xs
xsm
sm
md
lg

AREAชี้แลนด์บริดจ์เชื่อมทวาย ดันอสังหาฯกาญฯขยายตัวใน5ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน -เชื่อ “แลนด์บริดจ์ -ทางหลวงและรถไฟ” เชื่อมท่าเรือน้ำลึกทวาย ดันเศรษฐกิจ-การลงทุนในจังหวัดกาญจนบุรีขยายตัวในอนาคต จับตาอสังหาฯแห่ลงทุน รองรับการขยายตัวด้านที่อยู่อาศัยชายแดนในอนาคต คาด5 ปีได้การลงทุนชัดเจน

นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด (AREA)กล่าวว่า บริษัทได้ศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาสาธารณูปโภคเพื่อเชื่อมต่อท่าเรือน้ำลึกทวาย กับประเทศไทย พบว่าการเชื่อมต่อทางท่าเรือดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกภายในจังหวัดกาญจนบุรีในอนาคตอย่างมาก

ทั้งนี้ กรมทางหลวงมีแผนจะก่อสร้างโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หรือมอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่-นครปฐม-กาญจนบุรี ระยะทาง 98 กม. วงเงินลงทุน 45,886 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 4,851 ล้านบาท ค่าก่อสร้าง 40,495 ล้านบาท และค่าควบคุมงาน 540 ล้านบาท โดยได้สำรวจและออกแบบรายละเอียดโครงการแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2552 และขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาแนวทางและรูปแบบการลงทุนโครงการแบบให้เอกชนร่วมลงทุน ซึ่งคาดว่าผลการศึกษาจะแล้วเสร็จภายในปี 255 เส้นทางนี้เป็นเส้นทางใหม่ที่ไม่ได้ใช้พื้นที่ทางหลวงเดิม การก่อสร้างจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงบางใหญ่-นครปฐม ขนาด 6 ช่องจราจร ระยะทาง 51 กม. และช่วงนครปฐม-กาญจนบุรี ขนาด 4 ช่องจราจร ระยะทาง 47 กม. คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี

นอกจากนี้ กรมทางหลวงยังจะสร้างถนนเส้นใหม่จากตัวเมืองกาญจนบุรีไปยังบ้านน้ำพุร้อน ระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร(กม.) โดยมีการจัดสรรงบประมาณในปี 2555 คาดว่าจะใช้เวลาศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมอีก ประมาณ 1 ปี ส่วนการรถไฟแห่งประเทศไทย มีแนวคิดจะสร้างทางรถไฟเชื่อมต่อไปจากสถานีน้ำตกไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ไปยังชายแดนพม่า เพื่อรองรับการคมนาคมขนส่งจากท่าเรือน้ำลึกทวาย ซึ่งจะต้องเวนคืนที่ดินใหม่ หรืออาจใช้เส้นทางทางหลวงที่จะสร้างใหม่แทน

นายโสภณ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวจะใช้เวลานับสิบปี แต่สำหรับการก่อสร้างทางเชื่อมระหว่างชายแดนไทยและพม่า คงจะสามารถก่อสร้างได้แล้วเสร็จในเวลาไม่เกิน 5 ปี ซึ่งจะส่งผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในจังหวัดกาญจนบุรีเป็นอย่างยิ่ง เพราะเดิมมีศักยภาพในด้านการท่องเที่ยวส่วนหนึ่งและไม่ใช่จังหวัดทางผ่าน จึงค่อนข้างเงียบ แต่หากมีการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม ซึ่งสมควรดำเนินการเป็นอย่างมากในพื้นที่ชายแดนทั้งในฝั่งไทยหรือฝั่งพม่า จะทำให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างคึกคัก นอกจากนั้น ยังอาจมีบ่อนการพนัน ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวหรือนักพนันสามารถเดินทางไปพักผ่อนท่องเที่ยวได้มากกว่าทางอรัญประเทศที่ไม่มีแหล่งท่องเที่ยวอะไรมากนัก

“ยิ่งกว่านั้น ศูนย์การค้าสินค้าปลอดภาษี ตลอดจนกิจการบริการต่าง ๆ เช่น โรงแรม ก็จะเกิดเพิ่มขึ้นในพื้นที่นี้ ทำให้พื้นที่เขตบ้านน้ำพุร้อน จะมีความคึกคักทางเศรษฐกิจคล้ายบ้านด่านนอกในเขตอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา และสำหรับแหล่งท่องเที่ยวเดิมทั้งแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ก็จะได้รับการพัฒนาให้มีมาตรฐานดีขึ้น รวมทั้งนักท่องเที่ยวก็จะเดินทางไปท่องเที่ยวได้สะดวกยิ่งขึ้นจากสาธารณูปโภคโดยเฉพาะทางหลวงและทางรถไฟใหม่”

จาก ข้อมูลเบื้องต้นเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อการขยายตัวในด้านการลงทุนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่บ้านน้ำพุร้อน และอำเภอเมือง ตลอดจนอำเภอใกล้เคียงในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งจะมีความคึกคักมากขึ้นอย่างมากในอนาคต
กำลังโหลดความคิดเห็น