xs
xsm
sm
md
lg

อาหารเป็นยา : “ส้ม” ดีต่อสุขภาพ กินแล้วเฮง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ในทุกเทศกาลไหว้เจ้าของชาวจีน โดยเฉพาะวันตรุษจีน ซึ่งถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามประเพณีของชาวจีน ผลไม้ที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ “ส้ม”

ตามธรรมเนียมของชาวจีนนั้น ส้มถือเป็นสัญลักษณ์มงคล ใช้เป็นของไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และใช้ประกอบในพิธีกรรมต่าง ไม่ว่าจะเป็นวันตรุษจีน วันสารทจีน วันเกิด วันแต่งงาน งานเฉลิมฉลอง และการอวยพรญาติมิตร


เหตุที่ส้มเป็นผลไม้มงคล ก็เพราะว่า “ส้ม” ในภาษาจีนแต้จิ๋วเรียกแบบชาวบ้านว่า “กา” แต่มีอีกคำเรียกว่า “ไต่กิก” หมายถึง มหามงคล

ส่วนในภาษาจีนกลางเรียกส้มว่า “จวี๋จื่อ” หรือเรียกสั้นๆว่า “จวี๋” คำว่า “จวี๋” พ้องเสียงใกล้เคียงกับ “จี๋” ที่แปลว่า โชคดี มีสิริมงคล

ดังนั้น ทุกครั้งในเทศกาลตรุษจีน การเดินทางไปอวยพรปีใหม่ จึงต้องนำส้มไปมอบให้กันด้วย เพราะนอกจากความหมายที่เป็นมงคลแล้ว สีของส้มที่เป็นสีเหลืองทอง ดุจเดียวกับทองคำ ก็เป็นเสมือนการมอบโชคลาภให้แก่กันและกัน

ส้มจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นสิริมงคล ความสุข ความรุ่งเรือง และโชคลาภ ของชาวจีน ยิ่งส้มผลโตมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี เพราะส้มผลใหญ่เรียกว่า “ต้าจวี๋” ซึ่งพ้องกับคำว่า “ต้าจี๋” ที่หมายถึง “มหามงคล” นั่นเอง

ส้มมีหลากหลายชนิด แต่ละชนิดจะมีลักษณะและรสชาติที่แตกต่างกันออกไป เช่น ส้มเกลี้ยง ส้มเขียวหวาน ส้มจุก ส้มเช้ง ส้มโอ เป็นต้น

สำหรับชาวจีนแล้ว ส้มที่นิยมนำมาไหว้เจ้าคือส้มเขียวหวานและส้มโอ โดยเฉพาะส้มโอนั้นมีความเชื่อว่า หลังจากไหว้เสร็จ ถ้าผ่าผลส้มโอออกมาแล้วกลางลูกแห้ง ไม่มีน้ำ จะสื่อความหมายของความโชคดี

ไม่ใช่แค่ความหมายที่เป็นมงคลเท่านั้น แต่ส้มยังมีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย เรียกว่า “เจี๊ยะแล้วเฮง เซงลี้ฮ้อ”

ส้มมีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน อุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารมากมายที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ได้แก่ วิตามินซี ซึ่งมีสูงมาก วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินดี กลูโคส ฟรุกโทส สารเบต้าแคโรทีน โพลีฟีนอล ฟลาโวนอยด์ ไฟโตนิวเทรียนต์ ลิโมนอยด์ โฟเลต ธาตุเหล็ก แคลเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส ฯลฯ

การรับประทานส้มจึงดีต่อสุขภาพ เพราะแร่ธาตุและสารอาหารต่างๆจะช่วยบำรุงสายตา ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน ลดเสมหะ เสริมสร้างการทำงานของกล้ามเนื้อและหัวใจ ป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือด ป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย ช่วยให้ผนังหลอดเลือดเส้นเลือดฝอยแข็งแรง ป้องกันโรคหวัด ป้องกันการติดเชื้อจากแบคทีเรีย แก้อาการท้องผูก ขับลมในกระเพาะอาหาร บำรุงผิวพรรณให้สดใส ช่วยล้างสารพิษในร่างกาย และยับยั้งการเจริญของเนื้องอกและเซลล์มะเร็ง และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย

ส้มยังมีคุณสมบัติในการช่วยสร้างคอลลาเจน ทำให้ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย รวมทั้งสารโฟเลตในส้มจะสร้างฮอร์โมนเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทในสมอง ช่วยลดความเครียด ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์ดี มีความคิดสร้างสรรค์ เรียกว่า รับประทานส้มแล้วจะรู้สึกชุ่มคอชื่นใจมีความสุขจริงๆ

ส้มมีประโยชน์แต่ก็มีน้ำตาล บางสายพันธุ์ที่หวานมากอาจจะไม่เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวานหรือไขมันในเลือดสูง

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 170 กุมภาพันธ์ 2558 โดย ปุยฝ้าย)





กำลังโหลดความคิดเห็น