xs
xsm
sm
md
lg

รอยไหม ตอนที่ 20

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ติดตามอ่านละครออนไลน์ได้ทาง www.manager.co.th ทุกเช้าเวลา 09.30น.
รอยไหม ตอนที่ 20

พระฉันเพลเสร็จไปแล้ว กำลังสวดให้พร ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า เจ้าหลวงกับพระชายาอยู่แถวหน้า ถัดไปด้านหลังมณีรินอยู่ด้านขวาศิริวัฒนา บัวเงินอยู่ด้านซ้าย ศิริวงศ์เฝ้าสังเกตศิริวัฒนาซึ่งดูเบลอๆ ส่วนบัวเงินกระวนกระวายขยับตัวหลายครั้ง แต่พยายามไม่ให้ผิดสังเกต เพราะในช่วงเวลานั้น ได้สั่งให้เม้ยแอบไปที่เรือนมณีริน ทางด้านศิริวงศ์ได้สั่งให้สล่าพันไปที่ห้องนอนศิริวัฒนาเช่นกัน เมื่อสล่าพันตลบที่นอนขึ้น จึงได้เห็นตุ๊กตาไม้คนคู่ ที่ผูกติดเอาไว้ด้วยกัน สล่าพันหยิบขึ้นมาดู

พระพรมน้ำมนต์ไปทั่วๆทุกคน เริ่มจากพรมลงบนเจ้าหลวงกับพระชายา จากนั้น น้ำมนต์ถูกพรมเข้าใส่ศิริวัฒนาเต็มๆ ศิริวัฒนาสะดุ้งเล็กน้อย ศิริวงศ์มองลุ้นว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง บัวเงินนิ่งเฉยถูกน้ำมนต์กระเซ็นใส่บ้าง บัวเงินยกมือขึ้นจรบรับพร มณีรินยกมือขึ้นจรบรับพร

ด้านเม้ยพยายามหาเส้นผมมณีริน กวาดควานมือไปทั่วๆ เผื่อจะเจอเส้นผมมณีรินสักเส้นแต่ก็ไร้ผล เสียงคนเดินมา เม้ยรีบหาที่ซ่อน แต่จวนตัวรีบมุดคานเข้าไปใต้เตียง บริวารเอาผ้าซิ่นและเสื้อที่ทำความสะอาดแล้ว เข้ามาใส่หีบ เม้ยนอนซุกอยู่ในที่แคบใต้เตียงอย่างอึดอัด บริวารกลับออกไป เม้ยสิ้นหวัง ในภารกิจ ตะกายออกมาจากเตียง หาทางออกไปจากห้อง จะออกทางประตูก็ไม่ปลอดภัยแน่ เม้ยพุ่งมาที่หน้าต่าง แล้วคิดไม่นาน ตัดสินใจ ตะกายออกทางหน้าต่างกระโดดลงไป

หลังจากรับพรเสร็จ ศิริวงศ์รีบลงจากตึก เมื่อมาถึงด้านหน้า พบว่าสล่าพันยืนคอยอยู่แล้ว
“เป๋นจะใดอ้าย”
“เจ้าผ่อเอาเองละกั๋น เฮาเจอมันใต้ตี้นอนเจ้าเปิ้น”
สล่าพันแบมือให้ดู ศิริวงศ์มอง ตุ๊กตาไม้คู่ในมือสล่าพันแล้วอึ้งไป

+ + + + + + + + + + + +

พระชายาพาศิริวัฒนากลับเข้ามาในห้อง
“วันนี้ได้ทำบุญแล้ว แม่สบายใจ๋ขึ้นจ๊าดนัก บุญกุศลอันใดตี้เกิดขึ้น แม่ขอยกหื้อลูกทั้งหมด ขอหื้อลูกของแม่หายเจ็บหายไข้ มีแต่สิ่งมงคลเกิดขึ้นกับลูกเน้อ”
ศิริวัฒนาไหว้รับพรแม่
“พักผ่อนเสีย อยากได้อะหยังก่อบอกบัวเงินเน้อ”
“เจ้า”
พระชายาออกจากห้องไป ศิริวัฒนาจะเดินไปห้องน้ำ
“เจ้าอ้ายจะไปไหนเจ้า”
“อ้ายอยากล้างมือล้างหน้า”
“น้องจะปาไป”
“ห้องน้ำอยู่แค่นี้เอง อ้ายไปเองได้ อ้ายทำตั๋วเป๋นภาระใครต่อใครมานัก แล้วอ้ายฮู้สึกบ่ดี อ้ายสมเพชตั๋วเองจะใดก่อฮู้ เจ้าเองก่อกลับไปพักผ่อนตี้เฮือนเจ้าก่อได้ บ่ต้องเป๋นห่วงปี้หรอก”
ศิริวัฒนาเดินออกไป บัวเงินรู้สึกว่าศิริวัฒนาเปลี่ยนไป แปลกใจและเฉลียวใจ บัวเงินรีบตรงไปที่เตียงยกเปิดที่นอนขึ้นมองหาแล้วต้องซีดเผือด เพราะตุ๊กตาไม้คนคู่หายไปเสียแล้ว บัวเงินตกใจรีบตรงไปที่ประตูทันที
บัวเงินเปิดประตูออกมา แล้วต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นมณีรินยืนอยู่หน้าห้องพอดี
“สุมาเต๊อะ ถ้าเฮาทำหื้อเอื้อยตกใจ๋”
“เจ้านางน้อยมีอะหยัง”
“เฮามีธุระกับเจ้าเปิ้นนิดหน่อย”
“เจ้าเปิ้นเหนื่อย...หลับไปแล้ว เจ้านางมาทีหลังเต๊อะ”
“ความจริงธุระของเฮาก่อบ่ได้สำคัญอะหยังนัก แค่จะคืนของเปิ้นเต่าอั้นเฮาฝากเอื้อยไว่ก่อได้”
มณีรินยื่นแหวนทับทิมส่งให้ บัวเงินเห็นแหวนรับไว้ทันทีไม่รีรอลังเล
“เฮาฝากคืนเปิ้นตวย...ขอบใจ๋เน้อ”
มณีรินยิ้มให้แล้วเดินจากไป บัวเงินดีใจแทบกระโดด ที่ได้ของที่ตนเองต้องการคืนมาแล้ว

+ + + + + + + + + + + +

บัวเงินกลับมาที่เรือน เม้ยที่รออยู่รายงานทันที
“กว่าเม้ยจะกลับออกมาได้เม้ยต้องเสี่ยงชีวิตแทบต๋าย แต่เม้ยก่อกัดฟัน ในใจ๋เม้ยคิดแต่ว่า ต้องทำเพื่อหม่อมหื้อได้เจ้า”
“มึงบ่ต้องฮู้นัก มึงได้ของมาก่อดีแล้วจะได้ออกไปกั๋นวันนี้เลย”
“เม้ย...เม้ยบ่ได้อะหยังติดมือมาซักอย่างเดียว กะเจ้าหม่อม”
“มึงว่าอะหยังนะอีเม้ย”
“เฮือนอีมณีริน มันสะอาดหมดจดขี้ฝุ่นขี้ผงซักละอองเดียว ยังบ่มีเลยเจ้า”
“มึงบ่ได้ผม ได้เล็บอีมณีรินมา”
“เม้ยผิดไปแล้ว เม้ยบ่ดีเอง เม้ยสมควรต๋ายด้วยน้ำมือหม่อมเจ้า”
“มึงจะบ่ได้ต๋ายด้วยน้ำมือกูหรอกอีเม้ย แต่หัวมึงจะหลุดจากบ่าด้วยอาญาแผ่นดิน...มีคนฮู้ว่ามึงกับกูกำลังยะอะหยังกั๋นอยู่”
“อีมณีริน...ต้องเป๋นอีมณีรินแน่ๆเจ้า คนเล่นของเหมือนกั๋น มันต้องฮู้ๆกั๋นอยู่”
“มึงฮู้ก่อ...ของใต้ตี้นอนผัวกูมันหายไปแล้ว”
เม้ยตกใจ
“แต๊ก๊ะเจ้าหม่อม”
“กูสงสัยแต่แรกแล้วว่ามนต์กูเสื่อม กูสั่งอะหยัง เจ้าอ้ายก่อขัดกำสั่งบ่ฟังกู”
“แน่แล้วกะเจ้าหม่อม ต้องเป๋นอีมณีริน”
“แต่จะใดมันเอาแหวนมาคืน”
“หม่อมอย่าสวมทีเดียวนะเจ้า เม้ยว่ามันต้องลงอาคมใส่แหวนวงนั้นแน่ๆ หม่อมอย่าได้หลงกลมันเด็ดขาด”
“กูจะกลับไปหาไอ้หมอ...จะใดกูก่อต้องกำจัดอีมารหัวใจ๋ มารชีวิตกูหื้อได้”
เม้ยรีบนำบัวเงินลงเรือมา แล้วต้องเบรกหัวทิ่มเพราะศิริวงศ์ยืนขวางทางอยู่
“หายป่วยแล้วกะนังเม้ย หันเอื้อยบัวเงินเปิ้นบอกว่าเอ็งบ่ค่อยสบาย”
“หายแล้วกะเจ้า...เจ้าน้อย”
“หันทีว่าจะได้ยาดีละมัง แล้วนี่รีบร้อนไปไหนกั๋น”
บัวเงินรีบปรับสีหน้าไม่ให้มีพิรุธ
“บ่ได้ไปไหนหรอก เจ้าน้อย ปี้ก่อจะรีบขึ้นตึกไปดูแลเจ้าอ้ายเปิ้น”
“วันนี้เปิ้นสบายขึ้นจ๊าดนัก เหมือนจะหายเป๋นปกติแล้ว”
“ตุ๊เจ้าเปิ้นมาปัดรังควานหื้อแต๊ๆสาธุ”
“ท่าทางเอื้อย ก่อเป็นคนเจื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษเนาะ”
“ไผทำดีก่อได้ดี ไผทำชั่วก่อไดชั่วคืนสนองเจ้า”เม้ยเจื้อยแจ้ว
ศิริวงศ์ยิ้มเหยียด
“ขอบใจ๋เน้อ นังเม้ย”
“เจ้าน้อยจะอู้อะหยังก่ออู้มาตามตรงเต๊อะ” บัวเงินเสียงแข็ง
“เอื้อยก่อฮู้ว่า เฮาอู้เรื่องอะหยังอยู่”
“ปี้บ่เข้าใจ๋”
“ตี้ผ่านๆไปแล้วก่อหื้อมันแล้วกั๋นไป เฮาก่อนับถือเอื้อยเป๋นเอื้อยของเฮาคนนึง เฮาบอกตั๋วเองเสมอว่าคนเฮาหลงผิดกั๋นได้ เพราะอารมณ์ชั่ววูบ เฮาถึงเก็บเรื่องนี้ไว้บ่ยอมหื้อไผฮู้เด็ดขาด...เอื้อยบ่ต้องขอบใจ๋เฮาหรอก แค่หยุดทุกอย่างไว้แค่นี้ อย่าหื้อเป๋นเวรเป๋นกรรมแก่กั๋นและกั๋นเลย ถึงเอื้อยจะเป๋นได้แค่หม่อมของเปิ้น เจ้าอ้ายเปิ้นก่อบ่คิดจะทอดทิ้งเอื้อยหรอก”
บัวเงินไม่พอใจ
“เจ้าน้อยบ่ฮู้จักความฮัก เจ้าน้อยจะมาเข้าใจ๋ปี้ได้จะใด”
“เฮาบ่ฮู้หรอกว่าความฮักของเอื้อยเป๋นจะใด เฮาฮู้แต่ว่า ความฮักคือการได้หันคนตี้เฮาฮักมีความสุข ความฮักบ่ใจ่การได้เป๋นเจ้าของคนตี้เฮาฮัก เฮาเตือนสติเอื้อยได้เต่าอี้ละเน้อ”
ศิริวงศ์จะเดินออกไป บัวเงินพูดขึ้นอย่างไม่เกรงกลัว
“ปี้ขอบใจ๋เจ้าน้อยตี้หั๋นแก่ปี้ อุตส่าห์สั่งสอนปี้แต่เจ้าน้อยจำไว้อย่างนึงเต๊อะ ความฮักขอองป้อจาย กับแม่หญิงมันต่างกั๋น ป้อจายฮักได้หลายครั้งหลายครา ฮักบ่ฮู้จักจบ แต่แม่หญิง ฮักแต๊มันเกิดขึ้นได้ครั้งเดียว ถึงตั๋วต๋ายก็ยอม” บัวเงินพูดอย่างแน่แน่ว
ศิริวงศ์เดินจากไป บัวเงินมองตามอย่างแค้นใจ
+ + + + + + + + + + + +

(อ่านต่อหน้า 2 )







ศิริวงศ์มาหาสล่าพันที่ในสวน และได้ปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องของบัวเงิน
“ทุกอย่างแล้วแต่เจ้าจะตัดสินใจเต๊อะ หลักฐานสำคัญก็อยู่นี่แล้ว ถ้าเจ้าจะเอาเรื่องหม่อมบัวเงินเปิ้นจริง ๆ เฮาก็เป็นพยานยืนยันให้เจ้าได้” สล่าพันบอกให้ศิริวงศ์ตัดสินใจ
“อาญาแผ่นดิน ยังไงก็ต้องศักดิ์สิทธิ์ เหนือสิ่งอื่นใด ใช่ไหมอ้าย”
“ไม่อย่างนั้น คนชั่วก็คงเกลื่อนเวียง บ่มีความละอาย เกรงกลัว ผิดบาปละเจ้า แล้วบ้านเมืองจะสุขสงบได้อย่างใด”
ศิริวงศ์คิดหนัก นึกถึงคำพูดจากใจบัวเงิน แล้วอดสงสารไม่ได้ ตัดสินใจ
“อ้ายช่วยเฮาหน่อยเต๊อะ ทำลายไอ้ของอุบาทว์นั่นไปซะ อย่าให้เหลือซาก”
ศิริวงศ์ เดินจากไป สล่าพันมองตามศิริวงศ์แล้วก้มลงมองตุ๊กตาไม้คนคู่ในมือแล้วถอนใจ
ทางด้านเม้ยหน้าเสียเป็นกังวลมาก เมื่อได้รู้จากบัวเงินว่าศิริวงศ์รู้เรื่องการทำคุณไสย
“เจ้าน้อยเปิ้นฮู้จะอี้ แปลว่า เปิ้นรู้ทุกอย่างใช่กะเจ้า หม่อมเจ้า”
“ฮู้ก็ดี กูบ่กลัว ถ้ากูบ่ได้เป็นเจ้าของเจ้าอ้ายคนเดียว อีมณีรินก็อย่าหวังเลย”
“หมายความว่า หม่อมยัง บ่ ล้มเลิกแผนของเฮาใช่ก่อเจ้า”
“มึงออกไป กูต้องการอยู่คนเดียว”
เม้ยคลานออกไป บัวเงิน ประนมมือขึ้น เริ่มร่ายคาถาผัวรักผัวหลงอีกครั้ง

+ + + + + + + + + + + +

มณีรินเดินมากับคำเที่ยง ศิริวงศ์เดินมาจากอีกทาง มณีรินมองศิริวงศ์ คำเที่ยงยิ้มให้แต่ศิริวงศ์กลับนิ่งเฉย ไม่ยิ้มตอบ แถบหน้าเครียดอีกต่างหาก
“เจ้าน้อย เปิ้นไปกินรังแตนมาจากไหนก็บ่ฮู้เน้อ พี่ยิ้มให้เปิ้น ก็ บ่ยิ้มตอบ”
“เปิ้นหน้ายักษ์มา เฮาก็หน้ายักษ์ไปก็แล้วกัน พี่คำเที่ยง” มณีรินประชด
ศิริวงศ์หันมาถามมณีริน
“เจ้าน้อย เอางานมาส่งเจ้าอ้ายก๊ะ”
คำเที่ยงแอบกระซิบมณีริน
“นึกว่าเปิ้นจะ บ่ ทักทาย เฮาเสียแล้วเนาะ”
“เฮาเพิ่งแปลเอกสารเสร็จ เฮาฝากโตขึ้นไปส่งเปิ้นด้วย” มณีรินส่งเอกสารให้
“ขึ้นไปเต๊อะ เปิ้นจะได้ดีใจที่ได้เห็นหน้าเจ้านางน้อย”
มณีรินนิ่งไม่ตอบ
“เฮื้อยบัวเงิน เปิ้น บ่อยู่ดอก บ่ต้องกลัว”
ศิริวงศ์บอก แล้วเดินนำขึ้นไป
“ใครบอกว่าเฮากลัว บ่ได้กลัวซักหน่อย เนาะเจ้ารินเนาะ” คำเที่ยงกระซิบบอก
มณีรินกับ คำเที่ยงตามขึ้นไป เมื่อไปถึงก็พบศิริวัฒนานั่งทำงานอยู่
“อ้ายเจ็บไข้อยู่เสียหลายวัน ลำบากทั้งเจ้าน้อย เจ้าริน”
ศิริวัฒนายิ้มให้ทั้งสองคน
“บ่ ได้ ลำบากอะหยัง ข้าเจ้ายินดีนัก ถ้าความฮู้น้อยนิดที่มีติดตัวมาจะเป็นประโยชน์บ้าง” มณีรินรีบบอก
“เจ้านางน้อยเปิ้น ถ่อมตัว งานแปลของเปิ้น บ่มีที่ติซักนิดเดียว เจ้าอ้าย” ศิริวงศ์เอ่ยชม
คำเที่ยงยิ้มปลื้ม มณีรินแอบค้อนใส่ศิริวงศ์ที่ชมตัวเองเกินจริง
“อ้ายเชื่อโต...”
ศิริวัฒนายิ้มให้มณีริน มณีรินก้มหน้า ศิริวัฒนาเริ่มมีอาการแปลกๆ เริ่มปวดหัวขึ้นมาอีกครั้ง ร้อนรุ่มไปทั้งตัว เพราะขณะนั้นสล่าพันโยนตุ๊กตาไม้ลงไปบนกองไฟ ที่กำลังลุกโชนอยู่ เชือกที่มัดตุ๊กตาสองตัวไว้ด้วยกัน ไหม้ไฟก่อนทำให้ตุ๊กตาสองตัวหลุดออกจากกัน
ศิริวัฒนาลุกพรวดขึ้น ทุรนทุราย ร้องโวยวาย ทุกคนตกใจ คำเที่ยง โกยหนีไปทางนึง แบบไม่รู้ตัว
“เจ้าอ้าย...เจ้าอ้าย” ศิริวัฒนาพยายามจับตัว
ศิริวัฒนาคลุ้มคลั่งควบคุมตัวเองไม่ได้ ร้องโวยวาย ช่วงเวลานั้น บัวเงินบริกรรมคาถา ด้วยความแค้นและชิงชัง คำเที่ยงโกยไปที่ประตู ตะโกนแหกปากออกไป
“ช่วยด้วย ใครอยู่แถวนี้มาช่วยกันที เจ้าเปิ้น บ่ สบาย”
ศิริวัฒนาสบัดทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า แล้วโถมเข้าหามณีรินเพื่อจะทำร้าย ศิริวงศ์เอาตัวเองเข้าขวางจึงโดนลูกหลงจากศิริวัฒนาไปหลายหมัด ศิริวงศ์ปลุกปล้ำ พยายามกดร่างของศิริวัฒนาไว้ ศิริวัฒนายังไม่สิ้นฤทธิ์ ร้องเสียงดังโหยหวนเพราะเจ็บปวดภายในอย่างแสนสาหัส
บัวเงินที่ใช้พลังทั้งหมดร่ายคาถา จนตัวเองก็หมดฤทธิ์ หมดแรงจนต้องหยุดกะทันหัน ทั้งเหงื่อทั้งน้ำตา ไหลปะปน กันทั่วหน้า
เมื่อตุ๊กตาที่ถูกเผา กลายเป็นซากเถ้าถ่าน ศิริวัฒนาค่อยๆอ่อนแรงลง ศิริวงศ์ก็หมดเรี่ยวแรงพอกัน ได้แผลได้เลือดบนหน้าประมาณหนึ่ง พวกมหาดเล็กวิ่งกรูกันเข้ามา รีบพาศิริวัฒนาไปนอนพักบนเตียง

+ + + + + + + + + + + +

บัวเงินนั่งนิ่ง เมื่อรู้ว่าคาถาของตัวเองใช้ไม่ได้ผลแล้ว เม้ยคลานเข้ามา...
“หม่อมกะเจ้า”
“เจ้าอ้ายของกู เปิ้นคงบ่กลับมาหากูแล้ว อีเม้ย”
“เม้ยสงสารหม่อมเหลือเกิน หม่อมอย่าเพิ่งหมดหวังนะเจ้า ทั่วทั้งเชียงใหม่ไส่ไปถึงลำพูน ลำปาง ยังเมืองแป้ เมืองน่าน ก็ทำใครจะงามเท่าหม่อมของเม้ย บ่มีแล้ว”
“กูเดินไปข้างหน้าแล้ว กู บ่มีวันถอยหลังกลับไปที่เก่าดอกอีเม้ย”
บัวเงินยังคงมุ่งมั่น ที่จะยื้อแย่งศิริวัฒนามาให้ได้
ด้านมณีริน เก็บข้าวของที่เกลื่อนกระจายไปทั้งห้อง ศิริวงศ์คลำแผลตัวเองอยู่อีกมุม มณีรินหันไปมองแล้วเดินเข้าไปหา
“เจ้านางน้อย ควรจะขึ้นไปดูเจ้าอ้ายเปิ้น”
“คนดูแลเปิ้นมีนักแล้ว เฮา บ่ต้องขึ้นไปก็ได้”
“อย่าลืมเน้อว่ามันเป็นหน้าที่”
“บ่ ต้องเอาคำว่าหน้าที่มาผลักไสไล่ส่งเฮา ถ้าเฮาอยากจะไป เฮาไปของเฮาเอง”
ศิริวงศ์หันกลับมาเจอสายตามณีริน
“เจ็บมากก่อ”
ศิริวงศ์ส่ายหน้า
“ระวังตัวให้มากๆ พี่คำเที่ยงเตือนอะหยังก็ให้ฟังๆเอาไว้บ้าง”
มณีรินดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาจากชายพก แล้วซับเลือดที่ซิบอยู่บนหน้าผาก ศิริวงศ์มองตามณีริน สายตามณีรินเคลื่อนจากมือที่ซับแผลมาเจอสายตาศิริวงศ์
“ถ้าเฮาเป็นเจ้าอ้าย เฮาจะบอกโตว่าอย่าได้ไปมองใครด้วยสายตาอย่างนี้อีก”
มณีรินน้อยใจ คำเที่ยงพรวดพราดกลับเข้ามา ในห้องพอดี
“ตัวเปิ้นหนักขนาด กว่าจะพาขึ้นไปถึงห้องเปิ้นได้ ก็...”
คำเที่ยงต้องหยุดพล่ามได้แค่นั้น เพราะเห็น...ศิริวงศ์กับมณีริน ผละออกจากกัน
“เฮามีธุระสำคัญต้องไปทำต่อ...ขอบใจเน้อ พี่คำเที่ยง” ศิริวงศ์เดินออกไป
คำเที่ยงหายใจไม่ทั่วท้อง

+ + + + + + + + + + + +

ศิริวงศ์มาหาสล่าพัน มองซากตุ๊กตาแล้วถอนใจเหนื่อยๆ
“เฮาแค่อยากให้เรื่องนี้จบลงด้วยดี เฮาเชื่อว่าเอื้อยบัวเงิน เปิ้นก็ฮู้ผิดชอบชั่วดี อยู่เหมือนกัน เฮาบ่อยากสร้างเวรสร้างกรรมกับเปิ้น”
“นับว่าเจ้ามีจิตใจสูงส่งน่านับถือนัก แต่เฮาว่า เรื่องนี้มีอีกคนนึงที่เฮาบ่ควรละเว้น เพราะถ้า บ่มีไอ้คนคนนี้เสียคน เรื่องจัญไรอย่างนี้ก็คง บ่ เกิดขึ้นดอก”
ศิริวงศ์หน้าเครียด บอกกับสล่าพันอย่างจริงจัง
“ไอ้หมอเสน่ห์ ยังไง เฮาก็ต้องการให้เรื่องนี้จบลงอย่างเงียบที่สุด”
“ถ้าอย่างนั้นก็คงมีวิธีเดียวละเจ้า จับตัวมันให้ได้ สั่งสอนให้เข็ดหลาบ แล้วไล่มันออกไปให้พ้นเวียงเชียงใหม่ อย่าให้มันกล้ากลับเข้ามาอีก”
ศิริวงศ์พยักหน้าอย่างเห็นด้วย

+ + + + + + + + + + + +

เม้ย กับบัวเงินรีบไปหาหมอเสน่ห์ เม้ยทุบประตูห้องหมออย่างแรง สักครู่หมอเสน่ห์ก็เดินมาเปิดประตู หมอเสน่ห์เห็นคนที่มาหาก็ยิ้มเผล่
“ได้ของมาก๊ะ”
“บ่ ได้”
“กู บอกแล้ว่า บ่ได้ของมาก็ทำ บ่ได้”
บัวเงินก้าวเข้ามา
“แต่กูฮู้ว่ามึงทำได้”
บัวเงินบอกเสียงเครียด!

(อ่านต่อวันพรุ่งนี้)




กำลังโหลดความคิดเห็น