คนส่วนใหญ่เชื่อว่า การทำงานหนักเท่านั้นที่จะทำให้ไปถึงเป้าหมายที่ต้องการ จึงก้มหน้าก้มตาทำงานหนักกันตลอดชีวิต กระนั้นก็ตาม ยังมีอีกหลายคนที่ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต
เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะ จริงๆแล้วการทำงานหนักเพียงอย่างเดียว ไม่ใช่คำตอบหรือวิธีที่ถูกต้องในการนำพาชีวิตไปสู่เป้าหมาย แต่การรู้จักวิธีทำงานอย่างชาญฉลาดต่างหาก ที่จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่ากับเวลาและแรงงานที่เสียไป
การทำงานอย่างชาญฉลาด ไม่ใช่เรื่องยาก แค่เรียนรู้เทคนิคเล็กๆน้อย คุณก็จะสามารถทำงานหนักได้อย่างสบายๆ แต่ได้ผลเต็มร้อย
1. มีเป้าหมายชัดเจน
การทำงานทุกอย่างจำต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน เพราะการทำอะไรโดยขาดเป้าหมาย จะเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ และอาจจะต้องเหนื่อยมากขึ้นอีกในภายหลัง
คนที่รู้ถึงความต้องการของตัวเอง จะมุ่งมั่นทำในสิ่งนั้นโดยตรง และยิ่งมีเป้าหมายชัดเจนเท่าไหร่ ยิ่งประสบความสำเร็จเร็วขึ้นเท่านั้น
2. มีวิสัยทัศน์ที่ดี
เมื่อมีเป้าหมาย ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางแล้ว ก็ต้องรู้วิธีการที่จะไปสู่เป้าหมายนั้น หรือเรียกว่ามีวิสัยทัศน๋
และแม้จะมีหลากหลายวิธีที่สามารถนำไปสู่จุดหมายได้ แต่คุณควรเลือกทำวิธีที่ดีที่สุด เพราะการมีวิสัยทัศน์ที่ดี จะช่วยให้คุณทำงานได้สะดวก และให้ผลคุ้มค่าที่สุด
3. จัดลำดับความสำคัญ
เมื่อเริ่มต้นทำงานชิ้นใด สิ่งแรกที่ควรทำคือ เขียนรายการที่ต้องทำทั้งหมดลงบนกระดาษ จากนั้นให้เรียงลำดับความสำคัญ ว่าควรทำสิ่งไหนก่อนหลัง เพื่อช่วยให้ทำงานได้ตามแผน ครบถ้วน และเสร็จภายในกำหนด
4. มีแรงจูงใจ
การทำงานด้วยแรงจูงใจที่มีอยู่เต็มเปี่ยมในหัวใจนั้น จะช่วยผลักดันให้บุคคลทำงานอย่างกระตือรือร้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายโดยเร็ว เช่น คุณอาจต้องการมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลัง ดังนั้น คุณจึงหาวิธีที่จะได้เงินเพิ่มขึ้น เช่น ทำงานพิเศษ เก็บออมให้มากขึ้น และลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
5. ไม่ต้องเป๊ะทุกเรื่อง
การทำตัวเพอร์เฟ็คทุกเรื่อง ไม่ได้ทำให้ชีวิตคุณสมบูรณ์ซะทีเดียว ตรงกันข้าม บางครั้งมันกลับเป็นตัวกีดขวางที่ทำให้คุณล่าช้า เสียเวลา และไปไม่ได้ไกลกว่าเดิม เพราะฉะนั้น อย่ามัวยึดติดกับรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ที่ไม่ค่อยสำคัญ บางทีการมองข้ามมันไปเสียบ้างก็เป็นเรื่องที่ดีเหมือนกัน
6. หาความรู้เพิ่มเติม
การศึกษาหาความรู้จากสิ่งต่างๆ รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นความรู้จากคนที่มีประสบการณ์ หรือจากหนังสือตำราต่างๆ หรือจากข้อมูลในโลกออนไลน์ เป็นเรื่องที่ดีและมีประโยชน์ เพราะนี่เป็นหนทางลัดที่จะช่วยนำคุณไปสู่ความสำเร็จได้เร็วกว่าที่คิดโดยไม่ต้องทำงานหนักมากเกินไป
7. ใช้สูตรสำเร็จ
ถ้ามีสูตรสำเร็จในการทำงานที่คนทั่วไปพิสูจน์แล้วว่าใช้ได้ผล จงอย่ารีรอที่จะหยิบมาใช้ เพราะจะได้ไม่ต้องเสียเวลาคิดค้นหรือสร้างวิธีการของตัวเองขึ้นมาใหม่ ยกเว้นแต่ว่า คุณจะสร้างวิธีที่ดีกว่าเดิมได้ในเวลาอันสั้น เช่น โปรแกรมสำเร็จรูปในการทำบัญชี การจัดงานเอกสาร การควบคุมสต็อคสินค้า เป็นต้น
8. ขอความช่วยเหลือ
แม้ว่าปกติแล้ว คุณชอบที่จะทำอะไรด้วยตัวเอง แต่หากมีงานบางอย่างที่คุณไม่ค่อยถนัด และถ้าลงมือทำเองก็จะใช้เวลามาก จงอย่ารีรอที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น เพราะจะช่วยให้งานนั้นบรรลุผลในเวลาไม่นาน
9. ใช้ตัวช่วยอื่นๆ
สำรวจดูว่า มีงานใดบ้างที่คุณสามารถใช้เครื่องมือต่างๆ แทนการใช้แรงงานคน อาจเป็นงานเล็กๆน้อยๆ เช่น การติดตั้งสปริงเกอร์รดน้ำสนามหญ้า ไปจนถึงงานขนาดใหญ่ ที่ใช้เครื่องจักรทำแทน ก็จะช่วยประหยัดเงินและให้ผลที่ดีกว่า
10. อย่าลุยงานคนเดียว
หากคุณมีกิจการเป็นของตัวเอง และพยายามทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เรียกว่าเป็นการทำงานที่ไม่ฉลาด เพราะนอกจากจะทำให้คุณต้องทำงานหนักแล้ว อาจจะทำให้งานที่ออกมาไม่มีประสิทธิภาพ เช่น การทำบัญชี งานธุรการ ฯลฯ
ทางที่ฉลาดคือ ควรจ้างคนอื่นๆมาจัดการในส่วนที่ไม่สำคัญมาก เพื่อคุณจะได้ทุ่มเทเวลาให้กับงานหลักที่สำคัญมากกว่า
11. รู้จักรอคอย
มีคำกล่าวว่า “กาลเวลาจะเป็นเครื่องเยียวยาทุกอย่าง” เพราะเหตุการณ์บางอย่างอาจคลี่คลายได้เอง เมื่อปล่อยเวลาผ่านไปสักครู่ ดังนั้น การรอคอยอาจเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด
ดังนั้น คราใดที่ตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก ลองหยุดเดินหน้า อยู่นิ่งๆสักพัก คุณอาจได้ไอเดียใหม่ๆมาใช้ในการแก้ปัญหาก็เป็นได้
12. พิจารณาให้รอบคอบ
การพบเจออุปสรรคในการทำงานนั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เกิดขึ้น แต่คุณต้องชั่งน้ำหนักให้ดี ก่อนที่จะวิ่งเข้าชนทุกอุปสรรคที่ขวางหน้า เพราะบางอย่างนั้น ทำไปแล้ว อาจได้ไม่คุ้มเสีย การพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบจึงเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับการทำงานที่ฉลาดแบบไม่ขาดปัญญา
13. ยอมเปลี่ยนแปลง
อย่าเอาตัวเองไปยึดติดกับกฎเกณฑ์เดิมๆ ว่าเคยทำอย่างไร ก็ทำอย่างนั้น เพราะนั่นหมายถึงการหยุดพัฒนาหรือเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
แต่ควรที่จะศึกษาและเรียนรู้จากคนอื่นๆบ้าง เพื่อนำความรู้ใหม่ที่ได้ กลับมาทบทวนสิ่งที่ตนเองทำอยู่เป็นประจำ และหาทางปรับปรุงให้ดีขึ้น จงระลึกเสมอว่า การยอมเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งใหม่ จะช่วยให้เกิดผลดีมากกว่าเดิม
14. เหนื่อยนักก็พักก่อน
การพยายามฝืนทำงานขณะกำลังเหน็ดเหนื่อย หรืออดหลับอดนอน จะยิ่งทำให้ผลงานแย่ลง เพราะคนที่เหนื่อยล้า หมดแรง ไม่สามารถทำงานให้ดีได้
การพักผ่อนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ทำงานได้ผลดียิ่งขึ้น เพราะหลังจากได้พักผ่อนเต็มที่ คุณก็จะทำงานได้รวดเร็วและดีกว่าเดิมด้วย
15. ทบทวนตัวเอง
หากเป็นไปได้ การทบทวนการทำงานและผลลัพธ์ที่ได้ เป็นประจำทุกสัปดาห์นั้น ควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อตรวจวิเคราะห์ว่า วิธีใดใช้ได้ผลหรือไม่ได้ผล สิ่งที่ดีก็ใช้ต่อไป ส่วนสิ่งที่ไม่ดีก็ตัดทิ้งไป การทำเช่นนี้จะช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้นอย่างแน่นอน
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 152 สิงหาคม 2556 โดย ประกายรุ้ง)