บอร์ด “กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง” อนุมัติจับมือกับพันธมิตรยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานไฟฟ้าของญี่ปุ่น “จูบุ อีเล็คทริค พาวเวอร์ เจ็ม บี.วี.” เพื่อร่วมลงทุนใน “กันกุล พาวเวอร์เจน” พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิต 30.9 เมกะวัตต์ ขายไฟให้ กฟภ. เผยรับเงินจากการขายหุ้นครั้งนี้ 824 ล้านบาท หรือกำไรจากเงินลงทุนถึง 337.9 ล้านบาท และรับเงินล็อตแรกได้ตั้งแต่เดือน ก.พ. นี้ นำเงินไปใช้เป็นทุน
นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 1/2556 ได้มีมติให้บริษัทจำหน่ายหุ้นสามัญของ บริษัท กันกุล พาวเวอร์เจน จำกัด (GPG) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยคือ บริษัท จูบุ อีเล็คทริค พาวเวอร์ เจ็ม บี.วี. จำกัด (CHUBU) 4,860,800 หุ้น คิดเป็น 49% ของจำนวนหุ้นจดทะเบียนชำระแล้วทั้งหมด 9,920,000 หุ้น ในราคารวม 824 ล้านบาท เพื่อเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของ GPG ทั้งหมดจำนวน 6 สัญญา ขนาดกำลังการผลิตรวม 30.9 เมกะวัตต์
สำหรับวัตถุประสงค์ของการขายหุ้น GPG ในครั้งนี้ บริษัทจะนำผลกำไรที่ได้รับไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และขยายการลงทุนไปยังธุรกิจพลังงานทดแทนที่ได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีอัตราการเจริญเติบโต และสร้างผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในขณะเดียวกัน ผู้ถือหุ้นยังคงสามารถรับรู้ผลกำไรที่มั่นคงจากผลการดำเนินงานของ GPG เนื่องจากบริษัทยังคงมีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท กันกุล พาวเวอร์เจน จำกัด (GPG) ในอัตราร้อยละ 51 ภายหลังการจำหน่ายหุ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถรับรู้กำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนในครั้งนี้ จำนวน 337,920,000 บาท ประกอบกับสามารถลดสัดส่วนหนี้สินต่อทุนลงได้อย่างมีสาระสำคัญ นอกจากนี้ บริษัทยังได้ร่วมทุนเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัทผู้นำด้านพลังงานระดับภูมิภาค สามารถส่งเสริมศักยภาพของธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง และมีเสถียรภาพยิ่งขึ้นในระยะยาว
“การร่วมเป็นพันธมิตรกันในครั้งนี้ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อบริษัทเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่แสดงถึงศักยภาพการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของบริษัทเท่านั้น แต่เป็นการขยายการลงทุนไปในธุรกิจพลังงานตามเป้าหมาย และร่วมกันผลักดันสิ่งที่ดีๆ ให้เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมนี้ ซึ่งถือเป็นเกียรติของ GUNKUL อย่างมาก ที่ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทพลังงานชั้นนำของประเทศญี่ปุ่นที่ตัดสินใจเข้าร่วมลงทุน และมาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในครั้งนี้ ซึ่งกำไรจากการขายหุ้น GPG ในครั้งนี้ บริษัทจะนำเงินไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ชำระคืนเงินกู้ยืมจากธนาคาร และเพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจ และการขยายตัวของบริษัทในอนาคต ซึ่งจะส่งเสริมศักยภาพของธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง และมีเสถียรภาพยิ่งขึ้น” นายสมบูรณ์กล่าว
อนึ่ง โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ มีทั้งหมดจำนวน 6 สัญญา ขนาดกำลังการผลิตรวม 30.9 เมกะวัตต์ โดยได้รับการสนับสนุนค่าไฟฟ้าส่วนเพิ่ม (Adder) 8 บาทต่อหน่วย โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ประกอบด้วย 1.โครงการโรงไฟฟ้าบ้านกล้วย 1 จ.เพชรบูรณ์ ขนาด 4.4 เมกะวัตต์ 2.โครงการโรงไฟฟ้าบ้านกล้วย 2 จ.เพชรบูรณ์ ขนาด 3.0 เมกะวัตต์ 3.โครงการโรงไฟฟ้าวิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ขนาด 8.0 เมกะวัตต์ 4.โครงการโรงไฟฟ้าบึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ขนาด 3.0 เมกะวัตต์ 5.โครงการโรงไฟฟ้าศรีจุฬา จ.นครนายก ขนาด 8.0 เมกะวัตต์ และ 6.โครงการโรงไฟฟ้าเนินปอ จ.พิจิตร ขนาด 4.5 เมกะวัตต์ โดยโครงการที่ 1-2 ได้ดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์แล้ว ส่วนโครงการที่ 3-6 จะดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ได้ทั้งหมดภายในเดือนมีนาคม 2556
