ในช่วงชีวิตคนเรานั้น มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราอยากทำ บางเรื่องเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น บางเรื่องก็ท้าทายความสามารถ ขณะที่อีกหลายเรื่อง ทำให้เรามีความสุข สนุกสนาน
ทว่า..ชีวิตคนเรานั้นไม่ยั่งยืน ยิ่งอายุมากขึ้นเท่าไหร่ ดูเหมือนเวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วราวติดปีกบิน จนในที่สุด บางสิ่งบางอย่างที่เราคิดจะทำนั้น ตกยุค ตกสมัย หรือไม่เหมาะกับสภาพร่างกายในปัจจุบันเสียแล้ว
ดังนั้น จึงมีคำถามว่า แล้วเราควรเลือกทำสิ่งไหนดี มีวิธีใดบ้างที่จะบอกว่า เราควรทุ่มเทให้กับเรื่องนี้ และปล่อยวางบางเรื่องให้ผู้อื่นทำ
คำตอบง่ายๆ คือ ให้ถามตัวเองว่า “เมื่อฉันอายุ 80 ฉันจะรู้สึกเสียใจมั้ย ถ้า....................?”
ในช่องว่างนั้น อาจเป็น ถ้าไม่ทำบางสิ่งบางอย่าง หรือ ถ้าเลือกทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด นี่เป็นคำถามง่ายๆและมีประโยชน์ อย่างยิ่ง
ครั้งหน้า ถ้าคุณตัดสินใจไม่ได้ว่า ควรทำหรือไม่ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ให้ถามตัวเองว่า “เมื่อฉันอายุ 80 ฉันจะเสียใจกับการตัดสินใจนี้หรือไม่?” ถ้าคำตอบคือ “ไม่เสียใจ” จงทำตามสิ่งที่คุณตัดสินใจไว้ได้เลย ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร แต่ถ้าคำตอบคือ “เสียใจ” คุณควรพิจารณาในการทำสิ่งนั้นอย่างรอบคอบ เพื่อให้ผลออกมาดีที่สุด
เพราะชีวิตคนเรามีค่าเกินกว่าที่จะรอจนถึงบั้นปลายชีวิต และพูดว่า “ฉันน่าจะทำสิ่งนี้ ตอนที่มีโอกาส” หรือ “ไม่อยากเชื่อเลย ว่าฉันไม่ทำในเมื่อโอกาสมารออยู่ตรงหน้าแล้ว”
จงใช้ชีวิตให้เต็มความสามารถที่มีอยู่ ลองท้าทายตัวเอง ด้วยการทำสิ่งต่างๆต่อไปนี้ ซึ่งบางเรื่องอาจอยู่ในใจคุณที่คิดจะทำอยู่แล้วก็ได้ ขณะที่บางเรื่องอาจเป็นสิ่งใหม่ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อกระตุ้นให้คุณทำในขณะที่ยังมีพลังและความฝันอยู่เต็มเปี่ยม
• หน้าที่การงาน
คุณเคยเปลี่ยนงานบ้างหรือเปล่า? หรือเคยคิดที่จะเปลี่ยนงานบ้างหรือไม่? คุณคิดจะประกอบอาชีพอะไร? จริงๆแล้ว มีอาชีพมากมายหลายสาขาให้คุณเลือกหาเลี้ยงชีพ บางครั้งคุณอาจเคยคิดเล่นๆว่า อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง และคุณจะเสียใจมั้ย ถ้าไม่ลองทำดู หรือเสียใจที่ได้ลาออกจากงานประจำ เพื่อมาเป็นเจ้านายตัวเอง
• อาหาร
คุณรับประทานอาหารเมนูเดิมๆมาตลอด 20 ปีที่ผ่านมาหรือเปล่า? และเคยคิดที่จะลองทานอาหารจานใหม่ๆ แต่จนถึงเดี๋ยวนี้ ก็ยังไม่ได้ทานเลย ใช่มั้ย? เหตุที่ไม่กล้าทาน เพราะมีส่วนผสมที่คุณไม่ชอบหรือเปล่า?
ถึงเวลาแล้ว ที่คุณต้องลองทานอาหารแปลกๆ ใหม่ๆ หลากหลายด้วยส่วนประกอบและคุณค่าทางโภชนาการ เช่น ผักต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมะระ ต้นหอม หัวหอม ตำลึง ฯลฯ ซึ่งสมัยเด็กๆคุณอาจไม่ชอบทาน แต่ผักเหล่านี้ล้วนอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินมากมาย เรียกว่าอาหารเป็นยาก็ว่าได้
• การสำรวจค้นหาสิ่งใหม่ๆ
เมื่ออยู่ที่ทำงาน คุณใช้เวลาส่วนใหญ่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานตลอด จะลุกก็ต่อเมื่อได้เวลากลับบ้าน ใช่หรือเปล่า? และเมื่อถึงบ้าน คุณก็จะนั่งนอนดูทีวีเพื่อพักผ่อน.. ใช่มั้ย?
ถ้าชีวิตประจำวันวนเวียนอยู่อย่างนี้ ช่างดูน่าเบื่อและเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่ง ขอแนะนำให้เปลี่ยนอิริยาบถ ด้วยการปิดทีวีซะ แล้วลุกออกไปทำกิจกรรมอื่นๆนอกบ้าน เช่น ออกไปเดินเล่นที่สนามหลังบ้าน ปลูกต้นไม้ เต้นแอโรบิค หรือขี่จักรยาน เป็นต้น
ลองนึกดูว่า มีที่ไหนที่ไม่ไกลเกินไปนักที่คุณยังไม่เคยไป ลองหาเวลาว่างในวันหยุดแวะเวียนไปบ้าง เพื่อเป็นการเปิดหูเปิดตารับสิ่งใหม่ๆที่เกิดขึ้น
หรืออาจจะไปเข้าวัดศึกษาและฝึกหัดปฏิบัติธรรม เพื่อให้จิตสงบ เพราะหากรอให้แก่ก่อนค่อยเข้าวัด บางทีก็อาจจะสายไปเสียแล้ว เพราะร่างกายไม่เอื้ออำนวย และความจำก็ไม่ค่อยดี
• กล้าเสี่ยง
คุณเป็นอีกคนหนึ่งหรือเปล่าที่ไม่ชอบความเสี่ยง และกังวลว่าจะเกิดความผิดพลาด แต่ถ้าลองมองย้อนประสบการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตคนเรานั้น แทบทุกเรื่องมักมีทางออกเสมอ ดังนั้น คุณน่าจะลองทำเรื่องเสี่ยงๆดูบ้างในยามที่อายุยังน้อยอยู่ เช่น เปลี่ยนอาชีพใหม่ หรือลาออกจากงานเพื่อมาทำธุรกิจ ของตัวเอง หรือมองหาประสบการณ์ในอีกซีกโลกหนึ่ง ที่อยู่ต่างประเทศ ต่างวัฒนธรรม ซึ่งมีหลายคนกล้าทำมาแล้ว และก็ประสบความสำเร็จอย่างไม่คาดฝัน
• ทำเรื่องสนุกๆ
หากคุณมีความสามารถหลายๆอย่าง เช่น เล่นดนตรี ร้องเพลง ฯลฯ แต่ไม่มีเวทีให้แสดง ถ้างั้นลองโชว์ความสามารถในรูปแบบ “เปิดหมวก” คือร้องเล่นดนตรีตามที่สาธารณะ ซึ่งนอกจากคุณจะได้แสดงความสามารถ ได้ฝึกฝนฝีมือแล้ว ยังได้เงินจากผู้ที่ชื่นชอบการแสดงของคุณอีกด้วย และไม่แน่..คุณอาจกำลังอยู่ในสายตาของแมวมองที่ค้นหาผู้มีความสามารถในด้านต่างๆก็เป็นได้
มีเรื่องสนุกๆมากมายที่คุณสามารถทำได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยหนุ่มสาว แต่ต้องไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ตนเองและผู้อื่นเดือดร้อน และคุณจะพบว่า นอกจากคุณจะรู้สึกสนุกตื่นเต้นแล้ว มันอาจเป็นใบเบิกทางนำคุณไปสู่เป้าหมายอื่นๆได้อีกด้วย
• ทำสิ่งดีๆให้ผู้อื่น
เป็นเรื่องจริงที่คนส่วนใหญ่มักเข้าข้างตัวเองว่า เป็นคนดี มีน้ำใจ แต่การกระทำนี่แหละ ที่จะบอกได้ดีว่า เราเป็นคนแบบไหน
เพราะฉะนั้น จงทำสิ่งดีๆให้ผู้อื่นมีความสุขหรือคลายทุกข์โศก และทำโดยไม่หวังผลตอบแทน เช่น เป็นอาสาสมัครช่วยงานสาธารณกุศลต่างๆ หรือช่วยงานต่างๆของชุมชน หรือปลูกผักสวนครัวที่บ้านไว้บริโภคในครอบครัว โดยส่วนที่เหลือนำไปแจกจ่ายเพื่อนบ้าน เพื่อสร้างมิตรภาพที่ดีงาม
• เลิกทำบางเรื่อง
เรื่องบางเรื่อง เรารู้ดีว่า ถ้าเลือกที่จะทำอย่างหนึ่ง ต้องปฏิเสธอีกอย่างหนึ่งโดยอัตโนมัติ
หากการเข้าร่วมกิจกรรมนั้น ไม่ได้ทำให้คุณบรรลุเป้าหมายหรือพึงพอใจอีกต่อไป จงหยุดและก้าวออกมา เพราะไม่มีประโยชน์อันใดถ้าคุณไม่รู้สึกสนุกที่จะเล่นกีฬาอีกต่อไป หรือเมื่อเข้าเรียนต่อปริญญาโท และรู้ว่าเนื้อหาไม่ตรงกับที่คุณต้องการ เรียนไปก็เป็นทุกข์เปล่าๆ ก็ลาออกซะ
แต่อย่างไรก็ตาม ควรไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนว่า การหยุดหรือลาออกนั้น จะทำให้คุณมีเวลาเพิ่มมากขึ้นที่จะไปทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์มากกว่าหรือไม่
โปรดระลึกไว้เสมอว่า ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตที่เรายังไม่มีโอกาสได้ทำ การใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ อาจเป็นเรื่องน่าเบื่อ และทำให้เราขาดประสบการณ์ที่จำเป็นในชีวิต จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้อ่านทุกท่านจะดำเนินชีวิตอย่างมีจุดมุ่งหมายและใคร่ครวญอย่างพินิจพิเคราะห์ เพื่อว่าเมื่อเรามองย้อนกลับไป จะได้ไม่เสียใจกับทุกๆเรื่องราวในชีวิตที่เกิดขึ้น
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 126 พฤษภาคม 2554 โดย ประกายรุ้ง)