• กรมศิลปากรทุ่มงบกว่า 99 ล้านบาท บูรณะวัด 9 แห่ง เฉลิมพระเกียรติ
นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า กรมศิลปากรได้จัดโครงการบูรณะวัดเฉลิมพระเกียรติ 9 วัด เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติ 70 ปี โดยคัดเลือกวัดสำคัญ 9 แห่ง ที่ทรงคุณค่าทั้งในส่วนกลาง และภูมิภาค มาทำการบูรณะตามแบบสถาปัตยกรรมดั้งเดิม รวมงบประมาณกว่า 99 ล้านบาท ได้แก่ วัดราชนัดดารามวรวิหาร วัดดุสิดารามวรวิหาร กรุงเทพฯ วัดใหญ่สุวรรณารามวรวิหาร จ.เพชรบุรี วัดไพชยนต์พลเสพย์ราชวรวิหาร จ.สุมทรปราการ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.สุพรรณบุรี วัดศาลาปูนวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา วัดปราสาท จ.เชียงใหม่ วัดโพธิ์ชัย จ.มุกดาหาร และวัดฉัททันต์สนาน จ.นราธิวาส
สำหรับการบูรณะวัดทั้ง 9 แห่งนี้ คัดเลือกจากวัดที่มีสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่าและมีความสำคัญ อาทิ วัดราชนัดดารามฯ ซึ่งมีโลหะปราสาทองค์แรก และองค์เดียวของไทย อีกทั้งยังเป็นองค์ที่ 3 ของโลก โดยการบูรณะดังกล่าวมีกำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2559
• สธ. เผยข่าวดี! คนพิการขาขาดทั่วไทย ได้รับขาเทียมฟรีภายในปี 2559
นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีแนวโน้มจำนวนคนพิการเพิ่มขึ้น ทั้งจากโรคเรื้อรัง อุบัติเหตุ และสูงวัย
กระทรวงสาธารณสุข โดยศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จึงได้มอบให้สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ กรมการแพทย์ จัดทำโครงการมอบแขนขาเทียมให้คนพิการทั่วประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คนพิการแขนขาขาดทั้งรายเก่าและรายใหม่ สามารถเข้าถึงบริการสุขภาพ ได้รับบริการการฟื้นฟูสมรรถภาพ ได้รับกายอุปกรณ์เสริมและเทียม รวมทั้งอุปกรณ์เครื่องช่วยที่จำเป็นที่มีคุณภาพ เพื่อส่งเสริมให้คนพิการแขนขาขาดมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
โครงการมอบแขนขาเทียมให้คนพิการทั่วประเทศ ในปี 2559 จัดขึ้นในจังหวัดตราด พิษณุโลก เลย นครราชสีมา อุตรดิตถ์ โดยตั้งเป้าหมายจัดหาและซ่อมอุปกรณ์เครื่องช่วยคนพิการฟรี 1,500 ราย พร้อมพัฒนาทักษะบุคลากรในการจดทะเบียนและดูแลคนพิการ 1,000 คน โดยทำงานร่วมกับหน่วยกายอุปกรณ์โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศ ประมาณ 200 แห่ง
ทั้งนี้ กรมการแพทย์ ได้มอบรถทำแขนขาเทียม มูลค่า 12.5 ล้านบาท จำนวน 1 คัน ให้แก่โรงพยาบาลพระพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งภายในรถประกอบด้วยอุปกรณ์สำหรับทำแขนขาเทียม เช่น หัวขุดเบ้าขาเทียม ตู้อบความร้อน เครื่องขัดกระดาษทราย ระบบดูดฝุ่น เป็นต้น
นอกจากนี้ สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติยังมีรถทำแขนขาเทียม จำนวน 2 คัน ไว้ให้บริการประชาชนทั่วประเทศ โดยให้บริการออกหน่วยเคลื่อนที่ฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว รวม 55 ครั้ง
• เตรียมสร้างพิพิภัณฑสถานแห่งชาติพระปฐมเจดีย์แห่งใหม่ ให้มีความทันสมัยไฮเทคที่สุดในประเทศ
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมนายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ได้เข้าหารือกับพระพรหมเวที เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร เรื่องการย้ายพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระปฐมเจดีย์ ไปจัดสร้างใหม่ในพื้นที่เรือนจำกลาง จ.นครปฐม หลังเก่า โดยกล่าวว่า กรมศิลปากรได้ออกแบบพิพิธภัณฑ์ใหม่เสร็จแล้ว ภายในจะรวมโบราณวัตถุสมัยทวาราวดีที่ยิ่งใหญ่ มีความทันสมัยที่สุดในประเทศ ใช้งบประมาณปี 2561 ดำเนินการ คาดว่าจะใช้เวลาสร้างราว 4 ปี โดยระหว่างนี้จะปรับปรุงพิพิธภัณฑ์ จัดทำป้ายให้ความรู้ระบบคิวอาร์โคด และประชาสัมพันธ์นักท่องเที่ยวมากขึ้น
ที่สำคัญจังหวัดนครปฐมเตรียมผลักดันองค์พระปฐมเจดีย์ เสนอขึ้นทะเบียนมรดกโลก โดยให้กรมศิลปากร ศึกษาความโดดเด่นด้านคุณลักษณะ สถาปัตยกรรม อารยธรรม ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ร่วมกับจังหวัด จัดทำข้อมูลรวมทั้งข้อขัดแย้งกับประชาชนในพื้นที่บางส่วนที่ไม่เห็นด้วย
ด้านพระพรหมเวที เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร กล่าวว่า ได้ให้กระทรวงวัฒนธรรมและจังหวัดนครปฐม จัดสร้างอนุสาวรีย์ รัชกาลที่ 4 ,5 และ 6 เพื่อเทิดพระเกียรติยกย่องบูรพพระมหากษัตริย์ ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ และมีพระราชศรัทธาต่อองค์พระปฐมเจดีย์ เรียกศรัทธาให้คนในพื้นที่ยินดีสนับสนุนการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ทั้งนี้ หลังจากกรมศิลปากรย้ายโบราณวัตถุในพิพิธภัณฑ์เสร็จสิ้น จะใช้พื้นที่เป็นสำนักงานการศึกษาบาลีของพระสงฆ์และสามเณรต่อไป
• วธ. ร่วมกับ 15 หน่วยงาน บูรณาการจัด “สงกรานต์แบบไทย ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า”
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยแล้ง การจัดงานสงกรานต์ปีนี้ วธ.ได้บูรณาการกับ 15 หน่วยงาน อาทิ กรมชลประทาน การประปานครหลวง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ฯลฯ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “สงกรานต์แบบไทย ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า” ระหว่างวันที่ 13-15 เม.ย. ทั้งนี้ในส่วนของ วธ. จะรณรงค์การเล่นสงกรานต์แบบไทยๆ การอนุรักษ์ประเพณี การแต่งกายด้วยผ้าไทย การส่งเสริมให้คนเข้าวัด โดยจะจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี และสรงน้ำข้ามปีตามแบบวิถีไทย โดยกำหนดจัดขึ้นจังหวัดละ 1 แห่ง ทั่วประเทศ เริ่มสงกรานต์นี้เป็นปีแรก รวมทั้งจัดงานสงกรานต์อาเซียนไทย ลาว-เมียนมา-สิบสองปันนา ที่จังหวัดเชียงรายในวันที่ 9 เม.ย. และงาน “สงกรานต์เมษา ผ้าขาวม้ารวมใจ เล่นน้ำแบบไทย ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า” ที่สยามสแควร์ ในวันที่ 13-15 เม.ย.
สำหรับนางสงกรานต์ ปี 2559 มีนามว่า มณฑาเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกจำปา อาภรณ์แก้วไพฑูรย์ ภักษาหารนม เนย พระหัตถ์ขวาทรงเหล็กแหลม พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้า เสด็จไสยาสน์ลืมเนตรมาเหนือหลังคัสพะ(ลา) เป็นพาหนะ
เกณฑ์พิรุณศาสตร์ปีนี้ จันทร์เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก 500 ห่า ตกในเขาจักรวาล 200 ห่า ตกในป่าหิมพานต์ 150 ห่า ตกในมหาสมุทร 100 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 50 ห่า นาคให้น้ำ 2 ตัว ทำนายว่า ฝนต้นปีน้อย กลางปีงาม แต่ปลายปีมากแล เกณฑ์ธัญญาหาร ชื่อ ลาภะ ข้าวกล้าในนาจะได้ผล 9 ส่วน เสีย 1 ส่วน ธัญญาหาร ผลาหารมังสาหารบริบูรณ์ ประชาชนทั้งหลายจะอยู่เย็นเป็นสุข
สำหรับคำทำนายมีดังนี้ วันพุธ เป็นวันมหาสงกรานต์ : ท้าวพระยาจะได้เครื่องบรรณาการมาแต่ต่างเมือง แต่จะแพ้ลูกอ่อนนักแลฯ , วันพฤหัสบดี เป็นวันเนา : ลูกไม้จะแพง ตระกูลทั้งหลายจะร้อนใจนักแลฯ , วันศุกร์ เป็นวันเถลิงศก : พ่อค้าพานิชทั้งหลาย อันไปค้าขายในประเทศต่างๆ จะประกอบไปด้วยพัสดุเงินทอง และมีความสุขเป็นอันมากแลฯ, นางสงกรานต์ ไสยาสน์ลืมเนตร(นอนลืมตา) : ประชาชนจะอยู่เย็นเป็นสุข
• รัฐบาลเตรียมจัดงานเฉลิมพระเกียรติในหลวง ครองราชย์ครบ 70 ปี
รัฐบาลเตรียมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559
พล.ต.อ. เอก อังสนานนท์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559 ว่า ได้กำหนดชื่อการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ และกำหนดเขตการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559 ซึ่งสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้มีหนังสือขอให้นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณา ขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัย ชื่อการจัดงานฯ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบการจัดงานพระราชพิธี โดยสำนักพระราชวัง สำนักราชเลขาธิการ และกรมการศาสนา เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ โดยเห็นชอบให้จัดสร้างถาวรวัตถุเป็นของที่ระลึกน้อมเกล้าฯถวาย เนื่องในโอกาสมหามงคล เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559 และเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 จำนวน 2 รายการ คือ หนึ่ง สร้างพิพิธภัณฑ์ไม้มีค่า โดยสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กรมศิลปากร และกรมยุทธโยธาทหารบก เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ และ สอง เรือนยอดบรมมังคลานุสรณีย์ โดยสถาบันสิริกิติ์ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ
นอกจากนี้ จะจัดพิธีถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 9 มิถุนายน 2559 พร้อมกันเวลา 09.09 น. พระสงฆ์ในโครงการอุปสมบท 770 รูป เจริญพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศล ถวายพระพรชัยมงคล ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
นอกจากนี้ จะมีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “ทำดีเริ่มได้ที่ใจเรา” ภายใต้โครงการ “ปณิธานความดี ปีมหามงคล” การจัดมหกรรมคอนเสิร์ต การแสดงพลุดอกไม้ไฟ และแสงสีเสียงเฉลิมฉลองในโอกาสเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี
• แม่กองธรรมฯจับมือ กสทช. ใช้อีเลิร์นนิ่ง ดึงคนรุ่นใหม่เข้าถึงธรรมะ
พระพรหมมุนี (สุชิน อคฺคชิโน) กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ในฐานะแม่กองธรรมสนามหลวง กล่าวในพิธีเปิดอบรมครูสอนพระปริยัติธรรม แผนกธรรม ว่า ปัจจุบันสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตคนมากขึ้น
สำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) สำนักนายกรัฐมนตรี จึงได้ร่วมมือกับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เตรียมจัดทำโครงการสอนธรรมะผ่านระบบอีเลิร์นนิ่ง โดยใช้เทคโนโลยีการสื่อสารสมัยใหม่ เพื่อให้เด็กและเยาวชนเรียนรู้และสอบถามปัญหาการเรียนธรรมะได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยผ่านระบบอินเทอร์เน็ต เช่น การเผยแพร่เนื้อหาวิดีโอ ครูสอนต้นแบบ แต่ละสาขาวิชาที่เกี่ยวเนื่องกับหลักธรรม วิชาการด้านพระพุทธศาสนา ที่มีเนื้อหาที่เข้าใจง่าย นำไปใช้ได้จริง เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ทุกสถานที่เวลาใดก็ได้ เป็นต้น
ทั้งนี้ ตั้งเป้าหมายให้โครงการดังกล่าวเห็นผลภายใน 2 ปี
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 184 เมษายน 2559 โดย กองบรรณาธิการ)
นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า กรมศิลปากรได้จัดโครงการบูรณะวัดเฉลิมพระเกียรติ 9 วัด เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติ 70 ปี โดยคัดเลือกวัดสำคัญ 9 แห่ง ที่ทรงคุณค่าทั้งในส่วนกลาง และภูมิภาค มาทำการบูรณะตามแบบสถาปัตยกรรมดั้งเดิม รวมงบประมาณกว่า 99 ล้านบาท ได้แก่ วัดราชนัดดารามวรวิหาร วัดดุสิดารามวรวิหาร กรุงเทพฯ วัดใหญ่สุวรรณารามวรวิหาร จ.เพชรบุรี วัดไพชยนต์พลเสพย์ราชวรวิหาร จ.สุมทรปราการ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.สุพรรณบุรี วัดศาลาปูนวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา วัดปราสาท จ.เชียงใหม่ วัดโพธิ์ชัย จ.มุกดาหาร และวัดฉัททันต์สนาน จ.นราธิวาส
สำหรับการบูรณะวัดทั้ง 9 แห่งนี้ คัดเลือกจากวัดที่มีสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่าและมีความสำคัญ อาทิ วัดราชนัดดารามฯ ซึ่งมีโลหะปราสาทองค์แรก และองค์เดียวของไทย อีกทั้งยังเป็นองค์ที่ 3 ของโลก โดยการบูรณะดังกล่าวมีกำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2559
• สธ. เผยข่าวดี! คนพิการขาขาดทั่วไทย ได้รับขาเทียมฟรีภายในปี 2559
นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีแนวโน้มจำนวนคนพิการเพิ่มขึ้น ทั้งจากโรคเรื้อรัง อุบัติเหตุ และสูงวัย
กระทรวงสาธารณสุข โดยศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จึงได้มอบให้สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ กรมการแพทย์ จัดทำโครงการมอบแขนขาเทียมให้คนพิการทั่วประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คนพิการแขนขาขาดทั้งรายเก่าและรายใหม่ สามารถเข้าถึงบริการสุขภาพ ได้รับบริการการฟื้นฟูสมรรถภาพ ได้รับกายอุปกรณ์เสริมและเทียม รวมทั้งอุปกรณ์เครื่องช่วยที่จำเป็นที่มีคุณภาพ เพื่อส่งเสริมให้คนพิการแขนขาขาดมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
โครงการมอบแขนขาเทียมให้คนพิการทั่วประเทศ ในปี 2559 จัดขึ้นในจังหวัดตราด พิษณุโลก เลย นครราชสีมา อุตรดิตถ์ โดยตั้งเป้าหมายจัดหาและซ่อมอุปกรณ์เครื่องช่วยคนพิการฟรี 1,500 ราย พร้อมพัฒนาทักษะบุคลากรในการจดทะเบียนและดูแลคนพิการ 1,000 คน โดยทำงานร่วมกับหน่วยกายอุปกรณ์โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศ ประมาณ 200 แห่ง
ทั้งนี้ กรมการแพทย์ ได้มอบรถทำแขนขาเทียม มูลค่า 12.5 ล้านบาท จำนวน 1 คัน ให้แก่โรงพยาบาลพระพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งภายในรถประกอบด้วยอุปกรณ์สำหรับทำแขนขาเทียม เช่น หัวขุดเบ้าขาเทียม ตู้อบความร้อน เครื่องขัดกระดาษทราย ระบบดูดฝุ่น เป็นต้น
นอกจากนี้ สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติยังมีรถทำแขนขาเทียม จำนวน 2 คัน ไว้ให้บริการประชาชนทั่วประเทศ โดยให้บริการออกหน่วยเคลื่อนที่ฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว รวม 55 ครั้ง
• เตรียมสร้างพิพิภัณฑสถานแห่งชาติพระปฐมเจดีย์แห่งใหม่ ให้มีความทันสมัยไฮเทคที่สุดในประเทศ
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมนายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ได้เข้าหารือกับพระพรหมเวที เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร เรื่องการย้ายพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระปฐมเจดีย์ ไปจัดสร้างใหม่ในพื้นที่เรือนจำกลาง จ.นครปฐม หลังเก่า โดยกล่าวว่า กรมศิลปากรได้ออกแบบพิพิธภัณฑ์ใหม่เสร็จแล้ว ภายในจะรวมโบราณวัตถุสมัยทวาราวดีที่ยิ่งใหญ่ มีความทันสมัยที่สุดในประเทศ ใช้งบประมาณปี 2561 ดำเนินการ คาดว่าจะใช้เวลาสร้างราว 4 ปี โดยระหว่างนี้จะปรับปรุงพิพิธภัณฑ์ จัดทำป้ายให้ความรู้ระบบคิวอาร์โคด และประชาสัมพันธ์นักท่องเที่ยวมากขึ้น
ที่สำคัญจังหวัดนครปฐมเตรียมผลักดันองค์พระปฐมเจดีย์ เสนอขึ้นทะเบียนมรดกโลก โดยให้กรมศิลปากร ศึกษาความโดดเด่นด้านคุณลักษณะ สถาปัตยกรรม อารยธรรม ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ร่วมกับจังหวัด จัดทำข้อมูลรวมทั้งข้อขัดแย้งกับประชาชนในพื้นที่บางส่วนที่ไม่เห็นด้วย
ด้านพระพรหมเวที เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร กล่าวว่า ได้ให้กระทรวงวัฒนธรรมและจังหวัดนครปฐม จัดสร้างอนุสาวรีย์ รัชกาลที่ 4 ,5 และ 6 เพื่อเทิดพระเกียรติยกย่องบูรพพระมหากษัตริย์ ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ และมีพระราชศรัทธาต่อองค์พระปฐมเจดีย์ เรียกศรัทธาให้คนในพื้นที่ยินดีสนับสนุนการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ทั้งนี้ หลังจากกรมศิลปากรย้ายโบราณวัตถุในพิพิธภัณฑ์เสร็จสิ้น จะใช้พื้นที่เป็นสำนักงานการศึกษาบาลีของพระสงฆ์และสามเณรต่อไป
• วธ. ร่วมกับ 15 หน่วยงาน บูรณาการจัด “สงกรานต์แบบไทย ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า”
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยแล้ง การจัดงานสงกรานต์ปีนี้ วธ.ได้บูรณาการกับ 15 หน่วยงาน อาทิ กรมชลประทาน การประปานครหลวง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ฯลฯ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “สงกรานต์แบบไทย ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า” ระหว่างวันที่ 13-15 เม.ย. ทั้งนี้ในส่วนของ วธ. จะรณรงค์การเล่นสงกรานต์แบบไทยๆ การอนุรักษ์ประเพณี การแต่งกายด้วยผ้าไทย การส่งเสริมให้คนเข้าวัด โดยจะจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี และสรงน้ำข้ามปีตามแบบวิถีไทย โดยกำหนดจัดขึ้นจังหวัดละ 1 แห่ง ทั่วประเทศ เริ่มสงกรานต์นี้เป็นปีแรก รวมทั้งจัดงานสงกรานต์อาเซียนไทย ลาว-เมียนมา-สิบสองปันนา ที่จังหวัดเชียงรายในวันที่ 9 เม.ย. และงาน “สงกรานต์เมษา ผ้าขาวม้ารวมใจ เล่นน้ำแบบไทย ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า” ที่สยามสแควร์ ในวันที่ 13-15 เม.ย.
สำหรับนางสงกรานต์ ปี 2559 มีนามว่า มณฑาเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกจำปา อาภรณ์แก้วไพฑูรย์ ภักษาหารนม เนย พระหัตถ์ขวาทรงเหล็กแหลม พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้า เสด็จไสยาสน์ลืมเนตรมาเหนือหลังคัสพะ(ลา) เป็นพาหนะ
เกณฑ์พิรุณศาสตร์ปีนี้ จันทร์เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก 500 ห่า ตกในเขาจักรวาล 200 ห่า ตกในป่าหิมพานต์ 150 ห่า ตกในมหาสมุทร 100 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 50 ห่า นาคให้น้ำ 2 ตัว ทำนายว่า ฝนต้นปีน้อย กลางปีงาม แต่ปลายปีมากแล เกณฑ์ธัญญาหาร ชื่อ ลาภะ ข้าวกล้าในนาจะได้ผล 9 ส่วน เสีย 1 ส่วน ธัญญาหาร ผลาหารมังสาหารบริบูรณ์ ประชาชนทั้งหลายจะอยู่เย็นเป็นสุข
สำหรับคำทำนายมีดังนี้ วันพุธ เป็นวันมหาสงกรานต์ : ท้าวพระยาจะได้เครื่องบรรณาการมาแต่ต่างเมือง แต่จะแพ้ลูกอ่อนนักแลฯ , วันพฤหัสบดี เป็นวันเนา : ลูกไม้จะแพง ตระกูลทั้งหลายจะร้อนใจนักแลฯ , วันศุกร์ เป็นวันเถลิงศก : พ่อค้าพานิชทั้งหลาย อันไปค้าขายในประเทศต่างๆ จะประกอบไปด้วยพัสดุเงินทอง และมีความสุขเป็นอันมากแลฯ, นางสงกรานต์ ไสยาสน์ลืมเนตร(นอนลืมตา) : ประชาชนจะอยู่เย็นเป็นสุข
• รัฐบาลเตรียมจัดงานเฉลิมพระเกียรติในหลวง ครองราชย์ครบ 70 ปี
รัฐบาลเตรียมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559
พล.ต.อ. เอก อังสนานนท์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559 ว่า ได้กำหนดชื่อการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ และกำหนดเขตการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559 ซึ่งสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้มีหนังสือขอให้นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณา ขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัย ชื่อการจัดงานฯ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบการจัดงานพระราชพิธี โดยสำนักพระราชวัง สำนักราชเลขาธิการ และกรมการศาสนา เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ โดยเห็นชอบให้จัดสร้างถาวรวัตถุเป็นของที่ระลึกน้อมเกล้าฯถวาย เนื่องในโอกาสมหามงคล เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559 และเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 จำนวน 2 รายการ คือ หนึ่ง สร้างพิพิธภัณฑ์ไม้มีค่า โดยสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กรมศิลปากร และกรมยุทธโยธาทหารบก เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ และ สอง เรือนยอดบรมมังคลานุสรณีย์ โดยสถาบันสิริกิติ์ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ
นอกจากนี้ จะจัดพิธีถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 9 มิถุนายน 2559 พร้อมกันเวลา 09.09 น. พระสงฆ์ในโครงการอุปสมบท 770 รูป เจริญพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศล ถวายพระพรชัยมงคล ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
นอกจากนี้ จะมีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “ทำดีเริ่มได้ที่ใจเรา” ภายใต้โครงการ “ปณิธานความดี ปีมหามงคล” การจัดมหกรรมคอนเสิร์ต การแสดงพลุดอกไม้ไฟ และแสงสีเสียงเฉลิมฉลองในโอกาสเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี
• แม่กองธรรมฯจับมือ กสทช. ใช้อีเลิร์นนิ่ง ดึงคนรุ่นใหม่เข้าถึงธรรมะ
พระพรหมมุนี (สุชิน อคฺคชิโน) กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ในฐานะแม่กองธรรมสนามหลวง กล่าวในพิธีเปิดอบรมครูสอนพระปริยัติธรรม แผนกธรรม ว่า ปัจจุบันสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตคนมากขึ้น
สำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) สำนักนายกรัฐมนตรี จึงได้ร่วมมือกับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เตรียมจัดทำโครงการสอนธรรมะผ่านระบบอีเลิร์นนิ่ง โดยใช้เทคโนโลยีการสื่อสารสมัยใหม่ เพื่อให้เด็กและเยาวชนเรียนรู้และสอบถามปัญหาการเรียนธรรมะได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยผ่านระบบอินเทอร์เน็ต เช่น การเผยแพร่เนื้อหาวิดีโอ ครูสอนต้นแบบ แต่ละสาขาวิชาที่เกี่ยวเนื่องกับหลักธรรม วิชาการด้านพระพุทธศาสนา ที่มีเนื้อหาที่เข้าใจง่าย นำไปใช้ได้จริง เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ทุกสถานที่เวลาใดก็ได้ เป็นต้น
ทั้งนี้ ตั้งเป้าหมายให้โครงการดังกล่าวเห็นผลภายใน 2 ปี
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 184 เมษายน 2559 โดย กองบรรณาธิการ)
