เส้นตายสลายโสด
ตอนที่ 15
เมื่อเดินตามตากับยายเข้ามาในบ้าน น้ำฟ้าก็ยังพยายามเดินหาคลื่นมือถือ ตามมุม เหลี่ยม และซอกต่างๆ ของบ้าน ดินเข้ามายืนข้างหน้าน้ำฟ้าถามขึ้น
“ทำอะไร”
“หาสัญญาณโทรศัพท์ อุ๊ยๆๆ มีแล้ว” ดินขยับตัวเดินออก “ว้าย หายไปแล้ว! นายดิน! ยืนนิ่งๆ”
ดินตกใจ ยืนนิ่ง “หันหน้ามา แล้วขยับมาสองก้าว” ดินขยับตาม “ขยับมาอีกครึ่งก้าว” ดินทำตาม ปรากฏว่ายืนอยู่ใกล้น้ำฟ้ามาก น้ำฟ้าดีใจ เห็นสัญญาณขึ้นมาหนึ่งขีด “มีสัญญาณแล้ว นายดิน”
น้ำฟ้าเงยหน้าสบตาดิน ตัวเองก็ต้องชะงัก เพราะเพิ่งรู้ว่ายืนแนบชิดกับดินมาก ดินและน้ำฟ้าสบตากันอึ้งๆ น้ำฟ้ารีบหลบสายตา กดเบอร์ยิกๆ
“ฉันจะโทรหาบีบี”
ขณะนั้นบีบีอยู่ในชุดนอน ผมม้วนโรล มาสก์หน้าขาวกำลังใช้โทรศัพท์บ้านปรึกษาปัญหาหัวใจกับหมอดูทางโทรศัพท์
“หมอหลอดคะ แล้วชาตินี้หนูจะได้แต่งงานมั้ยคะ...ได้...หมอหลอดน่ารักอ่ะ เมื่อไหร่ คะ!...เจอแล้ว ใครคะใคร หน้าตาเป็นยังไง สูง ต่ำ ดำขาว ไทยๆ เกาหลีหรือยุโรปทางเหนือคะ”
เสียงมือถือดังขึ้น บีบีชะงัก “เอ่อ หมอหลอดคะ อย่าเพิ่งวางสายนะคะ เดี๋ยวหนูไปรับโทรศัพท์ก่อน”
บีบีรีบไปที่มือถือ ซึ่งวางอยู่บนโต๊ะ แต่พอเห็นชื่อคนที่โทรเข้ามาบีบีถึงกับเซ็ง
“นายธีรเทพ! ขัดจังหวะสำคัญๆ ของฉันทุกที”
บีบีไม่รับสาย เดินไปคุยโทรศัพท์กับหมอดูต่อ เสียงมือถือเงียบไป
“ฮัลโหลคะ หมอหลอดคะ ตกลงเนื้อคู่หนูเป็น...ฮัลโหล...ฮัลโหล...สายหลุด”
บีบีกระแทกหูโทรศัพท์อย่างโมโห
“กว่าจะโทรติดได้กดจนมือหงิก แล้วฉันจะโทรติดอีกเมื่อไหร่เนี่ย” บีบีลงมือกดเบอร์หาหมอดูต่อ
เสียงมือถือบีบีดังขึ้นมาอีก บีบีหงุดหงิด ตะโกนใส่มือถือ
“คนกำลังยุ่ง จะโทรมาทำไมนักหนา! อ๊ายสายไม่ว่างเลย”
บีบีกระแทกหูโทรศัพท์ลง นั่งเอามือปิดหูตัวเอง ในขณะที่มือถือยังดังต่อเนื่อง
น้ำฟ้าลดมือถือลง ร้อนใจ
“บีบีไม่รับสายฉัน”
ดินที่ยังยืนอยู่ใกล้ๆ ประชดใส่
“แล้วทำไมไม่โทรหาแฟน ป่านนี้ ร้อนใจแย่แล้วมั้ง”
น้ำฟ้าเพิ่งนึกได้ แต่ทำฟอร์ม
“ฉันโทรอยู่แล้ว” ดินถอนหายใจอย่างแรง สัญญาณมือถือหายไป “เฮ้ย...สัญญาณหาย หายใจทำไม” น้ำฟ้าต่อว่าดินอย่างโมโห
“เอ๊า ไม่ให้หายใจ ก็ตายกันพอดี”
“หายใจได้ แต่อย่าแรง เพราะทำให้สัญญาณมือถือหาย เห็นมั้ย”
“เกี่ยวด้วยเหรอ”
“เกี่ยวสิ หายใจเบาๆ”
ดินเซ็งแต่ก็หายใจเบาๆ ตามคำสั่ง น้ำฟ้ารีบกดเบอร์โทรหาคุณวี
มือถือคุณวีวางทิ้งอยู่บนโต๊ะทำงาน เปิดระบบสั่นไว้ เพราะคุณวีกำลังประชุมเครียดอยู่กับลูกน้องสามสี่คนอยู่ที่โต๊ะประชุมในห้องอีกมุมหนึ่ง จึงไม่ได้ยินโทรศัพท์ น้ำฟ้าหงุดหงิดที่คุณวีไม่รับสายอีกคน
“วันนี้เป็นวันไม่รับสายแห่งชาติหรือไงเนี่ย” ดินจะถอนหายใจ น้ำฟ้ารีบห้ามเอาไว้ “ห้ามหายใจแรง”
“ก็ได้”
ดินเกาหัว เซ็งๆ
“อ๊ายยย เกาหัวทำไม มันหายไปอีกแล้ว”
ดินหยุดเกาหัว
“มาหรือยัง”
“ยัง! อยู่นิ่งๆ เลยนะ ห้ามขยับเขยื้อน นิ่ง แข็งเป็นหินได้เลยยิ่งดี”
ดินยืนตัวแข็ง น้ำฟ้าเอามือถือล่อสัญญาณไปตรงโน้น ตรงนี้ ข้ามหัวดิน อ้อมตัวดิน เลาะๆ เลียบๆ เลื้อยๆอยู่ตามตัวดิน จนดินจักจี้
“เฮ้ย คุณจะหาสัญญาณหรือเต้นโคโยตี้”
“คำเตือน การปากเสียอาจเป็นต้นเหตุของการเสียชีวิต เงียบไปเลย” ดินเงียบ น้ำฟ้าชูมือถือสุดมือเขย่งสุดเท้า “อุ้มหน่อย”
“หา”
“อุ้มเร็ว เร็วๆเข้า สัญญาณมันอยู่ข้างบน นั่นไงๆๆ มาแล้วๆ” ดินจำใจอุ้มน้ำฟ้าชูขึ้น แบบเกรงใจ “ยกตัวฉันสูงๆสิ” ดินยกตัวฟ้าให้สูงขึ้น “สูงอีก”
“โอ๊ย แม่คุณ คิดว่าตัวเองเบาเป็นสำลีหรือไง ตัวก็เล็ก หนักอะไรเนี่ย”
“อย่าบ่น สูงอีก”
ดินพลาดทำน้ำฟ้าร่วงลงไปกองกับพื้น หล่นมาบนอกของดิน จนปากประกบปากกัน น้ำฟ้าและดินอึ้ง สบตากันเนิ่นนาน...เสียงมือถือของน้ำฟ้าดังขึ้น ทำให้ทั้งคู่ออกจากภวังค์
“มือถือฉันดัง” น้ำฟ้าดูมือถือในมือ “สัญญาณเต็มเลย”
น้ำฟ้าจะลุกรับโทรศัพท์
“ขยับ เดี๋ยวสัญญาณก็หายอีกหรอก”
น้ำฟ้านึกได้ รีบลงมานอนทับดินท่าเดิม ดินอมยิ้ม รู้สึกชื่นใจที่มีน้ำฟ้าอยู่ใกล้ๆ
“ยิ้มอะไร”
“เปล่า...ไม่รีบรับโทรศัพท์เล่า”
“ฮัลโหล บีบี”
บีบีคุยมือถืออย่างดีใจ รีบพูด เล่าเรื่องของตัวเอง
“ฟ้า ฉันเพิ่งคุยกับหมอหลอดเมื่อกี้ แต่ยังคุยไม่จบหรอกนะ หมอหลอดบอกว่า ยังไงชาตินี้ฉันก็จะได้แต่งงาน เนื้อคู่ฉันมาแล้ว แกดีใจกับฉันมั้ย”
น้ำฟ้ายังอยู่บนตัวดินคุยมือถือกับบีบี
“บีบี แกอย่าเพิ่งพูด ฟังฉันนะ รถนายดินเสีย แล้วตอนนี้พวกฉันก็อยู่ที่... ที่นี่ที่ไหน” น้ำฟ้าถามดิน
“ไม่รู้”
“ก็ถามตากับยายสิ”
“ผมจะไปถามได้ไง นอนเป็นเบาะดูดสัญญาณให้คุณอยู่เนี่ย”
น้ำฟ้ามองซ้ายมองขวาเอาไงดี ตากับยาย ค่อยโผล่มาจากมุมบ้าน มองทั้งคู่ด้วยสายตาเอ็นดู
“เขาเรียกบ้านหนองอึ่ง”
น้ำฟ้ารับบอกบีบี
“บ้านหนองอึ่ง ถามหาบ้านของตา...” เสียงแบตเตอรี่มือถือหมด “แบ็ตหมด”
“ฟ้า ฟ้า” บีบีกดเบอร์มือถือหาฟ้าอีกรอบ แต่ไม่ติด “แบ็ตหมด..บ้านหนองอึ่ง แล้วมันอยู่ไหนเนี่ยแล้วไปกับคุณดินได้ไง”
บีบีรีบเข้าไปในห้องตัวเองทันที
+ + + + + + + + + + + +
ตากับยายยกกับข้าวมาวางกลางวง
“กินข้าวก่อนจะได้มีแรง แล้วค่อยไปว่ากันต่อในห้องนอนนะ ไอ้หนูนังหนู”
“คะ? /ครับ?”
ฟ้ากับดินทำหน้างง ตากับยายหัวเราะกันขำๆ
“อ่ะ กินข้าวๆๆ”
น้ำฟ้ามองกับข้าวอันประกอบไปด้วยน้ำพริก สารพัดอาหารบ้านๆ ที่ล้วนเป็นผัก
“เอ่อ...มีแค่นี้เหรอคะ”
“มีอะไรกินก็กินไปเถอะ ตายายอุตส่าห์ดูแล อย่าเรื่องมาก” ดินกระซิบบอก
“ฉันไม่ได้เรื่องมาก!” น้ำฟ้าหันไปปะเหลาะตากับยาย “ตากับยาย กินแต่ผักกันเหรอคะ”
“เออสิวะ มันย่อยง่าย”
“หรือว่าพวกเอ็งกินกันไม่ได้”
“กินได้ครับ พวกเราชอบกินผัก แค่นี้ก็กินได้ครับ”
“ไม่ได้นะคะคือที่พูดเนี่ย เพราะเป็นห่วงตากับยายนะคะ กลัวเป็นโรคขาดสารอาหาร น่าจะทานพวกโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ไว้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ถ้าไม่มีเนื้อสัตว์ ไข่ดาวสักฟองก็ยังดีนะคะ”
ตากับยายมองหน้ากัน
“อ๋อ...โปรตีน”
“ใช่ค่ะ”
ตากับยายหายไปครู่หนึ่งก็กลับออกมาพร้อมกับอาหารอีกจาน...อึ่งตากแห้งทอดกรอบถูกวางลงกลางวง ฟ้ารู้สึกว่าน่ากินมาก
“อุ๊ยตาย หน้าตาน่ารักน่าทานที่สุดอ่ะค่ะ ทานเลยนะคะ”
น้ำฟ้าตักอึ่งมาทันที ดินจะทักแต่ไม่ทัน น้ำฟ้าฉีกๆ กินๆ อย่างเอร็ดอร่อย ตากับยายมองชอบใจ ในขณะที่ดินยิ้มขำๆ
“อร่อยมั้ย”
“สุดๆ”
“รู้มั้ย นั่นอะไร”
“ไก่ทอด” ดินส่ายหน้า “เป็ดทอด” ดินส่ายหน้า “ปลาทอด” ดินส่ายหน้า
“นี่มันเวลากินข้าวนะยะ ไม่ใช่เล่นเกมตอบคำถาม ถ้าไม่ใช่เป็ดไม่ใช่ไก่ไม่ใช่ปลา แล้วมันเป็นอะไร อึ่งอ่างคางคกหรือไง” ดินพยักหน้ารับว่าใช่ “หา”
“โปรตีนบ้านนา...อึ่งทอด”
“อึ่งทอด”
น้ำฟ้าทำท่าจะเอาของที่กินไปแล้วออกมา ดินเห็นท่าไม่ดี กลัวเสียมารยาท รีบอุ้มน้ำฟ้าตัวลอยออกไปทันที
“เป็นอะไรกันไอ้หนู นังหนู/อ้าว...”
ดินอุ้มน้ำฟ้าออกมาข้างบ้าน น้ำฟ้าอ๊วกพุ่ง ดินลูบหลังให้
“อ๊วกเบาๆ หน่อยได้มั้ย”
“อ๊วกกก”
“หมดยัง”
“หมดแล้ว”
น้ำฟ้าหมดแรง รีบตักน้ำบ้วนปาก ล้างปาก
“ทำแบบนี้น่าเกลียดมาก ตากับยายจะเสียความรู้สึกแค่ไหน รู้ตัวมั้ย”
“ก็แล้ว...”
“ชู่! เบาๆ”
“ก็แล้วทำไม นายไม่บอกฉันตั้งแต่แรกว่านั่นเป็นอะไร” น้ำฟ้าต่อว่าดินเสียงเบา
“แล้วทำไมไม่ถาม เห็นหยิบไปเคี้ยวตุ้ยๆ ก็คิดว่าชอบกินอึ่ง”
“อย่าพูด พูดแล้ว จะ...”
น้ำฟ้าขย้อนอีกรอบ ตากับยายโผล่ออกมาดู
“นังหนูเป็นอะไร”
ดินรีบแก้สถานการณ์ โอบน้ำฟ้าเอาไว้
“เมียผมแพ้ท้องครับ”
น้ำฟ้าสะดุ้งเฮือก ตกใจ
“อีตาบ้า”
“อ้าว เหรอ”
“หิว แต่กินแล้วก็ขย้อนออกมาหมดครับ น่าสงสารนะครับ อยากอ้วกอีกใช่มั้ยที่รัก อ้วกเลยจ้ะ ผมลูบหลังให้”
ดินลูบหลังอย่าแรง จนน้ำฟ้าตัวโยกไปมาอ้วกไม่ค่อยถนัดนัก จึงมองตาเขียว ดินยิ้มชอบใจ
ส่วนที่กรุงเทพบีบีเปลี่ยนเป็นชุดเดินทาง หิ้วประเป๋าเดินทางออกจากคอนโดอย่างเร่งรีบ ยามเข้ามา
“คุณบีบีครับ”
“ว่าไงพี่”
“นี่คนนั้น มารอคุณบีบีตั้งนานแล้วครับ”
บีบีแปลกใจหันไป จึงเห็นธีรเทพในชุดพระเอกสีขาวชุดเดิมยืนหน้าบูดอยู่
“มีน้ำมนต์มั้ย หรือใบหนาด หรือข้าวสารเสกก็ได้ ไล่ผีเผือกนั่นไปหน่อยเหอะ”
บีบีบอกยาม ยามยิ้มแหยๆ ธีรเทพเดินเข้ามา ยามปลีกตัวออกไป
“จะหนีไปไหน”
“ไม่ได้หนี แต่จะไปรับฟ้า” เพิ่งนึกได้ว่าหลุดปาก บีบีจึงไม่พูดต่อ “อุ๊ย... พูดทำไม”
บีบีตีปากตัวเอง
“คุณฟ้าทำไม คุณฟ้าเป็นอะไร”
ธีรเทพถามอย่างตกใจเพราะคิดว่าน้ำฟ้าเป็นอะไร
+ + + + + + + + + + + +
บีบีเอากระเป๋าเข้ารถ ธีรเทพยืนตาละห้อยอยู่ข้างๆ
“ฉันไม่บอก! ยังไงฉันก็ไม่บอก”
“ก็ได้ ถ้าเธอไม่บอก ฉันก็จะไม่ตื้อเธออีก ฉันจะรอคุณฟ้ากลับมาแล้วกัน ไปนะ”
ธีรเทพคอตกทำเป็นเดินหันหลังออกไป บีบีมองตามสงสารแต่ก็ใจแข็ง นึกขึ้นได้ หยิบมือถือขึ้นมา
“แสดงว่าคุณวียังไม่รู้เรื่องแหงๆ ฟ้าถึงได้โทรหาเรา ต้องโทรบอกคุณวี” บีบีกำลังจะกดโทรออก ทันใดนั้น มือของธีรเทพก็เข้ามาแย่งมือถือของบีบีออกไป บีบีตกใจ “เฮ้ย”
บีบีหันไป เห็นธีรเทพถือมือถือของบีบีอยู่ และยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“นายธีรเทพ อะไรของนายอีกเนี่ย ไหนบอกว่าจะไปแล้วไง”
“สับขาหลอกไง ไม่เคยเจออ่ะเด้”
“เอามือถือฉันคืนมา”
“ถ้าอยากได้คืน เธอต้องให้ฉันไปรับคุณฟ้าด้วย และที่สำคัญห้ามโทรบอกนายวีนั่น”
“ประสาทป่ะ สั่งโน่นสั่งนี่ เป็นใคร”
“เป็นคนที่กำลังขอโอกาสสุดท้ายจากเธอ แสดงความรักความจริงใจต่อคุณฟ้า”
“ไหนบอกว่าถอดใจแล้วจะรอบอกลา แล้วนี่อะไร จะไปแสดงอะไรอีก อยากปีนนักใช่มั้ยต้นงิ้วน่ะ”
“นะบีบี ฉันขอโอกาส แสดงความเป็นพระเอกให้คุณฟ้าได้เห็นเป็นครั้งสุดท้ายแล้วฉันจะเดินจากมาโดยไม่เรียกร้องอะไรอีกเลย”
ธีรเทพทำเป็นบีบน้ำตา บีบีใจอ่อน
“ก็ได้ ขึ้นรถ”
“เยส”
ธีรเทพตามไปขึ้นรถบีบีทันที
+ + + + + + + + + + + +
ที่บ้านตากับยาย น้ำฟ้ากับดินนั่งนิ่งกันคนละมุมของมุ้ง ทั้งคู่ยังอยู่ในชุดเดิม
“นี่ เอามือถือมาหรือเปล่า” น้ำฟ้าถามดิน
“แบตหมดเหมือนกัน”
น้ำฟ้าถึงกับเซ็ง ดินอมยิ้มเพราะโกหกเรื่องมือถือกับฟ้า...เสียงลมพัดปะทะหน้าต่างปึงปัง สลับเสียงฟ้าร้อง น้ำฟ้าสะดุ้งค่อยๆ กระเถิบไปใกล้ ดินอมยิ้ม...เสียงพื้นกระดานเอี๊ยดอ๊าดๆ น้ำฟ้าสะดุ้งอีก ค่อยๆ กระเถิบไปใกล้อีก ดินทำเป็นไม่สนใจ แต่ก็ยังอมยิ้ม
“ตั๊ก ๆๆๆ แก”
“กรี๊ด”
น้ำฟ้ากระโดดผลุงไปอยู่บนตักดินทันที กอดคอดินหลับตาปี๋ ดินตกใจ
“เป็นอะไรคุณ”
“ฉันกลัวตุ๊กแก”
“ตั๊กๆๆๆ แก”
น้ำฟ้ากอดดินแน่นเข้าไปอีก
“ว้าย”
“ผม...หาย...ใจ...ไม่...ออก...อ่อก” น้ำฟ้าได้สติมองหน้าดินซึ่งอยู่ใกล้หน้าตัวเองมาก จนแทบจะจูบกัน
“หอมจัง”
“อ๊าย...”
น้ำฟ้าผลักดินจนหงายหลังตึงกระแทกผนัง ดังโครม
+ + + + + + + + + + + +
น้ำฟ้ากลัวตุ๊กแกจนไม่กล้านอน เมื่อดินจะออกไปจับอึ่งกับตายยาย น้ำฟ้าจึงขอตามไปด้วย
“แน่ใจเหรอ ว่าจะไปจับอึ่งด้วยกัน”
“นายไปไหน ฉันไปด้วย” ดินยิ้มปลื้มๆ “เพราะยังไงก็ดีกว่านั่งมองหน้าตุ๊กแกอยู่คนเดียวในห้อง”
ดินเซ็ง ตากับยายเดินออกมา
“พร้อมหรือยัง”
“คืนนี้สนุกแน่พวกเอ็ง...ฝนตกใหม่ๆ อึ่งมันจะออกมากันเยอะ คอยดู”
ตากับยายพาดินกับน้ำฟ้ามาที่ทุ่งนา ซึ่งขณะนั้นมีชาวบ้านกำลลังจับอึ่งอยู่ก่อนแล้ว...น้ำฟ้ายืนอยู่กับดินที่พยายามจับอึ่งด้วยสวิง ตากับยายช่วยกันส่องไฟให้ดิน ดินก้าวไปทางไหนน้ำฟ้าก็ตามติดหลังไปทางนั้น จนดินจับอึ่งไม่ถนัด
“นี่คุณ ช่วยอยู่ห่างๆ ผมสักแป๊บได้มั้ย”
“ไม่ได้! นายกับอึ่งฉันเลือกนาย” น้ำฟ้ามองไปทางคันนา เห็นชาวบ้านนั่งอยู่ “แต่ตอนนี้ ซอรี่นะ นายหมดประโยชน์แล้วล่ะ”
น้ำฟ้าเดินไปนั่งกับชาวบ้าน สบายใจ แต่รู้สึกไม่สบายตัว เหนอะ เลอะ เทอะ แต่ก็พยายามตัดใจ หันมองดินที่กำลังช่วยตาจับอึ่งอย่างทะมัดทะแมง ยายตามมาข้างๆ พูดกับน้ำฟ้า
“ผัวเอ็ง จับอึ่งเก่งใช้ได้นะ”
น้ำฟ้าสะดุ้ง
“ค่ะ...ผัวหนู...เก่งค่ะ”
“เหมือนผัวยายนั่นแหละ ฮ่าๆ เอิ๊ก”
“ดูยาย รักตามากเลยเนอะ”
“ไม่รักไม่เป็นเมียมันหรอก เอ็งจะเป็นเมียใคร เอ็งก็ต้องรัก”
น้ำฟ้าอึ้งไป
“นานมั้ย กว่ายายจะรักตา”
ยายส่ายหน้า
“เจอกันอาทิตย์เดียวก็รู้เรื่อง ฮ่าๆๆๆเอิ๊ก”
“หมายความว่าไงคะ”
“คนสมัยก่อน เขาไม่ดูกันนานหรอก รู้ว่ารักก็รัก รักแล้วก็อยู่กินกันเลย”
“แล้วยายไม่กลัวแบบว่า นิสัยเข้ากันไม่ได้ นอนกรน ชอบเลี้ยงเราด้วยลำแข้ง...”
“ยายก็ต้องดูก่อนสิ ว่าตาเขารักยายจริงหรือเปล่า”
“ยายดูยังไง”
“ยายโกหกว่าไฟไหม้ อยากรู้ว่า ตาจะเอาอะไรออกไปจากเรือนก่อนเป็นอย่างแรก”
“เพราะสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ตารักมากที่สุด”
“มันเข้ามาแบกยายกับถังข้าวสารออกไปพร้อมๆ กัน”
“หา”
“แต่มันก็ต้องทิ้งถังข้าวสารไป เพราะแบกต่อไม่ไหว เหลือยายคนเดียว อุ้มหน้าตั้งเลยล่ะนังหนูเอ๊ย พอรู้ว่าถูกอำ มันด่ายายเดือนหนึ่งไม่จบ ฮ่ะๆๆ” น้ำฟ้ามองยายที่หัวเราะไป มองตาที่กำลังจับอึ่งไปด้วยความรักความผูกพัน
“ไปออกกำลังกายหน่อยไป ลูกในท้องเอ็งจะได้แข็งแรง”
“ไม่นะ”
น้ำฟ้าบอกเสียงอ่อย แต่สุดท้ายก็ถูกยายลากออกไปจับอึ่งจนได้
น้ำฟ้ายืนส่องไฟฉายไปตามพื้น ในมือถือสวิงแบบเก้ๆ กังๆ น้ำฟ้าส่องไปเจออึ่ง ตกใจ รีบกระโดดหนีดินเข้ามา
“นี่คุณ เจออึ่งแล้วเขาให้จับไม่ใช่ให้กระโดดหนี”
“ก็ฉันกลัวนี่ มันอ้วนๆ พองๆ เมือกๆ อี๋” น้ำฟ้าส่องไปเห็นอึ่งอีก รีบกระโดดหนี แต่พลาด ล้มลงก้นจ้ำเบ้ากับพื้น “ว้าย”
ดินขำ
“ฮ่ะๆๆ”
น้ำฟ้านึกเคือง ยื่นมือให้ดินจับ
“ช่วยฉุดฉันขึ้นไปหน่อยสิ”
“มา”
ดินส่งมือให้ น้ำฟ้าแกล้งกระชากอย่างแรง จนดินล้มลงไปอีกคน
“ฮ่ะๆๆ สมน้ำหน้า”
น้ำฟ้ารีบลุกขึ้น แล้วก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ จั๊กจี้ ดิ้น บิดไปมา
“เป็นอะไรคุณ”
“อะไรก็ไม่รู้ อยู่ในเสื้อ...มัน...อ้วนๆ...พองๆ...เมือกๆ...”
“อึ่ง”
“อ๋อ...อึ่ง หา! อึ่ง เข้าไปได้ยังไงเนี่ย กรี๊ดดด” น้ำฟ้าลุกขึ้นเต้นทันที “ออกมา”
“ใจเย็น มา ผมล้วงออกให้”
ดินจะล้วงเข้าไปในเสื้อของน้ำฟ้า เธอตกใจต่อยเข้าเบ้าตาของดิน เปรี้ยง
“ทะลึ่ง”
ดินล้มลงไปกองกับพื้นอีกรอบ น้ำฟ้าเต้นเร่าๆๆ
“ช่วยด้วย”
ยายกับตาเดินมาดูกับชาวบ้าน ยายเข้ามาหาน้ำฟ้า
“อยู่นิ่งๆ นังหนู ยายช่วย”
ยายล้วงเข้าไปในเสื้อ ควานหาอึ่ง น้ำฟ้าตาเหลือก เหวอ เพราะไม่เคยถูกใครล้วงลึกขนาดนี้มาก่อนต่อหน้าประชาชน ท่าทางของน้ำฟ้าทำให้ดินขำสุดๆ
“ฮ่ะๆๆๆ”
+ + + + + + + + + + + +
ทางด้านบีบีเมื่อออกจากกรุงเทพฯ ก็ขับรถมาจนถึงวัดบ้านหนองอึ่ง บีบีกับธีรเทพลงจากรถ มองซ้ายขวา ทุกอย่างมืดสนิท
“มาถึงบ้านหนองอึ่งแล้ว ไหนคุณฟ้ากับดินล่ะ”
“ถามฉัน แล้วจะให้ฉันไปถามผีที่ไหน”
“เฮ้ย เธอ โบราณเขาถือ กลางค่ำกลางคืนอย่าพูดถึงผี”
“พูดถึงแล้วทำไม ผีมันจะออกมาหลอกหรือไง”
“แล้วถามใครดีล่ะเนี่ย”
ธีรเทพเข้ามาเคาะประตูกุฏิ ส่วนบีบียืนรออยู่ข้างล่าง หลวงพี่เปิดประตูกุฏิออกมา
“มีอะไรกันโยม”
“หลวงพี่รู้จักเพื่อนผมเปล่าครับ ชื่อดินกับฟ้าครับ”
“หือ”
หลวงพี่ทำหน้างง
คืนนั้นธีรเทพกับบีบีต้องนอนพักที่วัด หลวงพี่ให้นอนที่ศาลาวัด...ทั้งคู่ก้มลงกราบพระสามที
“นอนได้นะ โยม”
หลวงพี่ถามขณะที่เด็กวัดช่วยกันกางมุ้งสองหลังกางในศาลาวัด
“ได้ครับ หลวงพี่ กราบขอบพระคุณมากครับ”
“มียากันยุงมั้ยคะหลวงพี่”
“เรื่องมาก” ธีรเทพต่อว่า บีบีมองธีรเทพตาเขียว
“ให้ตาแจ่มไปเอามาให้แล้วล่ะ”
บีบี ธีรเทพยกมือไหว้หลวงพี่อีกรอบ
“มาแล้ว”
บีบี ธีรเทพหันไปเห็นตาแจ่มถือตะเกียงและยาจุดกันยุงอยู่ บีบีและธีรเทพสะดุ้งโหยง ตกใจ คิดว่าผี
“ว้าย /เฮ้ย”
“ไม่ต้องตกใจ ตาแจ่มแกเป็นสัปเหร่ออยู่ที่วัด”
“อ๋อค่ะ /ครับ”
บีบีกับธีรเทพโล่งใจ ตาแจ่มยิ้มกว้างอย่างใจดีให้กับบีบีและธีรเทพ บีบีและธีรเทพยิ้มแห้งๆ
“มืดแล้ว คงตามหาเพื่อนโยมลำบาก พรุ่งนี้เช้า อาตมาไปบิณฑบาตรจะถามชาวบ้านให้นะ”
บีบีกับธีรเทพก้มลงกราบหลวงพี่ หลวงพี่เดินกลับเข้ากุฏิไป...บีบี ธีรเทพหันมาเห็นตาแจ่มยังยืนยิ้มอยู่ ทั้งสองคนสะดุ้ง อดตกใจไม่ได้
“นอนหลับฝันดีนะ”
บีบี ธีรเทพส่งยิ้มแห้งๆ ให้ตาแจ่ม ตาแจ่มวางตะเกียงไว้ให้ แล้วเดินออกไป ทั้งคู่ถอนหายใจโล่งอก
ทางด้านน้ำฟ้ากับดินหลังจากเลิกหาอึ่งทั้งคู่เดินกันมาเงียบๆ ดินยังคงอมยิ้ม
“ฉันไม่ขำด้วยนะ”
“ขอโทษ”
“แต่ก็สนุกดีนะ”
“อืม”
ฟ้าเห็นพระจันทร์ดวงโตลอยสวยเด่นอยู่บนท้องฟ้า
“พระจันทร์สวยจัง ดวงโตกว่าที่เห็นในกรุงเทพ” ดินลอบมองฟ้าอย่างอ่อนโยน ฟ้าหันมาดินรีบหลบสายตากลบเกลื่อน “นายว่ามั้ย”
“ก็เป็นพระจันทร์ดวงเดียวกัน”
“ก็ตอนนี้ ฉันอารมณ์ดี เลยมองเห็นว่ามันสวยกว่าที่เคยเห็น”
“แสดงว่าหายโกรธผมแล้วใช่มั้ย”
“ยัง”
“แต่ผมไม่ได้มีอะไรกับฮันนี่จริงๆ นะ”
“นายควรจะไปบอกคุณเฟซ ไม่ใช่ฉัน”
น้ำฟ้าเดินหนีไป ดินถอนหายใจอย่างเซ็งๆ ที่น้ำฟ้ายังไม่หายโกรธ แล้วเดินตามไป
อ่านต่อหน้า 2
เส้นตายสลายโสด
ตอนที่ 15 (ต่อ)
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ธีรเทพกำลังนั่งซึมมองพระจันทร์อยู่ที่ศาลาวัด บีบีเดินเข้ามานั่งคุยด้วย
“เธอว่าฉันปากไม่ดีมากมั้ย”
“มาก”
“นิสัยไม่ดีมากมั้ย”
“เลวเลยล่ะ”
“แต่ผู้ชายที่เลว ก็อาจจะเป็นคนรักที่ดีได้ เธอว่ามั้ย”
“ไม่รู้สิ ยังไม่เคยลอง”
“อยากลองมั้ย”
“บ้า”
“ไม่ได้หมายถึงเธอ แต่อยากให้เธอช่วยถามคุณฟ้าให้ที ทำไมไม่คิดให้โอกาสฉันบ้าง”
“สั้นๆ นะ ต่อให้นายแสนดีเป็นเทพบุตรยิ่งกว่าคุณวี แต่ถ้าฟ้าไม่รัก ก็แปลว่าไม่รัก ไม่มีเหตุผลอะไรที่มากกว่านี้”ธีรเทพอึ้ง บีบีพูดต่อ “ฉันเห็นใจนายนะ แต่ทำใจเถอะ ฟ้าไม่ได้เกิดมาเพื่อนาย”
“เธอโกหก”
“ถึงฉันโกหก มันก็ไม่เลวร้ายเท่ากับที่นายกำลังโกหกตัวเองอยู่ในตอนนี้ ดูที่ทำแต่ล่ะอย่างสิ...ไม่รู้สึกอายตัวเองบ้างหรือไง ฉันยังอายแทน”
ธีรเทพนิ่งไป ซึม คอตก ค่อยๆ พยักหน้า
“ได้ ฉันยอมแพ้”
บีบีตบไหล่ให้กำลังใจธีรเทพ
“สู้ๆ นะ เดี๋ยวก็หายดี ดูฉันสิ”
บีบียิ้มให้กำลังใจธีรเทพ ธีรเทพยิ้มเศร้าๆ
+ + + + + + + + + + + +
กลางดึกคืนนั้นดินหลับสนิทคุดคู้อยู่นอกมุ้ง น้ำฟ้านอนหันหลังให้ดินอยู่ในมุ้ง น้ำฟ้านอนไม่หลับพลิกตัวไปหันมองดิน เห็นดินนอนคุดคู้กอดตัวเองแล้วสงสาร ค่อยๆ ลุกขึ้น หยิบผ้าห่มขึ้นมา แล้วค่อยๆย่องออกจากมุ้งตั้งใจจะเอาไปห่มให้ดิน น้ำฟ้ากำลังจะห่มผ้าให้ ดินพลิกตัว น้ำฟ้าสะดุ้งรีบย่องกลับเข้ามุ้งทันที
ดินนอนนิ่งสนิท น้ำฟ้าค่อยๆ ย่องมาใหม่ แล้วห่มผ้าให้ดินอย่างเบามือ น้ำฟ้าเผลอมองหน้าดินไปชั่วขณะก่อนจะรู้สึกตัว ดึงตัวเองกลับมา
“บ้าจัง คิดอะไรเนี่ย”
น้ำฟ้าหันจะกลับเข้ามุ้ง ทันใดนั้นดินก็ดึงมือของน้ำฟ้าเอาไว้ น้ำฟ้าชะงัก ตกใจ หันมา
“นาย...ไม่ได้หลับเหรอ”
ดินส่ายหน้า อมยิ้ม
“หลับ แล้วจะได้เห็นคุณแอบเอาผ้าห่มมาห่มให้ผมเหรอ”
“ฉันไม่ได้แอบ”
“แสดงว่า คุณใจอ่อน ไม่โกรธผมแล้วใช่มั้ย”
“เพราะฉันมีเมตตาธรรม ไม่อยากเห็นนายหนาวตายซะก่อนจะพาฉันกลับไปหาคุณวีต่างหากย่ะ”
ดินอึ้ง ค่อยๆ คลายมือออกจากมือของน้ำฟ้า แล้วส่งผ้าห่มคืนให้
“งั้นคุณเอาผ้าห่มไปเถอะ ให้ผมแล้วคุณจะเอาอะไรห่ม ผมไม่อยากเห็นคุณหนาวตายก่อนจะได้กลับไปหาแฟนเหมือนกัน”
น้ำฟ้าหงุดหงิด กระชากผ้าห่มคืนกลับมา มุดกลับเข้าไปในมุ้ง หันหลังให้ดิน นอนหลับตาทันที ดินนอนมองฟ้าด้วยความรู้สึกเจ็บปวด
ส่วนที่ศาลาวัดธีรเทพนอนหลับสนิทและกรนเสียงดังมาก บีบีทนไม่ไหวลุกขึ้นเดินออกมาปลุก
“นี่! จะกรนเอาโล่หรือไง เบาๆ หน่อย ฉันนอนไม่หลับ”
ธีรเทพยิ่งกรนดังขึ้นไปอีก บีบีสุดทน ถีบธีรเทพกลิ้งไปจนหลุดออกนอกมุ้ง แต่ธีรเทพก็ยังไม่ตื่นและกรนต่อเนื่องหลากหลายลีลา
“คร่อกๆๆ ครืดๆๆ ครืดดดด”
“หึ...ผู้ชายที่เลว แต่เป็นคนรักที่ดีงั้นเหรอ มันจะเป็นได้ยังไง ไม่มีทาง”
บีบีไม่รู้ทำไง กลับเข้าไปในมุ้งตัวเอง นอนเอาหมอนปิดหูอย่างรำคาญ
เช้าวันรุ่งขึ้นฟ้ากับดินยกมือไหว้ลาตากับยายเพื่อออกเดินทางต่อ
“ขอบคุณตากับยายมากนะครับ”
“เออ ไม่เป็นไร เดินทางดีๆ นะทั้งสองคน”
“ดูแลตัวเองดีๆ นะนังหนู ขอให้ลูกในท้องแข็งแรง แข็งแรงทั้งแม่ทั้งลูก”
“เอ่อ..ค่ะ...”
ดินโอบไหล่น้ำฟ้ากระชับเข้ามา
“ไม่ต้องห่วงครับ ผมรักของผม ผมจะดูแลอย่างดีทั้งแม่ทั้งลูกเลย เนอะ ที่รักเนอะ”
ดินหอมที่ศีรษะของน้ำฟ้าอย่างแรง
“นายดิน” ดินทำไม่รู้ไม่ชี้
“เออ รักกันนานๆ จนเฒ่าจนแก่นะ ไปเถอะ เดี๋ยวไม่ทันรถสองแถว”
น้ำฟ้าเดินนำดินออกมาอย่างหงุดหงิด ดินยกกระเป๋าเต็มสองมือตามออกไป
ส่วนที่วัดบีบีกับธีรเทพขึ้นมากราบลาหลวงพี่ที่กุฎิ
“เพื่อนโยมอยู่ในหมู่บ้านข้างหน้าโน้นแน่ะ เห็นว่าจะออกมารอรถสองแถว รีบไปเถอะ”
“ครับผม /ค่ะ...นมัสการลาครับ/ค่ะ”
บีบีกับธีรเทพรีบเดินออกไปทันที
+ + + + + + + + + +
พอพ้นสายตา ของตากับยาย น้ำฟ้าก็ไล่ตีดินมาตามถนน
“ฉวยโอกาสทำไม หา!”
“ผมไม่ได้ฉวยโอกาส แค่ทำการแสดง เนียนๆ”
“เนียนไปป่ะ”
ชาวบ้านเดินคุยมือถือเดินสวนกันมา
“ตรงนี้มีสัญญาณโทรศัพท์ด้วยอ่ะ”
เสียงมือถือของดินดังมาจากกระเป๋าสะพายของดิน ดินสะดุ้ง น้ำฟ้าหันขวับมาทันที
“ซวยแล้ว ลืมปิดเครื่อง” ดินบ่นออกมาอย่างลืมตัว
“เสียงมือถือ”
“ไม่มั้ง หูแว่วไปเอง”
ดินพยายามจะล้วงกระเป๋าสะพาย ตะปบมือถือของตัวเอง ที่ยังดังต่อเนื่องน้ำฟ้าไม่เชื่อดิน รีบมาคว้ากระเป๋าสะพายของดินมา แล้วล้วงหามือถือทันที จนหยิบออกมาได้ น้ำฟ้ามองที่หน้าจอจึงเห็นเบอร์คุณวีโทรเข้ามาแถมมีแบตเตอรี่เต็ม ดินแย่งมือถือคืน
“นายดิน โกหกฉันทำไม”
“คุณวีโทรมา ให้ผมรับก่อนนะ”
“ไม่ต้องรับ ตอบฉันมาก่อน ว่าโกหกเรื่องมือถือนายแบ็ตหมดทำไม”
“เอ่อ...”
ดินอึ้ง อึกอัก น้ำฟ้ามองดินคาดคั้นด้วยความรู้สึกสั่นไหว เสียงมือถือเงียบไป
+ + + + + + + + + + + +
ขณะนั้นคุณวีอยู่ที่รีสอร์ท คุณวีกดวางสายมือถือ ฮันนี่ มิ้นท์ ต้น กอหญ้าและเฟซยืนอยู่ รอฟังผล
“โทรหาคุณดินติดแล้ว แต่เขาไม่รับสาย”
“ตายจริง...เหมือนมีเจตนาไม่บริสุทธิ์เลยนะคะเนี่ย ไปค้างอ้างแรมกันสองต่อสองตื่นเช้ามา ไม่รับสาย เหมือนกลัวความผิด”
ฮันนี่บอก คุณวีและเฟซอึ้งหน้าเครียดขึ้นมาทันที ต้นออกอาการหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด
“พี่ฮันนี่ พูดจาให้เกียรติพี่ดินกับเจ๊ฟ้าหน่อยสิ เขาสองคนไม่มีทางทำอะไรไม่ดีลับหลังเด็ดขาด”
“พี่ก็พูดไปตามสถานการณ์ ไว้ใจได้เหรอ ผู้ชายผู้หญิง ไม่ใช่พี่น้องกันซะหน่อย”
“ใช่ค่ะ น่าคิดนะคะ ป่านนี้ ไม่ถึงไหนต่อไหนแล้วเหรอคะ” มิ้นท์ช่วยผสมโรงอีกคน
“โอ๊ย คิดกันไปได้”
กอหญ้าหงุดหงิด จะเดินออกไป หันไปเจอต้นยืนขวางอยู่ ต้นเมินใส่กอหญ้าแต่ไม่หลบ กอหญ้าเลยเดินหลบไปซะเอง
“ช้ำใจล่ะสิ ต้นที่ผู้หญิงของนาย หลายใจซะจริงๆ” ต้น ชี้หน้าฮันนี่ “อะไร จะทำไม”
“สักวัน สักวัน”
ต้นเดินหนีออกไป
“แต่เฟซว่า...อาจจะมีเรื่องยุ่งยากเกิดขึ้นก็ได้นะคะ เช่นอุบัติเหตุ...”
“มองโลกในแง่ดีเกินไปหรือเปล่าคะคุณเฟซ”
คุณวีไม่พูดอะไร เดินออกไปทันทีอย่างขึ้งเครียด ฮันนี่รีบตามไปประกบ มิ้นท์ตามประกบเฟซ บิวท์ต่อ
“คุณเฟซขา มิ้นท์จะบอกอะไรให้นะคะ ผู้ชายน่ะไว้ใจไม่ได้...” เฟซไม่รอให้มิ้นท์พูดจบ เดินหนีออกไปเลย มิ้นท์หงุดหงิด “แหม ทำเป็นไม่อยากฟัง ชิส์”
+ + + + + + + + + + + + +
ทางด้านดินหลังจากตอบน้ำฟ้าไม่ได้ว่าทำไมต้องโกหกเรื่องโทรศัพท์ ดินจึงเดินหนีเอาดื้อๆ แต่น้ำฟ้าก็ตามอย่างไม่ลดละ
“นายดิน อย่าเดินหนีฉันนะ”
“ผมลืม...ว่าแบ็ตเตอรี่ยังไม่หมด”
น้ำฟ้าวิ่งไปขวางหน้าดิน
“ฉันไม่เชื่อ บอกฉันมาเดี๋ยวนี้...ทำไมนายไม่ให้ฉันติดต่อหาทุกคนให้มารับเรากลับไป ทำไม!”
“ผม...”
“บอกมาสิว่าทำไม”
ดินหลุดปากบอกความในใจ
“ก็เพราะผมอยากอยู่กับ...”
ดินยังพูดไม่ทันจบ เสียงธีรเทพดังขึ้นจังหวะซะก่อน
“คุณฟ้าครับ”
ดินชะงัก น้ำฟ้าผิดหวังที่ดินไม่พูด ทั้งคู่หันไปมองจึงเห็นบีบีจอดรถ ธีรเทพชะโงกหน้าตะโกนเรียกน้ำฟ้าออกมานอกกระจกรถ ผลุบเข้าไปรีบเปิดประตูออกมาทันที บีบีรีบตามลงมาด้วยเห็นธีรเทพยิ้มแป้น รี่เข้าไปหาน้ำฟ้าแล้วหมั่นไส้
“เนี่ยนะ ยอมแพ้! เชื่อไม่ได้จริงๆ”
“คุณฟ้า ผมมาช่วยคุณแล้ว เฮ้ย ดิน หวัดดี” ธีรเทพทักดินแล้วถามฟ้าต่อ “บาดเจ็บ เสียหายตรงไหนหรือเปล่าครับ เป็นฮ้วงเป็นห่วง”
“คุณดิน...ฟ้า...เป็นไงบ้าง ขอโทษนะที่มาช้า”
บีบีบอก น้ำฟ้ายังมองหน้าดิน ดินก็มองสบตา ทั้งสองคนอึดอัด
+ + + + + + + + + + + +
คุณวีเดินหน้าเครียดออกมาที่รถโดยมีฮันนี่วิ่งตามมา
“คุณวี จะไปไหนคะ”
“ผมจะไปแจ้งความ”
“ฮันนี่ขอโทษนะคะที่พูดอะไรออกไปทำให้คุณวีไม่สบายใจ แต่ที่ฮันนี่พูดไม่มีอะไรเกินความจริงเลยนะคะ ดินกับฟ้าเขาสนิทกันมาก สนิทกันจน...”
เสียงมือถือของคุณวีดังขึ้นขัดจังหวะ
“ขอโทษนะครับ คุณบีบีโทรมา” คุณวีรีบรับสาย “ฮัลโหล คุณบีบีครับ ได้ข่าวคุณฟ้าบ้างมั้ย...คุณฟ้า”
คุณวีดีใจเมื่อคนที่โทรเข้ามาคือน้ำฟ้า
บีบีขับรถมาที่รีสอร์ทคุณวี น้ำฟ้าและดินลงมาจากรถคนละฝั่ง คุณวีและเฟซวิ่งออกมา น้ำฟ้าและดินเห็นคุณวีกับเฟซถึงกับอึ้ง ต้น กอหญ้า ตามออกมาอย่างดีใจ ฮันนี่ มิ้นท์เดินเข้ามาประกบคุณวี
“แฟนคุณวีดูมีพิรุธยังไงไม่ทราบนะคะ แทนที่เห็นคุณวีแล้วจะดีใจวิ่งเข้ามาหา”
คุณวีหันไปสังเกตดูฟ้ากับดินทันที ฟ้ากับดินหันมาสบตากัน ฟ้ายังเต็มไปด้วยคำถามที่อยากรู้คำตอบจากดิน
“เหมือนอาลัยอาวรณ์กันยังไงไม่รู้สิ”
ฮันนี่พูดเป่าฟูต่อ คุณวีตัดสินใจวิ่งไปหาฟ้าแล้วดึงตัวเข้ามากอดทันทีด้วยความเป็นห่วง
“คุณฟ้า คุณปลอดภัยใช่มั้ย ผมเป็นห่วงคุณมากเลยนะ แต่ติดต่อคุณไม่ได้เลย”
ดินอึ้งไปที่เห็นภาพคุณวีเป็นห่วงน้ำฟ้ามาก เฟซวิ่งเข้ามาหาดิน จับมือดิน รีบถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง
“คุณดินไม่ได้เป็นอะไรใช่มั้ยคะ เฟซรู้ข่าวจากคุณวี เฟซเลยขอตามมาที่นี่ด้วย”
น้ำฟ้าอึ้งกับภาพที่เฟซเป็นห่วงดินมาก ธีรเทพกับบีบียืนดูภาพสองคู่ที่รถ ธีรเทพคอตก
“ฉันไม่มีตัวตนในสายตาคุณฟ้าจริงๆ”
“คนเราโง่ได้ แต่อย่าโง่นาน รู้ป่ะ อย่าลืมทำตามที่พูด”
ต้นเป็นอีกคนที่คอตกหันจะเดินออกไปจึงเห็นกอหญ้ายืนอยู่ข้างหลัง
“สะใจป่ะ”
ต้นถามกอหญ้าแล้วเดินไป โดยไม่สนใจว่าตัวเองกระแทกไหล่กอหญ้าอย่างแรง จนกอหญ้าเซ แต่ต้นก็ไม่แม้แต่จะขอโทษ
“เออ สะใจ”
กอหญ้าตะโกนตามหลังต้น แล้วเดินหงุดหงิดหนีไปอีกทางหนึ่ง
คุณวีปล่อยน้ำฟ้าออกจากอ้อมกอด แล้วเดินไปหาดิน
“ขอบคุณมากนะครับ ที่ช่วยดูแลคุณฟ้า”
“ผมต้องขอโทษเรื่องรถผมที่...”
คุณวีตัดบท ไม่สนใจดินอีกต่อไป
“คุณฟ้า เข้าไปพักผ่อนด้านในก่อนดีกว่านะครับ”
ดินอึ้ง ทั้งน้ำฟ้าและดินรู้สึกได้ว่าคุณวีไม่พอใจ ฮันนี่สะใจเข้ามากระซิบกับน้ำฟ้า
“หายกันไปทั้งคืนแล้วติดต่อไม่ได้แบบนี้ ใคร้เขาจะเชื่อเธอว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น คุณวีไม่โง่หรอกนะจ๊ะ”
น้ำฟ้ามองฮันนี่อย่างเจ็บใจ
“ฮันนี่!”
ฮันนี่เดินยิ้มเยาะไปกับมิ้นท์ เข้าไปในรีสอร์ท ธีรเทพเดินลิ่วๆ เข้าไป บีบีมองตามธีรเทพแล้วส่ายหน้า สงสารก็สงสารก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน
“คุณวีครับ ถ้าคุณวียังติดใจ...ผมอยากจะอะ...”
ดินจะอิบายแต่คุณวีมองดินด้วยสายตาห่างเหิน และพูดขัดขึ้นมา
“ ผมขอตัว”
คุณวีรีบจับมือน้ำฟ้าอย่างห่วงแหน พาเข้าไปข้างในทันที น้ำฟ้าหันมาสบตากับดิน จึงเห็นเฟซยืนควงแขนดินอยู่ไม่ห่าง น้ำฟ้าตัดใจหันกลับไป ดินมองตามน้ำฟ้าเดินไปกับคุณวีด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ
น้ำฟ้าเดินควงแขนมากับคุณวีเข้ามาในรีสอร์ทแล้วจู่ๆ คุณวีก็หยุดเดิน น้ำฟ้าแปลกใจ
“คุณฟ้าครับ”
“คะ”
“มีอะไรที่อยากจะบอกกับผมหรือเปล่า”
“เอ่อ...” ฟ้าไม่กล้าสบตาคุณวี “มีค่ะ...คือ...ฟ้าเหนื้อยเหนื่อย เพลี้ย เพลียค่ะ”
“ผมหมายถึงเรื่องระหว่างคุณกับคุณดิน”
“ทำไมฟ้ากับนายดินต้องมีเรื่องอะไรกันด้วยคะ”
“ผมไม่สบายใจ คุณฮันนี่บอกว่า...”
“ฟ้าไม่คิดเลย ว่าคุณวีจะเป็นผู้ชายหูเบา ไม่หนักแน่น” น้ำฟ้ารีบหันหน้าหนี โกรธฮันนี่มาก
“ยัยฮันนี่...แกเล่นฉันอีกแล้ว”
หัวสมองฟ้าแล่นปรู๊ดปร๊าด จะแก้ตัว เอาตัวรอดจากวีได้ยังไง
“คุณฟ้าครับ ผมขอโทษ ถ้าทำให้คุณไม่พอใจ”
“ไม่ใช่แค่ไม่พอใจนะคะ แต่โกรธมาก คนเราคบกันต้องเชื่อใจกันสิคะ ไม่ใช่เชื่อคนอื่น”
“แล้วจะให้ผมเชื่อใจคุณ โดยที่ผมไม่รู้ว่าคุณคิดยังไงกับผมน่ะเหรอครับ คุณฟ้าคุณรักผมบ้างหรือเปล่า”
คำถามนี้ทำให้น้ำฟ้าอึ้งไปเลย
“ฉัน..เอ่อ...ฉัน...”
“คุณวีครับ”
น้ำฟ้ากับคุณวีหันไป ดินเดินเข้ามาฟ้าแอบโล่งใจ ในขณะที่คุณวีไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดที่ดินเข้ามาขัดจังหวะ
“คุณตามเรามาทำไม”
“ฟังผมก่อนได้มั้ย ผมอธิบายได้”
“แต่ผมไม่ได้อยากฟังคำแก้ตัวของคุณ”
“คุณวีคะ เราสองคนไม่ได้ทำอะไรผิดนะคะ” น้ำฟ้าบอกอย่างไม่พอใจ
“ผมมีสิทธิ์ที่จะไม่พอใจ ที่จู่ๆ คุณดินก็พาแฟนผมหายไปทั้งคืน”
“คุณยิ่งต้องฟังผมอธิบาย ผมกับคุณฟ้า เราเป็นเพื่อนกัน คบกันอย่างบริสุทธิ์ใจ แต่มันเกิดอุบัติเหตุ...”
“จะอุบัติเหตุหรือตั้งใจ ผมไม่รู้ รู้แต่ว่า ผมคิดผิดที่ไว้ใจคุณ และถ้าอยากให้ผมสบายใจจริงๆ ล่ะก็กรุณาอยู่ห่างๆ แฟนผม”
คุณวีจูงมือน้ำฟ้าออกไปทันที น้ำฟ้าอึดอัด แต่ก็จำใจตามไปเพราะไม่อยากให้มีปัญหา หันมามองดิน ด้วยความเห็นใจ ดินรู้สึกเครียดและไม่สบายใจ
+ + + + + + + + + + +
อีกด้านหนึ่งของรีสอร์ท ธีรเทพเดินเหม่อลอยอยู่ บีบีหอบถุงใส่เอกสารต่างๆ พลางคุยมือถือ เดินมาจากมุมหนึ่ง
“ค่ะบอส...รับรองค่ะว่าทริปสร้างภาพ เอ๊ย สร้างแรงบันดาลใจให้กับ CEO บริษัทลูกค้าคราวนี้เพอร์เฟ็ก ชัวร์ค่ะ สวัสดีค่ะ” บีบีกดวางสายปุ๊บ ชนกับธีรเทพที่เดินมาขวางพอดี
“อุ๊ย” ธีรเทพยังหน้ามึน ไร้ปฏิกิริยา
“นี่ ยังอยู่ทำอะไรเนี่ย ยังไม่กลับอีกเหรอ เกะกะจริงๆ เลย”
ธีรเทพเดินเลี่ยง ซึมๆ ง่อยๆ ผ่านบีบีออกไป ล่องลอยเหมือนไม่มีวิญญาณ บีบีอยากจะถามด้วยความเป็นห่วง แต่มือถือดังซะก่อน บีบีรีบรับแล้วรีบวิ่งออกไปทางหนึ่ง
“ฮัลโหล...อะไรอีกล่ะคะบอส โอ๊ย คลื่นลมสลบมาก” บีบีเดินลับไปแล้วก็เดินวกกลับมาใหม่
“แค่นี่ก่อนนะคะบอส...” บีบีรีบวางสายนึกเป็นห่วงธีรเทพ “เป็นอะไรมากป่ะเนี่ย”
บีบีรีบเดินไปทางที่ธีรเทพเดินออกไป
+ + + + + + + + + + + +
ที่หน้ารีสอร์ทขณะนั้นต้นถือป้ายผ้าที่เขียนข้อความต้อนรับอยู่ ปีนขึ้นบันไดเหล็ก พยายามจะขึงป้ายผ้าคนเดียวกอหญ้ากำลังตกแต่งสถานที่ด้วยผ้าสีม่วงโดยมีดินคอยช่วย น้ำฟ้าเดินเข้ามาดินเหลือบมอง ก่อนจะรีบหลบตา ทำเป็นไม่สนใจ น้ำฟ้าเห็นดินไม่สนใจ ใจเสียแต่พยายามตัดความรู้สึกด้วยการโวยต้น
“ต้น...ทำคนเดียว ทำได้หรือไง ทำไม่ให้กอหญ้าหรือนายดินช่วย”
“พึ่งคนอื่น มีแต่จะเสียใจ ต้นทำคนเดียวดีกว่าเจ๊”
กอหญ้าเซ็ง ที่ถูกกระทบกระเทียบ ดินมองหน้ากอหญ้า เห็นความผิดปกติ
“มีเรื่องอะไรกัน กอหญ้า” กอหญ้ายักไหล่ ไม่ตอบ “มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่าต้น” ดินหันไปถามต้น
“เจ๊ ฝากบอกผู้ชายคนนั้นที ว่าต้นโกรธ...ไม่อยากคุยด้วย ตีท้ายครัวชัดๆ”
ต้นบอกฟ้า ดินกับฟ้าจึงพูดพร้อมกีนอย่างหัวเสีย
“อะไรของแกเนี่ย”
“ไม่เคยมีใครเข้าใจต้นอยู่แล้ว”
“เออ งั้นทำไปเลยคนเดียว”
ต้นปีนขึ้นบันได หันมาสั่งฟ้า
“เจ๊ จับบันไดให้หน่อย”
“กอหญ้ามาช่วยจับบันไดหน่อย เดี๋ยวพี่จะเช็คระดับให้”
กอหญ้าเข้าไปจับบันไดให้ต้น น้ำฟ้าออกไปดูระดับของป้ายผ้า ต้นขยับไปมา นั่งไม่นิ่ง เพราะเอื้อมไปผูกป้ายไม่ถึง
“พี่ฟ้า...บอกเขาให้นั่งนิ่งๆ ดิ่”
“ต้น นิ่งๆ”
“เจ๊ บอกเขาหน่อย แค่นี้ทำไม่ได้ ก็ไปทำอย่างอื่นไป”
“กอหญ้า ต้นบอกว่า...เฮ้ย...เห็นฉันเป็นร่างทรงอีกแล้ว”
“ตกลงมีเรื่องอะไรกัน บอกมาเดี๋ยวนี้”
ดินกับฟ้าถามออกมาพร้อมกัน แล้วสะดุ้งหันมามองหน้ากัน
“ก็อยากจะไปทำอย่างอื่นเหมือนกันแหละ แต่ฉันต้องฝึกงานให้จบ รู้ไว้ซะด้วย หื่นเน่าเอ๊ย”
กอหญ้าบอกอย่างหัวเสีย ผลักบันไดอย่างแรง ต้นเสียหลัก ตกลงจากบันได ลงกระแทกพื้น
“เฮ้ยยย”
“ต้น”
“อุ๊ยตาย ลมแรง พัดจนบันไดล้มเลย”
กอหญ้าสมน้ำหน้าต้น แล้วเดินไม่รู้ไม่ชี้ออกไป ต้นพูดไม่ออกได้แต่มองกอหญ้าอย่างแค้นใจ ดินจะเข้าไปพยุงต้น
“มา ฉันช่วย”
“ไม่ต้อง! ลูกผู้ชายไม่รับความช่วยเหลือจากคนที่ไว้ใจไม่ได้”
“งั้นฉันช่วย” ฟ้าบอก
“ไม่ต้อง! ลูกผู้ชายเจ็บแล้ว ต้องรู้จักเข็ด” ฟ้ากับดินหมั่นไส้ต้นเต็มที ก่อนจะช่วยกันเอาผ้ามาพันหัวต้นเหมือนมัมมี่ “ทำต้นทำไม!”
“หมั่นไส้”
น้ำฟ้ากับดินหัวเราะกันคิกคัก คุณวียืนสังเกตพฤติกรรมของทั้งคู่อยู่ที่มุมหนึ่ง รู้สึกไม่พอใจ
+ + + + + + + + + + + +
อีกด้านหนึ่งธีรเทพค่อยๆ เดินลงไปในทะเล บีบีเดินตามหาธีรเทพมา
“นายธีรเทพ! ไปไหนของเขานะ เสียใจจนตายไปแล้วหรือยังก็ไม่รู้”
ธีรเทพเดินลงทะเลไปเรื่อยๆ บีบีเห็นธีรเทพก็ตกใจเพราะคิดว่าธีรเทพจะฆ่าตัวตาย
“นายธีรเทพ! ทำบ้าอะไรของนายเนี่ย” บีบีรีบวิ่งไปหาธีรเทพอย่างรวดเร็ว นึกขึ้นได้ ล้วงมือถือออกมาวาง วิ่งต่อ “นายธีรเทพ อย่านะ!” บีบีนึกขึ้นได้ ถอดรองเท้าคู่สวยออกก่อน แล้ววิ่งต่อ “นายธีรเทพ นายธีรเทพ”
บีบีวิ่งลงทะเลไป
ธีรเทพยังคงเดินดุ่ยๆ ลุยน้ำทะเลลงไปจนเกือบครึ่งตัว บีบีลุยน้ำทะเลไปหาธีรเทพอย่างลำบากยากเย็น ทั้งเดินทั้งว่าย
“หยุดนะ อย่าคิดสั้นนะ ไอ้บ้า”
ธีรเทพหยุดนิ่ง จากนั้นก็หงายหลัง ลอยตัวตีกรรเชียง บีบีชะงัก มองธีรเทพที่ว่ายตีกรรเชียงโต้คลื่นอย่างสบายอารมณ์
“หืม...ทำให้ตกใจ” บีบีเข้ามากดหัวธีรเทพจมน้ำ “ตายไปเป็นผีทะเลเถอะ”
ธีรเทพทะลึ่งพรวด พยายามตะกายขึ้นมาจากน้ำ
“เฮ้ย! ทำอะไรของเธอเนี่ย! ยัยบีบีบี้แบน”
“โทษฐานทำให้ฉันตกใจ คิดว่านายจะฆ่าตัวตายหนีช้ำไง”
“ฉันไม่โง่ขนาดนั้นหรอกน่ะ! แค่มาว่ายน้ำ ยัยเพี้ยน! หืม! มาเลย เอาคืน”
ธีรเทพพุ่งเข้าไปจะกดหัวบีบี บีบีพยายามหนี
“ว้าย อย่านะ”
ธีรเทพพยายามตามบีบีไม่ลดละ เกิดการแข่งกันกดหัวกลางทะเล
+ + + + + + + + + + + +
กอหญ้ากำลังนับกล้าต้นไม้ที่จะใช้ปลูกป่าชายเลน ฟ้าเดินเข้ามา ดินลากต้นตามมา
“อ่ะ คุยกันซะ ตกลงทะเลาะกันเรื่องอะไร”
ต้นกับกอหญ้ามองหน้ากันเซ็งๆ ทั้งสองคนสะบัดหน้าใส่กัน
“ทำงานด้วยกัน แต่ไม่มองหน้ากันแบบนี้ได้ยังไง ถ้ายังไม่ยอมเคลียร์กันให้ฉันรู้เรื่อง ฉันจะรายงานบอส”
ต้นและกอหญ้าหันมามองกันทันที
“เธอพูดสิ”
“ฉันไม่มีอะไรจะพูด ถ้านายมีอะไรจะพูดก็พูดเด่ะ”
“ตกลงจะเกี่ยงกันอีกนานมั้ย”
“ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้าไม่พูด เธอสองคนเละ”
“ยัยโจรน้ำส้ม เอาเสื้อยืดที่ต้นตั้งใจทำให้เจ๊ไปขาย”
ต้นบอก ฟ้ากับดินถึงกับอึ้ง ขณะที่กอหญ้ายืนนิ่ง
“เอาแล้วไง...พี่เตือนเราแล้วนะกอหญ้า”
“นี่พี่ดินรู้เรื่องมาตลอดเลยใช่มั้ย”
“ก็เพิ่งจะ...”
“แต่พี่ดินก็ยังปิดปากเงียบ”
“ฉัน...”
“เพราะพี่ดินคิดอะไรกับเจ๊เขา เลยอยากจะตัดขาคู่แข่งอย่างผมใช่มั้ย”
“ใจเย็นต้น”
“เพราะ...”
“โอ๊ย ไอ้ต้น เงียบ แล้วฟังเหตุผลคนอื่นบ้างได้มั้ย” ฟ้าตัดบทอย่างรำคาญ
“ไม่มีเหตุผลอะไรทำให้ต้นเงียบได้หรอกเจ๊ ไม่เจอเองไม่เจ็บหรอก”
ต้นเดินลิ่วออกไป ฟ้ากับดินถอนใจ
“เรื่องเป็นยังไงกันแน่ กอหญ้า”
กอหญ้าเครียด แต่ก็ยอมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟ้ากับดินฟัง
ส่วนที่ชายหาดบีบีและธีรเทพนอนพังพาลบนหาดทราย เหนื่อยหอบกันทั้งคู่
“คิดว่าฉันคิดสั้นได้ไง ใช้อะไรคิด”
“ใครมาเห็นก็ต้องคิด คนปัญญาอ่อนอย่างนาย ทำได้ทุกอย่างแหละ”
“แต่ก็...ขอบใจนะ ที่เป็นห่วง”
“ไม่ได้เป็นห่วง แต่ยังไม่พร้อมใส่ซองงานศพใคร “
“โคตรเซ็งเลย ไม่กัดสักวันได้มั้ยเนี่ย”
“ไม่ใช่แมว” ธีรเทพและบีบีนอนนิ่ง เงียบ “คิดไง ลงไปตีกรรเชียงในชุดเนี้ย” บีบีถามขึ้นมา
“ฉันมาบอกลาความรักของฉัน”
“เน่าได้อีก”
“ฉันไม่เข้มแข็งเหมือนเธอหรอก คิดจะตัดไอ้ดิน ก็ตัดได้เลย”
ต่อมน้ำตาบีบีทำงานทันที
“ใครบอกว่าฉันเข้มแข็ง.ฮึ..ฮึ...เคยได้ยินป่ะ น้ำตาตกในอ่ะ ฮึ..ฮึ”
“เราสองคนมาบอกลาความรักที่ไม่สมหวังให้ตกน้ำไปพร้อมพระอาทิตย์กันเถอะ”
“แล้วพรุ่งนี้ เราก็จะตื่นมาอย่างสดใสรับอรุณด้วยหัวใจดวงใหม่”
“และเป้าหมายใหม่ๆ”
“เฮ้ย หาใหม่ได้เร็วขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ยิ่งเร็วยิ่งดี อายุป่านนี้แล้ว จะเสียเวลารออะไรเล่าแม่คุณ”
“ก็จริง”
ธีรเทพลุกขึ้น บีบีลุกตาม
“แล้วฉันจะช่วยเธอหาแฟน”
“แต่ฉันไม่ช่วยนายหรอก สงสารผู้หญิง”
“เฮ้ย คาสโนว่าอย่างฉัน หาใหม่ได้เองไม่ยาก ไม่ต้องพึ่งเธอ”
“ชิส์”
“บ๊ายบาย ความรักเก่าๆ หัวใจเก่าๆ ที่เค้าไม่อยากได้! ตะโกนบอกลาเลย บีบี” ธีรเทพหันไปหาบีบีแต่บีบีไม่อยู่แล้ว “เฮ้ย หายไปไหนแล้วอ่ะ” บีบีเดินลิ่วกลับไปแล้ว “บีบี!”
“ประสาท เชิญตะโกนไปคนเดียวเหอะ! ฉันจะไปทำงาน”
บีบีเดินไป ธีรเทพเซ็ง
+ + + + + + + + + + + +
น้ำฟ้ากับดินถอนหายใจขึ้นมาพร้อมกัน ขณะที่กอหญ้านั่งอยู่ตรงกลางหน้าเศร้า
“เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละ”
“แล้วทำไมไม่ไปคุยกับต้นให้เข้าใจ”
“นายนั่นเปิดโอกาสให้หนูคุยซะที่ไหนเล่า พอจะเปิดปากก็ใส่ซะยับก่อนเลย”
“เดี๋ยวพี่จะไปคุยกับต้นให้เอง” ดินบอก
“นายคุยยิ่งแล้วใหญ่ ไม่เห็นหรือไง ว่าต้นมันโกรธนายขนาดไหน”
“ไร้สาระจริงๆ”
“เอางี้ เดี๋ยวพี่ไปคุยเอง”
“อย่าเลยพี่ ปล่อยเขาไปเหอะ”
“ทำไมล่ะ มองหน้ากันไม่ติดแบบนี้ อึดอัดตาย พี่ไม่ชอบ”
“เขาไม่ฟังหรอก ต่อให้สิบพี่ฟ้าไปพูด เขาก็ยังคิดเข้าข้างตัวเองว่าหนูแก้ตัว ปล่อยเขาไปเหอะ เดี๋ยวหนูก็ฝึกงานเสร็จแล้ว มันก็จะจบเอง”
กอหญ้าลุกเดินออกไป น้ำฟ้า ดินมองตามกอหญ้าอย่างเห็นใจ
“ทำไมน้องนายแมนยังเงี้ย แมนกว่าไอ้ต้นอีก”
“มีพี่ชายแมนก็แบบนี้แหละ เลี้ยงดี” ฟ้าหันมองหน้าดิน ถองเข้าให้ “โอ๊ย!”
น้ำฟ้าเดินมากับดิน ทันใดนั้นคุณวีก็ปราดเข้ามา แล้วต่อยหน้าดินเปรี้ยง! จนดินล้มลงไปกอง
“ว้าย...คุณวี” น้ำฟ้าตกใจ ดินหันมาเลือดกบปาก
“นายดิน คุณวี ทำไมต้องทำกันขนาดนี้ด้วย”
น้ำฟ้าเข้าไปดูแลดินทันที “เจ็บมั้ย”
คุณวียิ่งไม่พอใจดิน
โปรดติดตามอ่านตอนต่อไป