xs
xsm
sm
md
lg

พ่อแม่เลี้ยงบวก : หุงข้าว ความรู้จากพ่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ลูกเสือคนที่ 1 : โอ้โห.....เจ๋งมากเลย!

ลูกเสือคนที่ 2 : ข้าวไม่ไหม้ด้วย ไหนลองชิมซิว่าสุกไหม โอ้.... ทั้งนุ่มทั้งหอม

ลูกเสือคนที่ 1 : เก่งมากนะ โนบีตะ เอ๊ย! ดิว
ตอนแรกเซ็งเลยที่ได้นายมาเข้ากลุ่ม เห็นจ๋องๆ นึกว่าจะไม่ได้เรื่อง แต่จริงๆนายเจ๋งว่ะ

ลูกเสือคนที่ 2 : ใครสอนนายหุงข้าวหม้อสนามเนี่ย?

ดิว : พ่อ พ่อสอนตอนพาไปเที่ยวป่า

ลูกเสือคนที่ 2 : เหรอ! พ่อนายดีเนอะ พ่อฉันให้รอกินอย่างเดียว บอกว่าขืนให้ฉันหุงเดี๋ยวข้าวไหม้

ลูกเสือคนที่ 1 : ฉันนะเคยขอแม่หุงข้าว ขนาดหม้อไฟฟ้าที่ง่ายกว่านี้เยอะ แม่บอกไม่ต้อง กลัวเสียของ

ดิว : พ่อสอนให้ติดไฟแบบไม่ใช้ไม้ขีดด้วยนะ (น้ำเสียงภูมิใจ)

ลูกเสือคนที่ 2 : เหรอ! เก่งจัง ดิวสอนพวกเราด้วยน้า นะๆๆ

ดิว : ได้สิ โน่น ครูเดินมาให้คะแนนแล้ว

ครูฝึก : ไหน ครูขอดูข้าวกลุ่มนี้หน่อยซิ กลุ่มที่แล้วเป็นข้าวสามกษัตริย์ ข้างล่างไหม้ ตรงกลางแฉะ ข้างบนดิบ (เด็กๆหัวเราะ) เปิดฝาซิ ข้าวกลุ่มนี้ยอดจริงๆ เอาไปเลย 10 คะแนน

เด็ก : เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

พ่อแม่มักให้ความสำคัญกับความรู้จากหนังสือเรียนมากกว่าความรู้ที่พ่อแม่มีเพราะมองว่าไม่สำคัญ การฝึกให้ลูกช่วยตัวเองและทำงานบ้านรวมถึงการให้ลูกได้มีประสบการณ์ที่หลากหลายแทนการเรียนหนังสืออย่างเดียว จะช่วยให้ลูกเก่งและพึ่งตนเองได้ค่ะ

ความรู้จากพ่อแม่

พ่อแม่มักทุ่มเทให้ความสำคัญในการเรียนหนังสือ หรือความรู้ในตำราของลูก มากกว่าการส่งเสริมให้ลูกเรียนรู้ทักษะชีวิตด้านอื่นๆ ทั้งๆที่การเรียนรู้เหล่านี้เป็นประโยชน์และจำเป็นต่อลูกๆในการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะความรู้จากพ่อแม่ซึ่งเกิดจากการสั่งสมประสบการณ์ตั้งแต่เด็กจนเป็นพ่อแม่คน เราสามารถถ่ายทอดความรู้ได้หลายรูปแบบและวิธีการไว้เป็นความสามารถติดตัวลูกได้ เช่น

• ผ่านการเล่น
เช่น การสอนลูกทำของเล่น ทำสิ่งประดิษฐ์ เล่นเกมหมากกระดาน

• ผ่านการเดินทางท่องเที่ยว
เช่น การเตรียมตัวเดินทาง การจัดกระเป๋า การศึกษาพื้นที่ที่จะไปเที่ยว การดูแผนที่ การกางเต็นท์ ก่อไฟ หุงข้าวหม้อสนาม ฯลฯ

• ผ่านงานสวน
ปลูกต้นไม้ สมุนไพรและประโยชน์ใช้สอย วงจรชีวิตแมลง การขยายพันธุ์ การให้ปุ๋ย การสังเกตธรรมชาติ ดูนก

• ผ่านงานครัว
เรื่องโภชนาการ พืชผักต่างๆ การเลือกเนื้อสัตว์ เคล็ดลับการทำอาหาร เครื่องปรุง ขั้นตอนการทำอาหาร สูตรอาหารต่างๆ อาหารนานาชาติ ของหวาน เครื่องดื่ม ประวัติศาสตร์อาหาร

• ผ่านการสอนด้านการเงิน
เช่น ทำบัญชีรับจ่าย การออมเงิน เปิดบัญชีธนาคาร เบิกถอนบัญชี

• ผ่านการช่วยกิจการของครอบครัว
เช่น การบริการลูกค้า การพูดคุยให้ข้อมูลสินค้า การคำนวณเงิน

เมื่อความรู้ความชำนาญหลายๆด้านที่พ่อแม่สอนทำให้เด็กเก่ง มีในสิ่งที่เพื่อนไม่มี หรือทำเป็นในสิ่งที่เพื่อนทำไม่เป็น จะยิ่งทำให้ได้รับการยอมรับจากกลุ่ม มีสภาวะผู้นำ เกิดภาคภูมิใจในพ่อแม่ที่สอนความรู้เหล่านี้ให้

ควรทำ

• เปิดโอกาสให้ลูกเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ
ทั้งจากครอบครัวและโลกรอบตัวซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ที่แท้จริงของเด็ก ไม่ควรจำกัดเฉพาะความรู้แคบๆในห้องเรียน

• ความรู้ที่มีอยู่ในตัวพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ญาติ เป็นความรู้สำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นความรู้มหาศาลที่ถ่ายทอดจากคนรุ่นหนึ่งไปอีกรุ่นหนึ่ง นอกจากความรู้ที่ได้ เด็กยังมีความภาคภูมิใจต่อผู้ใหญ่ในครอบครัว ซึ่งเป็นสายสัมพันธ์ที่ยึดโยงจิตใจคนในครอบครัวเอาไว้

• ความรู้อย่างเดียวยังสู้ทำสำเร็จไม่ได้ เช่น อธิบายการหุงข้าวได้ดี แต่หุงข้าวเองไม่ได้ ยังสู้อธิบายคนอื่นก็ได้และหุงข้าวให้คนอื่นดูก็ได้

• สอนความรู้ให้ลูกช่วยเหลือตนเองได้เร็ว ลูกก็จะยิ่งเรียนรู้ที่จะช่วยเหลือคนอื่นได้มากขึ้น ทำได้มากกว่าเพื่อน ก็เท่ากับสอนภาวะผู้นำให้เด็ก

ไม่ควรทำ

• การห้าม ดุว่า เร่งรัด บีบบังคับ
จะเป็นตัวทำลายความอยากเรียนรู้ของเด็ก

* หัวใจการเลี้ยงดู

ความรู้ของพ่อแม่เป็นขุมทรัพย์สำคัญในการฝึกฝนลูก

จัดทำข้อมูลโดย : แผนงานสร้างเสริมสุขภาพจิตเพื่อสุขภาวะสังคมไทย
สนับสนุนโดย : สำนักกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 141 กันยายน 2555 โดย แผนงานสร้างเสริมสุขภาพจิตเพื่อสุขภาวะสังคมไทย)
ชิงนาง ตอนที่ 19
ชิงนาง ตอนที่ 19
ค่ำวันนั้น ศรีดาราสวมชุดไว้ทุกข์ให้อนงค์ อุ้มหนูน้อย ทารกตัวเล็กอายุไม่ถึงเดือนไว้ในอ้อมแขน ออกอาการเห่ออย่างเห็นได้ชัด “ดูดู๊..หลานย่าหน้าตาน่ารักเหลือเกิน” หันมาทางสามี “จริงมั้ยคะ..คุณ?” อนุตมองด้วยสายตาอ่อนโยน “จริงด้วย...” เมียงๆ มองๆ “ดูๆ แล้วเหมือนพ่อมันนะ” “อุ๊ย ชอุ่มว่าเหมือนคุณหนูนามากกว่านะคะ” ชอุ่มว่าพลางหัวเราะคิกคักอยู่ใกล้ๆ ศรีดารารีบบอกอย่างขำๆ “ยังเล็กมาก ยังมองไม่ออกหรอกค่ะว่าหนูน้อยหน้าตาเหมือนใคร…จริงมั้ยเดือน” “ค่ะ” “น่ารักน่าชังอย่างนี้ เห็นทีคุณปู่คุณย่าจะหลงตายเลย” ชอุ่มหลุดปาก “นี่ถ้าคุณภูผามาเอาคุณหนูน้อยคืนเมื่อไหร่มิคิดถึงแย่เหรอคะเนี่ย?” ทุกคนอึ้งไปตามๆ กัน
กำลังโหลดความคิดเห็น