• เพชรบูรณ์สร้างพระพุทธมหาธรรมราชา
เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา "ในหลวง"
นายกองเอก วิลาศ รุจิวัฒนพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 5 ธันวาคม 2554 จังหวัดเพชรบูรณ์ร่วมกับพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ได้ร่วมกันสร้างพระพุทธมหาธรรมราชาเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา ขนาดหน้าตัก 11.984 เมตร ประดิษฐาน ณ พุทธอุทยานเพชบุระ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ซึ่งขณะนี้การจัดสร้างองค์พระได้ดำเนินการเสร็จแล้ว และได้ขอพระราชทานกราบบังคมทูลสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุบรรจุลงในจุลมงกุฎทองคำและเบิกเนตรองค์พระ ในวันที่ 26 กันยายน 2554
การจัดสร้างครั้งนี้ถือเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์อีกงานหนึ่ง ที่ทุกคนหลอมรวมจิตใจสร้างพระหล่อด้วยทองเหลืองขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ถวายเป็นพระราชกุศล และในโอกาสสำคัญนี้
นอกจากการสร้างพระพุทธมหาธรรมราชาเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา หล่อด้วยทองเหลือง ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว จังหวัดยังได้เตรียมหล่อพระพุทธมหาธรรมราชาเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษาทองคำ ขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว นำขึ้นทูลเกล้าฯถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว ทูลเกล้าฯ ถวายแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วย
• รองผอ.พศ.เผย ไทยเริ่มขาดแคลน
พระสงฆ์สืบทอดพุทธศาสนา
เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2554คณะสงฆ์ภาค 18 ได้จัดการประชุมพระสังฆาธิการประจำปี ณ วัดมหัตตมังคลาราม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมีพระสงฆ์จาก 400 วัดในจังหวัดสงขลา จำนวน 672 รูป เข้าร่วม เพื่อสรุปปัญหาในการดำเนินกิจการสงฆ์ในรอบปี โดยเฉพาะสถานการณ์ของพระในพื้นที่ 4 อำเภอชายแดนสงขลา ที่มีปัญหาด้านความมั่นคง
ดร.อำนาจ บัวศิริ รองผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ได้กล่าวบรรยายพิเศษเกี่ยวกับสถานการณ์พระพุทธศาสนาในประเทศไทย โดยระบุว่า ภาพรวมขณะนี้ ประเทศไทยเริ่มขาดแคลนพระสงฆ์ที่จะบวชเรียนเพื่อมุ่งสืบทอดพระพุทธศาสนา รวมทั้งสืบทอดตำแหน่งเจ้าอาวาสเพื่อดูแลวัดและพระสงฆ์ เหตุเพราะการบวชเรียนส่วนใหญ่ขณะนี้เป็นการบวชเรียนตามประเพณีไทยเท่านั้น และเป็นช่วงสั้นๆ มีน้อยที่จะตั้งใจบวชเรียนเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา จะเห็นได้ว่าขณะนี้มีสามเณรทั่วประเทศเพียง 62,000 รูป ขณะที่วัดทั่วประเทศมีอยู่กว่า 37,000 แห่ง
ดังนั้น แนวทางการแก้ปัญหา จึงต้องการให้ทางคณะสงฆ์ทั่วประเทศ หาแนวทางที่จะสืบทอดพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีปัญหาด้านความมั่นคง และส่งผลกระทบต่อพระสงฆ์อย่างหนัก หลายวัดไม่มีพระจำพรรษา และวัดส่วนใหญ่นั้น พระไม่สามารถปฏิบัติกิจของสงฆ์ได้
• กรมศิลป์เตรียมสร้างพระเมรุงานพระราชพิธี
พระราชทานเพลิงพระศพ "เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ"
เมื่อวันที่ 27 ก.ค. เวลา 16.37 น. สำนักพระราชวัง ได้อออกแถลงการณ์ เรื่องสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี สิ้นพระชนม์ ความว่า
สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี สิ้นพระชนม์ หลังจากที่ได้เสด็จประทับรักษาพระอาการติดเชื้อในพระกระแสโลหิต ณ ตึก 84 ปี ชั้น 5 ด้านตะวันออกโรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค.54 แม้คณะแพทย์ จะถวายการรักษาอย่างใกล้ชิดจนสุดความสามารถ พระอาการประชวร ได้ทรุดลงตามลำดับ และสิ้นพระชนม์ เมื่อเวลา 16.37 น.
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สำนักพระราชวังจัดการพระศพ ถวายพระเกียรติยศสูงสุดตามราชประเพณี ประดิษฐานพระศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าทูลละอองธุลีพระบาทในสำนักพระราชวังไว้ทุกข์มีกำหนด 100 วัน ตั้งแต่วันสิ้นพระชนม์เป็นต้นไป
อนึ่ง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้ประชาชนเข้าถวายน้ำสรงพระศพหน้าพระฉายาลักษณ์ ซึ่งประดิษฐาน ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่เวลา 13.00-16.00 น. เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.54
นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า จากการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธี
พระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี กรมศิลปากรได้รับมอบหมายจากที่ประชุมให้ดูแลการจัดสร้างพระเมรุและอาคารประกอบการบูรณะปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ การจัดทำหนังสือจดหมายเหตุ และหนังสือที่ระลึก การบรรเลงปี่พาทย์ประโคมย่ำยาม ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท รวมถึงงานมหรสพสมโภชตามแบบราชประเพณีออกพระเมรุ โดยรัฐบาลได้จัดงบประมาณเบื้องต้นไว้แล้วจำนวน 100 ล้านบาท โดยในการจัดสร้างพระเมรุนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระบัญชาให้แล้วเสร็จในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2555
ด้านพลอากาศตรีอาวุธ เงินชูกลิ่น ศิลปินแห่งชาติ อดีตอธิบดีกรมศิลปากร ผู้ออกแบบพระเมรุ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ กล่าวว่า ได้เริ่มยกร่างแบบพระเมรุแล้ว ซึ่งพระเมรุนี้จะมีขนาดเล็กลงจากเมื่อครั้งงานพระราชพิธี สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เล็กน้อย แต่ยังคงไว้ซึ่งพระเกียรติยศสูงสุด ส่วนลวดลายยังตกแต่งเหมือนครั้งก่อน
• หลวงปู่ศรี มหาวีโร
เกจิดังอีสาน มรณภาพแล้ว
พระเทพวิสุทธิมงคล หรือหลวงปู่ศรีมหาวีโร วัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด ได้ละสังขาร ด้วยโรคหัวใจรั่วและโรคชรา เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2554 เวลา 05.34 น. สิริอายุรวม 94 ปี 3 เดือน 3 วัน 65 พรรษา
พระเทพวิสุทธิมงคล มีนามเดิมว่า ศรี เกิด ในสกุลปักกะสีนัง เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ.2460 ที่บ้านขามป้อม อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม โยมบิดาชื่อ นายอ่อนสี โยมมารดาชื่อนางทุม ปักกะสี ในช่วงปฐมวัยท่านเข้าศึกษาที่โรงเรียนประชาบาล วัดบ้านขามป้อม จนจบชั้นประถมปีที่ 6 และได้เข้ามาเรียนต่อที่โรงเรียนสารคามพิทยาคม ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด จนจบชั้นมัธยมปีที่ 3 เมื่อปี พ.ศ.2480 การศึกษาของท่านในยุคสมัยนั้น นับว่าอยู่ในขั้นดี หลังจากสำเร็จการศึกษาท่านได้เข้ารับราชการเป็นครูที่โรงเรียนวัดบ้านชาด ต.หัวเรือ จ.มหาสารคาม และได้ย้ายมาที่โรงเรียนบ้านสวนจิก ต.ปอภาร จ.ร้อยเอ็ด
ด้วยความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา ท่านได้บรรพชาอุปสมบท เมื่อปี พ.ศ.2488 ณ พัทธสีมาวัดราษฎร์รังสรรค์ อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด โดยมีพระโพธิญาณมุนี (ดำ โพธิญาโณ) เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด (ธรรมยุต) เป็นอุปปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “มหาวีโร” แปลว่า ผู้มีความหาญกล้า
หลวงปู่ศรีได้เริ่มศึกษาปฏิบัติกรรมฐานกับพระอาจารย์คูณ ธมฺมตฺตโม ศิษย์พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ที่วัดป่าพูนไพบูลย์ (วัดประชาบำรุง) อ.เมือง จ.มหาสารคาม ต่อมาท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์ ศึกษาวัตรปฏิบัติธรรมกับพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม ที่วัดป่าแสนสำราญ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี หลังจากปฏิบัติธรรมกับพระอาจารย์สิงห์เป็นที่ถ่องแท้แล้ว จึงได้ออกปลีกวิเวกตามป่าเขา กระทั่ง พ.ศ. 2492 ได้ฝากตัวเป็นศิษย์กับพระอาจารย์มั่นที่วัดหนองผือ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ท่านได้ศึกษาและปฏิบัติธรรมด้วยความพากเพียรมุ่งมั่นแบบเอาชีวิตเป็นเดิมพัน จนได้รับการยกย่องจากพระ-อาจารย์มั่นว่า “ท่านศรีมีความพากเพียร มีพลังจิตสูงส่ง อีกทั้งสามารถแจก แจงแสดงธรรมได้แตกฉาน”
พ.ศ.2496 หลวงปู่ศรีได้จำพรรษาและบูรณปฏิสังขรณ์วัดประชาคมวนารามซึ่งเป็นวัดร้าง จากนั้นก็ได้จาริกไปเผยแผ่ธรรมตามวัดต่างๆอีก 8 ปี จึงกลับมาจำพรรษาที่วัดประชาคมวนารามจนปัจจุบัน
ในปี พ.ศ.2528 หลวงปู่ศรีได้ดำริก่อสร้างมหาเจดีย์ชัยมงคล ซึ่งเป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยกว้าง 101 เมตร สูง 109 เมตร ส่วนยอดของเจดีย์ทำจากทองคำหนัก 4,750 บาท รวมทั้งได้ก่อสร้าง วัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วนาราม อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระมหาเจดีย์ และในปี 2507 เป็นต้นมาท่านได้ตั้งสำนักวิปัสสนากรรมฐานออกไปทั่วทุกภาค จนมีวัดสาขาถึง 143 สาขา
• รัฐบาลจีนอนุมัติให้จัดตั้งวัดไทย
แห่งแรกในนครเทียนจิน
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านความสัมพันธ์ทางพระพุทธศาสนา โดยสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง ได้จัดทำโครงการก่อสร้างวัดไทยในบริเวณวัดพระหยกในนครเทียนจิน ซึ่งผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตไทยฯ ได้นมัสการพระอาจารย์เหยี่ยน หลง เจ้าอาวาสวัดพระหยก นครเทียนจิน หารือแนวทางการสร้างวัดไทยในจีนแล้ว ซึ่งทางวัดพระหยกยินดีมอบที่ดินภายในวัดประมาณ 20 ไร่ และอัญเชิญพระพุทธรูปแบบเถรวาทตามคติของไทยไปประดิษฐาน โดยรัฐบาลกลางจีนและรัฐบาลนครเทียนจิน ได้อนุมัติให้ก่อสร้างอาคารวัดไทยภายในบริเวณวัดพระหยกได้
สำหรับการก่อสร้างวัดไทยในจีน เป็นการเผยแผ่พระพุทธศาสนา เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระดับประชาชนของทั้งสองประเทศ และการที่วัดพระหยกยินดีมอบพื้นที่ในวัดให้ก่อสร้างวัดไทย และทางการจีนอนุญาตให้ก่อสร้างวัดไทย แสดงถึงความพร้อมของฝ่ายจีน ในการร่วมมือกับฝ่ายไทย ในการส่งเสริมความร่วมมือด้านพระพุทธศาสนา
• พศ.สนองพระราชดำรัส "ราชินี" เรื่องยาบ้า
ประสานวัดทั่วประเทศ เข้มงวดดูแลพระ-เณร
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า จากการที่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยปัญหายาเสพติดโดยเฉพาะยาบ้าที่แพร่ระบาดทั้งในโรงเรียนและวัด พศ.ซึ่งมีหน้าที่ดูแลวัด จะประสานไปยังวัดทั่วประเทศ ขอให้เจ้าอาวาส เจ้าคณะปกครองสงฆ์ เพิ่มความเข้มงวดสอดส่องดูแลพระสงฆ์ สามเณร และความประพฤติของลูกศิษย์ รวมทั้งตรวจสอบผู้ที่จะมาบรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์ เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหายาเสพติดเข้ามาสู่วัด
ส่วนที่พระองค์ทรงห่วงใยพระสงฆ์ในพื้นที่ภาคใต้นั้น นายนพรัตน์กล่าวว่า จะแจ้งให้มหาเถรสมาคมรับทราบ ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยพระสงฆ์ในพื้นที่ภาคใต้ จะมีเจ้าหน้าที่ทหารติดตามไปด้วย แต่บางครั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัย จึงขอให้พระสงฆ์เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น และจะประสานให้เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดในพื้นที่เข้าไปเยี่ยมเยียน และแจ้งข่าวสารต่างๆ ให้ทราบ
• พศ.แจ้งเตือนพระสงฆ์ทั่วประเทศ
ระวังสารพัดแก๊งหลอกลวงเอาเงิน
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากคณะสงฆ์ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม ว่าถูกแก๊งงานศพหลอกลวงเอาเงิน ด้วยการทำทีมาตีสนิทและขอเงินจากพระสงฆ์ที่ชราภาพ โดยอ้างว่าครอบครัวเดือดร้อน พ่อแม่เสียชีวิต แต่ไม่มีเงินทำศพ จนทำให้พระสงฆ์เสียเงินด้วยวิธีการหว่านล้อม ไปจนถึงการป้ายยาพระสงฆ์ให้รู้สึกมึนงงจนต้องเสียทรัพย์ ขณะเดียวกันยังพบกลุ่มมิจฉาชีพที่อ้างตัวเป็นหน่วยงานพุทธสมาคมต่างๆ ออกมาขอรับเงินบริจาคจากวัดในพื้นที่ต่างๆด้วย
ทางพศ.จึงเตรียมทำหนังสือแจ้งเตือนไปยังเจ้าคณะปกครองทุกระดับ เพื่อเตือนภัยให้วัดต่างๆ ได้รับทราบ และเท่าทันกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ นอกจากนี้ยังพบว่า มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเอาเงินจากพระโดยอ้างว่าเป็นหนี้บัตรเครติตจากสถาบันการเงินต่างๆ ทั้งที่พระสงฆ์ไม่มีบัตรเครดิตของสถาบันการเงินแต่อย่างใด
• แม่กองธรรมสนามหลวงเตรียม
จัดสอบธรรมสนามหลวง ประจำปี 54
สำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวง โดยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคม กำหนดให้นักเรียนนักธรรมและธรรมศึกษา เข้าสอบวัดความรู้การศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกธรรมตามหลักสูตรของคณะสงฆ์ พร้อมกันทั่วราชอาณาจักร ในวันและเวลา ดังนี้
นักธรรมชั้นตรี วันที่ 6 ต.ค. 54 เวลา 13.00-16.00 น. สอบวิชาเรียงความแก้กระทู้ธรรม วันที่ 7 ต.ค. 54 เวลา 13.00-16.00 น. สอบวิชาธรรม วันที่ 8 ต.ค. 54 เวลา 13.00-16.00 น. สอบวิชาพุทธ วันที่ 9 ต.ค. 54 เวลา 13.00-16.00 น. สอบวิชาวินัย
ส่วนนักธรรมชั้นโท-เอก วันที่ 12 พ.ย. 54 เวลา 13.00-16.00 น. สอบวิชาเรียงความแก้กระทู้ธรรม วันที่ 13 พ.ย. 54 เวลา 13.00-16.00 น. สอบวิชาธรรม วันที่ 14 พ.ย. 54 เวลา 13.00-16.00 น. สอบวิชาพุทธ และวันที่ 15 พ.ย. 54 เวลา 13.00-16.00 น. สอบวิชาวินัย
สำหรับธรรมศึกษาชั้นตรี-โท-เอก วันที่ 16 พ.ย. 54 เวลา 08.30-11.30 น. สอบวิชา เรียงความแก้กระทู้ธรรม เวลา 13.00 น.-13.50 น. สอบวิชาธรรม เวลา 14.00-14.50 น. สอบวิชาพุทธ เวลา 15.00-15.50 น. สอบวิชาวินัย
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 130 กันยายน 2554 โดย มรรคา)