ผู้ถือหุ้น EPCO พร้อมใจโหวตผ่านมติปันผลประจำปี 2555 จำนวน 0.045 บาทต่อหุ้น หลังจ่ายระหว่างกาลไปแล้ว รวมทั้งปีจ่ายปันผลรวม 0.090 บาทต่อหุ้น พร้อมอนุมัติแผนเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ แบบมอบอำนาจทั่วไป มั่นใจจะเป็นเครื่องมือที่จะช่วยเพิ่มความคล่องตัว และสร้างการเติบโตแบบยั่งยืนให้บริษัทแน่นอน พร้อม “ยุทธ ชินสุภัคกุล” ส่งสัญญาณบวกรายได้จากการขายไฟฟ้าของบ่อพลอยเริ่มเข้าแล้ว
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EPCO เปิดเผยถึงมติที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2556 ว่าได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลเพิ่มอีก 0.045 บาท โดยก่อนหน้านี้ ทางบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.045 สำหรับงวดผลประกอบการครึ่งปี ระหว่าง 1 ม.ค.-30 มิ.ย.2555 รวมทั้งปีจ่ายเงินปันผลทั้งสิ้น 0.090 บาทต่อหุ้น กำหนดปิดสมุดทะเบียน 29 เมษายน 2556 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 3 พฤษภาคม 2556 นี้
พร้อมกันนี้ ผู้ถือหุ้นยังได้อนุมัติแผนเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ แบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) โดยบริษัทฯ จะเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม จำนวน 644,262,751.00 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ จำนวน 953,508,751.00 บาท โดยการออกหุ้นสามัญ จำนวน 309,246,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนจำนวนที่ผู้ถือหุ้นแต่ละคนถืออยู่ จำนวน 154,623,000 หุ้น และประชาชนทั่วไป จำนวน 103,082,000 หุ้น และบุคคลในวงจำกัด จำนวน 51,541,000 หุ้น
“การจ่ายเงินปันผลถือเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้นทุกคนที่ให้ความไว้วางใจ และเชื่อมั่นในบริษัทตลอดมา สำหรับมติการอนุมัติเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไปในครั้งนี้จะช่วยทำให้บริษัทเกิดความคล่องตัวในด้านการลงทุนมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยส่งเสริม และสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้แก่บริษัท และสุดท้ายจะช่วยสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ในที่สุด ซึ่งในฐานะทีมบริหารเราพร้อมจะเดินหน้าทำงานต่อไปตามแผนที่ได้วางไว้ โดยเฉพาะในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่จะเป็นแหล่งรายได้ใหม่ที่มีความมั่นคงของ EPCO ในอนาคต”
นายยุทธ กล่าวต่อถึงแนวโน้มผลประกอบการในปี 2556 ว่า จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัด เนื่องจากมีการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดกำลังการผลิต 10 เมกะวัตต์ ที่อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเริ่มจ่ายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ไปแล้วตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2555 ที่ผ่านมา โดยมีการประมาณการรายได้จากโครงการดังกล่าว ประมาณ 200 ล้านบาทต่อปี ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอคำขออนุญาตก่อสร้างจากกรมโรงงาน ซึ่งคาดหมายว่าจะได้รับอนุญาต และสามารถก่อสร้างได้ภายในไตรมาส 2/2556 นี้ โดยรายได้จากธุรกิจพลังงานจะเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ปี 2556