• อยากให้ความศรัทธาเจริญขึ้น
ปุจฉา : กราบนมัสการหลวงปู่ครับ ผมอยากทราบว่า ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างในธรรมชาติ ล้วนหนีไม่พ้นหลักไตรลักษณ์ ทุกอย่างเกิดขึ้นในเบื้องต้น ตั้งอยู่ แปรปรวนในท่ามกลาง และแตกสลายในที่สุด ดังนั้น ความศรัทธา กุศลจิตที่จะตั้งใจทำความดี ความเจริญให้กับพระพุทธศาสนา ก็ย่อมเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แปรปรวน และสลายในที่สุด เหมือนกัน
ผมอยากทราบว่าจะทำอย่างไรดีครับ จึงจะดำรงความศรัทธาดังกล่าว ไม่ให้ดับสลาย หรือลดลง แต่ให้เจริญงอกงามยิ่งขึ้น
วิสัชนา : จริงอย่างที่คุณเข้าใจนั้นแหละ ไม่มีอะไรหนีกฎไตรลักษณ์ แม้แต่ความศรัทธา จิตที่เป็นกุศลก็ไม่พ้นเหมือนกัน ถ้าคุณปรารถนาจะให้สองสิ่งนี้ดำรงอยู่ มันก็ไม่ยาก เพียงแค่คุณมีความเพียรพยายามบากบั่น อดทน จริงจัง ตั้งใจ จดจ่อ จับจ้อง กระทำให้ความศรัทธา และจิตที่เป็นกุศล เกิดขึ้นทุกขณะแห่งลมหายใจ หรือทุกขณะที่นึกคิดได้ ก็ชื่อว่าคุณทำความเจริญงอกงามให้แก่ความศรัทธา และจิตที่เป็นกุศลแล้ว
• ทำงานแล้วเครียดมาก
ปุจฉา : กราบนมัสการหลวงปู่ครับ คืออยากจะเล่าว่า ผมเพิ่งจบการศึกษา และเพิ่งเริ่มทำงาน แล้วก็รู้สึกว่า ชีวิตการทำงานนี้ มีความกดดันตลอดเวลา เนื่องจากเจ้านายใช้เยี่ยงทาส และมีความขัดแย้งกันระหว่างหัวหน้างานที่ผมสังกัด และหัวหน้าฝ่ายอีกด้วย ทำให้ผมรู้สึกว่าจิตใจหม่นหมองมืดไปหมด ประกอบกับเจอความเครียดในการทำงานตลอดเวลา
ผมอยากเรียนถามหลวงปู่ว่า ในฐานะที่เราเป็นลูกจ้าง และต้องรับความกดดันต่างๆที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน อีกทั้งยังต้องทำงานทั้งวัน ทำให้เหนื่อยมาก ควรจะปฏิบัติตัวหรือมีหลักคิดอย่างไร เพื่อไม่ให้เครียด หรือมีจิตใจหม่นหมองอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
สุดท้ายนี้หวังว่า คำถามนี้คงมีประโยชน์ต่อคนอีกหลายๆ คนที่เจอเหตุการณ์เดียวกับผม และขอขอบพระคุณหลวงปู่มากครับที่กรุณาตอบคำถาม
วิสัชนา : ทำไมคุณไม่ใช้วิกฤต มาเป็นโอกาสของคุณ ลองเปลี่ยนแนวคิดที่ว่าการงานน่าเบื่อ การงานคือตัวปัญหา การงานคือความหนักหนาสาหัส เปลี่ยนมาคิดเสียใหม่ว่า เมื่อใดที่มีการงาน ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ เมื่อนั้นเรามีพรจากสวรรค์ เหตุเพราะงานนั้นๆ ทำให้เราแสดงความรู้ความสามารถที่มี ให้ออกมาเป็นผลของงานนั้นๆได้
ขอให้คุณมองว่า ปัญหาทุกอย่างที่เกิดจากการทำงาน คือบททดสอบตัวคุณ ใจคุณ ว่ามีคุณสมบัติพอที่จะได้รับพรจากสวรรค์หรือไม่ ปัญหาที่เกิดจากงาน ถ้าคุณเข้าไปเรียนรู้ และแก้ไขมันได้ มันจะทำให้คุณกลายเป็นคนเข้มแข็ง แกร่งกล้ามากขึ้น อีกทั้งความรู้ความสามารถของคุณ จะยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ งานยังเป็นตัวเสริมสร้างความมั่นใจ และความสำเร็จ ให้แก่ชีวิตคุณอีกด้วย ถ้าคุณทำมันด้วยใจรัก
ฉะนั้น ขอให้คุณอย่าเบื่อหน่ายในการทำงานที่มีอยู่ ทำมันด้วยใจและใช้สติปัญญาพิจารณา พร้อมทั้งต้องอย่ากลัว และอย่าหนีปัญหา เช่นนี้ต่างหากจึงจะควรค่าแก่ผู้มีสิทธิ์รับพรจากสวรรค์
จงคิดเสียว่า คุณยังโชคดีกว่าคนอื่นอีกมากมาย ที่เขาไม่มีงานทำ แต่คุณมี ขอให้รักษาโชคดีที่มีเอาไว้กับตัวคุณให้นานเท่านาน สวัสดี
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 191 พฤศจิกายน 2559 โดย หลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม)
ปุจฉา : กราบนมัสการหลวงปู่ครับ ผมอยากทราบว่า ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างในธรรมชาติ ล้วนหนีไม่พ้นหลักไตรลักษณ์ ทุกอย่างเกิดขึ้นในเบื้องต้น ตั้งอยู่ แปรปรวนในท่ามกลาง และแตกสลายในที่สุด ดังนั้น ความศรัทธา กุศลจิตที่จะตั้งใจทำความดี ความเจริญให้กับพระพุทธศาสนา ก็ย่อมเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แปรปรวน และสลายในที่สุด เหมือนกัน
ผมอยากทราบว่าจะทำอย่างไรดีครับ จึงจะดำรงความศรัทธาดังกล่าว ไม่ให้ดับสลาย หรือลดลง แต่ให้เจริญงอกงามยิ่งขึ้น
วิสัชนา : จริงอย่างที่คุณเข้าใจนั้นแหละ ไม่มีอะไรหนีกฎไตรลักษณ์ แม้แต่ความศรัทธา จิตที่เป็นกุศลก็ไม่พ้นเหมือนกัน ถ้าคุณปรารถนาจะให้สองสิ่งนี้ดำรงอยู่ มันก็ไม่ยาก เพียงแค่คุณมีความเพียรพยายามบากบั่น อดทน จริงจัง ตั้งใจ จดจ่อ จับจ้อง กระทำให้ความศรัทธา และจิตที่เป็นกุศล เกิดขึ้นทุกขณะแห่งลมหายใจ หรือทุกขณะที่นึกคิดได้ ก็ชื่อว่าคุณทำความเจริญงอกงามให้แก่ความศรัทธา และจิตที่เป็นกุศลแล้ว
• ทำงานแล้วเครียดมาก
ปุจฉา : กราบนมัสการหลวงปู่ครับ คืออยากจะเล่าว่า ผมเพิ่งจบการศึกษา และเพิ่งเริ่มทำงาน แล้วก็รู้สึกว่า ชีวิตการทำงานนี้ มีความกดดันตลอดเวลา เนื่องจากเจ้านายใช้เยี่ยงทาส และมีความขัดแย้งกันระหว่างหัวหน้างานที่ผมสังกัด และหัวหน้าฝ่ายอีกด้วย ทำให้ผมรู้สึกว่าจิตใจหม่นหมองมืดไปหมด ประกอบกับเจอความเครียดในการทำงานตลอดเวลา
ผมอยากเรียนถามหลวงปู่ว่า ในฐานะที่เราเป็นลูกจ้าง และต้องรับความกดดันต่างๆที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน อีกทั้งยังต้องทำงานทั้งวัน ทำให้เหนื่อยมาก ควรจะปฏิบัติตัวหรือมีหลักคิดอย่างไร เพื่อไม่ให้เครียด หรือมีจิตใจหม่นหมองอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
สุดท้ายนี้หวังว่า คำถามนี้คงมีประโยชน์ต่อคนอีกหลายๆ คนที่เจอเหตุการณ์เดียวกับผม และขอขอบพระคุณหลวงปู่มากครับที่กรุณาตอบคำถาม
วิสัชนา : ทำไมคุณไม่ใช้วิกฤต มาเป็นโอกาสของคุณ ลองเปลี่ยนแนวคิดที่ว่าการงานน่าเบื่อ การงานคือตัวปัญหา การงานคือความหนักหนาสาหัส เปลี่ยนมาคิดเสียใหม่ว่า เมื่อใดที่มีการงาน ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ เมื่อนั้นเรามีพรจากสวรรค์ เหตุเพราะงานนั้นๆ ทำให้เราแสดงความรู้ความสามารถที่มี ให้ออกมาเป็นผลของงานนั้นๆได้
ขอให้คุณมองว่า ปัญหาทุกอย่างที่เกิดจากการทำงาน คือบททดสอบตัวคุณ ใจคุณ ว่ามีคุณสมบัติพอที่จะได้รับพรจากสวรรค์หรือไม่ ปัญหาที่เกิดจากงาน ถ้าคุณเข้าไปเรียนรู้ และแก้ไขมันได้ มันจะทำให้คุณกลายเป็นคนเข้มแข็ง แกร่งกล้ามากขึ้น อีกทั้งความรู้ความสามารถของคุณ จะยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ งานยังเป็นตัวเสริมสร้างความมั่นใจ และความสำเร็จ ให้แก่ชีวิตคุณอีกด้วย ถ้าคุณทำมันด้วยใจรัก
ฉะนั้น ขอให้คุณอย่าเบื่อหน่ายในการทำงานที่มีอยู่ ทำมันด้วยใจและใช้สติปัญญาพิจารณา พร้อมทั้งต้องอย่ากลัว และอย่าหนีปัญหา เช่นนี้ต่างหากจึงจะควรค่าแก่ผู้มีสิทธิ์รับพรจากสวรรค์
จงคิดเสียว่า คุณยังโชคดีกว่าคนอื่นอีกมากมาย ที่เขาไม่มีงานทำ แต่คุณมี ขอให้รักษาโชคดีที่มีเอาไว้กับตัวคุณให้นานเท่านาน สวัสดี
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 191 พฤศจิกายน 2559 โดย หลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม)
