยกันหาทางเข้าไป ขณะเดียวกัน เคน กับม่านฟ้ามาสมทบ ยูกิหันไปเห็น
“คุณเคน คุณม่านฟ้า”
“กำลังทำอะไรกันคะ”
“ซัมดองใช้เวทย์มนต์ ทำให้เราเข้าไปข้างในไม่ได้” ยูริบอก
“ขอผมลองหน่อยนะครับ”
เคนเดินมาที่ประตู แล้วลองคลำหาทางเข้าไปเรื่อยๆ
บริเวณบังเกอร์ ในขณะนั้นสัปเหร่อแต้ม และกลุ่มลูกน้อง ยิงต่อสู้อยู่กับ กองกำลังของนายพลจางลี่ ขณะที่นายพลจางลี่ ส่องกล้องประเมินสถานการณ์ แล้วจากนั้นจึงหันไปสั่งเปาชาง
“เปาชาง พวกแกพร้อมหรือยัง”
“พร้อมครับลุง”
“ถ้างั้นก็จัดการเลย”
เปาชางตะโกนสั่งลูกน้อง
“พวกเรา ประจันบาน”
กองกำลังของนายพลจางลี่ วิ่งกรูออกจากที่ซ่อน แล้วบุกตะลุยเข้าต่อสู้แบบประจันบาน ทำให้พวกลูกน้องเสือสนธิ์ที่ยิงสกัดไว้ในตอนแรก ยิงไม่ทัน ทำให้เกิดการต่อสู้แบบถึงเนื้อถึงตัว ทั้งนี้เนื่องจากนายพลจางลีต้องการจะบุกยึดบังเกอร์
สัปเหร่อแต้มที่กำลังจัดการกับศัตรูที่บุกเข้ามา สักครู่เมื่อเห็นว่ามีจำนวนมากว่าเดิม จึงเริ่มถอยออกจากบังเกอร์ เพื่อไปรวมกับบังเกอร์ของเสือสนธิ์ และสั่งให้ลูกน้องของเสือสนธิ์ไปบอกให้กลุ่มของบุษกรรู้
ขณะเดียวกันที่บริเวณเจดีย์ กลุ่มบุษกร พยายามหาทางเข้าไปด้านในเจดีย์ แต่ไม่สำเร็จ ลูกน้องเสือสนธิ์วิ่งมาหา
“พวกนายพลจางลี่มันบุกเข้าบังเกอร์แล้วครับ”
ชลดาตัดสินใจทันที
“ถ้างั้นเราพักเรื่องนี้เอาไว้ก่อนดีกว่า”
“เห็นด้วยค่ะ รีบกลับไปช่วยพวกเรารักษาพื้นที่กันไว้ก่อน”บุษกรบอก
ยูกิหันไปสั่ง
“พี่ต่ำอยู่ที่นี่นะ”
“ต่ำจะไปด้วย”
“อยู่ดูแลเจดีย์ดีกว่า ถ้ามีความเคลื่อนไหวให้รีบมารายงาน”
“โอเค”
ทุกคนรีบวิ่งไปที่บังเกอร์ ทิ้งต่ำไว้หน้าเจดีย์
ส่วนที่บังเกอร์ของเจ้าพ่ออินทร์ เสือสนธิ์ นั้ม และพวกลูกน้องต่างก็โดน กลุ่มของนายพลจางลี่เข้ามาประจันบานเหมือนกัน
บุษกรกับพวก พากันวิ่งเข้ามาช่วยต่อสู้กับฝ่ายตรงข้าม
“พวกเรามาแล้วค่ะ” บุษกรร้องบอก
“ไม่มีวันยอมพวกแกง่ายๆอยู่แล้ว”
ชลดาประกาศ ทุกคนช่วยกันต่อสู้แบบประจันบาน สัปเหร่อแต้ม และพวกถอยเข้ามารวมกัน
“เสือสนธิ์” สัปเหร่แต้ม เล่นงานฝ่ายตรงข้าม พลางร้องเรียก
“ว่าไง”
“พวกเราต้องระวังแผนใหญ่ของมัน”
“แผนอะไร ผมไม่เข้าใจ”
“มันบุกแบบประจันบานแบบนี้ แสดงว่าแผนต่อไปของมันก็คือบุกใหญ่”
“แสดงว่ามัน กำลังทำให้เราพะวักพะวนจนไม่ระวังตัว”
“ใช่ รีบจัดการอะไรซักอย่างซิ เสือสนธิ์”
เสือสนธิ์ตัดสินใจทันที
“ไอ้นั้ม...”
“ครับนาย”
“ระเบิดศูนย์บัญชาการของมัน”
นั้มหันไปคว้าปืนยิงระเบิด แล้วเล็งวิถีไปยังศูนย์บัญชาการ ที่นายพลจางลี่แฝงตัวอยู่
นายพลจางลี่ เปาชาง อาเตียว และคนอื่นๆพากันหลบ
“เฮ้ย...จะปล่อยให้มันหยามแบบนี้ได้ไง” นายพลจางลี่โวยวาย
“เดี๋ยวผมเอาคืนให้”
เปาชางหยิบวิทยุสื่อสารออกมา แล้วสั่งการ
“พวกเรา ตามแผน บุกหนักไปเลย ยึดบังเกอร์พวกมันให้ได้”
กองกำลังทุกคนของนายพลจางลี่ พากันระดมยิงทั้งระเบิด และปืนเข้าใส่บังเกอร์ฝ่ายตรงข้ามไม่ยั้ง
เสือสนธิ์ นั้ม และคนอื่นๆ พากันหลบกับพื้น เนื่องจากถูกระดมยิงอย่างหนัก นั้ม อาศัยจังหวะ โผล่ขึ้นไปดูเหตุการณ์แล้วพบว่า กลุ่มของเปาชาง และพวกกำลังบุกใกล้เข้ามา
“ไม่ไหวแล้วครับนาย ตอนนี้พวกมันลุกคืบเข้ามาแล้ว”
“อยู่อย่างงี้เราเสร็จแน่” เจ้าพ่ออินทร์บอก
“คนอย่างเสือสนธิ์ไม่เคยถอยให้ใคร” เสือสนธิ์ประกาศ
กระสุนปืนกระหน่ำเข้ามาหูดับตับไหม้ ทำให้ลูกน้องหลายคนล้มลงตายต่อหน้าต่อตา สัปเหร่อแต้มเหลืออด ลุกขึ้นคว้าปืนกลมาได้แล้วกระหน่ำยิงออกไป
“ไม่ไหวแล้วเว้ย...”
“ตายเป็นตาย”
เสือสนธิ์ เองก็ทนไม่ไหวจึงลุกขึ้นสู้อย่างบ้าระห่ำ เจ้าพ่ออินทร์ นั้มและคนอื่นๆ ลุกขึ้นกระหน่ำยิงออกไปเช่นกัน
ที่ชายป่า ผู้พันอาจณรงค์ และกองทหาร เดินทางเข้ามาแล้วซุ่มดูเหตุการณ์
“พวกคุณอย่าเพิ่งทำอะไร ผมขอติดต่อกับพวกเราก่อน”
ผู้พันอาจณรงค์สั่งลูกน้อง หยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมา แล้วติดต่อ...
“หน่วยเหนือเรียกเสาร์ห้า”
วิทยุสื่อสารในบังเกอร์ดังขึ้น เจ้าพ่ออินทร์รีบเข้าไปรับ
“หน่วยเหนือ ตอนนี้เสาร์ห้าแยกออกไปปฏิบัติการณ์ที่เจดีย์ ผมเจ้าพ่ออินทร์”
“รับทราบ ผมผู้พันอาจณรงค์ ตอนนี้ผมกับพวกทหารมาถึงแล้ว”
“ทันเวลาเลยครับผู้พัน ขอกำลังมาเสริมที่บังเกอร์ด่วน ตอนนี้พวกเรากำลังถูกบุกอย่างหนัก”
“รับทราบ ปฏิบัติ”
ผู้พันอาจณรงค์หันไปสั่งลูกน้อง
“แบ่งกำลังเสริมไปที่บังเกอร์ อีกส่วนเข้าจัดการกับกองกำลังนายพลจางลี่ ปฏิบัติ”
ทหารเฮโลบุกเข้าพื้นที่ตามคำสั่ง กองกำลังของนายพลจางลี่ถูกกองทหารรุกเข้ามา จึงเริ่มถอยกลับมาที่ฐานบัญชาการ อย่างรู้สถานการร์
“พวกมันเรียกกำลังทหารมาเสริม” เปาชางบอก
“ยั้งเอาไว้ก่อน ไม่ต้องกลัว”
“ไม่ไหวแล้วครับ ถ้ายังสู้แบบนี้เราแพ้แน่”
“ปัดโธ่เว้ย แล้วอย่างงี้จะได้ทับทิมสยามมายังไง” นายพลจางลี่โมโห
“ตัวประกันยังอยู่กับเรานะครับลุง ยังไงตอนนี้รักษาคนเอาไว้ก่อน ได้จังหวะเมื่อไหร่เราจะบุกทันที”
“ก็ได้ งั้นพวกเรา ถอย”
กองกำลังของนายพลจางลี่เริ่มถอนตัว ขณะที่กองทหารเริ่มควบคุมพื้นที่
เหตุการณ์ทุกอย่างสงบลง หน่วยทหารเริ่มควบคุมพื้นที่ ขณะที่ทุกคนไปรวมกันที่บริเวณหน้าเจดีย์
“ประตูทุกบาน หน้าต่างทุกช่อง โดนมันปิดด้วยเวทย์มนต์” สัปเหร่อแต้มบอก
“เสาร์ห้า อยู่ข้างในกับดร.ฟอร์ด สตีเฟ่น แล้วก็ซัมดองค่ะ” กระแตเล่า
“ฉันเป็นห่วงพวกเขา ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง” เจนนี่ไม่สบายใจ
เสือสนธิ์นิ่งคิด แล้วบอก...
“ยังไงก็ตาม พวกเราต้องหาทางเข้าไปข้างในให้ได้ เพราะพรุ่งนี้เช้าคือวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 5”
บุษกรพบักหน้ารับ
“ค่ะ การทดลองที่พวกเค้าต้องการกำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่ช้า”
“ถ้าการทดลอง ทำให้เกิดปฏิกริยานิวเคลียร์ คืนนี้คงเป็นคืนสุดท้ายแล้วซินะคะ” ชลดาเสริม
“แต่ผมเชื่อว่าพวกเราทุกคนต้องไม่เป็นอะไร” เจ้าพ่ออินทร์มั่นใจ
“ค่ะ ฉันก็หวังว่าอย่างนั้น”
สายตาของทุกคนยืนมองไปที่เจดีย์อย่างมีความหวัง ขณะที่พระอาทิตย์ตกดิน...
ภายในเจดีย์ เสาร์ห้า โดนมัดรวมกันอยู่ที่มุมหนึ่ง ดร.ฟอร์ดหยิบทับทิมสยามมาดูเล่น สตีเฟ่นเดินสำรวจไปมาตามมุมต่างๆ
“ซัมดอง”
สตีเฟ่นร้องเรียก ดร. ฟอร์ดหันไปมอง
“นี่แกเรียกอาจารย์ท่านทำไม”
“ผมแค่สงสัยว่าอาจารย์ยังอยู่หรือเปล่า”
“อาจารย์โดนทำร้าย ท่านต้องสะสมพลังเพื่อรักษาตัวเอง แกอย่าไปรบกวนท่านเลย”
“ครับพ่อ”
สตีเฟ่นเดินมาที่มุมหนึ่ง เห็นลังใส่อุปกรณ์การทดลองต่างๆ จึงลองเปิดออกดู
“ดูอะไร สตีเฟ่น”
“พวกอุปกรณ์สำหรับใช้ในการทดลองของ ดร.วิทยาทิ้งไว้น่ะครับ”
“ไหนพ่อดูซิ ว่ามีอะไรบ้าง”
ดร.ฟอร์ดเดินมาดูอุปกรณ์ต่างๆ
“เพอร์เฟค มันเอาทุกอย่างที่พ่ออยากได้มาหมดเลย ฮ่ะๆ”
สตีเฟ่นและดรฟอร์ด หยิบอุปกรณ์ทดลองออกมาดู ขณะที่กริ่งกำลังแอบแกะเชือกที่มัดมือออก
ค่ำคืนนั้น ดร.วิทยา และฮวง ซึ่งอาศัยความมืดปีนอยู่บนเจดีย์ เพื่อไปยังช่องทางเข้าด้านบน
“อีกไม่กี่ชั่วโมงพระอาทิตย์ก็จะขึ้นแล้วครับ ด็อกเตอร์”
“เร็ว ปีนไปข้างบน มีช่องแอบมองอยู่ตรงนั้น”
ทั้งคู่รีบปีนขึ้นไป
ขณะเดียวกัน ภายในเจดีย์ ดร.ฟอร์ด นำเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ต่างๆ ติดตั้งเพื่อทำการทดลงในวันพรุ่งนี้ ประกอบไปด้วยกล้องบันทึกเทป นาฬิกาเรือนใหญ่สำหรับดูเวลา สมุดจดข้อมูล คอมพิวเตอร์
สตีเฟ่นช่วยดร.ฟอร์ดทำงาน แล้วหันมาจับตาเสาร์ห้า เพื่อสังเกต ยอดพยายามชวนคุยเพื่อกลบเกลื่อนพิรุธที่กริ่งกำลังแกะเชือก
“นี่ถามจริงๆเหอะ ถ้าการทดลองพรุ่งนี้มีอันตราย พวกคุณไม่กลัวตายเลยหรือไง”
“วิญญาณนักวิทยาศาสตร์ ต้องทำทุกอย่างเพื่อตอบความอยากรู้อยากเห็น”สตีเฟ่นหันมาบอก
“ประตูถูกปิดไว้ด้วยเวทย์มนต์แบบนี้ พวกแกจะออกไปได้ยังไง” ยอดถาม
“นี่คิดจะหลอกถามกันหรือไง”
“โดนมัดแบบนี้ คิดว่าพวกเราจะรอดเหรอ”
สตีเฟ่นหัวเราะ
“ฮ่ะๆ รู้แล้วใช่มั๊ยว่าพวกแกกำลังจะตาย”
“ถ้าจะตายยังไง ก็ขอให้ศพของเราได้กลับบ้าน” ดอนแกล้งพูด
“ฮ่ะๆ ฝันมากไปหรือเปล่า”
“จริงๆนะ ขอร้องล่ะ ถ้าฆ่าเราแล้ว ขอให้ศพพวกเราได้กลับบ้าน อย่าทิ้งไว้แบบนี้คนไทยเขาถือกัน”
กริ่งรีบเสริม
“แจ้งญาติพี่น้องเราแล้ว บอกวิธีให้พวกเขาเข้ามาในเจดีย์ด้วย ไม่งั้นศพเราต้องติดอยู่ในนี้แน่”
“ไอ้หน้าโง่ ก็แค่กลั้นหายใจพวกเอ็งก็ผ่านเข้าออกได้แล้ว”
ดร.ฟอร์ดหันมาปราม
“สตีเฟ่น หุบปาก แกพูดมากไปแล้ว”
สตีเฟ่นหันไปช่วยดร.ฟอร์ดติดตั้งอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ ขณะเดียวกัน ดร.วิทยา และฮวง ซึ่งแอบดูเหตุการณ์จากช่องบนเจดีย์หันมามองหน้ากัน
“แกได้ยินอย่างที่ฉันได้ยินมั๊ยฮวง”
“กลั้นหายใจ”
“ใช่”
ดร.วิทยา ลองกลั้นหายใจ แล้วเอามือยื่นผ่านช่องประตูเข้าไป
“สำเร็จ”
ดร.วิทยาและฮวงพากันผ่านช่องประตู แล้วแอบเข้าไปด้านในเจดีย์
ผู้พันอาจณรงค์ และกองทหารเดินลาดตระเวณมายังจุดหน้าเจดีย์ซึ่งทุกคนอยู่พร้อมหน้า บุษกรหันไปถาม
“สถานะการณ์เป็นยังไงบ้างคะ”
“ทุกอย่างเรียบร้อยดี ผมเชื่อว่าพวกมันจะยังไม่โจมตีคืนนี้จนกว่า พรุ่งนี้เช้า ด็อกฟอร์ดจะออกมาพร้อมกับทับทิมสยาม”
“บางทีอาจไม่มีใครออกมาก็ได้นะคะ” ชลดาพึมพำ
เจนนี่หันไปถาม
“หมายความว่ายังไง”
ชลดาส่ายหน้า
“ฉันคงคิดมากไปด้วยความเป็นห่วง”
“ใจเย็นๆค่ะ ทุกอย่างต้องเรียบร้อยแน่นอน” ยูกิให้กำลังใจ
“ใช่ พวกเราต้องมีหวัง ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ” กระแตเห็นด้วย
เสือสนธิ์หันมาสั่ง...
“เดี๋ยวพวกผู้ชายจะไปปรึกษาเรื่องเวรยามกันที่บังเกอร์ ส่วนพวกคุณ ผมอยากให้ดูแลที่บริเวณหน้าเจดีย์ ได้มั๊ยครับ”
“ค่ะ เรื่องนี้ไม่มีปัญหาค่ะ” เจนนี่รับคำ
เสือสนธิ์ สัปเหร่อแต้ม เจ้าพ่ออินทร์ ผู้พันอาจณรงค์ และทหารพากันเดินออกไป เคนเดินออกไปนั่งที่มุมหนึ่งแล้วเริ่มทำสมาธิ ครู่หนึ่งร่างของแคน ปรากฏขึ้น เคนหันไปมอง
“พี่แคน”
“น้องต้องปลดปล่อยวิญญาณ ที่อยู่ในดวงตาสวรรค์ออกมาให้ได้นะ”
“จะให้ฉันทำยังไง ก็ในเมื่อตอนนี้ฉันเข้าไปในเจดีย์ไม่ได้เลย”
“นายต้องทำได้...ต้องทำได้...”
ร่างของแคน ค่อยๆจางหายไป เคนสะดุ้ง แล้วลืมตาขึ้นมาจากสมาธิ ม่านฟ้าซึ่งอยู่ไม่ห่างนักเข้ามาถาม
“เมื่อกี้คุณคุยกับใคร”
“เอ้อ...พี่ชายฝาแฝดของผม เขาตายไปแล้ว”
“คะ”
“เรื่องบางเรื่องมันก็เชื่อได้ยากนะครับ”
“แต่ถ้ามาจากปากคนที่ฉันไว้ใจ ฉันพร้อมจะเชื่อเขาทุกอย่าง ฉันไว้ใจคุณค่ะเคน”
“แล้วถ้าพรุ่งนี้ ทับทิมสยามสีแดงของคุณสูญสลายไปกับการทดลอง คุณจะว่ายังไง”
“ฉันอาจจะเสียใจอยู่บ้าง ที่รักษามรดกของบรรพบุรุษเอาไว้ไม่ได้ แต่อย่างน้อย สิ่งที่ฉันทำลงไปก็เป็นไปเพื่อปกป้องเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ถ้าไม่มีทับทิมสยามแล้ว แลกมาด้วยความสงบสุข มันก็คุ้มนะคะ”
“ขอให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี”
“ค่ะ ฉันก็หวังว่าอย่างนั้น”
พระอาทิตย์เริ่มทอแสง ม่านฟ้าหันไปมอง
“พระอาทิตย์ขึ้นแล้วค่ะ”
ทันใด ร่างของพระธุดงค์ปรากฏขึ้น เคนหันไปมอง
“ดูนั่นซิครับ หลวงพ่อมา”
ม่านฟ้าหันไปมอง แต่ไม่เห็นอะไร
“ไหนคะ”
“คุณไม่เห็นเหรอครับ”
“ไม่ค่ะ ไม่เห็น”
เคนเดินไปหาพระธุดงค์ แล้วก้มกราบ ขณะที่คนอื่นๆ พากันหันไปมอง แล้วเข้ามาหาม่านฟ้าพูดคุยกันเงียบๆ
“หลวงพ่อครับ ทำไมคนอื่นๆมองไม่เห็นหลวงพ่อ”เคนแปลกใจ
“เรื่องนี้เป็นภาระกิจของเธอเท่านั้น เคน”
“ผมต้องทำอะไรบ้างครับ”
“คนที่จะผ่านเข้าไปในเจดีย์ ก็เป็นคนที่มีกรรมเกี่ยวเนื่องกันเท่านั้น คนอื่นเข้าไม่ได้ หากเธอต้องการผ่านเข้าไปในเจดีย์ เธอต้องผ่อนลมหายใจจนหมด แล้วจะเดินผ่านไปได้”
“ครับหลวงพ่อ”
“มีดอินทรีย์ คือกุญแจดอกสำคัญที่จะทำให้ภาระกิจของเธอสำเร็จ”
เคนหยิบมีดอินทรีย์ขึ้นมา
“ขอบคุณครับหลวงพ่อ”
“เคนก้มลงกราบ แล้วร่างของพระก็ค่อยๆ เลือนหายไป”
พวกผู้หญิงเข้ามาหา
“คุณเคนคะ ท่านว่าอย่างไรบ้าง ทำไมเรามองไม่เห็นอะไรเลย”
“ท่านบอกว่าเรื่องนี้เป็นภาระกิจของผมครับ”
“หมายความว่า...”
“ครับ ผมเข้าไปข้างในได้เพียงคนเดียว”
เคนหันมายิ้มน้อยๆ แล้วเดินไปที่หน้าประตู จากนั้นก็ผ่านเข้าไปข้างใน พวกผู้หญิงพากันมองตาม
อ่านต่อวันพรุ่งนี้
เสาร์๕ ตอนทับทิมสยาม ตอนที่ 21 อวสาน
ภายในเจดีย์ ดร.ฟอร์ด ติดตั้งกล้อง และจดบันทึกเพื่อรอคอยให้การทดลองเกิดขึ้น กลุ่มเสาร์ห้า ถูกมัดเอาไว้ที่มุมหนึ่ง สตีเฟ่นและลูกน้องเฝ้าดูเหตุการร์อยู่หน้าประตู ขณะเดียวกันเคนโผล่เข้ามา แล้วแอบซ่อนอยู่ที่มุมหนึ่งรอดูสถานการณ์
ที่ช่องประตูภายในเจดีย์ ลำแสงอาทิตย์ค่อยๆ ลอดช่องประตูเข้ามา แล้วจากนั้นลำแสงก็ค่อยๆ ส่องไปกระทบที่ทับทิมสยาม สีชมพู สีแดง และ สีม่วง ลำแสงที่สะท้อนกระทบกันไปมา ทำให้เกิดแสงเรืองรองส่องสะท้อนภายในเจดีย์สว่างไสว ดร.ฟอร์ดรีบกดบันทึกกล้องวีดีโอ เพื่อบันทึกปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น
“ลำแสงมาแล้ว ลำแสงมาแล้ว”
ดร.ฟอร์ดเฝ้ามอง สิ่งที่เกิดขึ้นอย่างตื่นเต้น ดร.วิทยา และฮวง ซึ่งแอบดูการทดลองอยู่ที่มุมหนึ่ง รู้สึกตื่นเต้นเช่นกัน
“ตอนนี้กี่โมง สตีเฟ่น” ดร.ฟอร์ดหันไปถาม
“6 โมงเช้าครับพ่อ”
“ความเข้มของลำแสงจะแรงขึ้นเรื่อยๆ พลังงานสูงสุดจะอยู่ที่ตอน 9 โมงเช้า ตอนนั้นละ สิ่งที่พ่อรอคอยก็
จะมาถึง”
ดร.ฟอร์ด หยิบนาฬิกาออกมาจากหีบ แล้วตั้งเวลาถอยหลังไปสิ้นสุดเอาตอน 9 โมงเช้า”
“9 โมงคือเวลาสำคัญที่สุด”
“ใช่ มันเป็นเวลาที่พ่อจะได้ประกาศความยิ่งใหญ่ของความเป็นวิทยาศาสตร์ระดับโลก ฮึ่ๆ”
ทันใด ซัมดองปรากฏตัวขึ้น
“นี่คือเวลาเริ่มต้นของข้าเช่นกัน ฮ่ะๆ”
ซัมดองเดินไปยังหน้าพระ แต่ดร.ฟอร์ดขวางไว้
“อาจารย์จะไปไหนครับ”
“ข้าจะไปอาบลำแสงเพิ่มพลัง”
“แต่การทดลองกำลังเริ่มนะครับ ถ้าไปตรงนั้นจะเป็นการขัดขวางการทดลอง”
“ไอ้โง่ หลีกไป”
ซัมดองผลักดร.ฟอร์ดล้มลง แล้วเดินไปนั่งที่หน้าพระประธาน ท่ามกลางลำแสง สตีเฟ่น เข้ามาพยุงดร.ฟอร์ดให้ลุกขึ้น
ทางด้านกลุ่มนายพลจางลี่ นาตาชาถูกมัดอยู่ที่มุมหนึ่ง นายพลจางลี่ยกกล้องส่องดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เห็นแสงเรืองรองออกมาจากเจดีย์
“แสงสว่างจากในเจดีย์”
“ต้องเป็นแสงของทับทิมสยามแน่ๆ ครับลุง” เปาชางบอก
“ทับทิมสยามอยู่ในเจดีย์ ใช่ บุกไปที่นั่น ถล่มให้มันแหลกไปเลย”
เปาชางสั่งการลูกน้อง ช่วยกันยิงถล่มอาวุธหนักไป ขณะที่บรรดาลูกทหารพากันยิงโต้ตอบกลับมา สงครามได้เริ่มต้นอีกครั้ง
เปาชาง อา เตียว และคนอื่นๆ พากันบุกใกล้เข้ามา ตรงไปยังบังเกอร์
ด้านหน้าเจดีย์ กลุ่มบุษกร ได้ยินเสียงปืน จึงรีบรวมตัวกัน
“ม่านฟ้า กับพี่ต่ำ อยู่เฝ้าที่หน้าเจดีย์นะ ส่วนพวกเรารีบไปสมทบกับพวกเสือสนธิ์ที่บังเกอร์” บุษกรสั่ง
“รับทราบ ปฏิบัติ” ชลลดาตอบรับ
ทุกคนทำตามที่ตกลงกันทันที โดยบุษกร เจนนี่ ยูกิ ชลดา กระแต วิ่งเข้ามาสมทบกับ เจ้าพ่ออินทร์ และเสือสนธิ์ และทหารที่ดูแลบังเกอร์ แล้วกระหน่ำยิงตอบโต้ไป
ฝั่งนายพลจางลี่คนอื่นๆ พากันยิงอาวุธหนักเข้าใส่
“ถล่มให้แหลก อาเตียว ลื้อคุมลูกน้องเข้าไปทำลายบังเกอร์มันให้ได้” นายพลจางลี่สั่ง
“ครับท่าน”
อาเตียวคุมลูกน้อง แล้วบุกเข้าไปตะลุมบอนกันบริเวณบังเกอร์ ผู้พันอาจณรงค์สู้กับอาเตียว แล้วสักครู่อาเตียวก็ถูกยิงตาย
เสือสนธิ์ เจ้าพ่ออินทร์ต่างก็ถูกบุก ทำให้เกิดการตะลุมบอนกันเต็มพื้นที่
ภายในเจดีย์ สตีเฟ่น เฝ้ามองเหตุการณ์ข้างนอกอย่างกระวนกระวาย ขณะที่ซัมดองยังนั่งสมาธิสงบนิ่ง แสงสะท้อนของทับทิมสยาม เริ่มมีปฏิกิริยาทางเคมี กระแสคล้ายไฟฟ้า วิ่งกันไปมา แล้วเข้ามาล้อมรอบร่างของซัมดอง
ดร.ฟอร์ดมองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างตื่นเต้น สตีเฟ่นรีบเข้าไป
“สตีเฟ่น แกดูซิ ประจุไฟฟ้ากำลังส่งพลังงานไปยังร่างของซัมดอง พ่อไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย”
“แต่พ่อครับ ข้างนอก...”
“ข้างนอกจะเป็นยังไงไงก็ช่างมัน มันเข้ามาไม่ได้อยู่แล้ว”
“แต่ว่า...”
“เงียบ สตีเฟ่น พ่อจะดูการทดลอง”
ดร.ฟอร์ดหยิบสมุด ปากกามาจดบันทึก การทดลองอย่างใจจดใจจ่อ และแล้วภาพที่ร่างของซัมดองเริ่มสั่นสะท้าน กรีดร้องอย่างโหยหวน
“โอยยยยย”
ปฏิกิริยา ไฟฟ้าเกิดขึ้นรอบ ร่างของซัมดอง แล้วจากนั้นร่างของซัมดองก็เริ่มเปลี่ยนไป ผมที่หงอกขาวเริ่มกลายเป็นสีดำ มือที่เหี่ยวย่นเริ่มคืนกลับมาเป็นเต่งตึง ใบหน้าของซัมดองเริ่มกลับมาเป็นหนุ่มอีกครั้ง ดร.ฟอร์ดตาค้าง
“นี่มันอะไรกัน อะไรกัน”
ซัมดองลุกขึ้นยืนในสภาพของคนหนุ่ม เดินออกมาจากหน้าพระประธาน ด้วยท่าทีกระฉับกระเฉง”
“ฮ่ะๆ พลังอมตะ พลังอมตะ ฮ่ะๆ”
“ใช่แล้ว นี่คือพลังงานอมตะ พลังที่จะทำให้เราเป็นหนุ่มสาวตลอดไป”
“ฮ่ะๆ พลังอมตะเป็นของข้าแล้ว ฮ่ะๆ”
ดร.ฟอร์ดขยับเข้าไปบ้าง...
“ขอผมบ้าง ผมต้องการพลังอมตะ”
ทันใด ดร.วิทยา และฮวงโผล่ออกมาจากที่ซ่อน
“หยุดนะ พลังอมตะต้องเป็นของข้า” ดร.วิทยาชักปืนออกมา
“ไม่มีวัน”
ดร.ฟอร์ดรีบวิ่งเข้าไปในบริเวณหน้าพระประธาน แต่ ดร.วิทยา รีบคว้าตัวไว้ โดยมีฮวงๆ คอยช่วยเหลือ สตีเฟ่นเข้ามาสู้กับฮวง ทุกคนกอดปล้ำกันชุลมุน ซัมดองรู้สึกรำคาญ
“ไอ้พวกบ้า”
ซัมดองบริกรรมคาถา ดร.ฟอร์ด ดร.วิทยา และฮวงมีอาการถูกพลังบางอย่างดึง แล้วเหวี่ยงออกไปนอกเจดีย์
ซัมดองเดินออกมาในจุดที่อยู่ใกล้ๆกัยที่เคนยืนอยู่ เคนได้จังหวะ ออกจากที่ซ่อน แล้วเงื้อมมีดอินทรีย์จ้วงแทง ซัมดองสะดุ้งเฮือก
“มีดอินทรีย์”
“ใช่ มีดอินทรีย์ที่เคยทำให้แกบาดเจ็บไง”
ซัมดองชักมีดอินทรีย์ออกมา แล้วเห็นร่างกายที่โดนมีดคืนกลับดังเดิม ซัมดองปามีดเข้าหา เคนหลบ ทำให้มีดอินทรีย์โดนผนังแล้วหล่นลงพื้น
“ฮ่ะๆ พลังอมตะ ทำให้ข้าไม่มีวันตาย ฮ่ะๆ”
ซัมดอง ใช้มือลึกลับเหวี่ยงเคนไปกระแทกผนังถ้ำสลบไป แล้วจากนั้นซัมดองก็เดินไปอาบพลังอมตะต่อไป กลุ่มเสาร์ห้ามองเหตุการณ์ และคิดหาทางเล่นงานซัมดอง
ที่ด้านนอกเจดีย์ขณะนั้น ดร.ฟอร์ด ดร.วิทยา ฮวง สตีเฟ่น ถูกพลังลึกลับเหวี่ยงมาตกที่มุมหนึ่ง สตีเฟ่นหมดสติไป คนอื่นๆ ค่อยลุกขึ้น
ดร.ฟอร์ด ร้องโอดโอย แล้วค่อยลุกขึ้นมา หันไปทางเจดีย์แล้วรีบวิ่งไป แต่โดนดร.วิทยากอดรั้งเอาไว้
“ปล่อยข้า ปล่อย”
“ข้าต้องเป็นเจ้าของพลังอมตะแต่ผู้เดียว”
ดร.ฟอร์ดต่อสู้ กับดร.วิทยาที่เสียเปรียบ โดนกระแทกล้มไป ดร.ฟอร์ดตามเข้าไปแล้วหยิบหินขึ้นมาทุ่มลงไป โดนดร.วิทยาสลบไป ฮวงเข้ามาช่วยเจ้านาย ผลักดร.ฟอร์ดกระเด็นล้มไปจุกนอน โอดโอย
ฮวงตกใจที่เห็นสภาพดร.วิทยา เลือดไหลนอง
“ด็อกเตอร์ครับ ด็อกเตอร์”
ฮวงแค้นใจดร.ฟอร์ด ลุกขึ้นหมายจะเข้าไปทำร้าย แต่แล้ว สตีเฟ่นฟื้นขึ้นมาเห็น จึงเข้าไปขวาง แล้วต่อสู้กัน ฮวงเห็นปืนหล่นอยู่ที่พื้นจึงรีบพุ่งตัวเข้าไป แต่โดนสตีเฟ่นรั้งเอาไว้ หยิบปืนได้ก่อน แล้วเล็งปืนมาจะยิงฮวง แต่ฮวงจับมือสตีเฟ่นไว้ แล้วจากนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้น สตีเฟ่นล้มลงตายคาที่
ฮวงหันมาทางม่านฟ้า และต่ำ ที่ยืนมอเหตุการณ์อยู่
“ไม่ต้องกลัวม่านฟ้า พี่ต่ำจะดูแลม่านฟ้าเอง”
ฮวงยิงเปรี้ยงออกไป ต่ำตกใจรีบหลบเข้าไปที่ต้นไม้ ทิ้งม่านฟ้าไว้
“ม่านฟ้า”
“แก...แกฆ่าพี่บัวชุม”
ม่านฟ้ายิงปืนหมายจะฆ่าฮวง แต่ฮวงเข้ามาประชิดตัว แล้วเกิดการต่อสู้กัน”
ต่ำแอบมองอยู่
“ต้องไปบอกคนมาช่วย ใช่ๆ ไปบอกคนมาช่วย”
ต่ำวิ่งหลบออกไป
กลุ่มบุษกรกำลังต่อสู้กับลูกน้องจางลี่ แล้วไม่นานนักก็จัดการได้สำเร็จ ต่ำวิ่งมาถึงพอดี...
“ช่วยด้วย ๆ”
“มีอะไรคะพี่ต่ำ” ชลดาหันไปถาม
“ไปช่วยม่านฟ้าเร็วๆ”
ทุกคนพากันวิ่งตามต่ำไป ขณะเดียวกันนั้น ม่านฟ้ากำลังเสียที ล้มลงกับพื้นอ่อนแรง ปืนในมือหล่นพื้นกระเด็นห่างออกไป
ฮวงคว้าหน้าไม้ของม่านฟ้าซึ่งหล่นอยู่ที่พื้นขึ้นมา แล้วจ่อจะยิงแต่แล้ว บุษกร ก็โผล่มาด้านหลังฮวง แล้วล็อกร่างของฮวงเอาไว้ ม่านฟ้าค่อยๆคลานไปที่ปืน ฮวงมองไปรอบๆ เห็นชลดา กระแต ยูกิ เจนนี่ ยืนล้อมรอบ
“ฮ่ะๆ มีความสุขจริงเว้ย ฮ่ะๆ มีแต่ผู้หญิงสวยๆ ทั้งนั้น”
ฮวงพลิกร่างของบุษกรแล้วล็อกไว้ ชลดา กระแต ยูกิ เจนนี่ช่วยกันรุมยำ แต่ฮวงก็ปัดป้องได้ ขณะที่คนอื่นๆไม่กล้าทำอะไร กลัวบุษกรจะเป็นอันตราย
ม่านฟ้า หยิบหน้าไม้ที่พื้นขึ้นมา บุษกรหันมามอง ขณะที่ฮวงมัวแต่ระแวงคนอื่นๆ บุษกรขยิบตาให้ม่านฟ้า เพื่อนัดหมาย ม่านฟ้ายิงหน้าไม้ออกไป บุษกรรีบก้มตัวลง ทำให้หน้าไม้ปักมาที่คอ ฮวงตาค้าง บุษกรดิ้นหลุดออกมา ขณะที่ฮวงล้มลง ขาดใจตาย
กลุ่มนายพลจางลี่ และเปาชาง พากันบุกเข้ามาใกล้ๆเจดีย์ แล้วประทะกับพวกเสือสนธิ์ เจ้าพ่ออินทร์ สัปเหร่อแต้ม สักครู่กลุ่มบุษกร พากันวิ่งเข้ามาสมทบ แล้วยิงต่อสู้กัน
เปาชาง ส่องกล้องไปยังบริเวณหน้าเจดีย์
“ลุงครับ ที่หน้าเจดีย์ตอนนี้ไม่มีคนอยู่”
“งั้นเสริมกำลังให้พวกมันพะวักพะวนอยู่ตรงจุดนี้ ส่วนแกไปเอาตัวนังแหม่มนาตาชา แล้วตามลุงมา” นายพลจางลี่สั่ง
“ได้ครับ”
นายพลจางลี่ เปาชาง รีบพานาตาชา หลบออกจากกลุ่ม ปล่อยให้คนอื่นๆ ประทะกันต่อไป
ภายในเจดีย์...
ซัมดอง ซึ่งนั่งอาบแสงพลังอมตะอยู่ ค่อยๆ แบมือออกมา ดวงตาสวรรค์ลอยมาวางบนฝ่ามือแล้วเริ่มส่องแสง
“ดวงตาสวรรค์ของข้า จงดูดเอาพลังอมตะไว้ ต่อจากนี้ไป เจ้าและข้าจะไม่มีวันแตกสลาย ฮ่ะๆ”
ซัมดอง และ ดวงตาสวรรค์มีแสงสว่างเรืองรอง เสาร์ห้าพากันสะบัดเชือกมาแล้วลุกขึ้น
“รีบเอาดวงตาสวรรค์ออกจากลำแสง ไม่อย่างงั้นเราแพ้แน่” ดอนสั่ง
เสาร์ห้าทุกคน พยายามพุ่งเข้าไปยังหน้าพระประธาน แต่แล้วซัมดองก็หายตัวมาปรากฏด้านหลัง แล้วดึงเสาร์ห้าเอาไว้ด้วยมือลึกลับที่มองไม่เห็น
“วิญญาณของพวกเอ็งต้องเป็นทาสของข้า”
เสาร์ห้าหันมาหาซัมดอง แต่ก็เหมือนมีมือมาค้ำคอเอาไว้ จึงพร้อมใจกันสะบัดมือลึกลับหลุด แล้วเข้ามาจู่โจมซัมดองพร้อมๆกัน แต่แล้วทุกคนก็โดนซัมดองสะบัดหลุดกระเด็นไป กระแทกผนังพร้อมๆกัน
“ฮ่ะๆ ไม่มีวันที่พวกเอ็งจะเอาชนะข้าได้ ฮ่ะๆ”
ซัมดองหัวเราะสะใจที่เห็นสภาพเสาร์ห้า สะบักสะบอม
ดร.ฟอร์ดค่อยๆลุกขึ้น แล้วพยายามกระเสือกกระสนไปที่เจดีย์
“พลังอมตะจะช่วยให้ฉันหาย จะทำให้ฉันแข็งแรง พลังอมตะจะทำให้ฉันเป็นหนุ่ม ฮ่ะๆ”
ดร.ฟอร์ดพยายามกระเสือกกระสนไปที่ประตู เพื่อเข้าไปอาบพลังอมตะ แต่แล้วที่ด้านหลัง ดร.วิทยา ค่อยๆลุกขึ้นมา
“ไอ้ดร.ฟอร์ด เอ็งจะชนะฉันไม่ได้ ฉันต้องเหนือกว่าแก”
ดร.ฟอร์ด ค่อยๆคืบคลานไปยังหน้าประตู ดร.วิทยาพยายามตามไปด้วย
ภายในเจดีย์...
กลุ่มเสาร์ห้า ในสภาพสะบักสะบอม ถูกซัมดองเหวี่ยงไปกระแทกผนังเจดีย์ คนละทิศละทาง ขณะเดียวกัน เคนซึ่งสลบอยู่ค่อยฟื้นขึ้นมา
กริ่งลุกขึ้นได้รีบพุ่งตัวเข้าไปหาซัมดอง แต่ซัมดองใช้มือข้างเดียวบีบคอเอาไว้ ยอดซึ่งกองอยู่กับพื้นเมื่อเห็นกริ่งกำลังโดนบีบคอจึงแข็งใจลุกขึ้นเข้าไปหา
“ปล่อยเพื่อนข้าเดี๋ยวนี้ซัมดอง”
“ออกไป อย่าเข้ามาคุณยอด” กริ่งร้องบอก
“ไม่คุณกริ่ง คุณเคยเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยผม ผมจะปล่อยให้คุณโดนแบบนี้ไม่ได้”
“งั้นเอ็งก็โดนซะอีกคน ฮ่ะๆ”
ซัมดองยื่นอีกมือมาบีบคอมยอดเอาไว้ ดอน เดี่ยว และเทอด ต่างก็ค่อยๆลุกขึ้นมา แล้วพุ่งตัวเข้าไปหาซัมดอง ต่างช่วยกันจับมือซัมดองให้คลายออกจากการบีบคอ กริ่ง และยอด ซัมดองสะบัดทุกคนกระเด็นออกไปอีกครั้ง
เทอดมองไปที่ช่องแสง ซึ่งพระอาทิตย์ลอดช่องเจดีย์เข้ามา
“ดวงตาสวรรค์ ส่งพลังให้ซัมดองไม่มีวันหมด เราต้องหยุดการส่งพลังให้ได้”
เดี่ยวคิดขึ้นมาได้
“แสงอาทิตย์ ถ้าแสงอาทิตย์ไม่ส่อง ดวงตาสวรรค์ก็ไม่มีพลัง”
“ต้องมีคนจับซัมดองไว้ แล้วคนที่เหลือไปบังช่องแสง”ดอนบอก
ยอดอาสาทันที
“เรื่องซัมดอง ผมอยากแก้มือ”
“ผมด้วย” กริ่งบอกบ้าง
ดอนยิ้ม
“ร่วมด้วยช่วยกัน”
ยอด ดอน กริ่งพากันวิ่งเข้าไปหาซัมดอง แต่โดนซัมดองยันเอาไว้ด้วยมือที่มองไม่เห็น เดี่ยว เทอดรีบไปที่ช่องแสง เดี่ยวก้มตัวเป็นฐาน ให้เทอดปีนขึ้นไป แล้วจากนั้นเทอดก็ใช้ตัวส่วนบนปิดบังช่องแสงเอาไว้
เมื่อแสงอาทิตย์ถูกบดบัง ดวงตาสวรรค์ และทับทิมสยามก็หยุดการส่องแสง ทำให้ซัมดองอ่อนพลังลง ซัมดองปล่อยมือแล้วผลักยอด กริ่ง และดอน กระเด็นไป
ซัมดอง รีบโซเซไปคว้าดวงตาสวรรค์มารับแสงอาทิตย์ ที่ยังยังคงเล็ดลอดเข้ามา เนื่องจาก ตัวของเทอด และเดี่ยว ยังไม่สามารถบังช่องประตูได้หมด ทำให้มีแสงอาทิตย์บางส่วนยังคงลอดเข้ามาได้
นาฬิการกำลังเดินเข้าใกล้เวลา 9 โมงเช้า
“จะ 9 โมงแล้ว” ยอดบอก
“ต้องปิดแสงอาทิตย์ให้ได้ก่อน 9 โมง” ดอนกังวล
“ไปช่วยกัน”
ยอด ดอน กริ่งรีบวิ่งไปสมทบกับเดี่ยวและเทอด แล้วช่วยกันตัวตัวปิดบังช่องประตู ไม่ให้แสงอาทิตย์ลอดเข้ามา
เคนค่อยลุกขึ้น หยิบมีดอินทรีย์ที่หล่นอยู่บนพื้น แล้ววิ่งเข้าไปชาร์จ
“อ๊ากกกกกก”
เคนเสียบมีดอินทร์ลงบนร่างของซัมดอง ในช่วงเวลาที่ซัมดองอ่อนแรงที่สุด
“ไม่ ข้าต้องไม่ตาย ไม่ตาย” ซัมดองร้อง
“ไม่มีแสงอาทิตย์ ไม่มีพลังอมตะ นี่คือเวลาที่แกอ่อนแอที่สุดซัมดอง”
“ไม่ ๆ”
ซัมดองล้มลง ขาดใจตาย แล้วจากนั้นร่างก็ค่อยสูญสลายไป ดวงตาสวรรค์ มีแสงวูบวาบ แล้วจากนั้นเหล่าวิญญาณที่ถูกขังไว้ข้างในก็หลุดออกมา
เคนยืนมอง แล้วสักครู่ ก็เห็นร่างของแคน และพระธุดงค์ ปรากฏขึ้น ทุกคนยิ้มให้เคนอย่างมีความสุข
ดร.ฟอร์ดอยู่ที่หน้าประตู แล้วกลั้นหายใจ ผ่านเข้าไปด้านใน ดร.วิทยารีบตามมา แต่แล้ว นายพลจางลี่ และเปาชาง พานาตาชาเข้ามา เปาชางขวางดร.วิทยาไว้
“แกรู้วิธีที่จะเข้าไปข้างในใช่มั๊ย”
“แก...”
“บอกมา ไม่งั้นแกตาย”
วิทยารีบต่อรอง
“ฉันจะบอกก็ได้ แต่แกอย่าฆ่าฉัน ฉันขอเข้าไปด้วยคน”
นายพลจางลี่ยิ้มน้อยๆ
กลุ่มเสาร์ห้า และเคน เหนื่อยอ่อน ยืนมองไปที่ทับทิมสยาม
“เราต้องรีบเอาทับทิมสยาม ออกจากแท่นให้ได้ก่อน 9 โมง” ดอนบอก
“ผมเอง”
กริ่งเดินเข้าไปหยิบ แต่แล้วเหมือนมีพลังบางอย่างดีดออกมา ทำให้กริ่งกระเด็น
“โอ๊ย...” กริ่งร้องด้วยความเจ็บปวด
“มันมีพลังปกป้องตัวเอง” ยอดมองอย่างสังเกต
“เราต้องหยุดมันให้ได้” เทอดหันมาบอก
“ช่วยกันบังแสงอีกครั้ง” เดี่ยวตัดสินใจ
เสาร์ห้า และเคน รีบมาที่ช่องแสงเพื่อจะบัง แต่แล้วดร.ฟอร์ด เข้ามา ในเจดีย์แล้วเล็งปืนไปที่เสาร์ห้า
“หยุดนะ แกจะบังแสงไม่ได้ ใกล้เวลาที่ดีที่สุดแล้ว”
ทุกคนถอยไป เสาร์ห้าและเคน ค่อยๆ ถอยออกมาจากช่องแสง ขณะเดียวกับที่นาฬิกา บอกว่าเวลา 9 โมงเช้า
ทันใด... แสงอาทิตย์ที่ผ่านประตูเข้ามา ก็ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ที่เต็มไปด้วยแสงสี สวยงาม เรืองรองไปทั่วทั้งเจดีย์ เสาร์ห้า และเคนมองด้วยความระทึกใจ
“9 โมง แล้ว นี่คือเวลาที่ดีที่สุด ของการทดลอง มันเป็นปรากฏการณ์ที่พิเศษที่สุด ฮ่ะๆ พลังอมตะต้อง เป็นของข้า” ดร.ฟอร์ดหัวเราะชอบใจ
ดร.วิทยา นายพลจางลี่ เปาชาง พานาตาชาเข้ามาด้านใน
“วางปืนเดี๋ยวนี้ แล้วส่งทับทิมสยามมาให้ข้าดร.ฟอร์ด” นายพลจางลี่สั่ง
“ไอ้พวกบ้า”
“เปาชาง แกไปหยิบทับทิมสยามมาเลย ไม่ต้องกลัวอะไร”
เปาชางจะเดินเข้าไปหยิบทับทิมสยาม
“อย่านะ อย่าหยิบ”
ดร.ฟอร์ดเล็งปืนมา
“ห้ามเปาชางแตะต้องทับทิมสยาม”
“งั้นก็ส่งทับทิมสยามมา ไม่งั้นลูกสาวเอ็งโดนข้าระเบิดเป็นจุลแน่”
เปาชางเอารีโมทระเบิดขึ้นมา หวังจะขู่ดร.ฟอร์ด นาตาชาทองพ่อ...
“พ่อคะ หนูรู้ว่าพ่อไม่ได้สนใจหนู พ่อทำแต่งาน พ่อทิ้งหนูไว้ตอนหนูไม่สบาย แต่ถ้าครั้งนี้หนูต้องตาย ความตายของหนู มันจะหยุดการทดลองของพ่อได้มั๊ยคะ”
“ฉันรอการทดลองครั้งนี้มาทั้งชีวิต ฉันยอมทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างก็เพื่อมัน นี่อีกนิดเดียวก็จะสำเร็จแล้ว นาตาชา แกจะเอาชีวิตของแกมาขวางฉันไม่ได้”
ดร.ฟอร์ดค่อยๆ ขยับตัวไปที่หน้าพระประธาน ดร.วิทยา ทนไม่ได้ที่เห็นดร.ฟอร์ดกำลังจะได้อาบพลังอมตะ จึงวิ่งเข้าไปที่แสงอีกคน
“ถ้าแกได้พลังอมตะ ฉันก็ต้องได้ด้วยไอ้ดร.ฟอร์ด”
“ออกไปๆ”
ดร.ฟอร์ดและดร.วิทยา กอดปล้ำต่อสู้กันท่ามกลางแสงพลังอมตะ แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็ชะงักเนื่องจากเริ่มแสบร้อน ทั้งคู่เริ่มร้องโหยหวน ร่างกายเริ่มไหม้เกรียม เกิดเป็นไฟลุกไหม้
“โอยยย ช่วยด้วยยยย”
“โอยยย ทำไมเป็นแบบนี้ นี่มันอะไรกัน”
ร่างของดร.ฟอร์ด และดร.วิทยา โดนแผดเผาจนลุกไหม้เป็นจุล ท่ามกลางความตกใจของทุกคน
นาตาชาอาศัยจังหวะที่ทุกคนกำลังตกใจ คว้ารีโมทในมือเปาชางมาถือไว้ แล้วเข้ากอดรัดนายพลจางลี่ไว้ นายพลเอาปืนจะยิง แต่นาตาชาบิดปืนไป เปาชางรีบเข้ามาแย่งแต่กระสุนปืนลั่นทำให้เปชางล้มลง นาตาชาหันไปหาพวกเสาร์ห้า
“พวกคุณหนีไป หนีไป”
“นั่นคุณจะทำอะไรนาตาชา”ดอนตกใจ
“ดอน รีบหนีไปเร็ว ฉันทำลายประเทศไทยมามากมาย ถ้าความตายของฉัน จะทำให้ชีวิตคนเลวๆ อย่างพวกมันจบไปด้วย ฉันก็ยินดี ให้ฉันทำเพื่อเมืองไทยสักครั้งนึงเถอะ”
“ปล่อยข้านังบ้า ปล่อยข้า ข้ายังไม่อยากตาย”
“ไป รีบไป” นาตาชาสั่ง
แสงจากช่องประตู คมกล้าขึ้นมา ปฏิกริยาที่ทับทิมสยามเริ่มเปลี่ยนไป เป็นสัญญาณอันตราย จากนั้นแผ่นดินก็เริ่มสะเทือน
นาตาชามองดอนเป็นครั้งสุดท้าย
“ขอบคุณค่ะดอน ขอบคุณที่ทำให้ฉันได้รักคุณ”
ทันใด แผ่นดินสะเทือน แล้วจากนั้นเจดีย์ก็พังทลายลงมา
กลุ่มที่อยู่ด้านนอก พากันเดินมายืนมองซากเจดีย์ ท่ามกลางฝุ่นตลบ เมื่อฝุ่นจาง เสาร์ห้า และเคน พากันเดินออกมา พวกผู้หญิงรีบเข้าไปประคองเสาร์ห้า และเคน
“ฉันรู้ว่านาตาชา ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร”เจนนี่บอก
ดอนพยักหน้ารับ
“ถ้ามีผู้นำทางความคิดที่ถูกต้อง นาตาชาก็จะเดินไม่ผิดทางแบบนี้”
ยอดเสริม
“เหมือนกลัดกระดุมเสื้อ ถ้ากลัดเม็ดแรกผิด เม็ดอื่นๆก็จะผิดไปตลอด”
“น่าสงสารเธอนะคะ” กระแตทอดถอนใจ
ทางด้านเทอด หันไปบอกชลดา
“คิดว่าจะไม่ได้เห็นหน้าคุณอีกแล้ว”
“อย่าพูดแบบนั้นซิคะ ฉันเองก็เกือบจะร้องไห้แล้วเหมือนกัน”
เทอดและชลดากอดกัน ขณะเดียวกัน ยูกิมองกริ่งอย่างเป็นห่วง
“คุณไม่เป็นอะไรนะกริ่ง”
“ผมยังแข็งแรงดี เดี๋ยววิ่งให้ดูก็ได้นะ”
“ตาบ้า ยังมาเล่นอีก” ยูกิหัวเราะ
บุษกรมองทุกคน...
“ชีวิตพวกเรามีแต่เรื่องเสี่ยงทั้งนั้นเลยนะคะ”
เดี่ยวพยักหน้ารับ
“ถ้าไม่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ก็คงไม่ใช่เสาร์ห้า เราเกิดมาเพื่อทำงานที่เรารักไงครับ”
ทางด้านต่ำเดินมาหาม่านฟ้า ที่ยืนอยู่กับเคน
“ม่านฟ้า”
“คะพี่ต่ำ”
“พี่ต่ำอยากจะขอโทษนะที่วิ่งหนี พี่ต่ำปกป้องม่านฟ้าไม่ได้”
ม่านฟ้ายิ้มให้
“แต่พี่ต่ำก็วิ่งไปบอกคนอื่นๆให้มาช่วยนี่คะ อย่าเสียใจเลย”
“พี่ต่ำคงเป็นแฟนม่านไม่ได้แล้วล่ะ ขอโทษนะ”
“ค่ะ แต่เราเป็นเพื่อนกันได้นะคะ”
ต่ำยิ้มออกมา ทุกคนพากันยืนมองสภาพป่าบริเวณเจดีย์
ม่านฟ้า เอาดอกไม้วางไว้ที่หลุมศพ บัวชุมซึ่งถูกฝั่งเอาไว้ในป่า
“พี่บัวชุม ไม่ต้องห่วงนะ นอนหลับให้สบาย ม่านฟ้าจะไม่ทำให้พี่บัวชุมผิดหวัง”
เคนเดินมาหา...
“พวกเสาร์ห้า กำลังจะกลับเข้าเมืองกันแล้ว”
“ค่ะ ฉันเองก็ต้องกลับไปบ้านฉันเหมือนกัน”
“หมายความว่า...”
“ฉันจะกลับเชียงรุ้ง นำทับทิมสยามกลับไปบ้านของมัน”
“ทุกคนก็ต้องมีวิธีชีวิตของตัวเอง”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะเคนสำหรับความเป็นมิตรแท้ที่คุณมอบให้”
“ม่านฟ้า ผมจะจดจำคุณเอาไว้ตลอดไป”
“ฝากลาคนอื่นๆด้วย...ลาก่อนนะคะ”
ม่านฟ้าเดินจากไป เคนยืนมองตามด้วยความอาลัย
ขณะที่กระแตยืนชมวิวสวยอยู่ ยอดเดินยิ้มเข้ามาหา
“นี่กระแต ไม่เห็นกระแตพูดหวานๆกับเราซักทีเลยนะ”
“พูดไม่เป็น”
“หัดหน่อยซิ อยากฟัง”
กระแตเบ้ปาก
“ไม่หัด อยากพูดก็พูดเองซิ”
“งั้นเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอะไร....”
“สอนอะไรยะ ตาบ๊อง”
“สอนว่าลูเยิฟ เลิฟยูนะกระแตนะ”
กระแตอาย หน้าแดง พื่อนๆ ทุกคนโผล่ออกมาโห่ แล้วหัวเราะหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน
จบบริบูรณ์
โปรดคอยติดตามชม ละครเรื่อง "หอบรักมาห่มป่า" ออกอากาศต่อจาก เสาร์ ๕ ตอนทับทิมสยาม ศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์ ทางช่อง 7 สี และติดตามอ่านเรื่องราวละเอียด สมบูรณ์มากที่สุดทาง "ละครออนไลน์" เร็วๆ นี้