ข่าวสารบ้านเรา

• Bike For Mom ปั่นเพื่อแม่ เฉลิมพระเกียรติ 83 พรรษา “มหาราชินี”
รัฐบาลเชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ “Bike For Mom ปั่นเพื่อแม่” แสดงออกถึงความจงรักภักดี และความรักที่มีต่อแม่

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ได้แถลงถึงการจัดกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ “Bike For Mom ปั่นเพื่อแม่” ถวายเป็นพระราชสดุดี สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ และเป็นการแสดงความสามัคคีร่วมกันของประชาชนชาวไทย เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา 12 สิงหาคม 2558 ตามพระราชปณิธานของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร

เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกหมู่เหล่า ได้ร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดี ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ แสดงออกถึงความรักที่มีต่อแม่ และแม่ของแผ่นดิน เสริมสร้างความสามัคคีของคนในชาติ ที่จะร่วมกันจัดกิจกรรมถวายพระพร แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมการออกกำลังกาย เพื่อให้สุขภาพแข็งแรง ปลูกฝังให้ประชาชนรักการออกกำลังกาย และเสริมสร้างความมีน้ำใจนักกีฬา

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์ที่จัดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 16 สิงหาคม 2558 เวลา 15.00 น. สำหรับเส้นทางในกรุงเทพฯ จะเริ่มจากลานพระราชวังดุสิต ไปกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ และกลับมาสิ้นสุดที่ลานพระราชวังดุสิต รวมเป็นระยะทาง 43 กิโลเมตร โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะทรงจักรยานนำข้าราชการ ภาคเอกชน และประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรม สำหรับเส้นทางส่วนภูมิภาค จะเริ่มต้นที่ศาลากลางจังหวัดไปตามเส้นทางที่กำหนด

พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่ากระทรวงมหาดไทย รวมทั้งทุกจังหวัดได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่แล้ว และถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทุกคน ที่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติครั้งนี้ ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัด ได้เตรียมการตามกรอบที่กำหนดเรียบร้อยแล้ว เช่น การกำหนดเส้นทางจักรยาน การอำนวยความสะดวก และดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนที่มาร่วมกิจกรรม รวมทั้งกิจกรรมอื่นๆ ที่แต่ละพื้นที่กำหนด โดยเน้นกิจกรรมสร้างการมีส่วนร่วมเชิงวัฒนธรรม

สำหรับเส้นทางปั่นจักรยานในต่างจังหวัดที่น่าสนใจ อาทิ จังหวัดชัยนาท เส้นทางเริ่มต้นและสิ้นสุดที่ศาลากลางจังหวัด ระยะทาง 29 กิโลเมตร จุดพักที่วัดธรรมามูลวรวิหาร กิจกรรมพิเศษ เช่น การทอดผ้าป่านำเงินสมทบทุนกองทุนแม่ของแผ่นดิน กิจกรรมปลูกป่าในพื้นที่ทุกอำเภอ ตรวจสุขภาพแม่และลูกฟรี และการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ

นายอภินันท์ จันทรังษี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าว ซึ่งเป็นกิจกรรมตามพระราชปณิธาณของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่ทรงแสดงความกตัญญูกตเวที แด่องค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา 12 สิงหาคม 2558 โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าเข้าร่วมนั้น จะมีคนไทยทั่วประเทศออกมาร่วมปั่นจักรยาน ตามเส้นทางที่แต่ละจังหวัดกำหนดไว้อย่างคึกคัก และถือเป็นถนนแห่งความกตัญญู สิ่งสำคัญของกิจกรรมในครั้งนี้ คือ การแสดงความกตัญญูและทำความดีเพื่อแม่ โดยโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย จะถ่ายทอดสดภาพความประทับใจในกิจกรรมครั้งนี้ด้วย

คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั่วประเทศกว่า 300,000 คน โอกาสนี้รัฐบาลได้ขอเชิญชวนประชาชนทุกหมู่เหล่า สวมใส่เสื้อสีฟ้าเข้าร่วมกิจกรรมโดยพร้อมเพรียง สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ เว็บไซต์ www.bikeformom2015.com

อนึ่ง การใช้ภาษาอังกฤษ Bike For Mom มาเป็นชื่อหลักของกิจกรรมดังกล่าว ก็เพื่อเปิดโอกาสให้คนทุกเชื้อชาติมาร่วมกิจกรรม โดยไม่มีการแบ่งแยกชนชาติใดๆ

• เตรียมปล่อยนกกระเรียนพันธุ์ไทยสัตว์ป่าสงวน เฉลิมพระเกียรติ 83 พรรษามหาราชินี
องค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับหน่วยงานภายในท้องถิ่นจังหวัดบุรีรัมย์ และกรมอุทยานสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้กำหนดจัดกิจกรรม “การอนุรักษ์และปล่อยนกกระเรียนพันธ์ไทย กลับสู่คืนธรรมชาติ เฉลิมพระเกียรติ 83 พรรษามหาราชินี” เพื่อเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระเกียรติ 83 พรรษามหาราชินี 12 สิงหาคม 2558 และสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ตามพระราชเสาวนีย์ของพระองค์

ด้วยการปล่อยนกกระเรียนพันธ์ไทยกลับคืนสู่พื้นที่ชุ่มน้ำธรรมชาติ จำนวน 12 ตัว บริเวณเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มาก จังหวัดบุรีรัมย์ ในวันที่ 6 สิงหาคม 2558 เวลา 08.00 – 12.00 น. ซึ่งเป็นพื้นที่นำร่องแห่งแรกที่ได้รับการคัดเลือก เนื่องจากมีสภาพความเหมาะสมของพื้นที่ มีความพร้อมของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และชุมชน ซึ่งที่ผ่านมามีประชากรนกกระเรียนพันธุ์ไทยกว่า 50 ตัว ที่ได้รับการปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ สามารถมีชีวิตรอด และดำรงชีพอยู่ในถิ่นอาศัยตามธรรมชาติได้

สำหรับนกกระเรียนพันธุ์ไทย เป็นหนึ่งในสัตว์ป่าสงวน 15 ชนิด ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ซึ่งในธรรมชาติสูญพันธุ์ไปแล้ว แต่สวนสัตว์นครราชสีมาประสบความสำเร็จในการเพาะขยายพันธุ์ไว้ได้

• อย.เปิดตัว Oryor Smart Application Version 2 เพิ่มฟังก์ชั่นใช้งาน ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
หลังจากประสบความสำเร็จ ในการให้บริการ Oryor Smart Application มาตั้งแต่ปี 2556 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้พัฒนา Mobile App เข้าสู่ Version 2 โดย นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการ อย. กล่าวในวันแถลงเปิดตัว Oryor Smart Application Version 2 ว่าได้เพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ๆ มีการปรับโฉมให้ใช้งานง่าย และสวยงามมากขึ้น มีประสิทธิภาพสูงขึ้น มีบริการเมนูสืบค้นที่น่าสนใจ เพิ่มเป็น 9 เมนู เช่น เมนู Smart Tips เป็นเมนูเด่น เรื่องของการเลือกซื้อเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ กว่า 100 เรื่อง ข้อมูลเกี่ยวกับฉลากโภชนาการ และฉลาก GDA เมนูตรวจเลขที่ผลิตภัณฑ์สุขภาพ เป็นเมนูเด็ดที่ถือเป็นไฮไลท์ สามารถตรวจสอบเลขเครื่องสำอาง อาหาร และวัตถุอันตราย ที่ใช้ในบ้านเรือน ให้บริการ 24 ชม.เมนูร้องเรียน แจ้งเบาะแสหรือร้องเรียนผ่าน Application เมื่อพบปัญหาจากการบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีเมนูเกมใหม่ 4 เกม ที่จะทำให้ได้รับความรู้พร้อมกับความสนุกสนาน เช่น เมนูค้นหาร้านยา ที่สามารถค้นหาตำแหน่งร้านขายยาได้ทั่วประเทศ โดยโปรแกรมจะระบุพิกัดร้านขายยาในบริเวณใกล้เคียง พร้อมข้อมูลร้านขายยา และสามารถใช้ระบบนำทางไปยังเป้าหมายได้อีกด้วย

• โปรดเกล้าฯ จัดพระราชพิธี พระราชทานเพลิงพระศพ “สมเด็จพระสังฆราช”
รัฐบาลเตรียมการจัดพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

โดยเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเป็นประธานที่ปรึกษาการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ ตึกสันติไมตรีหลังนอก ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งผลการประชุมสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

หมายกำหนดการพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จำนวน 3 วัน ระหว่างวันที่ 15 - 17 ธันวาคม ณ วัดบวรนิเวศวิหาร และพระเมรุ วัดเทพศิรินทราวาส โดยวันที่ 15 ธันวาคม พิธีพระราชกุศลออกพระเมรุ ณ. พระตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร วันที่ 16 ธันวาคม เชิญพระศพสู่พระเมรุ ณ. พระตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร เคลื่อนพระศพสู่พระเมรุ ณ พระเมรุ วัดเทพศิรินทราวาส และพระราชทานเพลิง วันที่ 17 ธันวาคม พิธีเก็บพระอัฐิ และเชิญพระอัฐิจากพระเมรุ ไปยังพระตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร

การเตรียมการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้แก่ การบูรณะราชรถนำ ราชรถเชิญพระโกศ การบูรณะอาคารซ่าง การออกแบบซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ ได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว สำหรับการจัดแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ตอนศึกพรหมาสตร์ ได้เตรียมการฝึกซ้อมและมีความพร้อมสามารถจัดแสดงได้

สำหรับการจัดขบวนพระอิสริยยศ กำหนดจำนวน 2 ริ้วขบวน ดังนี้ ริ้วขบวนที่ 1 การเชิญพระโกศสู่พระเมรุโดยราชรถ ใช้เส้นทางจากวัดบวรนิเวศวิหาร ไปยังวัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร ไปตามเส้นทางถนนพระสุเมรุ เลี้ยวซ้ายข้ามสะพานผ่านฟ้าลีลาศไปตามถนนหลานหลวง เลี้ยวขวาไปตามถนนกรุงเกษม เลี้ยวขวาถนนหลวง เข้าสู่สุสานหลวง วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร ริ้วขบวนที่ 2 การเชิญพระโกศเวียนรอบพระเมรุโดยราชรถ จำนวน 3 รอบ

ส่วนการจัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครและในส่วนภูมิภาค มีดังนี้

ในเขตกรุงเทพมหานครแบ่งเป็น 2 ส่วน ดังนี้ ส่วนที่ 1 จัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ที่ซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ จำนวน 2 ซุ้ม ณ บริเวณวัดบวรนิเวศวิหาร และบริเวณวัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร ส่วนที่ 2 จัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ตามวัดต่างๆ ในพื้นที่สำนักงานเขต 46 เขต ยกเว้นสำนักงานเขตที่มีพื้นที่ใกล้เคียงกับวัดบวรนิเวศวิหาร และวัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร ได้แก่ เขตพระนคร เขตดุสิต เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และเขตสัมพันธวงศ์

ในส่วนภูมิภาคจัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ทุกจังหวัดและอำเภอ โดยจังหวัดและอำเภอพิจารณาคัดเลือกวัดหรือสถานที่ที่มีความเหมาะสมในจังหวัดและอำเภอละ 1 แห่ง ส่วนอำเภอเมืองจัดพิธีร่วมกับจังหวัด โดยให้คำนึงถึงประชาชนในพื้นที่ห่างไกล เพื่อให้สามารถเดินทางไปร่วมพิธีตามสถานที่ที่กำหนดได้อย่างสะดวกสบาย

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้วัดบวรนิเวศวิหาร หล่อพระรูปสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประดิษฐาน ณ วัดบวรนิเวศวิหาร และจัดทำพระรูปจำลอง จำนวน 3 ขนาด เพื่อให้ประชาชนมีไว้สักการบูชา โดยมอบให้กรมศิลปากรจัดปั้นหุ่นเพื่อทรงหล่อ และพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สำนักพระราชวัง มีใบแจ้งความให้ศิษยานุศิษย์และผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมในการพระราชกุศลนี้

โดยกองคลัง สำนักพระราชวังได้เปิดบัญชีประเภทออมทรัพย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ฯ ชื่อบัญชี “หล่อพระรูปสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก” เลขที่บัญชี 061-211535-6 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยกำหนดพิธีเททองหล่อพระรูป ในวันที่ 24 ตุลาคม ณ ลานหน้าพระอุโบสถ คณะรังษี วัดบวรนิเวศวิหาร

สำหรับผู้ที่ประสงค์จะร่วมโดยเสด็จพระราชกุศล ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่กองคลัง สำนักพระราชวัง หมายเลขโทรศัพท์ 0-2224-3260, 0-2223-0915 ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ในเวลาราชการ แล้วให้ส่งสำเนาหลักฐานการโอนเงิน พร้อมชื่อ นามสกุล และที่อยู่ ไปที่กองคลัง สำนักพระราชวัง หมายเลขโทรสาร 0-2222-2144 เพื่อรวบรวมให้วัดบวรนิเวศวิหาร ดำเนินการจัดส่งอนุโมทนาบัตรได้อย่างถูกต้องต่อไป

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 176 สิงหาคม 2558 โดย กองบรรณาธิการ)