หลวงปู่พุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ผู้ดูแลการชุมนุมเวทีแจ้งวัฒนะของ กปปส. ในช่วงก่อนการรัฐประหาร ได้โพสต์เฟซบุ๊ก (Buddha Isara) ข้อความว่า
" ศุกร์ที่ผ่านมาได้ฟังคุณประยุทธ์แล้วช่างสบายใจ อุ่นใจ ดูท่ายิ่งนานวัน ท่านจะคล้ายพ่อที่กำลังสั่งสอนลูกเข้าไปทุกวัน เพราะสิ่งที่ท่านพูด ท่านทำ เหมือนยังกับพ่อคุยกับลูกๆ ที่เปิดใจ จริงใจ ตั้งใจ หวังดี เอ็นดู สิ่งเหล่านี้ฉันเชื่อว่าคนฟังจะรู้ได้ด้วยตนเอง ถึงอารมณ์และกลิ่นไอของความหวังดี เอ็นดู ที่คุณประยุทธ์ มีให้ต่อผู้คนในชาติบ้านเมืองนี้ ทำให้ฉันวางใจลงได้เปลาะหนึ่ง
ถ้าถามฉันว่าทำไมถึงไม่รู้จักวาง แล้วทำตัวให้ว่างลงบ้าง เหมือนกับนักบวชคนอื่นๆ ฉันคงต้องบอกพวกคุณว่า แนวคิดในการปฏิรูปมันเริ่มมาจาก คุณสนธิ (ลิ้มทองกุล) และตัวฉันเป็นผู้ไปจุดประกายในทุกเวที จนเกิดกระแสการปฏิรูปแพร่หลายในหมู่ประชาชน คนนักสู้ ทำให้แกนนำทุกเวทีในเวลานั้น ต้องยอมรับแนวคิดในการปฏิรูป มาเป็นอุดมการณ์ในการสร้างแนวร่วม ทำให้เกิดมวลมหาประชาชนจำนวนมากออกมาเดินบนถนนเรียกร้องให้มีการปฏิรูป เพราะระยะแรกๆ ของทุกเวทีมิได้ชูประเด็นปฏิรูปใดๆ เลย จนฉันต้องขึ้นไปเรียกร้องให้มีการปฏิรูปในทุกเวที จะได้สำเร็จประโยชน์ในการต่อสู้ครั้งนี้
ด้วยเหตุนี้ แม้ในขณะที่ คสช. เข้ามาบริหารประเทศแล้วก็ตามที แต่ขบวนการปฏิรูป ยังมิได้เริ่มต้นใดๆ เลย จึงทำให้ฉันยังมิอาจวางสิ่งใดๆ ได้ เพราะฉันเห็นถึงคุณค่าของเหงื่อทุกหยด เลือดทุกหยาด เงินทุกบาท ชีวิตทุกชีวิตที่สูญเสียสละออกไป มันจะต้องได้ผลตอบแทนกลับมาที่คุ้มค่า มิใช่ปล่อยให้สูญเปล่า โดยไม่เฝ้าติดตาม ฉันจึงคิดว่า ไหนๆ ก็เหนื่อยกันมามากแล้ว มันจะต้องได้ขบวนการปฏิรูปที่สมบูรณ์ เป็นประโยชน์แก่ชาติประชาชนอย่างแท้จริงเป็นการตอบแทน ด้วยเหตุผลเหล่านี้แหละ ฉันจึงยังต้องโดนพวกโลกสวยรุมด่าถ่มถุยอยู่ แต่ก็ไม่เป็นไร ขอประเทศไทยมีความสุขก็แล้วกัน
ต้องขอบคุณคุณประยุทธ์ ที่ทำให้ฉันสบายใจขึ้นมาได้อีกเปลาะหนึ่ง ทุกเรื่องในสิ่งที่คุณประยุทธ์พูด มันเป็นทุกเรื่องที่ฉันคิดว่ามันคือปัญหา เมื่อวานฉันพึ่งจะเขียนในประเด็นที่ว่า สมาชิกสภาปฏิรูป จะต้องมีสติปัญญา มองให้เห็นถึงปัญหาของบ้านเมืองให้ได้ในทุกมิติ จึงจะสามารถเข้ามาเขียนวิธีแก้ปัญหาของบ้านเมืองสำเร็จ พอได้ยินสิ่งที่คุณประยุทธ์พูดในช่วงเวลาที่ผ่านมา ฉันนำมาประมวลรวมกัน จึงทำให้มั่นใจได้ว่า คุณประยุทธ์ เป็นผู้เหมาะที่จะเป็นหัวหน้าคณะปฏิรูป นำความสงบสุข ถูกต้อง ชอบธรรม กลับคืนสู่มือประชาชนและชาติไทยได้แน่
แต่ก็ยังวางใจมิได้ ดังคำกล่าวที่ว่า “ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน ค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน”ฉันคงจะต้องขอติดตามเฝ้าดูอีกต่อไป จนกว่ากระบวนการปฏิรูปจะสำเร็จเสร็จสิ้น สำเร็จประโยชน์ที่คนไทยทุกคนมุ่งหวัง" หลวงปู่พุทธะอิสระ ระบุ
" ศุกร์ที่ผ่านมาได้ฟังคุณประยุทธ์แล้วช่างสบายใจ อุ่นใจ ดูท่ายิ่งนานวัน ท่านจะคล้ายพ่อที่กำลังสั่งสอนลูกเข้าไปทุกวัน เพราะสิ่งที่ท่านพูด ท่านทำ เหมือนยังกับพ่อคุยกับลูกๆ ที่เปิดใจ จริงใจ ตั้งใจ หวังดี เอ็นดู สิ่งเหล่านี้ฉันเชื่อว่าคนฟังจะรู้ได้ด้วยตนเอง ถึงอารมณ์และกลิ่นไอของความหวังดี เอ็นดู ที่คุณประยุทธ์ มีให้ต่อผู้คนในชาติบ้านเมืองนี้ ทำให้ฉันวางใจลงได้เปลาะหนึ่ง
ถ้าถามฉันว่าทำไมถึงไม่รู้จักวาง แล้วทำตัวให้ว่างลงบ้าง เหมือนกับนักบวชคนอื่นๆ ฉันคงต้องบอกพวกคุณว่า แนวคิดในการปฏิรูปมันเริ่มมาจาก คุณสนธิ (ลิ้มทองกุล) และตัวฉันเป็นผู้ไปจุดประกายในทุกเวที จนเกิดกระแสการปฏิรูปแพร่หลายในหมู่ประชาชน คนนักสู้ ทำให้แกนนำทุกเวทีในเวลานั้น ต้องยอมรับแนวคิดในการปฏิรูป มาเป็นอุดมการณ์ในการสร้างแนวร่วม ทำให้เกิดมวลมหาประชาชนจำนวนมากออกมาเดินบนถนนเรียกร้องให้มีการปฏิรูป เพราะระยะแรกๆ ของทุกเวทีมิได้ชูประเด็นปฏิรูปใดๆ เลย จนฉันต้องขึ้นไปเรียกร้องให้มีการปฏิรูปในทุกเวที จะได้สำเร็จประโยชน์ในการต่อสู้ครั้งนี้
ด้วยเหตุนี้ แม้ในขณะที่ คสช. เข้ามาบริหารประเทศแล้วก็ตามที แต่ขบวนการปฏิรูป ยังมิได้เริ่มต้นใดๆ เลย จึงทำให้ฉันยังมิอาจวางสิ่งใดๆ ได้ เพราะฉันเห็นถึงคุณค่าของเหงื่อทุกหยด เลือดทุกหยาด เงินทุกบาท ชีวิตทุกชีวิตที่สูญเสียสละออกไป มันจะต้องได้ผลตอบแทนกลับมาที่คุ้มค่า มิใช่ปล่อยให้สูญเปล่า โดยไม่เฝ้าติดตาม ฉันจึงคิดว่า ไหนๆ ก็เหนื่อยกันมามากแล้ว มันจะต้องได้ขบวนการปฏิรูปที่สมบูรณ์ เป็นประโยชน์แก่ชาติประชาชนอย่างแท้จริงเป็นการตอบแทน ด้วยเหตุผลเหล่านี้แหละ ฉันจึงยังต้องโดนพวกโลกสวยรุมด่าถ่มถุยอยู่ แต่ก็ไม่เป็นไร ขอประเทศไทยมีความสุขก็แล้วกัน
ต้องขอบคุณคุณประยุทธ์ ที่ทำให้ฉันสบายใจขึ้นมาได้อีกเปลาะหนึ่ง ทุกเรื่องในสิ่งที่คุณประยุทธ์พูด มันเป็นทุกเรื่องที่ฉันคิดว่ามันคือปัญหา เมื่อวานฉันพึ่งจะเขียนในประเด็นที่ว่า สมาชิกสภาปฏิรูป จะต้องมีสติปัญญา มองให้เห็นถึงปัญหาของบ้านเมืองให้ได้ในทุกมิติ จึงจะสามารถเข้ามาเขียนวิธีแก้ปัญหาของบ้านเมืองสำเร็จ พอได้ยินสิ่งที่คุณประยุทธ์พูดในช่วงเวลาที่ผ่านมา ฉันนำมาประมวลรวมกัน จึงทำให้มั่นใจได้ว่า คุณประยุทธ์ เป็นผู้เหมาะที่จะเป็นหัวหน้าคณะปฏิรูป นำความสงบสุข ถูกต้อง ชอบธรรม กลับคืนสู่มือประชาชนและชาติไทยได้แน่
แต่ก็ยังวางใจมิได้ ดังคำกล่าวที่ว่า “ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน ค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน”ฉันคงจะต้องขอติดตามเฝ้าดูอีกต่อไป จนกว่ากระบวนการปฏิรูปจะสำเร็จเสร็จสิ้น สำเร็จประโยชน์ที่คนไทยทุกคนมุ่งหวัง" หลวงปู่พุทธะอิสระ ระบุ