ข่าวสารบ้านเรา

• คณะธรรมยุตประกาศเปลี่ยนสีจีวร เป็นสีพระราชนิยม ยกเว้นพระป่า

สมเด็จพระวันรัต รักษาการเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม ในฐานะรักษาการเจ้าคณะใหญ่ คณะธรรมยุต ลงนามในคำสั่ง ประกาศคณะธรรมยุต เรื่อง การครองผ้าไตรจีวรสีพระราชนิยม วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ความว่า

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนา ทรงมีพระราชดำริ ในการที่จะให้พระภิกษุสงฆ์ ครองผ้าไตรจีวรที่มีสีเหมือนกัน เพื่อความเรียบร้อยงดงาม จึงได้ทรงนำผ้าสีต่างๆมาถวาย และมีพระราชปุจฉากับพระมหาเถระ จนได้ผ้ามีสีที่ถูกต้องไม่ผิดพระวินัย เป็นที่พอพระราชหฤทัยแล้ว จึงโปรดให้เจ้าพนักงาน ในพระองค์ จัดผ้าไตรจีวรสีตามพระราชดำริ พระราชทานถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ ในงานทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวาระต่างๆ ซึ่งพระภิกษุสงฆ์ เมื่อรับพระราชทานถวายแล้ว ได้ครองจีวรสีดังกล่าว ฉลองพระราชศรัทธามาโดยลำดับ ผ้าไตรจีวรที่พระราชทานถวายนั้น ทราบกันในนามว่า “จีวรสีพระราชนิยม”

อนึ่ง ในการประชุมเจ้าคณะภาค และเจ้าคณะจังหวัด คณะธรรมยุต เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2556 ณ วัดอาวุธวิกสิตาราม กรุงเทพมหานคร ที่ประชุม ได้ร่วมกันพิจารณาเรื่องการครองผ้าไตรจีวรสีพระราชนิยม และมีมติอนุโมทนา ในพระราชศรัทธา และเห็นชอบที่จะให้พระภิกษุ สามเณร คณะธรรมยุต ครองผ้าไตรจีวรสีพระราชนิยมเสมอกัน และให้นำเสนอคณะกรรมการบริหารคณะธรรมยุตพิจารณา

คณะกรรมการบริหารคณะธรรมยุต ได้ประชุมครั้งที่ 5/2556 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2556 ณ สำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวง วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร ได้พิจารณาตามข้อเสนอของเจ้าคณะภาคและเจ้าคณะจังหวัดดังกล่าว มีมติเห็นชอบและให้มีประกาศคณะธรรมยุต เรื่อง ให้พระภิกษุสามเณรคณะธรรมยุต ครองผ้าไตรจีวรสีพระราชนิยม ตั้งแต่วันวิสาขบูชา 2557 ซึ่งตรงกับวันที่ 13 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นไป จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

ล่าสุด สมเด็จพระวันรัต รักษาการเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ในฐานะรักษาการเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต ชี้แจงว่า คำสั่งดังกล่าวเน้นในส่วนพระสงฆ์คามวาสี หรือพระที่อยู่ในเมือง ส่วนพระอรัญวาสี หรือพระสายวัดป่ายังครองจีวรเช่นเดิมตามแนวปฏิบัติของครูบาอาจารย์ แม้ว่าจะรับกิจนิมนต์เข้ามาในเมืองก็ไม่ต้องเปลี่ยนจีวรเป็นสีพระราชนิยม นอกจากรับกิจนิมนต์เข้าร่วมในงานพระราชพิธี

สำหรับสีจีวรในปัจจุบันของคณะสงฆ์ธรรมยุต ปัจจุบันส่วนใหญ่จะใช้จีวรสีกรัก (สีแก่นขนุนเข้ม) ซึ่งมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลเข้ม แต่สำหรับสีพระราชนิยมจะอ่อนกว่าสีกรัก เวลาพระสงฆ์รับนิมนต์ เข้าพระราชพิธีในพระบรมมหาราชวัง จะครองจีวรสีพระราชนิยม และจะเห็นได้ชัดอีกช่วงในพิธีพระราชทานสมณศักดิ์ของทุกปี

• กรมศิลป์ฯ เตรียมบูรณะราชรถ 9 องค์อายุกว่า 100 ปี

นายเอนก สีหามาตย์ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีบวงสรวงราชรถ ราชยาน ที่จัดแสดง ณ ระเบียงหมู่พระวิมานด้านทิศเหนือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร ว่า การบูรณะราชรถ ราชยานครั้งนี้ เนื่องจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงห่วงใยว่าราชรถ ราชยาน ซึ่งมีความเก่าแก่และมีคุณค่าสำคัญทางประวัติศาสตร์จะสูญหาย โดยราชรถ ราชยานทั้งหมดเคยใช้ในพระราชพิธีทรงพระโกศพระบรมวงศานุวงศ์

ดังนั้น กรมศิลปากรจึงสนองพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ดำเนินการบูรณะซ่อมแซมราชรถ ราชยาน ที่จัดแสดงในที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร ทั้งหมด 9 องค์ ส่วนใหญ่มีอายุกว่า 100 ปี ซึ่งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่างมาก ครั้งนี้ถือว่าเป็นการบูรณะครั้งใหญ่และสมบูรณ์แบบที่สุด หลังจากแล้วเสร็จในปี 2558 กรมศิลปากรจะจัดสร้างอาคารจัดแสดงให้ความรู้เรื่องราชรถ ราชยานโดยเฉพาะ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้และศึกษาถึงขนบธรรมเนียม ประเพณีของการใช้ราชรถ ราชยานในอดีตที่ผ่านมา

• ร้อยเอ็ด จัดงาน “ประเพณีบุญผะเหวดร้อยเอ็ด 57” อลังการขบวนแห่พระเวสสันดร

นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชน ร่วมจัดงาน “ประเพณี บุญผะเหวดร้อยเอ็ด ประจำปี 2557” ระหว่างวันที่ 7 – 9 มีนาคม 2557 ณ บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด และเกาะกลางบึงพลาญชัยร้อยเอ็ด

โดยกิจกรรมในงานเป็นการสืบสานและอนุรักษ์ไว้ ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม ที่สืบทอดกันมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตามวิถีพุทธของจังหวัดร้อยเอ็ด อาทิ การประกวดธงผะเหวด พิธีอัญเชิญพระอุปคุตพระราชทานแห่รอบเมือง พิธีเจริญพุทธมนต์เย็น พิธีเทศน์มาลัยหมื่นมาลัยแสน การแสดงแสง สี เสียง การแสดงศิลปินคืนถิ่น งานพาแลง การแห่ข้าวพันก้อน เทศน์สังกาด การทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง พระสงฆ์ 101 รูป เทศน์คาถาพัน เทศน์มหาชาติ แห่กัณฑ์จอบกัณฑ์หลอน ขบวนแห่พระเวสสันดรชาดกเข้าเมือง รวม 15 ขบวน การแจกทานและสัตสดกมหาทาน และบริการขนมจีน (ข้าวปุ้น) ฟรีตลอดงาน

• กทม.จัดสัปดาห์วันวัณโรคโลก ร่วมป้องกันและแก้ปัญหาวัณโรค

ดร. ผุสดี ตามไท รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยหลังเป็นประธานเปิดงาน “กรุงเทพฯ หยุดวัณโรค” ว่า กรุงเทพมหานครให้ความสำคัญในการป้องกันและเฝ้าระวังวัณโรคอย่างต่อเนื่องตลอดมา

ปัจจุบันประเทศไทยยังคงเป็น 1 ใน 22 ประเทศที่มีปัญหาวัณโรครุนแรงของโลก จากการสำรวจทั่วโลกพบว่า มีผู้ป่วยวัณโรค ประมาณ 8 ล้านคน มีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาประมาณ 5 ล้านคน ส่วนอีก 3 ล้านคน ยังไม่เข้าสู่ระบบการรักษา ทั้งนี้ ในประเทศไทยมีผู้ป่วยวัณโรคประมาณ 8 หมื่นคน และในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีผู้ป่วยวัณโรคประมาณ 11,000–12,000 คน ซึ่งมีผู้ป่วยบางส่วนที่ยังไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อวัณโรค และบางส่วนที่ยังไม่ได้เข้ารับการรักษา

นอกจากนี้ ผู้ป่วยบางรายที่ไม่สามารถเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องตามระยะเวลาที่กำหนด จึงอาจดื้อยา ยากต่อการรักษา และอาจแพร่เชื้อวัณโรคไปสู่ผู้อื่นได้

ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้วันที่ 24 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันวัณโรคโลกสากล (World TB Day) กรุงเทพมหานคร โดยสำนักอนามัย จะจัดสัปดาห์รณรงค์วันวัณโรคโลกในพื้นที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 23 – 29 มีนาคม ศกนี้ ณ ศูนย์บริการสาธารณสุข ทั้ง 68 แห่ง จึงขอเชิญประชาชนร่วมกิจกรรมและรับบริการตรวจหาวัณโรคได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในวันและเวลาดังกล่าว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้าน

• สธ.ทุ่ม 470 ล้านบาท สร้างอาคารศูนย์หัวใจ ศูนย์มะเร็งที่ รพ.ราชบุรี ดูแล ปชช. 8 จว.

นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารศูนย์โรคหัวใจ โรคมะเร็ง ของโรงพยาบาลราชบุรี อ.เมือง จ.ราชบุรี ว่า ตามนโยบายการพัฒนาระบบบริการ (Service Plan) ของกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2555-2560 ได้วางแผนพัฒนาให้โรงพยาบาลราชบุรี เป็นศูนย์ความเชี่ยวชาญรักษาโรคหัวใจและโรคมะเร็งประจำเขตบริการสุขภาพที่ 5 ซึ่งประกอบด้วย 8 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สุพรรณบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม เนื่องจากพบว่า ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวมีอัตราการตายจากโรคมะเร็งสูงเป็นอันดับ 1 คือ 91 คน ต่อประชากร 1 แสนคน ส่วนโรคหัวใจเป็นสาเหตุการตายอันดับ 7 คือพบ 16 รายต่อ 1 แสนคน

ในปีงบประมาณ 2557 นี้ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดสรรงบประมาณ 470 ล้านบาท ก่อสร้างอาคารศูนย์เชี่ยวชาญโรคหัวใจ โรคมะเร็ง และรังสีวินิจฉัย ที่โรงพยาบาลราชบุรี เป็นอาคารสูง 10 ชั้น คาดว่า จะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการรักษาได้ภายในปี 2560 โดยศูนย์ดังกล่าวจะเป็นแม่ข่ายดูแลประชาชนใน 8 จังหวัด ซึ่งมี 5 ล้านกว่าคน ให้ได้รับการดูแลรักษาใกล้บ้าน

ด้านนายแพทย์สมชาย เทพเจริญนิรันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชบุรี กล่าวว่า โรงพยาบาลราชบุรีเป็นโรงพยาบาลศูนย์ขนาด 855 เตียง เป็นศูนย์รักษาโรคเฉพาะทางที่ทันสมัย เช่น ศูนย์โรคหัวใจ มีแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะโรคหัวใจ

และในเดือนเมษายน 2557 นี้ โรงพยาบาลราชบุรีจะเปิดศูนย์รักษาผู้ป่วยมะเร็งด้วยการการฉายแสงหรือรังสีรักษาเป็นกลุ่มแรก เนื่องจากที่ผ่านมาในเขตบริการสุขภาพที่ 5 มีผู้ป่วยมะเร็งปีละ 16,000 ราย ต้องส่งไปฉายแสงที่กรุงเทพฯ ปีละ 1,500 ราย และต้องรอคิวฉายแสงมากกว่า 1 เดือน

• กรมศิลป์เตรียมจัดพิธีบวงสรวงราชรถ ในริ้วขบวนเชิญพระศพ สมเด็จพระสังฆราช

นายเอนก สีหามาตย์ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยความคืบหน้าการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ว่า กรมศิลปากรได้เตรียมจัดสร้างพระเมรุและอาคารประกอบ รวมทั้งบูรณะราชรถ ราชยาน และเครื่องประกอบพระราชพิธี โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปบูรณะ และปรับปรุงอาคารรอบเมรุหลวง หน้าพลับพลาอิสริยาภรณ์แล้ว

และในวันที่ 6 มีนาคมนี้ สำนักช่างสิบหมู่จะจัดพิธีบวงสรวงราชรถ 2 องค์ ได้แก่ ราชรถพระนำ และราชรถอัญเชิญพระโกศ และหลังจากเสร็จพิธีบวงสรวงแล้ว จะเริ่มบูรณะด้วยการเสริมความมั่นคงของราชรถ ระบบขับเคลื่อน ทำความสะอาดกระจกและทาสี คาดว่าจะแล้วเสร็จก่อนเดือนกันยายนนี้

• วธ. เผยผลสำรวจเด็กไทยยังเชื่อ หลักการทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ผู้อำนวยการสำนักเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยผลสำรวจสภาวการณ์ทางวัฒนธรรม ประจำปี 2556 จากสถิติจำนวนเด็กและเยาวชนกว่า 23 ล้านคน ในประเด็นด้านศาสนา กลุ่มตัวอย่าง 90,000 คนทั่วประเทศ ระหว่างเดือนมกราคม-ธันวาคม พบว่า เด็กและเยาวชน เข้าร่วมกิจกรรมวันสำคัญทางศาสนาร้อยละ 50 ปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาในชีวิตประจำวัน เช่น สวดมนต์ ละหมาด อธิษฐานขอพรพระผู้เป็นเจ้า ร้อยละ 40

ประเด็นความเชื่อในการทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว และการมีความศรัทธาในหลักคำสอนศาสนา เด็กและเยาวชน 3 ใน 4 เชื่อในหลักการทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว มีศรัทธาในหลักคำสอนศาสนา

ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องกระตุ้นให้เด็กและเยาวชน เข้ามามีส่วนร่วมกิจกรรมทางศาสนาให้มากขึ้น โดยในส่วนของสำนักเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ได้ประสานงานกับชมรมเครือข่ายดินสอสีขาว รณรงค์ให้เด็กและเยาวชน เห็นความสำคัญของศาสนา โดยการเข้าวัดปฏิบัติธรรม

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 159 มีนาคม 2557 โดย กองบรรณาธิการ)