“พลังงานบริสุทธิ์” โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ 83.25 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 130.51% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังโซลาร์ฟาร์ม 8 เมกะวัตต์ ที่ลพบุรี สร้างรายได้กระฉูด ขณะที่ธุรกิจไบโอดีเซล มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้าน “อมร” เปิดมุมมองแนวโน้มผลงานปีนี้ไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง เหตุทั้ง 2 ธุรกิจในมือมีอนาคตที่สดใส พร้อมระบุเร่งเดินหน้าสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังผลิต 90 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดนครสวรรค์ อย่างเต็มที่ คาดเริ่มติดแผงโซลาร์ได้ในเดือนมิถุนายนนี้ หลังลุยงานโยธาเสร็จเรียบร้อย มั่นใจสามารถจ่ายไฟฟ้าให้แก่ กฟผ.ได้ตามกำหนดวันที่ 1 ธันวาคมนี้
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ งวดไตรมาส 1/56 มีกำไรสุทธิ 83.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 130.51% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 36.11 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากกำไรจากโรงไฟฟ้าที่จังหวัดลพบุรี และปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นของไบโอดีเซล
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2556 ว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดเมื่อเปรียเทียบกับปี 2555 หลังจากมีการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 8 เมกะวัตต์ เข้ามาเต็มปี ขณะที่ปริมาณขายไบโอดีเซลเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากมีการลงทุนปรับปรุงโรงงาน เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้ดีขึ้น
“จากตัวเลขผลการดำเนินงานไตรมาสแรกที่ออกมา ถือเป็นการพิสูจน์ว่า EA สามารถดำเนินงานทุกอย่างได้ดีกว่าแผนที่วางเอาไว้ ดังนั้น แนวโน้มผลการดำเนินงานทั้งปี 2556 ก็เชื่อว่าจะไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง เพราะทั้งธุรกิจไบโอดีเซล และโซลาร์ฟาร์มต่างก็มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง”
ส่วนการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิต 90 เมกะวัตต์ ที่อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ บนพื้นที่ 1,850 ไร่ ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยคาดว่าจะสามารถติดตั้งแผงโซลาร์ได้ในเดือนกรกฏาคมนี้ หลังจากที่งานด้านโยธา เช่น การปรับพื้นที่ และการทำระบบระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วม ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว และล่าสุด บริษัทฯ ได้ลงนามสัญญาว่าจ้าง บมจ.เด็มโก้ (DEMCO) ในโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าว โดยเป็นงานในส่วนของการออกแบบ, จัดหาอุปกรณ์ (ในประเทศ), งานก่อสร้างโยธา และระบบไฟฟ้า คิดเป็นมูลค่าสัญญาประมาณ 1,385 ล้านบาท รวมถึงการว่าจ้าง HYDROCHINA ZHONGNAN ENGINEERING CORPORATION ดำเนินการในส่วนของการจัดหาอุปกรณ์จากต่างประเทศ มูลค่าประมาณ 143.33 ล้านเหรียญสหรัฐ กำหนดแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2556 ทำให้มีความเชื่อมั่นว่า โครงการดังกล่าวจะสามารถจ่ายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ (กฟผ.) ได้ทันตามกำหนดสัญญา คือวันที่ 1 ธันวาคม 2556 นี้ และเริ่ม
รับรู้รายได้ และกำไรเต็มปีตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นไป โดยได้ประมาณการรายได้สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าดังกล่าวที่ 1,586 ล้านบาทต่อปี และกำไรสุทธิ 915 ล้านบาทต่อปี
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ งวดไตรมาส 1/56 มีกำไรสุทธิ 83.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 130.51% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 36.11 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากกำไรจากโรงไฟฟ้าที่จังหวัดลพบุรี และปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นของไบโอดีเซล
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2556 ว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดเมื่อเปรียเทียบกับปี 2555 หลังจากมีการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 8 เมกะวัตต์ เข้ามาเต็มปี ขณะที่ปริมาณขายไบโอดีเซลเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากมีการลงทุนปรับปรุงโรงงาน เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้ดีขึ้น
“จากตัวเลขผลการดำเนินงานไตรมาสแรกที่ออกมา ถือเป็นการพิสูจน์ว่า EA สามารถดำเนินงานทุกอย่างได้ดีกว่าแผนที่วางเอาไว้ ดังนั้น แนวโน้มผลการดำเนินงานทั้งปี 2556 ก็เชื่อว่าจะไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง เพราะทั้งธุรกิจไบโอดีเซล และโซลาร์ฟาร์มต่างก็มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง”
ส่วนการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิต 90 เมกะวัตต์ ที่อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ บนพื้นที่ 1,850 ไร่ ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยคาดว่าจะสามารถติดตั้งแผงโซลาร์ได้ในเดือนกรกฏาคมนี้ หลังจากที่งานด้านโยธา เช่น การปรับพื้นที่ และการทำระบบระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วม ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว และล่าสุด บริษัทฯ ได้ลงนามสัญญาว่าจ้าง บมจ.เด็มโก้ (DEMCO) ในโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าว โดยเป็นงานในส่วนของการออกแบบ, จัดหาอุปกรณ์ (ในประเทศ), งานก่อสร้างโยธา และระบบไฟฟ้า คิดเป็นมูลค่าสัญญาประมาณ 1,385 ล้านบาท รวมถึงการว่าจ้าง HYDROCHINA ZHONGNAN ENGINEERING CORPORATION ดำเนินการในส่วนของการจัดหาอุปกรณ์จากต่างประเทศ มูลค่าประมาณ 143.33 ล้านเหรียญสหรัฐ กำหนดแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2556 ทำให้มีความเชื่อมั่นว่า โครงการดังกล่าวจะสามารถจ่ายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ (กฟผ.) ได้ทันตามกำหนดสัญญา คือวันที่ 1 ธันวาคม 2556 นี้ และเริ่ม
รับรู้รายได้ และกำไรเต็มปีตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นไป โดยได้ประมาณการรายได้สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าดังกล่าวที่ 1,586 ล้านบาทต่อปี และกำไรสุทธิ 915 ล้านบาทต่อปี