xs
xsm
sm
md
lg

รายงานพิเศษ : ระวัง “เห็ดพิษ” กินแล้วถึงตาย !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เป็นรู้กันว่า “เห็ด” เป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของคนเรา สามารถใช้แทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ได้ เพราะเห็ดมีโปรตีนสูงมาก แถมยังไม่มีไขมัน และที่สำคัญหาได้ง่าย

อดีตผู้เชี่ยวชาญอาวุโส(เห็ด) องค์การสหประชาชาติ ดร.อานนท์ เอื้อตระกูล บอกว่า ในโลกนี้มีเห็ดเป็นแสนชนิด ในจำนวนมีประมาณ 200 ชนิดที่เป็นเห็ดพิษ

โดยเห็ดที่รู้จักกันทั่วไป สามารถนำมารับประทานและใช้เป็นสมุไพร ได้แก่ เห็ดนางฟ้า เห็ดโคน เห็ดหอม เห็ดหูหนู เห็ดเผาะ เห็ดฟาง เห็ดลม เห็ดหลินจือ ฯลฯ

แต่ในฤดูฝนซึ่งเป็นช่วงที่มีเห็ดชุกชุม โดยเฉพาะเห็ดป่า กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ออกมาเตือนให้ประชาชนระวังอันตรายจากการเก็บเห็ดหรือเลือกซื้อเห็ดป่าที่ไม่รู้จักมาปรุงอาหาร เพราะเสี่ยงอันตรายถึงเสียชีวิตจากเห็ดพิษ

นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-พฤศจิกายนของทุกปี จะพบผู้ป่วยและเสียชีวิตจากการกินเห็ดพิษที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ ได้แก่ เห็ดตับเต่าบางชนิด เห็ดระโงกหิน เห็ดสมองวัว เห็ดน้ำหมึก เห็ดหิ่งห้อย เห็ดเกล็ดดาว เป็นต้น

โดยเห็ดที่มีพิษรุนแรงถึงชีวิตที่พบได้บ่อยคือ เห็ดระโงกหิน เห็ดระงาก หรือเห็ดสะงาก และเห็ดไข่ตายซาก ซึ่งมีรูปร่างคล้ายกับเห็ดระโงกที่กินได้

ข้อมูลการเฝ้าระวังของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ในปี 2555 พบว่า มีผู้ป่วยจากการกินเห็ดพิษ 2,120 ราย เสียชีวิต 25 ราย พบมากที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1,381 ราย รองลงมาคือภาคเหนือ 543 ราย ส่วนในปี 2556 ตั้งแต่มกราคม – มิถุนายน พบผู้ป่วยแล้ว 450 ราย มากที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 221 ราย รองลงมาคือภาคเหนือ 171 ราย เฉพาะช่วงเริ่มฤดูฝนเดือนพฤษภาคมเดือนเดียวพบผู้ป่วยมากถึง 215 ราย

ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่กินเห็ดพิษส่วนใหญ่ เกิดจากความมั่นใจว่า เป็นเห็ดไม่มีพิษ เพราะลักษณะของเห็ดพิษกับเห็ดที่กินได้บางชนิดมีลักษณะคล้ายคลึงกันมาก โดยเฉพาะขณะเห็ดยังดอกตูม

อาการของผู้กินเห็ดพิษจะมีหลายอาการตามชนิดของเห็ดที่กินเข้าไป ส่วนใหญ่จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลว ปวดท้อง เป็นตะคริว อาจเกิดขึ้นหลังกินไม่กี่นาที หลายชั่วโมง หรือหลายวัน ในรายที่อาการรุนแรงจะเสียชีวิตได้ภายใน 1- 8 วัน จากการที่ตับถูกทำลาย

ดังนั้น การปฐมพยาบาลหรือช่วยเหลือผู้ป่วยก่อนนำส่งโรงพยาบาล ที่สำคัญคือ ทำให้ผู้ป่วยอาเจียนออกมาให้มากที่สุด โดยดื่มน้ำอุ่นผสมเกลือแกงแล้วล้วงคอออก เพื่อลดการดูดซึมพิษเข้าร่างกาย แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาลใกล้บ้านทันที พร้อมนำเห็ดที่รับประทานไปด้วย

วิธีสังเกตเห็ดพิษ

เห็ดที่ควรหลีกเลี่ยงไม่เก็บมากิน คือ เห็ดที่มีสีน้ำตาล เห็ดที่ปลอกหุ้มโคน เห็ดที่มีวงแหวนใต้หมวก เห็ดที่มีโคนอวบใหญ่ เห็ดที่มีปุ่มปม เห็ดที่มีหมวกสีขาว เห็ดที่มีหมวกเห็ดเป็นรูๆ แทนที่จะเป็นช่องๆคล้ายครีบปลา เห็ดตูมที่มีเนื้อในสีขาว เห็ดที่ขึ้นในมูลสัตว์หรือใกล้มูลสัตว์ ที่สำคัญคือไม่ควรเก็บหรือซื้อหาเห็ดป่าที่ไม่รู้จักมาปรุงอาหารกิน

ในการเก็บเห็ดที่ขึ้นตามธรรมชาติ ให้เก็บเห็ดที่มีรูปร่างสมบูรณ์ เก็บให้ครบทุกส่วนโดยขุดให้ลึก อย่าเก็บเห็ดหลังพายุใหม่ๆ เพราะสีบนหมวกของเห็ดบางชนิดอาจถูกฝนชะล้างให้จางลงได้ ไม่เก็บเห็ดที่ขึ้นใกล้โรงงานสารเคมี สนามกอล์ฟ หรือข้างถนน เนื่องจากเห็ดสามารถดูดซับสารพิษและโลหะหนักไว้ในตัวได้มาก เห็ดที่ไม่เคยกินมาก่อนควรกินเพียงเล็กน้อยก่อน เพราะอาจมีอาการแพ้ได้ และห้ามกินเห็ดดิบๆ โดยเด็ดขาด


(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 151 กรกฎาคม 2556 โดย กองบรรณาธิการ)

กำลังโหลดความคิดเห็น