พระเทพฯเสด็จฯบำเพ็ญกุศล พระศพเจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ

ASTVผู้จัดการรายวัน-สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฎิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระศพสมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ ด้านสำนักพระราชวัง เปิดโอกาสให้คณะบุคคล องค์การ สมาคมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลถวายพระศพได้ทุกวันพุธ กระทรวงวัฒนธรรมตั้งงบ 218 ล้านสร้างพระเมรุ และจัดทำหนังสือที่ระลึก

จากการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สำนักพระราชวังจัดการพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี โดยถวายพระเกียรติยศสูงสุดตามราชประเพณี และให้ประดิษฐานพระศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง พร้อมพระราชทานพระโกศทองใหญ่ และฉัตร 5 ชั้นประดับชั้นยศ ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ 6

วานนี้ (2 ส.ค.) เวลา 16.56 น. พระบาทสมพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฎิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในการนี้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาธินัดดามาตุโดยเสด็จด้วย ในการทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวารพระราชทานพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท

เมื่อรถยนต์พระที่นั่งเทียบประตูกำแพงแก้วพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทข้างพระที่นั่งราชกรัณยสภา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ขึ้นทางบันไดมุขกระสันพระที่นั่งพิมานรัตยา เสด็จออกพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ผ่านพระบรมวงศ์เฝ้าฯ จากนั้น เสด็จฯ ไปทรงวางพวงมาลาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพวงมาลาส่วนพระองค์ ที่หน้าพระโกศพระศพ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยและเครื่องราชสักการะพระศพ ชาวพนักงานประโคมสังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่ กลองชนะ ทหารกองเกียรติยศพระศพถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงมหาชัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปที่หน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร พระสงฆ์ 30 รูปสวดพระพุทธมนต์ จบ ถวายอดิเรก เจ้าพนักงานนิมนต์สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ที่จะถวายพระธรรมเทศนาและสวดพระธรรมคาถา ขึ้นนั่งยังอาสนะ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม

สมเด็จพระราชาคณะถวายศีลและถวายพระธรรมเทศนา จบ พระ 4 รูป สวดธรรมคาถาและทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์และทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์ทั้งนั้นสดับปกรณ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก เสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดธูปเทียนที่เตียงพระสวดพระอภิธรรม เสด็จพระราชดำเนินกลับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเย็น หลังจากที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินกลับ เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังได้เปิดโอกาสให้คณะบุคคลสำคัญและประชาชนขึ้นไปสักการะพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง พร้อมมอบภาพพระโกศทองใหญ่ให้กับประชาชนตรงบันไดทางลงพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และในวันที่ 3 ส.ค.2554 จะมอบหนังสือเพื่อการประดิษฐานพระศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับการประดิษฐานพระศพ เครื่องประดับพระอิสสริยยศและแผนผังการจัดตั้ง รวมทั้งสิ่งของต่างๆ เพื่อเป็นที่ระลึกสำหรับผู้ที่มาร่วมบำเพ็ญกุศลสัตตมวารพระราชทานพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทด้วย

วันเดียวกัน เวลา 07.00 น. ม.ร.ว.จักรรถ จิตรพงศ์ เป็นประธานบำเพ็ญพระกุศล ในการพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี และถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์จากวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหารและวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร วัดละ 4 รูป ที่สวดพระอภิธรรมพระศพต่อเนื่องมาตั้งแต่ วันที่ 1 ส.ค. ถัดมาในเวลา 11.00 น. ม.ร.ว.ศักดิสาณ ชุมพล เป็นประธานถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์วัดอนงคารามวรวิหารและวัดบวรนิเวศวิหาร วัดละ 4 รูป

ส่วนบรรยากาศบริเวณลานพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท มีประชาชนเดินทางมาสักการะพระศพอย่างไม่ขาดสาย โดยตลอดทั้งวันมีบุคคลสำคัญ หน่วยงานรัฐ เอกชน และประชาชนเข้าสักการะพระศพ และวางพวงมาลาถวายสักการะพระศพ อาทิ โรงเรียนเบญจมราชาลัย โรงเรียนสกุลดำรง โรงเรียนสยามธุรกิจในพระอุปถัมภ์ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อุทยานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระศรีนคริทราบรมราชชนนี โรงเรียนเพชรรัชต์ ค่ายเพชรรัชต์ สำนักพิมพ์วัฒนาพาณิชย์

สำนักพระราชวังแจ้งว่า หลังจากพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน 7 วัน จนถึงการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน 100 วัน ในวันพฤหัสบดีที่ 3 พ.ย.2554 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้พระราชวงศ์ ราชสกุลทุกมหาสาขา และหน่วยงานรัฐ ร่วมเป็นเจ้าภาพ ในการบำเพ็ญพระราชกุศลและบำเพ็ญกุศลถวายพระศพประจำสัปดาห์ได้ในทุกวันพุธ ตามกำหนดการ คือ เวลา 10.00 น. พระสงฆ์10 รูป สวดพระพุทธมนต์ เวลา 10.30 น. พระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 แล้วพระสงฆ์ถวายพระพร เวลา 11.00 น. พระสงฆ์ฉันภัตตาหาร สดับปกรณ์ และเวลา 19.00 น. พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม

ขณะเดียวกันที่ศาลาว่าการพระราชวัง ฝั่งตรงข้ามพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท กองวัง พระบรมมหาราชวัง จัดห้องไว้รับรองแด่คณะทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ เดินทางมาลงนามไว้อาลัยสมเด็จพระเจ้าพระภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ ตั้งแต่วันที่ 29ก.ค. ถึงวันที่ 2 ส.ค. โดยมีคณะทูต เดินทางมาลงนามรวมทั้งสิ้น 34 ประเทศ อาทิ ราชอาณาจักรโมร็อกโก ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ประเทศมาเลเซีย ราชอาณาจักรเบลเยี่ยม สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาพันธรัฐรัสเซีย สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี สาธารณรัฐเปรู สาธารณรัฐโปรตุเกส ราชอาณาจักรภูฎาน รัฐสุลต่านโอมาน รัฐบรูไนตรุสซาลาม ประเทศนิวซีแลนด์ เป็นต้น ขณะที่องค์กรนานาชาติ มีทั้งสิ้น 4 องค์กร ประกอบด้วย ตัวแทนสหประชาชาติ ยูเนสโก สหภาพยุโรป เลขานุการสหประชาชาติ และกงสุลราชรัฐโมนาโก

สำหรับคณะบุคคล องค์การ สมาคม สามารถติดต่อขอร่วมเป็นเจ้าภาพในการบำเพ็ญกุศลถวายพระศพ ทุกวันพุธ โดยให้ทำหนังสือถึงเลขาธิการพระราชวัง สอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักงานเลขานุการกรม โทรศัพท์ 0-2224-3273 และ 0-2224-3333 โทรสาร 0-2226-4949

ส่วนประชาชนที่ต้องการถวายสักการะพระศพ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท สามารถเดินทางมาได้ในเวลา 12.00-16.00น. และร่วมฟังสวดพระอภิธรรมใน เวลา 18.00-22.00 น. ทุกวัน (งดในวันที่มีพระราชพิธีฯ) โดยแต่งกายสุภาพไว้ทุกข์ (สีดำ, สีดำ-ขาว) ชุดชาวเขา สำหรับชาวเขา ชุดลูกเสือสำหรับลูกเสือ สุภาพสตรีควรสวมกระโปรงหรือผ้าถุง งดสวมใส่กระโปรงยีนส์และกางเกงยีนส์

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ได้เชิญนายสมชาย เสียงหลาย ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร และนายจำลอง ธงชัย หัวหน้าฝ่ายพิธี กรมการศาสนา มาสรุปการดำเนินการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี โดยกรมศิลปากรมีหน้าที่หลัก ได้แก่ 1.จัดสร้างพระเมรุ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุ และบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ 2.การจัดทำหนังสือจดหมายเหตุและหนังสือที่ระลึก และ 3.การบรรเลงดนตรีไทยและประโคมย่ำยาม ซึ่งต้องทำวันละ 5 รอบ โดยการประโคมย่ำยามได้ดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา

เบื้องต้นกรมศิลปากรได้ประมาณราคากลางในการก่อสร้างพระเมรุและอาคารประกอบพระเมรุ ใช้งบประมาณ 208.8 ล้านบาท โดยกรมศิลปากรจะเริ่มออกแบบร่างพระเมรุให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน และใช้เวลาก่อสร้างไม่เกิน 10 เดือน สำหรับสิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุและการบูรณะปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ ใช้งบประมาณ 9.3 ล้านบาท ส่วนจดหมายเหตุและหนังสือที่ระลึกใช้งบประมาณ 17 ล้านบาทเท่ากับที่ดำเนินงานในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ กรมศิลปากร ได้ให้ทางหอจดหมายเหตุแห่งชาติไปบันทึกเหตุการณ์ไว้ตั้งแต่วันที่พระองค์สิ้นพระชนม์และบันทึกเหตุการณ์ไว้ตลอดเวลา ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้จะเสนอนายกรัฐมนตรีในวันที่ 4 ส.ค.นี้

“ที่ผมกำชับคืองบประมาณให้มีความเหมาะสมและสมพระเกียรติ ในส่วนของกรมการศาสนา จะต้องมีสวดพระอภิธรรมพระศพ อย่างน้อย 8-10 เดือน ถ้าจะต้องใช้งบเพิ่มขึ้นก็ให้บอกมา จะของบกลางจากรัฐบาลมาสนับสนุน สำหรับภาพรวมของการดำเนินงานทั้งหมด ไม่ห่วง เพราะพลอากาศตรีอาวุธ เงินชูกลิ่น อดีตอธิบดีกรมศิลปากร ในฐานะสถาปนิกออกแบบพระเมรุมีประสบการณ์ในการออกแบบพระเมรุสมเด็จพระเจ้าพี่นางฯมาแล้ว สิ่งที่เป็นห่วงเกรงว่าจะมีปัญหาเรื่องดินฟ้าอากาศอาจเป็นอุปสรรคในการสร้างพระเมรุ ส่วนสถานที่ได้ประสานขอใช้สนามหลวงกับทางกรุงเทพมหานครเรียบร้อยแล้ว”นายนิพิฎฐ์กล่าว