ความรู้สึกดีๆที่มีให้กันนั้นเป็นสิ่งดีเสมอ เพราะนำมาซึ่ง “มิตรภาพ” อันยิ่งใหญ่ และหากเราเป็นคนเริ่มต้นให้กับคนรอบข้าง และทำให้เขาเกิดความรู้สึกดีๆไปด้วย การให้นั้นย่อมนำความสุขมาให้ทั้งสองฝ่าย คือ ทั้งผู้ให้และผู้รับ ดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า “ผู้ให้ ย่อมผูกไมตรีไว้ได้”
สำหรับเทคนิคที่จะทำให้คนรอบข้าง feel good นั้น ก็เป็นเรื่องไม่ยาก เพียงลงมือทำตาม 14 วิธีต่อไปนี้ ก็เห็นผล
1. ให้กำลังใจ
การรดน้ำพรวนดินและใส่ปุ๋ยให้ต้นไม้ ก็เพื่อจะช่วยให้มันเจริญงอกงามยิ่งขึ้น การให้กำลังใจแก่ผู้อื่นก็เปรียบเหมือนการใส่ปุ๋ยให้ต้นไม้ และไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด เพศใด วัยใด ทุกคนล้วนต้องการได้ยินคำพูดหรือการกระทำที่ยอมรับและสนับสนุนพวกเขา
ดังนั้น จงอย่ารีรอที่จะแสดงให้คนรอบข้างรู้สึกมีกำลังใจ ในยามที่พวกเขาต้องการมันอย่างแท้จริง
2. ชื่นชมอย่างจริงใจ
จงกล่าวคำชื่นชมแก่บุคคลที่ทำงานได้ดี หรือมีคุณลักษณะพิเศษที่น่าชมเชย ซึ่งคุณสังเกตเห็น แต่ถ้าไม่สามารถพูดต่อหน้าได้ ก็ควรหาช่องทางอื่น เช่น โทรศัพท์ ส่ง sms หรืออีเมล เพื่อบอกถึงสิ่งที่คุณชื่นชม รับรองว่า ผู้รับย่อมรู้สึกถึงสิ่งดีๆที่มาจากใจคุณได้อย่างแน่นอน
3. ยกย่องในที่สาธารณะ
การชื่นชมเป็นเรื่องดี แต่จะดีไปกว่านั้น หากคุณชื่นชมคนที่ทำดี ต่อหน้าบุคคลอื่นๆ เพราะการยกย่องบุคคลในที่สาธารณะ ไม่ว่าจะด้วยวาจาหรือลายลักษณ์อักษร จะทำให้ให้พวกเขาเกิดความมั่นใจในการทำดีมากยิ่งขึ้น
ที่สำคัญ..ไม่จำเป็นต้องชมเชยเฉพาะคนที่รู้จักเท่านั้น แต่หากพนักงานขายของที่ใส่ใจในบริการ หรือพนักงานเสิร์ฟที่คอยบริการอย่างเต็มที่ คุณก็ควรเอ่ยปากชม ซึ่งจะยิ่งทำให้พวกเขาอยากปฏิบัติงานให้ดียิ่งขึ้น
4. ตั้งใจฟัง
การฟังนั้นมิใช่เป็นการได้ยินแบบเข้าหูซ้าย ทะลุหูขวา แต่ควรตั้งใจฟังในเรื่องราวสาระที่เขากำลังพูด เพราะเมื่อคุณตั้งใจฟัง พยายามเข้าใจความคิดของเขา และอย่าขัดจังหวะ ก็ทำให้ผู้พูดรู้สึกดีที่มีคนตั้งใจฟังในสิ่งที่เขากำลังพูด
5. เต็มใจช่วยเหลือ
หากคุณสังเกตเห็นเพื่อนร่วมงานตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก และต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน จงอย่ารีรอที่จะยื่นมือเข้าไปช่วย เท่าที่คุณจะสามารถช่วยได้อย่างเต็มที่
เชื่อแน่ว่า นอกจากคุณจะได้ใจเพื่อนไปเต็มๆ และทำให้เขารู้สึกดีขึ้นแล้ว ยังเป็นการช่วยให้เขาเห็นคุณค่าของตัวเอง ว่าเขายังมีคนที่เป็นห่วงและพร้อมจะช่วยเหลือในยามทุกข์ยาก
6. พูดคุยแต่เรื่องดีๆ
คนทุกคนล้วนอยากมีความสุขมากกว่าความทุกข์ ดังนั้น การพูดคุยเรื่องราวดีๆ ย่อมนำความสุขมาให้มากกว่าเรื่องร้ายๆ และการพูดคุยไถ่ถามเกี่ยวกับเรื่องที่พวกเขาชื่นชอบ อาทิ งานอดิเรก กีฬา สถานที่ท่องเที่ยว รายการทีวี ฯลฯ เป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า คุณใส่ใจในตัวเขาอย่างแท้จริง และเขาจะรู้สึกดีๆที่ได้คุยเรื่องเหล่านี้กับคุณ
7. ให้ความรัก
พื้นฐานของมนุษย์นั้น ต้องการความรัก และความรักก่อให้เกิดความรู้สึกดีๆมากมายทั้งแก่ผู้ให้และผู้รับ เมื่อเราเข้าใจตรรกะข้อนี้ จึงควรแบ่งปันความรักให้กับเขาเท่าที่จะทำได้ ความรักนั้นมีหลายรูปแบบ เช่น ความรักระหว่างญาติสนิทมิตรสหาย ความรักระหว่างเพื่อนมนุษย์ เป็นต้น
8. โทรถามทุกข์สุข
อย่ามัวแต่ผัดผ่อนหรือรอจนถึงวาระพิเศษ ที่คุณจะโทรหาคนในครอบครัวหรือญาติสนิทมิตรสหาย เพื่อไต่ถามทุกข์สุข หรือบอกกล่าวความรักและคิดถึง ยิ่งโลกปัจจุบันเป็นโลกที่การสื่อสารก้าวไกล การได้พูดคุยกันบ่อยๆ จะช่วยให้คนปลายสายรู้สึกดีๆที่ยังมีใครบางคนคิดถึงและเป็นห่วงอยู่เสมอ
9. ระวังภาษากายเชิงลบ
การแสดงท่าทางหรือภาษากาย เปรียบเหมือนการพูดอย่างไร้เสียง และบ่อยครั้งที่เรามักแสดงออกโดยไม่รู้ตัว แต่ที่ควรระวัง คือ การแสดงภาษากายที่บอกถึงความเบื่อหน่ายหรือไม่สนใจ เช่น การกอดอก ถอนหายใจหนักๆ กำมือแน่น ทำหน้าบึ้ง ฯลฯ เพราะจะทำให้คนรอบข้างรู้สึกไม่ดี ดังนั้น จึงควรฝึกตนเองให้รู้จักควบคุมภาษากายเชิงลบที่ทำให้คนอื่นรู้สึกแย่ๆ
10. ยิ้มบ่อยๆ
รอยยิ้มเป็นภาษากายเชิงบวก และรอยยิ้มที่มาจากใจ เป็นภาษาสากล ไม่เคยล้าสมัย แม้วันเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานเพียงใด อีกทั้งยังสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ใครบางคนได้อย่างเหลือเชื่อ
ยิ่งในสถานการณ์ที่มืดมน แค่รอยยิ้มที่ดูอบอุ่น จริงใจ ที่คุณมีให้คนรอบๆข้าง ก็อาจทำให้โลกสว่างไสวได้ในพริบตา และทำให้เขารู้สึก feel good ขึ้นมาได้ในทันที
11. อย่าบ่นหรือวิพากษ์วิจารณ์
คนขี้บ่นนั้นมักทำให้คนข้างๆ รู้สึกรำคาญใจ พอๆกับคนที่ชอบวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นในทางลบ เพราะเท่ากับเป็นการซ้ำเติมให้เขารู้สึกแย่กว่าเดิม
ทางที่ดี คือ การหยุดบ่น และหยุดวิพากษ์วิจารณ์ แล้วหันมาพูดคุยกันด้วยเหตุด้วยผล
12. รู้จักทักทาย
บางครั้งการทักทายด้วยถ้อยคำสั้นๆ เช่น “สบายดีมั้ย” “กินข้าวหรือยัง” ก็เพียงพอที่จะทำให้คนที่ถูกถาม รู้สีกดีๆขึ้นมาได้เหมือนกัน
13. มีอารมณ์ขัน
อารมณ์ขันทำให้โลกสดชื่น น่ารื่นรมย์ คนที่มีอารมณ์ขัน ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง เพราะจะช่วยสร้างเสียงหัวเราะ ทำให้คนรอบข้างคลายเครียด และมีความสุข
แต่หากคุณไม่ใช่คนตลกขบขัน ก็ไม่จำเป็นต้องฝืนทำ แค่รู้จักขำและหัวเราะเมื่อคนอื่นพูดคุยตลก ก็เพียงพอที่จะทำให้การสนทนาพูดคุยออกรสชาติยิ่งขึ้น
14. ให้ของขวัญ
ใครๆก็อยากได้ของขวัญ แม้ไม่ใช่ในวาระพิเศษ เพราะมันทำให้ผู้รับรู้สึกเหมือนเป็นคนสำคัญขึ้นในทันที แต่อย่าไปยึดติดว่า ของขวัญที่คุณจะให้ผู้อื่นนั้น ต้องมีราคาแพงเสมอไป เพราะคุณค่าของมัน อยู่ที่จิตใจ มิใช่มูลค่าของสิ่งของ
แค่เพียงดอกไม้สักช่อ หรือสิ่งของเล็กๆน้อยๆที่เขาชอบ ก็ทำให้ผู้รับมีความสุขแล้ว
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 149 พฤษภาคม 2556 โดย ประกายรุ้ง)