• กินผลไม้ตอนท้องว่าง ...
ได้ประโยชน์สูงสุด
มาริลีน ไดมอนด์ นักบรรยายเรื่องโภชนาการ ชาวอเมริกัน บอกว่าน้ำและกากใยในผลไม้ช่วยในการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย จึงช่วยลดน้ำหนักได้ และร่างกายจะใช้ประโยชน์จากผลไม้สูงสุดเมื่อกินผลไม้อย่างถูกวิธี คือกินขณะท้องว่าง ไม่ควรกินผลไม้พร้อมหรือหลังอาหารอื่นๆ หรือหากกินผลไม้แล้วจะกินอาหารอื่นตาม ก็ควรรอเวลาอย่างน้อย 20-30 นาที เพื่อให้ผลไม้ ที่กินเข้าไปตกสู่ลำไส้เล็กและดูดซึมสารอาหาร จากผลไม้เข้าสู่ร่างกายได้อย่างเต็มที่
การห้ามกินผลไม้หลังอาหาร ก็เพราะเมื่ออาหารตกถึงกระเพาะจะใช้เวลาย่อยประมาณ 4 ชั่วโมง หากกินผลไม้ตามลงไป แทนที่จะผ่านไปยังลำไส้เล็กได้เลย ก็จะต้องถูกขัดขวางจากอาหารที่รอการย่อยเหล่านั้น ระหว่างนี้ทั้งอาหารและผลไม้ที่ผสมกันในกระเพาะ จึงอาจทำให้เกิดการหมักบูด เกิดแก๊ส ซึ่งมีผลให้เกิดอาการแน่นจุก หรือไม่สบายท้องได้
ดร.เฮอร์เบิร์ต เอ็ม. เชลตัน ผู้เชี่ยวชาญเรื่องโภชนาการของสหรัฐฯ เน้นว่าคุณค่าของผลไม้จะให้ประโยชน์กับเราเต็มที่เมื่อกินขณะท้องว่าง แต่หากใครที่กินผลไม้ไม่ถูกวิธี แต่ไม่รู้สึกแย่อะไร ก็แสดงว่าร่างกายคุณปรับตัวได้ดี แต่ก็น่าเสียดายที่จะไม่ได้รับคุณค่าของผลไม้เต็มที่อย่างที่ควรจะเป็น
• การหัวเราะช่วยรักษาโรคเบาหวาน
มีข้อมูลจากนักจิตประสาทภูมิคุ้มกันแห่งมหาวิทยาลัยโลมา ลินดา รัฐแคลิฟอร์เนีย ว่า เสียงหัวเราะของผู้ป่วยเบาหวาน ช่วยลดระดับโคเลสเตอรอลและลดความเสี่ยงโรคหัวใจได้ โดยทำการทดลองกับผู้ป่วยเบาหวานประเภทสอง อายุราว 50 ปี จำนวน 20 คน ทุกคนได้รับการรักษาทางการแพทย์ตามมาตรฐาน ทั้งกินยาลดความดัน และยาลดระดับโคเลสเตอรอล
ผู้ทดลองแบ่งผู้ป่วยเบาหวานออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกใช้วิธีรักษาด้วยยาตามปกติ ส่วนกลุ่มที่สองได้รับทั้งยาและการบำบัดด้วยการหัวเราะ โดยให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้ดูหนังฟังเพลงที่ตนเองชอบวันละ 30 นาที ต่อเนื่องนาน 12 เดือน ได้ผลการทดลองว่า ผู้ป่วยกลุ่มที่สองมีปริมาณโคเลสเตอรอลชนิดดี หรือเอชดีแอล เพิ่มขึ้น 26 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่กลุ่มแรกมีเอชดีแอลเพิ่มขึ้นแค่ 3 เปอร์เซ็นต์ ส่วนสารบ่งชี้การอักเสบหรือซีรีแอคทีฟ โปรตีน ก็ลดลงมากถึง 66 เปอร์เซ็นต์ ในกลุ่มที่สอง และ 26 เปอร์เซ็นต์ในกลุ่มแรก ผู้วิจัยให้เหตุผลว่า ขณะหัวเราะร่างกายจะเผาผลาญโคเลสเตอรอลชนิดเลว และเพิ่มปริมาณโคเลสเตอรอลชนิดดีช่วยป้องกันโรคหัวใจ และเพิ่มภูมิคุ้มกันการติดเชื้อได้
• พริกแกงมัสมั่น ช่วยยับยั้ง
"มะเร็ง ได้มากที่สุด
เมื่อเดือนกรกฎาคม 2554 มีข่าวว่าเว็บไซต์ซีเอ็นเอ็นโก เปิดเผยผลสำรวจ 50 สุดยอดอาหารอร่อยที่สุดในโลก ผลปรากฏว่าแกงมัสมั่น ของประเทศไทยคว้าอันดับ 1 จากการโหวตจากคนทั่วโลกผ่านเฟซบุ๊ก โพล ของซีเอ็นเอ็นโก ให้เป็นอาหารที่อร่อยที่สุดของโลก โดยให้คำจำกัดความว่า มัสมั่นถูกจัดเป็นราชาแห่งอาหาร เพราะมีทั้งความเผ็ดร้อนของเครื่องเทศ หอมมันจากกะทิ หวานและอร่อย เป็นรสชาติกลมกล่อมที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
นอกจากนี้ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยรองศาสตราจารย์ ดร.แก้ว กังสดาลอำไพ และคณะ ได้ทำการวิจัยศึกษาผลของพริกแกงที่คนไทยนิยมบริโภคจำนวน 10 ชนิด คือ พริกแกงเหลือง พริกแกงมัสมั่น เครื่องต้มข่า พริกแกงป่า พริกแกงส้ม พริกแกงกะหรี่ พริกแกงแพนง พริกแกงเขียวหวาน และ เครื่องต้มยำ ในความสามารถต้านฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ของสารก่อมะเร็ง โดยนำน้ำพริกแกงแต่ละชนิดในปริมาณที่หลากหลาย มาศึกษาในสัตว์ทดลอง(แมลงหวี่) พบว่า น้ำพริกแกงทุกชนิดไม่มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์
ในทางตรงกันข้ามน้ำพริกแกงดังกล่าว กลับมีฤทธิ์ในการยับยั้งการก่อกลายพันธุ์ของสารยูรีเทน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง โดยพบว่า พริกแกงมัสมั่นสามารถยับยั้งการก่อกลายพันธุ์ได้สูงที่สุด รองลงมาคือน้ำพริกแกงเหลือง และน้ำพริกแกงแพนง
• กินอาหารกากใยสูง
ต้านเหงือกติดเชื้อ
โรคเหงือกอักเสบเป็นโรคที่ผู้สูงอายุต้องทรมานอยู่เสมอ และยังเป็นสาเหตุให้ฟันหลุดร่วง โดยเฉพาะคนที่เป็นเบาหวาน จากผลการทดลองของ US Health Professional Study ซึ่งคัดเลือกผู้ชายทั้งหมด 34,160 คน อายุระหว่าง 40-75 ปี เพื่อตรวจหาหลักฐานสนับสนุนถึงความเกี่ยวโยงระหว่างปัจจัยของอาหาร และภาวะเหงือกติดเชื้อ ปรากฏว่า กลุ่มชายที่ตอนวัยหนุ่มมีสุขภาพแข็งแรงและปลอดเบาหวาน ได้รับประทานอาหารที่มีกากใยสูงไปจนจบการทดลอง ซึ่งได้ปรับให้เหมาะสมกับวิถีชีวิตของแต่ละคนแล้ว มีแนวโน้มเหงือกติดเชื้อน้อยกว่ากลุ่มที่รับประทานอาหารกากใยน้อยถึง 23%
ดังนั้น นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเมคมาสเตอร์ ในประเทศแคนาดา จึงสรุปว่า การรับประทานอาหารที่มีกากใยสูงที่ไม่เพิ่มแคลอรี จะช่วยให้ผู้สูงอายุลดอัตราเสี่ยงเป็นโรคเหงือกได้ อย่างไรก็ตาม อย่ามัวแต่รับประทานอาหารที่มีกากใยสูงจนลืมรักษาสุขภาพปากและฟัน มิฉะนั้นอาจมีปัญหาช่องปากมากขึ้นกว่าเดิม
• เคล็ดลับแก้ตะคริว
ตะคริว คือ การที่มีการหดเกร็งของกล้ามเนื้ออย่างรุนแรงเป็นเวลานาน ซึ่งมักเป็นที่กล้ามเนื้อแขนและขา โดยทั่วไปตะคริวมักเกิดไม่เกินสองนาที แต่อาจมีบางรายเกิดนานได้ถึงห้านาทีหรือนานกว่านั้น ในบางรายอาจเกิดบ่อยจนทำให้เกิดความทุกข์ทรมาน บางคนจึงใช้วิธีนอนนิ่งๆ ทนปวด ค่อยๆ ยืดขา ดัดปลายเท้า บีบนวดพักใหญ่ๆ ก็หาย แต่เมื่อเร็วๆ นี้ มีหมอประจำทีมนักกีฬาโอลิมปิก ของอเมริกา ได้พบเคล็ดลับแก้ตะคริวอย่างได้ผลชะงัด
วิธีก็คือเพียงแค่เอานิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ หนีบริมฝีปากบนไว้ไม่เกิน 1 นาที ตะคริวจะหายได้อย่างน่ามหัศจรรย์
ดังนั้น หากเป็นตะคริวขึ้นมา ก็ลองใช้วิธีนี้ดูบ้างก็ได้ เพื่อพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองว่าหายหรือไม่
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 131 ตุลาคม 2554 โดย ธาราทิพย์)