พ.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังไม่ทราบเรื่องคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สามารถปฏิบัติตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการถอดยศตำรวจ พ.ศ.2547 กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ แต่หากคณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นแล้วก็จะส่งกลับมายังสำนักงานกำลังพล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะพิจารณารายละเอียดทั้งหมด ก่อนส่งเรื่องไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี พิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หารือเรื่องอำนาจในการออกระเบียนสำนักงานงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการถอดยศตำรวจ พ.ศ.2547 เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถามถึงปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับแนวทางการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดยศตำรวจ และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์มาแล้ว โดยครั้งนั้นคณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นว่า ถ้าข้าราชการตำรวจผู้ใดมีกรณีต้องคำพิพากษาถึงที่สุด ให้จำคุก ไม่ว่าเป็นคำพิพากษาของศาลใด ย่อมอยู่ในหลักเกณฑ์ตามข้อ 1(2) แห่งระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการถอดยศตำรวจ พ.ศ.2547 แต่ถูกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และข้าราชการบำนาญ 6 คน มีข้อโต้แย้ง และขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยกเลิกระเบียบดังกล่าว จึงต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความอีกครั้ง
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หารือเรื่องอำนาจในการออกระเบียนสำนักงานงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการถอดยศตำรวจ พ.ศ.2547 เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถามถึงปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับแนวทางการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดยศตำรวจ และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์มาแล้ว โดยครั้งนั้นคณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นว่า ถ้าข้าราชการตำรวจผู้ใดมีกรณีต้องคำพิพากษาถึงที่สุด ให้จำคุก ไม่ว่าเป็นคำพิพากษาของศาลใด ย่อมอยู่ในหลักเกณฑ์ตามข้อ 1(2) แห่งระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการถอดยศตำรวจ พ.ศ.2547 แต่ถูกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และข้าราชการบำนาญ 6 คน มีข้อโต้แย้ง และขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยกเลิกระเบียบดังกล่าว จึงต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความอีกครั้ง
