• หาดูยาก...พระอาทิตย์ทรงกลดเหนือเจ้าแม่กวนอิม
จีน : สำนักข่าวจีน Chinanews.com รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2016 ชาวบ้านจำนวนมากบริเวณวัดกุยหยวน ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลเหอเป่ย์ ทางตอนกลางของประเทศจีน ได้เห็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติที่หาดูได้ยาก นั่นคือ พระอาทิตย์ทรงกลดเหนือเจ้าแม่กวนอิม ที่ประดิษฐานภายในบริเวณวัด แลดูงามสง่าน่าเกรงขามยิ่งนัก
• นักอนุรักษ์เตือนชาวพุทธ ปล่อยแมงดาทะเลลงน้ำ เท่ากับฆ่าพวกมัน!!
ฮ่องกง : สำนักข่าวจีน South China Morning Post รายงานว่า แมงดาทะเล สัตว์น้ำดึกดำบรรพ์ก่อนยุคไดโนเสาร์ นับเป็นหนึ่งใน “ฟอสซิลที่มีชีวิต” ซึ่งหายากและยังคงหลงเหลืออยู่บนโลก กำลังเผชิญอันตรายที่จะสูญพันธุ์ ด้วยน้ำมือของกลุ่มชาวพุทธที่เชื่อว่า ตัวเองกำลังช่วยชีวิตพวกมันด้วยการปล่อยคืนสู่ทะเล
เพราะชาวพุทธเชื่อว่า เมื่อคนตายแล้ว อาจกลับชาติมาเกิดเป็นสัตว์ ดังนั้น การปล่อยสัตว์น้ำ อาทิ หอย ปู ปลา คืนสู่ทะเล จึงเป็นการสร้างกรรมดี เพราะได้ช่วยชีวิตพวกมันให้รอดพ้นจากการถูกฆ่าไปเป็นอาหาร
แต่โอกาสที่แมงดาทะเลจะรอดตายมีน้อยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อถูกปล่อยลงน้ำบริเวณสะพานท่า ซึ่งน้ำมักเน่าเหม็น และพวกมันปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ไม่ได้
“พวกเขาคิดว่า กำลังช่วยชีวิตแมงดาทะเล แต่จริงๆแล้วกำลังส่งพวกมันไปตาย” ศจ.เคนเน็ธ เลือง ไมยี ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศวิทยาทางน้ำของมหาวิทยาลัยฮ่องกง กล่าว และอธิบายว่า การปล่อยสัตว์คืนสู่ธรรมชาติ นอกจากจะเป็นอันตรายต่อตัวสัตว์เองแล้ว ยังเป็นอันตรายต่อความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์น้ำ เมื่อสัตว์ต่างถิ่นเข้ามาแย่งแหล่งอาหารและที่อยู่ของสัตว์ถิ่นเดิม
ทั้งนี้ผลงานวิจัยใน ค.ศ. 2008 ของมหาวิทยาลัยฮ่องกง ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์แมงดาทะเลเพียงแห่งเดียวของฮ่องกง เผยว่า มากกว่า 60% ของพวกมัน ถูกซื้อไปปล่อยลงทะเล หากยังเป็นตัวอ่อน ต้องปล่อยบริเวณชายฝั่งที่เป็นดินโคลน หากโตเต็มที่แล้ว ต้องปล่อยลงน้ำใกล้แหล่งกำเนิดตามธรรมชาติ พวกมันจึงจะอยู่รอด
บ่อยครั้งที่ชาวประมงจงใจจับแมงดาทะเล แล้วนำไปขายให้แก่กลุ่มทางศาสนา เช่น “Hong Kong Release Live” ซึ่งเป็นกลุ่มชาวพุทธที่ซื้อสัตว์ทะเลเป็นๆจากตลาดสด เพื่อนำไปปล่อยลงทะเลสัปดาห์ละครั้ง
เนื่องจากแมงดาทะเลไม่ใช่สัตว์คุ้มครองทั้งในฮ่องกงและประเทศอื่นๆ จึงไม่ผิดกฎหมายที่ชาวประมงจะจับมาขาย ซึ่งอาจทำให้พวกมันสูญพันธุ์ บรรดานักอนุรักษ์แนะทางออกว่า ควรให้ความรู้และความเข้าใจแก่สาธารณชน เพื่อยุติการซื้อแมงดาทะเลไปปล่อย
• วัดดังในบังกลาเทศห้ามนักท่องเที่ยวเข้า
บังกลาเทศ : เว็บไซต์ข่าวบังกลาเทศ DhakaTribune รายงานว่า เจ้าหน้าที่วัด The Buddha Dhatu Jadi (วัดพุทธธาตุเจดีย์) หรือที่รู้จักในนาม Bandarban Golden Temple (วัดทองบันดาร์บัน) ที่ตั้งอยู่ในเมืองบันดาร์บัน ประเทศบังกลาเทศ ได้ออกประกาศห้ามนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมภายในวัดตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2016 เป็นต้นไป โดยไม่รวมถึงผู้ที่เข้ามาสักการบูชาจริงๆ
ชิบ นาถ หนึ่งในคณะกรรมการดูแลรักษาวัด เผยว่า ที่ผ่านมาบรรดานักท่องเที่ยวเข้ามาในวัด โดยไม่ยอมถอดรองเท้า และชอบสัมผัสพระพุทธรูป บางคนนำสิ่งของต่างๆมาวางกระจัดกระจายทั่วบริเวณวัด เป็นภาพที่ไม่น่าดูในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
อนึ่ง วัดทองบันดาร์บัน เป็นวัดพุทธเถรวาทที่ใหญ่ที่สุดในบังกลาเทศ สร้างเมื่อ ค.ศ.2000 ตามสถาปัตยกรรมยะไข่ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูปองค์ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ ถือเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ของชาวพุทธ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนเป็นจำนวนมาก
• ศิลปะน่าทึ่ง “วาฬกลางอากาศ” สื่อ “วัฏสงสาร”
ญี่ปุ่น : สำนักข่าวญี่ปุ่น Japantoday รายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ บรรดาบัณฑิตผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปะ นครโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้จัดนิทรรศการแสดงผลงานของตนเองเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งมีงานศิลปะชิ้นหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจของทุกคน ชื่อว่า “วัฏสงสาร” ผลงานของ “ไอซานะ ยามาดะ” นักศึกษาปริญญาโทด้านการออกแบบ
บรรดาผู้เข้าชมต่างทึ่งในความงดงามของเหล่าวาฬและโลกใต้น้ำอันซับซ้อน จึงพากันเรียกงานศิลปะชิ้นนี้ว่า “วาฬกลางอากาศ” ที่แสดงถึง “วัฏสงสาร” อันเป็นภพภูมิที่มนุษย์ทุกคนต้องเวียนว่ายตายเกิดตามหลักพุทธศาสนา
ยามาดะประดิษฐ์วาฬทั้งหมด 6 ตัว เป็นตัวแทนของ 6 ภพภูมิ ภายในวาฬเป็นโลกใต้ท้องทะเลอันงดงาม ประกอบด้วยภูเขาไฟใต้น้ำ เรือใบ และหมู่ก้อนเมฆ ซึ่งแต่ละตัวสื่อถึงเส้นทางหลังการตายเพื่อไปเกิดใหม่อีกครั้ง
• “ลูกแพร์เทพแห่งโชคลาภ” ขายดีในเวียดนาม
จีน : สำนักข่าวจีน People’s Daily Online รายงานโดยอ้างสื่อของเวียดนามว่า “ลูกแพร์” ผลไม้ยอดฮิตของจีน กลายเป็นผลไม้ขายดีที่สุดตามท้องตลาดของเวียดนาม
ด้วยลักษณะของลูกแพร์ที่ไม่ธรรมดา เนื่องจากผลเป็นรูปเทพเจ้า มีอักษรมงคล “ฝู” อยู่กลางอก แลดูน่ารัก จึงเป็นผลไม้ที่ลูกค้าชื่นชอบ พ่อค้าพากันเรียกว่า “ลูกแพร์เทพแห่งโชคลาภ”
ที่มาของลูกแพร์นี้ เริ่มจากเมื่อหลายปีก่อน เกา เซียนซาง ชาวนาจีน ใช้เวลา 6 ปี หาวิธีดัดลูกแพร์ให้เป็นรูปแบบที่ต้องการได้สำเร็จ โดยลูกแพร์จะถูกดัดให้โตในแม่พิมพ์รูปร่างต่างๆ เช่น เทพแห่งโชคลาภ เทพแห่งอายุยืน และพระศรีอริยเมตไตรย จนได้รับความนิยมและวางขายทั่วไปในจีน
“ผมเริ่มนำลูกแพร์เทพแห่งโชคลาภ เข้ามาขายในเดือนธันวาคม 2015 ในราคาลูกละ 13 หยวน (ราว 75 บาท) ตอนแรกไม่คิดว่าจะขายดี จึงนำเข้ามาไม่กี่สิบลัง ต่อมาผมขายได้เป็นตัน มีลูกค้าจำนวนหนึ่งที่มองว่า เป็นผลไม้ที่น่ารักและมีความหมายดี โดยเชื่อว่ามันจะนำโชคลาภมาให้” รวน เดเฮ พ่อค้าผลไม้รายหนึ่งในเวียดนามบอกผู้สื่อข่าว
ทั้งนี้ ลูกแพร์ดังกล่าวเก็บไว้ได้นาน 2-3 เดือน โดยสื่อเวียดนามเชื่อว่า อาจมีการใส่สารกันเสียจำนวนมากเพื่อให้อยู่ได้นานขึ้น แต่ลูกค้าก็ไม่ใส่ใจเรื่องดังกล่าว เพราะซื้อไปตั้งวางไว้ที่บ้านเพื่อความเป็นสิริมงคล มีลูกค้าบางคนกล่าวว่า “ลูกแพร์ดูน่ารัก จนเรากินไม่ลง”
• จีนสร้างโรงแรมให้เป็นวัดสไตล์เซน
จีน : เว็บไซต์ slh.com รายงานว่า โรงแรม Ayard of Ch’an เมืองเล่อซาน ประเทศจีน เป็นโรงแรมบูติค 3 ชั้น ในเครือ Small Luxury Hotels of the World สร้างตามสถาปัตยกรรมจีน และตกแต่งร่วมสมัยด้วยแนวคิดพุทธศาสนานิกายเซน มีห้องพัก 47 ห้อง ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนสวย 2 แห่ง ที่ตั้งชื่อตามปรัชญาเซน คือ Xing Shen (แปลว่าการปฏิบัติ) และ Jing Ly (แปลว่าสมาธิ)
ชนิดของห้องพักแบ่งเป็น 4 ระดับ ตามขั้นตอนการฝึกสมาธิ ได้แก่ Shu Xin (ทำจิตให้ผ่อนคลาย), Jing Xin (ทำจิตให้ว่าง), Cheng Xin (ทำจิตให้บริสุทธิ์) และ Du Xin (ทำจิตให้อิสระ) ภายในห้องเป็นพื้นไม้ ตกแต่งด้วยวัสดุธรรมชาติ ด้วยโทนสีสบายตา
นอกจากนี้ ยังมีซุ้มทำสมาธิส่วนตัว ที่ห้อมล้อมด้วยหมู่ต้นสน ให้ความรู้สึกผ่อนคลายอย่างแท้จริง ห้องน้ำชาที่เสิร์ฟชาเขียวดั้งเดิมตามประเพณีจีน และภัตตาคารอาหารมังสวิรัติเลิศรสสไตล์เสฉวน
โรงแรมแห่งนี้อยู่ใกล้กับภูเขาเล่อซาน ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อโตเล่อซาน พระพุทธรูปหินองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ที่แกะสลักจากหน้าผา เมื่อกว่า 1,000 ปีที่แล้ว
• ศูนย์การแพทย์รัสเซียถวายรางวัล อนุรักษ์แพทย์แผนทิเบต แด่องค์ทะไล ลามะ
รัสเซีย : เว็บไซต์ข่าวของทิเบต tibet.net ได้รายงานว่า นายดูการอฟ บิลิคโต ผู้อำนวยการทั่วไปของศูนย์การแพทย์ LLC Green Lotus ของรัสเซีย ได้มอบรางวัลแด่องค์ทะไล ลามะ ผ่าน เตโล ตุลกู รินโปเช ผู้แทนพระองค์ ณ ศูนย์วัฒนธรรมและสารสนเทศทิเบต ในกรุงมอสโคว์
รางวัลดังกล่าวเป็นเหรียญทองรูปพระไภษัชคุรุพุทธเจ้า (ปางหมอยา) และรูปหล่อองค์ทะไล ลามะ ในวัยเยาว์กำลังขี่กิเลน (สิงโตหิมะ) สื่อให้เห็นถึงความผูกพันระหว่างพระองค์และประเทศรัสเซีย
“ในวาระการเฉลิมฉลองพระชันษา 80 ปีขององค์ทะไล ลามะ พวกเราอยากขอบคุณพระองค์ที่ทรงงานหนัก เพื่ออนุรักษ์แพทย์แผนทิเบตไว้ ไม่เฉพาะในอินเดีย แต่ในประเทศอื่นๆด้วย ประชาชนชาวทิเบตและรัสเซียต่างมีส่วนร่วมในวัฒนธรรมอันล้ำค่า ในเรื่องวิถีพุทธ โหราศาสตร์ ศิลปะ และการแพทย์
พวกเราขอแสดงความยินดีกับพระองค์ที่ทรงงานต่างๆจนสำเร็จมาตลอดพระชนม์ชีพ และขอพระองค์ทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์และทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน” ดูการอฟ บิลิคโต กล่าว
ขณะที่ เตโล รินโปเช กล่าวว่า “เป็นเวลาหลายปีแล้วที่สถาบันแพทย์และโหราศาสตร์แบบทิเบต ‘เม็นซีกัง’ ได้ส่งแพทย์ทิเบตหลายคนไปยังรัสเซีย ไม่เพียงเพื่อรักษาคนไข้เท่านั้น แต่ยังได้เปิดสอน จัดสัมมนา และสอนภาคปฏิบัติอีกด้วย”
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 183 มีนาคม 2559 โดย เภตรา)
จีน : สำนักข่าวจีน Chinanews.com รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2016 ชาวบ้านจำนวนมากบริเวณวัดกุยหยวน ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลเหอเป่ย์ ทางตอนกลางของประเทศจีน ได้เห็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติที่หาดูได้ยาก นั่นคือ พระอาทิตย์ทรงกลดเหนือเจ้าแม่กวนอิม ที่ประดิษฐานภายในบริเวณวัด แลดูงามสง่าน่าเกรงขามยิ่งนัก
• นักอนุรักษ์เตือนชาวพุทธ ปล่อยแมงดาทะเลลงน้ำ เท่ากับฆ่าพวกมัน!!
ฮ่องกง : สำนักข่าวจีน South China Morning Post รายงานว่า แมงดาทะเล สัตว์น้ำดึกดำบรรพ์ก่อนยุคไดโนเสาร์ นับเป็นหนึ่งใน “ฟอสซิลที่มีชีวิต” ซึ่งหายากและยังคงหลงเหลืออยู่บนโลก กำลังเผชิญอันตรายที่จะสูญพันธุ์ ด้วยน้ำมือของกลุ่มชาวพุทธที่เชื่อว่า ตัวเองกำลังช่วยชีวิตพวกมันด้วยการปล่อยคืนสู่ทะเล
เพราะชาวพุทธเชื่อว่า เมื่อคนตายแล้ว อาจกลับชาติมาเกิดเป็นสัตว์ ดังนั้น การปล่อยสัตว์น้ำ อาทิ หอย ปู ปลา คืนสู่ทะเล จึงเป็นการสร้างกรรมดี เพราะได้ช่วยชีวิตพวกมันให้รอดพ้นจากการถูกฆ่าไปเป็นอาหาร
แต่โอกาสที่แมงดาทะเลจะรอดตายมีน้อยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อถูกปล่อยลงน้ำบริเวณสะพานท่า ซึ่งน้ำมักเน่าเหม็น และพวกมันปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ไม่ได้
“พวกเขาคิดว่า กำลังช่วยชีวิตแมงดาทะเล แต่จริงๆแล้วกำลังส่งพวกมันไปตาย” ศจ.เคนเน็ธ เลือง ไมยี ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศวิทยาทางน้ำของมหาวิทยาลัยฮ่องกง กล่าว และอธิบายว่า การปล่อยสัตว์คืนสู่ธรรมชาติ นอกจากจะเป็นอันตรายต่อตัวสัตว์เองแล้ว ยังเป็นอันตรายต่อความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์น้ำ เมื่อสัตว์ต่างถิ่นเข้ามาแย่งแหล่งอาหารและที่อยู่ของสัตว์ถิ่นเดิม
ทั้งนี้ผลงานวิจัยใน ค.ศ. 2008 ของมหาวิทยาลัยฮ่องกง ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์แมงดาทะเลเพียงแห่งเดียวของฮ่องกง เผยว่า มากกว่า 60% ของพวกมัน ถูกซื้อไปปล่อยลงทะเล หากยังเป็นตัวอ่อน ต้องปล่อยบริเวณชายฝั่งที่เป็นดินโคลน หากโตเต็มที่แล้ว ต้องปล่อยลงน้ำใกล้แหล่งกำเนิดตามธรรมชาติ พวกมันจึงจะอยู่รอด
บ่อยครั้งที่ชาวประมงจงใจจับแมงดาทะเล แล้วนำไปขายให้แก่กลุ่มทางศาสนา เช่น “Hong Kong Release Live” ซึ่งเป็นกลุ่มชาวพุทธที่ซื้อสัตว์ทะเลเป็นๆจากตลาดสด เพื่อนำไปปล่อยลงทะเลสัปดาห์ละครั้ง
เนื่องจากแมงดาทะเลไม่ใช่สัตว์คุ้มครองทั้งในฮ่องกงและประเทศอื่นๆ จึงไม่ผิดกฎหมายที่ชาวประมงจะจับมาขาย ซึ่งอาจทำให้พวกมันสูญพันธุ์ บรรดานักอนุรักษ์แนะทางออกว่า ควรให้ความรู้และความเข้าใจแก่สาธารณชน เพื่อยุติการซื้อแมงดาทะเลไปปล่อย
• วัดดังในบังกลาเทศห้ามนักท่องเที่ยวเข้า
บังกลาเทศ : เว็บไซต์ข่าวบังกลาเทศ DhakaTribune รายงานว่า เจ้าหน้าที่วัด The Buddha Dhatu Jadi (วัดพุทธธาตุเจดีย์) หรือที่รู้จักในนาม Bandarban Golden Temple (วัดทองบันดาร์บัน) ที่ตั้งอยู่ในเมืองบันดาร์บัน ประเทศบังกลาเทศ ได้ออกประกาศห้ามนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมภายในวัดตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2016 เป็นต้นไป โดยไม่รวมถึงผู้ที่เข้ามาสักการบูชาจริงๆ
ชิบ นาถ หนึ่งในคณะกรรมการดูแลรักษาวัด เผยว่า ที่ผ่านมาบรรดานักท่องเที่ยวเข้ามาในวัด โดยไม่ยอมถอดรองเท้า และชอบสัมผัสพระพุทธรูป บางคนนำสิ่งของต่างๆมาวางกระจัดกระจายทั่วบริเวณวัด เป็นภาพที่ไม่น่าดูในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
อนึ่ง วัดทองบันดาร์บัน เป็นวัดพุทธเถรวาทที่ใหญ่ที่สุดในบังกลาเทศ สร้างเมื่อ ค.ศ.2000 ตามสถาปัตยกรรมยะไข่ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูปองค์ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ ถือเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ของชาวพุทธ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนเป็นจำนวนมาก
• ศิลปะน่าทึ่ง “วาฬกลางอากาศ” สื่อ “วัฏสงสาร”
ญี่ปุ่น : สำนักข่าวญี่ปุ่น Japantoday รายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ บรรดาบัณฑิตผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปะ นครโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้จัดนิทรรศการแสดงผลงานของตนเองเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งมีงานศิลปะชิ้นหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจของทุกคน ชื่อว่า “วัฏสงสาร” ผลงานของ “ไอซานะ ยามาดะ” นักศึกษาปริญญาโทด้านการออกแบบ
บรรดาผู้เข้าชมต่างทึ่งในความงดงามของเหล่าวาฬและโลกใต้น้ำอันซับซ้อน จึงพากันเรียกงานศิลปะชิ้นนี้ว่า “วาฬกลางอากาศ” ที่แสดงถึง “วัฏสงสาร” อันเป็นภพภูมิที่มนุษย์ทุกคนต้องเวียนว่ายตายเกิดตามหลักพุทธศาสนา
ยามาดะประดิษฐ์วาฬทั้งหมด 6 ตัว เป็นตัวแทนของ 6 ภพภูมิ ภายในวาฬเป็นโลกใต้ท้องทะเลอันงดงาม ประกอบด้วยภูเขาไฟใต้น้ำ เรือใบ และหมู่ก้อนเมฆ ซึ่งแต่ละตัวสื่อถึงเส้นทางหลังการตายเพื่อไปเกิดใหม่อีกครั้ง
• “ลูกแพร์เทพแห่งโชคลาภ” ขายดีในเวียดนาม
จีน : สำนักข่าวจีน People’s Daily Online รายงานโดยอ้างสื่อของเวียดนามว่า “ลูกแพร์” ผลไม้ยอดฮิตของจีน กลายเป็นผลไม้ขายดีที่สุดตามท้องตลาดของเวียดนาม
ด้วยลักษณะของลูกแพร์ที่ไม่ธรรมดา เนื่องจากผลเป็นรูปเทพเจ้า มีอักษรมงคล “ฝู” อยู่กลางอก แลดูน่ารัก จึงเป็นผลไม้ที่ลูกค้าชื่นชอบ พ่อค้าพากันเรียกว่า “ลูกแพร์เทพแห่งโชคลาภ”
ที่มาของลูกแพร์นี้ เริ่มจากเมื่อหลายปีก่อน เกา เซียนซาง ชาวนาจีน ใช้เวลา 6 ปี หาวิธีดัดลูกแพร์ให้เป็นรูปแบบที่ต้องการได้สำเร็จ โดยลูกแพร์จะถูกดัดให้โตในแม่พิมพ์รูปร่างต่างๆ เช่น เทพแห่งโชคลาภ เทพแห่งอายุยืน และพระศรีอริยเมตไตรย จนได้รับความนิยมและวางขายทั่วไปในจีน
“ผมเริ่มนำลูกแพร์เทพแห่งโชคลาภ เข้ามาขายในเดือนธันวาคม 2015 ในราคาลูกละ 13 หยวน (ราว 75 บาท) ตอนแรกไม่คิดว่าจะขายดี จึงนำเข้ามาไม่กี่สิบลัง ต่อมาผมขายได้เป็นตัน มีลูกค้าจำนวนหนึ่งที่มองว่า เป็นผลไม้ที่น่ารักและมีความหมายดี โดยเชื่อว่ามันจะนำโชคลาภมาให้” รวน เดเฮ พ่อค้าผลไม้รายหนึ่งในเวียดนามบอกผู้สื่อข่าว
ทั้งนี้ ลูกแพร์ดังกล่าวเก็บไว้ได้นาน 2-3 เดือน โดยสื่อเวียดนามเชื่อว่า อาจมีการใส่สารกันเสียจำนวนมากเพื่อให้อยู่ได้นานขึ้น แต่ลูกค้าก็ไม่ใส่ใจเรื่องดังกล่าว เพราะซื้อไปตั้งวางไว้ที่บ้านเพื่อความเป็นสิริมงคล มีลูกค้าบางคนกล่าวว่า “ลูกแพร์ดูน่ารัก จนเรากินไม่ลง”
• จีนสร้างโรงแรมให้เป็นวัดสไตล์เซน
จีน : เว็บไซต์ slh.com รายงานว่า โรงแรม Ayard of Ch’an เมืองเล่อซาน ประเทศจีน เป็นโรงแรมบูติค 3 ชั้น ในเครือ Small Luxury Hotels of the World สร้างตามสถาปัตยกรรมจีน และตกแต่งร่วมสมัยด้วยแนวคิดพุทธศาสนานิกายเซน มีห้องพัก 47 ห้อง ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนสวย 2 แห่ง ที่ตั้งชื่อตามปรัชญาเซน คือ Xing Shen (แปลว่าการปฏิบัติ) และ Jing Ly (แปลว่าสมาธิ)
ชนิดของห้องพักแบ่งเป็น 4 ระดับ ตามขั้นตอนการฝึกสมาธิ ได้แก่ Shu Xin (ทำจิตให้ผ่อนคลาย), Jing Xin (ทำจิตให้ว่าง), Cheng Xin (ทำจิตให้บริสุทธิ์) และ Du Xin (ทำจิตให้อิสระ) ภายในห้องเป็นพื้นไม้ ตกแต่งด้วยวัสดุธรรมชาติ ด้วยโทนสีสบายตา
นอกจากนี้ ยังมีซุ้มทำสมาธิส่วนตัว ที่ห้อมล้อมด้วยหมู่ต้นสน ให้ความรู้สึกผ่อนคลายอย่างแท้จริง ห้องน้ำชาที่เสิร์ฟชาเขียวดั้งเดิมตามประเพณีจีน และภัตตาคารอาหารมังสวิรัติเลิศรสสไตล์เสฉวน
โรงแรมแห่งนี้อยู่ใกล้กับภูเขาเล่อซาน ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อโตเล่อซาน พระพุทธรูปหินองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ที่แกะสลักจากหน้าผา เมื่อกว่า 1,000 ปีที่แล้ว
• ศูนย์การแพทย์รัสเซียถวายรางวัล อนุรักษ์แพทย์แผนทิเบต แด่องค์ทะไล ลามะ
รัสเซีย : เว็บไซต์ข่าวของทิเบต tibet.net ได้รายงานว่า นายดูการอฟ บิลิคโต ผู้อำนวยการทั่วไปของศูนย์การแพทย์ LLC Green Lotus ของรัสเซีย ได้มอบรางวัลแด่องค์ทะไล ลามะ ผ่าน เตโล ตุลกู รินโปเช ผู้แทนพระองค์ ณ ศูนย์วัฒนธรรมและสารสนเทศทิเบต ในกรุงมอสโคว์
รางวัลดังกล่าวเป็นเหรียญทองรูปพระไภษัชคุรุพุทธเจ้า (ปางหมอยา) และรูปหล่อองค์ทะไล ลามะ ในวัยเยาว์กำลังขี่กิเลน (สิงโตหิมะ) สื่อให้เห็นถึงความผูกพันระหว่างพระองค์และประเทศรัสเซีย
“ในวาระการเฉลิมฉลองพระชันษา 80 ปีขององค์ทะไล ลามะ พวกเราอยากขอบคุณพระองค์ที่ทรงงานหนัก เพื่ออนุรักษ์แพทย์แผนทิเบตไว้ ไม่เฉพาะในอินเดีย แต่ในประเทศอื่นๆด้วย ประชาชนชาวทิเบตและรัสเซียต่างมีส่วนร่วมในวัฒนธรรมอันล้ำค่า ในเรื่องวิถีพุทธ โหราศาสตร์ ศิลปะ และการแพทย์
พวกเราขอแสดงความยินดีกับพระองค์ที่ทรงงานต่างๆจนสำเร็จมาตลอดพระชนม์ชีพ และขอพระองค์ทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์และทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน” ดูการอฟ บิลิคโต กล่าว
ขณะที่ เตโล รินโปเช กล่าวว่า “เป็นเวลาหลายปีแล้วที่สถาบันแพทย์และโหราศาสตร์แบบทิเบต ‘เม็นซีกัง’ ได้ส่งแพทย์ทิเบตหลายคนไปยังรัสเซีย ไม่เพียงเพื่อรักษาคนไข้เท่านั้น แต่ยังได้เปิดสอน จัดสัมมนา และสอนภาคปฏิบัติอีกด้วย”
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 183 มีนาคม 2559 โดย เภตรา)
