xs
xsm
sm
md
lg

ปุจฉา - วิสัชนา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทำงานซ้ำซาก ชีวิตน่าเบื่อ ทำไงดี?
ทำงานซ้ำซาก ชีวิตน่าเบื่อ ทำไงดี?

ปุจฉา :

กราบนมัสการหลวงปู่ครับ ผมขอถามปัญหาทางโลกครับ ถ้าเรารู้สึกเบื่อชีวิตที่เป็นอยู่ ซึ่งมีชีวิตการทำงานที่ซ้ำซาก ทำให้รู้สึกเบื่อและท้อแท้ว่า ชีวิตเหมือนกับการปล่อยทิ้งลมหายใจให้สูญเปล่า ผมจึงอยากกราบขอความเมตตาจากองค์หลวงปู่ว่า

1. เราควรใช้ธรรมข้อใดในการพิจารณาทุกข์นี้ครับ?

2. ถ้าเราเบื่องานที่ทำอยู่แล้วลาออกเพื่อหางานใหม่ ทั้งที่ปัจจุบัน ยังมีผู้ตกงานอีกมากมาย เป็นการสมควรหรือไม่ครับ ถ้าไม่สมควร ต้องใช้ธรรมข้อใด เพื่อให้ชีวิตบังเกิดการงานอันเบิกบานได้ครับ?

วิสัชนา :

ฉันว่างานมิได้ทำให้คุณเบื่อหรอก ที่น่าเบื่อคือตัวคุณเองต่างหากล่ะ ขอแนะนำให้คุณลองค้นหาเหตุแห่งการเบื่อหน่ายนั้นจากตัวคุณเองให้พบ แล้วก็กำจัดเหตุนั้นเสีย ฉันจะยกตัวอย่างเหตุแห่งการเบื่อหน่ายให้คุณฟังสักเล็กน้อย คุณอาจจะเบื่อเพราะไม่สบอารมณ์ ไม่สมหวัง นั่นมาจากเหตุที่คุณเป็นคนเจ้าอารมณ์ มักจะมีอารมณ์อยู่เหนือเหตุผลเสมอ และบางขณะคุณอาจจะกลายเป็นคนคับแคบในเรื่องที่ทำ คำที่พูด สูตรที่คิด การงานและสังคมรอบข้างเลยกลายเป็นปัญหาของคุณไปในที่สุด

แม้แต่สุขภาพ ประสาท และสมองที่ขมึงทึงตึงเครียด ก็เป็นเหตุให้คุณไม่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เลยทำให้คุณรู้สึกเบื่อหน่าย

คุณถามฉันว่าควรจะใช้ธรรมข้อใดในการปฏิบัติงาน ไม่ยาก...ก็เริ่มต้นที่สร้างความรักในการงานที่คุณทำ และทำด้วยความเพียรพยายาม เอาจิตใจความรู้สึกนึกคิด จดจ่อ จับจ้อง จริงจัง ตั้งใจ พร้อมใช้ปัญญาใคร่ครวญพิจารณา เหล่านี้เป็นธรรมสำหรับปฏิบัติงานที่ดีได้ทั้งนั้น คุณจงจำไว้ว่า

ชีวิต คือ การงาน
การงาน คือ การบริหารจัดการชีวิต
การทำงาน คือ การเปิดโอกาสให้ชีวิตได้สั่งสมประสบการณ์ในการเรียนรู้
การทำงาน คือ การให้โอกาสแก่ชีวิต ได้ทดสอบความรู้ความสามารถ
การทำงาน คือ การฝึกหัดปฏิบัติศึกษา
การทำงาน คือ การทำให้ชีวิตนี้แก่กล้า สามารถ องอาจ สง่างาม
การทำงาน ยังจะช่วยสร้างแรงจูงใจ ให้เกิดสัมพันธภาพอันดีแก่เพื่อนร่วมงาน และสังคมรอบข้าง ซ้ำยังทำให้เราเห็นข้อแตกต่างระหว่างอ่อนกับแข็ง ขยันกับขี้เกียจ จดจ่อกับไม่สนใจ ความยอมรับและความปฏิเสธ ความรักและความรังเกียจ

เมื่องานให้ทุกอย่างแก่คุณได้มากมายปานนี้ แล้วคุณจะยังปฏิเสธมันได้อีกหรือ


ทำคุณไสยฝังบาตรแตก

ปุจฉา :

กราบนมัสการหลวงปู่ที่เคารพ เคยมีคนเล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนถ้าเอาบาตรพระแตกๆ ไปทิ้งหรือฝังไว้ใต้ถุนบ้านใคร จะทำให้คนในบ้านนั้นทะเลาะเบาะแว้งกัน จนบ้านนั้นไม่มีความสุข ก็เลยอยากทราบว่า เรื่องนี้เป็นจริงหรือไม่ครับ

วิสัชนา :

ไม่เสมอไปหรอก มันอยู่ที่คน คนมันจะทะเลาะกัน ถึงจะไม่มีบาตรสักใบ ยังไงมันก็จะทะเลาะกัน ลองดูตัวอย่างในสังคม ก็เห็นมีผู้คนทะเลาะกันเยอะแยะโดยไม่เกี่ยวกับบาตรแตก เพราะฉะนั้น พุทธบริษัทเขาไม่เชื่ออะไรในสิ่งที่งมงายไร้เหตุผล

ส่วนที่ถามมานั้น ไม่ใช่ปัญหาของพุทธบริษัท แต่เป็นปัญหาของพวกเชื่อไสยศาสตร์


นั่งสมาธิแล้วเห็นแสง

ปุจฉา :

กราบนมัสการหลวงปู่ค่ะ บางครั้งหลังจากสวดมนต์เสร็จแล้ว ดิฉันก็ลองนั่งสมาธิเพื่อสำรวจใจตนเอง และเพื่อให้สุขภาพดีขึ้น ในการนั่งสงบจิตสงบใจนี้ บางครั้งรู้สึกว่าสว่างไสวมาก ไม่ทราบว่า แสงมาจากไหน

ในครั้งต่อไป ถ้าเห็นแสงสว่างอีก ดิฉันควรที่จะกำหนดจิตอย่างไรหรือไม่คะ หรือควรปล่อยให้เป็นเช่นนั้นเอง

วิสัชนา :

มาจากจิตที่สงบ

ไม่ควรใส่ใจ เพราะแสงนั้นเป็นเพียงแค่มายาการแห่งจิตที่สงบชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้น คุณควรจะรับรู้ในสิ่งที่เป็นเหตุปัจจัยให้เกิดความสงบอันนั้นต่อไปอย่างแจ่มแจ้ง ชัดเจน และจริงจัง โดยไม่สนใจต่อเหตุปัจจัยอื่นใดทั้งหมด


(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 166 ตุลาคม 2557 โดย หลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม)
ทำคุณไสยฝังบาตรแตก
นั่งสมาธิแล้วเห็นแสง
กำลังโหลดความคิดเห็น