ชีวิตของคนเราจะเป็นอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับการกระทำของแต่ละคนเป็นสำคัญ การเกิดเป็นชายเป็นหญิงก็เป็นส่วนหนึ่งของกรรมที่เราเคยทำไว้ อย่างไรก็ตามพุทธศาสนาก็ไม่ได้เน้นที่อดีต พระองค์ทรงเน้นปัจจุบันมากกว่า ทั้งชายและหญิงหากตั้งใจปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังก็สามารถที่จะบรรลุธรรมได้ด้วยกันทั้งนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องไม่ทำความชั่วทั้งปวง ไม่เช่นนั้นก็จะประสบกับความทุกข์ความเดือดร้อน ดังเรื่องในครั้งพุทธกาลเรื่องหนึ่ง
วันหนึ่งขณะที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่ในกรุงสาวัตถี มีลูกชายของโสไรยเศรษฐี อาศัยอยู่ในโสไรยนคร ได้นั่งยานน้อยออกไปจากพระนครกับพระสหายและบริวารอย่างมีความสุข เพื่อจะไปอาบน้ำ
ในขณะนั้นพระมหากัจจายนเถระกำลังจะเข้าไปบิณฑบาตในโสไรยนคร รูปร่างผิวพรรณของพระมหากัจจายนะนั้นงดงามมาก มีสีผุดผ่องดั่งทองคำ ลูกชายของโสไรยเศรษฐีเหลือบมองเห็นท่าน จึงคิดในใจว่า “สวยจริงๆหนอ พระเถระรูปนี้ ท่านควรจะเป็นภริยาของเรา หรือผิวพรรณของภรรยาของเราควรจะสวยแบบนี้” ในขณะที่เขาแค่สักแต่ว่าคิดเท่านั้นเอง ความเป็นเพศชายของเขาก็กลายเป็นเพศหญิงทันที!!
พอเขาทราบเช่นนั้นก็เกิดความละอายอย่างมาก จึงรีบลงจากยานน้อยแล้วหลบหนีไป พวกเพื่อนและบริวารของเขาต่างก็พากันออกตามหา แต่ก็ไม่มีใครพบลูกชายเศรษฐี และไม่มีใครรู้ว่าเขาได้กลายเป็นผู้หญิงไปเสียแล้ว เมื่อมารดาเขารู้ข่าว ก็ออกตามหา แต่ก็ไม่พบ จึงร้องไห้เศร้าโศกเสียใจ เพราะคิดว่าลูกชายของตนคงตายไปแล้ว จึงได้ทำบุญอุทิศไปให้
ส่วนชายหนุ่มที่กลายเป็นหญิงสาวนั้น ได้เดินตามหลังหมู่เกวียนที่กำลังมุ่งหน้าไปเมืองตักสิลา พวกชาวบ้านคิดว่าลูกชายเศรษฐีในกรุงตักสิลายังไม่มีภรรยา พวกเราจะแนะนำผู้หญิงคนนี้ให้ และคงได้รางวัลมากเป็นแน่ เมื่อไปถึงเมืองตักสิลาจึงได้เล่าเรื่องให้ลูกชายเศรษฐีฟัง ลูกชายเศรษฐีจึงให้เรียกนางมา พอได้เห็นหน้า ก็ตกหลุมรักทันที เพราะนางมีรูปงาม ผิวพรรณดีมาก จึงขอแต่งงานกับนาง ทั้งสองได้อยู่กินกันจนมีลูกถึง ๒ คน (ก่อนหน้าที่นางจะกลายเป็นหญิงนั้น นางก็มีบุตรอยู่แล้ว ๒ คน รวมแล้วนางจึงมีบุตร ๔ คน)
วันหนึ่งลูกชายเศรษฐีผู้เป็นเพื่อนของนาง ได้ออกจากโสไรยนครไปเมืองตักสิลา ขณะที่นางกำลังเปิดหน้า ต่างปราสาทชั้นบนยืนดูถนนอยู่ ได้มองเห็นเพื่อนพอดี นางจำเขาได้แม่นยำ จึงบอกสาวใช้ให้ไปเชิญมาที่บ้าน และได้เลี้ยงต้อนรับอย่างใหญ่โต จนเพื่อนสงสัยว่านางเคยรู้จักเขาหรือ นางจึงบอกว่ารู้จัก จากนั้นนางจึงได้ถามถึงสารทุกข์สุขดิบของพ่อแม่ ภรรยา พร้อมกับลูกๆ ของนาง เขาก็บอกว่าสบายดีทุกคน แต่เมื่อนางแกล้งถามถึงลูกชายของโสไรยเศรษฐี เพื่อนของนางจึงบอกว่าเขาได้หายตัวไปอย่างลึกลับ พ่อแม่ของเขาก็ได้แต่ร้องไห้เสียใจ และทำบุญไปให้ นางได้ยินดังนั้นจึงสารภาพว่า นางคือลูกชายของโสไรยเศรษฐีนั่นเอง แล้วนางก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนฟัง
ฝ่ายเพื่อนพอทราบความจริงเช่นนั้นก็ตกใจบอกว่านางได้ทำกรรมอันหนัก แล้วถามว่านางได้ไปขอโทษพระเถระที่คิดไม่ดีกับท่านแล้วหรือยัง นางบอกว่ายังไม่ได้ขอโทษเลย เพราะไม่รู้ว่าพระเถระอยู่ที่ไหน เพื่อนจึงบอกว่าท่านอาศัยอยู่ในเมืองนี้แหละ นางจึงบอกว่าถ้าท่านมาบิณฑบาตที่นี่ จะถวายภัตตาหารแก่ท่าน เพื่อนของนางจึงบอกว่าให้รีบเตรียมของไว้ จากนั้นเขาก็ไปหาพระเถระและนิมนต์ท่านมารับบิณฑบาตที่บ้านของนาง
เมื่อนางได้ถวายภัตตาหารอันประณีตจำนวนมากแล้ว เพื่อนจึงเรียกนางให้หมอบลงแทบเท้าของพระเถระพร้อม กับบอกว่า “ท่านขอรับ ขอท่านจงยกโทษแก่หญิงผู้เป็นเพื่อนของกระผมด้วย” ฝ่ายพระเถระก็สงสัยว่าเรื่องอะไร เขาจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ท่านจึงได้เอ่ยขึ้นว่า “ฉันยกโทษให้” ทันใดนั้น เพศหญิงก็ได้หายไป นางได้กลายเป็นเพศชายเหมือนเดิมทันที
ฝ่ายลูกชายเศรษฐีในกรุงตักสิลาที่เคยเป็นสามีของ นางรู้เช่นนี้ จึงไม่อยากจะอยู่ที่นี่อีกต่อไป แต่อยากจะบวช จึงขอบวชกับพระเถระ หลังบวชแล้วก็ได้จาริกไปตามที่ต่างๆ ผู้คนได้ยินเรื่องราวของท่านก็เข้ามาถามความจริงมากมาย ท่านจึงเกิดความเบื่อหน่ายหนีไปอยู่คนเดียว และปฏิบัติธรรมอย่างเต็มที่ ในที่สุดก็ได้บรรลุพระอรหันต์ ไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏอีกต่อไป
บางท่านอาจจะสงสัยว่าชายกลายเป็นหญิงได้อย่างไร ในเรื่องนี้พระพุทธองค์เคยตรัสไว้ว่า ขึ้นชื่อว่าพวกผู้ชายที่ไม่เคยกลับเป็นผู้หญิง หรือพวกผู้หญิงที่ไม่เคยกลับเป็นผู้ชายนั้น ไม่มี เพราะว่า หากผู้ชายมีชู้กับภรรยาของคนอื่น หลังจากตายไปแล้ว จะไหม้ในนรกแสนปีแล้วเมื่อกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ ก็จะเกิดเป็นผู้หญิงอีก ๑๐๐ ชาติ แม้แต่พระอานนทเถระผู้เป็นอริยสาวก ก็เคยท่องเที่ยวอยู่ในสังสาร ชาติหนึ่งท่านเคยเกิดในตระกูลช่างทอง และได้มีชู้กับภรรยาของคนอื่น จึงไปเกิดในนรก หลังจากนั้นด้วยผลกรรมที่ยังเหลือ ได้กลับมาเป็นหญิงรับใช้อีก ๑๔ ชาติ เป็นหมันอีก ๗ ชาติ
ส่วนพวกผู้หญิงที่ชอบทำบุญสุนทาน คลายความพอใจในความเป็นหญิง หากตั้งจิตปรารถนาว่า “บุญของข้าพเจ้าทั้งหลายนี้ ขอจงเป็นไปเพื่อกลับได้อัตภาพเป็นชาย” หลังจากตายแล้ว ย่อมกลับได้อัตภาพเป็นชาย อีกอย่างหนึ่งพวกหญิงที่มีสามีเหมือนเทวดา ย่อมกลับได้อัตภาพเป็นชาย แม้ด้วยอำนาจแห่งการปรนนิบัติดีในสามีเหมือนกัน ส่วนลูกชายเศรษฐีนี้ คิดไม่ดีต่อพระเถระ จึงกลับได้ภาวะเป็นหญิงในอัตภาพนี้ทันที
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้เราต้องระมัดระวังความคิดของเราในการกระทำสิ่งต่างๆ พร้อมทั้งไม่ประมาทในชีวิตด้วย เพราะไม่เช่นนั้น เราอาจจะเผลอคิดในสิ่งที่ไม่ดี ทำในสิ่งที่ไม่ดี จนเป็นเหตุให้ต้องได้รับทุกข์โทษทรมานทั้งในชาตินี้และชาติหน้า นอกจากนั้นเราก็ยังเห็นโทษของการประพฤติผิดในกาม ที่ทำให้ได้รับโทษมากมาย ทุกคนจึงควรดำเนินชีวิตด้วยศีลธรรม อันจะทำให้ได้พบแต่ความสุขตลอดไป
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 108 พฤศจิกายน 2552 โดยมาลาวชิโร)
วันหนึ่งขณะที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่ในกรุงสาวัตถี มีลูกชายของโสไรยเศรษฐี อาศัยอยู่ในโสไรยนคร ได้นั่งยานน้อยออกไปจากพระนครกับพระสหายและบริวารอย่างมีความสุข เพื่อจะไปอาบน้ำ
ในขณะนั้นพระมหากัจจายนเถระกำลังจะเข้าไปบิณฑบาตในโสไรยนคร รูปร่างผิวพรรณของพระมหากัจจายนะนั้นงดงามมาก มีสีผุดผ่องดั่งทองคำ ลูกชายของโสไรยเศรษฐีเหลือบมองเห็นท่าน จึงคิดในใจว่า “สวยจริงๆหนอ พระเถระรูปนี้ ท่านควรจะเป็นภริยาของเรา หรือผิวพรรณของภรรยาของเราควรจะสวยแบบนี้” ในขณะที่เขาแค่สักแต่ว่าคิดเท่านั้นเอง ความเป็นเพศชายของเขาก็กลายเป็นเพศหญิงทันที!!
พอเขาทราบเช่นนั้นก็เกิดความละอายอย่างมาก จึงรีบลงจากยานน้อยแล้วหลบหนีไป พวกเพื่อนและบริวารของเขาต่างก็พากันออกตามหา แต่ก็ไม่มีใครพบลูกชายเศรษฐี และไม่มีใครรู้ว่าเขาได้กลายเป็นผู้หญิงไปเสียแล้ว เมื่อมารดาเขารู้ข่าว ก็ออกตามหา แต่ก็ไม่พบ จึงร้องไห้เศร้าโศกเสียใจ เพราะคิดว่าลูกชายของตนคงตายไปแล้ว จึงได้ทำบุญอุทิศไปให้
ส่วนชายหนุ่มที่กลายเป็นหญิงสาวนั้น ได้เดินตามหลังหมู่เกวียนที่กำลังมุ่งหน้าไปเมืองตักสิลา พวกชาวบ้านคิดว่าลูกชายเศรษฐีในกรุงตักสิลายังไม่มีภรรยา พวกเราจะแนะนำผู้หญิงคนนี้ให้ และคงได้รางวัลมากเป็นแน่ เมื่อไปถึงเมืองตักสิลาจึงได้เล่าเรื่องให้ลูกชายเศรษฐีฟัง ลูกชายเศรษฐีจึงให้เรียกนางมา พอได้เห็นหน้า ก็ตกหลุมรักทันที เพราะนางมีรูปงาม ผิวพรรณดีมาก จึงขอแต่งงานกับนาง ทั้งสองได้อยู่กินกันจนมีลูกถึง ๒ คน (ก่อนหน้าที่นางจะกลายเป็นหญิงนั้น นางก็มีบุตรอยู่แล้ว ๒ คน รวมแล้วนางจึงมีบุตร ๔ คน)
วันหนึ่งลูกชายเศรษฐีผู้เป็นเพื่อนของนาง ได้ออกจากโสไรยนครไปเมืองตักสิลา ขณะที่นางกำลังเปิดหน้า ต่างปราสาทชั้นบนยืนดูถนนอยู่ ได้มองเห็นเพื่อนพอดี นางจำเขาได้แม่นยำ จึงบอกสาวใช้ให้ไปเชิญมาที่บ้าน และได้เลี้ยงต้อนรับอย่างใหญ่โต จนเพื่อนสงสัยว่านางเคยรู้จักเขาหรือ นางจึงบอกว่ารู้จัก จากนั้นนางจึงได้ถามถึงสารทุกข์สุขดิบของพ่อแม่ ภรรยา พร้อมกับลูกๆ ของนาง เขาก็บอกว่าสบายดีทุกคน แต่เมื่อนางแกล้งถามถึงลูกชายของโสไรยเศรษฐี เพื่อนของนางจึงบอกว่าเขาได้หายตัวไปอย่างลึกลับ พ่อแม่ของเขาก็ได้แต่ร้องไห้เสียใจ และทำบุญไปให้ นางได้ยินดังนั้นจึงสารภาพว่า นางคือลูกชายของโสไรยเศรษฐีนั่นเอง แล้วนางก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนฟัง
ฝ่ายเพื่อนพอทราบความจริงเช่นนั้นก็ตกใจบอกว่านางได้ทำกรรมอันหนัก แล้วถามว่านางได้ไปขอโทษพระเถระที่คิดไม่ดีกับท่านแล้วหรือยัง นางบอกว่ายังไม่ได้ขอโทษเลย เพราะไม่รู้ว่าพระเถระอยู่ที่ไหน เพื่อนจึงบอกว่าท่านอาศัยอยู่ในเมืองนี้แหละ นางจึงบอกว่าถ้าท่านมาบิณฑบาตที่นี่ จะถวายภัตตาหารแก่ท่าน เพื่อนของนางจึงบอกว่าให้รีบเตรียมของไว้ จากนั้นเขาก็ไปหาพระเถระและนิมนต์ท่านมารับบิณฑบาตที่บ้านของนาง
เมื่อนางได้ถวายภัตตาหารอันประณีตจำนวนมากแล้ว เพื่อนจึงเรียกนางให้หมอบลงแทบเท้าของพระเถระพร้อม กับบอกว่า “ท่านขอรับ ขอท่านจงยกโทษแก่หญิงผู้เป็นเพื่อนของกระผมด้วย” ฝ่ายพระเถระก็สงสัยว่าเรื่องอะไร เขาจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ท่านจึงได้เอ่ยขึ้นว่า “ฉันยกโทษให้” ทันใดนั้น เพศหญิงก็ได้หายไป นางได้กลายเป็นเพศชายเหมือนเดิมทันที
ฝ่ายลูกชายเศรษฐีในกรุงตักสิลาที่เคยเป็นสามีของ นางรู้เช่นนี้ จึงไม่อยากจะอยู่ที่นี่อีกต่อไป แต่อยากจะบวช จึงขอบวชกับพระเถระ หลังบวชแล้วก็ได้จาริกไปตามที่ต่างๆ ผู้คนได้ยินเรื่องราวของท่านก็เข้ามาถามความจริงมากมาย ท่านจึงเกิดความเบื่อหน่ายหนีไปอยู่คนเดียว และปฏิบัติธรรมอย่างเต็มที่ ในที่สุดก็ได้บรรลุพระอรหันต์ ไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏอีกต่อไป
บางท่านอาจจะสงสัยว่าชายกลายเป็นหญิงได้อย่างไร ในเรื่องนี้พระพุทธองค์เคยตรัสไว้ว่า ขึ้นชื่อว่าพวกผู้ชายที่ไม่เคยกลับเป็นผู้หญิง หรือพวกผู้หญิงที่ไม่เคยกลับเป็นผู้ชายนั้น ไม่มี เพราะว่า หากผู้ชายมีชู้กับภรรยาของคนอื่น หลังจากตายไปแล้ว จะไหม้ในนรกแสนปีแล้วเมื่อกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ ก็จะเกิดเป็นผู้หญิงอีก ๑๐๐ ชาติ แม้แต่พระอานนทเถระผู้เป็นอริยสาวก ก็เคยท่องเที่ยวอยู่ในสังสาร ชาติหนึ่งท่านเคยเกิดในตระกูลช่างทอง และได้มีชู้กับภรรยาของคนอื่น จึงไปเกิดในนรก หลังจากนั้นด้วยผลกรรมที่ยังเหลือ ได้กลับมาเป็นหญิงรับใช้อีก ๑๔ ชาติ เป็นหมันอีก ๗ ชาติ
ส่วนพวกผู้หญิงที่ชอบทำบุญสุนทาน คลายความพอใจในความเป็นหญิง หากตั้งจิตปรารถนาว่า “บุญของข้าพเจ้าทั้งหลายนี้ ขอจงเป็นไปเพื่อกลับได้อัตภาพเป็นชาย” หลังจากตายแล้ว ย่อมกลับได้อัตภาพเป็นชาย อีกอย่างหนึ่งพวกหญิงที่มีสามีเหมือนเทวดา ย่อมกลับได้อัตภาพเป็นชาย แม้ด้วยอำนาจแห่งการปรนนิบัติดีในสามีเหมือนกัน ส่วนลูกชายเศรษฐีนี้ คิดไม่ดีต่อพระเถระ จึงกลับได้ภาวะเป็นหญิงในอัตภาพนี้ทันที
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้เราต้องระมัดระวังความคิดของเราในการกระทำสิ่งต่างๆ พร้อมทั้งไม่ประมาทในชีวิตด้วย เพราะไม่เช่นนั้น เราอาจจะเผลอคิดในสิ่งที่ไม่ดี ทำในสิ่งที่ไม่ดี จนเป็นเหตุให้ต้องได้รับทุกข์โทษทรมานทั้งในชาตินี้และชาติหน้า นอกจากนั้นเราก็ยังเห็นโทษของการประพฤติผิดในกาม ที่ทำให้ได้รับโทษมากมาย ทุกคนจึงควรดำเนินชีวิตด้วยศีลธรรม อันจะทำให้ได้พบแต่ความสุขตลอดไป
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 108 พฤศจิกายน 2552 โดยมาลาวชิโร)