ผมเพิ่งพาน้องๆ ทีมงาน “โครงการธรรมาภิวัตน์” ไปกราบนมัสการพระอาจารย์ชัยณรงค์ อุปสโม ที่สำนักรักษาสงฆ์อาพาธเขมาภิรโต อำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี ระยะทาง 200 กว่ากิโลเมตร กับแดดเปรี้ยงๆ เดือนมีนาคม เมื่อไปถึง “ลุงใหญ่” ซึ่งเป็นลูกศิษย์พระอาจารย์เล่าว่า “กลางวันก็ร้อนมากๆ แบบนี้แหละ แต่พอกลางคืนนะ หนาว.. อย่าบอกใครเลยคุณเอ๊ย!!”
หลายๆ ท่านมักจะโทรมาสอบถามถึงเส้นทางการเดินทางไปยังสำนักรักษาสงฆ์ อาพาธเขมาภิรโต เพื่อจะไปกราบนมัสการ และหวังจะให้พระอาจารย์ชัยณรงค์ รักษาอาการเจ็บป่วย ซึ่งจริงๆแล้วต้องบอกว่า ที่นี่จะเน้นรักษา “พระสงฆ์ที่อาพาธ” เป็นหลักนะครับ (ชื่อสถานที่ก็บอกอยู่แล้ว)
ดังนั้น หากท่านจะเดินทางไปก็ไม่อาจขัดศรัทธา ไปเพื่ออาบน้ำพุร้อนอุณหภูมิพอเหมาะ 65 องศา กลิ่นกำมะถันไม่ค่อยฉุนมาก อาบเสร็จก็เบาตัวดี หรือจะไปเพื่ออบสมุนไพรสูตรที่พระอาจารย์และลูกศิษย์ช่วยกันคิดค้นขึ้นก็ได้ อบเสร็จก็สบายตัวมากๆ
แต่ว่าจะได้เข้ากราบนมัสการและให้พระอาจารย์รักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วยหรือไม่นั้น ไม่อาจการันตีให้ได้นะครับ ถึงกระนั้น ก็จะมีคณะลูกศิษย์ที่ได้รับการฝึกปรือ ถ่ายทอดวิชาองค์ความรู้จากพระอาจารย์คอยดูแลให้คำแนะนำท่านอยู่ครับ
ในวันที่ทีมงานโครงการธรรมาภิวัตน์เข้าไปกราบนมัสการพระอาจารย์นั้น ไปถึงที่สำนักรักษาสงฆ์อาพาธเขมาภิรโตตอนบ่ายโมงนิดๆ พระอาจารย์เพิ่งกลับเข้ากุฏิบ้านดินเพื่อไปนั่งสมาธิภาวนา ทีมงานจึงต้องนั่งรอเป็นเวลา 4 ชั่วโมงเศษ เราพูดกันว่า “นี่คือการฝึกขันติให้จิตสงบอย่างหนึ่ง อดทนรอต่อสิ่งที่ควรอดทนรอ”
ทีมงานก็นั่งพูดคุยหารือถึงการทำงานร่วมกันภายใต้หลักธรรมของครูบาพระอาจารย์ท่านต่างๆ ที่ได้สั่งสอนกันมาบ้าง ออกไปเก็บภาพบ้าง ที่บ้านน้ำพุร้อนนั้นบรรยากาศดีมากๆ ครับ
ราว 5 โมงเย็นพระอาจารย์ออกมาจากกุฏิ ญาติโยมส่วนหนึ่งเพิ่งอบสมุนไพรกันเสร็จ จึงถือโอกาสกราบนมัสการพร้อมๆกันเสียเลย ด้วยจิตปรารถนาที่พระอาจารย์มีต่อทุกท่าน พระอาจารย์ได้ถามไถ่ถึงอาการเจ็บป่วยของคุณป้าท่านหนึ่งว่าทุเลาเบาลงหรือไม่ พร้อมกับแนะหลักการดูแลสุขภาพให้นำกลับไปปฏิบัติต่อที่บ้านให้ได้ทราบทั่วกัน อาทิ การนอนควรนอนท่าปลาดาวเพื่อให้ร่างกายเกิดความรู้สึกผ่อนคลาย
ท่านแนะนำว่า ไม่ควรใช้น้ำมันปาล์มในการประกอบอาหาร อธิบายเรื่องโปรตอนบวกในน้ำที่ส่งผลต่อร่างกาย ใครมีปัญหา เรื่องต่อมน้ำเหลืองให้ดื่มน้ำมากๆ จิบชาตะไคร้ดับความร้อนในร่างกาย เป็นต้น
ในส่วนของทีมงานโครงการธรรมาภิวัตน์ การสนทนากับพระอาจารย์ในหลายเรื่อง หลักๆ คือการช่วยเผยแพร่องค์ความรู้ในการดูแลสุขภาพด้านกระดูก กล้ามเนื้อ และเทคนิคทางแพทย์แผนจีน ที่พระอาจารย์สั่งสมมาตั้งแต่เด็ก
เนื่องจากในวัยเยาว์ พระอาจารย์คอยวิ่งไปซื้อตัวยาจีนให้บิดาเสมอ พออ่านภาษาจีนออกจึงพลอยจดจำสูตรยาจากบิดา ซึ่งเป็นแพทย์ทหารจากประเทศจีน จึงทำให้พระอาจารย์ได้รับการถ่ายทอดวิชาความรู้และสูตรยาจีนที่เก่าแก่และสรรพคุณดีนักแล
กอปรกับพระอาจารย์ได้ไปศึกษาต่อด้าน “แพทย์แผนจีน” ที่ประเทศจีน และกลับมาประเทศไทยเมื่อปี 2541 จึงทำให้พระอาจารย์เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านแพทย์แผนจีนและการจัดสมดุลร่างกาย ควบคู่ไปกับการศึกษาพระธรรมคำสอน เนื่องจากเป็นศิษย์เอกของหลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จังหวัดนครปฐม พระผู้ใหญ่ที่เชี่ยวชาญด้านการนำสมุนไพรมาใช้ในการรักษาโรค
ด้วยองค์ความรู้ที่ได้รับจากครูบาอาจารย์ และการศึกษาที่หลากหลายในด้านการดูแลสุขภาพกาย กอปรกับการใช้หลักธรรมเข้ามาดูแลสุขภาพใจ จึงทำให้วันนี้ของพระอาจารย์ชัยณรงค์ มีญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาเข้ากราบนมัสการท่านเป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
กระนั้นพระอาจารย์ก็ได้แสดงความห่วงใยและปรารถนาที่จะให้มีการจัดงาน “อบรมเชิงปฏิบัติการปรับสมดุลสุขภาพกายพิชิตโรค” ปีที่ 2 ขึ้น เหมือนกับในปีที่แล้ว ที่โครงการธรรมาภิวัตน์ได้จัดขึ้น ที่กระทรวงสาธารณสุขนั่นแหละครับ (ตอนนี้ใครที่สนใจดีวีดีบันทึกงานอบรมดังกล่าวยังมีจำหน่ายอยู่ สอบถามได้ที่โครงการธรรมาภิวัตน์นะครับ)
ในการจัดงานอบรมฯ ปีนี้จะมีความเปลี่ยนแปลงคือ เราจะเพิ่มจำนวนวันในการอบรมจากเดิม 1 วันแบบไปเช้าเย็นกลับ เป็นอบรมกัน 4 วัน 3 คืน เรียกว่าตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งถึงเข้านอนเลยทีเดียว
พระอาจารย์ชัยณรงค์ กล่าวว่า “องค์ความรู้ที่อาตมาอยากจะถ่ายทอดนั้นมีมากเหลือเกิน ตั้งใจว่าครั้งนี้จะแยกการดูแลร่างกายออกเป็นส่วนต่างๆ 5 ส่วน คือ เส้นสมอง แขน หลัง ท้อง ขา อยากให้ทั้งผู้ที่เจ็บป่วย หรือญาติผู้ดูแลคนป่วย หรือแม้แต่ตัวเอง ได้รับความรู้ให้ได้มากที่สุดและถูกต้องที่สุด ไหนจะเรื่อง หลักธรรมคำสอนอีก อยากจะนำภาวนาจิต นั่งสมาธิ ซึ่งเหล่านี้มีประโยชน์ทั้งสิ้น”
เรื่องการเดินทาง ที่นอนหมอนมุ้ง น้ำท่า อาหารการกิน ไม่ต้องห่วงครับ รับรองว่าได้จะรับประทานถูกต้องตามหลักโภชนาการและดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน เราจะกางเต๊นท์นอนท่ามกลางธรรมชาติของบ้านน้ำพุร้อนครับ งานนี้มีค่าใช้จ่าย แต่ก็จะไม่มากนัก รับจำนวน 100 ท่านเท่านั้น ในเบื้องต้นของการเตรียมงาน เปิดเผยรายละเอียดได้เท่านี้ก่อนนะครับ
ทั้งนี้ หากท่านที่มีอาการเจ็บป่วยมากๆ ประเภทนั่งรถเข็น หรือดูแลตัวเองไม่ได้แล้ว ต้องขออนุญาตสงวนสิทธิ์นะครับ แต่หากท่านจะมอบหมายให้ผู้ดูแลหรือคนในครอบครัวมาอบรมแทนน่าจะได้ผลดีกว่า เพื่อนำองค์ความรู้ที่ได้รับจากการอบรมไปปฏิบัติต่อตนเองและคนในครอบครัวอย่างถูกต้องตามหลักการแพทย์ แผนจีนและการจัดสมดุลร่างกายนั่นเอง
รายละเอียดอื่นๆ ท่านผู้อ่านรอติดตามข่าวสารผ่านทางรายการธรรมาภิวัตน์ สถานีโทรทัศน์ ASTV หรือที่ facebook ของโครงการธรรมาภิวัตน์ (www. facebook.com/dhammapiwat
VCD อบรมการฝึกสร้างสมดุลกายจิตวิถีพุทธ โดยพระอาจารย์ชัยณรงค์ อุปสโม ซึ่งจัดทำโดยโครงการผู้จัดการสุขภาพ มีจำหน่ายที่ร้าน ASTV Shop โทร. 0-2629-2211 ต่อ 1152, 1117 หรือ Call center โทร. 0-2633-5353)
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 136 เมษายน 2555 โดย กานต์ จอมอินตา)