ติดตามอ่านได้ทาง www.manager.co.th ทุกวัน เวลา 9.30 น.
ตอนที่ 18
ค่ำคืนนั้น...ปาหนันกับทับทิมแอบหลบมุมคุยกัน ปาหนันบอกทับทิมเรื่องที่นาวิศความจำเสื่อม
“ซวยจริงๆ...มิน่า พร้าวถึงจำคุณหนันไม่ได้”
“คุณนาวิศบอกว่าเขาเกิดอุบัติเหตุ...ก็คงหลังจากที่เราแยกกันวันนั้น”
“เออ...แล้วคุณหนันบอกความจริงกับพร้าวไปรึยังคะ ว่าคุณหนันเป็นใคร เมื่อก่อนนี้พร้าวกับคุณหนันรู้สึกต่อกันยังไง”
ปาหนันส่ายหน้า สะท้อนใจ ทับทิมแปลกใจ
“เอ้า...แล้วทำไมไม่บอกไปเลยล่ะคะ มีโอกาสแล้ว”
“ตอนนี้พร้าวไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นกับหนันแล้ว บอกไปก็มีแต่จะทำให้เขาสงสัย ว่าอะไรคือความจริง...หนันตัดสินใจแล้ว หนันจะรื้อฟื้นความทรงจำของพร้าว...หนันจะทำให้พร้าวจำได้ ว่าเราเคยรู้สึกต่อกันยังไง” ปาหนันบอกอย่างมุ่งมั่น
ทับทิมมองปาหนันอย่างเห็นใจ ขณะเดียวกันนั้น เดื่อเข้ามาหาทั้งสองอย่างเร่งร้อน
“คุณหนัน มานี่เร็ว”
เดื่อเข้ามาจูงมือปาหนัน ทับทิมงงๆ
“อ้าว เดี๋ยวสิไอ้เดื่อ จะพาคุณหนันไปไหน”
เดื่อหันมาจุ๊ปาก ทำหน้าจริงจัง ปาหนันกับทับทิมมองหน้ากันอย่างสงสัย
เดื่อเดินนำปาหนันกับทับทิมลัดเลาะ หลบมุมมาแถวข้างบ้าน เดื่อคอยหันไปจุ๊ปากไม่ให้สองสาวที่ตามมาส่งเสียง ปาหนันดึงเดื่อไว้แล้วกระซิบถาม
“เดื่อ มีอะไรกันแน่...”
เดื่อชี้ไปที่หน้าบ้าน ปาหนันมองตาม เห็นเคี่ยมกับสหัสที่หลบมุมคุยกันอยู่ เดื่อกระซิบปาหนัน
“เดื่อแอบได้ยินนายคุยกับพี่สหัส...คุณหนัน วันนี้นายเจอไอ้พร้าว”
ปาหนันหน้าตื่น ขยับไปใกล้ที่สุดเท่าที่จะใกล้ได้ เงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ...เคี่ยมคุยสหัส อยู่หน้าบ้านไม่รู้ว่ามีคนมาแอบฟัง
“วันนี้ผมได้ยินนาวิศคุยกับอามัน เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น มันยอมยกโทษให้คนที่คิดจะฆ่ามัน แต่กลับลืมบุญคุณของนาย”
“แต่ฉันรู้สึกว่านาวิศไม่ได้แกล้งทำ...ฉันก็ไม่รู้ว่านาวิศโดนคุณธานีล้างสมองด้วยวิธีไหน...แต่ฉันว่ามันความจำเสื่อมจริงๆ”
สหัสส่ายหน้าไม่เชื่อ
“ไอ้นาวิศมันเคยหลอกเราแบบนี้มาแล้ว คราวนี้ ไม่ว่ามันจะมีแผนอะไรอีก...ผมก็จะไม่ตกหลุมมันเป็นครั้งที่สอง”
“เอาเถอะ ไม่ว่านาวิศจะแกล้ง หรือว่าความจำเสื่อมจริง ตอนนี้เรากับเขาก็ต่างคนต่างอยู่...สำคัญว่าอย่าให้ลูกหนันได้เจอกับนาวิศอีกก็พอ”
ปาหนันมองหน้าเดื่อกับทับทิมอย่างไม่สบายใจ รีบโบกมือให้ทั้งหมดกลับออกไป แต่ขณะที่ขยับตัวกลับทับทิมเตะเอากิ่งไม้ กรีดร้องตกใจ คิดว่าอะไรกัด
“ว้าย!”
เดื่อรีบตะครุบปิดปากทับทิม เคี่ยมกับสหัสเดินมาทางต้นเสียงทันที
“ใครน่ะ”เคี่ยมถามเสียงเข้ม
เดื่อรีบโบกมือให้ปาหนันวิ่งหนีไป ปาหนันวิ่งหนีสุดชีวิต เคี่ยมกับสหัสโผล่มา
“ฉันถามว่าใคร”
เดื่อเห็นจวนตัว ดึงทับทิมมาจูบจ๊วบ ทับทิมตกใจ ตาเหลือก เคี่ยมกับสหัสเห็นก็ตกใจ ทับทิมผลักเดื่อออกชี้หน้าเดื่อ
“ไอ้...”
เดื่อขยิบตา เหลือกตาไปทางเคี่ยมกับสหัส ทับทิมด่าไม่ออก
“ไอ้...สุดที่รัก”
“พวกเอ็งรักกันแต่เมื่อไหร่วะ เห็นกัดกันตลอด”สหัสถามอย่างสงสัย
“ก็เข้าทำนองผัวเมียยิ่งทะเลาะยิ่งลูกดกน่ะพี่สหัส...ฉันกะนังทับทิมกัดกันไปกันมา อยู่ๆก็นึกอยากกัดปากกันขึ้นมา”เดื่อบอกขำๆ
เคี่ยมมองทั้งสองอย่างไม่ชอบใจนัก
“พวกเอ็งรักใคร่ชอบพอกัน ก็หาฤกษ์ยามตบแต่งให้เป็นเรื่องเป็นราว ไม่ใช่มาลักลอบได้เสียกัน ข้าไม่ชอบ”
เคี่ยมส่ายหน้าระอา เดินออกไป สหัสยิ้มๆ เดินตามเคี่ยมไปด้วย ทับทิมอยากทุบเดื่อให้หายแค้น เดื่อโบกไม้โบกมือห้าม เดี๋ยวนายได้ยิน
+ + + + + + + + + + + +
เช้าวันใหม่..เจ่งอ่านกระดาษรายการอาหารที่ปาหนันสั่งทำ ก็ถามอย่างแปลกใจ
“น้ำพริกกุ้งเสียบ สตอผัดกุ้ง คั่วกลิ้ว...อะไรกันคะ นึกยังไงถึงให้ป้าทำอาหารพวกนี้”
“ก็นึกอยากกินน่ะสิจ๊ะ”
“แต่กับข้าวพวกเนี้ย มันของโปรด ไอ้พร้าว ทั้งนั้นเลยไม่ใช่เหรอคะ เมื่อก่อนไปส่งปิ่นโตให้มันทุกวัน ป้าพอจะจำได้ว่ามันชอบกินอะไร”
ปาหนันอึกอัก
“อะไรกันจ๊ะ หนันอยากกินเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา ป้าเจ่งจะไปพูดถึงเขาทำไม”
เจ่งมองหน้าปาหนัน
“แน่ใจนะคะ ว่าคุณหนันไม่ได้...”
“ป้าเจ่งจะพูดอะไร จะหาว่าหนันแอบไปหาเขาอีกเหรอ หนันเปล่านะ”
“ป้าไม่ได้จะพูดอย่างนั้นซักหน่อย แค่จะถามว่าแน่ใจนะ ว่าไม่ได้คิดถึงมัน”
ปาหนันแอบถอนใจ
“ก็เปล่าอีกนั่นแหละ บอกแล้วไงว่าอยากกินเอง...ป้าเจ่งรีบทำซี่ เดี๋ยวหนันเป็นลูกมือ เร็วๆ”
เจ่งถอนใจ แต่ก็หันไปเตรียมของ ปาหนันอมยิ้ม กระวีกระวาดช่วยเหลือ สหัสยืนแอบมองอยูอย่างข้องใจ
+ + + + + + + + + + + +
ปาหนันถือปิ่นโต ใส่รองเท้า เตรียมออกจากบ้าน สหัสหลบมุมแอบมองอยู่ ปาหนันไม่รู้ตัว เดินออกไป สหัสรอครู่หนึ่ง จึงตามไปดู
ปาหนันออกมาขึ้นรถสองแถวที่หน้าปากซอย สหัสรีบเรียกมอเตอร์ไซค์รับจ้างตามไป
รถสองแถวจอดป้ายแถวหน้าตลาด มอเตอร์ไซค์ที่สหัสนั่งมาจอดตรงถนนฝั่งตรงข้าม สหัสมองไปเห็นปาหนันยังอยู่บนรถสองแถว สหัสมองอย่างแปลกใจ
“จะเข้าตลาด คุณหนันต้องลงป้ายนี้...ทำไมถึงไม่ลง”
“เอาไงต่อพี่”คนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างถาม
“ตามต่อไป”
มอเตอร์ไซค์จะตามออกไป พอดีรถของรสาขับตรงเข้ามาเกือบจะชน รสาบีบแตรลั่น มอเตอร์ไซค์เสียหลักล้ม รสาลงจากรถมามองอย่างตกใจ
“นี่ เป็นอะไรรึเปล่า ขับรถยังไง นึกจะออกก็ออก ไม่ดูรถเลย”
สหัสหันมา รสาชะงักไป
“นี่...นายอีกแล้วเหรอ...นายมาทำอะไรที่นี่”
สหัสรีบลุกขึ้นมา เห็นสองแถวของปาหนันไปไกลแล้ว สหัสรีบดึงคนขับมอเตอร์ไซค์ขึ้นมา
“ไปต่อเร็ว เดี๋ยวไม่ทัน”
คนขับมอเตอร์ไซค์ส่ายหน้า
“ไม่เอาแล้วพี่ แค่นี้ดีกว่า ผมคิดพี่ร้อยนึง รวมค่ายาแล้ว”
สหัสผิดหวัง แต่จำใจล้วงเงินออกมาให้ คนขับมอเตอร์ไซค์รับเงินแล้วก็ขับออกไป สหัสหันมองรสาอย่างหงุดหงิด
“เพราะคุณคนเดียวทำให้ผมตามคุณหนันไม่ทัน คุณต้องพาผมไปบ้านนาวิศ”
“พูดอะไรของนาย ฉันงงอ่ะ ตกลงนายตามปาหนันอยู่ แต่จะเปลี่ยนใจ ให้ฉันพาไปหาคุณนาวิศ...”
สหัสหน้าเครียด
“ผมสงสัยว่าคุณหนัน แอบนัดเจอกับนาวิศอีก”
รสาตกใจ
“ว่าไงนะ ฉันเตือนนายแล้วใช่ไหม ว่าให้เฝ้าปาหนันให้ดี อย่าให้ไวไฟนัก นี่อดไม่ได้ ต้องดอดไปหาคุณนาวิศอีกแล้ว”
สหัสบีบแขนรสาโกรธจัด
“ผมบอกแล้วไง อย่าพูดถึงคุณหนันอย่างนั้น”
รสาดิ้นหนี
“ปล่อยฉันนะ”
รสาผละหนี แต่ส้นสูงพลิกเสียหลัก เซล้ม สหัสรับตัวไว้ จึงเสียหลักล้มไปด้วยกัน รสาล้มทับอยู่บนตัวสหัสหน้าใกล้กัน รสาสบตาสหัส ตื่นเต้น หวั่นไหว...แล้วรู้สึกตัว รีบลุกออกมา
“บ้าที่สุดเลย นายทำอะไรของนาย”รสาต่อว่าแก้เขิน
“ผมช่วยคุณนะ”
“ทีหลังไม่ต้อง ฉันจะล้มก็ปล่อยให้ล้มไปเลย”รสาเขิน เดินหนี
“เฮ้ยคุณ...แล้วเรื่องคุณหนันกับนาวิศล่ะ”
“ฉันไปดูเอง”
รสาหนีขึ้นรถไป
“นี่คุณ...เดี๋ยวสิ”
สหัสจะตาม แต่รสารีบปิดประตู ล็อครถ แล้วขับออกไป
“เดี๋ยวก่อน...โธ่เว้ย”
สหัสตามไม่ทันยืนมองรถรสาที่วิ่งออกไปอย่างหงุดหงิด
รสาเปิดประตู รีบร้อนกลับเข้ามาในบ้าน มองหาปาหนัน แต่ทั้งบ้านเงียบ
“หรือว่าเราคิดมากไปเอง...ปาหนันจะรู้ได้ยังไง ว่าคุณนาวิศอยู่ที่นี่...ไม่น่าเชื่อนายนั่นเลย...”
รสาถอนใจโล่ง จะกลับออกไป แต่ได้ยินเสียงไมโครเวฟดีด “ติ๊ง” ดังมาจากในครัว รสาชะงัก
“คุณนาวิศลงมาแล้วเหรอ”
รสาเดินไปทางครัว เห็นด้านหลังของปาหนัน กำลังเตรียมอาหารเช้าให้นาวิศ รสาหวั่นใจ เดินเข้ามามอง ปาหนันหันมา ทั้งสองต่างชะงักไป
“ปาหนัน...เธอจริงๆด้วย นี่เธอมาทำอะไรที่นี่”
“ฉันมาทำงาน...”
“ทำงานอะไร”รสาเห็นปาหนันเตรียมอาหาร “หรือว่า...นี่อย่าบอกนะ ว่าเธอคือ...แม่บ้านของคุณนาวิศ”
ปาหนันไม่ตอบ หันไปเตรียมกับข้าวจานต่อไปใส่ไมโครเวฟ รสามองอึ้งไป
+ + + + + + + + + + + +
ธานีเปิดประตูบ้านที่ขังระรินเข้ามา ระรินนั่งอยู่ ลุกขึ้น ขยับตัวออกห่าง
“ว่าไงระริน ฉันมาเยี่ยมทั้งที ดูเธอไม่ยินดีเลยนะ”
“คุณมีธุระอะไรก็ว่ามาเถอะค่ะ ไม่ต้องทำเป็นพูดว่ามาเยี่ยมหรอก เราต่างก็รู้ไส้รู้พุงกันดีอยู่แล้ว”
ธานีหัวเราะ
“แหม...ระริน ถ้าเธอรู้เท่าทันฉันตั้งแต่ก่อนหน้านี้ ชีวิตคู่ของเราคงมีความสุขกว่านี้เยอะ...ฉันอยากให้เธอคุยกับน้องสาวเธอหน่อย รสาเขาจะได้ไม่ลืมหน้าที่ว่าเขาต้องทำอะไร”
ระรินฟังแล้วเครียดไปทันที
+ + + + + + + + + + + +
ปาหนันนำกับข้าวจานสุดท้าย ออกมาจากไมโครเวฟ เตรียมใส่ถาดจะออกไปตั้งโต๊ะ แต่รสาเข้ามาดึงถาดไว้
“เธอต้องการอะไรปาหนัน อยากทำให้คุณนาวิศเขากลับมารักเธอ อีกครั้งใช่ไหม ฉันจะบอกให้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพราะตอนนี้คุณนาวิศเขารักฉัน”
“ไม่ต้องมาโกหกฉันแล้ว ฉันรู้ความจริงหมดแล้ว”
รสาชะงักไป
“ความจริงอะไร”
“คุณนาวิศเขาไม่ได้รักเธอ...เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเคยรักใคร เพราะว่าเขาความจำเสื่อม”
รสาอึ้งไปที่ปาหนันรู้เรื่องหมดแล้ว พอดีเสียงมือถือดัง รสาหยิบมือถือออกมาดูแล้วชะงัก
“คุณธานี...”
ปาหนันได้ยินอย่างนั้นก็หน้าเสีย รสารีบสาย...
“เจอแม่บ้านนั่นรึยัง”
รสาเหลือบมองปาหนัน ปาหนันมองรสาอย่างหวั่นๆ รสาอึกอัก
“ยังไม่เจอเลยค่ะ เห็นคุณนาวิศบอกว่าแม่บ้านลาป่วยตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”
ปาหนันเห็นรสาพูดช่วย ก็โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง แต่ก็ยังหวั่นๆ
“แม่บ้านคนนี้มันลึกลับซับซ้อนจริงนะ...เอาเถอะ ฉันก็แค่จะโทรมาเตือนว่าพี่สาวเธออยู่ในมือฉัน จะทำอะไรก็ให้ระวัง”
รสาหน้าเสียหันมองปาหนัน
“คุณธานี รสารู้ว่าพี่รินอยู่ในกำมือคุณ แล้วรสาก็ไม่เคยคิดจะทำให้คุณนาวิศรู้ถึงความชั่วร้ายของคุณ เพราะฉะนั้น อย่าทำอะไรพี่ริน”
ธานีหัวเราะ
“ดีมาก...ฉันเองก็อยากให้เธอสบายใจ ว่าพี่สาวเธอยังอยู่ดีมีความสุข”ธานีหันถามระริน “จริงไหม ระริน”
ระรินกัดฟันแค้น ไม่ตอบคำ ธานียื่นมือถือให้ระริน
“เอ้า ระริน ทักทายน้องสาวหน่อย”
ระรินเม้มปาก เบือนหน้าหนี
“ฉันบอกให้เธอทักน้องสาวเธอไง”ธานีตวาด
ระรินนิ่ง ไม่ยอมส่งเสียง
“ที่ทำตัวมีปัญหาเนี่ย เรียกร้องความสนใจจากผัวใช่ไหม...ก็ได้...เมียจ๋า...”
ธานีดึงระรินเข้ามา หอมแก้มระรินแรงๆ ระรินเบือนหน้าหนีอย่างรังเกียจ
“อย่านะคุณธานี ออกไปให้พ้น”
ธานีหัวเราะสะใจ รสาได้ยินเสียงระรินกับเสียงธานีหัวเราะก็ตกใจ
“คุณธานี คุณทำอะไรพี่ริน คุณธานี...”
“ฉันจะไม่สั่งเสียอะไรมากแล้ว...เธอดูนาวิศให้ดี อย่าทำให้มันสงสัยฉัน หรือสงสัยเรื่องอุบัติเหตุของมัน ไม่งั้นพี่สาวเธอจะเดือดร้อน”
รสาหน้าเครียด พูดไม่ออก
+ + + + + + + + + + + +
ธานีวางสาย หันมายิ้มเย้ย ระรินมองธานีอย่างโกรธเกลียด ชิงชัง
“ฉันไม่กวนแล้วนะจ๊ะ เมียจ๋า...”
ธานีจะเดินออกไป พอดีแม่บ้านถือถาดอาหารมาให้ระริน แม่บ้านเห็นธานีก็มีท่าทีตกใจมาก ลอบมองหน้ากับระรินที่หน้าตื่น มองที่ถาดอาหาร ธานีเห็นอาการแม่บ้านกลัวๆเกรงๆอย่างประหลาด ถึงกับยืนชะงัก ระรินรีบเบี่ยงประเด็น
“หน่อย เอาถาดอาหารไปวางที่โต๊ะสิ”
สาวใช้ถือถาดเข้ามา มือสั่นๆจนได้ยินเสียงจานช้อนกระทบกัน ธานีรู้สึกผิดสังเกต
“เป็นอะไรหน่อย”
สาวใช้พูดไม่ออก ระรินรีบแก้ตัวแทน
“หน่อยบ่นไม่สบายตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”ระรินหันไปบอกหน่อย “ไม่สบายก็ไปพักเถอะไป หน่อย”
สาวใช้ขยับตัวจะออกไป ธานีรีบเรียกไว้
“เดี๋ยว!”
ธานีมองที่ชามข้าวต้ม เดินเข้ามาใกล้ ระรินกับหน่อยแอบลอบมองกันอย่างตื่นกลัว ธานีเอื้อมมือเปิดฝาชามข้าวต้ม แต่พบว่าเป็นข้าวต้ม ไม่มีอะไรผิดปกติ
“แกเป็นอะไรของแก หน่อย”ธานีถามเสียงเข้ม
ระรินรีบพูดแทรก
“ก็บอกแล้วไงคะว่าหน่อยไม่สบาย”
ธานีจ้องมองนายบ่าวอีกครั้ง แต่เห็นว่าไม่มีอะไรก็หันหลังออกไป ประตูบ้านปิดลง ระรินรีบคว้าช้อนมาตักชามข้าวต้ม ล้วงลึกจนเจอถุงห่อมือถืออยู่ด้านล่าง รีบนำมาเช็ด เปิดถุงออก หยิบมือถือมายิ้มพอใจ
“ดีมากหน่อย ที่เธอทำตามที่ฉันบอก”
ระรินมองมือถืออย่างมีความหวัง ระรินรีบเข้ามาในห้อง กดมือถือแล้วรอสาย
“คุณวิรัช...ฉันระรินนะคะ ฉันมีเรื่องอยากให้คุณช่วย”
“มีเรื่องอะไรรึเปล่าครับ”
“รินอยากให้คุณช่วยสืบว่าคุณธานีกำลังทำอะไร ทำไมเขาต้องให้คุณนาวิศไปต่างจังหวัดด้วย...รินไม่รู้จะขอร้องใคร คุณต้องช่วยรินสืบเรื่องนี้นะคะคุณวิรัช”
ระรินบอกอย่างร้อนรน
+ + + + + + + + + + + +
รสาจูงปาหนันเดินออกมาคุยที่มุมหนึ่งหลังบ้าน รสาบ่นอย่างหงุดหงิด
“ได้ยินแล้วใช่ไหม คุณธานีเขาสงสัยเธอแล้ว จริงๆแล้วเขาเจาะจงให้ฉันมาดูเลยล่ะ ว่าแม่บ้านที่คุณนาวิศจ้างน่ะ เป็นใคร”
ปาหนันอึ้งไป
“ท...ทำไมคุณธานีถึงสงสัยล่ะ”
“แล้วฉันจะรู้ไหมล่ะ เขาอาจจะเซ้นท์ดีเกินเหตุก็ได้ แต่ที่สำคัญ ถ้าเขารู้ขึ้นมาเมื่อไหร่ว่าแม่บ้านของคุณนาวิศคือเธอ เราทุกคนได้เดือดร้อนกันหมดแน่”
“แล้วถ้าฉันทำให้คุณนาวิศความทรงจำกลับมาได้ล่ะ...”
“เธอรับรองได้เหรอ เธอเจอคุณนาวิศมากี่ครั้งแล้ว แล้วเขาแสดงอาการจำได้ขึ้นมาบ้างรึยัง ฉันเสี่ยงกับเธอไม่ได้ ไปจากที่นี่ซะ”
รสาเดินกลับเข้ามาในครัว ปาหนันตามมาง้อ
“ขอร้องล่ะ ให้ฉันได้พยายามซักครั้งเถอะนะ ฉันเชื่อนะ ถ้าให้เวลาฉันหน่อย ฉันต้องดึงความทรงจำของคุณนาวิศกลับมาได้”
“แล้วถ้าคุณธานีรู้เรื่องเธอเข้าซะก่อนล่ะ”
รสากลับไปเตรียมกาแฟให้นาวิศ ปาหนันเดินตามง้อ
“รสา...”
รสาหันมาดุ
“บอกแล้วไงว่าไม่ได้ ชีวิตพี่รินอยู่ในมือคุณธานี ฉันเสี่ยงไม่ได้ รอให้ฉันกลับไปพาพี่รินหนีแล้วเธอจะทำอะไรก็เรื่องของเธอ”
“ถึงตอนนั้นคุณนาวิศก็คงกลับกรุงเทพด้วยเหมือนกัน แล้วฉันจะเจอเขาได้ยังไงล่ะ”
“นั่นมันปัญหาของเธอ ไม่ใช่ฉัน”
ปาหนัน ไม่พอใจ
“เธอนี่แล้งน้ำใจจริงๆ”
ปาหนันเดินไปเตรียมอาหารตั้งโต๊ะ รสาไม่พอใจ
“จะทำอะไร”
“ฉันไม่ไป จนกว่าคุณนาวิศจะไล่ฉันเอง”
นาวิศเดินเข้ามากำลังมาที่ครัว ได้ยินเสียงคนคุยกันก็นึกแปลกใจ ขณะเดียวกัน ปาหนันเตรียมยกอาหารออกไป รสาตามมายื้อไว้
“เธอนี่พูดไม่รู้เรื่องรึไง”
“ก็บอกแล้วว่าฉันไม่ไป จนกว่าคุณนาวิศจะไล่”
“ต้องการอย่างนั้นใช่ไหม...ได้...”
รสาคว้าจานอาหารเทลงพื้น ปาหนันตกใจ
“จะทำอะไรน่ะ...หยุดนะ”
นาวิศเดินเข้ามา
“เอะอะโวยวายอะไรกัน”
นาวิศเห็นสภาพครัวที่เละเกลื่อนก็แปลกใจ
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย”
รสารีบใส่ร้ายปาหนันทันที
“แม่บ้านของคุณน่ะสิคะ ซุ่มซ่ามมากๆ ไม่รู้เดินอิท่าไหน อยู่ๆก็เทกระจาดกับข้าวหมดเลย”
ปาหนันมองรสาอึ้งๆ รสาแกล้งเมิน ไม่สนใจ
“ช่างเถอะนะคะ ถึงยังไงกับข้าวก็ไม่น่ากิน เราออกไปหาอะไรอร่อยๆทานดีกว่านะคะ”รสาหันไปบอกปาหนัน “เธอเก็บครัวให้เรียบร้อยแล้วกันนะ ฉันกับคุณนาวิศจะออกไปทานข้างนอก...ไปค่ะ”
รสาควงแขนนาวิศออกไป นาวิศเหลือบมองปาหนัน ปาหนันได้แต่ก้มหน้า ถอนใจ
อ่านต่อหน้าที่ 2
ตอนที่18(ต่อ)
วิรัชเดินเข้ามาหน้าห้องทำงานธานี เลขาธานีเงยหน้ามอง เห็นวิรัชเข้ามาก็ยกมือไหว้
“คุณธานีอยู่หรือเปล่า”
“อยู่ค่ะ แต่ท่านมีแขก คุณวิรัชมีเรื่องด่วนหรือเปล่าคะ”
“ไม่เป็นไร ผมรอได้...เออ รบกวนช่วยถ่ายเอกสารให้ผมหน่อยได้ไหม”
วิรัชยื่นกระดาษหลายแผ่นให้เลขา
“ซักครู่นะคะ”
เลขานำกระดาษเอกสารของวิรัชออกไป วิรัชมองตมครู่หนึ่ง รีบลุกไปแง้มประตูห้องทำงานธานี
ธานีนั่งคุยกับลินซี่อยู่ที่โต๊ะทำงาน ทนายของบริษัทฝรั่งนั่งอยู่ด้วย
“ห้าพันล้าน...แล้วคุณจะได้เป็นเจ้าของอาณาจักรเทพสุทธิพงศ์ทั้งหมด”ธานียื่นเอกสารให้ “ผมร่างสัญญาซื้อขายไว้แล้ว ทางคุณลองตรวจทานดูก่อนก็ได้นะ”
วิรัชมองเข้ามา ได้ยินได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องก็ตกใจผละออกมา อย่างครุ่นคิด ชาติเดินเข้ามา มองทางด้านหลังของวิรัช ชาติเอะใจ วิรัชรีบเดินออกไปจากประตูห้องทำงานธานี พอดีกับเลขาเดินกลับมา
“เอกสารที่ซีล็อกซ์รอซักครู่นะคะ สั่งเด็กจัดการอยู่ค่ะ”
“ไม่ต้องแล้ว”
วิรัชรีบร้อนเดินออกไป เลขางง
“ไม่รอพบคุณธานีแล้วเหรอคะ”
วิรัชรีบเดินไป ไม่ได้หันมาตอบ ชาติรู้สึกไม่ชอบมาพากล รีบเดินมาเคาะประตูห้องธานีแล้วเปิดเข้าไป
“ขอโทษครับคุณธานี ผมขอขัดจังหวะครู่นึงครับ”
ธานีมองชาติอย่างแปลกใจ
+ + + + + + + + + + + +
วิรัชเดินออกมาที่ลานจอดรถอย่างร้อนใจ ธานีกับชาติเดินตามมา ทั้งสองเร่งฝีเท้าเข้ามาที่วิรัช วิรัชหยิบมือถือมากด รอสาย โดยไม่รู้ว่ามีคนตามมา
“ฮัลโหล คุณระรินครับ...”
ระรินพูดมือถืออย่างร้อนรน
“ค่ะ คุณวิรัช...เป็นยังไงบ้างคะ ได้เรื่องอะไรรึเปล่า”
ขณะเดียวกัน รถคันหนึ่งกำลังแล่นมา วิรัชเดินมาหยุดรอรถ
“ผมคิดว่ามีปัญหาแล้วล่ะครับ...”
ธานีพยักหน้าให้ชาติจัดการ ชาติเดินเข้ามาทางด้านหลังวิรัช กระแทกวิรัชจนเสียหลัก เซไปข้างหน้า มือถือในมือวิรัชกระเด็นหลุดมือ รถกำลังแล่นเข้ามา วิรัชมองรถอย่างตกใจ ชาติดึงตัววิรัช กระชากกลับมา รถแล่นผ่านไป วิรัชหันมามองอย่างตกใจ
“คุณธานี...”
ธานียิ้ม
“ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคุณวิรัช พอดีลูกน้องผมเซไปชนคุณเข้า”
ระรินแปลกใจที่สายตัดไป
“คุณวิรัช...ยังอยู่รึเปล่าคะ...คุณวิรัช...”
ระรินแปลกใจที่สายหลุดไป วิรัชหันไปมองที่ถนน มือถือของเขาแตกเป็นชิ้นตกอยู่
“มือถือคุณ ผมจะชดใช้ให้แล้วกันนะ...แต่เมื่อกี๊คุณกำลังโทรหาใคร ธุระสำคัญรึเปล่า...ใช้เครื่องผมก่อนไหม”
“ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องชดใช้ให้ผมหรอก แล้วกันไปเถอะ”
วิรัชเดินหัวเสียออกไป ธานีหรี่ตามองตาม
+ + + + + + + + + + + +
ปาหนันมองผักสด เนื้อสัตว์ มีด เขียงบนโต๊ ของที่เธอเตรียมไว้หน้ามุ่งมั่น ปาหนันลงมือเตรียมทำกับข้าว รำพึงในใจ
‘…ยังไงหนันก็จะให้พร้าวได้กินอาหารใต้ที่พร้าวเคยกิน...เมื่อก่อนพร้าวคุ้นเคยกับมัน หนันจะทำให้พร้าวจำให้ได้ ว่าหนันนี่แหละ ที่เป็นคนถือปิ่นโตไปส่งพร้าวทุกวัน…’
ค่ำนั้น นาวิศกับรสากลับเข้ามา รสาท่าทางเมื่อยขา เข้ามาทิ้งตัวลงนั่ง
“โอย...ปวดเมื่อยไปหมดเลยค่ะ ไม่คิดว่าจะต้องเดินเยอะขนาดนี้”
“ก็คุณเองไม่ใช่เหรอที่ชวนไปดูที่ของพ่อผม บอกว่าไม่อยากกลับบ้าน”
รสายิ้มแหย
“ก็อยู่บ้านเฉยๆ รสากลัวเบื่อนี่คะ”
“ผมไม่เข้าใจเลยนะรสา คุณเหมือนไม่อยากมาที่นี่ แต่ก็ต้องมา...กลัวเหนื่อย แต่ก็ไม่อยากอยู่บ้าน เป็นอะไรของคุณกันแน่”
รสายิ้มเจื่อนๆ
“ก็รสา...”
รสาอึกอัก ปาหนันออกมาจากครัว
“กลับมาแล้วเหรอคะ ทานอะไรกันมารึยังคะ”
รสาอึ้งๆ
“เธอ...นี่เธอยังไม่กลับไปอีกเหรอ”
“นั่นสิบุหงา ทำไมวันนี้อยู่ซะค่ำ”นาวิศถามอย่างแปลกใจ
“ดิฉันอยู่เตรียมอาหารค่ำไว้ให้น่ะค่ะ กลัวพวกคุณกลับมาหิว”ปาหนันบอกเรียบๆ
“เรากินมาแล้ว เธอเก็บกับข้าวของเธอกลับไปเลย”รสาสั่งเสียงแข็ง
“ยกมาเถอะ ฉันยังกินได้อีก”นาวิศบอก
รสาร้อนใจ แต่พูดไม่ออก ปาหนันยิ้มดีใจ
“เดี๋ยวดิฉันเตรียมตั้งโต๊ะให้นะคะ”
รสาคิดนิดนึงแล้วรีบบอก
“คุณนาวิศขึ้นไปอาบน้ำก่อนสิคะ รสาจะช่วยแม่บ้านตั้งโต๊ะ คุณลงมาจะได้กินเลย”
ปาหนันจะเข้าครัว พอได้ยินว่ารสาจะตามมาช่วย ปาหนันก็หันมองอย่างระแวง...รสาตามเข้ามาในครัว แต่เจอปาหนันที่ยืนขวางอยู่
“คราวนี้ฉันจะไม่ยอมให้เธอเทกับข้าวฉันทิ้งแล้วนะ”
“ห้ามได้เหรอ”
รสาดันปาหนันหลบทาง แล้วเบี่ยงตัวเข้าไปในครัว ปาหนันตามไปดึงตัวไว้
“ไม่กลัวคุณนาวิศเขาสงสัยมั้งเหรอ ว่าเธอเข้าครัวทีไร กับข้าวฉันเป็นอันต้องหกเกลื่อนพื้นทุกที”
“ก็เธอมันซุ่มซ่ามไง คุณนาวิศเขาไม่สงสัยหรอก”
รสายิ้มเย้ย จะเข้าไปเทอาหารปาหนันทิ้ง ปาหนันตามไปยื้อไว้
“เธอแกล้งฉันทำไม รสา”
“เธอบอกเองไม่ใช่เหรอว่าจะให้คุณนาวิศไล่เธอเอง เธอถึงจะยอมไป ฉันก็จะทำให้คุณนาวิศไล่เธอ”
รสาจะเข้าไปเทอาหารของปาหนันทิ้ง ปาหนันขวางไว้
“อย่านะ”
ปาหนันจะเข้าไปเอาตัวบังกับข้าวที่ทำไว้ เลยเบียดเอารสากระเด็น รสาเสียหลัก มือป่ายไปโดนชามน้ำแกงหกราดขา
“โอ๊ย!”
ปาหนันตกใจ รีบเข้ามาดู
“เป็นอะไรรึเปล่า”
นาวิศได้ยินเสียงเดินเข้ามาดู
“ใครเป็นอะไรน่ะ”
“คุณนาวิศคะ แม่บ้านคุณแกล้งรสา...ทำไมต้องทำขนาดนี้ด้วย ไม่พอใจอะไรก็น่าจะบอกกันได้นี่ โอ๊ย แสบไปหมดเลย”
ปาหนันอึ้งไป ไม่คิดว่ารสาจะแกล้งมารยาแบบนี้
+ + + + + + + + + + + +
นาวิศทายาที่ขาให้รสา รสาแกล้งเจ็บเกินเหตุ
“โอ๊ย...เบาๆค่ะ เจ็บมาก...”
ปาหนันยืนมองอยู่มุมห้องอย่างหนักใจ นาวิศหันมาหาปาหนัน
“เอาล่ะบุหงา เธอจะบอกได้รึยัง ว่าทำไมต้องทำกับรสาเขาอย่างนี้”
“ดิฉันไม่ได้ทำอะไรค่ะ”
“ไม่ได้ทำอะไรแล้วฉันจะเจ็บตัวแบบนี้ได้ยังไง เธอหาว่าฉันเทน้ำแกงร้อนๆใส่ขาตัวเองเหรอ”รสาโวยวาย
“ดิฉันไม่ได้หาว่าอะไรทั้งนั้น ดิฉันแค่บอกว่าดิฉันไม่ได้ทำ”ปาหนันโต้เสียงแข็ง
รสารีบอ้อนนาวิศ
“ดูสิคะคุณนาวิศ ดูแม่บ้านของคุณพูดกับรสา ทำไมถึงได้ก้าวร้าวอย่างนี้ รสาไม่ยอมนะคะ”
“ใจเย็นๆก่อน รสา ถือว่าเป็นอุบัติเหตุแล้วกัน เลิกแล้วกันไปเถอะนะ”นาวิศตัดบท
“ไม่เลิกค่ะ” รสาต่อว่าปาหนัน “ทำคนอื่นเขาแล้วไม่ยอมรับผิด แถมยังมาเถียงเสียงแข็งอีก ไม่รู้ว่าใครเป็นนายใครเป็นลูกจ้าง...แบบนี้รสารับไม่ได้ คุณนาวิศต้องไล่แม่บ้านคุณออกค่ะ ไม่งั้นรสาไม่ยอม”
“เรื่องเข้าใจผิดกัน ทำไมต้องถึงกับไล่ออกด้วย”นาวิศหันไปหาปาหนัน “เอาล่ะบุหงา ขอโทษคุณรสาซะ เรื่องจะได้จบ”
ปาหนันไม่ยอม หันไปที่รสา
“คุณรสา ยอมรับเถอะค่ะ ว่าดิฉันไม่ได้ทำร้ายคุณ”
รสาแกล้งอ้อนนาวิศ
“คุณนาวิศ ดูสิคะ”
“ปาหนัน ฉันบอกให้ขอโทษคุณรสา”นาวิศสั่งเสียงแข็ง
“ไม่ต้องขอโทษค่ะ ไล่ออกไปเลย”รสายุ
ปาหนันน้อยใจ ทั้งที่มีเจตนาจะช่วยให้นาวิศความจำกลับมา ผิดกับรสาที่ขัดขวาง
“ถ้าคุณเชื่อคู่หมั้นคุณมากกว่าเชื่อความจริง คุณก็ไล่ดิฉันออกเลยก็ได้ค่ะ”
นาวิศเหนื่อยใจ
“บุหงา พอที ฉันแค่ต้องการให้เธอขอโทษรสา เรื่องมันจะได้จบๆไป เธอจะหัวแข็งอวดดีไปเพื่ออะไร”
ปาหนันไม่ยอม
“เพราะดิฉันอยากให้คุณใช้ความรู้สึกของคุณตัดสินว่าอะไรจริง อะไรหลอก ไม่ใช่เชื่อทุกอย่าง ตามที่คนข้างกายคุณบอกให้เชื่อ เพียงเพราะคุณความจำเสื่อม”
นาวิศนิ่งอึ้งไป ปาหนันไม่รู้จะพูดอะไรอีก ได้แต่วิ่งออกไปอย่างเจ็บปวด นาวิศจะตาม แต่รสาดึงไว้
“คุณนาวิศ...”
นาวิศหันมองรสา ความรู้สึกของเขาบอกว่าแม่บ้านบุหงาสำคัญกว่า
“รสา...ผมจะลองเชื่อความรู้สึกตัวเอง...ขอโทษนะ”
นาวิศดึงมือออก แล้วตามปาหนันไป รสาจะตามออกไป แต่เจ็บขาที่โดนน้ำร้อนลวก
“โอย...คุณนาวิศ...”
รสามองตามไปหน้าเสีย
+ + + + + + + + + + + +
ระรินพยายามต่อมือถือหาวิรัช แต่ติดต่อไม่ได้
“เกิดอะไรขึ้นนะ ทำไมอยู่ๆก็ติดต่อคุณวิรัชไม่ได้”
ทันใดนั้นประตูเปิดผ่างเข้ามาอย่างแรง ระรินตกใจ รีบซ่อนมือถือไว้ข้างหลัง ธานีเดินนำชาติเข้ามา ระรินมองหวั่นใจ ธานีเห็นความผิดปรกติ เดินเข้ามาใกล้ ระรินยังคงซ่อนมือถือไว้ด้านหลัง ธานีดึงมือระรินออกมา
“ปล่อยนะ คุณธานีจะทำอะไรริน...ปล่อย”
ทั้งสองยื้อกันครู่หนึ่ง ก่อนที่ธานีจะดึงมือถือออกมาจากมือระรินได้สำเร็จ ธานีมองมือถือ แล้วเงยหน้ามองระริน หน้าดุ ก่อนจะขว้างมือถือทิ้งอย่างโมโหฉุนเฉียว ระรินสะดุ้งตกใจ
“นี่เธอแอบติดต่อวิรัชใช่ไหม...”ธานีเข้าไปบีบแขนระริน “เธอบอกอะไรวิรัช พูดมา”
“แล้วคุณล่ะคะ กำลังทำอะไร คุณหลอกคุณนาวิศไปต่างจังหวัดอีกทำไม”
ธานีผลักระริน
“เธอไม่มีสิทธิถามตอบมา ว่าเธอบอกอะไรวิรัช”
ระรินยิ้ม
“อยากรู้ก็ไปถามทนายวิรัชสิคะ”
ธานีโมโห
“ระริน!”
ธานีเงื้อมือจะตบ ระรินยื่นหน้าท้าทาย
“เอาเลย จะฆ่ารินเลยก็ได้ ตำรวจจะได้ให้ความสนใจคุณเป็นพิเศษ...พี่ชายตาย หลานชายประสบอุบัติเหตุ แล้วเมียก็มาตายไปอีกคน รินไม่กลัวหรอกนะ ตายๆไปเลยก็ดี รสาจะได้กล้าบอกความจริงคุณนาวิศซะที”
ธานีใช้หลังมือตบหน้าระรินอย่างแรง ระรินหน้าหัน
“ฆ่าเธอเหรอ... มันจะปราณีเกินไป”ธานีหันไปสั่งชาติ “เอายามา”
ระรินหน้าตื่น เริ่มกลัวขึ้นมา ชาติส่งเข็มฉีดยาให้ธานี ธานีรับมาดู ไม่สมความแค้นที่มีต่อระริน เดินไปเปิดกล่องยา ธานีที่วางเข็มที่ชาติส่งให้ลงแล้วหยิบเข็มที่ใหญ่กว่า ดูดยาจากขวด ระรินนิ่งกลัวหวาดหวั่น ธานีดูดยาใส่เต็มหลอด หันมองระรินด้วยสายตาเหี้ยม ระรินรู้สึกตัว จะลุกหนี แต่โดนชาติกับลูกน้องล็อคตัวไว้ ธานีย่างสามขุมเข้าหาระริน
“ไม่ว่าเธอจะบอกอะไรวิรัชไป คำพูดของเธอ จะกลายเป็นแค่ลมปากของนังผู้หญิงบ้า สติไม่ดี...คำพูดของคนบ้ามันใช้การไม่ได้ในศาล ให้การกับตำรวจก็ไม่ได้...ความพยายามของเธอ มันสูญเปล่าแล้ว ระริน”
ธานีฉีดยาที่แขน ระรินพยายามสะบัดหนี
“ไม่...ปล่อยฉัน...ปล่อยยยย...”
ธานีหน้าเหี้ยม ฉีดยาเข้าไปจนหมดอยู่ๆระรินก็ตาเหลือกเกิดชักขึ้นมา ธานีตกใจ
“อะไรวะเนี่ย”
“คงจะช็อคเพราะได้รับยาเกินขนาดน่ะครับ”
สาวใช้เข้ามา
“คุณธานีคะ ทนายวิรัชมาขอพบค่ะ”
ธานีหัวเสีย
“โธ่เว้ย! อะไรกันนักหนาวะ”
ธานีหน้าเครียด
จบตอนที่ 18
ติดตามอ่านตอนต่อไป พรุ่งนี้ เวลา 9.30 น.