“นิพิฏฐ์” เผยกรมศิลป์สรุปงบสร้างพระเมรุ-บูรณราชรถ พระยานมาศรวม 218.1 ล้าน เตรียมเสนอนายกฯ 4 ส.ค.นี้ แย้มห่วงสภาพดินฟ้าอากาศจะเป็นอุปสรรคก่อสร้างพระเมรุ
วันนี้ (2 ส.ค.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า วันนี้ได้เชิญนายสมชาย เสียงหลาย ปลัด วธ. นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร และนายจำลอง ธงชัย หัวหน้าฝ่ายพิธี กรมการศาสนา (ศน.) มาสรุปการดำเนินการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี สำหรับ วธ. จะเน้นไปที่ 2 กรม คือ กรมศิลปากร และ ศน. โดยกรมศิลปากรมีหน้าที่หลัก ได้แก่ 1.จัดสร้างพระเมรุ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุ และบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ 2.การจัดทำหนังสือจดหมายเหตุและหนังสือที่ระลึก และ 3.การบรรเลงดนตรีไทยและประโคมย่ำยาม ซึ่งต้องทำวันละ 5 รอบ โดยการประโคมย่ำยามได้ดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา
ในเบื้องต้นกรมศิลปากรได้ประมาณราคากลางในการก่อสร้างพระเมรุและอาคารประกอบพระเมรุ ใช้งบประมาณ 208.8 ล้านบาท โดยกรมศิลปากรจะเริ่มออกแบบร่างพระเมรุให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน และใช้เวลาก่อสร้างไม่เกิน 10 เดือน สำหรับสิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุและการบูรณะปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ ใช้งบประมาณ 9.3 ล้านบาท ส่วนจดหมายเหตุและหนังสือที่ระลึกใช้งบประมาณ 17 ล้านบาทเท่ากับที่ดำเนินงานในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กรมศิลปากรได้ให้ทางหอจดหมายเหตุแห่งชาติไปบันทึกเหตุการณ์ไว้ตั้งแต่วันที่พระองค์สิ้นพระชนม์และบันทึกเหตุการณ์ไว้ตลอดเวลา ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้จะเสนอนายกรัฐมนตรีในวันที่ 4 สิงหาคมนี้
“ที่ผมกำชับคืองบประมาณให้มีความเหมาะสม และสมพระเกียรติ ในส่วนของ ศน.จะต้องมีสวดพระอภิธรรมพระศพ อย่างน้อย 8-10 เดือน ถ้าจะต้องใช้งบเพิ่มขึ้นก็ให้บอกมา จะของบกลางจากรัฐบาลมาสนับสนุน สำหรับภาพรวมของการดำเนินงานทั้งหมด ไม่ห่วง เพราะ พล.อ.ต.อาวุธ เงินชูกลิ่น อดีตอธิบดีกรมศิลปากร ในฐานะสถาปนิกออกแบบพระเมรุมีประสบการณ์ในการออกแบบพระเมรุสมเด็จพระเจ้าพี่นางฯมาแล้ว สิ่งที่เป็นห่วงเกรงว่าจะมีปัญหาเรื่องดินฟ้าอากาศอาจเป็นอุปสรรคในการสร้างพระเมรุ ส่วนสถานที่ได้ประสานขอใช้สนามหลวงกับทางกรุงเทพมหานครเรียบร้อยแล้ว” รมว.วัฒนธรรมกล่าว
วันนี้ (2 ส.ค.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า วันนี้ได้เชิญนายสมชาย เสียงหลาย ปลัด วธ. นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร และนายจำลอง ธงชัย หัวหน้าฝ่ายพิธี กรมการศาสนา (ศน.) มาสรุปการดำเนินการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี สำหรับ วธ. จะเน้นไปที่ 2 กรม คือ กรมศิลปากร และ ศน. โดยกรมศิลปากรมีหน้าที่หลัก ได้แก่ 1.จัดสร้างพระเมรุ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุ และบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ 2.การจัดทำหนังสือจดหมายเหตุและหนังสือที่ระลึก และ 3.การบรรเลงดนตรีไทยและประโคมย่ำยาม ซึ่งต้องทำวันละ 5 รอบ โดยการประโคมย่ำยามได้ดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา
ในเบื้องต้นกรมศิลปากรได้ประมาณราคากลางในการก่อสร้างพระเมรุและอาคารประกอบพระเมรุ ใช้งบประมาณ 208.8 ล้านบาท โดยกรมศิลปากรจะเริ่มออกแบบร่างพระเมรุให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน และใช้เวลาก่อสร้างไม่เกิน 10 เดือน สำหรับสิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุและการบูรณะปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ ใช้งบประมาณ 9.3 ล้านบาท ส่วนจดหมายเหตุและหนังสือที่ระลึกใช้งบประมาณ 17 ล้านบาทเท่ากับที่ดำเนินงานในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กรมศิลปากรได้ให้ทางหอจดหมายเหตุแห่งชาติไปบันทึกเหตุการณ์ไว้ตั้งแต่วันที่พระองค์สิ้นพระชนม์และบันทึกเหตุการณ์ไว้ตลอดเวลา ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้จะเสนอนายกรัฐมนตรีในวันที่ 4 สิงหาคมนี้
“ที่ผมกำชับคืองบประมาณให้มีความเหมาะสม และสมพระเกียรติ ในส่วนของ ศน.จะต้องมีสวดพระอภิธรรมพระศพ อย่างน้อย 8-10 เดือน ถ้าจะต้องใช้งบเพิ่มขึ้นก็ให้บอกมา จะของบกลางจากรัฐบาลมาสนับสนุน สำหรับภาพรวมของการดำเนินงานทั้งหมด ไม่ห่วง เพราะ พล.อ.ต.อาวุธ เงินชูกลิ่น อดีตอธิบดีกรมศิลปากร ในฐานะสถาปนิกออกแบบพระเมรุมีประสบการณ์ในการออกแบบพระเมรุสมเด็จพระเจ้าพี่นางฯมาแล้ว สิ่งที่เป็นห่วงเกรงว่าจะมีปัญหาเรื่องดินฟ้าอากาศอาจเป็นอุปสรรคในการสร้างพระเมรุ ส่วนสถานที่ได้ประสานขอใช้สนามหลวงกับทางกรุงเทพมหานครเรียบร้อยแล้ว” รมว.วัฒนธรรมกล่าว